E-book “สนกุ ยคุ โควดิ ”
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2
ระบบรา่ งกายมนุษย์
ระบบร่างกายมนุษย์
ความสัมพนั ธ์ของระบบ
อวัยวะในร่างกายของเรา
ระบบ
ไหลเวียนเลือด
ระบบ
หายใจ
ระบบ ระบบ
ยอ่ ยอาหาร ขับถา่ ย
ความสมั พนั ธ์ของระบบอวยั วะใน
ร่างกายของเรา
การจดั ระบบในรา่ งกาย
ร่างกายของมนุษย์และสตั วป์ ระกอบข้ึนจากหน่วยทม่ี ี
ขนาดเลก็ ที่สุด คือ เซลล์ จานวนมากมายหลายลา้ นเซลล์
เม่ือเซลลท์ ่ีมีรูปร่างและหนา้ ทที่ ่เี หมือนกนั มารวมกันเพือ่ ทา
หนา้ ท่ีเฉพาะ เรยี กว่า เน้อื เย่ือ เมอื่ เน้ือเย่ือต่างๆ รวมตวั กัน
จะเรียกว่า อวยั วะ และอวยั วะตา่ งๆ ทางานประสาน
สมั พนั ธ์กนั เปน็ ระบบอวัยวะ
ระดับเซลล์
ร่างกายของคนเราประกอบดว้ ยเซลลท์ ่ีมีรูปร่าง
แตกต่างกนั ไป ตามหนา้ ที่การทางาน ตวั อยา่ งเช่น
เซลลส์ บื พันธุ์ : ถา่ ยทอดข้อมูล
ทางพนั ธกุ รรมจากรนุ่ สู่รนุ่
เซลลก์ ล้ามเนอ้ื : หดตัว
และคลายตัวเพอื่ ช่วยใน
การเคล่ือนไหว
เซลลป์ ระสาท : ควบคมุ การ
แสดงพฤติกรรมต่างๆ
ระดับเนอ้ื เยื่อ
เนื้อเย่ือ คือ กลมุ่ ของเซลลท์ มี่ ีรปู รา่ งเหมอื นกนั มา
อยู่รวมกันเพื่อทาหนา้ ท่อี ยา่ งใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ
โดยเนอ้ื เย่อื แบ่งออกเป็น 4 ชนิด
ระดับอวัยวะ
อวัยวะเกิดจากเนื้อเยื่อหลายชนดิ มารวมตวั กัน เพ่ือทา
หนา้ ท่อี ย่างเดียวกัน
1 สมอง : ศูนยก์ ลางของความคิด
1 2 ปอด : ทาหน้าทีแ่ ลกเปลย่ี นอกซิเจน
และคาร์บอนไดออกไซดใ์ ห้กับรา่ งกาย
5 2 3 ไต : เป็นอวยั วะหนงึ่ ของการ
ขบั ถ่ายทาหนา้ ทก่ี รองของเสยี ออกจาก
6 3 เลือด
7 4 กระดูก : เปน็ ส่วนหน่งึ ของระบบคา้
จุน
4 5 หัวใจ : ทาหนา้ ทีส่ ูบฉดี เลอื ดให้
หมุนเวียนทั่วตามร่างกาย
6 กระเพาะอาหาร : ทาหนา้ ท่ี
คลกุ เคลา้ และย่อยอาหารฟ
7 อวัยวะเพศ : ทาหน้าท่สี รา้ งเซลล์
สืบพนั ธ์ุ
ระดบั ระบบร่างกาย
• อวัยวะหลายชนดิ ทางานประสานกนั เพ่ือทาหนา้ ท่ี
อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ โดยเฉพาะ เรียกว่า ระบบรา่ งกาย
• ระบบแตล่ ะระบบในรา่ งกายจะทางานประสานสัมพนั ธ์
กัน เพ่ือใหม้ นษุ ยด์ ารงชีวติ ไดอ้ ย่างปกติ
ระบบย่อยอาหาร
การย่อยอาหาร
การยอ่ ยอาหาร คอื การทาให้อาหารทีม่ ีโมเลกลุ
