The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สวนหน้าแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by krusangduen, 2022-11-07 04:35:32

คู่มือ

สวนหน้าแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน

กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

คาชแี้ จง 1
รายวชิ าอังกฤษพ้ืนฐาน กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ

รหัสวิชา อ23102 ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
1. แนวคิดหลัก

หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 กาหนดสาระการเรียนรู้ จานวน 8 กลุ่ม
สาระการเรียนรู้ ครูผู้สอนต้องจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยนาความรดู้ า้ นเนอื้ หาวชิ ามาจัดกจิ กรรมการ
เรยี นการสอนโดยการฝกึ ทกั ษะใหผ้ เู้ รยี นเกิดความรู้ ความเขา้ ใจ และเกดิ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
5 ประการ และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 8 ประการ ดงั น้ี
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 5 ประการ

1) ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรับสาร และสื่อสารมีวัฒนธรรมในการใชภ้ าษา
2) ความสามารถในการคิด เปน็ ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ การคิดสงั เคราะห์ การคิดอยา่ ง
สรา้ งสรรค์ การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ การคิดอย่างเป็นระบบเพือ่ นาไปสกู่ ารสร้างองคค์ วามร้หู รือสารสนเทศ
เพ่อื ใช้ในการตัดสนิ ใจ เก่ยี วกบั ตนเอง สังคมไดอ้ ย่างเหมาะสม
3) ความสามารถในการแก้ปัญหา เปน็ ความสามารถในการแก้ปญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้
อยา่ งถูกต้อง เหมาะสมบนพน้ื ฐานของหลกั เหตุผล คุณธรรมและข้อมลู สารสนเทศ เข้าใจความสมั พันธ์และ
การเปล่ยี นแปลงของเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ ในสงั คม
4) ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต เปน็ ความสามารถในการเขา้ ใจและเคารพตนเอง สามารถนา
กระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นการดาเนินชวี ติ ประจาวัน การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง การเรียนรอู้ ย่างตอ่ เน่ือง
การทางาน และการอย่รู ่วมกนั ในสงั คมดว้ ยการสรา้ งเสรมิ ความสัมพันธ์อันดีระหวา่ งบุคคล การจัดการปัญหา
และความขดั แย้งต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยกี ารแก้ปัญหา
อยา่ งสรา้ งสรรคถ์ กู ตอ้ งเหมาะสม มีคณุ ธรรมดา้ นต่าง ๆ และมีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพอื่ การ
พฒั นาตนเอง สงั คมในดา้ นการเรยี นรู้ การสื่อสาร การทางาน
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 8 ประการ เพอ่ื ให้สามารถอยู่ร่วมกับผอู้ ่นื ในสังคมอยา่ งมีความสขุ ในฐานะ
เปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี

1) รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
2) ซื่อสตั ย์ สจุ รติ
3) มีวนิ ัย
4) ใฝ่เรียนรู้
5) อยู่อย่างพอเพียง
6) มงุ่ ม่นั ในการทางาน
7) รกั ความเปน็ ไทย
8) มีจิตสาธารณะ

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวิทยาคาร

หลักการออกแบบกจิ กรรมดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ทีป่ รากฏในแผนการจัดการเรียนรคู้ านึงถึง 2
คุณลกั ษณะทม่ี ่งุ เน้นให้ผ้เู รยี นเกิดการเรียนร้มู ที กั ษะด้านภาษาหลงั การเรยี นรู้ สอดคล้องตามเปา้ หมายของ
หน่วยการเรยี นรู้ มเี จตคติทีด่ ีตอ่ สถาบนั ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์ มจี ิตอาสา ครูผู้สอนควรปลูกฝัง
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ให้แก่ผู้เรียนทกุ แผนการจดั การเรียนรู้ เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นเกิดคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
และเปน็ คนดขี องสังคมการจดั การเรียนรู้กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โดยมีแนวคดิ
หลักสาคัญ คือ การสอนภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร (Communicative Language Approach) โดยออกแบบหนว่ ย
การเรียนรู้ยึดแนวทาง Theme-based และ Content-based learning ในทุกแผนการจดั การเรยี นรมู้ ี
การบรู ณาการการสอนทักษะทางภาษาทงั้ 4 (ฟงั พูด อา่ น เขยี น) และการสอนคาศัพท์ โครงสร้างทางภาษา
เข้าดว้ ยกัน โดยแต่ละแผนการจดั การเรียนรเู้ นน้ ทกั ษะหนึง่ ทักษะเป็นหลกั และบูรณาการเขา้ กับทกั ษะอนื่ ๆ
ทั้งการฟัง การพูด การอา่ น และการเขยี น
2. กระบวนการจัดการเรยี นรู้

แนวคดิ สาคัญของการจดั ศกึ ษา ท่ีเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั คอื การจดั กิจกรรมการเรียนร้ทู เ่ี ปิดโอกาสให้
ผเู้ รยี นคดิ และลงมอื ปฏบิ ัตดิ ว้ ยกระบวนการทหี่ ลากหลาย เพ่อื เกิดการเรียนรู้และพัฒนาตนเองเตม็ ตาม
ศกั ยภาพ การประเมนิ การเรียนรจู้ งึ มคี วามสาคญั และจาเป็นอย่างยิง่ ตอ่ การจดั กิจกรรมการเรยี นรใู้ นหอ้ งเรยี น
เพราะสามารถทาใหผ้ ู้สอนประเมินระดับพฒั นาการเรียนรูข้ องผู้เรยี นการจดั การศึกษาตอ้ งยดึ หลกั ว่า ผ้เู รยี น
ทุกคนมคี วามสามารถเรยี นรูแ้ ละพัฒนาตนเองได้ และถอื วา่ ผ้เู รียนมีความสาคัญท่ีสุด กระบวนการจดั การ
ศกึ ษาต้องสง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาตแิ ละเต็มตามศกั ยภาพ ใหค้ วามสาคญั ของการบรู ณา
การความรู้คุณธรรม กระบวนการเรยี นรตู้ ามความเหมาะสมของระดับการศกึ ษา ไดร้ ะบุให้ผู้ทเ่ี กีย่ วข้อง
ดาเนนิ การ ดงั นี้
สถานศึกษาและหนว่ ยงานทเี่ กี่ยวขอ้ ง

1) จดั เน้ือหาสาระและกจิ กรรมใหส้ อดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผเู้ รยี น โดยคานึงถึง
ความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล

2) ฝกึ ทักษะ กระบวนการคดิ การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์ความรู้มาใชเ้ พอ่ื
ป้องกันและแกไ้ ขปัญหา

3) จัดกิจกรรมให้ผเู้ รยี นไดเ้ รียนรู้จากประสบการณจ์ ริง ฝกึ การปฏิบัติ ใหท้ าได้คิดเปน็ ทาเป็น รักการ
อา่ น และเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนอ่ื ง

4) จัดการเรยี นการสอน โดยผสมผสานสาระความร้ดู ้านตา่ ง ๆ อย่างไดส้ ดั ส่วนสมดุลกนั รวมทง้ั
ปลกู ฝงั คณุ ธรรม ค่านยิ มทีด่ งี าม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ไว้ในทุกวชิ า

5) ส่งเสริมสนับสนนุ ให้ผสู้ อนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สอื่ การเรียน และอานวยความ
สะดวกเพอ่ื ให้ผู้เรยี นเกดิ การเรยี นรแู้ ละมคี วามรอบรู้ รวมทัง้ สามารถใช้การวจิ ยั เปน็ สว่ นหนึ่งของกระบวนการ
เรยี นรู้ ท้ังน้ี ผสู้ อนและผเู้ รยี นอาจเรียนร้ไู ปพร้อมกันจากส่อื การเรยี น การสอน และแหล่งวิทยาการประเภท
ต่าง ๆ

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวิทยาคาร

6) จัดการเรยี นร้ใู ห้เกิดข้ึนไดท้ ุกเวลา ทกุ สถานที่ มีการประสานความรว่ มมอื กับบิดา มารดา 3
ผปู้ กครองและบคุ คลในชมุ ชนทกุ ฝ่าย เพื่อรว่ มกนั พฒั นาผู้เรยี นตามศักยภาพครูผสู้ อนการจัดการเรยี นรตู้ าม
แนวดงั กลา่ ว จาเป็นต้องเปล่ยี นแปลงพฤตกิ รรมการเรยี นการสอนทงั้ ของผูเ้ รียนและผสู้ อน กลา่ วคอื ลด
บทบาทของครูผสู้ อน จากการเปน็ ผู้บอกเล่า บรรยาย สาธติ เป็นการวางแผนจัดกิจกรรมให้นกั เรียนเกิดการ
เรียนรู้ กจิ กรรมตา่ ง ๆ จะต้องเนน้ ที่บทบาทของผู้เรยี นตง้ั แตเ่ ร่ิม คือ รว่ มวางแผนการเรียน การวดั ผล
ประเมินผล และตอ้ งคานึงวา่ กิจกรรมการเรยี นนน้ั เน้นการพฒั นากระบวนการคดิ วางแผนลงมือปฏิบัติศึกษา
คน้ ควา้ รวบรวมข้อมูล ด้วยวิธกี ารต่าง ๆ จากแหล่งเรียนรู้หลากหลาย ตรวจสอบ วเิ คราะห์การแกป้ ัญหา การ
มีปฏสิ มั พนั ธซ์ งึ่ กันและกนั การสร้างคาอธบิ ายเก่ยี วกับข้อมูลทสี่ ืบคน้ ได้ เพือ่ นาไปสูค่ าตอบของปญั หาหรอื
คาถามตา่ ง ๆ ในที่สุดสรา้ งองคค์ วามรู้ ท้งั นี้ กจิ กรรมการเรียนรเู้ หลา่ นต้ี อ้ งพฒั นาผู้เรียนให้มี
พฒั นาการเหมาะสมตามวัย ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ สงั คม และสติปัญญา โดยคานึงถึงเรื่องต่าง ๆ ดงั น้ี

ควรใหน้ กั เรยี นทุกคนมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรู้ตลอดเวลาดว้ ย การกระตุ้นให้นักเรียนลงมือ
ทดลองและอภปิ รายผล โดยใช้เทคนิคต่าง ๆ ของการสอน เช่น การนาเขา้ สบู่ ทเรยี น การใช้คาถาม
การเสริมพลงั มาใช้ให้เปน็ ประโยชน์ ทจี่ ะทาให้การเรียนการสอนน่าสนใจและมีชวี ติ ชวี า

ครูควรมกี ารวางแผนการใชค้ าถามอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เพือ่ จะนานักเรียนเข้าสบู่ ทเรียน และ
ลงข้อสรุปไดโ้ ดยท่ีไม่ใช้เวลานานเกินไป ครคู วรเลือกใช้คาถามท่มี ีความยากงา่ ยพอเหมาะกบั
ความสามารถของนักเรียน

เมอื่ นักเรยี นถาม อย่าบอกคาตอบทันที ควรใหค้ าแนะนาท่ีจะช่วยให้นกั เรียนหาคาตอบไดเ้ อง
ครูควรให้ความสนใจตอ่ คาถามของนักเรียนทกุ ๆ คน แม้วา่ คาถามนนั้ อาจจะไม่เกี่ยวกับเรอื่ งทก่ี าลงั
เรยี นอยกู่ ็ตาม ครูควรจะช้แี จงให้ทราบและเบนความสนใจของนักเรยี นกลบั มาสู่เรื่องท่กี าลงั
อภปิ รายอยู่ สาหรบั ปัญหาท่ีนกั เรียนถามมาน้ัน ควรจะไดห้ ยิบยกมาอภปิ รายในภายหลงั

การสารวจตรวจสอบซ้า เป็นสิ่งจาเปน็ เพือ่ ให้ได้ขอ้ มลู ทน่ี ่าเชื่อถือ ดังน้ัน ในการจดั การเรียนรู้
ครูควรยา้ ใหน้ ักเรยี นได้สารวจตรวจสอบซา้ เพอื่ นาไปสขู่ อ้ สรุปท่ีถกู ต้องและเชือ่ ถอื ได้

แนวการจัดการเรยี นรู้ภาษาอังกฤษ
การดาเนินการจัดการเรยี นรู้ ครผู ู้สอนควรจัดการเรียนรู้ตามกระบวนการขั้นตอนในแผนการจัดการ
เรยี นรู้ แบบ Active Learning โดยใชห้ ลัก ดังนี้

