การนำ ปรัชญาการศึกษา มาประยุกต์ใช้ในการจัดการศึกษา
ตำ ราเล่มนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นตำ ราประกอบการเรียนรายวิชา PC296202 ปรัชญาการศึกษาผู้เขียนได้ศึกษาค้นคว้า และเรียบเรียงจากตำ รา บทความ เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับปรัชญาการศึกษา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อ ให้ผู้เรียน มีความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนประยุกต์ใช้ความรู้ทั้งทางทฤษฎี และวิธีปฏิบัติ พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจยิ่งขึ้น เนื้อหาของตำ ราเล่มนี้มีขอบเขตโดยเเบ่งเนื้อหาออกเป็นความหมายของ การนำ ปรัชญาการศึกษามาประยุกต์ใช้ในการจัดการศึกษา ความสำ คัญของ การนำ ปรัชญาการศึกษามาประยุกต์ใช้ในการจัดการการศึกษา ลักษณะของ ปรัชญาการศึกษา ปรัชญาประยุกต์ที่นำ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน ความสัมพันธ์ระหว่างการศึกษาและปรัชญาการศึกษา สภาวการณ์และ สมรรถนะการศึกษาไทย วิเคราะห์ปัญหาที่สำ คัญในการจัดการการศึกษา ประโยชน์ของปรัชญาการศึกษา 16 มกราคม 2566 คำ นำ
คำ นำ ก สารบัญ ข สารบัญภาพ ฌ สารบัญตาราง ญ การนำ ปรัชญาการศึกษามาประยุกต์ใช้ในการจัดการศึกษา 1 ความสำ คัญของการนำ ปรัชญาการศึกษามาประยุกต์ใช้ในการจัดการการศึกษา 2 ลักษณะของปรัชญาการศึกษา 3 ปรัชญาประยุกต์ที่นำ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน 4 ความสัมพันธ์ระหว่างการศึกษาและปรัชญาการศึกษา 5 สภาวการณ์และสมรรถนะ การศึกษาไทย 6 วิเคราะห์ปัญหาที่สำ คัญในการจัดการการศึกษา 7 ประโยชน์ของปรัชญาการศึกษา 11 บทสรุป 12 คำ ถามทบทวน 13 บรรณานุกรม 14 สารบัญ
สารบัญภาพ ภาพประกอบที่ หน้า 1 ปรัชญาและปรัชญาการศึกษา 4 2 การประยุกต์ใช้ปรัชญาการศึกษาในการจัดการเรียนการสอน ยุค 40 5 3 อันดับความสามารถด้านการศึกษาของไทย พ.ศ.2547-2550 6 4 ความสำ คัญปรัชญาประยุกต์ที่นำ มาใช้ในการวัดและประเมินผล 8 5 ปรัชญาการศึกษา 12
สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 1 ความแตกต่างของปรัชญาทั่วไปกับปรัชญาการศึกษา 9 2 ปรัชญาการศึกษา 10
