แผนพัฒนาตนเองรายบคุ คล
(Individual Development Plan: ID Plan)
ภาคเรยี นที่ 1 ปี การศกึ ษา 2564
โดย
นางนารรี ตั น์ รกั ชยั
ตาแหน่ง ผูอ้ านวยการโรงเรียน
โรงเรียนวังตาลวิทยา
ตาบลหนองกบ อาเภอบ้านโปง่ จังหวดั ราชบุรี
สงั กดั สานักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ โรงเรยี นเอกชน
คานา
ตามที่ ก.ค.ศ. ไดก้ าหนดหลกั เกณฑ์และวิธีการพัฒนาตนเองและวชิ าชีพครู (ว22/2560) เมอื่
วนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560 ข้อ 1. ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตอ้ งได้รบั การพฒั นาอยา่ ง
ต่อเนือ่ งทุกปี โดยใหป้ ระเมินตนเองตามแบบ ที่ ก.ค.ศ. กาหนด พร้อมท้ังจัดทาแผนการพฒั นาตนเอง
เป็นรายปี ตามแบบทสี่ ว่ นราชการกาหนด และเขา้ รบั การพฒั นาตามแผนอยา่ งเปน็ ระบบ และตอ่ เนอื่ ง
ครจู ะต้องประเมินตนเอง จดั ทาแผนพฒั นาตนเอง พัฒนารายบคุ คลสคู่ วามเป็นเลศิ
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน ไดด้ าเนินการโครงการพัฒนาครแู บบครบวงจร
ตามนโยบายกระทรวงศกึ ษาธกิ ารในการปฏริ ปู ระบบการพฒั นาครเู พอื่ ตอบสนองต่อการพฒั นา
ทรัพยากรบุคคลอย่างมรี ะบบ และมปี ระสทิ ธภิ าพสูงสุด สอดคลอ้ งกับยุทธศาสตร์ชาตริ ะยะ 20 ปี
(พ.ศ. 2560-2579)
นางนารีรตั น์ รักชัย
พฤษภาคม 2564
ส่วนนา
ระบบการพฒั นาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาของกระทรวงศกึ ษาธิการในปจั จุบัน ไดม้ ่งุ เน้นใหค้ รูและ
บคุ ลากรทางการศกึ ษา พัฒนาตนเองตามแนวทางดังกล่าว โดยเร่มิ ตน้ จากการประเมินสมรรถนะ การจัดทา
แผนพฒั นาตนเอง และดาเนนิ การพัฒนาตามแผนพัฒนาตนเองจนมสี มรรถนะตามความต้องการของ
หนว่ ยงาน เพอ่ื ให้ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาสามารถดาเนนิ การพฒั นาตนเองตามระบบการพฒั นาครูและ
บุคลากรทางการศึกษาได้อย่างถูกตอ้ งตามกระบวนการ สามารถพัฒนาสมรรถนะของตนเองเพิม่ ข้นึ และ
ส่งผล ตอ่ ผู้เรียนที่รับผิดชอบ (สถาบนั พฒั นาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา. 2551) ประสิทธิภาพ
