The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ระดับชั้น ป.4-6 โรงเรียนบ้านหลุมเงิน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

โครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ระดับชั้น ป.4-6

โครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ระดับชั้น ป.4-6 โรงเรียนบ้านหลุมเงิน

รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทส่ิงประดิษฐ์
THUA NGOK TOWER

โดย
1. เด็กหญงิ กญั จน์ชญาน์ ดกี ่งิ ช้นั ป.5
2. เดก็ หญิงฑติ ยา ถว้ ยทอง ช้นั ป.5
3. เด็กหญิงสกาวรัตน์ จติ จานงค์ ชน้ั ป.5

ครทู ป่ี รกึ ษา
1. นางสาวพัชรนิ ทร์ สินจะโปะ
2. นางสาวประกายแกว้ นากระโทก

โรงเรยี นบา้ นหลุมเงนิ สานักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 3
รายงานฉบับน้เี ปน็ สว่ นประกอบของโครงงานวิทยาศาสตร์
ประเภทสง่ิ ประดิษฐ์ ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4-6

เนือ่ งในงานศิลปหัตถกรรมนักเรยี น คร้งั ท่ี 69 ปกี ารศกึ ษา 2562
วันท่ี 12-14 เดอื น ธนั วาคม พ.ศ. 2562

THUA NGOK TOWER

โดย
1. เดก็ หญงิ กัญจนช์ ญาน์ ดีกง่ิ ชนั้ ป.5
2. เด็กหญงิ ฑิตยา ถว้ ยทอง ช้ัน ป.5
3. เด็กหญงิ สกาวรัตน์ จติ จานงค์ ชน้ั ป.5

ครทู ่ีปรกึ ษา
1. นางสาวพัชรนิ ทร์ สนิ จะโปะ
2. นางสาวประกายแกว้ นากระโทก



ชอื่ โครงงาน THUA NGOK TOWER
ผู้จัดทา
เด็กหญิงกัญจนช์ ญาน์ ดกี ิ่ง ชั้น ป.5
ระดับ
ประเภท เด็กหญงิ ฑิตยา ถ้วยทอง ชน้ั ป.5
ครทู ่ปี รกึ ษา
เด็กหญงิ สกาวรตั น์ จติ จานงค์ ช้นั ป.5
โรงเรยี น
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4-6

ส่งิ ประดิษฐ์

นางสาวพัชรินทร์ สินจะโปะ

นางสาวประกายแกว้ นากระโทก

บ้านหลุมเงิน อาเภอปักธงชยั จงั หวดั นครราชสีมา

สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 3

บทคัดยอ่
โครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ THUA NGOK TOWER มีจุดมุ่งหมายเพื่อประดิษฐ์
เครื่องเพาะถั่วงอก ให้ผู้ท่ีต้องการบริโภคถ่ัวงอก สามารถเพาะถ่ัวงอกรับประทานได้ด้วยตนเอง เป็นถ่ัวงอก
ที่ปลอดสารปนเป้ือน และได้นาถ่ัวงอกท่ีได้จากการเพาะประกอบการทาโครงการอาหารกลางวันภายใน
โรงเรียนบ้านหลุมเงิน อีกทั้งเพ่ือเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมต่อไปในอนาคต
จากผลการดาเนินโครงงาน THUA NGOK TOWER เราสามารถประดิษฐ์เคร่ืองเพาะถั่วงอก และสามารถใช้
งานสิ่งประดิษฐ์ได้จริงการทดลองใช้งานส่ิงประดิษฐ์ THUA NGOK TOWER เคร่ืองเพาะถั่วงอก และสังเกต
ลักษณะการงอกของเมล็ดถ่ัวเขียว ทาการทดลองเพาะ 3 ครั้ง ครั้งละ 3 วัน รดน้าครั้งละ 10 นาที คร้ังที่ 1
ต้ังเวลารดน้า 12 ครั้ง/วัน รดน้าทุกๆ 2 ช่ัวโมง พบว่า ถ่ัวงอกส่วนใหญ่เกิดการเน่า ได้ปริมาณถ่ัวงอก
3 กิโลกรัม คร้ังท่ี 2 ต้ังเวลารดน้า 6 ครั้ง/วัน รดน้าทุกๆ 4 ช่ัวโมง พบว่า ถั่วงอก งอกได้ดีและมีลักษณะ
สมบูรณ์ ได้ปริมาณถ่ัวงอก 5 กิโลกรัม คร้ังท่ี 3 ต้ังเวลารดน้า 4 คร้ัง/วัน รดน้าทุกๆ 6 ชั่วโมง พบว่า ถ่ัวงอก
มีลักษณะชะงักการเจริญเติบโต ได้ปริมาณถ่ัวงอก 1 กิโลกรัม ดังนั้น ถ่ัวงอกท่ีตั้งเวลารดน้า 6 คร้ัง/วัน รดน้า
ทุกๆ 4 ชั่วโมง ถ่ัวงอกงอกได้ดีและมีลักษณะสมบูรณ์และได้ปริมาณถั่วงอก 5 กิโลกรัม ถือว่าดีท่ีสุด ท่ีสาคัญ
คือ จากการทดลองใช้งานสิ่งประดิษฐ์ THUA NGOK TOWER เครื่องเพาะถั่วงอกสามารถเพาะถั่วงอก
ที่ปลอดสารปนเปื้อนได้ รสชาติดี ทั้งยังนาถ่ัวงอกไปประกอบการทาโครงการอาหารกลางวันภายในโรงเรียน
ไดอ้ ีกดว้ ย



กิตติกรรมประกาศ

โครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ THUA NGOK TOWER สาเร็จลงด้วยดีตามวัตถุประสงค์
ขอขอบพระคุณผู้ท่ีสนับสนุนและช่วยเหลือการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ครั้งน้ี ดังรายช่ือผู้สนับสนุนต่อ ไปน้ี
นายวีระชัย อินทร์แปลง ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านหลุมเงิน ครูพัชรินทร์ สินจะโปะ และครูประกายแก้ว
นากระโทก ครูที่ปรึกษาโครงงาน รวมถึงคณะครูทุกท่านในโรงเรียนบ้านหลุมเงินท่ีได้ให้คาแนะนา รายงาน
โครงงานฉบับสมบูรณต์ ลอดเวลาในการทาโครงงาน

อนง่ึ คณะผู้จัดทาโครงงานหวงั ว่าโครงงานฉบับน้ีจะมีประโยชน์อยู่ไม่น้อยสาหรับผู้ศึกษา ข้อบกพร่อง
ต่างๆ ท่ีอาจจะเกิดขึ้นนั้น ผู้จัดทาขออภัยไว้ ณ ท่ีนี้ด้วย และยินดีที่จะรับฟังคาแนะนาจากทุกท่านที่ได้เข้ามา
ศึกษาเพ่ือเป็นประโยชน์ในการพัฒนาโครงงานต่อไป

