2. ใชไ้ ม้ปักก้ันคอกล้อมฟางกนั ฟางลอยในบอ่ มมุ ไหนกไ็ ด้ พ้นื ที่ 1 ไร่ กั้น
คอกประมาณ 2 x 2 ถึง 4 X 4 เมตร ตามความเหมาะสม โดยแบ่งออกไปเปน็ หลาย
จดุ เพราะปลาจะหากนิ ตลอดเวลา
3. นา้ ฟางวางซอ้ นเป็นช้ัน สลบั กับมลู ไก่หรอื มูลววั (ภาพที่ 18) และปูน
ขาว ลักษณะเดยี วกับการทา้ ปุ๋ยหมกั โดยมอี ตั ราส่วนในการวางคือ ชั้นล่างสุด ฟาง 1
ก้อนให้ไดห้ นาประมาณ 10-20 เซนตเิ มตร ช้ันท่ี 2 มลู สตั ว์แหง้ 10 กิโลกรัม ชนั้ ท่ี
3 อาจเตมิ ปูนขาว คร่งึ กโิ ลกรมั แล้วก็กลับไปเป็นฟางสลับกันไป เหมือนเดิมจนฟาง
หมด ทกุ อยา่ งสามารถปรบั เปลีย่ นได้ตามความเหมาะสม
4. เมือ่ ผ่านไปฟางยุบลงเกือบหมด ให้หาฟางมาหมกั ไดเ้ รอ่ื ยๆ จนกว่าจะจบั
ปลาหมดไป หรือหากยังทยอยจบั ปลาก็จะเตมิ ไปตามลา้ ดับ ใชฟ้ างข้าวทน่ี วดแลว้ มา
ใส่เรยี งเป็นตับตามแนวดิ่งกบั หลกั ท่ีปกั ยึดตรงกลางแลว้ หลงั จากนน้ั ทับด้วยขี้วัวแห้ง
ในช้ันแลว้ ค่อยเตมิ ชน้ั อีกเมอ่ื มนั ยุบตัวลง ห่างกนั ชั้นละ 10 เซนตเิ มตร
ภาพที่ 18 ฟางหมักในบอ่ เพือ่ เพิม่ อาหารธรรมชาตใิ หก้ ับปลา
5. ท้าให้กองฟางและมูลสัตวโ์ ปรง่ ดา้ นล่าง เพราะจะทา้ ให้ปลาเขา้ มาหากนิ
ได้งา่ ย และเกดิ การผสมกันของฟางข้าวที่ย่อยกบั ดนิ และแบคทีเรยี และจะไมม่ กี าร
เน่าทพ่ี ืน้ ทอ้ งน้าบรเิ วณนัน้
47 การเพาะเลีย้ งปลาบนพื้นท่ีสงู
6. สามารถทา้ ไดห้ ลายกองในบ่อเดียวเน่ืองจากปลาจะมกี จิ กรรมหาอาหาร
ตลอดเวลา และพฤติกรรมของปลาใหญท่ สี่ ามารถเข้าถึงอาหารก่อน เป็นการเพ่ิม
โอกาสใหป้ ลาเลก็ ได้รบั อาหารเพิม่ ขึ้น
วิธีใช้ ใช้เลี้ยงปลากนิ พืช ได้แก่ปลานิล ปลายี่สกเทศ ปลานวลจันทร์เทศ
ปลานวลตะเพยี นขาว ปลาไน ปลาลน่ิ หรืออาจเป็นปลากินเนอื้ เชน่ ปลาดกุ กไ็ ด้แต่ให้
ใส่ปลาจา้ นวนน้อย ร่วมกันกบั ปลากนิ พืช และต้องปลอ่ ยหลังจากปลากนิ พืชโตแลว้
ขอ้ ระวัง อย่าใหก้ องใหญเ่ กินไปเพราะน้าจะเนา่ ได้ และควรเพ่มิ จา้ นวนกอง
3. การเลีย้ งไส้เดอื น
ใชฟ้ างสบั ขนาดยาว 2-3 นิ้ว ผสมกับขี้วัวแห้งประมาณ 2 อาทิตย์ ใน
อตั ราส่วน 1:1 หรือมีทรายเปน็ องคป์ ระกอบ 1:1:1 แล้วขดุ หลมุ เล็กน้อยเพอื่ ให้เป็นท่ี
เก็บความช้ืนจากนา้ ควรตัง้ ต้าแหนง่ ของกองปุ๋ยอยใู่ นท่รี ่มร้าไรหรืออาจโดนแดดได้ใน
ตอนเชา้ ไมค่ วรโดนแดดจัดเพราะจะทา้ ให้โตชา้ และตายไปในทสี่ ดุ ไม่ควรขุดคุ้ยบ่อย
เพราะจะทา้ ใหไ้ ส้เดือนตกใจและหยุดกนิ อาหาร สามารถใหอ้ าหารอย่างอ่นื ๆ เพม่ิ เติม
ทเี่ ปน็ อาหารเหลือจากครวั เรอื น เป็นการสร้างความชมุ่ ชื้นและความอดุ มสมบูรณ์ของ
ดินด้วย ไสเ้ ดอื นจะไม่หนีไปหากสภาพแวดลอ้ มเหมาะสมและมอี าหารเพยี งพอ
วิธีการ หลงั จากเลยี้ งมาได้ 60 วัน ก็เริ่มใช้ประโยชน์ได้ ตักเอาไส้เดือน
พร้อมกบั อาหารมาใช้ด้วยการใสล่ งในตะกร้าล้างน้า โดยเฉพาะไสเ้ ดือนมาใหป้ ลาหรือ
ไก่กนิ ได้
ขอ้ ระวงั 1. อยา่ ให้โดนแดดจดั
2. อย่าให้น้าทว่ มขัง
หมายเหตุ เล้ียงไป 30-60 วัน ในพ้ืนท่ี 1 ตารางเมตร จะได้ไส้เดือน
ประมาณ 500 ตัว แตย่ งั ไมเ่ ป็นที่นิยมกนั ของพน่ี อ้ งบนพนื้ ทสี่ ูง ทั้งนี้อาจมองเห็นว่า
เป็นพยาธิ
4. การเล้ยี งปลวก
ปลวกเป็นอาหารอยา่ งดีของปลา โดยการนา้ ปลวกท่ีพบตามหัวไร่ปลายนา
มาผา่ ออกแล้วเคาะเอาตัวปลวกท่ีอยู่ขา้ งในออกมาเพือ่ ใหป้ ลากิน นอกจากนี้การท่ีมี
48 การเพาะเล้ียงปลาบนพ้ืนทีส่ ูง
ปริมาณโปรตนี สงู จึงเลี้ยงปลาได้ โดยท่ีปลวกและแมลงทกุ ชนดิ สามารถใชเ้ ป็นอาหาร
ปลาไดเ้ ปน็ อยา่ งดี แตต่ ้องออกไปหามาเปน็ ประจ้า ดงั นนั้ การเลย้ี งปลวกจึงเปน็ วธิ ีการ
หนง่ึ ในการลดเวลา ซ่งึ ในการสบื พนั ธข์ุ องแมลงเมา่ เม่ือถงึ ฤดูกาลทีเ่ หมาะสมแมลงเมา่
จะบนิ ออกจากรงั ภมู ปิ ระเทศ ส่ิงแวดล้อมและเผ่าพนั ธุ์ จะทา้ ให้แมลงเมา่ ออกจากรัก
ต่างวาระกนั ในเขตรอ้ นแมลงเม่าจะออกจากรงั ชว่ งเวลาหลงั ฤดูฝน จะบินเข้าอาคาร
เพื่อรบั ความอบอุน่ จากแสงไฟ หรอื แสงอาทติ ย์ และท้าความรา้ คาญให้กับเรา แมลง
เมา่ แตล่ ะคูเ่ มอ่ื ผสมพันธแุ์ ลว้ จะเลอื กสถานท่สี ร้างรังใหม่ และภายใน 2-3 วนั จะเรมิ่ วง
ไข่ครงั้ แรก ๆ จะมีไข่ไม่ก่ฟี องแต่ต่อไปจะเพ่มิ จา้ นวนไข่มากขน้ึ เร่ือย ๆ ตลอดอายุการ
เจรญิ เติบโต ของมนั ไขจ่ ะฟกั ออกเป็นตัวอ่อนภายใน 30-50 วัน และตัวอ่อนจะ
เจรญิ เตบิ โตอย่างรวดเร็ว ซึง่ ส่วนมากจะเปน็ ปลวกท่ีอยใู่ นวรรณะ ปลวกทหาร และ
ปลวกงาน แมลงเมา่ คแู่ รกท่สี ร้างรงั จะเจรญิ เติบโตเปน็ ราชาปลวก และ ราชินีปลวก มี
อายุยืนยาว และมีจ้านวนไขม่ ากกวา่ 30,000 ฟองต่อวัน จ้านวนประชากรของปลวก
ในอาณาจักรหนึง่ ๆ มีมาก หรือน้อยขน้ึ อยูก่ บั ภูมปิ ระเทศ และแหล่งอาหาร ปลวกแต่
ละชนดิ จะมีอุปนิสัยในการกนิ และความเปน็ อย่ตู า่ ง ๆ กัน มไี มน่ อ้ ยกวา่ 2,000 ชนิด
ส้าหรบั ในประเทศไทยมีปลวกอยู่ 27 สกลุ 74 ชนิด
ปลวกท่ีท้ารงั ด้วยเศษไมห้ รือเยอื่ ไม้ เป็นปลวกที่สรา้ งรังตามกิง่ ไม้หรือโพรง
ไม้ จะสรา้ งรงั โดยการนา้ เศษใบไมเ้ ศษไม้ท่ีย่อยแล้วมาผสมกับดิน รังจะมีรูปร่าง
ค่อนขา้ งกลมคลา้ ยรงั ของต่อ แตน เพราะปลวกต้องหาอาหารจึงเกิดการท้าลาย และ
ต้องการความชน้ื
อาหาร อาหารของปลวกสว่ นมากคอื เน้อื ไม้ หรือสารทม่ี เี ซลลูโลส เศษไม้
จะถูกย่อยโดยเช้อื โปรโตซัว ซึง่ มอี ยใู่ นตวั ของมัน
ความช้นื ปลวกและแมลง ที่ตอ้ งอาศัยความชื้น เพอ่ื ให้เกดิ น้าในล้าตวั ตลอด
เวลาปลวกไมแ้ ห้ง จะปดิ ทาง เขา้ ออกของรงั อย่างมดิ ชิดใน ขณะท่อี ากาศภายนอกมี
ความชน้ื ตา้่ ปลวกใตด้ ินจะปรับ อากาศ ในรงั หรอื ทางเดินใหเ้ หมาะสม โดยทา้ รังในดนิ
ที่มคี วามช้นื และมนั จะเดินกลับเขา้ รงั วนั ละหลาย ๆ เที่ยว ในพื้นทีช่ ื้น และน่ีคือวิธีท่ี
ปลวก นา้ ความช้นื เขา้ สรู่ งั ได้
วธิ ีการเลย้ี งปลวก
- ขุดหลุมกว้าง 1 x 1.5 x 0.25 ม.
