TPSO Journal ฉบับที่ 117 เดือนเมษายน 2564

วารสาร ป‚ท่ี
สนค. 1 1 7
11
ฉบับท่ี
Journal
เมษายน 2564

B Bio Economy BCG แนวทางการปรบั ตวั ภาวะการคŒา SPECIAL TALK
เศรษฐกิจชีวภาพ
Model ของไทยและยโุ รปภายใตŒ BCG ระหวา‹ งประเทศของไทย : สง�ิ แวดลอม…
กมุ ภาพนั ธ 2564 เร�่องทภี่ าคธรุ กจิ ควรตระหนกั
SUN C Circular Economy
VILLAGE เศรษฐกจิ หมนุ เวยี น สราŒ งโลกสวย

ECOLOGY ดŒวย Green Products
CITY

G Green Economy
เศรษฐกจิ สีเขียว

EDITOR’S วารสาร ปีท่ี 11

เศรษฐกจิ และสงั คมทเี่ ตบิ โตมากขนึ้ ไดส้ ง่ ผลกระทบตอ่ ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม สนค. ฉบบั ที่ 117
รวมถงึ การใชช้ วี ติ ของมนษุ ยด์ ว้ ยเชน่ กนั หลายประเทศจงึ มมี ติในการรว่ มรกั ษาธรรมชาติ เดือนมนี าคม 2564
และสิ่งแวดล้อมขึ้น เพื่อให้ภาคการผลิตรวมถึงประชาชนทุกคนตระหนักและร่วมกัน
ปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมและคำ� นงึ ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มมากขนึ้ www.tpso.moc.go.th
TPSO Journal ฉบบั น้ีจึงไดน้ ำ� เสนอเรอื่ ง การให้ความส�ำคญั ตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มทภ่ี าคธรุ กจิ
ควรตระหนัก ในคอลัมน์ Special Talk และส�ำหรับ Special Report ขอน�ำเสนอเรื่องท่ี CONTENTS
เกย่ี วเนือ่ งกนั อยา่ ง แนวทางการปรบั ตวั ของไทยและยโุ รปภายใต้ BCG และ Circular Economy
เศรษฐกิจหมนุ เวยี น ทางเลอื กของแฟชั่นเพื่อความย่งั ยนื 03 SPECIAL TALK
ก่อนจากกัน ... กองบรรณาธิการขออวยพรเนื่องในวันปีใหม่ไทย หรือวันสงกรานต์ สิ่งแวดลอ้ ม...เร่อื งท่ภี าคธรุ กิจควรตระหนัก
ขอใหท้ า่ นมคี วามสขุ เดนิ ทางอยา่ งปลอดภยั ปฏบิ ตั ติ ามกฎจราจรอยา่ งเครง่ ครดั และทส่ี ำ� คญั ทสี่ ดุ
อย่าลืมเว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัย เพ่ือตัวท่านเองและผู้อ่ืนด้วยนะคะ ... 04 SPECIAL REPORT
สวสั ดปี ใี หม่ไทยค่ะ ⪢ แนวทางการปรบั ตัวของไทยและยุโรปภายใต้ BCG

กองบรรณาธกิ ารวารสาร สนค. ⪢ Circular Economy (เศรษฐกจิ หมนุ เวยี น)
ทางเลอื กของแฟชัน่ เพ่ือความยั่งยนื

08 ECONOMIC INDICATORS
10
ภาพรวมเศรษฐกจิ : มนี าคม 2564

INTERNATIONAL TRADE FOCUS

ภาวะการคา้ ระหวา่ งประเทศของไทย : กมุ ภาพันธ์ 2564

11 COMMODITIES & FX
สถานการณร์ าคาทองคำ� ราคาน�ำ้ มนั อัตราแลกเปล่ยี น
และราคาสนิ คา้ เกษตร : มีนาคม 2564

12 GLOBAL NEWS
สร้างโลกสวยด้วย Green Products

GETTING AROUND
WITH TPSO

ฉบบั ท่ี 117

สนค. มุ่งใส่ใจส่ิงแวดล้อม ควบคู่พัฒนาเศรษฐกิจการค้าและสังคม

สำ� นกั งานนโยบายและยทุ ธศาสตรก์ ารคา้ (สนค.) ใหค้ วามสำ� คญั
ในการจัดการด้านการลดและคัดแยกขยะมูลฝอย ปลูกฝังจิตส�ำนึก
จติ สาธารณะ ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และสรา้ งความร้คู วามเข้าใจ
ในการสร้างประโยชน์จากส่ิงของเหลือใช้ให้กับบุคลากร โดยเม่ือวันท่ี
29 มีนาคม ท่ีผ่านมา นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธ์ิ (ผอ.สนค.)
พร้อมเจ้าหน้าท่ีได้เดินทางไปมอบปฏิทินตั้งโต๊ะเก่า เพื่อจัดท�ำเป็น
สื่ออักษรเบรลล์ ส�ำหรับผู้พิการทางสายตา และมอบเงินบริจาคให้แก่
มลู นธิ ชิ ว่ ยคนตาบอดแหง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์ เพอ่ื สง่ มอบ
ความรกั รว่ มเปน็ กำ� ลงั ใจ และหยบิ ยนื่ โอกาสในการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ
ใหก้ บั เด็กนกั เรียนผ้พู กิ ารทางสายตา
นอกจากน้ี ในปี 2564 สนค. ยังมีแผนจัดกิจกรรมอ่ืน ๆ
ในการสร้างค่านิยมและปลูกจิตส�ำนึกที่ดี เช่น การเปิดรับบริจาค
ขวดพลาสติกใส (ขวด PET) เพ่ือแปรรูปเป็นผ้าบังสุกุลจีวรให้กับ
พระสงฆ์ ณ วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นต้น เพื่อบ่มเพาะ
ใหบ้ คุ ลากร สนค. เปน็ สว่ นส�ำคญั ในการขบั เคลื่อนเศรษฐกจิ การค้าและ
สงั คมไทยตอ่ ไป

บรรณาธิการ : ผ้อู ำ� นวยการสำ� นักงานนโยบายและยทุ ธศาสตรก์ ารคา้
ผู้จัดท�ำ : สำ� นกั งานนโยบายและยทุ ธศาสตรก์ ารคา้ กระทรวงพาณชิ ย์
563 ถนนนนทบุรี ตำ� บลบางกระสอ อ�ำเภอเมอื งนนทบุรี จังหวดั นนทบรุ ี 11000
โทรศัพท์ : 0 2507 7899 โทรสาร : 0 2547 5687, 0 2547 4167
2 TPSO Journal

S P ETCAILAKL

โดย นายณัฏฐวุฒิ วงั กานนท์
กองนโยบายระบบการค้า

สิ่งแวดลอ้ ม...เรื่องทภ่ี าคธรุ กจิ ควรตระหนกั

การเติบโตทางเศรษฐกิจการค้า เกิดจากการพัฒนาขีดความสามารถ
ในการผลติ ตลอดจนแปรผนั ตรงกบั ปรมิ าณการใชว้ ตั ถดุ บิ และการกอ่ ใหเ้ กดิ ขยะ
หรือมลพิษ หากเร่ืองเหล่าน้ีไม่ได้รับการบริหารจัดการท่ีดีย่อมส่งผลกระทบ
ทางลบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม

ประเด็นส่ิงแวดล้อมเป็นวาระระดับโลกท่ีทุกภาคส่วนต้องตระหนักรู้ โดยในปี พลเอกประยุทธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี
พ.ศ. 2558 ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) ได้ร่วมลงนาม เปน็ ประธานเปดิ งานและแสดงปาฐกถาพิเศษเร่ือง
รบั รอง “วาระการพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื พ.ศ. 2573” และไดก้ ำ� หนดเปา้ หมายเพอื่ การพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื
17 ขอ้ (17 Sustainable Development Goals: SDGs) ซึง่ การจดั การส่ิงแวดลอ้ มเป็น "BCG : โมเดลเศรษฐกิจส่กู ารพัฒนาท่ียั่งยนื ”
หน่ึงในประเด็นส�ำคัญ ประเทศไทยเองก็ได้มีความพยายามท่ีจะขับเคล่ือน SDGs โดยจัดต้ัง
คณะกรรมการเพ่ือการพัฒนาท่ีย่ังยืน โดยนายกรัฐมนตรีได้ประกาศให้เศรษฐกิจชีวภาพ รางวัลหุ้นยั่งยืน ประจ�ำปี 2563
(Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เศรษฐกิจสีเขียว Thailand Sustainability Investment (THSI) Award
(Green Economy) หรือ BCG Model เป็นวาระแห่งชาติโดยมีเป้าหมายส�ำคัญคือการ
สร้างความย่ังยืนต่อส่ิงแวดล้อม การสร้างความมั่นคงด้านอาหาร สุขภาพ พลังงาน และ
การยกระดับรายได้ประชากร ซ่ึงเล็งเห็นว่าไทยมีศักยภาพที่จะพัฒนาประเทศด้วยการ
เพิ่มมูลค่าจากการใช้นวัตกรรมและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ในกลุ่มอาหาร สุขภาพ
ทอ่ งเทย่ี ว และความหลากหลายทางชวี ภาพซงึ่ ภาคธรุ กจิ เอกชนอาจตอ้ งปรบั ตวั เชน่ การลงทนุ
ในดา้ นเทคโนโลยเี พ่ิมเตมิ หรือ การสรา้ งทกั ษะใหแ้ ก่พนักงาน
นอกเหนอื ไปจากการก�ำหนดเปน็ วาระแห่งชาตแิ ล้ว ประชาชนทั่วไปเองก็เริ่มเปลี่ยน
พฤติกรรมและหันมาให้ความสนใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น ผลการส�ำรวจ
ของบริษัท Nielsen ในปี พ.ศ. 2560 ท่ีพบว่าผู้บริโภคทั่วโลกมีการปรับพฤติกรรม
ในการเลือกซื้อสินค้า โดยให้ความส�ำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมมากข้ึน
นอกเหนือไปจากการค�ำนึงถึงราคาและความสะดวกในการซื้อสินค้า โดยเฉพาะอย่างย่ิง
ผู้บริโภคในกลุ่ม Millennial1 และ Gen Z รวมท้ัง ผู้บริโภคจากประเทศก�ำลังพัฒนา
มีความคาดหวังใหม้ กี ารรกั ษาส่งิ แวดล้อมมากกวา่ ผ้บู รโิ ภคจากประเทศพฒั นาแลว้
ในภาคการเงินการลงทุน นักลงทุนทั่วโลกก็สนใจที่จะเลือกลงทุนในบริษัทท่ีมี
การดำ� เนนิ ธรุ กจิ อยา่ งยง่ั ยนื ในดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม สงั คม และบรรษทั ภบิ าล (Environmental,
Social and Governance: ESG) ด้วย ซึ่งต้ังแต่ปี พ.ศ. 2558 ตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทย ได้มีการจัดท�ำรายช่ือหุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment
หรือ THSI) เพ่ือเป็นทางเลือกส�ำหรับนักลงทุนท่ีต้องการลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียน
ท่ีมคี วามโดดเด่นดา้ น ESG ที่ไดร้ ับการประเมินระดบั โดยสถาบันช้ันน�ำทัง้ ในและต่างประเทศ
รวมถึงมีการส่งเสรมิ การดำ� เนนิ ธุรกิจอยา่ งย่งั ยนื อกี ด้วย