คณะผู้จัดทาโครงงาน

สารบัญ ค

บทคดั ยอ่ หนา้
กติ ตกิ รรมประกาศ ก
สารบญั ข
สารบัญตาราง ค
สารบัญรปู ภาพ ง
บทที่ 1 บทนา จ
บทที่ 2 เอกสารที่เกย่ี วข้อง 1
บทท่ี 3 อปุ กรณ์ และวิธีดาเนนิ การ 3
บทที่ 4 ผลการดาเนนิ การ 10
บทที่ 5 สรุป อภิปรายผลการดาเนินการ 14
บรรณานุกรม 15
ภาคผนวก 17
18

สารบัญตาราง ง

ตารางที่ หน้า
1 แสดงปริมาณผลผลิตถ่วั งอกจากการเพาะถัว่ เขยี ว 1 กโิ ลกรัม 14

สารบญั รูปภาพ จ

ภาพท่ี หนา้
1 แสดงลักษณะถ่วั งอก 3
2 แสดงการเจาะฝาถังใหเ้ ท่ากับขนาดของข้อต่องอเกลียวนอก ขนาด 4 หุน 10
3 แสดงการต่อสปรงิ เกอรแ์ ละสายยาง 11
4 แสดงการต่อเครื่องปม๊ั น้ากับสายยาง ใสล่ งถัง 11
5 แสดงการใสต่ ะกรา้ ลงในถัง 12
6 แสดงเคร่ืองเพาะถว่ั งอก 12
7 แสดงการทดสอบการใช้เครื่องเพาะถั่วงอก และเก็บผลผลิต 13
8 แสดงถว่ั งอกปลอดสารปนเปอื้ นที่ได้จากเคร่ืองเพาะถั่วงอก 14

1

บทท่ี 1
บทนา

ทมี่ าและความสาคญั ของโครงงาน

ถั่วงอกเป็นผักที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ซ่ึงถือว่ามีประโยชน์อย่างมากสาหรับร่างกาย
การรบั ประทานถวั่ งอกเปน็ ประจาจะชว่ ยทาใหร้ ่างกายแขง็ แรง บารุงประสาทและสมอง ช่วยในการทางานของ
สมอง วิตามินซีจากถั่วงอกช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกาย ที่สาคัญคือ การรับประทานถั่วงอก
ท่ีปลอดสารปนเปื้อน มีส่วนช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ซึ่งโรคมะเร็งถือเป็นสาเหตุ
การเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย แต่ทราบกันดีว่าถั่วงอกทั่วไปท่ีวางขายตามท้องตลาด ส่วนมากแล้วมีสาร
ปนเป้อื นอยู่มาก เนือ่ งจากพอ่ ค้าแมค่ ้าตอ้ งการให้ถั่วงอกดูสด ขาว กรอบ และอวบ มีคุณสมบัติคงทนและเหี่ยว
ช้า เพ่ือประโยชน์ในการขนส่งทางไกล แต่ผู้บริโภคอาจจะได้รับสารปนเปื้อนเหล่าน้ี เช่น สารเร่งโต สารคง
ความสด (ฟอร์มาลีน) และสารฟอกขาว (โซเดียมไฮโดรซัลไฟด์) ซ่ึงล้วนแต่เป็นสารต้องห้ามและเป็นโทษต่อ
ร่างกายทั้งส้ิน ทาให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งอย่างมาก การเพาะถ่ัวงอกรับประทานด้วยตัวเองน้ัน เป็นอีก
หนึง่ ตัวเลอื กทด่ี ี จะช่วยลดสารปนเป้อื นที่เขา้ สู่รา่ งกาย และจะทาให้ปลอดภัยจากสารเคมี ซึ่งปัจจุบันการเพาะ
ถั่วงอกน้ัน มีวิธีการเพาะที่หลากหลาย เช่น การเพาะในตะกร้า เพาะในถัง เพาะในขวดน้า โดยใช้วัสดุเพาะ
ธรรมชาติ เช่น แกลบ ขี้เลื่อย เป็นต้น ซึ่งมีขั้นตอนการดูแลท่ีซับซ้อน และบางคร้ังอาจใช้เนื้อที่ในการเพาะ
จานวนมาก

จากปัญหาทก่ี ลา่ วมาข้างต้นคณะผู้จัดทาจึงมีแนวคิดเพาะถ่ัวงอกปลอดสารปนเปื้อน ที่มีประโยชน์ต่อ
สุขภาพ สามารถป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ดังนั้นจึงคิดโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภท
สิ่งประดิษฐ์ THUA NGOK TOWER เครื่องเพาะถ่ัวงอก เพ่ือสามารถเพาะถั่วงอกด้วยวิธีการง่ายๆ ให้ผู้ที่
ต้องการบริโภคถ่ัวงอกน้ัน สามารถเพาะถั่วงอก รับประทานได้ด้วยตนเอง ได้ถั่วงอกปลอดสารปนเปื้อน และ
โรงเรียนบ้านหลุมเงินสามารถนาถั่วงอกที่ได้จากการเพาะประกอบการทาโครงการอาหารกลางวันภายใน
โรงเรียนอกี ดว้ ย

จุดมุ่งหมายของโครงงาน

1. เพือ่ ประดิษฐ์ เคร่ืองเพาะถ่ัวงอก
2. เพ่อื ให้ผทู้ ่ีต้องการบริโภคถ่ัวงอก สามารถเพาะถวั่ งอกรบั ประทานไดด้ ว้ ยตนเอง
3. เพอื่ ชว่ ยให้ผ้บู ริโภคไดร้ บั ประทานถ่วั งอกทป่ี ลอดสารปนเปื้อน
4. เพอ่ื นาถว่ั งอกที่ไดจ้ ากการเพาะประกอบการทาโครงการอาหารกลางวนั ภายในโรงเรยี น

2

5. เพอ่ื เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพหลักหรืออาชพี เสรมิ ต่อไปในอนาคต

ปญั หา

เราจะสามารถเพาะถ่วั งอกดว้ ยวธิ ีการงา่ ยๆ และรบั ประทานถว่ั งอกท่ปี ลอดสารปนเปื้อนได้อยา่ งไร

สมมติฐาน

เครอื่ งเพาะถ่วั งอก สามารถเพาะถั่วงอกท่ปี ลอดสารปนเป้ือนได้

ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า

ประดษิ ฐเ์ คร่ืองเพาะถ่ัวงอก และนาไปเพาะถว่ั งอกปลอดสารปนเป้ือนได้

ประโยชน์ และคณุ ค่าของโครงงาน

1. เปน็ สง่ิ ประดิษฐ์ทสี่ ามารถเพาะถวั่ งอกปลอดสารปนเป้ือนได้
2. ไดร้ ับความรู้เกยี่ วกับการเพาะถั่วงอกปลอดสารปนเป้ือน
3. ผ้บู รโิ ภคมีถวั่ งอกปลอดสารปนเป้อื นไว้รับประทาน หรอื สามารถนาไปจาหน่ายได้
4. ได้ถ่วั งอกปลอดสารปนเปื้อนจากเคร่ืองเพาะถวั่ งอกประกอบการทาโครงการอาหารกลางวนั ภายใน
โรงเรยี น
5. เปน็ แนวคดิ ให้ผอู้ ่ืนสามารถนาความรทู้ ่ีได้ไปสร้างเครื่องเพาะถ่วั งอกขนึ้ ไดจ้ ริง และสามารถเพาะ
ถวั่ งอกรับประทานได้ดว้ ยตนเอง

