The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในจังหวัดระยอง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในจังหวัดระยอง

แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในจังหวัดระยอง

ระยองแหล่งท่องเทยี่ วทำงวัฒนธรรมในจงั หวัด

จงั หวดั ระยอง สำนกั งำนวฒั นธรรมจังหวดั ระยอง

เจดียก์ ลางนา้

เจดีย์กลำงนำ ตังอยู่ท่ีตำบลปำกนำ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง พระเจดีย์กลำงนำ ลักษณะเป็นเจดีย์
ทรงระฆัง ขนำดย่อม สงู รำว 10 เมตร ตังอยูบ่ นเกำะกลำงแมน่ ำระยอง ท่ำงกลำงป่ำชำยเลนท่ียำวเหยียดมีนำ
ล้อมรอบเนอื ท่ีรำว 52 ไร่ เทศบำลนครระยองไดส้ รำ้ งสะพำนคอนกรีตเข้ำไปสู่เจดีย์ เจดีย์นีสร้ำง พ.ศ. 2416
ในสมัยพระยำศรีสมุทรโภคชัยชิตสงครำม (เกตุ ยมจินดำ) เป็นเจ้ำเมืองระยองสร้ำงขึนเพ่ือเป็นสัญลักษณ์ให้
ชำวเรือ หรือผู้โดยสำรที่เดินทำงผ่ำนถึงบริเวณนันได้ทรำบว่ำมำถึงเมืองระยองแล้วสมัยโบรำณมีแต่เส้นทำง
คมนำคม ทำงนำเพียงทำงเดียวเท่ำนันท่ีจะเข้ำสู่ตัวเมืองระยองได้สะดวก ซึ่งสันนิษฐำนว่ำสร้ำงเจริญรอยตำม
แบบพระสมุทรเจดยี ์ หรอื เจดยี ก์ ลำงนำ เมอื งสมุทรปรำกำรทีเ่ ป็นสัญลักษณ์ให้บรรดำผู้เดินทำงผ่ำนมำถึงจุดนี
ทรำบว่ำใกล้จะถงึ กรุงเทพมหำนครแล้ว

เจดยี ์กลำงนำถอื เปน็ สญั ลักษณ์ของจังหวดั ระยอง และเป็นสง่ิ ที่ชำวระยองเคำรพนับถือมำกรำวกลำงเดือน 12
ของทุกปีซ่ึงเปน็ ฤดูนำหลำก จะมงี ำนประเพณที อดกฐินและงำนห่มผ้ำเจดีย์กลำงนำ นอกจำกนันจะมี งำนลอย
กระทง แข่งเรือยำว ประเพณีห่มผ้ำเจดีย์นัน ผ้ำที่จะนำมำห่มต้องเป็นผ้ำสีแดง มีควำมยำว 6 เมตร ใช้คน 2
คนปีนขึนไปห่มสว่ นบนของเจดีย์บรเิ วณรอบๆ เจดยี ม์ กี ำรปลูกป่ำสนทำให้ร่มร่ืนสวยงำมจึงเป็นสถำนที่พักผ่อน
หยอ่ นใจของชำวเมืองในเวลำว่ำงอีกด้วยปจั จุบันเทศบำลนครระยองได้ทำกำรบูรณะพระเจดีย์และบริเวณรอบ
องคอ์ ย่ำงสวยงำมสร้ำงสะพำนคอนกรตี ให้นักท่องเท่ียวได้เดนิ ชมปำ่ ชำยเลนอีกด้วย

วัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง)

วัดป่ำประดู่ (พระอำรำมหลวง) ก่อนสร้ำงวัดเม่ือประมำณ พ.ศ.2372 โดยมีพระภิกษุรูปหน่ึงช่ือ
อปุ ชั ฌำยเ์ ทยี น เดิมจำพรรษำอยู่ท่ี วัดเนิน (หรือมีชื่อเรียกอีกช่ือหนึ่งว่ำ วัดอินทรสมบัติ ปัจจุบันรวมกับวัดลุ่ม
มหำชัยชุมพล) ได้มำพบสถำนที่แห่งนีเป็นวัดร้ำง มีต้นตะเคียนเป็นจำนวนมำก มีซำกวัดท่ีเหลือแต่ซำกโบสถ์
ซำกพระพุทธรปู ปำงไสยำสน์ และซำกองคพ์ ระประธำน ซ่งึ เปน็ พระพุทธรูปปำงปำเลไลยก์วัดป่ำประดู่แห่งนีจึง
เคยมีชื่อเดิมว่ำ "วัดป่ำเลไลยก์" อุปัชฌำย์เทียนจึงได้มำจำพรรษำเพื่อบำเพ็ญวิปัสสนำกรรมฐำนอยู่ท่ีน่ีบรรดำ
ชำวบ้ำนท่ีอยู่ใกล้เคียงศรัทธำเล่ือมใสในท่ำน จึงชักชวนกันสร้ำงกุฏิถวำย และร่วมกันปฏิสังขรณ์วัดนีจนเจริญ
สบื มำต่อมำ และเพือ่ ให้สอดคลอ้ งกบั นำมหมู่บ้ำนท่ีวัดตังอยู่คือ ตลำดท่ำประดู่ อีกทังเพรำะมีต้นประดู่ใหญ่อยู่
ภำยในวดั เปน็ จำนวนมำกและเพอื่ มิใหช้ ื่อวัดพ้องกบั วดั ปำ่ เลไลยก์ จงั หวัดสพุ รรณบุรดี ้วย

จำกเหตุผลดังกล่ำวจึงได้เปลี่ยนนำมวัดเป็น “วัดป่ำประดู่” ภำยในวัดป่ำประดู่มีพระพุทธรูปนอน
ตะแคงซ้ำยท่ีเก่ำแก่เป็นพระพุทธไสยำสน์ที่แปลกท่ีสุดในประเทศไทยโดยปกติแล้วเมื่อมีกำรสร้ำงองค์พระปำง
สีหไสยำสน์ มักจะสร้ำงประทับอยู่ในท่ำนอนตะแคงขวำ แต่พระพุทธไสยำสน์ท่ีวัดป่ำประดู่สร้ำงในท่ำนอน
ตะแคงซ้ำย มีควำมยำว ๑๑.๙๕ เมตร สูง ๓.๖๐ เมตร ขนำดใหญ่ โดยเม่ือปี พ.ศ.๒๔๗๘ พระครูสมุทรสมำน
คุณ (แอ่ว) อดีตเจ้ำอำวำส ได้บูรณะองค์พระส่วนที่ชำรุดแล้วปิดทองใหม่ มีผู้สันนิษฐำนว่ำเป็นกำรสร้ำงตำม
พระพุทธประวัติ ตอนพระพุทธเจ้ำกระทำยมกปำฏิหำริย์ให้พวกเดียรถีย์ชม โดยมีพระพุทธนิมิตแสดงอำกำร
อย่ำงเดียวกับพระพุทธเจ้ำเป็นคู่ๆ เม่ือถึงอิริยำบถไสยำสน์จึงผินพระพักตร์เข้ำหำกันเป็นกำรนอนตะแคงซ้ำย
และขวำในลกั ษณะเดยี วกัน ผ้สู ร้ำงจงึ สร้ำงให้มนี ัยของพทุ ธปำฏิหำริย์ดังกล่ำวจึงสร้ำงเป็นพระนอนตะแคงซ้ำย
ซง่ึ ลกั ษณะพระพทุ ธรูปนอนตะแคงซ้ำยมีควำมพิเศษคือมีกำรหนุนพระเศียรด้วยหัตถ์ซ้ำยสังเกตจำกพระเกศไร
พระศกจีวรแล้วน่ำจะอยู่ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยำจนกระทั่งได้รับกำรบูรณปฏิสังขรณ์ดูแลรักษำอย่ำงดีไม่มีใคร
ทรำบอำยแุ ละประวัตมิ ำก่อนดูจำกพระเกศไรพระศกจีวรแล้วนำ่ จะเปน็ อิทธิพลสมัยอยุธยำปัจจุบันพระพุทธรูป
ทังสององคไ์ ดร้ บั กำรบรู ณะไว้ จึงถือเป็นพระเก่ำแกค่ ู่บำ้ นเมืองของระยองแหง่ หน่ึง

ศาลสมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราช

ตงั อยภู่ ำยในบรเิ วณวัดลุม่ (พระอำรำมหลวง) เป็นทปี่ ระดิษฐำนพระรปู หลอ่ ของสมเดจ็ พระเจ้ำตำกสิน
ถึง 2 พระองค์ โดยนำงทองปำน ภู่สุวรรณ ได้ฝันไปว่ำพระเจ้ำตำกสินมหำรำชเสด็จมำเข้ำฝันและมีพระรำช
ดำรสั วำ่ พระองคไ์ มม่ ีทีป่ ระทบั นำงทองปำน ภู่สุวรรณ จึงสร้ำงศำลถวำยพร้อมหล่อพระบรมรูปประทับยืนด้วย
ทองเหลือสูง 70 ซม. และต่อมำในปี พ.ศ.2503 จึงมีกำรหล่อพระบรมรูปองค์ใหม่ขนำดเท่ำองค์จริงในท่ำ
ประทับนั่งสง่ำงำม เดิมทีศำลแห่งนีมีลักษณะเป็นเรือนไม้ชันเดียวสร้ำงขึนเมื่อปี พ.ศ.2477 ต่อมำได้มีกำร
สร้ำงศำลหลังใหม่ขึนแทนหลังเดิมในปี พ.ศ. 2507 เป็นอำคำรคอนกรีตเสริมเหล็กทรงจัตุรมุขท่ีบริเวณต้น
สะตือใหญ่เพ่ือเป็นพระบรมรำชนุสรณ์ และสถำนที่ท่ีให้ประชำชนท่ัวไปมำสักกำระและน้อมรำลึกถึงวีรกรรม
อันกลำ้ หำญของพระองค์

ต้นสะตืออำยุมำกกว่ำ 300 ปี ซ่ึงมีควำมสำคัญเก่ียวเนื่องกับประวัติศำสตร์ในกำรกอบกู้อิสรภำพของสมเด็จ
พระเจำ้ ตำกสินโดยกล่ำววำ่ เมื่อครังทพี่ ระองค์ตีฝ่ำวงล้อมข้ำศึกออกจำกกรุงศรีอยุธยำมำถึงระยองในครำวท่ียัง
ทรงพระยศเปน็ พระยำวชิรปรำกำร พระองค์ทรงนำช้ำงมำผูกไว้ที่ต้นสะตือนี และใช้เป็นแหล่งรวบรวมไพร่พล
ก่อนทีจ่ ะยกทัพไปตีเมอื งจันทบรุ ี และใช้เปน็ ท่ีตังมัน่ ในกำรกลับมำกอบกู้อสิ รภำพจนสำเรจ็ ในเวลำต่อมำ

หอพระพุทธอังคีรส

ในกำรดำรสิ รำ้ งพระประจำเมอื งระยองขึนนัน เนื่องจำกกำรประชุมหัวหน้ำส่วนรำชกำรในจังหวัดโดย
นำยดำรง สุนทรศำรทูล ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดระยอง เป็นประธำนได้พิจำรณำเห็นว่ำจังหวัดระยองไม่มี
พระพุทธรูปสำคัญประจำจังหวัดไว้เป็นที่ เคำรพสักกำระเป็นส่วนรวมเลย เมื่อถึงครำวที่จะประกอบพิธีเป็น
สำคัญ เช่น รัฐพิธี งำนเทศกำลประจำปี ฯลฯ ก็คงใช้แต่พระพุทธรูปที่มีอยู่ซึ่งจะต้องยืมจำกวัดต่ำงๆ มำ
ประกอบพิธีดังกล่ำวหำกได้มีกำรสร้ำงขึนโดยให้ประชำชนในจังหวัดมีส่วนร่วมสร้ำงก็จะเป็นสัญลักษณ์ที่ร่วม
แห่งกุศลจิตของมวลพุทธศำสนิกชนในจังหวัดระยองดีย่ิงขึนจึงได้นำควำมดำรินีขึนหำรือในที่ประชุมสงฆ์
ข้ำรำชกำร พอ่ ค้ำ ประชำชนที่ประชุมมีมติ เป็นเอกฉันท์ว่ำควรจัดสร้ำงพระพุทธรูปประจำเมืองขึนโดยจำลอง
แบบพระพทุ ธสหิ งิ คซ์ ง่ึ ประดิษฐำน ณ พระท่ีนั่งพุทธไธสวรรค์ทิพยอำสน์ขนำดเท่ำองค์จริงแต่สร้ำงด้วยเนือเงิน
บรสิ ทุ ธ์ิ หนำ้ ตกั กวำ้ ง 65 เซนติเมตร 1 องค์ กบั สรำ้ งดว้ ยองค์สัมฤทธิ์ขนำดเล็กกว่ำองค์จริง หน้ำตักกว้ำง 48
เซนติเมตร อีก 1 องค์

จังหวัดจึงได้นำควำมขึนกรำบบังคมทูลขอพระรำชทำนพระบรมรำชำนุญำตซึ่งก็ได้รับพระรำชทำน
พระบรมรำชำนุญำตให้สร้ำงได้ตำมควำมประสงค์ นับได้ว่ำเป็นพระมหำกรุณำธิคุณเป็นล้นเกล้ำ พิธีกำรหล่อ
พระพทุ ธรูปประจำเมืองระยอง ไดก้ ระทำขนึ ในสมัย นำยดำรง สุนทรสำรทูล ดำรงตำแหน่งผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด
ระยอง ประธำนในพิธีหล่อ คือ ฯพณฯ นำยถวิล สุนทรศำรทูล ซึ่งขณะนันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่ำกำร
กระทรวงมหำดไทย ได้จัดพิธีขนึ ที่สวนศรีเมือง เม่ือวันท่ี 17 - 18 เมษำยน พ.ศ.2508 เวลำ 20.53 น. กับ
45 วินำที หลังจำกกระทำพิธีหล่อเสร็จแล้ว ได้นำไปตกแต่งให้เรียบร้อยท่ีกรมศิลปำกร เม่ือช่ำงกรมศิลปำกร
ตกแตง่ เสรจ็ ก่อนมีพธิ ีอญั เชิญเขำ้ สูเ่ มอื งระยอง

ศาลหลกั เมือง

ศำลหลักเมืองของจังหวัดระยอง ตำมหลักฐำนปรำกฏว่ำได้สร้ำงขึนเม่ือปีพุทธศักรำช 2438 ตรงกับ
รัชสมัยของพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว รัชกำลท่ี 5 ต่อมำรำวปีพุทธศักรำช 2486 เสำหลัก
เมืองได้ชำรุดหักลง ชำวบ้ำนจึงได้มีควำมคิดท่ีจะปรับปรุงศำลหลักเมือง ให้มีควำมม่ันคงแข็งแรง และเป็นศรี
สง่ำแก่เมอื งระยองต่อไปจึงได้มีกำรแตง่ ตงั คณะกรรมกำรขนึ มำพิจำรณำควำมเป็นไปได้ในกำรปรับปรุงและได้มี
กำรประชุมพิจำรณำหลำยครัง ในที่สุดประชุมก็มีควำมเห็นพ้องต้องกันว่ำควรปรับปรุงด้วยกำรสร้ำงมณฑป
จตุรมุขเพ่ือให้เสำหลักเมืองได้ประดิษฐำนอยู่ในอำคำรท่ีเหมำะสมเป็นศรีสง่ำ และมีควำมม่ันคงแข็งแรงเพื่อ
เปน็ ทีเ่ คำรพสกั กำระเป็นศนู ยร์ วมใจ และเปน็ หลักชัยของประชำชนชำวจงั หวดั ระยองสืบต่อไปใหน้ ำนแสนนำน

เมื่อเสำร์ที่ 2 พฤศจิกำยน 2534 สมเด็จพระสังฆรำชสกลมหำสังฆปรินำยกเสด็จเป็นองค์ประธำน
วำงศิลำฤกษ์มณฑปหลักเมืองระยอง สำหรับยอดเสำหลักเมืองพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
ได้ทรงพระสุหร่ำยและเจิมแผ่นยันต์ให้ต่อมำเม่ือวันที่ 1 กันยำยน 2536 ได้อัญเชิญยอดเสำเข้ำสวมไว้ขณะ
ประกอบพิธีสวมได้เกิดปรำกฏกำรณ์พระอำทิพย์ทรงกลดขึนจึงถือเป็นมหำมงคลแก่เมืองระยองเป็นอย่ำงย่ิง
ขณะนหี ลกั เมอื งระยองปรำกฏเปน็ สง่ำรำศีคเู่ มอื งระยอง และประชำชนไดอ้ ยู่อยำ่ งรม่ เย็นมคี วำมเจรญิ รงุ่ เรอื ง

