The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวปฏิบัติป้องกันความเสี่ยงทางคลินิก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by IPZPREAW, 2020-11-12 21:18:40

NO-แนวปฏิบัติป้องกันความเสี่ยงทางคลินิก

แนวปฏิบัติป้องกันความเสี่ยงทางคลินิก

Keywords: แนวปฏิบัติป้องกันความเสี่ยงทางคลินิก

แนวปฏบิ ัตปิ อ้ งกนั ความเสี่ยงทางคลนิ กิ
(SAFE-D)

1|Page เอกสารน้ีใช้ภายในโรงพยาบาลสวนสราญรมยเ์ ท่านนั้ ห้ามนำไปใชภ้ ายนอกหรอื ทำซำ้ โดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต

แนวปฏบิ ตั ปิ อ้ งกันความเสี่ยงทางคลนิ กิ (SAFE-D)
ความหมาย

S = Suicide หมายถึง ผู้ปว่ ยที่มีความเสย่ี งต่อการฆ่าตวั ตาย
A = Accident หมายถงึ ผู้ปว่ ยท่ีมีความเสีย่ งต่อการเกดิ อุบตั ิเหตุ
F = Fighting หมายถึง ผปู้ ว่ ยทม่ี คี วามเสย่ี งต่อการทำรา้ ยผ้อู ่ืน
E = Escape หมายถึง ผู้ปว่ ยท่ีมคี วามเสยี่ งต่อการหลบหนี
D = Dysphagia หมายถึง ผู้ปว่ ยทีม่ คี วามเสีย่ งต่อการกลนื ลำบาก

วตั ถุประสงค์
1. เพอื่ ประเมินความเสีย่ งทางคลินกิ ของผ้ปู ว่ ยที่เข้ารบั การรกั ษาแบบผ้ปู ว่ ยในและผู้ปว่ ยนอกของ
โรงพยาบาลสวนสราญรมย์
2. เพ่อื เป็นแนวทางให้บุคลากรใช้ในการเฝา้ ระวังผปู้ ว่ ยตามความเสย่ี งทางคลนิ กิ
3. เพื่อใหผ้ ปู้ ว่ ยปลอดภัยขณะเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในและผ้ปู ว่ ยนอกของโรงพยาบาลสวนสราญรมย์

อปุ กรณ์
1. แบบประเมินความเส่ียงท่ีสำคัญทางคลนิ ิก SAFE-D
2. แบบบนั ทกึ การเฝ้าระวังผปู้ ่วยทีม่ ีภาวะเส่ียงประจำหอผ้ปู ่วย
3. ป้ายชื่อผ้ปู ่วยทมี่ ีสญั ลักษณ์ SAFE-D
4. เสื้อ SAFE-D

แนวปฏบิ ัตปิ อ้ งกันความเส่ียงทางคลินิก(SAFE-D)
1. สำหรบั บคุ ลากรของโรงพยาบาล

1.1 ผปู้ ่วยที่ต้องเฝา้ ระวังความเสย่ี ง SAFE-D ต้องมีผู้ดูแลใกล้ชดิ และสวมเสอ้ื SAFE-D พร้อม
ติดปา้ ยชอื่ ที่มสี ญั ลักษณ์ SAFE-D

1.2 กรณีพบผู้ปว่ ยท่ีมลี ักษณะตอ่ ไปน้ีให้ถอื วา่ เป็นผูป้ ว่ ยท่ีมคี วามเส่ยี ง
- ผปู้ ว่ ยสวมเสอื้ SAFE-D
- ไม่มปี า้ ยช่ือประจำตวั
- ผปู้ ว่ ยไม่สวมเส้ือ
- ผู้ป่วยอยู่ในบริเวณท่ีเส่ยี ง เช่น ใกลป้ ระตูทางออก บ้านพัก

1.3 กรณีพบผูป้ ว่ ยที่มคี วามเส่ียงนอกหอผปู้ ่วยให้ปฏบิ ตั ิดังนี้
- โทรศพั ทแ์ จ้ง Operator เพอื่ ประสานกบั ผู้ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ได้แก่ ยาม บคุ ลากรของหอ
ผู้ปว่ ยที่รับผิดชอบ
- ขอความร่วมมือดแู ลให้ผูป้ ว่ ยในสายตาตลอดเวลา จนกว่าทีมติดตามจะมาถึง
- ทีมติดตามออกติดตาม และปฏบิ ัติตามแนวทางการเฝ้าระวังความเส่ยี ง
-

2|Page เอกสารนี้ใชภ้ ายในโรงพยาบาลสวนสราญรมยเ์ ทา่ น้นั หา้ มนำไปใชภ้ ายนอกหรอื ทำซำ้ โดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต

2.สำหรับบุคลากรทางการพยาบาล
2.1 ประเมนิ ผูป้ ่วยทุกราย ทกุ วัน ทกุ เวร เมอื่ ขน้ึ ปฏิบตั ิงานตามแบบประเมิน SAFE-D เมอ่ื
พบวา่ ผูป้ ่วยมคี วามเสีย่ งให้ใชเ้ สือ้ SAFE-D
2.2 ตดิ สญั ลักษณ์สีตามเกณฑ์ทป่ี ระเมินได้ท่ีป้ายชอื่ ผูป้ ่วยในแตล่ ะชอ่ งให้ครบถ้วน
2.3 บนั ทกึ ชอื่ ผปู้ ว่ ยที่มีภาวะเสยี่ งลงในตารางการเฝ้าระวัง
2.4 ให้การดูแล/ เฝา้ ระวังตามแนวปฏบิ ัตกิ ารดแู ลในแต่ละระดับของความเส่ียง
2.5ประเมนิ ผลการเฝา้ ระวังทุกเวร และส่งเวรการเฝา้ ระวงั อย่างต่อเนอ่ื ง
2.6 มีการเฝ้าระวงั ความเส่ยี งอยา่ งน้อย 24 ชม.จงึ มีการประเมินเพือ่ เปล่ียนแปลงระดับความเสีย่ ง

2.7 เมื่อเกิดอุบัติการณ์ให้รายงานอุบัติการณ์ตามเกณฑ์การรายงานอุบัติการณ์ของทีมบริหารความ

เสี่ยงของโรงพยาบาล

3|Page เอกสารน้ีใช้ภายในโรงพยาบาลสวนสราญรมย์เท่านนั้ หา้ มนำไปใช้ภายนอกหรือทำซำ้ โดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาต

แนวปฏิบัตกิ ารปอ้ งกันผู้ป่วยที่มีความเส่ียงต่อการฆา่ ตัวตาย :(Suicide : S)
การประเมินความเส่ียงต่อการฆ่าตัวตาย ประเมินดังนี้

1. สหี น้าเป็นทกุ ข์ หม่นหมอง หรือร้องไหบ้ อ่ ยๆ ไมส่ บายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้ เบ่ือหน่าย ส้นิ หวงั
2. รู้สึกผิด/ไมด่ ีกบั ตนเอง คดิ วา่ ตนเองล้มเหลว ไร้คา่ หรือทำใหต้ นเองหรอื ครอบครวั ผิดหวัง
3. คิด/พูดบ่นอยากตาย/มีแผนท่ีจะฆ่าตัวตายหรือพยายามหาวิธีฆา่ ตัวตาย
4. มีหูแว่วเสียงสัง่ ให้ทำร้ายตวั เอง
5. ใน 1 ปีท่ีผา่ นมาเคยพยายามฆ่าตัวตาย

หมายเหตุ: ถา้ มขี ้อใดข้อหนึ่งถือว่ามคี วามเส่ียงฆ่าตัวตาย จากน้นั ให้ประเมิน8Q เพือ่ ดรู ะดบั ความรนุ แรง และให้ความ
ช่วยเหลือ

