1
บทเรยนสำเรจรูปประกอบภำพกำรตูน
์
็
ี
้
ื่
ิ
เรอง กำรสรำงเสรมสุขภำพ สมรรถภำพและกำรปองกันโรค
้
ึ
ึ
ึ
กลุมสำระกำรเรยนรูสุขศกษำและพลศกษำ ชนประถมศกษำปที่ 6
่
ี
ั
ี
้
้
่
เลมที่ 2
ื่
่
เรอง โรคติดตอ
ทิวำกร อินเล็ก
ตำแหนง ครู วิทยฐำนะ ครูชำนำญกำร
่
โรงเรยนอนุบำลวัดหนองขุนชำต (อุทิศพิทยำคำร)
ี
ิ
้
ี
สำนกงำนเขตพนทีกำรศกษำประถมศกษำอุทัยธำน เขต 2
ั
ื
ึ
ึ
่
ก
ค ำน ำ
ค ำนำ
ุ
ึ
ในการเรยนกล่มสาระการเรยนรสขศกษาและพลศกษา ระดับชั้นประถมศกษา-
ี
ี
ุ
ู
ึ
ึ
้
ุ
้
ี่
็
้
ิ
ี่
ี
ปท 6 สาระท 4 การสรางเสรมสขภาพ สมรรถภาพและการปองกันโรค เปนสาระท ี่
่
ั
ิ
ี
เกียวกับการดแลรกษาสขภาพเพือการด ารงชวตทด และสามารถด ารงชวตได้อย่างม- ี
ี
ู
ี
ิ
่
ุ
ี
่
ิ
ความสข และสามารถน าไปใช้ให้เกิดประโยชนในชวตประจ าวัน หากแต่ปจจบัน
์
ี
ุ
ั
ุ
้
ู
ี
ยังพบว่าผู้เรยนไม่ค่อยสนใจดแลและปองกันสขภาพของตนเอง และทั้งน้ยังพบว่าผู้เรยน
ี
ุ
ี
้
ี
ึ
็
้
มความรน้อยในการสรางเสรมสขภาพ สมรรถภาพและการปองกันโรค จงมความจ าเปน
้
ี
ู
ิ
ุ
ทจะต้องหาทางแก้ไขให้ผู้เรยนมความสนใจใฝเรยนใฝรเรองสรางเสรมสขภาพ
ี
ี
่
ี
้
ื
ุ
ิ
ี
่
้
่
ู
่
สมรรถภาพและการปองกันโรคให้มากข้น
ึ
้
์
ู
ี
ส าหรบบทเรยนส าเรจรปประกอบภาพการตนเล่มน้ เล่มท 2 เรอง โรคตดต่อ
ี
่
ั
ิ
่
ื
ี
็
ู
็
ี
ึ
ี
ี
ี่
ี่
ู
้
ึ
เปนบทเรยนทให้ผู้เรยนศกษาหาความรด้วยตนเอง โดยผู้เรยนต้องศกษาจากกรอบท 1
ึ
ี
ุ
ี
่
ถงกรอบสดท้าย และตรวจค าตอบด้วยตนเองจากเฉลยทอยู่ในกรอบหน้าถัดไป ผู้เรยน
ิ
้
ิ
ิ
็
ควรปฏบัตตามค าแนะน าจะเปนการเสรมสรางวนัยในตนเอง และสามารถน าไปใช้
ิ
ิ
็
สรางเสรมสขภาพ สมรรถภาพและการปองกันโรคของตนเอง ได้เปนอย่างด
ี
ุ
้
้
บทเรยนส าเรจรปประกอบภาพการตูน กล่มสาระการเรยนรสขศกษาและ
ี
์
ู
้
ู
็
ึ
ี
ุ
ุ
ึ
์
ี
พลศกษาทจัดท าข้นน้ ผู้รายงานได้ใช้รปการตนเพือเพิ่มความน่าสนใจ ให้ผู้เรยนไม่เบอหน่าย
่
ื
ึ
่
่
ู
ี
ู
ี
ู
้
ี
อยากเรยนร และสะดวกต่อการเรยนการสอน
ี
็
ี
ผู้รายงานหวังว่าบทเรยนส าเรจรปประกอบภาพการตูนเล่มน้ จะท าให้ผู้เรยน
ี
ี
ู
์
้
ี
้
มทักษะการสรางเสรมสขภาพ สมรรถภาพและการปองกันโรคของตนเองตาม
ิ
ุ
ุ
ุ
วัตถประสงค์ของหลักสตรแกนกลางการศกษาขั้นพื้นฐาน พทธศักราช 2551
ู
ึ
และเปนประโยชนต่อผู้สนใจ ต่อเพือนคร และวงการศกษาต่อไป
ึ
่
ู
็
์
ิ
ิ
ทวากร อนเล็ก
ข
สำรบัญ
หน้า
ค าน า............................................................................................................ ก
สารบัญ......................................................................................................... ข
ู
ค าแนะน าส าหรบครผู้สอน.......................................................................... ค
ั
ั
ี
ค าแนะน าส าหรบผู้เรยน............................................................................... ง
้
ุ
ี
ู
จดประสงค์การเรยนร.................................................................................. จ
ั
ู
ล าดับขั้นตอนการใช้แบบบทเรยนส าเรจประกอบภาพการตนรปส าหรบ
ู
ี
์
็
ี
นักเรยน........................................................................................................ ฉ
แบบทดสอบก่อนเรยน................................................................................. 1
