การสำรวจพืชผักผลไม้ท้องถิ่นในอำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ ครูประภา

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภทการสำรวจ
เรือ่ ง การสำรวจพชื ผกั ผลไมท้ อ้ งถิ่นในอำเภอโนนสุวรรณ จงั หวดั บุรีรัมย์

จดั ทำโดย
นกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ปกี ารศึกษา 2564

ครทู ปี่ รกึ ษาโครงงาน
นางสาวประภา สทิ ธิมงคล

โรงเรียนอนุบาลโนนสวุ รรณ สำนกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3
สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ก

หัวข้อโครงงาน การสำรวจพืชผักผลไมท้ ้องถนิ่ ในอำเภอโนนสุวรรณ จงั หวดั บุรรี ัมย์

ผู้จัดทำ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 ปกี ารศึกษา 2564

ชือ่ ครูที่ปรึกษา นางสาวประภา สทิ ธิมงคล

โรงเรียน โรงเรยี นอนุบาลโนนสุวรรณ จงั หวัดบุรรี มั ย์

ปีการศกึ ษา 2564

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

บทคดั ย่อ

โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง “การสำรวจพชื ผกั ผลไมท้ ้องถนิ่ ในอำเภอโนนสวุ รรณ จงั หวดั บุรีรมั ย์ โดย
นักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ปีการศกึ ษา 2564 ” จัดทำข้นึ เน่ืองจากอำเภอโนนสวุ รรณ จงั หวดั บุรรี มั ย์
นักเรยี นอาศยั อยู่ มผี ืนดินอุดมสมบูรณ์ พืชพันธุ์มีมากมาย ซึ่งอาจจะมีเหมือนกันหรือแตกตา่ งกันกับท้องถิ่นอน่ื
และอาจจะเพมิ่ ขน้ึ หรือลดลงในปตี ่อๆ ไปก็ได้ ดังน้นั เพื่อตอ้ งการสำรวจและรวบรวมพชื ผกั ผลไมท้ ้องถน่ิ ใน
อำเภอโนนสวุ รรณ จงั หวดั บรุ รี ัมย์ มาศึกษาข้อมลู ของพืชชนิดนัน้ ๆ จึงทำการสำรวจซ่งึ มวี ธิ ดี ำเนนิ การ
ดังน้ี คือ กำหนดพ้ืนท่ีแบง่ เขตการสำรวจบริเวณอำเภอโนนสวุ รรณ จงั หวดั บรุ รี มั ย์ รวบรวมขอ้ มูลจากการ
สงั เกตดว้ ยตนเอง จากการสัมภาษณ์ ซักถามชาวบ้านและศกึ ษาจากหนังสอื ประกอบการสำรวจ นำขอ้ มูลท่ี
ไดม้ าจำแนกประเภท บนั ทึกภาพ บนั ทึกรายละเอยี ดเก่ียวกับพืชชนดิ น้นั ๆ ลงในแบบสำรวจ Google Forms
ผลการดำเนนิ การพบวา่ มีพืชผกั ผลไมท้ ้องถ่นิ ในอำเภอโนนสวุ รรณ จงั หวดั บุรรี ัมย์ ท่ีสามารถรวบรวมได้
จำนวน 170 ชนิด จำแนก การใช้ประโยชน์ได้เปน็ 5 ประเภท คือ พืชเศรษฐกิจ 10 ชนดิ ผกั 43 ชนิด
ผลไม้ 38 ชนดิ ไม้ดอกไม้ประดับ 49 ชนิด และสมนุ ไพร 30 ชนิด ทำให้ไดท้ ราบชนิดของพืชในท้องถนิ่
แพร่หลาย ใหค้ นทว่ั ไปได้รู้จัก และใหไ้ ด้รบั การปรับปรงุ พัฒนาพนั ธ์พุ ชื ต่อไป

ข

กติ ตกิ รรมประกาศ

โครงงานวิทยาศาสตร์ เร่ือง “การสำรวจพชื ผกั ผลไม้ท้องถน่ิ ในอำเภอโนนสวุ รรณ จังหวดั
บุรีรมั ย์” คณะผจู้ ัดทำขอขอบคณุ คุณครปู ระภา สทิ ธมิ งคล คณุ ครูทป่ี รึกษา ท่ีใหค้ ำปรึกษา แนะนำ
ขอขอบคุณ นายพิสิษฐ์ เจรญิ พนั ธ์ ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนอนบุ าลโนนสวุ รรณ นางสาวพวงเพชร ผัดกระโทก
รองผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นอนุบาลโนนสวุ รรณ และผ้ปู กครองของนักเรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ปกี ารศกึ ษา
2564 ทุกท่านท่ีใหค้ วามช่วยเหลือสนบั สนุน ตลอดท้งั ชาวบ้านในทอ้ งถน่ิ และผรู้ ู้หลายทา่ นที่คณะผจู้ ัดทำได้
สมั ภาษณ์ ซักถาม จนกระทั่งงานสำเร็จด้วยดี

คณะผู้จดั ทำขอขอบพระคณุ ทุกท่านท่กี ลา่ วไว้ ณ ทน่ี ี้ด้วย
คณะผ้จู ดั ทำ

ค

สารบัญ

หน้า
บทคัดย่อ................................................................................................. .....................................................ก
กติ ติกรรมประกาศ.......................................................................................................................................ข
สารบัญ........................................................................................................................................................ค

สารบัญรปู ภาพ………………………………………………………………………………………………….……..……………จ
สารบญั ตาราง………………………………………………………………………………………………………………………..ฉ
บทท่ี 1 บทนำ

