หนว่ ยท่ี 7
ความรูเ้ บอ้ี งตน้ เกีย่ วกบั เคร่อื งดื่ม
สาระการเรียนรู้
1. ความหมายและความสำคัญของเคร่ืองดมื่
2. ประเภทของเคร่ืองด่ืม
3. ความรู้เก่ียวกบั การบริการเคร่ืองดื่ม
สมรรถนะการเรียนรู้
1. แสดงความรู้เกย่ี วกับความหมายและความสำคญั ของเครื่องด่ืมได้
2. แสดงความรู้เก่ียวกับประเภทของรายการเคร่ืองดื่มได้
3. แสดงความรู้เกยี่ วกับการบริการเครอื่ งด่มื ได้
หน่วยที่ 7
ความรู้เบีอ้ งต้นเกยี่ วกบั เครอื่ งดืม่
เครอ่ื งดื่มเป็นอีกหนง่ึ สว่ นประกอบทสี่ ำคัญของการบรกิ ารอาหาร มลี ักษณะเป็นของเหลว มีสำคัญต่อ
การดำรงชวี ติ ของมนุษย์ ใชด้ ื่มเพ่ือบรรเทาความหิว ความเหนือ่ ยล้า สรา้ งความสดชืน่ ใหแ้ ก่รา่ งกาย สามารถ
ใช้ในการแสดงความยนิ ดี ความสมหวัง และการประสบความสำเร็จในชวี ิตได้
1.ความหมายและความสำคัญของเครือ่ งด่มื
ความหมายของเครือ่ งด่ืม
เคร่อื งด่ืม (Beverage) คือ น้ำหรอื ของเหลวชนดิ ต่าง ๆ ท่ีบรโิ ภคโดยวิธีดืม่ เพื่อดับกระหายหรือ
บำรงุ กำลงั เชน่ นำ้ ผลไม้ กาแฟ เบียร์ (พจนานุกรม. 2545)
เคร่อื งด่ืม (Beverage) เปน็ ของเหลวท่ใี ชบ้ ริโภค มีหลายชนดิ ตง้ั แตน่ ำ้ เปลา่ นำ้ อดั ลม โซดา นำ้ ผสม
กลิ่นรส รวมทง้ั เครือ่ งดื่มที่ได้จากสว่ นผสมของน้ำผลไม้ และยงั รวมไปถึงเคร่ืองดื่มซึ่งเปน็ พวกแปรสภาพอ่นื ๆ
เชน่ เคร่อื งด่ืมทไ่ี ด้จากการหมัก มแี อลกอฮอลเ์ ป็นส่วนผสม เชน่ เบียร์ ไวน์ กระแช่ อุ บรั่นดี หรอื อืน่ ๆ อีก
มาก (กรมอาชวี ศึกษา, ม.ป.ป.)
ความสำคญั ของเคร่อื งดืม่
1. แก้ความกระหาย
2. ช่วยบำรงุ รา่ งกายและใชเ้ ป็นยาชูกำลัง ชว่ ยใหค้ นไข้มีกำลังใจดี
4. เป็นส่วนผสมในการประกอบอาหารเพ่ือช่วยเรียกนำ้ ย่อยก่อนรบั ประทานอาหาร
5. เปน็ เครอื่ งด่มื พร้อมอาหารกบั กาแฟ
6. เป็นเครอื่ งด่มื หลังอาหารเพ่อื ช่วยในการย่อยอาหาร
7. ใช้ผสมคอ็ กเทล
8. ใชด้ มื่ พรอ้ มของหวาน
2.ประเภทของเคร่อื งดม่ื
เคร่ืองดื่ม (Beverage) เป็นสิง่ ทต่ี อ้ งอยคู่ ู่กับอาหาร ธรุ กิจที่จะมีการขายอาหารจะตอ้ งมกี ารขาย
เครือ่ งด่ืมคู่กนั ด้วยเสมอ โดยเคร่ืองดื่มแบ่งออกไดเ้ ปน็ 2 ประเภท ดังน้ี
1. เครือ่ งดื่มไมม่ แี อลกอฮอล์ (Non-alcoholic Beverage) สามารถจำแนกเป็น 4 ประเภท ดังน้ี
1.1 กาแฟ (Coffee) เปน็ พืชเมืองร้อน ได้มาจากการนำผลทตี่ ากแหง้ ไปบด วธิ ีการชงกาแฟ
ทำไดห้ ลายวธิ ี เชน่ การชงกาแฟที่เป็นเมล็ด (บดแล้ว) การชงกาแฟชนดิ ผง หรอื การกรอง
1.2 ชา (Tea) เปน็ พืชท่ขี ึน้ เมืองหนาวและมฝี นตกชุก มี 3 ชนิด คือ ชาสเี ขยี ว ชาสีดำ และ
ชาโอลอง
1.3 โกโกแ้ ละชอ็ กโกแลต (Cocoa and Chocolate) ไดจ้ ากผลโกโก้ การชงควรผสมโกโก้
และช็อคโกแลตเข้าด้วยกันในนำ้ อนุ่ ใส่นำ้ ตาล แล้วตงั้ ไฟจนเดอื ด
1.4 นำ้ ลไม้ (Fruit Juice) เช่น น้ำส้ม นำ้ สบั ปะรด เปน็ ต้น
