The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุมชนลาวครั่ง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by gigi9cat, 2023-01-25 11:00:03

ชุมชลาวครั่ง

ชุมชนลาวครั่ง

ຊ ມຊ ົ ນລາວຄຣາງ (ช ุ มชนลาวคร ั ง) P E A C E A N D H A P P I N E S S


ถ ิ นก ํ าเน ิ ด กลุ่มลาวค ังสืบเช ือสายมาจากหลวงพระบางโดย เป นชาวลาวท ีอพยพมาด้วย เหตุผลทางสงครามช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น สมัยรัชกาลท ี3 (พระบาทสมเด ็ จ พระน ังเกล้าเจ้าอยู่หัว) แต่บางกลุ่มท ีอายุ60-70 ว่ามาจากทางเวียงจันทน์ มีความเป นไปได้ว่า เม ือมีการกวาดต้อนมาคร ังสงครามระหว่างไทยกับลาว โดยเฉพาะเม ือเจ้าอนุวงศ์เป นกบฎ ก ็ มีการกวาดต้อนมาจากหลวงพระบาง เป นจํานวนมาก และไพร่พลมาพักท ีเวียงจันทน์ก่อน ด้วยเหตุน ีชาวบ้านบางกลุ่ม จึงบอกว่ามาจากหลวงพระบาง แต่บางส่วนว่ามาจากทางเวียงจันทน์” ได้มีการ กวาดต้อนชาวลาวมาไว้ตามหัวเมืองช ันในต่างๆใกล้กรุงเทพฯ อําเภอ ดอนตูม จังหวัด นครปฐม เป นพ ืนท ีหน ึงท ีมีชาวลาวอาศัยอยู่มาก ชาวลาวเหล่าน ีเรียก ตนเองว่า “ลาวคร ัง” เน ืองจากชาวลาวคร ังมีพ ืนฐานถิ นเดิมอยู่ท ีเทือกเขาภูคัง เมืองหลวงพระบาง หลักฐานท ีช่วยยืนยันท ีมาของลาวกลุ่มน ีคือระบบฐานเสียง สําเนียงพูด มีความคล้ายคลึงกับลาวแถบเมืองหลวงพระบางมากกว่าลาวเมือง เวียงจันทร์


แหล่งท ี ต ัง และท ี มาของช ื อ ประว ั ติ ชาวลาวคร งักระจายกันอยูใ่น จังหวัดนครปฐม จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดชยันาท จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดกําแพงเพชร ท ีมาของช อืลาวคร งัมาจากช อืของ คร งัท ีชาวลาวเวียงจันทนก์ลุ่มน นียิมนาํมา ใชย้อ้มสีผา้ใหโ้ทนสีแดง เพ อื ใชใ้นการทอ เปน เคร อืงนงุ่หม่เชน่ผา้ซนิ ใชภ้าษาใน ภาษาลาวคร งัอยูใ่นตระกลู ภาษาไท-กะได ไมม่อี ักษรและไมม่รีะบบ การเขยีนเปน การเฉพาะ ใชอ้ ักษรลาวรว่ม กันกับกลุ่มชาติพนัธุล์าวอ ืนๆ สําเนยีงพดู มคีวามคล้ายคลึงกับลาวแถบเมอืง หลวงพระบางมากกว่าลาวเมอืงเวียงจันทร์ ภาษา


ช ุ มชนลาวคร ั งใน อ.ดอนต ู ม จ.นครปฐม อาชพีสว่นใหญ่คือ เกษตรกรรม เชน่การเพาะปลูกขา้ว การทํานา เครอืงมอืท ีใช้คือ ทนานใสข่า้ว “ไมค้านหลาว” ท ีใชใ้นการแทงขา้วหรอืพยุ้ ขา้วในระหว่างการเก ็ บเก ียว การประมง โดยการดักสัตว์นา หาปลา งานชา่งไม้จากเคร อืงมอืชา่งท ีแสดงใหเ้หน ็ อาชพี ในชุมชนค่อนขา้ง มคีวามสามคัคีปรองดอง กัน การสรา้งวัดท ีเกิดจากสายสัมพนัธข์อง คนในชุมชนท ีหล่อหลอมเอาแรงกายใจและ แรงศรทัธาเพ อืสืบสานพระพทุธศาสนา ตกทอดจากบรรพบุรุษ เพ อืเปน อนสุรณใ์ห้ ลูกหลานรุน่หลังไว้เปน เคร อืงยดึเหน ยีวจิตใจ ตอกยา ความเปน หน งึเดียวของบรรพชน ท ีเหนยีวแนน่จากบรรพบุรุษชาวลาว สภาพสงัคม