บทที่ 7 การนำ ปรัชญาการศึกษามาประยุกต์ใช้ในการจัดการศึกษา อุดม บัวศรี กล่าวว่า ปรัชญาการศึกษาคือ ปรัชญาประยุกต์ เพราะนำ เอาความคิดทางปรัชญามา ประยุกต์ใช้กับการศึกษาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการ เรียนการสอนตลอดจนเรื่องอื่น ๆ ที่ เกี่ยวข้องกับความเป็นมนุษย์ สุมิตร คุณานุกร กล่าวว่า ปรัชญาการศึกษาคือ อุดมคติ อุดมการณ์อันสูงสุดซึ่งยึดเป็นหลักในการจัดการ ศึกษา มีบทบาทในการเป็นแม่บทเป็นต้น กำ เนิดความคิดในการกำ หนดความมุ่งหมายของ การศึกษา และเป็นแนวทางในการจัด การศึกษาตลอดจนถึงขบวนการในการเรียนการสอน วิจิตร ศรีสอ้าน กล่าวว่า ปรัชญาการศึกษาคือ จุดมุ่งหมาย ระบบความเชื่อหรือแนวคิดที่แสดงออกมาในรูป ของอุดมการณ์หรืออุดมคติทำ นองเดียวกัน กับที่ใช้ในความหมายของปรัชญาชีวิต ซึ่งหมายถึง อุดมการณ์ของชีวิต อุดมคติของชีวิต แนวทางดำ เนินชีวิตนั่นเอง กล่าวโดยสรุปปรัชญาการ ศึกษา คือ จุดมุ่งหมายของ การศึกษานั่นเอง ศักดา ปรางค์ประทานพร อธิบายถึงความหมายของปรัชญาการศึกษาว่าคือ ความคิดเห็นอย่างวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับ กระบวนการที่ก่อให้เกิดการ เรียนรู้ของมนุษย์ความคิดเห็นนี้ตั้งอยู่บนรากฐานของอภิปรัชญา ญาณวิทยา และ อันวิทยา หรือปรัชญาการศึกษา หมายถึงการพิจารณาองค์ประกอบทุก ๆ ส่วนของ การศึกษาอย่างถี่ถ้วน และความคิดเห็นเกี่ยวกับการศึกษาที่จะใช้เป็นเครื่องนำ ทาง ในการ จัดการศึกษา ทองปลิว ชมชื่น ได้ให้ความหมายว่า ปรัชญาการศึกษาคือ เทคนิคการคิดที่จะแสวงหาคำ ตอบและกำ หนด แนวทางในการดำ เนินงานทางการศึกษา ไม่ว่าการศึกษาในระบบโรงเรียนหรือการศึกษานอก โรงเรียนเริ่มตั้งแต่การกำ หนด จุดมุ่งหมายของการศึกษา ยุทธศาสตร์ทางการศึกษาและการ บริหารทางการศึกษา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการพัฒนามนุษย์และสังคมอย่างแท้จริง ความหมายของปรัชญาการศึกษา
ความสำ คัญของการนำ ปรัชญาการศึกษามาประยุกต์ใช้ในการจัดการการศึกษา การศึกษาเป็นปัจจัยที่สำ คัญยิ่งในการพัฒนาประเทศ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เครื่องมือในการเตรียมประชากรให้มีคุณภาพ คือ การศึกษา การ จัดการศึกษาของชาตินั้นจะต้องสอดคล้องกับนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงระบบทั้งสาม การจัดการศึกษาของชาติก็จะ ต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย แต่ละสังคมจะมีแนวทาง ในการจัดการศึกษาต่างกัน เพราะระบบทั้งสามไม่เหมือนกัน แนวความคิดหรือความเชื่อในการจัดการศึกษาก็ คือ ปรัชญาการศึกษา ซึ่งผู้ที่มีหน้าที่ในการจัดการศึกษาจะยึดแนวทางในการ จัดการศึกษาหรือปรัชญาของการศึกษาต่างกันไปตามวัตถุแระสงค์ของสังคมและ สถานการณ์ทางสังคมในแต่ละยุคแต่ละสมัย การจัดการศึกษาของประเทศใดถ้าไม่ ยึดการศึกษาที่ถูกต้องก็ไม่มีทางที่จะทำ ให้ประเทศเจริญไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ ปรัชญาการศึกษา จึงเป็นสิ่งสำ คัญในการกำ หนดแนวทางในการพัฒนาประเทศ 2