เสาวภา โชตเิ กษมศรี (2536 : 2-3) กล่าวว่า นำ้ ผลไม้จัดวา่ เปน็ แหล่งวติ ามินและเกลอื แร่ทส่ี ำคัญ ซงึ่
ได้จากผลไมท้ ่มี ีน้ำมาก เช่น สับปะรด ส้ม มะนาว องนุ่ นำ้ ผลไม้สดหรอื น้ำผลไม้ทมี่ ีการปรงุ แต่ง เติมน้ำตาล สี
กล่ิน ผา่ นกรรมวธิ ีพาสเจอไรซ์ หรอื สเตอริไลซ์ นอกจากนก้ี ็มกี ารทำในรปู ของน้ำผลไม้เข้มข้น น้ำผลไมแ้ ช่แขง็
หรอื นำ้ ผลไม้กระป๋องดว้ ย
เครอ่ื งด่ืมประเภทน้ำผลไม้ นิยมดม่ื อุณหภมู ิต่ำเพอื่ ให้เกิดความเยน็ สามารถดับกระหายและดื่มควบคู่
กับรับประทานอาหารเชา้ ได้ ไดแ้ ก่
1. นำ้ ผลไมส้ ด เช่น น้ำสม้ คนั้ นำ้ สับปะรด เป็นต้น
2. น้ำผลไมก้ ระป๋อง เชน่ น้ำสับปะรดกระป๋อง นำ้ อง่นุ กระป๋อง เปน็ ตน้
3. นำ้ เช่อื มหรือน้ำเชือ่ มผลไม้ เปน็ น้ำเช่ือมท่ีมีการผสมสี กล่นิ และรสของผลไม้ เช่น น้ำเชอื่ มรส
มะนาว น้ำเชือ่ มรสสม้ เปน็ ต้น
4. นำ้ ผลไม้เขม้ ข้น เปน็ เครอ่ื งดื่มทีท่ ำจากนำ้ ผลไม้และมกี ารเติมนำ้ ตาลหรอื นำ้ เชื่อม เพ่ือชว่ ยเพ่ิม
ความเขม้ ข้น เชน่ น้ำมะนาวเข้มข้น น้ำสม้ เขม้ ขน้ เปน็ ต้น
นอกจากนยี้ งั มีเครื่องปรุงแต่งรส สว่ นใหญ่นยิ มเตมิ สว่ นผสมตา่ ง ๆ เขา้ ไป เพื่อให้เกิดอรรถรสใน
ระหวา่ งดม่ื ได้แก่
1.นำ้ โซดา (Soda Water) เป็นเครอ่ื งด่ืมที่ไดจ้ ากการผสมของนำ้ กับกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์
2.น้ำปรงุ แตง่ รส (Artificial Water) เป็นเครอ่ื งด่มื ทไ่ี ดจ้ ากการนำน้ำมาปรุงแต่งรสชาติ โดยการเติม
ความหวาน สี กลน่ิ และรส ซ่งึ เครอื่ งด่มื ชนดิ นท้ี รี่ ูจ้ ักกนั โดยทว่ั ไปคือ น้ำอัดลม เชน่ เป๊ปซ่ี โคคา-โคลา่ เป็นต้น
3.น้ำแร่ (Mineral Water) หรอื นำ้ แรธ่ รรมชาติ เป็นเครอ่ื งด่ืมท่มี สี ารเกลอื แร่ ซึ่งมีประโยชน์ตอ่
ร่างกาย นอกจากน้ีมีเกลอื บางชนิดทีส่ ามารถแกโ้ รคบางชนิดได้ เช่น เพอร์เรียเออรว์ ซิ ี่
4.นำ้ ดมื่ (Water) เปน็ น้ำทมี่ ีแร่ธาตนุ อ้ ย บรรจเุ ปน็ ขวด เช่น นำ้ สงิ ห์ น้ำโพลารีส หรอื กรองจากเครอื่ ง
กรอง เป็นเคร่อื งด่ืมทจ่ี ำเปน็ ต่อร่างกาย
การเลอื กซอ้ื และการเก็บรักษาเคร่ืองดื่ม
ควรเลือกตามชนดิ ของนำ้ ผลไม้ ควรอา่ นฉลากก่อนซอ้ื พิจารณาวนั เดือน ปีทผี ลิต วนั หมดอายุ และ
ปริมาณทบ่ี รรจุ เพอ่ื เป็นการประหยดั ถา้ บรรจุกระปอ๋ งควรเกบ็ ไวใ้ นที่เยน็ และแห้ง นำ้ ผลไมท้ แี่ ช่แข็งต้องเกบ็
ในต้แู ช่แขง็ ไม่ควรเกบ็ นานเกนิ ไป (เสาวภา โชติเกษมศรี. 2536)
การเสิร์ฟเคร่อื งดืม่
น้ำผลไม้ควรใส่แก้วทรงสูงทมี่ ีความสวยงาม อาจตกแต่งด้วยมะนาว ผลไม้ หรอื ดอกไมป้ ระดับ
บริเวณขอบแก้ว เพื่อทำใหเ้ กิดความสวยงามและนา่ ดืม่
2. เครื่องดื่มท่มี ีแอลกอฮอร์ (alcoholic Beverage) สามารถแบง่ ออกเป็น 4 ประเภท ดงั นี้
2.1 เครือ่ งดื่มก่อนอาหาร (Aperitif) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทน่ี ยิ มดม่ื ก่อนอาหาร เปน็
