ความรทู้ วั่ ไปเกี่ยวกับเพลงร่อยพรรษา
เพลงร่อยพรรษา เป็นเพลงพื้นบ้านที่ร้องเฉพาะในช่วงก่อน
ออกพรรษา เพื่อร้องเชิญชวนชาวบ้านให้ร่วมบริจาคจตุปัจจัย
ไทยทาน เงิน ข้าวสาร ฯลฯ แล้วรวบรวมนำไปถวายวัดใน
วันทอดกฐิน คณะนักเพลงส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยที่มีเสียสละและ
ความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา มีทั้งพ่อเพลง แม่เพลง
และลูกคู่จะเดินทางไปด้วยร้องเพลงร่อยพรรษาไปด้วยตามหมู่บ้าน
หรือชุมชนต่าง ๆ เป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความสามัคคีเป็น
นำ้ หนงึ่ ใจเดยี วกันของคนในชมุ ชนเดียวกนั และชุมชนใกลเ้ คียง
ท่ีมาของเพลงรอ่ ยพรรษา
เพ ล ง ร่ อ ย พ ร ร ษ า เป็ น เพ ล งท่ี ร้ อ ง พ ร่ ำ พ ร ร ณ น า ต า ม
อารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ เช่น ขอร้อง วิงวอน ชวนให้ผู้ฟังเกิดความ
เคลิบเคลิม้ เดิมเป็นเพลงประจำอำเภอพนมทวน จังหวดั กาญจนบรุ ี
แต่ปัจจุบันได้ร้องเพลงน้ีแพร่กระจายไปยังอำเภอใกล้เคียง จังหวัด
กาญจนบุรี คือ อำเภอเมอื งกาญจนบุรี ซึ่งคณะผู้ศึกษาได้สำรวจพบ
ข้อมูลเพลงร่อยพรรษาที่ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองกาญจนบุรี
ซง่ึ ในปัจจุบันยังคงรอ้ งกันในหมูผ่ ู้มอี ายุกว่า 40-60 ปีขึ้นไป เอกสาร
สถติ ิการศกึ ษาของอำเภอพนมทวนอธบิ ายเกย่ี วกับเพลงรอ่ ยพรรษา
ไว้ดังน้ี (เอกสารสถิติการศึกษา, 2513, หน้า 3)
“. ...เพลงร่อยพรรษา ส่วนมากผู้เฒ่าผู้แก่เป็นคน
ร้อง การละเล่นแบบน้ีจะเล่นก่อนวันออกพรรษา
1 วัน หากเป็นหมู่บ้านใหญ่ อาจทำก่อนหลายวัน
จนกว่าจะถึงวันออกพรรษา การเล่นเพลงน้ี
เมื่อก่อน จะถึงวันออกพรรษาชาวบ้าน (ส่วนมาก
เป็นคนสูงอายุ) จะรวบรวมพวกกันขึ้นพร้อมกับ
หาบกระบุง ตะกร้า ตระเวนไปยังบ้านต่าง ๆ
ภายในหมู่บ้านของตน เม่ือถึงบ้านใครก็จะร้อง
เพลงท่ีหน้าบันได หรือท่ีหน้าบ้านโดยท่ีเน้ือเพลง
อาจจะยกย่อง ชมบ้าน ชมสิ่งของ ตลอดจน
เจ้าของบ้านในทางท่ีดี ส่วนเจ้าของบ้านก็จะให้
ส่ิงของ เช่น เงิน ข้าวสาร ขนม หรือผลไม้ ฯลฯ
ส่วนท่ีกินได้ คณะที่ไปกันก็จะกินไป ส่วนเงินทอง
และสิ่งของท่ีเหลือก็ไปถวายวัดเป็นการทำบุญไป
ดว้ ยในตวั ... "
ลักษณะของเพลงร่อยพรรษา
เพลงร่อยพรรษาเป็นเพลงร้องรำพันประเภทหนึ่งเป็น
การร้องที่มีพ่อเพลง แม่เพลง และลูกคู่เท่าน้ัน ไม่มีเคร่ืองดนตรี
