วดั สทุ ัศนเทพวราราม
(ฉบับเฉลิมพระเกยี รติ พ.ศ. ๒๕๖๔)
เอกนู สตฺตตวิ สสฺ าภิวฑฺฒนวรทานคาถา
ทสมปรเมนทฺ มหาราชวรสฺส
๒๕๖๔ พุทฺธสเก
มหาวชิราลงกฺ รโณ ทสโม จกกฺ วิ ํสิโก
สพฺพรฏฺนวิ าสีสุ ปชาย เสฏฺ สมฺมโต
ทยฺยรฏฺ สสฺ ปญฺาณํ ธมมฺ ฏฺโ วรพุทฺธิมา
วีรสูรพลานโี ก เสนาย ปรหิ ารโก
ราชจาริตตฺ สมปฺ นโฺ น เอกคฺคพทุ ฺธมามโก
อปุ คจฺฉติ สกกฺ จฺจํ สีลวนฺเต พหสุ ฺสเุ ต
สตุ ํ มนสิ จินเฺ ตนโฺ ต ปาลิยา ปริปุจฉฺ โก
ปาปาโมกฺขทสฺสาวี สมคุ คฺ หติ ปาลเิ ก
ทหเร สามเณเร จ สงฺคณหฺ าติ วจิ กฺขโณ
ภาวนาภมิ ุโข โหติ โส สมาธาธิมุตตฺ โิ ก
ปรติ ฺตชฺฌาสโย นิจฺจํ สนุ ทฺ รีวาณปิ ชู โก
โควทิ ุปฺปาทกาลสฺมึ จตตฺ ทานวโร สยํ
สงฺคเหตา ว ทยยฺ านํ ปีเณติ ชนตํ สทา
ปสตู วิ ฑฒฺ เน วาเร อภมิ งคฺ ลสมมฺ เต
ปรเมนทฺ มหารญฺโ มยํ วรํ ททาม เส
รตนตตฺ ยานุภาเวน รตนตฺตยเตชสา
โส อายวุ ฑฒฺ โก โหตุ อติเรกสตายุโก
โส ยโสวฑฺฒโก โหตุ อโรโค พลวฑฺฒโก
โส วณณฺ วฑฒฺ โก โหตุ อนโี ฆ สุขวฑฺฒโก
โส พุทฺธสาสเน ลกฺขี ปปฺโปตุ เขมมตุ ตฺ มนตฺ ิ ฯ
(พระวิสทุ ธาธบิ ดี)
คณะสงฆว์ ดั สทุ ัศนเทพวราราม ราชวรมหาวหิ าร
ประพนั ธ์ถวายเนอ่ื งในวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ๖๙ พรรษา
คาถาถวายพระพรเนอ่ื งในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๙ พรรษา
พระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ เจ้าอยูห่ ัว รชั กาลท่ี ๑๐
พุทธศกั ราช ๒๕๖๔
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว หน่อเน้ือราชจักรีวงศ์ พระองค์
ที่ ๑๐ อันปวงประชาราษฎรท์ ั่วหลา้ สาธุการแซ่ซอ้ งว่า ทรงประเสรฐิ สดุ อตุ ตม
บคุ คล บรรดาเหล่าชนชาวสยาม ทรงงามเด่นเปน็ สงา่ แห่งแว่นแคว้นแดนไทย
ทรงธ�ำรงมั่นในทศพิธราชธรรม ด�ำรงล้�ำด้วยพระปรีชาประเสริฐ ทรงก�ำเนิด
เป็นจอมทัพคณานับด้วยองค์คุณมพี ระพริ ยิ ะพากเพยี ร พระสรู ยะองอาจกลา้
หาญ ทรงช�ำนาญการบริหารปกครองกองทพั ทรงประดับพรกั พรอ้ มด้วยพระ
ราชจรยิ าจารตี ประเพณี ทรงเป็นศรีพทุ ธมามกะแท้จริงย่งิ ประเสริฐ
ในกาลปจั จบุ ัน พระองคน์ ั้นเสด็จเขา้ ไปโดยเคารพปรารภสมณสงฆผ์ มู้ ีศีล
มพี หสุ ตู ทรงพระราชด�ำรถิ งึ ความรสู้ ตุ าธกิ ารไวใ้ นพระราชหฤทยั ทรงสอบถาม
พระบาลีปริยัติวัฒนาการ พระปัญญาแตกฉานเห็นประจักษ์แท้ แม้ทรงเห็น
ความส�ำคญั ภาษาบาลพี ทุ ธพจนใ์ หเ้ ปลง่ ประกาย จงึ ทรงถวายต�ำราบาลนี กั ธรรม
ทรงอปุ ถัมภ์สงเคราะหพ์ ระภกิ ษสุ ามเณรผเู้ ล่าเรยี นศึกษาพระบาลี อีกท้ังทรง
สนพระราชหฤทัยในเรื่องสมาธิภาวนา ฝึกสมถะวิปัสสนากรรมฐาน ทรงมี
พระกมลมาลย์ในการสังวัธยายพระปริตรพุทธมนต์เจริญคาถาบูชาพระสุนทรี
วาณีเป็นนติ ย์เสรมิ พระราชสริ มิ งคล
แม้ในคราวแพร่ระบาดไวรสั โควิด-๑๙ นี้ องค์จกั รที รงพระราชทานทรพั ย์
นบั อเนกจ�ำแนกแจกทาน ถวายภตั ตาหารอนั ประณตี โอชารสโปรดพระสงฆไ์ ทย
ทรงให้ต้ังโรงครัวใหญ่ ใส่พระราชหฤทัยร่วมประกอบอาหารด้วยพระองค์เอง
เร่งพระราชทานส่ิงของเครื่องใช้จตุปัจจัยไภสัชขจัดโรค ท�ำให้ประชาราษฎร์
ชื่นชมปรดี าเป็นนิจกาลเน่นิ นานมิได้ขาด
เนือ่ งในวาระเฉลมิ พระชนมพรรษามหามงคล ๖๙ พระวรรษา อาตมภาพ
ทั้งปวง ในนามคณะสงฆ์วัดสุทัศนเทพวราราม ขอถวายพระพร แด่สมเด็จ
มหาบพติ ร พระราชสมภารพระองคผ์ ทู้ รงพระคณุ อันประเสรฐิ
ด้วยเดชานุภาพพระรตั นตรยั อนั วิสทุ ธ์ คือพระพุทธองค์ ผทู้ รงสัพพญั ญุต
ญาณ พระโลกตุ รธรรม อนั ประเสรฐิ สงู สดุ พระอตุ ตมอรยิ สงฆ์ ผสู้ �ำเรจ็ มรรคผล
ขอจงประสทิ ธป์ิ ระสาธนพ์ รแดส่ มเดจ็ บรมบพติ ร ทรงพระเจรญิ ดว้ ยพระชนมายุ
ยืนนาน จิรกาลยิ่ง ๑๐๐ พระวรรษา, ขอจงทรงพระเจริญด้วยสิริสวัสด์ิ
พพิ ฒั นมงคลพพิ ธิ สถติ มน่ั ในมหาราไชศวรรยสมบตั ,ิ ขอจงทรงวริ ตั เิ วน้ โรคาพาธ
ปราศเพทภัย อุปัทวันตรายทั้งมวล ล้วนแต่ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง
สมบูรณ์,ขอจงทรงมีพระฉวีวรรณผุดผ่องใส เกริกไกรด้วยมธุรวาจาพรรณนา
สรรเสริญพระเกียรติคุณหนุนอ�ำไพ, ขอจงทรงไกลห่างนิราศร้างทุกข์นิรภัย
พระราชหฤทัยเปี่ยมอนันตสุขนานัปการ, ขอจงทรงพระเกษมสราญย่ิง
บุญญาธกิ ารกฤษดาภนิ ิหารสืบไป ประลุ ในพระธรรมอันเปน็ แดนเกษมสงู สดุ
คอื พระนฤพาน ในบวรพทุ ธสถานเทอญ ฯ
พระวสิ ุทธาธบิ ดี (เชดิ จิตตฺ คตุ โฺ ต ป.ธ. ๙)
กรรมการมหาเถรสมาคม
เจา้ อาวาสวัดสทุ ศั นเทพวราราม
ทปี่ รกึ ษาเจ้าคณะภาค ๔
คำ� นำ�
วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้น
เอกอุดม ท่กี ่อสร้างวางรากฐานโดยพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลก
มหาราช รัชกาลที่ ๑ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ (พ.ศ. ๒๓๕๐) และสร้าง
แล้วเสร็จในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๓
(พ.ศ. ๒๓๙๐) นับเปน็ เวลา ถึง ๔๐ ปี แต่น้ันมาวดั สทุ ศั นเทพวราราม ก็ได้รบั
พระบรมราชูปถัมภ์จากพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ โดยเฉพาะอย่างย่ิงใน
รัชกาลปัจจุบัน ทรงมีพระราชคุณูปการและพระราชอุปการะต่อวัดสุทัศน
เทพวราราม อย่างหาท่ีสุดมิได้ ด้วยทรงมีพระราชศรัทธาทํานุบํารุง บูรณ
ปฏสิ งั ขรณพ์ ระวหิ ารหลวง พระอโุ บสถ เสนาสนะนอ้ ยใหญ่ ตลอดจนพระพทุ ธรปู
และปชู นยี วตั ถภุ ายในพระอารามทวั่ ไปทง้ั สน้ิ ทง้ั นี้ ดว้ ยทรงมพี ระราชประสงค์
ท่ีจะทรงอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาให้สถิตสถาพรเป็นศักดิ์ศรีแก่พระราช
อาณาจกั ร สมดังพระราชด�ำรัสทที่ รงประกาศพระองคเ์ ป็นพทุ ธศาสนปู ถมั ภก
ในท่ามกลางหมู่พระสงฆ์ ความตอนหนึ่งว่า “บัดน้ี ข้าพเจ้า ได้เถลิงถวัลย
ราชสมบตั บิ รมราชาภเิ ษกแลว้ จงึ ขอมอบตวั แดพ่ ระพทุ ธเจา้ พระธรรมเจา้
และพระสงั ฆเจา้ จะไดร้ บั การจดั การใหค้ วามคมุ้ ครองรกั ษาพระพทุ ธศาสนา
โดยชอบธรรมตลอดไป ”
อนึ่ง ในมหามงคลสมัย วันเฉลิมพระชนมพรรษา ๒๘ กรกฎาคม