คะแนน < 17 = ระดับ ต่ำ หรอื ปานกลาง
คะแนน ≥17 = ระดบั สูง
แนวปฏิบัตเิ พ่อื ป้องกนั ความเสย่ี ง
1. ดแู ลให้ผปู้ ่วยอยูใ่ นสายตาตลอดเวลา โดยไมใ่ ห้ผูป้ ว่ ยรู้สึกวา่ ถูกตดิ ตาม
2. จัดเตยี งใหอ้ ยูห่ น้าเคาวเตอร์พยาบาล /จดั ใหผ้ ปู้ ว่ ยอยหู่ ้องแยก และอธิบายใหเ้ ข้าใจถงึ เหตุผล
3. ให้สวมเส้อื SAFEและติดป้ายช่ือท่มี สี ญั ลักษณ์SAFE-S
4. จบั คBู่ uddy คอยดแู ลช่วยเหลือ และอยู่เปน็ เพื่อน
5. จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย ห้องนอนและห้องน้ำไม่ควรมีอุปกรณ์ที่เสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเอง เช่น ประตู
ห้องน้ำไม่ใช้กลอน ไม่ควรมีขื่อ อ่างน้ำ/ถังน้ำไม่ควรมีปากกว้างและสูงเกินไป ก๊อกน้ำควรใช้แบบฝังหรือหัว
ก๊อกชนิดออ่ น
6. เก็บวัสดุอุปกรณ์ที่สามารถนำมาเป็นเครื่องมือในการทำร้ายตัวเองไว้ให้มิดชิด เช่น ใบมีดโกน ดินสอ ปากกา
น้ำยาทำความสะอาด แปรงสีฟัน ผา้ ผูกยึด ชอ้ นกินขา้ วฯลฯ
7. ตรวจสอบวัสดอุ ุปกรณ์ในตัวผปู้ ว่ ยที่เส่ยี งตอ่ การนำมาทำรา้ ยตนเองทุกเวร
8. เฝ้าระวงั ทุก 15-30 นาทแี ละบันทกึ ทุก 1ชว่ั โมงลงในแบบเฝา้ ระวงั ความเสีย่ งอย่างต่อเนื่อง
9. ส่งตอ่ ข้อมลู ผปู้ ว่ ยใหเ้ วรตอ่ ไป

4|Page เอกสารนใี้ ชภ้ ายในโรงพยาบาลสวนสราญรมยเ์ ท่านนั้ ห้ามนำไปใชภ้ ายนอกหรอื ทำซ้ำโดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต

แนวปฏิบตั กิ ารปอ้ งกันผปู้ ่วยท่มี คี วามเส่ยี งต่อการเกดิ อุบัติเหตุ
การประเมินความเส่ียงต่อการเกิดอบุ ตั ิเหตุ ประเมนิ ดังน้ี
A1 การทรงตวั ไม่ดี สายตาไม่ดี มีอาการงว่ งนอน เดนิ เซ หลังได้รบั ยาทางจิตเวช
A2. ผปู้ ่วยไดร้ ับการรกั ษาดว้ ยไฟฟ้า มนึ งง การทรงตวั ไม่ดี
A3. ผ้ปู ่วยสมองเสอื่ ม(Dementia)
A4. ผู้ปว่ ยทม่ี ภี าวะเพอ้ ( Delirium) ภาวะถอนพิษสรุ าหรือผปู้ ่วยท่ขี าดสารเสพติด สบั สน งุนงง กระสับกระสา่ ย อยู่ไม่
นงิ่
A5. ผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคทางกายร่วม /ลมชัก ผู้ป่วยล้มขณะเกิดอาการชัก,วูบโดยไม่มีอาการนำก่อนหรือผู้ป่วยที่มี
ปัญหาการขับถ่ายผดิ ปกติ ควบคุมการปสั สาวะไม่ได้ หรือผู้ปว่ ยท้องเสยี ต้องเขา้ หอ้ งน้ำบอ่ ย
A6. ผปู้ ว่ ยมอี าการทางจติ :กา้ วรา้ ว อยไู่ ม่น่ิง ประสาทหลอนหูแว่วไดย้ นิ เสียงสั่งใหห้ กล้ม พยายามหลบหนี
A7. ผ้ปู ่วยพิการ /ประสาทสัมผสั ผิดปกติ เช่น ตาบอด, หูตงึ , หหู นวก ,แขนขาด้วน เปน็ ตน้
แนวปฏิบัติ

1.พยาบาล/ผู้ช่วยเหลือคนไข้ ประเมนิ ความเสี่ยงตอ่ การเกดิ อุบตั เิ หตุตามแบบประเมนิ SAFE-D ทกุ ราย ตาม
ปจั จัยเสี่ยง

2.เมื่อพบว่าผู้ป่วยมีความเสี่ยง A ดูแลให้ผู้ป่วยสวมเสื้อ SAFE และติดป้ายชื่อที่มีสัญลักษณ์สีแดงในช่อง
A

3. เฝ้าระวังความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยมอบหมายให้พยาบาล/ผู้ช่วยเหลือคนไข้ ดูแลผู้ป่วยอย่าง
ใกล้ชิด เช่น ขณะผู้ป่วยเข้าห้องน้ำต้องติดตามผู้ป่วยทุกครัง้ จนกว่าเสรจ็ ภารกิจ หรือจัดให้ผู้ป่วยอยู่ในที่ที่จัดไว้เฉพาะ
ซ่ึงบคุ ลากรสามารถมองเห็นผูป้ ่วยได้ตลอดเวลากรณีทผี่ ปู้ ่วยสวมผ้าถงุ ใหช้ ายผา้ ถุงสงู ขนึ้ หรือเปล่ียนเปน็ สวมกางเกง

4. ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาหรือไฟฟ้า ให้ผู้ป่วยนอนพักอย่างเพียงพอและแนะนำการเปลี่ยนท่าอย่าง
ช้าๆเพือ่ ป้องกันอุบตั เิ หตุจากอาการหน้ามืด

5. แขวนป้าย (ระวงั หกลม้ )ไว้ทป่ี ลายเตยี งผู้ปว่ ยทีม่ คี วามเสย่ี ง
6. จัดสิง่ แวดลอ้ มให้ปลอดภยั โดย

- บุคลากรต้องตรวจในจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย ได้แก่ ห้องน้ำผู้ป่วย บันได บริเวณพื้นห้องที่เปียกน้ำ
ฯลฯ ทุก ๑ ช่วั โมง

- ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ยไม่วางอุปกรณ์ในห้องผูป้ ่วย
- จดั หาวางแผน่ กันลื่นในหอ้ งนำ้ ผู้ปว่ ยแทนผา้ เชด็ เท้า
-นำราวกั้นเตียงขึ้นทุกครั้งที่ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอยู่บนเตียง กรณีที่ไม่มีราวกั้น
เตียง ให้จัดเตียงชิดกนั เพื่อป้องกันผู้ป่วยตกเตยี ง หากกรณีผู้ป่วยที่ไมค่ ุ้นเคยกับการนอนเตยี ง ให้นำที่นอนวางบนพนื้
หอ้ งนอน
- จดั หาอปุ กรณ์เพือ่ หุ้มเหลก็ ท่ลี อ้ เตียงเพ่อื ป้องกนั อุบัติเหตุ
- กรณที ี่ผูป้ ่วยมีอาการสับสน งุนงง มากๆ มอี าการกระสบั กระส่าย อยไู่ มน่ ิง่ บคุ ลากรสามารถผูกยึด
ผู้ป่วยตามความจำเป็นและเหมาะสม
- ดูแลให้ผู้ป่วยสวมรองเท้าขณะออกไปทำกิจกรรมนอกตึกเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เช่น การสะดุดหรือ
เหยียบสิ่งของที่อาจทำให้บาดเจ็บได้ และรองเท้าควรใส่ขนาดพอดีเท้าไม่หลวมหรือใหญ่เกินไปเพราะอาจเดินสะดุด
รองเท้าเองแล้วหกล้มได้

5|Page เอกสารนใ้ี ชภ้ ายในโรงพยาบาลสวนสราญรมยเ์ ทา่ นัน้ ห้ามนำไปใชภ้ ายนอกหรอื ทำซำ้ โดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต

- กรณีผู้ป่วยที่ต้องออกกำลังกายหรือเล่นกีฬากลางแจ้ง นอกจากบุคลากรต้องดุแลให้ผู้ป่วยสวม
รองเท้าที่เหมาะสมแล้วต้องดูแลให้ใกล้ชิดและคอยเตือนให้ผู้ป่วยเล่นกีฬาอย่างระมัดระวัง ไม่รุนแรงเพราะอาจ
กระแทกหรอื ชนกันหกลม้ ได้รบั บาดเจ็บได้

- กรณที ญ่ี าตขิ ณะนำผปู้ ่วยออกนอกตึกใหด้ แู ลใกลช้ ดิ เพ่ือปอ้ งกนั อุบัติเหตุ
7.ผู้ช่วยเหลือคนไข้ลงบันทึกการสังเกต/การเยี่ยมผู้ป่วย ตามแบบบันทึกตารางเวลาการเฝ้าระวังผู้ป่วยที่มี
ความเส่ยี งทุก ๑ ช่วั โมง เพ่อื เปน็ การเฝา้ ระวังผปู้ ่วยอยา่ งตอ่ เน่อื ง

6|Page เอกสารน้ีใช้ภายในโรงพยาบาลสวนสราญรมยเ์ ท่าน้ันหา้ มนำไปใชภ้ ายนอกหรือทำซ้ำโดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต

แนวปฏบิ ตั ิการป้องกนั ผ้ปู ่วยท่มี คี วามเสย่ี งต่อการทำร้ายผู้อนื่
การประเมนิ ความเสี่ยงผปู้ ่วยทอี่ าจเกิดพฤตกิ รรมรุนแรงสามารถคดั กรอง/ประเมินเบ้ืองต้น ดงั น้ี

F1 แสดงออกถึงพฤตกิ รรมกา้ วรา้ ว ได้แก่ หงุดหงิด ไม่เปน็ มิตร พูดข่มขู่ เสยี งดงั กระวนกระวาย
เดินไป-มา กำหมดั

F2 พกอาวธุ หรือสงิ่ ของท่ีอาจใชเ้ ป็นอาวุธ
F3 มีท่าทางหวาดระแวงชัดเจน เชน่ ท่าทางหวาดกลวั มองซา้ ยมองขวา บอกว่า มคี นจะมาทำร้าย
F4 มีประวตั ิกา้ วรา้ ว ทำลายของ/ทำรา้ ยผู้อ่ืน ภายใน 24 ช่วั โมงกอ่ นมา โรงพยาบาล
F5 มีความบกพรอ่ งของบุคลิกภาพ เช่น ตอ่ ต้านสังคม borderline ปัญญาอ่อน ลมชัก เปน็ ตน้
F6 เครียด วิตกกังวล พดู ซ้ำๆในสงิ่ ทเี่ กีย่ วกบั ความอดึ อดั ในการอยใู่ นห้องพกั การไม่ได้กลบั บ้าน

ตามกำหนดเวลา
F7 มอี าการเมาสรุ าหรอื มอี าการอยากยา (สารเสพตดิ )/ มคี ำพูดความตอ้ งการสบู บุหรตี่ ลอดเวลา
หมายเหตุ ; ถ้าประเมินเบอ้ื งตน้ พบ F1-7 ขอ้ ใดข้อหนึง่ ใหป้ ระเมนิ ระดบั ความรุนแรงของพฤตกิ รรมตอ่
แนวปฏิบตั ิการป้องกันผ้ปู ่วยที่มคี วามเสยี่ งต่อการทำรา้ ยผูอ้ น่ื
1. ประเมินระดับความรุนแรงของพฤติกรรมก้าวร้าว โดยใช้แบบประเมิน ( The overt Aggression Scale

[OAS]) ในการแบง่ ระดบั ความรุนแรง 4 ระดบั ดงั น้ี

ระดับความความรนุ แรงระดับ 1 คือ น้อย เฝ้าระวงั ทกุ 4 ชั่วโมง
ระดับความความรุนแรงระดับ 2 คือ ปานกลาง เฝา้ ระวงั ทุก 2 ชัว่ โมง
ระดับความความรุนแรงระดบั 3 คือ หนกั เฝ้าระวงั ใกล้ชดิ ตลอดเวลา
2. ใหก้ ารดแู ลตามระดับอาการดังน้ี

ระดับความความรนุ แรงระดับ 1
1. จัดส่งิ แวดล้อมท่เี อ้ือให้ผู้ปว่ ยสงบ โดยแยกผ้ปู ว่ ยออกจากสถานท่ีกระต้นุ แยกผู้ปว่ ยอ่นื ไมใ่ หเ้ ข้าใกล้ผู้ป่วย

หรืออาจนำผ้ปู ว่ ยไวห้ ้องแยก

2. ดแู ลตรวจสิ่งของท่ีจะเป็นอันตราย และเฝ้าระวังอาการผ้ปู ่วยทุก 1 ช.ม.

3. พูดคุยสร้างสัมพันธภาพโดยเน้นให้ผู้ป่วยได้ระบายอารมณ์ ความคิด ความรู้สึก และรับฟังผู้ป่วย และ

เสนอทางเลือกอ่นื ท่ีลดอารมณ์ในทางท่เี หมาะสม เพอ่ื ชว่ ยให้ผ้ปู ่วยผ่อนคลาย ลดพฤติกรรมก้าวรา้ วลง

4. ดูแลให้ได้รับประทานยาตามแผนการรักษาของแพทย์ หรือพิจารณาให้ยาฉีดตาม CPG เพื่อป้องกัน

อันตรายตอ่ ตนเอง/ผ้อู ่นื /สงิ่ ของ

5. สังเกตอาการอยา่ งต่อเน่ืองทกุ 1-2ชว่ั โมง

ระดบั ความความรุนแรงระดับ 2, 3
1. เตรียมทมี และอุปกรณ์ใหพ้ ร้อม/วางแผนในการเข้าไปจัดการกบั พฤติกรรมรนุ แรง

2. ใหข้ ้อมลู กับผปู้ ว่ ยถึงเหตุผลสั้นๆ ใหเ้ วลากับผ้ปู ว่ ยในการให้ความรว่ มมือ ทีมพร้อมและให้

สัญญาณในการเข้าไปจัดการพฤติกรรมรนุ แรงโดยการผูกยึด
3. ดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยขณะผกู ยึดโดย

7|Page เอกสารน้ใี ช้ภายในโรงพยาบาลสวนสราญรมยเ์ ทา่ น้นั หา้ มนำไปใชภ้ ายนอกหรือทำซ้ำโดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต

- อธบิ ายเหตุผลความจำเป็นในการผูกยึด สทิ ธ/ิ ระยะเวลาในการผูกยึดและจะยตุ ิการผกู ยึด
เมื่อผ้ปู ่วยสามารถควบคุมอาการตนเองได้
- ดแู ลความสขุ สบายของผ้ปู ่วยทั่วๆไป และประเมนิ อาการผ้ปู ่วยทกุ 30 นาที- 1 ช.ม. เพือ่
สอบถามความต้องการ พูดคุยให้กำลงั ใจ ตรวจการไหลเวียนเลือดบริเวณทผี่ ูกยดึ และเปลี่ยนท่าการ
ผูกยึดทกุ 2 ช.ม.
- ถ้าอาการไม่สงบพิจารณาให้ยาฉีดตาม CPG และมีการตรวจวัดสัญญาณชีพทุก 1 ช.ม. จนกว่า
สญั ญาณชพี ปกติ และสงั เกตอาการขา้ งเคียงจากยา
4. ประเมนิ อาการเม่ือผปู้ ่วยสงบพิจารณายุตกิ ารผูกยึดและตรวจภาวะแทรกซ้อนจากการผกู ยึด เม่ือมี
ภาวะแทรกซ้อนให้การช่วยเหลอื /บันทึก/รายงานแพทย์
5. สงั เกตอาการอยา่ งตอ่ เนื่องทุก 1-2 ช.ม. และบันทึกอาการ/สง่ เวรอยา่ งตอ่ เนือ่ ง
การยตุ ิ แนวปฏบิ ตั ิแนวปฏบิ ตั ิ SAFE เม่ือผู้ปว่ ยอาการสงบลง