1) การจดั การเรยี นรู้โดยใชข้ ้ันตอน PPP (Presentation, Practice, Production) ในการสอน
คาศัพท์ และโครงสร้างทางไวยากรณ์ คือ

(1) ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน (Warm up) เปน็ ขนั้ ตอนเตรยี มความพร้อมเขา้ สบู่ ทเรียน โดย
กจิ กรรมทจ่ี ดั ขนึ้ เพื่อให้นักเรยี นมคี วามพร้อมทจ่ี ะเรียนเนื้อหาใหม่หรอื กระตนุ้ ใหอ้ ยากรอู้ ยากเรยี นในบทใหม่
อาจจะเป็นการทบทวนเนือ้ หาทเี่ รียนผ่านมาแลว้ หรอื อาจจะเปน็ การนาเขา้ สู่เน้ือหาใหม่ทกี่ าลงั จะเรียนตอ่ ไป
กจิ กรรมทใ่ี ช้ในขน้ั ตอนน้อี าจจะเปน็ เพลง เกมนทิ าน การสนทนา หรือการแสดงตา่ ง ๆ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวิทยาคาร

(2) ขนั้ นาเสนอ (Presentation) เปน็ ข้ันตอนให้ตัวปอ้ นภาษา (Language Input) แก่ 4
นักเรียนท่เี ปน็ ตวั อยา่ งภาษาที่ใช้ในชวี ิตจริงและตัวอย่างภาษาที่ครผู ู้สอนเลอื กใช้ในห้องเรยี น ครผู ้สู อนแสดง
บทบาทเป็นผใู้ หข้ ้อมูลทางภาษาแก่นักเรยี น(Informant) มีการนาเสนอศพั ทใ์ หม่ เน้อื หาใหม่หรือไวยากรณ์
ใหม่ใหเ้ ข้าใจทง้ั รปู แบบ การนาไปใชแ้ ละความหมาย และนกั เรยี นมีหน้าทีใ่ นการฟงั และสังเกต สงิ่ สาคัญท่คี รู
ควรปฏบิ ัติในการนาเสนอเนื้อหา คือไมน่ าเสนอไวยากรณ์และคาศัพท์ใหม่ในเวลาเดยี วกนั เพราะจะทาให้
นกั เรียนเกดิ ความสับสน เมอื่ ครนู าเสนอไวยากรณ์ใหม่ คาศัพท์ทใ่ี ช้ในไวยากรณ์ต้องเปน็ คาศพั ท์ทนี่ ักเรียนรู้
แล้ว หรอื ครสู ามารถสอนคาศัพท์ใหม่ก่อนสอนไวยากรณก์ ไ็ ด้ โดยครูตอ้ งสอนคาศพั ท์ใหม่ในโครงสรา้ ง
ไวยากรณ์ท่นี ักเรยี นรูแ้ ล้ว

(3) ขน้ั ฝึก (Practice) เป็นขั้นตอนในการฝกึ ตวั ภาษาในสถานการณ์เดยี วกันกับท่คี รูผสู้ อน
นาเสนอในขั้นนาเสนอ ทง้ั น้ีเพือ่ เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นได้ฝึกการใชภ้ าษาในสถานการณท์ ่ีเหมือนจรงิ ครูผู้สอน
แสดงบทบาทเปน็ ผคู้ วบคุม (Conductor) ในการฝกึ ภาษาของนักเรยี น และนกั เรยี นมหี น้าที่ในการฝึกและมี
ส่วนร่วมในกจิ กรรมการเรียนการสอน เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นใชภ้ าษาไดถ้ ูกตอ้ ง ขณะเดยี วกนั ก็เน้นเร่ืองการใช้ภาษา
ให้คลอ่ งแคลว่ (fluency) การฝกึ อาจจะฝึกทงั้ ชนั้ เป็นกลุ่ม เป็นคู่ หรอื รายบคุ คล ขัน้ น้เี ป็นโอกาสที่ครูจะแกไ้ ข
ข้อผิดพลาดของนักเรยี นในการใชภ้ าษา ซึง่ การแกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดนัน้ ควรทาหลังการฝกึ หากทาระหว่างที่
นกั เรยี นกาลังลองผดิ ลองถูกอยคู่ วามมัน่ ใจท่ีจะใช้ภาษาให้คลอ่ งแคล่วอาจลดลงได้

(4) ขั้นนาไปใช้ (Production) ต้องออกแบบกิจกรรมเพ่อื ให้นกั เรียนได้ใชภ้ าษาในการ
สื่อสารในสถานการณ์เหมือนชวี ิตจรงิ เปน็ สถานการณ์ใหม่อาจจะคลา้ ยคลึงกบั สถานการณท์ ี่ครผู ู้สอนได้
นาเสนอไปแลว้ ทง้ั นี้ เพือ่ ส่งเสรมิ ให้นกั เรียนได้ใช้ภาษาท่เี ขาได้เรียนร้มู าแลว้ ทงั้ ในสว่ นทไ่ี ดเ้ รียนรูใ้ นชั่วโมง
ก่อน ๆ และในช่วั โมงที่กาลงั เรียนอยู่ มาใช้ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในรูปแบบกจิ กรรมหลากหลาย เช่น การเลน่
เกม การทาช้ินงาน การทาแบบฝึก การนาเสนอผลงาน เพ่ือให้เกิดความคลอ่ งแคล่ว (fluency) และเกิดความ
สนกุ สนาน ครผู สู้ อนแสดงบทบาทเป็นผู้ให้คาแนะนา (Advisor) หรือผู้อานวยความสะดวก (Facilitator) คอย
แนะนาและชว่ ยเหลอื นกั เรียนในการนาภาษาไปใช้

(5) ข้นั สรปุ (Wrap up) เป็นขนั้ สุดท้ายของการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนในแต่ละชัว่ โมง
เพือ่ ให้นักเรียนสรุปสาระสาคัญของบทเรยี น หรอื สง่ิ ทไี่ ด้เรยี นแลว้ กจิ กรรมท่ีจดั ขน้ึ ในขั้นตอนนอี้ าจจะเปน็ การ
นาเสนอรายงานของกลุ่ม การทาแบบฝึกหดั เพอื่ สรุปความรู้ เล่นเกมเพื่อทดสอบส่งิ ทเ่ี รยี นมาแล้ว หรอื สรปุ
สาระหลกั สาคัญโดยใช้แผนผงั ความคิด (Graphic Organizers) (ดูภาคผนวก ข) ซ่งึ อาจให้ผู้เรยี นสรุปเองหรอื
ครรู ว่ มสรุปด้วยการจดั การเรยี นร้โู ดยใช้ขั้นตอน PPP น้ี จะบรู ณาการทกั ษะการพดู การอา่ น และการเขียน
อยู่ในกจิ กรรมขั้นตอน Practice หรอื Production เพอื่ ใหส้ อดคลอ้ งกบั ตัวชีว้ ัดท่ีกาหนดใหผ้ ู้เรียนสามารถพูด
หรือเขียนแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับสงิ่ ที่ฟังหรืออ่านได้ เพือ่ นาไปส่กู ารฝึกทักษะการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ

2) การจดั การเรยี นรทู้ เี่ นน้ การสอนทักษะการฟงั การอ่าน และการเขียน ใชข้ ัน้ ตอน Pre/While/
Post คือข้นั กอ่ นการฟงั /การอ่าน /การเขยี น (Pre-listening /Pre-reading /Pre-writing)

(1) ขน้ั ก่อนการฟงั (Pre-listening) เป็นข้นั ทใี่ หน้ ักเรยี นได้คาดเดาใจความสาคัญหรือ

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

คาศพั ท์ก่อนการฟังเพ่ือช่วยใหส้ ามารถทาความเข้าใจในเนือ้ หาสว่ นตา่ ง ๆ ไดด้ มี ากขน้ึ เชน่ - ใหน้ ักเรยี นศึกษา 5
หวั ขอ้ รวมทง้ั สง่ิ ตา่ ง ๆ ทมี่ ี เชน่ รปู ภาพ แผนที่ และคิดคาถามและคาตอบท่ีคาดวา่ จะมีในสง่ิ ท่ีฟัง ผสู้ อนอาจให้
ผู้เรียนจับค่อู ภปิ รายคาถามและคาตอบรว่ มกัน การคดิ คาถามกอ่ นการเริ่มการฟงั นนั้ จะชว่ ยให้ผูฟ้ งั จดจอ่ กับ
การฟงั มากข้ึน - นกั เรียนพยายามคาดเดาคาศัพท์ที่อาจจะไดย้ นิ ในการฟังซงึ่ จะช่วยให้วเิ คราะห์คาสาคญั ใน
หวั ขอ้ ในข้ันตอนนี้พจนานุกรมเปน็ ส่ิงสาคญั ทีจ่ ะช่วยใหผ้ ู้เรียนเรยี นรไู้ ด้ดีมากย่ิงขึ้น

(2) ขั้นกอ่ นการอา่ น (Pre-reading) เปน็ ข้ันทีจ่ ะชว่ ยให้นักเรยี นจะอา่ นสารได้อย่างเข้าใจ
โดยครูผู้สอนอาจใช้กิจกรรมนาให้ผเู้ รยี นได้มีข้อมูลบางส่วนเพื่อช่วยสรา้ งความเข้าใจในบรบิ ท ก่อนเรมิ่ ตน้ อา่ น
สารท่ีกาหนดให้ เชน่ การสนทนา โต้ตอบระหวา่ งครูกบั นักเรียน หรือ ระหว่างนกั เรียนกบั นักเรียน เพอ่ื
ทบทวนความรูเ้ ดิมและเตรียมรบั ความรู้ใหม่จากการอ่าน หรือนักเรียนคาดเดาเกยี่ วกับเรื่องทจ่ี ะอา่ น โดยอาจ
ใชร้ ูปภาพ แผนภูมิ หวั เรื่อง ฯลฯ ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั เรอื่ งที่จะไดอ้ ่าน แล้วนาสนทนา หรือ อภิปราย หรือ หา
คาตอบเกี่ยวกับภาพนั้น ๆ หรอื อาจฝกึ กิจกรรมท่ีเกีย่ วกับคาศพั ท์ เชน่ ขีดเส้นใต้ หรือวงกลมล้อมรอบคาศพั ท์
ในสารที่อ่าน หรอื อา่ นคาถามเกีย่ วกับเรือ่ งท่ีจะไดอ้ ่าน เพื่อใหน้ ักเรยี นได้ทราบแนวทางวา่ จะได้อ่านสาร
เกีย่ วกบั เร่ืองใด เปน็ การเตรียมตวั ล่วงหนา้ เกีย่ วกบั ข้อมลู ประกอบการอา่ น และคน้ หาคาตอบทีจ่ ะไดจ้ ากการ
อ่านสารนัน้ ๆ หรอื ทบทวนคาศัพทจ์ ากความรเู้ ดิมที่มอี ยซู่ ง่ึ จะปรากฏในสารทจี่ ะได้อ่าน โดยอาจใช้วิธบี อก
ความหมาย หรอื ทาแบบฝึกหดั เติมคา ฯลฯ

(3) ขน้ั ก่อนการเขียน (Pre-writing) เปน็ ขัน้ ตอนที่ให้นกั เรยี นใช้กจิ กรรมค้นหา สารวจข้อมูล
ความคิด และจดั เตรยี มรวบรวมขอ้ มลู ไว้เขียน ขน้ั นชี้ ่วยให้ผู้เรียนไดส้ ารวจหวั เรื่องและเนอื้ หาสนบั สนนุ ไดอ้ ย่าง
อิสระ นอกจากน้ี ยงั ใหก้ าหนดจดุ ประสงคข์ องการเขยี นและตัวผอู้ า่ นงานเขียนนน้ั อกี ด้วย กจิ กรรมในขัน้ ตอนนี้
เชน่ คดิ สารวจ และรวบรวมข้อมลู ใชก้ ิจกรรมการระดมสมอง (Brainstorming) การถามคาถามแบบ “WH”
ผังความสัมพันธข์ องความหมาย (Mapping) การเขยี นรายการ (Listing) การเขยี นข้อมูลอย่างรวดเรว็ โดยไม่
หยดุ (Nonstop writing) การคดิ จากความทรงจาหรือประสบการณ์ การอภปิ รายแลกเปลย่ี นความคดิ กับ
เพือ่ น เปน็ ตน้ ขัน้ ระหว่างการฟงั /การอ่าน /การเขยี น (While-listening / While-reading / While-writing)