49 การเพาะเลีย้ งปลาบนพน้ื ที่สูง
- ใสไ่ มแ้ หง้ ที่กา้ ลังจะผุให้ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ รวมกับใบไม้แห้งใน
อัตราสว่ น 1:1 กลบให้เต็มหลุมแลว้ รดนา้ ให้ชุ่ม แต่ไมต่ ้องแฉะมาก
- คลมุ ปากหลุมด้วยกระสอบอาหารหรอื กระสอบสายปา่ นอาจเติมปลวกเพ่ือ
เป็นตวั ตง้ั ต้นได้แต่สว่ นใหญ่แล้วจะมปี ลวกจ้านวนมากในดิน
- ท้ิงไว้ 10-15 วนั ก็จะไดป้ ลวกใหป้ ลาและไกไ่ ด้
วธิ ีใช้
- เก็บท่อนไมแ้ ตล่ ะท่อนมาเคาะใหป้ ลากนิ ไดโ้ ดยตรง หรอื เคาะใสภ่ าชะแล้ว
จงึ นา้ มาใหป้ ลากนิ สามารถเก็บเกย่ี วผลผลติ ไดป้ ระมาณ 1 สปั ดาห์
ขอ้ ระวัง
- ตอ้ งวางแผนการผลติ เพราะจะกินไดไ้ มเ่ กนิ 1 สปั ดาห์ ต่อหลมุ ดังนน้ั ต้อง
วางแผนทา้ หลายหลมุ ในกรณีท่ีไม่มีไม้แหง้ สามารถใช้ใบไมห้ รือใชก้ ระดาษลงั ที่ไม่ใช้
แล้วแทนไดเ้ ช่นกัน
- การวางแผนควรใชป้ ระมาณ 7 หลมุ เพอ่ื ให้ใชไ้ ดค้ รบ 7 วนั
ภาพที่ 19 อาหารปั้นใช้วสั ดเุ หลือใชจ้ ากครัวเรอื น เช่นขา้ วสกุ รา้ ขา้ ว
50 การเพาะเล้ยี งปลาบนพ้นื ทสี่ งู
6. แสงไฟล่อแมลง ในตอนเวลากลางคืนใช้แสงไฟติดต้ังไว้เหนือบ่อปลา
สามารถใชไ้ ด้ทัง้ หลอดไฟธรรมดา หรือหลอดไฟส้าหรับลอ่ แมลง เป็นการเพิ่มโปรตีน
ใหก้ ับปลา ในเขตทไ่ี มม่ ีไฟฟ้าสามารถใช้พลงั งานแสงอาทติ ย์ได้ สามารถใชเ้ ลีย้ งปลาได้
ทุกชนดิ โดยเฉพาะในพน้ื ทส่ี งู จะมีปา่ มาก จะมีแมลงมามาก แต่จะมีปัญหาที่ไม่มี
แหลง่ กา้ เนิดแสงสว่าง
7. ใหป้ ลากินหญ้า เปน็ การประยุกตใ์ ชส้ ง่ิ เหลือใช้ให้มีคา่
7.1 การท้าหญ้าหมักจากหญา้ สดทีใ่ ชเ้ ล้ยี งวัว เช่นหญา้ เนเปีย โดยตัดหญ้า
มาและสับเปน็ ท่อนสัน้ ๆ หรือบดผสมกบั อาหารปลาใหป้ ลากิน หรอื บดแล้วมาผสมกับ
มูลไกท่ ี่แหง้ แลว้ ให้ปลากิน ท้งั นี้อาจเพ่มิ เติมวติ ามนิ หรือสารอาหารท่ีจ้าเป็นลงไปได้
ด้วย สามารถใชล้ ดตน้ ทุนการผลติ ได้มาก ใช้ได้ทง้ั ปลากินเนื้อ เช่นปลาดกุ บ๊ิกอุย หรือ
ปลากนิ พืช กลมุ่ ของปลานิล ปลาไน ปลาตะเพยี น ปลายส่ี ก ปลาสวาย และอนื่ ๆ
7.2 การใช้หญ้าท้องถิ่นสบั เช่นหญ้าขน โดยเฉพาะทีข่ ้ึนอยู่ท่ีขอบบ่อ เมื่อ
เห็นหญ้าข้ึนมาสงู กส็ บั ใหข้ าด หญ้าท่ีขาดก็จะหมกั เป็นอาหารของปลา
ไดต้ ลอดเวลา หรือการนา้ หญ้าจากทตี่ ดั มาใสล่ งในบ่อ แต่ต้องมกี ารก้ันเขตเชน่ เดียวกับ
ฟางขา้ ว
8. มลู สัตว์แห้ง ในกรณที ป่ี ๋ยุ ธรรมชาติไมเ่ พยี งพอทจ่ี ะทา้ ใหเ้ กิดจุลนิ ทรยี ์ซ่ึง
เป็นสงิ่ มีชวี ิตที่มีขนาดเล็กในนา้ ทีล่ ูกปลาใช้เป็นอาหาร จา้ เป็นต้องมีการเติมปุ๋ยคอก
ไดแ้ ก่มลู โค มูลไก่ ทต่ี กแห้งแล้วโรยตามริมขอบบอ่ ประมาณ 40-50 กโิ ลกรมั ต่อพน้ื ท่ี
1 งาน หรือใส่กระสอบมดั ปากแลว้ แช่ไว้รมิ นา้ เพื่อป้องกันการกระจายและสามารถ
เกบ็ กากกลับคืนโดยง่ายเมอ่ื ปยุ๋ ละลายออกไปหมด ควรเตมิ ปยุ๋ ประมาณ 2-3 เดอื นต่อ
ครงั้ และสามารถใช้ร่วมกบั การหมักฟางขา้ วหรือหญา้ ได้ สามารถใช้เลี้ยงปลากินพืช
และกนิ แพลงก์ตอนได้เปน็ อยา่ งดี
9. อาหารสด น้ามาบดหรือสับผสมกับรา้ ข้าวแล้วใช้เล้ียงปลาโดยเฉพาะ
กลุ่มของปลากินเนอ้ื เชน่ ปลาดุก หรอื การใชซ้ ่ีโครงไกท่ เ่ี หลอื จากการช้าแหละน้ามาตม้
ใหส้ กุ หรอื ที่ยงั สดอยู่นา้ มาบดแลว้ ผสมกับร้าขา้ วหรอื ไม่ผสมแล้วนา้ มาใหป้ ลากนิ แต่ใน
บนพนื้ ทีส่ ูงน้นั เป็นเร่ืองคอ่ นขา้ งยากในการหาอาหารสด และยังมีอาหารโปรตีนไม่
เพยี งพอตอ่ การบรโิ ภค
51 การเพาะเล้ียงปลาบนพ้นื ทส่ี งู
10. สูตรอาหารผสมเอง ด้วยการลดต้นทุนการผลิต จึงสามารถสร้างสูตร
อาหารผสมขน้ึ ด้วยตนเอง เช่นการใช้แหลง่ โปรตนี มาจากมลู ไกแ่ หง้ ร้อยละ 45 แหลง่
แปง้ มาจากข้าวโพด หรือร้าข้าว ปลายข้าวต้มสกุ ร้อยละ 45 นา้ มนั พืชใชแ้ ล้ว ส่วนท่ี
เหลอื ประมาณร้อยละ 10 สามารถใช้เปน็ ส่วนผสมด้วยกนั เช่น แคลเซย่ี มจากเปลือก
ไขห่ มกั ฟอสฟอรสั และใบกระถิน เป็นต้น ผสมในสัดส่วนทเ่ี หมาะสม โดยวตั ถดุ ิบท่จี ะ
น้ามาเป็นสว่ นผสมน้นั จะต้องผา่ นการบดละเอยี ดก่อน แล้วจึงผสมแล้วบ้ันเป็นก้อน
หรอื น้ามาอดั เป็นเมด็ ตอนใหอ้ าหารสามารถวางลงบนแคร่ใต้น้า เพ่ือป้องกันไม่ให้
อาหารละลายน้าไปหมด หรือใส่ในถงั น้าหรอื ถงั สีเจาะรูดา้ นข้างให้จมน้าใช้ใสอ่ าหารให้
ปลากนิ วิธกี ารนอี้ าจใช้ในการจับปลาตัวใหญ่ทเ่ี ขา้ มากินอาหารในถงั ได้โดยไม่ต้องใช้
เคร่ืองมอื อ่นื เชน่ อวนหรอื แหท่ีต้องใช้เวลาเพม่ิ ขน้ึ และสามารถเลือกปลาไดต้ ามความ
พอใจ
ภาพท่ี 20 สตู รอาหารผสมเอง ดว้ ยการลดตน้ ทนุ การผลิต โดยสามารถใช้เคร่ืองทาง
การเกษตรและเครอ่ื งใชใ้ นครวั เรอื นมาดดั แปลงใช้ได้
52 การเพาะเล้ยี งปลาบนพน้ื ท่ีสูง
การป้องกันกล่ินโคลน
ปลาท่ีเลย้ี งในบอ่ ดินมักจะประสบปัญหาตัวปลามีกลิ่นโคลน แต่ถ้าเล้ียงใน
กระชงั จะไมม่ ีปัญหาดงั กลา่ ว เนอื่ งจากน้าจะถา่ ยเทตลอดเวลา ส้าหรับการแก้ไขกลิ่น
เหม็นโคลนในเนอื้ ปลา โดยการเปลี่ยนน้าพร้อมท้งั ควบคุมคุณภาพน้าและอาหารท่ี
เล้ยี งปลาในช่วงกอ่ นจับประมาณ 3 วัน หรอื การจับปลามาขงั ในอ่างน้าใสก่อนท่ีจะ
ขายสู่ตลาดหรือน้ามาบริโภคประมาณ 1 วนั กลน่ิ โคลนดังกล่าวจะลดลงเปน็ อย่างมาก
ซงึ่ โดยปกตกิ ลิ่นโคลนจะตดิ อยกู่ ับไขมนั ในตัวปลา
การดแู ลน้าในบ่อเล้ียงปลา
บ่อทเี่ ลย้ี งปลาที่กนิ อาหารไม่เลอื ก กินพืชและกินแพลงกต์ อน ควรเติมน้าให้
ไดร้ ะดับ 1-1.50 เมตรอย่เู สมอ หรอื หากมีน้าไหลผา่ นได้เป็นการดที ส่ี ดุ เพราะน้าสว่ น
ใหญ่ไมต่ ้องจ่ายคา่ นา้ สา้ หรบั พ้ืนทสี่ งู หากไม่สามารถให้นา้ ไหลผ่านได้ กค็ วรเปลย่ี นนา้
หรอื เติมน้าอยา่ งน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง อาจสามารถสังเกตไดจ้ ากสีของน้าและการ
ลอยหวั ของปลา
การระบายน้าของบอ่ ควรระบายส่วนล่างของกน้ บอ่ ซง่ึ จะเป็นส่วนทเ่ี น่าเสีย
มากกวา่ บนผวิ น้า ในกรณที ี่บ่อปลาไมส่ ามารถระบายนา้ ได้เลยจะต้องระมัดระวังใน
การใหอ้ าหารในปรมิ าณที่พอเหมาะ น้าจะได้ไมเ่ นา่ เสียเรว็ บางครง้ั เราอาจสามารถใส่
เกลือแกงซ่งึ เป็นสารเคมีทถี่ กู และคมุ้ ค่ามากทีส่ ดุ ที่ละลายน้ากอ่ นสาดลงไปเพื่อช่วย
ปรับสภาพของน้า และเสรมิ สร้างกระบวนการปรบั สมดุลเกลอื แรใ่ นรา่ งกาย ทา้ ใหป้ ลา
แขง็ แรงอย่เู สมอ ในอัตราสว่ นประมาณ 3 กิโลกรัม/พ้ืนท่ี 3 x 5 เมตร ด้วยการ
ละลายเกลอื ในน้าก่อนแล้วสาดลงไปในบอ่ ใชป้ ้องกนั การเกดิ โรคได้ดีมากเนอื่ งจากเมื่อ
ปลาแข็งแรงก็จะมีโรคเขา้ มานอ้ ย
การแกไ้ ขนา้ ขุน่
บ่อปลาที่ขุดใหม่มักจะประสบปัญหาน้าขุ่นเน่ืองจากตะกอนดินที่ถูกพัดพา
มาหรอื ภายในบ่อปลาเอง ความขุ่นนี้อาจทา้ ใหป้ ลาเจรญิ เตบิ โตช้า ตะกอนดินอาจไป
อดุ ตนั เหงือก การแกไ้ ขปัญหานา้ ขุ่นอาจท้าได้โดย
53 การเพาะเลี้ยงปลาบนพนื้ ท่ีสงู
1. ระวังไม่ให้ใครรบกวนตน้ น้า เพราะเปน็ พืน้ ที่ก้าเนิดน้า หากมีใครไปตัด
ตน้ ไม้หรือทา้ กจิ กรรมอยา่ งอ่นื กจ็ ะสญู เสยี ความใสของน้า และอาจสูญเสียตาน้า
ตลอดไป
2. ไมใ่ ช้นา้ เขา้ บอ่ ในช่วงฝนตก เน่ืองจากตอนฝนตกใหม่ ๆ หรอื ฝนตกหนกั น้า
จะไหลเอาตะกอนดนิ และทุกอย่างลงในน้า รวมถึง ซากอินทรีย์วัตถุท่ีท้าให้แย่ง