เคร่อื งด่ืมเก่าแกจ่ ดั อยู่ในประเภทเหล้ายา นยิ มมากในประเทศฝร่ังเศส อิตาลี ทำจากเหล้า เหลา้ องุ่น สมุนไพร
และเคร่ืองเทศ แบ่งได้เป็น 3 ชนิด ไดแ้ ก่
1. เวอร์มุท (Vermouth) เปน็ เหลา้ ยา ทำจากรากไม้และเคร่ืองเทศ มกี ลิน่ และ
รสชาติแตกต่างกันออกไป รสชาตขิ องเวอร์มทุ คลา้ ยกับยาบำรงุ เลือดของไทย เวอรม์ ุทเป็นเครอื่ งด่ืมหมักชนดิ
หนึง่ บางคร้งั อาจจดั อยู่ในประเภทไวน์เจรญิ อาหารก็ได้ ดังนัน้ เวอร์มทุ จงึ เปน็ เครื่องดื่มทีท่ ำมาจากอง่นุ
(ไวน์) และไดผ้ ่านการปรุงแต่งกล่ินรสด้วยพืชสมุนไพร เคร่อื งเทศ สามารถเรยี กอีกอย่างว่า “อโรมาติดไวน์”
(Aromatic Wine) คือไวน์ที่มีกล่ินหอมของเครือ่ งเทศ หรือ “แอปเพอร์-รทิ ิฟไวน์” (Aperitif Wine) คือไวน์
เจริญอาหารก็ได้ เพราะเป็นเครอ่ื งดื่มท่ที ำมาจากเหล้าอง่นุ ถงึ รอ้ ยละ 75 ต้นกำเนิดของเวอร์มุทมาจากประทศ
อติ าลี (Italy) นอกจากน้ฝี รัง่ เศสก็เปน็ อีกประเทศหน่ึงทผี่ ลิตเวอร์มทุ อย่างแพรห่ ลาย ข้อเด่นคือฝร่ังเศสจะ
เชย่ี วชาญการผลิต เวอรม์ ทุ แบบจดื และสีใส (Dry White) ส่วนอิตาลีจะเดน่ ในทางการผลิตเวอรม์ ุทแบบ
หวานและสีแดง (Sweet Red) การทำเวอรม์ ทุ คอ่ นขา้ งยุ่งยาก สว่ นสำคญั คือเหลา้ องุ่น โดยท่ัวไปใช้องนุ่ ขาวท่ี
ไมม่ ีรสชาติ (ไมใ่ ชเ่ สีย) เวอรม์ ุทมหี ลายย่ีห้อ เชน่ Martini , Cinzano , Barbero , Dobonet , Pimm’s No.1
เปน็ ตน้ ลักษณะงานท่ีใชต้ ่างกัน
ภาพที่ 7.1 เวอร์มุท (Vermouth) Martini , Cinzano , Barbero , Dobonet , Pimm’s No.1
ทม่ี า >istockphoto.com >wishbeer.com
2. บิตเตอร์ (Bitter) เปน็ หล้ายาทีม่ ีรสขม ชาวยโุ รปนิยมดื่มแกโ้ รคกระเพาะ ซงึ่ ชาว
ยุโรปเช่ือวา่ บิตเตอร์จะช่วยย่อยอาหารได้ บติ เตอร์บางชนิดมรี สขมมาก บางชนิดมีรสขมอมหวาน เช่น
Campari , Fernet Branca ,Branca Menta , Angostura Bitter เปน็ ต้น
ภาพท่ี 7.2 บติ เตอร์ (Bitter)
ที่มา >facebook.com >wishbeer.com
3. อนสิ (Anis) เป็นเหลา้ ยาสีเหลอื งใส ทำจากเมลด็ ของอนิส (Anis) กลิน่ หอมเยน็ ๆ
นิยมดืม่ แกท้ ้องอืด ทอ้ งเฟ้อ เชน่ Pernod, Ricard, Pastis เปน็ ตน้ เปน็ เครื่องดม่ื แอลกอฮอรท์ ่ีมดี กี รสี ูงทีส่ ุดใน
บรรดาเครือ่ งดม่ื แอลกอฮอร์ด้วยกนั
ภาพที่ 7.3 อนิส (Anis) Pernod, Ricard, Pastis
ท่ี >เหลา้ นอก.com > wishbeer.com
2.2 เครอื่ งดื่มระหว่างอาหาร (Wine With Food) ใชด้ ื่มควบคกู่ บั การรับประทานอาหารเพ่อื
ทำใหเ้ กดิ รสชาตทิ ่ีดีข้ึนของอาหาร เกิดความอรอ่ ยและต้องการรบั ประทานอาหารเพม่ิ ขนึ้ เช่น ดื่มไวนแ์ ดง
ควบคู่กบั อาหารเน้ือ สัตว์สีเขม้ เชน่ สเต็กเนือ้ สนั ใน กุง้ เป็นต้น ไวนข์ าวควบคกู่ บั อาหารเนื้อสัตวส์ อี อ่ น เช่น ไก่
ปลา เป็นตน้ เครอื่ งด่ืมประเภทน้ี เชน่ ไวน์แดง ไวนข์ าว ไวนช์ มพู เชอรร์ ี่ เปน็ ต้น