1Millennial คอื ผู้ท่เี กดิ ระหวา่ งปี พ.ศ. 2524 - 2539 และ Gen Z คือผู้ท่เี กิดระหว่างปี พ.ศ. 2540 – 2555
ท่มี าขอ้ มลู : SDGs.un.org / Nielsen / ตลาดหลกั ทรัพย์แหง่ ประเทศไทย / สำ� นักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ชาติ

TPSO Journal 3

RS PEEPCOI RATL

โดย นางสาวศภุ นาถ ศิริพงศ์, นางสาวเตม็ ศิริ กฤษณะวณิช
กองนโยบายระบบการคา้

แนวทางการปรบั ตัวของไทยและยโุ รปภายใต้

BCG
การเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ การแพรร่ ะบาดของ
เชอื้ ไวรสั โควดิ -19 ปัญหามลพิษและส่ิงแวดลอ้ ม การสูญเสีย
ความหลากหลายทางชวี ภาพ รวมทง้ั วกิ ฤตเิ ศรษฐกจิ ลว้ นเปน็
ปจั จยั ทผี่ ลกั ดนั ใหป้ ระเทศตา่ ง ๆ ทวั่ โลกปรบั ตวั และมุ่งไปสู่การ
ใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่าสูงสุด เพ่ือรักษา
สมดุลของสิ่งแวดล้อม และพัฒนาเศรษฐกิจไปสู่ความมั่นคง
และยั่งยืน

ภาครัฐของนานาประเทศท่ัวโลก สำ� หรบั ประเทศเนเธอรแ์ ลนด์ กไ็ ดป้ ระกาศวา่ จะผลกั ดนั โครงการ
ตื่นตัวเรื่องน้ีเป็นอย่างมาก หลังจากท่ี เพอื่ ใหเ้ นเธอรแ์ ลนดก์ ลายเปน็ ประเทศเศรษฐกจิ หมนุ เวยี น 100% ภายในปี
องค์การสหประชาชาติ (United Nations: พ.ศ. 2593 (A circular economy in the Netherlands by 2050) โดย
UN) ไดป้ ระกาศเปา้ หมายการพัฒนาท่ีย่งั ยืน ก�ำหนดมาตรการและกลยุทธ์ที่จะด�ำเนนิ การเพอ่ื จัดการวตั ถุดิบ ผลิตภณั ฑ์
(Sustainable Development Goals: และบรกิ าร ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ เชน่ การนำ� วสั ดแุ ละทรพั ยากรรไี ซเคลิ
SDGs) เมื่อปี พ.ศ. 2558 สหภาพยุโรปได้ มาใช้ในธรุ กจิ ก่อสรา้ ง เปน็ ต้น ในส่วนของ ประเทศอติ าลี ตามรายงานของ
มงุ่ ขบั เคลอ่ื น SDGs โดยการนำ� เสนอขอ้ ตกลง Circular Economy Network 2020 ซงึ่ ดำ� เนนิ การโดยมลู นธิ อิ ติ าลเี พอื่ การ
ยุโรปสีเขียว (European Green Deal) พัฒนาที่ย่ังยืนระบุว่า ในปี 2563 อิตาลีมีการใช้งบประมาณจ�ำนวนมาก
ในปี พ.ศ. 2562 ไปกำ� หนดเปน็ แผนงานทจ่ี ะ ควบคู่ไปกับการออกมาตรการต่าง ๆ สอดคล้องกับข้อตกลงสีเขียว
เปลี่ยนแปลงให้ระบบเศรษฐกิจของสหภาพ เช่น การจัดตั้งกองทุนการลงทุนสาธารณะเพ่ือส่งเสริมโครงการนวัตกรรม
ยุโรปมีความทันสมัย เพ่ิมประสิทธิภาพ ดา้ นความยงั่ ยนื เศรษฐกจิ หมนุ เวยี น การทอ่ งเทย่ี วอยา่ งยง่ั ยนื การลดคารบ์ อน
ในการใชท้ รพั ยากร และเพมิ่ ขดี ความสามารถ และการลดการเปล่ยี นแปลงสภาพภมู ิอากาศ เปน็ ต้น
ทางการแข่งขัน โดยข้อตกลงสีเขยี ว (Green ในส่วนของประเทศไทยก็ได้มีการประกาศแผนยุทธศาสตร์การ
Deal) ครอบคลุมแผนปฏิบัติการเศรษฐกิจ ขับเคล่ือนประเทศไทยด้วย BCG Model พ.ศ. 2564-2569
หมุนเวียนฉบับใหม่ (Circular Economy ซ่ึงมีจุดเร่ิมต้นจากการท่ีกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ
Action Plan) ท่ีก�ำหนดมาตรการเพ่ือให้ นวตั กรรม (อว.) เลง็ เหน็ ปัญหาการพฒั นาเศรษฐกจิ ในอดตี ของไทยวา่ มีการ
ภาคธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ และผู้บริโภค ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรไม่เต็มประสิทธิภาพ และ “ท�ำมากได้น้อย”
ย อ ม รั บ แ ล ะ ป รั บ ตั ว เ ข ้ า สู ่ แ น ว คิ ด เ พื่ อ จงึ มแี นวคดิ ทจ่ี ะเปลยี่ นรปู แบบการพฒั นาประเทศใหเ้ ปน็ “ทำ� นอ้ ยไดม้ าก”
ความยั่งยืนมากขึ้น โดยประยกุ ต์ใชค้ วามรู้ เทคโนโลยี และนวตั กรรมอย่างชาญฉลาด

4 TPSO Journal

BCG Model ของประเทศไทยจะพัฒนาเศรษฐกิจ 3 มติ ไิ ปพร้อมกนั ไดแ้ ก่

SUN B Bio Economy
VILLAGE เศรษฐกิจชวี ภาพ
เนน้ ใช้ทรัพยากรชีวภาพเพือ่ สร้างมูลค่าเพ่มิ
ECOLOGY โดยพัฒนาเปน็ ผลติ ภัณฑม์ ูลคา่ สูง
CITY
C Circular Economy
G Green Economy เศรษฐกจิ หมุนเวียน
เศรษฐกจิ สีเขยี ว ค�ำนงึ ถงึ การนำ� วัสดุต่าง ๆ
เนน้ การพัฒนาเศรษฐกิจควบค่ไู ปกบั กลับมาใช้อยา่ งคุ้มค่า
การพัฒนาสังคมและการรักษาสงิ่ แวดลอ้ ม และเกิดประโยชน์สงู สดุ
อยา่ งสมดุลใหเ้ กิดความมน่ั คงและยัง่ ยืน
ทง้ั เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) และ
เศรษฐกจิ หมุนเวียน (Circular Economy)
อยภู่ ายใต้เศรษฐกิจสเี ขยี ว (Green Economy)

ท่มี าขอ้ มลู : สวทช.

เมอื่ เปรยี บเทยี บกบั ประเทศอนื่ ๆ ประเทศไทยถอื วา่ มจี ดุ แขง็ ในดา้ นความมน่ั คงทางดา้ นอาหาร ความมน่ั คงดา้ นสขุ ภาพ
ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ย่ี งั มคี วามหลากหลายและสมบรู ณ์ ตลอดจนความหลากหลายทางวฒั นธรรม ทำ� ใหไ้ ทยมศี กั ยภาพในดา้ นการ
ผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารทมี่ คี ณุ ภาพ ปลอดภยั ไดม้ าตรฐานระดบั สากล และมโี อกาสทจ่ี ะเชอ่ื มโยงเขา้ สตู่ ลาดโลกไดห้ ลากหลาย อาทิ

การเป็นครวั โลกทส่ี ะอาด การเพ่ิมมูลคา่ ดว้ ย การเป็นแหลง่ พ�ำนัก การเปน็ สังคมทีย่ อมรับ
ถกู สุขลักษณะ ปลอดภัยได้ นวตั กรรมและความคดิ ที่สร้างความสุข ความตา่ งและการพัฒนา

มาตรฐานโลก สร้างสรรค์ ท่ีย่งั ยืน

อยา่ งไรกด็ ี การสรา้ งสมดลุ ระหวา่ งการพฒั นาเศรษฐกจิ กบั การรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ มไมใ่ ชเ่ รอื่ งทป่ี ระเทศใดประเทศหนง่ึ หรอื
ภาคส่วนใดภาคส่วนหน่ึงจะจัดการได้เพียงล�ำพัง หากแต่ต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ท้ังภาครัฐ ผู้ประกอบการ
นกั ลงทุน และประชาชนในทกุ ๆ ประเทศทัว่ โลก เพ่อื ใหโ้ ลกมกี ารพฒั นาทางเศรษฐกิจท่ยี งั่ ยืนและรักษาสมดลุ ของสิง่ แวดลอ้ ม
ไปพรอ้ ม ๆ กัน

ท่มี าข้อมลู : construcia.com / ส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ / ส�ำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภมู ิสารสนเทศ (องคก์ ารมหาชน) / ไทยโพสต์ / สวทช.