ลักษณะของปรัชญาการศึกษา Lucus (1970 : 113) ได้กล่าวถึงลักษณะของปรัชญาการศึกษาเอาไว้ว่า ปรัชญาการศึกษาควรมี ลักษณะดังนี้ 1. การพรรณนา-วิเคราะห์ ปรัชญาการศึกษาควรจะมีส่วนหนึ่งที่อธิบายถึงแนวความคิดของนักปรัชญาการศึกษาว่าทำ ไม ถึงคิดเช่นนั้น มีหลักการอะไรในการคิดและวิเคราะห์ดูว่าความคิดของนักปรัชญาการศึกษาเหล่านั้นมีความ สอดคล้องกันหรือไม่ ให้ความหมายอะไรแก่เราได้บ้าง เสนอวิธีการใหม่ๆ หรือไม่ 2. การวิจารณ์-ประเมินผล ปรัชญาการศึกษาควรจะมีส่วนหนึ่งที่วิเคราะห์และวิจารณ์ความคิดต่างๆ ทางการศึกษา ประเมินผลดูว่าความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาในปัจจุบันนั้นถูกต้องแล้วหรือยังและมีผลกระทบต่อการจัดการ ศึกษาอย่างไร รวมถึงได้เสนอความคิดใหม่ให้กับการศึกษาด้วยแนวคิดทางปรัชญาที่มีอิทธิพลต่อการศึกษา อย่างไร 3. การอนุมาน อีกส่วนหนึ่งของปรัชญาการศึกษาคือส่วนที่เกี่ยวกับการอนุมานหรือคาดคะเนว่าความคิดเกี่ยว กับระบบการศึกษาหรือปรัชญานั้นมีรูปแบบอื่นอีกหรือไม่จักรวาลนี้แท้จริงเป็นอย่างไรธรรมชาติของมนุษย์ เป็นอย่างไร ทั้งสองนี้เกี่ยวข้องกับการศึกษาอย่างไร ปรัชญาส่วนนี้เป็นการมองปัญหาอย่างกว้างและลึกซึ้ง ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับอภิปรัชญามาก 3
ปรัชญาประยุกต์ที่นำ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน 1. ปรัชญาการศึกษาสารัตถนิยม (Essentialism) สารัตถนิยมตามแนวจิตนิยม มีความเชื่อว่า การศึกษาคือเครื่อง มือในการสืบทอดมรดกทางสังคมให้ดำ รงอยู่ต่อ ๆ ไป เน้นการจัดการเรียนการสอนบทบาทของครูในการถ่ายทอด ความรู้และสาระต่าง ๆ รวมทั้งค่านิยมคุณธรรมอันดีงามที่มีต่อสังคม 2. ปรัชญาการศึกษานิรันตรนิยม (Perenialism) การจัดการเรียนการสอนตามปรัชญานี้ จะมุ่งเน้นการสอนให้ผู้ เรียนจดจำ ใช้เหตุผล และตั้งใจกระทำ สิ่งต่าง ๆ 3. ปรัชญาการศึกษาพิพัฒนาการนิยม (Progressivism) จอนห์น ดิวอี้ (John Dewey) หันมาเน้นใช้การศึกษา เป็นเครื่องมือในการพัฒนาตัวผู้เรียน โดยเน้นว่าผู้เรียนควรเข้าใจและตระหนักในตนเอง 4. ปรัชญาการศึกษาบูรณาการนิยม (Reconstructionism) ปรัชญาสาขานี้มีความเชื่อพื้นฐานเกี่ยวกับผู้เรียน ครู หลักสูตร กระบวนการเรียนการสอน ตลอดทั้งลักษณะของการจัดการศึกษา เหมือนกับปรัชญาการศึกษาสาขา พิพัฒนาการนิยม เว้นแต่ในเป้าหมายของสังคมเท่านั้นที่แตกต่างกัน 5. ทฤษฎีการเรียนรู้พุทธิปัญญานิยม ทฤษฎีพุทธิปัญญานิยม มีหลักการที่สำ คัญว่า ในการเรียนรู้ผู้เรียนจะต้องเป็น ผู้กระทำ (active) และสร้างความรู้ 6. ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมเชิงพุทธิปัญญาบันดูราอธิบายว่าการเรียนรู้เกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนและสิ่ง แวดล้อมในสังคม ซึ่งทั้งผู้เรียนและสิ่งแวดล้อมจะมีอิทธิพลต่อกันและกัน 7. การประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการจัดการเรียนการสอน การจัดการที่สอดคล้องกับหลัก เศรษฐกิจพอเพียง คือ พอประมาณกับศักยภาพของผู้เรียนที่อยู่ในระดับชั้นต่าง ๆ พอประมาณกับภูมิสังคมของ โรงเรียนและชุมชนที่ตั้ง หลังจากนั้นต้องมีการค้นหาตัวอย่างกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อให้มีตัวอย่างเป็นรูปธรรม ในการสร้างความเข้าใจความหมายของหลังเศรษฐกิจและวิธีการที่จะนำ ไปใช้ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน แล้วส่ง เสริมให้บูรณาการการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมเหล่านี้เข้าไปในการเรียนรู้สาระต่าง ภาพประกอบที่ 1 ปรัชญาและปรัชญาการศึกษา 4
ความสัมพันธ์ระหว่างการศึกษาและปรัชญาการศึกษา 1. ปรัชญาเสนอเป้าหมายการศึกษา การศึกษาค้นเป็นไปเพื่ออะไร ปรัชญาอาจช่วยในการ พิจารณากำ หนดเป้าหมายได้ดังนี้ 1.1 ปรัชญาอาจช่วยชี้ให้เห็นว่าเป้าหมายการศึกษาที่เลือกนั้นสอดคล้องกับข้อเท็จจริงทางสังคม เศรษฐกิจ ลักษณะวัฒนธรรมศาสนา ที่กำ ลังปรากฏในสังคมหรือไม่ 1.2 เป้าหมายทางการศึกษาที่จะเลือกนั้นขัดแย้งกับเป้าหมายของกิจกรรมอื่นๆในสังคมหรือไม่ โดยเฉพาะกิจกรรมทางการเมืองและสังคม 1.3 เป้าหมายทางการศึกษาที่จะเลือกนั้นสอดคล้องกับการมีชีวิตที่ดีอย่างไร 2 ประชายาวิภาคและวิจารณ์เนื้อหาของปรัชญาทางการศึกษาช่วยนักศึกษาเห็นปัญหาของเขา กระจ่างขึ้น ช่วยขจัดคำ กำ กวมของคำ ที่ใช้ในวงการศึกษาช่วยวิเคราะห์และซักไซ้สมมติฐานของ ปัญหาการศึกษา 3.พัทยาให้ภาพรวมที่กลมกลืนปรัชญาช่วยเชื่อมโยงความรู้ที่ได้จากสารต่างๆทั้งหลายที่เกี่ยวกับ การศึกษาให้กลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อที่จะได้ใช้เป็นแนวทางในการจัดการศึกษาและ เชื่อมโยงแม่บทศาสตร์ที่เกี่ยวกับการศึกษาดังกล่าวเข้ากับประสบการณ์ด้านอื่นๆของมนุษย์ เป็นการวาดแผนที่รวมทั้งหมดของกิจกรรมมนุษย์เพื่อการหาความสอดคล้องของความรู้ของมนุษย์ ทั้งมวล ภาพประกอบที่ 2 การประยุกต์ใช้ปรัชญาการศึกษาในการจัดการเรียนการสอน ยุค 40 5