ระยะเวลาในการดาเนนิ งาน

ระหว่างวนั ท่ี 27 สงิ หาคม – 15 กนั ยายน 2562

3

บทท่ี 2
เอกสารทเี่ กี่ยวข้อง

โครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดษิ ฐ์ THUA NGOK TOWER เนอ้ื หาในบทนีจ้ ะนาเสนอ
ทฤษฎที ่ีเกยี่ วข้องดังนี้

1. อุปกรณ์ที่ใชใ้ นการประดิษฐ์
2. ถว่ั งอก
3. สารต้านอนมุ ลู อิสระ
4. สารปนเป้ือนในอาหาร
5. วิธีการเพาะถวั่ งอกงา่ ยๆ
6. ปจั จัยที่มีผลต่อการเพาะถั่วงอก
7. เคร่อื งเพาะถวั่ งอก บรู ณาการตามแนวคดิ สะเต็มศึกษา (STEM Education)

1. อุปกรณ์ที่ใช้ในการประดิษฐ์

1.1 ถังขนาด 15 แกลลอน คือ ถงั น้าท่สี ามารถบรรจุของเหลวปริมาตรหน่งึ แกลลอน 15 ลติ ร
1.2 ป๊ัมนา้ ตปู้ ลาขนาด 900 L/H คือ อุปกรณส์ าหรับส่งนา้ หรอื ถ่ายเทของเหลวจากทห่ี นึ่งไปยังอีกท่ี
หนงึ่ หรือหมุนเวียนนา้ หรือของเหลวใหผ้ สมกันในบริเวณที่จากัด
1.3 สปรงิ เกอร์ คือ อุปกรณ์ที่ทาใหส้ ามารถกระจายนา้ ใหไ้ ด้ทั่วถงั ขณะรดนา้
1.4 เครอื่ งตง้ั เวลา คือ อุปกรณ์ใชต้ งั้ เวลาสาหรบั รดนา้

ถว่ั งอก

ช่ือวทิ ยาศาสตร์ ภาพที่ 1 แสดงลักษณะถ่ัวงอก
วงศ์ Vigna radiata (L.)
ชื่อสามญั Fabaceae
mungbean seedling

4

ถั่วงอก คือ ต้นถ่ัวที่มีรากงอกมาจากเมล็ดถ่ัวดา ถั่วเขียว ถ่ัวลันเตา และถ่ัวเหลือง (ถั่วงอกหัวโต)
จัดว่าเป็นผักชนิดหน่ึง (ผักที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่ชอบกินและมักจะเข่ียท้ิง เพราะมีกล่ินเฝ่ือนและมีรสฝาด
เฉพาะตัว) ซ่ึงถ่ัวงอกท่ีเพาะมาจากถ่ัวดาหรือถั่วเขียวจะมีวิตามินและเกลือแร่สูง ส่วนถ่ัวงอกที่เพาะมาจากถั่ว
เหลอื งจะมโี ปรตนี และไขมนั สงู ซง่ึ ประเทศแรกของโลกทมี่ กี ารเพาะถัว่ งอกหัวโตก็คือประเทศจนี

สรรพคณุ ของถั่วงอก
1. ถ่วั งอกเป็นผักทม่ี ีสารตอ่ ต้านอนุมลู อิสระสงู ซ่ึงถือวา่ มีประโยชน์อยา่ งมากสาหรับร่างกาย
2. มสี ่วนช่วยทาใหผ้ วิ ชุม่ ชืน้ ผิวนมุ่ เปลง่ ปลัง่ ดูมีนา้ มีนวล (วิตามินอ)ี
3. การรับประทานถ่ัวงอกเป็นประจาจะชว่ ยทาให้ร่างกายแข็งแรง
4. วติ ามนิ ซจี ากถั่วงอกช่วยเสรมิ สรา้ งภูมคิ ุม้ กันโรคใหก้ บั ร่างกายและยังช่วยป้องกนั หวดั ได้อีกดว้ ย
5. ชว่ ยบารงุ ประสาทและสมอง รวมท้ังช่วยในการทางานของสมอง
6. ช่วยบารงุ กระดูกและฟัน เน่อื งจากถั่วงอกเป็นผกั ทีม่ ีแคลเซยี มสงู
7. มีส่วนช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดกู ชว่ ยป้องกันการเกิดโรคกระดกู พรนุ ได้
8. การรับประทานถ่วั งอกเปน็ ประจาจะชว่ ยในการชะลอวยั ต้านความแก่ คงความออ่ นเยาว์

เนอ่ื งจากมีสารออซินอน (Auxinon) ที่มคี ณุ สมบัตชิ ว่ ยทาใหร้ ่างกายคงความเป็นหนุ่มเปน็ สาว
9. ชว่ ยเพิม่ การไหลเวียนของเลอื ดในร่างกาย
10. ถ่ัวงอกท่ีปลอดสารปนเปื้อน มีสว่ นชว่ ยปอ้ งกันและลดความเส่ียงของการเกดิ โรคมะเร็งได้
11. การรับประทานถวั่ งอกเปน็ ประจาจะช่วยปอ้ งกันการเกิดโรคมะเร็งลาไส้ได้
12. ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและการเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลนั ได้ เพราะไป

ชว่ ยลดระดับไขมนั
13. วติ ามินซจี ากถ่วั งอกเป็นส่วนประกอบสาคัญอย่างมากในการสร้างฮอรโ์ มนระงับความเครียด

ต่าง ๆ จึงเหมาะอย่างย่งิ สาหรบั คนวยั ทางาน
14. มสี ว่ นช่วยในการเจรญิ เตบิ โตและซอ่ มแซมเซลลต์ า่ ง ๆ ในรา่ งกาย (วติ ามินบี 12)
15. ช่วยปอ้ งกันและรกั ษาโรคเลอื ดออกตามไรฟนั หรือโรคลักปดิ ลกั เปิด
16. ช่วยในการขับเสมหะ ทาให้ปอดโล่ง
17. ถัว่ งอกเป็นผกั ทยี่ ่อยงา่ ยมากๆ การรับประทานถว่ั งอกจะช่วยประหยัดเวลาการทางานของระบบ