(1) ขน้ั ระหว่างการฟงั (While-listening) เปน็ ขัน้ ตอนทใ่ี ห้นักเรียนไดฝ้ กึ ปฏบิ ตั ใิ นขณะทร่ี ับฟงั สารน้นั
กิจกรรมนไ้ี ม่ใชก่ ารทดสอบการฟงั แตเ่ ปน็ การ “ฝกึ ทักษะการฟงั เพือ่ ความเขา้ ใจ” กิจกรรมระหว่างการฟังน้ี
ไมค่ วรจดั กิจกรรมให้นักเรียนได้ปฏิบัติทกั ษะอื่น ๆ เช่น อ่าน หรือ เขียน หรอื พดู มากนกั ควรจัดกจิ กรรม
เช่น- ฟงั แล้วชี้ เช่น ครูพูดประโยคเก่ยี วกบั วัตถุ สง่ิ ของ หรอื สถานทรี่ อบตวั ภายในชัน้ เรียนนกั เรยี นช้ีสิ่งทไี่ ด้
ฟงั จากประโยคคาพูดของครฟู งั แลว้ ทาเคร่อื งหมายบนภาพ เช่น นักเรยี นแต่ละคนมีภาพคนละ1 ภาพ ในขณะ
ทค่ี รูอา่ นประโยคหรอื ข้อความ นกั เรียนจะทาเคร่อื งหมาย X ลงในบรเิ วณภาพทีไ่ ม่ตรงกบั ข้อความท่ไี ดฟ้ ัง

- ฟังแล้วเรยี งรปู ภาพ เช่น นักเรยี นมีภาพชุด คนละ 1 ชุด ครูอ่านสาร นกั เรียนเรยี งลาดับภาพ
ตามสารที่ไดฟ้ ัง โดยการเขียนหมายเลขลงใตภ้ าพทงั้ ชดุ น้นั

- ฟงั แลว้ จบั คู่ภาพกบั ประโยคทีไ่ ด้ฟัง นกั เรียนมภี าพคนละหลายภาพ ครอู ่านประโยคทลี ะ
ประโยค นกั เรียนเลือกจบั คู่ภาพที่สอดคลอ้ งกับประโยคทไี่ ดฟ้ งั โดยการเขยี นหมายเลขลาดบั ท่ีของประโยค
ลงใต้ภาพแต่ละภาพ

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

(2) ขั้นระหว่างการอา่ น (While-reading) เปน็ ขั้นตอนท่จี ัดกิจกรรมทใ่ี หน้ ักเรยี นได้ฝึกปฏิบตั ิในขณะที่ 6
อ่านสารน้ันเปน็ การ “ฝึกทกั ษะการอา่ นเพ่อื ความเขา้ ใจ” กจิ กรรมระหว่างการอ่านน้ี กจิ กรรมท่จี ดั ใหใ้ นขณะ
ฝึกอา่ น เชน่ - Matching คอื อ่านแล้วจับคู่คาศพั ท์ กับ คาจากัดความ หรอื จับคูป่ ระโยค เน้ือเร่อื งกบั ภาพ
แผนภมู ิ

- Ordering คือ อา่ นแลว้ เรียงภาพ แผนภูมิ ตามเนอื้ เรอ่ื งท่ีอ่าน หรือ เรยี งประโยค (Sentences)
ตามลาดับเร่อื ง หรือเรยี งเนื้อหาแตล่ ะตอน (Paragraph) ตามลาดบั ของเนอื้ เรอื่ ง

- Completing คือ อา่ นแล้วเตมิ คา สานวน ประโยค ข้อความ ลงในภาพ แผนภูมิ ตาราง
ฯลฯ ตามเรื่องที่อา่ น

- Correcting คือ อ่านแล้วแก้ไขคา สานวน ประโยค ข้อความ ให้ถูกต้องตามเนื้อเรื่องทไ่ี ด้
อา่ น

- Deciding คอื อ่านแล้วเลือกคาตอบทถี่ ูกตอ้ ง (Multiple Choice) หรอื เลอื กประโยคถกู ผิด
(True/False) หรอื เลือกวา่ มีประโยคนน้ั ๆ ในเนอ้ื เรื่องหรอื ไม่ หรือ เลือกวา่ ประโยคนน้ั เปน็ ขอ้ เท็จจริง (Fact)
หรอื เป็นความคดิ เห็น (Opinion)

- Supplying /Identifying คือ อา่ นแลว้ หาประโยคหวั ข้อเรอ่ื ง (Topic Sentence) หรอื สรปุ
ใจความสาคญั (Conclusion) หรอื จบั ใจความสาคญั (Main Idea) หรือตง้ั ชื่อเร่ือง (Title) หรือ ยอ่ เรือ่ ง
(Summary) หรอื หาข้อมลู รายละเอยี ดจากเรอ่ื ง (Specific Information)

(3) ข้ันระหว่างการเขยี น (While-writing) เป็นขัน้ ตอนท่ีให้นกั เรยี นได้ลงมือเขยี นงานฉบบั ร่าง โดย
นกั เรียนได้ถา่ ยทอดความคดิ หรือข้อมูลที่ตนเตรยี มไว้ เพื่อสื่อความหมายกับผอู้ ่านทางตัวอักษร การเขยี นในขั้น
น้ี ยังไมต่ ้องคานงึ ถงึ ความถกู ตอ้ งในการใชภ้ าษา แตค่ านึงถึงเนือ้ ความเป็นหลกั
ขัน้ หลงั การฟัง /การอ่าน /การเขยี น (Post-listening / Post-reading / Post-writing)

(1) ขั้นหลงั การฟัง (Post-listening)
เปน็ ขน้ั ตอนที่มุ่งใหน้ กั เรยี นได้ฝกึ การใช้ภาษาภายหลงั ทไ่ี ด้ฝกึ ปฏิบัติกิจกรรมระหว่างการฟงั
แลว้ เชน่ อาจฝกึ ทกั ษะการเขยี น สาหรบั ผเู้ รยี นระดับต้น โดยให้เขยี นตามคาบอก (Dictation) ประโยคท่ีไดฟ้ งั
มาแลว้ เป็นการตรวจสอบความรู้ ความถกู ตอ้ งของการเขยี นคาศัพท์ สานวน โครงสรา้ งไวยากรณ์ ของประโยค
นั้น หรอื ฝึกทักษะการพดู สาหรบั ผูเ้ รียนระดบั สงู โดยการใหอ้ ภปิ รายเกย่ี วกับสารที่ได้ฟัง หรอื อภิปราย
เกยี่ วกับอารมณ์หรือเจตคตขิ องผ้พู ดู เปน็ ตน้

(2) ข้นั หลงั การอ่าน (Post-reading) เปน็ ข้นั ตอนที่มุง่ ใหน้ ักเรยี นได้ฝกึ การใช้ภาษาในลักษณะทักษะ
สมั พันธเ์ พ่มิ ขน้ึ จากการอา่ น ท้งั การฟงั การพูด และการเขยี น เช่น การแข่งขันเกีย่ วกบั คาศัพท์ สานวน
ไวยากรณ์ จากเรอ่ื งทีไ่ ดอ้ า่ น เปน็ การทบทวนความรู้ หรือฝกึ ทักษะการฟังการพดู โดยให้ผู้เรยี นร่วมกันตัง้
คาถามเกี่ยวกับเนอ้ื เรอ่ื งแลว้ ชว่ ยกนั หาคาตอบ หรอื อาจใหพ้ ดู อภปิ รายเกย่ี วกับอารมณ์หรือเจตคติของผู้เขียน
เรอ่ื งนั้น หรอื ฝึกทักษะการเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองทีไ่ ดอ้ ่าน เป็นตน้

(3) ขน้ั หลังการเขียน (Post-writing) เป็นข้นั ตอนเพื่อให้นักเรียนไดท้ บทวน ปรบั ปรุงแก้ไข ตดั ตอ่
เพ่ิมเตมิ หรือย้อนไปสูข่ ้นั ตอนที่ 1 หรอื 2 ใหมไ่ ด้ เพือ่ ปรบั แก้ตามคาเสนอแนะหรอื ขอ้ มลู ยอ้ นกลับจากผ้อู ่าน

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวิทยาคาร

เป็น การปรับทงั้ ดา้ นเนอ้ื หาและความถกู ต้องในการใช้ภาษา โดยจะปรบั ก่ีครง้ั กไ็ ด้จนกว่าจะไดง้ านเขยี นฉบบั 7
สมบรู ณ์ กิจกรรมในข้ันตอนน้ี เช่น

- แลกเปลี่ยนกนั อา่ นงานเขยี น เพอ่ื ให้ข้อมลู ย้อนกลับด้านเนื้อหาโดยครูแจกแบบตรวจสอบ
เน้อื หาประกอบการอา่ น

- ปรบั แก้งานเขยี นตามขอ้ มลู ยอ้ นกลบั จากผอู้ า่ น
- แลกกันอา่ นงานเขยี นอกี ครงั้ เพ่ือให้ข้อมูลยอ้ นกลับด้านการใชภ้ าษาโดยครแู จกแบบ
ตรวจสอบการใช้ภาษาประกอบการอา่ น
- ปรบั แกง้ านเขียนตามขอ้ มลู ยอ้ นกลบั อีกครั้ง แล้วส่งครูเพ่อื การประเมินผล
3. ส่อื การจัดการเรยี นรู้/แหล่งเรยี นรู้ สื่อการจดั การเรียนรู้ เป็นเครอ่ื งมอื ส่งเสรมิ สนับสนนุ การจัดกระบวนการ
เรียนรู้ให้นักเรียนไดร้ ับความรู้ ทักษะกระบวนการไดง้ า่ ยในระยะเวลาสั้นและช่วยใหเ้ กิดความคิดรวบยอดอยา่ ง
ถูกต้องและรวดเรว็ สื่อท่ีปรากฏในแผนการจดั การเรียนรู้ มดี ังน้ี
1) ใบความรู้ ใบงาน แผนภาพนาเสนอขอ้ มลู
2) คลิป/วีดทิ ัศน์/ภาพขา่ วสถานการณ์ปจั จุบัน
3) สถานการณ์สมมตุ ิ
4) สอ่ื บุคคล
แหลง่ เรยี นรู้ เปน็ เครื่องมือสร้างคณุ ลกั ษณะการใฝ่เรยี นรทู้ ี่ทกุ คนตอ้ งใฝ่รู้ตลอดชวี ิต ดงั นี้
1) แหล่งเรยี นรู้ภายในโรงเรียน
2) แหลง่ เรยี นรูภ้ ายนอกโรงเรยี น ไดแ้ ก่ ชมุ ชน ท้องถิน่ พพิ ิธภณั ฑ์ หนว่ ยงานทเ่ี ก่ียวข้อง
หอ้ งสมดุ ประชาชน หอสมดุ แห่งชาติห้องสมุดเป็นแหล่งเรียนรู้ท่สี าคัญและเปน็ หวั ใจสาคัญของผเู้ รยี นใน
การศึกษาค้นคว้า โรงเรียนควรจดั ห้องสมุดกลาง หอ้ งสมุดหมวดวชิ า มมุ หนังสอื ในห้องเรียน ห้องสมุดเคลื่อนที่
รถเคลอื่ นที่ หอ้ งสมดุ ประชาชนลว้ นเปน็ แหลง่ เรียนรจู้ ะทาใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ รยี นรู้และปลูกฝังลักษณะนสิ ัยทด่ี ใี น
การส่งเสริมนสิ ยั รกั การอ่าน
3) แหล่งเรียนรูอ้ อนไลน์
- สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน
- สานกั หอสมดุ มหาวทิ ยาลัยตา่ ง ๆ

ฯลฯ
สอ่ื การจดั การเรียนรูท้ ี่เสนอแนะไว้ในแผนการจดั การเรียนรมู้ ีหลากหลายรูปแบบ เช่น สือ่ ของ จริง
(Authentic Materials) วิดโี อ คลิปวดิ ีโอ บตั รภาพ ใบงาน ใบความรู้ ใบสือ่ ดงั นน้ั การเตรียมส่ือสาหรบั
กิจกรรมการสอนแตล่ ะชนั้ ครผู ู้สอนควรเตรยี มให้เพียงพอกับจานวนกลุ่มหรือจานวนนักเรยี นในห้องเรยี นของ
ตนเอง กรณีส่อื การเรียนการสอนที่ระบุไวเ้ ปน็ website ครผู ู้สอนต้อง download เตรียมให้พร้อมก่อนสอน
จริง