8|Page เอกสารนใ้ี ชภ้ ายในโรงพยาบาลสวนสราญรมยเ์ ทา่ นั้นห้ามนำไปใชภ้ ายนอกหรอื ทำซำ้ โดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต

แนวปฏบิ ัตกิ ารปอ้ งกนั ผ้ปู ว่ ยท่มี ีความเสี่ยงต่อการหลบหนี
การประเมินความเส่ียงผปู้ ่วยหลบหนใี หป้ ระเมนิ ความเสี่ยงผู้ป่วยตามระดบั ดังนี้
E1 : - ผู้ปว่ ยสบั สน เดนิ เรอื่ ยเปอ่ื ย

- เป็นบคุ คลเรร่ ่อน อยู่ไม่เปน็ หลักแหล่ง ชอบเท่ียวเร่อื ยเปอ่ื ย
E2: - มีประวัติใชส้ ารเสพติด

- ผปู้ ว่ ยมีประวตั หิ ลบหนี
- ผู้ป่วยทอี่ ยูโ่ รงพยาบาลนาน
- ผู้ป่วยทม่ี แี นวโนม้ ญาติทอดทิ้ง
- เป็นผู้นำและมีภาระรับผดิ ชอบครอบครัว
- ผปู้ ่วยท่ี แพทย์ อนญุ าตให้กลบั บา้ นแลว้ แต่ญาตไิ ม่มารบั
E3 : - ผู้ปว่ ยท่ีมอี าการอยากยา
- ปฏิเสธการเจบ็ ป่วย ไมย่ นิ ยอมรักษา
- มปี ระวัตเิ ป็นอนั ตรายตอ่ ครอบครวั และชุมชน / มพี ฤติกรรมรนุ แรงก้าวร้าว
หมายเหตุ มขี อ้ ใดขอ้ หน่งึ = มีความเสยี่ งในระดบั นนั้ ๆ
แนวปฏบิ ัติการปอ้ งกันผ้ปู ว่ ยท่มี ีความเสี่ยงต่อการหลบหนี
ข้นั เตรยี มความพร้อม
1. สร้างความตระหนักในเรื่องการเฝ้าระวังความเสี่ยงทางคลินิก การรู้จักสังเกตสัญญาณเตือนการประเมิน

พฤติกรรม ความคิด อารมณ์ของผู้ป่วย ตั้งแต่แรกรับถึงจำหน่าย การเข้าถึงผู้ป่วย โดยการสร้าง

สมั พนั ธภาพ มคี วามเอ้ืออาทร และมีทกั ษะการสอ่ื การท่ดี ี

2. จัดสิ่งแวดลอ้ มให้ปลอดภัย โดยตรวจดูแลความเรียบร้อยในหน่วยงานอยา่ งสม่ำเสมอ ปิดช่องทางที่เสี่ยงตอ่

การหลบหนี และความแขง็ แรงของโครงสร้างในหนว่ ยงาน

3. จดั สถานทีใ่ หญ้ าติเยย่ี มผปู้ ว่ ยอยใู่ นทๆี่ เจ้าหนา้ ท่สี ามารถมองเหน็ ได้

4. จดั เตรียมอุปกรณ์เช่นเสื้อ SAFE ผา้ ผกู ยดึ ใหเ้ พยี งพอและพรอ้ มใช้

5. จัดใหม้ หี อ้ งคาราโอเกะ กีฬาในร่มเช่น โตะ๊ ปงิ ปอง กระดานหมากรุก/หมากฮอส ไว้ในหอผูป้ ว่ ย

ขน้ั ดำเนินการ
1. ประเมนิ ผปู้ ่วยที่เสี่ยงต่อการหลบหนี ตามแบบประเมินความเสีย่ งผู้ป่วยหลบหนี ทุกวันทกุ เวร

2. ผ้ปู ว่ ยทเ่ี สี่ยงหลบหนใี ห้สวมเส้อื SAFE ติดปา้ ยชื่อ และทำเครื่องหมายการเฝ้าระวงั SAFE-E

3. ผู้ป่วยมีความเสี่ยงหลบหนี ประเภท E1 สามารถพาออกไปทำกิจกรรมนอกหอผู้ป่วยได้ โดยจัดจับคู่ Buddy

กับผู้ป่วยที่ไม่มีความเสี่ยงหลบหนี ประเภทE2 ออกไปทำกิจกรรมนอกหอผู้ป่วยได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแล

ควบคมุ ใกลช้ ิด และประเภท E3 ใหท้ ำกจิ กรรมในหอผ้ปู ว่ ย และเฝ้าระวังใกล้ชิด

4. ตรวจเช็คและเฝ้าระวังผ้ปู ่วยตามระยะเวลาและบนั ทึกในแบบบนั ทึกการเฝ้าระวงั SAFE

5. ส่งต่อข้อมูลผู้ปว่ ยทต่ี ้องเฝ้าระวงั หลบหนีทกุ วันทุกเวร

9|Page เอกสารนี้ใชภ้ ายในโรงพยาบาลสวนสราญรมย์เท่านนั้ หา้ มนำไปใช้ภายนอกหรอื ทำซ้ำโดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาต

6. ให้ข้อมูลการเจ็บป่วย การรักษา ระยะเวลาบำบัด ถ้าผู้ป่วยปฏิเสธ ให้ใช้หลักการเจรจาต่อรอง และให้
กำลังใจ ขณะรับใหม่และระหวา่ งบำบดั ในโรงพยาบาลเป็นระยะๆ

7. ก่อนเปิดประตูเข้าไปทำกิจกรรมการพยาบาลให้ผู้ป่วยไปนั่งประจำที่เตียงทกุ คนหรือให้อยู่ห่างจากประตเู ข้า-
ออก

8. ก่อนพาผู้ป่วยออกมาทำกิจกรรมนอกตึก พยาบาลและผู้ช่วยเหลือคนไข้ร่วมกันประเมินผู้ป่วยก่อน ทุกคร้ัง
กรณีผู้ป่วยที่อนุญาตให้ออกไปทำกจิ กรรมข้างนอกตึก ให้บอกเหตุผลว่าผู้ปว่ ยที่อนุญาตใหอ้ อกไปทำกิจกรรม
นอกตึกเพราะผปู้ ว่ ยมพี ฤติกรรมทีด่ ี อาการทางจิตทุเลา เป็นการเตรียมความพร้อมที่จะให้กลับบา้ น

9. มอบหมายความรบั ผิดชอบให้ผปู้ ่วยทเี่ สีย่ งหลบหนีดูแลผปู้ ว่ ยอืน่ และยกยอ่ งใหเ้ ขาเปน็ ฮโี ร่ เปน็ แบบอย่างของ
ผูป้ ว่ ยท่มี ีพฤติกรรมดี เพ่อื ใหผ้ ปู้ ่วยเกดิ ความภาคภูมใิ จ และละอายท่ีจะทำผดิ

10. จดั ผูป้ ่วย Buddy เพื่อนชว่ ยเพ่อื น ใหผ้ ปู้ ว่ ยท่ีดีดูแลผู้ปว่ ยที่เสี่ยง ลกั ษณะฝากดูแล
11. กอ่ นพาผปู้ ว่ ยออกมาทำกิจกรรมในห้องกล่มุ กจิ กรรม หรอื รบั ประทานอาหารท่ีมีทางเข้าออกหลายทางให้ปิด

ลอ็ คประตู ที่ผู้ป่วยสามารถใชห้ ลบหนไี ด้ ให้มปี ระตูเขา้ ออกทางเดยี วเพ่ืองา่ ยตอ่ การเฝ้าระวัง
12. ผู้ป่วยที่ออกมาช่วยทำงาน /กิจกรรมพัฒนาสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ต้องคอยดูแล พูดคุยและให้กำลังใจไม่