การย่อยอาหารได้ และทาใหข้ ับถา่ ยได้สะดวก
18. ช่วยในการขบั ปัสสาวะ
19. การรบั ประทานถวั่ งอกก่อนมีประจาเดือนจะชว่ ยปอ้ งกันไมใ่ ห้เกิดความผดิ ปกติของ

ประจาเดอื นได้

5

20. ช่วยลดและกาจัดของเสียหรือสง่ิ ตกค้างในรา่ งกายได้
ประโยชนข์ องถัว่ งอก
ถั่วงอกเป็นผักที่เหมาะอย่างมากสาหรับผู้ท่ีเป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ท่ีต้องการลดน้าหนักหรือควบคุม
นา้ หนกั เป็นพิเศษ เนอ่ื งจากถวั่ งอกมีนา้ ตาลทีน่ อ้ ยมาก ธาตุซิลิกาในถั่วงอกมีส่วนช่วยป้องกัน การหลุดร่วงของ
เส้นผมได้เป็นอย่างดี เพราะช่วยในการดูดซับวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ท่ีเรารับประทาน นอกจากนี้ยังมีการ
นามาใชใ้ นการรักษาสวิ และจดุ ด่างดา
ประโยชน์ถัว่ งอกกบั การนามาใช้ประกอบอาหาร เมนูถ่ัวงอกหรืออาหารท่ีประกอบไปด้วยถั่วงอก เช่น
ยาถ่ัวงอกกุ้งสด ผัดถั่วงอก ผัดผักต่างๆ แกงจืดถั่วงอกหมูสับ แกงส้ม ก๋วยเต๋ียวต่างๆ เกาเหลาทุกชนิด ผัดหม่ี
ซว่ั หม่ีกะทิ ปอเปี๊ยะ ขนมหวั ผักกาด เกี๊ยวก้งุ ต้มยาถว่ั งอกใสห่ มสู บั ขนมจีน ผดั ไทย ถวั่ งอกดอกกินกับน้าพริก
เปน็ ต้น คุณค่าทางโภชนาการของถั่วงอก ตอ่ 100 กรมั ให้พลังงาน 30 กโิ ลแคลอรี
โทษของถั่วงอก
โทษของถัว่ งอกมาดคู าแนะนาในการเลือกซ้ือกันก่อน ถั่วงอกท่ีวางขายตามท้องตลาดส่วนมากแล้วจะ
มีสารปนเปอ้ื นอยู่มาก เนอ่ื งจากพ่อค้าแมค่ ้าตอ้ งการให้ถั่วงอกดูสด ขาว กรอบ และอวบ มีคุณสมบัติคงทนและ
เห่ียวช้าเพื่อประโยชน์ในการขนส่งทางไกล ผู้บริโภคอาจจะได้รับสารปนเปื้อนเหล่านี้ สารเร่งโต, สารคงความ
สด (ฟอร์มาลีน), สารฟอกขาว (โซเดียมไฮโดรซัลไฟด์) ซึ่งล้วนแต่เป็นสารต้องห้ามและเป็นโทษต่อร่างกาย
ทั้งส้ิน ทาให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งอย่างมาก และยังส่งผลเสียไปถึงระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท
ระบบหายใจ ซึ่งอาจจะรา้ ยแรงถงึ ขนั้ เสียชีวติ
ดังน้ันเรามาดูวิธีการเลือกซื้อถ่ัวงอกให้ปลอดสารปนเป้ือนโดยเราจะต้องดูว่ารากจะต้องไม่ยาว
(ปลูกโดยใช้ผ้ารองพ้ืน ไม่ใช้น้ายาเคมี) ควรดูที่เปลือกนอกถั่วมีปะปนอยู่บ้างหรือไม่ (เพราะการแช่สารฟอกสี
จะทาให้เปลือกหลุดหมด) หากไปเดินตลาดในเวลาบ่ายหรือค่าหากยังพบว่ามีสภาพที่พองตัวและขาวอวบ
ให้คิดไว้ก่อนว่ามีสารฟอกสี ทางที่ดีท่ีสุดเมื่อซ้ือมาแล้วก่อนจะนาไปบริโภคควรแช่น้าท้ิงไว้สักประมาณ
1-2 ชวั่ โมง หรอื จะทาให้สกุ กไ็ ด้เช่นกัน จะปลอดภัยมากกวา่ การรับประทานสดๆ

สารต้านอนุมลู อสิ ระ

สารต้านอนุมูลอิสระสามารถลดความเส่ียงต่อโรคหลายโรคโดยเฉพาะโรคเรื้อรังท่ีสัมพันธ์กับอาหาร
เชน่ โรคมะเรง็ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคสมอง (เชน่ อัลไซเมอร์) เปน็ ต้น รวมทั้งช่วยชะลอกระบวนการบาง
ขน้ั ตอนทีท่ าใหเ้ กิดความแก่

6

แม้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระไม่สามารถแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว แต่สามารถชะลอให้ความ
เสียหาย เกิดช้าลงได้โดยเฉพาะโรคเร้ือรังซ่ึงเป็นผลลัพธ์สะสมท่ีเกิดจากเซลล์และเนื้อเย่ือในร่างกายถูกทา
อันตรายและเสียหายเป็นปีๆ ดังน้ันบุคคลทุกเพศทุกวัยจึงควรได้รับสารต้านอนุมูลอิสระให้พอเพียงต่อความ
ตอ้ งการในแตล่ ะวัน เพ่ือใหเ้ กดิ ความสมดุลในรา่ งกายระหวา่ งสารตา้ นอนมุ ูลอสิ ระและอนุมูลอิสระท่ีเกดิ ขึ้น

สารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี ซีลีเนียม บีตาแคโรทีน วิตามินเอ พฤกษาเคมีต่างๆ
(phytochemicals) เช่น สารประกอบฟีโนลิก (polyphenol) จากชาและสมุนไพรบางชนิด ไอโซฟลาโวน
(isoflavones) จากถั่วเหลือง เป็นต้น เพ่ือให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระพอเพียงกับความต้องการ
เราควรกินผักผลไม้สีเข้มเป็นประจาโดยล้างให้สะอาดทุกครั้ง นอกจากจะได้รับสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว
ยังจะได้รับใยอาหารด้วย ร่างกายของเราจาเป็นต้องได้รับใยอาหารเช่นกัน เนื่องจากใยอาหาร ช่วยในการ
ขบั ถ่าย ชว่ ยเพม่ิ ปริมาณอุจจาระ ช่วยปอ้ งกัน อาการทอ้ งผูก ช่วยนาโคเลสเตอรอลออกจากร่างกาย เร่งการนา
สารพิษท่ีอาจทาให้เปน็ มะเร็งบางชนิดออกจากร่างกายเร็วขน้ึ