วัดนาตาขวญั

วดั นำตำขวญั มพี ระพทุ ธรปู ศกั ด์สิ ทิ ธ์ิเกำ่ แกอ่ ำยปุ ระมำณ 300 กว่ำปีอยู่ในอุโบสถหลังเก่ำเป็นอำคำร
ก่อผนังสูง ชันหลังคำซ้อนลดหลั่นแอ่นเชิดหน้ำหลังและผนังเอนสอบเข้ำหำกันเล็กน้อยจึงอำจเป็นอุโบสถท่ีมี
ควำมเก่ำแก่ถึงสมัย อยธุ ยำตอนปลำยหรอื ระยะแรกของสมัยรตั นโกสินทรท์ ย่ี งั หลงเหลืออยู่

ตำมประวตั ิทอ้ งถ่นิ กลำ่ ววำ่ มตี ำคนหน่งึ ชื่อตำขวัญไมม่ ภี รรยำและบุตรมีที่นำมำกเป็นผู้มีศรัทธำในบวร
พระพุทธศำสนำจึงมอบท่ีนำของตนให้สร้ำงเป็นวัด ชำวบ้ำนจึงเรียกกันติดปำกว่ำ วัดนำตำขวัญ ตรำบเท่ำทุก
วนั นี ไดร้ บั อนุญำตสร้ำงวดั เม่อื ประมำณ พ.ศ. 2200 ได้ประกอบพิธผี กู พทั ธสีมำประมำณ พ.ศ. 2270

พิพิธภณั ฑ์หนงั ใหญ่วดั บา้ นดอน

พิพิธภัณฑ์หนังใหญว่ ดั บำ้ นดอนเปน็ สถำนทท่ี อ่ งเทีย่ วเชิงอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมไทย ซ่ึงเปน็ สถำนท่ีสืบทอด
มรดกภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรมกำรแสดงหนังใหญ่ และเก็บรักษำตัวหนังใหญ่ให้รุ่นลูกรุ่นหลำนได้เรียนรู้สืบไป
กำรแสดงหนังใหญ่เป็นศิลปะกำรแสดงชันสูงที่ผสมผสำนศิลปะหลำยด้ำนทังหัตถศิลป์ นำฏศิลป์ วรรณศิลป์
และคีตศิลป์ซึง่ พพิ ธิ ภัณฑห์ นงั ใหญ่วดั บำ้ นดอนนีถือเปน็ 1 ใน 3 แหง่ ท่ีเหลืออยู่อีก 2 แห่งคือ วัดขนอนจังหวัด
รำชบุรี และวัดสว่ำงอำรมณจ์ ังหวดั สิงห์บุรี

วดั บำ้ นดอนเปน็ วดั เก่ำแก่คู่เมอื งระยองมำนับตังแต่ พ.ศ. 2432 ส่ิงท่ีเป็นดั่งสัญลักษณ์ของวัดนีนอกจำกหลวง
พ่อประสำทพรที่ชำวระยองให้ควำมเคำรพแล้วยังมีพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ท่ีเก็บรักษำหนังใหญ่อำยุร่วม 200 ปี
ซง่ึ พระยำศรีสมทุ รโภคชัยโชคชิด บังครำม (บ้ำงว่ำพระยำศรีสมุทรโภคชัยโชคชิตสงครำม หรือ เกตุ ยมจินดำ)
เจ้ำเมืองระยองคนแรกซือมำจำกพัทลุงเพ่ือใช้แสดงในงำนสำคัญต่ำงๆ ปัจจุบันนอกจำกเก็บรักษำไว้ให้อนุชน
รนุ่ หลังไดช้ มแลว้ ชมุ ชนวัดบำ้ นดอนยงั ได้ทำกำรสืบสำนประเพณีกำรเชดิ หนังใหญ่ให้แก่ลูกหลำนของชำวชุมชน
และเปิดกำรแสดงให้นักทอ่ งเท่ียวได้ชมอกี ด้วย

วดั โขดทมิ ธาราม

วดั โขด (ทิมธำรำม) กล่ำวกนั ว่ำที่ไดช้ ือ่ เช่นนีเพรำะพระยำระยอง ผู้เป็นเจ้ำเมืองนันมีนำมเดิมหรือนำม
จรงิ ว่ำ “ทิม” เป็นผสู้ รำ้ งวัดนีแตช่ ำวบ้ำนทั่วๆไปเรียกกันสันๆว่ำ “วัดโขด” อันเน่ืองมำจำกวัดนีมีท่ีมำจำกที่ตัง
ทอ่ี ยบู่ นโขดทรำยติดกับแม่นำระยองตอนท้ำยเมืองหรือแถบชำนเมืองในสมัยก่อนอยู่คู่กับเมืองระยองมำกกว่ำ
500 ปีมำแล้ว จำกปำกคำที่บอกเล่ำสืบกันมำแจ้งว่ำวัดโขดนีสร้ำงมำตังแต่ปี พ.ศ. 2007 สมัยกรุงศรีอยุธยำ
ตอนตน้ ตรงกับรัชสมยั สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนำถ (พ.ศ. 2031) แต่มีพระภิกษสุ งู อำยรุ ปู หนึ่งบอกว่ำทำงกรม
ศิลปำกรแจ้งว่ำวัดโขดสร้ำงเม่ือปี พ.ศ. 2113 รัชสมัยสมเด็จพระมหำธรรมรำชำพระบรมรำชชนกในสมเด็จ
พระนเรศวรมหำรำชหลงั จำกเสียกรุงศรีอยธุ ยำครังแรกปีหน่ึงซึ่งไมท่ รำบวำ่ อำศยั สิง่ ใดเปน็ หลักฐำนอ้ำงอิง

อย่ำงไรก็ตำมวัดนีกม็ ีอำยไุ มน่ อ้ ยกว่ำศตวรรษแลว้ โดยทำงวัดขำดกำรดแู ลรักษำถูกทิงรกร้ำงปล่อยให้ปรักหักพัง
จนถำวรวตั ถเุ กำ่ แกค่ ู่กับวัดมำแต่เดิมแทบไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่เลยประกอบกับอุโบสถเก่ำทังเล็กคับแคบและทรุด
โทรมจนไม่สำมำรถทำสังฆกรรมได้ต้องสร้ำงใหม่ขึนเมื่อมำเมื่อปี พ.ศ. 2518 (แล้วเสร็จบริบูรณ์ในปี 2528)
ศำลำกำรเปรียญที่ใหญ่โตโอ่อ่ำ และบรรดำกุฏิเสนำสนะทังหลำยเป็นของสร้ำงใหม่ทังหมดจนเป็นเสมือนวัด
ใหม่สร้ำงขึนบนพนื ทขี่ องวดั เก่ำจิตรกรรมฝำผนังพระอุโบสถหลงั เก่ำวดั โขด

ภำยในวัดโขด (ทิมธำรำม) มีจิตรกรรมฝำผนังเป็นภำพเขียนสีโบรำณลำค่ำอยู่ในพระอุโบสถหลังเก่ำท่ีอยู่ทำง
ทิศตะวนั ออกมมุ ใต้สดุ ของวัดไกลออกไปจำกศำลำและโบสถ์หลังใหม่ ปัจจุบันมิได้ใช้เป็นท่ีประกอบ สังฆกรรม
ใดๆ ภำพจิตรกรรมฝำผนังในอุโบสถวัดโขดหลังเก่ำนีน่ำจะเป็นฝีมือของจิตรกรท้องถ่ิน เขียนขึนในสมัยอยุธยำ
ตอนปลำยหรือสมัยกรุงรัตนโ กสินทร์ตอนต้ นเป็นภำพทศช ำติชำดกท่ีผนั งด้ ำนนอกหน้ำ อุโบสถด้ำนทิ ศ
ตะวันออกตรงหน้ำพระประธำนมีภำพปำงมำรวิชัยเขยี นไว้ดว้ ยแต่เลือนรำงมำก

