ค ำน ำ ด้วยโรงเรียนบ้านค าพอุง (ประชาราษฎร์บ ารุง) มีความห่วงใยและตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของบุคลากร และนักเรียน จึงได้ก าหนดนโยบายด้านความปลอดภัยในสถานศึกษา และสร้าง มาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษา โดยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันหาแนวทางที่เป็น รูปธรรมในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ให้ได้เรียนรู้อย่างมีความสุขเป็นไปตามหลักสูตร มีทักษะชีวิตที่จะดูแล ตนเองให้ปลอดภัย ดังนั้นโรงเรียนบ้านค าพอุง(ประชาราษฎร์บ ารุง) ซึ่งมีภารกิจและความรับผิดชอบในการจัด การศึกษาต้องด าเนินการอย่างมีคุณภาพ ความปลอดภัยของสถานศึกษาจึงเป็นเรื่องที่มีความส าคัญต่อการจัด การศึกษาของสถานศึกษา เพราะนอกจากจะท าให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุขแล้ว ยังมีผลต่อการพัฒนา ด้านอื่น ๆ ด้วย เอกสารมาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษาเล่มนี้ จัดท าขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการดูแล ความปลอดภัยของนักเรียนทุกคนในโรงเรียนบ้านค าพอุง(ประชาราษฎร์บ ารุง) ด้านการป้องกันและแก้ไข อุบัติเหตุ อุบัติภัย และปัญหาทางสังคม สุขภาพอนามัยของนักเรียน ด้านสัตว์มีพิษ ขอขอบคุณผู้มีส่วน เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่มีส่วนสนับสนุนให้คู่มือเล่มนี้มีความสมบูรณ์ เพื่อให้สถานศึกษาได้น าไปใช้อย่างมี ประสิทธิภาพ ว่าที่ร้อยโท (ภาณุ จันทนามล) ผู้อ านวยการโรงเรียนบ้านค าพอุง(ประชาราษฎร์บ ารุง)
มำตรกำรรักษำควำมปลอดภัยของนักเรียนในโรงเรียน ของโรงเรียนบ้ำนค ำพอุง(ประชำรำษฎร์บ ำรุง) ส ำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำร้อยเอ็ด เขต ๓ ๑. นโยบำยและกำรวำงแผนกำรรักษำควำมปลอดภัยของโรงเรียน นักเรียน คือ หัวใจของการจัดการศึกษา โรงเรียนบ้านค าพอุง(ประชาราษฎร์บ ารุง) มีความตระหนักใน ความส าคัญและเล็งเห็นความจ าเป็นเร่งด่วนที่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย จะต้องร่วมกันหาแนวทางที่เป็น รูปธรรมในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้ได้เรียนรู้อย่างมีความสุข เป็นไปตามหลักสูตร มีทักษะชีวิตที่จะดูแล ตนเองให้ปลอดภัย ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมทางสังคม อุบัติเหตุและอุบัติภัย ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ นักเรียน ดังนั้นโรงเรียนบ้านค าพอุง(ประชาราษฎร์บ ารุง) ซึ่งมีภารกิจและความรับผิดชอบในการจัดการศึกษา ต้องด าเนินการอย่างทั่วถึง มีคุณภาพ และพัฒนาสู่ความเป็นเลิศตามมาตรฐานสากล ๑. เป้ำประสงค์ (๑) เพื่อให้มีรูปแบบแนวทางการรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนด้านอุบัติเหตุและอุบัติภัย ด้านปัญหาทางสังคม โดยอาศัยแนวคิดเชิงสร้างสรรค์ภายใต้หลักการกระจายอ านาจ การมีส่วนร่วม และยึด ประโยชน์สูงสุดของนักเรียนเป็นส าคัญ (๒) เพื่อสร้างความเข้มแข็งระบบการรักษาความปลอดภัยของโรงเรียน ให้มีความพร้อม สามารถป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ปัญหาของนักเรียน ทั้งด้านอุบัติเหตุ ด้านอุบัติภัย และปัญหาทางสังคมที่ จะเกิดขึ้นกับนักเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ (๓) เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้รับการปกป้องและคุ้มครองความปลอด ทั้งด้านร่างกายและ จิตใจ โดยนักเรียนจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข (๔) เพื่อสร้างความตระหนักในการรักษาความปลอดภัยของโรงเรียน โดยการให้ความรู้ความ เข้าใจแก่ผู้ที่รับผิดชอบและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยในโรงเรียน ๒. เป้ำหมำย (๑) นักเรียนทุกคนในโรงเรียนได้รับการคุ้มครองดูแลความปลอดภัย (๒) ผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครองนักเรียนมี แนวทางในการป้องกันและรักษาความปลอดภัยนักเรียน (๓) เครือข่ายหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ นักเรียน