ใหญก่ ลายเปน็ สารอาหารทีม่ ีโมเลกุลเล็ก จนสามารถ
ผา่ นเย่อื หุม้ เซลลไ์ ด้ ซึ่งการยอ่ ยอาหารในร่างกายมี 2
วิธี ดงั นี้
• การยอ่ ยเชิงกล : การบดเค้ียวอาหารโดยฟนั
• การยอ่ ยเชงิ เคมี : ใชเ้ อนไซมท์ าให้โมเลกุลของ
อาหารมขี นาดเล็กลง
การย่อยอาหารของสัตว์
การยอ่ ยอาหารของสัตว์ที่ไม่มที างเดนิ อาหาร
• สัตว์ทไ่ี ม่มรี ะบบทางเดินอาหารที่ชดั เจน จะมเี พยี ง
เซลล์ท่ที าหน้าทด่ี กั จับอาหาร
แล้วสรา้ งเป็นถุงอาหาร จากนั้นจะยอ่ ยสลายอาหาร
ด้วยเอนไซม์จากไลโซโซม
ถงุ อาหาร
การย่อยอาหารของสตั วท์ ม่ี ีทางเดนิ อาหาร
ไมส่ มบรู ณ์
• จะมโี ครงสรา้ งทีเ่ ป็นชอ่ งเปดิ เพอื่ นาอาหารเขา้ สรู่ ่างกาย
ไดแ้ ก่ ปาก และยังทาหนา้ ทีเ่ ป็นทวารหนัก ปล่อยเศษอาหาร
ออกสูภ่ ายนอกด้วย
• สัตว์กลุ่มน้ี ไดแ้ ก่ ไฮดรา และ พลานาเรีย
• จะใชห้ นวดหรอื งวงจับอาหารเข้าสู่ปาก และผา่ นเขา้ ไปใน
ช่องว่างกลางลาตวั ทปี่ ระกอบด้วยเซลลซ์ ่ึงทาหนา้ ท่ีย่อย
สลายอาหาร โดยการสร้างเอนไซม์มาย่อยอาหารจนมี
โมเลกลุ ขนาดเลก็ และลาเลียงเขา้ สูเ่ ซลล์ร่างกาย
อาหาร ของเสีย
การยอ่ ยอาหารของสัตว์ทม่ี ที างเดินอาหาร
สมบูรณ์
• ทางเดนิ อาหารประกอบด้วย ปาก คอหอย ถงุ พักอาหาร
หรอื กระเพาะอาหาร ลาไส้ และทวารหนัก ซ่ึงกากอาหาร
จะถกู ขับออกทางช่องทวารหนัก
• สตั ว์ในกลุม่ นี้ เช่น ปลา แมลง เป็นตน้
ปาก ทวารหนัก
ตับ ลาไส้เลก็
หลอด
อาหาร
ทวารหนกั
ปาก กระเพาะอาหาร
ตอ่ มนา้ ลาย
อวยั วะในระบบยอ่ ยอาหาร
ปาก (mouth)
• เกิดการยอ่ ยเชิงกลจากการบดเคีย้ ว และเกิดการยอ่ ยเชงิ
เคมีโดยเอนไซมอ์ ะไมเลส (amylase) ทจ่ี ะย่อย
คาร์โบไฮเดรตให้มโี มเลกุลขนาดเลก็ ลง แต่ร่างกายยงั ไม่
สามารถนาไปใช้ได้ เนอื่ งจากโมเลกุลยังมขี นาดใหญเ่ กนิ
กวา่ จะผ่านเยือ่ ห้มุ เซลลไ์ ด้
• หลังจากการย่อยแล้วอาหารจะถกู ส่งต่อไปยงั หลอด
อาหาร ซง่ึ เรียกว่า การกลนื อาหาร
คาร์โบไฮเดรต เอนไซมอ์ ะไมเลส นา้ ตาลโมเลกุล
ขนาดเล็ก
หลอดอาหาร (esophagus)
• ลกั ษณะเปน็ ทอ่ ตรงตอ่ จากคอหอยไปยังกระเพาะอาหาร
• กล้ามเนื้อของหลอดอาหารจะไมม่ กี ารสรา้ งน้ายอ่ ย
• อาหารจะเคล่อื นทผ่ี ่านหลอดอาหารโดยการหดตวั และ
คลายตวั ของชัน้ กล้ามเน้ือ ในลกั ษณะลกู คลน่ื เป็นระยะๆ
เรยี กว่า เพอริส ทลั ซสี (peris talsis)