ประสทิ ธผิ ลของงานขนึ้ อยู่กบั คุณภาพของคนหรือบคุ คล ในการปฏิบัติงาน ถ้าบคุ คลใดเป็นบคุ คลทีม่ ีคณุ ภาพ
หรือ ทางการ(วชิ าการ)จะเรยี กว่า มสี มรรถนะ (Competency) (ความสามารถของบุคคลในทกุ ๆ ดา้ นท้ัง
ด้านความรู้ ความคดิ ความสามารถ ทักษะและคณุ ลกั ษณะ คุณธรรมท่ีจาเป็นตอ่ การปฏบิ ัติงานให้บรรลุได้
อย่างมี ประสทิ ธิภาพ) ท่ีสูง ยอ่ มส่งผลต่อคณุ ภาพของงานในหนา้ ท่ีที่ได้รบั มอบหมาย ปจั จบุ นั ในวงราชการก็
ได้นา สมรรถนะเป็นตัวชวี้ ัดความสามารถของบุคคล ซึ่งสมรรถนะโดยทว่ั ไปจะแบ่งเปน็ 2 สมรรถนะ คือ
สมรรถนะหลกั (Core Competency) หมายถึง สมรรถนะท่ที ุกคนตอ้ งมหี รอื ปฏิบัติได้ เปน็
คุณลักษณะ ร่วมกนั ของบคุ คลทกุ ตาแหน่ง ตัวอย่าง สมรรถนะหลักของครูและบคุ ลากรทางการศึกษา
ประกอบด้วย การมุ่ง ผลสัมฤทธิ์ การบรกิ ารท่ีดี การพัฒนาตนเอง การทางานเป็นทีม
และสมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency) เป็นสมรรถนะท่กี าหนดเฉพาะสาหรับ
แต่ ละตาแหนง่ เพอ่ื ให้บุคคลทด่ี ารงตาแหน่งนัน้ แสดงพฤติกรรมทเ่ี หมาะสมกับหน้าท่แี ละสามารถปฏิบตั ิ
หนา้ ท่ีไดด้ ี ยิ่งข้นึ ตัวอยา่ ง สมรรถนะประจาสายงานของครู ประกอบด้วย การจัดการเรียนรู้ การพัฒนา
ผเู้ รยี น การบรหิ าร จัดการชัน้ เรียน การวเิ คราะห์ สงั เคราะหแ์ ละการวิจัย การสร้างความร่วมมอื กับชุมชน
ตวั อย่าง สมรรถนะหลัก ของบุคลากรทางการศกึ ษา ประกอบด้วย การวเิ คราะห์ สังเคราะหแ์ ละการวิจัย การ
สอื่ สารและการจูงใจ การ พัฒนาศกั ยภาพบคุ คล การมวี สิ ัยทศั น์
สาหรบั การพฒั นาบคุ คลในอดตี ท่ผี ่านมา เปน็ การพัฒนาแบบเหมารวมหรือยกเขง่ หมายความว่า
เมื่อ เรื่องใดทห่ี นว่ ยงานตอ้ งการพัฒนา กจ็ ะพฒั นาแบบปูพรมคอื พัฒนาทกุ คนไมร่ ู้วา่ มีความรูห้ รือไมม่ ี
ต้องการหรือไม่ ต้องการ เปน็ ปญั หาหรือไม่เปน็ ปัญหา แตจ่ ะพฒั นาหมด สงิ่ ที่เป็นปัญหาของการพฒั นา
รปู แบบนก้ี ็คอื ความไม่ คุม้ คา่ คอื ผเู้ ข้าร่วมพัฒนาจะสนใจเฉพาะบคุ คลทต่ี อ้ งการ อยากรู้ อยากทราบเท่าน้ัน
สาหรบั กลุ่มคนท่เี หลือเปน็ กลุ่มบุคคลท่ไี ม่ตอ้ งการ ก็จะไม่ใหค้ วามสาคัญ ไม่สนใจ ทาให้เป็นอปุ สรรคในการ
พฒั นา
