บันทกึ ข้อความ
ส่วนราชการ โรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาค อาเภอเมอื ง จงั หวัดชลบุรี
ท่ี ๑๓/๒๕๖๒ วันท่ี ๑๗ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓
เรอ่ื ง รายงานการดาเนนิ งานพฒั นาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ตามนโยบาย “เดนิ หน้าและพฒั นาการอา่ น
ออกเขียนได้” ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓
............................................................................................................................. ....................................................................................
เรยี น ผูอ้ านวยการโรงเรยี นบา้ นปากคลองโรงนาค
ตามท่ีข้าพเจ้า นางสาวจุฑามาศ จันทนา ตาแหน่งครู โรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาค ได้รับมอบหมายจาก
ผ้อู านวยการโรงเรยี นให้ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีเปน็ ครูประจาชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่๓ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ใหร้ ายงานการดาเนนิ งาน
พัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ตามนโยบาย “เดินหน้าและพัฒนาการอ่านออกเขียนได้” ระดับชั้น
ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ประกอบไปดว้ ย กิจกรรมต่าง ๆ ดงั นี้
๑) กิจกรรมพัฒนาความสามารถด้านการอ่านออกเขยี นได้ “บัตรคา นาอ่านขียน”
๒) กิจกรรมพัฒนาความสามารถดา้ นอ่านเขียนเพื่อพัฒนาความเขา้ ใจ “อ่านเร่อื ง แยกคา”
๓) กิจกรรมพัฒนาความสามารถดา้ นการอ่านเขยี นเพื่อพัฒนาความสามารถดา้ นวิเคราะห์ “อา่ น คิด
วิเคราะห์”
๔) การประเมนิ เพอ่ื พัฒนานกั เรยี นเป็นรายบุคคล การประเมินเพ่อื การเรยี นรู้
๕) PLC เพื่อพฒั นาการอา่ นออกเขยี นได้
๖) Best Practice “สอนซา้ ยา้ ทวน เพือ่ พัฒนาการอ่านเขียน”
บัดนี้ การปฏิบตั ิหน้าทท่ี ่ไี ด้รับมอบหมายไดเ้ สร็จเรียบรอ้ ยแล้ว ข้าพเจ้าขอรายงานผลการดาเนินงาน ดงั เอกสาร
ท่ีแนบมาพรอ้ มกันนี้
จึงเรียนมาเพอื่ โปรดทราบ และพจิ ารณาดาเนนิ การตอ่ ไป
ลงช่ือ ......................................................... ผู้รายงาน
( นางสาวจฑุ ามาศ จนั ทนา )
ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาค
ความคดิ เหน็ ของผู้อานวยการโรงเรียน
……………………………………………………………………………………...……………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………….….......................................
………………………………………………………………………………………………………………………………….….......................................
ลงช่ือ .........................................................
( นางสาวบุญเอ้ือ เอย่ี มรตั น์ )
ผู้อานวยการโรงเรยี นบา้ นปากคลองโรงนาค
คานา
รายงานการดาเนินงานพฒั นาคณุ ภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ตามนโยบาย “เดนิ หน้าและพัฒนาการอา่ นออกเขียนได้”
ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ประกอบไปด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ไดแ้ ก่ กจิ กรรมพฒั นาความสามารถดา้ น การอา่ นออกเขียนได้ “บตั รคา
นาอา่ นขยี น” กจิ กรรมพัฒนาความสามารถด้านอา่ นเขียนเพื่อพัฒนา ความเข้าใจ “อ่านเร่ือง แยกคา” กจิ กรรมพฒั นาความสามารถ
ด้านการอ่านเขยี นเพ่ือพัฒนาความสามารถด้านวิเคราะห์ “อา่ น คิด วิเคราะห์” การประเมินเพื่อพัฒนานักเรยี นเป็นรายบคุ คล “การ
ประเมนิ เพือ่ การเรยี นรู้” กิจกรรม PLC เพือ่ พัฒนาการอา่ นออกเขียนได้ และผลการปฏบิ ัติทเี่ ปน็ เลิศ Best Practice “สอนซ้า ย้า ทวน
เพอื่ พัฒนาการอา่ นเขยี น”
ผู้จัดทาขอขอบคุณ นางสาวบุญเอื้อ เอ่ียมรัตน์ ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาคท่ีให้คาปรึกษาแนะนาในการจดั
กิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ตามนโยบาย “เดินหน้าและพัฒนาการอ่านออกเขียนได้” และขอขอบคุณคณะ
ครู ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่ช่วยขับเคลื่อนแนวคิด เทคนิค สื่อ วิธีการต่าง ๆ ในการพัฒนาความสามารถในการอ่านและ
เขยี นของผ้เู รยี น หวงั ว่าเอกสารฉบบั นจี้ ะเปน็ ประโยชน์ในการพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รยี นตอ่ ไป
จฑุ ามาศ จนั ทนา
ผจู้ ดั ทา
สารบัญ หน้า
การดาเนินงานพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ๑
- กจิ กรรมพฒั นาความสามารถดา้ นการอา่ นออกเขียนได้ ๑๑
- กจิ กรรมพัฒนาความสามารถดา้ นอา่ นเขียนเพือ่ พัฒนาความเขา้ ใจ ๑๗
- กิจกรรมพฒั นาความสามารถด้านการอ่านเขยี นเพ่ือพัฒนาความสามารถด้านวเิ คราะห์ ๒๓
- การประเมนิ เพอ่ื พฒั นานักเรยี นเป็นรายบคุ คล ๒๕