TPSO Journal 5

RS PEEPCOI RATL

โดย : นางสาวชมพูนุท บูรพา
กองนโยบายระบบการค้า

CE CI ROCNUOL MA RY
เศรษฐกิจหมุนเวียน

ท า ง เ ลื อ ก ข อ ง แ ฟ ช่ั น

เพื่อ

ความย่งั ยืน

การใชช้ วี ติ ในปจั จบุ นั มกี จิ กรรมจำ� นวนมากทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม ซงึ่ หลายคนอาจจะนกึ ภาพถงึ
มลพษิ ทมี่ าจากกระบวนการผลติ สนิ คา้ และบรกิ าร หรอื มลพษิ จากการคมนาคม แตร่ หู้ รอื ไมว่ า่ ในความเปน็ จรงิ แลว้
“เสื้อผ้า” ที่เราสวมใส่ กเ็ ป็นส่งิ ท่ีสรา้ งผลกระทบทางสงิ่ แวดล้อมอย่างคาดไมถ่ งึ เช่นกนั

“เสื้อผา้ ” ได้สร้างความเสียหายกับสิ่งแวดล้อมเพ่มิ มากขึ้นเรอื่ ย ๆ
ตามการเติบโตของธรุ กิจแฟช่นั โดยเฉพาะกระแส Fast Fashion ซึ่งเปน็
เทรนดเ์ สอ้ื ผา้ ทเี่ ปลยี่ นแปลงรวดเรว็ และผปู้ ระกอบการตอ้ งผลติ สนิ คา้ ออกมา
ให้ทันความต้องการ เพ่ือให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความทันสมัยและซ้ือบ่อยขึ้น
ตวั อยา่ งเชน่ แบรนด์ Zara และ H&M ทอ่ี อกคอลเลคชนั่ เสอ้ื ผา้ ใหม่ 12-24 ครงั้
ตอ่ ปี นอกจากนก้ี ารทผี่ ผู้ ลติ พยายามลดตน้ ทนุ เพอ่ื ใหส้ ามารถจำ� หนา่ ยสนิ คา้
ได้ในราคาที่ย่อมเยา ท�ำให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย กลับท�ำให้
สนิ คา้ คณุ ภาพดอ้ ยลง ใชง้ านไดไ้ มน่ าน และใชซ้ ำ�้ ไดน้ อ้ ยครง้ั เสอื้ ผา้ ปรมิ าณ
มหาศาลจึงต้องกลายเป็นขยะในท่ีสุด โดยแต่ละปีจะพบว่ามีเสื้อผ้าและ
ส่ิงทอกว่าร้อยละ 85 ถูกทิ้ง และมีเพียง ร้อยละ 15 ท่ีได้รับการรีไซเคิล
หรอื น�ำไปบริจาค

ผลกระทบของอุตสาหกรรมแฟชัน่ ตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม

อุตสาหกรรมแฟชัน่ 1 อตุ สาหกรรมแฟชน่ั เปน็ อตุ สาหกรรมทก่ี อ่ มลพษิ มากเปน็ อนั ดบั 2
ก่อมลพิษมากเป็น ของโลกรองจากอตุ สาหกรรมนำ�้ มนั และไดส้ รา้ งกา๊ ซเรอื นกระจกกวา่
อนั ดับ รอ้ ยละ 10 ซ่งึ มากกว่าปรมิ าณกา๊ ซเรือนกระจกที่เกิดจากการบิน
และการขนสง่ ทางเรือรวมกนั
2

ของโลก

6 TPSO Journal

2 อุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้น�้ำมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก 1 ตวั ใช้นำ้� 2000
โดยไดม้ กี ารเปรยี บเทยี บวา่ การผลติ กางเกงยนี ส์ 1 ตวั ตอ้ งใชน้ ำ�้ 2,000 แกลลอน
ซ่ึงเป็นปริมาณที่เพียงพอส�ำหรับหนึ่งคนด่ืมน�้ำวันละ 8 แก้ว นาน 10 ปี = แกลอน
เพราะการท�ำไร่ฝ้ายซ่ึงเป็นวัตถุดิบส�ำคัญในการผลิตสิ่งทอและเสื้อผ้า หรือ
ต้องใช้น้�ำในการเพาะปลูกค่อนข้างมาก โดยเฉลี่ยฝ้าย 1 กิโลกรัมต้องใช้น�้ำ 9,092.18
2,000 ลิตรในการผลิต รวมไปถึงกระบวนการย้อมด้ายและส่ิงทอ ท่ีใช้น�้ำ ลิตร
จ�ำนวนเทียบเท่ากับปริมาณน้�ำท่ีเติมในสระว่ายน�้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิก
จำ� นวน 2 ล้านสระต่อปี

ไมโครไฟเบอร์กว่า 3 อุตสาหกรรมแฟชั่นยังสร้างน�้ำเสียกว่าร้อยละ 20 ของน้�ำเสียจาก
5 แสนตันไหลลงสู่มหาสมุทร อุตสาหกรรมท่ัวโลก จากการย้อมการฟอก และสารเคมีจากการ
ท�ำไร่ฝ้าย อีกท้ังยังท�ำให้มีไมโครไฟเบอร์กว่า 5 แสนตันไหลลงสู่
มหาสมุทรทุกปี เทียบเท่ากับจ�ำนวนขวดพลาสติก 5 ล้านขวด
ซึ่งคาดวา่ ก่อใหเ้ กิดมลพิษพลาสตกิ ในมหาสมุทรไดถ้ ึงร้อยละ 31

แนวคิด Circular Economy กบั อุตสาหกรรมแฟชัน่
เพื่อไม่ให้เส้ือผ้าท่ีเราสวมใส่กลายเป็นส่วนหนึ่งของการท�ำลายสิ่งแวดล้อม
ผู้ประกอบการส่วนหน่ึงจึงเร่ิมน�ำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
มาใช้ในอุตสาหกรรมแฟช่ัน โดยอุตสาหกรรมแฟช่ันได้น�ำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน
มาจดั การทรัพยากรโดยการน�ำเอาของทใี่ ช้แลว้ เวยี นกลับมาเป็นวตั ถดุ บิ (Re-material)
หรือท�ำผลิตภัณฑ์ขึ้นมาใหม่ (Make Use Return) เพ่ือเป็นการลดการใช้ทรัพยากร
ทก่ี ำ� ลังหมดไป และไมต่ ้องก�ำจัดขยะท่กี �ำลงั เป็นปญั หาดา้ นสง่ิ แวดล้อมทที่ วคี วามรนุ แรง
มากขึ้น อาทิ การผลิตเส้ือผ้าจากวัสดุท่ีปลอดภัยและสามารถน�ำกลับมาใช้ใหม่ได้
การเพ่ิมระยะเวลาใช้งานเส้ือผ้า รวมท้ังการน�ำเส้ือผ้าเก่ามาผลิตเป็นเส้ือผ้าใหม่
เกดิ การหมุนเวียนเปน็ วงจรต่อเนอื่ ง เพื่อให้เกิดการใชป้ ระโยชนท์ รัพยากรได้อยา่ งสูงสดุ

ผลิตภัณฑ์ส่ิงทอของไทยภายใต้แนวคดิ Circular Economy
ผู้ประกอบการได้ตระหนักถึงความส�ำคัญของส่ิงแวดล้อม โดยได้เร่ิมน�ำแนวคิด
เศรษฐกจิ หมุนเวยี น (Circular Economy) มาปรับใช้ผลติ ภณั ฑ์สิ่งทอ เชน่ “ฮักคราม”
เปน็ แบรนดเ์ สอื้ ผา้ ทอมอื ยอ้ มครามสธี รรมชาตจิ ากจงั หวดั สกลนคร ทไ่ี ดเ้ ปลยี่ นขยะใหเ้ ปน็
วตั ถดุ บิ ตง้ั ตน้ ใหม่ ไดน้ ำ� ผา้ เศษทเ่ี หลอื จากการตดั เยบ็ และทอ นำ� มาแยก เรยี งสี แลว้ นำ� ไป
ทอใหม่ เพ่ือให้เกิดรูปแบบที่แตกต่างออกไป ผ้าท่ีได้นี้ไม่ต้องผ่านกระบวนการย้อมสีอีก
ทำ� ใหล้ ดการใชน้ ำ้� และพลงั งาน ลดผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม และไดน้ ำ� ไปออกแบบตดั เยบ็
เป็นผลติ ภัณฑ์เส้ือผา้ กระเป๋า และอ่นื ๆ เป็นการสรา้ งมลู คา่ เพ่ิมได้อยา่ งมาก

ในส่วนของผู้บริโภคเองก็สามารถช่วยลดผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมจากการอุปโภคสินค้าในอุตสาหกรรมแฟชั่นได้ด้วยการ
ยืดระยะเวลาการใช้เส้ือผ้าให้นานขึ้น เลือกสินค้าที่มีคุณภาพหรือเลือกใช้เสื้อผ้าจากระบวนการผลิตท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
บรจิ าคเสอื้ ผ้า และแยกขยะเส้อื ผา้ /สงิ่ ทอเม่อื ตอ้ งการท้ิง เพ่อื ใหส้ ามารถนำ� ไปรีไซเคิลกลายเป็นเส้ือผา้ ใหม่หรอื สินค้าประเภทอื่นได้

ทีม่ าขอ้ มลู : Year Zero Circular Fashion Report 2020 by lablaco 2020 / weforum.org / patagonia.com / sustainyourstyle.org / mmthailand.com 7

