วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การแบ่งพื้นที่และการบริหารจัดการ พื้นที่ในงานจ่ายกลาง หน้า : 1 / 2 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-001-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อ 2. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ CSSD มีความรู้ในการแบ่งพื้นที่การท างาน ปฏิบัติตามแนวทาง สามารถสวมเสื้อผ้า รองเท้า และสัญจรได้ถูกต้องตามการแบ่งพื้นที่ 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรใน CSSD 4. รายละเอียด พื้นที่ พื้นที่งานจ่ายกลางแบ่งออกเป็น 2 พื้นที่ คือ พื้นที่ส านักงาน และพื้นที่ปฏิบัติงาน 1. พื้นที่ส านักงาน เป็นส่วนอ านวยความสะดวกส าหรับเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย พื้นที่ส านักงาน ห้องประชุม ห้องพัก บุคลากร ห้องเปลี่ยนชุดปฏิบัติงาน ห้องอาบน้ าและห้องสุขา บุคลากรที่เข้าออกบริเวณเหล่านี้สวมชุด ที่สวมมาจากบ้านหรือชุดสีเขียว รองเท้าฟองน้ าสีด าหรือน้ าเงินเข้ม 2. พื้นที่ปฏิบัติงาน แบ่งออกเป็น 3 เขต ดังนี้ 2.1 เขตปนเปื้อน (Dirty zone) เป็นห้องจัดการอุปกรณ์เครื่องมือปนเปื้อนจากหน่วยงานต่างๆ ในโรงพยาบาลตั้งแต่รับเข้า ล้างอุปกรณ์เครื่องมือปนเปื้อน และส่งต่อจุดห่อ/แพ็คอุปกรณ์ บุคลากรที่ปฏิบัติงานในเขตปนเปื้อน สวมใส่เสื้อผ้าส าหรับใส่ในห้องล้างอุปกรณ์เครื่องมือ คือ ชุดสีส้ม สวม PPEได้แก่ หมวก หน้ากากface shield เสื้อกาวน์ยาวแบบพลาสติก ถุงมือยางยาว คลุมข้อศอกแบบหนา รองเท้าบูท เมื่อจะออกจากห้องล้างอุปกรณ์เครื่องมือ ล้างมือ เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ และสวมรองเท้าแตะสีด า 2.2 เขตสะอาด (Cleaning zone) ประกอบด้วย - ห้องจัดชุดอุปกรณ์เครื่องมือ ห่ออุปกรณ์เครื่องมือและท าให้ปราศจากเชื้อ บุคลากรที่ปฏิบัติงานในเขตสะอาดสวมใส่เสื้อผ้าชุดสีเขียว รองเท้าแตะสีเขียว และสวม PPE ได้แก่ หมวก หน้ากาก - บริเวณที่เก็บส ารองผ้าห่ออุปกรณ์เครื่องมือ ห้องส ารองอุปกรณ์เครื่องมือ เวชภัณฑ์ไม่ใช่ยา และวัสดุต่างๆ บุคลากรที่ปฏิบัติงานในเขตนี้สวมใส่เสื้อผ้าชุดสีเขียว รองเท้าฟองน้ าด า/น้ าเงินเข้ม และสวม PPE ได้แก่ หมวก หน้ากาก - บริเวณที่เตรียมน าส่งอุปกรณ์เครื่องมือออกจากหน่วยงาน บุคลากรที่ปฏิบัติงานในเขตนี้สวมใส่เสื้อผ้าส าหรับน าส่งอุปกรณ์เครื่องมือ รองเท้าฟองน้ าสีด า หรือน้ าเงินเข้ม และสวม PPE ได้แก่ หมวก หน้ากาก
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-001-00 หน้า : 2 / 2 เรื่อง : การแบ่งพื้นที่และการบริหารจัดการพื้นที่ในงานจ่ายกลาง 2.3 เขตเก็บอุปกรณ์เครื่องมือปราศจากเชื้อ (sterile storage zone) อยู่ติดกับบริเวณท าให้ อุปกรณ์เครื่องมือปราศจากเชื้อ มีบริเวณพักเครื่องมือก่อนจัดเก็บ มีการควบคุมอุณหภูมิ18-24 C และความชื้นสัมพัทธ์ 35-70% เป็นห้องความดันอากาศเป็นบวก ( positive pressure ) จ ากัดจ านวนบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน บุคลากรที่ปฏิบัติงานในเขตเก็บอุปกรณ์เครื่องมือปราศจากเชื้อ สวมใส่เสื้อผ้าชุดสีเขียว สวมเสื้อกาวน์แขนยาวที่ผ่านการท าให้ปราศจากเชื้อทับอีกชั้น สวมรองเท้าสีฟ้าส าหรับใช้ ใส่ในเขตเก็บอุปกรณ์เครื่องมือปราศจากเชื้อเท่านั้น และสวม PPE ได้แก่ หมวก หน้ากาก ** โดยทุกพื้นที่การท างาน เมื่อเสร็จการท างานในแต่ละเวร ให้ถอดหมวกและหน้ากากทิ้งลงถังขยะติดเชื้อ และถอดรองเท้าฟองน้ าลงตะกร้าเพื่อส่งซักทุกวัน ทุกโซน การสัญจร แบ่งเป็น 3 รูปแบบ 1. การสัญจรของอุปกรณ์เครื่องมือ (Work Flow) อุปกรณ์เครื่องมือปนเปื้อนถูกเก็บมาจากหน่วยงาน ด้วยกล่องที่มีฝาปิดมิดชิดและมีเครื่องหมาย Biohazard ส่งมาในห้องรับอุปกรณ์เครื่องมือปนเปื้อน ท าการนับคัดแยก ลงข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ท าความสะอาด ท าให้แห้ง หลังจากนั้นส่งต่อมายังห้อง จัดชุดอุปกรณ์เครื่องมือ บรรจุหีบห่อ จัดเรียง ท าให้ปราศจากเชื้อ และน าไปจัดเก็บที่ห้องเก็บ อุปกรณ์เครื่องมือปราศจากเชื้อก่อนที่จะถูกส่งไปยังหน่วยงานต่างๆ ในโรงพยาบาล 2. การไหลของอากาศ (Air Flow) การไหลของอากาศไหลเวียนจากเขตสะอาดไปเขตสกปรก 3. การสัญจรของผู้ปฏิบัติงาน (People Flow) 3.1 ไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานจากเขตสกปรกมายังเขตสะอาด โดยที่ยังไม่ได้เปลี่ยนชุด รองเท้าและล้างมือ 3.2 ผู้ปฏิบัติงานที่จะไปเขตเก็บอุปกรณ์เครื่องมือปราศจากเชื้อต้องสวมเสื้อกาวน์แขนยาวที่ผ่านการ ท าให้ปราศจากเชื้อทับอีกชั้น สวมรองเท้าสีฟ้า สวม PPE ได้แก่ หมวก หน้ากาก และล้างมือ ก่อนเข้าเขตเก็บอุปกรณ์เครื่องมือปราศจากเชื้อ Work flow : dirty to clean area Air flow : clean to dirty area People flow : clean to dirty area 5. เอกสารอ้างอิง สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561)
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : แนวทางการเข้าออกงานจ่ายกลาง หน้า : 1 / 1 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-002-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ เพื่อควบคุมการสัญจรให้เป็นไปตามมาตรฐาน 2. ขอบข่าย การสัญจรในพื้นที่ปฏิบัติในงานจ่ายกลาง 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรใน CSSD 4. รายละเอียด การสัญจรของบุคคลภายนอก 1. จ ากัดการรับส่งอุปกรณ์เครื่องมือจากบุคลากรภายนอก งานจ่ายกลางบริการรับส่งอุปกรณ์เครื่องมือ ให้กับหน่วยงานต่างๆ โดยที่บุคลากรภายนอกไม่ต้องมารับส่งอุปกรณ์เครื่องมือด้วยตนเอง ยกเว้น กรณีต้องการใช้อุปกรณ์เครื่องมือปราศจากเชื้อเร่งด่วนและอุปกรณ์เครื่องมือที่มาจากสถานบริการ ในเครือข่ายนอกโรงพยาบาล 2. บุคลากรภายนอกที่มาติดต่อขอรับอุปกรณ์เครื่องมือปราศจากเชื้อให้รอรับด้านหน้าประตู 3 การสัญจรของบุคลากรภายใน 1. เข้าด้านประตู 1 2. เปลี่ยนรองเท้าฟองน้ าส าหรับภายใน 3. เข้าห้องพักเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่หมวกคลุมผม และหน้ากาก 4. เข้าท างานประจ าโซนที่ได้รับมอบหมาย การสัญจรโดยใช้ลิฟท์ขึ้นลงงานจ่ายกลาง 1. ลิฟท์ขนส่งอุปกรณ์เครื่องมือปนเปื้อน ใช้ลิฟท์ตัวที่ 1 2. ลิฟท์ขนส่งอุปกรณ์เครื่องมือปราศจากเชื้อ ใช้ลิฟท์ตัวที่ 2 3. ลิฟท์โดยสารทั่วไป ใช้ลิฟท์ตัวที่ 3 และ 4 ประตูเข้าออกภายในงานจ่ายกลาง 1. ประตู 1 ทางเข้างานจ่ายกลางทางด้านลิฟท์ตัวที่ 3 และ 4 2. ประตู 2 ทางเข้าโซนส านักงาน 3. ประตู 3 ทางออกอุปกรณ์เครื่องมือปราศจากเชื้อ 5. เอกสารอ้างอิง สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561)
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง: การแบ่งประเภทอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ หน้า : 1 / 2 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-003-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ CSSD มีความรู้และสามารถแยกประเภทของอุปกรณ์เครื่องมือตามลักษณะการสัมผัส ของอุปกรณ์เครื่องมือกับอวัยวะหรือส่วนต่างๆ ของร่างกายและความเสี่ยงต่อการท าให้เกิดการติดเชื้อ ได้ถูกต้องทั้ง 3 ประเภท 2. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ CSSD สามารถจัดการกับอุปกรณ์เครื่องมือทั้ง 3 ประเภทได้ถูกต้อง 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรใน CSSD 4. ค าจ ากัดความและรายละเอียด 1. Critical items อุปกรณ์เครื่องมือกลุ่มวิกฤติ เป็นอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้สอดใส่เข้าสู่เนื้อเยื่อที่ปราศจากเชื้อของร่างกายหรือเข้าสู่ กระแสโลหิต อุปกรณ์ประเภทนี้ได้แก่ เครื่องมือผ่าตัด เข็ม อวัยวะเทียม สายสวนหัวใจ และสายสวนปัสสาวะ อุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้ควรได้รับการท าให้ปราศจากเชื้อโดยการอบไอน้ าภายใต้ความดัน หากอุปกรณ์ ทนความร้อนสูงไม่ได้อาจท าให้ปราศจากเชื้อโดยการอบแก๊ส Ethylene oxide หรือใช้วิธี lowtemperature sterilization วิธีอื่น การท าให้อุปกรณ์เครื่องมือประเภทนี้ปราศจากเชื้อโดยใช้น้ ายาท าลายเชื้ออาจท าได้ หากวิธีการ ท าให้ปราศจากเชื้อวิธีอื่นไม่สามารถใช้ได้ น้ ายาท าลายเชื้อที่ใช้ได้แก่ มากกว่าหรือเท่ากับ 2.4% glutaraldehyde, 6% stabilized hydrogen peroxide, peracetic acid แต่การแช่อุปกรณ์เครื่องมือในน้ ายาท าลายเชื้อ จะต้องใช้เวลาในการแช่อุปกรณ์ในน้ ายานาน 6-10 ชั่วโมงและจะต้องปฏิบัติตามแนวทางการท าลายเชื้อ ด้วยความระมัดระวัง คือต้องล้างอุปกรณ์เครื่องมือให้สะอาด เช็ดให้แห้ง แช่อุปกรณ์เครื่องมือในน้ ายาท าลายเชื้อ ในระยะเวลา อุณหภูมิและระดับความเป็นกรดด่างตามที่ก าหนดอย่างเคร่งครัด ล้างด้วยน้ ากลั่น ปราศจากเชื้อ เช็ดด้วยผ้าปราศจากเชื้อ และเก็บในภาชนะที่ปราศจากเชื้อ 2. Semi-critical items อุปกรณ์เครื่องมือกึ่งวิกฤติ เป็นอุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสกับเยื่อบุของร่างกาย (mucous membrane) หรือผิวหนังที่มีบาดแผล รอยถลอก หรือไม่ปกติ (Nonintact skin) อุปกรณ์เครื่องมือประเภทนี้จะต้องไม่มีเชื้อจุลชีพอยู่ เยื่อบุของร่างกายที่มีลักษณะปกติ (ไม่มีแผล ไม่มีรอยถลอก) สามารถป้องกันการติดเชื้อจากสปอร์ของ เชื้อแบคทีเรียได้แต่มีความไวรับต่อการติดเชื้อ tubercle bacilli และเชื้อไวรัส อุปกรณ์ในกลุ่มนี้ ได้แก่ อุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ดมยาสลบ endoscope การท าลายเชื้อในอุปกรณ์ประเภทนี้ อย่างน้อยควรท าลายเชื้อโดยใช้วิธีการท าลายเชื้อระดับสูง (high-level disinfection) น้ ายาท าลายเชื้อ ระดับสูง ได้แก่ 2% glutaraldehyde, 6% stabilized hydrogen peroxide, peracetic acid, chlorine หรือ chlorine compounds หรือการท าให้ปราศจากเชื้อ
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-003-00 หน้า : 2 / 2 เรื่อง : การแบ่งประเภทอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ 3. Noncritical items อุปกรณ์เครื่องมือไม่วิกฤติ เป็นอุปกรณ์เครื่องมือที่สัมผัสกับผิวหนังที่ปกติ ผิวหนังที่ไม่มีบาดแผลหรือไม่มีรอยถลอก และ ไม่ได้สัมผัสกับเยื่อบุของร่างกาย อุปกรณ์เครื่องมือในกลุ่มนี้ได้แก่ หม้อนอน เครื่องวัดความดันโลหิต ไม้ยันรักแร้ ไม้กั้นเตียง เครื่องผ้า ภาชนะใส่อาหาร โต๊ะข้างเตียง เป็นต้น การท าลายเชื้อสามารถท าได้ ในหอผู้ป่วยโดยใช้วิธี low-level disinfection น้ ายาท าลายเชื้อที่ใช้ ได้แก่ quaternary ammonium compounds 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร. อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561) 3. The Asian Guidelines for Disinfection and Sterilization of Instrument in health Facilities 2010 ประเภทอุปกรณ์ ตัวอย่างอุปกรณ์ การจัดการอุปกรณ์ Critical items เครื่องมือผ่าตัด เข็ม อวัยวะเทียม สายสวนหัวใจ และสายสวนปัสสาวะ การท าให้ปราศจากเชื้อ (sterilization) Semi-critical items อุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ดมยาสลบ ไม้กดลิ้น ชุดช าระ endoscope และปรอทวัดไข้ การท าลายเชื้อระดับสูง (highlevel disinfection) หรือการท า ให้ปราศจากเชื้อ (sterilization) Noncritical items หม้อนอน เครื่องวัดความดันโลหิต ไม้ยันรักแร้ ไม้กั้นเตียง เครื่องผ้า ภาชนะใส่อาหาร โต๊ะข้างเตียง ท า ค ว า ม ส ะ อ า ด แ ล ะ ฆ่ า เ ชื้ อ ที่หน่วยงาน โดยการท าลายเชื้อ ระดับต่ า(low-level disinfection)
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง :การรวบรวมและเคลื่อนย้ายอุปกรณ์เครื่องมือ ปนเปื้อนจากหน่วยงาน หน้า : 1 / 1 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-004-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน :- ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อดูแลจัดเก็บอุปกรณ์เครื่องมือปนเปื้อนระหว่างการน ากลับ CSSD ได้ถูกต้อง 2. ลดการสูญหายและช ารุดของอุปกรณ์เครื่องมือ 3. ป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อจากอุปกรณ์เครื่องมือปนเปื้อน 2. ขอบข่าย การรับส่งเครื่องมือของงานจ่ายกลางส าหรับหมุนเวียนใช้ในหน่วยงาน 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD 4. รายละเอียด 1. ใช้รถขนส่ง/กล่องใส่อุปกรณ์เครื่องมือที่เป็นระบบปิด มีความแข็งแรง 2. ตรวจสอบความพร้อมใช้ของรถ ท าความสะอาดรถด้วยแผ่นเช็ดท าความสะอาด 3. แต่งกายตามแนวทางปฏิบัติสวมอุปกรณ์ป้องกันได้แก่ ถุงมือ หน้ากากอนามัย และหมวก เสื้อกันเปื้อน แบบพลาสติก 4. น ากล่องมีฝาปิดมิดชิดของหน่วยงานวางในรถเพื่อน าไปแลกกับกล่องใส่อุปกรณ์เครื่องมือปนเปื้อน ของหน่วยงาน ดูชื่อข้างกล่องต้องตรงกับชื่อหน่วยงานที่ไปรับแลก โดยน าไปวางที่จุดรับแลก คือ ห้องพักอุปกรณ์เครื่องมือปนเปื้อนของหน่วยงาน 5. ตรวจสอบจ านวนกล่องอุปกรณ์เครื่องมือปนเปื้อนที่ทางหน่วยงานเขียนแจ้งไว้ ตรวจสอบความถูกต้อง และลงชื่อผู้รับ 6. น ากล่องอุปกรณ์เครื่องมือปนเปื้อนของหน่วยงานวางในรถอย่างระมัดระวัง ไม่โยนหรือท าให้กล่อง ใส่อุปกรณ์เครื่องมือปนเปื้อนกระแทก/ตกหล่น ปิดประตูรถให้มิดชิด น าอุปกรณ์เครื่องมือปนเปื้อน กลับมาที่ CSSD โดยสัญจรด้วยลิฟต์ขนส่งอุปกรณ์ปนเปื้อน แล้วน าส่งเข้าห้องล้างทางช่องรับกล่องปนเปื้อน 7. กรณีที่มีอุปกรณ์จัดซื้อมาใหม่ในหน่วยงาน ให้ขอข้อแนะน าการใช้งานและการดูแลจัดการอุปกรณ์เครื่องมือ (IFU - Instruction For Use) จากหน่วยงานทุกครั้ง 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร. อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. The Asian Guidelines for Disinfection and Sterilization of Instrument in health Facilities 2010
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การจัดการก่อนการล้างท าความสะอาด อุปกรณ์เครื่องมือปนเปื้อน หน้า : 1 / 1 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-005-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อลดปริมาณสิ่งปนเปื้อนที่อยู่บนพื้นผิวอุปกรณ์เครื่องมือออกให้เหลือน้อยที่สุด 2. แยกประเภทของอุปกรณ์เครื่องมือเพื่อลดอุบัติการณ์ของมีคมบาด/ทิ่มต า และแยกประเภทอุปกรณ์เครื่องมือ ที่ล้างด้วยมือและเครื่องล้างอุปกรณ์เครื่องมือ 3. เพื่อให้สารซักล้างออกฤทธิ์ในการชะล้างอุปกรณ์เครื่องมือ เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ห้องล้างเครื่องมือ/หัวหน้าทีมล้างเครื่องมือ) 4. รายละเอียด การจัดการก่อนการล้างท าความสะอาดอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ 1. บุคลากรสวมอุปกรณ์ป้องกันถูกต้องครบถ้วน หมวก แว่นตาหรือ face shield หน้ากากอนามัย เสื้อกันเปื้อนกันน้ าแขนยาว ถุงมือยาวหนา รองเท้าบูท 2. นับ คัดแยกอุปกรณ์เครื่องมือให้เป็นหมวดหมู่ตามประเภทวัสดุอุปกรณ์ ชนิดของอุปกรณ์ อุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ล้างด้วยมือ อุปกรณ์ล้างด้วยเครื่องล้างอัตโนมัติ และอุปกรณ์เครื่องมือ ของมีคม หากพบอุปกรณ์มีคมที่ต้องการทิ้งให้ทิ้งลงภาชนะที่ทางหน่วยงานจัดเตรียมไว้พร้อมปิดฝาทุกครั้ง พร้อมทั้งมีการบันทึกจ านวนอุปกรณ์เครื่องมือ ลงในคอมพิวเตอร์ 3. หากพบอุปกรณ์เครื่องมือที่บันทึกส่งไม่ตรงกับที่รับจริงหรือช ารุดเสียหาย เมื่อเสร็จสิ้น กระบวนการนับอุปกรณ์เครื่องมือแล้วให้ผู้บันทึกจ านวนอุปกรณ์เครื่องมือแจ้งไปยังหน่วยงานทราบ 4. ท าการชะล้างสิ่งคัดหลั่งและสิ่งต่างๆ ( Gross soid ) ออกจากอุปกรณ์เครื่องมือให้มากที่สุด (pre-rinse) ก่อนแช่ในน้ าผสมน้ ายาล้างอุปกรณ์เครื่องมือ (soaking) ตามสัดส่วนที่ก าหนด และ แช่ไว้ประมาณ 10-15 นาที หรือตามค าแนะน าของบริษัทผู้ผลิต 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร. อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2.สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561) 3. The Asian Guidelines for Disinfection and Sterilization of Instrument in health Facilities 2010
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การท าความสะอาดอุปกรณ์เครื่องมือ แบบล้างด้วยมือ หน้า : 1 / 1 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-006-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อขจัดสิ่งสกปรกเชื้อจุลินทรีย์ที่มีอยู่บนอุปกรณ์เครื่องมือ 2. เพื่อลดปริมาณอินทรีย์สาร ได้แก่ เลือด สารคัดหลั่งต่างๆ 3. เพื่อป้องกันการกัดกร่อนเครื่องมือไม่ให้ช ารุดเสียหาย 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ห้องล้างอุปกรณ์เครื่องมือ) 4. รายละเอียด 1. บุคลากรสวมอุปกรณ์ป้องกันครบถ้วน หมวก แว่นตา หน้ากากอนามัย เสื้อกันเปื้อน ถุงมือยาวหนา รองเท้าบูท 2. น าอุปกรณ์เครื่องมือที่ผ่านการแช่มาขัดล้างอย่างทั่วถึงโดยขัดล้างใต้น้ า ด้วยความระมัดระวังทุกซอกทุกมุม เลือกแปรงขัดให้เหมาะสมกับอุปกรณ์เครื่องมือ ล้างอุปกรณ์ด้วยน้ าสะอาด (อ่างที่ 1 และอ่างที่ 2) 3. ล้างอุปกรณ์เครื่องมือด้วยน้ า RO เป็นน้ าสุดท้าย (อ่างที่ 3) 4. เครื่องมือที่เป็นท่อให้ฉีดน้ ายาเข้าไปในท่อก่อนแช่ ใช้แปรงที่มีขนาดพอเหมาะขัดถูก่อนฉีดน้ าล้างท าความสะอาด และไล่ด้วยลม (Spray gun Rinse) 5. น าเข้าเครื่องอบความร้อนอุณหภูมิ 55 - 60 องศาเซลเซียส ให้เครื่องมือแห้ง 6. ส่งเข้าห้องจัดบรรจุทางช่องส่งผ่าน ( Pass box ) 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร. อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. The Asian Guidelines for Disinfection and Sterilization of Instrument in health Facilities 2010
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การล้างอุปกรณ์เครื่องมือด้วยเครื่องล้างอัตโนมัติ ขนาด 250 ลิตร หน้า : 1 / 2 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-007-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อขจัดสิ่งสกปรก เชื้อจุลินทรีย์ที่มีอยู่บนอุปกรณ์เครื่องมือ 2. เพื่อลดปริมาณอินทรีย์สาร ได้แก่ เลือด สารคัดหลั่งต่างๆ 3. เพื่อป้องกันการกัดกร่อนเครื่องมือไม่ให้ช ารุดเสียหาย 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ห้องล้างเครื่องมือ) 4. รายละเอียด 1. บุคลากรสวมอุปกรณ์ป้องกันครบถ้วน หมวก แว่นตา หน้ากากอนามัย เสื้อกันเปื้อน ถุงมือยาวหนา รองเท้าบูท 2. อุปกรณ์เครื่องมือที่มีลักษณะล๊อค ให้คลายล๊อค กางออกก่อนจัดเรียงลงถาด 3. น าอุปกรณ์เครื่องมือที่ผ่านการแช่มาจัดเรียงเข้าเครื่องล้าง (Cart wash) ให้มั่นใจว่าอุปกรณ์เครื่องมือ จะต้องสัมผัสกับน้ าอย่างทั่วถึง 4. ห้ามน าภาชนะ เช่น ชาม ถาด ทับบนอุปกรณ์เครื่องมือ 5. ภาชนะที่เป็นถ้วย ให้วางคว่ าลง 6. เครื่องมือที่มีบางส่วนเก็บน้ าให้วางตะแคง เช่น ชามรูปไต ถาดเครื่องมือ 7. เลือกอุปกรณ์ช่วยในการเข้าเครื่องล้างที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ตามคู่มือการใช้งาน 8. ใส่ Cleaning Indicator (Heamo check) ในทุกรอบ (Load Check) ของการล้าง 9. น ารถเข้าสู่เครื่องป้อนอุปกรณ์เข้าออกเครื่องล้างอัตโนมัติปิดประตูให้สนิท เปิดสวิทซ์เบรกเกอร์ให้อยู่ ต าแหน่ง On เลือกใช้โปรแกรม P1 ส าหรับอุปกรณ์ที่มีความสกปรกน้อย P2 ส าหรับอุปกรณ์ที่มีความ สกปรกปานกลางและ P3 ส าหรับอุปกรณ์ที่มีความสกปรกมาก และโปรแกรม P4 ส าหรับสายชุด เครื่องช่วยหายใจ (โปรแกรมจะตั้งปริมาณน้ ายา ระยะเวลา อุณหภูมิตามค าแนะน าของเครื่องล้าง และบริษัทผู้ผลิตน้ ายา) 10.กรณีเกิดความผิดพลาด ให้ท าการกด Reset โดยกดปุ่ม start กับ stop พร้อมกัน กดคางไว้ 5 วินาที หน้าจอขึ้นค าว่า switch procedure แล้วตามด้วยปุ่ม P2 และ P1 ตามล าดับ 11.ดูแลบ ารุงรักษาเครื่องล้างประจ าวัน ดังนี้ - ท าความสะอาดเครื่องภายนอก ภายใน ยางขอบประตู ตะแกรงกรองสิ่งสกปรก - ตรวจสอบใบพัด (Spray arm) ของตะกร้าและแชมเบอร์หมุนได้อย่างสะดวกและไม่มีสิ่งอุดตัน - ตรวจสอบปริมาณน้ ายาและเติมให้อยู่ในปริมาณที่ก าหนด - ตรวจสอบการท างานของปั๊มลม แรงดันไม่เกิน 4 บาร์ - ถ่ายน้ าปั๊มลม - ตรวจสอบเกจวัดแรงดันน้ า ไม่ต่ ากว่า 1 บาร์ - ทดสอบ และลงข้อมูล การท า Cleaning indicator ทุกรอบ
5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร. อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. The Asian Guidelines for Disinfection and Sterilization of Instrument in health Facilities 2010 3. คู่มือการใช้งานเครื่องล้างอัตโนมัติรุ่น DS 610 250L ยี่ห้อ Steelco วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-007-00 หน้า : 2 / 2 เรื่อง : การล้างอุปกรณ์เครื่องมือด้วยเครื่องล้างอัตโนมัติขนาด 250 ลิตร
1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อขจัดสิ่งสกปรกเชื้อจุลินทรีย์ที่มีอยู่บนสายและอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ 2. เพื่อลดปริมาณอินทรีย์สาร ได้แก่ เลือด สารคัดหลั่งต่างๆ 3. เพื่อป้องกันการช ารดเสียหายของสายและอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ห้องล้างเครื่องมือ/หัวหน้าทีมล้างเครื่องมือ) 4. รายละเอียด 1. บุคลากรสวมอุปกรณ์ป้องกันครบถ้วน หมวกแว่นตา หน้ากากอนามัย เสื้อกันเปื้อน ถุงมือยาวหนา รองเท้าบูท 2. ถอดอุปกรณ์ทุกชิ้นที่สามารถถอดได้ ล้างสิ่งปนเปื้อนที่ยังมองเห็นด้วยตาเปล่าออกในน้ าเปล่าเพื่อขจัดคราบ สารคัดหลั่งหรือสิ่งแปลกปลอมที่อยู่บนอุปกรณ์เครื่องมือ 3. อุปกรณ์ที่มีคราบฝังแน่นให้แช่ด้วย Enzymatic detergent (ตามค าแนะน าของบริษัท) 4. เปิดเบรกเกอร์ไปที่ต าแหน่ง Om รอจนกระทั่งหน้าจอแสดง แล้วน าอุปกรณ์ ประเภทสายเสียบใน Cart wash ส าหรับล้างเครื่องสาย ปิดประตูให้สนิท 5. เลือกโปรแกรมการล้างสายให้ตรงกับประเภทและความต้องการ กดปุ่มสตาร์ทการท างาน 6. เมื่อเสร็จสิ้นโปรแกรม น าสายและอุปกรณ์ใส่ตะกร้าสะอาด แล้วน าส่งเข้าห้องจัดบรรจุทางช่องส่งผ่าน ( Pass box ) 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร. อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2.คู่มือการใช้งานเครื่องล้างอัตโนมัติรุ่น Clenex-1200L ยี่ห้อ Namwiwat วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การล้างสายและอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ ด้วยเครื่องล้างสายอัตโนมัติขนาด 1200 ลิตร หน้า : 1 / 1 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-008-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การล้างอุปกรณ์เครื่องมือด้วยเครื่องล้าง ด้วยคลื่นความถี่สูง (ultrasonic cleaner) หน้า : 1 / 2 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-009-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อขจัดสิ่งสกปรก เชื้อจุลินทรีย์ที่มีอยู่บนอุปกรณ์เครื่องมือ 2. เพื่อลดปริมาณอินทรีย์สาร ได้แก่ เลือด สารคัดหลั่งต่างๆ 3. เพื่อป้องกันการกัดกร่อนเครื่องมือไม่ให้ช ารุดเสียหาย 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ห้องล้างเครื่องมือ) 4. รายละเอียด การล้างอุปกรณ์เครื่องมือด้วยเครื่องล้างด้วยคลื่นความถี่สูง (ultrasonic cleaner) เหมาะส าหรับ การท าความสะอาดอุปกรณ์เครื่องมือที่มีขนาดเล็ก เป็นท่อ สาย มีความเปราะบาง รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องมือที่มี ความสลับซับซ้อนท าความสะอาดได้ยาก การล้างด้วยมือไม่สามารถเข้าถึงได้ทุกจุด ผู้ปฏิบัติงานจะต้องปฏิบัติ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. บุคลากรสวมอุปกรณ์ป้องกันครบถ้วนหมวก แว่นตา หน้ากากอนามัย เสื้อกันเปื้อน ถุงมือยาวหนา รองเท้าบูท 2. เตรียมความพร้อมของเครื่อง 2.1 เติมน้ าในอ่างให้ถึงขีดระดับที่ก าหนด น้ าที่ใช้งานกับเครื่องควรเป็นน้ าอ่อน (SOFT WATER) หรือน้ าสะอาด สารท าความสะอาดที่ใช้กับเครื่องเป็นชนิดฟองน้อย ใช้ความเข้มข้นและ อุณหภูมิตามค าแนะน าของบริษัทผู้ผลิต 2.2 ก่อนใช้งานเครื่องต้องก าจัดฟองอากาศ (degassing) ที่อยู่ในน้ าออก โดยปฏิบัติตามคู่มือ ของบริษัทผู้ผลิต 2.3 ตรวจสอบประสิทธิภาพการท างานของเครื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง 3. วิธีท าความสะอาด 3.1 น าอุปกรณ์เครื่องมือที่ผ่านการแช่แล้วมากางเครื่องมือออก และจัดเรียงลงในตะแกรงเฉพาะ ส าหรับใช้กับเครื่องล้างด้วยคลื่นความถี่สูงโดยที่อุปกรณ์เครื่องมือไม่ทับซ้อนกันมากหรือ เกินกว่าระดับน้ าที่ก าหนด และตรวจสอบให้เครื่องมืออยู่ในสภาพเปิด แยกชิ้นส่วนที่มี ลักษณะซ้อนกัน เพื่อให้น้ าและคลื่นสัมผัสอุปกรณ์เครื่องมือได้ทั่วถึง 3.2 ปิดฝาเครื่องตลอดเวลาขณะใช้งาน เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายและเคืองหูจากคลื่นเสียง 3.3 เปิดสวิทซ์ Power และสวิทซ์ P1 P2 P3 ตามลักษณะการปนเปื้อน ระดับความสกปรก ระยะเวลาตามค าแนะน าโดยผู้ผลิตน้ ายาล้างเครื่องมือ
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-009-00 หน้า : 2 / 2 เรื่อง : การล้างอุปกรณ์เครื่องมือด้วยเครื่องล้างด้วยคลื่นความถี่สูง (ultrasonic cleaner) 3.4 เมื่อสิ้นสุดกระบวนการล้างด้วยเครื่องแล้ว ต้องย้ายตะกร้าอุปกรณ์เครื่องมือมาล้างด้วยน้ าสะอาดอีกครั้ง และล้างด้วยน้ า RO เป็นน้ าสุดท้าย 3.5 ห้ามน าอุปกรณ์เครื่องมือที่ท าด้วยยาง (ยางธรรมชาติ ยางสังเคราะห์ ยางซิลิโคน) เลนส์ polyvinyl chloride (PVC) หรืออุปกรณ์ที่มีมอเตอร์ กลไก เข้าเครื่อง เนื่องจากวัสดุดังกล่าว จะดูดซับคลื่นความถี่ และอุปกรณ์ที่มีชิ้นส่วนมอเตอร์กลไกอาจเสียหายจากการใช้ คลื่นความถี่สูงได้ 5. เอกสารอ้างอิง 1. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561) 2. คู่มือการใช้งานเครื่องล้างด้วยคลื่นความถี่สูง (ultrasonic cleaner) ยี่ห้อ Namwiwat