กระเพาะอาหาร (stomach)
• เป็นส่วนทางเดินอาหารท่ีมีขนาดใหญ่ท่สี ุด ซงึ่ มี
กลา้ มเนอ้ื หนาและแขง็ แรงมาก
• เมอื่ อาหารมาถงึ กระเพาะอาหาร กระเพาะอาหาร
จะสรา้ งของเหลวออกมา 3 ชนดิ คอื นา้ ยอ่ ย กรด
เกลือ และเอนไซม์สาหรบั ยอ่ ยโปรตนี สายสั้นๆ
ส่วนคาร์โบไฮเดรตและไขมันจะไม่ถูกย่อยที่
กระเพาะอาหาร
โปรตนี เอนไซมเ์ ปปซิน กรดอะมโิ น
ลาไสเ้ ล็ก (small intestine)
• เปน็ ทางเดนิ อาหารส่วนทยี่ าวท่ีสดุ
• ผนังดา้ นในมบี รเิ วณทีย่ นื่ เข้าไปภายใน เรยี กว่า วลิ ลัส
(villus) เพอื่ เพมิ่ พืน้ ที่ผิวในการดดู ซมึ อาหาร
• ผนังลาไสเ้ ลก็ จะสรา้ งเอนไซม์ในการย่อยโปรตนี ไขมนั
และคาร์โบไฮเดรต
ตบั (liver)
ตบั (liver)
• ทาหนา้ ที่สรา้ งนา้ ดี แลว้ สง่ ไปเก็บไวใ้ นถุงนา้ ดี ซง่ึ นา้ ดจี ะ
ทาให้ไขมนั แตกตัว เพอ่ื ชว่ ยใหเ้ อนไซมจ์ ากตับออ่ นยอ่ ย
สลายไขมันได้ดขี น้ึ
ตบั อ่อน (pancreas)
• ทาหน้าที่สร้างน้าย่อยหลายชนิด สร้างเอนไซมแ์ ละ
สารประกอบโซเดยี มไฮโดรเจนคาร์บอเนต ซึ่งมคี ณุ สมบตั ิ
เป็นเบส เพ่ือปรับสภาพอาหารที่สง่ มาจากกระเพาะอาหาร
ให้มสี มบตั ิเป็นกลาง
ตบั
ถงุ นา้ ดี ตับอ่อน
ลาไสเ้ ล็ก
ลาไสใ้ หญ่ (large intestine)
• อาหารท่เี หลอื จากการย่อยและอาหารที่ย่อยไมไ่ ด้ จะถูก
ส่งลงสู่ลาไส้ใหญ่
• ลาไส้ใหญ่จะทาหนา้ ที่ดูดน้าและแรธ่ าตกุ ลับสู่รา่ งกาย
สว่ นกากอาหารจะเคลือ่ นที่ไปรวมกนั ที่ปลายของลาไส้
ใหญ่รอขบั ถ่ายออกทางทวารหนกั ตอ่ ไป
ระบบไหลเวยี นเลอื ด
ระบบไหลเวยี นเลอื ดของสัตว์
การไหลเวยี นเลอื ดของสัตว์ไมม่ ีกระดกู สนั หลัง
• เป็นแบบระบบเปดิ คอื เลือดทีอ่ อกจากหัวใจ
ไมไ่ ด้ไหลอย่ใู นหลอดเลือดตลอดเวลา แต่มบี างชว่ ง
เลือดจะไหลเขา้ ไปในช่องวา่ งกลางลาตวั
• พบในสัตวพ์ วกหอย แมลง กุ้ง ปู เป็นตน้
การไหลเวียนเลือดของสัตว์ไมม่ กี ระดูกสนั หลงั
• เป็นแบบระบบปิด คอื เลอื ดทีอ่ อกจากหัวใจ
จะไหลผ่านหลอดเลือดตลอดจนกลบั คนื สู่
หัวใจ
• พบในสัตว์พวกปลา มนษุ ย์ เปน็ ต้น
ระบบไหลเวียนเลอื ดของแมลง
• มรี ะบบไหลเวียนเลอื ดแบบเปิด
• หัวใจเป็นส่วนของเสน้ เลือดที่มีลกั ษณะโปง่ ออกเปน็
ชว่ งๆ
• มีรูเล็กๆ เรยี กวา่ ออสเทีย ทาหนา้ ทีร่ บั เลอื ดจากสว่ น
ตา่ งๆ ในลาตวั ไหลเขา้ สหู่ ัวใจ