ท่ีมาและความสำคัญของโครงงาน..........................................................................................1
จุดมงุ่ หมายของการศึกษาค้นควา้ ...........................................................................................1
สมมตฐิ านของการศึกษาค้นควา้ .............................................................................................1
นิยามเชิงปฏบิ ตั ิการ................................................................................................................2
ขอบเขตของการศึกษาค้นควา้ ................................................................................................2
ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะไดร้ บั .....................................................................................................2
บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยทีเ่ ก่ียวข้อง
ท่ตี งั้ และอาณาเขตของอำเภอโนนสุวรรณ จังหวดั บรุ ีรัมย์…………………………….…………………3
การปกครองส่วนภมู ิภาค………………………………………………………………………………….…………3
การปกครองสว่ นท้องถิน่ …………………………………………………………………………………………….3
งานสบื สานประเพณีของดีโนนสุวรรณ………………………………………………………………………….4
ชุมชนบ้านซบั สมบูรณ์………………………………………………………………………………………………..4
การเดนิ ทาง………………………………………………………………………………………………………………4
ความหมายพชื ผกั ในท้องถ่นิ ………………..……………………………………………………………………...4
พชื ผักในท้องถิน่ แตล่ ะภาค………………………………………………………………………………………….4
งานวจิ ยั ที่เกยี่ วข้อง…………………………………………………………………………………………………..10
บทที่ 3 อปุ กรณแ์ ละวิธดี ำเนินการศกึ ษา
อุปกรณท์ ่ใี ช้ในการศึกษา.....................................................................................................12
วธิ ีดำเนนิ การศกึ ษา.............................................................................................................12
บทที่ 4 ผลการศึกษาและอภิปรายผลการศึกษา
บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา
สรปุ ผลการศึกษา..................................................................................................................18
ประโยชน์ท่ไี ด้จากโครงงาน...................................................................................................18
ข้อเสนอแนะ..........................................................................................................................18

ง

สารบัญ (ต่อ)

หนา้
เอกสารอ้างองิ ……………………………………………………………….…………………………………………………………………….19
ภาคผนวก

จ

สารบัญรปู ภาพ

หน้า
รปู ท่ี 1 : สม้ ปอ่ ย……………………………………………………………………………………………………………………………………..5
รปู ที่ 2 : สะแล…………………………………………………………………………………………………………………………………………5
รปู ที่ 3 : โหระพา……………………………………………………………………………………………………………………………………..6
รปู ท่ี 4 : อญั ชัน………………………………………………………………………………………………………………………………………..6
รปู ที่ 5 : ผกั กูด…………………………………………………………………………………………………………………………………………7
รปู ท่ี 6 : ชำมะเลียง…………………………………………………………………..………………………………………………………………7
รปู ท่ี 7 : ควินิน…………………………………………………………………………………………………………………………………………8
รปู ที่ 8 : เทียนตาตัก๊ แตน (ผักชลี าว)……………………………………………………………………………………………………………8
รูปท่ี 9 : ผกั อีฮีน……………………………………………………………………………………………………………………………………….9
รูปที่ 10 : หน่อปดุ หรอื หยวกปุด…………………………………………………………………………………………………………………9
รูปท่ี 11 : หยวกทือหรือหน่อทอื …………………………………………………………………………………………………………………10
รูปท่ี 12 : หนอ่ ขา่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………..10

ฉ

สารบญั ตาราง

หน้า
ตารางที่ 1 : พืชผักผลไมท้ ้องถิ่นในอำเภอโนนสุวรรณ จงั หวัดบุรีรมั ย์……………………………………………………………13

1

บทท่ี 1
บทนำ

ทีม่ าและความสำคัญของโครงงาน
อำเภอโนนสุวรรณ จงั หวัดบุรรี ัมย์ มคี ำขวญั ว่า “โนนสุวรรณถ่นิ พชื ไร่ ผลไม้รสหวาน งานตระการ

ผา้ ไหม บญุ บง้ั ไฟน่าชม ด่มื นมโคพันธ์ดุ ี มากมียางพารา นกั กฬี าเหรียญทองโอลิมปคิ ” ตั้งอยู่ทางภาค
ตะวนั ออกเฉยี งเหนือของประเทศไทย มพี น้ื ดินอดุ มสมบูรณม์ พี ชื พนั ธตุ์ ่างๆ ขึ้นอยา่ งมากมาย ประชากร จงึ
ประกอบอาชีพทางการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ งานสืบสานประเพณีของดโี นนสุวรรณ ในงานมีขบวนแห่ตามคำ
ขวญั ของอำเภอและประกวดพชื ผลทางการเกษตร อาทิ มันสำปะหลงั ผลไม้ ผ้าไหม โคนม ฯลฯ ซง่ึ จะจัดขน้ึ
ประจำทุกปีชว่ งประมาณเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน

เนือ่ งจากการทีพ่ บวา่ อำเภอโนนสุวรรณ จงั หวดั บรุ รี มั ย์ มีพชื ท่แี ตกต่างจากทีอ่ ืน่ เราจึงควรศึกษา
สำรวจรวบรวม จะไดท้ ราบว่ามีพชื ชนดิ ใดบา้ งทีม่ ี ในบริเวณอำเภอโนนสุวรรณ จังหวดั บรุ รี มั ย์ ซึ่งพชื บาง
ชนิดทส่ี ำรวจได้อาจจะไม่พบ ในบรเิ วณอ่นื ก็ได้ อีกท้ังจะไดท้ ราบชนิด ลักษณะต่างๆ ของพชื ทสี่ ำรวจไดม้ าก
ขึ้น ซึ่งบางชนิด ชาวอำเภอโนนสุวรรณ จงั หวดั บรุ ีรมั ย์ อาจจะไม่เคยได้ยินชื่อ หรือรจู้ กั มาก่อน

จากการทำการสำรวจรวบรวม จะทำใหไ้ ดท้ ราบชนิดของพืชในอำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบรุ ีรมั ย์ ท่ีมีใน
ปี พ.ศ.2564 ซง่ึ ไม่แนว่ ่าต่อไปอกี 2–3 ปีข้างหนา้ อาจจะมพี ืชชนดิ ใหมเ่ กิดข้นึ จากฝีมือของเกษตรกรในอำเภอ
กไ็ ด้ และพืชท่ีสำรวจได้บางชนดิ ทไ่ี ม่เป็นทร่ี ้จู กั ของคนทว่ั ไป จะทำให้พืชเหล่าน้นั เปน็ ท่ีร้จู ักกันอย่างแพร่หลาย
เพ่ือผลที่ได้คือ การปรับปรุงพันธุ์ชนดิ น้นั ใหส้ รา้ งรายไดแ้ ละเปน็ ทต่ี ้องการของท้องถ่นิ อ่ืน เมอื่ จังหวัดเราเปน็
จังหวดั เกษตรกรรมแลว้ เราก็ควรทจ่ี ะชว่ ยพัฒนาด้านเกษตรกรรม ใหเ้ จริญรุดหน้า และเป็นท่ยี อมรับของ
จงั หวัดอืน่ ๆ