สารปนเปอ้ื นในอาหาร

สารฟอกขาว (โซเดยี มไฮโดรซลั ไฟด)์
ถั่วงอกที่ขาวอวบ ผ้าข้ีร้ิวที่ดูขาวกรอบน่ารับประทานมักจะถูกฟอกขาวด้วยสารฟอกขาว นอกจาก
จะมีการใช้สารฟอกขาวในถั่วงอกแล้วยังมีการใช้ในอาหารประเภท ทุเรียนกวน หน่อไม้ ขิงซอย ขนมจีน
นา้ ตาลทรายหรอื สนิ คา้ อาหารอนื่ ๆ ทม่ี ีสีขาวให้ดูนา่ รบั ประทานและดใู หม่อยเู่ สมอ สารฟอกขาวหรือสารฟอกสี
ที่ใชใ้ นอาหารนัน้ มหี ลายชนดิ ท่ีนยิ มใชก้ ันในอตุ สาหกรรมการผลติ อาหารกค็ ือสารเคมีใน กล่มุ ซลั ไฟต์ ไดแ้ ก่
สารประกอบซัลไฟต์ เช่น แคลเซียมซัลไฟต์ โซเดยี มซลั ไฟต์ โพแทสเซยี มซลั ไฟต์
สารประกอบไบซลั ไฟต์ เช่น โพแทสเซยี มไบซลั ไฟต์ ซึง่ ใช้ปอ้ งกนั การบดู เสยี ของอาหารได้
สารประกอบเมตาไบซลั ไฟต์ เชน่ โซเดียมเมตาไบซลั ไฟต์
สารฟอกสีเหล่าน้ี เป็นสารเคมีที่อนุญาตให้ใช้เป็นวัตถุเจือปนในอาหารได้ แต่ต้องใช้ในปริมาณ
ท่ีกาหนดตามชนิดของอาหาร ถ้าใช้เกินปริมาณที่กาหนดจะเกิดอันตรายได้ เช่น โซเดียมซัลไฟต์ ถ้าใช้ใน
ปรมิ าณทเ่ี กินกาหนด จะมสี ารกามะถนั ตกค้างในอาหารในปริมาณสูงและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคถึงแก่ชีวิตได้
โดยเฉพาะผู้ท่ปี ่วยเปน็ โรคหอบหดื ออ่ นเพลีย และผู้ท่อี อกกาลังมาก

ส่วนสารฟอกขาวที่เป็นอันตราย กระทรวงสาธารณสุขไม่อนุญาตให้ใช้เจือปนในอาหาร คือ
สารโซเดยี มไฮโดรซัลไฟต์ (Sodium hydrosulfite) หรือทชี่ าวบ้านเรยี กวา่ ผงซักมุ้ง สารโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์
เป็นสารเคมีท่ีเป็น พิษ ลักษณะเป็นผงผลึกสีขาว มีกล่ินฉุน หากสัมผัสผิวหนังจะทาให้ผิวหนังอักเสบ เป็นผื่น

7

แดง ถ้าบริโภคเข้าไปจะทาให้เกิดการอักเสบในอวัยวะที่สัมผัสอาหารเช่น ปาก ลาคอและกระเพาะอาหาร
หากกินเข้าไปมากเกิน 30 กรัม จะทาให้เกิดอาการปวดท้อง เวียนศีรษะ อาเจียน อุจจาระร่วง ความดันโลหิต
ลดตา่ ลง แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก หลอดลมหดตัว ทาให้หอบหืด ในผทู้ ่ีเปน็ โรคน้ีอยู่แล้วอาจช็อก หมดสติ
และเสียชีวติ ได้

สารคงความสด (ฟอรม์ าลนี )
ฟอร์มาลินเป็นสารท่ีนิยมใช้กันในหลายด้าน ในด้านการแพทย์ ใช้ในการเก็บรักษาตัวอย่างทางกาย
วิภาค (anatomical specimens) เพื่อคงสภาพของเนื้อเยื่อไม่ให้เน่าเสีย ใช้ฆ่าเช้ือโรคในเคร่ืองมือ ในด้าน
อุตสาหกรรม ฟอร์มาลินมีสมบัติทาให้ผ้าและกระดาษแข็งเกาะกัน จึงนามาใช้ในการทาบอร์ดหรือไม้อัด
การเกษตรใชส้ ารฟอร์มาลินทาลายและป้องกันจุลินทรีย์ท่ีทาให้ต้นไม้เป็นโรค ใช้เก็บรักษาและป้องกันผลิตผล
เกษตรจากการเสียหายระหว่างการขนส่ง ใช้ฆ่าเชื้อราในดิน ใช้เป็นส่วนผสมของสารละลายที่ ใช้เคลือบผัก
ผลไม้จาพวกส้มระหว่างการเก็บเก่ียวเพ่ือชะลอการเน่าเสีย เป็นต้น พ่อค้า แม่ค้า นิยมนาฟอร์มาลินมาแช่ผัก
เน้ือสัตว์ และอาหารทะเลสด เพื่อทาให้อาหารต่างๆ สดอยู่ได้นานไม่เน่าเสียเร็ว แต่ก่อให้เกิดอันตรายต่อ
ผูบ้ รโิ ภค
ในกรณีที่ร่างกายได้รับฟอร์มาลินในปริมาณต่า ร่างกายสามารถกาจัดได้ แต่หากได้รับในปริมาณ
ที่สูง มีฤทธ์ิทาลายการทาลายของเซลล์ในร่างกาย ทาให้เซลล์ตาย ฟอร์มาลินมีพิษต่อระบบต่างๆ เกือบท่ัวท้ัง
ร่างกาย เช่น ในระบบทางเดินหายใจ หากได้รับไอระเหยของฟอร์มัลดีไฮด์ แม้จะปริมาณต่าจะทาให้หลอดลม
บวม แสบจมูก เจ็บคอ ไอ หายใจไม่ออก ปอดอักเสบ น้าท่วมปอด ถ้าสูดดมเข้าไปมากๆ จะทาให้น้าท่วมปอด
จนหายใจไมอ่ อก แนน่ หนา้ อกและตายในท่สี ดุ

วิธกี ารเพาะถว่ั งอกงา่ ยๆ

วสั ดุ/อุปกรณ์ เมล็ดถวั่ เขียว 100 กรมั ตะกรา้ 1 ใบ

กระดาษทชิ ชู่ 6 แผน่ ชามใหญ่ 1 ใบ

ถุงดา 1 ถุง

วธิ ีการและข้ันตอนการทา

1. เตรยี มเมลด็ ถว่ั เขยี ว ขนาดพอดีไม่เลก็ เกินไป แชน่ ้าพกั ไวอ้ ย่างน้อย 8 ชม. หรอื แช่น้าไว้คา้ งคืน

2. นาเมลด็ ถว่ั เขยี วมาเทนา้ ออก แล้วสะเดด็ น้าออกใหห้ มด

3. จากนั้นนาตะกร้าท่ีมีรูรอบๆ นากระดาษทิชชู่ มาวางลงไปด้านล่าง 3 แผ่น นาเมล็ดถั่วเขียวแช่น้า