สภาวการณ์และสมรรถนะ การศึกษาไทย จากกระแสโลกาภิวัตน์ที่กล่าวมา เป็นบริบทส่งผลกระทบต่อการศึกษาของไทยใน รอบ 10 - 20 ปีที่ผ่านมา เป็นผลให้สมรรถนะการศึกษาไทยปัจจุบันมีแนวโน้มตกต่ำ ลง เรื่อยๆ และจะยังคงต่อเนื่องเช่นนี้ในอนาคต หากไม่ทำ อะไรกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น กล่าวคือ ในภาพรวมสมรรถนะการศึกษาของประเทศไทยในระดับนานาชาติไม่น่าพึง พอใจนัก ไม่ว่าจะมีการประเมินโดยองค์กรใดทั้งองค์กรในประเทศและองค์กรต่าง ประเทศ ดังจะเห็นได้จากการจัดอันดับโดยสถาบันนานาชาติว่าด้วยการพัฒนาการ จัดการ(International Institute for Management Development: IMD)ระหว่าง พ.ศ. 2547 -2550 อันดับการศึกษาของไทยอยู่ในอันดับที่ 48, 46, 48 และ 46 จาก จำ นวน 60, 60, 61, และ 55 ประเทศตามลำ ดับ ภาพประกอบที่ 3 อันดับความสามารถด้านการศึกษาของไทย พ.ศ.2547-2550 6
วิเคราะห์ปัญหาที่สำ คัญในการจัดการการศึกษา 1. คุณภาพการศึกษาพื้นฐานตกต่ำ ในการจัดการทดสอบการศึกษาขั้นพื้นฐาน (Ordinary National Educational Test: O-Net) ใน ทุกๆปีนั้น ผลที่ออกมามักจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันในทุกๆปี นั่นก็คือ เด็กไทยมีความรู้ต่ำ กว่า มาตรฐานอยู่เสมอๆ หรือแม้แต่การศึกษาขององค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organization for Economics Co-operation and Development, OECD) ที่รู้กันในชื่อของ PISA (Programme for International Students Assessment) พบว่านักเรียนไทยที่จัดได้ว่ามี ความรู้วิทยาศาสตร์อยู่ในระดับสูงมีเพียง 1% เท่านั้นเอง ทั้งๆที่เราใช้เวลาในการเรียนการสอน มากกว่า 8 ชม. ต่อวัน PISA ยังพบว่า เด็กไทย 74% อ่านภาษาไทยไม่รู้เรื่อง คือมีตั้งแต่อ่านไม่ ออก อ่านแล้วตีความไม่ได้ วิเคราะห์ความหมายไม่ถูก หรือแม้แต่ใช้ภาษาให้เป็นประโยชน์ในการ ศึกษาวิชาอื่นๆ แต่เรากลับมองสภาพเหล่านี้ด้วยความเคยชิน และยังคงเชื่อว่าลูกหลานของเราจะ ต้องได้รับการพัฒนาโดยการจัดการศึกษาแบบเดิมๆอย่างทุกวันนี้ 2. ปัญหาของครู ในประเทศฟินแลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่คุณภาพการศึกษาสูงอันดับต้นๆในโลก วิชาชีพที่ ประชาชนนิยม และให้การยอมรับนับถือมากที่สุดคือ วิชาชีพครู แต่ในประเทศไทย สังคมกลับเห็น ว่าในปัจจุบันวิชาชีพนี้ ไม่เป็นที่นิยมเท่ากับการประกอบอาชีพหมอ หรือวิศวกรตามที่สังคมได้ คาดหวัง ประเทศไทยมีการผลิตครูมากถึงปีละประมาณ 12,000 คน ในขณะที่อัตราการบรรจุครู ใหม่ในแต่ละปีมีเพียง 3-4 พันคนเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าในแต่ละปี บัณฑิตครูที่จบออกมาใหม่จะ มีการตกงานเบื้องต้นเกือบหนึ่งหมื่นคน แต่ในภาพรวมประเทศไทยยังนับว่าขาดแคลนครู โดย เฉพาะครูในสาขาวิชาสำ คัญๆ เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษา เป็นต้น ยังพบอีกว่า ไม่มี ความชัดเจนทางนโยบายในการที่จะสนับสนุนให้ผู้สำ เร็จการศึกษาในสาขาวิชาที่ตรงกับเนื้อหา สาระ ในทางตรงกันข้ามยังกลับพบมาตรการในเชิงกีดกันอีกด้วย เช่น การกำ หนดให้ผู้ที่จะรับใบ อนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้ต้องไปเรียนเพิ่มเติมอีกอย่างน้อยหนึ่งปี เป็นต้น 7
3. ขาดแคลนบัณฑิตแต่บัณฑิตก็ยังตกงาน ประเทศเราไม่มีแผน และกลไกการกำ กับการผลิตกำ ลังคนเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของ ประเทศ ในขณะที่ผู้สำ เร็จการศึกษาในบางสาขามีมากมายจนล้นงาน จนพบเนืองๆ ว่า ในการรับ สมัครงานบางตำ แหน่ง มีผู้สมัครหลายหมื่นคนเพื่อแย่งกันเข้าทำ งานที่มีการรับเพียงไม่กี่สิบอัตรา แต่ บางสาขาวิชากลับขาดแคลนกำ ลังคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรม และทางด้านการแพทย์ เราต้องการให้มีผู้เข้าศึกษาสายอาชีวะประมาณครึ่งหนึ่ง จึงจะทำ ให้มีกำ ลังคนเพียงพอต่อการพัฒนา อุตสาหกรรมของประเทศ แต่ในความเป็นจริงกลับพบว่า มีผู้เข้าเรียนอาชีวะเพียง 27% ทั้งนี้ นับรวม ถึงผู้ที่ไม่ได้เรียนสายอาชีวะแท้ แต่ไปเรียนอยู่ในวิทยาลัยอาชีวะด้วย เช่น สาขาด้านการบริหาร ซึ่ง หมายความว่า หากนับสายช่างจริงๆ จะมีจำ นวนน้อยกว่านั้นมาก กลายเป็นว่าในปัจจุบันเด็กที่เข้า เรียนในการจัดการศึกษาในระบบนั้นมีอนาคตที่ค่อนข้างชัดเจนว่าจะต้องตกงาน และปัญหานี้ยังไม่ได้ รับการแก้ไข 4. คุณภาพอุดมศึกษา/ปริญญาเฟ้อ มหาวิทยาลัยหลายแห่งเริ่มมีปัญหาเรื่องหาคนเข้าเรียน ทำ ให้ประสบปัญหาเรื่องความคุ้มทุน นำ ไปสู่ ความจำ เป็นที่ต้องดำ เนินการด้านการตลาดทุกวิถีทาง และมุ่งเปิดสอนแต่สาขาวิชาที่ทำ ได้ง่าย ต้นทุน ต่ำ และได้เงินเร็ว ซึ่งระบาดไปทุกระดับชั้นปริญญา เรามีบัณฑิตล้นงานในหลายสาขา แต่ขณะ เดียวกันก็มีการขาดแคลนในสาขาวิชาที่ยากๆ มหาวิทยาลัยจำ นวนมากมุ่งหาเงินจนเป็นระบบการ ศึกษาเชิงปริมาณ ความจำ เป็นที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดเช่นนี้ อาจพอเข้าใจได้สำ หรับ มหาวิทยาลัยเอกชนซึ่งต้องแบกภาระค่าดำ เนินการต่างๆ ด้วยรายได้ที่ต้องหามาเอง ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ได้กระจายเข้าไปสู่มหาวิทยาลัยของรัฐด้วย