1-0
E-book
วิชากระบวนการจดั ทาบญั ชี รหสั วิชา 20201-2008
หลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562
หนว่ ยที่ 1
สาระสาคัญของพระราชบญั ญตั ิการบัญชี พ.ศ. 2543
เรียบเรยี งโดย
พนิ รัฎ สตี ลวรางค์
บธ.บ. การบัญชี บธ.บ. การจดั การทว่ั ไป
แผนกวชิ าการบญั ชี วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาสโุ ขทัย
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
1-1
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 สาระสาคญั ของพระราชบญั ญตั กิ ารบัญชี พ.ศ. 2543
สาระสาคัญ
พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543 มีผลบังคับใช้ต้ังแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2543 พระราชบัญญัตินี้
เป็นการปรับปรุงแก้ไขจากกฎหมายบัญชีฉบับเดิม คือ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 285 ในพระราชบัญญตั ิ
ฉบับน้ี ได้มีข้อกาหนดในด้านการกากับดูแล ผู้มีหน้าที่จัดทาบัญชี ผู้ทาบัญชี และกาหนดแนวทางในการจัดทา
บัญชี และงบการเงิน เพ่ือให้การจัดทาบัญชีของธุรกิจถูกต้อง ส่งผลให้ข้อมูลใน งบการเงินเชื่อถือได้ และ
สามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นการตดั สนิ ใจได้
สาระการเรยี นรู้
1. ผู้มีหน้าท่จี ัดทาบญั ชี
2. ผู้ทาบญั ชี
3. ขอ้ กาหนดเกีย่ วกบั การจัดทาบญั ชีและการลงรายการในบัญชี
4. ขอ้ กาหนดเกย่ี วกับการจัดทางบการเงิน
สมรรถนะประจาหนว่ ย
แสดงความรเู้ กย่ี วกบั สาระสาคัญของพระราชบญั ญตั ิการบัญชี พ.ศ. 2543
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. บอกความหมายของผู้มหี น้าท่ีจัดทาบญั ชีได้
2. บอกหน้าทแ่ี ละความรับผดิ ชอบของผ้มู ีหน้าท่ีจัดทาบัญชีได้
3. บอกความหมายของผู้ทาบญั ชีได้
4. บอกคุณสมบตั ิของผ้ทู าบัญชีได้
5. บอกหนา้ ทีแ่ ละความรับผดิ ชอบของผู้ทาบญั ชีได้
6. อธิบายข้อกาหนดเกย่ี วกับการจัดทาบญั ชแี ละการลงรายการในบญั ชีได้
7. อธบิ ายขอ้ กาหนดเกย่ี วกับการจดั ทางบการเงนิ ได้
8. มีกิจนิสัย มรี ะเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซ่ือสตั ย์ มีวินยั ตรงต่อเวลา และมเี จตคตทิ ี่ดีตอ่ วิชาชพี บัญชี
1-2
ผงั สาระการเรยี นรู้
สาระสาคญั ของพระราชบญั ญตั ิการบญั ชี พ.ศ. 2543 ผมู้ ีหนา้ ทจ่ี ดั ทาบญั ชี
ผทู้ าบญั ชี
ขอ้ กาหนดเกี่ยวกบั การจดั ทาบญั ชแี ละ
การลงรายการในบญั ชี
ขอ้ กาหนดเก่ียวกบั การจดั ทางบการเงิน
พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543 มีผลบังคับใช้ต้ังแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2543 พระราขบัญญัตินี้เป็น
การปรับปรุงแก้ไขจากกฎหมายบัญชีฉบับเดิม คือ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 285 ในพระราชบัญญัติฉบับนี้
ได้มีข้อกาหนดในด้านการกากับดูแล ผู้มีหน้าที่จัดทาบัญชี ผู้ทาบัญชี และกาหนดแนวทางในการจัดทาบัญชี และ
งบการเงิน เพื่อให้การจัดทาบัญชีของธุรกิจถูกต้อง ส่งผลให้ข้อมูลใน งบการเงินเช่ือถือได้ และสามารถนาไปใช้
ประโยชน์ในการตัดสินใจได้ ดังน้ัน เพื่อให้มีความเข้าใจ และนาไปปฏิบัติให้ถูกต้อง จึงได้นาข้อความในกฎหมาย
มาสรุปสาระสาคัญ เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายข้ึน ทั้งน้ีจะต้องไปศึกษาตัวบทกฎหมาย ภายใต้พระราชบัญญัติฉบับนี้
รวมทัง้ กฎหมายลูกบทที่เป็นประกาศ คาส่ังตา่ ง ๆ ประกอบไปดว้ ยก็จะชว่ ยใหเ้ ข้าใจไดด้ ยี ่ิงขึน้
1. ผู้มีหน้าทจี่ ดั ทาบัญชี
1.1 ความหมายของผู้มหี นา้ ทจ่ี ดั ทาบญั ชี
ผู้มีหน้าที่จัดทาบัญชี หมายถึง ผู้มีหน้าท่ีจัดให้มีการทาบัญชี ตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543
(มาตรา 8) ซึง่ ประกอบดว้ ย
1.1.1 หา้ งห้นุ สว่ นจดทะเบยี น บรษิ ัทจากดั บริษัทมหาชนจากัด ท่ีจัดต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย
1.1.2 นิติบคุ คลทตี่ ัง้ ข้ึนตามกฎหมายตา่ งประเทศทป่ี ระกอบธุรกิจในประเทศไทย
1.1.3 กจิ การร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร
1.1.4 สถานท่ปี ระกอบธุรกจิ เปน็ ประจา (สานักงานสาขา)
1.1.5 บคุ คลธรรมดา ตามที่รฐั มนตรีว่าการกระทรวงพาณชิ ย์ประกาศใหต้ อ้ งทาบญั ชี
ผู้มีหน้าท่จี ดั ทาบัญชี ดังกลา่ วข้างต้น จะดาเนนิ การโดย “ผู้ทีก่ ระทาการแทน” นิติบุคคลหรอื ธรุ กิจ
หมายถึงบคุ คลดังต่อไปนี้
1) หุ้นส่วนผู้จัดการ ของห้างห้นุ สว่ นจากดั และหา้ งหุ้นสว่ นสามัญนติ บิ คุ คล
1-3
2) กรรมการบรษิ ัท ผู้ท่ีถูกระบุว่าเป็น “กรรมการผู้มอี านาจ” ของบริษัทจากัด และบริษทั มหาชนจากดั
3) ผกู้ ระทาการแทนที่ได้รับแต่งตั้งจากนติ ิบุคคลตา่ งประเทศ ของนติ ิบุคคลทต่ี ้ังขึ้นตามกฎหมาย
ต่างประเทศทป่ี ระกอบธรุ กิจในประเทศไทย
4) ผู้กระทาการแทนที่ไดร้ ับแตง่ ตั้ง ของกจิ การรว่ มค้าตามประมวลรษั ฎากร
5) ผจู้ ัดการ ของสถานทีป่ ระกอบธรุ กจิ เปน็ ประจา (สานักงานสาขา)
1.2 ความรับผดิ ชอบของผู้มีหน้าท่ีจดั ทาบญั ชี
ในบางกรณี “กรรมการบรษิ ัท” หรอื “หุน้ ส่วนผู้จดั การ” หรือ “ผู้จัดการ” หรือ “ผแู้ ทนทีไ่ ด้รบั
แต่งต้ัง” แลว้ แต่กรณี อาจมอบหมายให้ผูใ้ ดผหู้ นึ่งเป็นผู้กระทาการแทน ในการควบคุมและรับผิดชอบเรอ่ื งการ
จดั ทาบญั ชี แต่อยา่ งไรกต็ าม หากมขี ้อบกพร่องในการจดั ทา ก็ไม่อาจปฏเิ สธได้ เพราะกฎหมายกาหนดให้ต้องมี
ความรับผิดชอบ ในเรื่องดังต่อไปน้ี
1.2.1 ต้องจดั ให้มีการจดั ทาบญั ชสี าหรบั การประกอบธุรกจิ ของตน โดยมรี ายละเอียด หลักเกณฑ์ และ
วธิ ีการตามท่ีกาหนดไวใ้ นพระราชบัญญตั กิ ารบัญชี (มาตรา 8)
โทษ ปรบั ไม่เกินสามหมื่นบาท และปรับรายวันอีกไม่เกนิ วนั ละหนึ่งพันบาท จนกว่าจะปฏิบัติให้
ถกู ต้อง
1.2.2 เรมิ่ ทาบัญชีตามวันที่กาหนด (มาตรา 9) ดังน้ี
1) หา้ งหุ้นสว่ นจากัด ห้างหุน้ ส่วนสามัญนิติบุคคล บรษิ ัทจากัด บริษทั มหาชนจากัด ใหเ้ ร่ิมทา
บัญชนี บั แต่วนั ที่ได้รบั การจดทะเบียนเปน็ นติ บิ ุคคลตามกฎหมาย
2) นิตบิ คุ คลที่ต้ังขึน้ ตามกฎหมายตา่ งประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย ใหเ้ ร่มิ ทาบญั ชนี ับ
แตว่ ันท่ีเริม่ ตน้ ประกอบธรุ กิจ ในประเทศไทย
3) กจิ การรว่ มคา้ ตามประมวลรษั ฎากร ให้เรมิ่ ทาบัญชีนับแต่วันท่ีกิจการรว่ มคา้ นั้นได้เร่ิมต้น
ประกอบกจิ การ
4) สถานทปี่ ระกอบธรุ กิจเปน็ ประจา (สานกั งานสาขา) ให้เร่ิมทาบัญชนี ับแต่วันที่สถานท่ีประกอบ
ธุรกิจเป็นประจาน้นั เริม่ ตน้ ประกอบกิจการ
โทษ ปรบั ไม่เกินหน่งึ หมน่ื บาท และปรับรายวันอกี ไม่เกนิ วันละหน่งึ พันบาท จนกว่าจะปฏิบัตใิ หถ้ กู ตอ้ ง
1.2.3 ตอ้ งปดิ บญั ชคี รั้งแรกภายใน 12 เดอื นนับแต่วนั เริม่ ทาบัญชี และปดิ บัญชที ุกรอบ12 เดอื นนบั
แต่วันปิดบัญชคี รั้งก่อน เว้นแตเ่ มอ่ื ไดร้ ับอนญุ าตจากสารวัตรใหญ่บัญชหี รือสารวัตรบัญชใี ห้เปลี่ยนรอบปีบัญชีแล้ว อาจ
ปดิ บญั ชกี ่อนครบรอบสบิ สองเดือนได้ ถ้าเปน็ สานักงานสาขาใหป้ ดิ บญั ชพี ร้อมสานักงานใหญ่ (มาตรา 10)
โทษ ปรับไม่เกินหนง่ึ หมื่นบาท
1.2.4 ตอ้ งจัดทางบการเงินตามรายการย่อท่ีกาหนด และให้ผสู้ อบบญั ชรี บั อนุญาตตรวจสอบ เพื่อยน่ื
ต่อกรมพัฒนาธรุ กิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ภายในกาหนดเวลา (มาตรา 11)
1) ห้างห้นุ สว่ นจดทะเบียนท่ีจัดตง้ั ข้ึนตามกฎหมายไทย นิตบิ คุ คลที่ตงั้ ขึน้ ตามกฎหมายตา่ งประเทศ
และกจิ การรว่ มค้าตามประมวลรัษฎากร ตอ้ งจัดทางบการเงินและยน่ื งบการเงินภายใน 5 เดือนนับแต่วันปดิ
บัญชี
1-4
2) บริษัทจากัดหรอื บริษัทมหาชนจากัดทีจ่ ัดตง้ั ขึน้ ตามกฎหมายไทยให้ยน่ื ภายใน 1 เดอื นนบั แต่
วนั ท่งี บการเงนิ น้ันได้รบั อนุมัติในท่ีประชมุ ใหญ่
โทษ ปรบั ไม่เกินห้าหมืน่ บาท
1.2.5 ตอ้ งส่งมอบเอกสารท่ตี ้องใช้ประกอบการลงบญั ชใี ห้แก่ผทู้ าบัญชีให้ถกู ต้องครบถว้ น เพอื่ ให้
บัญชที ีจ่ ัดทาขึน้ สามารถแสดงผลการดาเนนิ งาน ฐานะการเงนิ หรือการเปล่ียนแปลงฐานะการเงินท่เี ปน็ อยตู่ าม
ความเปน็ จริงและตามมาตรฐานการบัญชี (มาตรา 12)
โทษ ปรับไม่เกินหนึง่ หมื่นบาท
1.2.6 ต้องเกบ็ รักษาบัญชแี ละเอกสารทตี่ ้องใช้ประกอบการลงบัญชีไว้ ณ สถานท่ที าการ หรือสถานที่
ทีใ่ ชเ้ ปน็ ทที่ าการผลิตหรือเก็บสนิ ค้าเป็นประจา หรือสถานที่ทใี่ ช้เป็นท่ีทางานประจา หรือศูนย์จดั ทาบัญชีด้วย
คอมพิวเตอร์ระบบออนไลน์ หากเกบ็ รักษาไว้ทีอ่ น่ื นอกเหนือจากสถานท่ดี งั กล่าวจะต้องขออนญุ าตจากกรม
พฒั นาธรุ กจิ การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ (มาตรา 13)
โทษ ปรับไมเ่ กนิ หา้ พนั บาท
1.2.7 ตอ้ งเกบ็ รักษาบัญชีและเอกสารท่ีต้องใช้ประกอบการลงบัญชไี วเ้ ป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปนี บั แต่
วันปดิ บญั ชี (มาตรา 14)
โทษ ปรับไมเ่ กนิ ห้าพนั บาท
1.2.8 ถ้าบญั ชหี รอื เอกสารที่ตอ้ งใช้ประกอบการลงบัญชีสูญหายหรอื เสียหาย ตอ้ งแจง้ ต่อกรมพฒั นา
ธรุ กิจการคา้ ภายใน 15 วนั นับแตว่ ันที่ทราบหรือควรทราบถึงการสูญหายหรือเสียหาย (มาตรา 15)
โทษ ปรบั ไม่เกนิ ห้าพันบาท
1.2.9 เมื่อเลิกประกอบธุรกิจดว้ ยเหตุใดๆ โดยมิได้มีการชาระบัญชี ใหส้ ง่ มอบบัญชีและเอกสารท่ตี ้องใช้
ประกอบการลงบัญชแี ก่กรมพัฒนาธรุ กิจการค้า ภายใน 90 วันนับแต่วนั เลกิ ประกอบธุรกิจ (มาตรา 17)
โทษ ปรบั ไม่เกนิ ห้าพนั บาท
1.2.10 ตอ้ งจัดให้มีผูท้ าบัญชีทมี่ คี ุณสมบัตติ ามที่อธบิ ดีกรมพฒั นาธุรกจิ การค้ากาหนด (มาตรา 19)
โทษ ปรบั ไม่เกินหนงึ่ หม่นื บาท
1.2.11 หากเป็นผู้ทาใหเ้ กดิ ความเสียหาย ทาลาย ซ่อนเร้น หรอื ทาให้สูญหายหรือทาให้ไร้ประโยชน์ซง่ึ
บัญชีหรอื เอกสารท่ีต้องใชป้ ระกอบการลงบัญชี (มาตรา 38)
โทษ จาคกุ ไม่เกิน 2 ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ สีห่ มนื่ บาท หรือทงั้ จาทั้งปรบั
1.2.12 หากเป็นผู้กระทา หรือสัง่ ใหก้ ระทา การลงรายการเทจ็ แก้ไข ละเวน้ การลงรายการในบญั ชี
หรอื งบการเงิน หรือแกไ้ ขเอกสารทต่ี อ้ งใช้ประกอบการลงบัญชีเพอ่ื ให้ผดิ ความเปน็ จรงิ
โทษ จาคกุ ไมเ่ กิน 3 ปี หรอื ปรับไมเ่ กินหกหมืน่ บาท หรอื ทง้ั จาทั้งปรบั
ในกรณีที่เป็นนิติบุคคลประเภท ห้างหุ้นส่วนจากัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล บริษัทจากัด บริษัท
มหาชนจากัด หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้แทนนิติบุคคล หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ดาเนินการ
แทน ซึ่งบุคคลดังกล่าวทาหน้าที่ในฐานะกระทาการแทนนิติบุคคล กฎหมายฉบับนี้ได้กาหนดโทษท่ีเป็นความ
รับผิดชอบส่วนตัวไว้ด้วย เช่น ห้างหุ้นส่วนไม่ส่งงบการเงินถูกปรับห้าหมื่นบาท ตัวแทนหุ้นส่วนผู้จัดการจะถูก
1-5
ปรับอีกห้าหม่ืนบาทด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วนรู้เห็น หรือยินยอมในการกระทาความผิดของนิติ
บุคคล (มาตรา 40)
2. ผู้ทาบัญชี
2.1 ความหมายของผู้ทาบัญชี
ผู้ทาบัญชี หมายถึง ผู้รับผิดชอบในการทาบัญชีของผู้มีหน้าท่ีจัดทาบัญชี ไม่ว่าจะได้กระทาในฐานะ
เป็นลกู จ้าง ของผ้มู ีหนา้ ท่จี ดั ทาบญั ชหี รอื ไมก่ ต็ าม ไดแ้ ก่ บุคคลตอ่ ไปน้ี
2.1.1 กรณเี ป็นพนักงานของผู้มีหนา้ ท่ีจัดทาบัญชี ไดแ้ ก่ ผู้อานวยการฝ่ายบัญชี สมุหบ์ ัญชี หัวหน้า
แผนกบญั ชี หรือผดู้ ารงตาแหน่งที่เรียกช่ืออยา่ งอน่ื ที่มหี นา้ ทร่ี บั ผิดชอบเชน่ เดยี วกับผูด้ ารงตาแหน่งดังกล่าว
2.1.2 กรณเี ป็นสานกั งานบริการรับทาบัญชี ได้แก่
1) สานักงานมิได้จดั ตั้งในรปู คณะบุคคล คือ หัวหน้าสานักงาน
2) สานกั งานจดั ตั้งในรปู คณะบคุ คล คอื ผู้เป็นหนุ้ สว่ นที่รับผดิ ชอบในการให้บรกิ ารรบั ทาบญั ชี
3) สานกั งานท่จี ดั ต้ังในรปู นิติบคุ คล คือ กรรมการบรษิ ทั หรือผเู้ ป็นหนุ้ ส่วน แลว้ แตก่ รณี
2.1.3 ผ้รู ับจา้ งทาบญั ชีอสิ ระ (คนเดยี ว)
2.1.4 ผชู้ ว่ ยผ้ทู าบญั ชี
ผู้ทาบญั ชี ท่รี บั ทาบัญชเี กนิ กวา่ 100 ราย จะต้องมี ผชู้ ่วยผรู้ ับทาบญั ชี
ผทู้ าบัญชี ทร่ี ับทาบัญชใี ห้กบั ธุรกิจในลักษณะเป็นลูกจา้ งของกิจการ ตาม 2.1.1 หากได้รับทาบญั ชี
ให้กับธรุ กจิ อนื่ ๆ ไม่วา่ จะในลักษณะเป็นลูกจ้าง หรอื รบั ทาบญั ชโี ดยอิสระ จะต้องรับทาบัญชีรวมแล้วไม่เกินกว่า
100 ราย หากเกนิ 100 ราย จะตอ้ งมี ผชู้ ่วยผรู้ ับทาบญั ชี
ผรู้ บั จา้ งทาบญั ชอี ิสระคนเดียว ตาม 2.1.3 หากรบั ทาบัญชีใหก้ ับธุรกจิ เกนิ 100 ราย จะตอ้ งมี ผู้ช่วย
ผรู้ บั ทาบัญชี
2.2 คุณสมบัติและเง่ือนไขของผู้ทาบญั ชี
คุณสมบตั ิ และเงื่อนไขของการเป็นผู้ทาบญั ชี ตามประกาศกรมพฒั นาธรุ กจิ การค้า เรอ่ื ง กาหนด
คณุ สมบตั แิ ละเง่ือนไขของการเป็นผ้ทู าบญั ชี พ.ศ.2557 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2559 มดี ังนี้
2.2.1 คุณสมบตั ิของผ้ทู าบัญชี
1) มภี ูมิลาเนาหรือถนิ่ ทอ่ี ยู่ในราชอาณาจักร
2) มีความรู้ภาษาไทยเพียงพอท่ีจะทาหนา้ ท่ีเปน็ ผู้ทาบัญชีได้
3) มคี ณุ สมบัติและไม่มีลักษณะต้องหา้ มทีจ่ ะประกอบวิชาชพี เป็นผู้ทาบญั ชีตามกฎหมายว่าด้วย
วิชาชพี บัญชี
4) ไมเ่ คยต้องโทษโดยคาพพิ ากษาถึงท่ีสดุ ให้จาคกุ เนื่องจากได้กระทาความผิดตามกฎหมาย
วา่ ดว้ ยการบญั ชี หรอื กฎหมายว่าดว้ ยผูส้ อบบญั ชี หรอื กฎหมายวา่ ดว้ ยวิชาชพี บญั ชี เว้นแต่พน้ ระยะเวลาทถ่ี ูก
ลงโทษมาแลว้ เปน็ เวลาไม่น้อยกวา่ 3 ปี
5) คุณวฒุ ิการศึกษา ได้กาหนดคณุ วุฒิการศึกษาของผทู้ าบญั ชี ในแต่ละกลุม่ ธุรกจิ ดังน้ี
1-6
กลุ่มที่ 1 ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนและบริษัทจากัดที่จัดต้ังขึ้นตามกฎหมายไทยซ่ึง ณ วันปิดบัญชีใน
รอบปีบัญชีท่ีผ่านมา มีทุนจดทะเบียนไม่เกินห้าล้านบาท มีสินทรัพย์รวมไม่เกินสามสิบล้านบาท และมีรายได้
รวมไม่เกินสามสิบล้านบาท ผู้ทาบัญชี ต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ากว่าอนุปริญญาหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง
(ปวส.) ทางการบัญชีหรือเทียบเท่า จากสถาบันการศึกษาซึ่งทบวงมหาวิทยาลัยหรือคณะกรรมการข้าราชการ
พลเรือน (ก.พ.) หรือกระทรวงศึกษาธิการเทียบว่าไม่ต่ากว่าอนุปริญญาหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
(ปวส.) ทางการบญั ชี
กลุ่มท่ี 2 ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนและบริษัทจากัดที่จัดตั้งข้ึนตามกฎหมายไทยซ่ึง ณ วันปิดบัญชีใน
รอบปีบัญชีท่ีผ่านมามีทุนจดทะเบียน หรือสินทรัพย์รวม หรือรายได้รวมรายการใดรายการหนึ่งเกินกว่าที่
กาหนดไว้ในกล่มุ ที่ 1 และธุรกิจต่อไปนี้
- บริษทั มหาชนจากัดทจี่ ัดตัง้ ขึ้นตามกฎหมายไทย
- นิติบคุ คลที่ตงั้ ข้ึนตามกฎหมายตา่ งประเทศท่ปี ระกอบธรุ กจิ ในประเทศไทย
- กจิ การร่วมค้าตามประมวลรษั ฎากร
- ผู้ประกอบธุรกจิ ธนาคาร เงนิ ทุน หลักทรัพย์ เครดติ ฟองซเิ อร์ ประกนั ชีวิต ประกนั วนิ าศภยั
- ผู้ประกอบธรุ กจิ ซง่ึ ได้รับการส่งเสรมิ การลงทุนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการส่งเสริมการลงทนุ
ผู้ทาบัญชี ต้องมีคณุ วุฒิไม่ตา่ กวา่ ปริญญาตรที างการบัญชีหรือเทียบเท่า จากสถาบนั การศกึ ษาซ่งึ
ทบวงมหาวทิ ยาลยั หรอื คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) หรอื กระทรวงศกึ ษาธิการเทียบวา่ ไม่ต่ากวา่
ปรญิ ญาตรีทางการบัญชี
กลุ่มที่ 3 บุคคลธรรมดา หรือห้างหุ้นส่วนที่มิได้จดทะเบียนซึ่งรัฐมนตรีประกาศกาหนดให้เป็นผู้มี
หน้าที่จัดทาบัญชี ผู้ทาบัญชี ต้องมีคุณวุฒิเป็นไปตามที่กาหนดไว้ในกลุ่มที่ 1 หรือกลุ่มที่ 2 โดยอนุโลม โดยให้
พจิ ารณาจากรายได้ เนื่องจากธรุ กจิ ที่เปน็ บุคคลธรรมดาไม่ต้องจดั ทางบการเงิน
กลมุ่ ที่ 4 สถานทป่ี ระกอบธุรกจิ เปน็ ประจา หรือสาขาแยกจากสานักงานใหญ่ โดยมวี ตั ถุประสงค์ทา
ธุรกรรมท่ีจะก่อให้เกิดรายได้ และเป็นการไปตั้งเป็นการถาวรมิใช่เป็นคร้ังคราว รวมท้ังมีพนักงานประจา
จะต้องมีหน้าที่จัดทาบัญชีของสาขาน้ัน ผู้ทาบัญชีของสาขา จะต้องมีวุฒิการศึกษาเช่นเดียวกับผู้ทาบัญชีของ
สานักงานใหญ่ แต่ไม่จาเป็นวา่ ตอ้ งมีสาขาละ 1 คน ผูท้ าบัญชขี องสาขาใดสาขาหนึ่งอาจเป็นผู้ทาบัญชีของสาขา
อ่ืนๆ กไ็ ด้
ขอ้ พิจารณาอน่ื ๆ
- ในกรณีท่ีเป็นการเร่ิมทาบัญชีรอบปีบัญชีแรก ของผู้มีหน้าที่จัดทาบัญชีคุณวุฒิของผู้ทาบัญชีให้
พจิ ารณาโดยใชเ้ กณฑท์ นุ จดทะเบยี นตามทก่ี าหนดไว้ในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 แลว้ แต่กรณี
- ในกรณีท่ที ุนจดทะเบียน สินทรัพยร์ วม หรือรายไดร้ วม ของผมู้ หี น้าท่ีจัดทาบัญชีในกลุ่มที่ 1 และกลุ่ม
ท่ี 2 เปลี่ยนแปลงไปจนทาให้ผู้ทาบัญชีของผู้มีหน้าที่จัดทาบัญชีไม่มีคุณสมบัติของการเป็นผู้ทาบัญชีของผู้มี
หน้าที่จัดทาบัญชีนั้นต่อไป ให้ผู้น้ันสามารถเป็นผู้ทาบัญชีของผู้มีหน้าท่ีจัดทาบัญชีดังกล่าวต่อไปได้เป็นเวลา 2
ปีนับแต่วันส้นิ รอบปีบญั ชที ่มี กี ารเปล่ียนแปลง
1-7
2.2.2 เงอื่ นไขของการเปน็ ผทู้ าบญั ชี
1) ต้องเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีหรือขึ้นทะเบียนไว้กับสภาวิชาชีพบัญชีตามพระราชบัญญัติ
วชิ าชพี บัญชี พ.ศ.2547
2) แจ้งรายละเอียดท่เี ก่ียวข้องกับการทาบัญชีทางระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ ทเี่ ว็บไซตก์ รมพฒั นาธุรกิจ
การค้า ( www.dbd.go.th ) พรอ้ มด้วยสาเนาหลกั ฐานภายใน 30 วนั นับแตว่ ันเริ่มทาบญั ชี
ในกรณที ีม่ ีการเปลีย่ นแปลงรายการท่ีแจ้งไว้ หรอื ยกเลิกการแจง้ รายละเอียดทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั การทา
บัญชี ต้องแจ้งรายการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ท่ีเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
พรอ้ มดว้ ยสาเนาหลกั ฐานภายใน 30 วนั นับแตว่ ันทีม่ ีการเปลีย่ นแปลงหรือยกเลิก
ผู้ทาบัญชีต้องยืนยันรายชื่อผู้มีหน้าท่ีจัดทาบัญชีที่รับทาบัญชี และสถานภาพการเป็นสมาชิกภา
วชิ าชพี บญั ชี หรือข้นึ ทะเบียนไวก้ ับสภาวชิ าชพี บัญชีทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทีเ่ ว็บไซต์กรมพัฒนาธรุ กิจ การคา้
(www.dbd.go.th) พร้อมดว้ ยสาเนาหลกั ฐานภายใน 30 วนั นบั แตว่ ันส้ินปีปฏิทินของทกุ ปปี ฏิทนิ
3) ต้องเข้ารับการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชี ไม่น้อยกว่า 12 ช่ัวโมงต่อปีปฏิทิน เว้น
แต่ผูท้ าบัญชที แ่ี จ้งการเปน็ ผู้ทาบัญชีสาหรบั ปีแรก และมีระยะเวลาทเ่ี หลอื หลังการแจง้ ในปนี นั้ น้อยกวา่ 6 เดอื น
ใหเ้ รม่ิ พฒั นาความรู้ตอ่ เนือ่ งทางวชิ าชพี บญั ชใี นปถี ดั ไป
จานวนชั่วโมงการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชีตามวรรคหนึ่ง ต้องมีเน้ือหาท่ีเก่ียวกับ
การบัญชีไม่นอ้ ยกว่า 6 ช่วั โมง ตามทสี่ ภาวิชาชีพบัญชีประกาศกาหนด
การพัฒนาความรู้ต่อเนอ่ื งทางวิชาชพี บญั ชี ได้แก่ การเขา้ ร่วมกิจกรรม ดงั ตอ่ ไปนี้
(1) การอบรมหรือสัมมนา ทั้งนี้ ให้รวมถึงการอบรมหรือสัมมนาในรูปแบบสื่อทาง
อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-learning)
(2) การเปน็ วทิ ยากร ผู้บรรยาย ผู้ดาเนินการสัมมนา ในกิจกรรมตาม (1)
(3) การเป็นอาจารย์ในสถาบันการศึกษาของรัฐ หรือสถาบันการศึกษาของเอกชนตาม
กฎหมายว่าด้วยสถาบันการศึกษาเอกชน ซ่ึงมีการสอนไม่ต่ากว่าระดับอนุปริญญาหรือประกาศนียบัตร วิชาชพี
ช้ันสูง (ปวส.) ทางการบัญชหี รือเทียบเท่า ไม่วา่ จะเป็นการสอนในฐานะอาจารย์ประจา หรอื อาจารย์พิเศษ
(4) การสาเร็จการศึกษาในคุณวุฒิท่ีเกี่ยวข้องกับวิชาชีพบัญชี ไม่ว่าคุณวุฒิใหม่น้ันจะสูงกว่า
คณุ วุฒเิ ดมิ หรือไมก่ ต็ าม
(5) การผ่านการศึกษาเฉพาะรายวิชาท่ีเกี่ยวข้องกับวิชาชีพบัญชีจากสถาบันการศึกษาของรัฐ
หรือ สถาบันการศึกษาของเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันการศึกษาเอกชน ซึ่งมีการสอนไม่ต่ากว่าระดับ
อนปุ ริญญาหรอื ประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) ทางการบัญชีหรือเทยี บเทา่
(6) กจิ กรรมอืน่ นอกจากที่ระบุตาม (1) (2) (3) (4) และ (5) ตามทีส่ ภาวิชาชพี บัญชปี ระกาศกาหนด
4) แจง้ รายละเอียดการพัฒนาความรตู้ ่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชีทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ท่ีเว็บไซต์
กรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ (www.dbd.go.th) ไดท้ ันทีหลังการทากิจกรรมแต่ไมเ่ กิน 30 วนั นบั แตว่ นั สิ้นปีปฏิทิน
ของทุกปีปฏทิ ิน และตอ้ งเก็บหลักฐานการเข้าร่วมพัฒนาความรตู้ ่อเนื่องทางวิชาชีพบญั ชีเป็นเวลาไม่น้อยกวา่ 3
ปี นบั แตว่ ันสน้ิ สดุ ของการทากจิ กรรมในแต่ละคร้งั
1-8
5) ผู้ทาบัญชีคนใดไม่เข้ารับการพัฒนาความรู้ต่อเน่ืองทางวิชาชีพบัญชี หรือเข้ารับการพัฒนา
ความรู้ต่อเน่ืองทางวิชาชีพบัญชีไม่ครบจานวนตามที่กาหนด แม้ว่าถูกเปรียบเทียบตามกฎหมายแล้วยังต้อง
พัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชพี บัญชี ให้ครบจานวนชั่วโมงตามระยะเวลาที่ขาดหายไป แต่เมื่อรวมกันแล้วไม่
เกนิ 24 ชวั่ โมง ทัง้ น้ี ไมน่ บั รวมจานวนชัว่ โมงในปปี จั จบุ นั
6) ผู้ทาบัญชีคนใดยกเลิกการแจ้งรายละเอียดที่เก่ียวข้องกับการทาบัญชีแลว้ และขอกลับมาแจ้ง
รายละเอียดท่ีเกย่ี วข้องกับการทาบัญชีของผู้ทาบัญชีใหม่ ตอ้ งเข้ารบั การพัฒนาความรู้ต่อเน่ืองทางวิชาชีพบัญชี
ใหค้ รบจานวนชวั่ โมงตามระยะเวลาทีข่ าดหายไปก่อนการยกเลิกการแจ้งรายละเอียดที่เก่ยี วข้องกับการทาบัญชี
แต่เมื่อรวมกันแล้วไม่เกิน 24 ช่ัวโมง และแจ้งการขอกลับมา แจ้งรายละเอียดท่ีเก่ียวข้องกับการทาบัญชีใหม่
ทางระบบอิเล็กทรอนกิ ส์ ท่ีเวบ็ ไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (www.dbd.go.th)
7) ผูม้ หี นา้ ท่จี ัดทาบัญชีรับทาบัญชไี ด้ ไม่เกิน 100 ราย ตอ่ ปีปฏทิ ิน ไมว่ ่าจะเปน็ การรับทาบัญชีใน
รอบปีบัญชใี ด และกจิ การท่รี ับทาบญั ชจี ะมกี ารประกอบกจิ การหรือไม่ก็ตาม
2.3.1 หนา้ ทเี่ กีย่ วกบั การแจง้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั การรับทาบญั ชี ตามแบบ ส.บช.5 เมือ่
1) ได้รับทาบัญชีให้กับธุรกิจที่เป็นห้างหุ้นส่วนจากัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล บริษัทจากัด
บริษทั มหาชนจากดั นติ บิ ุคคลตา่ งประเทศทเ่ี ข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย กิจการรว่ มค้า และสานักงาน
สาขา ซ่ึงกฎหมายกาหนดให้เป็น “ผู้มีหน้าที่จัดทาบัญชี” ท่ีเข้าข่ายต้องจัดทาบัญชี ตามพระราชบัญญัติการ
บญั ชี พ.ศ.2543 โดยใหแ้ จ้งภายใน 60 วัน นบั แตว่ ันเริ่มทาบญั ชีใหก้ ับธรุ กิจ
2) หากข้อมูลท่ีได้มีการแจ้งไว้ตามข้อ (1) เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น รับงานทาบัญชีเข้ามา
ใหม่ หรือเลิกรับงานบัญชีเดิม หรือเปล่ียนแปลงข้อมูลเกี่ยวกับชื่อ ท่ีอยู่ ฯลฯ ให้แจ้งภายใน 60 วัน นับแต่วันท่ี
มีการเปล่ยี นแปลงขอ้ มูล ตามแบบ ส.บช.6
2.3.2 หน้าที่เกีย่ วกับการจัดทาบัญชี
1) จัดทาบัญชเี พื่อให้แสดงผลการดาเนินงาน ฐานะการเงิน หรือการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงิน
ของธรุ กิจท่รี ับทาบัญชีให้ โดยจะต้องจัดทาใหเ้ ปน็ ไปตามความเป็นจริง ตามมาตรฐานการบัญชี และจะต้องมี
เอกสารประกอบการลงบัญชที ่ีถกู ต้องครบถ้วน
2) ลงรายการในบญั ชเี ปน็ ภาษาไทย หากลงรายการเปน็ ภาษาต่างประเทศใหม้ ีภาษาไทยกากับ
หรอื ลงรายการเป็นรหัสบัญชีให้มีคมู่ ือคาแปลรหัสบัญชเี ปน็ ภาษาไทยไว้
3) เขียนด้วยหมกึ ดดี พิมพ์ หรือตีพิมพ์ หรือทาดว้ ยวธิ ีอน่ื ใดท่ีไดผ้ ลทานองเดียวกนั
4) มีหน้าท่ตี ้องปฏิบัตติ ามจรรณยาบรรณของวิชาชีพ ซงึ่ กาหนดโดยสภาวิชาชพี บญั ชี
2.4 ความรบั ผิดชอบของผู้ทาบญั ชี
2.4.1 ผ้ทู าบญั ชี ต้องมคี ุณสมบตั ิตามทีก่ าหนด กรณีรับทาบญั ชโี ดยขาดคณุ สมบตั ิจะถูกปรบั ไม่เกิน หน่งึ หมืน่ บาท
2.4.2 ผทู้ าบญั ชจี ะตอ้ งปฏบิ ัติตามเง่ือนไขทก่ี าหนด คอื ต้องแจง้ ข้อมลู เกย่ี วกับการรบั ทาบัญชภี ายใน
กาหนดเวลา และเขา้ รับการพัฒนาความร้ตู ่อเน่ืองทางวิชาชพี กรณีไม่แจง้ ภายในกาหนดเวลาหรือไม่พัฒนา
ความรตู้ อ่ เนื่องทางวิชาชีพ จะถูกปรับไมเ่ กนิ หน่งึ หม่ืนบาท
1-9
2.4.3 ผทู้ าบัญชี ต้องรบั ทาบัญชไี มเ่ กนิ จานวนรายท่ีกาหนด คือ 1 คน รับทาบัญชไี ด้ 100 ราย
(เฉพาะคนแรกทเ่ี ป็นหวั หน้ารบั ได้ 150 ราย) กรณีทีร่ บั เกนิ จานวนท่ีกาหนด จะถูกปรบั ไม่เกนิ หนึง่ หมืน่ บาท
2.4.4 ผูท้ าบัญชี ตอ้ งจดั ทาบัญชีใหถ้ กู ต้องตามมาตรฐานการบัญชี ในกรณีทจี่ ดั ทาบัญชไี ม่เป็นไปตาม
มาตรฐานการบญั ชี จะถูกปรับไมเ่ กนิ หน่ึงหม่ืนบาท
2.4.5 ผทู้ าบัญชี จะตอ้ งจดั ทาบัญชีใหถ้ ูกต้องตามความเป็นจรงิ ในกรณีที่จดั ทาบัญชไี ม่ถกู ต้องตาม
ความเป็นจริง เชน่ ไมล่ งรายการในบญั ชี หรอื ลงรายการไม่ถูกต้องตามขอ้ เทจ็ จรงิ จะถูกปรับไม่เกิน หน่ึงหมนื่
บาท และหากพิสูจน์ได้ว่า ผู้ทาบญั ชี มเี จตนาท่ีจะลงบญั ชีเทจ็ หรือละเว้นการลงรายการในบัญชี เพ่ือใหผ้ ิด
ความเป็นจริง จะต้องจาคกุ ไม่เกิน 2 ปี หรือปรบั ไม่เกนิ สี่หมื่นบาท หรือทง้ั จาทง้ั ปรบั
2.4.6 ผู้ทาบญั ชี ต้องเปน็ สมาชกิ สภาวชิ าชพี บัญชี หรือขึ้นทะเบียนไว้กบั สภาวชิ าชพี บญั ชี หากฝ่า
ฝนื นอกจากจะไมส่ ามารถปฏิบตั ิงานเปน็ “ผูท้ าบญั ชี” ตามกฎหมายได้ และตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกิน 2 ปี
หรอื ปรับไม่เกนิ สหี่ ม่นื บาท หรอื ท้ังจาท้ังปรับ
2.4.5 ผ้ทู าบญั ชี ตอ้ งปฏบิ ัตติ ามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ที่กาหนดขึ้นตามพระราชบญั ญตั ิวิชาชีพ
บัญชี พ.ศ.2547 มโี ทษ ดังน้ี
1) ตักเตือนเปน็ หนงั สือ
2) ภาคทัณฑ์
3) ห้ามประกอบวชิ าชพี บญั ชดี ้านทปี่ ระพฤตผิ ดิ จรรยาบรรณ โดยมกี าหนดเวลา แตไ่ มเ่ กิน 3 ปี
4) เพิกถอนการขน้ึ ทะเบยี น หรือส่งั ให้พน้ จากการเปน็ สมาชิกสภาวิชาชพี บญั ชี ซ่ึงจะทาใหข้ าด
คณุ สมบตั ิ ไม่สามารถเปน็ ผทู้ าบัญชไี ด้
3. ขอ้ กาหนดเก่ยี วกับการจัดทาบัญชีและการลงรายการในบญั ชี
ผู้มีหน้าที่จัดทาบัญชีที่เป็นห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจากัด บริษัทมหาชนจากัดท่ีจัดต้ังขึ้นตาม
กฎหมายไทย นิติบุคคลท่ีตั้งข้ึนตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย และกิจการร่วมค้าตาม
ประมวลรัษฎากร ต้องจัดทาบัญชีและลงรายการในบัญชีให้ถูกต้องครบถ้วน ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการท่ี
กาหนดในประกาศกรมทะเบียนการคา้ เร่อื ง กาหนดชนดิ ของบญั ชีที่ต้องจัดทา ข้อความและรายการทต่ี ้องมีใน
บัญชี ระยะเวลาที่ต้องลงรายการในบัญชี และเอกสารท่ีต้องใช้ประกอบการลงบัญชี พ.ศ.2544 และประกาศ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่ือง กาหนดชนิดของบัญชีที่ต้องจัดทา ข้อความและรายการที่ต้องมีในบัญชี
ระยะเวลาที่ต้องลงรายการในบัญชี และเอกสารท่ีต้องใช้ประกอบการลงบัญชี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2552 และตาม
มาตรฐานการบัญชี (ยกเว้นร้านค้าบุคคลธรรมดา และห้างหุ้นส่วนสามัญ ไม่ต้องจัดทาบัญชีตามมาตรฐานการ
บัญชี แต่จะมปี ระกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ กาหนดวิธกี ารลงบัญชี) ดังตอ่ ไปนี้
3.1 ชนดิ ของบญั ชีท่ีต้องจดั ทา
3.1.1 บญั ชีรายวนั
1) บัญชเี งนิ สด
2) บัญชธี นาคาร แยกเปน็ แต่ละเลขท่ีบัญชีธนาคาร
3) บญั ชีรายวันซ้ือ
1-10
4) บญั ชีรายวันขาย
5) บญั ชรี ายวันทัว่ ไป
3.1.2 บญั ชแี ยกประเภท
1) บัญชแี ยกประเภทสนิ ทรพั ย์ หนีส้ ินและทนุ
2) บัญชีแยกประเภทรายได้และคา่ ใชจ้ า่ ย
3) บญั ชีแยกประเภทลูกหน้ี
4) บัญชีแยกประเภทเจา้ หนี้
3.1.3 บัญชสี ินคา้
3.1.4 บัญชรี ายวัน บญั ชแี ยกประเภทอื่น และบัญชแี ยกประเภทยอ่ ยตามความจาเปน็ แก่การทาบัญชี
ของธรุ กจิ
3.2 ข้อความและรายการที่ตอ้ งมีในบัญชี
3.2.1 ปกด้านหนา้ ของสมดุ บัญชี หรอื แผน่ หนา้ ของบญั ชีกรณที บ่ี ัญชีเป็นแผน่ ต้องมีข้อความ
ดงั ต่อไปนี้
1) ชื่อของผู้มหี นา้ ที่จัดทาบญั ชี ในกรณที ผี่ ู้มีหนา้ ทจ่ี ัดทาบัญชไี ม่ใชน่ ติ ิบคุ คลจะใชช้ อ่ื ทางการคา้
กไ็ ด้
2) ชนดิ ของบญั ชี
3) ลาดับเลม่ บญั ชีแตล่ ะชนดิ ให้ใช้ตวั เลขไทยหรืออารบิค ถ้าบญั ชแี ตล่ ะชนดิ มมี ากกว่าหนึ่งเลม่
ตอ้ งเรียงลาดับเล่มตอ่ เน่ืองกนั
3.2.2 บัญชีรายวนั บัญชแี ยกประเภท และบัญชสี นิ ค้า ต้องมขี ้อความและรายการในบญั ชี ดงั ตอ่ ไปนี้
1) ชือ่ บัญชี วนั เดอื น ปี เลขท่ขี องเอกสารประกอบการลงบัญชหี รอื หนา้ บญั ชหี รอื รหัสท่ีอา้ งองิ
รายการบัญชี และจานวนเงิน
2) หน้าบัญชีตอ้ งมตี วั เลขไทยหรืออารบิคเรยี งลาดับทุกหน้า
3) รายการในบัญชที ่เี ป็นจานวนเงนิ ตอ้ งเป็นหน่วยเงินตราไทย เว้นแตใ่ นกรณีท่ีมมี าตรฐานการ
บัญชีกาหนดใหแ้ สดงเปน็ หนว่ ยเงินตราสกุลอ่ืนได้ จะเลือกปฏิบัตติ ามมาตรฐานการบัญชีก็ได้
3.2.3 บญั ชแี ต่ละชนดิ ดังตอ่ ไปน้ี นอกจากตอ้ งมีรายการตามทีก่ าหนดไวใ้ นข้อ 3.2.2 แล้ว ต้องมี
รายการตอ่ ไปน้ดี ้วย
1) บญั ชีเงินสด หรอื บัญชธี นาคาร ให้มรี ายละเอียดการได้มาหรอื จ่ายไปซ่ึงเงนิ สด เงินใน
ธนาคาร แตถ่ า้ มรี ายละเอยี ดดงั กล่าวในเอกสารประกอบการลงบญั ชหี รอื บญั ชีรายวันชนิดหนึ่งชนดิ ใดแล้วจะลง
รายการรบั หรอื จา่ ยเงนิ ประเภทเดยี วกันเป็นยอดรวมก็ได้
2) บญั ชีรายวนั ซอ้ื หรอื บัญชรี ายวนั ขาย ให้มรี ายละเอียด ชนดิ ประเภท จานวน และราคาของ
สนิ คา้ หรือบรกิ ารทซี่ ้ือขาย แต่ถา้ มีรายละเอยี ดดังกลา่ วในเอกสารประกอบการลงบญั ชีหรือทะเบยี นใดแล้ว จะ
ลงรายการซ้อื หรือขายสินค้าหรอื บรกิ ารนั้นเป็นยอดรวมก็ได้
3) บญั ชีรายวนั ทว่ั ไป ให้มีคาอธบิ ายรายการบัญชี
1-11
4) บัญชแี ยกประเภทสนิ ทรพั ย์ หน้ีสินและทุน ใหม้ ีรายละเอยี ดการเพิม่ ข้นึ หรอื ลดลงของ
สนิ ทรัพย์ หน้สี ินและทนุ โดยให้อา้ งชนิดของบญั ชีและหนา้ บญั ชีหรอื รหัสทอ่ี า้ งอิงดว้ ย
5) บญั ชีแยกประเภทรายไดแ้ ละค่าใช้จ่าย ใหม้ รี ายละเอียดท่ีมาแหง่ รายไดห้ รอื ค่าใชจ้ า่ ย โดยให้
อา้ งชนดิ ของบญั ชีและหนา้ บัญชหี รือรหัสทอ่ี ้างอิงด้วย
6) บญั ชีแยกประเภทลกู หนห้ี รือบัญชีแยกประเภทเจ้าหน้ี ใหม้ ชี อ่ื ลกู หน้หี รือเจา้ หนี้การแสดง
รายการบญั ชใี ห้มรี ายละเอียดการก่อหนห้ี รือระงบั หน้ี การลงรายการดงั กล่าวใหอ้ ้างชนิดของบญั ชีและหน้า
บญั ชีหรือรหสั ทอ่ี า้ งอิงด้วย
7) บญั ชีสินค้า ใหม้ ชี ื่อ ชนิด จานวน หน่วยนบั รายละเอยี ดการได้มาหรือจาหน่ายไปซ่ึงสินคา้
และจานวนสนิ คา้ นั้น
3.3 ระยะเวลาทีต่ อ้ งลงรายการในบัญชี
3.3.1 บญั ชรี ายวนั ทุกชนิด ต้องลงรายการให้แลว้ เสร็จภายในสบิ หา้ วันนบั แต่วันท่รี ายการนน้ั เกิดข้นึ
3.3.2 บญั ชีแยกประเภท ต้องผ่านรายการจากบัญชรี ายวันทกุ ชนิด ภายในสบิ ห้าวนั นบั แต่วนั สนิ้ เดือน
ของเดือนท่ีรายการนน้ั เกดิ ข้ึน
3.3.3 บญั ชสี ินคา้ ภายในสบิ ห้าวันนบั แตว่ นั สน้ิ เดอื นของเดอื นทร่ี ายการนนั้ เกิดขึ้น
ในกรณีท่เี ปน็ บัญชตี าม 3.3.2 และ 3.3.3 ซงึ่ ตอ้ งมีการลงรายการยอดคงเหลือ ตอ้ งลงรายการยอด
คงเหลือให้แลว้ เสร็จภายใน 60 วนั นับแตว่ ันปิดบัญชี
3.4 เอกสารท่ตี อ้ งใช้ประกอบการลงบญั ชี
เอกสารท่ตี ้องใช้ประกอบการลงบญั ชี ไดแ้ ก่ บันทึก หนังสือ หรอื เอกสารใดๆ ทีใ่ ช้เป็นหลักฐานในการ
ลงรายการในบัญชี ซงึ่ แยกได้เปน็ 3 ประเภท คอื
3.4.1 เอกสารท่ตี ้องใช้ประกอบการลงบญั ชีที่จัดทาข้ึนโดยบคุ คลภายนอก
3.4.2 เอกสารทตี่ ้องใชป้ ระกอบการลงบัญชีที่จัดทาขึน้ โดยผมู้ ีหน้าทีจ่ ดั ทาบัญชเี พอ่ื ออกให้แก่
บคุ คลภายนอก
3.4.3 เอกสารท่ีต้องใช้ประกอบการลงบัญชีท่ีจดั ทาขนึ้ โดยผูม้ หี น้าที่จัดทาบญั ชีเพ่ือใช้ในกิจการของตนเอง
เอกสารท่ีต้องใช้ประกอบการลงบญั ชีทุกประเภทต้องมรี ายการทัว่ ไป ดงั ต่อไปน้ี
1) ชอ่ื ของผจู้ ดั ทาเอกสารซ่ึงอาจใช้ช่อื ทใ่ี ชใ้ นการประกอบธุรกิจของผจู้ ดั ทาเอกสารก็ได้
2) ชอื่ ของเอกสาร
3) เลขท่ีของเอกสาร และเล่มท่ี (ถ้ามี)
4) วัน เดือน ปี ท่ีออกเอกสาร
5) จานวนเงินรวม
เอกสารท่ีต้องใช้ประกอบการลงบัญชีท่ีจัดทาข้ึนโดยผู้มีหน้าท่ีจัดทาบัญชี เพ่ือออกให้แก่
บคุ คลภายนอก ตามขอ้ 3.4.2 ตอ้ งมรี ายการดังต่อไปนี้เพิ่มขึ้นจากรายการทว่ั ไป คอื
1-12
1) ในกรณีทเ่ี ปน็ เอกสารเพือ่ เป็นหลักฐานในการรับเงิน รับฝากเงนิ รบั ชาระเงินหรือต๋ัวเงินต้องมี
รายการตอ่ ไปนี้
(1) เลขประจาตวั ผูเ้ สียภาษีอากรของกจิ การท่ีจัดทาเอกสาร
(2) สถานที่ตัง้ ของกจิ การที่จดั ทาเอกสาร
(3) รายละเอยี ดเก่ียวกบั การรับเงินหรอื ตว๋ั เงิน
(4) ชอื่ ชนิด จานวน หน่วยนบั ราคาตอ่ หนว่ ย และราคารวมของสนิ คา้ หรอื บริการแต่ละ
รายการ เว้นแต่ไดร้ ะบรุ ายละเอียดดังกล่าวไวใ้ นเอกสารตาม 2) (3) แลว้
(5) ลายมือช่อื ของผรู้ บั เงินหรือตว๋ั เงิน เวน้ แตเ่ ปน็ เอกสารที่จัดทาและส่งมอบด้วยเครือ่ ง
คอมพวิ เตอร์ หรือเคร่ืองมืออื่นใดท่ีไดผ้ ลในทานองเดยี วกนั
2) ในกรณีท่ีเปน็ เอกสารเพอ่ื เปน็ หลักฐานในการจาหน่าย จ่ายโอน ส่งมอบสินค้าหรอื บรกิ ารโดย
ยงั มไิ ด้มีการชาระเงินหรือตั๋วเงินต้องมีรายการต่อไปน้ี
(1) เลขประจาตวั ผเู้ สียภาษอี ากรของกิจการทจ่ี ดั ทาเอกสาร
(2) สถานท่ีต้ังของกจิ การที่จัดทาเอกสาร
(3) ชื่อ ชนิด จานวน หน่วยนับ ราคาตอ่ หนว่ ย และราคารวมของสนิ ค้าหรือบริการแต่ละ
รายการ
(4) ชอ่ื หรอื ชื่อที่ใชใ้ นการประกอบธุรกิจ และท่อี ยู่ของผ้ซู ื้อหรือผ้รู บั สินค้าหรือผู้รบั บริการ
(5) ลายมือชอื่ ผูจ้ ดั ทาเอกสาร
(6) ลายมือชอ่ื ผรู้ ับสินค้าหรือผรู้ ับบริการ
เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบญั ชีที่จัดทาข้นึ โดยผู้มีหนา้ ทจี่ ัดทาบัญชเี พ่ือใชใ้ นกจิ การของตนเอง ตามข้อ
3.4.3 เชน่ ใบสาคญั จา่ ย ใบสาคัญรายวนั ทัว่ ไป ตอ้ งมรี ายการดงั ตอ่ ไปนี้เพมิ่ ข้นึ จากรายการทวั่ ไปด้วย คือ
1) คาอธิบายรายการ
2) วธิ ีการและการคานวณตา่ งๆ (ถา้ มี)
3) ลายมือชื่อของผมู้ ีหนา้ ทีจ่ ัดทาบญั ชี หรอื ผู้ได้รบั มอบหมายใหเ้ ป็นผูอ้ นุมตั ิรายการ
เอกสารท่ีต้องใช้ประกอบการลงบัญชี ท่ีจัดทาข้ึนโดยผู้มีหน้าท่ีจัดทาบัญชี เพ่ือออกให้แก่
บุคคลภายนอกตอ้ งมสี าเนาเกบ็ ไวอ้ ยา่ งนอ้ ย 1 ฉบับ
3.5 การลงรายการในบญั ชีรายวนั และบัญชสี ินคา้
3.5.1 ตอ้ งมเี อกสารทต่ี ้องใช้ประกอบการลงบัญชีทุกรายการและเอกสารทีต่ ้องใชป้ ระกอบการ
ลงบัญชีน้ันต้องสามารถแสดงความถูกต้องครบถ้วนของรายการบญั ชีตามความเป็นจริง และเปน็ ท่เี ชื่อถือได้
3.5.2 ตอ้ งใชเ้ อกสารทตี่ ้องใช้ประกอบการลงบัญชตี ามข้อ 3.4.1 หรือ 3.4.2 แลว้ แตก่ รณกี อ่ นเว้นแต่
ไมม่ เี อกสารดังกลา่ วจงึ ให้ใช้เอกสารในลาดบั 3.4.3
1-13
4. ขอ้ กาหนดเก่ียวกับการจัดทางบการเงิน
พระราชบญั ญตั ิการบญั ชี พ.ศ.2543 ได้กาหนดเรอื่ งของการจดั ทางบการเงนิ เกย่ี วกบั การปดิ บญั ชี
การจัดทางบการเงิน และการจดั สง่ งบการเงินประจาปี ไวด้ ังน้ี
4.1 การปดิ บัญชี
4.1.1 ปดิ บญั ชที ุก 12 เดือน
4.1.2 กรณีทไ่ี มค่ รบ 12 เดือน คอื รอบปบี ัญชีแรก หรอื รอบปบี ญั ชีทีไ่ ดข้ ออนุญาตเปลยี่ นวันสนิ้ สดุ
ต่อสารวตั รใหญ่บัญชี หรือสารวตั รบัญชี
4.1.3 สถานทปี่ ระกอบธุรกจิ เป็นประจา (สาขา) ซง่ึ มหี นา้ ทต่ี ้องจดั ทาบัญชีตามพระราชบัญญัติน้ี
จะตอ้ งปิดบญั ชพี ร้อมสานักงานใหญ่ โดยไม่ต้องจัดทางบการเงนิ ของสาขาแหง่ น้นั
4.2 การจัดทางบการเงนิ
4.2.1 ความหมายของงบการเงนิ
งบการเงิน หมายถงึ รายงานผลการดาเนินงาน ฐานะการเงิน หรอื การเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินของกิจการ ไม่ว่าจะ
รายงานโดยงบแสดงฐานะการเงิน งบกาไรขาดทุน งบกาไรสะสม งบกระแสเงินสด งบแสดงการเปลย่ี นแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น
งบประกอบ หรือหมายเหตปุ ระกอบงบการเงินหรือคาอธิบายอ่นื ซึ่งระบุไว้วา่ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของงบการเงนิ
งบการเงินต้องได้รับการตรวจสอบ และแสดงความเห็นโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เว้นแต่งบการเงินของผู้มีหน้าท่ี
จดั ทาบัญชซี ่งึ เปน็ ห้างหุ้นสว่ นจดทะเบยี น ท่มี ีทกุ รายการต่อไปน้ี คอื ทนุ ไมเ่ กนิ ห้าลา้ นบาท สนิ ทรัพย์รวม ไมเ่ กนิ สามสิบ
ล้านบาท และรายไดร้ วม ไม่เกินสามสบิ ล้านบาท ไดร้ บั ยกเวน้ ไม่ตอ้ งไดร้ ับการตรวจสอบ และแสดงความเห็นโดยผสู้ อบบัญชี
รับอนญุ าต (กฎกระทรวง ว่าดว้ ยการยกเว้นไมต่ ้องจัดให้งบการเงนิ ไดร้ ับการตรวจสอบและแสดงความเหน็ โดยผู้สอบบัญชีรับ
อนญุ าต พ.ศ.2544)
4.2.2 งบการเงินที่ผู้มีหนา้ ท่ีจัดทาบัญชตี ้องจัดทาและนาสง่
การยื่นงบการเงินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการยื่นงบการเงินท่ีอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าประกาศ
กาหนด และงบการเงินต้องมีรายการย่อ ตามท่ีอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประกาศกาหนดโดยความเห็นชอบของ
รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงพาณิชย์กาหนด
ประกาศกรมพฒั นาธุรกิจการค้า เร่อื ง กาหนดรายการย่อท่ีต้องมีในงบการเงิน พ.ศ. 2554 และ เรอ่ื งกาหนดรายการ
ย่อทต่ี ้องมใี นงบการเงิน (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2559 ดังนี้
1-14
แบบ/ แบบที่ งบแสดง งบกาไร งบกาไร งบแสดงการ งบ งบ หมายเหตุ
ผมู้ ีหน้าทจี่ ัดทาบัญชี ฐานะ ขาดทุน ขาดทนุ เปล่ียนแปลงสว่ น กระแส การเงิน ประกอบงบ
การเงนิ เบ็ดเสร็จ เงินสด รวม การเงนิ
ของเจา้ ของ
1.ห้างหุ้นสว่ นจดทะเบยี น 1 - - --
2.บริษัทจากดั 2 - งบแสดงการ - -
เปลย่ี นแปลงสว่ น
ของผถู้ ือหุ้น
3.บรษิ ทั มหาชนจากัด 3 - งบแสดงการ
เปล่ียนแปลงสว่ น
ของผูถ้ อื ห้นุ
4.นติ ิบคุ คลทีต่ ง้ั ข้นึ ตาม 4 - งบแสดงการ - -
กฎหมายตา่ งประเทศ เปลี่ยนแปลงส่วน
ของสานกั งานใหญ่
5.กิจการรว่ มคา้ ตาม 5 - งบแสดงการ - -
ประมวลรัษฎากร เปลย่ี นแปลงส่วน
ของผู้ร่วมค้า
หมายเหตุ *แบบ คอื แบบรายการยอ่ ของงบการเงินที่ผูม้ ีหนา้ ที่จดั ทาบญั ชีต้องจดั ทา
4.3 การจัดส่งงบการเงินประจาปี
4.3.1 กาหนดเวลาในการยนื่ งบการเงิน
ผมู้ ีหน้าทีน่ าส่งงบการเงิน กาหนดเวลาในการย่ืนงบการเงิน/สาเนาบัญชรี ายชื่อผูถ้ ือหนุ้ /
รายงานประจาปี / สาเนารายงานการประชุมผู้ถอื หนุ้
1. หา้ งหุน้ ส่วนจากดั - ต้องนาสง่ งบการเงินทผี่ ้สู อบบญั ชตี รวจสอบและแสดงความเห็น
2. หา้ งหุ้นสว่ นสามัญนิติบุคคล แลว้ ตอ่ นายทะเบยี นภายใน 5 เดอื นนับแต่วนั ปดิ บญั ชี
3. นติ บิ คุ คลทตี่ งั้ ขน้ึ ตามกฎหมายต่างประเทศที่
ประกอบธรุ กจิ ในประเทศไทย
4. กจิ การรว่ มค้าตามประมวลรษั ฎากร
5. บริษทั จากัด - ต้องนางบการเงนิ ทผี่ ู้สอบบัญชีตรวจสอบแลว้ เสนอเพ่ืออนุมัติ
ต่อทีป่ ระชุม ใหญภ่ ายใน 4 เดือนนบั แตว่ ันปดิ บญั ชี
- ต้องนาส่งงบการเงินต่อนายทะเบียนภายใน 1 เดือนนับแตว่ ันที่
ไดร้ ับอนุมัติใน ที่ ประชมุ ใหญ่
- ต้องนาสง่ สาเนาบญั ชรี ายชอ่ื ผู้ถือหนุ้ ทย่ี ังคงเป็นผูถ้ ือห้นุ ในเวลา
ทปี่ ระชมุ (บอจ.5) ตอ่ นายทะเบียนภายใน 14 วนั นบั แตว่ ัน
ประชมุ สามัญผ้ถู ือหุ้น
1-15
ผ้มู หี น้าทนี่ าสง่ งบการเงิน กาหนดเวลาในการย่นื งบการเงิน/สาเนาบญั ชรี ายชื่อผู้ถือหุ้น/
6. บรษิ ัทมหาชนจากัด รายงานประจาปี / สาเนารายงานการประชุมผูถ้ ือหุ้น
- ตอ้ งนางบการเงินท่ีผูส้ อบบัญชตี รวจสอบแลว้ เสนอเพ่ืออนมุ ัติ
ต่อทป่ี ระชมุ ใหญภ่ ายใน 4 เดือนนับแตว่ นั ปดิ บญั ชี
- ต้องนาส่งรายงานประจาปพี ร้อมสาเนางบแสดงฐานะการเงนิ
และบัญชีกาไรขาดทุนต่อนาย ทะเบยี นภายใน 1 เดอื นนบั แต่
วันท่ีไดร้ บั อนุมัตจิ ากทป่ี ระชมุ ใหญ่
- ต้องนาสง่ สาเนาบัญชีรายชือ่ ผ้ถู อื ห้นุ โดยผมู้ ีอานาจลงนามแทน
บริษทั ลง ลายมอื ช่ือรบั รองว่าถกู ต้อง
- ตอ้ งนาส่งสาเนาบญั ชีรายชือ่ ผูถ้ อื หนุ้ (บมจ.006) ท่มี อี ยู่ในวนั
ประชุมสามัญ ประจาปีตอ่ นายทะเบียน ภายใน 1 เดอื น นบั แต่
วันเสรจ็ การประชมุ
4.3.2 วธิ ีการในการยืน่ งบการเงนิ
กรมพฒั นาธุรกจิ การค้า ไดอ้ อกประกาศหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารยน่ื งบการเงนิ พ.ศ. 2558 ดงั น้ี
1) ให้ผู้มีหน้าทจี่ ดั ทาบญั ชี ยน่ื งบการเงิน รายงานการสอบบัญชี รายงานประจาปี สาเนารายงาน การ
ประชมุ ผู้ถือหุ้น ทางอิเล็กทรอนิกส์ภายในระยะเวลาท่ีกฎหมายกาหนด
2) กรณผี ูม้ หี น้าทจ่ี ดั ทาบัญชีท่ียงั ไม่พร้อมยืน่ งบการเงินผา่ นทางอเิ ล็กทรอนิกส์ ใหย้ น่ื ด้วยตนเอง หรอื
นาส่งทางไปรษณยี ภ์ ายในระยะเวลาทกี่ ฎหมายกาหนด และตอ้ งยืน่ งบการเงนิ ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์อีก ครั้ง
หน่งึ ภายใน 30 วันนบั แตว่ ันครบกาหนดระยะเวลาตามกฎหมาย จงึ จะถือวา่ เป็นการย่ืนงบการเงิน ภายใน
ระยะเวลาที่กฎหมายกาหนด
ช่องทางการนาสง่ งบการเงิน
1) นาสง่ ด้วยตนเอง ณ หนว่ ยงานของกรมพัฒนาธุรกิจการคา้ ดังต่อไปน้ี
(1) กรมพฒั นาธุรกิจการคา้ (ชั้น3) กระทรวงพาณชิ ย์ จังหวดั นนทบรุ ี
(2) สานักงานพฒั นาธุรกจิ การค้าเขต 1-6 กรุงเทพมหานคร
(3) สานักงานพฒั นาธรุ กิจการค้าจงั หวัด ทวั่ ประเทศ
(4) สานักงานพัฒนาธรุ กจิ การค้าจังหวัดสาขาได้แก่ สาขาหัวหนิ สาขาพัทยา สาขาเกาะสมุย สาขา
แม่สอด
2) สง่ ทางไปรษณยี ์ไปยังกองข้อมูลธุรกจิ กรมพัฒนาธุรกิจการคา้ เลขท่ี 563 ถนนนนทบุรี อาเภอเมือง
จงั หวดั นนทบรุ ี 11000 โดยสามารถทาได้ 2 วธิ ี คือ
(1) ลงทะเบยี นตอบรับ ณ ทที่ าการไปรษณยี ์ทุกแห่งท่ัวประเทศ
(2) สง่ แบบรับประกันการสูญหาย สง่ ณ ทีท่ าการไปรษณยี ์ไทยเฉพาะในเขตกรงุ เทพมหานคร และ
ทที่ าการไปรษณียน์ นทบุรเี ท่านนั้
1-16
3) ส่งทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (DBD e-Filing)
การนาสง่ งบการเงนิ ผา่ นทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) นติ ิบคุ คลสามารถใช้บรกิ ารผ่านเวบ็ ไซต์
กรมฯ www.dbd.go.th > เลือก บริการออนไลน์ > ระบบการนาสง่ งบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-
Filing)
4.3.3 บทกาหนดโทษ กรณีไมส่ ง่ งบการเงนิ ประจาปี ปรับไมเ่ กินหา้ หมืน่ บาท
สามารถศึกษาข้อมลู เพมิ่ เตมิ เก่ยี วกับพระราชบัญญตั ิการบัญชี พ.ศ. 2543 ได้ทเ่ี วบ็ ไซต์กรมพัฒนา
ธรุ กิจการค้า ตามลิงคต์ ่อไปนี้
พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543
https://bit.ly/2LRC9kn
******************************
1-17