จุดมุง่ หมายของการศึกษาคน้ คว้า
ในการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง “การสำรวจพืชผกั ผลไม้ท้องถิ่นในอำเภอโนนสวุ รรณ จงั หวัด

บรุ รี มั ย์” จัดทำขึน้ เพ่อื สำรวจและรวบรวมพชื ผัก ผลไมท้ ้องถ่นิ ในอำเภอโนนสุวรรณ จงั หวดั บรุ รี มั ย์บางชนิด
เท่าทจ่ี ะสำรวจได้ และเพื่อนำพืชผกั ผลไม้ท้องถนิ่ ทีส่ ำรวจได้ มาศึกษาข้อมลู ของพืชชนิดน้นั ๆ

สมมติฐานของการศกึ ษาค้นควา้
อำเภอโนนสุวรรณ จังหวดั บุรีรัมย์มี พชื ผัก ผลไมท้ ้องถ่ินมากมายหลายชนิดและพืชชนิดต่างๆ

สามารถนำมาใชป้ ระโยชน์ได้

2

นิยามเชงิ ปฏบิ ัติการ
1. พืชท้องถนิ่ หมายถงึ พชื ที่ขน้ึ มากในอำเภอโนนสุวรรณ จงั หวดั บุรีรมั ย์
2. พืชเศรษฐกิจหมายถึง พชื ทผี่ ลิตเพ่ือการค้า เช่น มะพรา้ ว ปาล์ม กาแฟ
3. ผัก หมายถึง พชื ที่ใชเ้ ปน็ อาหาร เชน่ มะเขือ พริก
4. ผลไม้ หมายถึง พชื ทนี่ ำผลมารับประทาน เช่น สม้ เงาะ
5. สมุนไพร หมายถงึ พืชท่ีนำมาใช้ประโยชน์ในการเปน็ ยารักษาโรค เช่น ตน้ ฟ้าทลายโจร
6. ไม้ดอกไมป้ ระดับ หมายถงึ พชื ที่ปลูกไวเ้ พอื่ ประดับตกแตง่ เชน่ กุหลาบ
7. ท้องถ่นิ หมายถงึ บริเวณพ้ืนที่อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบรุ รี ัมย์

ขอบเขตของการศกึ ษาค้นควา้
1. สถานทที่ ำการสำรวจ บรเิ วณอำเภอโนนสวุ รรณ จงั หวดั บรุ รี มั ย์
2. ระยะเวลา วนั ท่ี 15 กรกฎาคม – 25 สงิ หาคม 2564
3. พืชทศ่ี กึ ษา พชื ท่ีข้ึนในอำเภอโนนสุวรรณ จังหวดั บรุ รี มั ย์และเป็นพืช ท่มี ีประโยชน์

ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ
1. ได้ทราบข้อมูลของพืชทอ้ งถิน่ ในอำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรรี มั ย์
2. เปน็ ประโยชนท์ างการศกึ ษาค้นควา้ ของคณะผูจ้ ดั ทำและผทู้ ีส่ นใจพืชท้องถ่ินในอำเภอโนนสวุ รรณ

จังหวัดบุรีรัมย์
3. พชื ท้องถิน่ ของอำเภอโนนสวุ รรณ จงั หวัดบุรรี มั ย์ จะได้รับการสง่ เสริม พฒั นา มากขึ้นกวา่ เดิม
4. ทำใหท้ ราบวา่ หลังจากการสำรวจมีพืชตา่ งถิ่นอะไรบ้าง

3

บทที่ 2
เอกสารและงานวจิ ยั ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง

ทต่ี ้ังและอาณาเขตของอำเภอโนนสวุ รรณ จงั หวัดบรุ ีรัมย์
คำขวัญ : “โนนสวุ รรณถนิ่ พืชไร่ ผลไมร้ สหวานงานตระการผา้ ไหม บุญบงั้ ไฟนา่ ชมดื่มนมโคพนั ธ์ุดี

มากมยี างพารา นักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิค”
อำเภอโนนสุวรรณต้ังอยูท่ างทศิ ตะวนั ตกเฉียงใต้ของจงั หวดั มีอาณาเขตติดตอ่ กับเขตการปกครอง

ขา้ งเคยี งดังต่อไปนี้
ทิศเหนือ ติดตอ่ กับอำเภอหนองก่แี ละอำเภอนางรอง
ทิศตะวนั ออก ตดิ ต่อกับอำเภอนางรอง
ทศิ ใต้ ติดต่อกับอำเภอปะคำ และอำเภอเสิงสาง (จังหวดั นครราชสีมา)
ทศิ ตะวนั ตก ตดิ ตอ่ กับอำเภอเสิงสาง (จงั หวัดนครราชสีมา) และอำเภอหนองก่ี

การปกครองส่วนภูมิภาค

อำเภอโนนสวุ รรณแบง่ พื้นที่การปกครองออกเป็น 4 ตำบล 56 หมู่บา้ น

1. โนนสวุ รรณ (Non Suwan) 17 หมบู่ ้าน

2. ทุ่งจังหนั (Thung Changhan) 14 หมบู่ า้ น

3. โกรกแก้ว (Krok Kaeo) 12 หมู่บา้ น

4. ดงอจี าน (Dong I Chan) 13 หมู่บา้ น

การปกครองส่วนท้องถน่ิ
ท้องท่ีอำเภอโนนสวุ รรณประกอบดว้ ยองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ 5 แห่ง ได้แก่
เทศบาลตำบลโนนสุวรรณ ครอบคลมุ พ้นื ท่บี างส่วนของตำบลโนนสวุ รรณและบางส่วนของตำบลโกรก

แกว้
เทศบาลตำบลโกรกแก้ว ครอบคลุมพนื้ ทต่ี ำบลโกรกแก้ว (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลโนนสวุ รรณ)
องค์การบริหารสว่ นตำบลโนนสุวรรณ ครอบคลมุ พน้ื ท่ตี ำบลโนนสุวรรณ (เฉพาะนอกเขตเทศบาล

ตำบลโนนสุวรรณ)
องค์การบรหิ ารส่วนตำบลทุ่งจังหนั ครอบคลุมพนื้ ท่ีตำบลทุ่งจงั หันท้ังตำบล
องค์การบริหารสว่ นตำบลดงอีจาน ครอบคลมุ พื้นท่ีตำบลดงอีจานท้งั ตำบล