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

4. การวดั และประเมินผล 8
จุดประสงคส์ าคญั ของการประเมนิ การเรยี นรู้ คือ การช่วยให้ผ้เู รียนเกิดการเรยี นรู้ตามวตั ถุประสงค์

ทผ่ี สู้ อนหรอื หลกั สตู รวางไว้ ปญั หาทีพ่ บในปัจจุบัน กค็ อื ผบู้ รหิ าร ผสู้ อน ตลอดจนผ้ปู กครองเป็นจานวนมาก
ยังใหค้ วามสาคัญการเรียนร้แู บบท่องจาเพื่อสอบ หรอื การเรียนรเู้ พ่ือแข่งขัน ซง่ึ ถือเปน็ การเรยี นรู้แบบผวิ เผิน
มากกว่าการประเมนิ การเรียนรรู้ ะหวา่ งเรยี นการเรียนรเู้ พือ่ พฒั นาตนเองซงึ่ ผลลพั ธ์ของการเรียนรจู้ ะยงั่ ยนื กว่า
(กศุ ลนิ , 2555; ขจรศกั ด์ิ, เพญ็ จันทร์ และวรรณทพิ า รอดแรงคา้ , 2548) ในการจัดการเรียนรเู้ พ่ือพฒั นา
สมรรถนะด้านต่าง ๆ ของผเู้ รยี นนนั้ จาเป็นต้องมีการประเมนิ การเรยี นรอู้ ยา่ งตอ่ เน่อื ง ตั้งแต่เริ่มตน้ ระหว่างและ
สิ้นสดุ กระบวนการเรียนรู้ โดยใช้การประเมนิ ในรปู แบบทีห่ ลากหลายสอดคลอ้ งตามวัตถุประสงคข์ องการ
เรียนรู้ รูปแบบการประเมนิ การเรยี นรู้ ได้แก่ การประเมนิ การเรยี นรรู้ ะหว่างเรียน (Formative Assessment)
การประเมนิ การเรียนรสู้ รุปรวม (Summative Assessment)และการประเมนิ การเรยี นรู้ตามสภาพจริง
(Authentic Assessment) ในการประเมนิ เพือ่ พฒั นาการเรยี นรูแ้ ละการประเมินตามสภาพจรงิ นัน้ ผู้สอน
จาเป็นตอ้ งสะท้อนการประเมนิ ใหผ้ ูเ้ รยี นรับทราบเพอ่ื ปรบั ปรุงและพัฒนาตนเอง และผู้สอนต้องนาผลการ
ประเมินมาพจิ ารณาเพอ่ื ทบทวนและปรบั แผนการจดั การเรยี นร้เู พื่อใหส้ ามารถดาเนนิ การแกไ้ ข ช่วยเหลอื หรือ
หาวิธกี ารตา่ ง ๆ เพอ่ื ช่วยใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะคนเกดิ การเรียนรู้และพัฒนาตนเองไดต้ ามแตล่ ะจดุ ประสงค์การเรียนรู้
หรอื เป้าหมายของตวั ชว้ี ัดต่าง ๆ (กศุ ลนิ , 2555)การวดั และประเมินผลการเรยี นรขู้ องผ้เู รียนตอ้ งอยบู่ นหลักการ
พื้นฐานสองประการ คือ การประเมินเพ่อื พัฒนาผู้เรยี นและเพื่อการตัดสนิ ผลการเรียน ในการพัฒนาคณุ ภาพ
การเรียนรู้ของผเู้ รียนให้ประสบความสาเร็จนั้น ผูเ้ รียนจะตอ้ งไดร้ บั การพฒั นาและประเมินตามตัวช้วี ัด เพื่อให้
บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรสู้ ะท้อนสมรรถนะสาคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องผู้เรยี น ซง่ึ เป็น
เป้าหมายหลกั ในการวัดและประเมินการเรยี นรู้ในทกุ ระดบั (กระทรวงศึกษาธิการ, 2552)การวดั และ
ประเมินผลการเรยี นรู้ทป่ี รากฏในแผนการจัดการเรียนรู้ ให้ความสาคญั ของการประเมินพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิ
ดงั นี้

1) วธิ กี ารประเมนิ
(1) การวัดและประเมินกอ่ นเรียน เพ่ือตรวจสอบความพร้อม และความรเู้ ดมิ ของผู้เรียน

(ผสมผสานในกจิ กรรมการเรยี นรู้ข้ันนา)
(2) การวดั และประเมินระหวา่ งเรยี น ได้แก่ ดา้ นความรู้ ทกั ษะการปฏิบตั ิ และคุณลกั ษณะ

โดยวิธีการสังเกตพฤติกรรม ถามตอบพร้อมแสดงเหตุผล ตรวจช้ินงาน การนาเสนอ (ผสมผสานในกิจกรรม
การเรยี นรูข้ นั้ สอน) จุดมุ่งหมายของการประเมนิ ระหวา่ งเรยี น มดี งั นี้

(2.1) เพือ่ คน้ หาและวนิ จิ ฉยั วา่ ผู้เรียนมีความร้คู วามเข้าใจเน้อื หา มที ักษะความ
ชานาญรวมถึงมีเจตคตทิ างการเรยี นรู้อย่างไรและในระดบั ใด เพ่อื เปน็ แนวทางใหผ้ ูส้ อนสามารถวางแผนการจดั
กจิ กรรมการเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม เพอ่ื พฒั นาการเรยี นร้ขู องผู้เรียนไดอ้ ยา่ งเต็มศักยภาพ

(2.2) เพ่ือใช้เปน็ ขอ้ มลู ป้อนกลับใหก้ ับผเู้ รยี นวา่ มผี ลการเรยี นร้อู ย่างไร
(2.3) เพ่ือใชเ้ ป็นข้อมลู ในการสรปุ ผลการเรียนรูแ้ ละเปรียบเทยี บระดับพฒั นาการ
ดา้ นการเรยี นร้ขู องผูเ้ รยี นแตล่ ะคน

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

(3) การวัดและประเมินหลังเรยี น เพื่อตรวจสอบความสาเร็จตามจุดประสงคร์ ายแผน เป็น 9
การพฒั นาในจุดทีผ่ ู้เรียนอาจจะเข้าใจคลาดเคลือ่ นหรือปฏิบตั ไิ ม่ถูกต้อง (ผสมผสานในกิจกรรมขัน้ สรปุ ) และ
เพ่อื ตัดสนิ ผลการจดั การเรียนรู้ เปน็ การประเมินหลังจากผู้เรียนได้เรียนไปแลว้ อาจเป็นการประเมินหลังจบ
หนว่ ยการเรียนรหู้ นว่ ยใดหน่วยหนงึ่ รวมทั้งการประเมนิ กลางภาคเรยี น และปลายภาคเรยี น ผลจากการ
ประเมนิ ประเภทนใ้ี ชใ้ นการตัดสินผลการจัดการเรียนการสอน หรอื ตดั สนิ ใจวา่ ผเู้ รยี นคนใดควรจะได้รับระดับ
คะแนนใด

(4) ประเมนิ รวบยอดเมื่อส้ินสุดหนว่ ยการเรยี นรู้ เพอ่ื ตรวจสอบคณุ ภาพผเู้ รียนวา่ บรรลุ
เป้าหมายของหน่วยการเรยี นร้ตู ามมาตรฐาน ตวั ชี้วัด สมรรถนะ คุณลกั ษณะ และเจตคติ หรือไม่ เช่น การทา
โครงงาน การนาความร้ไู ปใชเ้ พอื่ พฒั นาสงั คมในรปู แบบตา่ ง ๆ
คาแนะนาสาหรับครู

1) การเตรยี มตัวของครู
(1) ศึกษาทาความเขา้ ใจคาช้ีแจงและทาความเขา้ ใจเชอื่ มโยง ทงั้ เป้าหมาย กิจกรรมและ

การวดั ผลและประเมนิ ผลระหวา่ งหน่วยการเรียนรกู้ ับแผนการจดั การเรยี นรรู้ ายชวั่ โมง
(2) ศกึ ษาค้นควา้ ความรเู้ พมิ่ เติมจากแหล่งเรียนรู้ หน่วยงาน องคก์ รท่ใี ห้ความร้ทู ี่เชือ่ ถอื ได้

รวมทัง้ เทคนิคการจดั การเรียนร้เู พื่อพฒั นาความสามารถของผเู้ รียนอย่างรอบด้าน
(3) ปรับประยุกต์หรอื เพม่ิ เป้าหมายทั้งเนือ้ หา ทกั ษะ กระบวนการ คุณลักษณะทีเ่ ป็นจุดเนน้

และท่เี ป็นปจั จุบนั ตามบรบิ ทของห้องเรียน โรงเรียนชุมชนกจิ กรรมการเรยี นรู้ รวมถึงการวัดประเมิน
(4) จัดเตรียมใบงาน บันทึกการเรยี นรู้ ส่อื อปุ กรณ์

2) การนาแผนการจดั การเรยี นรู้ไปใช้
(1) ควรเตรียมศกึ ษาเนอ้ื หาเพิม่ เติมในแต่ละบทเรยี นก่อนการสอน เพื่อให้สามารถ

ปรับเปลีย่ นสถานการณต์ วั อย่างในแตล่ ะบทเรยี นให้เป็นสถานการณ์จริง ในบริบทของนกั เรยี นและท้องถนิ่ ที่มี
ความสอดคลอ้ งกับเน้ือหาในบทเรยี น เพอื่ ใหน้ ักเรียนเกดิ องค์ความรู้และประเมินไดว้ ่า นักเรยี นใชค้ วามรู้
ทางวิทยาศาสตรใ์ นสถานการณ์ในชีวิตประจาวันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

(2) การเขา้ ถึงสอ่ื การสอนทางอนิ เทอร์เนต็ ควรตรวจสอบการเข้าถงึ ข้อมลู หากไมส่ ามารถ
เขา้ ถึงขอ้ มูลได้ ให้ใชร้ ูปภาพหรอื สอื่ การสอนที่มีความใกลเ้ คยี งแทนได้ หากในบทเรียนมีการใช้วดี ิทัศน์ ผสู้ อน
ควรดาวนโ์ หลดวดี ทิ ัศนท์ จี่ ัดเตรยี มให้ในแต่ละบทเรยี นมาสารองไว้ในเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ให้เรียบร้อยก่อนทา
การสอน

(3) คาถามท้ายกจิ กรรมหลังจากทาการจัดการเรยี นการสอน ในแตล่ ะกิจกรรมของแตล่ ะ
แผนการจัดการเรียนรู้ เปน็ สง่ิ สาคัญทท่ี าให้ครูสามารถประเมนิ ไดว้ า่ นักเรียนเกิดองค์ความรู้ ตามจุดประสงค์
ของแผนการจัดการเรยี นรู้ และตามตัวชว้ี ัดของหลักสตู รหรอื ยัง ดงั น้ัน ในการสอนครคู วรให้ความสาคญั ควร
ถามตามลาดบั ทีอ่ อกแบบไวไ้ มค่ วรขา้ ม

(4) แบบประเมินจัดทาไวท้ ้ายแผนการเรียนร้สู ดุ ท้าย ซ่ึงเปน็ แบบประเมนิ ท่ใี ช้วัดผลที่เกดิ แก่
ผู้เรยี นตามจุดประสงค์การเรียนรคู้ รอบคลมุ ทง้ั 3 ด้าน ผ้สู อนสามารถเลอื กใช้เฉพาะแบบประเมินที่สอดคล้อง

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

กบั สง่ิ ทต่ี ้องการวัดในแตล่ ะแผนการจัดการเรียนรตู้ ามความเหมาะสม โดยไมจ่ าเป็นตอ้ งใช้ทุกแบบประเมนิ กับ
ทุกแผนการจดั การเรียนรู้