ในรูปแบบของการเพิ่มจำ นวน นักศึกษาโดยตรง หรือการจัดทำ เป็นโครงการพิเศษในลักษณะต่างๆ รวมทั้งเปิดสอนนอกสถานที่ตั้ง ซึ่งหากวิเคราะห์การเงินของโครงการเหล่านี้แล้วจะพบว่าส่วนใหญ่กลายเป็นค่าสอนของอาจารย์ สถานการณ์เช่นนี้ลุกลามไปจนถึงขั้นที่เรียกได้ว่า ปริญญาเฟ้อ ทุกระดับชั้นปริญญา กลายเป็นค่านิยม ของสังคมที่ต้องเรียนอย่างน้อยถึงปริญญาโท และกำ ลังจะคุกคามต่อไปถึงปริญญาเอก ภาพประกอบที่ 4 ความสำ คัญปรัชญาประยุกต์ที่นำ มาใช้ในการวัดและประเมินผล 8
สมัยเก่า จิตนิยม สัจนิยมนิโอ-ธอมิสซึม สารัตถนิยม นิรันตรนิยม สมัยปัจจุบัน ปฏิบัตินิยม ภาวะนิยม ปฏิรูปนิยม แนวคิดใหม่ ภาวะนิยม ปรัชญาวิเคราะห์ ภาวะนิยม ปรัชญาวิเคราะห์ ตารางที่ 1 ความแตกต่างของปรัชญาทั่วไปกับปรัชญาการศึกษา 9
ปรัชญาการศึกษา 1.ปรัชญาการศึกษาสารัตถนิยม โดย วิลเลียม ซี เเบกเรย์ แนวคิด การอนุรักษ์วัฒนธรรมและความเชื่อของสังคม จุดมุ่งหมาย มุมถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรม หลักสูตร เน้นตายตัว วิธีการสอน เน้นผู้สอนเป็นสำ คัญ 2.ปัญญาการศึกษานิรันดรนิยม โดย โรเบิร์ต เอ็ม ฮัทสัน แนวคิด เหตุผลและสติปัญญา จุดมุ่งหมาย ปลูกฝังความเชื่อและค่านิยม วิธีการสอน เน้นอภิปรายแบบถกเถียง 3.ปรัชญาการศึกษาพิพัฒนาการนิยม โดย จอนห์ ดิวอี้ แนวคิดการศึกษา คือชีวิตไม่ใช่เตรียมตัวเพื่อชีวิต จุดมุ่งหมาย สอนให้รู้จักคิดแก้ปัญหา หลักสูตร เน้นประสบการณ์ วิธีการสอน ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง 4.ปรัชญาการศึกษาแบบบูรณาการนิยม โดย โอเดอร์ บลาเมลล์ แนวคิดเน้นการศึกษาเพื่อสังคม จุดมุ่งหมาย แก้ไขปัญหาสังคม หลักสูตร เน้นสังคมเป็นหลักและยึดหลักสูตรเป็นแกน วิธีการสอน เน้นการแก้ปัญหาทางสังคม ตารางที่ 2 ปรัชญาการศึกษา 10
ประโยชน์ของปรัชญาการศึกษา ปรัชญาเป็นวิชาที่มีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำ วันเป็นอย่างยิ่ง ก็เพราะว่าปรัชญามุ่งจะให้คนมี โลกทรรศน์ที่กว้างขวางและสอนคนมีเหตุและผล (cause and effect) ในการแสวงหาคำ ตอบ กล่าวถึง ประโยชน์ในการศึกษาปรัชญาพอสังเขปดังนี้คือ 1.ปรัชญาสอนให้คนคิดและจินตนาการ (Imagine) ให้ออกนอกกรอบสู่อาณาจักรที่ไร้พรมแดน 2.ปรัชญาสอนให้คิดมีเหตุและผลและมุ่งแสวงหาปัญญารอบด้าน 3.ปรัชญาสอนให้คนรู้หนทางหรือวิธีในการแก้ไขปัญหาชีวิต 4.ปรัชญาจะประเมินและวิพากษ์วิจารณ์ความรู้ของมนุษย์ 5.มนุษย์ต้องการมากกว่าปัจจัย 4 นั่นก็คือโลกทรรศน์ที่ทุกคนต้องมี โดยที่ตัวเขาเองรู้หรือว่าไม่รู้ก็ตาม 11