ี
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยน......................................................................... 3
ี
กรอบท 1...................................................................................................... 4
ี่
ี่
กรอบท 2...................................................................................................... 5
กรอบท 3...................................................................................................... 6
ี่
กรอบท 4...................................................................................................... 7
ี่
ี่
กรอบท 5...................................................................................................... 8
ี่
กรอบท 6...................................................................................................... 9
กรอบท 7...................................................................................................... 10
ี่
ใบกิจกรรม................................................................................................... 12
แบบทดสอบหลังเรยน................................................................................. 14
ี
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยน......................................................................... 16
ี
ุ
บรรณานกรม............................................................................................... 17
ค
้
ั
ค ำแนะนำสำหรบครูผูสอน
์
ี
1. บทเรยนส าเรจรปประกอบภาพการตูน เรอง การสรางเสรมสขภาพ สมรรถภาพ
ู
็
ุ
้
ิ
ื่
ี
ี
้
ึ
ุ
่
ึ
ี
ึ
ู
้
ุ
และการปองกันโรค กล่มสาระการเรยนรสขศกษาและพลศกษา ชั้นประถมศกษาปท 6
ี
ู
ี่
้
ื่
่
ิ
ี
เล่มท 2 เรอง โรคตดต่อ ใช้เปนสอการเรยนร แผนการจัดการเรยนรท 2 เวลา 1 ชั่วโมง
็
ู
้
่
ี
ื
ี
ิ
้
ู
ู
้
่
ี
ี
ี
ู
2. ก่อนด าเนนกิจกรรมการเรยนรในแผนการจัดการเรยนรท 2 ครให้ผู้เรยน
ท าแบบทดสอบก่อนเรยน เพือดพื้นฐานทางการเรยนรของผู้เรยน
ี
้
่
ี
ู
ู
ี
ึ
ู
์
ิ
3. ครช้แจงวธการศกษาบทเรยนส าเรจรปประกอบภาพการตน .ถงจดม่งหมาย
ุ
ุ
ึ
ี
ู
็
ู
ี
ี
ิ
์
ิ
ี
ู
ของการท าบทเรยนส าเรจรปประกอบภาพการตูน และขั้นตอนในการปฏบัต วิธการใช้
ี
็
อย่างละเอยดให้ผู้เรยนเข้าใจและพรอมทจะศกษา
้
ี่
ี
ึ
ี
็
ี
4. ผู้เรยนแต่ละคนอาจใช้เวลาในการศกษาบทเรยนส าเรจรปประกอบ-
ึ
ี
ู
ี
์
ุ
ู
ภาพการตูนไม่เท่ากัน ข้นอยู่กับความสามารถของแต่ละบคคล ครควรให้ผู้เรยนฝกปฏบัต ิ
ึ
ึ
ิ
ี
ตามขั้นตอน ต้องใช้ความอดทน ให้ค าช้แนะเมอผู้เรยนเกิดปญหาให้ก าลังใจและแรงเสรม
่
ื
ี
ิ
ั
ี
ี
กับผู้เรยน เพื่อให้ผู้เรยนมความภาคภมใจและมั่นใจในตนเอง
ี
ู
ิ
ิ
ี
ู
ึ
5. ครคอยสังเกตพฤตกรรมของผู้เรยนระหว่างทผู้เรยนท ากิจกรรม เพือบันทก
ี
่
่
ี
ี
การเปลยนแปลงพฤตกรรมของผู้เรยน
ี่
ิ
6. เมอผู้เรยนฝกปฏบัตเสรจแล้ว ให้ผู้เรยนท าแบบทดสอบหลังเรยน ซงเปน
็
ิ
่
็
ี
ื
่
ึ
ี
ี
ึ
ิ
ี
ิ
่
แบบทดสอบฉบับเดยวกับแบบทดสอบก่อนเรยน เพือประเมนผลหลังการเรยน
ี
ี
ู