ออกซเิ จนจากปลาเพ่ือใหแ้ บคทเี รียมายอ่ ยสลาย
3. ใชส้ ารเคมี เชน่ สารส้มหรือสารอืน่ ๆ วิธีนจี้ ะเปน็ การแก้ไขแบบช่ัวคราว
เทา่ น้ัน และจะทา้ ให้มปี ัญหาอ่นื ๆ ตามมาอกี เชน่ นา้ มสี ภาพเป็นกรดมากขึ้น
4. การใชป้ ๋ยุ เคมี เชน่ ป๋ยุ ซุปเปอร์ฟอสเฟต ในอัตราประมาณ 2-5 กิโลกรัม
ต่อไรต่ อ่ เดอื น จะช่วยให้เกิดแพลงกต์ อนพชื ท้าให้สารแขวนลอยจับตัวและตกตะกอน
ขน้ึ อาจไม่มีความจ้าเป็นในพน้ื ทส่ี งู เน่ืองจากหากเล้ียงด้วยระบบอาหารธรรมชาติ
5. ใช้ปุย๋ พืชสด ในอัตราประมาณ 1,200-1,500 กโิ ลกรมั ต่อไร่ การสลายตัว
ของปุย๋ พืชสดทา้ ให้เกดิ ตะกอนข้ึน
ภาพที่ 21 ลกู ปลาท่โี ตในบอ่ เลยี้ งจากการเพาะขยายพันธปุ์ ลา
54 การเพาะเลย้ี งปลาบนพน้ื ท่ีสงู
ความรูเ้ รอื่ งการเพาะขยายพนั ธป์ุ ลาของเกษตรกร
การขย า ย พั น ธุ์ ป ล า เ พื่ อใ ห้ เ กิ ดควา ม ยั่ ง ยื น ข อง กา ร เ พา ะ เ ลี้ ย ง สั ตว์ น้ า
เกษตรกรจะสามารถเพาะขยายพนั ธ์ุปลาเองได้ จนน้าลูกปลามาเล้ยี งเองได้ และขาย
เพอื่ ประโยชนท์ างการค้าได้ ในการสา้ รวจความตอ้ งการของชาวบา้ นสา้ หรับการเลี้ยง
ปลาปกติ ชาวบา้ นไมม่ ีความรมู้ ากนกั เน่อื งจากประสบปัญหาด้านการเลย้ี งโดยการซอ้ื
ลกู ปลาจากรถทนี่ า้ ลูกปลาดกุ และปลานิลมาขาย หรือการขนส่งลูกปลาจากทาง
ดา้ นลา่ งข้นึ ไปน้นั ต้องขนสง่ ในระยะทางไกลมาก จงึ ท้าให้เกิดการสูญเสีย และปรากฏ
วา่ การเลีย้ งปลาดงั กล่าวนนั้ ใช้ต้นทุนในการซ้ืออาหารปลาค่อนข้างสูง แต่ไม่ประสบ
ความสา้ เรจ็ ในการเลีย้ งเนื่องจากปลาไมโ่ ต อีกทง้ั ยังตายต้ังแต่เร่ิมต้นการเลยี้ งอีกดว้ ย
บางบ่อท่ีไปส้ารวจ คณุ ภาพน้าไม่ค่อยดีนักไม่เหมาะสมในการเลย้ี งและอนุบาลลูกปลา
ในการเพาะขยายพนั ธ์ุปลาเปน็ เรื่องทีไ่ ม่ยาก ท้ังน้ีจะตอ้ งมคี วามพรอ้ มของพอ่ แม่พันธ์ุ
ปลา ปรมิ าณน้าสะอาด และทักษะประสบการณใ์ นการเพาะขยายพนั ธ์ุ (ภาพที่ 14)
การเพาะขยายพนั ธปุ์ ลา
เม่อื เลอื กชนิดปลาทสี่ ามารถโตได้ในสภาวะที่อุณหภูมิต้่าตลอดปี หรือ
สามารถปรบั สภาพได้เปน็ อยา่ งดี แตโ่ ดยปกติแล้วปลาเป็นสัตว์เลือดเย็นที่สามารถ
ปรับตัวเพื่อใหเ้ ข้ากบั สภาพแวดลอ้ มไดเ้ ปน้ อย่างดี กนิ อาหารที่เป็นพืชผัก สามารถ
ออกลกู ได้ด้วยวธิ กี ารตามธรรมชาติ หรือการเหน่ยี วนา้ ด้วยเทคโนโลยีขัน้ ไม่สูงนัก ให้
ผลผลติ ได้ตลอดทัง้ ปี ลูกปลาสามารถเจรญิ ไดด้ ีในสภาวะที่อณุ หภูมติ า่้ กว่าทางพื้นราบ
และต้องท้าความเขา้ ใจกบั ชาวบา้ น โดยวธิ ีการดังน้ี
1. การคัดพอ่ แมพ่ ันธ์ุ
ปลาเพศเมยี ที่มีไขแ่ กจ่ ดั จะมีท้องอมู โป่งและนม่ิ ผนงั ท้องบาง ช่องเพศและ
ชอ่ งทวารคอ่ นข้างพองและมสี ีแดงเร่ือ ส่วนปลาเพศผมู้ ีส่วนท้องแข็ง หากเป็นกลุ่ม
ปลาตะเพียนจะมสี ันท้องทเี่ ปน็ เหล่ียม เมอื่ ใช้มอื กดเบา ๆ ทีบ่ รเิ วณสนั ท้องใกลต้ ิง่ เพศ
55 การเพาะเลยี้ งปลาบนพืน้ ท่ีสงู
จะมีน้าเช้อื ไหลออกมา ซ่ึงแทบจะไม่มีปัญหาเรื่องความพรอ้ มเนื่องจากสร้างน้าเช้ือได้
ดเี กือบตลอดปี
ภาพที่ 22 การเพาะขยายพนั ธปุ์ ลา
2. การเตรยี มฮอรโ์ มนสงั เคราะห์
ใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์ซูพรีแฟค เป็นยาน้าบรรจุขวด มี 2 ขนาด คือ
1. ขน าดขวดบรรจุ 10 มิ ลลิ ลิตร มี ตัวยา 10 มิลลิกรัม (10,000
ไมโครกรัม) เป็นขนาดทใ่ี ชโ้ ดยทั่วไป
56 การเพาะเลยี้ งปลาบนพน้ื ทีส่ ูง
2. ขนาดขวดบรรจุ 5.5 มิลลิลิ ตร มี ตัวยา 5.5 มิลลิ กรัม (5,500
ไมโครกรมั )
ก่อนโดยเตรียมขวดแกว้ หรอื ขวดพลาสติก ขนาดบรรจุ 15-20 มิลลลิ ติ ร ท่ี
มจี กุ ปดิ สนิท ล้างใหส้ ะอาด เตรียมเข็มและหลอดฉีดยา ขนาด 1 มิลลิลติ ร (ซีซ)ี ทลี่ ้าง
สะอาด จากน้นั ใชเ้ ขม็ และหลอดฉดี ยาดดู ฮอรโ์ มน 1 มลิ ลลิ ติ ร ใส่ลงในขวดท่ีเตรียมไว้
แลว้ เตมิ น้ากลั่นลงไป 9มิลลิลิตร ปิดจุกเขย่าให้เขา้ กนั ก่อนน้าไปใช้ ส่วนฮอร์โมนที่
เหลอื ปิดจกุ ให้แนน่ น้าไปเก็บในตู้เย็นท่อี ุณหภูมิ 5 องศาเซลเซยี ส เมอื่ ฮอร์โมนท่ีผสม
ถูกใชไ้ ปหมดแลว้ ก็สามารถนา้ ส่วนทเ่ี กบ็ ไว้มาผสมใช้ไดอ้ ีกฮอร์โมน 1 มิลลิลิตร เม่ือ
น้ามาผสมเจือจางแลว้ จะมปี รมิ าตรรวม 10 มิลลิลติ ร หรอื ในฮอร์โมนผสมเจือจางท่ี
มปี รมิ าตรรวมเท่ากบั 10 มิลลลิ ิตร หรือ 1,000 ไมโครกรัม (ภาพที่ 15)
ภาพท่ี 23 อุปกรณ์การผสมเทียมปลา
การเตรียมยาเสริมฤทธ์ิ
ยาเสริมฤทธหิ์ รือโมทีเล่ยี ม มลี กั ษณะเป็นเมด็ สีขาวบรรจแุ ผง ๆ ละ 10 เมด็
ยา 1 เมด็ จะมตี ัวยาอยู่ 10 มิลลกิ รมั กอ่ นใชย้ าจะตอ้ งบดให้ละเอยี ดโดยใชโ้ กร่งบด
57 การเพาะเล้ยี งปลาบนพ้นื ทสี่ งู
ยาขนาดเลก็ หรือถ้วยเซรามกิ หรอื ถ้วยแกว้ หรอื อ่ืน ๆ ท่ีแขง็ แล้วจงึ ผสมน้ากล่ันลง
ไปตามปริมาตรท่ตี ้องการ หรอื บางครงั้ ใชก้ ารแช่ในน้าสะอาดที่จะใช้เตรียมไวส้ า้ หรับ
ฉีดปลา แล้วใชเ้ ข็มและหลอดฉีดยาดูดฮอร์โมนมาผสมให้เขา้ กันโดยทั่วถงึ แล้วจึงดูด
ไปฉีดปลาตอ่ ไป โดยรอใหต้ กตะกอนกอ่ น เลือกดดู เฉพาะสารละลายทีใ่ สแลว้ เพราะ
จะไม่ทา้ ให้ปลาเกดิ อาการอักเสบหลังจากทฉี่ ีดฮอรโ์ มน
ตารางที่ 1 การเตรียมฮอร์โมนสา้ หรบั การผสมเทียมและความแตกตา่ งระหว่างเพศผู้
และเพศเมยี ของปลาบางชนิดที่เหมาะสา้ หรบั พน้ื ทีส่ งู
ความเข้มข้นของฮอ ร์ โ ม น ปลาตะเพยี น/ ปลานวลจันทรเ์ ทศ ปลาเลียหิน
(มคก./กก) ปลาไน /ปลายส่ี กเทศ
ยาเสริมฤทธิ์ (มก/กก) 10 -20
จา้ นวนคร้งั ทฉี่ ีด 10-15 15 -20 5-10
การผสม 5-10 5-10 10
ระยะเวลา (ชั่วโมง) 1
เพศผู้ 10 10 รัดเอง
6-8
เพศเมีย ไม่ หรือ 1 ไม่ หรอื 1 ปลายครบี ท้องยาวถงึ จุดเร่ิมต้น
ครบั กน้ มีตุ่มสิวมากกว่าเ พศ
เทยี ม/รดั เอง เทียม/รดั เอง เมยี ทอ้ งแฟบ มนี ้าเช้อื
6-8 6-8 ป ล า ย ครี บ ท้ อง ย า วไ ม่ ถึ ง
จดุ เรม่ิ ตน้ ครบั กน้ มีตุ่มสิวน้อย
ทอ้ งจะแบน พื้นท้อง ล้าตัวเรยี วยาว ครีบ หูตุ่ม กวา่ เพศเมีย ท้องอูมเป่ง
แขง็ เ ป็นเ ห ล่ียม มี เลก็ ๆ ชอ่ งเพศมีลักษณะ
น้าเชือ้ เปน็ วงรเี ลก็ มนี า้ ชื้อ
ท้องอูมเป่ง พืน้ ท้อง ล้าตนั อว้ นป้อม ครีบ หูล่ืน
น่ิม แ ล ะ ช่อ ง เ พ ศ ไม่ส าก มือ เ ห มื อน ตัว ผู้
กวา้ งกวา่ ปกติ ทอ้ งจะขยายใหญ่
ขนาดการใชต้ ัวท้าละลาย
ตัวท้าละลายที่นยิ มใช้ ไดแ้ ก่ นา้ กลั่นหรอื นา้ สะอาดต้มสกุ ปริมาตรของตัว
ท้าละลายท้งั หมดที่เหมาะสมในการฉีดใหแ้ ก่ปลา คือ 0.5-2.0 มิลลิลิตร ข้ึนอยู่กับ
ขนาดและน้าหนักปลาแตล่ ะชนิด ปลาตวั เลก็ ให้ฉีดในปริมาณน้อย ปลาตัวใหญ่ฉีดใน
ปรมิ าณมาก ด้วยการเตมิ นา้ สะอาดลงไปเพ่มิ แต่ความเข้มขน้ ยงั คงเหมอื นเดมิ
3. วิธกี ารฉีด
1. การช่งั น้าหนัก ควรชง่ั นา้ หนักรวมกันกอ่ นแลว้ จดบันทกึ จา้ นวนตัว ขังพัก
แยกเพศไวเ้ พอ่ื ใหง้ ่ายตอ่ การคา้ นวณฮอรโ์ มน ยาเสรมิ ฤทธิแ์ ละตัวทา้ ละลาย (น้า
58 การเพาะเล้ยี งปลาบนพน้ื ทีส่ งู
กล่ัน หรือน้าสะอาด หรือนา้ ต้มสุก)
2. การค้านวณตวั ยา เมื่อไดน้ า้ หนกั ปลาทุกตวั แล้ว นา้ มาคา้ นวณหาปรมิ าณ
การใหฮ้ อร์โมนและยาเสริมฤทธิ์ เปน็ สว่ นทส่ี ้าคัญท่สี ามารถกระตนุ้ การวางไข่ของปลา
ตัวอย่างการเพาะพันธ์ุปลา