ปล่อยผปู้ ว่ ยอย่ตู ามลำพัง
13. เมอ่ื ผู้ป่วยออกไปทำกิจกรรมนอกตึก เจ้าหนา้ ทีต่ ้องคอยดแู ล ตรวจนับผปู้ ่วยอยตู่ ลอดเป็นระยะๆ
14. เจา้ หน้าท่ไี ม่ควรพาผ้ปู ว่ ยไปตรวจพเิ ศษ/ทำกจิ ดรรมครั้งละหลายคน
15. กรณญี าติมาเยย่ี มผ้ปู ่วย จะต้องบอกญาติทุกครงั้ ก่อนญาติจะกลับให้นำผปู้ ่วยกลับมาสง่ กบั เจ้าหนา้ ท่หี า้ ม

ปล่อยให้ผู้ป่วยเดินกลับมาคนเดียว
16. ตรวจนบั ผู้ป่วยทกุ ครง้ั ก่อนรบั -สง่ เวร และทุก 1 ชวั่ โมง

การลดปัจจัยเส่ียงการหลบหนี
1. ใหข้ ้อมลู แก่ญาติผู้ปว่ ยและบุคลากรห้ามเสยี บลูกกุญแจไว้กับรถ
2. ให้ขอ้ มลู และแผนการจำหนา่ ยแกผ่ ปู้ ่วย และให้กำลงั ใจผปู้ ่วยอยา่ งสม่ำเสมอ
3. ผู้ป่วยทมี่ คี วามวติ กกังวลคิดถึงญาตหิ รือกลัวญาตทิ อดทงิ้ ให้ติดต่อพูดคยุ กับญาติได้บ้างตามความเหมาะสม
4. จดั กจิ กรรมนนั ทนาการ เพอ่ื ให้ผูป้ ่วยรูส้ ึกผ่อนคลาย เชน่ ร้องเพลง กีฬากลางแจง้ กีฬาในรม่ กลมุ่ ทกั ษะ
ชวี ิตทางสังคม เชน่ ทำอาหาร ทำสวนเกษตร เป็นต้น
5. การใหส้ ขุ ภาพจิตศกึ ษา รายกลุ่มเพื่อให้ข้อมลู แก่ผปู้ ว่ ยเกย่ี วกบั โรค ความจำเป็นในการอยบู่ ำบัดรักษา เปิด
โอกาสให้ผู้ป่วยได้พูดคุยซักถามและให้ระบายความคับข้องใจ เพื่อให้ผู้ป่วยคลายความกังวล ยอมรับการ
เจบ็ ปว่ ยและการรักษา
6. ให้ผู้ป่วยเข้ากลุ่มชุมชนบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยได้บอกปัญหาและความต้องการในการใช้ชีวิตระหว่างบำบัดใน
โรงพยาบาล เพ่อื หาแนวทางพฒั นาการบริการร่วมกับผ้ปู ว่ ย เป็นต้น

10 | P a g e เอกสารน้ใี ช้ภายในโรงพยาบาลสวนสราญรมย์เท่านน้ั หา้ มนำไปใช้ภายนอกหรือทำซ้ำโดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต

7. ให้ข้อมูลขั้นตอนการจำหน่าย เมื่อแพทย์อนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้าน โดยพยาบาลประสานนักสังคม
สงเคราะห์ แจ้งญาติให้มารับผู้ป่วยกลับ ถ้าแจ้งแล้วญาติไม่มารับนักสังคมจะแจ้งซ้ำ 3ครั้งถ้าญาติยังไม่มา
รับผู้ป่วย นกั สงั คมจะประสานแพทยพ์ ิจารณาใหผ้ ปู้ ่วยกลบั บ้านเองหรือให้นกั สังคมสงเคราะหส์ ง่ กลบั บา้ น

11 | P a g e เอกสารนใี้ ชภ้ ายในโรงพยาบาลสวนสราญรมย์เท่านั้นหา้ มนำไปใช้ภายนอกหรอื ทำซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต

แนวปฏิบตั กิ ารปอ้ งกันผู้ป่วยทม่ี ีความเส่ียงต่อภาวะกลืนลำบาก
การประเมินความเสี่ยงตอ่ การสำลักอาหารของผู้ป่วยทม่ี ีภาวะกลนื ลำบากมดี ังนี้

• ผู้ป่วยจติ เวชสูงอาย/ุ จิตเวชท่วั ไปท่ีช่วยเหลอื ตวั เองได้น้อย/ไม่ได้

• ผ้ปู ว่ ยจิตเวชสงู อายุ/จติ เวชทว่ั ไปท่ีได้รับยาทางจิตจำนวนมากทัง้ (จำนวน/ชนิด/ขนาด/ปริมาณ)

• ผู้ป่วยจติ เวชสงู อาย/ุ จิตเวชท่ัวไปทีก่ ลา้ มเนื้อการดูดกลืนหยอ่ นประสทิ ธิภาพ

• ผู้ป่วยจติ เวชสูงอายุ/จิตเวชท่วั ไประยะสุดทา้ ย

• ผปู้ ว่ ยโรคเรือ้ รังทางสมอง

• ผ้ปู ่วยอมั พฤกษ์/อมั พาต

• ผปู้ ว่ ยท่ีมพี ฤติกรรมอมอาหาร/ปฏเิ สธอาหาร

• ผปู้ ว่ ยทม่ี นี ้ำลายมาก/ผปู้ ่วยท่ีมภี าวะEPS หรือผลขา้ งเคยี งจากยา

• ผปู้ ่วยท่มี ีพฤติกรรมอยู่ไมน่ งิ่ /สมาธสิ ้นั

• ผู้ป่วยท่มี ีประวตั ิสำลกั บ่อยๆ

หมายเหตุ มเี พียง 1 ข้อถือวา่ มีความเสีย่ ง
ประเมนิ ทุกข้ออย่างน้อยสปั ดาหล์ ะ 1 ครงั้ และทกุ ครงั้ /ทุกวนั ทกุ เวรเมอ่ื มีความเส่ียง/อบุ ัตกิ ารณ์ ต้องเฝา้ ระวังและ/
ดูแลปอ้ งกันจนกว่าผปู้ ว่ ยจะปลอดภยั
แนวปฏิบัติการดแู ลและป้องกันความเสีย่ งต่อการสำลกั อาหารของผู้ป่วยท่ีมภี าวะกลืน
ขั้นตอนปฏิบัตกิ ารดแู ลมี 3 ขั้นตอนดงั นี้

1. กอ่ นรบั ประทานอาหาร
2. ขณะรับประทานอาหาร
3. หลังรบั ประทานอาหาร

ขัน้ ตอนท่ี1.
1.1 ประเมินความสามารถการดูดกลืนของผปู้ ่วย

1.2 โภชนากรประเมินความเหมาะสมของอาหาร/อาหารเฉพาะโรคที่เหมาะสมกับประเภท อาการ/
อาการแสดงของผ้ปู ว่ ยแตล่ ะราย เบกิ อาหารอ่อน/อาหารอ่อนบดหยาบ/อาหารเหลว/อาหารธรรมดา แต่ตอ้ งได้รับการ
ตรวจสอบจากพยาบาลทุกครั้งก่อนให้ผู้ป่วยรับประทานอาหาร บางครั้งอาจต้องตัดอาหารเป็นชิ้นเล็กๆก่อน (ตาม
ความเหมาะสมของผูป้ ว่ ยแตล่ ะราย)

1.3 จัดท่านั่งของผู้ป่วยให้เหมาะสมหากนั่งได้ควรให้นั่งตัวตรงขณะรับประทานอาหาร สอดคล้องกับ
โครงสรา้ งของอวัยวะภายใน พฤตกิ รรมการรบั ประทานอาหาร/การดูดกลนื และพยาธิสภาพของผู้ปว่ ยแตล่ ะราย หาก
ผู้ป่วยนอนบนเตยี งต้องไขหัวเตยี งให้สงู หรือจัดท่าให้ผู้ป่วยน่ังพิงพนกั เตียง และพยุงให้ผู้ป่วยนั่งสบายไมเ่ ซล้ม หรือน่ัง
ในท่าปกติสำหรับผู้ป่วยที่นั่งได้ ดูแลให้หลอดอาหารอยู่ในสภาพตรงพร้อมทำงานตามระบบ (จัดท่าให้ผู้ป่วยนั่งงอเข่า
90 องศาระนาบหนา้ ตรงราบกบั พ้นื แล้วตรงศีรษะอยู่ก่งึ กลาง ก้มหน้าเล็กน้อย)