• ไม่มหี ลอดเลอื ดฝอย แต่มีช่องว่างกลางลาตัว เรยี กว่า
ฮโี มซีล ทาหนา้ ทรี่ บั เลือดจากหลอดเลือด เพอื่ ลาเลยี ง
สารไปยงั สว่ นตา่ งๆ ของร่างกาย
ออสเทยี
หัวใจ
ระบบไหลเวียนเลือดของปลา
• มรี ะบบไหลเวียนเลอื ดแบบปิด
• ประกอบดว้ ยหวั ใจ 2 ห้อง โดยหวั ใจห้องบนทาหน้าท่ีรับ
เลือดทีม่ อี อกซิเจนตา่ จากสว่ นตา่ งๆ ของร่างกายแล้วส่ง
ต่อไปยงั หัวใจห้องล่าง ซ่ึงทาหนา้ ท่สี บู ฉีดเลือดทม่ี ี
ออกซิเจนต่าไปยังเหงือก
• เหงือกจะทาหน้าท่ีแลกเปล่ยี นแกส๊ โดยเลอื ดท่ผี ่าน
เหงอื กแลว้ จะมแี ก๊สออกซิเจนสงู ซง่ึ จะสง่ ไปเลย้ี งส่วน
ต่างๆ ทวั่ ร่างกายผา่ นทางหลอดเลอื ดแดง
เหงอื ก
หวั ใจ
ระบบไหลเวยี นเลือดของมนษุ ย์
หัวใจ
• ทาหนา้ ท่ีสูบฉีดเลอื ดไปเลยี้ งสว่ นต่างๆ ของรา่ งกาย
• แบ่งเป็น 4 หอ้ ง ซง่ึ เป็นห้องบน 2 ห้อง เรยี กว่า เอเทรยี ม
และหอ้ งลา่ ง 2 หอ้ ง เรยี กวา่ เวนตรเิ คิล
• ระหวา่ งหวั ใจหอ้ งบนและหอ้ งล่างจะมีลิ้นหวั ใจคอยปดิ -
เปิดไม่ให้เลอื ดไหลยอ้ นกลบั
หลอดเลือดแดงใหญ่ หลอดเลือดแดง
นาเลือดไปเลีย้ งส่วน นาเลอื ดไปปอด
ต่างๆ ของรา่ งกาย
หลอดเลือดดานาเลือด
หลอดเลอื ดดา จากปอดเข้าส่หู ัวใจ
นาเลอื ดจากรา่ งกาย
เข้าส่หู ัวใจ หวั ใจห้องบนซา้ ย
หวั ใจหอ้ งบนขวา หวั ใจหอ้ งล่างซา้ ย
หัวใจห้องลา่ งขวา
หลอดเลอื ด
แบง่ ออกเป็น 3 ชนดิ ดังนี้
หลอดเลือดแดงหรือหลอดเลอื ดอาร์เทอรี (artery)
• นาเลือดออกจากหัวใจ
• ผนงั หลอดเลอื ดมชี นั้ กล้ามเนอื้ เรียบทห่ี นาและยืดหยุ่น
• เลอื ดทอี่ ยใู่ นหลอดเลอื ดแดง เปน็ เลอื ดทีม่ ีแก๊สออกซเิ จน
สงู เรยี กวา่ เลือดแดง ยกเวน้ หลอดเลอื ดแดงที่นาเลือด
จากหวั ใจไปยังปอด ซ่งึ จะมีแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดส์ ูง
เรยี กวา่ เลอื ดดา
หลอดเลือดดาหรือหลอดเลือดเวน (vein)
• นาเลือดกลบั สู่หัวใจ
• มผี นังบางกว่าและบรรจุเลอื ด
• ได้มากกวา่ หลอดเลือดแดง
• ภายในหลอดเลือดมีลน้ิ ก้นั ไมใ่ หเ้ ลือดไหลย้อนกลบั
• เลอื ดท่อี ยู่ในหลอดเลือดดามแี กส๊ คาร์บอนไดอ้ อกไซด์สงู
เรียกว่า เลอื ดดา ยกเว้นหลอดเลือดดาที่นาเลือดออกจาก
ปอด เข้าสู่หัวใจจะเป็นเลือดแดง
หลอดเลือดฝอย
•มีขนาดเล็กมาก
•อยู่ระหวา่ งปลายของหลอดเลือดแดงและ
หลอดเลือดดา
เลอื ด