วัดบา้ นแลง

วัดบ้ำนแลงศำสนสถำนสำคัญแหล่งยึดเหน่ียวจิตใจของคนในชุมชนบ้ำนแลง จังหวัดระยอง มีเจดีย์
ทรงปรำงคส์ ถำปตั ยกรรมอนั แสนคลำสสิกอำยกุ วำ่ 277 ปี มหี อไตรกลำงนำขนำดเล็กที่ก่อสร้ำงด้วยไม้ทังหลัง
นอกจำกนียังมอี ุโบสถทม่ี คี วำมเก่ำแก่และแปลกตำ โดยมกี ำรสรำ้ งบ่อนำไวล้ ้อมรอบอโุ บสถ

วดั บำ้ นแลงเป็นวดั เก่ำแก่ตังแต่สมัยกรุงศรีอยุธยำ เป็นสถำนที่ท่องเท่ียวท่ีมีลักษณะสถำปัตยกรรมแบบอยุธยำ
ตอนปลำย แมส้ ภำพจะทรุดโทรมแต่ยงั คงควำมงำมของสถำปัตยกรรม และมบี รรยำกำศทเ่ี งยี บสงบรม่ ร่ืน

ภำยนอกมีลักษณะเป็นอำคำรก่ออิฐถือปูนผนังด้ำนนอกประดับด้วยเครื่องถ้วยชำมเซรำมิกโบรำณมีกำรทำจั่น
หับหรือลักษณะหลังคำยื่นออกมำที่ด้ำนหน้ำทำงเข้ำ ภำยในมีพระพุทธรูปปำงมำรวิชัยให้ประชำชนได้กรำบ
ไหว้ขอพร

วดั จันทอดุ ม (วดั เกง๋ )

วัดจันทอุดมหรือวัดเก๋ง ในอดีตเคยเป็นวัดท่ีสำคัญวัดหน่ึงของจังหวัดระยองปัจจุบันร้ำงไปแล้ว
คงเหลือแต่ชื่อและเจดีย์เก่ำแก่อีก 1 องค์เท่ำนัน ท่ีดินเดิมของวัดเก๋งอยู่ในควำมครอบครองของวัดป่ำประดู่
ปัจจุบันอนุญำตให้กระทรวงสำธำรณสุขใช้เป็นที่สร้ำงโรงพยำบำลระยอง ฉะนันเจดีย์องค์นีจึงอยู่ภำยใน
โรงพยำบำลระยองทำงโรงพยำบำลเปน็ ผู้ดูแลรกั ษำ อำณำเขตเหลือเพียงเท่ำฐำนขององค์เจดีย์มีรัวกันโดยรอบ
เจดีย์นีสร้ำงในสมัยพระยำศรีสุนทรโภคชัยโชคชิตสงครำมซ่ึงเป็นเจ้ำเมืองคนแรกของจังหวัดระยอง และกรม
ศิลปำกร ไดข้ ึนทะเบียนเป็นโบรำณสถำนแลว้ เม่อื ปี พ.ศ. 2538

องค์เจดีย์มีลักษณะทรงระฆัง ฐำนเชิงบำตรและบัวมำลัยได้สัดส่วน ก้ำนฉัตรประกอบด้วยเสำลูก
มะหวดโดยสว่ นต่ำง ๆ ของเจดีย์ครบแบบรูปลักษณ์ของเจดีย์มำตรฐำนท่ัวไปนับจำกฐำนเขียงขึนไปจนถึงยอด
เจดยี ์ได้สดั สว่ นรบั กันอย่ำงเหมำะเจำะแม้จะเสรมิ ฐำนเขียงให้สูงขึนไปก็ตำมจึงนับได้ว่ำเป็นเจดีย์ที่สวยงำมองค์
หนึ่ง แม้ปลียอดและหยำดนำค้ำงจะหักหำยไปก็ตำม เจดีย์นีสร้ำงขึนรุ่นเดียวกับเจดีย์กลำงนำระยอง วัดเก๋งนี
เดิมเคยใช้เป็นวัดที่ประกอบพิธีต่ำง ๆ ของทำงรำชกำร เช่น พิธีถือนำพิพัฒน์สัตยำของข้ำรำชกำร แม้ว่ำใน
ปัจจุบันวัดเก๋งจะเป็นวัดที่เหลือเพียงแต่ชื่อแล้วก็ตำม แต่ เจดีย์วัดเก๋ง ยังคงเป็นอนุสรณ์สถำนท่ีสำคัญ
ค่บู ำ้ นคเู่ มอื งระยอง ซ่ึงชำวระยองให้ควำมสำคัญกรำบไหวบ้ ชู ำและอธิษฐำนขอพร โดยเฉพำะผู้ท่ีมำรักษำตัวใน
โรงพยำบำลระยองและญำตพิ ีน่ อ้ งตำ่ งก็มำกรำบไหวส้ ักกำระบชู ำดว้ ยจิตใจที่ศรัทธำอยำ่ งแรงกล้ำ

พิพิธภณั ฑ์เมอื งระยอง

พิพิธภัณฑ์เมืองระยอง อยู่ช่วงกลำงถนนยมจินดำเป็นส่วนท่ีเปิดให้ได้ท่องเที่ยวเรียนรู้ศึกษำประวัติ
เมืองระยอง และตระหนักท่ีจะช่วยกันอนุรักษ์ในหลำยๆส่ิงท่ีจำงหำยไป ให้กลับมำอีกครังที่น่ี โดยคนรุ่นเก่ำ
และรุ่นใหม่ร่วมมอื กัน (เขำ้ ชมฟรี เปิดทกุ วนั )

พพิ ธิ ภัณฑ์เกดิ จำกควำมตังใจของกลมุ่ ชมรมอนุรักษ์ฟื้นฟูเมอื งเก่ำระยอง ให้เป็นที่รวบรวมของเก่ำของ
ดีของเมืองระยอง ทังภำพถ่ำยโบรำณหำชมยำก ข้ำวของเคร่ืองใช้ต่ำงๆ ที่แสดงถึงชีวิตควำมเป็นอยู่ของชำว
ระยองในอดตี ตัวพพิ ิธภณั ฑไ์ ดร้ บั กำรเอือเฟื้อสถำนที่ให้ใชพ้ ืนที่ของบ้ำนสัตย์อุดม บ้ำนเดิมของขุนศรีอุทัยเขตร์
(โป๊ง สัตย์อุดม) เจ้ำของโรงสี โรงหนัง และอูต่ อ่ เรอื ในอดตี

สวนพฤกษชาตโิ สภา

สวนพฤกษชำติโสภำ เป็นสวนเอกชนปลูกต้นไม้หลำกหลำยชนิดประกอบด้วย ไม้เบญจพรรณ ไม้ใน
วรรณคดี ไมเ้ ลือยเปน็ ตน้ นอกจำกนียังมีเรือนไทยโบรำณอำยุร่วม 100 ปี จำนวน 3 หลัง จัดแสดงเครื่องลำย
ครำมของไทยสมยั ตำ่ งๆ โดยเฉพำะเครอื่ งปน้ั ดินเผำสมัยบ้ำนเชียง

สวนพฤกษชำติโสภำเป็นสวนท่ีมีต้นไม้มำกชนิดแห่งหน่ึงในประเทศไทย มีเนือที่ 32 ไร่ เป็นป่ำ
ละเมำะ 4 ไร่ อีก 28 ไร่เป็นป่ำทึบ ซ่ึงตกแต่งด้วยเครื่องเรือนและเคร่ืองใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทย
สมัยก่อน นอกจำกนียังมีโบรำณวัตถุและศิลปวัตถุโดยเฉพำะเครื่องป้ันดินเผำสมัยบ้ำนเชียงมำตังแสดงเป็น
จำนวนมำก สวนพฤกษชำตโิ สภำนีเจ้ำของได้อุทิศให้มูลนิธิเสวตรโสภำ เพื่อให้เป็นมรดกไทยสำหรับประชำชน
ไดศ้ กึ ษำ หำควำมรูใ้ นดำ้ นพฤกษศำสตร์และโบรำณคดี