TPSO Journal

economic เภดาพือรนวมมเศีนราษฐคกมจิ 2564

indicators

โดย กองดชั นเี ศรษฐกจิ การคา้

ภาพรวม
เครอ่ื งชี้วัดเศรษฐกิจท่สี ำ�คญั เดือน มีนาคม 2564 สถานการณเ์ ศรษฐกจิ ของประเทศเรมิ่ ปรบั ตวั ดขี น้ึ สะทอ้ นไดจ้ ากเครอ่ื ง
ชี้วัดเศรษฐกิจท่ีส�ำคัญของประเทศมีสัญญาณฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
%MoM %YoY %AoA ตอ่ เนอื่ งจากเดอื นทผี่ า่ นมา สง่ ผลใหเ้ งนิ เฟอ้ ในเดอื นนห้ี ดตวั นอ้ ยลง ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั
อปุ สงคท์ งั้ ในและตา่ งประเทศทเี่ รม่ิ ปรบั ตวั ดขี น้ึ ตามสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาด
ดัชนรี าคาผบู้ รโิ ภคท่วั ไป Headline CPI 0.23 -0.08 -0.53 ของโควดิ -19 โดยดา้ นอปุ สงค์ สะทอ้ นไดจ้ ากรายไดเ้ กษตรกร ทยี่ งั คงขยายตวั ไดด้ ี
ตามราคาสนิ คา้ เกษตร รวมทง้ั ดชั นอี ปุ โภคบรโิ ภคภาคเอกชนยอดจำ� หนา่ ยรถยนต์
เงินเฟอ้ พ้นื ฐาน Core CPI 0.03 0.09 0.12 เชงิ พาณชิ ยแ์ ละรถจกั รยานยนตท์ ปี่ รบั ตวั ดขี นึ้ และยอดการจดั เกบ็ ภาษธี รุ กรรม
อสงั หารมิ ทรพั ย์ กลบั มาขยายตวั ไดอ้ กี ครงั้ ขณะทดี่ า้ นอปุ ทานปรบั ตวั ดขี น้ึ จาก
ดชั นรี าคาผผู้ ลติ PPI 1.2 2.6 0.6 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม และอัตราการใช้ก�ำลังการผลิตท่ียังอยู่ในระดับดี
รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต ที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนท่ี 2 ซ่ึงสัญญาณเหล่าน้ี
ดชั นีราคาวัสดกุ อ่ สร้าง CMI 0.5 5.4 4.4 สะท้อนสถานการณ์เศรษฐกิจที่เร่ิมปรับตัวดีข้ึน และจะส่งผลต่อสถานการณ์
ดา้ นราคาสนิ คา้ และบรกิ ารในระยะตอ่ ไป

ดชั นรี าคาผู้บรโิ ภค เดอื นมนี าคม 2564 ลดลงรอ้ ยละ 0.08 (YoY)

สดั สว นน้ำหนกั ยาสบู และเคร่อื งด่ืม ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อท่ัวไป) เดือนมีนาคม 2564 หดตัวน้อยลง สอดคล้องกับ
มแี อลกอฮอล สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คลี่คลายลง และเคร่ืองชี้วัดทางเศรษฐกิจต่าง ๆ
จำแนกรายหมวด เรมิ่ มสี ญั ญาณฟน้ื ตวั เงนิ เฟอ้ ในเดอื นน้ี เมอ่ื เทยี บกบั เดอื นเดยี วกนั ของปกี อ่ น ลดลงรอ้ ยละ 0.08 (YoY)
1.41 % หดตวั นอ้ ยทสี่ ดุ ในรอบ 13 เดอื น โดยมสี าเหตสุ ำ� คญั จากสนิ คา้ ในกลมุ่ พลงั งานทก่ี ลบั มาเปน็ บวกอกี ครง้ั
การบันเทิง การอาน ในรอบ 14 เดอื น โดยสูงขน้ึ ร้อยละ 1.35 ตามราคาขายปลกี น้�ำมนั เชือ้ เพลงิ ในประเทศท่ปี รับสงู ขนึ้
การศกึ ษา อาหารและเคร่อื งดืม่ ตามราคาในตลาดโลก รวมทั้งน�้ำมันพืชและเน้ือสุกร ที่ยังมีราคาสูง โดยเนื้อสุกรปรับสูงข้ึน
สว นน้ำหนกั 4.54 % ไมม ีแอลกอฮอล ตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับมีต้นทุนในการป้องกันโรคอหิวาต์
กรายหมวด ยาสูบและเครื่องด่มื แอฟริกาเพ่มิ ข้ึน ขณะท่กี ลุ่มอาหารสด ยังหดตัวต่อเนื่องจากเดอื นทผ่ี า่ นมา โดยลดลงร้อยละ 1.06
มแี อลกอฮอล 40.92 % ตามการลดลงของ ข้าวสาร ไกส่ ด ไขไ่ ก่ และผักสด รวมทัง้ คา่ ไฟฟ้าและคา่ น�้ำประปา ปรบั ลดลง
การบนั เทงิ การอา น ตามมาตรการลดภาระคา่ ใชจ้ า่ ยของภาครฐั ซง่ึ จะสน้ิ สดุ ในเดอื นมนี าคมน้ี สำ� หรบั สนิ คา้ ในหมวดอน่ื ๆ
การศึกษา 1.41 % ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ สอดคล้องกบั ปริมาณผลผลติ สนิ คา้ การจัดโปรโมช่นั และอุปสงค์

4.54 % พาหนะ การขนสง

และการส่ือสาร

22.93 %

พาหนะ การขนสง อาหารและเครอ่ื งดมื่ ทเ่ี กดิ จากมาตรการกระตนุ้ เศรษฐกจิ ของภาครฐั เมอ่ื หกั อาหารสดและพลงั งานออกแลว้ เงนิ เฟอ้ พนื้ ฐาน
ไมมแี อลกอฮอล
และการสื่อสาร ขยายตัวท่ีร้อยละ 0.09 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2564 สูงข้ึนร้อยละ 0.23 (MoM)
40.92 %
22.ก9า3รต%รวจรกั ษา ไตรมาสที่ 1 ปี 2564 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 0.53 (YoY) และ
เคหสถาน เครอ่ื งนุงหมและรองเทา เม่อื เทยี บกับไตรมาสก่อนหน้า ลดลงร้อยละ 0.35 (QoQ)
และบริการสว นบุคคล
22.22 % 2.25 % อตั ราการเปลยี่ นแปลง 5.43
าร4รวสจ%ว รนักบษุคาคล5.742%เ2คห.2สถ2าน%
เครื่องนุงหม และรองเทา จำ�แนกรายหมวด 0.02 0.01 YoY MoM 1.10
0.00
2.25 % -0.26 -0.08 -0.30 -0.03 5.43 -0.04

0.02 0.01 -4.87 1.10 0.06 0.01

-0.26 -0.08 -0.30 -0.03 -0.04 -0.01

-4.87

อาหาร เครรอื่องงนเทงุ าหมเคอราอื่ หงาดรม่ื ท่อี ยอู าศยั เครื่องนยงุ าหขอม งใช ท่อี ยพอู าหานศะัย กายราศึกขษอางใช บสุหรุ ารเ่ี ชพอ้ื าเหพนละงิ
เครื่องดื่ม รองเสทว านบุคคล สบันว เนทบงิ ุคคล
YoY -0.26 เช้อื เพลงิ
MoM -0.08 YoY -0Y.3o0Y -Y0o.2Y6 -4.87 YoY Yo-Y0.3-00.04 YoYYoY -0.0-10.04 YoY Yo0Y.01 5.43
MoM -M0.0o3M -M0o.0M8 0.02MoMMoM-0.030.01 YoYYoY -45..4837 MMoMoM 0.060.01 MoM Mo0.M00 1.10
MMoMoM 01..0102

แนวโนม้ เงนิ เฟอ้ ไตรมาสท่ี 2 ปี 2564

แนวโน้มเงินเฟ้อ ไตรมาสท่ี 2 ปี 2564 มีแนวโน้มปรับตัวดีข้ึน จากอุปสงค์ท้ังในและต่างประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นตามสถานการณ์
การแพรร่ ะบาดของโควดิ -19 ทีม่ ีแนวโนม้ คลค่ี ลายลง การฉีดวคั ซนี ท่ขี ยายวงกวา้ งมากขนึ้ รวมถงึ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกจิ ของภาครัฐในมติ ติ า่ ง ๆ ทั้งด้านการท่องเทย่ี ว
โดยก�ำหนดให้มีวันหยุดเพ่ิมเติม การเพิ่มก�ำลังซื้อและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ซ่ึงจะส่งผลต่อความต้องการบริโภคสินค้าและบริการภายในประเทศในระยะต่อไป
นอกจากนี้ ราคาพลงั งานโลกทมี่ แี นวโนม้ สงู ขน้ึ จากการขยายเวลาปรบั ลดกำ� ลงั การผลติ ของผผู้ ลติ นำ�้ มนั รายใหญ่ และอปุ สงคด์ า้ นพลงั งานทเ่ี พม่ิ ขน้ึ ทวั่ โลกตามสถานการณเ์ ศรษฐกจิ
ทเ่ี รมิ่ สง่ สญั ญาณฟน้ื ตวั อยา่ งคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไป ประกอบกบั ฐานราคาทตี่ ำ�่ ในชว่ งปที ผ่ี า่ นมา อยา่ งไรกต็ าม ราคาสนิ คา้ เกษตร ยงั มโี อกาสผนั ผวนตามสภาพอากาศ ซงึ่ จะตอ้ งเฝา้ ระวงั
อย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งน้ี ในเดือนมีนาคม 2564 กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับสมมุติฐานส�ำหรับคาดการณ์เงินเฟ้อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันและแนวโน้ม
ในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในปี 2564 จะยังคงเคล่ือนไหวในกรอบร้อยละ 0.7-1.7 (ค่ากลางอยู่ท่ี 1.2) ซึ่งเป็นอัตราท่ีน่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัว
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและตอ่ เนื่อง หากสถานการณเ์ ปล่ยี นแปลงอย่างมีนัยส�ำคญั จะมกี ารทบทวนอกี ครัง้
8 TPSO Journal