๓. ยุทธศำสตร์ (๑) โรงเรียนจัดระบบการรักษาความปลอดภัยของนักเรียน โดยการมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครองและเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างมีประสิทธิภาพ (๒) ก าหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยของนักเรียน (๓) มีการก ากับ ติดตาม ประเมินผลและรายงาน ๒. กำรวำงแผนรักษำควำมปลอดภัย แนวทางการวางแผนรักษาความปลอดภัยให้แก่นักเรียน เน้นการมีส่วนร่วมระหว่างนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ชุมชน และเครือข่าย โดยร่วมกันวางแผนป้องกัน แก้ไข ควบคุม ก ากับติดตาม ประเมินผลและ รายงาน จึงจ าเป็นต้องมีมาตรการ และกิจกรรมเพื่อให้รับประโยชน์สูงสุดตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๕๓ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ พร้อม ทั้งนโยบายของส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้ ขั้นตอน ภำรกิจ ๑. ศึกษำสภำพทั่วไป ศึกษาสภาพทั่วไปของโรงเรียน ชุมชน ความเข้มแข็งของเครือข่ายเพื่อ วิเคราะห์ความเสี่ยงจาการเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัย และภัยจาก สภาพแวดล้อม ๒. ก ำหนดมำตรกำรหลัก ก าหนดมาตรการหลักเพื่อป้องกันและ/หรือแก้ไข ๓. ก ำหนดมำตรกำรเสริม ก าหนดมาตรการเสริมให้เหมาะสมกับความเชื่อ ประเพณีและ วัฒนธรรมของท้องถิ่น และสภาพความเสี่ยงของท้องถิ่น ๔. ก ำหนดกิจกรรม ก าหนดกิจกรรมสนับสนุนมาตรการหลักและมาตรการเสริม ๕. ก ำหนดเวลำและผู้รับผิดชอบ ก าหนดเวลาและผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจน และสามารถปฏิบัติได้
๓. มำตรกำรป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุ อุบัติภัย ปัญหำทำงสังคม สุขภำพอนำมัยของนักเรียน และสัตว์มีพิษ ๓.๑ ด้ำนกำรป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุ สำเหตุ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ผู้รับผิดชอบ ๑. อุบัติเหตุจำกอำคำร เรียน อำคำรประกอบ ๑. ตรวจสอบโครงสร้างและส่วนประกอบ อาคารอย่างสม่ าเสมอ ๒. แต่งตั้งบุคลากรในการดูแลรักษาอาคาร สถานที่ ๓. สร้างความตระหนักและให้ความรู้การ รักษาความปลอดภัยแก่นักเรียน ๔. จัดท าป้ายข้อควรระวังด้านความปลอดภัย ในจุดอันตราย ๕. ซ่อมแซมส่วนประกอบอาคารให้อยู่ใน สภาพปลอดภัย ๖. จัดให้มีแผนการป้องกันและการ เคลื่อนย้ายกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น/ครูที่ปรึกษา ๓. ผู้ปกครอง ๔. ชุมชน ๒. อุบัติเหตุจำกบริเวณ โรงเรียน ๑. แต่งตั้งครูเวรประจ าวันคอยควบคุม ก ากับ ติดตามดูแล การรักษาความปลอดภัยตลอด ทั้งวัน ๒. จัดให้มีผู้รับผิดชอบปฐมพยาบาลเบื้องต้น และน าส่งสถานพยาบาล ๓. หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ การปีนต้นไม้ ๔. จัดให้มีเจ้าหน้าที่ตัดแต่งกิ่งไม้ให้อยู่ใน สภาพที่ปลอดภัยเสมอ ๕. จัดให้มีป้ายค าเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด อุบัติเหตุ ๖. จัดให้มีความรู้และแนวทางปฏิบัติแก่ นักเรียนในกรณีที่พบวัตถุแปลกปลอม ซึ่งอาจ เป็นวัตถุอันตราย ๗. ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง ๘. จัดให้มีระบบการขออนุญาตออกนอก โรงเรียน ๙. จัดให้มีการบ ารุงดูแลรักษาความสะอาด โดยรอบสม่ าเสมอ ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูอนามัยโรงเรียน ๓. ครูเวรประจ าวัน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน
สำเหตุ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ผู้รับผิดชอบ ๒. อุบัติเหตุจำกบริเวณ โรงเรียน (ต่อ) ๑๐. จัดให้มีถังขยะแยกประเภทเพื่อสะดวก ในการจัดเก็บและท าลาย ๑๑. หลีกเลี่ยงการจัดซื้ออุปกรณ์กีฬาหรือ เครื่องเล่นที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ง่าย ๓. อุบัติเหตุจำก สภำพแวดล้อมของ โรงเรียน ๑. มีการส ารวจปัญหาด้านสภาพแวดล้อม มลภาวะในโรงเรียนและชุมชน เพื่อหาแนว ทางแก้ไข ๒. แต่งตั้งคณะกรรมการ โดยใช้ชุมชนและ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีส่วนร่วมในการ หาแนวทางป้องกันและแก้ไข ๓. ประสานงานกับหน่วยงานอื่น ๔. จัดกิจกรรมสร้างจิตส านึกและความ ตระหนักต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับนักเรียน บุคลากรในโรงเรียนและชุมชน ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครู ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน ๔. อุบัติเหตุจำก เครื่องมือ เครื่องใช้ และ อุปกรณ์ต่ำง ๆ ๑. ตรวจสอบเครื่องมือ เครื่องใช้ และอุปกรณ์ ต่าง ๆก่อนใช้งานทุกครั้ง ๒. ห้ามใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ และอุปกรณ์ ต่าง ๆ ที่ช ารุด ๓. แนะน า สาธิต และควบคุมการใช้อย่างถูก วิธีตามประเภทของอุปกรณ์ ๔. จัดเก็บเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ ในที่ เก็บทุกครั้งอย่างเป็นระเบียบ เพื่อความ ปลอดภัย ๕. ก ากับดูแลนักเรียนในการใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ ให้ถูกต้องเหมาะสมกับ ประเภทกิจกรรม ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครู ๓. ครูอนามัยโรงเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน ๕. อุบัติเหตุจำกกำร เดินทำงไป-กลับ ระหว่ำงบ้ำนและ โรงเรียน ๑. สถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชน ร่วมมือ กันก าหนดมาตรการรับ-ส่งนักเรียนตอนเช้า และเลิกเรียน ๒. ก ากับ ดูแลนักเรียนที่ใช้จักรยานและ จักรยานยนต์ให้ชิดทางซ้ายและเป็นแถว ๓. จัดครูเวรประจ าวันตรวจเช็คนักเรียนที่มี ผู้ปกครองมารับ ๔. แนะน าการเดินแถวกลับบ้านให้พี่ดูแลน้อง ๕. ท ากิจกรรมเกี่ยวกับการฝึกปฏิบัติตามกฎ จราจร ๖. จัดครูเวรคอยรับ-ส่งนักเรียนที่ประตู ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครู ๓. นักการภารโรง ๔. นักเรียน ๕. ผู้ปกครอง ๖. ชุมชน
สำเหตุ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ผู้รับผิดชอบ ๖. อุบัติเหตุจำกกำรพำ นักเรียนไปศึกษำนอก โรงเรียน ๑. ศึกษาและปฏิบัติตามระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการพานักเรียน ไปศึกษานอกสถานศึกษาโดยเคร่งครัด ๒. เตรียมการและวางแผนการด าเนินการ อย่างชัดเจน ๓. จัดท าประกันอุบัติเหตุให้กับนักเรียนทุกคน ๔. จัดครูคอยควบคุม ดูแลให้อยู่ในระเบียบ ๕. จัดให้มีเวชภัณฑ์ที่จ าเป็นในการปฐม พยาบาลเบื้องต้น ๖. ควบคุมดูแลการซื้ออาหารรับประทาน ๗. หากมีการใช้พาหนะรถยนต์ ต้องแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถยนต์ และตรวจ ประวัติคนขับเพื่อความปลอดภัย ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักการภารโรง ๔. นักเรียน ๕. ผู้ปกครอง ๖. ชุมชน ๗. อุบัติเหตุจำกกำรน ำ นักเรียนร่วมกิจกรรม ส ำคัญ ๑. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการ เกิดอันตราย ๒. จัดระบบดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ๓. ให้ความรู้นักเรียนในการร่วมกิจกรรมอย่าง ปลอดภัยทุกกิจครั้ง ๔. จัดครูคอยควบคุม ดูแลให้อยู่ในระเบียบ วินัยทุกครั้ง ๕. ประสานงานเจ้าหน้าที่ด้านการรักษาความ ปลอดภัยท้องถนน ๖. จัดเตรียมหน่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นทุก ครั้ง ๗. หากมีการใช้พาหนะรถยนต์ ต้องแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพรถยนต์ และตรวจ ประวัติคนขับเพื่อความปลอดภัย ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักการภารโรง ๔. นักเรียน ๕. ผู้ปกครอง ๖. ชุมชน ๗. เจ้าหน้าที่ตรวจ