- กจิ กรรม PLC เพอ่ื พัฒนาการอา่ นออกเขยี นได้ ๓๕
- ผลการปฏบิ ัตทิ เ่ี ป็นเลิศ Best Practice
- ภาคผนวก
รายงานการดาเนนิ งานพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย
ตามนโยบาย “เดินหน้าและพัฒนาการอา่ นออกเขยี นได้”
๑) กจิ กรรม พัฒนาความสามารถดา้ นการอ่านเขยี น เพอ่ื พัฒนาความสามารถดา้ นการอา่ นออกเขียนได้
ระดับ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๓
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๑ชื่อกจิ กรรม : บตั รคา นาอา่ นเขียน
๒. กระบวนการและขัน้ ตอนการดาเนินการ
การอ่านออกเสียง ทำให้ผ้รู บั สำรสำมำรถเข้ำใจควำมหมำยขอคำและสำมำรถสื่อสำรไดข้ ำ้ ซึ่งกันและกัน
กำรศกึ ษำทำควำมเข้ำใจเก่ยี วกับหลกั กำรอ่ำนคำตำมอกั ขรวิธีอย่ำงถ่องแท้ จะช่วยให้กำรส่อื สำรบรรลปุ ระสิทธิผลตำเจตนำ
ของผสู้ ง่ สำร
- นำบตั รคำ จำกบญั ชีคำพ้นื ฐำนชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๓ มำให้นกั เรียนทดลองอ่ำน โดยที่คุณครไู มไ่ ด้นำอำ่ น เพ่อื
ทดสอบควำมรู้เบ้อื งตน้ ในกำรอำ่ นของนกั เรยี นแตล่ ะคน เพ่ือใช้ในกำรจำแนกเด็ก เก่ง กลำง และอ่อน
- ครูฝึกนักเรียนอำ่ นและสะกดทลี ะคำจำกบัตรคำ ท่ีเป็นคำชุดเดมิ
การเรยี นรู้แบบเพอ่ื นชว่ ยเพอื่ น หรอื “Peer Assist” เป็นกำรจดั กำรควำมร้กู ่อนลงมอื ทำกิจกรรม (Learning
Before Doing) เพอ่ื แสวงหำผู้ช่วยทีม่ ีควำมแตกต่ำง มำแลกเปลย่ี นประสบกำรณ์ควำมรู้ เพือ่ ขยำยกรอบควำมคดิ ใหก้ วำ้ ง
และมปี ระสทิ ธภิ ำพมำยง่ิ ข้นึ โดยอำศัย “คน” เป็นธงนำ (People Driven) เปิดมุมมองควำมคิดท่ีหลำกหลำยจำกกำร
แลกเปลย่ี นระหว่ำงทมี ทีม่ ที กั ษะ ควำมสำมำรถ และประสบกำรณท์ แ่ี ตกตำ่ งกนั ทำให้ไม่มองอะไรเพียงดำ้ นเดียว
- ให้นกั เรยี นจับกล่มุ กนั ฝกึ อ่ำนสะกด จำกบตั รคำ โดยใช้วิธีเพ่อื นชว่ ยเพือ่ น
- ให้นักเรียนเขยี นตำมคำบอกจำกบัตรคำท่ีเคยฝกึ อ่ำนลงบนใบงำน ถ้ำผิดให้แกไ้ ขใหถ้ กู ต้อง
๓. ส่ือการจดั การเรยี นการสอน
๒.๑ บัตรคำ (แบบฝึกทกั ษะท่ี ๑)
๒.๒ แบบฝึกทกั ษะที่ ๒ กำรเขยี นตำมคำบอก
๔. ผลการดาเนนิ งานและการพฒั นา
ตำรำงเปรียบเทียบผลกำรใหค้ ะแนนกำรเขียนตำมคำบอกคำควบกล้ำ
ของนกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๓ โรงเรียนบ้ำนปำกคลองโรงนำค
(กอ่ นและหลงั กำรทดลอง)
ลำดับท่ี ช้ัน ชื่อ-นำมสกุล กอ่ นกำร หลังกำร D แปรผล
ทดลอง ทดลอง
เพม่ิ ขนึ้ ๑ ดี
๑. ป.๓ เดก็ ชำยธนำกร งำมประเสรฐิ ๗ ๘ เพม่ิ ขึน้ ๑ ดี
๙ ๑๐ เพ่มิ ขึ้น ๑ ดี
๒. ป.๓ เด็กชำยภทั รพงษ์ กุลนำวรรณ์ ๙ ๑๐ เพ่ิมขน้ึ ๑ ดี
๙ ๑๐ เพิม่ ขึ้น ๒ ดี
๓. ป.๓ เด็กชำยศกั ดสิ์ ิทธ์ิ ศรเี สรมิ ๕ ๗ เพม่ิ ขน้ึ ๑ ดี
๙ ๑๐ เพ่มิ ขน้ึ ๑ ดี
๔. ป.๓ เดก็ ชำยนที ไทยมณี ๗ ๘ เพ่มิ ขึ้น ๑ ดี
๙ ๑๐ เพิ่มขึ้น ๑ ดี
๕. ป.๓ เด็กหญงิ ภฎั ฎำภรณ์ แซอ่ ง้ึ ๗ ๘ เพิ่มขึ้น ๑ ดี
๙ ๑๐ เพม่ิ ขน้ึ ๓ ดี
๖. ป.๓ เดก็ หญงิ นลพรรณ ปำนผำ ๗ ๑๐ เพ่มิ ขน้ึ ๒ ดี
๔ ๖ เพม่ิ ขน้ึ ๑ ดี
๗. ป.๓ เดก็ หญิงสุวรรณกัลยำ จันทรภ์ ิรมณ์ ๙ ๑๐ เพ่มิ ขน้ึ ๓ ดี
๑ ๔
๘. ป.๓ เด็กหญงิ สชุ ำดำ กันสรำ้ ง
๙. ป.๓ เดก็ หญงิ พรี ดำ พวงสี
๑๐. ป.๓ เดก็ ชำยณัฐพร คงั ดงเคง็
๑๑. ป.๓ เด็กชำยทรงกลด สุภำวหำ
๑๒. ป.๓ เด็กชำยศภุ สทิ ธ์ิ สระมลู
๑๓. ป.๓ เด็กชำยนำชยั แก้ววัฒถำ
๑๔. ป.๓ เด็กชำยธงไช พลรบ
ควำมสำมำรถด้ำนภำษำไทยด้ำนกำรอำ่ นกำรเขยี นของ นักเรยี นชนั้ ป.๓ สูงขึ้น โดยคะแนนเฉล่ยี ภำพรวมก่อน
เรียนได้รอ้ ยละ ๗๒.๑๔ และหลงั กำรอำ่ นเขยี นคะแนนเฉลยี่ หลังเรียนได้ ร้อยละ ๘๖.๔๓ ดำ้ นกำรเขียนมีคะแนนเฉลี่ยหลงั
เรยี นสูงกวำ่ กอ่ นเรียน ร้อยละ ๑๔.๒๙
ภาคผนวก
ส่อื การอา่ นออกเขยี นไดจ้ ากบตั รคา
กจิ กรรม แบง่ กลุ่มเพ่อื นชว่ ยเพ่ือนอ่านคาศัพทจ์ ากบตั รคา
กจิ กรรม แบง่ กลุ่มเพ่อื นชว่ ยเพ่ือนอ่านคาศัพทจ์ ากบตั รคา
กจิ กรรม แบง่ กลุ่มเพ่อื นชว่ ยเพ่ือนอ่านคาศัพทจ์ ากบตั รคา
กจิ กรรม การฝกึ ฝนการอ่านคล่อง
แบบฝึกทกั ษะ ที่๒
คาช้แี จง ให้นักเรียนเขียนตามคาบอกให้ถกู ต้อง คะแนน แกค้ าผิด
คาศพั ท์
๑. …………………………………………………………….. …………………………………
๒. …………………………………………………………….. …………………………………
๓. …………………………………………………………….. …………………………………
๔. …………………………………………………………….. …………………………………
๕. …………………………………………………………….. …………………………………
๖. …………………………………………………………….. …………………………………
๗. …………………………………………………………….. …………………………………
๘. …………………………………………………………….. …………………………………
๙. …………………………………………………………….. …………………………………
๑๐.……………………………………………………………. …………………………………
ช่อื -สกลุ ..........................................................................................................เลขที่...................ชน้ั ................
แบบฝึกทกั ษะการเขียนตามคาบอกก่อนเรยี น-หลงั เรยี น
รายงานการดาเนนิ งานพัฒนาคณุ ภาพการเรียนการสอนภาษาไทย
ตามนโยบาย “เดินหนา้ และพฒั นาการอา่ นออกเขยี นได้”
๑) กิจกรรม พฒั นาความสามารถดา้ นการอา่ นเขียน เพอื่ พัฒนาความเข้าใจ ระดับ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๑.ชอ่ื กจิ กรรม : อา่ นเรอ่ื ง แยกคาควบ
๒. กระบวนการและขนั้ ตอนการดาเนนิ การ
๒.๑ ครูสอนเรือ่ งคำ้ ควบกล้ำ ท่แี บง่ ออกเปน็ สองประเภท คอื ค้ำควบกล้ำแท้ และค้ำควบกล้ำไมแ่ ท้
คำควบกลำ้ แท้ อักษรท่ใี ชใ้ นคำ้ ควบกล้ำมีแค่ 3 ตวั ร ล ว กวำด กลว้ ย ควำย
คำควบกลำ้ ไมแ่ ท้ ๑. ใชต้ วั ร ค่กู บั อักษรนำ้ จริง พุทรำ
๒. ไมอ่ อกเสียง ร เวลำอ่ำน
๒.๒ ครูนำ้ บตั รค้ำมำใหน้ ักเรียนจ้ำแนก วำ่ เปน็ ค้ำควบแท้ หรือ ไมแ่ ท้ เพ่ือทบทวนควำมเข้ำใจ
๒.๓ ครูยกตวั อยำ่ งคำ้ อน่ื นอกเหนือจำกบัตรคำ้ และถำมรำยบุคคล โดยใช้วิธี เน้น ยำ้ ซำ้ ทวน เพื่อให้
นกั เรียนไดเ้ ข้ำใจและแม่นย้ำมำกขนึ
๒.๓ ให้นกั เรยี นท้ำแบบฝกึ ทกั ษะต่ำงๆ เชน่
- กำรจ้ำแนกคำ้ ควบแทแ้ ละคำ้ ควบไม่แทอ้ อกจำกกัน
- กำรยกตัวย่ำงค้ำควบแท้ และยกตัวอยำ่ งคำ้ ควบไม่แท้
- แยกค้ำควบกลำ้ ออกจำกคำ้ อื่นจำกเนือเรอื่ ง หรือจำกนิทำนเชน่ เรื่อง นกอินทรกี ับเตำ่ ทอง โดย
กำรใหน้ กั เรียนวงกลมค้ำทเี่ ป็นคำ้ ควบกล้ำทงั หมด
๓. สอื่ การจัดการเรียนการสอน
4.1 บัตรค้ำ (แบบฝึกทักษะท่ี ๑)
4.2 แบบฝกึ ทักษะที่ ๓ นิทำนเรอื่ ง นกอนิ ทรีกบั เตำ่ ทอง
๔. ผลการดาเนินงานและการพฒั นา
ก่อนเรยี น หลังเรยี น
๑. นักเรยี นไมร่ ู้จักคำ้ ควบกล้ำ - นกั เรยี นรู้จักค้ำควบกลำ้ มำกขึน
๒. นักเรยี นไมส่ ำมำรถจ้ำแนกค้ำควบกล้ำแท้และไม่ - นักเรยี นสำมำรถจำ้ แนกค้ำควบกล้ำแท้และไม่แท้
แทไ้ ด้ ได้
๓. นักเรยี นไมส่ ำมำรถยกตัวอย่ำงคำ้ ควบกลำ้ ท่เี ป็น - นักเรยี นสำมำรถยกตวั อยำ่ งค้ำควบกล้ำ ท่ีเปน็ ค้ำ
ค้ำควบกล้ำแท้ และค้ำควบกล้ำไม่แท้ได้ ควบกลำ้ แท้ และค้ำควบกล้ำไม่แทไ้ ด้
ภาคผนวก
ทักษะ ที่๑
บัตรคา คาควบกลา้
แบบฝึกทกั ษะ ที่๓
คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นอา่ นเรอ่ื งนกอินทรกี บั เต่า และวงกลมหาคาท่ีเป็นคาควบกลา้ จากนั้นตอบ
คาถามจากเนือ้ เร่ืองให้ถูกตอ้ ง
เรอื่ ง นกอินทรีกบั เตา่ ทอง
เตำ่ ทองตวั หนง่ึ ออ้ นวอนใหน้ กอินทรไี ว้ชีวิตกระตำ่ ยปำ่ ซึ่งว่ิงมำขอควำมช่วยเหลอื จำก
มนั แตน่ กอินทรกี ลบั โฉบเหยือ่ ของมันบนิ ขนึ ไปพรอ้ มกระพือปกี อนั กวำ้ งใหญ่จนเจ้ำเตำ่ ทองถกู พัดปลิว
กระเดน็ ไปไกลหลำยฟตุ ดว้ ยควำมโกรธแค้นท่ถี ูกหยำมหมิน่ เตำ่ ทองจงึ บนิ ไปยงั รงั ของนกอนิ ทรแี ละ
กลิงไขต่ กลงมำจำกรงั ไมเ่ หลือแมแ้ ต่ฟองเดยี ว เม่อื นกอนิ ทรรี ู้เขำ้ ก็โศกเศรำ้ และเกรียวโกรธหำใดปำน
แต่มนั ไม่รวู้ ำ่ เปน็ ฝีมืออนั โหดเหยี มของผ้ใู ด
ปีตอ่ มำ นกอนิ ทรสี รำ้ งรังเหนอื ขนึ ไปบนหน้ำผำชัน แต่เจ้ำเตำ่ ทองก็ยังตำมหำจนพบและ
ท้ำลำยไข่ทงั หมดลง ดว้ ยควำมสินหวัง ครำวนนี กอินทรจี ึงไปทลู อ้อนวอนจอมเทพจปู ิเตอรเ์ พ่อื ประทำน
อนญุ ำตใหม้ นั วำงไข่บนเพลำของพระองค์ จะได้ไมม่ ใี ครกล้ำมำทำ้ อนั ตรำยไข่ได้อกี แตแ่ ลว้ เจำ้ เต่ำทองก็
บินวนมำห่ึงๆ อยรู่ อบเศียรของเทพจูปิเตอร์ พระองคผ์ ดุ ลกุ ขึนไปไลม่ ัน และแลว้ ไขท่ ังหมดกก็ ลิงลงมำ
จำกเพลำของพระองค์
แลว้ เจ้ำเต่ำทองก็ทูลแถลงเหตุผลที่มันท้ำเชน่ นี เทพจปู เิ ตอรจ์ ำ้ ตอ้ งยอมรบั กำรกระทำ้ อัน
เทยี่ งธรรมของมัน และนบั ตงั แตน่ นั เปน็ ตน้ มำ วำ่ กันว่ำเมอื่ นกอนิ ทรวี ำงไข่ในรังชว่ งฤดใู บไม้ผลิ เต่ำทอง
กย็ งั ตอ้ งจำ้ ศีลหลับใหลอยู่ใต้พืนดินตำมบญั ชำของเทพจูปิเตอร์
ชอ่ื -สกุล..........................................................................................................เลขท่ี...................ชน้ั ................
กจิ กรรม การฝึกทกั ษะเพ่อื พฒั นาการเขา้ ใจ
กจิ กรรม การฝกึ ทกั ษะเพ่อื พฒั นาการเขา้ ใจ
รายงานการดาเนนิ งานพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย
ตามนโยบาย “เดินหน้าและพฒั นาการอ่านออกเขยี นได้”
๓. กิจกรรม พัฒนาความสามารถด้านการอ่านเขียน เพอ่ื พฒั นาความสามารถดา้ นการคดิ วิเคราะห์
ระดับ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๑.ชือ่ กจิ กรรม : นกอนิ ทรีกับเต่าทอง
๒. กระบวนการและขนั้ ตอนการดาเนินการ
๒.๑ ครนู าบทความมาใหน้ กั เรยี นอา่ น จากน้ันสมุ่ นกั เรยี นทลี ะคน เพื่อถาม และ สรปุ ใจความสาคญั
ใคร ทาอะไร ที่ไหน อย่างไร
๒.๒ ครูเปดิ นิทานมาใหน้ กั เรียนดู จากนั้นสมุ่ นักเรียนทลี ะคน เพอ่ื ถาม และ สรปุ ใจความสาคัญ
ใคร ทาอะไร ท่ไี หน อย่างไร
๒.๓ เขา้ สู่กระบวนการ เนน้ ยา้ ซา้ ทวน ในการตั้งคาถาม คือ การฝกึ ใหน้ กั เรียนทาบ่อยๆ ฝกึ
กระบวนการคดิ
การแก้ปญั หา สรุปความเพ่ือเกิดการเรยี นรู้ไดอ้ ยา่ งรวดเร็วและแม่นยามากข้ึน
๒.๓ ใหน้ ักเรยี นทาแบบฝกึ ทกั ษะอ่านนทิ านเร่อื ง นกอินทรกี ับเต่าทอง
- ตอบคาถามใหถ้ ูกตอ้ ง
๓. สอื่ การจัดการเรยี นการสอน
4.1 แบบฝึกทักษะที่ ๓ นิทานเรอื่ ง นกอินทรีกบั เตา่ ทอง
๔. ผลการดาเนนิ งานและการพฒั นา
กอ่ นเรียน หลงั เรยี น
๑. นักเรียนไมส่ ามารถบอกได้วา่ ใคร ทาอะไร ท่ี - นักเรยี นสามารถบอกได้ว่า ใคร ทาอะไร ทไี่ หน
อยา่ งไร
ไหน อย่างไร - นกั เรยี นสามารถตอบปญั หาที่ถามจากเนือ้ เร่ือง
๒. นักเรยี นไมส่ ามารถตอบปญั หาทถี่ ามจากเน้ือ ได้
- นกั เรียนสามารถวเิ คราะหเ์ นื้อเรือ่ งทีใ่ หม้ าได้และ
เรื่องได้ สามรถออกมาสรุปเรอื่ งใหค้ รแู ละเพื่อนฟังได้
๓. นักเรียนไม่สามารถวเิ คราะหเ์ นื้อเร่ืองทีใ่ หม้ าได้
ภาคผนวก
แบบฝึกทกั ษะ ที่๓
คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนอ่านเรอ่ื งนกอินทรกี ับเตา่ และวงกลมหาคาทเ่ี ปน็ คาควบกล้า จากนั้นตอบ
คาถามจากเนื้อเร่อื งให้ถกู ตอ้ ง
เร่อื ง นกอนิ ทรีกับเตา่ ทอง
เตา่ ทองตัวหนง่ึ อ้อนวอนให้นกอนิ ทรีไว้ชวี ติ กระต่ายป่า ซ่ึงวิ่งมาขอความช่วยเหลอื
จากมัน แต่นกอินทรีกลบั โฉบเหยอ่ื ของมนั บนิ ข้นึ ไปพรอ้ มกระพือปกี อนั กวา้ งใหญจ่ นเจ้าเตา่ ทองถกู
พัดปลิวกระเด็นไปไกลหลายฟุต ด้วยความโกรธแคน้ ที่ถูกหยามหม่นิ เตา่ ทองจึงบนิ ไปยงั รงั ของนก
อนิ ทรีและกลง้ิ ไขต่ กลงมาจากรังไมเ่ หลือแม้แตฟ่ องเดียว เมอ่ื นกอนิ ทรีรู้เขา้ กโ็ ศกเศร้าและเกรี้ยว
โกรธหาใดปาน แตม่ นั ไมร่ ูว้ ่าเปน็ ฝีมอื อันโหดเห้ียมของผูใ้ ด
ปตี อ่ มา นกอินทรีสร้างรงั เหนือขึ้นไปบนหนา้ ผาชนั แต่เจา้ เต่าทองก็ยังตามหาจนพบ
และทาลายไขท่ ัง้ หมดลง ดว้ ยความส้นิ หวงั คราวนน้ี กอินทรจี ึงไปทลู อ้อนวอนจอมเทพจปู เิ ตอร์เพื่อ
ประทานอนุญาตใหม้ ันวางไข่บนเพลาของพระองค์ จะไดไ้ ม่มีใครกล้ามาทาอันตรายไข่ไดอ้ ีก แต่
แล้วเจา้ เตา่ ทองก็บนิ วนมาหง่ึ ๆ อยรู่ อบเศียรของเทพจูปิเตอร์ พระองคผ์ ุดลุกขึ้นไปไลม่ ัน และแลว้
ไข่ท้งั หมดก็กล้ิงลงมาจากเพลาของพระองค์
แล้วเจา้ เต่าทองก็ทลู แถลงเหตุผลทม่ี ันทาเชน่ นี้ เทพจปู ิเตอรจ์ าตอ้ งยอมรับการกระทา
อันเท่ยี งธรรมของมัน และนบั ต้งั แตน่ ั้นเป็นตน้ มา ว่ากันวา่ เม่ือนกอนิ ทรวี างไข่ในรงั ชว่ งฤดูใบไม้ผลิ
เต่าทองก็ยังตอ้ งจาศีลหลับใหลอย่ใู ต้พื้นดนิ ตามบญั ชาของเทพจูปิเตอร์
ชื่อ-สกุล..........................................................................................................เลขท่.ี ..................ชนั้ ................
๑. ตวั ละคร :
…………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
๒. เพราะเหตุใดเต่าทองจึงตามไปทาลายไข่ของนกอินทรี
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
๓. ทาไมเทพจูปิเตอร์ จึงให้เตา่ ทองจาศีลในชว่ งฤดใู บไมผ้ ลิ
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
๔. ข้อคดิ ทีไ่ ด้จากเร่ือง
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………..
ชอ่ื -สกลุ ..........................................................................................................เลขที.่ ..................ช้นั ................
กจิ กรรม การฝึกทกั ษะเพ่อื พฒั นาด้านการคดิ วเิ คราะห์
รายงานการดาเนินงานพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย
ตามนโยบาย “เดินหน้าและพัฒนาการอ่านออกเขยี นได้”
............................................................................................................................. ......................................
๔. การประเมนิ เพ่ือพฒั นานักเรยี น ระดับประถมศึกษา
๔.๑ การประเมินกอ่ นเรยี น หรือก่อนการจดั การเรียนรู้ หรือการประเมินพน้ื ฐาน (Basic
Evaluation) เปน็ การประเมนิ กอ่ นเรม่ิ ต้นการเรียนการสอนของแตล่ ะบทเรยี นหรอื แตล่ ะหนว่ ย แบง่ ได้ 2
ประเภท คือ
๑. การประเมินเพื่อจัดตาแหนง่ (Placement Evaluation) เปน็ การประเมนิ เพ่อื พจิ ารณาดูว่า
ผู้เรยี นมีความรูค้ วามสามารถในสาระท่จี ะเรียนอยใู้ นระดบั ใดของกลมุ่ ประโยชน์ของการประเมินประเภท
น้ี คือ ครใู ช้ผลการประเมินเพ่ือกาหนดรปู แบบการจัดการเรยี นร้ใู ห้เหมาะสมกับกลุ่มผูเ้ รยี น ผู้เรยี นท่มี ี
ความร้คู วามสามารถในสาระท่จี ะเรียนนอ้ ยคอื อยู่ในตาแหน่งทา้ ยๆ ควรได้รับการเพ่มิ พนู เนื้อหาสาระน้ัน
มากกว่ากลุม่ ทอี่ ยใู่ นลาดบั ต้นๆ คอื กลุม่ ที่มีความรคู้ วามสามารถในสาระทจ่ี ะเรียนมากกวา่ หรอื กลมุ่ ท่ีมี
ความรู้พืน้ ฐานในสาระที่จะเรียนดกี ว่า และแต่ละกลมุ่ ควรใชร้ ปู แบบการเรยี นร้ทู แี่ ตกตา่ งกนั
๒.การประเมนิ เพื่อวนิ ิจฉยั (DiagnosticEvaluation) เป็นการประเมินกอ่ นการเรยี นการสอน
อีกเชน่ กัน แต่เป็นการประเมนิ เพอ่ื พจิ ารณาแยกแยะวา่ ผู้เรยี นมคี วามรูค้ วามสามารถในสาระที่จะเรียนรู้
มากน้อยเพียงใด มีพื้นฐานเพยี งพอทจ่ี ะเรยี นในเรอื่ งทจ่ี ะสอนหรอื ไม่ จดุ ใดสมบรู ณแ์ ล้ว จดุ ใดยังบกพรอ่ ง
อยู่ จาเป็นตอ้ งได้รบั การสอนเสรมิ ใหม้ พี ้นื ฐานท่เี พยี งพอเสียกอ่ นจึงจะเริม่ ต้นสอนเน้อื หาในหน่วยการเรียน
ตอ่ ไป และจากพนื้ ฐานท่ีผเู้ รียนมอี ยคู่ วรใช้รูปแบบการเรียนการสอนอยา่ งไร
๔.๒ การประเมินเพอื่ พฒั นา หรือการประเมนิ ย่อย (Formative Evaluation) เปน็ การประเมนิ เพื่อใช้
ผลการประเมินเพอ่ื ปรับปรุงกระบวนการจัดการเรยี นรู้ การประเมนิ ประเภทนีใ้ ชร้ ะหว่างการจัดการเรียน
การสอน เพื่อตรวจสอบวา่ ผู้เรยี นมคี วามรู้ความสามารถตามจดุ ประสงค์ท่กี าหนดไว้ในระหวา่ งการจดั การ
เรียนการสอนหรอื ไม่ หากผ้เู รียนไม่ผา่ นจุดประสงค์ทีต่ ง้ั ไว้ ผสู้ อนก็จะหาวิธีการที่จะช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การ
เรยี นรูต้ ามเกณฑท์ ี่ตั้งไว้ ผลการประเมนิ ยังเปน็ การตรวจสอบครผู ู้สอนเองว่าเป็นอยา่ งไร แผนการเรยี นรู้ราย
คร้ังทีเ่ ตรียมมาดหี รอื ไม่ ควรปรบั ปรงุ อยา่ งไร กระบวนการจัดการเรยี นรเู้ ปน็ อยา่ งไร มจี ดุ ใดบกพรอ่ งที่ต้อง
ปรับปรุงแก้ไขต่อไป
๔.๓ การประเมนิ เพื่อตดั สินหรือการประเมินผลรวม (Summative Evaluation) เป็นการประเมนิ เพ่ือ
ตดั สนิ ผลการจดั การเรยี นรู้ เปน็ การประเมนิ หลังจากผู้เรยี นไดเ้ รียนไปแลว้ อาจเป็นการประเมนิ หลงั จบ
หน่วยการเรียนรู้หนว่ ยใดหนว่ ยหนึง่ หรือหลายหน่วย รวมท้ังการประเมนิ ปลายภาคเรียนหรอื ปลายปี ผล
จากการประเมนิ ประเภทนใ้ี ชใ้ นการตดั สนิ ผลการจัดการเรียนการสอน หรอื ตดั สินใจวา่ ผู้เรยี นคนใดควรจะ
ได้รบั ระดบั คะแนนใด
การประเมนิ เพ่อื พัฒนานักเรยี น ระดบั ประถมศกึ ษา
แบบรายงาน PLC
ชุมชนการเรียนร้ทู างวชิ าชพี เพอื่ พัฒนาการอ่านออกเขียนได้
ชื่อผ้รู ายงาน โรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาค ตาบลอา่ งศิลา อาเภอเมอื งชลบรุ ี จังหวดั ชลบุรี
สังกดั สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษาชลบรุ ี เขต ๑
๑. ช่ือชมุ ชนการเรยี นรทู้ างวิชาชีพ
ชุมชนการเรียนรูท้ างวชิ าชพี เพื่อพฒั นาการอ่านออกเขยี นได้ดว้ ยกระบวนการ Active Reading
๒. จานวนสมาชิกของชุมชนฯ
ท่ี ชอ่ื -สกุล ปฏิบตั ิหนา้ ท่ี
๑ นางสาวบญุ เอ้อื เอีย่ มรัตน์ ประธาน
๒ นางธดิ ารตั น์ ซ่อื สุวรรณ สมาชกิ
๓ นางดลใจ โชตะนา สมาชกิ
๔ นางสาวจฑุ ามาศ จันทนา สมาชกิ
๕ นางสาวสุพิชฌาย์ ใบยา สมาชิก
๖ นางจรญิ ญา คาเทศ สมาชิก
๗ นายราเมศ อนิ ทรห์ า สมาชกิ
๘ นางสาวปาจรยี ์ สนทิ รักษา สมาชิก
๙ นายบณั ฑติ ศรีทัศน์ สมาชกิ
๓. ข้อตกลงของชมุ ชนฯ
๓.๑ สมาชกิ ทกุ คนต้องวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล “คัดกรองนักเรียน หม่ันเพียรซ่อมเสริม” ออกเปน็ ๓ กลุ่ม
คือ ๑ กลมุ่ ทอ่ี ่านไม่ออก เขยี นไมไ่ ด้ ๒) กลุม่ ท่ียงั คงตอ้ งการการปรับปรงุ และ ๓) กลุม่ ทม่ี ที กั ษะการอ่าน-เขียนเป็นทีพ่ อใจแล้ว
โดยอาจจะใชแ้ บบคัดกรอง/ ขอ้ สอบมาตรฐานกลางของสถาบนั ภาษาไทย สานักมาตรฐานการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการ
การศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร หรอื แบบคัดกรอง/ ขอ้ สอบทสี่ ร้างขึ้นเองก็ได้
๓.๒ สมาชิกต้องมีการ “แลกเปลี่ยน แบ่งปัน ขยันทาส่ือ” คือร่วมกันพัฒนาสื่อการเรียนการสอน เช่น บัตรคา
บตั รภาพ สอื่ นิทาน ชุดฝกึ เกม ฯลฯ โดยสารวจและรวบรวมสอ่ื นวัตกรรมดงั กล่าว มารวมไว้ จัดทาเป็นฐานข้อมูลเพื่อเตรียม
ใหค้ รูเลือกใชไ้ ด้สะดวกต่อไป
๓.๓ เปดิ โอกาสให้สมาชิก “อสิ ระในแนวทาง ไม่ตา่ งเปา้ หมาย ทา้ ทายความสาเร็จ” โดยแต่ละชั้นใหด้ าเนินการ
แกไ้ ขปัญหาอา่ นไม่ออก เขียนไม่ได้ด้วยกระบวนการทตี่ นเองคิดวา่ ทาแลว้ ได้ผลและเหมาะสมกบั นักเรียน กล่าวคอื ให้มอี ิสระ
ในการแกป้ ัญหา และเปิดโอกาสใหส้ มาชิกทุกคนแสดงความคิดเหน็ รว่ มกันอย่างอิสระภายใตเ้ หตแุ ละผลและจดุ มุ่งหมายในการ
ทางานร่วมกัน เพียงตกลงกนั ว่า เพ่ือร่วมกนั ในการพฒั นาคุณภาพนักเรยี น ยกระดบั คณุ ภาพการจดั การเรยี นรู้ ให้เกิด
ประโยชนแ์ ก่นักเรยี น
๓.๔ สมาชิกทุกคนต้อง "เปิดใจ เปิดสมอง เปิดห้อง สามัคคี" ในท่ีนี้ หมายถึง การจัดให้มีกระบวนการ "เยี่ยม
ห้องเรียน" โดยในห้องเรียนทุกห้องต้องมี "มุมแสดงผลงานนักเรียน" เพ่ือร่วมกันแลกเปล่ียนเรียนรู้ เปิดใจรับการนิเทศ
ช้นั เรียนและประเมินแบบกลั ยาณมิตรจากสมาชกิ ในชุมชนทกุ คน
๔. ภารกจิ สถานที่ และเวลาปฏบิ ตั ิการ
๔.๑ ภารกิจของชุมชนฯ
พัฒนานกั เรยี นให้อา่ นออกเขยี นได้ด้วยกระบวนการ Active Reading
๔.๒ สถานท่ปี ฏิบัตกิ าร โรงเรียนบา้ นปากคลองโรงนาค
๔.๓ เวลาปฏิบตั ิการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ (๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ – ๓๑ มนี าคม ๒๕๖๓)
๕. กระบวนการขับเคล่ือนชุมชนการเรยี นรูท้ างวิชาชีพ (PLC)
ขัน้ ท่ี ๑ กาหนดเป้าหมายการพัฒนา
- นักเรยี นระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๑-๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ สามารถอ่านออกเขียนไดต้ ามเกณฑ์
ขัน้ ที่ ๒ กาหนดกลยุทธ์การจดั การเรียนรู้
- สมาชกิ ศกึ ษารูปแบบกิจกรรมการพฒั นาการอ่านออกเขียนได้ดว้ ยกระบวนการ Active Reading และ
นาไปใช้
- สมาชิกจดั ทาสื่อ/ นวัตกรรม รปู แบบกิจกรรมการอา่ นออกเขยี นได้ดว้ ยกระบวนการ Active Reading
และนาไปใช้
ขน้ั ที่ ๓ ขนั้ สะท้อนความคดิ เพอ่ื พฒั นากลยุทธก์ ารจัดการเรยี นรู้
- รปู แบบกิจกรรมการอ่านออกเขียนได้ดว้ ยกระบวนการ Active Reading เป็นการเรียนรู้ท่ีนกั เรยี นได้ลงมอื
ปฏิบัตแิ ละไดใ้ ช้กระบวนการฟัง พูด อา่ น เขยี น และคิดเก่ยี วกับส่งิ ทเี่ ขาไดก้ ระทาลงไป แต่ละคนมีแนวทางในการเรยี นรทู้ ี่
แตกต่างกัน โดยนกั เรียนจะถกู เปล่ยี นบทบาทจากผู้รบั ความร้ไู ปสู่การมีส่วนรว่ มในการสร้างความรู้
ขน้ั ท่ี ๔ ข้ันนาแผนสกู่ ารปฏิบตั พิ ร้อมสังเกตการสอน
- สมาชกิ นารปู แบบกิจกรรมการอา่ นออกเขียนได้ดว้ ยกระบวนการ Active Reading ไปใช้ ร่วมสังเกตการ
สอนพร้อมบันทกึ การปฏบิ ัตจิ รงิ โดยส่งิ ที่บันทึกการสังเกตการสอน ประกอบด้วย
๑) ขอ้ มูลพืน้ ฐานการอา่ นของนกั เรียนรายบุคคล ส่ืออุปกรณท์ ี่ใชป้ ระกอบการสอนอ่าน-เขียน
๒) บรรยากาศการจัดการเรียนรู้ และการแสดงพฤติกรรมการเรยี นรขู้ องนักเรียนเปน็ อยา่ งไร
๓) นักเรยี นบรรลตุ ามจดุ ประสงค์ หรือไม่บรรลตุ ามจุดประสงค์ ครูดาเนนิ การอยา่ งไร
๔) หลกั ฐานที่แสดงว่านกั เรียนบรรลุหรือไม่บรรลตุ ามจุดประสงค์
๕) การจัดกระบวนการเรียนรู้ จุดเดน่ จดุ ทีค่ วรพัฒนา ควรปรับปรุงแกไ้ ขอยา่ งไร
ตวั อยา่ งกิจกรรม Active Reading ทีช่ ุมชนนามาใช้
๑. กิจกรรมภาษาไทยวนั ละคา
๒. กจิ กรรมอา่ นเขียนบัญชีคาพ้นื ฐาน
๓. กิจกรรมบันทึกรักการอา่ น
๔. กิจกรรมเขียนสรา้ งสรรค์ ; เขียนย่อความ ; เขียนสรปุ ความ ; เขียนเรอ่ื งจากภาพ ; เขียนเรยี งความ
๕. กิจกรรมเรียนปนเลน่ ; เกมการศกึ ษา ;เพลงมหาสนุก
๖. กจิ กรรม Read pair share เพอื่ นคอู่ ่าน
๗. กจิ กรรมเขยี นอ่านเขา้ ใจใช้ Cornell note, Concept Map
๘. กิจกรรม E.Q GO Active Reading
๙. กจิ กรรมบทบาทสมมติ
๑๐.กิจกรรมบรู ณาการกับสาระอื่น ๆ
ขัน้ ที่ ๕ ขนั้ สะท้อนความคดิ ตอ่ ผลการปฏบิ ัติ เพ่อื การพฒั นา
- ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจวิธีการสอนอ่านออกเขียนได้ด้วยกระบวนการ Active Reading รูปแบบการ
จัดกิจกรรมที่สอดคล้องเหมาะสมกับนักเรียนที่จาแนกเป็นรายกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเก่ง ปานกลาง และกลุ่มที่ต้องได้รับการ
ชว่ ยเหลอื เป็นพเิ ศษ รวมทง้ั ครผู ู้สอนรบู้ ทบาทของตนในการจัดกจิ กรรม นักเรยี นไดฝ้ ึกอ่านและเขยี นจากการปฏิบัติจริง สนใจ
การเรยี นรมู้ ากขึ้น และสามารถพัฒนานักเรยี นใหอ้ ่านออกเขียนได้
ขัน้ ที่ ๖ ข้ันนาสูก่ ารวางแผนการจัดการเรยี นรูร้ อบต่อไป
- รปู แบบกจิ กรรมการสอนอ่านออกเขยี นได้ดว้ ยกระบวนการ Active Reading ครูผู้สอนต้องร้บู ทบาทของ
ตน และเลอื กรูปแบบการจดั กจิ กรรมที่หลากหลายใหเ้ หมาะสมกับเนอื้ หา และวัยของนกั เรียน ตลอดจนการเลอื กใช้สื่อมา
ประกอบการจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกบั นกั เรียนเปน็ รายบคุ คล / รายกล่มุ
๖. การสรา้ งเครือขา่ ยและหุ้นสว่ นสนบั สนนุ ภารกจิ ชุมชนฯ
นาความรทู้ ี่ได้ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กบั เพื่อนครทู ัง้ ภายในโรงเรยี นและนอกโรงเรยี น ประสานความรว่ มมอื กับ
ผ้ปู กครอง ชมุ ชนในการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ให้ขอ้ เสนอแนะในการพัฒนาการจดั การเรียนรแู้ ละร่วมแก้ปัญหานักเรียนใหบ้ รรลุ
วตั ถุประสงค์หรอื เปา้ หมายที่กาหนดไวอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพต่อไป
๗. สรปุ ผลการดาเนินงานทเี่ กิดขนึ้ จริง
กิจกรรมการสอนอ่านออกเขียนได้ด้วยกระบวนการ Active Reading ช่วยสร้างบรรยากาศภายในช้ันเรียนน่าสนใจ
มากข้ึน เป็นการเรียนการสอนท่ีเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรสู้ ูงสุด นักเรียนเรียนรู้ความรับผิดชอบ
รว่ มกัน การมวี ินัยในการทางาน การแบ่งหนา้ ทค่ี วามรับผิดชอบ เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้นกั เรียนอ่าน พดู ฟงั คดิ
เขียนอย่างลุ่มลึก นักเรียนจะเป็นผู้จัดระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง เปิดโอกาสให้นักเรียนบูรณาการข้อมูลข่าวสาร หรือ
สารสนเทศ และหลักการความคิดรวบยอด ผสู้ อนจะเป็นผู้อานวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้เพอ่ื ให้นกั เรียนเปน็ ผู้ปฏิบัติ
ด้วยตนเอง ความรู้เกิดจากประสบการณ์การสร้างองค์ความรูแ้ ละการสรุปทบทวนของนักเรียน ดังน้ันจึงควรดาเนนิ การตอ่ ไป
เพือ่ พัฒนานกั เรยี นส่กู ารเปน็ Active Learner
๘. เอกสาร/หลกั ฐาน/ภาพถ่าย อา้ งองิ
กิจกรรม Active Reading ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑
กจิ กรรม Active Reading ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๒
กจิ กรรม Active Reading ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๓
กจิ กรรม Active Reading ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๔
กจิ กรรม Active Reading ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๕
กจิ กรรม Active Reading ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๖
ภาพการดาเนนิ งาน
ชุมชนการเรียนร้ทู างวชิ าชพี เพื่อพฒั นาการอ่านออกเขยี นได้ดว้ ยกระบวนการ Active Reading
รายงานการดาเนินงานพัฒนาคุณภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย
ตามนโยบาย “เดินหนา้ และพฒั นาการอา่ นออกเขียนได้”
Best Practice (ระดับชนั้ ประถมศึกษา)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
๑. ชื่อกจิ กรรม “ สอนซา้ ย้า ทวน เพ่ือพฒั นาการอา่ นเขยี น”
๒. แนวคิด / ความเป็นมา
เนอ่ื งจากนักเรียนระดับชันประถมศึกษาปที ่ี ๓ บางสว่ นยงั ขาดทกั ษะในการอา่ น และการเขยี นอยู่มาก ทา้ ให้
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนกั เรยี นในวิชาภาษาไทยและกลุ่มสาระอ่ืน ๆ ตา่้ กวา่ เป้าหมาย รวมทังผลการทดสอบ
NT ต้่ากว่าเป้าหมายทีโ่ รงเรยี นกา้ หนด จงึ ตระหนักและได้หาแนวทางแกไ้ ขปัญหาท่เี กดิ ขนึ โดยเฉพาะวิชาภาษาไทยซึ่ง
เปน็ พืนฐานในการเรยี นในวชิ าอ่ืนๆ นกั เรียนจา้ เป็นตอ้ งอ่านออกเขียนไดท้ ุกคน และเพ่อื ให้สอดคลอ้ งและเป็นไป
ตามนโยบายส้าคญั ของสา้ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั พนื ฐานและสา้ นกั งานเขตพืนท่ีการศึกษาในเร่อื ง การ
อ่านออก เขียนได้ และการยกระดับผลสัมฤทธิท์ างการเรียน จึงได้ดา้ เนนิ กิจกรรมนีเพอื่ เป็นการแกไ้ ข และ
พฒั นาการอา่ นและการเขียนให้กบั นักเรียนระดบั ชนั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ทกุ คน
๓. วัตถุประสงคแ์ ละเป้าหมาย
วตั ถุประสงค์
๑. เพอ่ื พัฒนาทกั ษะ การอ่านออกเขยี นได้ และความสามารถด้านภาษาไทยของนกั เรยี นชนั ป.๓ ให้มี
คณุ ภาพสูงขึน
๒. เพอ่ื ยกระดับผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนในการสอบ NT ของนักเรียน สูงขึน
เปา้ หมาย
๑. นักเรยี นชันประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ทกุ คนได้รบั การพัฒนาทักษะการอา่ นออกการเขียนได้
๒. ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นในการสอบNTของปีการศึกษา๒๕๖๒ ของนกั เรยี นชนั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ ต้อง
สูงขึนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๓
๓. กระบวนการและขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน
๓.๑ กจิ กรรม/วิธกี าร/ข้นั ตอนที่สาคญั
๓.๑.๑. ทดสอบการอ่าน
๓.๑.๒. คัดกรองนักเรยี น
๓.๑.๓. วางแผนก้าหนดกจิ กรรม
๓.๑.๔. ดา้ เนินการแก้ปัญหาและพัฒนาการอา่ นเขยี นภาษาไทย
๓.๑.๕. ประเมนิ ผล
๓.๑.๖. รวบรวม/สรุปผล
๓.๑.๗. ปรับปรงุ /แก้ไข และพฒั นาตอ่ ไป
Beat Practice การพัฒนาคุณภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย ระดับประถมศกึ ษา โรงเรยี นบ้านปากคลองโรงนาค สพป.ชบ.๑
๓.๒ กจิ กรรมการดาเนนิ งานแก้ปญั หาและพัฒนาการอ่านการเขยี นของนกั เรยี น
(ขั้นวางแผน)
๑. คัดกรองนกั เรยี นและแบง่ กลมุ่ นกั เรยี น
๑.๑ ประเมินทกั ษะการอ่านการเขียนของนักเรียนเป็นรายบคุ คล
- อา่ นค้าพืนฐานที่ครกู ้าหนด
- เขยี นค้าบอกจากค้าพนื ฐานนนั ๆ
คดั กรองนักเรียน - อ่านนิทาน / ขอ้ ความสนั ๆ
- บันทึกผลการอา่ น / การเขียนของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล
- ประเมนิ ผล
๑.๒ แบ่งกลมุ่ นกั เรียน ตามผลการประเมินจากแบบคดั กรอง เพ่อื เป็นแนวทางแกไ้ ข และ
พัฒนาการอา่ นและการเขียนด้วย วธิ กี ารและนวัตกรรมที่เหมาะสมกับนกั เรยี นในแตล่ ะกลุ่ม
แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มที่ ๑ นักเรียนอ่านคล่อง / เขยี นคลอ่ ง
( ตามผลการคดั กรอง ) กลมุ่ ท่ี ๒ นกั เรียนอา่ นไม่คลอ่ ง / เขียนไมค่ ล่อง
๒. กาหนดกิจกรรมการพฒั นารายกลุ่ม เป็นการกา้ หนดวธิ ีการและนวตั กรรมทเี่ หมาะสมกบั
นกั เรียนแต่ละกลมุ่ เพือ่ ฝกึ ทกั ษะการอา่ นและการเขียนของนักเรยี นใหเ้ หมาะสมมากขึน
กาหนดกิจกรรมการแก้ปัญหา กลุ่มที่ ๑ นักเรยี นอ่านคล่อง / เขยี นคล่อง
และพฒั นาการอ่านการเขยี นภาษาไทย - อ่านบัญชคี า้ พนื ฐานระดับชัน ป.๓ /อ่านนทิ าน / บทความ /
หนังสอื สรปุ บนั ทึกผลจากการอ่าน
- เขยี นตามคา้ บอกทงั แบบเปน็ ค้าและเป็นประโยค
- อ่านหนงั สือใหญ้ าติผใู้ หญ่ฟัง
กลมุ่ ที่ ๒ นักเรียนอา่ นไม่คล่อง / เขียนไม่คล่อง
- อ่านบัญชคี า้ พืนฐานระดับชนั ป.๓ /อ่านนทิ าน / บทความ /
หนังสือ กบั เพื่อนหรือครู บอกขอ้ คดิ ทไ่ี ด้
จากการอา่ น บันทึกลงในแบบบันทกึ การอ่าน
- เขยี นตามค้าบอกทังแบบเปน็ คา้ และเป็นประโยคสัน ๆ เริม่
จากค้างา่ ย ไปจนถงึ ยาก
- เนน้ ย้า ซ้าทวน การอ่านและการเขียนบ่อยๆ
Beat Practice การพัฒนาคุณภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย ระดับประถมศกึ ษา โรงเรยี นบ้านปากคลองโรงนาค สพป.ชบ.๑
(ข้นั ดาเนนิ งาน)
๓. ดาเนินการพัฒนาการอา่ น การเขยี น ตามกจิ กรรมตามทก่ี า้ หนดตลอดปีการศึกษา
(ขน้ั ตดิ ตาม ตรวจสอบ ประเมินผล)
๔. ประเมนิ ผลการอ่านการเขียนของนกั เรยี น เพอ่ื ดพู ัฒนาการ การอ่านและการเขยี นของนกั เรยี น
- พัฒนาการของนกั เรียนจากการทดสอบ
ประเมินผลการอ่าน - แบบสรุปพฒั นาการของนกั เรียน
การเขียนของนักเรียน - แบบบนั ทกึ การการอ่าน / การเขียนของนกั เรียน
- ผลสมั ฤทธิ์การเรียนภาษาไทยและกลุ่มสาระ อืน่ ๆของนกั เรยี น
๕. รวบรวมสรุปผลข้อมูล เพ่อื สรปุ ผลการด้าเนินกจิ กรรม การบรรลุเปา้ หมายมากน้อยเพียงใด
รวบรวมสรุปผล - นักเรยี นมีพฒั นาการด้านการอา่ นการเขยี นดีขนึ กว่าเดมิ
- ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นของนกั เรียนพัฒนาขนึ
(ขนั้ พฒั นา แก้ไข / ปรับปรุง)
น้าผลการประเมินมาปรบั ปรงุ แก้ไข โดยตรวจสอบกจิ กรรมท่คี วรปรับปรุง และพฒั นาใหด้ ยี งิ่ ขนึ
ได้แก่ ปรบั วิธกี ารที่ให้พ่อแม่ชว่ ยเหลือการเรยี นของลูก / จัดใหม้ กี ิจกรรมพี่ชว่ ยน้องในปี เพอ่ื นช่วยเพื่อนต่อไป ฯลฯ
๔.สอื่ การจดั การเรียนการสอน
๑. บัญชคี ้าพืนฐาน ระดับชนั ประถมศึกษาปที ่ี ๓
๒. สอื่ เพื่อพฒั นาการอา่ น
๓. บทความ / นิทาน
๔. แบบฝึกทักษะ
๕. ผลการดาเนินงาน
๕.๑ ผลท่เี กดิ ตามจดุ ประสงค์
๑) ความสามารถด้านภาษาไทยด้านการอ่านการเขียนของ นักเรียนชนั ป.๓ ทุกคน ได้รบั การพฒั นา
จากการจัดกจิ กรรมตามทีก่ ้าหนดครอบคลุมทกุ กิจกรรม
๒) ความสามารถด้านภาษาไทยด้านการอ่านการเขียนของ นกั เรยี นชัน ป.๓ สงู ขึน โดยสามารถอ่าน
และสะกดค้า บัญชีคา้ พนื ฐานในระดบั ชนั ประถมศึกษาปีที่ ๓ ได้ ดา้ นการเขยี น นักเรยี นสามารถเขยี นค้าในบัญชคี า้
พืนฐานในระดบั ชนั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ ได้ และค้าอน่ื ๆตามบนเรียนได้สงู กวา่ ก่อนเรียน
๓) การวัดประเมินผล ทุกกลุม่ สาระ การเปรียบเทยี บผลสมั ฤทธิ์เชิงพัฒนา เพมิ่ ขนึ มากกวา่ ร้อยละ ๓
๕.๓ ประโยชนท์ ่ไี ด้รับ
๑) นกั เรยี นมีพฒั นาการด้านการอ่านเขยี นทด่ี ขี ึน
๒) นักเรียนสามารถนา้ ความร้ดู ้านภาษาไปใชใ้ นการทดสอบความสามารถพืนฐานระดบั ชาติ NT ด้านภาษา
๓) ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของนักเรยี นในวิชาภาษาไทย
Beat Practice การพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ระดับประถมศกึ ษา โรงเรยี นบา้ นปากคลองโรงนาค สพป.ชบ.๑
ภาคผนวก
Beat Practice การพฒั นาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ระดับประถมศึกษา โรงเรยี นบ้านปากคลองโรงนาค สพป.ชบ.๑
กจิ กรรมการพฒั นาด้านการอา่ นออก เขยี นได้
ทดสอบการอา่ นคา้ ศพั ท์ และการอา่ นบทความ
Beat Practice การพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นบา้ นปากคลองโรงนาค สพป.ชบ.๑
กจิ กรรมการพฒั นาดา้ นการอา่ นออก เขียนได้
การฝกึ อา่ น และสะกดค้าในบญั ชีคา้ พืนฐาน
Beat Practice การพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรียนบา้ นปากคลองโรงนาค สพป.ชบ.๑
กจิ กรรมการพัฒนาด้านการอา่ นออก เขยี นได้
บัญชคี า้ พืนฐาน และ สอ่ื การเรยี นรู้ตา่ งๆ
Beat Practice การพฒั นาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาค สพป.ชบ.๑
กจิ กรรมการพฒั นาดา้ นการอา่ นออก เขยี นได้
การประเมินผลการอา่ นเขยี นภาษาไทย
Beat Practice การพฒั นาคณุ ภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนบ้านปากคลองโรงนาค สพป.ชบ.๑
กจิ กรรมการพัฒนาด้านการอา่ นออก เขียนได้
การเปรียบเทียบผลสัมฤทธเ์ิ ชงิ พฒั นา เพิ่มขึนมากกวา่ รอ้ ยละ ๓
Beat Practice การพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรียนบา้ นปากคลองโรงนาค สพป.ชบ.๑