ทักษะผู้นำด้านการสร้างสรรค์สื่อเพื่อพัฒนาจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดของแกนนำเยาวชน ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา กรกมล ใจไหว1 เณศรา จิวตระกูล2 ธัญจิรา ทองรอด3 เบญจมาส เกลาฉีด4 บัวชมภู อุบลสิงห์5 ภูมิผกา ธิติถาวร6 และวรินธร เบญจศรี*7 บทคัดย่อ การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนาทักษะผู้นำด้านการสร้างสรรค์สื่อในการเผยแพร่ เรื่องราวในชุมชนของแกนนำเยาวชน ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา (2) เพื่อพัฒนาจิตสำนึก รักษ์บ้านเกิดของแกนนำเยาวชน ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ผลการจัดทำโครงการสรุปดังนี้ (1) เยาวชนแกนนำมีทักษะการสร้างสรรค์สื่อในการเผยแพร่เรื่องราวในชุมชนเพิ่มขึ้น โดยทักษะการสร้างสรรค์ สื่อของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน (2) ระดับจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดของแกนนำเยาวชนหลังเข้าร่วมกิจกรรม ทักษะการสร้างสรรค์สื่อเพื่อพัฒนาจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดของแกนนำเยาวชน ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา สูงกว่าก่อนการเข้าร่วมกิจกรรม คำสำคัญ : ทักษะการสร้างสรรค์สื่อ จิตสำนึกรักษ์บ้านเกิด แกนนำเยาวชน 1-6 นิสิตระดับปริญญาตรี สาขาวิชาภาษาไทย, คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ 7 อาจารย์ ดร.วรินธร เบญจศรี, สาขาวิชาการสอนศิลปศาสตร์, คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ *Corresponding author E-mail : [email protected]
บทนำ ชุมชนคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตเกี่ยวโยงกับธรรมชาติและเป็นภาพ สะท้อนอดีตของชุมชนภาคใต้ขนาดย่อม พื้นที่แถบนี้เป็นชุมชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม หัตถกรรม และยังคงหลงเหลือวิถีคนริมน้ำซึ่งสร้างบ้านเรือนและประกอบอาชีพค้าขายมาตั้งแต่อดีตจนเป็นตลาดน้ำ แห่งแรก ๆ ของประเทศไทย ด้วยวิถีชีวิตที่ไม่ตอบสนองความต้องการของระบบทุนนิยมทำให้ชุมชนคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ถูกมองเป็นชุมชนชายขอบทั้งจากคนภายในและภายนอกพื้นที่ ส่งผลให้เยาวชนที่ มีภูมิลำเนาในพื้นที่ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ขาดความรักและภาคภูมิใจในบ้านเกิดของ ตนเองเนื่องจากขาดการฝังตัวในพื้นที่ชุมชนอย่างแท้จริง กล่าวคือ เป็นเพียงผู้อาศัยในชุมชนทว่าไม่ได้สัมผัส และคลุกคลีความเป็นพหุลักษณ์ทางด้านวิถีชีวิตที่สะท้อนความเป็นระโนด ผนวกเข้ากับการรุกรานของระบบ ทุนนิยมจึงทำไว้วิถีของระโนดค่อย ๆ เลือนหาย ผู้วิจัยจึงเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาจิตสำนึกรักษ์บ้าน เกิดเพื่อให้ชุมชนเห็นคุณค่าอัตลักษณ์ของตนเอง ก่อเกิดเป็นความภาคภูมิใจและลดภาวะคนวัยทำงานซึ่งมีกำลัง ในการพัฒนาบ้านเกิดย้ายถิ่นฐานไปสู่พื้นที่อื่นจนชุมชนเหลือเพียงเด็กและคนชรา ซึ่งการพัฒนาจิตสำนึกรักษ์ บ้านเกิดต้องสร้างการตระหนักรู้ตั้งแต่วัยเยาว์เพื่อสร้างพลังรักษ์ที่บริสุทธิ์และยั่งยืน กำหนดพื้นที่ในการศึกษา ครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา และกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการวิจัย เป็นแกนนำเยาวชนจากโรงเรียนคลองแดนวิทยา ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา กระบวนการทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดควบคู่ไปกับทักษะผู้นำด้านการสร้างสรรค์สื่อ ในการเผยแพร่เรื่องราวในชุมชนของแกนนำเยาวชน เริ่มต้นโดยการสำรวจพื้นที่ในชุมชนเพื่อแบ่งเป็นฐานการ เรียนรู้จำนวน 4 ฐาน ได้แก่ ร้อยรักจักสาน ตำนานระโนด ลูกโหนดนาข้าว แหลงเล่าเกษตร จากนั้นผู้วิจัยพร้อม ด้วยแกนนำเยาวชนลงพื้นที่จริงพร้อมบันทึกภาคสนาม เพื่อนำเรื่องราวที่ได้เรียนรู้มาเล่าสู่กันฟังสะท้อนมุมมอง ความคิดเกี่ยวกับระโนดร่วมกัน นำไปสู่การเรียบเรียงเนื้อหาเพื่อทำ Infographic และเขียนข้อความเผยแพร่ ในเฟซบุ๊กของแกนนำเยาวชนเป็นการประชาสัมพันธ์ชุมชนผ่านทักษะการสร้างสรรค์สื่อในขั้นพื้นฐานของ กลุ่มแกนนำเยาวชน กระบวนการในการจัดกิจกรรมเป็นการใช้แนวคิดการลงชุมชนจากรายวิชาวิถีครูบนฐาน ชุมชนการเรียนรู้บูรณาการร่วมกับรายวิชาภาษาไทยในเรื่องการเขียน เพื่อสร้างวัฒนธรรมการสื่อสารอย่าง สร้างสรรค์และสร้างจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดให้กับแกนนำเยาวชน สื่อสร้างสรรค์ เป็นการสร้างสื่อเพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการสื่อสารเรื่องราว สอดคล้องกับ พระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อสร้างสรรค์และปลอดภัย (2558 : 30) ให้ความหมายของสื่อว่าสิ่งที่ทำให้ ปรากฏด้วยตัวอักษร เครื่องหมาย ภาพ หรือเสียง ไม่ว่าจะจัดทำในรูปแบบของเอกสาร สิ่งพิมพ์ ภาพเขียน รูปภาพ โฆษณา ภาพยนตร์ วีดิทัศน์ หรือจัดทำในรูปแบบอื่นใด และให้ความหมายของสื่อปลอดภัยและ สร้างสรรค์ ว่าหมายถึง สื่อที่มีเนื้อหาส่งเสริมศีลธรรม จริยธรรมและวัฒนธรรม ส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะ
ชีวิต ตลอดจนส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีในสังคมและสามารถใช้ชีวิตในสังคมที่มีความหลากหลายได้อย่าง เป็นสุข จิตสำนึกเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในตัวบุคคล ซึ่งเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ชัยเสฏฐ์ พรหมศรี, 2557 : 25) จิตสำนึก หมายถึง การรู้เท่าทันสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นหน้าที่ฝึกความรับผิดชอบของตนพร้อมปฏิบัติตามเพื่อความ อยู่รอดของสังคมโดยไม่นำกฎหมายมาบังคับใช้ ทักษะผู้นำด้านการสร้างสรรค์สื่อเพื่อพัฒนาจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิด ผู้วิจัยได้สร้างแกนนำนวัตกรผู้ สร้างสรรค์สื่อ หรือที่เรียกว่า Influencer รุ่นใหม่จากแกนนำเยาวชนโรงเรียนคลองแดนวิทยา โดยได้รับความ ร่วมมือจากปราชญ์ชุมชนเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราววิถีความเป็นระโนด บนฐานความเชื่อที่ว่าทุกชุมชนมีเรื่องราว จากบรรพชนและห้องเรียนไม่ควรจำกัดอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยม ห้องเรียนชุมชนระโนดแห่งนี้จึงสะท้อนผลจาก การลงพื้นที่จริงเป็นมุมมองใหม่ในความเป็นระโนดที่แกนนำเยาวชนถ่ายทอดผ่าน