ดชั นีราคาผผู้ ลติ เดอื นมนี าคม 2564 สงู ขน้ึ ร้อยละ 2.6 (YoY)
สดั สว นนำ้ หนกัสัดสว นนำ้ หนกั
แบงตามกิจกรรมการผลิต แบงตามขัน้ ตอนการผลติ
P(CroPAdu:cCtsแlaบbsysงifAตiccaาtitvมioitnกy)oิจfกรรมก(SาOรPผ: Sลtaิตge of Procesแsiบngง)ตามข
จำแนกรายหมวด ผลิตภณั ฑ
จากเหมือง
ดชั นีราคาผ้ผู ลิต เดอื นมนี าคม 2564 เม่ือเทียบกับเดือนเดยี วกันปีก่อน สงู ขึน้ จำแนกรายหมวด (CPA : Classification of (SOP : St
รอ้ ยละ 2.6 (YoY) ขยายตวั ตอ่ เนอื่ งเปน็ เดอื นท่ี 2 สอดคลอ้ งกบั ดชั นผี ลผลติ อตุ สาหกรรม เกผษตลผรกลริตจผรมาลก2ติ เ.ห9ภ7มัณ%ือฑง Products by Activity)
ท่ีปรับตัวดีขึ้น และอัตราการใช้ก�ำลังการผลิตท่ียังอยู่ในระดับดี โดยหมวดผลิตภัณฑ์
11.52% 2.97% ผลผลติ สินคา
ผลผลติ เกษตรกรรม สำเร็จรูป
เกษตรกรรมและการประมง สงู ขน้ึ รอ้ ยละ 8.1 ยงั คงขยายตวั ไดด้ จี ากความตอ้ งการของ เกษตรกรรม
ตลาดที่สูงข้ึน และบางสินค้าปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ตามการสูงขึ้นของ YoY 8.1 YoY 1.0
ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ได้แก่ กลุ่มพืชล้มลุก (ถ่ัวเขียว ถ่ัวเหลือง ข้าวเปลือก 11.52% MoM 4.0 MoM 0.7

ผลติ ภณั ฑ ผลผลิต ส
อตุ สาหกรรม เกษตรกรรม Y
M
เจ้าหอมมะลิ พืชผัก) กลุ่มไม้ผล (องุ่น ล�ำไย กล้วยหอม) กลุ่มไม้ยืนต้น (ยางพารา 85.51% ผลิตภณั Yฑo Y 8.1 สนิ คา กงึ่
จากเหมMืองoM 4.0 สำเร็จรปู
ผลปาล์มสด) กลุ่มสตั ว์ (สกุ รมีชวี ติ ไข่ไก่ ไขเ่ ปด็ ) ผลติ ภัณฑจ์ ากการประมง (ปลาทูสด
ปลาทรายแดง ปลาสกี นุ ) หมวดผลิตภัณฑอ์ ตุ สาหกรรม สงู ข้นึ รอ้ ยละ 2.5 ปรบั สงู ข้นึ YoY -11.8 YoY 4.8
ตามราคาวตั ถดุ บิ และตน้ ทนุ ไดแ้ ก่ กลมุ่ ผลติ ภณั ฑท์ ไ่ี ดจ้ ากการกลน่ั ปโิ ตรเลยี ม (นำ้� มนั ดเี ซล ผลติ ภัณฑ MoM 3.5 MoM 1.6

อุตสาหกรรม

น้�ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 95 น�้ำมันเตา) กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี (เม็ดพลาสติก 85.51%
ปุ๋ยเคมีผสม) กลุ่มโลหะขัน้ มูลฐาน (เหลก็ แผ่น เหลก็ เสน้ เหล็กฉาก) กลมุ่ ผลติ ภณั ฑโ์ ลหะ
ประดิษฐ์ (ตะแกรงเหล็กส�ำเร็จรูป ตะปู/สกรู/น็อต) กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร (เนื้อสุกร อYผตุ oลสYิตาหภกณั 2จรผ.ฑร5ามล กิตเหภมัณือฑง สนิ คา ส
กงุ้ แชแ่ ขง็ นำ�้ มนั ปาลม์ ) กลมุ่ ผลติ ภณั ฑย์ างและพลาสตกิ (ยางแผน่ รมควนั ยางแทง่ ถงุ มอื ยาง) วตั ถุดบิ ส
กลุ่มกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ (เยื่อกระดาษ กระดาษแข็ง) กลุ่มยานยนต์ YoY 3.3 Y
MoM 0Y.8oY -11.8MoM 3.0 M
ดัชนรี าคาผผู้ ลิต เมอ่ื เทียบกับเดอื นกมุ ภาพันธM์ o2M564 ส3งู .5ขนึ้ รอ้ ยละ
ช้ินสว่ นและอุปกรณ์ (รถยนต์นง่ั รถบรรทกุ ขนาดเลก็ ) กลมุ่ ผลติ ภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรมอน่ื ๆ 1.2 (MoM) ไตรมาสท่ี 1 ปี 2564 เทียบกับไตรมาสเดียวกนั ของปกี อ่ น สูงข้ึน
(ทองคำ� ) และกลมุ่ ไมแ้ ละผลติ ภณั ฑจ์ ากไม้ ขณะทหี่ มวดผลติ ภณั ฑจ์ ากเหมอื ง มที ศิ ทาง รอ้ ยละ 0.6 (YoY) และเมอ่ื เทยี บกบั ไตรมาสกอ่ นหนา้ ขยายตวั รอ้ ยละ 1.5
ทีป่ รบั ตัวดีขึน้ โดยหดตัวนอ้ ยลงท่รี อ้ ยละ 11.8 (นำ�้ มนั ปโิ ตรเลยี มดบิ ก๊าซธรรมชาติ) (QoQ)
ผลิตภัณฑ
อตุ สาหกรรม
ดชั นีราคาวสั ดุกอ่ สรา้ ง เดือนมนี าคม 2564 สงู ขนึ้ ร้อยละ 5.4MYoo(YMYoY02)..85
Y
M

ดชั นรี าคาวสั ดกุ อ่ สรา้ ง เดอื นมนี าคม 2564 เมอ่ื เทยี บกบั สัดสวนน้ำหนัก ไมและ อตั ราการเปล่ียนแปลง
เดือนเดียวกันปีก่อน สูงข้ึนร้อยละ 5.4 (YoY) สูงขึ้นต่อเน่ือง สัดสวนนำ้ หนกัจำแนกรายหมวด ผลติ ภณั ฑไ ม จำ�แนกรายหมวด
เป็นเดือนท่ี 6 ปรับตัวสูงขึ้นเกือบทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะ
หมวดเหลก็ และผลิตภัณฑ์เหล็ก ท่ีปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเน่ือง จำแนกรายหมวด 7ไม.0แล4ะ %
ทรี่ อ้ ยละ 23.7 จากรอ้ ยละ21.0ในเดอื นกอ่ นหนา้ ตามราคาตลาดโลก
สำ� หรบั สนิ คา้ ที่ปรับราคาสูงขึ้นตามวัตถุดิบ ต้นทุนการผลิต และ ผลติ ภณั ฑไ ม
ความต้องการของตลาด ไดแ้ ก่ หมวดอปุ กรณไ์ ฟฟา้ และประปา
สงู ขนึ้ รอ้ ยละ 2.4 หมวดไมแ้ ละผลิตภัณฑไ์ ม้ สงู ข้นึ ร้อยละ 2.0 วัสดกุ อสราง 7.04% ไมแ ละ ผลิตภัณฑ เหลก็ และ
หมวดวัสดุก่อสร้างอน่ื ๆ สูงขน้ึ รอ้ ยละ 1.6 หมวดผลิตภณั ฑ์ ผYลoิตไมYผMภYแลณั ลooิต2ะฑMYภ.ไ 0มณั  20ฑ..ไ00ม
คอนกรตี สงู ขน้ึ รอ้ ยละ 0.4 ปรับตัวสูงขึน้ เปน็ เดือนแรก หลงั จาก อ่นื ๆ ซีเมนต MoM 0.0 ซีเมนต YผคoลอYติ นภกณั ร0ตี ฑMY.4 คooอYMนกร00ีตผ..ล54YติเoหภYลัณ็กแฑ2ลเ3หะ.ผล7็กMลYติ ooภYMัณฑ2เ03ห..ล87็ก
ทล่ี ดลงตอ่ เนอื่ งตง้ั แตเ่ ดอื นมกราคม 2563 หมวดกระเบอื้ ง สงู ขนึ้ ซีเมนตY oY -2.0 MoM 0.5
17.10%วัสดกุ อ สรา ง 1ซ1ีเม.น9ต 2% YoY M-2o.0M 0.0
อนื่ ๆ 11.92% MoM 0.0 MoM 0.8

อุปกรณไ ฟฟ1า7.10% ผลิตภัณฑคอนกรตี
12.48%แอลปุ ะกปรรณะปไฟา ฟา
15.68%ผลติ ภัณฑค อนกรีต
และประปา เหล็กและ 15.68%

12.48%

สุขภณั ฑ ผลติเหภลณัก็ แฑลเะหล็ก
2.02สุข0.ภ0ณั %0ฑ%
ว3สั .ด4ว3ุฉสั า.7ด4บฉุ ผ%า7บวิ ผ%6กิวร6ก.ะ7เรบ.ะ7เื้อ2บงอ้ื2%ง% ผ22ล33ิตภ..ัณ55ฑ99เ ห%ล%ก็ กระเกบร้อื ะงเบ้ือง วสั ดฉุ าวบสั ผดวิ ุฉาบผิว สขุ ภัณฑ สขุ ภณั ฑอ ุปแกลระปณรไะฟปาฟอาุปแกลระปณรไวะฟปัสาดฟอุกาื่นอ ๆสราง วัสดุกอสร
อนื่ ๆ

MYooMMYYooMY00..30 0.3 MYooMY MY-00oo..MY01 -0.1 YoY 00MY..00ooMY 00M..Y00ooMY 20..74MYooMY MY02oo..47MY 1.6 YoY 1
0.0 0.0 MoM 0.7 MoM 0