หลังจากใช้บทเรยนส าเรจรปประกอบภาพการตน กล่มสาระการเรยนร สขศกษาและ
ุ
ี
ึ
้
็
ู
ุ
์
ี
ู
้
ึ
ุ
พลศกษา ชั้นประถมศกษาปท 6 การสรางเสรมสขภาพ สมรรถภาพและการปองกันโรค
ิ
้
ี
่
ึ
ี
ิ
เล่มท 2 เรอง โรคตดต่อ
ื
่
ี
่
7. น าผลการทดสอบและผลการปฏบัตกิจกรรมของผู้เรยนมาประมวลผล
ิ
ิ
ี
ี
ั
ุ
ู
็
ี
ี
เปรยบเทยบ สรป เปนผลสมฤทธทางการเรยนของผู้เรยน เพือให้ผู้เรยนและคร
ี
ี
่
ิ์
ื
่
ิ
้
ู
ี
ได้ทราบพัฒนาการของการเรยนรและแนะน าหรอจัดหากิจกรรมเพือการซ่อมเสรม
หากไม่ผ่านเกณฑ์
ง
ั
้
ค ำแนะนำสำหรบผูเรยน
ี
ค ำแนะน ำสำหรบผูเรยน ี
้
ั
บทเรยนส าเรจรปประกอบภาพการตูน เรอง การสรางเสรมสขภาพ สมรรถภาพ
ื่
ุ
็
ี
้
ิ
ู
์
ู
ึ
ุ
่
ี
ึ
้
ึ
ุ
และการปองกันโรค กล่มสาระการเรยนรสขศกษาและพลศกษา ชั้นประถมศกษาปท 6
ี
้
ี
เล่มท 2 เรอง โรคตดต่อ ทผู้เรยนก าลังศกษาอยู่ในขณะน้ เปนบทเรยนส าเรจรปทจัดเน้อหา
็
ี
ื
ึ
ิ
ี
ี่
ู
็
ี
ี
่
ี่
ื
่
ู
็
ู
ี
ไว้เปนล าดับขั้นตอนเพือให้ผู้เรยนได้เรยนรอย่างถกต้อง เร่มจากกรอบท 1 ไปจนถงกรอบ-
่
ี
ึ
ี่
้
ิ
ิ
ี
ิ
ี
้
็
ี
ุ
ึ
สดท้าย ผู้เรยนสามารถเรยนรและฝกปฏบัตได้ด้วยตนเอง การใช้บทเรยนส าเรจรป
ู
ู
ิ
ิ
ควรปฏบัตตามกฎกตกาในการใช้อย่างเคร่งครด จงจะได้ผลด ซงข้อปฏบัตของการใช้-
ึ
ิ
ิ
ั
ึ
ิ
ี
่
ี
็
บทเรยนส าเรจรปมดังน้ ี
ี
ู
ี
ิ
ู
ี
ี
็
ี
ี
1. ผู้เรยนอ่านค าช้แจง วธการใช้บทเรยนส าเรจรปให้ละเอยด
็
ี
ู
2. ก่อนท ากิจกรรมในแต่ละบทเรยนส าเรจรป ให้ผู้เรยนท าแบบทดสอบ-
ี
ี
ู
้
ก่อนเรยน เพือดพื้นฐานความรของตน
่
ู
็
ู
3. บทเรยนส าเรจรปประกอบด้วย
ี
ี
3.1 แบบทดสอบก่อนเรยน
3.2 บทเรยนส าเรจรป
ู
ี
็
3.3 แบบทดสอบหลังเรยน
ี
4. ผู้เรยนเร่มศกษาเน้อหาและท ากิจกรรมตามทก าหนดไว้ ทละกิจกรรม
ี
ื
ิ
ี
ี
่
ึ
ิ
โดยผู้เรยนจะต้องมความซอสตย์ต่อตนเอง จะต้องไม่เปดดเฉลยก่อน เมอตอบหรอท า-
ี
ู
ื
ั
ี
่
ื
่
ื
ู
ื
ี
็
ิ
่
ู
ึ
ู
กิจกรรมเสรจแล้ว จงค่อยเปดดเฉลยเพือตรวจดค าตอบของผู้เรยนว่าถกต้องหรอไม่
ี
ั
ื
ึ
ู
ื
ี
ถ้าไม่ถกต้องผู้เรยนอาจศกษาเน้อหาใหม่อกคร้ ัง หรอหลายคร้งก็ได้ จนเข้าใจแล้ว
ลองตอบค าถามใหม่
5. เมอผู้เรยนท าบทเรยนส าเรจรปเรยบรอยแล้ว ให้ท าแบบทดสอบหลังเรยน
ี
ี
ี
็
ู
้
ี
ื่
เพือประเมนผลสมฤทธ์ ิทางการเรยนหลังการเรยน
ิ
ี
ี
่
ั
ี
ี
ิ
ี
6. หลังจากอ่าน กฎ กตกาข้างบนน้แล้ว ขอให้ผู้เรยนตั้งใจ มสมาธ
ิ
และมความซอสัตย์ในการฝกท าบทเรยนส าเรจรป ไม่ต้องรบรอน หรอกังวลว่าช้า
ื่
ี
้
ู
ี
ึ
็
ื
ี
ื
้
หรอเรวกว่าคนอน เพราะจะท าให้ผู้เรยนประสบความส าเรจในการเรยนรได้
ี
ู
ี
็
็
่
ื
จ
ี
์
้
จุดประสงคกำรเรยนรู
1. สามารถบอกชนดของเช้อโรคได้
ิ
ื
2. สามารถอธบายการตดต่อของเช้อโรคได้
ิ
ิ
ื
ื
ิ
ิ
3. สามารถอธบายระยะตดต่อและพาหะของเช้อโรคได้
ฉ
ล ำดับขนตอนกำรใชแบบบทเรยนสำเรจประกอบภำพกำรตูนรูปสำหรบนกเรยน
์
ั
ั
็
ั
้
้
ี
ี
ี
ึ
้
ขันที่ 1 ศกษำค ำช้แจง / ค ำแนะน ำ
้
ี
่
ขันที่ 2 ท ำแบบทดสอบกอนเรยน
ขันที่ 3 ตรวจแบบทดสอบกอนเรยน
้
ี
่
ึ
ศกษาใหม่ ขันที่ 4 ศกษำกรอบควำมรู ้ ศกษาใหม่
ึ
้
ึ
ขันที่ 5 ตอบค ำถำม
้
ขันที่ 6 ตรวจค ำตอบกับกรอบเฉลย
้
ตอบผิด
ึ
ศกษาใหม่ ขันที่ 7 ศกษำกรอบควำมรูตอไป
้
้
่
ึ
ท าครบจนถงกรอบสดท้าย
ุ
ึ
ี
้
ขันที่ 8 ท ำแบบทดสอบหลังเรยน
ี
้
ขันที่ 9 ตรวจแบบทดสอบหลังเรยน
ไม่ผ่านเกณฑ์
้
ึ
็
ี
่
ขันที่ 10 ศกษำบทเรยนสำเรจรูปบทตอไป
1
่