มาใส่ลงไปด้านบน วางกระจายๆ ให้ท่ัวตะกร้า นากระดาษทิชชู่ มาวางปิดด้านบน 3 แผ่น รดน้าให้ทั่วให้

8

กระดาษทิชชู่เปียก นาผ้าชุบน้าให้เปียก แล้ววางด้านบนกระดาษทิชชู่อีกคร้ังปิดด้านบนด้วยฝาหม้อให้สนิท
แล้วนาไปวางบนชามที่มีขนาดใหญ่กว่าตะกร้า เพ่ือสะดวกเวลารดน้าถ่ัวงอก แล้วน้าจะไหลลงใส่ชาม แล้วนา
นา้ มาเททงิ้ ไดง้ า่ ยๆ น้าจะไดไ้ ม่ขงั บนถัว่ งอก ปิดฝาดา้ นบนนาไปวางบนชามใบใหญ่กว่าตะกรา้

4. จากนน้ั นาตะกรา้ มาใสใ่ นถุงดา แลว้ ปิดคลุมหุ้มให้สนิท นาไปวางในที่อุ่นๆ มืดๆ ท่ีไม่มีแสงแดดส่อง
ถงึ แล้วรดนา้ วนั ละสามเวลา โดยรดน้าผ่านผา้ ที่วางคลุมไว้ อยา่ เปดิ ผ้าดู ค่อยๆรดน้ารดเบาๆ แล้วเทน้าออกทิ้ง
ทกุ ครั้ง ปิดใสถ่ งุ ดาคลมุ ไวต้ ามเดมิ ใชเ้ วลาประมาณ 4 วัน

5. หลงั จากท่ีเพาะถั่วงอกไว้ได้เวลา 4 วนั แลว้ จากน้นั นาถว่ั งอกออกมาจากถุง จากนนั้ เปิดผ้าและทิชชู่
ออก จะได้ถ่ัวงอกท่ีเพาะไว้แล้ว ขนาดถั่วงอกจะโต ยาวได้ที่พอดี พร้อมรับประทานจะเห็นรากถั่วงอกด้านล่าง
งอออกมาเต็มกระดาษทิชชู่ที่รองไว้นาถ่ัวงอกออกมา แล้วค่อยๆ แกะออกจากกระดาษทิชชู่ แล้วล้างน้าให้
สะอาด วิธีเพาะถวั่ งอกงา่ ยๆจะไดถ้ ั่วงอกสด สะอาด กรุบกรอบ ปราศจากสารพิษต่างๆ

ปจั จัยท่มี ีผลต่อการเพาะถวั่ งอก

นา้ เปน็ ปจั จัยท่ีสาคญั สาหรับการเพาะ เมลด็ ถ่ัวจะตอ้ งได้รับน้าและปริมาณที่พอเพียงสม่าเสมอตลอด
การเพาะ 2 - 3 วัน หากขาดน้าจะทาให้การงอกชะงัก ไม่เติบโตสมบูรณ์ เพราะน้าเป็นปัจจัยที่ทาให้ถั่วงอก
เจริญเติบโต ระบายความร้อนท่ีเกิดข้ึนระหว่างการงอก ความร้อนภายในภาชนะจะทาให้ถั่วเน่า ควรรดน้า
สม่าเสมอทุก 2 - 3 ชั่วโมง หากภาชนะเป็นพลาสติก รดน้าทุก 3 - 4 ช่ัวโมง รดน้ามากถั่วจะเน่า หากรดน้า
นอ้ ยไปถั่วจะรากยาวแตกฝอย

อากาศ ฤดูฝน ฝนตกมาก ความชื้นในอากาศสูง ภาวะการเจริญเติบโตของถั่วจะช้าและเน่าง่าย
ปรมิ าณน้าที่ใชร้ ดควรนอ้ ยลง

แสงสว่าง ทาให้ถั่วมีสีเขียว ลาต้นผอมยาว และมีกล่ินถั่ว ดังนั้นภาชนะเพาะควรทึบแสง หรือมีสีดา
สีเขียว สนี ้าเงิน หรืออาจจะมีฝาปดิ หรอื ตั้งภาชนะไว้ในที่มดื ไมม่ แี สง

THUA NGOK TOWER บูรณาการตามแนวคิดสะเตม็ ศกึ ษา (STEM Education)

เคร่ืองเพาะถ่ัวงอกน้ีได้มีการใช้หลักการท่ีเกี่ยวข้องกับ STEM โดยองค์ประกอบท่ีเก่ียวกับ STEM
มดี ังน้ี

1. ด้านวิทยาศาสตร์ (Science) : การเจริญเติบโตของถ่ัวงอกโดยมีปัจจัยที่สาคัญ คือ น้า แสงและ
ความช้ืนท่ีสามารถทาให้พืชเจริญเติบโตได้ และแรงดันนา้ จากที่ตา่ ขึ้นท่สี งู ทใ่ี ช้ในการรดนา้

9

2. ด้านเทคโนโลยี (Technology) : การสืบค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับการเพาะถ่ัวงอก
การทางานของเคร่ืองป๊ัมน้าแบบใบพัด การทางานของสปริงเกอร์ และเผยแพร่ผลงานผ่านแอพพลิเคชันไลน์
ในรปู แบบ e-book

3. ด้านวิศวกรรม (Engineer) : ออกแบบ ประดิษฐ์เคร่ืองเพาะถั่วงอก ทดสอบ ปรับปรุงแก้ไข
และนาไปใช้จรงิ

4. ดา้ นคณติ ศาสตร์ (Mathematics) : การคานวณผลผลติ ทีไ่ ด้ ปรมิ าณนา้ เวลาท่ีใช้ในการรดนา้

10

บทท่ี 3
อุปกรณ์ และวธิ ีการดาเนินการ

1. อุปกรณ์ 7. ขอ้ ต่อสายยาง
8. เข็มขดั รดั สาย
1. ถังขนาด 15 แกลลอน 1 ถงั 9. สว่าน
2. ตะกรา้ แบบมีรู 1 ใบ 10. เทปพันเกลียว
3. สายยางใส 11. เคร่อื งตงั้ เวลารดนา้
4. ปม๊ั นา้ ต้ปู ลาขนาด 900 L/H 12. ทอ่ อลูมเิ นียม ขนาดเส้นผา่ นศูนยก์ ลาง 0.5 ซม.
5. สปริงเกอร์ ขนาด 4 หุน
6. ขอ้ ต่องอเกลียวนอก ขนาด 4 หนุ

2. วธิ กี ารดาเนนิ การ

1. ประชมุ วางแผนการดาเนินงาน
2. ออกแบบอปุ กรณ์
3. การประดษิ ฐ์อุปกรณ์ และทดสอบการใชง้ าน