๓.๒ ด้ำนกำรป้องกันและแก้ไขอุบัติภัย สำเหตุ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ผู้รับผิดชอบ ๑. อัคคีภัย (Fire) ๑. ให้ความรู้และฝึกซ้อมครู บุคลากรและนักเรียนใน เรื่องการดับไฟ การหนีไฟ การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ การ ซ้อมหนีไฟในสถานศึกษา ๒. จัดท าแผนโครงการค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ รับผิดชอบ การเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์เกิด อัคคีภัยไว้ล่วงหน้า โดยประสานงานกับหน่วยดับเพลิง ขององค์กรปกครองท้องถิ่น ส านักงานป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ และประชาสัมพันธ์ให้ครู บุคลากร และนักเรียนทราบ เพื่อจะได้ท างาน ประสานกันได้อย่างถูกต้องทุกฝ่าย ๓. ให้มีการอยู่เวรยามรักษาความปลอดภัยอย่าง เคร่งครัด ๔. ตรวจสอบอุปกรณ์ที่สามารถก่อให้เกิดอัคคีภัยอย่าง สม่ าเสมอ ๕. ส่งเสริมให้มีการประกันชีวิตแก่ครู บุคลากร และ นักเรียนทุกคน ๖. ในกรณีที่สถานศึกษาต้องจัดเก็บวัสดุเชื้อเพลิง และ สารเคมีไวไฟไว้ตามจ านวนที่ต้องการใช้ ควรจัดเก็บไว้ใน ที่ที่ห่างไกลจากแหล่งพลังงานความร้อนและพลังงาน ไฟฟ้า ๗. ขจัดสิ่งรกรุงรังภายในอาคารเรียน ห้องเรียน ห้องพัก ครู ห้องเก็บของให้เป็นสัดส่วน ๘. ควรปิดไฟ พัดลม และถอดปลั๊กไฟทุกครั้งเมื่ออกนอก ห้องเรียนหรือพักกลางวัน ๙. ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและตรวจสอบ ซ่อมแซมบ ารุงสิ่งที่น ามาใช้งานให้ได้มาตรฐาน เช่น สายไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น ๑๐. ติดตั้งระบบเตือนภัยพร้อมแผนผังการหนีไฟ และ ประชาสัมพันธ์ให้นักเรียน ครู และบุคลากรทุกคนทราบ อย่างทั่วถึง ๑๑. จัดเครื่องดับเพลิงและอุปกรณ์การดับเพลิงอย่าง เพียงพอและบ ารุงรักษาให้พร้อมที่จะท างานได้ทันที ๑๒. ประสานงานกับชุมชนหรือผู้น าท้องถิ่นในการจัด เวรยามหมู่บ้าน เพื่อระวังภัยร่วมกันตลอดจนปลูก จิตส านึกในความเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางราชการ ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน ๖. เจ้าหน้าที่ตรวจ
สำเหตุ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ผู้รับผิดชอบ ๒. วำตภัย (Strom) กำรปฏิบัติตน ๑. รับฟังข่าวเตือนภัยเกี่ยวกับการเกิดและ เส้นทางการเคลื่อนที่ของพายุจากกรม อุตุนิยมวิทยา ที่มีการแจ้งเตือนอย่างรวดเร็ว ให้แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ๒.ชุมชนและภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ควรร่วมมือกัน ส ารวจพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อหาแนวทางป้องกัน อันตราย ๓. ตัดต้นไม้สูงที่ไม่แข็งแรงและอาจล้มทับบ้าน อาคารเรียนได้และติดตั้งอุปกรณ์เสริมความ แข็งแรงของหน้าต่าง ๔. เตรียมเติมน้ ามันรถ และส ารองอาหาร ถ่านไฟฉาย อุปกรณ์ยังชีพ และหมายเลข โทรศัพท์เจ้าหน้าที่ มำตรกำรป้องกันฟ้ำผ่ำ ๑. ให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตนเกี่ยวกับฟ้าผ่า ๒. จัดตั้งแผนโครงการ แต่งตั้งผู้รับผิดชอบ ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและสถานการณ์ต่าง ๆ จากกรมอุตุนิยมวิทยา พร้อมทั้งวางแผน ป้องกันภัยล่วงหน้า ๓. ติดตามข่าวการเคลื่อนไหวของลมพายุ ตลอดเวลา การพยากรณ์อากาศและสถานการณ์ ต่าง ๆ และปฏิบัติตามค าแนะน าอย่างเคร่งครัด ๔. ติดตั้งสายล่อฟ้าส าหรับอาคารสูง และบริเวณ ต้นไม้สูง มำตรกำรปฏิบัติตนเมื่อเกิดฟ้ำผ่ำ ๑. เมื่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนองให้อยู่ใกล้อาคาร หรือบ้านเรือนที่แข็งแรงและปลอดภัยจากน้ าท่วม ควรอยู่ภายในอาคารจนกว่าพายุฝนจะสงบลง ๒. ถ้าอยู่ในรถยนต์ ควรจอดรถให้ไกลจากต้นไม้ และแหล่งน้ า เช่น คลอง แม่น้ า เป็นต้น ๓. อย่าอยู่บริเวณที่เป็นน้ าเมื่อปรากฏพายุฝน เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากน้ าท่วมหรือฟ้าผ่า ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครู ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน
สำเหตุ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ผู้รับผิดชอบ ๓. อุทกภัย (Flood) มำตรกำรป้องกัน ๑. ให้ความรู้ในการปฏิบัติตนแก่ นักเรียน ครู บุคลากรให้พ้นจากอันตราย ๒. วางแผนโครงการ แต่งตั้งผู้รับผิดชอบติดตาม ข่าวพยากรณ์อากาศและสถานการณ์ต่าง ๆ จาก กรมอุตุนิยมวิทยา พร้อมทั้งวางแผนป้องกันภัย ล่วงหน้า ๓. จัดให้มีการซ้อมหลบภัยให้แก่นักเรียน ครู และบุคลากรอยู่เป็นประจ า ๔. จัดเวรยามรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ๕. ดูแลทรัพย์สินของทางราชการ มีการจัดเก็บ สัมภาระ วัสดุ อุปกรณ์ เอกสารส าคัญ พร้อมขน ย้ายได้ทันทีเมื่อเกิดอุทกภัย กำรปฏิบัติกำรเมื่อเกิดอุทกภัย ๑. สั่งปิดสถานศึกษาเมื่อประเมินสถานการณ์ แล้วว่าอาจก่อให้เกิดอันตราย ๒. ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเคลื่อนย้ายสิ่งของ ๓. ประสานงานขอความช่วยเหลือเมื่อประสบ อุทกภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กร สาธารณกุศลต่าง ๆ ๔. รายงานผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานต้นสังกัด ๕. ประมาณการความเสียหายรายงานขอ งบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัดโดยด่วน ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครู ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน
๓.๓ ด้ำนกำรป้องกันและแก้ปัญหำทำงสังคม สำเหตุ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ผู้รับผิดชอบ ๑. กำรล่วงละเมิดทำง ร่ำงกำยและจิตใจ ๑. จัดให้มีคณะกรรมการเฝ้าระวัง ป้องปราม นักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์และ สถานที่เสี่ยง โดยเฉพาะห้องเรียน ห้องน้ า ๒. จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่นักเรียน ครู ผู้ปกครอง ชุมชน ๓. จัดบริการให้ค าปรึกษา ๔. ใช้ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่าง จริงจังและต่อเนื่อง ๕. จัดบรรยากาศภายในห้องเรียน และ สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนให้มีความ ปลอดภัย ๖. จัดอาสาสมัครเครือข่าย นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน ๗. ให้มีผู้รับผิดชอบรายงานหัวหน้าสถานศึกษา ทราบ และรายงานตามล าดับขั้น ๘. น านักเรียนเข้าสู่การช่วยเหลือ บ าบัดรักษา โดยแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อดูแล ติดตามอย่าง ใกล้ชิดและต่อเนื่อง ๙. ประสานงานผู้ปกครองเพื่อให้การช่วยเหลือ ดูแล ๑๐. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานีต ารวจ กองคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและ เยาวชน บ้านพักเด็กและครอบครัว มูลนิธิ องค์กรต่าง ๆ เป็นต้น ๑๑. จัดช่องทางการรับแจ้งข้อมูล เช่น ตู้จดหมาย E-mail เป็นต้น แนวทำงกำรด ำเนินกำรแก้ไขปัญหำ ๑. เชิญนักเรียนมาพบครูอย่างไม่เป็นทางการ ๒. เชิญเพื่อนสนิทกับนักเรียนมาพูดคุยสอบถาม ข้อมูล/ข้อเท็จจริงและผู้เกี่ยวข้องกับปัญหา ๓. แจ้งผู้บริหารเพื่อจัดประชุมครู/ผู้เกี่ยวข้องเพื่อ ประเมินข้อเท็จและผู้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหา ๔. เชิญผู้ปกครองมาพบ แจ้งข้อมูล/ข้อสงสัย เกี่ยวกับสถานการณ์ของเด็ก ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน
สำเหตุ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ผู้รับผิดชอบ ๑. กำรล่วงละเมิดทำง ร่ำงกำยและจิตใจ(ต่อ) ๕. เชิญนักสังคมสงเคราะห์/นักจิตวิทยามาพูดคุยกับ เด็กเพื่อปรับสภาพจิตใจ ๖. ส่งเด็กเข้ารับการตรวจรักษา และให้การป้องกัน การตั้งครรภ์/การติดเชื้อ (กรณีต้องได้รับความ ยินยอม/ต้องได้รับการอนุญาตก่อน) ๗. ให้ผู้ปกครองแจ้งความด าเนินคดีและให้ค าแนะน า ผู้ปกครอง ในการปรึกษากับนักสังคมสงเคราะห์ของ พัฒนาสงคมและความมั่นคงของมนุษย์ของจังหวัด ส านักอัยการคดีเด็กและเยาวชนและครอบครัว ๘. ด าเนินการปกปิดข้อมูล-สถานการของเด็กเป็น ความลับ กรณีต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจ ควรให้พักการ เรียนก่อนระยะสั้น ๆ ๒. กำรท ำร้ำยตนเอง และกำรฆ่ำตัวตำย มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ๑. จัดให้มีระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างมี ประสิทธิภาพ โดยมอบหมายครูประจ าชั้นสังเกต พฤติกรรมนักเรียนเป็นรายบุคคล ๒. จัดท าระบบเครือข่ายระหว่างผู้ปกครอง ชุมชน สถานศึกษา เพื่อการสื่อสารและสานสัมพันธ์ร่วมมือ ป้องกันแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมนักเรียน ๓. จัดกิจกรรมปลูกฝังให้เกิดความรัก ความสามัคคี ความเอื้ออาทรและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ๔. จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของนักเรียน อย่างหลากหลาย ๕. ประสานความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญให้ค าปรึกษา ๖. ประสานพ่อแม่ ผู้ปกครองทันที เมื่อเกิดปัญหา เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยวิธีการต่าง ๆ ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครู ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน ๓. สำรเสพติด ๑. จัดกิจกรรมเสริมทักษะชีวิต เพื่อสร้างความ ตระหนักให้นักเรียนเห็นคุณค่าแห่งตน ๒. จัดท าระบบเครือข่ายระหว่างผู้ปกครอง ชุมชน สถานศึกษา เพื่อการสื่อสารและร่วมมือกันป้องกัน/ แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมนักเรียน ๓. จัดกิจกรรมให้นักเรียนแสดงออกตาม ความสามารถที่ถูกต้อง เช่น ศิลปะ ดนตรี กีฬา เป็น ต้น ๔. จัดกลุ่มเฝ้าระวังโดยอาศัยเครือข่ายภายในและ ภายนอกสถานศึกษา ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน
สำเหตุ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ผู้รับผิดชอบ ๓. สำรเสพติด (ต่อ) ๕. จัดการอบรมเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมให้แก่ นักเรียน ๖. ให้ความรู้แก่นักเรียนในการเลือกชมสื่อต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ๗. จัดบรรยากาศสิ่งแวดล้อมในสถานศึกษาให้ สะอาด ร่มรื่น สวยงาม เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ ๘. ใช้ระบบมาตรการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่าง ต่อเนื่องและสม่ าเสมอ ๙. แต่งตั้งผู้รับผิดชอบแก้ไขปัญหายาเสพติดใน สถานศึกษา ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน ๔. กำรทะเลำะวิวำท มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ๑. ด าเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่าง มีประสิทธิภาพ ๒. จัดท าระบบเครือข่ายระหว่างผู้ปกครอง ชุมชน สถานศึกษา เพื่อการสื่อสารและร่วมมือกันป้องกัน/ แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมนักเรียน ๓. จัดให้มีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อเข้าระงับเหตุกรณี ที่มีเหตุทะเลาะวิวาท โดยประสานกับเจ้าหน้าที่ ต ารวจ ๔. ประสานแจ้งผู้ปกครองนักเรียนผู้ก่อเหตุ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้ผู้ปกครองนักเรียนทราบและจัด เจ้าหน้าที่ดูแล โดยรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ตามล าดับ ๕. ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ต ารวจ อปพร. หรือ อปท. ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน ๕. กำรถูกล่อลวงและ ลักพำ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ๑. จัดกิจกรรมเสริมสร้างทักษะการคิด วิเคราะห์ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การตัดสินใจ การให้ ค าปรึกษาที่ถูกต้อง รวมไปถึงทักษะการป้องกัน ตัวเองให้พ้นจากการถูกล่อลวงและลักพา ๒. จัดระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ จัดเวรยามรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษา ๓. ประสานงานกับชุมชน เครือข่ายผู้ปกครองในการ สอดส่องนักเรียนอย่างทั่วถึงและสม่ าเสมอ ๔. ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ช่วย สอดส่องดูแล เพื่อป้องกันการถูกล่อลวงและลักพา ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน
สำเหตุ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ผู้รับผิดชอบ ๕. กำรถูกล่อลวงและ ลักพำ(ต่อ) ๕. ให้มีการประชาสัมพันธ์ข่าวสารเกี่ยวกับการ ล่อลวงและลักพา และวิธีป้องกันให้นักเรียนทราบทุก ระยะ ๖. ประสานงานเจ้าหน้าที่ต ารวจ ผู้ปกครอง เพื่อ ด าเนินการติดตามค้นหา ๗. ขอความร่วมมือจากครู ผู้ปกครอง ชุมชน หรือผู้ที่ เกี่ยวข้องในการแจ้งเบาะแส ๘. ประสานแจ้งผู้ปกครองนักเรียนทราบเมื่อเกิดเหตุ โดยรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบตามล าดับ ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน ๖. สื่อลำมกอนำจำร มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ๑. ควบคุมดูแลการน าข้อมูลข่าวสารและสื่อบันเทิง ต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ไม่ให้เข้ามาเผยแพร่ใน สถานศึกษา ๒. จัดท าหลักสูตรบูรณาการการจัดการเรียนรู้ใน เรื่องเพศศึกษา ศีลธรรม คุณธรรมจริยธรรมที่ดี และ เหมาะสมให้กับนักเรียน ๓. จัดกิจกรรมเสริมสร้างค่านิยม ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมที่ดีงามให้กับนักเรียนเพื่อการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ๔. ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และผู้ที่ เกี่ยวข้องในการตรวจตรา ควบคุมดูแล ตามแหล่ง จ าหน่ายและเผยแพร่ ๕. ด าเนินการตรวจค้น ยึดสิ่งของและลงโทษ หาก พบนักเรียนน าสื่อลามกอนาจารเข้ามาในสถานศึกษา ติดต่อประสานงานกับผู้ปกครองเพื่อหาแนว ทางแก้ไขปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ๖. มอบครูประจ าชั้น ติดตามและเฝ้าระวัง ภายหลัง ด าเนินการแก้ไขแล้ว เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาใน ระยะต่อไปมิให้เกิดขึ้น ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน ๗. อบำยมุข มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ๑. ก าหนดให้สถานศึกษา เป็นเขตปลอดอบายมุขทุก ประเภท ๒. จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้และตระหนักโทษภัย และปัญหาอบายมุข ที่มีผลกระทบต่อการเรียนและ ความเป็นอยู่ของนักเรียน ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน
สำเหตุ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ผู้รับผิดชอบ ๗. อบำยมุข (ต่อ) ๓. มอบหมายครูประจ าชั้น ติดตามสอดส่องดูแล พฤติกรรมนักเรียน ในกลุ่มที่มีปัญหาและกลุ่มเสี่ยง ต้องรับปรับพฤติกรรมในเบื้องต้น ๔. ส ารวจแหล่งอบายมุข แหล่งมั่วสุม โดยจัดท าเป็น ข้อมูลหรือที่ตั้งเพื่อประสานงานกับผู้รับผิดชอบและผู้ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ๕. ขอความร่วมมือจากผู้ปกครองในการช่วยกวดขัน ดูแลพฤติกรรมของบุตรหลานตนเองอย่างใกล้ชิด ทั้ง การเรียน ค่าใช้จ่าย การใช้อุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด การออกเที่ยวเตร่ หรือท ากิจกรรมนอกบ้าน รวมทั้ง การใช้สื่อเทคโนโลยีในครอบครัวไปในทางที่ไม่ เหมาะสม ๖. จัดตั้งกลุ่มเครือข่ายระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน ในการช่วยสอดส่องดูแลพฤติกรรมของ นักเรียน ไม่ให้มั่วสุมในแหล่งอบายมุขต่าง ๆ ๗. จัดท าทะเบียนข้อมูลนักเรียนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ๘. ประชุมผู้ปกครองเพื่อหาแนวทางแก้ไข และให้ ความช่วยเหลืออย่างจริงจังร่วมกัน ๙. ประสานความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ในการออก ตรวจตราตามแหล่งมั่วสุมต่าง ๆ ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน ๘. พฤติกรรมชู้สำว มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ๑. ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในการปฏิบัติตนและ พฤติกรรมที่พึงประสงค์ด้านการวางตัวคบเพื่อนต่าง เพศ และจัดการเรียนการสอนเรื่องเพศศึกษา ๒. มอบหมายครูประจ าชั้น ให้ค าปรึกษาแก่นักเรียน ๓. จัดบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนให้ ปลอดโปร่งไม่มีมุมอับสายตา อันจะส่งผลต่อ พฤติกรรมในทางไม่เหมาะสมของนักเรียน ๔. ก ากับติดตามดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของครูเวร ประจ าวัน ๕. สร้างเครือข่ายประสานความร่วมมือระหว่าง เครือข่ายผู้ปกครอง ชุมชนและโรรงเรียนในการแจ้ง เบาะแส ๖. เมื่อนักเรียนประสบปัญหาให้สถานศึกษา มอบหมายผู้รับผิดชอบสืบหาข้อเท็จจริงและ ด าเนินการแก้ไข ในกรณีที่เป็นปัญหาร้ายแรงให้ ผู้บังคับบัญชารายงานตามล าดับขั้นตอน ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน
สำเหตุ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ผู้รับผิดชอบ ๘. พฤติกรรมชู้สำว(ต่อ) ๗. ประสานงานเชิญผู้ปกครองมารับทราบปัญหา และร่วมมือช่วยกันแก้ไขปัญหา ปรับเปลี่ยน พฤติกรรมไปในทางที่เหมาะสม ๘. ติดตาม ก ากับ ดูแลนักเรียนที่มีพฤติกรรมไม่ เหมาะสม ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน ๙. อินเทอร์เน็ตและเกม มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ๑. ให้ความรู้นักเรียนในการเลือกบริโภคข้อมูล ข่าวสาร ภัยจากสื่ออินเทอร์เน็ต ๒. จัดกิจกรรมเสริมสร้างความสนใจหรือสร้าง แรงจูงใจในการใช้คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต อย่าง สร้างสรรค์ ๓. ประสานความร่วมมือ ผู้ปกครอง เครือข่าย ผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการป้องกัน กวดขัน ดูแล ตามแหล่งร้านอินเทอร์เน็ต ร้านเกม ๔. ครูฝ่ายปกครองและครูที่ปรึกษาก ากับติดตามการ มาเรียนองนักเรียน และประสานกับผู้ปกครองในการ เดินทางไป-กลับระหว่างบ้านและโรงเรียน ๕. ด าเนินการน ากลุ่มนักเรียนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเข้า รับการอบรมให้ความรู้ในเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ต ๖. ประสานงานกับเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงาน รับผิดชอบ เพื่อติดตามตรวจสอบร้านอินเทอร์เน็ต ร้านเกมที่ให้บริการนักเรียน ช่วงเวลาเรียน ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน ๑๐. ด้ำนสุขภำพ อนำมัยของนักเรียน ๑. สร้างองค์ความรู้ให้แก่ครู บุคลากร ในเรื่องแนว ทางการส่งเสริมสุขภาพนักเรียน การป้องกันมลภาวะ จากสิ่งแวดล้อม การป้องกันไม่ให้เกิดโรคต่าง ๆ ๒. จัดท ามาตรการบริหารจัดการขยะในสถานศึกษา ๓. แต่งตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบงานให้ชัดเจน ๔. ตรวจสุขภาพรักเรียนออย่างน้อยปีละครั้ง โดย ประสานงานกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล เพื่อดูแลนักเรียนที่มีสุขภาพร่างกายอ่อนแออย่าง ใกล้ชิด ๕. ปิดสถานศึกษาเมื่อมีโรคระบาดหรือได้รับ ผลกระทบจากสารพิษ ๖. แจ้งผู้บังคับบัญชาตามล าดับขั้นในกรณีมี โรคติดต่อเกิดขึ้นในโรงเรียน ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน
สำเหตุ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ผู้รับผิดชอบ ๑๐. ด้ำนสุขภำพ อนำมัยของนักเรียน ๗. จัดน้ าดื่ม น้ าใช้ให้ปลอดภัยรวมทั้งระบบกักเก็บ น้ าและระบบการจ่ายน้ าให้ถูกสุขอนามัย ๘. มีห้องน้ าที่ถูกสุขอนามัย ๙. มีอุปกรณ์และสถานที่ส าหรับล้างมือ และให้ ความรู้ในการล้างมือของนักเรียนอย่างถูกวิธี ๑๐. ควบคุมความสะอาดในการประกอบอาหารให้ ถูกสุขลักษณะ ๑๑. จัดสถานที่และบริเวณสถานศึกษาให้ถูก สุขลักษณะ ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน ๑๑. ด้ำนปัญหำจำก สัตว์และแมลงมีพิษ มำตรกำรป้องกันและแก้ไข การจัดสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาให้มีความ ปลอดภัยจากการได้รับอันตรายจากสัตว์มีพิษกัดต่อย ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกที่ ไม่ว่าเป็น ส่วนต่าง ๆ ของสถานศึกษา สิ่งที่ตามาซึ่งสาเหตุ กระทบต่อสภาพร่างกาย การเจริญเติบโต การเรียนรู้ และพัฒนาการด้านต่าง ๆ จึงต้องให้ความส าคัญและ ตระหนักในเรื่องของความปลอดภัยจากสัตว์มีพิษ ๑. จัดสภาพแวดล้อมให้สะอาดร่มรื่น ตัดแต่งต้นไม้ ก าจัดแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษเพื่อความ ปลอดภัยของนักเรียน ๒. ให้ความรู้แก่ครู บุคลากร และนักเรียนเกี่ยวกับ สัตว์มีพิษ วิธีป้องกัน และวิธีการปฐมพยาบาล เบื้องต้น ๓. ประสานความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน การก าจัด แหล่งเพาะพันธุ์ ๔. จัดเตรียมอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ในการปฐมพยาบาล กรณีได้รับพิษจากสัตว์มีพิษ ๕. จัดท าแผนฉุกเฉินและการฝึกซ้อมโดยความ ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพต าบล หน่วยกู้ภัยใกล้เคียง เป็นต้น ๑. ผู้บริหารโรงเรียน ๒. ครูประจ าชั้น ๓. นักเรียน ๔. ผู้ปกครอง ๕. ชุมชน