ตอ้ งการฉีดปลาตะเพียนขนาด 300 กรมั จา้ นวน 10 ตวั โดยใช้ ฮอร์โมน
สงั เคราะห์เขม้ ข้น 10 ไมโครกรมั และยาเสรมิ ฤทธ์ิเข้มข้น 10 ไมโครกรัมต่อปลา 1
กิโลกรัม
น้าหนกั ปลารวม 300 x 10 = 3,000 กรัม (3.0 กโิ ลกรมั )
ฮอรโ์ มน 3.0 x 10 = 30 ไมโครกรมั
1,000 ไมโครกรัม = 10 มลิ ลิลิตร
30 ไมโครกรมั = (10 x 30) ตอ่ 1,000 = 0.3 มิลลิลติ ร
ยาเสรมิ ฤทธ์ิ 3.0 x 10 = 30 ไมโครกรัม (1 เม็ด = 10 ไมโครกรัม)
หมายเหตุ ฮอร์โมนสังเคราะห์ (Suprefect) 10 มิลลิลิตร เข้มข้น
10,000 ไมโครกรัม กอ่ นจะใช้เตรียมลดความเขม้ ขน้ ให้เหลอื 10 มลิ ลิลติ ร เข้มขน้
1,000 ไมโครกรมั (ฮอร์โมน 1 มลิ ลิลิตรกบั น้ากลัน่ 9 มลิ ลิลิตร)
4. การผสมพนั ธุ์ปลา
4.1 การเพาะพันธุป์ ลาไน
4.1.1 โดยวิธกี ารผสมเทียม
ก. คดั เลอื กปลาทจ่ี ะใช้เป็นพ่อพันธ์ุและแมพ่ นั ธ์ุท่ีอยู่ในวัยผสมพนั ธ์ไุ ด้
ข. เตรยี มอุปกรณท์ ใี่ ชใ้ นการผสมเทยี ม
ค. ชง่ั นา้ หนกั ปลาเพศเมยี เพอื่ ใชใ้ นการคา้ นวณหาปริมาณฮอรโ์ มน
ง. ฉีดฮอรโ์ มนใหก้ ับปลาแมพ่ นั ธุ์ เพ่อื เรง่ ใหแ้ มป่ ลามไี ข่สุกเรว็ ขึ้น โดยฉดี เข้า
ทีบ่ รเิ วณเหนือเส้นขา้ งตัวใตต้ า้ แหน่งครีบหลงั ของแม่ปลา
จ. หลงั จากฉีดฮอรโ์ มนใหก้ บั ปลาแม่พันธุป์ ระมาณ 10-12 ชั่วโมง นา้ ปลา
แมพ่ นั ธ์มุ ารีดไขล่ งในอ่างท่ีเตรียมไว้ และน้าปลาพ่อพันธ์ุมารีดน้าเช้ือใส่ลงในอ่าง
เดยี วกนั
59 การเพาะเล้ยี งปลาบนพน้ื ที่สูง
ภาพที่ 24 รังไขเ่ ทยี มท่ที า้ ดว้ ยเชือกฟางฉีกเปน็ ร้วิ หรือวัสดอุ ย่างอนื่ ทใ่ี ช้แทนกันได้
60 การเพาะเลีย้ งปลาบนพ้นื ที่สงู
ส่วนวธิ กี ารผสมเทียม หลังจากฉดี ประมาณ 6-8 ช่ัวโมงจะสามารถรีดไข่
ปลาได้ โดยปลา จะมีอาการกระวนกระวายว่ายน้าไปมารุนแรงผดิ ปกติ บางตวั อาจจะ
ขน้ึ มาฮบุ อากาศบริเวณผิวน้า เมือ่ พบว่าปลามีอาการดังกล่าวก็ควรตรวจดูความ
พรอ้ ม ของแมป่ ลา โดยจับปลาหงายท้องขึ้นโดยตวั ปลายงั อยูใ่ นน้าและบบี บริเวณใกล้
ชอ่ งเพศเบา ๆ หากพบว่าไข่พุ่งออกมาอยา่ งง่ายดายก็นา้ แมป่ ลามารีดไข่ได้ การผสม
เทียม ใช้วธิ แี ห้งแบบดัดแปลงโดยใชผ้ ้าขับตวั ปลาใหแ้ ห้ง แล้วรีดไข่ลง ในภาชนะที่
แหง้ สนิท จากนั้นนา้ ปลาตวั ผูม้ ารดี น้าเช้อื ลงผสม ในอตั ราส่วนของ ปลาตัวผู้ 1- 2 ตัว
ตอ่ ไขป่ ลาจากแม่ไข่ 1 ตัวใช้ขนไกค่ นไขก่ บั น้าเชื้อจนเขา้ กนั ดี ในอ่างที่มีน้าเช้ือของ
ปลาพ่อพันธ์ุและปลาแม่พันธุ์ เพ่ือคลุกเคล้าให้ทวั่ แล้วใส่นา้ ให้ทว่ มทิง้ ไว้ ประมาณ 1-
2 นาที จึงถ่ายน้าทงิ้ 1-2 ครง้ั แล้วจึงเตมิ นา้ สะอาดเล็กน้อยพอทว่ มไขก่ ารคน
เล็กนอ้ ยในขนั้ ตอนนีเ้ องเชื้อตัวผกู้ ็จะเขา้ ผสมกับไขจ่ ากน้นั จึงเตมิ นา้ จนเต็มภาชนะถา่ ย
น้าเป็นระยะ ๆ เพ่อื ลา้ งไข่ใหส้ ะอาด
ช. ใช้เชอื กฟางฉีกเปน็ ฝอย หรือเศษของมุง้ ฟ้า หรือเศษซาเลมมัดให้เป็น
กระจกุ จุ่มลงไปในอา่ งผสมไข่ เพอื่ ใหไ้ ข่ติดกับเชอื กฟางแล้วน้าไปฟกั ในบอ่ ฟักไ ข่ ให้
อากาศอยา่ งพอเพียง
1.2 การเพาะปลาไนดว้ ยวิธีเลียนแบบธรรมชาติ ด้วยการฉีดฮอร์โมน
กระตนุ้ แลว้ ปลอ่ ยให้รดั กนั เอง ท้าการปล่อยให้พ่อแม่ปลาผสมพันธ์ุกันเองเม่ือฉีด
ฮอรโ์ มนเสรจ็ ก็จะปลอ่ ยพ่อแมป่ ลาลง ในบ่อเพาะรวมกนั โดยใชอ้ ตั ราสว่ นแม่ปลา 1
ตัว/ปลาเพศผู้ 2 ตัว บอ่ เพาะควรมพี น้ื ท่ีไม่ต้่ากว่า 3 ตารางเมตร ลึกประมาณ 1
เมตร บอ่ ขนาดดังกลา่ ว จะปล่อยแมป่ ลาได้ประมาณ 3 ตัว ใสเ่ ชือกฟางฉีดฝอยเพื่อ
เป็นทเ่ี กาะของไขป่ ลา เนอ่ื งจากปลาไนเป็นปลาไข่ตดิ กับวสั ดุใตน้ า้ แทนท่ีด้วยวัสดุท่ี
ช่วยใหไ้ ข่เกาะทท่ี ้าด้วยเชือกฟางฉกี เป็นพ่หู รอื วสั ดุดัดแปลงอยา่ งอืน่ แมป่ ลาจะวางไข่
หลังการฉดี ประมาณ 6-8 ช่วั โมง โดยจะไลร่ ดั ผสมพันธุ์กันเมื่อสังเกตวา่ แม่ปลาวางไข่
หมดแลว้ ใหน้ า้ ท้งั พ่อปลาและแมป่ ลาออกจากบอ่ ผสมพนั ธุ์ ให้สงั เกตเห็นฟองน้าทมี่ า
จากออกซเิ จนจะเป็นฟองละเอียดและมีเมอื กมาก สามารถถ่ายน้าออกได้ครั้งละ
ประมาณร้อยละ 10 และเติมน้าใหมเ่ ข้ามาเพอ่ื ให้น้าสะอาด การผสมพนั ธว์ุ ธิ ีนมี้ ีข้อดี
ในเรื่องคุณภาพของไข่ทไี่ ด้ มกั จะเปน็ ไข่ทส่ี กุ พอดี แตใ่ นบางคร้ังปลาตัวผู้อาจไม่ฉีด
น้าเชื้อเข้าผสมทา้ ใหไ้ ขท่ ี่ไดไ้ มฟ่ กั เป็นตวั
61 การเพาะเล้ียงปลาบนพื้นทสี่ งู
4.2 การเพาะขยายพนั ธุ์ปลาตะเพยี น
1. การเพาะโดยวิธกี ารผสมเทียม
ก. คัดเลอื กปลาท่จี ะใช้เป็นพอ่ พนั ธุแ์ ละแม่พนั ธทุ์ ่อี ยใู่ นวัยผสมพนั ธไุ์ ด้
ข. เตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการผสมเทยี ม
ค. ชัง่ น้าหนักปลาเพศเมยี เพ่อื ใช้ในการคา้ นวณหาปรมิ าณฮอรโ์ มน
ง. ฉีดฮอรโ์ มนใหก้ ับปลาแม่พันธุ์ เพ่อื เร่งใหแ้ มป่ ลามีไข่สุกเรว็ ขนึ้ โดยฉดี เข้า
ที่บรเิ วณเหนือเส้นข้างตัวใต้ตา้ แหนง่ ครีบหลงั ของแมป่ ลา
จ. หลังจากฉดี ฮอรโ์ มนให้กับปลาแม่พันธุ์ประมาณ 10-12 ชั่วโมง สามารถ
รีดไขป่ ลาได้ โดยปลา จะมีอาการกระวนกระวายว่ายน้าไปมารุนแรงผดิ ปกติ บางตัว
อาจจะขนึ้ มาฮุบ อากาศบรเิ วณผิวนา้ เมื่อพบวา่ ปลามีอาการดังกล่าวก็ควรตรวจดู
ความพรอ้ ม ของแมป่ ลา โดยจับปลาหงายทอ้ งข้นึ โดย
ตวั ปลายงั อยใู่ นน้าและบีบบริเวณใกลช้ อ่ งเพศเบา ๆ หากพบวา่ ไขพ่ งุ่ ออกมา
อย่างงา่ ยดายกน็ า้ แม่ปลามารีดไข่ได้ นา้ ปลาแมพ่ ันธมุ์ ารีดไขล่ งในอ่างทีเ่ ตรียมไว้ และ
น้าปลาพอ่ พันธุม์ ารีดนา้ เชื้อใสล่ งในอา่ งเดียวกนั
ฉ. การผสมเทียม ใชว้ ธิ แี หง้ แบบดัดแปลงโดยใช้ผา้ ซับตัวปลาให้แหง้ แล้วรดี
ไข่ลง ในภาชนะทแี่ ห้งสนทิ จากนน้ั น้าปลาตวั ผมู้ ารดี นา้ เชื้อลงผสม ในอัตราส่วนของ
ปลาตัวผู้ 1- 2 ตวั ต่อไข่ปลาจากแมไ่ ข่ 1 ตัวใชข้ นไกค่ นไข่กบั น้าเชื้อจนเข้ากันดี ใน
อ่างทีม่ นี า้ เชื้อของปลาพอ่ พนั ธุ์และปลาแมพ่ นั ธ์ุ เพอ่ื คลุกเคล้าให้ทั่วแลว้ ใส่น้าให้ท่วม
ท้งิ ไวป้ ระมาณ 1-2 นาที จึงถา่ ยนา้ ท้งิ 1-2 ครั้ง
ช. ไข่กจ็ ะเขา้ ผสมกับไขจ่ ากนัน้ จึงเตมิ นา้ จนเต็มภาชนะถา่ ยน้าเปน็ ระยะ ๆ
เพ่อื ล้างไข่ใหส้ ะอาด ไข่จะคอ่ ย ๆ พองน้าและขยายขนาดข้ึนจนพองเต็มที่ภายในเวลา
ประมาณ 20 นาที ระหวา่ งชว่ งเวลาดงั กลา่ วต้องคอยถา่ ยน้าอยู่เสมอ เพื่อป้องกัน
ไมใ่ ห้ไข่บางส่วนเสยี เม่ือไข่พองเต็มทแ่ี ล้วกส็ ามารถน้าไปฟักในกรวยฟักได้ ไข่ปลาท่ี
ผสมแล้วไปพกั ในท่ีเตรยี มไว้และต้องมีนา้ ไหลผ่านได้ตลอด เพ่ือใหไ้ ข่ลอยและป้องกัน
การทบั ถมของไข่
2.2 การเพาะปลาตะเพยี นโดยวิธกี ารเลียนแบบธรรมชาติ ด้วยวิธีการฉีด
ฮอร์โมนกระตุ้นแลว้ ปล่อยให้รดั กันเอง ทา้ การปลอ่ ยใหพ้ อ่ แม่ปลาผสมพันธก์ุ นั เองเม่อื
ฉีดฮอร์โมนเสร็จ ก็จะปลอ่ ยพอ่ แมป่ ลาลงในบ่อเพาะรวมกนั โดยใช้อัตราส่วนแมป่ ลา
62 การเพาะเลีย้ งปลาบนพนื้ ทส่ี งู
ภาพท่ี 25 ตะกรา้ ผสมพนั ธุ์ เพื่อใหป้ 6ล3าสามารถผสมพนั ธ์กุ ันกไาดรใ้ เกพลาะ้ชเดิล้ยีมงาปกลยาง่ิบขนึน้พ้นื ที่สงู
ภาพท่ี 26 ปลาทสี่ ามารถน้ามาเป็นพอ่ – แม่พันธ์แุ ละลูกพนั ธุ์ทีส่ ามารถเพาะได้ใน
พื้นท่ี ก. - ค. พ่อแม่พนั ธทุ์ ไี่ ดข้ นาดเหมาะสมในการน้ามาใชเ้ พาะลูกปลา ง.