มสี มบตั ิเปน็ เบสออ่ น ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วน ดงั นี้
• สว่ นทเี่ ป็นของเหลว คือ น้าเลอื ดหรอื พลาสมา
(plasma) ประกอบด้วยนา้ และสารตา่ งๆ
• สว่ นท่เี ป็นเม็ดเลอื ด เป็นส่วนท่ีไมใ่ ช่ของเหลว ซึ่ง
ประกอบดว้ ยเซลล์เม็ดเลอื ด และเกลด็ เลือด
เซลล์เมด็ เลอื ดแดง (erythrocyte)
•มรี ปู รา่ งกลมแบน ตรงกลางบมุ๋ ไมม่ นี วิ เคลยี ส
•ภายในเซลลม์ ีสารโปรตนี ทีเ่ รยี กว่า เฮโมโกลบนิ
•สร้างโดยไขกระดูก มอี ายปุ ระมาณ 120 วนั
และจะถกู ทาลายที่มา้ ม
เซลลเ์ ม็ดเลือดขาว (leucocyte)
• เป็นเซลล์ทีม่ นี ิวเคลียส
• สรา้ งโดยม้ามและไขกระดกู
• มหี ลายชนดิ โดยแต่ละชนดิ จะทาหน้าทแ่ี ตกตา่ งกัน ซ่งึ
บางชนดิ ทาหนา้ ที่จบั และทาลายเชื้อโรคทเ่ี ข้าสู่รา่ งกาย
เกลด็ เลือด (platelets)
• เป็นช้ินสว่ นของเซลลท์ มี่ รี ปู รา่ งเปน็ แผน่ เล็กๆ
ปนอยูใ่ นนา้ เลือด
• มีหน้าที่ชว่ ยให้เลอื ดแขง็ ตวั เมือ่ เกิดบาดแผล
• มีอายปุ ระมาณ 10 วัน
การไหลเวยี นของเลือด
• เลือดจากสว่ นต่างๆของรา่ งกายท่ีมีแก๊สารบ์ อนไดออกไซด์
สูง เขา้ สู่หัวใจทางหอ้ งบนขวา แลว้ ผา่ นลนิ้ หวั ใจลงส่หู อ้ ง
ลา่ งขวา
• หวั ใจจะสง่ เลอื ดไปยังปอดผ่านหลอดเลือดอาร์เทอรี เพื่อ
แลกเปล่ียนแก๊ส
• เลอื ดทมี่ อี อกซเิ จนสงู จากปอดไหลกลบั ส่หู วั ใจทางหลอด
เลือดเวน เขา้ ส่หู ัวใจหอ้ งบนซา้ ย แลว้ ไหลผา่ นลนิ้ หวั ใจสู่
ห้องลา่ งซ้าย
• หัวใจบบี ตัวสง่ เลือดท่ีมีออกซิเจนสงู ออกทางหลอดเลือด
อาร์เทอรีไปเล้ยี งส่วนต่างๆ ของรา่ งกาย
หวั
ปอด
หวั ใจ
ตับ
ทางเดนิ อาหาร
ไต
อวัยวะอ่นื ๆ
ระบบหายใจ
ระบบหายใจของสตั ว์
ไฮดรา แมลง
• ไม่มอี วยั วะในการหายใจ มีช่องหายใจเล็กๆ ขา้ ง
• มกี ารแลกเปล่ียนแกส๊ ลาตัวบริเวณทอ้ ง ซ่งึ จะติด
ออกซิเจนและแกส๊ กับท่อลม
คารบ์ อนไดออกไซด์ที่ • ท่อลมมีลักษณะแตก
เกดิ ขึน้ ในเซลล์ โดยการ เป็นแขนง
แพรผ่ ่านเย่ือห้มุ เซลล์
โดยตรง ทาหน้าทใี่ นการ
แลกเปลยี่ นแก๊ส
O2 O2
CO2 O2
ทอ่ ลม
ถงุ ลม ช่องหายใจ
ปลา
• มีอวยั วะท่ใี ช้หายใจ คอื เหงือก ซงึ่ ทาหน้าทีแ่ ลกเปลย่ี น
แก๊ส
• เหงอื กมลี ักษณะเปน็ ซๆ่ี เรียงตวั กันเป็นแผง โดยแต่ละซจ่ี ะ
มหี ลอดเลอื ดฝอยมาหลอ่ เลยี้ งจานวนมาก
ระบบหายใจของมนษุ ย์