ข้นั ตอนการประดิษฐ์

1. ส่วนฝาถงั นาฝาถังเจาะให้มขี นาดเท่ากบั ข้อต่องอเกลยี วนอก ขนาด 4 หุน และเจาะอีกหน่งึ รใู ห้มี
ขนาดเท่ากบั สายยาง เพอ่ื นาสายยางจากขา้ งในถงั ขึ้นมาต่อกับขอ้ ต่องอเกลียว

ภาพท่ี 2 แสดงการเจาะฝาถังให้เท่ากับขนาดของข้อตอ่ งอเกลยี วนอก ขนาด 4 หนุ

11

2. ดา้ นลา่ งฝาถังตอ่ สปรงิ เกอร์เข้ากับข้อต่องอเกลยี วนอก ขนาด 4 หุน ด้านบนฝาถังของขอ้ ต่อนาสาย
ยางต่อกบั ข้อต่อให้แนน่

ภาพท่ี 3 แสดงการตอ่ สปรงิ เกอรแ์ ละสายยาง
3. สว่ นดา้ นในถงั นาสายยางอีกด้านที่ต่อมาจากส่วนบนของฝาถังต่อเขา้ กบั เครื่องปม๊ั นา้ ตู้ปลาขนาด
900 L/H ใชเ้ ขม็ ขดั สาย รัดสายยางกบั เครื่องปั๊มน้าใหแ้ น่น และใส่เคร่ืองปมั๊ น้าลงในถัง

ภาพท่ี 4 แสดงการต่อเคร่ืองปั๊มน้ากับสายยาง ใสล่ งถัง

12

4. ใสต่ ะกรา้ ลงในถังให้ขอบตะกรา้ อยบู่ นขอบถังพอดี นาสายยางและสายไฟขึ้นตรงที่หจู ับตะกรา้

ภาพท่ี 5 แสดงการใสต่ ะกร้าลงในถงั
5. เสรจ็ ส้นิ การประดษิ ฐเ์ คร่ืองเพาะถัว่ งอก

ภาพที่ 6 แสดงเคร่ืองเพาะถ่ัวงอก

13

6. ทดสอบการใช้งานเครอื่ งเพาะถ่ัวงอก
6.1 นาถั่วเขียว 1 กโิ ลกรัม ลา้ งให้สะอาดและนาไปแชน่ ้าอณุ หภูมปิ กติ ทงิ้ ไว้ ประมาณ 8 ช่วั โมง

หรือ 1 คืน
6.2 นาตะกร้าออกมาจากถัง วางกระสอบป่านลงในตะกร้า และวางตะแกรงลงในตะกร้า วางถ่ัว

เขียวท่ีแช่น้าแล้วไว้ด้านบนตะแกรง แล้วนาท่ออลูมิเนียมมาขั้นระหว่างช้ัน จากนั้นวางกระสอบป่านลงไปบน
ท่ออลูมิเนียม วางตะแกรงลงตามลาดับ แล้ววางถั่วเขียวที่แช่น้าแล้วลงบนตะแกรง ทาเช่นเดิม 6 ชั้น ชั้นที่ 6
ให้ปดิ ทับดว้ ยกระสอบปา่ นอีกรอบ ใส่น้า 9 ลิตรลงในถังเพาะถั่วงอก ยกตะกร้าใส่ลงไปในถัง ปิดฝาถัง และต้ัง
เวลารดนา้ ทกุ 4 ช่ัวโมง 6 ครง้ั ครงั้ ละ 10 นาที ท้งิ ไว้ 2-3 วนั เกบ็ ผลผลติ ทไ่ี ด้

ภาพท่ี 7 แสดงการทดสอบการใชเ้ คร่อื งเพาะถ่ัวงอก และเก็บผลผลติ

14

บทที่ 4
ผลการดาเนนิ การ

จากการทดลองใช้งานสิ่งประดิษฐ์ THUA NGOK TOWER เคร่ืองเพาะถ่ัวงอก โดยการนาไปเพาะ

ถั่วงอก ได้ผลดงั น้ี

ตารางท่ี 1 แสดงปริมาณผลผลติ ถัว่ งอกจากการเพาะถวั่ เขยี ว 1 กโิ ลกรัม

จานวน การตงั้ เวลารดนา้ ระยะหา่ งเวลา ปรมิ าณถ่วั งอก
(กโิ ลกรัม)
ครัง้ ที่ วันทเ่ี พาะ จานวนครั้ง/วัน ในการรดนา้ ลักษณะของถ่ัวงอก

(วัน) (ครัง้ ) (ช่ัวโมง)

13 12 2 ถ่วั งอกส่วนใหญ่เกิดการเนา่ 3

23 6 4 ถว่ั งอก งอกไดด้ แี ละสมบรู ณ์ 5

33 4 6 ถ่วั งอกชะงักการเจรญิ เติบโต 1

จากการทดลองใช้งานส่ิงประดิษฐ์ THUA NGOK TOWER เครื่องเพาะถ่ัวงอก และสังเกตลักษณะ
การงอกของเมล็ดถั่วเขียว เป็นเวลา 3 วัน รดน้าครั้งละ 10 นาที พบว่า ถั่วงอกท่ีตั้งเวลารดน้า 12 ครั้ง/วัน มี
ลักษณะถ่ัวงอกเน่า ได้ปริมาณถ่ัวงอก 3 กิโลกรัม ถั่วงอกท่ีต้ังเวลารดน้า 6 ครั้ง/วัน มีลักษณะถ่ัวงอกได้ดี ได้
ปริมาณถัว่ งอก 5 กโิ ลกรมั ถ่วั งอกที่ตงั้ เวลารดน้า 4 คร้ัง/วนั มลี ักษณะถว่ั งอกชะงักการเจรญิ เติบโต ได้ปริมาณ
ถั่วงอก 1 กิโลกรัม ดังนั้น ถ่ัวงอกที่ต้ังเวลารดน้า 6 คร้ัง/วัน มีลักษณะถั่วงอกได้ดีและได้ปริมาณถ่ัวงอก 5
กิโลกรัม ถือว่าดีท่ีสุด ที่สาคัญคือ จากการทดลองใช้งานส่ิงประดิษฐ์ THUA NGOK TOWER เคร่ืองเพาะ
ถั่วงอกสามารถเพาะถั่วงอกท่ีปลอดสารปนเปื้อนได้ รสชาติดี ท้ังยังนาถ่ัวงอกไปประกอบการทาโครงการ
อาหารกลางวนั ภายในโรงเรยี นไดอ้ กี ดว้ ย

ภาพท่ี 8 แสดงถั่วงอกปลอดสารปนเปื้อนท่ีไดจ้ ากเคร่อื งเพาะถวั่ งอก

15

บทท่ี 5
สรปุ อภปิ รายผลการดาเนินการ

สรปุ ผลการดาเนินการ

จากการดาเนินการในการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภทสงิ่ ประดิษฐ์ THUA NGOK TOWER
สรปุ ผลทดลองตามจุดม่งุ หมายของโครงงานดังน้ี