๒๕๖๔ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงเจรญิ พระชนมพรรษาครบ ๖๙ พรรษา อาตมภาพ
และคณะสงฆ์วัดสุทัศนเทพวราราม ได้พร้อมใจกันจัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์
ฉบับเฉลิมพระเกียรติ จ�ำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม เพื่อเป็นอนุสรณ์และถวายเป็น
พระราชกุศล สนองพระมหากรุณาธิคุณ ในฐานะท่ีทรงเป็นองค์เอกอัคร
ศาสนูปถัมภกและทรงมีพระราชคุณูปการต่อประเทศชาติ พระพุทธศาสนา
ตลอดถงึ วัดสทุ ัศนเทพวราราม อย่างหาท่ีสุดมิได้ดงั กล่าวแล้ว โดยหนงั สือสวด
มนต์นี้ จักเป็นประโยชน์ส�ำหรับพระภิกษุสามเณรและพุทธศาสนิกชนทั่วไป
เพราะการสวดมนตเ์ ปน็ กจิ วตั รส�ำคญั ของชาวพทุ ธทมี่ มี าชา้ นาน และวดั สทุ ศั น
เทพวรารามกม็ กี จิ กรรมซง่ึ เปน็ เอกลกั ษณข์ องวดั มาอยา่ งยาวนาน คอื การจดั ให้
พทุ ธศาสนกิ ชนไดร้ ว่ มกนั สวดมนตท์ พ่ี ระวหิ ารหลวงในเวลากลางวนั และกลาง
คนื เป็นปกติประจ�ำทกุ วันมิไดข้ าด การสวดมนตเ์ ปน็ เครอ่ื งจรรโลงและยดึ โยง
พทุ ธศาสนกิ ชนให้เขา้ ถงึ พระพทุ ธศาสนา สง่ เสริมศรทั ธา สติปญั ญา สมาธิ ให้
เกดิ แกพ่ ทุ ธศาสนกิ ชน เปน็ ประโยชนโ์ ดยตรงอนั ส�ำคญั และจะยงั ประโยชนโ์ ดย
ออ้ มคือ ความรู้รักสามคั คี ความสงบสขุ รม่ เยน็ ใหบ้ ังเกิดในหม่ปู ระชาชนชาว
ไทย ตลอดจนสงั คมประเทศชาติ ภายใตพ้ ระบารมบี รมโพธสิ มภารในพระบาท
สมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและพระราชกุศลธรรมจริยา
จงอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอัน
ประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นองค์เอกอัคร
ศาสนูปถัมภกแห่งพุทธจักร และเป็นม่ิงขวัญหลักชัยแห่งพระราชอาณาจักร
สืบไปตลอดกาลนาน
(พระวสิ ทุ ธาธิบด)ี
กรรมการมหาเถรสมาคม
เจา้ อาวาสวัดสทุ ศั นเทพวราราม
ท่ีปรกึ ษาเจ้าคณะภาค ๔
ประวตั ิวดั สทุ ัศนเทพวราราม
วดั สทุ ศั นเทพวราราม เปน็ พระอารามหลวงชนั้ เอก ชนดิ ราชวรมหาวหิ าร
ต้ังอยู่ในเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นนอก ภายในก�ำแพงพระนคร ปัจจุบันเลขที่ ๑๔๖
แขวงวัดราชบพิธ (ในคณะสงฆ์ขึ้นกับแขวงพระบรมมหาราชวัง) เขตพระนคร
กรงุ เทพมหานคร มีเนอื้ ที่ ๒๗ ไรเ่ ศษ
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช ทรงสถาปนาวดั สทุ ศั น
เทพวรารามแหง่ นขี้ นึ้ เมอ่ื ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๓๕๐ ตามความปรากฏในหมายกระทรวง
วงั เร่อื งพระฤกษก์ อ่ รากพระวหิ าร ความตอนหนงึ่ วา่ “ดว้ ยพระยารณฤทธ์ิรบั สง่ั ใส่
เกล้า ฯ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มสงั่ ว่า พระฤกษ์จะไดข้ ดุ รากพระ
วิหาร วัดท�ำใหม่ ณ เสาชิงช้า พระราชาคณะ ๒๐ รปู จะไดส้ วดพระพทุ ธมนต์ ณ
วนั อาทติ ย์ ข้นึ ๔ คำ�่ เดือน ๓ ปีเถาะนพศก จุลศักราช ๑๑๖๙ (พ.ศ. ๒๓๕๐) ฯลฯ ”
และทรงพระราชด�ำริพระราชทานนาม วัดข้ึนเป็นครั้งแรกว่า “วัดมหาสุทธาวาส”
ปที ี่ปรากฏในหมายนจ้ี ึงนับเป็นปีเริ่มก่อตั้งวดั สทุ ัศนเทพวราราม
มูลเหตุการสถาปนาวัดสุทัศน์แห่งนี้ ก็ด้วยทรงพระราชประสงค์จะถ่าย
แบบบ้านเมือง ร้ัววัง ทั้งวัดวาอารามในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ของพระองค์ให้เป็น
อย่าง กรุงศรีอยธุ ยาราชธานเี ดิม ทีเ่ รียกกันว่า “ครง้ั บา้ นเมืองดี” ปรากฏความใน
จดหมายเหตคุ วามทรงจ�ำของกรมหลวงนรนิ ทรเทวี วา่ “ทรงมพี ระราชโองการรบั สงั่
ใหส้ รา้ งวัดข้ึนกลางพระนครให้สูงเทา่ วดั พนญั เชิง ใหพ้ ระพเิ รนทรเทพขน้ึ ไปรับพระ
ใหญ่ ณ เมอื งสุโขทัย ชะลอเล่อื นลงมาประทบั ทา่ สมโภช ๗ วนั ณ เดือน ๖ ขน้ึ
๑๕ ค่ำ� ยกทรงเล่ือนตามทางสถลมารคพระโองการตรสั ใหแ้ ต่งเคร่อื งนมัสการพระ
ทุกหนา้ วงั หนา้ บา้ นร้านตลาด ตลอดจนถงึ ที่ประชวรอยแู่ ล้ว แต่ทรงพระอตุ สาหะ
เพม่ิ พระบารมหี วงั ทหี่ นว่ งโพธญิ าณ จะโปรดสตั ว์ ท�ำนบุ �ำรงุ พระพทุ ธศาสนา เสดจ็
พระราชด�ำเนนิ ตามกระบวนแหพ่ ระ หาทรงฉลองพระบาทไม่ จนถงึ พลบั พลาเสดจ็
ขึ้นเซพลาด เจา้ ฟา้ กรมขุนกษัตรา รับทรงพระองคไ์ ว้”
พระราชวิจารณ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่าด้วย
จดหมายเหตุความทรงจ�ำข้างต้นก็ทรงพระราชวิจารณ์ไว้ว่า “วัดสุทัศน์น้ีก�ำหนด
ว่าเปน็ กง่ึ กลางพระนคร จึงตง้ั เทวสถานมีเสาชงิ ช้า ณ ท่ีนั้น ตามประเพณพี ระนคร
โบราณ ขอ้ ซง่ึ วา่ พระราชประสงคจ์ ะท�ำใหส้ งู เทา่ วดั พนญั เชงิ นน้ั กช็ อบกลอยู่ เพราะ
ถมพื้นสูงขนึ้ ไปมาก ในพระนครซง่ึ เป็นทลี่ ุม่ ”
การสร้างวิหารหลวงแต่แรกเร่ิมในจดหมายเหตุและในพระราชวิจารณ์
ช้ีให้เห็นว่า โปรดให้สร้างวัดสุทัศน์สูงเทียบเท่าวัดพนัญเชิง แต่กลับปรากฏว่ารูป
แบบสถาปัตยกรรมของตัวพระวิหารหลวงวัดสุทัศน์นี้ใกล้เคียงกับพระวิหารพระ
มงคลบพติ ร ซึง่ ตั้งอยู่ในบริเวณพระราชวงั หลวงกรงุ เก่าอยา่ งชัดเจนท่สี ุด อนึ่งพระ
ใหญ่ ณ เมืองสุโขทัย (หล่อด้วยส�ำรดิ หนา้ ตักกวา้ ง ๓ วา ๑ คบื ) ในจดหมายเหตุ
นน้ั กค็ ือพระพทุ ธศรีศากยมนุ ี ซงึ่ รัชกาลที่ ๔ ทรงขนานพระนามประดิษฐานอยู่ ณ
พระวหิ ารหลวงบดั นี้ เดมิ ประดษิ ฐานอยทู่ วี่ ดั มหาธาตกุ รงุ สโุ ขทยั ซง่ึ รา้ งลง พระบาท
สมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราชโปรดเกลา้ ฯ ให้ย้ายลงมา ปรากฏความใน
พระราชพงศาวดารรชั กาลที่ ๑ วา่ เมอื่ เดอื น ๕ ปีมะโรงสมั ฤทธศิ ก (พุทธศกั ราช
๒๓๕๑) พระพุทธรูป ณ เมืองสุโขทัยลงมาถึงกรุงเทพฯ แล้วทอดทุ่นอยู่กลางน�้ำ
หน้าพระต�ำหนักแพ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการมหรสพสมโภช ทั้งกลาง
วนั กลางคนื โปรดให้มีการสมโภชเวยี นเทยี นพระพทุ ธรปู ใหญเ่ ป็นปฐม ต่อมาเม่อื
เดือน ๖ จงึ ชกั ลากข้นึ ไปประดษิ ฐานพักไว้ยงั ถนนเสาชิงช้าหนา้ พระวหิ ารหลวง (ใน
ปัจจบุ นั ) การชกั พระเล่อื นไปตามทางบกนั้น ไดเ้ ล่ือนแพไปเทียบ ท่ที ่าช้าง เหนือ
ก�ำแพงพระราชวังด้านเหนือฝั่งตะวันตก แต่ที่ท่าช้าง (ซึ่งเป็นประตูเมืองด้านหน่ึง)