ทางแกท้ คี่ ดิ ว่าน่าจะเปน็ ไปได้ คอื การพฒั นาบุคคลตามแผนพฒั นาตนเองรายบุคคล( Individual
Development Plan: ID PLAN) โดยจะต้องผา่ นกระบวนการประเมินสมรรถนะ ที่ประกอบดว้ ย การ
ประเมิน ตนเอง รว่ มกับเพือ่ นร่วมงานหรอื ผู้บงั คับบัญชารว่ มประเมนิ นาผลสรุปผล ว่าสมรรถนะใดท่ี
จาเป็นต้องพัฒนา และสมรรถนะใดทไี่ ม่จาเป็นตอ้ งพฒั นา ตอ่ จากน้ันนามาจัดอนั ดับสมรรถนะที่จาเป็นตอ้ ง
พัฒนา พรอ้ มใหเ้ หตผุ ล ประกอบ ว่าการพฒั นาสมรรถนะดังกลา่ วจะส่งผลตอ่ อะไร ต่อใคร เชน่ จะสง่ ผลต่อ
คณุ ภาพของนกั เรียน หน่วยงาน ชุมชน วงการวิชาชีพ หรือตนเอง เปน็ ต้น หลักการจัดอันดับความสาคัญ
สมรรถนะที่จาเปน็ เร่งดว่ นใน การพัฒนาของครู คอื สง่ ผลตอ่ คณุ ภาพของนกั เรียนเปน็ หลกั สาหรบั ตอ่ ตนเอง
ควรเป็นอันดับสุดท้าย
จากนนั้ นาไปสกู่ ารเขยี นแผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล โดยให้นาเสนอรูปแบบ วิธีการพัฒนาในแต่ละ
สมรรถนะ หลาย ๆ รูปแบบเพื่อเปน็ ทางเลือกในการพฒั นา พรอ้ มกบั กาหนด ช่วงระยะเวลาที่จะพัฒนา
(เรม่ิ ตน้ และส้นิ สดุ ) และหน่วยงานหรือองค์กรท่ีจะขอรบั การสนับสนุนในการพัฒนา
ซ่งึ จะเห็นวา่ การพัฒนา โดยใช้ID-PLAN จะเปน็ การพัฒนาทส่ี นองตอบความต้องการแตล่ ะบุคคล
สนอง ความสนใจในรปู แบบวิธีการพัฒนา ก็จะส่งผลตอ่ สมรรถนะในการปฏิบัตหิ น้าทท่ี ีม่ ีประสทิ ธภิ าพตอ่ ไป
และจะเปน็ การพัฒนาท่ีตอ่ เนื่องจนทาให้การปฏบิ ัตหิ นา้ ที่มีความสมบูรณ์ มปี ระสิทธภิ าพและประสิทธผิ ล
(ยนื ยง ราชวงษ์, 2551)
ตอนที่ 1 ข้อมลู สว่ นบุคคล
1. ช่ือ นามสกุล นางนารีรตั น์ รักชัย อายุ 53 ปี
2. ตาแหนง่ ผอู้ านวยการโรงเรียนวงั ตาลวทิ ยา
สังกัด สานกั งานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
3. เขา้ บรรจคุ รูครง้ั แรก วนั ที่ 30 มนี าคม 2530
ตาแหน่ง ครูผู้สอน โรงเรียนวงั ตาลวิทยา
เข้าบรรจุครูคร้ังท่ี 2 วนั ที่ 4 พฤศจิกายน 2539
ตาแหน่ง ครผู ้สู อน โรงเรียนวังตาลวิทยา
ไดร้ ับการแตง่ ตงั้ เป็นผู้อานวยการโรงเรียน
วนั ท่ี 1 มิถนุ ายน 2563 ณ โรงเรยี นวังตาลวทิ ยา
รวมอายุงาน 34 ปี
4. วฒุ กิ ารศึกษา
วุฒิปรญิ ญาตรี ครุศาสตรบณั ฑิต (ค.บ.)
จากสถาบันการศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครปฐม จังหวัดนครปฐม
วุฒปิ ริญญาโท ศึกษาศาสตรมหาบัณฑติ (ศษ.ม ) วชิ าเอก การบรหิ ารการศกึ ษา
จากสถาบนั การศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยกรุงเทพธนบุรี
สถานท่ที างาน โรงเรียนวังตาลวทิ ยา ต.หนองกบ อ.บา้ นโป่ง จ.ราชบุรี
5. ภารกิจ/บทบาทหนา้ ท่ีในปัจจบุ นั
บงั คบั บัญชาครบู ุคลากรและคนงานโรงเรียนวงั ตาลวทิ ยา สงั กัดสานกั งานคณะกรรมการส่งเสรมิ
การศึกษาเอกชน มคี รจู านวน 64 คน ครูพ่ีเลย้ี งเด็ก 10 คน เจ้าหน้าท่ีและบุคลากร จานวน 19 คน มี
นกั เรยี นทั้งส้ิน 1,507 คน คนงาน 11 คน บริหารกิจการของโรงเรียนใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
ขอ้ บงั คบั ของ สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศกึ ษาธิการ โดยดาเนนิ การ ตาม
วิสัยทศั น์และพันธกิจเพอื่ ให้บรรลุเปา้ หมายของโรงเรียน
งานในหน้าทร่ี บั ผดิ ชอบ
1.การบริหารจัดการสถานศึกษา
1.1 งานบริหารวิชาการ
1) การพัฒนาหลักสูตรสถานศกึ ษา
2) การพฒั นากระบวนการเรยี นรู้
3) การวดั ประเมินผลการเรยี น
4) การวิจยั เพ่ือพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา
5) การพฒั นาส่ือ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศกึ ษา
6) การพฒั นาแหลง่ เรียนรู้
7) การนิเทศการศึกษา
8) การแนะแนวการศกึ ษา
9) การพัฒนาระบบการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา
10) การส่งเสรมิ ความรดู้ า้ นวชิ าการแก่ชมุ ชน
11) การประสานความรว่ มมือในการพัฒนาวชิ าการกับสถานศกึ ษาอ่ืน
12) การส่งเสริมและสนับสนุนงานวิชาการแก่บคุ คล ครอบครัว องคก์ ร หน่วยงาน และสถาบนั อืน่
ท่ีจัดการศกึ ษา
1.2 งานบรหิ ารงบประมาณ
1) การจัดทาและเสนอของบประมาณ
2) การจดั สรรงบประมาณ
3) การตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผล และรายงานผลการใช้เงนิ และผลการดาเนนิ งาน
4) การระดมทรัพยากรและการลงทนุ เพื่อการศึกษา
5) การบรหิ ารการเงิน
6) การบริหารบัญชี
7) การบรหิ ารพสั ดุและสนิ ทรัพย์
1.3 งานบรหิ ารงานบคุ คล
1) การวางแผนอตั รากาลังและการกาหนดตาแหนง่
2) การสรรหาและบรรจุแต่งตัง้
3) การสง่ เสริมประสิทธิภาพในการปฏบิ ัติงาน
4) วนิ ยั และการรักษาวินัย
2.4 งานบรหิ ารทั่วไป
1) งานส่งเสริมกจิ กรรมนกั เรียน กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน และ งานปกครอง
2) งานเลขานกุ ารคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน
3) งานพฒั นาระบบและเครือขา่ ยข้อมลู สารสนเทศ
4) ส่งเสรมิ งานอาคารสถานที่ และสภาพแวดลอ้ มทเ่ี อ้ือตอ่ การเรียนรู้
5) การจัดระบบการบรหิ ารและพัฒนาองค์กร
6) งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ
7) งานส่งเสรมิ งานสขุ ภาพอนามยั นักเรียน
8) การดูแลอาคารสถานท่แี ละสภาพแวดล้อม
9) การจัดทาสามะโนผเู้ รียน
10) การรับนักเรียน
11) การส่งเสริมและประสานงานการศึกษาในระบบ นอกระบบและตามอัธยาศัย
12) การระดมทรัพยากรเพอ่ื การศึกษา
13) การประชาสัมพันธ์งานการศกึ ษา
14) การส่งเสริมสนบั สนุนและประสานงานการศึกษาของบคุ คล ชุมชนองค์กร หนว่ ยงาน และ
สถาบนั สงั คมอ่นื ท่จี ัดการศึกษา
16) ประสานงานราชการกบั เขตพน้ื ทแ่ี ละหน่วยงานอื่น
ผลงานท่ีเกดิ จากการปฏบิ ัติหน้าทใ่ี นตาแหน่งปัจจุบนั
1. ผลท่เี กดิ จากการจัดการเรียนรู้
ไดด้ าเนินการบรหิ ารสถานศกึ ษาใหบ้ ุคลากรจัดกิจกรรมการเรียนรใู้ ห้กับนักเรียน โดยรว่ มกับ
คณะครจู ดั ทาหลกั สูตรสถานศึกษา วิเคราะหห์ ลกั สูตร จัดทาแผนการจัดประสบการณ์ และนา
แผนการจดั ประสบการณ์ไปใชใ้ นการจัดประสบการณ์ให้กับนักเรียน มีการวัดผลประเมินผลตาม
สภาพจริง โดยใช้แฟ้มสะสม ผลงาน ชนิ้ งาน แบบฝึก การวัดผลประเมินผลดังกลา่ วครอบคลมุ ทุกๆ
ดา้ น ได้แก่ ด้านความรู้ การปฏิบตั ิ กระบวนการและคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ทง้ั นี้เพอื่ สง่ เสริม
พัฒนาการของนักเรียนท้งั 4 ด้าน ไดแ้ ก่ ด้านรา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม และสติปัญญา และมี
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ทงั้ นี้เพอ่ื ใหน้ ักเรียนมพี ัฒนาการท่ี ดี มคี ุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ ตลอดจนมกี าร
บันทึกหลังการจดั กจิ กรรมการสอนอย่างสม่าเสมอ ทง้ั นเ้ี พ่ือจะได้ ช่วยแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งให้กับ
นักเรียนทม่ี ีปัญหา
2. ผลที่เกดิ จากการพฒั นาวชิ าการ
2.1 ส่งผลใหบ้ คุ ลากรไดร้ ับการปรับวฒุ กิ ารศกึ ษาใหส้ งู ข้นึ
2.2 มกี ารจดั หา พฒั นา ประยกุ ตใ์ ช้ส่อื นวตั กรรมในการจดั การเรยี นรู้ สามารถนาไปใชไ้ ดผ้ ลดี
2.3 การใช้ความคิดเชิงระบบในการพัฒนางานอยา่ งครบวงจรและมปี ระสทิ ธิภาพอย่างตอ่ เน่อื ง
2.4 การนาความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาพฒั นาระบบการเรียนรู้ได้
2.5 การส่งเสริมการคิดที่เน้นผลคณุ ภาพทต่ี ัวผู้เรียน
2.6 การนาวิธีการวิจยั และพัฒนามาแก้ปญั หาพร้อมทัง้ พัฒนางานอย่างครบวงจร
2.7 โรงเรียนเปน็ ทยี่ อมรับของบคุ คลท่ัวไปและหน่วยงานทเ่ี กย่ี วข้อง โดยมีการเผยแพร่ผลงาน ทางด้าน
วิชาการโรงเรยี นยังสนับสนนุ และส่งเสรมิ ให้บุคลากรได้พฒั นาสอื่ และนวตั กรรม
3. ผลท่ีเกดิ กบั ผเู้ รยี น
พัฒนาบุคลากรในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนโดยเนน้ ผูเ้ รยี นเป็นสาคัญ มีการให้นกั เรียนได้ฝกึ การ