infographic และขยายวง กว้างสู่บุคคลภายนอกต่อไป วัตถุประสงค์ในการศึกษา 1. เพื่อพัฒนาทักษะผู้นำด้านการสร้างสรรค์สื่อในการเผยแพร่เรื่องราวในชุมชนของแกนนำเยาวชน ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา 2. เพื่อพัฒนาจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดของแกนนำเยาวชน ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. แกนนำเยาวชน ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา มีทักษะผู้นำด้านการสร้างสรรค์สื่อ ในการเผยแพร่เรื่องราวในชุมชน เกิดจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดนำไปสู่การขยายผลเพื่อลดการย้าย ออกนอกพื้นที่ของคนวัยทำงาน 2. ผู้วิจัยและแกนนำเยาวชนได้รับการพัฒนากระบวนการเรียนรู้และแก้ปัญหาจากการลงพื้นที่ วิธีการศึกษา การศึกษาครั้งนี้ ผู้วิจัยใช้แกนนำเยาวชน ซึ่งเป็นเยาวชนในพื้นที่ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จำนวน 4 คน ประกอบด้วย เด็กหญิงกวินธิดา เบ้านุวงศ์ เด็กชายวิทวัส สมศักดิ์ นางสาวกนกวรรณ อินทรทัต และนางสาวสุภาวดี ศรีคงแก้ว โดยผู้ศึกษาได้แบ่งฐานการเรียนรู้ออกเป็น 4 ฐาน เพื่อให้แกนนำเยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้และทำความรู้จักกับชุมชนของตนเองมากยิ่งขึ้น ผ่าน 4 ฐานการเรียนรู้ ได้แก่
1. ร้อยรักจักสาน เป็นฐานการเรียนรู้ เพื่อให้กลุ่มแกนนำเยาวชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของการทำ หัตถกรรมจักสานจากกระจูดในชุมชนคลองแดน อำเภอระโนด และขั้นตอนการผลิตหัตถกรรมจักสาน จากกระจูด ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์ในการให้ความรู้จาก นางพรทิพย์ ขาวหนูนา ผู้ริเริ่มการทำหัตถกรรมจัก สานจากกระจูดในชุมชน เดิมการสานกระจูดเป็นเพียงอาชีพหนึ่งของคนในชุมชน แต่ในปัจจุบันการสานกระจูด ในชุมชนคลองแดน อำเภอระโนด ได้รับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จนกลายเป็นสินค้า OTOP ที่มีชื่อเสียงของชุมชน และส่งออกไปยังต่างประเทศ ส่งผลให้เกิดการรวมกลุ่มของคนในชุมชน เพื่อเรียนรู้ขั้นตอนและวิธีการทำ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมและผลักดันสินค้าในชุมชนไปสู่ตลาดโลกและเป็นการสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน หลังจากที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับจุดเริ่มต้นและความเป็นมาของการสานกระจูดในชุมชนแล้วจึงมีการสาธิตขั้นตอน และวิธีการสานกระจูด เพื่อให้กลุ่มแกนนำเยาวชนได้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น จากนั้นกลุ่มแกนนำเยาวชน จึงได้ทดลองสานกระจูดด้วยตัวเอง เป็นการเรียนรู้ผ่านการลงมือโดยประยุกต์จากการสานกระเป๋ามาเป็นการ สานปลาตะเพียนจากกระจูดเพื่อทำเป็นพวงกุญแจและปิ่นปักผม ซึ่งถือเป็นการสร้างทักษะผู้ประกอบการ และสร้างทักษะอาชีพ รวมถึงส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้กับกลุ่มแกนนำเยาวชน เพื่อที่จะสามารถนำไปต่อ ยอดได้ในอนาคต 2. ตำนานระโนด เป็นฐานการเรียนรู้ เพื่อให้กลุ่มแกนนำเยาวชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ของชุมชนที่ตนเองอาศัยอยู่ ซึ่งประวัติชุมชนเป็นหนึ่งในเครื่องมือลงชุมชนสากล เป็นข้อมูลที่บอกเล่าความ เป็นมาของชุมชนในด้านต่าง ๆ ทั้งสังคม วัฒนธรรม อาชีพ ค่านิยม ความเชื่อและเศรษฐกิจของชุมชน โดยใน ฐานการเรียนรู้ ตำนานระโนด ผู้ศึกษาได้รับความอนุเคราะห์จาก นายเกรียงไกร อนันตพงศ์ อดีตประธานชุมชน คลองแดน อำเภอระโนด ในการให้ความรู้แก่กลุ่มแกนนำเยาวชน เรื่องราวของชุมชนคลองแดน อำเภอระโนด มีจุดเริ่มต้นจากการย้ายถิ่นฐานของบรรดาพ่อค้าและประชาชน เพื่อมาประกอบกิจการค้าขายบริเวณ คุ้งน้ำซึ่งเป็นเสมือนทางแยกของเส้นทางคมนาคมทางน้ำ เนื่องจากมีคลองสามสายไหลมาบรรจบกัน คือ คลอง ระโนด คลองชะอวด และคลองปากพนัง ทำให้เป็นเส้นทางสำคัญในการสัญจรทางน้ำ กิจการการค้าในแถบนี้ เจริญรุ่งเรืองจนเกิดการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ดังกล่าวและขยายตัวเป็นชุมชนริมน้ำเรื่อยมา จนกระทั่งความเจริญ เริ่มเข้ามา ได้มีการสร้างถนนทางหลวง 408 ในการสัญจร ส่งผลให้ปัจจุบันการสัญจรทางน้ำได้สูญหายไปจาก วิถีชีวิตของคนระโนดแต่ยังคงวิถีชีวิตของความเป็นตลาดน้ำไว้ ตลอดจนในพื้นที่ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ยังมีประชากรอีกส่วนหนึ่งประกอบอาชีพเกษตรกรรมทำไร่นาและพืชสวน เนื่องจากพื้นที่ใน บริเวณระโนดมีดินที่อุดมสมบูรณ์การทำนาและการปลูกต้นตาลโตนดจึงเป็นที่มาของชื่ออำเภอระโนด ทั้งนี้วิถี เกษตรกรรมข้างต้นยังส่งผลต่อภูมิปัญญาการทำน้ำตาลโตนด การแปรรูปผลตาลโตนด เช่น การทำขนม
การถนอมอาหารและการทำน้ำตาลเมา เป็นต้น ตลอดจนเรียนรู้เรื่องโนรา ซึ่งเป็นศิลปะพื้นบ้านร่วมกันของ ภาคใต้จากการเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของชุมชน ทำให้กลุ่มแกนนำเยาวชนได้เข้าใจถึงความเป็นตัวตนของ ชุมชนตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน และเห็นคุณค่าของชุมชนที่ตนเองอาศัยอยู่ ตลอดจนสามารถเผยแพร่เรื่องราว ของชุมชนได้อย่างเต็มภาคภูมิ 3. ลูกโหนด นาข้าว เป็นฐานการเรียนรู้ เพื่อให้กลุ่มแกนนำเยาวชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับบริบทอาชีพดั้งเดิม ของคนในชุมชน โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของชุมชนคลองแดน อำเภอระโนด จะเป็นพื้นที่นาข้าวและมีต้นตาลโตนด ส่งผลให้คนในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพชาวนา ซึ่งในปัจจุบันอาชีพชาวนายังคงอยู่คู่กับชุมชนคลองแดน อำเภอระโนด จากการสอบถามนายเจือ กาฬวงศ์ ทำให้ทราบว่าคนในชุมชนจะปลูกข้าวไว้สำหรับบริโภคใน ครัวเรือนและจำหน่าย นอกจากนี้ยังส่งต่อให้กลุ่มสินค้า OTOP ของชุมชนนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และจากการสอบถามพบว่าอาชีพการทำน้ำตาลโตนด น้ำตาลเมาในชุมชน เริ่มที่จะเลือนหาย ด้วยยุคสมัยที่ เปลี่ยนไปและปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ส่งผลให้คนในชุมชนหันมาประกอบอาชีพอื่นเพิ่มขึ้น ทว่าอาชีพดั้งเดิม เหล่านี้ยังคงมีให้เห็นได้บ้าง จึงเป็นวิถีชีวิตที่เสี่ยงต่อการสูญหายไปจากชุมชนและการรับรู้ของคนรุ่นหลัง เนื่องจากคนที่มีองค์ความรู้ในการถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ก็ค่อย