แบบทดสอบกอนเรยน
ี
ี
็
บทเรยนสำเรจรูปประกอบภำพกำรตูน
์
ิ
ื่
้
้
เรอง กำรสรำงเสรมสุขภำพ สมรรถภำพและกำรปองกันโรค
ี
ึ
ึ
้
ั
ึ
้
่
กลุมสำระกำรเรยนรูสุขศกษำและพลศกษำ ชนประถมศกษำปที 6
่
ี
่
เลมที่ 2 เรอง โรคติดตอ
ื่
่
ี
ค ำช้แจง
ี่
ื่
ให้ผู้เรยนท าเครองหมาย ทับตัวอักษร ก ข ค และ ง ทถูกทสดเพียงค าตอบเดยว
ี่
ุ
ี
ี
ิ
ื
1. ข้อใดคอความหมายโรคตดต่อ
ก. โรคทเกิดจากความผิดปกตของร่างกาย
ิ
ี
่
่
ี
ุ
ข. โรคทเกิดจากพันธกรรม
่
ี
ื
ค. โรคทเกิดจากพิษของเช้อโรค
ง. โรคทเกิดจากอบัตเหต ุ
ุ
ี
ิ
่
ึ
ิ
ี
ุ
2. จลนทรย์ หมายถงข้อใด
ี
ก. ส่งมชวตจ าพวกแมลง
ิ
ิ
ี
ี
ข. ส่งมชวตจ าพวกสตว์ปก
ิ
ี
ี
ั
ิ
ี
ิ
ี
ิ
ค. ส่งมชวตทสามารถมองได้ด้วยตาเปล่า
ี
่
ี
ิ
ี
ง. ส่งมชวตทไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า
่
ิ
ี
่
ุ
ี
ิ
ี
ี
3. จลนทรย์ทก่อให้เกิดโรคเรยกว่า
ื
ก. เช้อโรค ข. เช้อตดต่อ
ิ
ื
ค. เช้อเปนพิษ ง. เช้อน าพา
็
ื
ื
4. ข้อใดไม่ใช่จลนทรย์
ี
ิ
ุ
ั
ก. ไวรส ข. ยุงลาย
ี
ื
ค. แบคทเรย ง. เช้อรา
ี
2
ี
ี
ี่
ิ
ุ
5. จลนทรย์ชนดใดมขนาดเล็กทสด
ิ
ุ
ั
ก. ไวรส ข. ปรสต
ิ
ี
ค. แบคทเรย ง. เช้อรา
ื
ี
่
ี
ื
6. การทเช้อโรคเพิ่มจ านวนในร่างกาย โดยจะปรากฏอาการของโรคหรอไม่ก็ได้
ื
ึ
หมายถงข้อใด
ั
ิ
ก. ระยะฟกตัว ข. ระยะตดต่อ
ค. ระยะเพิ่มจ านวน ง. ระยะออกอาการ
ู
7. ระยะเวลาตั้งแต่เช้อโรคเข้าส่ร่างกาย จนกระทั่งปรากฏอาการโรค คอข้อใด
ื
ื
ั
ก. ระยะฟกตัว ข. ระยะตดต่อ
ิ
ค. ระยะเพิ่มจ านวน ง. ระยะออกอาการ
่
ื
8. โรคในข้อใดทตดเช้อโรคทางการหายใจหรอสดดม
ู
ิ
ื
ี
ก. โรคอหวาตกโรค ข. โรคบาทดทะยัก
ิ
ค. โรคสกใส ง. โรคไข้หวัดใหญ่
ุ
ี
ี่
9. โรคในข้อใดทมสัตว์เปนพาหะ
็
ื
ก. โรคสกใส ข. โรคไข้เลอดออก
ุ
ค. โรคไข้หวัดใหญ่ ง. โรคบาดทะยัก
ี
10. เราฉดวัคซนเพื่ออะไร
ี
ุ
่
ู
ก. เพือสรางภมค้มกันโรค
้
ิ
ข. เพื่อสรางภูมต้านทานโรค
้
ิ
ิ
ิ
ค. เพือให้เสรมสรางร่างกายเจรญเตบโต
่
้
ิ
ง. เพือฆ่าเช้อโรค
ื
่
3
ี
เฉลยแบบทดสอบกอนเรยน
่
็
ี
บทเรยนสำเรจรูปประกอบภำพกำรตูน
์
ื่
เรอง กำรสรำงเสรมสุขภำพ สมรรถภำพและกำรปองกันโรค
ิ
้
้
ึ
ึ
้
ี
ึ
ี
กลุมสำระกำรเรยนรูสุขศกษำและพลศกษำ ชนประถมศกษำปที 6
ั
้
่
่
่
ื่
เลมที่ 2 เรอง โรคติดตอ
่
้
ขอ ค ำตอบ
1 ค
2 ง
3 ก
4 ข
5 ก
6 ข
7 ก
8 ง
9 ข
10 ก
4
โรคตดต่อเกิดจากสาเหตอะไรบ้างนะ
ุ
ิ
ื
ั
น้อง ๆ ทราบหรอไม่ครบ
ี
่
ื
ิ
ี่
ิ
่
โรคตดต่อเกิดจากทเช้อโรคหลายชนด ทท าให้เราเจ็บปวย
ึ
ั
่
ี
ไปศกษาในกรอบท 1 กันเลยครบ
กรอบที่ 1
ควำมหมำยของโรคติดตอ
่
่
ึ
โรคติดตอ หมายถง โรคทเกิดจากเช้อโรคเข้าไปเพิ่มจ านวนในร่างกาย
ื
ี
่
อาการเจบปวยทเกิดข้นเปนผลจากตัวเช้อโรคเอง หรอพิษทเช้อโรคนั้นปล่อย
่
ื
ึ
ื
็
ี
ื
ี
็
่
่
ออกมา เช้อโรคจะตดต่อถ่ายทอดจากผู้ปวยโดยตรงหรอโดยอ้อมไปส่คนปกต ิ
ื
ู
่
ิ
ื
ิ
ี
่
ี
็
ี
ี
ื
์
ิ
จุลินทรย คอ ส่งมชวตเล็ก ๆ ทเราไม่สามารถมองเหนได้ด้วยตาเปล่า
่
่
์
ต้องใช้กล้องจุลทรรศนทีมีก าลังขยายเป็นพันเท่าหรือหมืนเท่าจึงจะมองเห็นได้
ในบรรยากาศทล้อมรอบตัวเรา ในดน ในน ้า ในอาหาร บนผิวกาย หรอในร่างกาย
ี
ื
ิ
่
ของเรา จะสามารถตรวจพบจลนทรย์ต่าง ๆ ได้มากมายหลายชนด
ิ
ิ
ี
ุ
จลนทรย์บางชนด ก่อโรคให้กับคน สัตว์ และพืช จลนทรย์ทก่อโรคน้ ี
ิ
ุ
่
ุ
ิ
ี
ี
ี
ิ
เรยกว่า "เช้อโรค"
ื
ี
โรคตดต่อ หมายถง อะไร ?