ปฏบิ ตั ิจริง เพอ่ื ให้นกั เรียนไดม้ ีทักษะต่างๆ ตลอดจนสอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรมท่ีดงี ามความมวี ินยั ใน
ตนเอง สง่ ผลใหผ้ ู้เรียนมีคณุ ธรรมจริยธรรม มวี ินัยในตนเอง มีสัมมาคารวะมมี ารยาทตามวฒั นธรรมไทย มี
ความสามารถในการใช้ภาษาในการสอื่ สาร และการมจี ินตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์ ซ่ึงเปน็ สงิ่ ที่ ผู้เรยี น
สามารถนาความรคู้ วามเข้าใจและทักษะไปบรู ณาการและประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวันเปน็ การเพ่ิมพูน
สมรรถนะตนเองให้มากข้ึนและส่งผลใหก้ ารใชช้ วี ิตภายหน้า บนพืน้ ฐานคณุ ธรรม นาความรู้ และเศรษฐกิจ
พอเพยี ง ตลอดจนการอยรู่ ่วมกันในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสุข
4. ผลที่เกิดกับสถานศึกษา
4.1 สถานศึกษาได้รับการสนับสนนุ จากผ้ปู กครอง ชมุ ชน หน่วยงาน องค์กรต่างๆ
4.2 มีบรรยากาศทั้งในและนอกห้องเรียนที่เอ้ือต่อการเรยี นรขู้ องครูและผเู้ รยี น
4.3 เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ของสถานศกึ ษาหรือหนว่ ยงานต่างๆ
4.4 การนิเทศตดิ ตามผลการปฏิบัติงานของครูทาใหก้ ารปฏบิ ัติงานมีความสมบูรณ์ และเป็นไป ตามเวลา
ทก่ี าหนด
4.5 มีระบบการทางานเปน็ ทีมมากขนึ้
4.6 มีแนวปฏบิ ตั ิด้านเอกสาร หลักฐานทางการศกึ ษาท่ถี ูกต้อง
4.7 การพัฒนางานมีระบบถูกตอ้ งและครบวงจร นอกจากน้ันสถานศกึ ษายังไดร้ ับการยอมรับจาก
ผูป้ กครองและชมุ ชนในดา้ นการดแู ลเอาใจใส่ ของครูท่ีมีต่อนักเรยี นในด้านการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน
การดูแลด้านพฤตกิ รรม คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ด้านกิริยา มารยาท ความมีวินยั ในตนเอง ความรบั ผิดชอบ
5. ผลท่ีเกดิ กบั ชมุ ชน
5.1 เกดิ ความสัมพนั ธ์ทด่ี ีกับผู้ปกครองและผู้นาชมุ ชน
5.2 สถานศกึ ษาและชมุ ชนมี ความเข้าใจทีด่ ตี อ่ กนั ทาให้เกดิ ความรว่ มมือ เกดิ ความรักและ ความ
ภาคภมู ใิ จในโรงเรียนและท้องถิ่น
5.3 มีกิจกรรมทางสงั คมร่วมกบั ชมุ ชน ให้บริการชมุ ชนในด้านตา่ งๆ รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุน ให้ชมุ ชนมี
ความเขม้ แข็ง
รายละเอยี ดการพัฒนาตนเอง
อนั ดบั สมรรถนะ วธิ ีการ / ระยะเวลา
ความสาคัญ เรม่ิ ตน้
ท่ีจะพฒั นา รูปแบบการพัฒนา ตลอด
1 ปีการศึกษา
การมงุ่ ผลสมั ฤทธ์ิ - เขา้ รบั การอบรม สัมมนา
2 ตลอด
ที่หน่วยงานตน้ สงั กัด ปกี ารศึกษา
หนว่ ยงานอน่ื ๆ จัดขนึ้
- ศึกษาดงู านโรงเรยี น
ต้นแบบ บคุ ลากรตน้ แบบ
เพื่อนามาพฒั นาตนเอง
- แลกเปล่ยี นเรยี นรกู้ ับผมู้ ี
ประสบการณ์
- ศกึ ษาเอกสาร ผลงาน
ทางวิชาการจากตารา
วารสาร
- สืบค้นความรู้ทาง
อินเตอร์เนต