12 | P a g e เอกสารนี้ใชภ้ ายในโรงพยาบาลสวนสราญรมย์เทา่ นนั้ หา้ มนำไปใช้ภายนอกหรอื ทำซำ้ โดยไม่ได้รบั อนญุ าต

ขัน้ ตอนท่ี2.
2.1 ตักอาหารพอดีคำ ดูแลให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารแต่พอดีคำ และรับประทานช้าๆอย่างตั้งใจ หรือ

ป้อนอาหารในรายที่ตักอาหารเองไม่ได้ ตักอาหารแต่พอดีคำและป้อนช้าๆ จัดท่าให้ถูกต้องเหมาะสม การตะแคงช้อน
ขณะป้อน/การใช้หลอดที่ถูกต้องเหมาะสม (ตักอาหารให้มีปริมาณ 1/3-1/2 ช้อนตามความเหมาะสม) และให้เวลา
สำหรบั ม้ืออาหารแต่ละม้ืออยา่ งเพยี งพอ ไมเ่ ร่งรบี

2.3 ขณะปอ้ นอาหารตอ้ งคำนึงถึงปริมาณสดั ส่วนที่พอเหมาะกบั กลุ่มโรค/ผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ ไม่ควรให้อาหาร
มากเกินความจำเปน็ และความตอ้ งการของผปู้ ่วย

2.4 ให้ผูป้ ่วยกม้ ศรี ษะกอ่ นกลืนอาหารโดยกลนื อาหารทมี่ ใี นปากลงไปก่อนกลนื ซ้ำอีกหนึ่งครัง้
2.5 ตรวจดวู า่ มอี าหารตกค้างอยใู่ นปากหรือไม่ กอ่ นป้อนอาหารคำต่อไป
2.6 หากมีการสำลกั หรอื ไอเกิดข้ึนขณะกลืนอาหาร ใหผ้ ูป้ ่วยก้มหนา้ ลงทนั ที
2.7 สำหรับผู้สูงอายุที่อ่อนแอมากๆหรือนอนติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็น
พิเศษ
2.8 หมั่นตรวจสอบฟันปลอมให้แนน่ พอดอี ยู่เสมอ (ในกรณมี ฟี นั ปลอม)
2.9 ในกรณีผู้สูงอายุมีความเสี่ยง แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องดูแลเรื่องพฤติกรรมที่เร่งรีบขณะรับประทาน
อาหาร และระวังการแยง่ ตกั อาหารจากถาดอาหารของผู้ป่วยอ่นื ด้วย
2.10 หลังรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ควรให้ดม่ื น้ำตามทุกคร้งั /ปอ้ นน้ำผู้ป่วยทุกครั้ง ระมัดระวังการ
สำลกั และป้อนา้ ๆไมเ่ รง่ รบี และหลังอาหารควรน่งั ตอ่ อีก 30 นาที
2.11 ขณะป้อน/ดูแลให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารเอง จะต้องดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาจนกระท่ัง
ผปู้ ว่ ยรบั ประทานอาหารเสร็จ และให้นั่งพักหรอื อยู่ในท่าเดมิ จนครบ 15 นาที แลว้ จดั ทา่ นอนใหผ้ ปู้ ่วยและหรือแนะนำ
การจัดทา่ นอนที่ถูกตอ้ งเหมะสมใหผ้ ปู้ ่วย
2.12 ประสานทีมสหวิชาชีพทีเ่ กี่ยวข้องเพือ่ ส่งตอ่ การดูแลที่มีคุณภาพ และผู้ป่วยได้รับการดูแลครอบคลุม
กาย จติ สงั คม จติ วญิ ญาณ
หมายเหตุ : ผปู้ ว่ ยทชี่ ว่ ยเหลอื ตัวเองไมไ่ ดห้ รอื ไดแ้ ต่เป็นผู้ป่วยกลมุ่ เสี่ยง ควรพิจารณาป้อนโดยพยาบาลหรือผูช้ ว่ ยเหลือ
คนไขท้ ี่อยใู่ นการเฝ้าระวังความเสีย่ งของพยาบาล และควรปอ้ นหรือดแู ลให้รับประทานอาหารก่อนหรอื หลังผ้ปู ่วยอ่ืน
ข้นั ตอนท่ี 3.
3.1 สำหรบั ผู้ป่วยที่รบั ประทานอาหารได้เองแตเ่ ป็นกลมุ่ เส่ยี งให้ตรวจสอบการแอบพกพาอาหารประเภทที่
เสีย่ งตอ่ การสำลกั หรืออดุ กน้ั ทางเดินหายใจเข้าไปแอบรับประทานในหอ้ งพัก/หอ้ งนอน
3.2 หมั่นตรวจสอบและเยี่ยมผู้ปว่ ยเปน็ ระยะๆ (หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนท่ี2.) หลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ๆ
เพ่ือป้องกันการเกดิ ภาวะแทรกซ้อนทเ่ี ปน็ อันตราย
3.3 ตดิ ตามประเมินผลระยะสั้นอย่างน้อย 15—30 นาที และตามมาตรการการเฝา้ ระวงั ความปลอดภัยทาง
คลินิก (SAFED)
3.4 ติดตามประเมินผลระยะยาวทุก 1 สัปดาห์ ทุก 1 เดือน อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องโดยพยาบาลผู้ช่วย
หัวหน้าหอผู้ป่วยและพยาบาล FLOAT เช้า เพื่อเป็นการประเมินผลการใช้แนวปฏิบัติดังกล่าว ด้วยวงล้อคุณภาพ
PDSA และนเิ ทศติดตามโดยหวั หนา้ หอผูป้ ่วย

13 | P a g e เอกสารน้ใี ชภ้ ายในโรงพยาบาลสวนสราญรมย์เทา่ นั้นหา้ มนำไปใชภ้ ายนอกหรือทำซ้ำโดยไม่ไดร้ บั อนญุ าต

แบบประเมนิ ความเส่ยี งทส่ี ำคญั ทางคลนิ ิก(SAFE-D) มี ไม่มี
คำชี้แจง ถ้าข้อใดมคี วามเส่ียงทำเคร่ืองหมาย√
แบบประเมินความเสย่ี งต่อการฆา่ ตัวตาย (S) มี ไมม่ ี
1. สหี นา้ เป็นทุกข์ หมน่ หมอง หรือร้องไหบ้ ่อยๆ ไมส่ บายใจ ซมึ เศร้า ท้อแท้ เบื่อหน่าย สิ้น
หวงั มี ไม่มี
มี ไม่มี
2. รสู้ ึกผดิ /ไมด่ ีกับตนเอง คิดว่าตนเองลม้ เหลว ไร้คา่ หรือทำใหต้ นเองหรอื ครอบครัว
ผิดหวัง

3. คดิ /พูดบน่ อยากตาย/มีแผนที่จะฆ่าตวั ตายหรอื พยายามหาวิธฆี ่าตวั ตาย

4. มีหูแวว่ เสยี งสั่งใหท้ ำร้ายตัวเอง

5. ใน 1 ปีท่ผี า่ นมาเคยพยายามฆา่ ตวั ตาย หมายเหตุ มีข้อใดข้อหนงึ่ = มีความเสีย่ ง