ึ
ิ
5
เฉลยกรอบที่ 1
โรคทเกิดจากเช้อโรคเข้าไปเพิ่มจ านวนในร่างกาย อาการเจบปวยทเกิดข้นเปนผล
่
ี
็
ึ
่
ื
ี
่
็
ี
ื
ื
ื
่
จากตัวเช้อโรคเอง หรอพิษทเช้อโรคนั้นปล่อยออกมา
ู
น้อง ๆ เก่งมาก ตอบได้ถกต้อง ไป
ศกษากรอบท 2 ต่อเลยครบ
ั
ึ
ี
่
กรอบที่ 2
์
ี
ิ
ี
ชนดของจุลินทรย มดังน้ ี
ื
ั
้
็
ี่
ุ
ุ
ี่
ุ
ิ
ี
1. เชอไวรส เปนจลนทรย์ทขนาดเล็กทสดต้องใช้กล้องจลทรรศน์
ิ
ุ
ี
็
ี
ั
ี
่
ื
ึ
อเล็กตรอนขยายจงจะมองเหนได้ โรคทเกิดจากเช้อไวรส ได้แก่ โรคอสกอใส
โรคไข้หวัดใหญ่ โรคฉีหนู เป็นต้น
่
2. เชอแบคทีเรย มขนาดใหญ่กว่าเช้อไวรส สามารถมองเหนได้เมอ
ื
ี
ื่
ั
็
ื
้
ี
ส่องขยายด้วยกล้องจลทรรศนธรรมดา โรคจากเช้อแบคทเรย ได้แก่ อหวาตกโรค
์
ี
ื
ิ
ุ
ี
โรคบาดทะยัก โรคสกใส เปนต้น
ุ
็
3. เชอรำ มขนาดใหญ่กว่าเช้อแบคทเรย โรคจากเช้อรา ได้แก่ กลาก เกล้อน
้
ื
ื
ื
ี
ี
ื
ี
ิ
ื
้
็
ี
ื
ิ
ุ
ื
ี
ี
ี
ี
่
4. เชอปรสต เปนจลชพทมขนาดใหญ่ เช้อบดอะมบา เช้อมาลาเรย
ิ
ิ
ิ
ื
ิ
พยาธตัวกลม พยาธใบไม้ พยาธตัวตด ตัวหด และตัวโลน
น้อง ๆ ศึกษากรอบที 2 แล้วมาลองตอบค าถามกันดูนะครับ
่
1. จลนทรย์มกีชนด อะไรบ้าง ?
ี
่
ิ
ี
ิ
ุ
2. จลนทรย์ทเล็กทสดคออะไร ?
ี่
ี
ิ
ุ
ื
ุ
ี่
6
เฉลยกรอบที่ 2
1. 4 ชนด ได้แก่ เช้อไวรส เช้อแบคทเรย เช้อรา เช้อปรสต
ื
ิ
ั
ื
ี
ื
ี
ิ
ื
ื
ั
2. เช้อไวรส
ถ้าตอบถูกต้อง เก่งมากครบ น้อง ๆ
ั
ไปศกษา ในกรอบท 3 ครบ
ี่
ั
ึ
กรอบที่ 3
ั
ระยะฟกตัว หมายถง เมอเช้อโรคเข้าส่ร่างกายระยะแรกจะมจ านวน
ู
ื
ื
่
ึ
ี
ไม่มากพอทจะก่อโรค จะต้องอาศัยช่วงระยะเวลาหนงแบ่งตัวเพิ่มจ านวน
่
ึ
ี
่
แล้วปรากฏอาการโรคภายหลัง ระยะเวลาตั้งแต่เช้อโรคเข้าส่ร่างกาย จนกระทั่ง
ื
ู
ปรากฏอาการโรค น้เรยกว่า “ระยะฟกตัว”
ั
ี
ี
่
ื
ี
้
ื
ึ
กำรติดเชอ หมายถง การทเช้อโรคเพิ่มจ านวนในร่างกาย โดยจะปรากฏ
ื
อาการของโรคหรอไม่ก็ได้
ื
้
ิ
ี
ู
ึ
ผลจำกกำรติดเชอ มักท าให้ร่างกายมภมต้านทานเกิดข้น และอาจท าให้ไม่
เป็นโรคจากเชื้อนั้นอีกก็ได้
โรคบางโรคจะต้องมพาหะน าเช้อโรค และบางโรคจะต้องอาศัยปจจัยอนๆ
ื
่
ี
ื
ั
จงจะเกิดการตดเช้อก่อโรคได้
ื
ิ
ึ
น้อง ๆ ลองตอบค าถามต่อไปน้นะครบ
ั
ี
ึ
ั
ระยะฟกตัวหมายถงอะไร
7
เฉลยกรอบที่ 3
ื
ู
ระยะเวลาตั้งแต่เช้อโรคเข้าส่ร่างกาย จนกระทั่งปรากฏอาการโรค
ั
ิ
ู
ตอบถกหมดเลย เก่งจรง ๆ ครบน้อง ๆ
ี
ั
ึ
่
ไปศกษา ในกรอบท 4 กันเลยครบ
กรอบที่ 4
กำรติดต่อของเชื้อโรค มีดังนี้
1. ทำงกำรหำยใจหรอสูดดม ผู้ปวยจะปล่อยเช้อโรคออกมากับน ้ามก น ้าลาย
ื
ู
ื
่
เสมหะ โดยการไอหรอจาม ถ่ายทอดให้ผู้อนโดยการสดดมละอองเช้อโรคเข้าไป
ื
ื
ู
ื
่
ท าให้ตดเช้อปวยเปนโรค เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ เปนต้น
็
็
ื
ิ
่
ื
่
ื
ื
ื
ื้
ี
ี
่
2. ทำงกำรกิน โดยการกินอาหารหรอดมน ้าทมเช้อโรคปนเปอน เช้อโรคจะ
ุ
ื้
ื
เข้าไปเพิ่มจ านวนในล าไส้ ออกมากับอจจาระแล้วปนเปอนกับอาหารหรอ
ิ
ื
ุ
่
ื่
ื่
ิ
็
ู
เครองดม ตดต่อส่ผู้อนต่อไป ตัวอย่างเช่น อหวาตกโรค โรคอจจาระร่วง เปนต้น
ื
ี
ื
3. ทำงผิวหนัง ทำงบำดแผล รอยถลอกหรอฉดยำ จะท าให้เช้อโรคเข้าไปเพิ่ม
จ านวนได้ เช่น บาดทะยัก และหนองฝ เปนต้น
ี
็
ศกษาจบแล้ว น้อง ๆ ลองมา ช่วยกันตอบค าถามนะครบ
ั
ึ
ิ
ื
เช้อโรคตดต่อทางใดได้บ้าง ?
8
เฉลยกรอบที่ 4
ื
ู
1. ทางการหายใจหรอสดดม
2. ทางการกิน
ี
ื
3. ทางผิวหนัง ทางบาดแผล รอยถลอกหรอฉดยา
ตอบถกทกข้อ เก่งจรง ๆ ครบน้อง ๆ
ุ
ั
ิ
ู
ไปศกษากรอบต่อไปครบ
ึ
ั
กรอบที่ 5
พำหะของโรค
พำหะของโรค ได้แก่ คนหรอสตว์ทมเช้อโรคอาศัยอยู่โดยไม่แสดงอาการ
่
ี
ั
ี
ื
ื
ื
่
ื
ู
ของโรคและสามารถถ่ายทอดเช้อโรคไปส่ผู้อนได้
่
ี
ื
ื
่
ี
็
แมลงที่เปนพำหะน ำโรค โดยแมลงจะกัดกินเลอดผู้ปวยทมเช้อโรคเข้าไป
่
่
ื
ื
ื
ื
ื
เช้อโรคไปเพิ่มจ านวนในตัวแมลง และเมอแมลงไปกัดกินเลอดผู้อนก็จะปล่อยเช้อ
ถ่ายทอดไป เช่น ยุง เป็นพาหะน าโรคไข้เลือดออก หนูเป็นพาหะน าโรคฉี่หนู
แมลงบำงชนิด เปนพาหะน าโรคโดยเปนสอกลางน าเช้อจากทหนงไปยัง
่
็
ื
ื
ี
่
ึ
่
็
อกทหนงโดยตรงไม่มการเพิ่มจ านวนของเช้อ เช่น แมลงวันเปนพาหะน าโรค
่
ี
็
ี
ี
ึ
่
ื
อหวาตกโรค
ิ
ศกษาจบแล้วลองมาช่วยกันตอบค าถามนะครบ
ึ
ั
็
ิ
ส่งใดเปนพาหะน าโรคได้บ้าง ?
9
เฉลยกรอบที่ 5
ื
คน หรอ แมลง
ิ
ู
ั
ตอบถกต้อง เก่งจรง ๆ ครบ น้อง ๆ
ึ
ั
ี่
ไปศกษา ในกรอบท 6 ครบ
กรอบที่ 6
่
ระยะติดตอของโรค
ี
ี
่
่
ึ
ื
ื
่
ี
ั
ระยะติดตอโรค หมายถง ระยะเวลาทคนหรอสตว์ทมเช้อโรคนั้น
แล้วสามารถน าเชื้อโรคถ่ายทอดไปสู่ผู้อืนได้ ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม
่
ุ
ั
ิ
ื
่
ึ
ื
่
ื
็
่
ุ
เมอบคคลใดบคคลหนงได้รบเช้อโรค จะเกิดการตดเช้อปวยเปนโรค
หรอไม่นั้น ข้นอยู่กับความรนแรงและจ านวนของเช้อโรคทได้รบเข้าไป และ
ึ
ื
ั
่
ี
ุ
ื
ความต้านทานหรอสภาพร่างกายของบคคลผู้นั้น
ุ
ื
ผู้ทมสขภาพดได้รบอาหารทเหมาะ ออกก าลังและพักผ่อนเพียงพอ จะมี
ุ
ี่
ั
ี่
ี
ี
ภมต้านทานต่อเช้อโรคต่าง ๆ ดกว่าผู้ทขาดอาหารหรอเจบปวยเปนโรคเร้อรง
็
็
ื
่
ั
ื
ี
ู
ิ
ี
ื
่
ึ
ั
ศกษาจบแล้วลองมาช่วยกันตอบค าถามนะครบ
ระยะตดต่อโรค หมายถงอะไร ?
ิ
ึ
10
เฉลยกรอบที่ 6
ั
ื
ี
ู
่
ี
ื
ื
ี
่
ระยะเวลาทคนหรอสตว์ทมเช้อโรคนั้น แล้วสามารถน าเช้อโรคถ่ายทอดไปส่
ื
็
ื่
ผู้อนได้ ไม่ว่าจะเปนทางตรงหรอทางอ้อม
ู
ั
ิ
ตอบถกต้อง เก่งจรง ๆ ครบ น้อง ๆ
ั
ึ
ี่
ไปศกษา ในกรอบท 7 ครบ
กรอบที่ 7
ท ำไมตองฉดวัคซน
้
ี
ี
วัคซน หมายถง ตัวเช้อโรค หรอส่วนใดส่วนหนงของเช้อโรคทสามารถ
ื
่
ึ
ึ
ื
ี่
ื
ี
น ามาฉดเข้าส่ร่างกายโดยไม่ท าให้เกิดโรครนแรง แต่จะมผลให้ร่างกายสราง
ู
ุ
้
ี
ี
ุ
ู
ิ
ภมค้มกันโรคได้
ู
ี
ึ
ุ
ี
ิ
ี
ภายหลังการฉดวัคซนประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ ร่างกายจงจะมภมค้มกัน
ทีสร้างขึ้นเองเกิดขึ้น ป้องกันโรคได้โดยตรง
่
ิ
้
้
็
่
็
้
่
** ถำเรำเปนโรคสุกใสแลว รำงกำยจะสรำงภูมคุมกันเอง ทำใหเรำไมเปน
้
้
โรคสุกใสอีก ตลอดชวต **
ี
ิ
ึ
ั
ศกษาจบแล้วลองมาช่วยกันตอบค าถามนะครบ
วัคซน หมายถงอะไร ?
ี
ึ
11
เฉลยกรอบที่ 7
่
ี
ื
ึ
่
ู
ื
ื
ี
ตัวเช้อโรค หรอส่วนใดส่วนหนงของเช้อทสามารถน ามาฉดเข้าส่ร่างกายโดยไม่
ี
ุ
ิ
ุ
้
ู
ท าให้เกิดโรครนแรง แต่จะมผลให้ร่างกายสรางภมค้มกันโรคได้
ุ
ี
ไชโย ! เรยนจบกรอบสดท้ายแล้ว
ี
ั
มาท าแบบทดสอบหลังเรยนกันก่อนนะครบ
แล้วเปรยบเทยบดว่า ผลการเรยน
ู
ี
ี
ี
มีการพัฒนาหรอไม่
ื
12
็
ใบกิจกรรมบทเรยนสำเรจรูปประกอบภำพกำรตูน
ี
์
ิ
้
เรอง กำรสรำงเสรมสุขภำพ สมรรถภำพและกำรปองกันโรค
ื่
้
่
้
ั
่
กลุมสำระกำรเรยนรูสุขศกษำและพลศกษำ ชนประถมศกษำปที 6
ี
ึ
ึ
ี
้
ึ
่
เลมที่ 2 เรอง โรคติดตอ
่
ื่
ี
ี
ค ำช้แจง ให้นักเรยนเขยนค าตอบลงในกระดาษค าตอบให้ตรงกับกรอบต่าง ๆ
ี
ทก าหนดให้
ี
่
ี่
กรอบท 1
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
ี่
กรอบท 2
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
ี่
กรอบท 3
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
13
ี่
กรอบท 4
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
กรอบท 5
ี่
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
ี่
กรอบท 6
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
ี่
กรอบท 7
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
14
แบบทดสอบหลังเรยน
ี
์
ี
บทเรยนสำเรจรูปประกอบภำพกำรตูน
็
เรอง กำรสรำงเสรมสุขภำพ สมรรถภำพและกำรปองกันโรค
ิ
ื่
้
้
ึ
้
ึ
ึ
ั
ี
ี
กลุมสำระกำรเรยนรูสุขศกษำและพลศกษำ ชนประถมศกษำปที 6
่
่
้
ื่
่
เลมที่ 2 เรอง โรคติดตอ
่
ี
ค ำช้แจง
ให้ผู้เรยนท าเครองหมาย ทับตัวอักษร ก ข ค และ ง ทถูกทสดเพียงค าตอบเดยว
ื่
ี
ี
ี่
ี่
ุ
1. ข้อใดคอความหมายโรคตดต่อ
ิ
ื
ี
่
ิ
ก. โรคทเกิดจากความผิดปกตของร่างกาย
ี
่
ุ
ข. โรคทเกิดจากพันธกรรม
่
ค. โรคทเกิดจากพิษของเช้อโรค
ื
ี
ี
่
ิ
ง. โรคทเกิดจากอบัตเหต ุ
ุ
ึ
ิ
ี
ุ
2. จลนทรย์ หมายถงข้อใด
ี
ก. ส่งมชวตจ าพวกแมลง
ิ
ิ
ี
ข. ส่งมชวตจ าพวกสตว์ปก
ั
ี
ี
ิ
ิ
ี
ี
ิ
ี
ิ
ค. ส่งมชวตทสามารถมองได้ด้วยตาเปล่า
ี
่
ี
ิ
ี
ง. ส่งมชวตทไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า
ี
ิ
่
ิ
ุ
ี
3. ข้อใดไม่ใช่จลนทรย์
ก. ไวรส ข. ยุงลาย
ั
ื
ค. แบคทเรย ง. เช้อรา
ี
ี
ิ
ุ
ี
่
ี
4. จลนทรย์ทก่อให้เกิดโรคเรยกว่า