ประอบ ท่วงทำนองการร้องใช้การเอื้อนและทอดเสียงยาวคล้าย
ทำนองสวด มีลูกคู่ร้องรับซ้ำ ในบางท่อน ส่วนการแต่งกายของ
คณะเพลงร่อยพรรษา นิยมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดแบบไทย เช่น
ผู้ชายนิยมใช้เสื้อแขนยาว สวมกางเกงขายาว สวมหมวก ผู้หญิงนุ่ง
โจงกระเลนหรือนุ่งผ้าถุงสวมงอบ ประดับดอกไม้ที่หาได้ในท้องถ่ิน
ผู้ร้องทุกคนถือไม้เท้า มคี นหาบกระบุงตะกรา้ 1 หาบ อกี คนหนึ่งทำ
หน้าที่เป็นผู้ถือพาน มีดอกไม้พื้นบ้านหรือพวงมาลัยจัดวางวางพอ
งาม ซง่ึ พานน้ีมีไว้สำหรับรบั เงนิ ท่ีเจ้าของบา้ นนำมารว่ มบรจิ าค
จุดมงุ่ หมายของการเลน่ เพลงรอ่ ยพรรษา
การเล่นเพลงร่อยพรรษา เกิดจากการรวมตัวกันของชาว
คณะพ่อเพลงแม่เพลง มีศรัทธาร่วมใจพากันออกเดินทางออกไป
ร้องเพลงร่อยพรรษายังหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อเชิญชวนชาวบ้านที่มี
ศรัทธาในหมู่บ้านนั้น ๆ ได้ร่วมกันบริจาคเงิน ข้าวสารและอื่น ๆ
ทำบุญตามกำลังศรัทธาในช่วงเทศกาลออกพรรษา แล้วรวบรวมนำ
จตุปัจจัยและไทยทานเหล่าน้ันไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ในวันออก
พรรษา ท้ังนี้ จุดมุ่งหมายสำคัญของร้องเพลงร่อยพรรษา คือความ
เล่ือมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ถือเป็นการเสียสละกำลังกาย
กำลังสติปัญญา และกำลังทรัพย์ เพื่อทำนุบำรุง และสืบต่อ
พระพุทธศาสนา ดังนั้น เพลงร่อยพรรษานี้จึงได้ชื่อว่าเป็นเพลงท่ี
เกิ ด จ า ก พ ลั ง แ ห่ ง ค ว า ม ศ รั ท ธ า ข อ ง ช า ว พุ ท ธ ศ า นิ ก ช น โ ด ย แ ท้
(ห้องสมดุ ประชาชนอำเภอห้วยกระเจา, 2561)
ลกั ษณะฉนั ทลักษณ์ของเพลงร่อยพรรษา
ฉันทลักษณ์ของเพลงร่อยพรรษามีลักษณะเป็นคำกลอน
งา่ ย ๆ ร้องไปเร่ือย ๆ ซ่ึงอาจจะตรงกบั ชื่อเพลง คอื ไปเรื่อย ๆ ร่อย
ๆ ถ้าจะเขยี นเป็นฉันทลกั ษณก์ จ็ ะไดด้ ังน้ี
จำนวนคำอาจจะมากหรือนอ้ ยกว่านีก้ ไ็ ด้ ดังตวั อยา่ ง
คอ 1: ยกเทา้ ก้าวยา่ ง เสียงไก่กระพือปีกหาง
กระไรเมื่อกลางคนื
ลูกมาขอโทษเสยี เถดิ แมง่ ามทรัพย์ ลูกมากวนแม่
กำลงั หลับกต็ อ้ งต่ืน
คอ 2 อกถกู ไม่ชน่ื เลยเอย ลู ก ม า เที่ ย ง
นางกลางคนื
บทลูกคู่ ลูกคู่จะรับ 2 ครั้ง คือรับเมื่อร้องจบคำกลอนท่ี 1
โดยเอาความจาก 7-8 คำหลังในวรรคท่ี 2 ในคำกลอนท่ี 1 ดัง
ตัวอย่าง "กระพือปีกหางกระไรเมื่อกลางคืน" ลูกคู่จะรับอีกครั้งเม่ือ
คนร้องคอสองร้องจบ โดยจะรับท้ังวรรคแรกที่คนร้องคอสองเป็น
คนร้อง ดงั ตวั อย่าง "อกลูกไม่ชน่ื เลยเอย"
วธิ ีรอ้ ง การร้องเพลงร่อยพรรษาจะแบ่งเป็น 2 ตอน คือ
พ่อเพลงหรือคนร้องท่ีชำนาญจะร้องไปประมาณ 2 คำกลอน แล้ว
คนรอ้ งคอสองจะร้องตอ่ อีก 1 คำกลอน
การร้องนั้นผู้ร้องจะข้ึนเพลงไปตามลำดับ คือ เมื่อไปถึง
บ้านก็จะร้องเพลงเดิน อาจจะร้องเพลงเดินไปสัก 2-3 เพลง เมื่อ
เจ้าของบ้านต่ืนข้ึนให้ข้าวของเงินทองแล้วก็จะร้องเพลงพรสัก 1-2
เพลงแล้วก็ร้องเพลงลา ส่วนทำนองเพลงร่อยพรรษาจะช้ามาก มี
การลากเสียงให้ยาว ๆ ถือกันว่าย่ิงร้องช้าเท่าไรย่ิงดี ดังน้ันก็จะ
แทรก บทเอื้อน เช่น โอ อือ เขา้ ไปมาก
เพลงที่ร้องเมื่อไปถึงในแต่ละบ้านนั้น จะใช้เพลงไม่ซ้ำกัน
ดังนั้นเพลงร่อยพรรษาจึงมีเน้ือเพลงมาก ท้ังท่ีจดจำกันมาแต่
โบราณ และแต่งข้ึนใหม่ เช่น การให้พร ก็จะร้องเพลงพรไปตาม
สงิ่ ของทเี่ จา้ ของบ้านให้ เชน่ พรสตางค์ พรขนม พรข้าว ฯลฯ
ลกั ษณะเพลงร่อยพรรษา
เพลงรอ่ ยพรรษามีลกั ษณะดงั นี้
1. บทเพลงเดิน เพลงนี้ร้องในขณะที่ไปถึงบ้าน เพ่ือร้อง
เรียกให้เจ้าของบ้านต่ืน เปิกประตูรับคณะเพลง อาจจะเป็นการชม
บ้านชอ่ ง บริเวณบ้าน ชมบุญวาสนาของเจ้าของบา้ น ฯลฯ
2. บทเพลงชมบ้าน ใช้ร้องตอนท่ีมาถึงหน้าบ้าน เป็นการ
กล่าวชมความงามของบ้าน ความใหญ่โตน่าอยู่
3. บทเพลงขอ (ขอเร่ียไร) ใช้ร้องเพ่ือขอเรี่ยไรเงินจาก
เจา้ ของบา้ น ใหเ้ จ้าของบ้านรว่ มทำบุญตามกำลงั ศรทั ธา
4. บทเพลงให้เพลงพร ใช้ร้องให้พร หลังจากท่ีเจ้าของ
บ้านให้ส่ิงของแล้ว จะร้องอวยพรให้ได้พบกับส่ิงดี ๆ เช่น ให้ร่ำรวย
เงินทอง ให้มีอายุยืน ให้มีความสุขท้ังกายใจ ให้มีเกียตติยศช่ือเสียง
ฯลฯ
5. บทเพลงลา เพลงลาจะร้องเมื่อจะลาจากไปบ้านอ่ืน
เน้ือความจะคล้ายกับเพลงพร คือขอให้เจ้าของบนประสบกับ
ความสขุ สบายตลอดไปตามกุศลท่ไี ดท้ ำ
เนื้อเพลงร่อยพรรษา (ตำบลหนองบวั อำเภอเมอื งกาญจนบุรี
จังหวัดกาญจนบรุ )ี
วทิ ยากร: สุมาลี บญุ นอ้ ม
1. บทเพลงเดิน (ออกเดินทางกอ่ นเข้าบ้าน)
ตน้ เสยี ง โอย... ลูกมายกเท้าก้าวย่าง ไปตามแถวแนวทาง
ยา่ งค่อยบรรจง เอย เดิน
ลกู คู่ (แถวเอย เอย๋ แนวทาง ยา่ งค่อยบรรจง เอย เดนิ )
ต้นเสียง โอย...ทางนี้ลูกไม่เคยออก ตรอกนี้เล่าข้าเจ้าไม่
เคย เอย มา
ลกู คู่ (เอ๋ย มา เอย ตรอกนีเ้ ลา่ ขา้ เจา้ ไม่เคย เอย มา)
ตน้ เสียง โอย...หอมเอยดอกไม้ที่รายทาง ท่ีแม่ขุนนางมา
ปลกู เอย ไว้
ลกู คู่ (เอ๋ย ไว้ เอย ต้นไม้ที่รายทางที่แม่ขุนนางมาปลูก
เอย ไว้)
ตน้ เสยี ง โอย...มืด ๆ ค่ำ ๆ ลูกได้คลำหนทางมา เอาเสียง
มาแลกเงินตรา ไปทำ เอย บญุ
ลกู คู่ (เอ๋ยบุญเอย มืดๆ ค่ำๆ ลูกได้คลำหนทางมา เอา
เสยี งมาแรกเงนิ ตราไปทำ เอย บุญ
ตน้ เสยี ง โอย...ฝนก็ตกทางก็แฉะลูกได้แวะเข้ามาหาเอา
เสยี งมาแลกเงนิ ตราไปทำ เอย บญุ
ลกู คู่ (เอ๋ย บุญ เอย เอาเสียงมาแลกเงินตราไปทำ เอย
บุญ)
2. บทเพลงชมบา้ น (เมือ่ ถึงบา้ น)
ต้นเสยี ง โอย...ลูกมาเดินถ่อมตัวลูกขอเข้ารั้วหอมแต่ดอก
นมววั หอมอยเู่ ยน็ เอย เยน็
ลูกคู่ (หอม เอย เอ๋ยนมววั หอมอยู่เย็น เอย เยน็ )
ตน้ เสียง โอย...ถูกมาถึงบันไดแก้ว บุญมาหาแม่แล้ว ประตู
ของแมก่ ก็ ว้างใหญ่ ลูกมาน่ังราบ
กราบไหว้ กราบแมใ่ จ เอย บุญ
ลกู คู่ (เอ๋ย บุญ เอย ลูกมานั่งราบกราบไหว้ กราบแม่ใจ
เอย บญุ )
ตน้ เตยี ง โอย...ลูกพิศคูประตูของแม่ช่างใหญ่กว้าง ประตู
ขุนนางแม่หับ เอย ไว้ให้แม่เปิด
เถอะเหวยให้แม่เผยสักบาน ลูกน้อยจะได้คลาน
เข้าไป เอย ไหว้
ลกู คู่ (เอ๋ย ไว้ เอย ให้แม่เปิดเถอะ เหวยให้แม่เผยสักบาน
ลกู นอ้ ยจะได้คลานเข้าไป เอย ไหว)้
ต้นเสียง โอย ..ลูกมาเคาะประตูดังกุก ๆ ลุกขึ้นมาเถิดมา
ทำบญุ ร่วมกันจะไดข้ ึน้ วิมาน เอย ทอง
ลกู คู่ (เอ๋ย ทอง เอย มาทำบุญร่วมกันจะได้ขึ้นวิมาน
เอย ทอง)
ตน้ เสยี ง โอย...พิศดูเสาเรือนของแม่ก็ใหญ่โต มาต้ังอยู่บน
คนโทไมม่ ใี ครเทียม เอย ทาน
ลกู คู่ (เอ๋ย คน เอย คนโทไมม่ ีใครเทยี ม เอย ทาน)
ต้นเสยี ง โอย....พิศดูเสาเรือนของแม่ยังกะทาชาด หลังคา
แม่กด็ าด เอย ตะกั่ว
ลูกคู่ (ฝนตกเท่าไรก็ไม่รั่ว เอย จ่ัวแม่ปิดทองทอง เอย
คำ)
ตน้ เสียง โอย...ลูกพิศดูเสาเรือนของแม่ก็ใหญ่โต เปรียบ
เหมือนร่มโพธ์ริ ่มไทรที่แม่อาศยั
ลูกไม่เคยมา เคยไป ลกู กเ็ กรงใบ เอย บุญ
ลูกคู่ (ฝ่าเท้าลูกเป้ือนเรือนท่านขุนเอย ลูกก็เกรงใบบุญ
เสยี เอย จรงิ )
3. บทเพลงขอ (ขอเร่ียไร)
ตน้ เสียง โอย....ให้แม่มาทำบุญร่วมกัน จะได้ขึ้นวิมาน เอย
ทอง
ลกู คู่ (เอ๋ย ทอง เอย มาทำบุญร่วมกันจะได้ขึ้นวิมาน
เอย ทอง)
ต้นเสียง โอย...ใหแ้ มม่ าทำบญุ กันเถิดหนา มากน้อยเท่าไรก็
ไม่วา่ ตามแตศ่ รัทธา เอย ทำ
ลกู คู่ (เอ๋ย ทำ เอย มากน้อยท่าไรก็ไม่ว่าตามแต่ศรัทธา
เอย ทำ)
ต้นเสยี ง โอย...ให้แม่มาเถิดหนา มาทอดกฐิน ผ้าป่า ให้แม่
โมทนา เอย บุญ
ลกู คู่ (เอ๋ย บุญ เอย มาทอดกฐิน ผ้าป่าให้แม่โมทนา
เอย บญุ
ตน้ เสยี ง โอย...วันน้ีมาหาพ่อแม่พี่น้องกฐินไม่มีคนจองลูก
ต้องมาบอกบญุ เร่ียไรเอาไป
ซื้อไกรให้พระท่านครอง เชิญแม่มาเป็นเจ้าของ
เอย ไกร
ลกู คู่ (เอ๋ย ไกร เอย กฐินไม่มีคนจองเชิญแม่มาเป็น
เจา้ ของ เอย ไกร)
ต้นเสยี ง โอย...ลุกขึ้นเถิดแม่คุณให้แม่มาทำบุญร่วมกัน
เสยี งแมล่ ากถุงเงินดงั กร็อง ๆ เสียง
แม่ลากถุงทองดังกริ๊ง ๆ หรือว่าแม่หลับเสียจริง
จริง แท้แมก่ น็ ิ่ง เอย ฟงั
ลกู คู่ (เอ๋ย ฟัง เอย หรือว่าแม่หลับเสียจริงจริง แท้แม่ก็
น่ิง เอย ฟงั )
ต้นเสยี ง โอย...ลูกมาเคาะประตูกุ๊กกุ๊ก ให้แม่ลุกขึ้นมา
ทำบุญเสียก่อน แลว้ ถงึ ค่อยหลบั คอ่ ย
นอน เอย ใหม่
ลูกคู่ (เอ๋ย ใหม่ เอยให้แม่มาทำบุญกันเสียก่อน แล้วถึง
คอ่ ยหลบั ค่อยนอน เอย ใหม่)
4. บทเพลงให้พร (เจา้ ของบ้านร่วมทำบุญแล้ว)
ตน้ เสียง โอย...ลูกจะขอให้พรแม่งามเสงี่ยมให้แม่นุ่งพรม
หม่ เจยี มนงั่ เล่นบนเตยี งเอย ทอง
ลกู คู่ (พรม เอย เอ๋ย พรมเจียม นั่งเล่นบทเตียง เอย
ทอง)
ตน้ เสียง โอย....ลูกจะขอให้พร ขอให้เล็บแม่ขาวถือพาน
แปง้ ขอให้เล็บแมแ่ ดงถอื พานผ้า
แม่มาอยู่ร่อย ๆ ใส่แหวนนพรัตน์เดินดัดก้อย แห่
แม่ขา้ งละรอ้ ย เอย คน
ลกู คู่ (เอ๋ย คน เอย ใส่เหวนนพรัตน์เดินดัดก้อย แห่แม่
ข้างละร้อย เอย คน)
ต้นเสยี ง โอย...ลูกน้อยจะขอให้พร ให้แม่มีช้างงางอนผูกไว้
ท่เี สา เอย เรือน
ลกู คู่ (ชา้ งเอย เอย๋ งางอนผกู ไวท้ เี่ สา เอย เรอื น)
ต้นเสียง โอย...ลูกน้อยจะขอให้พรสองซ้ำให้แม่มีช้างเผือก
ชา้ งดำผกู ไว้ในลำ เอย กลอง
ลกู คู่ (ช้างเอย เอ๋ย ช้างดำ ผกู ไวใ้ นลำ เอย คลอง)
ต้นเสียง โอย...ลูกจะขอให้พรแม่คิดอะไรขออย่าได้ข้องขัด
แม่คดิ อะไร ขอให้สมมาตร
ปรารถนา แม่คิดเงินขอให้ไหลมากอง หากแม่คิด
ทอง ขอใหท้ องไหลมา
เทมา ไหลทฝ่ี า่ เอย มอื
ลูกคู่ (ไหล เอย ไหลลง ไหลลงท่ฝี า่ เอย มอื )
ตน้ เสยี ง โอย...ลูกจะขอให้พรเงินเฟ้ือง ขอให้เน้ือแม่เหลือง
เหมอื นขมิน้ แห้ง ขอให้เล็บแม่
แดงเหมือนแสงอาทิตย์ เน้ือแม่ขาวขำดังสมฤทธ์ิ
เน้ือแมเ่ หลอื งดัง ปิด เอย ทอง
ลกู คู่ (เอ๋ย ทอง เอย เนื้อแม่ขาวขำดังสัมฤทธ์ิ เน้ือแม่
เหลืองดงั ปดิ เอย ทอง)
ตน้ เสยี ง โอย...ลูกจะขอให้พรให้แม่นอนกลางวันขอให้ได้
เงินหมน่ื ถ้าหากแม่นอน
(กลางคืนขอให้ได้เงินล้าน ให้แม่มีรถเบนซ์วิ่งเล่น