ไมต่ รงถนน ทง้ั พระกย็ งั ใหญ่กวา่ ประตทู ท่ี ่าช้าง จ�ำต้องรือ้ ประตทู ง้ั ก�ำแพงออก จึง
ชกั พระขน้ึ เขา้ ทางประตนู ไี้ ด้ ภายหลงั บรเิ วณนจ้ี งึ เรยี กวา่ “ทา่ พระ” มาจนถงึ ปจั จบุ นั
น้ี และเหตนุ ีท้ �ำใหเ้ รยี กวดั สุทศั นโ์ ดยสามญั วา่ วดั พระใหญ่ วดั พระโต และเพราะ
วดั ตั้งอยู่บริเวณหนา้ เสาชิงช้า จงึ เรียกวา่ วดั เสาชงิ ชา้ อกี นามหน่งึ ด้วย
เมอื่ ชะลอพระพุทธศรีศากยมุนมี าประดิษฐานพักไวแ้ ลว้ ยงั มไิ ดย้ กขึ้น เพราะ
การก่อพระวิหารยังไม่แล้วเสรจ็ ทั้งทรงมีพระราชโองการโปรดใหห้ ลอ่ แกพ้ ระพทุ ธ
ศรีศากยมุนี ซึ่งมีส่วนช�ำรุดและมีลักษณะไม่ต้องด้วยพุทธลักษณะผิดจากพระบาลี
การพระราชปฏสิ งั ขรณพ์ ระพทุ ธศรศี ากยมนุ นี แ้ี ลว้ เสรจ็ พอดเี วลาทกี่ อ่ รากและฐาน
บัลลังก์ชุกชีส�ำเร็จจึงได้แต่ทรงยกพระขึ้นประดิษฐานเท่านั้น ในต้นปีมะเส็งเอกศก
พ.ศ. ๒๓๕๒ ซ่ึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จสวรรคต
ในเดอื น ๙ ปเี ดียวกนั นี้ การสรา้ งพระวหิ ารยงั ไมแ่ ล้วเสร็จ
ในการยกพระพทุ ธศรีศากยมนุ ขี น้ึ ประดษิ ฐานนีเ้ ป็นเวลาทที่ รงประชวรมาก
จงึ มีรับสง่ั ว่า “เพยี งไดย้ กพระขึ้นถึงทีส่ นิ้ ธุระเทา่ น้นั แลว้ ” การหลอ่ แกพ้ ระพทุ ธศรี
ศากยมนุ แี ละการกอ่ ฐานพระไดเ้ รง่ รดั เวลามาก เหตดุ ว้ ยทรงกลวั จะสวรรคตเสยี กอ่ น
ท่ีจะได้เชิญพระข้ึนท่ี คร้ันทอดพระเนตรเห็นเชิญพระขึ้นท่ีทันสมพระราชประสงค์
แล้ว ก็ทรงโสมนสั เปล่งพระอุทานว่า “สนิ้ ธุระแล้ว”
การก่อสร้างวัดสุทัศน์ที่ค่ังค้างอยู่ ได้ด�ำเนินการต่อมาในรัชกาลท่ี ๒
จนมาเสร็จสมบรู ณ์ในรัชกาลท่ี ๓ จงึ มพี ระสงฆเ์ ขา้ อยจู่ �ำพรรษา ดังความปรากฏใน
พระราชพงศาวดารรชั กาลที่ ๓ ตอนหนง่ึ วา่ “ พระราชด�ำรวิ า่ วดั พระโต เสาชงิ ชา้ ฯลฯ
พอสน้ิ แผ่นดนิ ไปครงั้ นี้จะตอ้ งท�ำใหเ้ ปน็ วัดขึ้นใหไ้ ด้ จึงให้พระยาศรพี ิพฒั นร์ ตั นราช
โกษา เป็นแม่กองดูท่ัวไปท้ังวัด ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหม่ืนพิทักษเทเวศร
ท�ำพระอุโบสถใหญ่และท�ำพระระเบียงล้อมพระวิหาร การน้ันส�ำเร็จทั่วทุกแห่ง
ทัง้ กุฏิสงฆ์ดว้ ย จงึ ให้อาราธนาพระธรรมไตรโลก อยูว่ ดั เกาะ ตัง้ เป็น พระพิมลธรรม
เป็นเจา้ อธิการจัดเอาพระภิกษใุ นวัดพระเชตพุ น วัดมหาธาตุ วัดราชบรุ ณะ รวมได้
๓๐๐ รปู ไปอยเู่ ปน็ อนั ดบั พระราชทานชอื่ วดั สทุ ศั นเทพธาราม (พระราชพงศาวดาร
ฉบบั พระยาทพิ ากรวงศ)์ ” ตอ่ มาในรชั กาลที่ ๔ ทรงพระราชปฏสิ งั ขรณพ์ ระวหิ ารและ
ทวั่ ไปในพระอาราม ท้งั ทรงแปลงนามวัดพระราชทานใหมว่ า่ “สุทศั นเทพวราราม”
(ออกเสยี งว่า ส-ุ ทดั -เทบ-พะ-วะ-รา-ราม) ในสมัยรชั กาลท่ี ๕ ทรงพระราชศรทั ธา
ปฏิสังขรณ์ใหญ่ทั่วท้ังพระอารามอีกคร้ังหน่ึง วัดสุทัศนเทพวรารามแห่งนี้
ได้รับการยกย่องให้เป็นวัดประจ�ำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหา
อานันทมหดิ ล รชั กาลท่ี ๘
พระอารามหลวงแห่งนสี้ ร้างข้ึนและไดร้ ับการท�ำนบุ �ำรงุ ด้วยพระราชศรทั ธา
และพระราชวริ ยิ อตุ สาหะอยา่ งแรงกลา้ ของพระมหากษตั รยิ ใ์ นพระบรมราชจกั รวี งศ์
ทุกพระองค์ มีอายุล่วงมาถึง ๒๑๔ ปีมีพระสงฆ์ได้รับการยกขึ้นเป็นเจ้าอาวาส
ปกครองวัด บริหารจัดการท�ำนุบ�ำรุงดูแลรักษา ให้เป็นท่ีเจริญพระราชศรัทธา
เปน็ รมณียสถาน เปน็ คารวสถาน ควรแกก่ ารเปน็ วดั ส�ำคญั ของเหล่าพทุ ธศาสนกิ ชน
และของชาตสิ บื มาจนบดั นี้ ซ่ึงเจ้าอาวาสของวดั สทุ ศั นเทพวรารามท่ีด�ำรงต�ำแหนง่
ลว่ งมาจนถงึ ปัจจบุ ันน้นั มพี ระนามและนาม ตามล�ำดบั ดังตอ่ ไปนี้
๑. สมเด็จพระอรยิ วงศาคตญาณ
(อู่ ป.ธ. ๙) รปู ที่ ๑ (พ.ศ. ๒๓๘๖ - ๒๔๐๑)
๒. พระพมิ ลธรรม
(อน้ ป.ธ. ๘) รปู ที่ ๒ (พ.ศ. ๒๔๐๑ - ๒๔๒๑)
พ.ศ. ๒๔๒๑ ยา้ ยไปครองวัดพระเชตุพนวมิ ลมังคลาราม
๓. สมเด็จพระวันรัต
(แดง สีลวฑฺฒโน ป.ธ. ๘) รูปท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๔๒๑ - ๒๔๔๓)
๔. สมเดจ็ พระอริยวงศาคตญาณ สมเดจ็ พระสงั ฆราช
สกลมหาสงั ฆปริณายก
(แพ ติสฺสเทโว ป.ธ. ๕) พระองคท์ ่ี ๔ (พ.ศ. ๒๔๔๓ - ๒๔๘๗)
สมเด็จพระสังฆราช พระองคท์ ี่ ๑๒ แห่งกรุงรัตนโกสนิ ทร์
(พ.ศ. ๒๔๘๑ - ๒๔๘๗)
๕. สมเดจ็ พระพุฒาจารย์
(โสม ฉนโฺ น ป.ธ. ๕) รปู ท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๔๘๙ - ๒๕๐๕)
๖. สมเด็จพระพฒุ าจารย์
(เสงย่ี ม จนฺทสิริ ป.ธ. ๖) รูปที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๐๕ - ๒๕๒๗)
๗. สมเดจ็ พระพทุ ธโฆษาจารย์
(วีระ ภทฺทจารี ป.ธ. ๙) รูปท่ี ๗ (พ.ศ. ๒๕๒๗ - ๒๕๕๙)
๘. พระวสิ ทุ ธาธิบดี
(เชิด จิตฺตคตุ ฺโต ป.ธ. ๙) รูปที่ ๘ (พ.ศ. ๒๕๕๙ - ปจั จุบนั )
สมเดจ็ พระอริยวงศาคตญาณ
(อู่ ป.ธ. ๙) รปู ที่ ๑ (พ.ศ. ๒๓๘๖ - ๒๔๐๑)
พระพมิ ลธรรม สมเดจ็ พระวนั รตั
(อ้น ป.ธ. ๘) รูปท่ี ๒ (พ.ศ. ๒๔๐๑ - ๒๔๒๑) (แดง สลี วฑฺฒโน ป.ธ. ๘) รปู ที่ ๓
(พ.ศ. ๒๔๒๑ ยา้ ยไปครอง (พ.ศ. ๒๔๒๑ - ๒๔๔๓)
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม)
สมเด็จพระอรยิ วงศาคตญาณ
สมเดจ็ พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
(แพ ตสิ ฺสเทโว ป.ธ. ๕) พระองค์ที่ ๔ (พ.ศ. ๒๔๔๓ - ๒๔๘๗)
สมเดจ็ พระสังฆราช พระองคท์ ่ี ๑๒ แหง่ กรุงรัตนโกสินทร์
(พ.ศ. ๒๔๘๑ - ๒๔๘๗)
สมเด็จพระพุฒาจารย์ สมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ สมเด็จพระพทุ ธโฆษาจารย์
(โสม ฉนฺโน ป.ธ. ๕) รูปท่ี ๕ (เสงี่ยม จนฺทสิริ ป.ธ. ๖) รูปที่ ๖ (วรี ะ ภททฺ จารี ป.ธ. ๙) รปู ที่ ๗
(พ.ศ. ๒๔๘๙ - ๒๕๐๕) (พ.ศ. ๒๕๐๕ - ๒๕๒๗) (พ.ศ. ๒๕๒๗ - ๒๕๕๙)
สารบญั ๑
๗
ท�ำวัตรเชา้ ๘
ตังขะณกิ ะปจั จะเวกขะณะปาฐะ ๙
สาธาระณานโุ มทะนาคาถา ๑๐
มงคลจักรวาฬนอ้ ย ๑๐
มงคลจักรวาลน้อย (ยอ่ ) ๑๑
เกณยิ านุโมทะนาคาถา ๑๑
กาละทานะสุตตะคาถา ๑๒
วหิ าระทานะคาถา ๑๒
เทวะตาทิสสะทักขณิ านุโมทะนาคาถา ๑๓
เทวะตาภสิ ัมมนั ตะนะคาถา ๑๔
อคั คัปปะสาทะสตุ ตะคาถา ๑๔