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องมือก่อนห่อ/แพ็ค หน้า : 1 / 3 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-010-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อตรวจสอบความพร้อมใช้ของอุปกรณ์ก่อนน าไปห่อ/แพ็ค 2. เพื่อลดการปนเปื้อนเชื้อโรคจากอุปกรณ์ที่ล้างไม่สะอาดในเขตสะอาด 3. เพื่อลดอุบัติการณ์อุปกรณ์ไม่พร้อมใช้ส าหรับผู้ใช้งาน 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (จุด Inspection /หัวหน้าทีมแพ็คห่ออุปกรณ์เครื่องมือ) 4. ค าจ ากัดความ การตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องมือก่อนห่อ/แพ็ค การตรวจสอบความสะอาดด้วยวิธี ATP Bioluminescence เป็นการตรวจสอบหาปริมาณ ATP (Addenosine Triphosphate) ซึ่งเป็นสารพลังงานที่พบได้ในเซลล์สิ่งมีชีวิตทั้งจุลินทรีย์ พืชและสัตว์ มีหลักการ อย่างสังเขป ดังนี้ คือ ATP จะท าปฏิกิริยากับสารลูซิเฟอริน (Luciferin) และเอนไซม์ลูซิเฟอเรส (Luciferase) ภายใต้สภาพที่เหมาะสมท าให้เกิดแสงขึ้น (Luminescence) โดยปริมาณของแสงที่เกิดขึ้นจะมีความสัมพันธ์กับ ปริมาณของ ATP ปริมาณของแสงสามารถตรวจวัดได้ด้วยเครื่องลูมิโนมิเตอร์ (Luminnometer) ซึ่งจะรายงาน ออกมาเป็น RUL (Relative Light Unit) ท าให้สามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพการท าความสะอาดได้เพียง 30 วินาที โดยทั่วไป หากค่าปริมาณของแสงที่อ่านได้ต่ า หรือ RUL ต่ า หรือ ปริมาณ ATP ต่ า แสดงว่ามีความสกปรกน้อย หากปริมาณค่าของแสงที่ได้สูง แสดงว่ามีความสกปรกมาก เนื่องจากมีปริมาณ ATP สูง ค่ามาตรฐานในการแปลผลการทดสอบ ATP อุปกรณ์เครื่องมือ ปริมาณของแสง(RULs) ผลการทดสอบ Endoscope ≤200 ผ่าน Sergical Instruments ≤150 ผ่าน Environmental Serfaces ≤250 ผ่าน
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-010-00 หน้า : 2 / 3 เรื่อง : การตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องมือก่อนห่อ/แพ็ค การตรวจสอบความสะอาดด้วยชุดทดสอบโปรตีน (Protein test) เป็นการตรวจหาคราบโปรตีน ที่ตกค้างอยู่บนอุปกรณ์เครื่องมือที่ผ่านการล้างท าความสะอาดแล้ว คราบสกปรกตกค้างจะท าให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ของสีบนปลายก้านไม้พันส าลีวิธีการทดสอบท าโดยการหยด Moisturiser 4 หยดลงบนปลายก้านไม้พันส าลี ป้ายบริเวณที่ต้องการตรวจสอบแล้วใส่ลงในหลอดที่มาพร้อมก้านไม้พันส าลี กดจนมิดด้าม แกว่งไปมาซ้าย –ขวา 5 –10 ครั้ง น าหลอดทดสอบไปอุ่นที่อุณหภูมิ 55 C 15 นาที หลังจากนั้นอ่านสีของสารละลายที่ก้นหลอดทดสอบ เปรียบเทียบกับแถบสีที่ด้านข้างหลอด การแปลผลค่าสีของสารละลายในหลอดทดสอบโปรตีน สีของสารละลาย ในหลอดทดสอบ สถานะ การแปลผล สีเขียว สะอาด น าไปใช้ได้ สีเทา สกปรก ต้องล้าง สีม่วง สกปรกมาก ท าความสะอาดใหม่ 5. รายละเอียด แนวทางปฏิบัติ 1. บุคลากรสวมอุปกรณ์ป้องกัน หมวก หน้ากากอนามัยTest (Sergical Instruments ) มากกว่า 150RULs แปลผลได้ว่าไม่ผ่านการตรวจสอบให้ส่งอุปกรณ์ที่ล้าง 2. สุ่มอุปกรณ์เครื่องมือที่ล้างยาก มีซอก ฟัน ช่อง ท่อ วันละ 10 ชิ้น มาตรวจสอบความสะอาดด้วย Protein test หรือ ATP Test พร้อมบันทึกผล หากผลProtein test เป็นสีเทา หรือสีม่วง และ ผล ATP รอบเดียวกันเครื่องเดียวกันกับอุปกรณ์ที่สุ่มมาตรวจ กลับไปยังห้องล้างอุปกรณ์เครื่องมือทางช่องส่งผ่าน (Pass box) ยกเว้นการล้างด้วยมือ ให้ส่งกลับไปล้างใหม่เฉพาะชิ้นที่สุ่มมาตรวจ 3. อุปกรณ์เครื่องมือที่ไม่ได้ท าการตรวจสอบความสะอาดด้วย Protein test หรือ ATP Test ให้ตรวจสอบ ความสะอาดและความพร้อมใช้ ภายใต้โคมไฟแว่นขยาย (Magnifying lamp) หากผลอุปกรณ์เครื่องมือ ไม่สะอาด ให้ส่งกลับไปยังห้องล้างอุปกรณ์เครื่องมือทางช่องส่งผ่าน ( Pass box ) 4. ตรวจสอบอาการช ารุด สภาพการใช้งาน ความฝืด ความคม ด้วยชุดทดสอบความพร้อมใช้ของ อุปกรณ์เครื่องมือ (Test tool kit) ใช้สเปรย์หล่อลื่น (Lubricant) เมื่อพบว่าอุปกรณ์เครื่องมือฝืด และหากอุปกรณ์เครื่องมือช ารุด ไม่พร้อมใช้งาน ให้ส่งแลกอันใหม่ 5. ตรวจสอบความแห้งแล้วน าส่งอุปกรณ์เครื่องมือที่ผ่านการตรวจสอบไปยังจุดแพ็คห่ออุปกรณ์
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-010-00 หน้า : 3 / 3 เรื่อง : การตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องมือก่อนห่อ/แพ็ค 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร. อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561) 3. The Asian Guidelines for Disinfection and Sterilization of Instrument in health Facilities 2010 4. ผศ.ดร.สุดสาย ตรีวานิช Microbulletin ,3M Food safety ฉบับที่ 36/หน้า 2-3. สืบค้น 26 พ.ค. 2563 multimedia.3m.com/mws/media/10296570/v36.pdf (2557) 5. PS Team เอกสารประกอบการสอนเรื่อง 3MTM Clean – TraceTM ATP Monitoring System : Review (2561) 6. สมุดบันทึกการตรวจสอบความสะอาดของเครื่องมือ 3M Clean-TraceTM Protein Test
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การจัดชุดอุปกรณ์เครื่องมือการห่อ/ บรรจุใส่ซอง หน้า : 1 / 2 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-011-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. ป้องกันไม่ให้อุปกรณ์เครื่องมือเกิดการปนเปื้อนเชื้อโรคหลังผ่านกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อ 2. เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเครื่องมือในหีบห่อจะคงสภาพความปราศจากเชื้อจนกว่าจะถูกน าใช้ 3. เพื่อให้ชุดอุปกรณ์เครื่องมือมีความถูกต้อง ครบถ้วน พร้อมใช้งาน 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ห้องจัดชุด ห่อบรรจุอุปกรณ์เครื่องมือ) 4. รายละเอียด การจัดชุดอุปกรณ์เครื่องมือ 1. ล้างมือทุกครั้งก่อนจัดชุดอุปกรณ์เครื่องมือ 2. เครื่องผ้า ต้องซักท าความสะอาด ก่อนน ามาท าให้ปราศจากเชื้อ ขนาดของห่อผ้า ต้องไม่เกิน 12 x 12 x 20 นิ้วฟุต น้ าหนักรวมไม่ควรเกิน 7 กิโลกรัม 3. จัดอุปกรณ์เครื่องมือเข้าชุด ให้ครบถ้วนถูกต้องตามชุดเครื่องมือ (ตามคู่มือจัดชุดเครื่องมือและใบตรวจสอบ การจัดชุดอุปกรณ์เครื่องมือ) พร้อมตรวจสอบความพร้อมใช้ของตะแกรงและถาดที่ใช้บรรจุอุปกรณ์ 4. ปลดล็อค ถอดแยกส่วน อุปกรณ์เครื่องมือทุกชิ้นและกางออก ในชุดอุปกรณ์เครื่องมือที่มีจ านวนมาก ควรเรียงหรือคล้องกับห่วงอย่างเป็นระเบียบ ชิ้นที่มีน้ าหนักมากควรวางล่างสุด จัดเรียงให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการกระทบกระแทกกันของอุปกรณ์เครื่องมือซึ่งอาจท าให้เครื่องมือช ารุดเสียหายได้ น้ าหนักไม่ควรเกิน 10 กิโลกรัม และถ้าเป็นเครื่องมือผ่าตัดน้ าหนักไม่เกิน 11 กิโลกรัม 5. อุปกรณ์เครื่องมือที่มีคมให้หุ้มปลายอุปกรณ์เครื่องมือด้วยปลอกซิลิโคน หรือกระดาษยึดเครื่องมือ 6. อุปกรณ์เครื่องมือที่มีลักษณะเป็นท่อกลวงที่ใช้ประกอบซ้อนกัน ควรแยกออกจากกัน เพื่อให้ไอน้ า หรือแก๊สผ่านสะดวกและทั่วถึง หันปลายไปทิศทางเดียวกัน และขดให้มีขนาดที่เหมาะสม 7. ใส่ Internal Indicator หนึ่งแผ่นบริเวณกลางถาดหรือจุดอับของชุดอุปกรณ์เครื่องมือ โดยเลือก Internal Indicator ให้ถูกต้องตามวิธีการท าให้ปราศจากเชื้อ 8. ชามอ่าง หรือถ้วยต่างๆ น้ าหนักไม่เกิน 3 กิโลกรัม ถ้าต้องมีการซ้อนกันต้องมีเส้นผ่านศูนย์กลาง ต่างกัน 1 นิ้ว และให้ใช้วัสดุดูดซับที่ไม่มีเส้นใยรองระหว่างชามอ่างหรือถ้วยเพื่อให้ไอน้ าเข้าไปได้ดี 9. ตรวจสอบวัสดุที่จะใช้ห่อเครื่องมือ ถ้าเป็นวัสดุสังเคราะห์แทนผ้า (Non woven) หรือซอง มาตรฐาน ISO 11607 ให้ตรวจสอบความสะอาดพร้อมใช้ เลือกชนิดและขนาดให้เหมาะสมกับ อุปกรณ์เครื่องมือ รวมถึงวิธีการท าให้ปราศจากเชื้อ 10. เครื่องมือผ่าตัดที่ใช้ไฟฟ้ า กล้องส่องเลนส์และเลนส์ ให้ปฏิบัติตามค าแนะน า (IFU) ของบริษัทผู้ผลิต
ระเบียบปฏิบัติ รหัสที่ : WI-CSSD-000-011-00 หน้า : 2 / 2 เรื่อง : การจัดชุดอุปกรณ์เครื่องมือการห่อ/บรรจุใส่ซอง การห่อบรรจุอุปกรณ์เครื่องมือ 1. การห่ออุปกรณ์เครื่องมือด้วย วัสดุทดแทนผ้า (non woven) ใช้การห่อแบบจดหมาย( Envelop fole ) หรือแบบสี่เหลี่ยม ( Square fole ) ตามลักษณะของอุปกรณ์เครื่องมือ โดยตรวจสอบสภาพความ ผิดปกติของวัสดุที่ใช้ห่อ เช่น รู จุด รอยเปื้อน (วัสดุที่ใช้ในการห่อ ต้องเก็บในอุณหภูมิ 21 –24 องศาเซลเซียส และความชื้นสัมพัทธ์ 30 -60 % เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง) 2. การบรรจุอุปกรณ์เครื่องมือโดยการใส่ซอง (peel pounch / tyvek) เลือกชนิดของซองให้ถูกต้อง ตามการท าให้ปราศจากเชื้อ และขนาดของซองให้เหมาะสมกับขนาดของอุปกรณ์เครื่องมือ ตัดซอง ตามขนาดที่ต้องการใช้งานโดยให้ความห่างระหว่างรอยซีลด้านก้นถึงปลายซอง 1 เซนติเมตร ความห่างระหว่างปลายเครื่องมือถึงรอยซีลด้านบน 1 นิ้ว ความห่างระหว่างรอยซีลด้านบนถึงปลายซอง 1 นิ้ว ขนาดของแถบรอยซีลไม่น้อยกว่า 7 – 10 มิลลิเมตร รอยซีลเรียบเสมอกัน บรรจุอุปกรณ์เครื่องมือ ลงในซองโดยให้ส่วนปลายที่จะหยิบจับเป็นส่วนแรกที่พบเมื่อเปิดซอง และท าการทดสอบ ประสิทธิภาพการปิดผนึก(Seal check) ของเครื่องก่อนใช้งานทุกวัน 3. การห่อด้วยซอง 2 ชั้น ต้องให้ด้านกระดาษอยู่ด้านเดียวกันเพื่อให้ไอน้ าผ่านเข้าออกได้สะดวก ซีลซองทั้งสองชั้น และซองชั้นในเล็กกว่าชั้นนอกและติดฉลากด้านพลาสติกเท่านั้น 4. การใช้ Rigid container ต้องล้างและเปลี่ยนตัวกรองทุกครั้ง ตรวจสอบการล็อค สภาพฝา การปิดให้มิดชิด ใส่ตัวบ่งชี้ตามมาตรฐานกับขนาดกล่องและปริมาณเครื่องมือ การระบุรายละเอียดบนห่อเครื่องมือแพทย์ 1. เมื่อห่อเครื่องมือเรียบร้อยแล้วให้ติดตัวบ่งชี้ทางเคมีภายนอก (external chemical indicator) ให้เห็นชัดเจนที่ห่อเครื่องมือแพทย์ เลือกชนิดของตัวบ่งชี้ให้ถูกต้องกับวิธีการท าให้ปราศจากเชื้อ 2. ติดฉลากอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ที่บรรจุในห่อ ติดภายนอกห่อเครื่องมือ มีรายละเอียดดังนี้ ชื่อเครื่องมือ วันที่ท าให้ปราศจากเชื้อ วันหมดอายุ ระยะเวลาการคงสภาพปราศจากเชื้อ หมายเลขเครื่อง รอบการท าให้ปราศจากเชื้อ ผู้จัดชุดอุปกรณ์ ผู้ตรวจสอบ ผู้ท าให้ปราศจากเชื้อ โดยการท าให้ปราศจากเชื้อ ด้วยไอน้ าให้ติดก่อนน าเข้าเครื่องท าให้ปราศจากเชื้อ การท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สให้ติดหลังจากผ่าน การท าให้ปราศจากเชื้อแล้ว 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร. อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือ แพทย์ (2561) 3. The Asian Guidelines for Disinfection and Sterilization of Instrument in health Facilities 2010
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การจัดเรียงอุปกรณ์เครื่องมือและการท าให้ ปราศจากเชื้อด้วยไอน้ า หน้า : 1 / 3 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-012-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้การไหลเวียนและการแทรกซึมของไอน้ า แก๊ส ความร้อน เข้าภายในห่อเครื่องมือเป็นไปได้อย่างสะดวก 2. ป้องกันไม่ให้ไอน้ า และอากาศตกค้างอยู่ในห่ออุปกรณ์ 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ห้องจัดชุด ห่อบรรจุอุปกรณ์เครื่องมือ) 4. รายละเอียด การท าให้ปราศจากเชื้อด้วยการนึ่งไอน้ า เป็นกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อที่ใช้ไอน้ าอิ่มตัวที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 100 องศาเซลเซียส ท าได้โดยการ เพิ่มความดันภายในช่องอบให้สูงกว่าความดันบรรยากาศ ไอน้ าที่อิ่มตัวจะแทรกซึมผ่านเข้าไปในห่อเครื่องมือแพทย์ เมื่อไอน้ าสัมผัสกับเครื่องมือที่อยู่ภายในห่อ ซึ่งมีอุณหภูมิต่ ากว่า ไอน้ าจะกลั่นตัวเป็นหยดน้ าเล็กๆ ท าให้ปริมาตร ของไอน้ าลดลง ส่งผลให้ภายในห่อเครื่องมือมีความดันเป็นลบ ไอน้ าจะแทรกซึมเข้ามาบริเวณนี้เพิ่มขึ้นอีก และ ในขณะที่อน้ ากลั่นตัวเป็นหยดน้ า ไอน้ าจะปล่อยความร้อนแฝงออกมาจ านวนมาก ท าให้เครื่องมือปราศจากเชื้อ ในขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนนี้จึงต้องมีการท าให้แห้ง (Drying) เพื่อไม่ให้ห่อเครื่องมือเปียกชื้น การท าให้ปราศจากเชื้อโดยวิธีนึ่งด้วยไอน้ า มีองค์ประกอบส าคัญที่ต้องค านึงถึง 4 ประการคือ 1. อุณหภูมิ (Temperature) เชื้อจุลชีพจะถูกท าลายได้โดยความร้อนชื้นที่อุณหภูมิและระยะเวลา ที่แตกต่างกันตามลักษณะชนิดของแบคทีเรีย อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นระยะเวลาในการท าลายจุลชีพจะสั้นลง อุณหภูมิที่นิยมใช้ในกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อโดยวิธีนึ่งด้วยไอน้ า คือ 121 และ 134 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิจะต้องรักษาไว้ให้คงที่ในกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อจนกว่าจะครบระยะเวลาต่ าสุด ที่ก าหนดในการท าให้ปราศจากเชื้อไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดใดสามารถมีชีวิตอยู่ได้เมื่อสัมผัสกับไอน้ าอิ่มตัว ที่มีอุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียสเป็นเวลานานอย่างน้อย 15 นาที และอุณหภูมิ 134 องศาเซลเซียสเป็นเวลานานอย่างน้อย 3 นาที 2. ความดัน (Pressure)ความดันจะเป็นตัวช่วยให้อุณหภูมิที่น้ าเดือดสูงขึ้น แต่ความดันไม่มีผลต่อเชื้อจุลชีพ หรือต่อการแทรกซึมของไอน้ าเข้าสู่เครื่องมือแพทย์ ที่ความดัน 15 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว น้ าจะเดือด ที่อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียสและที่ความดัน 32 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว น้ าจะเดือดที่อุณหภูมิ 134 องศาเซลเซียส ไอน้ าที่อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียส และ 134 องศาเซลเซียสจะสามารถท าลายสปอร์ได้ภายในเวลา 15 นาที และ 3 นาทีตามล าดับ