ๆ ลดลง จากการเรียนรู้ในฐานลูกโหนด นาข้าว ทำให้กลุ่มแกนนำเยาวชนเห็นถึงความสำคัญของอาชีพชาวนา และเห็นคุณค่าของ “ข้าว” ที่เป็นปัจจัย หลักในการดำเนินชีวิต ตลอดจนเล็งเห็นปัญหาภาวะเสี่ยงด้านภูมิปัญญาเกี่ยวกับตาลโตนดที่ใกล้สูญหาย ตระหนักและตื่นตัวในการเรียนรู้และสืบสานเรื่องราวของชุมชนเพื่อต่อลมหายใจของวิถีชีวิตคนระโนดให้คงอยู่ 4. แหลงเล่าเกษตร เป็นฐานการเรียนรู้ เพื่อให้กลุ่มแกนนำเยาวชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำเกษตร อินทรีย์ที่สอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์พระราชา ซึ่งในฐานการเรียนรู้แหลงเล่าเกษตร ได้รับความอนุเคราะห์ จาก นายเจือ กาฬวงศ์ ในการให้ความรู้เรื่องการทำเกษตรที่จะต้องมีการเตรียมความ พร้อมและวางแผนให้สอดคล้องกับปฏิทินฤดูกาล รวมทั้งมองเห็นประโยชน์ของการทำเกษตรอินทรีย์ซึ่งมี กระบวนการผลิตที่ปลอดภัยต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค นอกจากนี้ยังเป็นการลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตร เนื่องจากไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อมอีกด้วย ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ย่ำแย่ลง เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 สะท้อนให้เห็นข้อดีของการพึ่งพาตนเองให้มาก ที่สุดโดยเฉพาะในเรื่องของอาหารซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพของมนุษย์ เศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิด การทำเกษตรอินทรีย์ที่รับผิดชอบต่อผู้บริโภคจึงเป็นทางออกในการแก้ปัญหาเรื่องอาหารและสร้างความยั่งยืน ได้อย่างแท้จริง จากนั้นกลุ่มแกนนำเยาวชนยังได้ลงพื้นที่ “ไร่นาเจือ นอกตำรา” ทำให้ได้เรียนรู้และลงมือ ปฏิบัติในสถานที่จริง ฝึกการสังเกต การปรับตัว และการลงมือเก็บผลผลิต เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าห้องเรียน
ไม่ได้จำกัดแค่ในห้องสี่เหลี่ยมแต่เราสามารถเรียนรู้ได้จากบริบทรอบตัวรวมทั้งการศึกษาที่แท้จริงควรตอบโจทย์ การดำรงชีพของผู้เรียนเพื่อสร้างการพึ่งพาตนเองจากการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง แหล่งข้อมูล ได้แก่ ชุมชนคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็น (1) กลุ่มแกนนำเยาวชนในชุมชน รวมจำนวน 4 คน ประกอบด้วย เด็กหญิงกวินธิดา เบ้านุวงศ์ เด็กชายวิทวัส สมศักดิ์นางสาวกนกวรรณ อินทรทัต และนางสาวสุภาวดี ศรีคงแก้ว และมีผู้ให้ข้อมูลเป็นปราชญ์ชาวบ้าน รวมจำนวน 3 คน ประกอบด้วย นางพรทิพย์ ขาวหนูนา ปราชญ์ชาวบ้านด้านการจักสาน นายเกรียงไกร อนันตพงศ์ ปราชญ์ชาวบ้านด้านประวัติศาสตร์ชุมชน และนายเจือ กาฬวงศ์ ปราชญ์ชาวบ้านด้านการเกษตร จากนั้นกลุ่มเยาวชนได้ลงพื้นที่เรียนรู้ชุมชนจากปราชญ์ชาวบ้าน ฝึกทักษะผู้ประกอบการ และทักษะการเป็น Influencer บูรณาการกับรายวิชาภาษาไทยโดยนำเสนอผ่าน Infographic และ Facebook เพื่อสร้างเป็นแกน นำเยาวชนที่มีจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดนำเสนอชุมชนคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา สู่สาธารณชน รวมกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น 