บอ่ อนุบาล
64 การเพาะเลี้ยงปลาบนพน้ื ท่สี ูง
1 ตัว/ปลาเพศผู้ 2 ตัว บอ่ เพาะควรมพี นื้ ทีไ่ ม่ต่้ากวา่ 3 ตารางเมตร ลึกประมาณ 1
เมตร บ่อขนาดดงั กล่าว จะปลอ่ ยแม่ปลาได้ประมาณ 3 ตวั เพื่อความสะดวกในการ
แยกพ่อแม่ปลา ควรใชอ้ วนชอ่ งตาห่าง ปูในบ่อไวช้ ัน้ หนึ่งกอ่ น แล้วจึงปลอ่ ยพ่อแมป่ ลา
ลงไป แม่ปลาจะวางไขห่ ลังการฉีดประมาณ 6-8 ช่วั โมง โดยจะไลร่ ดั กันจนน้า แตก
กระจาย เมือ่ สังเกตว่าแมป่ ลาวางไข่หมดแลว้ ก็ยกอวนท่ปี ูไวอ้ อก พอ่ แมป่ ลาจะติดมา
โดยไขป่ ลาลอดตาอวนลงไปรวมกันในบ่อ จากน้นั กร็ วบรวมไข่ปลา ไปฟกั ในกรวยฟัก
การผสมพัน ธ์ุวิธีนี้มีข้อดี ในเรื่องคุ ณภาพของไ ข่ท่ีได้ มักจะเป็น ไข่ท่ีสุกพอดี
นอกจากนนั้ ผู้เพาะยงั ไม่ตอ้ งเสียเวลารอด้วย แต่ในบางครง้ั ปลาตวั ผ้อู าจไมฉ่ ดี นา้ เชื้อ
เขา้ ผสมทา้ ให้ไข่ทไี่ ด้ไมฟ่ กั เปน็ ตวั (ภาพท่ี 22) ในระหว่างท่ีไข่ก้าลังเริ่มฟักเป็นตัว
จะต้องให้ออกซิเจนในปรมิ าณท่ีเพยี งพอ แต่ต้องไม่มากจนเกนิ ไป
4.4 การอนบุ าลลกู ปลา
นบั เปน็ ขนั้ ตอนทสี่ ้าคญั เชน่ กนั เนอ่ื งจากในระยะแรกหากไม่สามารถดูแลได้
ดีจะทา้ ให้อัตราการรอดไมม่ ากนัก มีขน้ั ตอนดังนี้
1. แยกเอาพอ่ แมพ่ ันธุ์ออกจากกระชงั ผสมพนั ธ์ุ หรือยกตะกร้าที่ออกแบบ
มาเพ่อื ใส่พอ่ แม่พนั ธ์ุออกไป และท้าการเล้ยี งดูให้แขง็ แรง
2. เมอื่ ลกู ปลาฟกั ออกเป็นตัวแล้ว ยงั อยใู่ นกระชงั รอวนั ท่ี 2 -3 ท่ีลูกปลา
สามารถเรมิ่ วา่ ยน้า และกินอาหารไดแ้ ล้วจึงปลอ่ ยลงสูบ่ อ่ อนุบาลที่ท้าความสะอาด
เรียบร้อยแลว้ ไมม่ ีปลาตัวใหญ่ กนั งูที่จะลงไปกินปลา ที่น้าลึกประมาณ 30-40
เซนตเิ มตร และมกี ารเติมได้หลงั จากทป่ี ลาเรม่ิ โตขึน้ จนได้ประมาณ 80 เซนติเมตร
หรอื สามารถอนบุ าลในบอ่ ปนู แตต่ อ้ งมรี ะบบนา้ ทส่ี ามารถเติมหรอื เปลี่ยนได้
3. ให้ไขแ่ ดงต้มสุกบ้ีใหล้ ะเอียดในผา้ ขาวบาง เพอื่ ให้มีขนาดเล็กกว่าปาก
ของลูกปลา จา้ นวนมอ้ื ทใ่ี ห้ประมาณ 4-5 ครง้ั ต่อวัน ย่งิ ให้อาหารบ่อยครง้ั ในปรมิ าณ
ที่น้อยจะท้าใหป้ ลายงิ่ โตเรว็ เม่ือปลาเร่มิ โตขน้ึ ให้เปลีย่ นเปน็ ใหป้ ลาป่น หรืออาหาร
ส้าหรบั ลกู ปลา
4. ตอ้ งมีน้าวน หรือมีการเติมน้า หรอื ให้ออกซิเจนให้เพยี งพอ
5. ใหอ้ าหารจ้านวนน้อยต่อครั้ง แตใ่ หห้ ลายคร้ัง 3-5 คร้งั ตอ่ วนั
6. ตรวจดปู ลาใหญห่ รือศตั รูท่อี าจเข้ามาได้
65 การเพาะเล้ียงปลาบนพ้นื ที่สูง
บ่อท่ใี ช้เปน็ บ่อดนิ หรอื บอ่ ปูน กอ่ นปล่อยลูกปลาต้องเตรยี มบ่อให้ดีเพื่อการ
จดั ศัตรแู ละเพ่มิ อาหารของลกู ปลาในบ่อ การอนุบาลลกู ปลานีร้ ะดบั น้าในบ่ออนุบาล
ขณะเริ่มปลอ่ ยลกู ปลาควรอยใู่ นระดับ 30-40 เซนตเิ มตร แล้วคอ่ ย ๆ เพิ่มระดับน้า
สปั ดาห์ละ 10 เซนตเิ มตร เพื่อรกั ษาคุณสมบตั นิ ้า การให้อาหารเบ้ืองต้นใช้ไขต่ ้มเอา
แต่ไข่แดงน้าไปละลายนา้ และกรองผ่านผ้าโอลอนแล้วสาดให้ท่ัวบ่อ ปริมาณไข่ที่ให้
ขึ้นอยกู่ บั พน้ื ท่บี ่อ ปลอ่ ยลูกปลาประมาณ 750-1,000 ตัวตอ่ ตารางเมตร เม่ือลูก
ปลาโตข้ึน ในวันที่ 5 จะเร่มิ ลดอาหารไขแ่ ละให้รา้ ละเอยี ด โดยคอ่ ย ๆ โรยทีละน้อย
รอบ ๆ บอ่ โดยให้ร้าแผก่ ระจายเปน็ พนื้ ท่กี วา้ งประมาณ 1 วา จากขอบบ่อ เพราะลกู
ปลาส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในบรเิ วณน้ี การสังเกตการกนิ อาหาร เพราะลูกปลายังไม่
ขน้ึ มากินทีผ่ ิวน้า แตจ่ ะคอยกินอาหารทค่ี ่อย ๆ จมลง หลังให้อาหารแลว้ ใชแ้ กว้ ตักลูก
ปลามาดู ถา้ ลกู ปลากินอาหารดที ้องจะขาวเหน็ ชัดเจน เมือ่ อนุบาลไปได้ประมาณ 2
สัปดาหล์ ูกปลาจะเรมิ่ ขึ้นมากินอาหารท่ีผิวน้า การใหร้ า้ อาจจะให้วันละ 3 - 4 ครง้ั ใน
ระยะแรก ๆ และลดลงเหลือ 2 ครัง้ ในเวลาต่อมา โดยท่ัวไปเม่ืออนุบาล ได้ 4-6
สปั ดาหจ์ ะไดล้ กู ปลาขนาดประมาณ 1 นิ้ว อัตรารอดประมาณร้อยละ 30-50
4.3 การเพาะขยายพันธ์ุปลาเลียหิน ปลามอน และปลามัน
ปลาเลียหนิ เป็นปลาท้องถนิ่ ที่เปน็ ท่ีนยิ มของชาวบา้ นท่ีอย่บู นพ้ืนท่สี ูง ด้วยมี
รสชาตอิ ร่อย ไส้มสี ว่ นท่ขี มเล็กนอ้ ย และมีไข่เปน็ จ้านวนมาก มกั จะเรียกกนั วา่ ปลาไข่
มรี าคาสูงเม่อื เปรียบเทียบกบั ปลาชนิดอืน่ ๆ
1. คัดเลือกพ่อแม่พันธุ์
- ปลาเลยี หินเพศผู้มีครบี ท้องเรียวยาว ปลายครีบทอ้ งยาวเกอื บถึงโคนครีบ
ก้น ในฤดูผสมพันธุ์เมื่อรีดบริเวณท้องเบา ๆ จะมีน้าเชื้อสีขาวขุ่นไหลออกมา
นอกจากนี้ปลาเพศผ้มู ีต่มุ สวิ บรเิ วณจะงอยปากมากกว่าเพศเมยี สีบนลา้ ตวั มีแถบสีน้า
เงินเขม้ จนถึงสดี า้ บริเวณตรงกลาง ส่วนทอ้ งสีเหลืองส้ม จนถงึ บริเวณแก้ม ขอบทาง
ด้านบนและทางด้านลา่ งมแี ถบสีด้าเปน็ ขอบ
- สว่ นปลาเลยี หินเพศเมยี ครบี ท้องสน้ั กวา่ เพศผู้โดยยาวจรดชอ่ งเพศ ปลาย
ครบี ทอ้ งมรี ะยะห่างจากโคนครีบกน้ มากกว่าเพศผู้ ในฤดผู สมพันธป์ุ ลาเพศเมยี ท้องอมู
เปง่ เหน็ ไดช้ ดั
66 การเพาะเลยี้ งปลาบนพน้ื ที่สูง
ภาพท่ี 23 ความแตกต่างทางเพศของปลาเลยี หนิ เพศผู้และเพศเมยี
ภาพที่ 27 ข้ันตอนการเพาะขยายพนั ธ์ปุ ลาเลยี หิน การเพาะเล้ยี งปลาบนพืน้ ทส่ี งู
67
ภาพท่ี 28 ขั้นตอนการเพาะขยายพันธุป์ ลาเลยี หนิ
2. ขังพอ่ แม่พันธุ์แยกเพ่อื ความสบั สน
3. ฉดี กระตนุ้ ดว้ ยฮอรโ์ มนสังเคราะห์ซูพรีแฟกซท์ คี่ วามเขม้ ข้น 10-20 ไมโครกรมั ต่อ
ปลา 1 กิโลกรัม เสรมิ ฤทธด์ิ ้วยดอมเพอรโิ ดน 1 เม็ด ต่อหน่งึ กิโลกรัม
68 การเพาะเล้ียงปลาบนพื้นทส่ี ูง
ภาพท่ี 29 การพัฒนาการของปลาเลยี หินระยะต่าง ๆ
4. ปล่อยปลาทั้งพ่อและแม่พนั ธล์ุ งในตะกร้าห้องหอมฝี าปิดให้ลอยนา้ ผ่านไป 10-15
ชั่วโมง ปลาปล่อยไข่หมด ให้เกบ็ เอาพอ่ แมพ่ นั ธุ์ออกไป ปล่อยให้ไข่ฟกั
5. การฟักไข่ เปิดออกซเิ จนออ่ น ๆ ใช้เวลาฟกั ไข่ 18-20 ช่วั โมง
6. อนบุ าลในบ่อซเี มนต์
6.1 การให้อาหาร เร่มิ ให้ไขแ่ ดงตม้ สกุ เลก็ น้อยบ้ใี สผ่ า้ ขาวบาง ในวันท่สี าม
6.2 การถา่ ยน้า ให้น้าไหลออกแบบต่อเน่ืองตลอดเวลา หรือการเพ่ิม
ออกซเิ จนให้มากขน้ึ เมื่อปลาเริม่ ว่ายนา้
69 การเพาะเลีย้ งปลาบนพ้นื ทีส่ งู
7. การเลย้ี งปลาเนือ้ ระยะเลยี้ ง 5-6 เดอื น
7.1 เลี้ยงในบ่อซีเมนต์ มีน้าน่ิง ไม่ต้องเป็นน้าไหล ให้อาหารเม็ดได้
หลากหลายรปู แบบ ทั้งจมนา้ และลอยน้า หรือให้อาหารเปน็ ข้าวสุกผสมร้า
หรือปลาป่น
7.2 เลี้ยงในบอ่ ดนิ ต้องแบบน้าไหลผา่ น บนภเู ขา นา้ ใส มกี อ้ นหินหรือกิ่งไม้