ยังมีความเชื อเร ืองภูตผี วิญญาณอย่างเหนียวแน่น ถึง แม้พระพุทธศาสนาจะเข้ามา มีบทบาทต่อสังคมชาวลาว คร ัง ก ็ไม่ทําให้ความเชื อ ลบล้างไป อาทิในพิธีการ แต่งงานของชาวลาวคร ัง การนับถือผีของชาวลาวคร ัง เป นการถือผีตามบรรพบุรุษ คือผีเจ้านายและผีเทวดา การนับถือมีอิทธิพลต่อชาว ลาวคร ังมาก แม้แต่ในแง่ของ การดําเนินชีวิตไม่ว่าจะ เป นการประกอบพิธีกรรมหรือ การดํารงชีวิตประจําวัน ก ็ จะ ต้องไปข้องเก ียวกับผี ของบรรพบุรุษ เน ืองจาก อาชีพหลักของชาวลาวคร ัง คือการทํานา จึงมีประเพณี ความเช ือท ีถือปฏิบัติกันมา เพ ือความอุดมสมบูรณ์ พิธีกรรมมีความสัมพันธ์กับ ความเชื อ เพราะพิธีกรรมต้อง มีความเช ือเป นพ ืนฐานของ การกระทําไม่ว่าจะเป นความ เช ือต่อสิ งใด ฉะนั นความเชื อ จึงเป นรากฐานการกระทํา ผีวิญญาณบรรพบุรุษ ยังเป นการควบคุมความ ประพฤติของคนในสังคมของ หมู่บ้านเป นอย่างดีนอกจากนี ยังพบว่าชาวบ้านแห่งนี ความเช ื อ ห อเจ้า น าย ตามความเช ือผีของครอบครัว คือ ผีเจ้านาย คือ มูลนายท ีอพยพเข้ามาอยู่ก่อน เป นนักรบผู้สืบเช ือสาย เผ่าพันธุ์เดียวกับสมาชิกในชุมชน จะอัญเชิญผีเจ้านายมา สถิตในศาลของหมู่บ้านเรียกว่า “หอเจ้านาย” ความ เช ือ“ผีเจ้านาย” ถือเป นเคร ืองมือในการจัดระเบียบของ สังคม ด้วยมีข้อห้ามเร ือง “ผิดผี” เป นจารีตท ีทุกคนต้อง ปฏิบัติหากเกิดผิดผีจะต้องทําพิธีเซ่นไหว้ขอขมาผีแล้วแต่ จะทําการสิ งใดออกนอกหมู่บ้านไปค้าขายหรือ ทําไร่ทํานา หรือมีงานประเพณีใด ๆ จะต้องมาบอกกล่าว ผีเจ้านายเพ ือให้ผีเจ้านายได้ช่วยดูแลคุ้มครอง ปกป กรักษาไม่ให้สิ งไม่ดีเข้ามากล ากราย ให้พบแต่สิ งท ีดีมีความเจริญ


พิธีก ร ร ม เลี ยง ผีเจ้า น าย พิธีกรรมเล ียงผีเจ้านาย จะจัด ประมาณเดือน 6 หรือเดือน 7 ของทุกป คําว่า “พ่อ” หมายถึง เจ้าพ่อแสนหาญ หรือเจ้านาย เจ้าท ีได้รับสมมุติตาม ตํานานจากผู้เฒ่าผู้แก่ท ีเล่าสืบต่อ ๆ กัน มาในอดีต ด้วยคุณงามความดี ด้วยความกล้าหาญปกป องคุ้มครอง ชาวลาวคร ังด้วยความเสียสละ แม้นพ่อ แสนหาญ สิ นชีวิตไปแล้วแต่ลาวคร ัง ก ็ ยังให้ความเคารพนับถือ ถึงแม้นจะแยก ย้ายกันไปอยู่ในถิ นใดก ็ ตาม ลาวคร ังก ็ จะ ต ังศาลผีเจ้านายทุกหมู่บ้าน ไว้เป นขวัญและกําลังใจ บูชากราบไหว้ (สาวคร ึงเช ือว่ามีพระเจ้าท ังหมด 11 พระองค์แต่จะแยกย้ายกันไปสถิตปกป ก รักษากลุ่มลาวคร ัง) ก่อนจะเริ มพิธีเล ียงผี จะมีการ แก้บะข ีไข้ข ีหนาว หมายถึงการ ได้รับความคุ้มครอง ไม่ให้ได้รับ อันตรายใดๆ ในรอบป ท ีผ่านมา การแก้ บะน ันจะแก้ได้เกือบทุกวันยกเว้นวันพระ วันพุธและวันอาทิตย์หรือในวันเล ียงป ผี เจ้านาย พ ิ ธ ี กรรมและความเช ื อ


ผ ี ลอบ ผ ีไทร เปน การละเล่นงานประเพณชีว่งเทศกาลสงกรานต์การนาํเอา “ลอบ” หรอืลอบไซ ดักปลามา ใชเ้ขา้ผีและมกีารไมส้าแหรกคานหาบ ซ งึต้องเปน ผหู้ ญงิมา่ยใชเ้ท่าน นัผลีอบท ีอาศยัอยูใ่นลอบ ดักปลาและสาแหรกคานหาบน จีะดลบนัดาลใหน้าํสงิ ท ีเปน มงคลมาดแูลรกัษาลกูหลานให้ มคีวามเจรญิรุง่เรอืง ในการละเล่นผลีอบก ็ จะมกีารนาํผา้ขาวมา้มาผกูกับลอบดักปลาใหม้ดิชดิ และนาํ ไมส้าแหรกคานหาบวางไว้บนลอบ พรอ้มกับใชผ้า้ขาวมา้คลมุทับอีกคร งัแล้วจุดเทียน บรเิวณปลายสาแหรกคานหามท ัง 2 ด้าน เพ อือันเชญิผบีรรพบุรุษ หรอืผไีมญ่าติมารว่มพธิี จะมชีาวบา้นมาน งัล้อมวงรว่มรอ้งเพลงพรอ้มกับปรบมอื ไปตามจังหวะ มกีารนาํ ไมไ้ผม่าวางแล้ว ใหผ้ทู้ ีมารว่มกิจกรรมเคาะไปตามจังหวะเพลง พอเสยีงเพลงอันเชญิดังข นึผชู้ ายท ีอาสาเขา้มา เขา้ผจีะน งัอยูใ่นวงท ีมผีหู้ ญงิ 2 คนคอยจับลอบไว้เม อืเสยีงเพลงรอ้ยไปเร อืยๆ ลอบก ็ แกว่งไปมา น นัหมายถึงผกีําลังจะเขา้ชายหนมุ่ท ีอยากลองของก ็ จะเรมิ มอีาการสะลึมสะลือคล้ายกับจิตกําลัง หลุดลอย เม อื ได้จังหวะก ็ จะกระโจนพงุ่ตัวเขา้กอดลอบดักปลาจนแนน่อยา่งรวดเรว ็ แล้วกลิ งหมนุไปตามพ นืดินหลายรอบแสดงถึงอิทธฤิทธขิ องผลีอบได้แสดงใหผ้ทู้ ีมารว่มงาน ได้พบเหน ็ การละเล่นน ถี ือเปน กิจกรรมท ีใหเ้กิดความรกัความสามคัคีกรมเกรยีวของคนในชุมชน


แหธ ่ งสงกรานต ์ แหห ่ างธง (แหท ๊ ง ุ ) เทย ี นไตน ้ า มัน/ไตต ้ น ี กา ธงสงกรานต์ชาวบา้นจะทําด้วยไมไ้ผท่ ังลํา ยาวประมาณ 10 เมตรข นึ ไป ปลายธงมกีิ งไผแ่ละท ีสาํหรบั แขวนสิง ของไว้สิง ท ีจะนาํมาแขวนท ีธงน นั ได้แก่ผนืธงชาติและสงิ ของเคร อืงใชท้ ีมลีักษณะเปน ผนืพอจะ แขวนได้เชน่เสื อ พรม ผา้มา่น ซ งึของเหล่านเ ีปน สงิ ท ีทางวัดจําเปน ต้องมไีว้ใช้ชาวบา้น จะพบั ใหม้ขีนาดพอเหมาะท ีจะแขวนกับปลายธงได้เพยีง 1 ชนิ เท่าน นัตกแต่งใหส้วยงามด้วยดอกไมส้ด และดอกไมแ้หง้ การแหธ่ง ชาวบา้นจะแหอ่อกจากหมบู่า้น นาํขบวนด้วยเสาธงซ งึมคีนแบกมาหลายคน ตามด้วยกลอง ยาวซ งึเปน ดนตรพี นืบา้น และสิง ของเคร อืงใชต้ ่าง ๆ ท ีจําเปน แก่การพฒันาวัด ท ีขาดเสียไมไ่ด้คือ พมุ่ผา้ปา ท ีประกอบด้วยผา้ไตรสาํหรบัภิกษุนงุ่หม่บาตร และตาลปต ร โดยเฉพาะธนบตัรท ีใชไ้มค้ ีบแล้วเสียบไว้กับต้นกล้วยน นัถือว่าเปน สงิ จําเปน สงิ เหล่านเ ีรยีกว่า "หางธง" พิธีเทียนไต้น ามัน/ไต้ตีนกา เริ มเวลากลางคืนต ังแต่ช่วงเวลา 18.00 – 20.00 น. เพ ือถวายเป นพุทธบูชา และเฉลิมฉลองวาระท ีองค์สมเด ็ จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด ็ จลง สู่โลกมนุษย์ก่อนถึงวันออกพรรษาชาวบ้านจะไปรวมกันท ีวัดเพ ือต ังหอไต้นา มัน ต ังเป น หอเพียงตา ผนังด้านหลังป ดด้วยฝาไม้ไผ่ขัด ตามต้นเสาประดับด้วยต้นกล้วยต้นอ้อย ประดับดอกไม้เพ ือใช้วางดวงประทีปทําด้วยลูกตูมกาขาว ชาวบ้านจะนาํมาเจาะรูคว้านเน ือ ด้านในออกใส่นา มัน พร้อมไส้ทําด้วยฝ าย (มีลักษณะเหมือนตะเกียง) หรือนาํลูกตูมกานาํมา ผ่าคร ึงขูดเอาเน ือด้านในออกใส่เทียนไขทําไส้เป นรูปตีนกา บางท้องถิ นนาํลูกตูมกาคว้านเอาเน ือ และเมล ็ ดข้างในออก จากน ันใช้มีดแกะลายต่างๆ อย่างประณีต ส่วนล่างเจาะรูไว้สาํหรับสอด เทียนเข้าไปด้านใน เม ือเวลาจุดเทียนแสงก ็ จะออกตามลายท ีแกะ


ว ั ฒนธรรม การบวชพระ การบวชพระของชาวลาวคร งัน นัก่อนบวชเปน พระ นาคจะต้องนอนอยูว่ ัดอยา่งนอ้ย เปน เวลา 3 คืน เพ อืท่องหนงัสือเม อืถึงวันงานญาติๆจะนาํมา้ท ีทําข นึ ไปรบันาคท ีวัด เพ อืมาทําพธิอีาบนา นาค หลังจากอาบนา นาคแล้วก ็ จะนาํนาคแหร่อบหมบู่า้นแล้วนาํนาค มาทําพธิสูีข่วัญ (ทําขวัญนาค) โยหมอทําขวัญหรอืพระก ็ได้ตกเยน ็ จะมกีารจัดเล ียง พอรุง่ เชา้ก ็ จะนาํนาคไปแหร่อบอุโบสถ 3 รอบจากน นัก ็ จะเปน พธิขีองสงฆ์หลังจากเสรจ ็ แล้วจะ นาํพระกลับบา้นเพ อืทําพธิฉีลองและสงฆน์า พระ เปน อันเสรจ ็ พธิบีวชพระ การรว่มแรงรว่มใจของชาวบา้น ในการบวชนาคแต่ละคร งัชาวบา้นละแวก ใกล้เคียงกันจะมารว่มแรงชว่ยกันทํากับขา้ว เพราะเช อืว่าได้บุญกศุลจากการรว่มทําบุญ งานบวชนาค ท ังนย ีงัเปน การแสดงนา ใจในการชว่ยเหลือเพ อืนบา้น หากถึงคราวท ีบา้นของ ตนเองต้องจัดเล ียงหรอืงานบุญ ผนู้ นัก ็ จะได้รบัการชว่ยเหลือกลับเชน่เดียวกัน


ว ั ฒนธรรม ในพธิกีารแต่งงานของชาวลาวคร งัจะ ต้องทําพธิบีูชาผเีทวดา ตามระบบความ เช อืเร อืงผเีจ้านายและผเีทวดาของชาว ลาวคร งัจึงมขีอ้หา้มและบทลงโทษ สําหรบัค่ทู ีได้เสียกันก่อนแต่งงาน โดยจะต้องทําเสียผที ีบา้นของฝา ยหญงิ นาํ ไก่ไปฆา่ท ีศาลเจ้านายใหเ้ลือดไหล หยดลงบนแท่นบูชาเจ้านาย เม อืหญงิชาย ใดท ีตกลงจะอยูก่ ินด้วยกันฉันท์สามี ภรรยาจะต้องได้รบัการอนญุาตจากญาติ ผใู้หญท่ ัง 2 ฝา ย หลังจากน นัจะหาฤกษ์ งามยามดีซ งึชาวลาวคร งัเรยีกว่า “หกั ไมใ้สย่า่ม” การแตง ่ งาน แต่เดิมจะมกีารสูข่วัญค่บูา่วสาว โดย จะมหีมอมาทําพธิีมกัทํากันตอนเยน ็ ใน วันสุกดิบ ท ังเจ้าบา่วเจ้าสาวจะทําพธิสีู่ ขวัญนอ้ยของตน บางรายอาจจะมา สูข่วัญนอ้ยรวมกันท ีบา้นของเจ้าสาว ในวันรุง่ข นึจะมพีธิสูีข่วัญใหมท่ ีบา้น เจ้าสาว หมอขวัญจะเปน ผทู้ ีคอยสั งสอน อบรมค่บูา่วสาว ใหรู้จ้ ักการครองเรอืน ตลอดจนการประพฤติตนในฐานะของ เขยและสะใภ้เม อืถึงวันงานฝา ยเจ้าบา่ว จะจัดพานขวัญแหไ่ ปทําพธิที ีบา้น เจ้าสาว ฝา ยเจ้าสาวก ็ จะเตรยีมพานขวัญ ไว้เชน่กันเม อื ได้ฤกษ์แล้วก ็ ยกขบวน พานขวัญ โดยจะใชไ้มก้ําพนัซ งึเปน ไม้ สําหรบักรอด้าย ใชห้าบพานขวัญแทน ไมค้าน เพราะเปน เคล ็ ดว่าค่บูา่วสาวจะ รกั ใครก่ลมเกลียวกันเสมอืนด้าย ท ีอยูใ่นกรอด้าย


ค่าเขา้ชม: ไมเ่สยีค่าเขา้ชม เวลาทําการ : เปด วันศกุร์เสาร์วันอาทิตยว์ ันหยุด นกัขตัฤกษ์หรอืวันราชการตามวัน เวลา ท ีระบุ เวลา 08.30-16.30 น.หรอืทําหนงัสอืแจ้งมา ประธานล่วงหนา้ ติดต่อ : ดร.จิตกวีกระจ่างเมฆ 088-7531752 เบอรโ์ทรศพัท์นายวิชาญ โพธดิ ้วง 081-9423451 ผใู้หญพ่นม นาคโสมกลุ081-7585051 E-mail [email protected] จุดเด่น: ผา้มดัหมอ ีายุ200 ป, วิถีชวีิตลาวค ัง,การ นบัถือผเีจ้านาย-ผเีทวดา,เคร อืงมอืเกษตรกรรม ว ั ดท ุ ่ งผ ั กก ู ด เวลาทาํการ และการเขา้ชม วดัทงุ ผกักดูต.หว ยดว น อ.ดอนตมู จ.นครปฐม 73150


ภาพพิพิธภัณฑ์ท้องถิ น กลุ่มชาติพันธุ์ลาวครั ง พพิธิภัณฑ์ท้องถิ นกลุ่มชาติพนัธุ์ ลาวคร งับา้นท่งุผกักดูเปน แหล่ง เรยีนรูท้ ีดําเนนิงานแนวพระราช ดํารสั ปรชัญาเศรษฐกิจพอเพยีง ตามแนว “ระเบดิจากขา้งใน” มาแนวในการดําเนนิงาน และจะมพี นืท ีสว่นหน งึสํารบัเปน พ นืท ีหวงหา้ม คือ บรเิวณท ีเปน ท ีอยูข่องสิง ศกัดิ สิทธเ์คารพ สว่นช นัล่างจะเปน พ นืท ีสําหรบัเก็บอุปกรณ์ เคร อืงมอืวัสดทุํามาหากิน ประกอบอาชพี เปน ต้น ความเปน เอกลักษณข์องพพิธิภัณฑ์ฯ คือ รูปลักษณข์องตัว เรอืนหรอืบา้น ท ีทําใหค้นรุน่ ใหมไ่ด้เรยีนรูว้ ิถีชวีิตความเปน อยูข่องท ีอยูอ่าศยั ของบรรพบุรุษ ลักษณะการสรา้ง การใชป้ระโยชนข์องพ นืท ีเปน พพิธิภัณฑ์ ท ีสรา้งข นึจากชา่งท ีเปน ภมูปิญ ญาท้องถิ น เปน คนในชุมชนสรา้งตามความเช อืท ี ได้รบัการถ่ายทอดจากรุน่สูรุ่น่ ตามความต้องการของคนในชุมชน พพิธิภัณฑ์ท้องถิ นกลุ่มชาติพนัธุล์าวคร งัต ังอยูท่ ี วัดท่งุผกักดูตําบลหว้ยด้วน อําเภอดอนตมู จังหวัดนครปฐม ก่อสรา้งเม อืวันท ี9 สิงหาคม 2555 เปด ทําการในวันท ี5 มกราคม 2556 โดยใชพ้ นืท ีสว่นด้านหลังของวัดเปน สถานท ีต ัง มคีวามรม่ร นืล้อมรอบ ไปด้วยต้นไมท้ ีเรมิ แผก่ ิ งก้าน พ นืท ีโดยรอบถกูจัดแต่งและดแูล ด้านภมูทิ ัศน์โดยพระสงฆใ์นวัดและคณะ กรรมการบรหิารจัดการพพิธิภัณฑ์ฯ บรเิวณ พพิธิภัณฑ์ฯจะมบีา้นท ีใชเ้ปน สถานท ีจัดแสดง วัสดเุคร อืงมอืเคร อืงใชต้ ่าง ๆ และมอีาคารโล่ง สําหรบั ใชเ้ปน สถานท ีบรรยายและชมกิจกรรม การแสดงทางวัฒนธรรม ด้านหนา้บา้นมลีาน หญา้สําหรบั ใชเ้ปน ลานแสดงทางวัฒนธรรม โดยผรู้ว่มก่อต ัง อ.ดร.จิตกวีกระจ่างเมฆ ศกึษาค้นคว้าเร อืงราวทางด้านประวัติศาสตร์ กลุ่มชาติพนัธุ์วัฒนธรรมประเพณีความเช อืและ พธิกีรรมเก ียวกับท้องถิ นเพ อืนนาํขอ้มลูมาจัด นทิรรศการ และองค์ความรูท้ ีเก ียวขอ้ง งบประมาณในการก่อสรา้งได้จากการบรจิาค ของประชาชนในท้องถิ นและผมู้ จีิตศรทัธา จากภายนอก การจัดแสดงสิง ของในพพิธิภัณฑ์ฯ สามารถจัด ได้2ประเภท คือ ประเภทการจัดถาวร (Permanent Exhibition) คือการจัดหอ้งแสดง แต่ละหอ้งถาวร เปน การต ังของแสดงไว้ประจํา และการจัดแสดงแบบช วัคราว (Temporary Exhibition) หรอื การจัดแสดงหมนุเวียน (Changing Exhibition) เปน การจัดไว้ช วัคราว แต่ละเร อืง ช วัระยะเวลาสั น ๆ พ ิ พ ิ ธภ ั ณฑ ์ ท ้ องถ ิ นชาต ิ พ ั นธ ุ ์ ลาวคร ั ง ว ั ดท ุ ่ งผ ั กก ู ด ลักษณะตัวบา้น จะเปน รูปทรงท ีจําลองแบบมา จากบา้นโบราณซ งึเปน หลังสุดท้ายท ีมอียูใ่นชุมชน อายุกว่ารอ้ยป เปน บา้นไมส้องช นัแรกเรมิ มงุจาก ต่อมามกีารปรบัเปล ียนหลังคา แต่ยงัคงหลังคา เดิมไว้การใชป้ระโยชนไ์ด้จากขอ้ตกลงของชุมชน ท ีต้องการใหก้ารจัดสิง ของเสมอืนกับบา้นท ีใชง้าน จรงิ ในอดีต คือ ช นับนเปน หอ้งนอน 1 หอ้ง พ นื โล่งนอกชาน หอ้งครวัและขา้วของสําคัญๆ เหมาะ กับการ วางตกแต่ง บนบา้น ประเภทต้โูชว์ถ้อย ชามอ ืนๆ ท ีสําคัญ เปล ียนเร อืงอ ืนหมนุเวียนไป การจัด สิง ของภายในพพิธิภัณฑ์จัดว่าเปน สิง สาํคัญท ีจะชว่ยผเู้ขา้ชมเกิดความ พงึพอใจ เพลิดเพลิน ได้รบัความรู้ การจัดถือหลักง่าย ๆ คือ ไมจ่ ัดใหดู้ ซบัซอ้นสับสน วางของออกแบบ พอเหมาะพอควรไมม่ากไมน่อ้ย หากจัดเกะกะรกไมเ่ ปน ระเบยีบ จะทําใหข้าดความสําคัญ ๆ จึงต้อง จัดใหด้ดูีมคีวามสําคัญ มรีสนยิม ทําใหผ้มู้ าเยอืนเกิดความประทับใจ ใหค้วามรูสึ้กเหน็คณุค่าไมเ่บ อื และเขา้ชมได้หลาย ๆ คร งั การท่องเท ียวในชุมชนของตนเอง คร งัน ไีด้เกิดความรูสึ้กท ีหลากหลาย ต่อชุมชนของตนเอง ท ังได้เรยีนรู้ ประวัติท ีมาของชุมชน ประเพณแีละ วัฒนธรรมท ีแปลกใหมแ่ละนา่สนใจ ควรค่าแก่การอนรุกัษ์ไว้รูถ้ ึงความ สามคัคีความอบอุ่นของคนในชุมชน และฉนัภมูใิจท ีเกิดมาในชุมชนแหง่น ี


พ ิ พ ิ ธภ ั ณฑ ์ ท ้ องถ ิ นชาต ิ พ ั นธุ์ ลาวคร ั ง ว ั ดทุ่งผ ั กก ู ด ร้านขายของที ระลึก ร้านขายของท ีระลึกท ีเป ดเป นประจํายังไม่มีจะเป ดตลาดช่วงท ีมีนักท่องเท ียว เข้ามาด้วย มีการจัดต ังขายปกติ ด้วยพิพิธภัณฑ์ต ังอยู่ภายในวัด จึงใช้พื นท ีท ีวัดเป นสถานท ีจอดรถ อีกท ังคณะ นักท่องเท ียวท ีน ันนิยมมากับรถบัสหรือรถตู้กรณีมาเท ียวกลุ่มเล ็ ก ๆ 3-5 คน ก ็ จะจอดรถท ีบริเวณวัด ร้านอาหาร พ นืท ีรา้นอาหารจะต ังอยูห่นา้วัด เปด ทําการขายทกุวัน ประเภทอาหารตามส งั ห้องนํ าบริเวณพิพิธภัณฑ์ ต ังอยูบ่รเิวณด้านขา้งพพิธิภัณฑ์มคีวามสะดวกและสะอาด สามารถรองรบันกัท่องเท ียว ความพอเพียงของสถานที จอดรถ การจัดการเรื องขยะ มถีังขยะแยกประเภทขยะเปย กและขยะแหง้ โดยองค์การบรหิารสว่นตําบลหว้ยด้วน เปน หนว่ยงานจัดเก ็ บ


Click to View FlipBook Version