ไวน์ขาว (White Wine) ไวนแ์ ดง (Red Wine)
ที่มา >manila-wine.com ทม่ี า > virginwines.co.uk
ไวน์ชมพู (Rose Wine) เชอรร์ ่ี (Sherry Liquor)
ทมี่ า > istockphoto.com ท่ีมา > virginwines.co.uk
ภาพที่ 7.4 ตัวอย่างของเครอื งด่ืมระหว่างอาหาร (Wine With Food)
2.3 เครื่องด่ืมหลังอาหาร (Digestive) ส่วนใหญ่มักจะเป็นเหลา้ หวาน (liqueur) มีแอลกอ
ฮอร์สงู เช่น ลิเคอร์ นยิ มเสิร์ฟควบคกู่ ับชา-กาแฟ
ภาพที่ 7.5 เคร่อื งด่ืมหลงั อาหารประเภท Cocktail, Liqueur, Coffee, or Tea
ท่ีมา > crystalmixer.com > mobile-cuisine.com
2.4 เครือ่ งดื่มเฉพาะงาน (special Beverage) เป็นเครอ่ื งดม่ื ทีใ่ ช้ด่ืมควบคู่กบั อาหารประเภท
ออร์เดิร์ฟ หรอื ขนมขบเคย้ี วกินเลน่ ช้ินเลก็ ๆ มกี ารจัดตกแตง่ ท่สี วยงาม เชน่ คานาเป้ แซนดว์ ชิ ชิ้นเล็ก ๆ ไก่
ทอด เปน็ ตน้
Black Russian Pink Lady screwdrive Singapore Sling Blue Margarita
ภาพที่ 7.6 เครื่องดื่มเฉพาะงานประเภท Cocktail
ลักษณะการเสิรฟ์ และการให้บริการเครือ่ งดม่ื (Beverage Service) มีดงั น้ี
การรับประทานอาหารค่ำ (Dinner) น้ัน ทางชาวยุโรปและอเมริกาจะมีการรบั ประทานอาหารเยน็
ค่อนข้างมีพิธรี ตี องมากกว่ามื้ออ่ืน ๆ เวลาสำหรบั การเสริ ์ฟอยู่ในชว่ งระยะเวลาประมาณ 18.00 - 21.00 น.
นอกจากการใหบ้ ริการอาหารแล้ว ห้องอาหารยงั ควรใหบ้ รกิ ารเครื่องดื่มทด่ี ม่ื ก่อนอาหาร ระหวา่ งอาหาร และ
หลังอาหารเพื่อให้ลกู ค้าได้รับอรรถถรสในการรบั ประทานอาหารอย่างเต็มท่ี เครือ่ งดมื่ แอลกอฮอร์ทไ่ี ดร้ ับ
ความนิยมและจำหน่ายในห้องอาหารมีดังนี้
1.แชมเปญ (Champagne)
2.ไวน์ขาว (White Wine)
3.ไวน์แดง (Red Wine)
4.เชอรร์ ี่ (Sherry Liquor)
5.บรนั่ ดี (Brandy)
Champagne White Wine Red Wine
Sherry Liquor Brandy
ภาพที่ 7.7 เคร่ืองด่ืมแอลกอฮอร์ประเภทตา่ ง ๆ
เครือ่ งดื่มท้ัง 5 ชนิดน้ีนยิ มใชเ้ สิรฟ์ บนโต๊ะอาหารเพ่ือรับประทานควบคู่กับอาหาร ดงั นนั้ พนกั งานต้อง
เปน็ ผทู้ ี่มคี วามรเู้ กี่ยวกับเครื่องดม่ื เหล่าน้ี และจะต้องให้คำแนะนำเกีย่ วกับเคร่ืองดืม่ เหล่าน้แี ก่ลูกค้าอยา่ ง
ถูกต้อง สำหรับเหลา้ ต่าง ๆ ท่ีเสริ ์ฟน้นั จะต้องเสิร์ฟเพื่อใชร้ บั ประทานกบั อาหารอยา่ งเป็นลำดับขัน้ ตอนดังนี้
1. แชมเปญ (Champagne) 1 ขวด รินได้ 10 แกว้ และปกติจะเสิรฟ์ ให้แก่ลูกคา้ โดยใช้ดม่ื ควบคู่ไป
กบั อาหารประเภทเรียกน้ำย่อย (Appetizers)
2. ไวน์ขาว (White Wine) 1 ขวด รินได้ 12 แกว้ จะเสิร์ฟกับอาหารประเภทปลา โดยเฉพาะทาน
และดืม่ ไปดว้ ยกันกบั ปลาหรือเนื้อไก่
3. ไวน์แดง (Red Wine) 1 ขวด รินได้ 12 แกว้ จะเสิร์ฟกับอาหารประเภทเนอ้ื แดง เช่น เน้ือสเต็ก
4. เชอรร์ ่ี (Sherry Liquor) จะเป็นเครื่องดื่มสำหรบั สภุ าพสตรี โดยจะเสิร์ฟให้ภายหลงั เสร็จสิ้น
อาหารหนักทุกอย่างแลว้ ยกเวน้ กาแฟและของหวานซ่งึ ปกตจิ ะด่มื ไปพร้อมกับรบั ประทานของหวานก็ได้
5.บรน่ั ดี (Brandy) ปกตจิ ะเสริ ฟ์ ให้กับลูกคา้ ภายหลงั จากลกู ค้าทางอาหาร Course ตา่ ง ๆ เสร็จแลว้
โดยเป็นเคร่อื งดื่มชุดสดุ ท้ายเพื่อช่วยการย่อยอาหาร เพราะมดี ีกรสี งู กว่า Wine
ภาพที่ 7.8 เครอ่ื งดื่มประเภทไวน์
(ท่ีมา > foodnavigator-asia.com > liquibox.com)
คำแนะนำทวั่ ไปสำหรับการเลือกเครื่องด่ืมให้เหมาะสมกบั อาหารมีดงั นี้
- แชมเปญหรือไวน์ท่ีมีฟอง เหมาะกับอาหารเกอื บทกุ ชนิด
- ไวนแ์ ดงเหมาะกับเนื้อสตั วท์ ่ีมสี ีแดง เช่น เนือ้ ววั เนอ้ื แกะ เน้อื แพะ เป็นตน้
- ไวนข์ าวเหมาะกับเนือ้ สัตว์ท่ีมสี ขี าว เชน่ เนอ้ื ไก่ อาหารทะเล เปน็ ตน้
- ควรเสนอไวนข์ าวก่อนไวน์แดงตามลำดับของการดืม่
- ควรเสนอไวน์ทไ่ี ม่หวาน (Dry Wine) ก่อนไวนข์ าว (White Wine)
- ควรเสนอไวนค์ ณุ ภาพ “ด”ี กอ่ นไวนค์ ุณภาพ “เยีย่ ม”
- ควรเสนอเครื่องดื่มประเภทเรยี กน้ำยอ่ ยที่ทำจากองนุ่ (ใช้ไวน์เป็นเหลา้ หลกั ) มากกว่าจะ
เสนอเครือ่ งดื่มประเภทเรียกน้ำย่อยที่ทำจากธญั พืช
- ควรเสิรฟ์ ไวน์ในอุณหภูมิทถี่ ูกต้องสำหรบั ไวนช์ นดิ นัน้ ๆ
ลักษณะของเคร่ืองดมื่ แอลกอฮอร์ที่นยิ มรับประทานควบค่กู บั อาหาร
ลักษณะของเครื่องด่ืมแอลกอฮอรท์ น่ี ยิ มรบั ประทานควบคู่กับอาหาร จะเหมาะสมสำหรับการดมื่ กอ่ น
อาหาร หากแขกต้องการสงั่ ไวนเ์ พือ่ ดื่มรว่ มกบั อาหาร ควรแนะนำเครื่องดื่มประเภทเรียกน้ำย่อยซ่ึงมไี วน์เป็น
เหลา้ หลักในส่วนผสม มากกว่าจะแนะนำเครื่องด่ืมประเภทเรยี กนำ้ ยอ่ ยทเี่ ปน็ เคร่ืองดมื่ แอลกอฮอรผ์ ลติ จาก
ธัญพืช เพราะเครื่องดมื่ ประเภทเรียกน้ำย่อยทที่ ำจากไวน์สามารถชว่ ยกระตนุ้ ความอยากรับประทานอาหารแต่
ไมม่ ีรสหวาน เหมาะกับการดื่มก่อนอาหาร ลกั ษณะของเครื่องดม่ื แอลกอฮอร์ท่ีนิยมรับประทานควบคู่กับ
อาหารโดยทัว่ ไปมีดังนี้
1. สำหรบั อาหารท่จี ดั เปน็ คอร์ส คอร์สแรกอาจแนะนำไวน์ขาวรสไมห่ วาน หรือไวนช์ มพูรสไม่หวาน
2. หากแขกสง่ั อาหารประจำชาติใด ควรส่งั ไวนข์ องชาตนิ น้ั เชน่ อาหารฝร่ังเศสควรแนะนำไวน์
ฝรง่ั เศส หากเปน็ อาหารอิตาลี ควรแนะนำไวนจ์ ากอติ าลีควบคูก่ ัน เป็นตน้
3. อาหารทท่ี ำจากปลาและหอย ควรแนะนำไวน์ขาวรสไม่หวานท่ีแชเ่ ย็นจัด
4. เนื้อสัตวส์ ีแดง เชน่ เน้ือววั เนอ้ื แกะ ควรแนะนำไวนแ์ ดง
5. เนื้อสขี าว เช่น เน้อื หมู เนอ้ื ไก่ ควรแนะนำไวน์ขาวรสหวานปานกลาง
6. เนอื้ สัตว์ปา่ ควรแนะนำไวนแ์ ดงรสเขม้
7. ของหวานและผลไมท้ เี่ สริ ์ฟหลงั อาหารคาว ควรแนะนำไวน์ขาวรสหวานทแี่ ชเ่ ยน็ จดั หรือดเี สริ ์ตไวน์
8. เนยแข็งจะเขา้ กนั ไดด้ ีกบั เหล้าพอรต์ หรอื ไวน์แดงรสเข้มท่ไี มห่ วาน
9. บร่นั ดแี ละลิเคยี วเข้ากนั ได้ดีกับกาแฟ
10. ออรเ์ ดิร์ฟ ควรรบั ประทานกับไวน์เยอรมนี
11. ซุป ไมจ่ ำเป็นต้องเสริมด้วยเครือ่ งด่มื แนะนำเชอร์รี่ พอร์ตไมห่ วาน หรือ มาเดยี รา
12. ตบั บด ควรรบั ประทานกับไวนแ์ ดงที่ไม่บ่มนาน
13. อาหารประเภทไข่ ไม่จำเป็นต้องเสริ ฟ์ ดว้ ยไวน์
14. อาหารที่ทำจากแป้ง เหมาะกับไวนแ์ ดงจากอิตาลี
15. ปลาหรืออาหารทะเล เหมาะกบั ไวน์ขาวไมห่ วานและแชมเปญ
16. เน้ือสีขาว เสิรฟ์ ร้อนกับซอสไส้ซาวอรี เหมาะกบั ไวนช์ มพู เชน่ Anjou หรือไวน์แดงรสออ่ น
17. เนอื้ สขี าวเสิรฟ์ เยน็ เหมาะกบั ไวนข์ าว เชน่ Hocks , Gran , Vina Sol เป็นต้น
18. เนื้อเปด็ ห่าน เหมาะกบั ไวนแ์ ดง เช่น Chateauneuf – du – Pape
19. เนอื้ วัวอบและสเต็ก เหมาะกับไวน์แดง Burgundy, Rioja, Baloro เปน็ ต้น
20. สตูวเ์ นือ้ เหมาะกบั ไวน์แดงรสออ่ น
21. เน้ือกระต่าย เนือ้ กวาง และสตั ว์ปา่ (นก) เหมาะกบั ไวน์แดง เช่น Rioja , Chianti , Shiraz
ตวั อยา่ งเคร่ืองดม่ื ประเภทค็อกเทลที่ใชด้ ืม่ ในขณะรบั ประทานอาหาร
บลู สกาย (Blue Sky)
ที่มา >vinepair.com
สว่ นผสม บลู ครลู าโซ (Blue Curacao) 1 ออนซ์
Seven up รินจนเต็มแกว้
วิธกี ารผสม การรนิ
แก้ว ไฮบอลล์ (Hi-Ball) หรือแกว้ ขนาด 8-10 ออนซ์
ของประดบั มะนาวฝานแว่น
ขั้นตอนในการทำ
1.ใสน่ ำ้ แขง็ ก้อนใหเ้ ต็มแกว้ ไฮบอลล์
2.ใส่ บลู ครู าโซ แลว้ รินนำ้ Seven up จนเตม็ แก้ว
3.ประดับด้วยมะนาวฝานแว่น
4.เสริ ฟ์ พรอ้ มหลอดดูด
สงิ คโปร์ สลงิ (Singapore Sling)
ท่มี า > Spiritsbeacon.com
สว่ นผสม
จนิ 1 ออนซ์
เชอร่ี บรั่นดี 0.5 ออนซ์
ทรเิ ปิล เซค 0.25 ออนซ์
นำ้ สบั ปะรด 2 ออนซ์
น้ำมะนาว 1 ออนซ์
นำ้ หวานรสทับทมิ 0.5 ออนซ์
นำ้ โซดารนิ จนเตม็ แก้ว
วิธกี ารผสม การเขยา่
แกว้ ลองดร๊ิงค์ (Long Drink) หรือแกว้ ขนาด 14-16 ออนซ์
ของประดับ สบั ปะรดตัดเปน็ รูปสามเหลี่ยมและลกู เชอรร์ ่ี
ขัน้ ตอนในการทำ
1.ใส่ส่วนผสมทัง้ หมดลงในเซกเกอร์
2.ใสน่ ้ำแข็งก้อน 3/4ของเซกเกอร์ แลว้ เขยา่ ให้แรงและเรว็ ประมาณ 40 ครั้ง
3.รนิ สว่ นผสมใส่แกว้ พร้อมน้ำแขง็
4.รนิ น้ำโซดาจนเต็มแก้ว
5.ประดบั ด้วยสับปะรดตดั เป็นรปู สามเหลย่ี มและลกู เชอรร์ ่ี
6.เสริ ์ฟพร้อมหลอดดูด
จิน ฟิซซ์ (Gin Fizzi)
ท่ีมา >Kokteiliai24.it
ส่วนผสม
จิน (Gin) 1.5 ออนซ์
นำ้ มะนาว 1 ออนซ์
นำ้ เชอ่ื ม 0.5 ออนซ์
นำ้ โซดารนิ จนเต็มแกว้
วธิ ีการผสม การเขย่า
แกว้ ไฮบอลล์ หรือแก้วขนาด 8 - 10 ออนซ์
ของประดบั มะนาวฝานแวน่ และลูกเชอรร์ ่ี
ขัน้ ตอนในการทำ
1.ใสส่ ่วนผสมท้ังหมดลงในเซกเกอร์ Cocktail Shaker ยกเว้นนำ้ โซดา
2.ใสน่ ำ้ แข็งก้อน 3/4 ของเซกเกอร์แลว้ เขย่าให้แรงและเรว็ ประมาณ 40 ครัง้
3.รินสว่ นผสมใสแ่ กว้ พรอ้ มนำ้ แข็งเล็กน้อย
4.รินน้ำโซดาจนเตม็ แก้ว
5.ประดบั ดว้ ยมะนาวฝานแว่นและลกู เชอร่ี
บลู มาการิตา้ (Blue Magarita)
ที่มา >Thedrinkkings.com
ส่วนผสม
ตากลี า (Tequila) 1 ออนซ์
บลู คูราโซ (Blue Curacao) 0.5 ออนซ์
น้ำมะนาว 1 ออนซ์
น้ำเชื่อม 0.5 ออนซ์
เกลือป่นใชเ้ คลือบปากแกว้
วธิ กี ารผสม การเขยา่
แกว้ คอ็ กเทล หรอื แก้วขนาด 4 - 6 ออนซ์
ของประดับ มะนาวฝานแว่น
ข้นั ตอนในการทำ
1.เคลือบปากแก้วค็อกเทลด้วยเกลอื ป่น
2.ใสส่ ว่ นผสมท้ังหมดลงในเซกเกอร์
3. ใส่น้ำแข็งก้อน 3/4 ของเซกเกอร์ แล้วเขยา่ ให้แรงและเร็วประมาณ 40 ครั้ง
4.รินส่วนผสมใส่แกว้ โดยผ่านฝากรองนำ้ แขง็
5.ประดบั ด้วยมะนาวฝานแวน่
สรุปการเรยี นร้หู น่วนที่ 7
เครื่องดื่มเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่สำคัญของการบริการอาหาร มีลักษณะเป็นของเหลว มี
ความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ใช้ดื่มเพื่อบรรเทาความหิว ความเหนื่อยล้า สร้างความสดชื่นให้แก่
ร่างกาย สามารถใช้ในการแสดงความยนิ ดี ความสมหวงั และการประสบความสำเรจ็ ในชีวติ ได้
ความสำคัญของเครื่องดื่มคือเพื่อช่วยแก้ความกระหาย ช่วยบำรุงร่างกายและใช้เป็นยาชูกำลัง ช่วย
ให้คนไข้มีกำลังใจดี เป็นเครื่องดื่มก่อนอาหารเพื่อช่วยเรียกน้ำย่อยก่อนรับประทานอาหาร เป็นส่วนผสมใน
การประกอบอาหารเพื่อช่วยเรียกน้ำย่อยก่อนรับประทานอาหาร เป็นเครื่องดื่มพร้อมอาหารกับกาแฟ เป็น
เครื่องดื่มหลังอาหารเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร ใช้ผสมค็อกเทล และใช้ดื่มพร้อมของหวาน เครื่องดื่มเป็น
ของเหลวที่ใช้บริโภคมีอยู่หลายชนิด ตั้งแต่น้ำเปล่า น้ำอัดลม โซดา น้ำปรุงรส รวมทั้งเครื่องดื่มที่ได้จา ก
สว่ นผสมของน้ำผลไม้ และยงั รวมไปถึงเครื่องดืม่ ซ่งึ เป็นพวกแปรสภาพอ่นื ๆ เชน่ เคร่อื งด่มื ท่ีได้จากการหมัก
มีแอลกอฮอร์เป็นส่วนผสม เช่น เบียร์ ไวน์ กระแช่ อุ บรั่นดี เป็นต้น เครื่องดื่มสามารถจำแนกได้เป็น 4
ประเภท ได้แก่ กาแฟ ชา โกโก้และชอ็ กโกแลต และน้ำผลไม้ เครื่องดื่มประเภทนำ้ ผลไม้ นิยมดื่มอุณหภูมติ ่ำ
เพื่อให้เกิดความเย็น สามารถดับกระหายและดื่มควบคู่กับรับประทานอาหารเช้า ได้แก่ น้ำผลไม้สด น้ำ
ลไม้กระป๋อง น้ำเชื่อมหรือน้ำเชื่อมผลไม้ และน้ำผลไม้เข้มข้น นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มประเภทปรุงแต่งรส
(Artificial Water) สว่ นใหญน่ ยิ มเติมสว่ นผสมตา่ ง ๆ เขา้ ไป เพอ่ื ให้เกิดอรรถรสในระหว่างการดื่ม ได้แก่ น้ำ
โซดา นำ้ ปรุงแต่งรส น้ำแร่ น้ำด่มื เป็นนำ้ ที่มีแร่ธาตุนอ้ ย การเลือกซือ้ และการเก็บรักษาเคร่ืองดื่ม ควรอ่าน
ฉลากก่อนซื้อ พิจารณาวัน เดือน ปีที่ผลิต วันหมดอายุ และปริมาณที่บรรจุ เพื่อเป็นการประหยัด ถ้าบรรจุ
กระปอ๋ งควรเกบ็ ไวใ้ นทเี่ ยน็ และแหง้ น้ำผลไม้ทแ่ี ช่แขง็ ตอ้ งเก็บในต้แู ช่แข็ง ไม่ควารเก็บนานเกินไป
เคร่อื งด่มื ประเภทแอลกอฮอร์ สามารถแบ่งออกเปน็ 4 ประเภท ไดแ้ ก่
1. เครื่องดื่มก่อนอาหาร เป็นเครื่องดื่มเพื่อเรียกน้ำย่อยใช้ดื่มก่อนรับประทานอาหาร ได้รับความ
นิยมมากในประเทศฝรั่งเศส อิตาลี ส่วนใหญ่เครื่องดื่มประเภทนี้ทำจากเหล้าองุ่น สมุนไพร และเครื่องเทศ
เครื่องดื่มก่อนอาหารสามารถจำแนกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ เวอร์มุท บิตเตอร์ และอมิส นอกจากนิยม
ดม่ื เพือ่ เป็นยาแล้ว ยังนิยมนำไปทำเครอื่ งด่มื ผสมอนื่ ๆ อกี มากมาย
2. เครื่องดื่มระหว่างอาหาร ใช้ดื่มควบคู่กับการรับประทานอาหาร เพื่อทำให้เกิดรสชาติที่ดีขึ้นของ
อาหาร เกดิ ความอร่อย และต้องการรับประทานอาหารเพิ่มขน้ึ เช่น ดื่มไวน์แดงควบคู่กบั อาหารเนื้อสัตว์สีเข้ม
(สเต็กเนื้อสันใน กุ้ง ) ไวน์ขาวควบคู่กับอาหารเนื้อสัตว์สีอ่อน (ไก่ ปลา) เครื่องดื่มประเภทนี้ เช่น ไวน์แดง
ไวนข์ าว ไวน์สชี มพู เชอรร์ ี่ เปน็ ต้น
3. เครื่องดม่ื หลังอาหาร (Digestive) ส่วนใหญม่ ักจะเป็นเหลา้ หวาน (Liqueur) มแี อลกอฮอรส์ ูง เชน่
ลิเคอร์ นิยมเสริ ์ฟควบค่กู ับชาหรือกาแฟ
4.เครื่องดื่มเฉพาะงาน เป็นเครื่องดื่มที่รับประทานควบคู่กับอาหารประเภทออร์เดิร์ฟ หรือขนมขบ
เค้ยี วกนิ เล่นชนิ้ เล็ก ๆ มีการจัดตกแตง่ ที่สวยงาม เชน่ คานาเป้ แซนดว์ ชิ ช้นิ เล็ก ๆ ไกท่ อด เป็นต้น
รายการเคร่อื งด่มื สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเท ได้แก่ รายการเคร่ืองดืม่ ทัว่ ไป รายการเคร่ืองดื่ม
ท่ัวไปที่ติดอยกู่ บั รายการอาหาร และรายการเครือ่ งดม่ื เฉพาะ
การรับประทานอาหารค่ำนั้น ชาวยุโรปและอเมริกาจะมีการรับประทานอาหารเย็นค่อนข้างมี
พิธีรีตองมากกว่ามื้ออื่น ๆ เวลาสำหรับการเสิร์ฟอยู่ในช่วงระยะเวลาประมาณ 18.00 – 21.00 น. นอกจาก
การให้บริการอาหารแล้ว ห้องอาหารยังควรให้บริการเครื่องดื่มที่ดื่มก่อนอาหาร ระหว่างอาหาร และหลัง
อาหาร เพ่อื ใหล้ กู ค้าไดร้ บั อรรถรสในการรบั ประทานอาหารอยา่ งเต็มท่ี
เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมและจำหน่ายในห้องอาหาร เช่น แชมเปญ ไวน์ขาว ไวน์แดง เชอร์รี่
บรั่นดี เป็นต้น เครื่องดื่มทั้ง 5 ชนิดนี้นิยมใช้เสิร์ฟบนโต๊ะอาหารเพื่อรับประทานควบคู่กับอาหาร ดังนั้น
พนกั งานเป็นผ้ทู ่ีมีความรูเ้ ก่ียวกับเคร่ืองดมื่ เหล่านี้ และจะตอ้ งให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับเคร่ืองด่ืมเหล่านี้
แก่ลกู ค้าอย่างถกู ต้อง สำหรบั เครือ่ งดม่ื แอลกอฮอร์ตา่ ง ๆ ทีเ่ สิร์ฟนั้นจะต้องเสริ ์ฟเพ่ือใชร้ ับประทานกับอาหาร
อยา่ งเปน็ ลำดบั ขั้นตอน
ลักษณะของอาหารที่นิยมรับประทานควบคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ที่เหมาะสมสำหรับก ารดื่มก่อน
อาหาร หากแขกต้องการสั่งไวน์เพ่ือดื่มร่วมกับอาหาร ควรนแนะนำเครื่องดื่มประเภทเรียกน้ำย่อย ซึ่งมีไวน์
เป็นหลักในส่วนผสม มากกว่าจะแนะนำเครื่องดื่มประเภทดเรียกน้ำย่อยที่เป็นเครื่องแอลกอฮอร์จากธัญพืช
เพราะเครื่องดื่มที่ทำจากไวน์สามารถกระตุ้นความอยากรับประทานอาหารแต่ไม่มีรสหวาน เหมาะกับการด่ืม
ก่อนอาหาร