ตลาดน้าเกาะกลอย

ตลำดนำเกำะกลอย ตงั อยใู่ นบริเวณดำ้ นหลงั ปม้ั นำมนั ปตท. บนถนนสำย 36 ตรงข้ำม Big C ระยอง
เป็นตลำดนำเปิดใหม่ ในคอนเซ็ป "เพลิดเพลินเดินเล่น ตลำดเกำะกลอย อุ่นไอร่องรอย ควำมทรงจำครัง
เยำว์วัย" ซ่ึงทันทีที่ก้ำวเท้ำผ่ำนประตูทำงเข้ำจะได้เห็นสะพำนไม้ทอดตัวไปสู่ตลำดเพื่อเดินไปสัมผัสกับ
บรรยำกำศยอ้ นยคุ ชวนให้รอื ฟนื้ ถงึ กล่นิ อำยของตลำดเกำ่ แก่ในวันวำน

โดยตลอดเส้นทำงจะมรี ำ้ นค้ำที่ตกแตง่ ด้วยคอนเซ็ปยคุ เกำ่ โบรำณ ซึ่งมีสินค้ำให้เลือกช้อป เช่น เสือยืด
ของที่ระลึก ของแต่งบ้ำน เครื่องประดับ อัญมณี ผ้ำบำติกลวดลำยเก๋ ๆ ฯลฯ รวมถึงให้เลือกชมกันมำกมำยไม่
ว่ำจะเป็นร้ำนอำหำรตำมส่ัง หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ขนมหวำน ขนมไทย เครื่องด่ืมกำแฟโบรำณ
เครื่องดม่ื นำจรด นำผักผลไม้ ฯลฯ แถมสถำนท่ียังสะอำด มีลมพัดเย็นสบำย ๆ หรือหำกเดินจนเหนื่อย ที่นี่ก็มี
บริกำรนวดแผนโบรำณ

วดั สารนารถธรรมาราม

วัดสำรนำรถธรรมำรำมมมี หำอโุ บสถปชู นยี สถำนท่ีสวยงำม เป็นสถำนที่บรรจุพระบรมสำรีริกธำตุและ
พระพุทธรูปองค์พระประธำนจำลองมำจำกพระพุทธชินรำช วัดมหำธำตุ จังหวัดพิษณุโลก บริเวณมุมกำแพง
แก้วรอบอุโบสถทัง 4 ได้จำลองเอำพระพุทธเจดีย์ที่สำคัญของแต่ละภำคไว้ คือ พระปฐมเจดีย์ พระธำตุพนม
พระเจดียพ์ ุทธคยำจำลอง และพระบรมธำตไุ ชยำ

ตังอยู่ในเขตเทศบำลตำบลเมืองแกลง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ประวัติควำมเป็นมำของวัดเมื่อปี พ.ศ.
2487 ท่ำนเจ้ำคณุ มหำรัชชมงั คลำจำรย์ เจ้ำอำวำสวัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ได้เดินทำงมำเยี่ยมบ้ำนเกิดของ
ท่ำนและพักจำวัดอยู่ท่ีวัดตะเคียนงำม บ้ำนปำกนำประแสร์ ซ่ึงเป็นวัดแห่งเดียวในบริเวณนันปรำกฏว่ำมี
ชำวบ้ำนจำกตลำดสำมย่ำนหลำยคนไปนมัสกำรท่ำนเจ้ำคุณที่วัดตะเคียนงำมด้วยควำมศรัทธำพร้อมกั บกรำบ
เรียนให้ท่ำนเจ้ำคุณทรำบว่ำทุกวันนีชำวตลำดสำมย่ำนห่ำงไกลวัดจะทำบุญกันทีก็ยำก ด้วยสมัยนันทำงหลวง
สขุ ุมวทิ ซึ่งเรม่ิ สร้ำงมำแต่ปี พ.ศ. 2484 ยังไม่เสร็จเรียบร้อยจำกตลำดสำมย่ำนจะมำปำกนำประแสร์ก็ต้องนั่ง
เรือแจวหรือไม่ก็เดินตัดทุ่งมำก็ลำบำกกับชำวสำมย่ำนยิ่งนักจึงอยำกสร้ำงวัดนีขึนอีกแห่งให้อยู่ใกล้ กับตลำด
สำมยำ่ นซง่ึ สมยั นนั ตลำดสำมย่ำนเป็นตลำดของอำเภอแกลง

วดั ราชบัลลังก์ประดษิ ฐาราม

วัดรำชบัลลังก์ประดิษฐำรำม อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ตำมประวัติที่เล่ำสืบต่อกันมำสันนิษฐำนกัน
ว่ำแรกเริ่มนันเป็นวัดที่ “พระเจ้ำตำกสิน” ให้ชำวบ้ำนสร้ำงขึน เพ่ืออุทิศส่วนกุศลให้กับทหำรที่เสียชีวิตจำก
วรี กรรมทงุ่ เพลงบ้ำนทะเลน้อย เมื่อครังก่อนเข้ำตีเมืองจันทบูร ในช่วงกลำงปีพุทธศักรำช 2310 พระเจ้ำตำก
ทรงช้ำงพระที่น่งั “คีรบี ญั ชร” พรอ้ มกำลงั ทหำรยกทัพออกจำกเมืองระยองมำตงั ค่ำยพักท่วี ัดแห่งนี

ว่ำกันว่ำบริเวณนีได้มีกำรทำพิธีกรรมอันศักด์ิสิทธิ์เพ่ือมุ่งหมำยกอบกู้แผ่นดินชำติบ้ำนเมือง ทุบหม้อข้ำวหม้อ
แกงชีเป็นชีตำย หมำยม่ันชนะชัยไปสู่เป้ำหมำย “เมืองจันทบูร” สุดท้ำยกองทัพพระเจ้ำตำกก็สำมำรถตีเมือง
จันทบูรแตกได้เข้ำไปกินข้ำวกันในเมืองพร้อมกับมีผู้คนมำเข้ำร่วมทัพเพิ่มจำนวนมำกขึนสำมเดือนผ่ำนไปก็
รวบรวมเสบยี งไพรพ่ ลยกทัพเรือล่องมำจนถึงปำกแม่นำเจ้ำพระยำยึดเมืองธนบุรีจำกพม่ำได้สำเร็จจำกนันก็ยก
ทพั ตอ่ ไปยงั กรุงศรอี ยธุ ยำก่อนท่จี ะเข้ำยึดค่ำยโพธ์ิสำมต้นกอบกู้เอกรำชได้สำเร็จภำยในระยะเวลำ 7 เดือนนับ
แตเ่ สียกรงุ ในปีพุทธศกั รำช 2310

วดั กองดนิ

วัดกองดิน สถำนท่ีแห่งนีเมื่อครังท่ีกรุงศรีอยุธยำมีข้ำศึกพม่ำยกทัพมำประชิดพระนครบ้ำนเมืองเกิด
ควำมว่นุ วำยระส่ำระสำยไมม่ ีใครคดิ ที่จะต่อสู้กบั ขำ้ ศึกพม่ำ ตำ่ งพยำยำมท่ีจะหนีเอำตัวรอดกัน ครังนันพระยำว
ชิรปรำกำร เห็นว่ำพม่ำมีกำลังเสริมเพิ่มขึน และล้อมกรุงศรีอยุธยำไว้ทุกด้ำน เห็นทีจะเสียกรุงแก่พม่ำเป็นแน่
แท้หำกเรำขนื ชักชำ้ อยูช่ ว่ ยรบทำกำรป้องกนั พระนครกอ็ ำจจะพำ่ ยแพ้แก่ข้ำศึกศัตรูพวกพมำ่ ได้

จนลุถงึ วันเสำร์ เดือนย่ี ขึน ๔ ค่ำ พุทธศักรำช ๒๓๐๙ ปีจอ อัฐศก พระยำวชิรปรำกำร จึงได้ตัดสินใจรวบรวม
ไพร่พลรำว ๕๐๐ คน ตีฝ่ำวงล้อมพวกพม่ำไปทำงค่ำยวัดพิชัย บ้ำนโพธิ์สังหำร แล้วมุ่งตรงไปยังหัวเมือง
ชำยทะเลฝั่งตะวันออก เพ่ือรวบรวมกำลังไพร่พล โดยมีจุดหมำยปลำยทำงที่เมืองจันทบูรณ์ ในระหว่ำงกำร
เดินทัพ ได้ผ่ำนเมืองระยอง บ้ำนไร่ บ้ำนกร่ำ เมืองแกลง ประแส เพื่อมุ่งไปสู่จันทบูรณ์นัน กองทัพของพระยำ
ตำก ได้มำตังคำ่ ยหยุดพักทพั มำ้ ทัพช้ำงและไพรพ่ ลอยูท่ บ่ี รเิ วณวัดแห่งหนึ่ง และใช้สถำนท่ีดังกล่ำวในกำรตำดิน
ปืนเพื่อเตรียมไว้ใช้ในกำรออกศึกสงครำมสถำนที่ตำดินปืนในครังนันจึงถูกเรียกว่ำ "กองดินปืน" เป็นเหตุที่มำ
ของชื่อหมู่บ้ำนหรอื ตำบล นำนเขำ้ กเ็ รยี กกนั สัน ๆ วำ่ "ตำบลกองดนิ "สบื มำจนถงึ ปจั จบุ ัน