4

งานสบื สานประเพณีของดโี นนสุวรรณ
ในงานมขี บวนแหต่ ามคำขวญั ของอำเภอและประกวดพืชผลทางการเกษตร อาทิ มนั สำปะหลงั ผลไม้

ผ้าไหม โคนม ฯลฯ ซง่ึ จะจดั ขึ้นประจำทุกปีชว่ งประมาณเดือนพฤษภาคม-มถิ ุนายน

ชมุ ชนบา้ นซับสมบูรณ์
เป็นชมุ ชนทม่ี ีการเปิดแหลง่ เรียนรกู้ ารเพาะเหด็ โคนญ่ีปุ่น ชมสวนผลไม้ มีแหลง่ นอนกลางเตน็ ทร์ มิ อา่ ง

เก็บนำ้

การเดนิ ทาง
อำเภอโนนสวุ รรณไม่มีทางหลวงแผน่ ดนิ ผ่าน มเี พียงถนนทางหลวงชนบทสาย บร.2016 (หวั ถนน-

ดอนอะราง) ซงึ่ ถือเป็นถนนเส้นหลักในอำเภอ
การเดินทาง ถา้ มาจากตวั เมอื งบุรีรัมย์หรืออำเภอนางรอง จากทางหลวงหมายเลข24(โชคชัย-เดช

อุดม) เล้ยี วซา้ ยที่บ้านหัวถนนแล้วเล้ียวเข้าถนนหัวถนน-ดอนอะราง จะเข้าเขตอำเภอโนนสุวรรณทเ่ี ขตตำบล
โกรกแกว้

ถา้ มาจากจังหวัดนครราชสมี า มาตามถนนหมายเลข 24 แยกที่ อ.หนองก่ี เล้ียวเขา้ ถนนหนองก่ี-เสิง
สาง มาประมาณ10กม.ถึงชุมชนสามเหล่ยี ม ทต.ดอนอะราง กเ็ ลยี้ วซ้ายเข้าถนนหัวถนน-ดอนอะราง จะเข้าเขต
อำเภอโนนสวุ รรณทเี่ ขตตำบลดงอจี าน

ความหมายพืชผกั ในท้องถิน่

พชื ผักพ้ืนบา้ น(Indigenous Plants) ในท่ีน้หี มายถึงพืชผกั ท่ีมีอยู่ในท้องถิน่ และมีชอ่ื ตามท้องถนิ่ นั้นๆ
มที ั้งไมล้ ม้ ลุก และไม้ยนื ตน้ มีลักษณะทง้ั ไมเ้ ล้ือย ไม้ทรงพุ่ม และไมต้ น้ เติบโตจากปัจจยั ในธรรมชาติ ท่ี
แวดล้อมอยู่และกระจายพนั ธุ์ด้วยสภาวะ ธรรมชาติในแต่ละฤดูกาล พบได้ในแหง่ พืน้ ท่ตี ่างกันท้ังทีร่ าบลุ่ม ทุ่ง
นา ริมหว้ ยหนอง คลอง บึง ชายทะเล บรเิ วณป่าเขา เนนิ โคก บนควน ชาวบ้านในทอ้ งถ่นิ มี ประสบการณ์และ
เรียนรวู้ ิธนี ำมาใชป้ ระโยชน์เป็นอาหารและยาสมนุ ไพร ท้งั ในส่วนของยอด ใบ ดอก ผล หน่อ หัวเหง้า รากและ
ลำตน้

พืชผักในทอ้ งถนิ่ แต่ละภาค มีดงั น้ี
1.ภาคเหนือ

ภาคเหนอื อดุ มสมบูรณไ์ ปด้วยป่าไม้ ชาวเหนอื มีการเรยี นรูก้ ารกินผกั และอาหารอย่างหลากหลาย จึงเกิด
แกงผกั สารพัดชนิดข้ึนมา เช่น แกงผกั รวมหรือแกงแค อาหารจากเหด็ ตา่ งๆ ท่มี ใี ห้กินไดต้ ลอดทัง้ ปี จึงทำให้
ชาวเหนือไดร้ ับอาหารที่เปน็ เสน้ ใยอยา่ งสม่ำเสมอ ผกั มีประโยชน์ท่ชี าวเหนือนยิ มกิน เช่น ผกั ม้วนไก่หรือเชียง

5

ดา ผกั เฮือด มะระขนี้ กหรอื บะห่อยข้นี ก

รูปท่ี 1 : สม้ ป่อย
ที่มา : https://0612191738.blogspot.com/2017/09/blog-post.html

รูปที่ 2 : สะแล
ทม่ี า : https://0612191738.blogspot.com/2017/09/blog-post.html

6

รูปที่ 3 : โหระพา
ที่มา : https://0612191738.blogspot.com/2017/09/blog-post.html
2.ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื (อีสาน)

รูปท่ี 4 : อัญชัน
ทม่ี า : https://0612191738.blogspot.com/2017/09/blog-post.html

7

รูปที่ 5 : ผกั กูด
ทม่ี า : https://0612191738.blogspot.com/2017/09/blog-post.html

รปู ท่ี 6 : ชำมะเลียง
ทมี่ า : https://0612191738.blogspot.com/2017/09/blog-post.html

8

3.ภาคกลาง

รปู ท่ี 7 : ควินนิ
ทีม่ า : https://0612191738.blogspot.com/2017/09/blog-post.html

รปู ท่ี 8 : เทียนตาตก๊ั แตน (ผักชีลาว)
ที่มา : https://0612191738.blogspot.com/2017/09/blog-post.html

9

รปู ท่ี 9 : ผักอีฮนี
ที่มา : https://0612191738.blogspot.com/2017/09/blog-post.html
4.ภาคใต้
พชื ผักทีช่ าวใต้นิยมนำมาแกง ผัด ยำ และเปน็ ผักเหนาะ มีหลายชนิด ดงั น้ี

รูปที่ 10 : หน่อปุดหรือหยวกปุด
ท่มี า : https://0612191738.blogspot.com/2017/09/blog-post.html

10

รปู ท่ี 11 : หยวกทือหรือหน่อทอื
ที่มา : https://0612191738.blogspot.com/2017/09/blog-post.html