อวัยวะที่ชว่ ยในการหายใจ
• เริ่มตน้ ท่ีปากและจมูกไปสหู่ ลอดลม
• ปลายของหลอดลมแตกเป็น 2 แขนง เรียกว่า แขนง
ปอด ซง่ึ เมือ่ เขา้ ไปในปอดจะแตกแขนงเล็กๆ
มากมาย เรียกวา่ หลอดลมฝอย
• ปลายหลอดลมฝอยมถี ุงเล็กๆ เรยี กว่า ถงุ ลม
• การนาอากาศเข้าออกจากปอดเป็นการทางาน
รว่ มกนั ของกลา้ มเน้อื ยึดกระดูกซีโ่ ครงและกลา้ มเนอื้
กะบงั ลม
แขนงปอด
หลอดลม
หลอดลมฝอย
ถุงลม
การผา่ นเขา้ ออกของอากาศโดยการหายใจ
การหายใจเข้า : กระดูก
ซีโ่ ครงเล่อื นสงู ขนึ้ กะบงั ลม
เล่อื นต่าลง ทาให้ปริมาตรช่อง
อกมากขึ้น ความดันอากาศ
ต่าลง อากาศจึงผ่านเขา้ สูป่ อด
การหายใจออก : กระดูกซโ่ี ครง
เล่ือนตา่ ลง กะบงั ลมเล่อื นสูงขน้ึ
ทาใหป้ ริมาตรช่องอกลดลง ความ
ดนั อากาศสูงขึ้น อากาศจึงผ่าน
ออกจากปอด
การหายใจระดบั เซลล์
การแลกเปลีย่ นแก๊สที่ถุงลม
ออกซิเจนในถงุ ลมจะแพรเ่ ขา้
สู่เลือด ส่วน เลือดจาก
คาร์บอนไดออกไซดใ์ นเลอื ด หวั ใจ O2 เลือดกลบั
CO สูห่ ัวใจ
จะแพรเ่ ขา้ สถู่ งุ ลม แล้วขบั
2
ออกทางลมหายใจออก
การแลกเปลี่ยนแกส๊ ท่เี ซลล์ เซลลร์ า่ งกาย
เมอ่ื ออกซเิ จนและ
สารอาหารเขา้ สเู่ ซลล์จะ อาหาร CO2 + น้า
เกิดปฏิกิรยิ า ซ่ึงไดพ้ ลงั งาน O2
ออกมา เรียกกระบวนการนี้
วา่ กระบวนการหายใจ หลอดเลือดฝอย
การแลกเปล่ยี นแกส๊ และการหมุนเวียนเลอื ด
ในร่างกายมนษุ ย์
ระบบขับถา่ ย
ระบบขบั ถ่ายของสัตว์
พลานาเรยี เฟลมเซลล์
• อวยั วะขับถ่ายท่ีเรยี กวา่
เฟลมเซลล์ (flame
cell) ซงึ่ เปน็ ทอ่ กระจาย
อยู่ทงั้ สองขา้ งของลาตวั
และมีรขู ับของเสียออกขา้ ง
ลาตวั
ไสเ้ ดือนดนิ
•ใช้เนฟริเดียม (nephridium) รับของเสียทม่ี า
ตามทอ่ และมที อ่ เป็นรเู ปดิ ออกข้างลาตัว
เนฟรเิ ดียม
แมลง
• ใช้ท่อมลั พเิ กียน (mulphigian) ซึ่งเป็นท่อขนาดเล็ก
จานวนมากทีอ่ ย่รู ะหวา่ งกระเพาะอาหารกับลาไส้ ทาหนา้ ท่ี
ดดู ซมึ ของเสียจากเลือดสง่ ตอ่ ไปยงั ทางเดนิ อาหาร และขบั
ออกทางชอ่ งทวารหนัก
ทอ่ มัลพเิ กียน
ปลา
• มอี วยั วะขบั ถ่าย คือ ไต (kidney) อยู่ภายในช่องท้องคอ่ น
ไปทางดา้ นบนของลาตัว ของเสียท่ีส่งมาสไู่ ตจะถกู สง่ ตอ่ ไป
ยังกระเพาะปสั สาวะ และ ขบั ออกทางรา่ งกายทาง
ช่องทวารหนัก
ไต
ระบบขบั ถ่ายของมนุษย์
ไต
• ทาหน้าที่กรองของเสยี ท่รี า่ งกายไม่ตอ้ งการ รวมทั้งชว่ ย