บทสรุป ปรัชญาเป็นแนวความคิดที่ลึกซึ้งเพื่อค้นหาความรู้ที่เกี่ยวกับความเป็นจริงสูงสุดสำ หรับ มนุษย์และเป็นกระบวนการที่ประกอบด้วยการแสวงหาความรู้และเป็นผลแห่งการแสวงหา ความรู้ทั้งหลายปรัชญากับการศึกษาเป็นเรื่องที่มีความสัมพันธ์กันมาก ปรัชญามุ่งศึกษา เรื่องของชีวิตเพื่อจะหาความจริงอันเป็นที่สุดส่วนการศึกษานั้นมุ่งศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์และ วิธีการที่จะพัฒนาให้มีความสุขและประสบความสำ เร็จในชีวิตการงาน ปรัชญาการศึกษา คือการนำ เอาหลักการความคิดและผลจากการแสวงหาความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาอย่าง ชัดเจนหรือทักษะเกี่ยวกับการศึกษามาดัดแปลงให้เป็นระบบใหม่เพื่อประยุกต์ใช้ให้เป็น ประโยชน์ในการจัดการศึกษา ปรัชญาการศึกษามีลักษณะสำ คัญคือสามารถอธิบายถึง แนวคิดของนักปรัชญาได้มีการวิเคราะห์วิจารณ์ความคิดต่างๆ ทางการศึกษา รวมถึง อนุมานคาดคะเนเกี่ยวกับระบบการศึกษาด้วย ปรัชญาการศึกษามีหลายกลุ่ม แบ่งเป็น ปรัชญาสารนิยม สัจวิทยานิยม วิวัฒนาการนิยม ปฏิรูปนิยม และอัตถิภาวนิยม ภาพประกอบที 5 ปรัชญาการศึกษา 12
คำ ถามทบทวน 1.นักศึกษาคิดว่าประโยชน์ของปรัชญาการศึกษามีอะไรบ้าง 2.ปรัชญาทั่วไป กับ ปรัชญาการศึกษา มีความแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร 3.จงบอกความสำ คัญปรัชญาการประยุกต์ที่นำ มาใช้การวัด และ ประเมินผล 4.ปัญหาที่สำ คัญในการจัดการการศึกษาคืออะไร 5.ปรัชญาประยุกต์ที่นำ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนมีอะไรบ้าง 6.ลักษณะของปรัชญาการศึกษาควรเป็นลักษณะอย่างไร 7.การนำ ปรัชญาการศึกษามาประยุกต์ใช้ในการศึกษามีความหมายว่าอย่างไร 13
พิณสุดา สิรธรังศรี. (2552). ภาพการศึกษาไทยในอนาคต(รายงานผลการวิจัย). กรุงเทพมหานคร : พิมพ์ดีการพิมพ์ จำ กัด วิไล ตั้งจิตสมคิด.(2539). การศึกษาไทย. กรุงเทพมหานคร : โอ.เอส.พริ้นติ้ง เฮ้าส์ กาญจนาภา เพชรา. (2561). ปรัชญาการศึกษา. สืบค้น 6 ธันวาคม 2565, จาก https://www.sanook.com/campus มหาวีโรภิกขุ. (2552). ประโยชน์ของการศึกษาปรัชญา. สืบค้น 6 ธันวาคม 2565, จาก https://mahaviro มาริสา เชษฐวรรณสิทธิ์. (2562). หัวข้อที่ 03 ปรัชญาประยุกต์ที่นำ มาใช้ในการจัดการศึกษาของ ไทย. สืบค้น 6 ธันวาคม 2565, จาก https://marisachatwannasit เสาวมลมาศ เทพส่ง. (2561) ปรัชญาประยุกต์ที่นำ มาใช้ในการจัดการศึกษาของไทย. สืบค้น 6 ธันวาคม 2565, จาก https://saowamonmas020.home.blog บรรณานุกรม 14