รอ้ ยละ 0.3 ขณะที่หมวดซีเมนต์ ลดลงร้อยละ 2.0 หมวดวัสดุ ดชั นรี าคาวสั ดกุ อ่ สรา้ ง เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2564 สูงข้ึนร้อยละ 0.5 (MoM)
ฉาบผิว ลดลงร้อยละ 0.1 ส่วนหมวดสุขภัณฑ์ ดัชนีราคา ไตรมาสท่ี 1 ปี 2564 เทยี บกบั ไตรมาสเดยี วกนั ของปกี อ่ น สงู ขนึ้ รอ้ ยละ 4.4 (YoY) และเมอื่ เทยี บกบั
โดยเฉลี่ยไมเ่ ปลี่ยนแปลง ไตรมาสก่อนหน้า สงู ขน้ึ รอ้ ยละ 4.2 (QoQ)

ดัชนีความเชือ่ มนั่ ผู้บริโภคโดยรวม เดอื นมนี าคม 2564 เทา่ กบั 47.5 (YoY)

ดชั นคี วามเชอ่ื มน่ั ผบู้ รโิ ภคโดยรวม เดอื นมนี าคม 2564 ปรบั ตวั เพม่ิ ขน้ึ ตอ่ เนอื่ ง 4ภา5คเห.น8อื อัตราการเปล่ียนแปลง
ติดต่อกันเป็นเดือนท่ีสองมาอยู่ที่ระดับ 47.5 เทียบกับระดับ 45.5 ในเดือนก่อนหน้า 4ภาค5กล.3าง จำ�แนกรายอาชพี
เป็นการปรบั ตวั เพมิ่ ขนึ้ ทง้ั ดชั นคี วามเชอ่ื มน่ั ผบู้ รโิ ภคในปจั จบุ นั และในอนาคต ทง้ั นี้ เนอื่ งจาก
ประชาชนเชอ่ื มน่ั ในมาตรการกระตนุ้ เศรษฐกจิ และราคาพชื ผลการเกษตรดขี น้ึ จากมาตรการ ภาคตะวันออก เกษตรกร พนกั งาน ผูป้ ระกอบการ
เชงิ รกุ ของกระทรวงพาณชิ ยแ์ ละกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การควบคมุ การแพรร่ ะบาดของไวรสั เอกชน
Covid-19 ทด่ี ำ� เนนิ การไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และประชาชนมคี วามคาดหวงั ในแงด่ ตี อ่ วคั ซนี Covid-19 4เฉยี 9งเห.น6ือ ก.พ. 64 46.8 ก.พ. 64 43.8 ก.พ. 64 45.8
ม.ี ค. 64 47.7 ม.ี ค. 64 45.7 ม.ี ค. 64 49.3
กลา่ วโดยสรปุ แนวโนม้ ความเชอื่ มนั่ ทปี่ รบั ตวั ดขี น้ึ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งดงั กลา่ ว ชใี้ หเ้ หน็ วา่
ผบู้ รโิ ภคมแี นวโนม้ มน่ั ใจ ทจ่ี ะจบั จา่ ยใชส้ อยเพม่ิ ขนึ้ ซง่ึ หากไมม่ สี ถานการณป์ ญั หารา้ ยแรง +/- +/- +/-
อน่ื เพมิ่ เตมิ จะเปน็ ปจั จยั สำ� คญั ทสี่ นบั สนนุ ใหเ้ ศรษฐกจิ ไทยคอ่ ย ๆ ฟน้ื ตวั ไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื งขนึ้
เปน็ ลำ� ดบั กรุงเทพ

55.0 มาตรการกระตุŒน แล4ะป7รมิ .ณ5ฑล พนักงาน ไมไ่ ด้
เศรษฐกจิ และวคั ซีน 4ภา8คใ.ต5 ของรฐั ทำงาน
50.0 สถานการณเ ศรษฐกิจปรับตวั ดีขน้ รบั จา้ งอสิ ระ ก.พ. 64 51.4 นกั ศึกษา ก.พ. 64 40.6
ในหลายสาขา และ Covid-19 โควด 19
ก.พ. 64 43.0 มี.ค. 64 52.5 ก.พ. 64 42.5 ม.ี ค. 64 42.9
สถานการณการแพรร‹ ะบาด มที ศิ ทางท่ีดีข้น ม.ี ค. 64 45.1 ม.ี ค. 64 45.9
ของไวรสั Covid-19 ดขี ้น +/- +/-
45.0 ตามลำดบั +/- +/-

40.0 การพบผตูŒ ิดเช้อื ฯ ที่ จ.ระยอง การแพร‹ระบาดของ
และการปรับ ครม.เศรษฐกจิ ไวรสั Covid-19 ระลอกใหม‹
การแพรร‹ ะบาด

35.0 ของไวรสั Covid-19

30.0 TPSO Journal 9
ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค.

2563 2564

International การคาŒ ระหว‹างประเทศของไทย
TRADE F CUS
หนว‹ ย (Unit) : ก.พ. 2564 ม.ค. – ก.พ. 2564
การค้าระหว่างประเทศของไทย : ลŒานเหรยญสหรัฐฯ (Million USD) Feb 2021 Jan - Feb 2021