เป็นทอ่ี ย่ขู องตะไคร่น้า ใหป้ ลาแทะกนิ และอาหารเม็ด หรอื อาหารผสมเอง
8. การเลีย้ งปลาไข่และเล้ยี งเป็นพ่อแม่พนั ธ์ุ ต้องรอรอบ 1 ปี ปลาจะมีไข่ ราคาจะ
ดีกวา่ ปลาเนือ้ คัดเลอื กเพอื่ มาเปน็ พ่อแมพ่ นั ธุ์ได้
70 การเพาะเลย้ี งปลาบนพ้นื ท่ีสงู
โรคทพ่ี บในการเลยี้ งปลาจะไม่ปรากฏโรคระบาดรา้ ยแรง สว่ นใหญเ่ กดิ กบั ลกู
ปลายงั มีขนาดเล็ก คือ เชอ้ื รา และการทม่ี ีนิสัยเชอื่ งชา้ จงึ มกั ตกเปน็ เหยื่อของปลาอื่นท่ี
กนิ เน้อื เป็นอาหารซง่ึ มีขนาดใหญก่ วา่ เชน่ ปลาช่อน ปลาชะโด ปลาบู่ ปลากราย ปลา
กะสง หรือแม้กระทั่งปลาทีม่ ขี นาดใหญท่ ้งั หลาย นอกจากน้ีอาจมี พวกกบ เขียด เต่า
ตะพาบน้า และนกกนิ ปลา เปน็ ต้น ดังนั้นในกระบวนการเตรยี มบ่อจึงต้องก้าจัดศัตรู
ปลาใหห้ มด
ภาพที่ 30 ปลาที่เปน็ โรค
1. โรคของปลา
บนพืน้ ทีส่ งู จะมโี รคบา้ งในช่วงฤดแู ลง้ ทม่ี ปี ริมาณน้าลดลง ท้าใหน้ า้ เป็นกรด
นอกจากนย้ี ังสามารถพบเหน็ ได้บอ่ ยในล้าธารท่มี ีปริมาณน้านอ้ ยและมกี ารทบั ถมของ
ใบไม้เปน็ จา้ นวนมาก ในกรณีทีม่ ีการปอ้ งกนั อยา่ งดแี ลว้ แต่ปลากย็ ังป่วยเป็นโรค ซึ่ง
มักจะแสดงอาการใหเ้ หน็ โดยแบง่ อาการของโรคเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ดงั น้ี
1.1 การติดเชอ้ื จากแบคทีเรยี จะมีการตกเลือดมีแผลตามล้าตัวและครีบ
ครีบกร่อน ตาข่นุ หนวดหงกิ กกหบู วม มีน้าในชอ่ งท้อง กินอาหารน้อยลง หรือไม่กิน
71 การเพาะเล้ียงปลาบนพ้นื ท่สี ูง
อาหาร ลอยตัว ว่ายนา้ หงายท้อง เมือ่ เปน็ มาก ๆ ปลาจะมีเช้ืออื่นเข้าแทรกซ้อน ใน
ภายหลังทา้ ใหร้ ักษายากขึ้น
1.2 การจากปรสติ เขา้ เกาะตวั ปลาจะมีเมือกมาก มแี ผลตามลา้ ตัว ตกเลือด
ครีบเปือ่ ย จดุ สีขาวตามล้าตัว สีตามลา้ ตวั ซดี หรือเขม้ ผดิ ปกตเิ หงือกซีด วา่ ยน้าล้าบาก
ทุรนทุราย ควงสว่านหรือไม่ตรงทิศทาง พบมากในปลาดุก มักติดเชือ้ ราตามมาดว้ ย รมิ
ฝีปากกับหนวดจะเปน็ สีขาว
1.3 อาการจากอาหารมีคณุ ภาพไมเ่ หมาะสม คอื ขาดวติ ามนิ ซี กะโหลกร้าว
บริเวณใตค้ างจะมีการตกเลือด ตวั คด กินอาหารนอ้ ยลง ถ้าขาดวิตามินบีปลาจะว่ายนา้
ตวั เกรง็ และชักกระตุก ในส่วนของปลาท่ีเล้ียงบนพ้ืนท่ีสูงจะไม่พบอาการเช่นน้ี
เนื่องจากอาหารทไ่ี ด้รับเป็นอาหารธรรมชาติ ทีเ่ ปน็ ตวั ออ่ นแมลงนา้
1.4 อาการจากคุณภาพน้าในบอ่ ดนิ ไมด่ ี ปลาจะวา่ ยนา้ ขึ้นลงเร็วกว่าปกติ
ลอยหัวครีบกรอ่ นเปอื่ ย เหงอื กซีดและบวม ลา้ ตัวซดี ไม่กินอาหาร ท้องบวม มีแผล
ตามตัว ในการรักษาโรคปลาควรจะไดพ้ ิจารณาให้รอบคอบก่อนการตัดสินในการ
เลอื กใช้ยาหรือสารเคมี สาเหตขุ องโรค ระยะรกั ษา ค่าใช้จา่ ยในการรักษา ซง่ึ สว่ นใหญ่
ไมจ่ า้ เปน็ ตอ้ งใช้ยารักษา
1.5 การปอ้ งกนั โรค การเกิดโรคของปลาท่ีเลี้ยงมักจะเกิดจากปัญหา
คณุ ภาพของนา้ ในบ่อเลีย้ งไมด่ ี ซึง่ อาจเกิดจากสาเหตุของการให้อาหารมากเกิน ไปจน
อาหารเหลือเนา่ เสีย เราสามารถป้องกัน ไมใ่ หเ้ กิดโรคได้โดยต้องหมั่นสังเกตว่าเมื่อ
หยุดกินอาหารจะตอ้ งหยดุ ใหอ้ าหารทันที ในปลาดกุ ลูกผสมมีนสิ ยั ชอบกนิ อาหารท่ีให้
ใหมโ่ ดยถงึ แม้จะกนิ อมิ่ แลว้ ถา้ ให้อาหารใหมอ่ ีก กจ็ ะคายหรอื สา้ รอกอาหารเก่าทิ้งแล้ว
กินอาหารทใี่ ห้ใหมอ่ ีก ท้าใหน้ า้ เสียเรว็ ซง่ึ ปริมาณอาหารทใี่ ห้ไมค่ วรเกนิ 4-5 % ของ
นา้ หนกั ตวั ปลา
2. วธิ ปี อ้ งกนั การเกดิ โรค
2.1 ควรเตรยี มบ่อและนา้ ตามวิธีการท่เี หมาะสมประมาณ 60 เซนติเมตร
ก่อนปล่อยลกู ปลา แล้วคอ่ ยเพม่ิ น้าสูงขนึ้
2.2 ซ้ือพนั ธปุ์ ลาจากแหล่งทเ่ี ช่อื ถอื ได้ หรอื การผลิตลูกปลามาเลีย้ งเอง หรอื
การเลือกซื้อจากลูกปลาทผ่ี ลติ เองบนพืน้ ทีส่ ูง และตอ้ งแข็งแรงและปราศจากโรค
72 การเพาะเลี้ยงปลาบนพื้นทส่ี ูง
2.3 หม่นั ตรวจดูอาการของปลาอย่างสมา่้ เสมอถ้าเหน็ อาการผิดปกติต้องรบี
หาสาเหตแุ ละแกไ้ ขโดยเร็ว
2.4 เปลีย่ นถา่ ยน้าจากระดบั ก้นบอ่ อยา่ งสม่า้ เสมอ หรือการให้น้าไหลผ่าน
จะเปน็ วธิ ีการทแี่ กป้ ญั หาไดด้ ที ี่สุด และสามารถท้าได้ดีบนพ้ืนท่ีสูงเน่ืองจากมีน้าท่ี
สามารถใชไ้ ดอ้ ยา่ งพอเพยี ง เมื่อน้าไหลผ่านก็จะบ่อแลว้ กส็ ามารถไหลออกไปลงลา้ ธาร
ได้เชน่ เดมิ จงึ ไมก่ ระทบตอ่ ปรมิ าณการใช้น้าของคนอ่นื ๆ และเปน็ ปริมาณน้าทีไ่ มม่ าก
นัก และสามารถทา้ ได้ด้วยวิธกี ารประปาภูเขา
2.5 อยา่ ใหอ้ าหารจนเหลือ ยกเวน้ ในกลมุ่ อาหารท่สี รา้ งระบบนิเวศในบ่อ
เลีย้ งแตต่ ้องมีปรมิ าณท่ีเหมาะสม
2.6 การปลอ่ ยปลาหน้าหนาว ท่ีมีอุณหภูมิต้่าจะท้าให้มีโอกาสตายสูง
เน่อื งจากอณุ หภมู นิ ้าต่้าจนเกินไป
2.7 การอนบุ าลลกู ปลาไม่ควรกระทา้ ในช่วงหน้าหนาว เนือ่ งจากปลาอาจ
ตายได้ หากมีการอนบุ าลควรทา้ ในทีม่ อี ณุ หภมู แิ บบปิด แต่การลงทนุ จะสูง
3. การใช้ยา
การใช้ยาเพือ่ การรักษานับเป็นเรอ่ื งสดุ ท้ายหากมีวิธีการปอ้ งกันทด่ี ี น้าดี ให้
เกลือบา้ ง เน่ืองจากมวี ธิ ีการที่หลากหลายในการปอ้ งกันโรค แต่ในบางคร้ังก็อาจมี
ความจา้ เปน็ ต้องใช้
3.1 โรคที่เกิดจากพยาธิภายนอก เชน่ เห็บระฆงั ปลิงใส หนอนสมอ จะ
เกาะดูดเลอื ดทา้ ให้เกิดเกลด็ หลดุ ตวั แขง็ มีแผลตามตัว ปลาเกิดการระคายเคือง ถ้า
ปล่อยไว้นานปลาอาจจะตายหมดบอ่ ใชฟ้ อรม์ าลีน 150-200 ซีซี ต่อน้า 1,000
ลิตร แช่ประมาณ 24 ชว่ั โมง
3.2 โรคท่เี กิดจากพยาธภิ ายใน เช่น พยาธิหัวหนาม พบในล้าไส้ ลักษณะ
อาการตัวผอมและกนิ อาหารลดลง การรกั ษาโดยใช้ยาถ่ายพยาธิ แต่ยังไม่จ้าเป็น
สา้ หรับการเลยี้ งปลาบนพื้นทีส่ ูง หากขนั้ ตอนการปรงุ อาหารนน้ั สกุ และสะอาด
3.3 เกลือ จัดเป็นยาทีม่ รี าคาถกู ทีส่ ุด ดีท่สี ุด และเป็นการป้องกันโรคได้ดี
เนื่องจากเหลอื ไปรักษาสมดุลของรา่ งกายปลา จงึ ทา้ ให้แขง็ แรงตลอด จึงควรเตมิ เกลือ
73 การเพาะเลยี้ งปลาบนพืน้ ทสี่ งู
ลงในบ่อเลีย้ งปลาประมาณ 2-3 เดือน ต่อคร้งั ในสัดส่วนประมาณ 20-50 กิโลกรัม
ตอ่ พืน้ ที่ 1 งาน
3.4 ปนู ขาว เปน็ สารเคมีทใ่ี ช้เพื่อปรบั สภาพน้าให้เป็นกลาง ไมเ่ ปน็ กรดมาก
เกนิ ไป และชว่ ยในการกา้ จดั พาราสติ ได้ดว้ ย ควรเติมปนู ขาว 10 กิโลกรัม ต่อ 100
ตารางเมตร
ภาพที่ 31 การใสก่ ิ่งไม้ลงไปในบอ่ เพอ่ื ป้องกันขโมย
4. การลกั ขโมย
ในบางหมบู่ ้านที่ทคี นไม่ดีอยูเ่ ยอะจะมกี ารลกั ขโมยกนั สว่ นใหญ่เป็นปลาท่ี