สงั คะหะวตั ถุคาถา ๑๕
โภชะนะทานานุโมทะนาคาถา ๑๕
อุณห๎ ิสสะวิชะยะคาถา ๑๖
อาทยิ ะสุตตะคาถา ๑๗
ตโิ รกุฑฑะกณั ฑะคาถา ๑๙
ถวายพรพระ ๒๐
ชะยะมงั คะละคาถา ๒๐
สพั พะมงั คะละคาถา ๒๑
ปัตติทานะคาถา ๒๒
ตโิ ลกะวิชะยะราชะปตั ตทิ านะคาถา ๒๒
เริ่มท�ำวัตรพระ บอกวตั ร ๒๖
ท�ำวัตรพระ
ท�ำวัตรเย็น
ชุมนุมเทวดา ๓๒
แบบสวดเจด็ ต�ำนาน ๓๒
แบบสวดสบิ สองต�ำนาน ๓๓
อันดบั ที่ ๑ ๓๔
อะตตี ะปจั จะเวกขะณะปาฐะ ๔๔
ปัตตทิ านะคาถา ๔๕
เทวธรรม ๔๖
บอกวัตร ๔๖
กรวดน้ำ� (อมิ ินา) ๕๒
บอกศกั ราชอยา่ งพิสดาร ๕๓
บอกศักราชอยา่ งย่อ ๕๔
อันดบั ที่ ๒ ๕๖
อันดบั ที่ ๓ ๖๔
อนั ดับท่ี ๔ ๖๙
อนั ดับท่ี ๕ ๗๖
อันดบั ท่ี ๖ ๘๓
อันดบั ที่ ๗ ๘๙
อันดับที่ ๘ ๙๘
อันดับท่ี ๙ ๑๐๔
อันดับท่ี ๑๐ ๑๐๙
อนั ดับท่ี ๑๑ ๑๑๘
อนั ดับที่ ๑๒ ๑๒๖
อนั ดับท่ี ๑๓ ๑๓๑
อนั ดบั ที่ ๑๔ ๑๓๘
อันดับท่ี ๑๕ ๑๔๒
อนั ดับที่ ๑๖ ๑๔๖
อนั ดับที่ ๑๗ ๑๔๙
อันดบั ที่ ๑๘ ๑๕๔
อันดับท่ี ๑๙ ๑๖๑
อันดับที่ ๒๐ ๑๖๖
ท�ำวตั รย่ำ� รงุ่ ๑๗๑
ธาตุปะฏิกูละปัจจะเวกขะณะปาฐะ ๑๗๗
ตังขะณิกะปจั จะเวกขะณะปาฐะ ๑๗๘
อะตีตะปัจจะเวกขะณะปาฐะ ๑๗๙
อาทิยะสุตตะคาถา ๑๘๐
เทวะตาทสิ สะทกั ขณิ านุโมทะนาคาถา ๑๘๐
เทวะตาภิสัมมันตะนะคาถา ๑๘๑
โภชะนะทานานโุ มทะนาคาถา ๑๘๒
อคั คปั ปะสาทะสุตตะคาถา ๑๘๒
กาละทานะสุตตะคาถา ๑๘๓
ตโิ รกฑุ ฑะกณั ฑะคาถา ๑๘๓
วิหาระทานะคาถา ๑๘๔
อุณ๎หิสสะวชิ ะยะคาถา ๑๘๕
ถวายพรพระ ๑๘๖
ชะยะมังคะละคาถา ๑๘๘
สัพพะมังคะละคาถา ๑๘๘
ทะสะธัมมะสตุ ตะปาฐะ ๑๘๙
เมตตานิสังสะสุตตะปาฐะ ๑๙๐
สลี ทุ เทสะปาฐะ ๑๙๑
ตายะนะคาถา ๑๙๒
ท๎วตั ตงิ สาการะปาโฐ ๑๙๒
ชนิ ะปัญชะระคาถา ๑๙๓
ปตั ติทานะคาถา ๑๙๕
ตโิ ลกะวชิ ะยะราชะปัตติทานะคาถา ๑๙๖
กรวดน�้ำย่อ ๑๙๖
ค�ำถวายตัวก่อนบ�ำเพ็ญพระกมั มฏั ฐาน ๑๙๗
ค�ำแผ่เมตตา ๑๙๘
ภาคผนวก ๒๐๐
สามเณรสกิ ขา ๒๐๐
พทุ ธมงคลคาถา ๒๐๒
พะละสตุ ตารัมภะ ๒๐๓
พะละสตุ ตัง ๒๐๔
ภิกขอุ ะปะรหิ านิยะธัมมะสุตตารัมภะ ๒๐๖
ภิกขุอะปะริหานยิ ะธมั มะสตุ ตงั ๒๐๖
เมตตาพร๎ ัห๎มะวหิ าระภาวะนา ๒๐๙
คาถาสวดเมอ่ื จดุ เทียนชยั ๒๒๕
พระราชพธิ ีพิรณุ ศาสตร ์ ๒๒๕
คาถาสวดเมือ่ ดับเทียนชยั ๒๒๕
ค�ำอาราธนาปาติโมกข์ ๒๒๘
คาํ อธิษฐานเข้าพรรษา ๒๓๓
ค�ำขอขมา ๒๓๓
คาํ ปวารณาออกพรรษา ๒๓๓
ค�ำสวดกฐนิ ๒๓๔
วธิ แี สดงอาบัต ิ ๒๓๕
ค�ำประกาศอุโบสถศีล ๒๓๗
ค�ำอาราธนาธรรม ๒๔๒
ค�ำถวายสงั ฆทาน ๒๔๔
ค�ำอปโลกนส์ งั ฆทาน ๒๔๕
ค�ำอาราธนาเบญจศลี ๒๔๗
ค�ำอาราธนาพระปรติ ร ๒๔๗
ค�ำบูชาในวนั มาฆบชู า ๒๔๘
ค�ำบชู าในวนั วสิ าขบชู า ๒๔๙
ค�ำบูชาในวนั อัฏฐมีบชู า ๒๕๐
ค�ำบูชาในวนั อาสาฬหบูชา ๒๕๑
ท�ำวตั รเช้าแปล ๒๕๓
ท�ำวตั รเย็นแปล ๒๗๑
บทสวดพระพทุ ธคณุ ๒๘๖
บทสวดพระธรรมคณุ ๒๘๗
บทสวดพระสงั ฆคณุ ๒๘๘
บทชยสิทธคิ าถา ๒๘๙
ค�ำแปลชนิ ะปัญชะระคาถา ๒๙๐
กมั มัฏฐาน พระญาณโพธิ (เขม็ กนุ ฺตาโร) ๒๙๓
ค�ำอทุ ศิ บุญกุศล ๒๙๗
ค�ำอธษิ ฐานบุญกุศล ๒๙๙
ภาคพิเศษ ๓๐๑
ค�ำถวายอดเิ รก ส�ำหรบั พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว รัชกาลที่ ๑๐ ๓๐๑
ค�ำแปลถวายอดเิ รก ๓๐๑
ค�ำถวายพระธรรมเทศนา ๓๐๒
ค�ำถวายพระพรลา ๓๐๓
ค�ำถวายอดเิ รก ส�ำหรับใชเ้ ฉพาะสมเด็จพระบรมราชชนนพี ันปหี ลวง ๓๐๓
ค�ำถวายพระพรลา ๓๐๔
ค�ำถวายอดเิ รก ส�ำหรับใชเ้ ฉพาะสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ ี ๓๐๔
ค�ำถวายพระพรลา ๓๐๕
ก
ระเบียบการสวดมนต์ วัดสทุ ศั นเทพวราราม
การท�ำวตั รสวดมนตข์ องวดั สทุ ศั นเทพวราราม มรี ะเบยี บแบบแผน
เปน็ การเฉพาะของพระอาราม แตกต่างจากที่อื่น คอื ไดม้ ีการจดั ระเบยี บ
การท�ำวัตรสวดมนต์เช้า - เย็น ไว้สวดยืนบทและมีบทสวดสลับทุกวัน
ซง่ึ เขา้ ใจวา่ ไดม้ กี ารจดั ระเบยี บการสวดลกั ษณะนใ้ี นสมยั สมเดจ็ พระวนั รตั
(แดง สลี วฑฺฒโน ป.ธ. ๘) อดีตเจา้ อาวาสวัดสทุ ศั นเทพวราราม
ดงั นน้ั การท�ำวตั รสวดมนตข์ องวดั สทุ ศั นเทพวรารามจงึ ถกู ก�ำหนด
เป็นระเบียบประจ�ำพระอาราม ดงั นี้
ข
ท�ำวัตรยำ่� รุ่ง
(เวลา ๐๔.๓๐ น. ณ ศาลาการเปรียญ ส�ำหรับพระภกิ ษุสามเณร
เฉพาะภายในพรรษากาล)
๑. สวดท�ำวัตรย�่ำรงุ่ หน้าที่ ๑๗๑
๒. สวดธาตุปะฏิกูละปัจจะเวกขะณะปาฐะ หนา้ ท ่ี ๑๗๗
๓. สวดตงั ขะณกิ ะปัจจะเวกขะณะปาฐะ หนา้ ท ่ี ๑๗๘
๔. สวดอะตตี ะปัจจะเวกขะณะปาฐะ หนา้ ที่ ๑๗๙
๕. สวดอะนุโมทะนาคาถา (วนั ละ ๑ บท) หนา้ ที่ ๑๘๐-๑๘๕
๖. สวดถวายพรพระ หน้าที่ ๑๘๖
๗. สวดทะสะธัมมะสตุ ตะปาฐะ หน้าท ่ี ๑๘๙
๘. สวดเมตตานิสงั สะสตุ ตะปาฐะ หน้าท ่ี ๑๙๐
๙. สวดสลี ุทเทสะปาฐะ หน้าท ่ี ๑๙๑
และตอ่ ด้วยตายะนะคาถา หนา้ ที่ ๑๙๒
๑๐. สวดท๎วัตติงสาการะปาโฐ หนา้ ที่ ๑๙๒
๑๑. สวดชินะปญั ชะระคาถา หนา้ ที่ ๑๙๓
๑๒. สวดปัตติทานะคาถา หน้าท ่ี ๑๙๕
๑๓. สวดตโิ ลกะวชิ ะยะราชะปัตตทิ านะคาถา หน้าท ่ี ๑๙๖
๑๔. กรวดน�ำ้ ย่อ หน้าที่ ๑๙๖
๑๕. ค�ำถวายตวั กอ่ นบ�ำเพ็ญพระกัมมฏั ฐาน หนา้ ที่ ๑๙๗
๑๖. ค�ำแผ่เมตตา หน้าที่ ๑๙๘
๑๗. ค�ำนมัสการพระรตั นตรยั หน้าที่ ๑๙๙
ค
ทำ� วัตรเช้า
(เวลา ๐๘.๓๐ น. ณ พระอโุ บสถ ส�ำหรบั พระภกิ ษสุ ามเณร)
๑. สวดท�ำวัตรเช้า หนา้ ท่ี ๑
๒. สวดตังขะณิกะปัจจะเวกขะณะปาฐะ หน้าท่ี ๗
๓. สวดอะนุโมทะนาคาถา (วนั ละ ๑ บท) หนา้ ท่ี ๘-๑๖
๔. สวดถวายพรพระ หนา้ ที่ ๑๗
๕. สวดปตั ติทานะคาถา หน้าท่ี ๒๐
๖. สวดตโิ ลกะวชิ ะยะราชะปตั ตทิ านะคาถา หนา้ ที่ ๒๑
หมายเหตุ : เฉพาะในระหวา่ งพรรษากาล เม่อื จบท�ำวัตรเช้าแลว้ สามเณร
สวดสามเณรสิกขา
ทำ� วตั รเช้า
(ทกุ วันพระเวลา ๐๙.๐๐ น. ณ พระวหิ ารหลวง)
๑. พระภิกษุสามเณรท�ำวัตรเช้า (สวดเฉพาะท�ำวัตรเช้า และเฉพาะ
ในระหว่างพรรษากาล เม่ือจบท�ำวัตรเช้าแล้ว สามเณรสวด
สามเณรสิกขา)
๒ . อุบาสกอุบาสิกาท�ำวัตรเช้า ประกาศอุโบสถ และสมาทาน
อุโบสถศลี
๓. พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา อุบาสกอุบาสิกาสดับพระธรรม
เทศนา
๔. ถวายสังฆทาน
๕. พระสงฆ์อนุโมทนา
ง
ทำ� วัตรภาคเทย่ี ง
(วันจนั ทร์ - ศกุ ร์ เวลา ๑๒.๐๐ น. วันเสาร์ - อาทติ ย์ เวลา ๑๓.๐๐ น.