พพิ ิธภัณฑพ์ นื บา้ นวดั เขากระโดน

จำกแรกเริ่มเดิมมีผู้บริจำคเกวียน คันไถ เครื่องสีฝัด ซึ่งขณะนันกำลังสร้ำงอุโบสถหลังใหม่ซึ่งอุโบสถ
หลังใหม่ไดท้ ำหอ้ งใต้ดินเพือ่ เกบ็ เครอื่ งมือเครอ่ื งใช้ของทำงวัด จึงมีควำมคิดริเร่ิมว่ำน่ำจะปูกระเบืองและใช้เก็บ
เคร่ืองสีฝัดท่ีมีอยู่แล้วจำนวน ๓ เคร่ือง เครื่องสีฝัด ๓ เคร่ืองนีได้ติดช่ือผู้บริจำคไว้อย่ำงชัดเจน และเม่ือผู้มำ
เยี่ยมวัดจึงได้พำไปดูห้องใต้ดินทุกครังจนในที่สุดก็มี ผู้บริจำคส่ิงของเรื่อยมำส่ิงของจะมีตังแต่แรกเร่ิมจน
ปจั จบุ นั และปัจจุบนั ไดเ้ ปิดเปน็ พิพธิ ภัณฑ์พนื บ้ำนโดยเปดิ ให้ชมทุกวัน ตำมวันเวลำรำชกำร

พิพิธภัณฑ์พืนบ้ำนวัดเขำกระโดนตังอยู่ชันใต้ดินของโบสถ์ของวัดเขำกระโดนเป็นวัดเก่ำแก่ที่สร้ำงมำ
ตงั แต่ในสมัยรชั กำลท่ี 4 วตั ถทุ ี่จดั แสดงมหี ลำกหลำย อำทิ พระพุทธรปู ปำงสมำธิเนือโลหะซึ่งเป็นพระประธำน
ในอุโบสถหลังเก่ำ พระพุทธรูปบูชำต่ำงๆ ตู้คัมภีร์ เคร่ืองปั้นดินเผำ ถ้วยชำมสังคโลก หนังตะลุง เครื่องใช้
ภำยในบ้ำนทไ่ี ม่ได้ใชง้ ำนแล้ว เชน่ โทรทศั น์ วทิ ยุ นอกจำกนี วัดยังจดั ตงั เปน็ ศูนย์วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี และ
สิ่งแวดล้อมจังหวัดระยองโดยกำรจัดกำรศึกษำให้แก่ชุมชน ดนตรีไทย ศิลปะผูกผ้ำประดับงำนพิธีต่ำงๆ กำร
เขียนป้ำยโฆษณำอักษรวิจิตร พิมพ์ดีดภำษำไทย คอมพิวเตอร์ ช่ำงไฟฟ้ำ ช่ำงเชื่อมโลหะ ภำยในวัดยังมีส่วน
ของอำคำรกลำงแจง้ ที่แสดงเครอื่ งใช้ กสกิ รรม หอกระจำยข่ำว สวนวรรณคดี สวนป่ำสมนุ ไพร

ศาลกรมหลวงชมุ พรเขตอุดมศกั ด์ิ

พลเรอื เอกพระเจำ้ บรมวงศ์เธอ พระองคเ์ จำ้ อำภำกรเกยี รติวงศ์ กรมหลวงชมุ พรเขตอุดมศักดิ์ ทรงเป็น
พระเจ้ำลกู ยำเธอลำดบั ที่ 28 ในพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ ัว พระมำรดำคือเจำ้ จอมมำรดำโหมด
ธิดำของเจ้ำพระยำสุรวงศ์ไวยวัฒน์ ประสูติเม่ือวันท่ี 19 ธันวำคม 2423 พระองค์ทรงได้รับกำรถวำยพระ
สมญั ญำจำกกองทัพเรือวำ่ เป็น ‘องค์บิดำของทหำรเรือไทย’ เม่ือวันท่ี 19 เมษำยน 2544 จำกพระกรณียกิจ
ของพระองคท์ ที่ รงวำงรำกฐำนและพฒั นำปรับปรุงทหำรเรอื สยำมใหเ้ จริญก้ำวหนำ้ ตำมแบบประเทศตะวันตก

ศำลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์เป็นศำลที่ประดิษฐำนรูปหล่อพลเรือเอกพระเจ้ำบรมวงศ์เธอกรม
หลวงชุมพรเขตอุดมศักด์ิ พระบิดำแห่งกองทัพเรือไทย ขนำดเท่ำองค์จริง ศำลตังอยู่ริมแม่นำประแสและเป็น
หนึง่ ในบรรดำศำลที่ชำวเมอื งระยองใหค้ วำมเคำรพสกั กำระเป็นอยำ่ งมำก

วนั ศกุ รท์ ี่ 19 ธันวำคม 2512 พระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยูห่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช และสมเด็จพระนำงเจ้ำ
สิริกิติ์พระบรมรำชินีนำถเสด็จพระรำชดำเนินมำทรงประกอบพิธีประดิษฐำนพระรูปกรมหลวงชุมพรเขตอุดม
ศักดิ์ ณ พระตำหนักฯตำบลปำกนำกระแส อ.แกลง จ.ระยอง จึงทำให้ศำลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ปำกนำประแสแห่งนมี ีควำมพิเศษ คือ เป็นเพียง 1 ใน 11 แห่งจำกทังหมด 200 กว่ำแห่งท่ีพระองค์ท่ำนทรง
เสดจ็ มำประกอบพิธีเปดิ ศำลฯด้วยพระองคเ์ อง

อนุสาวรีย์สุนทรภู่

อนสุ ำวรยี ์สนุ ทรภู่ เป็นอนุสำวรยี ์ทส่ี รำ้ งเพอ่ื เปน็ ที่ระลึกถึงสุนทรภู่ กวีเอกในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
อนสุ ำวรยี น์ ีเปดิ เม่ือวันท่ี 25 พฤษภำคม 2513 มีพืนที่ 8 ไรค่ รง่ึ เป็นที่ประดิษฐำนรูปหล่อสุนทรภู่นั่งเด่นสง่ำ
ในท่ำที่กำลังแตง่ โคลงกลอนอยู่หนำ้ สระนำใหญ่

เบืองล่ำงมีรูปหล่อพระอภัยมณีกำลังเป่ำป่ี และในสระนำใหญ่นันมีรูปหล่อนำงเงือกแสนสวย กับนำงผีเสือ
สมุทรท่ีกำลังเอือมมือจะยือยุดพระอภัยมณี นับว่ำเป็นอนุสำวรีย์กวี แห่งแรกและแห่งเดียวท่ีมีอยู่ในประเทศ
ไทยตังอยเู่ ลยแหลมแมพ่ มิ พไ์ ปทำงตำบลกร่ำ อำเภอแกลง ประมำณ 5 กิโลเมตร เป็นอนุสำวรีย์ท่ีสร้ำงขึนเพื่อ
ระลึกถึงท่ำนสุนทรภู่ กวีศรีรัตนโกสินทร์ และในวันที่ 26 มิถุนำยนของทุกปี จะมีพิธีเซ่นไหว้ บวงสรวง
สกั กำระดวงวญิ ญำณของทำ่ น กำรแสดงนิทรรศกำร และละครในวรรณกรรมของสนุ ทรภู่ โดยจังหวัดระยองจัด
ให้เป็นงำนท่ีย่ิงใหญ่ นอกจำกนีบริเวณด้ำนหน้ำยังมีร้ำนค้ำขำยอำหำรของกินของฝำกหลำยร้ำนให้
นักท่องเทยี่ วไดเ้ ลอื กซือ

