The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเป็นพลเมืองยุคดิจิทัล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Jiraporn, 2022-09-06 04:59:18

การเป็นพลเมืองยุคดิจิทัล

การเป็นพลเมืองยุคดิจิทัล

ก า ร เ ป็ น พ ล เ มื อ ง

ยุคดิจิทัล

(Digital Citizenship)

หัวข้อเรื่อง (Topics)

8.1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพลเมืองดิจิทัล
8.2 องค์ประกอบของพลเมืองดิจิทัล
8.3 คุณลักษณะพึงประสงค์ของพลเมืองดิจิทัล
8.4 ทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
8.5 คุณลักษณะของการเป็นพลเมืองดิจิทัล
8.6 การป้องกันและดูแลความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต

ของพลเมืองดิจิทัล

8.1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพลเมืองดิจิทัล

8.1.1 ความหมายของพลเมืองดิจิทัล

พลเมืองดิจิทัล (Digital Citizenship) หมายถึง พลเมืองผู้ใช้งานสื่อดิจิทัลและสื่อ
สังคมออนไลน์ที่เข้าใจบรรทัดฐานของการปฏิบัติตัวให้เหมาะสมและมีความรับผิดชอบใน
การใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะการสื่อสารในยุคดิจิทัลเป็นการสื่อสารที่ไร้พรมแดน

8.1.2 แนวคิดเกี่ยวกับความเป็นพลเมือง

ความเป็นพลเมืองชาติตามขนบ (Traditional Citizenship) แนวคิดความเป็นพลเมืองแบบเดิมให้กับ "การเป็นสามาชิกภายใต้กฏหมาย
ของรัฐชาติที่ตนสังกัด" หรือเรียกว่า "ความเป็นพลเมืองภายใต้กฏหมาย" (Legal Citizenship) สำหรับการเป็นพลเมืองที่ดีตามแนวคิดคือ
การมีความรู้เกี่ยวกับรัฐบาลและหน้าที่พลเมืองตามกฏหมาย

ความเป็นพลเมืองโลก (Global Citizenship) แนวคิดความเป็นพลเมืองโลกวิพากษ์ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดหลักการ และ

สถาบัน การมีบทบาทที่เกี่ยวข้องในฐานะสมาชิกของสังคมทั้งในระดับท้องถิ่น ประเทศ และระดับโลก ตลอดจนการมีส่วนร่วมรับผิดชอบใน

ฐานะพลเมืองที่ดีของสังคมที่คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนและอุดมการณ์ประชาธิปไตย

ความเป็นพลเมืองดิจิทัล (Digital Citizenship) แนวคิดความเป็นพลเมืองดิจิทัลพูดถึงความสามารถในการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อมีส่วนร่วม

ในสังคมเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบ และปลอดภัย

8.1.3 นิยามความเป็นพลเมืองดิจิทัล

มิติด้านความรู้เกี่ยวกับสื่อและสารสนเทศ พลเมืองดิจิทัลต้องมีความรู้ความสามารถในการเข้าถึง ใช้ สร้างสรรค์ประเมิน

สังเคราะห์ และสื่อสารข้อมูลข่าวสารผ่านเครื่องมือดิจิทัล ดังนั้นพลเมืองยุคใหม่จึงต้องมีความรู้ด้านเทคนิคในการเข้าถึงและ

ใช้เครื่องมือดิจิทัล เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต ได้อย่างเชี่ยวชาญ รวมถึงทักษะในการรู้คิดขั้นสูง เช่น ทักษะการ

คิดอย่างมีวิจารณญาณ ซึ่งจำเป็นต่อการเลือก จัดประเภท วิเคราะห์ ตีความ และเข้าใจข้อมูลข่าวสาร

มิติด้านจริยธรรม พลเมืองดิจิทัลจะใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบ และมีจริยธรรมได้อย่างไร พลเมืองที่ดีจะต้องรู้จัก

คุณค่าและจริยธรรมจากการใช้เทคโนโลยี ต้องตระหนักถึงผลทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่เกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ต

รวมถึงรู้จักสิทธิและความรับผิดชอบออนไลน์เสรีภาพในการพูด การเคารพทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น และการปกป้องตนเองและชุมชน

จากความเสี่ยงออนไลน์ เช่น การกลั่นแกล้งออนไลน์

มิติด้านการมีส่วนร่วมทางการเมืองและสังคม พลเมืองดิจิทัลต้องรู้จักใช้ศักยภาพของอินเทอร์เน็ตในการมีส่วนร่วมทางการเมือง

เศรษฐกิจ และสังคม อินเทอร์เน็ตเป็นได้ทั้งเครื่องมือเพิ่มการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบบ เช่น รัฐบาลใช้อินเทอร์เน็ตในการรับ

ฟังความเห็นของประชาชนก่อนออกกฎหมาย การลงคะแนนเสียงอิเล็กทรอนิกส์ (e-Voting) หรือการยื่นคำร้องออนไลน์ (online

petition) นอกจากนั้น อินเทอร์เน็ตยังใช้ส่งเสริมการเมืองภาคพลเมืองผ่านวิธีการใหม่ๆ ซึ่งท้าทายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเมือง

ในระดับโครงสร้าง

8.1.4 พลเมืองดิจิทัลกับการใช้งานอินเทอร์เน็ต

ระดับการใช้งาน อินเทอร์เน็ต คือสิ่งที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีการสื่อสารหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ อีเมล
โซเชียลมีเดีย บล็อก วิดีโอสตรีมมิ่ง ระบบการส่งข้อความทันที (Instant Messaging) บริการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต

(Voice over Internet Protocal หรือ VoIP) กระดานข่าวออนไลน์ และอื่น ๆ อีกมากมาย และยังเป็นเครื่องมือในการ