รูปท่ี 12 : หยวกทือหรือหน่อทือ
ทม่ี า : https://0612191738.blogspot.com/2017/09/blog-post.html
งานวจิ ยั ทีเ่ ก่ียวขอ้ ง
นางสาวพนดิ า จำหมาย และคณะ (2555) โครงงานการสำรวจพชื สมนุ ไพรในทอ้ งถิน่ จากการ
สำรวจพชื สมุนไพรท่ีพบภายในท้องถิ่น พบพชื สมุนไพรทั้งหมด 22 ชนิด โดยจำแนกพืชสมุนไพร ตามลกั ษณะ
ภายนอกพืชเป็น ไมย้ นื ตน้ 2 ชนดิ ได้แก่มะนาวและข้ีเหลก็ ไมพ้ ุ่ม 7 ชนิด ได้แก่ฝร่งั กะเพรา พญายอ
น้อยหน่า ชมุ เห็ดเทศ หม่อน และ มะเขอื พวง ไมล้ ม้ ลกุ 10 ชนิด ไดแ้ ก่ ขม้นิ กล้วยน้ำวา้ กระเทียม ขิง ขา่

11

ว่านหางจระเข้ ตะไคร้ กระเจ๊ียบแดง ฟ้าทะลายโจรและ ไพลไม้เล้อื ยหรือไม้เถา 3 ชนดิ ไดแ้ ก่ บวั บก ตำลงึ
และ กวาวเครอื ขาว พชื สมนุ ไพร ทั้ง 22 ชนิดท่ีพบ จะมี ลักษณะ สรรพคุณ ประโยชน์ วิธกี ารใชแ้ ละขนาดใน
การใช้ ของพืชสมนุ ไพรแตล่ ะชนดิ ที่แตกตา่ งกัน ขนึ้ อยู่กับ สรรพคุณของพืชสมุนไพรท่ีใชในการรกั ษาโรคนั้นๆ
(ทีม่ า : https://docs.google.com/file/d/0BxMGO
vYWQIpYlR4dUZCVC0yOUk/view?resourcekey=0-OhzhTeG8o7nDpWPLctmVCA)

ศูนย์ศึกษาและวจิ ัยอุทยานแห่งชาติ จังหวดั พษิ ณโุ ลก (2555) : โครงการสำรวจและวิเคราะห์
สงั คมพชื ปา่ เต็งรัง : โดยการวางแปลงตวั อย่างถาวรในอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จงั หวัดเพชรบูรณ์-ชัยภูมิ
โครงการสำรวจและวเิ คราะห์สังคมพชื ป่าเต็งรัง โดยการวางแปลงตัวอย่างถาวรในอุทยานแหง่ ชาตนิ ้ำหนาว
จังหวดั เพชรบรู ณ์-ชยั ภมู ิ มวี ตั ถปุ ระสงค์เพ่ือ ประเมนิ สถานภาพและความหลากหลายด้านพรรณพชื ตดิ ตาม
การเปลยี่ นแปลงการเจริญเติบโตและผลผลิต (growth and yield) เพื่อเป็นฐานข้อมลู การ ดดู ซบั คารบ์ อนซึ่ง
เกี่ยวกบั ภาวะโลกรอ้ น เพอื่ ศึกษาโครงสร้างป่าและการกระจายของพรรณพืชที่เป็นตวั แทนอุทยานแห่งชาติใน
แตล่ ะภมู ิภาค และใช้เป็นแปลงตัวอย่างถาวร เพอื่ ศกึ ษาวชิ าการดา้ นอน่ื ๆท่ีเกี่ยวขอ้ ง โดยการวางแปลงขนาด
120 X 120 เมตร แบ่งเปน็ แปลง ขนาด 10 x 10 เมตร จำนวน 144 แปลงย่อย

พบจำนวนพรรณไม้ยืนตน้ (Tree) ทง้ั หมด 1,802 ต้น จาก 48 ชนิด 42 สกลุ 29 วงศ์ปริมาตรไม้
โดยรวมของไม้ยนื ตน้ เท่ากบั 138.2701 ลูกบาศก์เมตร/เฮกตาร์ พน้ื ทห่ี นา้ ตดั โดยรวมของไม้ยืนตน้ เทา่ กับ
20.3014 ตารางเมตร/เฮกตาร์ ส่วนมวลชวี ภาพเหนอื พนื้ ดิน และการกักเก็บคารบ์ อนเหนือพน้ื ดิน โดยรวมของ
ไม้ยนื ต้น เทา่ กบั 80.835 และ 37.992 ตัน/เฮกตาร์ โดยที่รัง (S.siamensis) มีดชั นีค่าความสำคัญมากท่สี ุด
เทา่ กบั 103.118 ซงึ่ คา่ ดัชนีความหลากหลายของไมย้ นื ตน้ ตามวิธขี อง Shannon-Wiener Index (H’),
Simpson’s diversity Index (D) และ Fisher’s Index (α) เท่ากบั 2.24, 0.77 และ 9.07 ตามลำดบั
สำหรับค่าดชั นีความมากมาย และคา่ ดัชนคี วามสม่ำเสมอของชนดิ เท่ากบั 6.40 และ 0.58 การกระจายตาม
ขนาดเส้นผ่าศูนยก์ ลางเพยี งอก มีลักษณะ เปน็ รูป L-Shape ลักษณะโครงสร้าง ดา้ นต้งั แบ่งชั้นเรือนยอดได้ 3
ชน้ั เรือนยอดการปกคลมุ ของเรือนยอดไม้ มีพ้นื ทป่ี กคลมุ เรือนยอดของไม้ทงั้ หมด เทา่ กบั 8,884.366 ตาราง
เมตรหรือคิดเป็นร้อยละ 88.84 ของพน้ื ที่
(ท่มี า : http://park.dnp.go.th/dnp/research/Array220617_92615.pdf)

12

บทท่ี 3
อปุ กรณ์และวิธดี ำเนินการศกึ ษา

อุปกรณ์ที่ใชใ้ นการศกึ ษา
1. กล้องถ่ายรูป
2. แว่นขยาย
3. หนังสือตา่ งๆ เกยี่ วกับพชื ผัก ผลไม้
4. สมดุ จดบันทกึ และปากกา
5. โทรศัพท์มอื ถอื พร้อมระบบอินเตอร์เนต็