อนุสรณเ์ รอื หลวงประแส

วันท่ี 24 ธันวำคม 2546 เวลำ 15.00 น. เรือหลวงประแสได้เคลื่อนย้ำยจำกอู่เรือรำชนำวีมหิดล
อดุลยเดช อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยได้รับกำรสนับสนุนจำกกองทัพเรือในกำรลำกจูงเรือมำถึงจังหวัด
ระยอง โดยอ้อมเกำะมันมำจอดพักท่ีตำบลพังรำด อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ในเวลำ 06.00 น. ของวันท่ี
25 ธันวำคม 2546 และได้รับควำมอนุเครำะห์จำกชำวประมงในลุ่มนำประแส ร่วมกันนำเรือประมงทำกำร
ลำกจงู เรอื หลวงประแสต่อจำกกองทัพเรือ มำถงึ ปำกแม่นำประแสในเวลำ 10.00 น. จอดพักเป็นเวลำหนึ่งคืน
แล้วนำเรือหลวงประแสเข้ำสู่ฐำนจอดที่ได้จัดเตรียมไว้ นับเป็นกำรแล่นครังสุดท้ำยของเรือรบหลวงที่เต็มไป
ดว้ ยประวตั ศิ ำสตรก์ ำรรกั ษำอธิปไตยของรำชนำวีไทย

หลังจำกเรอื รบหลวงประแสลำท่ี 1 ประสบเครำะห์กรรมจำกสงครำม เกยตืนท่ีชำยฝั่งประเทศเกำหลีเหนือใน
สงครำมคำบสมุทรเกำหลีที่ประเทศไทยส่งกองกำลังไปช่วยรบในนำมกองกำลังสหประชำชำติ เรือรบหลวง
ประแส ลำที่ 2 จงึ ไดถ้ ือกำเนดิ ขึนในปี พ.ศ. 2494 ซ่ึงรัฐบำลไทยในยคุ นนั ไดต้ ิดต่อขอซือมำจำกสหรัฐอเมริกำ
หลังจำกเรือรบหลวงประแส (ลำท่ี 2) เข้ำประจำกำรในกองทัพเรือได้ เรือลำดังกล่ำวได้รับหน้ำที่ปฏิบัติกำร
มำแล้วหลำกหลำยรูปแบบ ไม่ว่ำจะเป็นกำรปฏิบัติกำรรบในครำบสมุทรเกำหลีต่อจำกเรือประแสลำที่หนึ่ง
รวมถึงปฏิบัติกำรทำงทะเลท่ีญ่ีปุ่น ปฏิบัติกำรคุ้มกันเรือบรรทุกนำมัน และรักษำอำณำเขต ดินแดนอธิปไตย
ของประเทศ ด้วยกำรแลน่ ลำดตระเวนไปทัว่ อ่ำวไทย จนกระทงั ในปี พ.ศ.2537 เรอื รบหลวงประแสที่ผ่ำนกำร
ใช้งำนมำอย่ำงยำวนำน ทำให้ตัวเรือมีสภำพเก่ำทรุดโทรมไม่คุ้มกับกำรซ่อม ทำงกองทัพเรือจึงได้ทำกำรปลด
ประจำกำรเรอื รบหลวงประแส และใชใ้ นกำรฝกึ ภำคทำงเรือของนกั เรยี นนำยเรือ

หมู่เกาะมัน

หมู่เกำะมันประกอบด้วยเกำะ 3 เกำะ คือ เกำะมันใน เกำะมันกลำง และเกำะมันนอก ซ่ึงเรียงตัวใน
แนวเหนือ-ใต้ ตังอยู่ในเขต ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เกำะมันในอยู่ใกล้แผ่นดินมำกท่ีสุด มี
ระยะห่ำงจำกอ่ำวมะขำมป้อมประมำณ 5 กิโลเมตร มีพืนท่ีประมำณ 130 ไร่ ปัจจุบันมีกำรควบคุมดูแลของ
ศูนย์วจิ ัยทรัพยำกรทำงทะเลและชำยฝั่งอ่ำวไทยฝ่ังตะวันออก กรมทรัพยำกรทำงทะเลและชำยฝ่ัง และยังเป็น
พื น ท่ี ด ำ เ นิ น ก ำ ร ข อ ง โ ค ร ง ก ำ ร อ นุ รั ก ษ์ เ ต่ ำ ท ะ เ ล ต ำ ม พ ร ะ ร ำ ช เ ส ำ ว นี ย์ ส ม เ ด็ จ พ ร ะ น ำ ง เ จ้ ำ สิ ริ กิ ต์ิ
พระบรมรำชินีนำถ เกำะมันกลำงอยู่ห่ำงจำกอ่ำวมะขำมป้อมประมำณ 6 กิโลเมตร มีพืนท่ีประมำณ 60 ไร่
และเกำะมันนอกอยู่ห่ำงจำกอ่ำงมะขำมป้อมซ่ึงมีแม่นำประแส ซึ่งเป็นแม่นำสำยหลักที่นำพำตะกอนและ
สำรอำหำรลงสู่ทะเล พืนท่ีโดยรอบเกำะมันในและเกำะมันกลำงเป็นพืนที่ตืน ระดับนำด้ำนนอกเกำะลึก
ประมำณ 10 เมตร ส่วนเกำะมันนอกได้รับอิทธิพลจำกแม่นำน้อยกว่ำสองเกำะด้ำนใน และมีระดับนำลึกกว่ำ
คอื ประมำณ 15 - 20 เมตร

สภำพพืนท่ีบนเกำะหมู่เกำะมัน ส่วนใหญ่ยังคงสภำพสมบูรณ์ ประกอบด้วยสังคมพืชหลัก 2 แบบ คือ ป่ำดิบ
แล้ง และป่ำชำยหำด จำกกำรศึกษำพบพรรณพืชทังสิน 60 วงศ์ 151 ชนิด เป็นไม้ล้มลุกท่ีอำศัยอยู่ในนำ
1 ชนิด ไม้เถำ 19 ชนิด ไม้พุ่มที่เกำะอำศัยบนต้นไม้ 2 ชนิด ไม้ต่ำงถ่ิน 35 ชนิด ไม้ล้มลุก 6 ไม้เถำล้มลุก 5
ชนิด กำฝำกเถำล้มลุก 1 ชนิด ไม้พุ่ม 6 ชนิด ไม้พุ่มขนำดเล็ก 4 ชนิด ไม้พุ่มกึ่งไม้ต้นขนำดเล็ก 11 ชนิด ไม้
ต้นขนำดเล็ก 16 ชนิด และไมต้ น้ 46 ชนิด โดยพบพชื ที่จัดเป็นไม้ประจำถ่ินเฉพำะภำคตะวันออกเฉียงใต้แห่ง
นี คอื เขม็ - ขำว (Ixora dolichophylla) ซึ่งจัดเป็นชนดิ พันธทุ์ ห่ี ำยำก พบเฉพำะทำงจงั หวัดตรำดและจันทบุรี
และบรเิ วณใกลเ้ คียง สำหรับทรัพยำกรสตั ว์บก พบสัตว์สะเทินนำสะเทินบก 2 ชนิด สัตว์เลือยคลำน 15 ชนิด
สัตว์เลยี งลูกด้วยนม 8 ชนดิ และนก 80 ชนิด

สวนสมุนไพรสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี

สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี อยู่ภำยใต้กำรดูแลของโรงแยกก๊ำซธรรมชำติ
บริษัท ปตท. จำกัด (มหำชน) ที่ได้จัดสร้ำงและน้อมเกล้ำฯ ถวำยในวโรกำสที่ สมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ
สยำมบรมรำชกุมำรี ทรงเจริญพระชนมำยุครบ 50 พรรษำ สวนสมุนไพรแห่งนีแบ่งส่วนจัดแสดงออกเป็น 2
ส่วน ไดแ้ ก่ นิทรรศกำรภำยใน อำคำรเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษำ และสวนสมุนไพรซ่ึงถือเป็นแหล่งรวบรวม
พืชพันธ์ุสมุนไพรมำกกว่ำ 260 ชนิด จัดกลุ่มและจำแนกตำมสรรพคุณในกำรรักษำตำมคัมภีร์ยำไทยโบรำณ
20 กล่มุ อำกำรซึง่ มีรถรำงบริกำรนำชมบรรยำกำศโดยรอบสวนพร้อมกับวิทยำกรท่ีจะคอยอธิบำยถึงส่วนต่ำงๆ
ภำยในสวน ซ่ึงแบ่งสัดส่วนไว้อย่ำงน่ำสนใจ ด้วยกำรจำแนกคุณลักษณะและสรรพคุณทำงยำของ พืชสมุนไพร
ทใ่ี ช้ในกำรรกั ษำ เป็นต้นว่ำ พืชสมุนไพรแก้โรคผิวหนงั กลุม่ ยำบำรงุ หวั ใจ กลมุ่ ยำบำรงุ เลอื ด กลมุ่ ยำแก้ไข้ กลุ่ม
ยำถอนพิษ กล่มุ ยำบำรงุ กำลัง และอืน่ ๆ เรำจงึ ได้เห็นหน้ำตำของพืชสมุนไพร แตล่ ะชนดิ อย่ำงชัดเจน