ี
ื
ก. เช้อโรค ข. เช้อตดต่อ
ิ
ื
ื
็
ื
ค. เช้อเปนพิษ ง. เช้อน าพา
15
ุ
ิ
ี่
5. จลนทรย์ชนดใดมขนาดเล็กทสด
ี
ุ
ี
ิ
ั
ก. ไวรส ข. ปรสต
ิ
ค. แบคทเรย ง. เช้อรา
ี
ี
ื
ี
6. การทเช้อโรคเพิ่มจ านวนในร่างกาย โดยจะปรากฏอาหารของโรคหรอไม่ก็ได้
่
ื
ื
หมายถงข้อใด
ึ
ิ
ั
ก. ระยะฟกตัว ข. ระยะตดต่อ
ค. ระยะเพิ่มจ านวน ง. ระยะออกอาการ
ี
ิ
ู
่
7. โรคในข้อใดทตดเช้อโรคทางการหายใจหรอสดดม
ื
ื
ก. โรคอหวาตกโรค ข. โรคบาทดทะยัก
ิ
ุ
ค. โรคสกใส ง. โรคไข้หวัดใหญ่
ี
็
ี่
8. โรคในข้อใดทมสัตว์เปนพาหะ
ุ
ก. โรคสกใส ข. โรคไข้เลอดออก
ื
ค. โรคไข้หวัดใหญ่ ง. โรคบาดทะยัก
ู
ื
9. ระยะเวลาตั้งแต่เช้อโรคเข้าส่ร่างกาย จนกระทั่งปรากฏอาการโรค คอข้อใด
ื
ิ
ั
ก. ระยะฟกตัว ข. ระยะตดต่อ
ค. ระยะเพิ่มจ านวน ง. ระยะออกอาการ
10. เราฉดวัคซนเพื่ออะไร
ี
ี
ก. เพือสรางภมค้มกันโรค
ุ
่
้
ู
ิ
ข. เพื่อสรางภูมต้านทานโรค
้
ิ
ค. เพือให้เสรมสรางร่างกายเจรญเตบโต
ิ
ิ
่
้
ิ
ื
่
ง. เพือฆ่าเช้อโรค
16
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยน
ี
์
บทเรยนสำเรจรูปประกอบภำพกำรตูน
็
ี
เรอง กำรสรำงเสรมสุขภำพ สมรรถภำพและกำรปองกันโรค
ิ
้
ื่
้
้
่
้
่
ี
ึ
ึ
ั
กลุมสำระกำรเรยนรูสุขศกษำและพลศกษำ ชนประถมศกษำปที 6
ี
ึ
ื่
่
่
เลมที่ 2 เรอง โรคติดตอ
้
ขอ ค ำตอบ
1 ค
2 ง
3 ข
4 ก
5 ก
6 ข
7 ง
8 ข
9 ก
10 ก
17
บรรณำนุกรม
้
ั
ี
้
ึ
่
ี
กรมวิชาการ. (2552). กำรจดสำระกำรเรยนรูกลุมสำระกำรเรยนรูสุขศกษำและ
ึ
ื
ั
ึ
้
ั
้
พลศกษำตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศกษำขนพนฐำน พุทธศกรำช 2551.
ุ
ุ
กรงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ครสภาลาดพราว.
้
ุ
ี
ื
่
ื
่
_________. (2552). คูมอครูสำระกำรเรยนรูรำยวิชำพ้นฐำน กลุมสำระกำรเรยนรู ้
ี
้
ึ
ี
ึ
ั
้
สุขศกษำและพลศกษำ ชนประถมศกษำปที่ 6 .ตำมหลักสูตรกำรแกนกลำง
ึ
ื
ึ
้
ั
กำรศกษำขันพ้นฐำน พุทธศกรำช 2551. กรงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ครสภา-
ุ
ุ
ุ
้
ลาดพราว.
ี
ึ
้
ี
ิ
้
กระทรวงศกษาธการ, กระทรวง. (2551). ตัวชวดและสำระกำรเรยนรูแกนกลำง
ั
ุ
ึ
่
ุ
ึ
้
ี
กลุมสำระกำรเรยนรูสุขศกษำและพลศกษำ. กรงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชมนม
ุ
สหกรณการเกษตรแห่งประเทศไทย จ ากัด.
์
ั
สชาต รอดถาวร และภาสกร บุญนยม. (2553). หนงสอเรยนรำยวชำพนฐำนสุขศกษำ
ึ
ิ
้
ื
ิ
ี
ื
ิ
ุ
่
ึ
ี
และพลศกษำ ชนประถมศกษำปที่ 6 กลุมสำระกำรเรยนรูสุขศกษำและพลศกษำ
้
ึ
ึ
ั
ี
ึ
้
้
ึ
ี
ั
ั
้
ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศกษำขนพนฐำน พุทธศกรำช 2551. พิมพ์คร้งท 4.
ื
ั
่
ิ
กรงเทพมหานคร : บรษัทไทยร่มเกล้าจ ากัด.
ุ
ิ
ึ
ึ
ส านักงานคณะกรรมการการศกษาขั้นพื้นฐาน, กระทรวงศกษาธการ. (2562).
ั
ื
้
้
ื
หนงสอเรยนพนฐำน ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศกษำขนพนฐำน
ั
ึ
ี
ื
้
ั
ึ
่
ึ
ี
ั
พุทธศกรำช 2551 รกษำสุขภำพ กลุมสำระกำรเรยนรูสุขศกษำและพลศกษำ
้
ชนประถมศกษำปที่ 6. กรงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพราว.
ึ
้
ุ
ี
้
ั
18