เลย้ี งจนโตแลว้ มกั ใชว้ ิธกี ารตกเบ็ด หรือหว่านแห จึงมีวิธีการท่ีหลากหลายของ
ชาวบ้านทชี่ ว่ ยกนั สอดส่องดแู ล การใช้มาตรการการปรบั ในราคาท่ีสูง การใช้เศษกิ่ง
หรือลวดหนาวไวใ้ ส่ลงไปในบอ่ เพือ่ ไมใ่ หใ้ ช้อปุ กรณจ์ ับปลาประเภทข่ายหรือแหได้อย่าง
ถนัด แต่ป้องกนั ยากจากการตกปลาดว้ ยเบ็ด
74 การเพาะเลย้ี งปลาบนพ้ืนท่ีสงู
ใชห้ ลักการบรู ณาการเพ่ือสรา้ งบณั ฑิต สร้างงานวจิ ัย และการสร้างชุมชน
ด้วยการระเบิดจากข้างใน แบบเกา้ อ้สี ีข่ า “วชิ าการ วจิ ัย การบริการวิชาการ และ
กิจกรรมพัฒนานกั ศกึ ษา” คอื วชิ าการจากการเรียนการสอน เช่น วิชามีนวิทยา
วชิ าการเกบ็ รักษาตวั อย่างทางการประมง วชิ านเิ วศวิทยาปลา และอื่น ๆ ร่วมกับ
งานวจิ ยั เช่น การอนรุ กั ษ์และเพาะขยายพันธุ์ปลาประจ้าถิ่น เพ่ือเพิ่มพูนจ้านวน
อาหารโปรตนี ของประชากรในท้องถิน่ ในเขตอ้าเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และ
พ้ืนทใ่ี กล้เคียง และโครงการอนื่ ๆ อกี มาก ท่เี รมิ่ จากการสา้ รวจความหลากหลายทาง
ชีวภาพท่ีเป็นฐานที่ส้าคญั ท่สี ุดของการพัฒนา จนกระท่งั มกี ารคน้ พบ “ปลาชนิดใหม่
ของโ ลก” ใ นพ้ื นท่ี น้ีและบริเ วณใ กล้ เคี ยง เ ช่ นปลา ค้อเจ้ า ฟ้า จุฬ าภ รณ์
(Physoschistura chulabhornae), ป ล า ค้ อ ล า ย เ สื อ แ ม่ โ จ้ (Schistura
mejotigrina) และปลาอ่นื ๆ ท่ยี งั ไม่ได้รายงานอีกหลายชนิด นอกจากน้ียังมีการ
ค้นพบปลาค้อสมเด็จพระเทพ (Schistura sirindhornae) จากบนภูเขาสงู ของจังหวดั
นา่ น ซึ่งปลาเหลา่ นเ้ี ปน็ ปลาทม่ี คี วามไวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมมาก การ
สรา้ งกิจกรรมที่ยั่งยืนให้เกดิ ข้นึ กบั พน่ี ้องชาวเขาจึงเป็นแนวทางของการอนุรักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาติทสี่ ้าคญั มาก ในส่วนของการเลย้ี งปลาบนพ้ืนทส่ี งู ไดเ้ รม่ิ มาไม่น้อย
กวา่ 8 ปี จากความลม้ เหลวคร้งั แลว้ คร้ังเล่ามาค่อย ๆ สา้ เร็จเพ่ิมขึน้ ทลี ะนดิ ในส่วน
ของ วิ ชา กา รท่ี มี อยู่ น้ั น ไ ด้ ถู กน้ า ม า ปรั บใ ช้ เ พรา ะ เ ป็ น ง า น ที่ ต้ อง ใ ช้ อง ค์ ควา ม รู้
หลากหลายศาสตร์ในขณะเดยี วกนั ก็ไดถ้ ูกถ่ายทอดไปยังนกั ศึกษาและได้เรียนรู้รว่ มกนั
จากทุกฝ่าย คอื อาจารย์ ลูกศษิ ย์ และชาวบ้าน จากปแี รกทไ่ี มม่ ีใครเข้าใจไดเ้ ริ่มมีการ
ขดุ บอ่ เลีย้ งปลาเพยี งบ่อเดยี ว และขยายเพ่มิ ขนึ้ เมอ่ื เห็นถึงความส้าเร็จของคนแรกท่ี
เปน็ กลุ่มหัวไวใจสู้ ที่ตดั สินใจลงมอื ทนั ทที ี่เขา้ ใจ ส่วนพวกเบิ่งตาลงั เลนน้ั ตอ้ งรอใหเ้ ขา
สา้ เร็จกอ่ น ท้ังน้เี พราะว่าชาวปะกาเกอญอบ้านปิตุคี ต้าบลยางเปียง อ้าเภออมก๋อย ที่
ไมเ่ คยมปี ระสบการณ์การเลีย้ งปลาเลยจนสามารถเลีย้ งปลา และเพาะขยายพนั ธป์ุ ลา
ไดด้ ้วยตัวเอง นอกจากน้ียงั สามารถน้าไปขายเพอ่ื เปน็ รายไดข้ องครอบครวั โดยความรู้
จากการเลยี้ งปลาและความรูจ้ ากการเพาะขยายพันธป์ุ ลาไดถ้ ูกถ่ายทอดต่อไปยังคน
รุน่ ใหม่และชาวบา้ นโดยทั่วไปทั้งในหมบู่ ้านและหมบู่ า้ นใกลเ้ คียง และมีความสนใจให้
75 การเพาะเลยี้ งปลาบนพ้ืนทีส่ งู
ลูกหลานได้เรยี นหนังสอื ในระดบั ที่สูงขึ้นจากท่ีเรยี นแคจ่ บประถมศึกษาปที ่ี 6 เท่านั้น
แล้วออกมาทา้ ไรเ่ พือ่ ผลติ ขา้ วให้เพยี งพอกบั ครอบครัว สง่ิ ทกี่ ระทบและเห็นได้อย่าง
ชดั เจน คอื การทเ่ี ด็กจะแต่งงานเรว็ มาก โดยประเพณีแลว้ เด็กผ้หู ญิงจะแต่งงานตอน
ประมาณอายุ 14 ปี เป็นเหตุให้มีลูกเร็วและหลายคน ภายในเวลาเพียงไ ม่ก่ีปี
ประชากรจะลน้ หมู่บา้ น จนตอ้ งขยายหมบู่ า้ น นั้นหมายความวา่ จา้ นวนประชากรจะ
เพิม่ เร็วขนึ้ มากซึ่งจะไปมีผลโดยตรงกับทรัพยากรป่าไม้และอื่น ๆ จะถูกใช้อย่าง
รวดเร็ว และหมดไปในทีส่ ดุ การศกึ ษาจึงเปน็ ทางออกหนึ่งของการอนรุ ักษท์ รัพยากร
และยังได้สนับสนนุ การเรยี นภายใต้กองทนุ “อภินนั ท์ อภนิ นั ทนาการ” และส่วนตัว
ของผ้เู ล้ียงก็มีความร้พู รอ้ มท่จี ะเป็นปราชญ์ชาวบ้าน ดว้ ยหลักการ 3 อา คือ “อาหาร
อาชพี และอาวธุ (ปญั ญา)” บนพื้นฐานทีส่ ้าคัญยิ่งคือหลกั การ “เศรษฐกิจพอเพียง
ตามแนวพระราชด้ารขิ ององคพ์ ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว รัชกาลท่ี 9” และได้
ขยายไปบนพ้ืนทีบ่ นภเู ขาของอา้ เภออมก๋อยไปไมน่ อ้ ยกว่า 500 บ่อ สามารถเพ่ิม
อาหารโปรตนี จากประมาณ 3 กิโลกรัม/คน/ปี เปน็ 20-30 กิโลกรัม/คน/ปี เป็นการ
พฒั นาทั้งทางด้านรา่ งกายและสมอง ทีเ่ ร่มิ จากคนท่ีพูดภาษาไทยยังไม่ค่อยเข้าใจ
สอ่ื สารกันลา้ บาก มาน่ังคยุ ภาษาปลากนั ได้ การอนุรักษท์ รัพยากรทางนา้ เปน็ อีกปัจจัย
ส้าคัญของความเกีย่ วเนือ่ งกับเรอื่ งของการมีอาหารโปรตีนจากปลาท่ีเล้ียงด้วยฟางขา้ ว
หรือใบไม้ที่คนกนิ ได้ หรอื ปลวก อยใู่ นบอ่ หนา้ บา้ น กลา่ วคือเปน็ การประหยัดเวลาใน
การออกไปหาอาหารโปรตีนที่ต้องใช้เวลากว่าค่อนวันเพื่ออาหารโปรตีน 1 มื้อ
สา้ หรบั ครอบครวั เวลาที่ใช้ในการหาแหลง่ โปรตีนส้าหรับครอบครัวใช้เวลาเพียงไม่
เกนิ 10-20 นาที ดงั นัน้ ยังมีเวลาเหลอื อีกมากในการคิดและพัฒนาเรื่องของอาชีพ
การดแู ลไร่นาท่ีปลูกขา้ วก็ดีขนึ้ จนไดข้ า้ วทีม่ ีปรมิ าณมากขนึ้ ลดพน้ื ทกี่ ารปลูกข้าวลงจึง
มีพ้ืนทีป่ า่ ไม้เพมิ่ ขึน้ ในอนาคตสามารถเพ่มิ เติมเรือ่ งของอาชีพอื่น ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งได้อีก
มาก เป็นการพฒั นาคนจากฐานทรพั ยากรอยา่ งแทจ้ ริง และในการท่มี อี าหารโปรตีน
จากปลาอยู่หนา้ บ้านยงั เป็นการช่วยอนุรกั ษ์ทรัพยากรทางน้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้
เพราะวา่ มนี ้อยคนมากท่จี ะลงไปจับปลาในล้าห้วย ไมไ่ ปท้าอันตรายต่อแหล่งท่ีอยู่
อาศัยของสัตว์นา้ เน่ืองจากวธิ ีการจับปลาของชาวปะกาเกอญอมักใช้วธิ ีการก้ันล้าน้า
และเคลือ่ นย้ายก้อนหนิ เมอ่ื ล้านา้ แหง้ ในทันทแี ละมักจะถูกทิ้งให้แหง้ เปน็ การท้าลาย
แหลง่ ทอ่ี ยู่อาศัยของสิ่งมีชีวติ จ้านวนมาก ถา้ มีการลงไปจับปลากันทกุ บ้านแหล่งน้าก็
76 การเพาะเลี้ยงปลาบนพืน้ ที่สูง
จะสญู เสียไปโดยธรรมชาติ เมอ่ื มีจ้านวนผลู้ งไปจบั ปลากันนอ้ ยและแหลง่ ที่อยู่อาศยั ไม่
ถกู ท้าลายมโี อกาสขยายพันธ์ุ มีแหล่งอาหาร และมที ีห่ ลบภยั เปน็ การ “อนรุ ักษ์โดยไม่