ดว้ ยเจตนำรมณ์ที่จะสืบสำนวิทยำกำรดำ้ นสมุนไพร บริษทั ปตท. จำกัด ( มหำชน ) สร้ำงสวนสมุนไพร
สมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี ซึ่งเป็นสวนสมุนไพรแห่งแรกของประเทศไทย ในบริเวณ
บ้ำนพกั พนักงำน ต.มำบขำ่ อ.นคิ มพฒั นำ จ.ระยอง เม่ือปี 2527 บนเนือที่ประมำณ 60 ไร่ และได้น้อมเกล้ำ
น้อมกระหม่อมถวำยแด่ สมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี เม่ือวันที่ 18 เมษำยน 2528
โดยในวโรกำสนี พระนำมสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนำงเจ้ำสิริกิต์ิ
พระบรมรำชินีนำถ สมเด็จพระเทพพระรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี และสมเด็จพระเจ้ำลูกเธอ เจ้ำฟ้ำ
จฬุ ำภรณวลัยลกั ษณ์ อคั รรำชกมุ ำรี ได้ทรงปลกู ต้นจันทน์เทศไว้ ณ สวนสมนุ ไพรแหง่ นี เพอื่ เป็นมงคลอนุสรณ์
และเน่ืองในวโรกำสมหำม่ิงมงคลท่ีสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี ทรงเจริญพระชนมำยุ
50 พรรษำ ปตท.ได้จัดสร้ำงอำคำรเฉลิมพระเกียรติ และอำคำรนิทรรศกำรเผยแพร่ควำมรู้เก่ียวกับสมุนไพร
เพอ่ื เป็นแหลง่ ศกึ ษำเรยี นรู้ สำหรับผสู้ นใจ และเป็นแหลง่ ท่องเท่ยี วสำหรับชำวระยองและประชำชนทั่วไป

ชมุ ชนปากนา้ ประแส

ชุมชนปำกนำประแสเป็นชุมชนโบรำณตังแต่สมัยอยุธยำ มีควำมอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยำกรทำง
ธรรมชำติ และมคี วำมหลำกหลำยทำงวฒั นธรรม ประชำกรท่ีอำศยั มีทงั ชำวไทยและชำวจีน พืนที่ชุมชนประแส
มีทังส่วนที่ติดริมนำและด้ำนในที่ไม่ติดริมนำประชำกรเกือบคร่ึงท่ีตังบ้ำนเรือนอยู่ริมนำประกอบอำชีพประมง
ขณะทป่ี ระชำกรทีต่ ังรกรำกอยู่ในพืนท่ีด้ำนในไม่ตดิ รมิ นำตังแต่หน้ำวัดตะเคียนงำมไปจรดทุ่งคลองปูนประกอบ
อำชีพทำนำ ทำสวน เช่น สวนมะม่วง เป็นหลัก ผลิตภัณฑ์ที่ได้จำกกำรทำประมงได้มีกำรแปรรูปทำให้เป็น
สนิ คำ้ ทีโ่ ดดเดน่ ของชมุ ชน ชุมชนประแสไมเ่ พยี งมีชอ่ื เสียงดำ้ นอำหำรทะเลสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปจำกอำหำร
ทะเลเท่ำนนั แตใ่ นชมุ ชนยังมีร้ำนอำหำรดงั หลำยร้ำน

ในทุกวนั เพญ็ เดือนพฤศจิกำยนของทกุ ปีเปน็ เทศกำลลอยกระทงชุมชนปำกนำประแสจะมีกำรจัดงำนทอดผ้ำป่ำ
กลำงนำซ่ึงเป็นประเพณีสำคัญที่แปลกตำกว่ำพืนที่อ่ืน เนื่องจำกชำวบ้ำนส่วนใหญ่ในชุมชนมีอำชีพประมงซึ่ง
ต้องใช้ชีวิตอยู่ในเรือเกือบตลอด เรือจึงเปรียบเสมือนบ้ำนหลังท่ีสอง ชำวประมงซึ่งต้องกำรทำบุญบ้ำน (เรือ)
เพอ่ื เปน็ สิริมงคลจึงจดั ทำบญุ ทอดผำ้ ปำ่ ขนึ ในเรอื โดยเปน็ ประเพณที ่ีมีมำนำนกวำ่ 100 ปี

วัดสมมติเทพฐาปนาราม

วัดสมมติเทพฐำปนำรำม วัดเก่ำแก่ของตำบลปำกนำประแส โดยมีประวัติควำมเป็นมำว่ำเมื่อครังท่ี
พระบำทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลำ้ เจำ้ อยู่หัว รัชกำลท่ี ๕ เสดจ็ ประพำสเมืองชำยทะเลฝั่งตะวันออก ขึนประทับที่
ตำบลปำกนำประแส ฝั่งแหลมสนเมอื งแกลง เสด็จมำใกล้เจดียสถำน ทรงพระรำชดำริว่ำ “ตำบลปำกนำแหลม
สนนีสมควรเป็นท่ีสร้ำงอำรำมได้” จึงมีพระบรมรำชโองกำรโปรดเกล้ำฯ ให้พระแกลงแกล้วกล้ำ (ม่ัง) ผู้ว่ำ
รำชกำรเมืองแกลงสร้ำงอำรำมขึนใกล้เจดีย์ และพระรำชทำนนำมว่ำ “วัดสมมติเทพฐำปนำรำม” พร้อม
พระรำชทำนทด่ี นิ สรำ้ งวดั จำนวน 10 ไร่ 2 งำน

เมอื่ หลวงแกลงแกล้วกลำ้ (มั่ง) ไดร้ บั พระรำชโองกำรให้สร้ำงวัดนัน ในระยะแรกได้ก่อสร้ำงกุฏิเจ้ำอำวำสขึน 1
หลัง หอสวดมนต์ 1 หลัง หอฉนั 1 หลัง กุฏสิ งฆ์ 1 หลัง และได้ทำกำรกอ่ สรำ้ งอยู่ 2 ปี จึงแล้วเสร็จ ทำงวัดได้
ทำกำรผูกพัทธสีมำครังแรก (พ.ศ.2445) กระทรวงธรรมกำรได้ส่งธรรมำสน์และพระบรมรูปหล่อรัชกำลที่ ๕
มำไวส้ ำหรับพระอำรำมหลวงพระองค์ทรงโปรดเกล้ำฯ ให้สร้ำงไว้ และยังมขี องพระรำชทำนอื่น ๆ อีก ต่อมำใน
ปี พ.ศ.2512 ได้มีกำรดำเนินกำรสร้ำงอุโบสถหลังใหม่ 1 หลัง โดยอำศัยกำลังทรัพย์จำกแรงศรัทธำของ
พุทธศำสนกิ ชน ซึ่งชำวบ้ำนในหมูบ่ ้ำนและท่ัวไปท่ีรู้จักวัดแห่งนีจะนิยมเรียกสันๆ ว่ำ วัดหลวงหรือวัดแหลมสน
โดยตงั อยู่รมิ ฝัง่ แมน่ ำประแส

ส้านักงานวัฒนธรรมจังหวัดระยอง

ชัน 4 ศูนยร์ ำชกำรจังหวัดระยอง ถนนสขุ มุ วทิ ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง 21150
โทรศพั ท์ 038-694154 โทรสำร 038-694154
www.rayong-culture.org


Click to View FlipBook Version