การพฒั นาตนเอง - เขา้ รับการอบรม สมั มนาที่
หนว่ ยงานต้นสังกัด
หนว่ ยงานอื่นๆจดั ข้ึน
าในการพัฒนา การขอรับการสนบั สนนุ ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะได้รับ
ส้นิ สุด จากหน่วยงาน
ตลอด
- งบประมาณ - โรงเรียนมีการแผนการทางาน
ปีการศกึ ษา - บคุ คลากร อย่างเป็นระบบ สามารถกาหนด
ตลอด เป้าหมายในการปฏบิ ตั ิงาน
ปีการศกึ ษา กาหนดแผนการปฏบิ ตั ิงานได้
อยา่ งเป็นขนั้ ตอนทาใหง้ านมี
ผลสัมฤทธ์สิ งู
- บคุ ลากร ใฝ่เรียนร้เู ก่ยี วกับการ
จัดการเรยี นรู้ มคี วามคิดริเร่มิ
สรา้ งสรรคใ์ นการพัฒนาการ
จัดการเรียนรู้ แสวงหาความรู้ ท่ี
เก่ียวกบั วิชาชพี ใหม่ ๆ เพื่อการ
พัฒนาตนเองรวมทั้งมปี ระเมินผล
การปฏิบตั งิ านของตนเอง
- งบประมาณ ตนเองเป็นผมู้ ีคณุ ภาพ ไดร้ บั การ
- บุคคลากร พฒั นาไปในทิศทางทีด่ ขี น้ึ สง่ ผล
และเกดิ ประโยชน์ต่อสถานศึกษา
บคุ ลากรและชุมชน
อนั ดบั สมรรถนะ วิธีการ / ระยะเวลา
ความสาคัญ ทีจ่ ะพัฒนา รปู แบบการพฒั นา เร่มิ ตน้
- ศกึ ษาดงู านโรงเรียน
ต้นแบบ บุคลากรตน้ แบบ
เพ่ือนามาพัฒนาตนเอง
- แลกเปล่ยี นเรยี นร้กู บั
บุคลากรในสงั กัด และ
ต่างสังกัด
ความคิดเหน็ ผ้บู งั คบั บัญชา
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
าในการพฒั นา การขอรับการสนับสนนุ ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะไดร้ ับ
สนิ้ สุด จากหน่วยงาน
-
ลงชอ่ื
(นางนารีรตั น์ รกั ชัย)
ผจู้ ัดทาแผนพฒั นาตนเอง
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .....................................................
(................................................................)
ตาแหนง่ ..................................................
ตอนท่ี 2 ความตอ้ งการในการพัฒนา
1. หลกั สูตรใดท่ที ่านต้องการพฒั นา
- การพัฒนาทกั ษะการบริหารในทศวรรษท่ี 21
2. เพราะเหตใุ ดท่านจึงต้องการเขา้ รบั การพัฒนาในหลกั สูตรน้ี
- เพ่ือพัฒนาทักษะตนเองให้เป็นผูบ้ ริหารสถานศกึ ษาในศตวรรษท่ี 21
- เพอ่ื เป็นแนวทางในการพัฒนาสถานศึกษา บุคลากร และนักเรยี นส่ทู ศวรรษท่ี 21
3. ท่านคาดหวังส่ิงใดจากการเขา้ รับการพฒั นาในหลักสูตรนี้
- ได้พัฒนาตนเองให้เปน็ ผู้บรหิ ารสถานศึกษาในศตวรรษท่ี 21
- ใช้เปน็ แนวทางในการพัฒนาสถานศึกษา บุคลากร และนักเรียนสู่ทศวรรษที่ 21
4. ทา่ นจะนาความรู้จากหลกั สตู รไปพฒั นาการสอนของท่านอย่างไร
- ใชพ้ ัฒนาสถานศึกษา บุคลากร และนกั เรียนสู่ทศวรรษท่ี 21
- สร้างเครอื ขา่ ยการเรียนร้ทู ัง้ ภายในและภายนอกสถานศึกษา เพอ่ื พัฒนาผู้เรียนใหม้ คี วามรู้ ความสามารถ และ
มีทักษะทดั เทยี มเปน็ ท่ยี อมรบั ของชาตอิ นื่ และสามารถดารงชวี ิตไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข