ช่ือ-สกลุ ....................................................... ชั้น............. เลขที่ .......
เอกสารประกอบการเรยี น เรอ่ื ง การเขยี นโฆษณา
รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท๒๓๑๐๒ ภาคเรยี นท่ี ๒ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓
ใบความรู้เร่อื ง การเขยี นโฆษณา
การใชภ้ าษาในการโฆษณาและการประชาสมั พันธ์
การโฆษณา
การโฆษณา หมายถงึ การให้ขอ้ มลู ขา่ วสาร ซง่ึ เปน็ การสอ่ื สารจงู ใจผา่ นสอ่ื โฆษณาประเภทต่าง ๆ ท่ี
นำเสนอตอ่ สาธารณชน เพื่อโนม้ น้าวใจ กระตนุ้ ใหเ้ กิดการรบั รู้ และพฤติกรรมการซือ้ ใหก้ ลมุ่ ผู้บรโิ ภคเป้าหมาย มี
พฤตกิ รรมคลอ้ ยตามเน้ือหาสารทีโ่ ฆษณา อันเออ้ื อำนวยให้มีการซอ้ื หรอื ใชส้ นิ คา้ และบริการ ตลอดจนชักนำให้
ปฏบิ ตั ติ ามแนวความคิดต่าง ๆ การนำเสนอโดยการผา่ นสือ่ ตา่ งๆ ซึง่ ล้วนแตต่ ้องใช้งบประมาณคา่ ใช้จ่ายทั้งสิน้
ลกั ษณะของการโฆษณา
๑. การโฆษณาเปน็ การสอื่ สารจูงใจ มีวัตถุประสงคเ์ พือ่ การจงู ใจให้เกดิ พฤตกิ รรมการซือ้ โดยวิธี การพูด การเขยี น
หรือการสอ่ื ความหมายใด ๆ ทมี่ ีผลให้ผู้บริโภคเป้าหมาย คดิ คล้อยตาม กระทำตามหรอื เปล่ียนแปลง พฤติกรรมไป
ตามทผี่ ู้โฆษณาต้องการ
๒. การโฆษณาเปน็ การจูงใจดว้ ยเหตุผลจริงและเหตผุ ลสมมติ หมายถงึ การจูงใจโดยบอกคุณสมบัติท่ี เป็น
ประโยชนข์ องผลิตภัณฑ์ และการจงู ใจโดยใชห้ ลกั การตอบสนองความต้องการด้านจิตวิทยา
๓. การโฆษณาเป็นการนำเสนอสอื่ สารผา่ นสอื่ มวลชนประเภทต่าง ๆ ซึ่งสามารถเผยแพรช่ ่าวสาร เกย่ี วกับ
สินค้าและบริการในระยะกว้างใกลไดส้ ะดวก รวดเรว็ ท่ีสดุ ไปสกู่ ลมุ่ เปา้ หมาย อย่างกว้างขวาง ไปสู่มวลชนอย่าง
รวดเรว็ เขา้ ถึงพรอ้ มกันและทว่ั ถงึ
๔. การโฆษณาเปน็ การเสนอขายความคิด สนิ คา้ และบริการ โดยใช้วิธีการจงู ใจให้ผู้บรโิ ภค เกิดความพอใจเกิด
ทัศนคติท่ีดี อันจะนำไปสกู่ ารเปล่ยี นแปลงในการซือ้ สินคา้ หรอื บริการทเ่ี สนอขาย
๕. การโฆษณาต้องระบุผสู้ นบั สนนุ หรือตวั ผูโ้ ฆษณา ซง่ึ มผี ลความเช่ือถอื ของผบู้ ริโภคของผู้บริโภค สร้างความ
เช่อื มัน่ และแสดงให้เห็นว่า เป็นการโฆษณาสนิ ค(้ advertising:มิใช่ เปน็ การโฆษณาชวนเชอ่ื
๖. การโฆษณาตอ้ งจา่ ยคำตอบแทนในการโฆษณาในสอ่ื ต่าง ๆ เช่น วิทยุกระจายเสยี ง วิทยโุ ทรทศั น์ วารสาร
หนังสอื พมิ พแ์ ละนิตยสาร เปน็ ตัน ดงั นน้ั ผูโ้ ฆษณาจะตอ้ งมีงบประมาณ เพือ่ การโฆษณาสนิ คา้ หรอื บริการตา่ ง ๆ
องคป์ ระกอบของการโฆษณา
องค์ประกอบของการโฆษณาจำแนกออกเป็น ๔ ประการ ไดแ้ ก่
๑. ผ้โู ฆษณา (advertiser) คอื เจ้าของสินค้า เจ้าของบริการ ซ่ึงจะต้องประสานกบั งานดา้ นการตลาดของ
หน่วยงานนน้ั โฆษณาทกุ ชิ้นจะต้องปรากฏตวั ผ้โู ผษณาให้ชัดเจน และผู้โฆษณาจะต้องรับผดิ ชอบ คำใช้จ่ายใน การ
โฆษณาทง้ั หมด
๒.สง่ิ โฆษณา (advertisement) คอื โฆษณาท่ีทำสำเร็จรูปแล้ว หรอื สง่ิ พิมพป์ ระเภทตา่ ง ๆ ที่ประกอบดว้ ย
ขอ้ ความ รปู ภาพซง่ึ จะสื่อ ถึงสินคา้ หรอื บริการ ที่เห็นอยู่บนหน้าหนังสอื พิมพ์ นติ ยสาร รวมถงึ ภาพยนตร์ โฆษณา
ทางโทรทัศนแ์ ละบทโฆษณาทางวทิ ยุ เปน็ ต้น
๓. สอ่ื โฆษณา (advertising) คอื สอ่ื ท่ผี ้โู ฆษณาเลือกใช้ในการเผยแพรง่ านโยษณาไปยงั กลุ่มปรโิ ภคเป้าหมาย
เชน่ โทรทัศน์ วิทยุ หนงั สอื พมิ พ์ เป็นตนั สื่อโฆษณาเปน็ เคร่อื งมือสำคัญทนี่ ำโฆษณาไปยงั กล่มุ ผบู้ ริโภค สื่อโฆษณา
แบง่ เปน็ ประเภทต่าง ๆ ตามความหมาะสมของสินคำทีต่ ้องการนำเสนอ
สือ่ โฆษณาแบง่ เปน็ ๓ ประเภท
• ส่ือโฆษณาประเภทสิง่ พมิ พ์ (print Media) เปน็ การโฆษณาโดยใช้ตัวหนังสือเปน็ ตัวกลางใน
การถ่ายทอดความคิดไปสูป่ ระชาชน ไดแ้ ก่ หนงั สือพมิ พ์รายวนั หนงั สือพิมพ์รายสัปดาห์ นติ ยสาร ใบปลวิ แผน่ พบั
โปสตอร์ ค่มู ือการใช้สินค้า แบบตัวอย่างสินคา้ (catalogs) เป็นต้น
• สอื่ โฆษณาประเภทกระจายเสยี งและแพรภ่ าพ ( broadcasting media) เปน็ การโฆษณา
โดยใชเ้ สยี ง ภาพ หรือตวั อกั ษร ไดแ้ ก่ เสียงตามสาย วทิ ยุ และโทรทัศน์ เป็นต้น
• สื่อโฆษณาประเภทอนื่ ๆ หมายถึง สื่อโรษณาอื่น ๆ นอกเหนอื จากสอ่ื ทีก่ ล่าวแล้วข้างต้น เช่น
ภาพยนตร์อินเทอร์เน็ต สอื่ ท่ใี ช้โฆษณาทีจ่ ุดขาย รวมถงึ สอื่ โฆษณา นอกสถานท่ี เช่น ป้ายโฆษณา ทต่ี ิดรถโดยสาร
ประจำทางหรือรถแทก็ ซี่ ปา้ ยราคา สนิ คา้ ธงราว แผ่นป้ายต่าง ๆ ที่ติดต้งั ไว้ตามอาคารสงู ๆ หรือตามส่แี ยก ป้าย
โฆษณาที่ปา้ ยรถประจำทาง หรอื ติดไว้ ณ ท่พี ักผู้โดยสาร ป้ายโฆษณารอบ ๆ สนามกฬี าเมอื่ มกี ารแชง่ ชันกีฬานดั
สำคัญ ๆ เป็นต้น
๔. กลุ่มผบู้ ริโภคเปา้ หมาย (consumer) บุคคทั่วไปท่ีรบั สารเกยี่ วกับงานโฆษณา ซึง่ หากเกิดความรู้สกึ ถกู ใจ ชื่น
ชมหรอื ชอบสนิ ค้าหรือบรกิ าร จะนำไปส่กู ารตดั สินใจเลือกซอื้ สินค้าหรือบรกิ ารได้ ในทางโฆษณา
กลุ่มผบู้ รโิ ภค เป้าหมายจะหมายรวมถึงผู้ใช้สินค้าหรอื บริการ
วัตถปุ ระสงคข์ องการโฆษณา โดยท่วั ไปมดี ังต่อไปน้ี
๑. เพอ่ื แนะนำให้รจู้ กั สินค้าหรือบรกิ ารใหม่ ๆ แก่ผู้บริโภคกลมุ่ เปา้ หมาย
๒. เพอ่ื เสนอขอ้ มลู เกยี่ วกบั สินคา้ หรือบริการ เช่น ประเภท ประโยชน์ คณุ สมบตั ิโดดเด่น ความสำคัญของ
สินคา้ หรอื บริการน้นั ๆ ตอ่ การดำรงชวี ติ ของผู้บริโภค เป็นตัน
๓. เพอื่ สรา้ งจดุ เด่นให้เป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะตัวของสินค้าหรอื บรกิ าร จนผบู้ รโิ ภคจำชอื่ จำตราของสินค้า
หรอื บรกิ ารน้ันไดด้ ี
๔. เพื่อสรา้ งแรงจงู ใจ เรา้ ใจหรอื ตึงดตู ใจ กระตุ้นใหผ้ ู้บริโภคเกิดความสนใจในสินค้าหรอื บรกิ าร ซง่ึ นำไปสู่
ความตอ้ งการในการซอื้ สนิ ค้าหรอื บริการน้นั ๆ
๕. เพอื่ สง่ เสรมิ การใช้สนิ คา้ หรอื บริการให้มากข้นึ เป็นการแช่งชันในการจำหนา่ ยสินคา้ หรือบริการกบั
คแู่ ข่งทีจ่ ำหน่ายสนิ ค้า หรอื บรกิ ารประเภทเดยี วกัน เป็นการเอาชนะคู่แข่งขันในการจำหน่าย เพม่ิ ยอดขายหรือเพมิ่
การครองตลาด การขยายตลาดสินค้าหรือบริการนน้ั ใหก้ ว้างยิง่ ขึ้น
๖. เพอ่ื เป็นการทบทวนความจำ เน้นย้ำให้สินคา้ หรอื บรกิ ารนัน้ อยู่ในความทรงจำ ของผบู้ รโิ ภคตลอดไป
๗. เพอ่ื สรา้ งตำแหนง่ สินคา้ หรอื บริการข้ึนในความนึกคิดของผู้บรโิ ภค
๘. เพ่ือสรา้ งภาพลกั ษณ์และเจตตีในทางท่ดี ีให้กบั บรษิ ัทผู้ผลติ สนิ คา้ หรือบรกิ ารนั้น
๙. เพือ่ สรา้ งศรัทธาความเชอ่ื ถือในสินค้าหรือบริการใหเ้ ป็นที่ยอมรับ อนั จะส่งผลถงึ การจำหน่ายสินค้าตัว
ใหมห่ รอื บริการใหม่ ๆ ของผ้ผู ลิตเดยี วกนั
โครงสร้างข้อความโฆษณา มอี งค์ประกอบหลกั 5 ประการ คอื
๑. หวั เรอ่ื ง หรอื พาดหวั
เป็นขอ้ ความในส่วนแรกของโฆษณา เพ่อื ดงึ ดดู ความสนใจ มกี ารใช้ถ้อยคำท่ี สนั้ กะทัดรัด ได้ใจความ
น่าสนใจ และดงึ ดูดความสนใจกลุม่ เป้าหมาย โดยใชภ้ าษาทสี่ ะดดุ ตา หรอื ใชต้ ัวอกั ษร ทีม่ ีความชดั เจน มคี วาม
โดดเด่นมากกว่าส่วนอืน่ ๆ
๒. พาดหัวรอง หรือข้อความขยายพาดหัว
เป็นขอ้ ความขยายทำให้พาดหัวมคี วามชัดเจน มากข้ึนหรอื สรา้ งความเขา้ ใจต่อเนื่องจากพาดหวั หลักซึ่ง
เป็นส่วนทีอ่ าจจะมีหรอื ไม่มกี ไ็ ด้
๓. ขอ้ ความโฆษณา ที่มีการขยายความหรอื รายละเอยี ดเพมิ่ เตมิ จากหวั เรื่อง หรือพาดหวั
ในการอธิบายนน้ั อาจกล่าวถึงประโยชน์ สรรพคุณรายละเอียดต่าง ๆ ของสนิ ค้า คุณภาพ ราคา การ
เปรียบเทียบกบั ผลิตภณั ฑช์ นิดเดียวกับยี่ห้ออน่ื หรือการกลา่ วถึงหลกั ฐานต่าง ๆเชน่ การรับประกนั คุณภาพ
จากสถาบนั ตา่ ง ๆ ความคิดเห็นจากบุคลท่มี ีชื่อเสียงและไดร้ บั การยอมรับจากบคุ คลท่วั ไป หรือความคิดเห็น
จากผูเ้ ชีย่ วชาญเปน็ ตัน เพือ่ ชกั จูงให้ผ้รู บั สารรสู้ กึ เชอื่ ถอื และคล้อยตาม ซง่ึ ในสว่ นน้ีจะมกี ารใช้ ตวั อกั ษรท่ีมี
ขนาดเล็กกว่าพาดหัวหรอื หวั เรอื่ ง
๔. ภาพประกอบ
คือ สิง่ ทีจ่ ะเสริม ตลอดจนสรา้ งความเขา้ ใจเพ่ิมความเข้าใจเพิ่มจากขอ้ ความโฆษณา หน้าท่ีสำคัญประการ
หนง่ึ ของภาพประกอบก็คือ การสรา้ งหรอื ตงึ ดูดความสนใจเชน่ เดยี วกับพาดหวั แตภ่ าพประกอบนนั้ ควรจะมี
ความสมั พันธ์กบั พาดหัวตลอดจนเนอื้ หาสาระของสง่ิ โฆษณาแตล่ ะชนิ้ เพื่อตงึ ความสนใจผอู้ ่านภาพประกอบไม่
เพียงแตเ่ ปน็ ตวั ตึงดูดความสนใจเท่าน้ัน แต่ยังเปน็ ตวั เสริมหรือขยายความ ข้อความโฆษณาเพื่อใหม้ ีความเขา้ ใจ
มากขึน้
๕. สรุป
เปน็ ส่วนทจี่ ะทำให้ผู้รับสารร้สู ึกประทบั ใจและจดจำได้ และเกดิ ความตอ้ งการ ในสินค้าหรอื บริการน้นั ๆ
หรอื อาจเป็นการเสนอประโยชน์อกี คร้งั และกระตุ้นให้ผูร้ บั สารรสู้ ึกตอ้ งการในสินค้าหรอื บริการนั้น ๆ ดงั นน้ั
คำสรุปจึงเป็นส่วนท่สี ำคญั มากอกี สว่ นหนงึ่ ในโครงสรา้ งของข้อความโฆษณา เน่อื งจาก ผรู้ ับสารอาจมีปฏกิ ิริยา
ในทางใดก็ได้กับโฆษณา เม่ืออ่านคำสรปุ ของโฆษณา
สว่ นประกอบของสารโฆษณา ประกอบด้วย ๒ ส่วนใหญ่ ดังน้ี
๑. วัจนภาษา คือ สญั ลกั ษณ์ที่ใช้แทนหรอื คำตา่ ง ๆ ท่ีใชใ้ นภาษาหนึง่ ๆแบง่ เปน็ คำทส่ี ร้างความหมาย โดยการใช้
การเปล่งเสยี ง ในภาษาพูดและใช้ตวั อกั ษรในภาษาเขยี น ซง่ึ ส่วนผสมทางด้านวัจนภาษา สามารถแบ่งออกได้ ดงั นี้
๑.๑ พาดหัว ซึ่งสามารถบง่ ประเภทของการพาดหัวได้ออกเปน็ การพาดหัวเจาะจง กลมุ่ เปา้ หมาย วิธีตัง้
คำถาม นำคำพดู ของคนดงั หรอื สภุ าษิตแบบออกคำสัง่ นำคำตรงขา้ มกนั มาตดิ กันฯลฯ
๑.๒ ขอ้ ความโฆษณา ทแ่ี บ่งประเภทของข้อความโฆษณาไดเ้ ปน็ แบบพรรณนา แบบเลา่ เร่ือง แบบให้
เหตผุ ลแบบบอกวธิ ใี ช้
๑.๓ คำบรรยายใต้ภาพ เป็นขอ้ ความประกอบภาพเพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจมากยง่ิ ขึ้น
๑.๔ สโลแกน คอื ขอ้ ความส้นั ๆ ท่สี รปุ ความคดิ รวบยอดของสนิ ค้าหรอื เป็นข้อความจงู ใจที่สะดุดตา
และเป็นที่จดจำในคุณสมบัติของสนิ คา้ หรือบรกิ ารน้นั ๆประเภทของสโลแกนสามารถแบ่งออกไดม้ ากมาย เช่น
สโลแกนท่บี อกจุดขาย บอกคุณสมบตั ิ บุคลกิ ของกลุ่มเป้าหมาย สโลแกนท่ีเปรยี บเทียบกับสินค้าอนื่ เป็นตน้
๒. อวจั นภาษา คอื สัญลักษณ์ที่ใช้แทนความหมายโดยไมใ่ ช้ลกั ษณะของคำซง่ึ เป็นอกี ส่วนท่สี ำคญั และทำให้
โฆษณามคี วามนำสนใจ มีความหมายลึกซงึ้ มากกว่าการใชถ้ อ้ ยคำแต่เพยี งอยา่ งเดียวซงึ่ อวัจนภาษาความสำคัญมาก
ในการสือ่ สาร ในเวลาและพ้นื ที่อันจำกัด อวัจนภาษาในโฆษณาสามารถแบ่งออกได้ ดงั น้ี
๒.๑ รูปแบบการจดั หน้าโฆษณา จัดใหม้ คี วามสมดลุ สดั ส่วนเหมาะสม และมีความเป็นเอกภาพ
๒.๒ ภาพประกอบ สว่ นท่ีนำมาสริมหรือขยายพาดหวั เพอ่ื สร้างความเข้าใจเพม่ิ เติม และเพ่ือดงึ ดูด
ความสนใจผรู้ บั สาร
๒.๓ การใชต้ ัวอกั ษร มหี ลกั ในการออกแบบตัวอักษร ๓ หลกั ได้แก่
• ขนาดของตวั อักษรตอ้ งมีความหมาะสม
• รปู แบบของตวั อกั ษรต้องชดั เจน สวยงาม ดึงดูดความสนใจ อา่ นง่าย
• สขี องของตัวอักษรกเ็ ป็นสว่ นท่เี นน้ ขอ้ ความใหเ้ ดน่ มากยิ่งข้ึน
๒.๔ สี มีบทบาทต่อความสนใจตอ่ มนษุ ยอ์ ยา่ งมาก จงึ ควรท่จี ะเลอื กสมี าใช้ให้ถูกวตั ถุประสงคด์ ว้ ย
๒.๕ โลโก้ สง่ิ ท่ีทำให้สามารถจดจำสินค้าได้ และยังทำให้มีผบู้ ริโภคมคี วามมน่ั ใจในการเลือกซ้ือสินค้า
การใช้ภาษาในการโฆษณา
การโฆษณา มีความจำเปน็ ต้องใช้ภาษาท่ีตึงดูดความสนใจของคนอ่านคนฟงั นกั โฆษณาจงึ มักคิดค้น
ถอ้ ยคำ สำนวนภาษาแปลกใหม่ นำมาใช้ในโฆษณาอยเู่ สมอ เพอ่ื เรยี กรอ้ งความสนใจจากผู้บริโภค ในขณะเดยี วกนั
การโฆษณาต้องใช้ภาษาทีง่ ่าย ๆ กะทดั รัด ได้ใจความ ชัดเจน น่าสนใจ มีเสียงสมั ผัสคลอ้ งจอง จดจำไดง้ ่าย ภาษา
ในโฆษณาจึงมักมถี ้อยคำเกิดขน้ึ ใหมอ่ ยเู่ สมอ
ลกั ษณะภาษาในโฆษณา
๑. เรียกรอ้ งความสนใจ คอื เลือกใชภ้ าษาทง่ี ่าย สุภาพ กระตนุ้ ความรู้สึกของลกู คา้
๒. ให้ความกระจ่างแกล่ ูกค้า เปน็ การใช้ภาษาท่ีง่ายชัดเจนในการกล่าวถงึ คุณภาพของสนิ ค้าหรือบริการ
๓. ให้ความมนั่ ใจ เป็นการอ้างองิ ข้อมูลตา่ ง ๆ เพ่ือให้ลกู ค้าเกดิ ความม่ันใจ
๔. ยั่วยุใหเ้ กิดการตัดสนิ ใจ เป็นการใช้ถอ้ ยคำให้ผ้ปู ริโภคตดั สินใจซอ้ื สินค้าหรอื บรกิ ารโดยเรว็ ที่สุด
การใช้ภาษาโฆษณา สรุปได้ดงั นี้
๑. มีการใชป้ ระโยคทสี่ ัน้ กะทัดรัด ไมย่ าวหรือส้ันจนเกินไป ไม่ใชค้ ำพดู หรือขอ้ ความ ฟุ่มเฟอื ยไมจ่ ำเป็น
แตอ่ ่านแล้วสามารถท่ีจะจบั ใจความ ไดท้ นั ที
๒. มีความชดั เจน ไม่กำกวมในขอ้ ความโฆษณา คือใช้คำพูดทีผ่ ูร้ บั สารอำนหรอื ไดย้ นิ แล้ว ปราศจากขอ้
สงสัยเพอื่ ที่จะสามารถตอบคำถามทค่ี าดว่าผู้รับสารต้องการทจี่ ะทราบได้หลีกเส่ยี งการใชค้ ำพดู สำนวนโวหาร หรอื
ข้อความ ที่กำกวมทำให้ตีความได้หลายทาง หรือสามารถท่ีจะตีความไดห้ ลายทาง หรือสามารถท่ีจะ ตคี วามได้
หลายความหมาย
๓. ใชภ้ าษาที่อา่ น หรือฟงั เข้าใจง่ายกบั การบรรยายถงึ สรรพคณุ สนิ คา้ อาจมีการใช้ สำนวนภาษาท่ี
แตกตา่ งจากโครงสร้างในภาษาไทย กล่าวคอื ไมย่ ึดตดิ กับหลกั ภาษาไทยมากจนเกินไป เพอื่ ใหเ้ หมาะสมกับความ
ต้องการของกลุ่มเป้าหมายท่ีแตกตา่ งกันใน ไมว่ า่ จะเป็น อายุ อาชีพ และเพศ แต่ตอ้ งคำนงึ ถงึ ว่าจะทำให้เกิดผลให้
ผูอ้ ่านเขา้ ใจผิดหรือเกิดผลในทางลบได้ ไมค่ วรมุ่งแตจ่ ะใช้ความแปลกใหม่แต่เพยี งอยา่ งเดียว ภาษาท่ีใช้กนั ทว่ั ไป
เปน็ ส่งิ ที่ดถี า้ นำมาใชอ้ ย่างเหมาะสม เนื่องจากเป็นสิ่งทคี่ ุน้ เคยกันเป็นอยา่ งดี แต่ต้องระวงั ไม่ให้ผรู้ บั สารรสู้ ึกว่าเปน็
ภาษาที่หยาบคาย
หลักการเขยี นขอ้ ความโฆษณา
๑. ตอ้ งทำให้ผู้รบั สารเกดิ ความสะดุดตา สะดุดใจ โดยอาจใชค้ ำพูด ถอ้ ยคำให้ผลกระทบในทันที ทำให้
อยากจะฟังหรอื อ่านข้อความต่อไป
๒. เพ่อื กระตนุ้ ความสนใจใหเ้ กิดแก่ผรู้ ับสาร โฆษณาจะต้องทำให้ผู้รับสารเกดิ ความสนใจในสารทันที
๓. เพอื่ สรา้ งความปรารถนาใหเ้ กิดขึน้ แกผ่ ูร้ บั สาร งานโฆษณาทด่ี ตี ้องสามารถสรา้ งความร้สู ึกให้
ผรู้ ับสารเกิดความต้องการทีจ่ ะใช้ผลติ ภัณฑ์ เกดิ ความตอ้ งการในการบริโภค
๔. เพอื่ ใหเ้ กิดการปฏบิ ตั ิ งานโฆษณาต้องสามารถโนม้ นา้ วใจใหผ้ ้รู ับสารมคี วามร้สู ึกคลอ้ ยตาม จนเกิดการ
ตดั สนิ ใจซ้อื สนิ ค้า
สรปุ การใชภ้ าษาในโฆษณา
๑. ใชภ้ าษาสามญั ง่าย ๆ สภุ าพเข้าใจงา่ ย สละสลวยหนุ่มนวล ชวนสนใจ
๒. ใช้ถอ้ ยคำภาษาทต่ี รงความหมายท่ตี ้องการ สอดคลอ้ งกบั วัฒนธรรมของการใชภ้ าษา
๓. ใช้ถอ้ ยคำ ภาษาทถี่ กู ตอ้ ง เหมาะสม ไมใ่ ชภ้ าษาแสลง วบิ ัติ หรอื คำตำ่ กวา่ มาตรฐาน
๔. ใช้ภาษาใหถ้ ูกต้องตามแบบแผน ไมใ่ ช้ถ้อยคำท่ีตดั หรอื ย่อที่รู้กันเฉพาะกลุ่ม
๕. ไม่ใชค้ ำทม่ี ีความหมายกำกวม เข้าใจไดส้ องแง่สองมมุ คำผวน คำภาษาตลาด
๖. ไมใ่ ชค้ ำวิชาการหรอื ศพั ทเ์ ทคนคิ เกินความจำเป็น
๗. ควรใช้คำทเ่ี หมาะสมกบั กาลเทศะและบคุ คล ไมส่ อ่ เสยี ด ไม่ทับถมผอู้ น่ื
๘. ไม่ใช้ภาษาโลดโผนและโฆษณาเกินความจริง เปน็ การดถู ูกสติปญั ญาผ้รู ับสาร