รกั ษาสมดุลของนา้ แร่ธาตุ และสารบางชนดิ
• ภายในไตประกอบไปด้วยหนว่ ยไต (nephron) ซึ่งทา
หน้าทีก่ รองเลอื ด
• เลือดทมี่ อี อกซิเจนสูงเขา้ สู่ไตทางหลอดเลือดแดง ซ่งึ สารท่ี
มปี ระโยชนต์ อ่ รา่ งกาย เชน่ น้า กลโู คส จะถกู ดูดกลับเข้าสู่
หลอดเลอื ดฝอย แล้วลาเลียงเข้าสหู่ วั ใจทางหลอดเลือดดา
• ของเสียที่รา่ งกายไมต่ อ้ งการจะสลายเป็นปสั สาวะ ลาเลียง
ไปยงั กระเพาะปัสสาวะเพ่ือรอการขับถ่าย
ผวิ หนงั
• ของเสียท่ขี ับออกทางผวิ หนังจะอย่ใู นรปู ของเหลว
เรียกวา่ เหงื่อ (sweat) ซ่ึงประกอบด้วยน้าและเกลือแร่
• เหงือ่ จะถูกขบั ออกตามสว่ นต่างๆของร่างกาย เชน่ ฝ่ามือ
ฝ่าเท้า ใตร้ ักแร้ แผ่นหลัง
• แต่ละวนั ร่างกายสูญเสียนา้ ในรูป ของเหง่ือ ประมาณ
500-1,000 ลกู บาศก์เซนติเมตร
รูขุมขน
ต่อมเหงือ่
ปอด
• ทาหนา้ ทแ่ี ลกเปลย่ี นแก๊ส ซึ่งจะเกดิ ขึ้นทถ่ี งุ ลมในปอด
ลาไสใ้ หญ่
• อาหารทีผ่ า่ นกระบวนการย่อยอาหารจะถูกส่งตอ่
มาสะสมท่ีลาไสใ้ หญ่ในรูปของกากอาหาร
• ตลอดระยะเวลาในการเคลอื่ นที่ของอาหาร
จะมีการดูดซมึ น้าและสารอาหารกลับคนื สู่ร่างกาย
สว่ นกากท่เี หลอื จากการยอ่ ย คือ อจุ จาระ
จะถกู ขบั ออกทางทวารหนกั
สรุปทบทวนประจาหนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1
• การจดั ระบบในรา่ งกายมนษุ ย์และสัตว์ แบ่งออกเป็น 4
ระดบั ได้แก่ ระดับเซลล์ ระดับเนอื้ เย่ือ ระดับอวัยวะ
และระดับระบบร่างกาย
• การยอ่ ยอาหาร คอื การทาใหอ้ าหารทม่ี ีโมเลกุลขนาดใหญ่
กลายเปน็ สารอาหารทม่ี ีโมเลกลุ ขนาดเลก็ ลง จนสามารถ
ผา่ นเย่ือหมุ้ เซลลไ์ ด้
• การย่อยอาหารของมนษุ ย์ ประกอบด้วยอวยั วะตา่ งๆ
ไดแ้ ก่ ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลาไส้เลก็ ตับ
ตบั อ่อน และลาไส้ใหญ่
• ระบบไหลเวยี นเลอื ด มหี นา้ ทีล่ าเลียงสารอาหารท่ีผ่าน
กระบวนการยอ่ ยไปยงั ส่วนต่างๆ ของร่างกาย และลาเลยี ง
ของเสียท่ีรา่ งกายไมต่ ้องการไปยังระบบขับถ่าย
• ระบบหายใจ จะนาออกซิเจนเข้าส่รู ่างกาย เพอื่ ใช้ใน
กระบวนการยอ่ ยสลายสารอาหาร
• ระบบขบั ถา่ ย เปน็ ระบบกาจดั ของเสยี ทีร่ ่างกายไมต่ อ้ งการ
ออกนอกรา่ งกาย เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ยูเรยี
แอมโมเนยี เปน็ ตน้