ณ พระวิหารหลวง ส�ำหรับอบุ าสกอบุ าสิกา)
๑. คาถาบชู าพระรัตนตรยั หนา้ ที่ ๑
๒. สวดท�ำวตั รพระ หน้าท่ี ๒๒
๓. ชุมนมุ เทวดา หน้าที่ ๓๒
๔. สวดอนั ดบั (วนั ละ ๑ อันดับ)
๕. สวดพุทธะมงั คะละคาถา หนา้ ที่ ๒๐๒
๖. สวดชินะปญั ชะระคาถา หน้าที่ ๑๙๓
๗. สวดปัตตทิ านะคาถา หน้าที่ ๒๐
๘. สวด หิริโอตัปปะสัมปนั นา ถงึ เทวะธัมมาติ วุจจะเร หน้าที่ ๔๖
แลว้ ตอ่ ด้วย วนั ทามิ เจตยิ ัง ถึง สัมปาเทถาติ หนา้ ที่ ๕๐
๙. สวดกรวดนำ้� (อมิ นิ า) หน้าที่ ๕๒
๑๐. สวดค�ำอธษิ ฐานบุญกศุ ล หน้าท่ี ๒๙๙
ทำ� วตั รเยน็
(เวลา ๑๖.๐๐ น. ณ พระอโุ บสถ ส�ำหรับพระภกิ ษุสามเณร)
๑. สวดท�ำวตั รเย็น หนา้ ท่ี ๒๖
๒. ชมุ นุมเทวดา หนา้ ท่ี ๓๒
๓. สวดอันดับ (วนั ละ ๑ อนั ดับ) หนา้ ท่ี ๔๔
๔. สวดอะตตี ะปัจจะเวกขะณะปาฐะ หน้าที่ ๔๕
๕. สวดปัตติทานะคาถา หนา้ ที่ ๔๖
๖. บอกวตั ร (สวดเดยี่ ว ให้ใช้สวดสลบั ๓ รูป)
ถึง อะนปุ าทเิ สสายะ นพิ พานะธาตยุ า
จ
(เฉพาะภายในพรรษากาล)
๗. บอกศักราชอย่างพสิ ดาร (เฉพาะภายในพรรษากาล) หน้าที่ ๕๓
๘. สวด หิริโอตัปปะสมั ปันนา ถึง เทวะธมั มาติ วจุ จะเร หนา้ ท่ี ๕๖
แลว้ ต่อด้วย วันทามิ เจตยิ งั ถึง สัมปาเทถาติ หนา้ ที่ ๕๐
(เฉพาะภายในพรรษากาล เรม่ิ สวดที่ วันทามิ เจตยิ ัง ฯลฯ)
๙. สวดกรวดนำ�้ (อิมินา) หน้าท่ี ๕๒
๑๐. เจรญิ จิตภาวนา
๑๑. แผเ่ มตตา หนา้ ที่ ๑๙๘
ท�ำวัตรเย็น
(เวลา ๑๖.๐๐ น. เฉพาะในวนั ฟังพระปาฏโิ มกข์ ส�ำหรบั พระภิกษสุ งฆ)์
๑. สวดท�ำวัตรเยน็ หน้าที่ ๒๖
๒. ฟงั พระปาฏิโมกข์
๓. สวดบท สมั พทุ เธ หนา้ ที่ ๓๔
๔. สวดนะโมการะอัฏฐะกัง หน้าท่ี ๓๕
๕. สวดสีลทุ เทสะปาฐะ หนา้ ท่ี ๑๙๑
และต่อด้วยตายะนะคาถา หนา้ ท่ี ๑๙๒
๖. สวดอะตีตะปจั จะเวกขะณะปาฐะ หนา้ ท่ี ๔๔
๗. สวดปตั ตทิ านะคาถา หน้าท่ี ๔๕
๘. สวด หริ ิโอตตัปปะสมั ปันนา ถึง เทวะธมั มาติ วจุ จะเร หน้าท่ี ๔๖
แลว้ ตอ่ ด้วย วันทามิ เจตยิ งั ถึง สะกะลัง สะทา หน้าท่ี ๕๐
ฉ
ทำ� วัตรเยน็
(เวลา ๑๙.๐๐ น. ส�ำหรับอบุ าสกอบุ าสกิ า ณ พระวหิ ารหลวง)
๑. สวดท�ำวัตรเย็น หน้าที่ ๒๖
๒. ชุมนมุ เทวดา หน้าที่ ๓๒
๓. สวดอนั ดบั (วนั ละอนั ดับ)
๔. สวดพทุ ธะมงั คะละคาถา หนา้ ท่ี ๒๐๒
๕. สวดชินะปญั ชะระคาถา หนา้ ที่ ๑๙๓
๖. สวดอะตีตะปจั จะเวกขะณะปาฐะ หนา้ ท่ี ๔๔
๗. สวดปตั ติทานะคาถา หน้าที่ ๔๕
๘. สวด หริ ิโอตตปั ปะสมั ปันนา ถึง เทวะธัมมาติ วจุ จะเร หนา้ ท่ี ๔๖
แล้วต่อดว้ ย วนั ทามิ เจตยิ งั ถึง สมั ปาเทถาติ หนา้ ท่ี ๕๐
๙. สวดกรวดน้�ำ (อมิ นิ า) หนา้ ที่ ๕๒
๑๐. สวดค�ำอธษิ ฐานบญุ กศุ ล หนา้ ที่ ๒๙๙
สวดมนตว์ ดั สทุ ศั น์ สวดมนต์วัดสุทัศน์ สวดมนตว์ ัดสทุ ัศน์
ภาคเทยี่ ง ภาคค่�ำ
สวดมนต์ วัดสุทัศนเทพวราราม 1
ท�ำวัตรเช้า1
(นง่ั คกุ เข่า กราบ ๑ ครั้ง ประธานน�ำสวด)
คาถาบชู าพระรตั นตรยั
โย โส ภะคะวา อะระหัง สมั มาสัมพทุ โธ
สว๎ ากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธมั โม
สปุ ะฏิปันโน ยสั สะ ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ
ตัมมะยงั ภะคะวนั ตงั สะธมั มงั สะสงั ฆงั
อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหงั อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ
สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สจุ ริ ะปะรินพิ พุโตปิ
ปจั ฉิมาชะนะตานกุ ัมปะมานะสา
อิเม สักกาเร ทุคคะตะปณั ณาการะภูเต ปะฏคิ คัณหาตุ
อัมหากงั ทีฆะรัตตงั หติ ายะ สุขายะ ฯ
ค�ำนมัสการพระรัตนตรยั
อะระหงั สมั มาสมั พุทโธ ภะคะวา
พุทธงั ภะคะวันตงั อะภวิ าเทมิ ฯ (กราบ ๑ ครง้ั )
สว๎ ากขาโต ภะคะวะตา ธมั โม
ธัมมัง นะมัสสามิ ฯ (กราบ ๑ ครง้ั )
สุปะฏิปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ
สังฆงั นะมามิ ฯ (กราบ ๑ คร้ัง)
1 พระราชนพิ นธ์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจา้ อยู่หวั
2 สวดมนต์ วัดสุทศั นเทพวราราม
ค�ำเชญิ บูชา
(ประธาน)
ยะมัม๎หะ โข มะยัง ภะคะวันตัง สะระณัง คะตา
อทุ ทสิ สะ ปพั พะชิตา โย โน ภะคะวา สัตถา
ยสั ๎มิง ภะคะวะติ พร๎ ัห๎มะจะริยงั จะรามะ
ตัมมะยัง ภะคะวนั ตงั สะธมั มัง สะสังฆัง
อิเมหิ สกั กาเรหิ ยะถาระหงั อาโรปเิ ตหิ อะภปิ ูชะยิต๎วา
อะภวิ าทะนงั กะริม๎หา
หันทะทานิ มะยัง ตัง ภะคะวันตงั วาจายะ อะภิถุตงุ
ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เส ฯ
(รองประธานรับ)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสมั พทุ ธัสสะ
นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสมั พทุ ธสั สะ
นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ
บทพทุ ธาภถิ ตุ ิ
(หนั ทะ มะยัง พุทธาภิถตุ งิ กะโรมะ เส)
โย โส ตะถาคะโต อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ,
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู, อะนุตตะโร
ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนสุ สานงั พุทโธ ภะคะวา,
โย อิมัง โลกัง สะเทวะกัง สะมาระกัง สะพ๎รัห๎มะกัง,
สวดมนต์ วดั สุทัศนเทพวราราม 3
สัสสะมะณะพ๎ราห๎มะณิง ปะชัง สะเทวะมะนุสสัง สะยัง
อะภญิ ญา สจั ฉกิ ตั ว๎ า ปะเวเทส,ิ โย ธมั มงั เทเสสิ อาทกิ ลั ย๎ าณงั
มัชเฌกลั ๎ยาณงั ปะรโิ ยสานะกลั ย๎ าณงั , สาตถงั สะพย๎ ญั ชะนัง
เกวะละปะริปุณณัง ปะริสุทธัง พ๎รัห๎มะจะริยัง ปะกาเสสิ,
ตะมะหัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ ตะมะหัง ภะคะวันตัง
สิระสา นะมามิ ฯ
(กราบ ๑ ครง้ั )
ธมั มาภิถตุ ิ
(หันทะ มะยงั ธัมมาภิถุติง กะโรมะ เส)
โย โส ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, สันทิฏฐิโก
อะกาลโิ ก เอหปิ สั สโิ ก, โอปะนะยโิ ก ปจั จตั ตงั เวทติ พั โพ วญิ ญหู ,ิ
ตะมะหงั ธมั มงั อะภปิ ชู ะยามิ ตะมะหงั ธมั มงั สริ ะสา นะมามิ ฯ
(กราบ ๑ คร้งั )
สังฆาภถิ ตุ ิ
(หนั ทะ มะยัง สงั ฆาภถิ ตุ ิง กะโรมะ เส)
โย โส สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ญายะปะฏิปันโน
ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต
สาวะกะสังโฆ, ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ
4 สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม
ปุรสิ ะปคุ คะลา, เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ, อาหุเนยโย
ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย, อะนุตตะรัง
ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ, ตะมะหัง สังฆัง อะภิปูชะยามิ
ตะมะหัง สังฆัง สิระสา นะมามิ ฯ
(กราบ ๑ ครั้ง แล้วนั่งราบ)
ระตะนตั ตะยปั ปะณามะคาถา
และสังเวคะปะริกิตตะนะปาฐะ
(หนั ทะ มะยัง ระตะนตั ตะยัปปะณามะคาถาโย เจวะ