3) การจดั สภาพแวดลอ้ มสง่ เสรมิ การเรยี นรู้
ครคู วรจัดหอ้ งเรียนให้เหมาะต่อการทากจิ กรรมกลุ่ม และตอ้ งมคี วามสะอาด ปลอดภัย มีพืน้ ที่
เพยี งพอตอ่ การเคลอื่ นทีข่ องนักเรยี นในระหวา่ งปฏบิ ตั ิการทดลอง รวมทง้ั ตอ้ งสง่ เสริมใหน้ ักเรียนมคี วาม
รับผดิ ชอบในการดูแลพน้ื ที่ส่วนรวม ดังน้ี

(1) จดั สภาพแวดลอ้ ม หอ้ งเรียน หรือภายนอกหอ้ งเรยี น ใหเ้ อื้อต่อการเรียนรู้ สะอาด ความ
เปน็ ระเบยี บ ตกแตง่ หอ้ งเรยี นใหน้ ่าอยู่ มีมมุ ตา่ ง ๆ ในห้องเรยี น มที ่เี ก็บวสั ดอุ ุปกรณ์ และง่ายตอ่ การนามาใช้ มี
ปา้ ยนิเทศใหค้ วามรู้ ภายนอกหอ้ งเรยี นจดั บรรยากาศใหเ้ ป็นธรรมชาตนิ ่าอยู่ ร่มร่ืน และเหมาะกบั กิจกรรม
การเรยี นรู้ ถูกสุขลกั ษณะ และปลอดภัย

(2) จดั สภาพแวดลอ้ ม หรือห้องใหผ้ เู้ รียนได้ฝึกปฏิบัติการ
(3) จดั สอ่ื อปุ กรณ์ ท่เี กย่ี วกบั การเรยี นรู้อย่างเพียงพอ เหมาะสม
(4) จัดหาเครื่องมือแสวงหาความรู้ หรือ ชอ่ งทางเสนอขา่ วสารตา่ ง ๆ เพอ่ื ให้ผู้เรยี นไดร้ ับรู้
ข้อมูลขา่ วสารที่ทนั สมยั ปัจจุบันอย่เู สมอ

10

กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน
ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3

สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสือ่ สาร

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอา่ นจากส่ือประเภทตา่ งๆ และแสดง

ความคดิ เห็นอย่างมเี หตผุ ล

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และความ

คิดเหน็ อย่างมีประสิทธิภาพ

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่างๆ โดยการพูด และ

การเขยี น

สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ไดอ้ ย่าง

เหมาะสมกบั กาลเทศะ 11

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อยา่ งถกู ตอ้ ง

และเหมาะสม

สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพันธก์ ับกลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชอื่ มโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ ืน่ และเป็นพื้นฐาน ใน

การพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธก์ ับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม

มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเครอ่ื งมือพืน้ ฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชพี และการ

แลกเปลย่ี นเรียนรู้กับสงั คมโลก

กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวิทยาคาร

สาระท่ี มาตรฐาน ตัวชี้วัด 12

1 ต 1.1 1. ปฏิบตั ติ ามคาขอร้อง คาแนะนา คาช้แี จง และคาอธิบายทฟี่ งั และอา่ น
2. อ่านออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้ัน ๆ ถกู ตอ้ งตาม
หลกั การอา่ น
3. ระบุและเขียนสือ่ ที่ไมใ่ ช่ความเรยี งรปู แบบตา่ ง ๆให้สัมพันธก์ ับประโยคและ
ข้อความทฟ่ี ังหรืออา่ น
4. เลอื ก/ระบหุ วั ข้อเร่ือง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนับสนุน และแสดง
ความคิดเห็นเกีย่ วกบั เร่อื งทฟี่ ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ให้
เหตผุ ลและยกตัวอยา่ งประกอบ

ต 1.2 1. สนทนาและเขยี นโตต้ อบขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตวั
สถานการณ์ ข่าว เรือ่ งท่ีอยูใ่ นความสนใจของสังคม และสอ่ื สารอยา่ งตอ่ เนื่อง
และเหมาะสม
2. ใชค้ าขอร้อง ใหค้ าแนะนา คาชแ้ี จง และคาอธิบายอย่างเหมาะสม
3. พดู และเขียนแสดงความต้องการเสนอและให้ความชว่ ยเหลือ ตอบรับ และ
ปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลือในสถานการณต์ า่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสม
4. พดู และเขยี นเพ่ือขอและให้ขอ้ มลู อธบิ าย เปรยี บเทียบ และแสดงความ
คดิ เห็นเกี่ยวกบั เรอื่ งท่ฟี งั หรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
5. พูดและเขียนบรรยายความรสู้ กึ และความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกบั เร่อื ง
ต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตกุ ารณ์ พร้อมทงั้ ให้เหตุผล
ประกอบอย่างเหมาะสม

ต 1.3 1. พดู และเขียนบรรยายเกยี่ วกับตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ/์ เร่ือง/
ประเดน็ ต่าง ๆ ท่อี ย่ใู นความสนใจของสงั คม
2. พดู และเขยี นสรปุ ใจความสาคญั /แกน่ สาระ หวั ข้อเรอ่ื งที่ไดจ้ ากการ
วเิ คราะห์เรื่อง/ขา่ ว/เหตุการณ/์ สถานการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม
3. พดู และเขยี นแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับกจิ กรรม ประสบการณ์ และ
เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ

2 ต 2.1 1. เลอื กใชภ้ าษา นา้ เสยี ง และกริ ยิ าท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาสตาม
มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
2. อธิบายเก่ยี วกบั ชวี ติ ความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณขี อง
เจ้าของภาษา
3. เข้าร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

ต 2.2 1. เปรียบเทยี บและอธบิ ายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งการออก
เสยี งประโยคชนิดต่าง ๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

2. เปรียบเทยี บและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งชีวิต 13
ความเปน็ อยู่และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากับของไทย และนาไปใช้อยา่ ง
เหมาะสม
3 ต 3.1 1. คน้ คว้า รวบรวม และสรุปข้อมลู /ขอ้ เท็จจรงิ ที่เก่ียวขอ้ งกับกลมุ่ สาระการ
เรยี นรอู้ น่ื จากแหลง่ การเรียนรแู้ ละนาเสนอด้วยการพูดและการเขยี น
4 ต 4.1 1. ใช้ภาษาสอื่ สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จาลองทเ่ี กิดขึ้นในห้องเรียน
สถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม
ต 4.2 1. ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ /คน้ คว้า รวบรวม และสรปุ ความร/ู้
ข้อมูลตา่ ง ๆ จากสื่อและแหล่งการเรยี นร้ตู า่ ง ๆ ในการศกึ ษาตอ่ และ
ประกอบอาชพี
2. เผยแพร่/ประชาสัมพันธข์ อ้ มูลข่าวสารของโรงเรียน ชมุ ชน และท้องถ่ิน
เปน็ ภาษาตา่ งประเทศ

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวิทยาคาร

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

อ23102 รายวชิ าภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน 6 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ช่ัวโมง จานวน 1.5 หน่วยกติ

*************************************************************************************************

ศกึ ษาการใชภ้ าษา น้าเสยี ง กริยาท่าทางเหมาะสมตามมารยาททางสงั คม ใช้เทคโนโลยีในการสร้าง

ความสัมพันธร์ ะหวา่ งบุคคลในการเรียน การปฏิบัตงิ าน การสมคั รงาน ขอ และให้ขอ้ มลู ความชว่ ยเหลอื และ

บรกิ ารผ้อู นื่ ถ่ายโอนขอ้ มลู ที่ได้ฟังและอ่าน อา่ นออกเสยี งคา วลี ใช้ประโยคคาส่ัง คาขอรอ้ ง คาแนะนา

คาอธิบาย อ่านขอ้ ความที่ซบั ซ้อน ข้อมูล บทอ่านเรอ่ื งราวสนั้ ๆ ทงั้ ท่เี ป็นความเรยี ง และไมใ่ ชค่ วามเรยี งจากสือ่

สง่ิ พมิ พ์ และส่อื อิเลคทรอนิคส์ ในเรอื่ งราวเก่ียวกับสงิ่ แวดล้อม การเดนิ ทาง การบริการ วิทยาศาสตร์ สุขภาพ

การศึกษา ประวตั ิศาสตร์ และอืน่ ๆ แลว้ ถา่ ยโอนเปน็ ถอ้ ยคาของตนเองในรปู แบบต่างๆ แสดงความคดิ เห็น

ความตอ้ งการ ความรสู้ ึกเกย่ี วกับประสบการณ์ของตนเอง บทกวี บทเพลง บทละครสน้ั ๆ เปรยี บเทียบข้อมลู

ข่าวสาร เหตุการณต์ ่างๆ ในชีวติ ประจาวนั ทอ้ งถ่นิ และสังคม ประสบการณ์ การศกึ ษา การทางาน งาน

ประเพณี วันสาคัญของชาติ วัฒนธรรมไทย และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและ

วัฒนธรรม สามารถใชภ้ าษาเปน็ เครื่องมอื แสวงหาความรูเ้ พม่ิ เติม และเช่ือมโยงกบั กลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ ่ืน

เพือ่ ใหเ้ กดิ การเรยี นรู้วัฒนธรรมและบุคคล มีมนษุ ยสัมพันธ์ทด่ี ี สามารถตดิ ต่อส่ือสารกบั บุคคลอื่น

เหน็ คุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มเี จตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรียน มีจติ สาธารณะ มวี นิ ัย

ใฝร่ ใู้ ฝ่เรียนมคี ณุ ธรรมจริยธรรมและคา่ นิยมท่เี หมาะสมมีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์โดยบรู ณาการตามหลัก 14

ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหสั ตวั ชี้วดั

ต.1.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4

ต.1.2 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5

ต.1.3 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3

ต.2.1 ม.31 ม.3/2 ม.3/3

ต.2.2 ม.3/1 ม.3/2

ต3.1 ม.3/4

ต.4.1 ม..3/1

ต.4.2 ม.3/1 ม.3/2

รวมท้ังหมด 21 ตัวชวี้ ัด

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

การจดั ทาโครงสรา้ งรายวิชา

ตารางท่ี 1 แสดงโครงสร้างรายวชิ าภาษาองั กฤษพื้นฐาน 5 รหสั วิชา 23102

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 เวลาเรยี น 3 ชั่วโมง/ภาคเรยี น จานวน 1.5 หน่วยกิต

หน่วยท่ี ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรียนรู้ / สาระสาคญั เวลา น้าหนกั
1 การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน

Culture มฐ.ต1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบุ การเรยี นรู้คาศพั ท์เก่ียวกบั การ 4/2/2

And หัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคัญ เดินทาง คาศพั ท์เกย่ี วกับ

Festivals รายละเอยี ดสนบั สนนุ และ ยานพาหนะ การใช้ Present

แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั เรือ่ ง Simple Tense และการใช้

ทีฟ่ ังและอ่านจากสอื่ ประเภท Wh-question จะช่วยให้เขา้ ใจ

ตา่ ง ๆ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผล และสามารถบอกรายละเอยี ด

และยกตัวอยา่ งประกอบ และแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับ

มฐ.ต.1.2 ม.3/1สนทนาและ เรื่องทอ่ี า่ นและฟงั ได้ อักทัง้ ยงั

เขยี นโตต้ อบข้อมลู เก่ยี วกับ สามารถนาความรู้ไปใช้ในการ

ตนเอง เรอื่ งต่าง ๆ ใกลต้ ัว สนทนาเรื่องราวต่าง ๆ ใน

สถานการณ์ ข่าว เรื่องท่ีอยู่ใน ชีวิตประจาวันได้ 15

ความสนใจของสงั คมและ 14
สือ่ สารอยา่ งต่อเน่อื งและ

เหมาะสม3. มฐ. 1.2 ม 3/2 ใช้

คาขอรอ้ ง ให้คาแนะนา คา

ช้ีแจง และคาอธิบายอย่าง

เหมาะสม

มฐ.ต.1.2 ม.3/3 พูด.และเขยี น

แสดงความต้องการ เสนอและ

ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ตอบรบั และ

ปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลือใน

สถานการณ์ต่าง ๆ อย่าง

เหมาะสม

กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

โครงสร้างรายวชิ า

ตารางท่ี 1 แสดงโครงสรา้ งรายวิชาภาษาองั กฤษพื้นฐาน 6 รหสั วชิ า 23102

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลาเรยี น 3 ชัว่ โมง/ภาคเรียน จานวน 1.5 หนว่ ยกิต

หนว่ ยท่ี ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐานการเรียนรู้ / สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั
2 การเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน

มฐ.ต. 1.2 ม.3/4 พูดและเขียน *ฟงั เพื่อหาข้อมูลเฉพาะและพูด 7

เพ่ือขอและให้ข้อมูล อธบิ าย นาเสนอเรอ่ื งราวการใชช้ วี ิต

เปรยี บเทยี บ และแสดงความ การพดู เกีย่ วกบั เร่อื งของส่งิ แวด

คดิ เหน็ เก่ยี วกับเร่ืองทฟี่ ังหรอื ล้อม

อ่านอยา่ งเหมาะสม ( *อา่ นเพอ่ื หาข้อมูลเฉพาะ

มฐ.ต.1.2 ม.3/5 พดู และเขยี น *เขยี นบรรยายเกี่ยวกับการรกั ษ์

บรรยายความรูส้ ึกและความ โลกรกั ษ์สิ่งแวดล้อม

Environm คดิ เหน็ ของตนเองเกีย่ วกับเร่ือง *อา่ นเพอ่ื หาข้อมูลเกย่ี วกับเรอ่ื ง 14
ents ตา่ ง ๆ กจิ กรรม ประสบการณ์ ขอขยะทัง้ ในครอบครัว /
และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ พร้อมทัง้ ให้ โรงเรียน/ชุมชน

เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม *เขียนประโยคโดใชโ้ ครงสรา้ ง 16

มฐ.ต.1.3 ม 3/1 พูดและเขยี น ภาษาท่เี รยี น

บรรยายเกย่ี วกับตนเอง Structure :

ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/ * Present Future Tense

เรอื่ ง/ประเด็นตา่ ง ๆ ทอ่ี ยใู่ น ** Should / shouldn’t

ความสนใจของสังคม * Present Simple Tense

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

โครงสร้างรายวชิ า

ตารางที่ 1 แสดงโครงสร้างรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 6 รหัสวชิ า 23102

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 เวลาเรียน 3 ชั่วโมง/ภาคเรยี น จานวน 1.5 หนว่ ยกิต

หนว่ ยท่ี ชื่อหนว่ ย มาตรฐานการเรียนรู้ / สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั
3 การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน

มฐ.ต.1.1 ม 3/2 อา่ นออกเสียง การสอบถามและพูดคยุ เกีย่ วกบั 6

ขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบท ประโยคคาสงั่ ขอร้อง

ร้อย-กรองสั้นๆ ถกู ตอ้ งตาม คาแนะนา คาอธิบาย อ่าน

หลักการอ่าน ขอ้ ความทีซ่ ับซ้อนในเร่อื งราว

มฐ.ต.1.1 ม3/3. ระบุและเขยี น เกีย่ วกับ

สื่อทไ่ี ม่ใช่ความเรียง รปู แบบต่างๆ * Entertainments

ใหส้ ัมพันธ์กับประโยค และ * การใช้ Verb to be

ข้อความทฟ่ี ังหรืออ่าน * the comparision

มฐ.ต.1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุ * Countable

หัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคัญ /uncountable Noun

รายละเอยี ดสนบั สนุน และ แล้วถ่ายโอนเป็นถอ้ ยคาของ 17

แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั เร่ือง ตวั เองในรูปแบบตา่ ง ๆ และ

ทฟ่ี ังและอา่ นจากส่ือประเภท สามารถใชโ้ ครงสรา้ งไวยากรณ์ 16
Entertainments ต่างๆ พร้อมทง้ั ให้เหตผุ ลและ ท่เี หมาะสม

ยกตัวอย่าง ประกอบ

ม.ฐต.1.3 ม3/2 พดู และเขียน

สรปุ ใจความสาคญั /แกน่ สาระ

หวั ขอ้ เรอ่ื งที่ได้จากการวิเคราะห์

เร่ือง/ข่าว/เหตุการณ์/

สถานการณ์

ท่อี ย่ใู นความสนใจของสังคม

มฐ.ต.1.3 ม.3/3 พดู และเขียน

แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั

กิจกรรมประสบการณ์ และ

เหตกุ ารณ์พรอ้ มทง้ั ให้เหตผุ ล

ประกอบ

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวิทยาคาร

โครงสรา้ งรายวิชา

ตารางที่ 1 แสดงโครงสรา้ งรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 6 รหสั วชิ า 23102

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลาเรยี น 3 ชั่วโมง/ภาคเรยี น จานวน 1.5 หนว่ ยกติ

หนว่ ยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรยี นรู้ / สาระสาคญั เวลา น้าหนกั
4 การเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน

มฐ.ต.1.1 ม 3/2 อา่ นออกเสียง การสอบถามและพูดคุยเกย่ี วกับ 6

ขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบท ประโยคคาส่งั ขอรอ้ ง

ร้อย-กรองสนั้ ๆ ถกู ตอ้ งตาม คาแนะนา คาอธบิ าย อ่าน

หลักการอ่าน ขอ้ ความท่ซี ับซอ้ นในเร่อื งราว

มฐ ต.1.1 ม3/3. ระบุและเขยี น เกย่ี วกบั

สอ่ื ท่ีไม่ใช่ความเรยี ง รูปแบบต่างๆ * Part of Body

ใหส้ ัมพันธ์กบั ประโยค และ * การใช้ preposition of

ขอ้ ความทฟี่ ังหรืออ่าน moment

มฐ.ต.1.1 ม.3/4 เลอื ก/ระบุ * การใช้ some / any / no

หวั ขอ้ เรือ่ ง ใจความสาคัญ every + compounds

รายละเอยี ดสนบั สนุน และ * การใช้ –ing form (to) 18

แสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั เรือ่ ง infinitive

Stay ท่ฟี งั และอา่ นจากสือ่ ประเภท * การถามเก่ียวกบั อาการจบ 14
Healthy ต่างๆ พรอ้ มท้ังให้เหตุผลและ ปว่ ย

ยกตวั อยา่ ง ประกอบ *การอ่านฉลากยาและการให้

ม.ฐ ต.1.3 ม3/2 พูดและเขยี น คาแนะนาในกรณีเจ็บป่วย

สรุปใจความสาคัญ/แกน่ สาระ แล้วถา่ ยโอนเปน็ ถอ้ ยคาของ

หวั ขอ้ เร่อื งทไี่ ด้จากการวิเคราะห์ ตัวเองในรปู แบบต่าง ๆ และ

เรือ่ ง/ขา่ ว/เหตุการณ/์ สามารถใช้โครงสร้างไวยากรณ์

สถานการณ์ ท่ีเหมาะสม

ที่อยูใ่ นความสนใจของสงั คม

มฐ.ต.1.3 ม.3/3 พูดและเขียน

แสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั

กิจกรรมประสบการณ์ และ

เหตกุ ารณ์พรอ้ มทั้งใหเ้ หตุผล

ประกอบ

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

โครงสร้างรายวชิ า

ตารางท่ี 1 แสดงโครงสรา้ งรายวชิ าภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน 6 รหัสวิชา 23102

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 เวลาเรยี น 3 ชั่วโมง/ภาคเรียน จานวน 1.5 หน่วยกติ

หนว่ ยท่ี ช่อื หน่วย มาตรฐานการเรยี นรู้ / สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
4 การเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน

มฐ.ต.2.1 ม.3/1 เลอื กใช้ภาษา

นา้ เสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทาง

เหมาะกบั บคุ คลและโอกาส

ตามมารยาทสงั คม และ

วฒั นธรรม ของเจ้าของภาษา

มฐ.ต.2.1 ม3/2 อธิบาย

Stay เก่ียวกับชีวติ ความเปน็ อยู่

Healthy ขนบธรรมเนยี ม และประเพณี

ของเจ้าของภาษา

มฐ.ต.2.1 ม.3/3 เขา้ ร่วม/จัด

กิจกรรมทางภาษาและ 19

วฒั นธรรมตามความสนใจ

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวิทยาคาร

การจดั ทาหนว่ ยการเรยี นรู้
ตารางท่ี 2 การวางแผนออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้

กิจกรรมดา้ นความรู้ กิจกรรมด้านกระบวนการ/ กจิ กรรมดา้ นคุณลกั ษณะ
ทักษะ

1. การใชค้ าถาม ถาม – ตอบในขนั้ 1. การถาม- ตอบในรูปเกม 1.มคี วามรักชาตศิ าสน์กษตั ริย์

นา ขน้ั สอน และข้ันสรุป Find someone who / Bingo 2.มีความซือ่ สตั ย์สุจรติ

2. การใชบ้ ตั รคา รูปภาพ ทา่ ทาง / conversation /etc 3. มีวินยั

ประกอบในการใชค้ าถาม – ตอบ ใน 2. การนาเสนอข้อมูลในรูปความ 4.ใฝ่เรียนรู้

ข้นั นา เรียงและไม่ใช่ความเรยี ง 5.อยู่อย่างพอเพียง

3. การเล่นเกมฝึกทักษะการพูด การ 3. กระบวนการทางานรว่ มกนั 6.มุ่งมนั่ ทางาน

ฟงั เปน็ กลมุ่ และเป็นคู่ 7.รกั ความเป็นไทย

4. การสบื ค้น ศึกษาและตอบคาถาม 4. การนาไปใช้ในชวี ิตจริง 8.มีจติ สาธารณะ

ในใบงาน ชดุ ฝกึ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น

5. การสารวจข้อมลู เปน็ กล่มุ เปน็ คู่ 1. การสื่อสาร

6. การเขยี นขอ้ มลู เก่ยี วกับเรอื่ งที่ 2. การคิด

นา่ สนใจ เชน่ Superstar /Food 3. การแกป้ ัญหา 20

and eating habits /E-mail. 4. การใชท้ กั ษะชีวิต

7. การให้ความรูใ้ นรปู แบบตา่ งๆ 5.การใชเ้ ทคโนโลยี

เชน่ ทาแผน่ พับ

8. บรู ณาการตามความเหมาะสม

ของเนื้อหาสาระ เช่น เศรษฐกิจ

พอเพียงกจิ กรรม โรงเรียนสุจรติ

กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวิทยาคาร

การวิเคราะหห์ น่วยการเรยี นรู้

ตารางท่ี 3 การวิเคราะหค์ วามสัมพันธร์ ะหวา่ งหนว่ ยการเรยี นรู้ เร่อื งยอ่ ย ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้

ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ เรื่องย่อย มาตรฐานการเรียนรู้

1. Halloween มฐ.ต.1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบหุ ัวขอ้ เรื่อง

* Past Simple ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนับสนุน และ

Tense แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องท่ีฟงั และอา่ น

2. Loy Kratong จากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมทัง้ ใหเ้ หตุผล

Festival และยกตัวอย่างประกอบ

3. Grammar : Present มฐ. ต.1.2 ม.3/1สนทนาและเขียนโตต้ อบ

Simple Tense ข้อมูลเกย่ี วกับตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว

4. Christmas สถานการณ์ ข่าว เร่อื งที่อยูใ่ นความสนใจของ

Grammar: Verb To Be สงั คมและสือ่ สารอยา่ งต่อเนื่องและเหมาะสม

Wh-question มฐ. ต.1.2 ม 3/2 ใช้คาขอรอ้ ง ใหค้ าแนะนา

5. Grammar : Present คาชแี้ จง และคาอธิบายอย่างเหมาะสม

simple Tense มฐ.1.2 ม.3/3 พดู .และเขียนแสดงความ

Present Future ต้องการ เสนอและให้ความชว่ ยเหลอื ตอบรบั

Cultures and Tense และปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลอื ใน 21

Festivals Wh-question สถานการณต์ ่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม

มฐ ต.1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพอื่ ขอและให้

ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความ

คิดเหน็ เกี่ยวกับเร่ืองทีฟ่ ังหรืออา่ นอย่าง

เหมาะสม

มฐ. ต.1.2 ม.3/5 พดู และเขยี นบรรยาย

ความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเอง

เกยี่ วกบั เร่อื งต่าง ๆ กจิ กรรม ประสบการณ์

และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ พรอ้ มทง้ั ให้เหตุผล

ประกอบอยา่ งเหมาะสม

มฐ.ต. 1.3 ม 3/1 พูดและเขยี นบรรยาย

เกีย่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/

เหตุการณ์/เร่อื ง/ประเดน็ ต่าง ๆ ท่ีอยใู่ นความ

สนใจของสังคม

กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวิทยาคาร

การวิเคราะหห์ นว่ ยการเรียนรู้

ตารางที่ 3 การวิเคราะหค์ วามสมั พนั ธร์ ะหว่างหนว่ ยการเรียนรู้ เรือ่ งยอ่ ย ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้

ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ เร่ืองย่อย มาตรฐานการเรียนรู้

มฐ. ต.1.3 ม 3/3 พดู และเขยี นแสดงความ

คิดเห็นเก่ียวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และ

เหตกุ ารณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผลส้ัน ๆ ประกอบ

มฐ. ต. 2.1 ม.3/1 เลอื กใช้ภาษา น้าเสียง

และกริ ิยาทา่ ทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส

ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของ

ภาษา

22

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวิทยาคาร

การกาหนดเปา้ หมายการเรยี นรู้.
ตารางท่ี 4 วิเคราะห์มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ เพอ่ื กาหนดเป้าหมายการเรียนรู้ วางแผนการ
ออกแบบการจัดกิจกรรมทั้งด้านความรู้ ด้านกระบวนการ/ทักษะ และดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

กิจกรรม

มาตรฐานการเรยี นรู้ จุดประสงค์การ ด้านความรู้ ด้าน ดา้ นคณุ ลกั ษณะฯ
เรียนรู้
กระบวนการ/ 1. มีความ
รับผดิ ชอบตอ่ งานท่ี
ทกั ษะ ได้รับมอบหมาย
2. ความมรี ะเบยี บ
มฐ. ต.1.1 ม. 3/4 1. จบั ใจความ บอก 1. ถาม-ตอบเกี่ยวกบั ข้อมูล 1. อ่านออก วินยั ในการปฏิบัติ
ตนตามขอ้ ตกลงที่
เลอื ก/ระบหุ วั ขอ้ เรอื่ ง ข้อมลู เฉพาะและ สว่ นตวั เสยี งคาศัพท์ กาหนด

ใจความสาคญั แสดงความคิดเหน็ 2. เติมคาศัพท์โดยใช้ ถกู ตอ้ ง 23

รายละเอียดสนับสนนุ เก่ียวกบั เรอ่ื งทีฟ่ ัง โครงสรา้ งไวยากรณ์ที่ถูกตอ้ ง 2. สนทนา

และแสดงความคดิ เหน็ และอา่ นได้ ใช้คาศพั ท์และโครงสร้าง โต้ตอบเก่ยี วกบั

เกยี่ วกบั เรอ่ื งที่ฟังและ 2. อา่ นออกเสียง ไวยากรณใ์ นการเขยี นความ ขอ้ มูลบคุ คลท่ี

อ่านจากส่อื ประเภท คาศพั ท์และบท เรยี งได้ถูกต้อง ต้องการทราบ

ต่าง ๆ พรอ้ มทงั้ ให้ สนทนาไดถ้ ูกตาม 3. เขียนและเลา่ เรอื่ งราวแบบ ได้โดยใช้

เหตุผลและยกตัวอย่าง หลกั การอา่ น ส้ันๆ ไดถ้ ูกต้องตามหลัก โครงสรา้ ง

ประกอบ 3. เขา้ ใจความหมาย ไวยากรณ์ ไวยากรณ์ที่

มฐ.ต.1.2 ม.3/1 โดยรวมและ เหมาะสม

สนทนาและเขยี น โครงสร้างของเร่อื งที่

โตต้ อบขอ้ มูลเกยี่ วกับ อ่านได้

ตนเอง เรื่องตา่ ง ๆ ใกล้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ ( P)

ตัว สถานการณ์ ขา่ ว 1. อ่านออกเสยี ง

เรอื่ งท่อี ยใู่ นความสนใจ คาศัพทแ์ ละบท

ของสงั คมและส่อื สาร สนทนาได้ถูกตาม

อยา่ งต่อเนือ่ งและ หลักการอา่ น

เหมาะสม 2. เข้าใจ

มฐ. ต.1.2 ม 3/2 ใช้ ความหมายโดยรวม

คาขอรอ้ ง ใหค้ าแนะนา และโครงสร้างของ

คาช้ีแจง และอธิบาย เร่ืองที่อ่านได้

อย่างเหมาะสม

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

การกาหนดเปา้ หมายการเรียนรู้.
ตารางที่ 4 วเิ คราะห์มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ เพือ่ กาหนดเป้าหมายการเรียนรู้ วางแผนการ
ออกแบบการจดั กิจกรรมท้งั ด้านความรู้ ดา้ นกระบวนการ/ทกั ษะ และด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

มาตรฐานการเรยี นรู้ จุดประสงค์การ ด้านความรู้ กจิ กรรม ด้านคณุ ลักษณะฯ
เรยี นรู้ ดา้ น

กระบวนการ/
ทักษะ

มฐ.ต.1.2 ม.3/3 พดู .
และเขียนแสดงความ
ตอ้ งการ เสนอและให้
ความชว่ ยเหลือ ตอบ
รบั และปฏิเสธการให้
ความชว่ ยเหลือใน
สถานการณต์ ่าง ๆ
อยา่ งเหมาะสม

24

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

การกาหนดชนิ้ งาน/ภาระงาน

ตารางที่ 5 วิเคราะห์ความสมั พันธร์ ะหว่างผลการเรยี นรู้ เป้าหมายการเรยี นรู้ ชิ้นงาน/ภาระงาน

กิจกรรม

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นความรู้ ด้านกระบวนการ/ ด้านคณุ ลักษณะฯ ชิ้นงาน/ภาระงาน

ทกั ษะ

1. จับใจความ บอก 1. กจิ กรรม Find 1. อา่ นออกเสยี ง 1. มีความ 1. งานในชดุ ฝึก

ข้อมลู เฉพาะและแสดง someone who ถาม คาศัพท์ และบท รบั ผดิ ชอบต่องานท่ี กจิ กรรม

ความคดิ เหน็ เกี่ยวกับ ตอบเกีย่ วกับข้อมลู สนทนาไดถ้ ูกตอ้ ง ไดร้ บั มอบหมาย 2. การถาม-ตอบ

เรื่องทีฟ่ งั และอา่ นได้ ส่วนตัว 2. ตอบคาถามจาก 2. ความมี เก่ียวกับ

2. อ่านออกเสยี ง 2. อา่ นออกเสียง บทสนทนาท่ีอ่านได้ ระเบียบวนิ ยั ในการ Conversation

คาศัพท์และบทสนทนา คาศัพท์ และบท ถูกตอ้ ง ปฏบิ ัติตนตาม (True) (False)

ได้ถกู ตามหลักการอ่าน สนทนาไดถ้ ูกตอ้ ง 3. นักเรยี นทากิจ ขอ้ ตกลงทีก่ าหนด 3. การเขยี นความ

3. เข้าใจความหมาย 3. ตอบคาถามจาก กรมชุดฝกึ การเขยี น เรียงเกี่ยวกับ Same

โดยรวมและโครงสรา้ ง บทสนทนาท่ีอ่านได้ เกี่ยวกบั เร่ือง but difference ได้

ของเรือ่ งทอ่ี า่ นได้ ถูกต้อง Present Simple ถูกต้องตามหลกั

3.2 ด้านทกั ษะ ( P) 4. นกั เรยี นทา ไวยากรณ์

1. อา่ นออกเสียง กจิ กรรมชุดฝกึ การ 25

คาศัพทแ์ ละบทสนทนา เขยี นเกีย่ วกับเร่ือง

ได้ถกู ตามหลักการอา่ น Present Simple ได้

2. เข้าใจความหมาย 5. นักเรียนทา

โดยรวมและโครงสรา้ ง กจิ กรรมชุดฝกึ การ

ของเรื่องที่อา่ นได้ เขียนเกี่ยวกบั เร่อื ง

Comparative ได้

กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

เร่อื ง การกาหนดกจิ กรรมการเรยี นรู้

ตารางท่ี 6 วเิ คราะหค์ วามสัมพนั ธ์ระหวา่ งตัวชวี้ ดั การออกแบบกจิ กรรมการเรียนรู้ ชน้ิ งาน/ภาระงาน

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ชนิ้ งาน/ภาระงาน

1. จับใจความ บอกขอ้ มูลเฉพาะและ 1. กจิ กรรม Find someone who ถามตอบ 1. ใบงานเกี่ยวกบั การกรอก

แสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเรื่องทีฟ่ ัง เก่ยี วกบั ขอ้ มลู ส่วนตัว ขอ้ มลู

และอ่านได้ 2. อ่านออกเสียงคาศัพท์ และแตง่ บทสนทนา 2. การเตมิ คาศัพท์

2. พดู เก่ียวกับอบุ ัติเหตุที่เกดิ ขึ้นได้ ตามสถานการณ์ทก่ี าหนดได้ การเขยี นบทสนทนา

3. พดู และเขียนโดยใช้ Present 3. ตอบคาถามจากเร่อื งทอ่ี า่ นได้ถกู ตอ้ ง 3. พดู บทสนทนาเปน็ กล่มุ /

Simple การใช้ Present Future 4. นักเรยี นทากิจกรมชุดฝึกการเขียนเก่ยี วกับ คู่

Tense อละ Past simple Tense เร่ือง ใช้ Present Simple การใช้ Wh- 4. การเขียน E-mail

ไดถ้ กู ต้อง question/ การใช้ Present Future Tense

4. พูดและเขียนใหค้ าแนะนาเกีย่ วกับ ได้ถูกต้อง

การดแู ลรักษาสุขภาพ

5. ทาโปสเตอร์นาเสนอขอ้ มูล

เกีย่ วกับเร่อื งการใชย้ าสามัญประจา

บ้านได้

6. ทาโปสเตอรร์ ณงค์เก่ียวกบั การ 26

รักษาความสะอาดในหอ้ งเรยี น/

โรงเรยี นและชมุ ชนได้ถูกตอ้ งตาม

หลกั โครงสร้างไวยากรณ์

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

เรอื่ ง การวางแผนจัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้

คาชแี้ จง ใหว้ เิ คราะหค์ วามสมั พนั ธร์ ะหว่างหน่วยการเรยี นรู้ เรือ่ งย่อย จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ กิจกรรมการ

เรยี นรู้ การวัดผลประเมนิ ผล ส่อื การสอน และเวลา

ชอ่ื หนว่ ย/ การวัด จานวน

หัวข้อย่อย/ ตวั ชว้ี ดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ประเมนิ ผล สอื่ การสอน ชัว่ โมง
แผนการ

เรียนรู้ที่

มฐ.ต.1.1 ม. 3/4 เลอื ก/ระบุ 1. ถาม-ตอบ 1. สงั เกต -Flash Card

หัวข้อเรือ่ ง ใจความ สาคญั เก่ียวกับ ข้อมูล 2. ตรวจใบงาน - ใบความรู้

รายละเอยี ดสนบั สนุน และ สว่ นตวั เรอื่ งการ 3. ประเมินการ -ใบงาน

แสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกบั เรอื่ ง เดนิ ทาง อา่ นออกเสียง -รูปภาพ

ทีฟ่ งั และอา่ นจากส่ือประเภท 2. เตมิ คาศพั ท์โดย 4. ประเมนิ การ 4. หนังสอื

ต่าง ๆ พร้อมทงั้ ใหเ้ หตุผลและ ใชโ้ ครงสรา้ ง เขยี นเติมคา เรยี น Spark

ยกตัวอยา่ งประกอบ ไวยากรณท์ ถ่ี ูกตอ้ ง 5.ใบงานจาก

มฐ.ต.1.2 ม.3/1 สนทนาและ ใชค้ าศพั ท์และ Live

เขยี นโต้ตอบขอ้ มลู เกี่ยวกบั โครงสรา้ ง worksheet

ตนเอง เร่อื งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ไวยากรณ์ในการ 27

สถานการณ์ ข่าว เร่อื งที่ เขยี นความเรียงได้

Cultures and อยู่ในความสนใจของสังคมและ ถกู ตอ้ ง 14
Festivals ส่อื สารอยา่ งตอ่ เนือ่ งและ 3. เขยี นและเล่า
เหมาะสม เรอ่ื งราวแบบสนั้ ๆ