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-012-00 หน้า : 2 / 3 เรื่อง : การจัดเรียงอุปกรณ์เครื่องมือและการท าให้ปราศจากเชื้อด้วยไอน้ า 3. เวลา (Time) ระยะเวลาที่อุปกรณ์จะต้องสัมผัสไอน้ าที่อุณหภูมิและความดันตามที่ก าหนด ขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่องนึ่งที่ใช้ ขนาดของห่ออุปกรณ์ และลักษณะการห่ออุปกรณ์ ระยะเวลาที่ใช้ในการ ท าให้อุปกรณ์ที่บรรจุในเครื่องนึ่งไอน้ าชนิด Gravity displacement ปราศจากเชื้อ ใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาที ที่อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียส ความดัน 15 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ส าหรับเครื่องนึ่งชนิด Pre-vacuum ที่อุณหภูมิ 134 องศาเซลเซียส ความดัน 27 ปอนด์ต่อตารางนิ้วจะใช้เวลาเพียง 3 นาที 4. ความชื้น (Moisture) การท าให้อุปกรณ์ปราศจากเชื้อโดยวิธีการนึ่งด้วยไอน้ า จะมีประสิทธิภาพ เมื่อไอน้ าสัมผัสกับทุกพื้นผิวของอุปกรณ์ที่ต้องการท าให้ปราศจากเชื้อ เมื่อไอน้ าถูกส่งเข้าภายในช่องอบ ไอน้ า จะสัมผัสกับอุปกรณ์ซึ่งมีความเย็น ไอน้ าจะกลั่นตัวเป็นหยดน้ า ขณะที่ไอน้ ากลั่นตัวเป็นหยดน้ าจะปล่อย ความร้อนแฝงออกมา ข้อดีและข้อจ ากัดของการท าให้อุปกรณ์ปราศจากเชื้อโดยวิธีการนึ่งด้วยไอน้ า ข้อดี - การท าให้ปราศจากเชื้อโดยวิธีการนึ่งด้วยไอน้ า เป็นวิธีที่สะดวก ปลอดภัย ไม่มีพิษตกค้างและเชื่อถือได้มากที่สุด เหมาะส าหรับการท าให้อุปกรณ์ที่ทนความร้อนและความชื้นได้ปราศจากเชื้อ - ประหยัดเวลา ใช้เวลาในการท าให้ปราศจากเชื้อสั้นที่สุด - ประหยัดค่าใช้จ่าย - เครื่องนึ่งไอน้ าส่วนใหญ่จะมีระบบควบคุมอัตโนมัติ สามารถควบคุมอุณหภูมิ ความดัน และสามารถตรวจสอบได้ มีระบบบันทึกข้อมูล จึงช่วยลดความผิดพลาดจากการปฏิบัติงานของบุคลากรได้ - อุปกรณ์เครื่องมือหลายชนิดสามารถท าให้ปราศจากเชื้อโดยวิธีนึ่งด้วยไอน้ าได้หลายครั้ง โดยไม่ช ารุดเสียหาย หรือมีสารตกค้าง อุปกรณ์เหล่านี้ได้แก่ อุปกรณ์ที่ท าด้วยสแตนเลส ข้อจ ากัด - ต้องระมัดระวังในทุกขั้นตอนของกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อ ได้แก่ การเตรียมอุปกรณ์ การห่อ การน าห่อ อุปกรณ์บรรจุเข้าเครื่อง และการควบคุมการท างานของเครื่อง - จะต้องท าความสะอาดอุปกรณ์ก่อนน าไปท าให้ปราศจากเชื้อ ไม่ให้มีการปนเปื้อนขี้ผึ้ง น้ ามัน หรืออินทรีย์สาร - ไอน้ าจะต้องสัมผัสกับทุกพื้นผิวของอุปกรณ์ และไอน้ าจะต้องสามารถแทรกซึมเข้าไปในห่ออุปกรณ์ได้ แต่วัสดุที่ใช้ห่ออุปกรณ์จะต้องสามารถรักษาสภาพปราศจากเชื้อได้ - ระยะเวลาที่ใช้ในการท าให้ปราศจากเชื้อ จะต้องปรับให้เหมาะสมกับอุปกรณ์แต่ละชนิดและขนาดของ ห่ออุปกรณ์ - ไอน้ าอาจไม่บริสุทธิ์พอ ท าให้ห่ออุปกรณ์เกิดการปนเปื้อน - หากมีอากาศหลงเหลืออยู่ภายในช่องอบ ในห่ออุปกรณ์หรือภาชนะที่บรรจุอุปกรณ์ จะท าให้อุณหภูมิ ภายในช่องอบลดลง มีผลต่อประสิทธิภาพการท าให้ปราศจากเชื้อ
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-012-00 หน้า : 3 / 3 เรื่อง : การจัดเรียงอุปกรณ์เครื่องมือและการท าให้ปราศจากเชื้อด้วยไอน้ า ขั้นตอนการท าให้ปราศจากเชื้อด้วยการนึ่งไอน้ า 1. จัดกลุ่มห่อเครื่องมือแพทย์ที่มีลักษณะคล้ายกันหรือแบบเดียวกันที่ใช้cycle เดียวกัน เพื่อท าให้ปราศจากเชื้อ ในรอบเดียวกัน 2. จัดเรียงห่อเครื่องมือแพทย์ให้มีช่องว่างระหว่างห่อ ไม่ซ้อนทับกันเพื่อให้การไหลเวียน และการแทรกซึม ของไอน้ า แก๊ส ความร้อน เข้าภายในห่อเครื่องมือ ไม่บรรจุห่อเครื่องมือมากเกินไป ไม่ให้ห่อสัมผัส ผนังช่องนึ่งด้วยไอน้ า 3. จัดเรียงห่อเครื่องมือแบบ mix loads โดยวางห่อเครื่องมือที่เป็นโลหะไว้ล่างสุด ห่อเครื่องผ้าหรือซอง peel pouches ไว้ด้านบนสุด เพื่อป้องกันหยดน้ าลงห่อด้านล่าง 4. ถาดหรือชามที่ไม่มีรู ควรจัดเรียงในแนวตะแคงข้างหันเรียงไปทางเดียวกันและวางไว้ชั้นล่างสุด เพื่อให้หยดน้ าไหลออกได้สะดวก 5. ซอง peel pouches จัดเรียงในตะแกรงในแนวตั้ง เพื่อให้ตัวการท าให้ปราศจากเชื้อผ่านเข้าออกได้ดี 6. Rigid container การจัดวางควรปฏิบัติตามค าแนะน าของบริษัทผู้ผลิต (IFU) 7. ห่ออุปกรณ์ที่มีลักษณะแบน ควรวางบนชั้นวางในลักษณะตะแคง ถาดที่ใสอุปกรณ์ที่มีช่องที่ก้นถาด ควรจัดวางในลักษณะวางราบ ไม่วางซ้อนกัน 8. ห่ออุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ ควรวางไว้ที่ชั้นล่างของเครื่องนึ่ง และควรวางให้ห่างกันประมาณ 1-2 นิ้วฟุต 9. อุปกรณ์ที่ท าด้วยยาง ควรวางในลักษณะตะแคง วางหลวมๆ ไม่ติดกันและจัดวางไว้บนชั้นวางเดียวกัน เพื่อให้ไอน้ าไหลเวียนและผ่านเข้าในอุปกรณ์ได้สะดวก ไม่ควรจัดวางห่ออุปกรณ์ประเภทอื่นไว้กับห่อ อุปกรณ์ประเภทยาง 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร.อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561) 3. The Asian Guidelines for Disinfection and Sterilization of Instrument in health Facilities 2010
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การจัดเรียงอุปกรณ์เครื่องมือและการท าให้ ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ (EO) หน้า : 1 / 4 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-013-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้การไหลเวียนและการแทรกซึมของแก๊สเข้าภายในห่อเครื่องมือเป็นไปได้อย่างสะดวก 2. ป้องกันไม่ให้ แก๊ส และอากาศตกค้างอยู่ในห่ออุปกรณ์ 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ห้องจัดชุด ห่อบรรจุอุปกรณ์เครื่องมือ) 4. รายละเอียด การท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ ( Ethylene oxide EO) แก๊สเอทธิลีนออกไซด์ (EO) เป็นแก๊สมีพิษ ไม่มีสี สามารถติดไฟและระเบิดที่ความเข้มข้นต่ าจะไม่มีกลิ่น น าไปใช้ในการท าให้ปราศจากเชื้อในเครื่องมือที่ทนความร้อนและความชื้นไม่ได้ เช่น พลาสติกที่มีจุดหลอมละลายต่ า วัสดุเนื้อพรุนได้ทุกชนิด (All porous materials) หากใช้กับอุปกรณ์ที่มีท่อกลวงยาว และเส้นผ่านศูนย์กลางเล็ก ให้ปฏิบัติตามค าแนะน าของบริษัทผู้ผลิต (IFU) แก๊สเอทธิลีนออกไซด์ ไม่สามารถซึมผ่านโลหะ แก้ว สารหล่อลื่น ที่ท าจากปิโตรเลียม ห้ามใช้กับน้ ามัน ของเหลว และแป้งฝุ่น ปัจจัยที่มีผลต่อการท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ ได้แก่ อุณหภูมิ ความเข้มข้นของแก๊ส ความชื้น และเวลา หากใช้ความเข้มข้นของแก๊สและอุณหภูมิที่สูง จะใช้ระยะเวลาการท าให้ปราศจากเชื้อลดลง โดยสามารถท าลายสปอร์ของเชื้อแบคทีเรียด้วยวิธีการ alkylation ที่ช่วยป้องกันการเผาผลาญสารอาหารและการแบ่งตัวของเซลล์ ของเชื้อจุลชีพ ท าให้เซลล์ของเชื้อแตกและท าหน้าที่ไม่ได้ ปัจจัยที่มีผลต่อการท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ 1. อุณหภูมิ (Temperature) อุณหภูมิสูงขึ้นจะช่วยให้การแทรกซึมของแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ดีขึ้น และ ช่วยลดระยะเวลาที่อุปกรณ์ต้องสัมผัสกับแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ลง การท างานของแก๊สเอทธิลีนออกไซด์จะเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.74 เท่า หากอุณหภูมิสูงขึ้นทุก 10 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิที่ใช้จะอยู่ระหว่าง 49-60 องศาเซลเซียส 2. ความเข้มข้นของแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ ความเข้มข้นต่ าที่สุดของแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ที่นิยมใช้ ในการท าให้ปราศจากเชื้อคือ 450 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งจะใช้เวลาในการท าให้ปราศจากเชื้อไม่นานเกินไป การใช้แก๊ส ที่มีความเข้มข้นสูงถึง 1,000 มิลลิกรัมต่อลิตร จะช่วยให้ระยะเวลาที่ใช้ในการสัมผัสแก๊สลดลงครึ่งหนึ่ง แต่การใช้ ความเข้มข้นสูงกว่า 1,000 มิลลิกรัมต่อลิตร ไม่มีผลต่อระยะเวลาที่ใช้ในการท าให้อุปกรณ์ปราศจากเชื้อ ในโรงพยาบาล โดยทั่วไปจะใช้ความเข้มข้นของแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ระหว่าง 700 –1,200 มิลลิกรัมต่อลิตร เพื่อให้แก๊สสามารถแทรกซึม ผ่านวัสดุที่ใช้ห่ออุปกรณ์ได้สะดวก
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-013-00 หน้า : 2 / 4 เรื่อง : การจัดเรียงอุปกรณ์เครื่องมือและการท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ (EO) 3. ความชื้น (Humidity)ความชื้นจะช่วยเร่งปฏิกิริยาระหว่างแก๊สเอทธิลีนออกไซด์กับโปรตีนของเชื้อแบคทีเรีย โดยปกติจะใช้ความชื้นสัมพัทธ์ระหว่าง 30 – 60% โดยการพ่นน้ าเข้าไปในช่องอบ เมื่อองค์ประกอบทั้งสามเป็นไป ตามที่ก าหนดจะต้องใช้ระยะเวลาในการท าให้ปราศจากเชื้อนานระหว่าง 1 ½ - 6 ชั่วโมง ตัวอย่างเช่น ที่ระดับ ความชื้นสัมพัทธ์ 30 –50% ที่อุณหภูมิ 50 –60 องศาเซลเซียส จะต้องใช้เวลาในการท าให้ปราศจากเชื้อนาน 4 ชั่วโมง ระดับความชื้นสัมพัทธ์ที่ใช้ในการท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ที่ใช้ในโรงพยาบาลและโรงงานอุตสาหกรรรม อยู่ระหว่าง 50 – 90% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะและขนาดของอุปกรณ์ที่ต้องการท าให้ปราศจากเชื้อ หากเครื่องอบ แก๊สเอทธิลีนออกไซด์ใช้อุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส ควรใช้ความชื้นสัมพัทธ์ 70% 4. เวลา (Time) ระยะเวลาที่ใช้ในการท าให้อุปกรณ์ปราศจากเชื้อโดยใช้แก๊สเอทธิลีนออกไซด์ ขึ้นอยู่กับ อุณหภูมิภายในช่องอบด้วย หากใช้อุณหภูมิต่ าจะต้องใช้ระยะเวลาในการที่แก๊สสัมผัสกับอุปกรณ์นานขึ้นกว่าการใช้อุณหภูมิสูง ข้อดีของ EO - สามารถใช้ท าให้อุปกรณ์ที่ไม่สามารถทนความร้อน เช่น พลาสติก ที่มีจุดหลอมละลายต่ า การท าให้ ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์เป็นวิธีการท าให้ปราศจากเชื้อที่มีประสิทธิภาพ เหมาะส าหรับ อุปกรณ์ที่อาจถูกกัดกร่อนโดยไอน้ าและความชื้น - แก๊สเอทธิลีนออกไซด์สามารถแทรกซึมผ่านวัสดุที่มีลักษณะเนื้อวัสดุเป็นรูพรุนได้ทุกชนิด (all porous materials) แต่ไม่สามารถแทรกซึมผ่านโลหะ แก้ว และสารหล่อลื่นที่ท าจาก petroleum ได้ จะสามารถแทรกซึมผ่านน้ ามัน ของเหลว หรือแป้งได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับปริมาณของสารเหล่านี้ ที่บรรจุในภาชนะ หากมีการให้สารเหล่านี้เป็นชั้นบางๆแก๊สเอทธิลีนออกไซด์จะสามารถแทรกซึมผ่านได้ - เครื่องท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ ใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติ จึงช่วยลดความผิดพลาด จากผู้ปฏิบัติได้ ข้อเสียของ EO - การท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์มีกระบวนการที่ค่อนข้างซับซ้อน ท าให้ต้องมีการ ควบคุมก ากับการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด - การท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ระยะเวลายาวนาน กว่าการท าให้ปราศจากเชื้อโดยการใช้ไอน้ า - เครื่องท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ จะต้องออกแบบอย่างเหมาะสมเป็นพิเศษ จึงมักมีราคาแพง และแก๊สเอทธิลีนออกไซด์เองก็มีราคาแพง - อุปกรณ์ที่ดูดซึมแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ ขณะอยู่ในกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อ เช่น อุปกรณ์ ที่ท าจากยาง polyethylene หรือ silicone จะต้องผ่านการระบายอากาศก่อนน าไปใช้กับผู้ป่วย - การน าอุปกรณ์ไปท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์หลายๆ ครั้งหากไม่ผ่านการระบายอากาศ ด้วยวิธีที่ถูกต้องเหมาะสม อาจท าให้เกิดการสะสมของแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ท าให้ความเข้มข้น ของแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ในอุปกรณ์ที่ท าจากวัสดุที่มีรูพรุนสูงขึ้น