แบบประเมนิ ความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ (A)
1. การทรงตวั ไม่ดี สายตาไม่ดี มอี าการง่วงนอน เดินเซ หลงั ได้รบั ยาทาง
จติ เวช
2. ผปู้ ว่ ยได้รบั การรักษาด้วยไฟฟา้ มนึ งง การทรงตวั ไม่ดี
3. ผปู้ ว่ ยสมองเสื่อม (Dementia)
4. ผู้ปว่ ยท่ีมีภาวะเพ้อ ( Delirium) ภาวะถอนพษิ สุรา
5. ผปู้ ่วยที่มปี ญั หาโรคทางกายร่วม /ลมชัก
6. ผปู้ ว่ ยมอี าการทางจิต : กา้ วรา้ ว อยไู่ มน่ ิ่ง ประสาทหลอนหแู ว่ว
7. ผูป้ ่วยพิการ /ประสาทสัมผัสผิดปกติ เช่น ตาบอด หูตงึ หูหนวก แขนขาด้วน
หมายเหตุ มขี ้อใดข้อหนง่ึ = มีความเสยี่ ง
แบบประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดพฤติกรรมรนุ แรง (F)
1. แสดงออกถงึ พฤติกรรมก้าวรา้ ว ไดแ้ ก่ หงุดหงิด ไมเ่ ป็นมิตร พูดขม่ ขู่
2.พกอาวธุ หรอื สิ่งของท่ีอาจใช้เป็นอาวุธ
3.ท่าทางหวาดระแวงชัดเจน
แบบประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดพฤตกิ รรมรุนแรง(F) (ตอ่ )
4.มีประวัตกิ า้ วรา้ ว ทำลายของ/ทำรา้ ยผอู้ ื่น ภายใน 24 ชวั่ โมงก่อนมา โรงพยาบาล
5.มีความบกพรอ่ งของบคุ ลิกภาพ เชน่ ต่อต้านสังคม borderline
6.เครียด วติ กกงั วล พูดซ้ำๆในส่งิ ทเี่ ก่ียวกบั ความอึดอัดในการอย่ใู นห้องพัก การไม่ได้กลบั
บา้ นตามกำหนดเวลา
7.มีอาการเมาสุราหรอื มีอาการอยากยา (สารเสพตดิ )/ มีคำพดู ความต้องการสบู บหุ ร่ี
ตลอดเวลา
หมายเหตุ มีข้อใดข้อหน่งึ = มีความเสีย่ ง

14 | P a g e เอกสารนี้ใชภ้ ายในโรงพยาบาลสวนสราญรมย์เท่าน้ันหา้ มนำไปใชภ้ ายนอกหรอื ทำซำ้ โดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต

แบบประเมนิ ความเสี่ยงต่อการหลบหนี (E) มี ไมม่ ี
E1 : ผ้ปู ่วยสับสน เดนิ เรอื่ ยเปื่อย
มี ไมม่ ี
เป็นบุคคลเร่รอ่ น อย่ไู ม่เปน็ หลกั แหล่ง ชอบเทย่ี วเรอื่ ยเปื่อย มี ไมม่ ี
E2: มีประวตั ใิ ช้สารเสพติด

ผปู้ ่วยมีประวัติหลบหนี
ผปู้ ว่ ยทอ่ี ยโู่ รงพยาบาลนาน
ผปู้ ว่ ยท่ีมีแนวโนม้ ญาตทิ อดทิง้
เปน็ ผู้นำและมีภาระรบั ผดิ ชอบครอบครวั
ผู้ปว่ ยที่ แพทย์ อนุญาตใหก้ ลับบา้ นแล้ว แต่ญาติไมม่ ารับ
E3 : ผู้ป่วยที่มีอาการอยากยา
ปฏิเสธการเจบ็ ป่วย ไมย่ นิ ยอมรกั ษา
ปฏิเสธการเจบ็ ป่วย ไมย่ นิ ยอมรกั ษา
ปฏิเสธการเจบ็ ป่วย ไม่ยินยอมรักษา
มีประวัตเิ ปน็ อันตรายต่อครอบครัวและชมุ ชน / มพี ฤติกรรมรนุ แรงกา้ วรา้ ว
หมายเหตุ มีขอ้ ใดข้อหน่ึง = มีความเสย่ี งในระดบั น้นั ๆ
แบบประเมนิ ความเสย่ี งต่อการสำลกั อาหาร (D)
1. ผู้ป่วยจิตเวชสูงอายุ/จิตเวชทว่ั ไปทชี่ ว่ ยเหลือตวั เองได้น้อย/ไมไ่ ด้
2.ผปู้ ่วยจติ เวชที่ได้รับยาทางจิตจำนวนมากท้ัง(จำนวน/ชนดิ /ขนาด/ปริมาณ)
3.ผปู้ ว่ ยจิตเวชทกี่ ลา้ มเนื้อการดูดกลืนหยอ่ นประสิทธิภาพ
แบบประเมินความเส่ยี งต่อการสำลักอาหาร (D) (ต่อ)
4.ผปู้ ่วยจิตเวชระยะสุดท้าย
5.ผู้ป่วยโรคเร้อื รังทางสมอง
6.ผูป้ ่วยอมั พฤกษ/์ อัมพาต
7.ผู้ปว่ ยทีม่ พี ฤติกรรมอมอาหาร/ปฏิเสธอาหาร
8.ผปู้ ่วยทม่ี ีนำ้ ลายมาก/ผู้ปว่ ยท่ีมีภาวะEPS หรอื ผลขา้ งเคียงจากยา
9.ผู้ปว่ ยที่มีพฤติกรรมอยไู่ ม่น่ิง/สมาธสิ น้ั
10.ผู้ปว่ ยทม่ี ปี ระวตั สิ ำลกั บ่อยๆ
หมายเหตุ มีขอ้ ใดข้อหนึง่ = มคี วามเสยี่ ง

15 | P a g e เอกสารนใ้ี ชภ้ ายในโรงพยาบาลสวนสราญรมย์เท่านนั้ หา้ มนำไปใช้ภายนอกหรือทำซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต

บรรณานุกรม
กชพงศ์ สารการ. (2542). พฤตกิ รรมรุนแรงของผูป้ ่วยจติ เวชและการจัดการของบุคลากรของโรงพยาบาลศรมี หาโพธิ์.

วทิ ยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลสขุ ภาพจติ เวชและจติ เวช บณั ฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่, เชียงใหม่.
ธรี ะ ลลี านนั ทกจิ . (2541). การบรหิ ารจดั การและรักษาผปู้ ่วยท่กี ้าวร้าวและรุนแรงกบั ความปลอดภยั
ของผู้ป่วยและบคุ ลากร กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์.
ธวัชชยั กฤษณะประกรกิจ. (2543). แนวทางในการดูแลรักษาผู้ป่วยก้าวรา้ วรนุ แรง. เอกสาร
ประกอบการดูแลผู้ปว่ ยกา้ วรา้ วและพฤติกรรมรแุ รงหอผู้ป่วยจิตเวชโรงพยาบาลศรี
นครนิ ทร.์ ขอนแกน่ : มหาวิทยาลัยขอนแกน่ .
ปลดา เหมโลหะ. (2549). การพฒั นาแนวปฏิบัติการพยาบาลในการดแู ลผู้ปว่ ยท่ีมีพฤติกรรมรุนแรง.
โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี สารนิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต บณั ฑิต
วิทยาลัย มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์, สงขลา.
Yudofsky, S. C., Silver, J. M., Jackson, W., Endicott, J., & Williams, D. (1986). The overt
aggression scale for the objective rating of verbal and psysical aggression. American Journal
of Psychiatry, 143(1), 35-39.