4 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการวิจัยเรื่องทักษะผู้นำด้านการสร้างสรรค์สื่อเพื่อ พัฒนาจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดของแกนนำเยาวชน ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ได้แก่ การสังเกตเพื่อช่วยให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับ พฤติกรรม สภาพแวดล้อม และบรรยากาศ นอกจากนี้ยังมีการสัมภาษณ์ ประเด็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยครั้งนี้ เพื่อให้ได้ข้อมูลชุมชน ความจริง ความคิดเห็น ปัญหา ข้อเสนอแนะ ความรู้สึก เจตคติและบันทึกภาคสนาม รวมทั้งประเด็นการสนทนาถอดบทเรียนเกี่ยวกับการทำกิจกรรมใน ครั้งนี้ ตลอดจนใช้ปฏิทินอาชีพ โดยต้องศึกษาอาชีพ เวลา และวิถีชีวิตประจำวันของปราชญ์ผู้ให้ความรู้ เช่น ไร่นาเจือนอกตำรา ผู้วิจัยได้ไปเรียนรู้กับปราชญ์คือ นายเจือ กาฬวงศ์ช่วงที่ผู้วิจัยแลกเปลี่ยนความรู้กับ ปราชญ์ชาวบ้านเป็นช่วงเวลาเสร็จสิ้นภารกิจมีเวลาว่างมาให้ความรู้และเยี่ยมชมสวน ปราชญ์คนที่สองคือ นางพรทิพย์ ขาวหนูนา ผู้วิจัยได้ไปเรียนรู้การจักสานกับป้าทิพย์ในช่วงบ่าย เป็นช่วงที่ป้าทิพย์ว่างจากการ ทำงานและเป็นช่วงกลางวันซึ่งมีแสงเพียงพอ ตลอดจนปราชญ์คนสุดท้ายคือ นายเกรียงไกร อนันตพงศ์ ที่เปิดร้ายขายยาโบราณในตลาด ช่วงที่ผู้วิจัยแลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นช่วงเวลาบ่าย ซึ่งมีลูกค้าไม่มากนัก ปราชญ์ชาวบ้านจึงมีเวลาว่างมาให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชุมชน
ผลการศึกษา การวิจัยทักษะผู้นำด้านการสร้างสรรค์สื่อเพื่อพัฒนาจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดของแกนนำเยาวชน ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชน ปลูกฝังให้เยาวชนรักษ์บ้าน เกิดและประชาสัมพันธ์ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลาผ่านนักเรียนโรงเรียนคลองแดนวิทยา จำนวน 4 คน ผลปรากฏว่า นักเรียนมีความรักษ์บ้านเกิดมากขึ้นจากการเรียนรู้ผ่าน 4 แหล่งการเรียนรู้ ได้แก่ ฐานร้อยรักจักสาน เรียนรู้การสานกระเป๋าจากต้นกระจูดและมีทักษะผู้ประกอบการจากการสานพวงกุญแจและ ปิ่นปักผมปลาตะเพียนเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าท้องถิ่นในระดับที่เยาวชนสามารถทำได้ฐานตำนานระโนด เป็นการเรียนรู้รากเหง้าความเป็นมาของชุมชน อาชีพและวิถีชีวิตริมน้ำ ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น อย่างโนราอันเป็นวัฒนธรรมร่วมของคนในตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ฐานลูกโหนด นาข้าว เรียนรู้การทำเกษตรกรรมและการเก็บเกี่ยวตามฤดูกาล ฐานแหลงเล่าเกษตร เรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์แบบ ผสมผสานบนฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพึ่งพาตนเองและเรียนรู้ความหลากหลายของพรรณพืช ในตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ตลอดจนบอกเล่าประสบการณ์ผ่านการจัดทำ Infographic และเขียนบทความขนาดสั้นเกี่ยวกับระโนดองศาใหม่จากหัวใจ Influencer จากนั้นเผยแพร่ผ่านทาง Facebook ของแกนนำเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม การจัดโครงการในครั้งนี้จึงทำให้ผู้วิจัยสามารถสร้างแกนนำนวัตกรที่เรียกว่า Influencer รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นแกนนำเยาวชนที่ช่วยประชาสัมพันธ์ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ให้เป็นที่รู้จักและร่วม อนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป สรุปและอภิปรายผล ทักษะผู้นำด้านการสร้างสรรค์สื่อเพื่อพัฒนาจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดของแกนนำเยาวชน ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดของเยาวชน ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา พบว่าเยาวชนตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา หลังจากได้ทำ กิจกรรมในโครงการสารพันหนึ่งวันกับ Influencer รุ่นใหม่ในระโนด โดยการเรียนรู้ผ่าน 4 ฐานการเรียนรู้ซึ่งมี เนื้อหาเกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างการทำสานกระจูดรวมไปถึงการสานปลาตะเพียนเพื่อทำพวงกุญแจ เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของชุมชนตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เศรษฐกิจพอเพียงและ เกษตรอินทรีย์เพื่อความยั่งยืน พบว่าแกนนำเยาวชนตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลามีทักษะการ สร้างสรรค์สื่อในการเผยแพร่เรื่องราวในชุมชนและมีระดับจิตสำนึกในการรักษ์บ้านเกิดสูงกว่าก่อนการเข้าร่วม กิจกรรม เนื่องจากตระหนักถึงคุณค่าและความเป็นชุมชนระโนดที่ไม่ด้อยไปกว่าชุมชนอื่น นอกจากนี้ยังมีความ
ภาคภูมิใจที่จะเผยแพร่และประชาสัมพันธ์เรื่องราวภายในตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ให้กับ คนภายนอกได้รับทราบและเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น ผลการศึกษาวิจัยทักษะผู้นำด้านการสร้างสรรค์สื่อเพื่อพัฒนาจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดของแกนนำเยาวชน เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างสรรค์จิตสำนึกรักบ้านเกิดของเยาวชน ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลาครั้งนี้ผู้วิจัยมีข้อค้นพบและประเด็นที่น่าสนใจนำมาอภิปรายดังนี้ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลาเป็นอำเภอเก่าแก่ ชื่อ ระโนด ตามคำบอกเล่า สันนิษฐานว่ามาจากการที่เกษตรกรนิยมปลูกต้น ตาลโตนดกั้นชายแดนของพื้นที่นา เมื่อต้นตาลโตนดเติบโตขึ้นจึงดูเป็นราวตามชายแดนของพื้นที่นา จึงเรียกกัน ว่าบ้านราวโหนด ต่อมาเพี้ยนเป็นบ้านระโนด มีสถานที่ศึกษาเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิถีความเป็นระโนด ปรากฏให้เห็น เช่น ไร่นาเจือนอกตำราที่เปิดให้เยี่ยมชม เเลกเปลี่ยนองค์ความรู้การทำเกษตรตามรอยศาสตร์ พระราชาเพื่อการพึ่งพาตนเองด้วยวิถีพอเพียง มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีชุมชนวิถีพุทธคลอง แดน เป็นชุมชนริมน้ำตั้งแต่อดีตและคงวิถีความเป็นคนริมน้ำไว้จนถึงปัจจุบัน ตลอดจนตลาดน้ำคลองแดนเป็น แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยมีคลองสามสายมาบรรจบกัน คือ คลองระโนด คลองชะอวด และคลองปากพนัง ตลาดริมน้ำคลองแดนสนับสนุนให้คนในท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาชุมชนไปพร้อมกับการได้รับ ผลตอบแทนในเชิงเศรษฐกิจ ถือเป็นการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมและภูมิปัญญาอีกรูปแบบหนึ่ง ตลอดจนขาย ของที่ระลึกซึ่งเป็นฝีมือของคนในท้องถิ่นเป็นการสร้างรายได้เข้าสู่ครัวเรือน เป็นต้น เห็นได้ว่าตำบลคลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา มีแหล่งเรียนรู้หลากหลาย แม้ระโนดจะเป็น อำเภอที่อยู่ในชนบท ทว่ายังมีมุมมองน่าสนใจให้ศึกษาและคงความเป็นวิถีชนบทไว้อย่างเหนียวแน่นท่ามกลาง ที่กระแสทุนนิยมที่คุกคาม ในทางกลับกันเยาวชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสนใจและละเลยถิ่นฐานบ้าน เกิด มุ่งสู่ความเจริญในแผ่นดินอื่น ส่งผลให้ขาดจิตสำนึกรักบ้านเกิด ผู้วิจัยมองเห็นคุณค่าและความน่าสนใจของ ระโนดและเกิดความคิดว่าเยาวชนภายในพื้นที่ควรให้ความสำคัญกับบ้านเกิดและมีความรู้สึกต่อบ้านเกิดใน แง่มุมที่ภาคภูมิใจซึ่งสิ่งนี้จะต้องปลูกฝังให้หยั่งลึกลงไปภายในจิตใจของเยาวชนในพื้นที่เพื่อที่เยาวชนเหล่านี้จะ ได้เติบใหญ่เป็นคนคุณภาพและสร้างความเจริญให้แก่ภูมิลำเนาของตนเอง ข้อเสนอแนะ 1. ก่อนลงชุมชนควรมีการวางแผน ศึกษาข้อมูลชุมชน ศึกษาเส้นทาง และลงสำรวจชุมชนก่อนการลง พื้นที่จริง 2. ตรวจสอบสภาพอากาศในวันที่ลงพื้นที่ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น มีพายุ ฝนตก หรือแดดออกจัด ควรมี แผนการแก้ปัญหา 3. ระหว่างลงชุมชนควรปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับบริบทของชุมชน ทำให้ชุมชนรู้สึกวางใจ ไม่แปลกแยก
4. ผู้วิจัยควรมีทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เนื่องจากระหว่างลงชุมชนมีปัจจัยหลายอย่างที่นอกเหนือ การควบคุมและอาจเป็นอุปสรรคจึงต้องมีความสามารถในการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ เอกสารอ้างอิง ชัยเสฏฐ์ พรหมศรี.(2557). ภาวะผู้นำร่วมสมัย Comtemporary Leadership. กรุงเทพฯ : ปัญญาชน พระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์. (2558). สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์. สืบค้นเมื่อ 25 ตุลาคม 2565 , จาก https://www.thaimediafund.or.th อ้างอิงบุคคล เกรียงไกร อนันตพงศ์ (ผู้ให้สัมภาษณ์) , กรกมล ใจไหว, เณศรา จิวตระกูล, ธัญจิรา ทองรอด, บัวชมภู อุบลสิงห์, เบญจมาส เกลาฉีด, ภูมิผกา ธิติถาวร (ผู้สัมภาษณ์), ที่บ้านเลขที่ 128 หมู่ที่ 2 ตำบล คลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เจือ กาฬวงศ์ (ผู้ให้สัมภาษณ์) , กรกมล ใจไหว, เณศรา จิวตระกูล, ธัญจิรา ทองรอด, บัวชมภู อุบลสิงห์, เบญจมาส เกลาฉีด, ภูมิผกา ธิติถาวร (ผู้สัมภาษณ์), ที่บ้านเลขที่ 20/1 หมู่ที่ 5 ตำบล คลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2565 พรทิพย์ ขาวหนูนา (ผู้ให้สัมภาษณ์) , กรกมล ใจไหว, เณศรา จิวตระกูล, ธัญจิรา ทองรอด, บัวชมภู อุบลสิงห์, เบญจมาส เกลาฉีด, ภูมิผกา ธิติถาวร (ผู้สัมภาษณ์), ที่บ้านเลขที่ 160/3 หมู่ที่ 3 ตำบล คลองแดน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2565