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-013-00 หน้า : 3 / 4 เรื่อง : การจัดเรียงอุปกรณ์เครื่องมือและการท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ (EO) - แก๊สเอทธิลีนออกไซด์มีอันตรายต่อผิวหนังและเยื่อบุของร่างกาย การหายใจแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ เข้าสู่ร่างกาย จะท าให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ - การสัมผัสแก๊สเอทธิลีนออกไซด์มากเกินกว่ามาตรฐานเป็นเวลานานท าให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เพราะแก๊สเอทธิลีนออกไซด์เป็นสารก่อมะเร็ง อาจท าให้เกิดมะเร็งเม็ดเลือด เป็นสารที่ท าให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงของ gene อาจท าให้เกิดการแท้ง เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรม เนื่องจากการ ท าลายโครโมโซมและความผิดปกติของระบบประสาท ขั้นตอนการอบฆ่าเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ 1. จัดวางเครื่องมือต่างๆ ในตะกร้าเพื่อให้แน่ใจว่า ก๊าซเอทธิลีนออกไซด์ (EO) สามารถหมุนเวียนได้ อย่างอิสระระหว่างเครื่องมือแต่ละชิ้น โดยคัดแยกตามความยาวและชนิดของอุปกรณ์ จัดเรียงให้มีช่องว่าง ระหว่างห่อ ไม่ซ้อนทับกันเพื่อให้การไหลเวียน และการแทรกซึมของไอน้ า แก๊ส ความร้อน เข้าภายในห่อเครื่องมือ ไม่บรรจุห่อเครื่องมือมากเกินไป หากเป็นไปได้ให้วางซองบรรจุในแนวตั้ง และจัดวางซองบรรจุอบฆ่าเชื้อ โดยให้ด้านที่มองทะลุได้ของซอง หันไปทางด้านขุ่นของซองถัดไป ตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีอุปกรณ์ใดที่สัมผัสผนังของห้องอบฆ่าเชื้อ 2. ตรวจสอบอุปกรณ์ที่จะเข้าเครื่องอบแก๊ส ความสะอาด อุปกรณ์ต้องแห้งไม่มีหยดน้ าการบรรจุหีบห่อ ใช้วัสดุหีบห่อถูกต้อง (คู่มือการอบแก๊สเอ็ทธิลินออกไซด์) การใส่ตัวบ่งชี้เคมีภายในและภายนอก 3. วางชุดตรวจสอบ Spore test ทุกรอบ 4. ตรวจสอบค่าระดับแก๊สให้พร้อมใช้งานก่อนเข้าห้องอบแก๊ส 5. ใส่อุปกรณ์ป้องกันให้ถูกต้อง ได้แก่ หน้ากากกันแก๊ส แว่นตา ถุงมือยาง 6. ปฏิบัติงานในห้องครั้งละไม่เกิน 15 นาที ค่าเฉลี่ยใน 15 นาทีต้องไม่เกิน 5 ppm 7. น าตะแกรงอุปกรณ์ที่จัดเรียงแล้ว เข้าเครื่องอบแก๊ส เลือกโปรแกรมใช้งานตามลักษณะอุปกรณ์ (อุปกรณ์เฉพาะบางชนิดต้องศึกษาจากข้อก าหนดของบริษัท) 8. ตรวจสอบเชิงกล มาตรวัดระดับอุณหภูมิ ความชื้น แรงดัน ระยะเวลาการท าให้ปราศจากเชื้อ ห้ามเปิดประตูเครื่องโดยเด็ดขาดขณะการใช้งานเครื่อง 9. ตรวจสอบประเมินผลกาตรวจสอบทางเคมี และชีวภาพ 10. บันทึกข้อมูล 11. เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อ เปิดประตูเครื่องทิ้งไว้ประมาณ 15-60 นาทีเพื่อให้ อุปกรณ์แห้งและเย็น ป้องกันการเกิดการกลั่นตัวเป็นหยดน้ าไม่หยิบจับอุปกรณ์ขณะที่ห่ออุปกรณ์ยังร้อน เนื่องจากห่ออุปกรณ์จะดูดซับความชื้น และเชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนมืออาจปนเปื้อนเข้าไป ในห่ออุปกรณ์ได้ 12. การน าของออกจากตู้อบแก๊สให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับตอนน าเข้า คือใส่อุปกรณ์ป้องกันให้ถูกต้อง ได้แก่ หน้ากากกันแก๊ส แว่นตา ถุงมือยาง
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-013-00 หน้า : 4 / 4 เรื่อง : การจัดเรียงอุปกรณ์เครื่องมือและการท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ (EO) 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร.อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561) 3. The Asian Guidelines for Disinfection and Sterilization of Instrument in health Facilities 2010
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การจัดเรียงอุปกรณ์เครื่องมือและการท าให้ ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ พลาสมา (HO2 Plasma) หน้า : 1 / 2 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-014-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้การไหลเวียนและการแทรกซึมของแก๊สเข้าภายในห่อเครื่องมือเป็นไปได้อย่างสะดวก 2. ป้องกันไม่ให้แก๊ส และอากาศตกค้างอยู่ในห่ออุปกรณ์ 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ห้องจัดชุด ห่อบรรจุอุปกรณ์เครื่องมือ) 4. รายละเอียด การท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์พลาสมา (HO2 Plasma) ระบบไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์พลาสมา สามารถท าลายเชื้อจุลชีพทุกชนิดรวมทั้งสปอร์ของเชื้อแบคทีเรียที่อุณหภูมิต่ า เหมาะส าหรับเครื่องมือแพทย์ที่ไวต่อความร้อนและความชื้น เป็นระบบที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ไม่มีสารพิษตกค้าง สารสุดท้ายหลังเสร็จกระบวนการคือ แก๊สออกซิเจนและละอองน้ า ใช้ได้กับเครื่องมือที่ท าด้วยโลหะ และไม่ใช่โลหะ รวมทั้งเครื่องมือที่มีส่วนที่ยากต่อการท าความสะอาด เช่น มีลักษณะเป็นท่อ และ endoscope ตามค าแนะน าของบริษัทผู้ผลิต ข้อที่ควรค านึงถึงเมื่อต้องใช้การท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์พลาสม่า คือ ข้อจ ากัด ในการน าอุปกรณ์มาท าให้ปราศจากเชื้อไม่ควรน าวัสดุที่สามารถดูดซับของเหลวได้ เช่น แป้ง, กระดาษ, ผ้า, ผ้าก็อส, ส าลี, ไม้, โฟม, ฟองน้ า, ของเหลว, น้ า, น้ ามัน เป็นต้น ซึ่งวัสดุเหล่านี้จะดูดซับ Hydrogenperoxide นอกจากนั้นแล้ว ถ้าเป็นอุปกรณ์ที่เป็นลักษณะท่อกลวง จะต้องปฏิบัติตามค าแนะน าในการเตรียมอุปกรณ์ ถ้าอุปกรณ์นั้นๆ มีขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางที่เล็กเกินก าหนด หรือมีความยาวเกินก าหนด ไม่ควรน าเข้าอบฆ่าเชื้อ เพราะจะท าให้ ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ ไม่สามารถเข้าไปสัมผัสได้อย่าทั่วถึง ขั้นตอนการท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์พลาสมา (HO2 Plasma) 1. จัดเรียงเครื่องมือลงตระแกรงหรือแชมเบอร์ในปริมาณที่เหมาะสมไม่อัดแน่น จัดเรียงห่อ เครื่องมือแพทย์ให้มีช่องว่างระหว่างห่อไม่ซ้อนทับกันเพื่อให้การไหลเวียน และการแทรกซึมของ ไอน้ า แก๊ส ความร้อน เข้าภายในห่อเครื่องมือ ไม่บรรจุห่อเครื่องมือมากเกินไป 2. ไม่ควรน าวัสดุที่สามารถดูดซับของเหลวได้ เช่น แป้ง, กระดาษ, ผ้า, ผ้าก๊อส, ส าลี, ไม้, โฟม, ฟองน้ า, ของเหลว, น้ า, น้ ามัน เป็นต้น เพราะวัสดุเหล่านี้จะดูดซับ Hydrogen peroxide
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-014-00 หน้า : 2 / 2 เรื่อง : การจัดเรียงอุปกรณ์เครื่องมือและการท าให้ปราศจากเชื้อด้วยแก๊สไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์พลาสมา (HO2 Plasma) 3. เจ้าหน้าที่รับผิดชอบตรวจสอบอุปกรณ์ที่จะเข้าเครื่องอบแก๊ส โดยตรวจสอบ 3.1 ความสะอาดของห่ออุปกรณ์อุปกรณ์ที่จะน าเข้าตู้ฆ่าเชื้อต้องแห้ง เพื่อป้องกันความผิดพลาด ในการท างาน หากไม่ท าให้เครื่องมือแห้งอย่างทั่วถึงก่อนน าเข้าเครื่องฆ่าเชื้อ อาจท าให้มี ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ตกค้างบนพื้นผิวด้านนอก ซึ่งอาจท าให้เกิดผิวไหม้จากการสัมผัสพื้นผิวดังกล่าว เมื่อหยิบจับ และหากน าอุปกรณ์เข้าเครื่องฆ่าเชื้อขณะที่ยังมีความชื้นอยู่อาจท าให้อุปกรณ์ ไม่ปลอดเชื้อ หรือเกิดความผิดพลาดในการท างาน ควรสวมถุงมือป้องกันสารเคมี เมื่อจับอุปกรณ์ ที่ผ่านการฆ่าเชื้อขณะที่มีความชื้น 3.2 การบรรจุหีบห่อใช้วัสดุหีบห่อถูกต้องวัสดุที่ใช้ในการห่อจะต้องไม่ดูดซับไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ เช่น ซองไทเวค (Tyvek Pouch) ซึ่งมีคุณสมบัติไม่ดูดซึมแก๊สไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ และไม่ปล่อย แก๊สอื่นๆ ออกมาจากเนื้อพลาสติก ด้านพลาสติกขาวท าจาก Tyvek ด้านพลาสติกใสท าจาก Mylar ส าหรับแผ่นห่อ (Wrap) ควรใช้แผ่นห่อชนิดโพลีพรอพไพลีน (POLYPROPYLENE) ซึ่งมี คุณสมบัติไม่ดูดซึมแก๊สไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ 3.3 การใส่ตัวชี้วัดภายในและภายนอก (ตามคู่มือการอบแก๊สพลาสมา) 3.4 ถ้าเป็นอุปกรณ์ที่เป็นลักษณะท่อกลวง จะต้องปฏิบัติตามค าแนะน าในการเตรียมอุปกรณ์ ถ้าอุปกรณ์นั้นๆ มีขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางที่เล็กเกินก าหนด หรือมีความยาวเกินก าหนด ไม่ควรน าเข้าอบฆ่าเชื้อ เพราะจะท าให้ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ ไม่สามารถเข้าไปสัมผัสได้อย่างทั่วถึง 4. วางชุดตรวจสอบ Spore test ทุกรอบ 5. ปิดประตูเครื่องอบแก๊ส ตั้งโปรแกรมอบแก๊ส 1 รอบใช้เวลา 1 ชั่วโมง 6. ตรวจสอบเชิงกล มาตรวัด ระดับอุณหภูมิ ความชื้น แรงดัน ระยะเวลาการท าให้ปราศจากเชื้อ หากรอบการท างานของเครื่องมีการยกเลิก ควรเปลี่ยนตัวบ่งชี้ทั้งหมดก่อนเริ่มเดินเครื่อง Sterilizer ใหม่ทุกครั้ง Chemical indicator tape, Chemical indicator strip, Biological indicator 7. ตรวจสอบและประเมินผล ตัวตรวจสอบทางเคมี และชีวภาพ และบันทึกข้อมูล 8. สวมถุงมือก่อนการหยิบจับอุปกรณ์ออกจากเครื่องอบแก๊ส 9. น าส่งอุปกรณ์ไปยังห้องเก็บอุปกรณ์ปราศจากเชื้อผ่านทางช่อง Pass box 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร.อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561) 3. The Asian Guidelines for Disinfection and Sterilization of Instrument in health Facilities 2010
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การน าห่ออุปกรณ์เครื่องมือออกจาก เครื่องท าให้ปราศจากเชื้อ หน้า : 1 / 1 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-015-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. ลดการปนเปื้อนเชื้อจากการสัมผัส 2. ตรวจสอบความสมบูรณ์ของอุปกรณ์เครื่องมือ 3. ป้องกันการเกิดอุบัติการณ์ห่อแคเปียก (Wet pack) 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ห้องจัดชุด ห่อบรรจุอุปกรณ์เครื่องมือ) 4. รายละเอียด การน าห่อเครื่องมือแพทย์ออกจากเครื่องท าให้ปราศจากเชื้อ การน าห่อเครื่องมือแพทย์ออกจากเครื่องท าให้ปราศจากเชื้อ ผู้ปฏิบัติต้องค านึงถึงการปนเปื้อนเชื้อ จากการสัมผัส โดยท าความสะอาดมือเพื่อลดปริมาณเชื้อจากการสัมผัส และตรวจสอบความสมบูรณ์ของ กระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อ ตรวจสอบสภาพห่อเครื่องมือก่อนน าเครื่องมือไปใช้งาน โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1. ห่อเครื่องมือแพทย์ที่ผ่านการท าให้ปราศจากเชื้อแล้วพักไว้ในช่องอบนานอย่างน้อย 30 นาทีเพื่อรอให้เย็น ไม่สัมผัสห่อระหว่างรอให้เย็นลง 2. สวมถุงมือป้องกันความร้อนเพื่อน าอุปกรณ์ออกจากเครื่องท าให้ปราศจากเชื้อ และพักไว้ในบริเวณ ที่ไม่มีคนพลุกพล่าน ไม่ควรใกล้กับเครื่องปรับอากาศหรือช่องระบายอากาศ 3. กรณีการน าอุปกรณ์ออกจากเครื่องท าให้ปราศจากเชื้อที่ใช้แก๊สเอทธิลีนออกไซด์ (EO), ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์พลาสม่า บุคลากรควรสวมอุปกรณ์ป้องกันร่างกาย (PPE) ตามค าแนะน า ของบริษัทผู้ผลิต (IFU) ได้แก่ถุงมือ หน้ากากป้องกันสารเคมี 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร.อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อพิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561)
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การตรวจสอบประสิทธิภาพกระบวนการ การท าให้ปราศจากเชื้อ (กายภาพ/เคมี/ ชีวภาพ) หน้า : 1 / 3 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-016-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. ใช้ในการตัดสินใจการจัดเก็บและแจกจ่ายห่อเครื่องมือแพทย์ในแต่ละรอบ 2. ใช้ในการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องท าให้ปราศจากเชื้อ 3. ใช้ในการประกันคุณภาพของห่อเครื่องมือแพทย์ 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ห้องจัดชุด ห่อบรรจุอุปกรณ์เครื่องมือ) 4. ค าจ ากัดความ การน าห่ออุปกรณ์บรรจุในเครื่องท าให้ปราศจากเชื้อ เปิดเครื่องจนสิ้นสุดกระบวนการของเครื่อง ไม่สามารถ มั่นใจได้อย่างเต็มที่ว่าอุปกรณ์ที่อยู่ภายในเครื่องปราศจากเชื้อ เนื่องจากอาจเกิดความผิดพลาดในขั้นตอนต่างๆ ของการท าให้ปราศจากเชื้อ ได้แก่ ความผิดพลาดของผู้ปฏิบัติงานจากการห่ออุปกรณ์ใหญ่มากเกินไป บรรจุอุปกรณ์ ในห่อมากเกินไป บรรจุห่ออุปกรณ์เข้าช่องอบไม่เหมาะสม จัดห่ออุปกรณ์อัดแน่นไม่เป็นระเบียบ ตั้งระยะเวลาและ อุณหภูมิไม่เหมาะสมกับชนิดของอุปกรณ์และขนาดของห่ออุปกรณ์ ผู้ปฏิบัติงานขาดความรู้ความเข้าใจหลักการท างาน ของเครื่อง Sterilizer หรือ ความผิดปกติของเครื่อง Sterilizer การตรวจสอบประสิทธิภาพการท าให้ปราศจากเชื้อ จะช่วยให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ผ่านกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ 5. รายละเอียด วิธีการตรวจสอบประสิทธิภาพการท าให้ปราศจากเชื้อ การตรวจสอบประสิทธิภาพการท าให้ปราศจากเชื้อที่จ าเป็นต้องด าเนินการมี 3 วิธี คือ 1. การตรวจสอบโดยตัวบ่งชี้ทางกายภาพ (mechanical หรือ physical monitoring) เป็นการ ตรวจสอบการท างานของเครื่องท าให้ปราศจากเชื้อ โดยดูจากตัวบ่งชี้ทางกลไกของเครื่อง(mechanical indicators) ซึ่งได้แก่ มาตรวัดอุณหภูมิ มาตรวัดความดัน สัญญาณไฟต่างๆ กราฟหน้าจอ และจากแผ่นกราฟ ที่บันทึกการท างานของเครื่องในแต่ละขั้นตอน โดยผู้ปฏิบัติงานต้องอ่านและแปลผลการท าให้ ปราศจากเชื้อและลงบันทึก หากเกิดความผิดปกติ ต้องตรวจสอบเบื้องต้นว่ามีสาเหตุจากอะไร แล้วน าห่อเครื่องมือแพทย์ไปผ่านกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อใหม่ รายงานหัวหน้าเวรหรือ พยาบาลหรือหัวหน้างานทราบเพื่อหาสาเหตุและแนวทางแก้ไข และพักการใช้งานเครื่องจนกว่า ช่างด าเนินการแก้ไขแล้วเสร็จ