16 | P a g e เอกสารนใี้ ชภ้ ายในโรงพยาบาลสวนสราญรมยเ์ ท่านัน้ หา้ มนำไปใชภ้ ายนอกหรอื ทำซำ้ โดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต

ภาคผนวก

17 | P a g e เอกสารน้ใี ช้ภายในโรงพยาบาลสวนสราญรมยเ์ ท่านั้นหา้ มนำไปใชภ้ ายนอกหรอื ทำซ้ำโดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต

รายช่อื ผู้ทรงคุณวฒุ ิ

1. นายแพทย์เจน บญุ ไพรตั นส์ กลุ นายแพทย์โรงพยาบาลสวนสราญรมย์

2. นางวรรณี ศริ ทิ รางกรู พยาบาลวิชาชพี ชำนาญการพเิ ศษ

3. นางสำอางค์ พนั ธ์ปุ ระทุม พยาบาลวชิ าชพี ชำนาญการพเิ ศษ

18 | P a g e เอกสารนี้ใช้ภายในโรงพยาบาลสวนสราญรมย์เทา่ น้นั หา้ มนำไปใชภ้ ายนอกหรอื ทำซ้ำโดยไมไ่ ด้รบั อนุญาต

รายช่อื ผู้เขา้ ประชุมเชงิ ปฏิบัตกิ าร การพฒั นาแนวปฏบิ ตั ิป้องกันความเสีย่ งทางคลินิก
ณ หอ้ งประชุมชน้ั ๕ อาคารอำนวยการ
วันท่ี ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘

ลำดบั ช่อื – สกลุ ตำแหน่ง หน่วยงาน
1 นางวรรณี ศิรนิ ทรางกูร พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ กลุ่มการพยาบาล
2 นางสำอางค์ พนั ธป์ุ ระทุม พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ กลุม่ การพยาบาล
3 นางพวงรัตน์ อินทะวงศ์ พยาบาลวชิ าชีพชำนาญการพิเศษ กลมุ่ การพยาบาล
4 นางโสภา มสุ ิโก พยาบาลวชิ าชีพชำนาญการพิเศษ กลมุ่ การพยาบาล
5 นางวรรธยา พวั พนั ธ์ พยาบาลวชิ าชพี ชำนาญการ กลมุ่ การพยาบาล
6 นางจันทนา เทศวฒั นา พยาบาลวชิ าชีพชำนาญการ หอผู้ปว่ ยหญิง5
7 น.ส.กลั ยา ชปู ระเสริฐ พยาบาลวิชาชพี ชำนาญการ หอผปู้ ่วยศูนย์สาธิต
8 น.ส.ประไพ ทยายุทธ พยาบาลวิชาชพี ชำนาญการ หอผ้ปู ว่ ยชาย3
9 นางนภาพร นวลสทุ ธิ์ พยาบาลวิชาชพี ชำนาญการ หอผูป้ ว่ ยชาย8
10 นางนิฤมล เผอื กคง พยาบาลวชิ าชีพชำนาญการ หอผปู้ ว่ ยหญงิ 6
11 นางรจุ า ราชพบิ ูลย์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ คลินกิ จติ เวชฉุกเฉิน
12 นางศลิ ีญา แกว้ เหลก็ พยาบาลวชิ าชพี ชำนาญการ หอผปู้ ่วยชาย4
13 นางเสาวภา ปานเพชร พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ หอผู้ป่วยชาย9
14 นายกฤษฎา ชาติประยรู พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ หอผู้ป่วยชาย12
15 น.ส.ปัทมา โพธิส์ วุ รรณ์ พยาบาลวชิ าชีพชำนาญการ หอผู้ปว่ ยชาย9
16 น.ส.ปลดา เหมโลหะ พยาบาลวชิ าชีพชำนาญการ คลนิ กิ เชยี่ วชาญระดบั สูง
17 นางดวงวภิ รณ์ พ่วงรอด พยาบาลวิชาชพี ชำนาญการ ผู้ป่วยนอก
18 นางศริ พิ ร ชวลติ พยาบาลวิชาชพี ชำนาญการ หอผปู้ ่วยชาย4
19 นางจำปา สทุ ธริ กั ษ์ พยาบาลวชิ าชพี ชำนาญการ หอผปู้ ว่ ยหญงิ 2
20 นางบรรเจิด ทพิ ย์นรุ ักษ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ หอผู้ปว่ ยหญงิ 7
พยาบาลเทคนิคชำนาญงาน หอผปู้ ว่ ยหญงิ 7
21 นางกาญจนา ภรู ิปัญญานนท์ พยาบาลวชิ าชีพชำนาญการ หอผู้ปว่ ยชาย11
พนกั งานชว่ ยเหลือคนไข้ หอผู้ป่วยชาย12
22 นางละออง วัฒนศิลป์ พนกั งานช่วยเหลือคนไข้ หอผปู้ ่วยชาย4
พนกั งานช่วยเหลอื คนไข้ ผปู้ ว่ ยนอก
23 นายคมชาญ วงศ์กลาง พนกั งานช่วยเหลือคนไข้ หอผปู้ ่วยชาย2
พนกั งานช่วยเหลือคนไข้ หอผปู้ ว่ ยชาย2
24 นายสิริวัฒน์ ขดี เรอื ง พนักงานชว่ ยเหลือคนไข้ หอผู้ป่วยหญิง6
พนกั งานช่วยเหลอื คนไข้ หอผู้ปว่ ยชาย8
25 นายโสรัจ ชำนนิ วล พนักงานช่วยเหลือคนไข้ หอผ้ปู ว่ ยชาย3
26 นายบรรพช ประทมุ วัลย์ พนักงานชว่ ยเหลือคนไข้ หอผู้ป่วยชาย3

27 นายสวุ ิทย์ รวยรำ่

28 นางชุตมิ า ป่นิ สมนาม
29 นายวรสทิ ธ์ิ พศั จทกั ษ์

30 นายเจษฏา เพชรเจรญิ

31 นายทววี ฒั น์ จำเนียร

19 | P a g e เอกสารนี้ใชภ้ ายในโรงพยาบาลสวนสราญรมย์เทา่ น้ันหา้ มนำไปใชภ้ ายนอกหรอื ทำซำ้ โดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต

ลำดบั ชื่อ – สกลุ ตำแหนง่ หน่วยงาน
32 นายสมเกยี รติ บุญวรรณ พนักงานชว่ ยเหลอื คนไข้ หอผู้ป่วยศนู ย์สาธิต
33 นางเพ็ญพันธ์ กรทิพย์ พนกั งานชว่ ยเหลือคนไข้ หอผูป้ ว่ ยหญงิ 2
34 น.ส.เพญ็ ผกา เอ่ยี มย่ี พนกั งานช่วยเหลือคนไข้ คลินกิ เชยี่ วชาญระดับสงู
35 น.ส.อัญชลกิ า ยทุ ธพรพงศ์ พนักงานช่วยเหลือคนไข้ ผู้ป่วยนอก
36 นายธนา ควรประมลู พนกั งานช่วยเหลอื คนไข้ หอผปู้ ว่ ยชาย9
37 นายศักดิช์ าย เทือกสบุ รรณ พนักงานชว่ ยเหลอื คนไข้ หอผ้ปู ่วยชาย11
38 นายสายณั ห์ จิตราภริ มย์ พนักงานชว่ ยเหลอื คนไข้ หอผปู้ ว่ ยชาย11

รายชือ่ วิทยากรและคณะทำงานประชุมเชิงปฏบิ ตั กิ าร การพัฒนาแนวปฏบิ ัตปิ ้องกนั ความเส่ียงทางคลนิ ิก ณ ห้อง
ประชมุ ชัน้ ๕ อาคารอำนวยการ
วนั ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘

ลำดบั ช่อื – สกลุ ตำแหน่ง หนว่ ยงาน
๑ นางสนธยา ไทยเกดิ พยาบาลวชิ าชพี ชำนาญการ กล่มุ การพยาบาล
๒ นางกรณิ ี สงั ข์ประคอง พยาบาลวิชาชพี ชำนาญการ หอผปู้ ่วยหญงิ 2
๓ นางวันทนา ทพิ ย์มณเฑยี ร พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ คลนิ กิ เชี่ยวชาญระดับสูง
๔ นางคนึงนิตย์ วิชยั ดิษฐ์ พยาบาลวชิ าชีพชำนาญการ หอผ้ปู ว่ ยชาย2
๕ นางศุภรี เสตกุล พยาบาลวิชาชพี ชำนาญการ หอผ้ปู ่วยชาย12

20 | P a g e เอกสารนใี้ ชภ้ ายในโรงพยาบาลสวนสราญรมย์เทา่ นนั้ หา้ มนำไปใช้ภายนอกหรือทำซำ้ โดยไมไ่ ด้รับอนญุ าต


Click to View FlipBook Version