ตอ้ งอนุรกั ษ์” ในการนเ้ี มื่อชาวบ้านมีความร้คู วามเข้าใจในการเพาะขยายพนั ธุม์ ากขน้ึ
กส็ ามารถเพาะขยายพันธุป์ ลาชนิดทเ่ี ป็นชนดิ ทอ้ งถ่นิ ชนิดใดก็ได้ ซ่ึงเป็นการท้างานได้
ด้วยตัวเองของชาวบา้ นท่ีถา่ ยทอดมาเปน็ ความรจู้ รงิ นบั เปน็ ครงั้ แรกของการเล้ยี งปลา
และเพาะขยายพันธุ์ปลาได้ของชาวปะกาเกอญอ สามารถดูเพิม่ เติมเปน็ สารคดีส้ันได้
จากจาก https://www.youtube. com/ watch?v=rCvCwKrm0JE สู่ “ความ
ยั่งยืนอนันต์” นอกจากน้ียงั มกี ารขยายพื้นทีไ่ ปยังอ้าเภอกัลยาณวิ ัฒนา อา้ เภอแม่แจม่
และอา้ เภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อา้ เภอแมล่ านอ้ ย อา้ เภอขุนยวม อ้าเภอแม่สะ
เรียง อ้าเภอสบเมย อา้ เภอปาย อา้ เภอปางมะผา้ จงั หวัดแมฮ่ ่องสอน อา้ เภอเชยี งคาน
จังหวัดเลย และขยายแนวคดิ การท้างานน้ีไปยงั พืน้ ราบของจังหวัดแพรบ่ างส่วน พื้นท่ี
ตา้ บลสา้ ราญราษฎร์ และพน้ื ทีบ่ ้านลวงเหนือของอ้าเภอดอยสะเก็ด ของจังหวัด
เชยี งใหม่ และยงั ไดง้ านทางดา้ นกิจกรรมนกั ศกึ ษาเข้าด้วยกนั โดยทั้งนักศึกษาระดับ
ปริญญาตรีและบัณฑติ ศึกษามารว่ มมอื กันทา้ งานเพื่อส่วนรวมและเป็นการพัฒนา
ตัวเอง เปน็ การฝึกฝนให้นักศึกษาเป็น “บัณฑิตที่พึงประสงค์” สร้างบัณฑิตให้
สามารถสรา้ งงานได้ดว้ ยตัวเอง โดยการเช่ือมตอ่ งานทางดา้ นกจิ กรรมนักศึกษาและ
สรา้ งความส้าคัญของวชิ าชวี ติ ด้วยการทมี่ ีกระบวนการสร้างบณั ฑติ ท่ีมีความสามารถ
ผ่านกจิ กรรม 6 ดา้ น ไดแ้ ก่ 1. ดา้ นวชิ าการรวมกับวจิ ัย ท้ังนเี้ พราะบณั ฑติ สว่ นใหญ่ท่ี
จบการศึกษาแล้วยังมองโจทยง์ านวิจยั ไมอ่ อก จึงตอ้ งมีการสร้างประสบการณ์ทางดา้ น
นใ้ี ห้สมบูรณ์ 2. อาสาพฒั นา บา้ เพญ็ ประโยชน์ และการดูแลส่งิ แวดล้อม 3. ดา้ นกฬี า
นันทนาการ และสขุ ภาพ 4. ดา้ นศลิ ปวัฒนธรรม 5. ดา้ นคณุ ธรรมจริยธรรม และ 6.
ดา้ นการบริหารจัดการและความเปน็ ผนู้ ้า กิจกรรมนี้ทง้ั 6 ด้านได้ถูกรวมไว้ในการ
พฒั นานักศึกษาเพื่อเปน็ บัณฑิตที่สมบูรณ์แบบของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผ่านทาง
“ระบบระเบียนกิจกรรมนกั ศึกษา” ที่ได้ถูกพัฒนาข้นึ โดยอาจารยท์ า่ นน้ี ในการนี้ได้
จดั ท้าโครงการเพ่ือสร้างบัณฑิตเพอื่ ใหส้ อดรบั กบั การระบบระเบยี นกจิ กรรมนักศึกษา
คือโครงการ “แมโ่ จ้: แปง๋ บ้านสรา้ งเมือง” ทสี่ ร้างนักศึกษาจากฐานวชิ าเรยี นของแต่
ละคณะเพอื่ ตอบโจทยจ์ รงิ ๆ ของชุมชน อาจารย์และนักศึกษาลงไปหาข้อมูลและ
ท้างานร่วมกนั กบั ชาวบา้ นโดยตรง เป็นการทา้ งานรว่ มกนั เปน็ การเรยี นแบบใช้ฐาน
77 การเพาะเลย้ี งปลาบนพน้ื ทสี่ งู
ของปญั หามาเป็นบทเรียนและได้ทา้ บันทึกความร่วมมือกับผู้น้าชุมชนท่ีอยู่ในพ้ืนที่
รอบรั้วมหาวทิ ยาลยั โดยการแบ่งความรบั ผิดชอบชมุ ชนในความรว่ มมอื ของคณะต่าง
ๆ แบบบูรณาการระหว่างวิชาเรียนระหว่างศาสตร์ของคณะท่ีต่างกัน เพื่อลงไปยัง
ชุมชนจริง สิ่งที่ไดน้ อกเหนอื จากงานในชุมชนแล้ว คอื ความรัก ความสามัคคีระหว่าง
นักศกึ ษาด้วยกนั ครดู ว้ ยกนั และครกู ับนักศึกษา การใหอ้ าจารยผ์ ู้สอนมีความเข้าใจ
และสามารถออกแบบกจิ กรรมในวิชา และสามารถสร้างบณั ฑิตที่พงึ ประสงค์ เป็นคน
ดี คนเก่ง และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข โดยมีการวางแผนไว้เป็นข้ันตอนใน
กระบวนการสรา้ งบณั ฑิตตงั้ แตเ่ ร่มิ ชน้ั ปที ่ี 1 ถึงปสี ดุ ท้ายของการเรียนการสอน และ
เป็นการตอบโจทย์การสร้าง “บัณฑิตรับใช้สังคม” ได้เป็นอย่างดี ท้ังหมดเป็น
กิจกรรมทร่ี ่วมด้วยชว่ ยกนั กนั ทกุ ฝา่ ยเพ่ือสรา้ งบณั ฑติ ที่ไม่เห็นแก่ตัว ท้างานได้จริง
ร้จู กั สิ่งรอบด้านทงั้ บ้านเมือง วฒั นธรรม กฬี า สุขภาพทง้ั ของตัวเองและครอบครัว มี
ความรกั ในความยุตธิ รรม เมตตากรณุ าเข้าใจเพ่ือนมนษุ ย์ เป็นทั้งผู้น้าและผู้ตามที่ดี
ของสังคม และสามารถจัดการได้ในหลากหลายระดับ ปัจจุบันนักศึกษาของ
มหาวทิ ยาลัยแม่โจ้ และยงั เปน็ การตอบโจทย์อตั ลกั ษณ์ลูกแมโ่ จ้ “เลิศน้าใจ วินัยดี
เชิดชูประเพณี สามคั คี และอาวุโส” ภายใต้แนวทางการฝึกคนให้เป็นบัณฑิตที่
“เปน็ นักปฏบิ ตั มิ ีความเช่ยี วชาญในวิชาชีพและทันต่อการเปลี่ยนแปลง ” ตามคติ
ประจ้าใจของบณั ฑติ จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ว่า “งานหนักไม่เคยฆ่าคน” จะจบ
การศกึ ษาด้วยปรญิ ญา 2 ใบ กลา่ วคือ ปริญญาวชิ าชีพ และปริญญาวิชาชีวิต เพ่ือ
สรา้ งผลกระทบด้วย “ปัญญาอาสา” ใหส้ ังคมไปส่คู วาม “ยั่งยืนอนันต์”
78 การเพาะเลย้ี งปลาบนพ้ืนทสี่ งู
79 การเพาะเล้ยี งปลาบนพื้นท่สี งู
ประวตั ิผูเ้ ขียน
ผศ.ดร. อภินันท์ สวุ รรณรักษ์
บา้ นเกดิ อ.เกาะพะงนั จ.สรุ าษฎรธ์ านี
โรงเรยี นเกาะพะงนั ศึกษา
วทิ ยาลัยประมงสงขลาติณสลู านนท์ ปวช. (ประมง)
วทิ ยาลัยประมงสงขลาตณิ สูลานนท์ ปวส. (ประมง)
สถาบนั เทคโนโลยีการเกษตรแมโ่ จ้ (ประมง)
มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ วท.ม. (วิทยาศาสตรการประมง)
Integrated Fishes Farming Institute, Wuxi, China
Integrated Fishes Farming Certificate
Wild life manage, Thailand zoo & Smithsonian, Wild
life management Certificate
มหาวิทยาลยั อบุ ลราชธานี วท.ด. (วิทยาศาสตรการประมง)
Paul Sabatier University, Toulouse III, Toulouse,
France, Ph.D. (Applies Fish Ecology,
Evolution, Diversity and Biology)
สาขาความเชย่ี วชาญ
ความหลากหลายของชนดิ ปลา ชีววทิ ยาปลาและสัตวน์ ้า ชวี ประวตั ิของสัตว์น้าและพล
วัตรประชากรของสตั วน์ า้ นิเวศวทิ ยาแหล่งนา้ หุน่ จาลองทางคณติ ศาสตรท์ างด้านนิเวศวิทยา การ
เลี้ยงปลาแบบผสมผสาน การเก็บรกั ษาตวั อย่างและการจดั พิพิธภัณฑ์ การจัดการและดูแลสถาน
แสดงพนั ธส์ุ ัตวน์ ้า การเลย้ี งปลาบนพนื้ ทสี่ งู และการสง่ เสริม การอนุรั กษ์สายพันธ์ุปลาไทย การ
จดั การสตั ว์ป่า กจิ กรรมนักศกึ ษา การอนุรกั ษโ์ ดยไม่ตอ้ งอนุรักษ์ การบูรณาการการเรียนการสอน
งานวจิ ยั และกิจกรรมนักศกึ ษา
80 การเพาะเลย้ี งปลาบนพน้ื ทสี่ งู
Faculty of Fisheries Technology and Aquatic Resources, Maejo University
Nongharn Subdistrict, Sansai District, Chiangmai 50290
Face book: apinun.suvarnaraksha.7