2. การตรวจสอบทางเคมี (chemical monitoring) เป็นการตรวจสอบกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อ โดยดูจากพารามิเตอร์ส าคัญ ได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ เวลา ความเข้มข้นของแก๊สหรือไอน้ า ได้สัมผัสและแทรกซึมเข้าไปในห่ออุปกรณ์หรือไม่ ประเภทของตัวบ่งชี้ทางเคมีและคุณสมบัติ ตัวบ่งชี้ทางเคมีตามมาตรฐาน ISO 11140-1:2014 จ าแนกตามข้อก าหนดและวัตถุประสงค์การใช้งาน ได้เป็น 3 ประเภท คือ 1) ตัวบ่งชี้ทางเคมีภายนอก (External chemical indicators) เป็นตัวบ่งชี้ที่แสดงให้เห็นและ แยกห่อเครื่องมือแพทย์ว่าได้ผ่านกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อแล้ว ได้แก่ indicator tape หรือแถบตรวจสอบบนซอง peel pouch หรือสติกเกอร์ฉลาก 2) ตัวบ่งชี้ทางเคมีภายใน (Internal chemical indicators) ตัวบ่งชี้ทางเคมีภายในที่นิยมใช้ จะมีลักษณะเป็นชิ้น (strip) หรือเป็นแผ่นกระดาษแข็ง (card) จะใส่ไว้ภายในห่ออุปกรณ์ ในจุดที่อับต่อการโดนแก๊สหรือไอน้ ามากที่สุด เพื่อให้ทราบว่าไอน้ าหรือแก๊สสามารถผ่านเข้าไป ภายในห่อและสัมผัสกับอุปกรณ์ภายในห่อ เพื่อยืนยันการตรวจสอบพารามิเตอร์ส าคัญที่มีผล ต่อการท าให้ปราศจากเชื้อ 3) ตัวบ่งชี้ทางเคมีแบบพิเศษ ( Special or specific chemical indicators) ตัวบ่งชี้ทางเคมีแบบพิเศษ (Type2) หรือ Bowie-Dick test ออกแบบเพื่อใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของระบบสุญญากาศ ของเครื่องนึ่งไอน้ าชนิด Pre - vacuum steam sterilizer ในการไล่อากาศออกจากตัวเครื่อง และทดสอบความสามารถในการแทรกซึมผ่านของไอน้ า ที่อุณหภูมิ 132-134 องศาเซลเซียส เป็นไปอย่างสมบูรณ์หรือไม่ ก่อนที่จะน าห่ออุปกรณ์ไปท าให้ปราศจากเชื้อโดยใช้เครื่อง Prevacuum steam sterilizer จะต้องทดสอบการไล่อากาศออกจากเครื่อง โดยใช้ Bowie-Dick test ก่อนทุกครั้งและทุกเครื่องที่มีใช้อยู่ วิธีปฏิบัติในการตรวจสอบด้วย Bowie-Dick test 1) ก่อนท าการทดสอบในแต่ละวัน ต้องท าการอุ่นเครื่องเพื่อให้มีระดับอุณหภูมิที่เหมาะสม ต่อการตรวจสอบ 2) วาง Bowie-Dick test pack บริเวณชั้นล่างของช่องอบ เหนือท่อระบายน้ าทิ้ง (Drain) ในช่องอบ 3) ทดสอบด้วยโปรแกรม Bowie-Dick ที่อุณหภูมิ 132 -134 องศาเซลซียส เป็นระยะเวลา 3.5 - 4 นาที ไม่ต้องผ่านขั้นตอนอบแห้ง 4) เมื่อเสร็จสิ้นโปรแกรม ให้น าห่อทดสอบออกจากเครื่อง พร้อมอ่านและแปลผลแผ่นตรวจสอบ โดยปฏิบัติตามค าแนะน าของบริษัทผู้ผลิต (IFU) วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-016-00 หน้า : 2 / 3 เรื่อง : การตรวจสอบประสิทธิภาพกระบวนการการท าให้ปราศจากเชื้อ (กายภาพ/เคมี/ชีวภาพ)
3. การตรวจสอบทางชีวภาพ (Biological Monitoring) เป็นวิธีการตรวจสอบท าให้ปราศจากเชื้อ ที่เชื่อถือได้มากที่สุด และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นการตรวจสอบความสามารถ ในการท าลายเชื้อจุลชีพ โดยใช้สปอร์ของเชื้อแบคทีเรียที่มีความทนทานและมีปริมาณเหมาะสม หากสปอร์ของเชื้อนี้ถูกท าลายย่อมชี้ให้เห็นว่า เชื้อจุลชีพอื่นๆ จะถูกท าลายระหว่างอยู่ในกระบวนการ ท าให้ปราศจากเชื้อด้วย ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพที่ใช้ส าหรับเครื่องนึงไอน้ าใช้สปอร์ของเชื้อ Geobacillus stearothermophilus ส าหรับเครื่องอบแก๊ส ethylene oxide และเครื่องอบความร้อน ใช้สปอร์ของเชื้อ Bacillus atrophaeus ความถี่ของการตรวจสอบด้วยตัวบ่งชี้ทางชีวภาพขึ้นอยู่กับกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อที่ใช้ ประเภทของอุปกรณ์ที่ท าให้ปราศจากเชื้อ ควรตรวจสอบด้วยตัวบ่งชี้ทางชีวภาพทุกครั้งที่ท าให้ อุปกรณ์ประเภทต่างๆปราศจากเชื้อ ไม่ว่าจะโดยวิธีการนึ่งด้วยไอน้ าหรืออบแก๊ส การตรวจสอบประสิทธิภาพ ของการท าให้ปราศจากเชื้อด้วยตัวบ่งชี้ทางชีวภาพควรด าเนินการทุกครั้งหากใช้เครื่องอบแก๊ส EO หากใช้เครื่องนึ่งไอน้ าอย่างน้อยควรทดสอบสัปดาห์ละครั้ง วิธีปฏิบัติในการตรวจสอบประสิทธิภาพทางชีวภาพ (Biological Monitoring) 1) พิจารณาเลือกตัวบ่งชี้ทางชีวภาพตามวัตถุประสงค์การใช้งาน และวิธีการท าให้ปราศจากเชื้อ 2) วางห่อทดสอบทางชีวภาพที่มีความท้าทายต่อกระบวนการ (Biological Indicator Process Challenge Devices : BI PCDs ) 3) เปิดเครื่องนึ่ง เปิดประตู น าแพ็ค BI PCDs วางในต าแหน่งที่ยากที่สุดต่อการเข้าถึงของไอน้ า กดเลือกโปรแกรมการท าให้ปราศจากเชื้อ 4) เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อ น าหลอด ตรวจสอบทางชีวภาพออกจากห่อ BI PCDs น ามาอุ่นเพาะเชื้อ พร้อมกับหลอดควบคุม (Control) คือ หลอดตรวจสอบทางชีวภาพที่ไม่ได้ ผ่านการท าให้ปราศจากเชื้อ เพื่อเป็นตัวควบคุมควบคู่ไปกับหลอดตรวจสอบทางชีวภาพ โดยทั้ง 2 หลอดต้องอยู่ในล้อตการผลิตเดียวกัน 5) อ่านและแปลผล พร้อมจดบันทึกข้อมูล 6) น าส่งห่อเครื่องมือแพทย์ในรอบนั้นสู่ห้องจัดเก็บอุปกรณ์ปลอดเชื้อพร้อมแจ้งผลให้ผู้รับผิดชอบทราบ 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร.อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์(2561) วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-016-00 หน้า : 3 / 3 เรื่อง : การตรวจสอบประสิทธิภาพกระบวนการการท าให้ปราศจากเชื้อ (กายภาพ/เคมี/ชีวภาพ)
1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อคงสภาพการปราศจากเชื้อของห่ออุปกรณ์ ป้องกันไม่ให้อุปกณ์เกิดการปนเปื้อนเชื้อโรคหลังผ่าน กระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อ 2. เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเครื่องมือในหีบห่อจะคงสภาพความปราศจากเชื้อจนกว่าจะถูกน าใช้ 3. เพื่อให้ชุดอุปกรณ์เครื่องมือมีความถูกต้อง ครบถ้วน เพียงพอ พร้อมใช้งาน 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ห้องจัดชุด ห่อบรรจุอุปกรณ์เครื่องมือ) 4. ค าจ ากัดความ การจัดเก็บห่ออุปกรณ์ที่ปราศจากเชื้อ (Strong of sterile package) เป็นขั้นตอนที่มีความส าคัญ หลักส าคัญ คือ ลดการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงมีความจ าเป็นต้องมีการควบคุมสิ่งแวดล้อมที่จัดเก็บ ดังนี้ 1. ห้องที่เก็บอุปกรณ์ปลอดเชื้อต้องมีการควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในช่วง 18 -24 องศาเซลเซียส และ ความชื้นสัมพัทธ์ระหว่าง 35-70% โดยต้องเปิดเครื่องปรับอากาศทั้งวัน สลับเครื่องกลางวันและ เครื่องกลางคืน และเป็นห้องที่มีความดันเป็นบวก 2. ชั้นที่วางเป็นโลหะเกลี้ยงไม่ขึ้นสนิม เป็นร่องหรือซี่เพื่อลดการกักฝุ่นแต่ละชั้นวาง ท าความสะอาด โดยใช้แผ่นชุบแอลกอฮอล์เช็ดวันละครั้ง 3. ชั้นวางอุปกรณ์ต้องวางห่างจากผนังอย่างน้อย 2 นิ้ว สูงจากพื้นอย่างน้อย 8 นิ้ว และห่างจากเพดาน อย่างน้อย 18 นิ้ว 4. ไม่วางชั้นวางอุปกรณ์ใต้เครื่องปรับอากาศ 5. ท าความสะอาดพื้นโดยใช้วิธีเช็ดถู ไม่ใช้วิธีกวาด Shelf life หมายถึง ระยะเวลาที่ห่ออุปกรณ์ยังคงสภาพปราศจากเชื้อหลังจากผ่านกระบวนการท าให้ ปราศจากเชื้อแล้วห่อเครื่องมือแพทย์ที่ผ่านกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อ การคงสภาพปราศจากเชื้อขึ้นอยู่กับ สภาวะแวดล้อมและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับห่อเครื่องมือ เช่น ที่ จัดวาง อุณหภูมิ ลักษณะชั้นหรือตู้ การหยิบจับ หรือเคลื่อนย้ายห่ออุปกรณ์ วันหมดอายุที่ระบุไว้บนห่ออุปกรณ์เป็นระยะเวลาที่ห่ออุปกรณ์คงสภาพปราศจากเชื้อ เมื่อเก็บไว้ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม (ideal conditions) คือ อุณหภูมิ 18-22 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 35-70% รวมถึงการเคลื่อนย้ายห่ออุปกรณ์ที่ปราศจากเชื้อควรกระท าด้วยความระมัดระวัง วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การจัดเก็บห่ออุปกรณ์เครื่องมือปราศจากเชื้อ และระยะเวลาการคงสภาพปราศจากเชื้อ หน้า : 1 / 2 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-017-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-017-00 หน้า : 2 / 2 เรื่อง : การจัดเก็บห่ออุปกรณ์เครื่องมือปราศจากเชื้อและระยะเวลาการคงสภาพปราศจากเชื้อ 5. รายละเอียด วิธีการจัดเก็บเครื่องมือแพทย์ปลอดเชื้อ 1. สวมชุดปฏิบัติเขตสะอาด สีเขียว หมวก หน้ากาก แล้วสวมทับเสื้อกาวน์แขนยาวสีเขียว เปลี่ยนเป็น รองเท้าสีฟ้า 2. ท าความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์ทุกครั้งก่อนหยิบจับเครื่องมือแพทย์ปลอดเชื้อ 3. ตรวจสอบความพร้อมใช้ของห่อเครื่องมือ รอยขาดรั่ว ความเปียกชื้น สิ่งแปลกปลอม ตัวบ่งชี้ทางเคมี ภายนอกและภายใน สติกเกอร์ฉลากบนห่อ หากพบห่อเครื่องมือแพทย์ไม่พร้อมใช้งาน ให้น ากลับไป ผ่านกระบวนใหม่ 4. จัดเก็บเครื่องมือแพทย์ปลอดเชื้อบนชั้นวางโดยยึดหลัก ผลิตก่อนใช้ก่อน (First in First out) ดังนี้ เก็บด้านซ้าย หยิบใช้ด้านขวา เก็บด้านหลัง หยิบใช้ด้านหน้า เก็บด้านล่าง หยิบใช้ด้านบน ระยะเวลาการคงสภาพปราศจากเชื้อของห่ออุปกรณ์ขึ้นอยู่กับปัจจัย ดังต่อไปนี้ 1. ชนิดและความหนาของวัสดุที่ใช้ห่ออุปกรณ์ ซองใส่อุปกรณ์ที่ท าด้วยพลาสติกและปิดผนึกโดยใช้ความร้อน และซองที่ด้านหนึ่งเป็นกระดาษด้นหนึ่งเป็นพลาสติก เป็นวัสดุที่ป้องกันการปนเปื้อนได้ดี หากบรรจุอุปกรณ์ในซองทั้ง 2 ชนิดนี้ และเก็บไว้ในสภาวะที่เหมาะจะสามารถเก็บอุปกรณ์ไว้ ในสภาพปราศจากเชื้อได้นานถึง 1 ปี 2. การผนึกห่ออุปกรณ์ วิธีการปิดห่ออุปกรณ์เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อระยะเวลาในการเก็บอุปกรณ์ ห่ออุปกรณ์ที่ปิดโดยใช้ความร้อนจะสามารถเก็บไว้ได้นานกว่าห่อที่ปิดโดยใช้เทป 3. การหยิบจับอุปกรณ์ การหยิบจับหรือเคลื่อนย้ายห่ออุปกรณ์บ่อยครั้ง จะท าให้ระยะเวลาที่ห่ออุปกรณ์ คงสภาพการปราศจากเชื้อสั้นลง 4. สภาวะแวดล้อมที่เก็บห่ออุปกรณ์ ได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้น และการไหลเวียนอากาศ เป็นองค์ประกอบส าคัญ ที่เกี่ยวข้องกับระยะเวลาในการคงสภาพปราศจาดเชื้อของห่ออุปกรณ์ อายุของห่ออุปกรณ์ 1. ห่อด้วยผ้าหรือวัสดุทดแทนผ้า นึ่งไอน้ า มีอายุ 14 วัน 2. ห่อด้วยผ้าหรือวัสดุทดแทนผ้า ใส่ซอง Peel pouch นึ่งไอน้ า มีอายุ 45 วัน 3. ห่อด้วยวัสดุทดแทนผ้า ใส่ซอง Peel pouch อบฆ่าเชื้อด้วยแก๊ส EO หรือ Plasma มีอายุ 365 วัน 6. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร.อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561) 3. The Asian Guidelines for Disinfection and Sterilization of Instrument in health Facilities 2010
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การจัดอุปกรณ์เครื่องมือให้หน่วยงาน ตามรายการแลกและการบริหารจัดการคงคลัง หน้า : 1 / 1 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-018-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. จัดอุปกรณ์ให้หน่วยงานตามที่แลกได้ครบถ้วนถูกต้อง 2. การส ารองอุปกรณ์ในห้องเก็บอุปกรณ์ปลอดเชื้อ มีความเหมาะสม 3. อุปกรณ์ในห้องเก็บอุปกรณ์ปลอดเชื้อ ได้รับการดูแลที่ถูกต้องตามมาตรฐาน 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ห้องจ่ายอุปกรณ์เครื่องมือปลอดเชื้อ) 4. รายละเอียด แนวทางปฏิบัติการจัดอุปกรณ์ให้หน่วยงาน 1. สวมเสื้อกาวน์แขนยาวสีขาว/เขียวที่ผ่านการท าให้ปราศจากเชื้อ หมวก รองเท้าส าหรับใส่ในห้อง เก็บอุปกรณ์ปราศจากเชื้อ บริเวณห้อง Ante room ก่อนเข้าไป 2. ล้างมือก่อนหยิบจับอุปกรณ์ทุกครั้ง 3. เปิดคอมพิวเตอร์เพื่อดูรายการเบิกที่ส่งมาจากห้องล้าง (on line) 4. เตรียมกล่องสะอาดมารองรับการใส่อุปกรณ์ 5. จัดอุปกรณ์ลงกล่องตามชนิดและรายการที่เบิก โดยยิงบาร์โค้ดทุกชิ้นก่อนน าลงกล่อง พร้อมการทวนสอบกัน ระหว่างคนจัดกับคนยิงบาร์โค้ด 6. ปริ้นท์ใบสรุปรายการห่อเครื่องมือแพทย์ทั้งหมด พร้อมลงจ านวนกล่องและเลขที่กล่องที่บรรจุห่อเครื่องมือแพทย์ ของหน่วยงานที่จัด น าไปหนีบกับหูกล่อง 7. น ากล่องวางตรงบริเวณพื้นที่ระหว่างหน้าต่าง (double door) แล้วปิดหน้าต่างทันที 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร.อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561)