สงั เวคะปะริกิตตะนะปาฐญั จะ ภะณามะ เส)
พทุ โธ สสุ ทุ โธ กะรุณามะหณั ณะโว
โยจจันตะสุทธพั พะระญาณะโลจะโน
โลกสั สะ ปาปปู ะกเิ ลสะฆาตะโก
วันทามิ พุทธงั อะหะมาทะเรนะ ตัง
ธัมโม ปะทีโป วิยะ ตสั สะ สตั ถโุ น
โย มัคคะปากามะตะเภทะภนิ นะโก
โลกตุ ตะโร โย จะ ตะทตั ถะทปี ะโน
วนั ทามิ ธมั มงั อะหะมาทะเรนะ ตงั
สงั โฆ สเุ ขตตาภย๎ ะตเิ ขตตะสญั ญโิ ต
โย ทฏิ ฐะสันโต สุคะตานโุ พธะโก
โลลัปปะหีโน อะรโิ ย สุเมธะโส
สวดมนต์ วดั สทุ ศั นเทพวราราม 5
วนั ทามิ สังฆัง อะหะมาทะเรนะ ตัง
อิจเจวะเมกันตะภิปชู ะเนยยะกงั
วตั ถุตตะยงั วันทะยะตาภิสงั ขะตงั
ปุญญัง มะยา ยงั มะมะ สัพพุปัททะวา
มา โหนตุ เว ตสั สะ ปะภาวะสทิ ธิยา ฯ
อธิ ะ ตะถาคะโต โลเก อปุ ปนั โน อะระหงั สมั มาสมั พทุ โธ,
ธัมโม จะ เทสิโต นิยยานิโก อุปะสะมิโก ปะรินิพพานิโก
สมั โพธะคามี สุคะตปั ปะเวทิโต, มะยนั ตงั ธัมมงั สตุ ว๎ า เอวงั
ชานามะ, ชาติปิ ทุกขา ชะราปิ ทุกขา มะระณัมปิ ทุกขัง,
โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาปิ ทุกขา, อัปปิเยหิ
สัมปะโยโค ทุกโข ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข, ยัมปิจฉัง
นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง, สังขิตเตนะ ปัญจุปาทานักขันธา
ทกุ ขา, เสยยะถที ัง, รูปปู าทานกั ขันโธ, เวทะนปู าทานักขันโธ,
สญั ญปู าทานกั ขนั โธ, สงั ขารปู าทานกั ขนั โธ, วญิ ญาณปู าทานกั -
ขนั โธ, เยสงั ปะรญิ ญายะ, ธะระมาโน โส ภะคะวา, เอวงั พะหลุ งั
สาวะเก วเิ นติ, เอวงั ภาคา จะ ปะนัสสะ ภะคะวะโต สาวะเกสุ
อะนุสาสะนี, พะหุลา ปะวัตตะติ, รูปัง อะนิจจัง, เวทะนา
อะนิจจา, สัญญา อะนิจจา, สังขารา อะนิจจา, วิญญาณัง
อะนจิ จัง, รปู งั อะนตั ตา, เวทะนา อะนตั ตา, สัญญา อะนตั ตา,
สังขารา อะนัตตา, วิญญาณัง อะนัตตา, สัพเพ สังขารา
อะนจิ จา, สพั เพ ธมั มา อะนตั ตาต,ิ เต (ตา ส�ำหรบั ผหู้ ญงิ ) มะยงั ,
6 สวดมนต์ วดั สุทัศนเทพวราราม
โอตณิ ณาม๎หะ ชาติยา ชะรามะระเณนะ, โสเกหิ ปะรเิ ทเวหิ
ทกุ เขหิ โทมะนสั เสหิ อปุ ายาเสห,ิ ทกุ โขตณิ ณา ทกุ ขะปะเรตา,
อัปเปวะนามิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยา
ปัญญาเยถาติ, จิระปะรินิพพตุ มั ปิ ตัง ภะคะวันตัง อุททสิ สะ
อะระหนั ตัง สมั มาสมั พทุ ธงั , สัทธา อะคารสั ม๎ า อะนะคารยิ ัง
ปพั พะชติ า, ตสั ม๎ งิ ภะคะวะติ พร๎ หั ม๎ ะจะรยิ งั จะรามะ, ภกิ ขนู งั
สิกขาสาชีวะสะมาปันนา, ตัง โน พ๎รัห๎มะจะริยัง, อิมัสสะ
เกวะลัสสะ ทกุ ขักขันธัสสะ อนั ตะกิริยายะ สังวตั ตะตุ ฯ
(ส�ำหรบั อุบาสกอุบาสิกาสวด)
จิระปะรินิพพุตัมปิ ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คะตา,
ธมั มญั จะ ภกิ ขสุ งั ฆญั จะ, ตสั สะ ภะคะวะโต สาสะนงั ยะถาสะติ
ยะถาพะลัง มะนะสิกะโรมะ อะนุปะฏิปัชชามะ, สา สา โน
ปะฏิปัตติ, อิมัสสะ เกวะลัสสะ ทกุ ขกั ขนั ธัสสะ อันตะกริ ิยายะ
สงั วตั ตะตุ ฯ
สวดมนต์ วัดสุทศั นเทพวราราม 7
ตังขะณิกะปัจจะเวกขะณะปาฐะ2
(หันทะ มะยัง ตงั ขะณกิ ะปจั จะเวกขะณะปาฐัง ภะณามะ เส)
ปะฏสิ งั ขา โยนโิ ส จวี ะรงั ปะฏเิ สวาม,ิ ยาวะเทวะ สตี สั สะ
ปะฏิฆาตายะ, อุณ๎หัสสะ ปะฏิฆาตายะ, ฑังสะมะกะสะ-
วาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ, ยาวะเทวะ
หริ โิ กปินะปะฏจิ ฉาทะนตั ถัง ฯ
ปะฏิสังขา โยนิโส ปิณฑะปาตัง ปะฏิเสวามิ, เนวะ
ท๎วายะ นะ มะทายะ นะ มัณฑะนายะ นะ วิภูสะนายะ,
ยาวะเทวะ อมิ สั สะ กายสั สะ ฐติ ยิ า ยาปะนายะ วหิ งิ สปุ ะระตยิ า
พ๎รัห๎มะจะริยานุคคะหายะ, อิติ ปุราณัญจะ เวทะนัง
ปะฏหิ งั ขามิ นะวญั จะ เวทะนงั นะ อปุ ปาเทสสาม,ิ ยาตร๎ า จะ เม
ภะวสิ สะติ อะนะวัชชะตา จะ ผาสวุ ิหาโร จาติ ฯ
ปะฏิสงั ขา โยนโิ ส เสนาสะนัง ปะฏเิ สวามิ, ยาวะเทวะ
สตี สั สะ ปะฏฆิ าตายะ, อณุ ห๎ สั สะ ปะฏฆิ าตายะ, ฑงั สะมะกะสะ-
วาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ, ยาวะเทวะ
อตุ ปุ ะรสิ สะยะวโิ นทะนงั ปะฏิสัลลานารามตั ถงั ฯ
ปะฏิสังขา โยนโิ ส คลิ านะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขารงั
ปะฏิเสวามิ, ยาวะเทวะ อุปปันนานัง เวยยาพาธิกานัง
เวทะนานัง ปะฏิฆาตายะ, อัพย๎ าปัชฌะปะระมะตายาติ ฯ
(ต่อไปสวดบทอนโุ มทนา วันละ ๑ บท)
2 ม. มลู . ๑๒/๑๔
8 สวดมนต์ วดั สทุ ัศนเทพวราราม
สาธาระณานโุ มทะนาคาถา
(ประธาน)
ยะถา วาริวะหา ปูรา ปะริปเู รนติ สาคะรงั
เอวะเมวะ อโิ ต ทินนงั เปตานัง อปุ ะกปั ปะติ
อิจฉิตงั ปตั ถิตงั ตุม๎หัง ขปิ ปะเมวะ สะมิชฌะตุ
สพั เพ ปเู รนตุ สงั กัปปา จันโท ปัณณะระโส ยะถา
มะณิ โชตริ ะโส ยะถา ฯ
(รบั พรอ้ มกัน)
สพั พีติโย ววิ ัชชันตุ สพั พะโรโค วินัสสะตุ
มา เต ภะวัต๎วนั ตะราโย สุขี ทฆี ายโุ ก ภะวะ
สพั พีตโิ ย วิวชั ชันตุ สัพพะโรโค วินัสสะตุ
มา เต ภะวตั ว๎ นั ตะราโย สขุ ี ทีฆายโุ ก ภะวะ
สพั พตี โิ ย วิวัชชันตุ สัพพะโรโค วินัสสะตุ
มา เต ภะวัตว๎ นั ตะราโย สุขี ทฆี ายุโก ภะวะ
อะภิวาทะนะสีลิสสะ นจิ จงั วฑุ ฒาปะจายโิ น
จตั ตาโร ธมั มา วฑั ฒนั ติ อายุ วณั โณ สุขงั พะลงั ฯ
สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม 9
มงคลจกั รวาฬน้อย
สพั พะพุทธานุภาเวนะ สพั พะธมั มานุภาเวนะ สพั พะ-
สงั ฆานุภาเวนะ พุทธะระตะนงั ธมั มะระตะนงั สงั ฆะระตะนงั
ติณณัง ระตะนานัง อานุภาเวนะ จะตุราสีติสะหัสสะธัมมัก-
ขนั ธานภุ าเวนะ ปฏิ ะกตั ตะยานภุ าเวนะ ชนิ ะสาวะกานภุ าเวนะ
สพั เพ เต โรคา สพั เพ เต ภะยา สัพเพ เต อันตะรายา สพั เพ
เต อุปทั ทะวา สัพเพ เต ทนุ นิมิตตา สัพเพ เต อะวะมังคะลา
วินัสสนั ตุ อายุวัฑฒะโก ธะนะวฑั ฒะโก สริ ิวฑั ฒะโก ยะสะ-
วัฑฒะโก พะละวัฑฒะโก วณั ณะวฑั ฒะโก สุขะวัฑฒะโก โหตุ
สัพพะทา ฯ
ทุกขะโรคะภะยา เวรา โสกา สตั ตุ จุปัททะวา
อะเนกา อนั ตะรายาปิ วนิ สั สนั ตุ จะ เตชะสา
ชะยะสทิ ธิ ธะนัง ลาภงั โสตถิ ภาคย๎ งั สุขัง พะลงั
สิริ อายุ จะ วณั โณ จะ โภคงั วุฑฒี จะ ยะสะวา
สะตะวัสสา จะ อายู จะ ชวี ะสิทธี ภะวันตุ เต ฯ
(ถดั ไปสวด ถวายพรพระ หน้า ๑๗)
10 สวดมนต์ วดั สทุ ศั นเทพวราราม
มงคลจักรวาลนอ้ ย (ย่อ)
ระตะนัตตะยานภุ าเวนะ ระตะนัตตะยะเตชะสา
ทุกขะโรคะภะยา เวรา โสกา สัตตุ จปุ ทั ทะวา
อะเนกา อันตะรายาปิ วนิ สั สันตุ อะเสสะโต
ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภงั โสตถิ ภาคย๎ ัง สุขัง พะลัง
สิริ อายุ จะ วณั โณ จะ โภคงั วฑุ ฒี จะ ยะสะวา
สะตะวสั สา จะ อายู จะ ชวี ะสทิ ธี ภะวนั ตุ เต ฯ
(ถัดไปสวด ถวายพรพระ หน้า ๑๗)
เกณยิ านโุ มทะนาคาถา3
อัคคิหุตตังมขุ า ยัญญา สาวติ ติ ฉนั ทะโส มุขงั
ราชา มขุ งั มะนสุ สานงั นะทนี ัง สาคะโร มขุ งั