หน้าบ้าน ให้แม่สขุ สำราญ เอย ใจ)
ลกู คู่ ( ให้แม่มรี ถเบนซว์ ่ิงเล่นหน้าบา้ น ให้แม่สุขสำราญ
เอย ใจ)
ตน้ เสียง โอย...ลูกจะขอให้พร ขอให้แขนแม่อ่อนเหมือนด่ัง
เทยี นปั้น ขอใหค้ วิ้ ของแมโ่ กง่
เหมือนวงพระจันทร์ ขอให้แฟนของท่านเลื่อนข้ัน
เป็นพนั เอย โท
ลูกคู่ (เอ๋ยโท เอย ให้แฟนของท่านเลื่อนข้นั เป็นพัน เอย
โท)
ต้นเสยี ง โอย...ลูกจะขอให้พรเงินตราให้มีคนถือธงนำหน้า
แห่แม่มาเหมือนดังองค์
พระศิ เอย อานต)์
ลูกคู่ (เอ๋ย ธง เอย ให้มีคนถือธงนำหน้า แห่มาเหมือน
ดังองค์พระศิ เอย อานต์)
5. บทเพลงลา (ลาเพ่ือท่จี ะไปบา้ นอ่นื )
ตน้ เสยี ง โอย...ลูกน้อยจะขอลา แม่เศรษฐีเรือนใหญ่ บันได
ทอง ล่าแมท่ ง้ั สอง เอย คน
ลกู คู่ (เศรษฐีเรือนใหญ่บันไดทอง ลาแม่ท้ังสอง เอย
คน)
ตน้ เสยี ง โอย...ลูกน้อยจะขอลา แม่เศรษฐีเรือนใหญ่บันได
เงิน ลาแม่ออกเดนิ เลย ไป
ลกู คู่ (เศรษฐีเรอื นใหญ่บันไดเงิน ลาแม่ออกเดินไป เลย
ไป)
ตน้ เสียง โอย...ลูกน้อยจะขอลา แม่เศรษฐีเรือนใหญ่ บันได
แก้ว ลาแม่ไปแลว้ เลย เอย
ลกู คู่ (เศรษฐีเรือนใหญ่ บันไดแก้ว ลาแม่ไปแล้ว เลย
เอย)
ตน้ เสยี ง โอย...อยู่เถิดหนาแม่จงอยู่ ทองคำสีชมพูห้อยไว้ที่
เชงิ เอย กลอน
ลกู คู่ (เอ๋ย กลอน เอย อยู่เถิดหนาแม่จงอยู่ ทองคำสี
ชมพหู ้อยไว้ทเ่ี ชิง เอย กลอน )
ตน้ เสยี ง โอย...ลูกจะขอลาคลาเคลื่อน ลาแม่ไปเรือน เอย
อืน่
ลกู คู่ (เอย๋ อน่ื เอย ลาแม่ไปเรอื น เอย อื่น)
ต้นเสยี ง โอย...ลูกน้อยจะขอลา ถึงเดือน 11 ออกพรรษาปี
หนา้ จะมา เอย ใหม่
ลูกคู่ (ถงึ เดอื น 11 ออกพรรษาปหี น้าจะมา เอย ใหม่)
เอกสารอ้างองิ
สุมาลี บุญน้อม. (สัมภาษณ์ 12 เมษายน 2565). วิทยากรเพลง
ร่อยพรรษา อายุ 48 ปี ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง
กาญจนบรุ ี จงั หวัดกาญจนบุรี
สุมามาลย์ เรืองเดช. (2518). เพลงพื้นเมืองจากพนมทวน. พระ
นคร: หน่วยศึกษานเิ ทศก์กรมการฝกึ หดั คร.ู
ห้องสมุดประชาชนอำเภอห้วยกระเจา. (2561). การร้องเพลงร่อย
พ ร ร ษ า . ค้ น เม่ื อ พ ฤ ษ ภ า ค ม 7 , 2 5 6 5 , จ า ก
https://libraryhuaikrajao.wixsite.com/huaikrajao/p
ost/%E0%B8
เอกสารสถิติการศกึ ษา อำเภอพนมทวน พ.ศ. 2513. มปท.
รปู ภาพประกอบกจิ กรรมการแสดงเพลงร่อยพรรษา
ของคณะถือศีลรอ่ ยพรรษา วดั ศรีอปุ ลาราม ตำบลหนองบวั
อำเภอเมืองกาญจนบรุ ี จังวัดกาญจนบุรี