1. ได้เคร่อื งเพาะถั่วงอก ทส่ี ามารถเพาะถ่วั งอกปลอดสารปนเป้ือนรับประทานได้ด้วยตนเอง
2. ได้ถ่ัวงอกจากเครอื่ งเพาะถ่ัวงอกประกอบการทาโครงการอาหารกลางวนั ภายในโรงเรียน
3. เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพหลักหรืออาชีพเสรมิ ต่อไปในอนาคต และให้ผอู้ ืน่ สามารถศึกษา
และนาไปพัฒนาใหด้ ยี ิ่งขนึ้ ไป

อภิปรายผลการดาเนนิ การ

จากโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทส่ิงประดิษฐ์ THUA NGOK TOWER การประดิษฐ์เคร่ืองเพาะ
ถั่วงอก สามารถใช้งานจากสิ่งประดิษฐ์ได้จริง และผลจากการใช้งานสิ่งประดิษฐ์ เคร่ืองเพาะถ่ัวงอก โดยการ
นาไปเพาะถั่วงอก จากถ่ัวเขียว 1 กิโลกรัม ได้ถ่ัวงอก 5 กิโลกรัม ท่ีมีประสิทธิภาพ รสชาติดี และปลอดสาร
ปนเป้ือน มีประโยชน์ต่อสุขภาพ สามารถป้องกันและลดความเส่ียงของการเกิดโรคมะเร็ง อีกท้ังโรงเรียนบ้าน
หลมุ เงนิ นาถั่วงอกทีไ่ ด้จากการเพาะประกอบการทาโครงการอาหารกลางวันภายในโรงเรยี นอีกดว้ ย

ข้อเสนอแนะ

1. ฝาถังทีเ่ จาะรูเพื่อใส่ข้อต่องอเกลยี วนอกนั้นควรมีแผ่นยางหรอื ใสซ่ ิลิโคนรอบๆ รอยต่อระหวา่ งฝา
และขอ้ ต่อ เพ่ือกันไม่ใหน้ า้ รั่วออกมา

2. สายยางนน้ั ควรมีเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลางท่เี ลก็ เพือ่ ท่จี ะทาให้เกดิ แรงดนั มากข้ึน
3. ในการเจาะฝาถัง ควรอยู่ในความดแู ลของผ้ใู หญ่

16

ประโยชน์ท่ไี ด้รบั

1. ได้รบั ความรู้เกี่ยวกบั การสร้างเคร่ืองเพาะถัว่ งอก
2. ได้รบั ความรเู้ กี่ยวกับการเพาะถั่วงอกปลอดสารปนเปื้อน
3. ไดถ้ ว่ั งอกปลอดสารปนเปื้อนไวร้ ับประทาน หรือสามารถนาไปจาหนา่ ยได้
4. ได้ถ่ัวงอกปลอดสารปนเป้ือนจากเคร่ืองเพาะถว่ั งอก ทาโครงการอาหารกลางวนั ภายในโรงเรยี น
5. ผอู้ ืน่ สามารถนาความรทู้ ไ่ี ด้ไปสรา้ งเคร่ืองเพาะถว่ั งอกข้นึ ได้จริง และสามารถเพาะถวั่ งอก

รบั ประทานได้ดว้ ยตนเอง

17

บรรณานุกรม

โครงงาน IS การปลูกถั่วงอกในขวดพลาสตกิ . (ม.ป.ป.) . (ออนไลน)์ . แหลง่ ทมี่ า : https://sites.google.
com/site/khorngnganiskarpstih/home. วันที่สบื คน้ ข้อมูล 27 สงิ หาคม 2562.

ถั่วงอก. (ม.ป.ป.). (ออนไลน์). แหล่งทีม่ า : http://www.the-than.com/samonpai/P/28.html.
วันท่ีสืบคน้ ขอ้ มูล 4 กนั ยายน 2562.

นติ ยสารหมอชาวบา้ น. (2548). สารต้านอนุมลู อิสระ. (ออนไลน)์ . แหล่งท่ีมา : https://www.doctor.or.th/
article/detail/1346. วนั ทสี่ บื คน้ ขอ้ มูล 4 กนั ยายน 2562.

วิกิพเี ดีย สารานกุ รมเสรี. (2559). ปมั๊ นา้ . (ออนไลน)์ . แหล่งที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/.
วนั ทีส่ ืบคน้ ขอ้ มูล 4 กนั ยายน 2562.

ศูนย์วิจัยพชื ไรช่ ยั นาท. (2557). ถว่ั งอกคอนโด. (ออนไลน์). แหล่งท่มี า : https://www.sentangsedtee
.com/news_detail.php?rich_id=1231. วันทส่ี ืบคน้ ขอ้ มูล 4 กันยายน 2562.

สารปนเป้อื นในอาหาร. (ม.ป.ป.). (ออนไลน์). แหล่งท่ีมา : http://www.greenshopcafe.com/mobi/
greennewss.php?id=833. วนั ท่ีสบื คน้ ขอ้ มลู 4 กนั ยายน 2562.

สานกั งานกองทุนสนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ (สสส.). (2560). สรรพคุณและประโยชนข์ องถั่วงอก.
(ออนไลน์). แหล่งทม่ี า : https://medthai.com/. วันที่สบื ค้นขอ้ มลู 27 สงิ หาคม 2562.

หลกั การพื้นฐานท่ัวไปในการเพาะถว่ั งอก. (ม.ป.ป.). (ออนไลน)์ . แหลง่ ท่มี า : https://www.pantown
.com/board.php?id=46231&area=3&name=board5&topic=60&action=view
วันทส่ี บื ค้นข้อมูล 4 กนั ยายน 2562.

ภาคผนวก

19

ภาพแสดง อปุ กรณก์ ารประดิษฐเ์ ครื่องเพาะถ่วั งอก

20

ภาพแสดง การเจาะฝาถัง ต่อข้อต่องอเกลยี วนอกเขา้ กับฝาท่ีเจาะรูไว้
ภาพแสดง การตอ่ สปริงเกอร์และสายยางเขา้ กับฝาถัง

21

ภาพแสดง การตอ่ สายยางเข้ากับปั๊มน้า
ภาพแสดง การนาปม๊ั น้าลงถังและใส่ตะกรา้ ลงในถัง

22

ภาพแสดง เคร่อื งเพาะถ่วั งอกหลังจากประดิษฐ์เสร็จเรยี บรอ้ ย
ภาพแสดง การแช่ถวั่ เขยี วก่อนการเพาะ

23

ภาพแสดง การเพาะถั่วเขยี วแต่ละช้นั
ภาพแสดง การเพาะถ่วั งอกดว้ ยเคร่อื งเพาะถัว่ งอกที่สร้างข้นึ

24

ภาพแสดง การเกบ็ ถั่วงอก และนาไปใช้ในโครงการอาหารกลางวนั โรงเรยี น


Click to View FlipBook Version