มฐ. ต.1.2 ม 3/2 ใชค้ าขอรอ้ ง ไดถ้ กู ตอ้ งตามหลัก

ใหค้ าแนะนา คาชแ้ี จง และ ไวยากรณ์

คาอธิบายอยา่ งเหมาะสม 4. อา่ นออกเสยี ง

มฐ.ต.1.2 ม.3/3 พูด.และเขยี น คาศัพท์ถูกต้อง

แสดงความตอ้ งการ เสนอและ 5. สนทนาโตต้ อบ

ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ตอบรับและ เก่ียวกับขอ้ มูล

ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ บุคคลทีต่ ้องการ

ทราบได้โดยใช้

โครงสร้าง

ไวยากรณ์ท่ี

เหมาะสม

กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวิทยาคาร

เรื่อง การวางแผนจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้

คาชแี้ จง ใหว้ ิเคราะหค์ วามสมั พันธ์ระหว่างหน่วยการเรยี นรู้ เร่ืองย่อย จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ กจิ กรรมการ

เรยี นรู้ การวัดผลประเมินผล สอ่ื การสอน และเวลา

ช่อื หน่วย/ การวดั จานวน

หวั ขอ้ ยอ่ ย/ ตัวชว้ี ัด กจิ กรรมการเรียนรู้ ประเมินผล สื่อการสอน ชัว่ โมง
แผนการเรียนรู้

ที่

ชว่ ยเหลอื ในสถานการณต์ ่าง ๆ

อยา่ งเหมาะสม

มฐ ต.1.2 ม.3/4 พดู และเขียน

เพอ่ื ขอและให้ข้อมูล อธิบาย

เปรียบเทยี บ และแสดงความ

คิดเห็นเกย่ี วกบั เรอื่ งทฟี่ งั หรอื

อ่านอยา่ งเหมาะสม

มฐ. ต 1.2 ม.3/5 พดู และเขียน

บรรยายความรู้สึกและความ

คิดเหน็ ของตนเองเกีย่ วกบั เรื่อง 28

ต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์

และข่าว/เหตกุ ารณ์ พรอ้ มทง้ั ให้

เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม

มฐ.ต.1.3 ม 3/1 พูดและเขียน

บรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง

ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ์/

เรื่อง/ประเดน็ ต่าง ๆ ทอ่ี ยใู่ น

ความสนใจของสังคม

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

เรอ่ื ง การวางแผนจดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้

คาชแ้ี จง ใหว้ ิเคราะห์ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งหน่วยการเรียนรู้ เรื่องย่อย จุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการ

เรียนรู้ การวัดผลประเมินผล ส่ือการสอน และเวลา

ชื่อหน่วย/ การวดั จานวน

หัวข้อย่อย/ ตวั ช้ีวัด กจิ กรรมการเรยี นรู้ ประเมนิ ผล สือ่ การสอน ช่ัวโมง
แผนการเรียนรู้

ที่

มฐ.ต.1.2 ม.3/4 พดู และเขียนเพ่ือ 1. ถาม-ตอบ 1. สังเกต -Flash Card

ขอและใหข้ ้อมลู อธิบาย เกี่ยวกบั ข้อมลู 2. ตรวจใบงาน - ใบความรู้

เปรยี บเทยี บ และแสดงความ เกี่ยวกบั การดาเนิน 3. ประเมนิ การ -ใบงาน
คิดเห็นเกี่ยวกับเรอ่ื งทฟ่ี ังหรืออ่าน ชีวติ ในเมอื งและใน อา่ นออกเสียง -รปู ภาพ
อยา่ งเหมาะสม 4. หนงั สอื
มฐ.ต.1.2 ม.3/5 พดู และเขยี น ชนบท 4. ประเมินการ เรียน Spark 29
บรรยายความรูส้ ึกและความ 2. เติมคาศพั ทโ์ ดย เขยี นเติมคา 5. Power
คดิ เห็นของตนเองเกยี่ วกับเร่ือง ใชโ้ ครงสรา้ ง Point 14
ต่าง ๆ กจิ กรรม ประสบการณ์ ไวยากรณ์ทถ่ี กู ต้อง 6. Live
และข่าว/เหตุการณ์ พรอ้ มทัง้ ให้ ใชค้ าศัพท์และ Worksheet
เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม โครงสรา้ ง
มฐ.ต.1.3 ม 3/1 พูดและเขยี น ไวยากรณ์ในการ

บรรยายเก่ียวกับตนเอง เขียนความเรยี งได้

Environments ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/ ถูกต้อง

เรือ่ ง/ประเดน็ ตา่ ง ๆ ทีอ่ ยูใ่ นความ 3. เขียนและเล่า

สนใจของสงั คม เร่อื งราวแบบสนั้ ๆ

มฐ.ต.2.2 ม.3/2 เปรียบเทยี บและ ได้ถกู ต้องตามหลกั

อธิบายความเหมือนและความ ไวยากรณ์

แตกต่างระหวา่ งการออกเสยี ง 4. อา่ นออกเสยี ง
ประโยคชนิดต่างๆ และการลาดับ คาศัพท์ถูกตอ้ ง
คาตามโครงสร้างประโยคของ 5. สนทนาโตต้ อบ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย เก่ยี วกับข้อมูล
มฐ.ต4.2 ม.3/2 เผยแพร/่ บุคคลทต่ี ้องการ
ประชาสมั พนั ธข์ อ้ มูล ข่าวสารของ ทราบไดโ้ ดยใช้
โรงเรยี น ชมุ ชน และทอ้ งถ่ิน เป็น โครงสร้าง
ภาษาตา่ งประเทศ ไวยากรณท์ ี่

เหมาะสม

กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

เร่อื ง การวางแผนจัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้

คาชแี้ จง ให้วิเคราะห์ความสมั พนั ธ์ระหว่างหนว่ ยการเรียนรู้ เร่อื งย่อย จุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมการ

เรยี นรู้ การวัดผลประเมินผล สือ่ การสอน และเวลา

ชื่อหน่วย/หวั ขอ้ การวดั จานวน

ยอ่ ย/แผนการ ตวั ชีว้ ดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ประเมนิ ผล สือ่ การสอน ชวั่ โมง

เรยี นรู้ท่ี

มฐ.ต.1.1 ม.3/2 อ่านออกเสียง 1. ถาม-ตอบ 1. สังเกต -Flash Card

ขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบท เก่ียวกับ ข้อมูล 2. ตรวจใบงาน - ใบความรู้

ร้อยกรองสนั้ ๆ ถูกต้องตาม ส่วนตัวเรือ่ งความ 3. ประเมนิ การ -ใบงาน

หลักการอ่าน บนั เทงิ อ่านออกเสยี ง -รปู ภาพ

มฐ.ต.1.1ม.3/3 ระบแุ ละเขียน 2. เติมคาศพั ทโ์ ดย 4. ประเมนิ การ 4. หนังสอื

สือ่ ที่ไมใ่ ช่ความเรียงรปู แบบต่าง ใช้โครงสรา้ ง เขยี นเตมิ คา เรียน Spark

ๆใหส้ มั พันธ์กบั ประโยคและ ไวยากรณท์ ถี่ ูกตอ้ ง

ข้อความท่ฟี งั หรอื อา่ น ใช้คาศัพทแ์ ละ

มฐ.ต.1.2 ม.3/5 พูดและเขยี น โครงสรา้ ง

บรรยายความรูส้ ึกและความ ไวยากรณ์ในการ

คิดเห็นของตนเองเกยี่ วกบั เรือ่ ง เขียนความเรียงได้ 30

ตา่ ง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์ ถูกตอ้ ง

Entertainment และข่าว/เหตุการณ์ พรอ้ มท้งั ให้ 3. เขียนและเลา่ 14
เหตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม เรอ่ื งราวแบบส้นั ๆ

มฐ.ต.1.3 ม 3/1 พูดและเขียน ได้ถูกต้องตามหลัก

บรรยายเกยี่ วกบั ตนเอง ไวยากรณ์

ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/ 4. อา่ นออกเสียง

เรอื่ ง/ประเดน็ ตา่ ง ๆ ทีอ่ ยู่ใน คาศพั ท์ถกู ตอ้ ง

ความสนใจของสงั คม 5. สนทนาโตต้ อบ

ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย เกย่ี วกบั ข้อมลู

มฐ.ต4.2 ม.3/2 เผยแพร/่ บุคคลทต่ี อ้ งการ

ประชาสมั พนั ธ์ข้อมลู ข่าวสาร ทราบไดโ้ ดยใช้

ของโรงเรยี น ชุมชน และ โครงสร้าง

ทอ้ งถนิ่ เปน็ ภาษาตา่ งประเทศ ไวยากรณท์ ่ี

เหมาะสม

กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

เรอื่ ง การวางแผนจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้

คาช้แี จง ใหว้ เิ คราะห์ความสมั พันธร์ ะหว่างหน่วยการเรียนรู้ เรอ่ื งย่อย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ กจิ กรรมการ

เรยี นรู้ การวัดผลประเมินผล สื่อการสอน และเวลา

ช่อื หน่วย/หัวขอ้ การวัด จานวน

ย่อย/แผนการ ตวั ชี้วดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ประเมนิ ผล สอ่ื การสอน ชวั่ โมง

เรียนรทู้ ่ี

Stay Healthy มฐ.ต.1.1 ม 3/2 อ่านออกเสยี ง 1. กจิ กรรม Find 1. สังเกต -Flash Card

ขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบท someone who 2. ตรวจใบ - ใบความรู้

ร้อย-กรองส้นั ๆ ถูกตอ้ งตาม เรื่องการใช้ การ งาน -ใบงาน

หลักการอ่าน รบั ประทานอาหาร 3. ประเมนิ -รูปภาพ

มฐ.ต.1.1 ม3/3. ระบุและเขียน 2. การSurvey การอา่ น 4. หนงั สือ

สือ่ ท่ไี ม่ใช่ความเรียง รูปแบบต่างๆ สอบถามเกย่ี วกบั การ ออกเสยี ง เรียน Spark

ใหส้ ัมพันธ์กบั ประโยค และ ออกกาลงั กาย 4. ประเมิน 5. Live

ขอ้ ความทฟ่ี ังหรืออา่ น 3.การเขียนให้ การเขียน Worksheet

มฐ.ต.1.1 ม.3/4 เลือก/ระบุ คาแนะนาเกีย่ วกบั เติมคา

หัวขอ้ เรอื่ ง ใจความสาคญั การดูแลรักษา

รายละเอยี ดสนับสนุน และ สขุ ภาพ 31

แสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั เรอ่ื ง 4.Grammar:

ทฟี่ ังและอา่ นจากสอื่ ประเภท Should/Shouldn’t

ต่างๆ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผลและ Give advice/

ยกตัวอย่าง ประกอบ Express Opinion

ม.ฐต.1.3 ม3/2 พดู และเขียน

สรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ

หัวขอ้ เร่ืองทไี่ ด้จากการวเิ คราะห์

เร่อื ง/ข่าว/เหตกุ ารณ์/

สถานการณ์

ท่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม

มฐ.ต.1.3 ม.3/3 พดู และเขยี น

แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั

กจิ กรรมประสบการณ์ และ

เหตุการณ์พร้อมทัง้ ใหเ้ หตุผล

กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรียนสวายวทิ ยาคาร

เร่ือง การวางแผนจดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้

คาชี้แจง ให้วิเคราะหค์ วามสัมพันธร์ ะหว่างหนว่ ยการเรียนรู้ เรื่องยอ่ ย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ กจิ กรรมการ

เรียนรู้ การวดั ผลประเมินผล สื่อการสอน และเวลา

ชอ่ื หน่วย/หัวขอ้ ตัวช้วี ดั กิจกรรมการ การวัด จานวน
ย่อย/แผนการ เรยี นรู้ ประเมินผล สือ่ การสอน ชวั่ โมง

เรียนรู้ที่

ประกอบ

มฐ.ต.2.2 ม.3/2 เปรียบเทียบ

และอธบิ ายความเหมอื นและ

ความแตกต่างระหว่างการ

ออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ

และการลาดับคาตาม

โครงสรา้ งประโยคของ

ภาษาต่างประเทศและ

ภาษาไทย

มฐ.ต 4.2 ม.3/2 เผยแพร/่

ประชาสัมพันธข์ ้อมลู ขา่ วสาร 32

ของโรงเรียน ชมุ ชน และ

ท้องถน่ิ เป็น

ภาษาตา่ งประเทศ


Click to View FlipBook Version