นักขัตตานงั มุขัง จนั โท อาทจิ โจ ตะปะตงั มขุ งั
ปุญญะมากงั ขะมานานงั สังโฆ เว ยะชะตัง มขุ งั
ภะณิสสามะ มะยงั คาถา กาละทานัปปะทีปิกา
เอตา สณุ ันตุ สักกจั จัง ทายะกา ปุญญะกามิโน ฯ
*งานพระราชพิธีใช้ “ราชาทปิ ญุ ญะกามิโน”
(ถัดไปสวด ถวายพรพระ หน้า ๑๗)
3 ม. ม. ๑๓/๖๑๑
สวดมนต์ วดั สทุ ศั นเทพวราราม 11
กาละทานะสตุ ตะคาถา4
กาเล ทะทนั ติ สะปัญญา วะทัญญู วตี ะมัจฉะรา
กาเลนะ ทนิ นงั อะริเยสุ อชุ ุภเู ตสุ ตาทสิ ุ
วิปปะสนั นะมะนา ตสั สะ วิปลุ า โหติ ทักขณิ า
เย ตัตถะ อะนุโมทนั ต ิ เวยยาวจั จัง กะโรนติ วา
นะ เตนะ ทกั ขิณา โอนา เตปิ ปุญญสั สะ ภาคิโน
ตัสม๎ า ทะเท อปั ปะฏวิ านะจติ โต ยัตถะ ทินนัง มะหปั ผะลัง
ปุญญานิ ปะระโลกัสม๎ งิ ปะตฏิ ฐา โหนติ ปาณนิ นั ติ ฯ
(ถดั ไปสวด ถวายพรพระ หนา้ ๑๗)
วิหาระทานะคาถา5
สตี งั อณุ ห๎ งั ปะฏิหันติ ตะโต วาฬะมคิ านิ จะ
สิริงสะเป จะ มะกะเส สสิ เิ ร จาปิ วฏุ ฐิโย
ตะโต วาตาตะโป โฆโร สญั ชาโต ปะฏิหญั ญะติ
เลณัตถญั จะ สขุ ัตถญั จะ ฌายิตุง จะ วปิ สั สิตงุ
วิหาระทานงั สังฆสั สะ อคั คัง พทุ เธหิ วัณณิตัง
ตสั ๎มา หิ ปณั ฑโิ ต โปโส สมั ปัสสัง อตั ถะมัตตะโน
วิหาเร การะเย รัมเม วาสะเยตถะ พะหุสสุเต
เตสัง อนั นัญจะ ปานัญจะ วัตถะเสนาสะนานิ จะ
4 อง. ปญจฺ ก. ๒๒/๓๖
5 จุลลฺ วคฺค ทตุ ิย (วนิ ัย) ๗/๒๐๓
12 สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม
ทะเทยยะ อุชภุ ูเตสุ วปิ ปะสันเนนะ เจตะสา
เต ตัสสะ ธมั มัง เทเสนติ สพั พะทุกขาปะนทู ะนัง
ยงั โส ธัมมะมธิ ญั ญายะ ปะรนิ พิ พาตย๎ ะนาสะโวติ ฯ
(ถดั ไปสวด ถวายพรพระ หน้า ๑๗)
เทวะตาทสิ สะทักขิณานุโมทะนาคาถา6
ยัสม๎ งิ ปะเทเส กปั เปติ วาสงั ปณั ฑติ ะชาตโิ ย
สลี ะวันเตตถะ โภเชต๎วา สัญญะเต พ๎รัห๎มะจารโิ น
ยา ตตั ถะ เทวะตา อาสงุ ตาสงั ทกั ขณิ ะมาทิเส
ตา ปูชิตา ปชู ะยันติ มานติ า มานะยนั ติ นงั
ตะโต นงั อะนุกัมปันติ มาตา ปุตตงั วะ โอระสัง
เทวะตานุกัมปโิ ต โปโส สะทา ภัทร๎ านิ ปสั สะติ ฯ
(ไม่หยดุ สวดตอ่ เทวะตาภสิ ัมมนั ตะนะคาถา)
เทวะตาภสิ ัมมันตะนะคาถา
ยานีธะ ภตู านิ สะมาคะตานิ
ภมุ มานิ วา ยานิ วะ อันตะลกิ เข
สัพเพ วะ ภตู า สุมะนา ภะวนั ตุ
อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสติ งั
สุภาสิตงั กญิ จปิ ิ โว ภะเณมุ
6 ขุ. อุ. ๒๕/๑๗๓
สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม 13
ปุญเญ สะตปุ ปาทะกะรงั อะปาปงั
ธัมมปู ะเทสงั อะนกุ าระกานัง
ตัสม๎ า หิ ภูตานิ สะเมนตุ สพั เพ
เมตตงั กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ
ภูเตสุ พาฬห๎ ัง กะตะภัตตกิ ายะ
ทิวา จะ รตั โต จะ หะรันติ เย พะลงิ
ปจั โจปะการัง อะภิกังขะมานา
เต โข มะนุสสา ตะนกุ านุภาวา
ภูตา วเิ สเสนะ มะหทิ ธิกา จะ
อะทสิ สะมานา มะนุเชหิ ญาตา
ตัส๎มา หิ เน รักขะถะ อัปปะมตั ตา ฯ
(ถัดไปสวด ถวายพรพระ หน้า ๑๗)
อัคคปั ปะสาทะสตุ ตะคาถา7
อัคคะโต เว ปะสนั นานัง อคั คงั ธมั มงั วชิ านะตงั
อคั เค พุทเธ ปะสนั นานงั ทกั ขเิ ณยเย อะนตุ ตะเร
อัคเค ธัมเม ปะสันนานงั วิราคูปะสะเม สุเข
อัคเค สงั เฆ ปะสนั นานงั ปญุ ญักเขตเต อะนตุ ตะเร
อัคคสั ๎มงิ ทานัง ทะทะตัง อัคคงั ปญุ ญัง ปะวฑั ฒะติ
อัคคัง อายุ จะ วัณโณ จะ ยะโส กิตติ สุขัง พะลงั
7 องฺ. จตกุ ฺก. ๒๑/๓๔
14 สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม
อัคคสั สะ ทาตา เมธาวี อคั คะธัมมะสะมาหิโต
เทวะภูโต มะนุสโส วา อคั คปั ปตั โต ปะโมทะตตี ิ ฯ
(ถัดไปสวด ถวายพรพระ หน้า ๑๗)
สงั คะหะวัตถุคาถา8
ทานัญจะ เปยยะวัชชัญจะ อตั ถะจะรยิ า จะ ยา อิธะ
สะมานตั ตะตา จะ ธัมเมสุ ตัตถะ ตตั ถะ ยะถาระหงั
เอเต โข สงั คะหา โลเก ระถสั สาณี วะ ยายะโต
เอเต จะ สงั คะหา นาสสุ นะ มาตา ปตุ ตะการะณา
ละเภถะ มานัง ปชู งั วา ปิตา วา ปตุ ตะการะณา
ยสั ม๎ า จะ สงั คะหา เอเต สะมะเวกขันติ ปณั ฑติ า
ตสั ๎มา มะหัตตงั ปปั โปนติ ปาสงั สา จะ ภะวนั ติ เตติ ฯ
(ถัดไปสวด ถวายพรพระ หนา้ ๑๗)
โภชะนะทานานโุ มทะนาคาถา9
อายุโท พะละโท ธีโร วณั ณะโท ปะฏภิ าณะโท
สขุ สั สะ ทาตา เมธาวี สุขัง โส อะธิคัจฉะติ
อายุง ทตั ว๎ า พะลัง วณั ณัง สุขญั จะ ปะฏภิ าณะโท
ทฆี ายุ ยะสะวา โหต ิ ยตั ถะ ยัตถปู ะปชั ชะตีติ ฯ
(ถดั ไปสวด ถวายพรพระ หน้า ๑๗)
8 องฺ. จตุกฺก. ๒๑/๓๒
9 องฺ. ปญฺจก. ๒๒/๓๗
สวดมนต์ วดั สุทศั นเทพวราราม 15
อณุ ๎หิสสะวิชะยะคาถา
อตั ถิ อณุ ห๎ สิ สะ วชิ ะโย ธมั โม โลเก อะนตุ ตะโร
สพั พะสัตตะหิตัตถายะ ตัง ตว๎ ัง คัณหาหิ เทวะเต
ปะริวชั เช ราชะทณั เฑ อะมะนุสเสหิ ปาวะเก
พ๎ยคั เฆ นาเค วิเส ภูเต อะกาละมะระเณนะ วา
สพั พัส๎มา มะระณา มตุ โต ฐะเปต๎วา กาละมารติ ัง
ตสั เสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา
สทุ ธะสีลัง สะมาทายะ ธัมมัง สุจะรติ ัง จะเร
ตสั เสวะ อานภุ าเวนะ โหตุ เทโว สขุ ี สะทา
ลกิ ขติ ัง จินติตัง ปูชัง ธาระณัง วาจะนัง คะรงุ
ปะเรสงั เทสะนัง สตุ ๎วา ตสั สะ อายุ ปะวฑั ฒะตตี ิ ฯ
(ถดั ไปสวด ถวายพรพระ หนา้ ๑๗)
อาทิยะสตุ ตะคาถา10
ภตุ ตา โภคา ภะฏา ภจั จา วิตณิ ณา อาปะทาสุ เม
อทุ ธัคคา ทักขณิ า ทินนา อะโถ ปัญจะ พะลี กะตา
อปุ ฏั ฐติ า สีละวันโต สัญญะตา พ๎รัหม๎ ะจารโิ น
ยะทัตถงั โภคะมิจเฉยยะ ปณั ฑโิ ต ฆะระมาวะสงั
โส เม อตั โถ อะนุปปตั โต กะตงั อะนะนตุ าปิยัง
10 องฺ. จตกุ กฺ . ๒๑/๖๑
16 สวดมนต์ วดั สทุ ศั นเทพวราราม
เอตงั อะนุสสะรัง มจั โจ อะรยิ ะธมั เม ฐิโต นะโร
อเิ ธวะ นงั ปะสงั สันต ิ เปจจะ สคั เค ปะโมทะตตี ิ ฯ
(ถัดไปสวด ถวายพรพระ หน้า ๑๗)
ติโรกฑุ ฑะกัณฑะคาถา11
อะทาสิ เม อะกาสิ เม ญาติ มิตตา สะขา จะ เม
เปตานัง ทักขิณงั ทชั ชา ปุพเพ กะตะมะนสุ สะรัง
นะ หิ รณุ ณัง วา โสโก วา ยา วญั ญา ปะริเทวะนา
นะ ตงั เปตานะมัตถายะ เอวัง ตฏิ ฐนั ติ ญาตะโย
อะยญั จะ โข ทกั ขิณา ทินนา สังฆัมหิ สุปะติฏฐติ า
ทีฆะรัตตัง หิตายัสสะ ฐานะโส อปุ ะกปั ปะติ
โส ญาตธิ ัมโม จะ อะยงั นทิ ัสสโิ ต,
เปตานะ ปชู า จะ กะตา อุฬารา,
พะลญั จะ ภกิ ขนู ะมะนุปปะทินนงั ,
ตุมเหหิ ปญุ ญงั ปะสตุ งั อะนัปปะกนั ติ ฯ
(ถดั ไปสวด ถวายพรพระ หนา้ ๑๗)
11 ข.ุ ข.ุ ๒๕/๘, ข.ุ เปต. ๒๖/๙๐
สวดมนต์ วดั สุทัศนเทพวราราม 17
ถวายพรพระ
พทุ ธะชะยะมงั คะละคาถา
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, วิชชา-
จะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู, อะนุตตะโร ปุริสะ-
ทมั มะสาระถิ สัตถา เทวะมะนสุ สานัง พทุ โธ ภะคะวาติ ฯ
ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธมั โม, สันทฏิ ฐิโก อะกาลโิ ก
เอหปิ สั สโิ ก, โอปะนะยิโก ปัจจตั ตัง เวทิตพั โพ วญิ ญูหตี ิ ฯ