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การแจกจ่ายและน าส่งอุปกรณ์เครื่องมือ ไปให้หน่วยงาน (Distribution) หน้า : 1 / 1 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-019-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ น าส่งห่ออุปกรณ์ให้หน่วยงานตามจ านวนที่ส่งมาแลกถูกต้องครบถ้วนตามจ านวน หน่วยงานและเวลาที่ก าหนด 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (คนส่งอุปกรณ์เครื่องมือให้หน่วยงาน) 4. รายละเอียด การแจกจ่ายและน าส่งเครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อ (Distribution) หมายถึง การน ากล่องที่บรรจุห่อ เครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อ ตามรายการที่หน่วยงานส่งมาแลก น ากลับไปส่งให้แก่หน่วยงาน ซึ่งการแจกจ่าย เครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อ เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่มีความส าคัญ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย ดังนั้นผู้ปฏิบัติงาน ต้องค านึงการป้องกันการปนเปื้อนจากผู้ปฏิบัติงานและสิ่งแวดล้อม ในบริเวณที่จัดเก็บต้องได้รับการดูแลควบคุม อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน รวมถึงรถหรือภาชนะน าส่งต้องได้รับการท าความสะอาดอย่าง สม่ าเสมอ งานจ่ายกลางควรมีการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด การแจกจ่ายและน าส่งเครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อ (Distribution) การแจกจ่ายห่อเครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อไปยังหน่วยงานต่างๆ ต้องระมัดระวังการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม ควรปฏิบัติดังนี้ 1. บุคลากรที่แจกจ่ายเครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อไปส่งอุปกรณ์ให้หน่วยงานตามที่ได้รับมอบหมาย โดยเช็ดท าความสะอาดรถที่จะน าส่งด้วยผ้าแอลกอฮอล์ตรวจสอบความพร้อมใช้ของรถพร้อมบันทึกผล 2. ถูมือด้วยแอลกอฮอล์ (Alcohol hand rub) ทุกครั้งก่อนหยิบจับกล่องที่บรรจุห่อเครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อ 3. ภาชนะบรรจุและรถที่ใช้แจกจ่ายเครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อ ต้องสะอาด ปิดมิดชิด ป้องกันไม่ให้ฝุ่น หรือแมลงเข้าถึง และมีแอลกอฮอล์ท าความสะอาดมือไว้ประจ ารถ 4. หลังแจกจ่ายเครื่องมือแพทย์ควรท าความสะอาดภาชนะบรรจุและรถให้แห้งทุกครั้งก่อนน ากลับมาใช้ใหม่ 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร.อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย(Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561)
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง :ก า รจัด ก า ร อุป ก รณ์ท างก า ร แพท ย์ ที่ก าหนดให้ใช้ครั้งเดียวแล้วน ากลับมาใช้ซ้ า (Reuse of Single Use Device) หน้า : 1 / 2 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-020-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ป่วยในการใช้งานอุปกรณ์ที่ต้องน ามาใช้ซ้ า 2. เพื่อควบคุมกระบวนการ Reprocessing และยืนยันประสิทธิภาพของอุปกรณ์ 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD 4. ค าจ ากัดความ 1. กระบวนการน ากลับมาใช้ใหม่ ( Reprocessing ) หมายถึง กระบวนการตั้งแต่การล้างท าความสะอาด การท าให้ปราศจากเชื้อจนถึงการจัดเก็บหีบห่อ 2. การน ามาใช้ซ้ า ( Reuse ) หมายถึง การน ามาใช้ซ้ าหรือน าอุปกรณ์การแพทย์ มาใช้หลายครั้ง โดยผ่านกระบวนการท าความสะอาดและท าให้ปราศจากเชื้อก่อนที่จะน ามาใช้ใหม่ 3. SUD (Single Use Device) หมายถึง a) อุปกรณ์ที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้กับผู้ป่วยคนเดียวครั้งเดียว b) อุปกรณ์ที่ไม่ได้มีเจตนาให้น ามา Reprocessing เพื่อใช้กับผู้ป่วยคนอื่นหรือให้ใช้หลายครั้ง หรือใช้กับผู้ป่วยคนเดียวกันมากกว่า 1 ครั้ง 4. อุปกรณ์ทางการแพทย์ ( Medical device) หมายถึง เครื่องมืออุปกรณ์หรือวัสดุ ที่ใช้ตามล าพัง หรือใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น ในบุคคลหรือผู้รับบริการ ส าหรับการควบคุม วินิจฉัยโรค ป้องกัน ติดตามการรักษาบรรเทา ตรวจสอบ การใช้ทดแทนหรือประยุกต์ใช้ให้เข้ากับกายวิภาคศาสตร์หรือ สรีรวิทยาของมนุษย์ เพื่อทดแทนหรือบรรเทาอวัยวะที่ใช้ไม่ได้หรือบาดเจ็บ
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-020-00 หน้า : 2 / 2 เรื่อง : การจัดการอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ก าหนดให้ใช้ครั้งเดียวแล้วน ากลับมาใช้ซ้ า (Reuse of Single Use Device) 5. รายละเอียด ขั้นตอนการจัดการอุปกรณ์ทางการแพทย์มาใช้ซ้ า 1. ตรวจสอบรายการอุปกรณ์ว่าอยู่ในรายการ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่น ามาใช้ซ้ าตามทะเบียนของโรงพยาบาล หากไม่อยู่ในรายการ ให้ติดต่อกลับไปยังหน่วยงาน และยืนยันการจัดการอุปกรณ์นั้นๆ ว่าสามารถ น ามาผ่านกระบวนการน ากลับมาใช้ใหม่ได้หรือไม่ตาม IFU 2. ลงข้อมูลในระบบเพื่อทราบจ านวนครั้งล่าสุดที่ใช้ และระบุครั้งถัดไปลงในฉลาก และหากครบจ านวนครั้ง ตามข้อตกลงให้ทิ้งอุปกรณ์ได้ 3. จัดการแยกชิ้นส่วน แช่น้ ายา และล้างอุปกรณ์ตามขั้นตอนที่ก าหนดแต่ละอุปกรณ์ 4. ตรวจสอบความสะอาดด้วยการทดสอบการตกค้างของโปรตีน ด้วย ATP test 5. ตรวจสอบความพร้อมใช้งานของอุปกรณ์เบื้องต้น (Function) ถ้ามีปัญหาให้แจ้งหน่วยงานแล้วจ าหน่าย และทิ้งอุปกรณ์ 6. แพ็คและห่อพร้อมพิมพ์จ านวนครั้งของการ Reprocessing 6. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร.อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing ServicesAssociation of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561)
1. วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ป่วยได้ใช้อุปกรณ์กรณีเร่งด่วนได้อย่างปลอดภัย โดยมีหลักฐานเชิงประจักษ์ในการปฏิบัติการจ่าย อุปกรณ์ก่อนผล BI ออก 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD และหน่วยงาน 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD 4. ค าจ ากัดความ การจ่ายห่ออุปกรณ์เครื่องมือให้หน่วยงานก่อนผล BI ออก หมายถึง การที่งานจ่ายกลางต้องจ่ายชุดห่อ อุปกรณ์เครื่องมือที่ผ่านการท าให้ปราศจากเชื้อแล้ว แต่ผลตรวจสอบทางชีวภาพ ยังไม่ออกผลอ่านว่าเป็นบวกหรือเป็นลบ ให้กับหน่วยงานที่ร้องขอใช้อุปกรณ์ดังกล่าวกรณีเร่งด่วน 5. รายละเอียด วิธีปฏิบัติ 1. เมื่อได้รับการร้องขอชุดห่ออุปกรณ์เครื่องมือที่ผ่านการท าให้ปราศจากเชื้อแล้ว แต่ผล BI ยังไม่ออก ให้แจ้งทางหน่วยงานว่ายังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ที่ผลจะออก เพื่อให้หน่วยงานตัดสินใจว่ารอได้หรือไม่ 2. หากหน่วยงานทราบเวลารอแล้วแต่ยืนยันขอใช้อุปกรณ์เครื่องมือดังกล่าว ให้ทางหน่วยงานส่งใบยืนยัน ความต้องการใช้อุปกรณ์เครื่องมือให้ ก่อนผล BI ออก ให้แพทย์ผู้ท าการรักษาเวนต์ชื่อก ากับ 3. น าอุปกรณ์เครื่องมือไปส่งให้หน่วยงาน พร้อมรับใบ ยืนยันขอใช้อุปกรณ์เครื่องมือกลับมาใส่แฟ้ม 4. เมื่อผล BI ออกให้โทรแจ้งให้หน่วยงานทราบ โดยแจ้งพยาบาลหัวหน้าเวร กรณีที่ผล BI เป็นบวก ให้รายงานเวรตรวจการและพยาบาลงานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลทราบ 6. เอกสารอ้างอิง สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือ แพทย์ (2561) วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การจ่ายห่ออุปกรณ์เครื่องมือให้หน่วยงาน ก่อนผล spore test หรือ Biological indicator ( BI ) ออก หน้า : 1 / 1 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-021-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล
1. วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ป่วยได้ใช้อุปกรณ์กรณีเร่งด่วนได้อย่างปลอดภัย โดยมีหลักฐานเชิงประจักษ์ในการปฏิบัติการจ่าย อุปกรณ์ก่อนผล BI ออก 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD และหน่วยงาน 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD 4. ค าจ ากัดความ การจ่ายห่ออุปกรณ์เครื่องมือให้หน่วยงานก่อนผล BI ออก หมายถึง การที่งานจ่ายกลางต้องจ่ายชุดห่อ อุปกรณ์เครื่องมือที่ผ่านการท าให้ปราศจากเชื้อแล้ว แต่ผลตรวจสอบทางชีวภาพ ยังไม่ออกผลอ่านว่าเป็นบวกหรือเป็นลบ ให้กับหน่วยงานที่ร้องขอใช้อุปกรณ์ดังกล่าวกรณีเร่งด่วน 5. รายละเอียด วิธีปฏิบัติ 1. เมื่อได้รับการร้องขอชุดห่ออุปกรณ์เครื่องมือที่ผ่านการท าให้ปราศจากเชื้อแล้ว แต่ผล BI ยังไม่ออก ให้แจ้งทางหน่วยงานว่ายังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ที่ผลจะออก เพื่อให้หน่วยงานตัดสินใจว่ารอได้หรือไม่ 2. หากหน่วยงานทราบเวลารอแล้วแต่ยืนยันขอใช้อุปกรณ์เครื่องมือดังกล่าว ให้ทางหน่วยงานส่งใบยืนยัน ความต้องการใช้อุปกรณ์เครื่องมือให้ ก่อนผล BI ออก ให้แพทย์ผู้ท าการรักษาเวนต์ชื่อก ากับ 3. น าอุปกรณ์เครื่องมือไปส่งให้หน่วยงาน พร้อมรับใบ ยืนยันขอใช้อุปกรณ์เครื่องมือกลับมาใส่แฟ้ม 4. เมื่อผล BI ออกให้โทรแจ้งให้หน่วยงานทราบ โดยแจ้งพยาบาลหัวหน้าเวร กรณีที่ผล BI เป็นบวก ให้รายงานเวรตรวจการและพยาบาลงานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลทราบ 6. เอกสารอ้างอิง สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือ แพทย์ (2561) วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การจ่ายห่ออุปกรณ์เครื่องมือให้หน่วยงาน ก่อนผล spore test หรือ Biological indicator ( BI ) ออก หน้า : 1 / 1 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-021-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : แนวทางปฏิบัติงานเมื่อพบตัวบ่งชี้ (Indicator) ไม่ผ่าน หน้า : 1 / 1 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-022-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้งานอุปกรณ์ที่การท าให้ปราศจากเชื้อไม่สมบูรณ์ 2. อุปกรณ์ได้รับการจัดการที่ถูกต้องและปลอดภัย 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD และหน่วยงาน 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD และหน่วยงาน 4. รายละเอียด แนวทางปฏิบัติ กรณี Internal / External Indicator และ Biological Indicator ไม่ผ่าน 1. ไม่จ่ายเครื่องมือทั้งหมดในรอบนั้นไปยังห้องเก็บอุปกรณ์ปลอดเชื้อ 2. น าห่ออุปกรณ์ทั้งหมดไปแพ็คห่อตามกระบวนการใหม่ (Reprocessing) 3. ตรวจสอบเครื่อง หาสาเหตุ และแนวทางการแก้ไข 4. ตรวจสอบ Bowies dick 3 รอบ และท า BI เครื่องเปล่า3 รอบถ้าผ่านทั้งหมด จึงใช้งานเครื่องท าให้ปราศจากเชื้อ 5. บันทึกรายงาน ติดตามผล 5. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร.อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Associationof Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561)
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การปฏิบัติการรับท าให้ปราศจากเชื้อ จากภายนอกสถานพยาบาลรัฐ/เอกชน หน้า : 1 / 1 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-023-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อบันทึกการให้บริการจากภายนอกสถานพยาบาลรัฐ/เอกชน 2. เรียกเก็บค่าใช้จ่ายให้กับโรงพยาบาลในการให้บริการรับท าให้ปราศจากเชื้อ 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ห้องจัดชุด ห่อบรรจุอุปกรณ์เครื่องมือ) 4. รายละเอียด การรับท าให้ปราศจากเชื้อจากภายนอกสถานพยาบาลรัฐ/เอกชน 1. เมื่อทางสถานพยาบาลภายนอกติดต่อขอรับบริการ ให้ตรวจสอบจ านวนและเวลาว่าสอดรับกับบริบท การท าให้ปราศจากเชื้อของงานจ่ายกลาง โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อนัดเวลาและรองรับปริมาณได้ สอดคล้องกับความต้องการ 2. นับจ านวนของอุปกรณ์เครื่องมือและวิธีการท าให้ปราศจากเชื้อ เพื่อลงราคา ดังนี้ 2.1 นึ่งไอน้ า ชิ้นละ 50 บาท 2.2 อบแก๊สพลาสมา ชิ้นละ 200 บาท 2.3 อบแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ ชิ้นละ 30 บาท 3. ให้ทางสถานพยาบาลภายนอกไปเปิด VN แล้วเจ้าหน้าที่งานจ่ายกลางลงราคาในใบเรียกเก็บเงิน 4. ให้ทางสถานพยาบาลภายนอกน าใบเรียกเก็บเงิน ไปจ่ายเงินที่ห้องการเงินของโรงพยาบาล 5. ให้ทางสถานพยาบาลภายนอกมายื่นใบเสร็จการจ่ายเงิน ลงเลขที่ใบเสร็จและราคาในสมุด แล้วจึงท า การอบฆ่าเชื้ออุปกรณ์ให้ 5. เอกสารอ้างอิง สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561)
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การปฏิบัติเมื่อมีอุปกรณ์หมดอายุมาจาก หน่วยงาน หน้า : 1 / 1 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-024-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ เพื่อลงบันทึกอัตราการ Re sterile และยืดอายุอุปกรณ์ ลดค่าใช้จ่ายในการ Re sterile 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD 4. ค าจ ากัดความ อุปกรณ์หมดอายุมาจากหน่วยงาน หมายถึงอุปกรณ์ที่ทางงานจ่ายกลางผลิตและน าส่งไปให้หน่วยงานส ารองใช้ แล้วหมดอายุ โดยที่อุปกรณ์ดังกล่าวไม่ได้เปิดใช้งาน แบ่งเป็น 2 กรณี 1. อุปกรณ์ที่ส่งกลับมามีวันหมดอายุ ก่อนน าส่ง มากกว่าหรือเท่ากับ 1 วัน จะถือเป็นอุบัติการณ์อุปกรณ์หมดอายุ ในหน่วยงาน 2. อุปกรณ์ที่ส่งกลับมามีวันหมดอายุ ในวันที่น าส่ง หรือเช้าวันถัดมาจะถือไม่ถือเป็นอุบัติการณ์อุปกรณ์หมดอายุ ในหน่วยงาน 5. รายละเอียด วิธีปฏิบัติ เมื่อมีอุปกรณ์หมดอายุมาจากหน่วยงาน 1. ลงข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ได้แก่ ชื่ออุปกรณ์ หน่วยงาน จ านวนวันหลังหมดอายุ 2. ดูข้อมูลของหน่วยงานที่แจ้งการยืดอายุอุปกรณ์ หากไม่ได้ระบุมา ให้โทรสอบถามหน่วยงานว่าจะลดสต็อก หรือยืดอายุการใช้งานที่มากกว่าเดิม ตามบริบทการใช้ของหน่วยงาน ดังนี้ 2.1 หากยืดอายุจาก 14 วันเป็น 45 วัน ให้ห่อ Non woven แล้วใส่ซอง peel pouch นึ่งไอน้ า 2.2 หากยืดอายุเป็น 365 วัน ให้น าอุปกรณ์ไปอบแก๊ส EO หรือ Plasma ตามประเภทและการใช้งาน หรือข้อจ ากัดการอบฆ่าเชื้อให้ถูกต้องเหมาะสม 6. เอกสารอ้างอิง สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์(2561)