กุมภาพันธ์ 2564 มลู คาการสงออก 2-02,.25199.%01 3-91,.91265.%58
(Export Value) 2201,2.9191.%76 406,.17270%.73
การส่งออก มลู คา การนำเขา -195.15
การค้าระหว่างประเทศของไทยอยู่ในภาวะฟื้นตัว ตามทิศทาง (Import Value) +7.25
เศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีข้ึน หลังจากหลายประเทศสามารถแจกจ่ายวัคซีน ดุลการคา
ตา้ นเชอื้ ไวรสั โควดิ -19 ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ทำ� ใหม้ กี ารผอ่ นคลายมาตรการ (Trade Balance)
ปดิ เมอื งเร็วข้นึ ภาคการผลติ เรมิ่ กลับสูภ่ าวะปกติ การฟืน้ ตัวของภาคการผลิต
ส่งผลให้ความต้องการวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางเพิ่มสูงขึ้น สะท้อนจาก สินคŒาและตลาดสง‹ ออก 5 อันดบั แรก เดือน ก.พ. 64
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซ้ือโลก (Global Manufacturing PMI) ท่ีปรับตัว
ดีขึ้นเหนือระดับ 50 ต่อเน่ืองเป็นเดือนท่ี 8 และสูงสุดในรอบสามปี สินคาŒ มูลค‹า สดั ส‹วน ประเทศ มลู คา‹ สดั สว‹ น
นอกจากน้ี องค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) (%)
ปรบั เพมิ่ ตวั เลขประมาณการเศรษฐกจิ โลกปี 2564 วา่ จะขยายตวั ทรี่ อ้ ยละ 5.6 (ลาŒ น USD) (%YoY) (%) (ลาŒ น USD) (%YoY)
จากเดมิ ทค่ี าดวา่ จะขยายตวั รอ้ ยละ 4.2 มปี จั จยั สำ� คญั จากแผนกระตนุ้ เศรษฐกจิ 15.2
ของสหรฐั ฯ ทจี่ ะชว่ ยเพมิ่ อปุ สงคใ์ นสหรฐั ฯ และสง่ ตอ่ ไปยงั เศรษฐกจิ โลก สง่ ผลให้ แรถลยะนสตวน ประกอบฯ 2,323.8 3.6 11.5 สหรฐั ฯ 3,064.3 19.7 12.8
มลู คา่ การสง่ ออกของไทยในเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ 2564 กลบั มาแตะเหนอื ระดบั 2 10.1
หม่นื ล้านเหรยี ญสหรัฐฯ โดยมีมูลคา่ 20,219.01 ลา้ นเหรียญสหรฐั ฯ หดตวั เแคลระอื่ สงวคนอปมรพะวิ กเอตบอร 1,601.1 12.7 7.9 จีน 2,592.1 15.7 5.0
ท่ีร้อยละ 2.59 เม่ือหักสินค้าเก่ียวเนื่องกับน้�ำมัน ทองค�ำ และยทุ ธปจั จยั 4.5
ขยายตวั ทรี่ อ้ ยละ 2.87 สะทอ้ นการขยายตวั ของภาคเศรษฐกจิ จรงิ (Real Sector) ผลติ ภัณฑย าง 1,286.8 24.8 6.4 ญ่ปี ุน 2,043.2 6.5
ทงั้ นี้ ภาพรวมการสง่ ออก 2 เดอื นแรกของปี 2564 ยงั คงหดตวั ทร่ี อ้ ยละ 1.16 เมด็ พลาสติก 835.6 39.2 4.1 เวยี ดนาม 1,008.8 6.2
สนิ คา้ ทขี่ ยายตวั ไดด้ ี ไดแ้ ก่ 1) สนิ คา้ เกษตรและอาหาร โดยเฉพาะ
ยางพารา ผกั และผลไม้ ผลติ ภณั ฑม์ นั สำ� ปะหลงั อาหารสตั วเ์ ลยี้ ง และสง่ิ ปรงุ รส เแคลระื่อสงว จนักปรกระลกอบ 669.0 14.6 3.3 ออสเตรเลีย 909.8 17.2
อาหาร 2) สนิ คา้ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การทำ� งานทบ่ี า้ น (Work from Home) และ
เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ภายในบา้ น เชน่ เฟอรน์ เิ จอรแ์ ละชนิ้ สว่ น เตาอบไมโครเวฟและ สินคาŒ และแหลง‹ นำเขŒา 5 อันดบั แรก เดอื น ก.พ. 634
เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ทใี่ หค้ วามรอ้ น ตเู้ ยน็ และตแู้ ชแ่ ขง็ เครอ่ื งซกั ผา้ และสว่ นประกอบ
เครอ่ื งปรบั อากาศและสว่ นประกอบ และโทรศพั ทแ์ ละอปุ กรณ์ 3) สนิ คา้ เกย่ี วกบั สินคŒา มูลค‹า สัดส‹วน ประเทศ มูลคา‹ สัดส‹วน
การปอ้ งกนั การตดิ เชอ้ื และลดการแพรร่ ะบาด เชน่ เครอื่ งมอื แพทยแ์ ละอปุ กรณ์ (%)
และถุงมือยาง ยังคงมีค�ำส่ังซ้ืออย่างต่อเน่ือง นอกจากนี้ สินค้าอุตสาหกรรม (ลาŒ น USD) (%YoY) (%) (ลาŒ น USD) (%YoY) 22.6
ทเี่ รม่ิ กลบั มาฟน้ื ตวั ไดแ้ ก่ รถยนต์ อปุ กรณแ์ ละสว่ นประกอบเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ 14.7
และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ และ น้ำมันดิบ 1,835.8 8.1 9.1 จนี 4,557.54 102.5
เมด็ พลาสตกิ โดยหลายสนิ คา้ เปน็ วตั ถดุ บิ ในอตุ สาหกรรมตอ่ เนอ่ื งของประเทศคคู่ า้ 5.7
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของภาคการผลิตส่วนใหญ่ของโลกท่ีมีแนวโน้ม เแคลระอื่ สงวจนกั ปรกระลกอบ 1,667.8 26.2 8.3 ญปี่ ุน 2,975.06 18.1 4.4
ดีขึน้ ตามล�ำดับ อแลญั ะมเณครี ือ่ งประดบั 4.0
ด้านตลาดส่งออกส�ำคัญ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เคมภี ณั ฑ 1,558.8 121.0 7.7 สหรฐั ฯ 1,147.66 -40.1
ออสเตรเลีย จีน ขยายตัวต่อเน่ืองจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ตลาด CLMV เอคัญรมือ่ งณปแี รละะดับ 1,528.9 42.1 7.6 มาเลเซีย 888.37 2.5
หดตัวเล็กน้อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในเมียนมา รวมถึง 1,440.3 31.5 7.1 เซอสรวแ ิตลซน ด 816.08 451.6
ตลาดอาเซียน (5) ทปี่ ระเทศส่วนใหญ่ยังมีอตั ราการแพร่ระบาดสงู เปน็ ปัจจยั
กดดนั ทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ กำ� ลงั ซอ้ื ของประเทศผนู้ ำ� เขา้ ขณะทตี่ ลาดสหภาพยโุ รป ดัชนรี าคาส‹งออก-นำเขาŒ
(15) เอเชียใต้มีสัญญาณการฟื้นตัวท่ีดี หลังพลิกกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้ง
ทำ� ให้ภาพรวมการสง่ ออกในรายตลาดยังคงสดใส ดชั นีราคา การเปลย่ี นแปลง (%MoM) การเปลยี่ นแปลง (%YoY)
ภาพรวมการสง่ ออกไปยงั กลมุ่ ตลาดต่าง ๆ ดงั นี้ สง ออก
1) ตลาดหลัก ขยายตัวร้อยละ 10.1 ตามการขยายตัวต่อเนื่อง นำเขา ธ.ค. 63 ม.ค. 64 ก.พ. 64 ก.พ. 64 ดชั นี ก.พ. 64
ของการสง่ ออกไปยงั สหรฐั ฯ และญปี่ นุ่ รอ้ ยละ 19.7 และรอ้ ยละ 6.5 ตามลำ� ดบั 2.0 102.5
และการกลับมาขยายตัวของการสง่ ออกไปสหภาพยุโรป (15) รอ้ ยละ 0.2 0.3 0.7 0.6 5.7 97.5
2) ตลาดศักยภาพสูง หดตัวร้อยละ 5.2 โดยการส่งออกไปจีน และ 1.9 1.5 1.8
เอเชยี ใตข้ ยายตัวร้อยละ 15.7 และร้อยละ 13.9 ตามล�ำดับ ขณะทก่ี ารสง่ ออก
ไปอาเซียน (5) และ CLMV หดตัวรอ้ ยละ 17.3 และร้อยละ 4.2 ตามลำ� ดบั การน�ำเขา้
3) ตลาดศกั ยภาพระดบั รอง ขยายตวั ร้อยละ 7.3 โดยการส่งออก เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ 2564 การนำ� เขา้ มมี ลู คา่ 20,211.76 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั ฯ
ไปทวปี ออสเตรเลยี (25) และทวีปแอฟรกิ าขยายตัวตอ่ เนือ่ งรอ้ ยละ 18.3 และ ขยายตวั รอ้ ยละ 21.99 สนิ คา้ นำ� เขา้ ขยายตวั ทกุ หมวดสนิ คา้ โดยสนิ คา้ ทขี่ ยายตวั
ร้อยละ 16.3 ตามล�ำดับ ลาตินอเมริกากลับมาขยายตัวร้อยละ 14.0 5 อนั ดบั แรก ไดแ้ ก่ นำ้� มนั ดบิ เครอื่ งจกั รกลและสว่ นประกอบ อญั มณแี ละเครอ่ื งประดบั
อย่างไรกต็ าม ตะวันออกกลาง (15) กลบั มาหดตัวรอ้ ยละ 9.9 และรัสเซยี และ เคมีภัณฑ์ เคร่ืองจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ แหล่งน�ำเข้าท่ียังขยายตัว ได้แก่
กล่มุ ประเทศ CIS ยงั คงหดตวั ร้อยละ 11.8 จีน ญ่ปี ุ่น และมาเลเซยี แหลง่ นำ� เขา้ ที่หดตวั ได้แก่ สหรัฐฯ และสวิตซ์เซอรแ์ ลนด์
ดลุ การคา้
เดอื นกมุ ภาพันธ์ 2563 ดลุ การคา้ เกนิ ดลุ 7.25 ลา้ นเหรียญสหรัฐฯ
ดัชนรี าคาสินคา้ ส่งออก – นำ� เขา้
ดชั นรี าคาสง่ ออก เดือนกุมภาพันธ์ 2564 เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน
ขยายตวั รอ้ ยละ 2.0 (YoY) โดยขยายตวั ตอ่ เนอ่ื ง 4 เดอื นตดิ ตอ่ กนั โดยดชั นรี าคาสง่ ออก
ทป่ี รบั ตวั สงู ขนึ้ ประกอบดว้ ย หมวดสนิ คา้ เกษตรกรรม สนิ คา้ อตุ สาหกรรมการเกษตร
และหมวดสนิ คา้ อตุ สาหกรรม ขณะทห่ี มวดสนิ คา้ แรแ่ ละเชอ้ื เพลงิ ปรบั ตวั ลดลง
ดัชนีราคาน�ำเข้า เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ 2564 เทยี บกบั เดอื นเดยี วกนั ปกี อ่ น
สงู ขนึ้ รอ้ ยละ 5.7 (YoY) โดยขยายตวั ตอ่ เนอื่ งเปน็ เดอื นที่ 3 หมวดสนิ คา้ ทปี่ รบั ตวั
สูงข้ึน ได้แก่ หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งส�ำเร็จรูป หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค
หมวดสนิ ค้าทุน และหมวดยานพาหนะ และอปุ กรณ์การขนส่ง

ทา่ นสามารถดขู อ้ มูลเพิม่ เตมิ WEBSITE
ภาวะการค้าระหวา่ งประเทศของไทย
http://www.tpso.moc.go.th/
ประจำ� เดือนกุมภาพันธ์ 2564 international_trade
ผา่ น QR Code นี้

10 TPSO Journal

สถานการณร์ าคาทองคำ� ราคาน้�ำมนั อตั ราแลกเปล่ียน และราคาสินค้าเกษตร
มนี าคม 2564

USD/Troy oz ราคาทองคำ� เฉลย่ี รายเดอื น THB/Baht ราคาทองคำ�
2,500 35,000 ในเดอื นมนี าคม2564 ราคาทองคำ� ในประเทศเฉลยี่ อยทู่ ่ี 25,023.91บาท
2,000 30,000 หดตัวร้อยละ 2.61 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เช่นเดียวกับราคาทองค�ำ
1,500 25,000 ในตลาดโลก เฉลยี่ อยทู่ ่ี 1,718.23 เหรยี ญสหรฐั ฯ ตอ่ ทรอยออนซ์ หดตวั รอ้ ยละ 4.97
1,000 20,000 เมอ่ื เทยี บกบั เดอื นกอ่ น ลดลงสองเดอื นตอ่ เนอ่ื ง จากอตั ราผลตอบแทนพนั ธบตั ร
15,000 สหรฐั ฯ อายุ 10 ปี ปรบั ตวั สงู ขนึ้ สะทอ้ นความเชอ่ื มนั่ ทางเศรษฐกจิ หนนุ ใหเ้ งนิ
500 10,000 ดอลลารส์ หรฐั แขง็ คา่ อกี ทง้ั การกระจายวคั ซนี ตา้ นไวรสั โควดิ -19 เพมิ่ ขนึ้ กดดนั
0 5,000 ราคาทองคำ� คาดการณว์ า่ ราคาทองคำ� ในตลาดโลกของไตรมาสสองของปี 2564
0 จะปรบั ตวั อยทู่ ี่ 1,680 – 1,810 เหรยี ญสหรฐั ฯ ตอ่ ทรอยออนซ์
ราคาน�้ำมนั
มี.ค. 59 ราคาน้�ำมันดิบ (WTI) เดือนมีนาคม 2564 เฉลี่ยอยู่ที่
พ.ค. 59 62.35 เหรยี ญสหรฐั ฯ ตอ่ บารเ์ รล ราคานำ�้ มนั สงู สดุ ในรอบ 23 เดอื น เมอื่ เทยี บกบั
ก.ค. 59 เดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) เพ่ิมขึ้นร้อยละ 108.67 และเมื่อเทียบกับ
ก.ย. 59 เดอื นกอ่ นหนา้ (MoM) สงู ขน้ึ รอ้ ยละ 5.57 เปน็ การขยายตวั ทง้ั YoY และ MoM
พ.ย. 59 โดยมีปัจจัยบวกจากความต้องการใช้ท่ีเพ่ิมข้ึน ตามสถานการณ์เศรษฐกิจ
ม.ค. 60 ท่ีเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว การกระจายวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ท่ีมีทิศทางดีข้ึน
มี.ค. 60 สง่ ผลใหร้ าคานำ�้ มนั ดบิ ปรบั ตวั สงู ขนึ้ ในระดบั ทสี่ งู กวา่ 60 เหรยี ญสหรฐั ฯ ตอ่ บารเ์ รล
พ.ค. 60 สำ� หรบั ราคานำ�้ มนั แกส๊ โซฮอล์ 95 อยทู่ ี่ 25.03 บาท/ลติ ร เพมิ่ ขนึ้ รอ้ ยละ 4.82
ก.ค. 60 จากเดอื นกอ่ นหนา้ ราคานำ�้ มนั ดเี ซล อยทู่ ่ี 26.83 บาท/ลติ ร เพมิ่ ขน้ึ รอ้ ยละ 1.98
ก.ย. 60 จากเดอื นกอ่ นหนา้
พ.ย. 60 อัตราแลกเปล่ียน
ม.ค. 61 ค่าเงินบาทเดือนมีนาคม 2564 เฉล่ียอยู่ท่ี 30.79 บาท
มี.ค. 61 ต่อดอลลาร์สหรัฐ เม่ือเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) แข็งค่าขึ้น
พ.ค. 61 ร้อยละ 4.11 และเม่ือเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) อ่อนค่าร้อยละ 2.68
ก.ค. 61 ซ่ึงค่าเงินบาทในเดือนน้ีอ่อนค่าลงตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ
ก.ย. 61 ซ่ึงอ่อนค่าท่ีสุดในรอบ 5 เดือน (นับจากเดือนตุลาคม 2563) จากการฟื้นตัว
พ.ย. 61 ทีร่ วดเร็วของเศรษฐกิจสหรฐั ฯ อกี ท้ัง การเขา้ ด�ำรงต�ำแหน่งของประธานาธิบดี
ม.ค. 62 โจ ไบเดน ยังฟื้นความสัมพันธ์กับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ
มี.ค. 62 ใหด้ ยี ่งิ ข้นึ กว่ารัฐบาลกอ่ นหน้า เปน็ การสร้างความเชือ่ มัน่ ใหก้ ับนกั ลงทนุ และ
พ.ค. 62 มสี ว่ นสำ� คญั ในการสนบั สนนุ การฟน้ื ตวั ของเศรษฐกจิ โลกใหม้ เี สถยี รภาพมากขนึ้
ก.ค. 62 ข้าว
ก.ย. 62 ราคาขายส่งเฉลย่ี ขา้ วขาว 5% (ใหม)่ 1,475.43 บาท/100 กิโลกรัม
พ.ย. 62 ลดลงจากเดอื นกมุ ภาพนั ธร์ ้อยละ 3.18 ขณะท่ีราคาขายส่งเฉล่ยี ขา้ วหอมมะลิ
ม.ค. 63 100% ชนั้ 2 (ใหม)่ ทรงตวั ที่ 2,445.00 บาท/100 กโิ ลกรมั โดยภาพรวมราคาขา้ ว
มี.ค. 63 ปรับตัวลดลงเนอ่ื งจากผลผลติ ข้าวก�ำลังออกสูต่ ลาดมากขน้ึ
พ.ค. 63 ยางพารา
ก.ค. 63 ราคายางแผ่นรมควันช้ัน 3 เฉลี่ยอยู่ท่ีกิโลกรัมละ 71.18 บาท
ก.ย. 63 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 5.84 ส่วนราคายางแท่ง STR 20 เฉล่ียอยู่ที่
พ.ย. 63 กิโลกรัมละ 53.82 เพ่ิมข้ึนร้อยละ 8.53 ราคายางปรับตัวเพ่ิมข้ึน เน่ืองจาก
ม.ค. 64 อยใู่ นชว่ งปดิ กรดี ทำ� ใหม้ ปี รมิ าณยางออกสตู่ ลาดนอ้ ย ประกอบกบั มคี วามตอ้ งการ
มี.ค. 64 ใชย้ างทงั้ ในและตา่ งประเทศอย่างตอ่ เนือ่ ง

ไทย (THB/Baht) ลอนดอน PM(USD/Troy oz.) TPSO Journal 11

แหลง่ ทมี่ า : CEIC ราคาน�ำ้ มันเฉล่ยี รายเดอื น WTI
USD/BBL
THB/Litre WTI TH Gasohol 95 TH Diesel
35 120.00

30 100.00

25
80.00

20
60.00

15
40.00

10

5 20.00

0 0.00

2015 2016 2017 2018 2019 2020 2021

แหลง่ ทม่ี า : CEIC อัตราแลกเปล่ียนเฉลยี่ รายเดอื น

THB/USD
37.00
36.00
35.00
34.00
33.00
32.00
31.00
30.00
29.00
28.00
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.

2015 2016 2017 2018 2019 2020 20220121

แหล่งทีม่ า : CEIC

ราคาสินคา้ รายเดอื น

Ê¹Ô ¤ÒŒ เดอื น Feb-64 Mar-64 %∆(MOM) Mar-63 Mar-64 %∆(YOY)
1,523.89 1,475.43 -3.18 1,431.82 1,475.43 3.05
¢ŒÒÇ : (Baht/100Kg) 2,445.00 2,445.00 0.00 3,015.00 2,445.00 -18.91
¢ÒŒ Ç¢ÒÇ 5% (ãËÁ)‹
¢ŒÒÇËÍÁÁÐÅÔ 100% ª้ѹ 2

ÂÒ§¾ÒÃÒ : (Baht/Kg)

·Í§¤ÓἋ¹ÃÁ¤Çѹ ªÑ้¹ 3 (f.o.b) 67.25 71.18 5.84 47.93 71.18 48.51
Âҧᷧ‹ STR20 (f.o.b) 49.59 53.82 8.53 40.37 53.82 33.32
-4.97 7.93
Å͹´Í¹ PM (USD/Troy oz.) 1,808.18 1,718.23 -2.61 1,591.93 1,718.23 4.36
ä·Â (THB/Baht) 25,695.00 25,023.91 23,979.55 25,023.91

¹้ÓÁ¹Ñ ´ºÔ : (USD/BBL)

WTI 59.06 62.35 5.57 29.88 62.35 108.67

굄 ÃÒáÅ¡à»ÅÂ่Õ ¹

THB/USD 29.99 30.79 2.68 32.11 30.79 -4.11

แหล่งที่มา : CEIC

news

โดย ดร.ไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ
กองดัชนีเศรษฐกิจการค้า

สร้างโลกสวยดว้ ย

GREEN PRODUCTS

Kantar บรษิ ัทวจิ ยั การตลาดชนั้ นำ� ไดเ้ ผยผลส�ำรวจ
จากผบู้ รโิ ภค 80,000 คนทว่ั โลก วา่ สถานการณก์ ารแพร่
ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ท�ำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจ
ผลกระทบต่อสิ่งแวดลอ้ มมากขน้ึ

ปจั จบุ นั มลู คา่ ตลาดของกลมุ่ Eco-Active มมี ลู คา่
ถึง 3.82 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ
11.93 ล้านลา้ นบาท

ผ้บู รโิ ภคกว่า 37% มองว่า นับต้งั แต่ปี พ.ศ. 2562
“ผู้ผลติ มีบทบาทสำ� คญั มากท่ีสุด” ผบู้ ริโภคทต่ี ้องการลดขยะพลาสติก
ในการปอ้ งกนั ปัญหาด้านส่งิ แวดล้อม มีจำ� นวนเพม่ิ ขนึ้ จาก 16% เปน็ 20%

การแพรร่ ะบาดของเชื้อไวรสั โควดิ -19 ผู้บริโภคกวา่ 87.5% มองว่า
ท�ำให้ผู้บริโภค 1 ใน 5 มนี สิ ัยที่เป็นมติ ร การซือ้ สินคา้ ท่ีมกี ารใช้บรรจภุ ณั ฑ์
กับสงิ่ แวดล้อมมากข้ึน ลดลงเป็นปจั จยั ที่ส�ำคัญมากขึน้

กลมุ่ Eco-Active แมย้ งั เปน็ เปน็ เพยี งพลงั เงยี บ แตก่ ำ� ลงั มจี ำ� นวนและมลู คา่ ตลาดเพม่ิ มากขน้ึ เรอ่ื ย ๆ ซง่ึ ผผู้ ลติ สนิ คา้ ควรใหค้ วามสำ� คญั
และควา้ โอกาสทางธรุ กิจไดม้ ากขึน้ ... เพราะเราทุกคนสามารถเป็นสว่ นหน่ึงในการสร้างโลกทด่ี ขี ึ้น โลกทเี่ ป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมได้

ตัวอย่างนวัตกรรมการผลิตสินคา้ Green ที่เป็นมิตรกบั สิ่งแวดลอ้ ม

01 เปลยี่ นขยะเป็นอาหาร 02 เจนิยม 03 ป๊อปคอร์นแทนโฟม

รอยเตอรร์ ายงานผลงานวจิ ยั ของนายศรวฒุ ิ อาหารทดแทนเน้ือสัตว์จากพืชหรือผัก เปน็ ไอเดยี สดุ ลำ�้ ทใ่ี ชป้ อ๊ ปคอรน์ เปน็ วสั ดุ
กิตตบิ ัณฑร ทน่ี �ำ “ขนไก่” มาท�ำสเตก็ โดย ออรแ์ กนคิ ไดร้ บั ความนยิ มเพมิ่ ขนึ้ เนอื่ งจาก กันกระแทกใส่ในลังแทนการใช้โฟม
พบว่าขนไก่มีโครงสร้างโปรตีนเช่นเดียวกับ ผคู้ นหนั มารบั ประทานอาหารวแี กนหรอื อาหาร นอกจากช่วยรักษาส่ิงแวดล้อมแล้ว
เน้ือไก่ ซึ่งจะท�ำให้ไม่มีขยะเหลือท้ิง มงั สวริ ตั มิ ากขน้ึ เพอื่ ลดความเสยี่ งโรคจากการ ยังมีรสชาติอร่อยอีกด้วย
จ า ก อุ ต ส า ห ก ร ร ม ไ ก ่ น่ั น ห ม า ย ถึ ง รบั ประทานเนอื้ สตั ว์ และลดการเกดิ มลพษิ ตอ่
“Zero Waste!” สงิ่ แวดลอ้ มจากอตุ สาหกรรมเลยี้ งสตั ว์

Facebook LINE WEBSITE