วธิ ีดำเนินการศกึ ษา
1. กำหนดพื้นทก่ี ารสำรวจช่อื พืช ผัก ผลไมท้ อ้ งถ่ินในอำเภอโนนสุวรรณ จงั หวดั บรุ ีรมั ย์ โดยการแบง่

ให้สมาชิกแต่ละคนสำรวจในแต่ละขอบเขตของชุมชนตนเองและบรเิ วณใกล้เคียง ครอบคลุมพ้ืนที่ 4 ตำบล
2. สำรวจข้อมลู จาก
2.1 สำรวจ สงั เกตดว้ ยตนเอง
2.2 สมั ภาษณ์ซักถามคณุ ครู ผปู้ กครอง และชาวบ้าน
2.3 ศกึ ษาจากข้อมูลทางอนิ เตอรเ์ นต็ เกี่ยวกบั อำเภอโนนสวุ รรณ จังหวัดบุรรี ัมย์ ประกอบการ

สำรวจ
3. สร้างเครือ่ งมือในกูเกิล ฟอร์ม สำหรบั บันทกึ ข้อมูล โดยมรี ายละเอยี ดเกยี่ วกบั ชื่อพชื ผัก ผลไม้

ท้องถน่ิ ลักษณะท่วั ไป ลกั ษณะเดน่ ประเภทการใช้ประโยชน์ และสง่ิ อ่ืนๆ ที่อาจสังเกตพบ
4. กำหนดวธิ กี ารบนั ทึกขอ้ มูล
4.1 บันทกึ ภาพในข้อมลู ของพืชในท้องถ่ินลงใน กเู กลิ ฟอร์ม
4.2 จดบันทกึ
5. นำช่อื พชื ที่สำรวจได้จากสมาชกิ แตล่ ะคน มาตรวจสอบชนดิ ทเ่ี หมือนกนั หรอื แตกต่างกัน จำแนก

ประเภท
6. อภิปราย สรุปข้อมูล

13

บทท่ี 4
ผลการศึกษา และอภิปรายผล

ในการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ เรอื่ ง“การสำรวจพชื ผักผลไมท้ ้องถ่ินในอำเภอโนนสวุ รรณ จังหวัด
บรุ รี มั ย์” จากการดำเนินการสำรวจตามขัน้ ตอน ท่ีกำหนด ได้ข้อมูลทงั้ สน้ิ 170 ชนิด พืชทีส่ ำรวจรวบรวมได้
เรยี งลำดบั ตามอักษรดังนี้

ตารางที่ 1 : พืชผกั ผลไม้ท้องถ่ินในอำเภอโนนสวุ รรณ จังหวัดบรุ รี ัมย์

ลำดบั ที่ ชอ่ื ต้นไม้ ลำดบั ท่ี ชอ่ื ต้นไม้ ลำดับท่ี ช่ือต้นไม้
41 ชบา
1 กรชาย 21 ขมน้ิ 42 ชมจนั ทร์
43 ชมพู่
2 กระเจ๊ยี บขาว 22 ข่า 44 ชมพู่มะเหม่ียว
45 ชวนชม
3 กระเจยี ว 23 ข้าว 46 ชะพลู
47 ชะอม
4 กระถิน 24 ขา้ วโพด 48 ชำมะเลยี ง
49 ไชยา
5 กระถินเทพา 25 ขา้ หลวงหลังลาย 50 เซียนท้อ
51 ดาวกระจาย
6 กระท่อม 26 ข่าเหลือง 52 ดาวเรอื ง
53 ดีปลี
7 กระบองเพชร 27 ขงิ 54 ตะขบ
55 ตะไคร้
8 กล้วย 28 ขีเ้ หล็ก 56 ตะบองเพชร
57 ตำลงึ
9 กล้วยไม้ 29 เขม็ 58 เตย
59 ทับทิม
10 กวกั มรกต 30 คะน้า 60 ทุเรยี น

11 กวางตุ้ง 31 คณุ นายตื่นสาย

12 กะเพรา 32 คูณ

13 กาหลง 33 เคราฤาษี

14 กยุ้ ฉ่าย 34 แค

15 แก้ว 35 แคนา

16 แกว้ มังกร 36 งาชา้ ง

17 แกว้ สารพัดนกึ 37 เงาะโรงเรยี น

18 โกสน 38 จันผา

19 โกสนใบขนนุ 39 จำปาแคระ

20 ขนุน 40 จำปี

14

ลำดบั ที่ ช่ือตน้ ไม้ ลำดบั ท่ี ช่ือตน้ ไม้ ลำดับที่ ชือ่ ตน้ ไม้
92 พรกิ 123 มะละกอ
61 ทูน 93 พะยูง 124 มงั คดุ
94 พะไล 125 มันสมั ปะหลงั
62 เทียนทอง 95 พทุ ธชาด 126 มัลเบอรร์ ี
96 พทุ ธรกั ษา 127 แมงลัก
63 ไทรเกาหลี 97 พุทรา 128 ยอ
98 แพงพวย 129 ยางนา
64 นกยูง 99 ไพล 130 ยางพารา
100 ฟกั ทอง 131 ยา่ นาง
65 น้อยหนา่ 101 ฟ้าทลายโจร 132 ยูคาลปิ ตสั
102 เฟริ น์ 133 เยอบรี า่
66 บวบ 103 มะกรดู 134 รวยไมเ่ ลกิ
104 มะขาม 135 ละมดุ
67 บอนกระดาษ 105 มะขามเทศ 136 ลำไย
106 มะขามยกั ษ์ 137 ลีลาวดี
68 บอนสี 107 มะเขือ 138 ลกู ท้อ
108 มะเขือเปราะ 139 เลบ็ ครฑุ
69 บอนสี หงสเ์ หนิ 109 มะเขือพวง 140 ว่านกาบหอย
110 มะเด่ือฝร่ัง 141 วา่ นชกั มดลูก
70 บอนสชี ายชล 111 มะนาว 142 ว่านดอกเข้าพรรษา
112 มะปราง 143 วา่ นตนี ตะขาบ
71 บนั ไดเศรษฐี 113 มะพรา้ ว 144 วา่ นรแี พร
114 มะพร้าวนำ้ หอม 145 ว่านสีท่ ศิ
72 บัว 115 มะเฟอื ง 146 ว่านหางจระเข้
116 มะไฟ 147 วาสนา
73 บวั หิมะ 117 มะมว่ ง 148 เศรษฐเี รือนทอง
118 มะม่วงหาวมะนาวโห่ 149 เศรษฐีวิลสนั
74 บานชนื่ 119 มะเม่า 150 สตอเบอร่ี
120 มะยม 151 สม้ โอ
75 บานบรุ ี 121 มะระข้ีนก 152 สะเดา
122 มะรมุ 153 สะตอ
76 บานไม่รโู้ รย