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง : การควบคุมคุณภาพน ้า หน้า : 1 / 5 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-025-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน :- ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ ควบคุมคุณภาพน ้าให้อยู่ในค่ามาตรฐาน และมีปริมาณเพียงพอ ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆ ที่มีสาเหตุ มาจากคุณภาพน ้า และปริมาณน ้า เช่น การเกิดตะกรันในระบบหล่อเย็น การท้าให้ปราศจากเชื อไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้ผลการทดสอบทางชีวภาพเชื อยังมีเชื ออยู่ อุปกรณ์เครื่องมือเกิดการกัดกร่อนและมีคราบฝังแน่นจากค่าน ้า ที่ไม่ได้มาตรฐาน ปริมาณน ้าไม่เพียงพอเกิดการหยุดชะงักของกระบวนการงาน ส่งอุปกรณ์เครื่องมือไม่ทันเวลา ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ป่วย 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่ CSSD 3. ความรับผิดชอบ บุคลากรในงาน CSSD (ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลตรวจสอบระบบน ้า) 4. ค าจ ากัดความ คุณภาพของน ้ามีความส้าคัญในทุกขั นตอนของกระบวนการการท้าลายเชื อและท้าให้ปราศจากเชื อ หากน ้าที่ใช้ในงานจ่ายกลางไม่มีคุณภาพจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเครื่องมือแพทย์ อาจท้าให้เกิดความช้ารุดเสียหาย จากการกัดกร่อนหรือมีคราบฝังแน่น ท้าให้ประสิทธิภาพของกระบวนการท้าให้ปราศจากเชื อลดลง ก่อให้เกิดผลกระทบ ต่อผู้ป่วยจากอาการไม่พึงประสงค์จากกรใช้เครื่องมือแพทย์หรือจากการติดเชื อ น ้าที่น้ามาใช้จ้าเป็นต้องมีการ ตรวจสอบและมีการปรับปรุงเป็นระยะๆ ทั งนี ควรมีการก้าหนดเป็นมาตรฐานตามบริบท เช่น ตรวจทุกเดือน ทุก สามเดือน ทุกหกเดือนเป็นต้น การประเมินคุณภาพน้ า การตรวจสอบคุณภาพน ้าที่ใช้ในกระบวนการท้าให้ปราศจากเชื อ งานจ่ายกลางควรมีการตรวจอย่างสม่้าเสมอ หากตรวจพบความผิดปกติของคุณภาพน ้า จะต้องท้าการแก้ไขหรือปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐานน ้าที่น้ามาใช้ในการ ล้างเครื่องมือแพทย์และน ้าที่ใช้ในการท้าให้ปราศจากเชื อควรเลือกให้เหมาะสม ดังนี นิยาม Utility water คือ น ้าประปาส้าหรับสาธารณูปโภคทั่วไป เป็นน ้าที่มาจากระบบประปาปกติ ซึ่งอาจจ้าเป็น ต้องได้รับการบ้าบัดให้ได้ตามมาตรฐาน Critical water คือน ้าที่ได้รับการบ้าบัด เช่น การกรองผ่านแผ่นคาร์บอน การกรองให้น ้ากระด้างน้อยลง และการขจัดอิออนเพื่อให้น ้าบริสุทธิ์ที่ปราศจากเกลือแร่ การบ้าบัดน ้าให้ผ่านวิธีรีเวอร์สออสโมซิสหรือการกลั่น เพื่อให้มั่นใจว่าเชื อจุลชีพ สารอนินทรีย์ สารอินทรีย์ในน ้าได้รับการก้าจัดออกไป ได้แก่ น ้าอ่อน (Sofe water) น ้า Deionize (DI) และน ้า RO (Reverse Osmosis)
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-025-00 หน้า : 2 / 5 เรื่อง : การควบคุมคุณภาพน ้า การเลือกชนิดของน้ าที่ใช้ในแต่ละขั้นตอนการปฏิบัติงาน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน คุณภาพน้ า น ้าที่ใช้ล้างมือ (Manual) Utility water Pre-cleaning and rinsing Utility water น ้าที่ใช้กับเครื่องล้างอัตโนมัติ Critical water Enzymatic prewash Utility water Wash Utility water Disinfection Utility or critical water depending on the terminal disinfection/sterilization Rinse Utility or critical water depending on the terminal disinfection/sterilization Ultrasonic cleaner Utility water Disinfection and sterilization Critical water และหรือ Distillก water คุณภาพน้ าที่ใช้ในกระบวนการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อ ชนิดของน้ า หน่วยวัด Utility water Critical water ข้อก้าหนดการใช้น ้า Flusing/Washing/Rinsing Final rinse/steam ความกระด้าง/ Hardness (mg/l =ppm) mg/l < 150 < 1 ค่าเหนี่ยวน้าไฟฟ้า Conductivity Us/cm < 500 < 10 pH N/a 6-9 5-7 Chlorides mg/l < 250 < 1 Bacteria Cfu/ml N/a < 10 < 10 Endotoxin Eu/ml N/a < 20 < 10
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-025-00 หน้า : 3 / 5 เรื่อง : การควบคุมคุณภาพน ้า 5. รายละเอียด วิธีการบ าบัดน้ าใช้ในกระบวนการท าให้ปราศจากเชื้อ 1. การท้าน ้าอ่อน (Soft water) ท้าได้โดยการผ่านน ้าประปาเข้าไปในเรซิ่นที่มีความสามารถในการดักจับ เกลือแคลเซียม แมกนีเซียม และแร่ธาตุหนักต่างๆ โดยใช้เกลือโซเดียมเข้าไปแทนที่เกลือเหล่านั น ซึ่งโซเดียม จะมีความสามารถในการละลายน ้าได้ดีกว่าและไม่ก่อให้เกิดคราบ เมื่อเรซิ่นนั นเต็มไปด้วย hardnessions จะใช้เกลือโซเดียมเข้าไปแทนอีกครั ง โดยการล้างด้วยน ้าเกลือ ซึ่งจะท้าให้เรซิ่นกลับมาใช้งานได้อีกครั ง 2. การท้าน ้า Deionize (DI) เกิดจากการใช้เรซิ่นหลายประเภทเช่น แคทอิออนเรซิ่น (cation resin) แอนอิออนเรซิ่น (anion resin) คาร์บอน แมงกานีส เป็นต้น เพื่อก้าจัดไอออนบวกและไอออนลบ และแร่ธาตุต่างๆ ในน ้า หรือจะใช้ไส้กรองเรซิ่นตามที่กล่าวข้างต้น ร่วมกับระบบ reverse osmosis, RO ก็จะได้น ้า deionized ขึ นอยู่กับน ้าตั งต้นที่น้าเข้ามาบ้าบัด 3. การท้าน ้า RO (Reverse Osmosis) เป็นวิธีการท้าน ้าให้บริสุทธิ์ โดยการผ่านน ้าเข้าไปในเนื อเยื่อเมมเบรน (Semi permeability membrane) ซึ่งมีขนาดความกว้างของรูคงที่ 0.0005 ไมครอน (เปรียบเทียบ กับขนาดของแบคทีเรียที่ 0.2 -1 ไมครอน) เพื่อขจัดอิออน โมเลกุลและสารแขวนลอยที่มีขนาดใหญ่จากน ้า แต่เยื่อเมมเบรนนี สามารถถูกท้าลายได้ง่ายโดยคลอไรด์ เช่น metal ions และอื่นๆ ดังนั นน ้าที่ท้า RO ควรท้าเป็นน ้าอ่อน (Soft water) มาก่อน เพื่อลดความกระด้าง ความกร่อยค็ม ฟลูออไรด์ ไนเตรต โลหะหนัก และเชื อแบคทีเรีย 4. การท้าน ้ากลั่น (Distilled water) เกิดจากกะบวนการท้าให้น ้ากลายเป็นไอ และกลั่นตัวเป็นหยดน ้า สามารถขจัดเชื อจุลชีพ endotoxin และสารต่างๆที่ละลายอยู่ในน ้าออกได้ การปรับปรุงคุณภาพน้ าประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1. การประเมินคุณภาพน ้า โดยการส่งน ้าตรวจวิเคราะห์ เพื่อหาสารที่ปนอยู่ในน ้าและประเมินความจ้าเป็น รวมทั งวิธีการที่เหมาะสมในการบ้าบัดน ้า 2. การปรับปรุงคุณภาพน ้า น้าผลจากการประเมินมาเลือกวิธีการปรับปรุงคุณภาพน ้าที่มีความเหมาะสม เพื่อให้ได้น ้าที่ทีคุณภาพตามที่ต้องการและเหมาะสมกับการใช้ในกระบวนการท้าความสะอาด การท้าลายเชื อ และการท้าให้ปราศจากเชื อ 3. การประกันคุณภาพน ้า ตรวจสอบคุณภาพน ้าที่ใช้ในแต่ละกระบวนการในการท้าลายเชื อและการท้าให้ ปราศจากเชื อเพื่อให้มั่นใจว่าน ้ามีคุณภาพที่เหมาะสม 4. การควบคุมคุณภาพน ้า ติดตามควบคุมกระบวนการในการบ้าบัดเพื่อให้มั่นใจว่ามีการด้าเนินการอย่างเหมาะสม ควรตระหนักถึงความส้าคัญของกระบวนการการควบคุมคุณภาพน ้าเพื่อให้มั่นใจว่าน ้าที่น้ามาใช้มีคุณภาพ การควบคุมคุณภาพ การบ้าบัดน ้าให้ได้ค่ามาตรฐานของน ้าที่จะน้าไปใช้ในการนึ่งฆ่าเชื อด้วยเครื่อง นึ่งไอน ้า ซึ่งมีค่าความเป็นกรดด่าง และค่าตะกอนของสารปูนขาว (แคลเซียมคาร์บอเนต) ตามที่ก้าหนดของ - EN 285 - ISO 15883 Washer Disinfectors parts 1 - 4 - AAMI TIR 34 Water Quality in HcFs
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-025-00 หน้า : 4 / 5 เรื่อง : การควบคุมคุณภาพน ้า เกณฑ์ความกระด้างของน้ า เกณฑ์ความกระด้างของน้ า ปริมาณความกระด้างของน้ า ค่า PH น ้าอ่อน น ้าค่อนข้างกระด้าง น ้ากระด้าง น ้ากระด้างมาก 0 – 75 76 – 150 151 – 300 มากกว่า 300 5 – 7 มากกว่า 7 มากกว่า 7 มากกว่า 7 แนวทางปฏิบัติ ในการควบคุมคุณภาพน ้า 1. การดูแลรักษาถังกรองน ้า 3 ถัง ซึ่งมีการท้างานแบบอัตโนมัติได้แก่ ถังกรองที่ 1 (แมงกานีส) ท้าหน้าที่กรองตะกอนหยาบต่างๆจะต้องท้าการล้างถังกรองน ้าโดยTechnique Back Wash เพื่อให้น ้าดันขึ นไปในถังกรองแมงกานีส เพื่อไล่ตะกอนที่เกาะในตัวแมงกานีส ถังน้ าที่ 2 (คาร์บอน) ท้าหน้าที่ เครื่องกรองถ่าน (Carbon Filter) เป็นเครื่องกรองทรงกระบอกแนวตั ง ที่ภายในบรรจุด้วย สารกรองคาร์บอน (Carbon) ที่อยู่ชั นบน และ กรวดคัดขนาด รองพื นเป็นชั นๆ ตั งแต่ขนาดเล็ก ลงมาใหญ่ วัตถุประสงค์เพื่อกรองความขุ่น, สารแขวนลอย, สารอินทรีย์, กลิ่น, คลอรีน และสีในน ้า เมื่อกรองไปได้ สักระยะหนึ่ง (ขึ นอยู่กับความขุ่นของน ้า) จะต้องท้าการล้างกลับ (Back washing) โดยให้น ้าสวนทางกับการกรอง เพื่อพาสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนผิวของสารกรอง หลังจากนั นจึงจะท้างานได้อีกตามเดิมสารกรองสนิมเหล็ก หรือ Manganese Sand บางท่านอาจเรียกว่า สารกรอง แมงกานีส เป็นสารกรองน ้าชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติ สามารถก้าจัดก้าจัดสารโลหะ เช่น สนิมเหล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารละลายเหล็กที่ปะปนมากับน ้า และยังเติมออกซิเจน ให้กับน ้า เหมาะกับน ้าบาดาล น ้าคลอง และแหล่งน ้าตามธรรมชาติลักษณะการควบคุมการท้างานของเครื่องกรองถ่าน (Carbon Filter) มีทั งระบบอัตโนมัติ (Automatic operation) และ ควบคุมการปิดเปิดวาล์วแต่ละตัวด้วยมือ (Manual operation) สั่งท้าได้ทุกขนาด และวัสดุที่ใช้ ตามความต้องการ เช่น เหล็ก ไฟบอร์กลาส และ สแตนเลส เป็นต้น ถังที่ 3 (เรซิ่น) ท้าหน้าที่สารกรองเรซิ่น หรือIon Exchange Resins บางท่านอาจเรียกว่า เรซิ่น (Resin) เป็นสารกรองน ้าชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นเม็ดทรงกลมขนาดเล็กสีเหลือง สารกรองจะมีความชื น ส้าหรับการก้าจัด ความกระด้าง, หินปูน, แคลเซียม, และแมกนีเซียม หรือในการท้าน ้าอ่อน ในระบบบ้าบัดน ้า อุตสาหกรรมน ้าใช้ โดยใช้หลักการท้างานแลกเปลี่ยนประจุระหว่างสารกรองกับประจุในน ้า 2. การเก็บตัวอย่างน ้ามาวัด ค่า PH และ Conductivity ของถังกรองน ้า Soft และน ้าRO ในขณะเปิดใช้ปกติ และการตรวจสอบค่า ความดันของถังกรอง 3. การเติมเกลือทุกสัปดาห์
วิธีปฏิบัติ(Work Instruction) รหัสที่ : WI-CSSD-000-025-00 หน้า : 5 / 5 เรื่อง : การควบคุมคุณภาพน ้า ตารางแสดงค่ามาตรฐานของน้ าที่ใช้ในงานจ่ายกลาง ถังกรอง ค่ามาตรฐาน หน่วย ถังที่ 1 แมงกานีส 20-22 PSI ถังที่ 2 คาร์บอน 20-22 PSI ถังที่ 3 เรซิ่น 20-22 PSI ค่า PH ของน ้าอ่อน 5-7 ค่า Conductivity 0-15 us/cm ( Microsimens/cm 6. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร.อะเคื อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท้าลายเชื อและการท้าให้ปราศจากเชื อ พิมพ์ครั งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท้าลายเชื อและท้าให้ปราศจากเชื อเครื่องมือแพทย์ (2561)
วิธีปฏิบัติ (Work Instruction : WI) เรื่อง :การเรียกเก็บอุปกรณ์กลับคืนงานจ่ายกลาง หน้า : 1 / 1 รหัสเอกสาร : WI-CSSD-000-026-00 ทบทวนครั้งที่ : - วันที่ทบทวน : - ชื่อหน่วยงาน : CSSD วันที่อนุมัติ : ผู้ตรวจสอบ : (นางสาวดวงพร พงษ์ศรีลา) หัวหน้างานจ่ายกลาง ผู้อนุมัติ : (นางวันดี โกยกิจเจริญ) รองผอ.กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. วัตถุประสงค์ 1. เพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้งานอุปกรณ์ที่การท าให้ปราศจากเชื้อไม่สมบูรณ์ 2. เพื่อเรียกเก็บอุปกรณ์ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การท าให้ปราศจากเชื้อจากหน่วยงานกลับคืนมาก่อนถูกน าไปใช้ได้ครบถ้วน 2. ขอบข่าย เจ้าหน้าที่งานจ่ายกลางและหน่วยงาน 3. ความรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่งานจ่ายกลาง 4. ค าจ ากัดความ อุปกรณ์ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การท าให้ปราศจากเชื้อ หมายถึง อุปกรณ์ที่ยังไม่ผ่านการท าให้ปราศจากเชื้อ หรือผ่านการท าให้ปราศจากเชื้อแล้วแต่ไม่สมบูรณ์ ได้แก่ ตัวบ่งชี้ทางเคมีภายใน/ภายนอกไม่ผ่านเกณฑ์และตัวบ่งชี้ ทางชีวภาพไม่ผ่านเกณฑ์ 5. รายละเอียด ขั้นตอนการเรียกเก็บกลับคืน 1. เมื่อได้รับรายงานจากหน่วยงาน/งานจ่ายกลาง ว่าพบอุปกรณ์ตัวบ่งชี้ทางเคมีภายใน/ภายนอกไม่ผ่านเกณฑ์ หรือตัวบ่งชี้ทางชีวภาพไม่ผ่านเกณฑ์ให้แจ้งหน่วยงานงดใช้อุปกรณ์ชุดนั้น พร้อมสอบถามรายละเอียด ได้แก่ วันที่ผลิต เครื่องที่ผลิต รอบที่ผลิต 2. ดูข้อมูลการนึ่งอุปกรณ์ทั้งชนิดและจ านวนของวันที่ เครื่องและรอบดังกล่าว ว่าไปตึกไหนบ้าง แล้วรีบ โทรแจ้งหน่วยงานให้งดใช้อุปกรณ์และรวบรวมเพื่อส่งคืนงานจ่ายกลางทันที 3. รายงานหัวหน้าเวร/หัวหน้างาน เพื่อรับทราบและหาสาเหตุ และบันทึกลงในโปรแกรมการรายงานอุบัติการณ์ ของหน่วยงานและโรงพยาบาล 6. เอกสารอ้างอิง 1. ร.ศ.ดร.อะเคื้อ อุณหเลขกะ หลักและแนวทางการท าลายเชื้อและการท าให้ปราศจากเชื้อ พิมพ์ครั้งที่ 2 (2555) 2. สมาคมศูนย์กลางงานปราศจากเชื้อแห่งประเทศไทย (Central Sterilizing Services Association of Thailand) แนวปฏิบัติการท าลายเชื้อและท าให้ปราศจากเชื้อเครื่องมือแพทย์ (2561)