สุปะฏปิ นั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ, อชุ ุปะฏปิ นั โน
ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต
สาวะกะสังโฆ, สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา, เอสะ
ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ, อาหเุ นยโย ปาหเุ นยโย ทกั ขเิ ณยโย
อัญชะลกี ะระณโี ย, อะนตุ ตะรัง ปุญญักเขตตงั โลกัสสาติ ฯ
พาหงุ สะหสั สะมะภนิ ิมมิตะสาวธุ ันตงั
ค๎รเี มขะลงั อุทติ ะโฆระสะเสนะมารงั
ทานาทิธัมมะวธิ ินา ชติ ะวา มุนินโท
ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ
มาราติเรกะมะภิยชุ ฌติ ะสัพพะรัตติง
โฆรมั ปะนาฬะวะกะมกั ขะมะถัทธะยักขัง
ขนั ตีสุทนั ตะวิธินา ชิตะวา มุนนิ โท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ
18 สวดมนต์ วัดสทุ ัศนเทพวราราม
นาฬาคิรงิ คะชะวะรงั อะตมิ ตั ตะภตู ัง
ทาวัคคิจักกะมะสะนวี ะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะวธิ นิ า ชติ ะวา มนุ นิ โท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ
อุกขติ ตะขคั คะมะติหตั ถะสุทารุณนั ตัง
ธาวันตโิ ยชะนะปะถังคุลิมาละวันตงั
อทิ ธภี สิ ังขะตะมะโน ชิตะวา มนุ ินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ
กัต๎วานะ กฏั ฐะมทุ ะรงั อวิ ะ คพั ภินยี า
จญิ จายะ ทฏุ ฐะวะจะนัง ชะนะกายะมชั เฌ
สนั เตนะ โสมะวธิ ินา ชติ ะวา มนุ นิ โท
ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ
สจั จัง วหิ ายะ มะติสจั จะกะวาทะเกตุง
วาทาภิโรปิตะมะนัง อะตอิ ันธะภตู งั
ปัญญาปะทีปะชะลโิ ต ชิตะวา มนุ ินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ
นนั โทปะนนั ทะภุชะคงั วิพุธัง มะหิทธิง
ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยนั โต
อิทธูปะเทสะวธิ ินา ชิตะวา มนุ นิ โท
ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ ฯ
สวดมนต์ วัดสทุ ศั นเทพวราราม 19
ทคุ คาหะทฏิ ฐิภชุ ะเคนะ สทุ ฏั ฐะหตั ถงั
พร๎ ัหม๎ งั วิสุทธชิ ตุ ิมทิ ธพิ ะกาภิธานงั
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชติ ะวา มุนินโท
ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ
เอตาปิ พทุ ธะชะยะมงั คะละอฏั ฐะคาถา
โย วาจะโน ทินะทเิ น สะระเต มะตนั ที
หิต๎วานะเนกะววิ ิธานิ จปุ ทั ทะวานิ
โมกขงั สขุ งั อะธคิ ะเมยยะ นะโร สะปญั โญ ฯ
ชะยะมังคะละคาถา
มะหาการณุ ิโก นาโถ หิตายะ สพั พะปาณนิ ัง
ปูเรตว๎ า ปาระมี สพั พา ปัตโต สมั โพธมิ ุตตะมัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมงั คะลัง ฯ
ชะยันโต โพธยิ า มูเล สัก๎ยานัง นนั ทิวฑั ฒะโน
เอวัง ต๎วงั วชิ ะโย โหหิ ชะยสั สุ ชะยะมงั คะเล
อะปะราชติ ะปัลลงั เก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร
อะภิเสเก สัพพะพุทธานงั อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ ฯ
สนุ กั ขตั ตัง สมุ ังคะลงั สปุ ะภาตัง สุหุฏฐติ งั
สขุ ะโณ สุมหุ ุตโต จะ สุยฏิ ฐัง พ๎รหั ๎มะจาริสุ
ปะทกั ขณิ งั กายะกัมมัง วาจากัมมงั ปะทักขณิ งั
ปะทกั ขณิ งั มะโนกมั มัง ปะณิธี เต ปะทักขณิ า
ปะทกั ขณิ านิ กัตว๎ านะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ ฯ
20 สวดมนต์ วัดสุทศั นเทพวราราม
สพั พะมงั คะละคาถา
ภะวะตุ สพั พะมังคะลัง รักขนั ตุ สพั พะเทวะตา
สัพพะพทุ ธานภุ าเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
ภะวะตุ สพั พะมงั คะลงั รกั ขันตุ สพั พะเทวะตา
สัพพะธัมมานภุ าเวนะ สะทา โสตถี ภะวนั ตุ เต ฯ
ภะวะตุ สัพพะมังคะลงั รักขนั ตุ สพั พะเทวะตา
สพั พะสังฆานภุ าเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
ปตั ตทิ านะคาถา
(หนั ทะ มะยัง ปตั ติทานะคาถาโย ภะณามะ เส)
ยา เทวะตา สนั ติ วหิ าระวาสินี
ถูเป ฆะเร โพธฆิ ะเร ตะหิง ตะหงิ
ตา ธัมมะทาเนนะ ภะวนั ตุ ปชู ติ า
โสตถงิ กะโรนเตธะ วิหาระมณั ฑะเล
เถรา จะ มัชฌา นะวะกา จะ ภกิ ขะโว
สารามกิ า ทานะปะตี อุปาสะกา
คามา จะ เทสา นคิ ะมา จะ อสิ สะรา
สปั ปาณะภูตา สุขิตา ภะวนั ตุ เต
ชะลาพชุ า เยปิ จะ อณั ฑะสมั ภะวา
สงั เสทะชาตา อะถะโวปะปาตกิ า
นิยยานกิ ัง ธมั มะวะรงั ปะฏิจจะ เต
สัพเพปิ ทุกขัสสะ กะโรนตุ สงั ขะยัง ฯ
สวดมนต์ วัดสุทัศนเทพวราราม 21
ฐาตุ จริ งั สะตัง ธมั โม ธัมมัทธะรา จะ ปคุ คะลา
สังโฆ โหตุ สะมคั โค วะ อตั ถายะ จะ หิตายะ จะ
อัมเห รักขะตุ สทั ธมั โม สพั เพปิ ธัมมะจาริโน
วฑุ ฒงิ สมั ปาปุเณยยามะ ธัมเม อะริยัปปะเวทเิ ต ฯ
ปะสนั นา โหนตุ สัพเพปิ ปาณิโน พทุ ธะสาสะเน
สมั มา ธารัง ปะเวจฉนั โต กาเล เทโว ปะวสั สะตุ
วุฑฒิภาวายะ สตั ตานัง สะมิทธัง เนตุ เมทะนงิ
มาตา ปิตา จะ อตั ๎ระชัง นจิ จงั รกั ขนั ติ ปตุ ตะกงั
เอวัง ธัมเมนะ ราชาโน ปะชัง รกั ขันตุ สพั พะทา ฯ
ติโลกะวิชะยะราชะปตั ตทิ านะคาถา12
(หนั ทะ มะยงั ตโิ ลกะวชิ ะยะราชะปตั ตทิ านะคาถาโย ภะณามะ เส)
ยังกิญจิ กุสะลงั กัมมัง กัตตัพพงั กิริยัง มะมะ
กาเยนะ วาจามะนะสา ติทะเส สคุ ะตงั กะตัง
เย สตั ตา สญั ญิโน อัตถิ เย จะ สตั ตา อะสญั ญิโน
กะตัง ปญุ ญะผะลัง มยั หงั สัพเพ ภาคี ภะวนั ตุ เต
เย ตัง กะตัง สวุ ิทติ งั ทินนงั ปุญญะผะลัง มะยา
เย จะ ตตั ถะ นะ ชานันติ เทวา คนั ตว๎ า นิเวทะยงุ
สัพเพ โลกมั หิ เย สัตตา ชวี นั ตาหาระเหตุกา
มะนุญญัง โภชะนัง สพั เพ ละภนั ตุ มะมะ เจตะสาติ ฯ
(อธิษฐานแผ่ส่วนกศุ ล นงั่ คกุ เขา่ กราบ ๓ คร้ัง)
จบทำ� วัตรเช้า
12 ขุ. อปาทาน ๓๑/๑
22 สวดมนต์ วัดสุทศั นเทพวราราม
เริ่มท�ำวัตรพระ บอกวตั ร
แต่นี้จะแสดงกิจกัลยาณวัตร ซึ่งสยามรัฏฐิกภิกษุสงฆ์
สมณมณฑลไดค้ ดิ จดั เรยี บเรยี งลงไวเ้ ปน็ แบบแลว้ น�ำสบื ๆ มานนั้
ลงพิมพ์ไว้ตามฉบับ ซึ่งพระธรรมวโรดม บรมญาณอดุลย์
สุนทรนายก ตรีปิฎกคุณาลังการภูษิต ทักษิณทิศคณฤศร
บวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดสุทัศนเทพวราราม
ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง ได้พิจารณาลดที่ควรลด
เพ่ิมท่ีควรเพิ่ม เปลี่ยนแปลงที่ควรเปล่ียนแปลงแล้วส่งมานั้น
เพื่อให้ท่านผู้มีประโยชน์ได้อ่านและลอกคัดเล่าบ่นจ�ำทรง
ตามปรารถนา ฯ
ท�ำวัตรพระ
(นั่งคกุ เขา่ กราบ ๑ คร้ัง ประธานน�ำสวด)
นะโม ตสั สะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสมั พุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สมั มาสมั พทุ ธสั สะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสมั พทุ ธัสสะ ฯ
โย สนั นิสนิ โน วะระโพธิมูเล
มารัง สะเสนัง สุชิตงั วิเชยยะ
สมั โพธมิ าคัจฉิ อะนนั ตะญาโณ
โลกตุ ตะโม ตัง ปะณะมามิ พทุ ธงั ฯ