77 ใบเลอื่ ย

78 โป๊ยเซียน

79 ผงชูรส

80 ผักกาดขาว

81 ผักชลี าว

82 ผักบ้งุ

83 ผักปลงั

84 ผักเสี้ยน

85 ผกั หวาน

86 ผกั หวานป่า

87 ผดั แขยง

88 ไผ่

89 ไผ่นำ้ เต้า

90 ฝรั่ง

91 ฝรั่งกิมจู

ลำดับที่ ช่ือตน้ ไม้ ลำดบั ท่ี ชอ่ื ต้นไม้ ลำดบั ที่ 15

ชื่อต้นไม้

154 สะระแหน่

155 สัก

156 สบั ประรด

157 สบั ปะรดสี

158 สาวนอ้ ยปะแป้ง

159 หงอนไก่

160 หมาก

161 หมากแดง

162 หว้า

163 หอม

164 หูกระจง

165 โหระพา

166 อง่นุ

167 อ้อย

168 อัญชนั

169 อนิ ทผาลัม

170 เฮลิโกเนยี รอเนียนา

ในจำนวนพชื ทัง้ 170 ชนดิ แบง่ ตามการใชป้ ระโยชนไ์ ด้ดังนี้
1. พชื เศรษฐกจิ มี 170 ชนิด ไดแ้ ก่

กระถนิ เทพา ขา้ ว พะยงู มนั สำปะหลงั ยางนา ยางพารา ยูคาลปิ ตัส สัก หมาก ออ้ ย
อภิปรายผล

พืชเศรษฐกิจของอำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรรี ัมย์ มหี ลายชนดิ เปน็ พชื ที่สำคญั เพราะวา่ สามารถสรา้ ง
รายไดใ้ ห้กับชาวชมุ พรเป็นอย่างมาก ได้แก่ ขา้ ว ยางพารา มนั สำปะหลัง อ้อย และบางชนดิ ก็ข้ึนชอ่ื เปน็ ท่ี
ต้องการของคนท้องถ่ิน เช่น หมาก

2. ผกั มี 43 ชนิด ได้แก่
กระเจี๊ยบขาว กระเจยี ว กระถิน กวางตุ้ง ก้ยุ ฉ่าย ขเี้ หลก็ คะนา้ แค แคนา ชมจนั ทร์ ชะพลู ชะอม

ไชยา ตำลงึ ทนู บวบ ใบเลือ่ ย ผงชรู ส ผักกาดขาว ผักชลี าว ผกั บ้งุ ผักปลัง ผกั เสีย้ น ผักหวาน ผักหวานปา่ ผกั

16

แขยง ไผ่ พริก ฟักทอง มะเขือ มะเขอื เปราะ มะเขือพวง มะเดื่อฝร่งั มะระข้นี ก มะรุม มะละกอ แมงลกั ยอ
สะเดา สะตอ สะระแหน่ หอม
อภิปรายผล

ผักเปน็ พืชชนดิ หนึ่งทนี่ ิยมปลูกกันมากในอำเภอโนนสวุ รรณ จงั หวดั บุรีรมั ย์ ทั้งน้เี นื่องจากชาวอำเภอ
โนนสวุ รรณ จงั หวัดบรุ ีรมั ย์ มักรับประทานผักเป็นส่วนประกอบอาหาร เพ่อื ใช้เป็นเคร่ืองเคียงรับประทานกับ
น้ำพรกิ

3. ผลไม้ มี 38 ชนิดได้แก่
กล้วย แก้วมังกร ขนนุ ขา้ วโพด เงาะโรงเรียน ชมพู่ ชมพู่มะเหม่ียว ชำมะเลยี ง เซียนท้อ ทับทิม

ทเุ รยี น น้อยหนา่ ฝรงั่ ฝรั่งกมิ จู พทุ รา มะขาม มะขามเทศ มะขามยกั ษ์ มะปราง มะพร้าว มะพร้าวน้ำหอม
มะเฟือง มะไฟ มะม่วง มะม่วงหาวมะนาวโห่ มะเม่า มะยม มงั คุด มลั เบอร์รี ละมดุ ลำไย ลูกท้อ สตอเบอร่ี สม้
โอ สับประรด หวา้ องุ่น อินทผาลัม
อภิปรายผล

อำเภอโนนสุวรรณ จงั หวดั บุรรี ัมย์ มีผลไมต้ า่ งๆ มากมาย มีทั้งให้ผลผลิตตลอดทั้งปี และบางช่วงฤดูกาล
แตท่ ่สี ำคัญคอื ชาวอำเภอโนนสวุ รรณ จังหวดั บุรีรมั ย์ สามารถบรโิ ภคผลไม้ ไดต้ ลอดทั้งปเี พราะมีผลไม้
หลากหลายชนิดน่ันเอง ผลไมบ้ างชนดิ เชน่ ทุเรียน ยงั มีชอื่ เสยี งสรา้ งรายไดใ้ ห้กบั อำเภอโนนสวุ รรณ จงั หวัด
บุรีรมั ย์ เป็นอยา่ งมาก

4. ไม้ดอกไม้ประดับ มี 49 ชนดิ ไดแ้ ก่
กระบองเพชร กล้วยไม้ กวักมรกต แกว้ แกว้ สารพดั นึก โกสน โกสนใบขนุน ข้าหลวงหลงั ลาย เขม็

คณุ นายต่นื สาย เคราฤาษี งาช้าง จันผา จำปาแคระ จำปี ชบา ชวนชม ดาวกระจาย ดาวเรอื ง ตะบองเพชร
เทยี นทอง ไทรเกาหลี นกยูง บอนกระดาษ บอนสี บอนสีหงส์เหิน บอนสีชายชล บันไดเศรษฐี บัว บานช่ืน
บานบรุ ีบานไมร่ ้โู รย โปย๊ เซียน ไผน่ ้ำเตา้ พะไล พุทธชาด พุทธรกั ษา แพงพวย เฟริ ์น เยอบรี ่า รวยไมเ่ ลิก ลีลา
วดี เลบ็ ครฑุ สับปะรดสี สาวนอ้ ยปะแปง้ หงอนไก่ หมากแดง หกู ระจง อัญชนั เฮลิโกเนียรอเนยี นา

อภิปรายผล
ไม้ดอกไมป้ ระดับเปน็ พืชประเภทหนง่ึ ซึ่งปจั จุบนั ชาวอำเภอโนนสวุ รรณ จังหวดั บรุ ีรมั ย์ นยิ มนำมา

เพาะปลูกเปน็ จำนวนมาก จะเหน็ ไดว้ า่ มีพืชหลายชนิดทนี่ ำมาจากท้องถิ่นอืน่ เหตทุ ่ปี ัจจบุ ันคนนิยมปลกู มาก
อาจเปน็ เพราะพชื ประเภทน้มี ีความสวยงาม แต่ละพนั ธกุ์ ็ตา่ งกัน ทำใหค้ นทส่ี นใจนิยมปรบั ปรุงพนั ธุ์ให้เกิด
ความหลากหลาย รวมท้งั ไม้ประดับบางชนดิ ที่ผคู้ นเชื่อวา่ เป็นสิริมงคลในการปลกู ไวป้ ระดับบ้าน

17

5. สมุนไพร มี 30 ชนดิ ได้แก่
กระชาย กระท่อม กะเพรา กาหลง ขมน้ิ ข่า ข่าเหลือง ขิง คูณ ดปี ลี ตะขบ ตะไคร้ ตำลึง บัวหมิ ะ

ไพล ฟ้าทลายโจร มะกรูด มะนาว ยา่ นาง วา่ นกาบหอย วา่ นชักมดลกู วา่ นดอกเขา้ พรรษา วา่ นตนี ตะขาบ ว่าน
รีแพรวา่ นสีท่ ิศ ว่านหางจระเข้ วาสนา เศรษฐีเรอื นทอง เศรษฐวี ลิ สัน โหระพา
อภิปรายผล

สมนุ ไพรเป็นพืชที่พบมากทสี่ ุดในอำเภอโนนสวุ รรณ จังหวัดบรุ รี ัมย์ จากการสำรวจคร้งั นี้ เป็นพชื ท่ีมี
มาตั้งแต่สมยั อดตี และผกู พันกบั คนในทอ้ งถนิ่ มากเพราะสมนุ ไพรสว่ นใหญ่จะเปน็ พวกพืช ผัก ผลไม้ รวมท้ังไม้
ดอก ไม้ประดบั บางชนดิ คนในท้องถิน่ เขา้ ใจรูเ้ รอื่ งในสรรพคณุ ดี ได้อาศัยภูมปิ ัญญาชาวบ้านในการจำแนก
ประเภทของพชื ท่ีเป็นสมนุ ไพร สมุนไพรเพิ่งได้รับความสนใจเม่อื ไมน่ านมานี้

18

บทที่ 5
สรปุ ผลการศกึ ษา

สรปุ ผลการศกึ ษา
จากการสำรวจและรวบรวมช่อื พชื ผกั และผลไมท้ ้องถิน่ ในอำเภอโนนสุวรรณ จงั หวัดบุรีรมั ย์ สามารถ

รวบรวมได้ 170 ชนดิ และจากการศึกษาขอ้ มูลของพืชแต่ละชนดิ จำแนกประเภทตามการใช้
ประโยชน์ ได้ 5 ประเภทดงั น้ี คือ

1. พชื เศรษฐกิจ 10 ชนดิ
2. ผกั 43 ชนิด
3. ผลไม้ 38 ชนดิ
4. ไมด้ อกไมป้ ระดบั 49 ชนดิ
5. สมุนไพร 30 ชนดิ

ประโยชนท์ ่ีไดจ้ ากโครงงาน
1. ได้ทราบชนดิ ของพืชทอ้ งถน่ิ ของอำเภอโนนสุวรรณ จงั หวัดบรุ รี มั ย์ เพ่ิมมากขึ้น
2. ไดท้ ราบขอ้ มูลของพืชทอ้ งถนิ่ ชนดิ ตา่ งๆ ท่ีสำรวจได้
3. เปน็ การรวบรวมข้อมลู ไวเ้ พื่อประโยชนต์ ่อผทู้ สี่ นใจเร่ืองน้ี
4. ชว่ ยสง่ เสริมใหพ้ ืชทอ้ งถน่ิ ของอำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบรุ ีรมั ย์ แพร่หลาย ใหค้ นทว่ั ไปรู้จักและให้

ไดร้ บั การพฒั นาปรับปรงุ พันธใ์ุ ห้ดียิง่ ขึ้น

ข้อเสนอแนะ
1. พชื ท้องถิน่ ในอำเภอโนนสวุ รรณ จังหวดั บุรรี ัมย์ ยงั มอี ีกมากมายหลายชนดิ จงึ ควรท่จี ะมกี ารสำรวจ

และรวบรวมข้อมูลทย่ี งั ไมส่ ามารถทำการสำรวจ และรวบรวมขอ้ มลู มาได้
2. ผทู้ สี่ นใจควรจะทำการสำรวจและรวบรวมขอ้ มูลเกีย่ วกับพืชท้องถิ่นของอำเภอโนนสุวรรณ จังหวัด

บรุ รี ัมย์ ทุกๆ 2 ปี เพอื่ ให้ทราบว่ามีพชื ชนดิ ใด เพ่ิมหรือลดไปบา้ ง
3. ผู้สนใจอาจทำการสำรวจและรวบรวมขอ้ มลู พชื ท้องถิ่นเก่ยี วกบั ส่งิ อนื่ ๆ ทนี่ ่าสนใจ

19

เอกสารอ้างองิ

https://0612191738.blogspot.com/2017/09/blog-post.html
https://docs.google.com/file/d/0BxMGO vYWQIpYlR4dUZCVC0yOUk/view?resourcekey=0-
OhzhTeG8o7nDpWPLctmVCA)
http://park.dnp.go.th/dnp/research/Array220617_92615.pdf)

20

Anubannonsuwan