ปฏิสัมพันธ์ การมรส่วนร่วม และการสร้างความร่วมมือระหว่างกันในระดับโลกอีกด้วย

Video Streaming

8.2 องค์ประกอบของพลเมืองดิจิทัล

8.2.1. มิติการรักษาอัตลักษณ์และข้อมูลส่วนบุคคล

การสร้างอัตลักษณ์ออนไลน์ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ทำให้บุคคลสามารแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของตนเองต่อ

สังคมภายนอก ด้วยการอาศัยช่องทางการสื่อสารผ่านเว็บไซต์เครือข่ายสังคมเพื่ออธิบายรูปแบบใหม่ของการสื่อสารแบบมี

ปฏิสัมพันธ์ทางอินเทอร์เน็ตที่ทำให้เกิดการแสดงออกเกี่ยวกับตัวตนผ่านเว็บไซต์เครือข่ายสังคมต่าง ๆ เพื่อการสื่อสารและ

เชื่อมต่อความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น

8.2.2 มิติของกิจกรรมบนสื่อสังคมดิจิทัล

พลเมืองดิจิทัลทีความจำเป็นต้องมีความสามารถในการจัดการธุรกรรมการเงินทางอินเทอร์เน็ต เช่น การซื้อขายสินค้าใน

อินเทอร์เน็ต บัตรเครดิตอิเล็กทรอนิกส์ การค้าแบบดิจิทัล การเมือง เศรษฐกิจ การมีส่วนร่วมวัฒนธรรมพลเมืองดิจิทัลต้องรู้จัก

ใช้ศักยภาพของอินเทอร์เน็ตในการมีส่วนร่วมทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม อินเทอร์เน็ตเป็นได้ทั้งเครื่องมือเพิ่มการมีส่วน

ร่วมทางการเมืองในระบบ เช่น รัฐบาลใช้อินเทอร์เน็ตในการรับฟังความเห็นของประชาชนก่อนออกกฎหมาย เป็นต้น อีกทั้ง

DigitalพBลusเinมืeอssงดิจิทัลจะต้องการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในสังคมดิจิทัล

8.2.3 มิติทักษะและความสามารถในสภาพแวดล้อมดิจิทัล

พลเมืองดิจิทัลต้องมีความรู้ความสามารถในการเข้าถึง ใช้ สร้างสรรค์ ประเมิน สังเคราะห์ และสื่อสารข้อมูลข่าวสารผ่านเครื่องมือ
ดิจิทัล ดังนั้นพลเมืองยุคใหม่จึงต้องมีความรู้ด้านเทคนิคในการเข้าถึงและใช้เครื่องมือดิจิทัล เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต
ได้อย่างเชี่ยวชาญ รวมถึงทักษะในการรู้คิดขั้นสูง เช่น ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ซึ่งจำเป็นต่อการเลือก จัดประเภท วิเคราะห์
ตีความ และเข้าใจข้อมูลข่าวสาร มีความรู้และทักษะในสภาพแวดล้อมดิจิทัล การรู้ดิจิทัลโดยมุ่งให้เป็นผู้ใช้ที่ดี เป็นผู้เข้าใจบริบทที่ดี
และเป็นผู้สร้างเนื้อหาทางดิจิทัลที่ดี ในสภาพแวดล้อมสังคมดิจิทัล

8.2.4 มิติจริยธรรมทางดิจิทัล

พลเมืองดิจิทัล จะต้องเป็นผู้รู้กฎหมายที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ การใช้เทคโนโลยีอย่างรู้

จริยธรรม รู้จักคุณค่าและจริยธรรมจากการใช้เทคโนโลยี มีความรู้ในงานลิขสิทธิ์และเคารพทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น และ

การปกป้องตนเองและชุมชน มีความรับผิดชอบทางดิจิทัล รู้จักสิทธิเสรีภาพให้เกียรติในการพูดการกระทำในสังคมดิจิทัล

มารยาททางดิจิทัล และเข้าใจถึงการรับความในการบริหารจัดการความเสี่ยงในโลกออนไลน์

tal Business

8.3 คุณลักษณะพึงประสงค์ของพลเมืองดิจิทัล

8.3.1 8.3.3 8.3.5
เข้าใจในการเข้าถึงเทคโนโลยี
เป็นผู้ส่งสาร-รับสารที่มีมารยาท ใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมต่อสุขภาพ

สารสนเทศของผู้อื่น

8.3.2 8.3.4
เป็นผู้ประกอบกิจการ-ผู้บริโภคที่มี
เคารพต่อกฎหมายและกฏระเบียบ

ความซื่อสัตย์

8.4 ทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

8.4.1 ความหมายของทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

ทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital literacy) หมายถึง ทักษะในการนำเครื่องมือ อุปกรณ์ และ
เทคโนโลยีดิจิทัลที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แท็บเล็ต โปรแกรมคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์ เป็นต้น มาใช้

ให้เกิประโยชน์ในการปฏิบัติงาน และการทำงานร่วมกัน หรือใช้เพื่อพัฒนากระบวนการทำงานหรือระบบงานในองค์กรให้มี

ความทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมความสามารถ 4 มิติ ได้แก่

การใช้งาน การเข้าใจ การสร้าง การเข้าถึง
(Use) (Understand) (Create) (Access)

8.4.2 ประโยชน์ของการพัฒนาทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

ประโยชน์ต่อตนเอง ประโยชน์ต่อหน่วยงาน

ประโยชน์ต่อตนเอง ประโยชน์ต่อตนเอง

1) ทำงานได้รวดเร็ว ลดข้อผิดพลาด และมีความมั่นใจในการ
1) หน่วยงานได้รับการยอมรับว่ามีความทันสมัย เปิดกว้าง และเป็นที่

ทำงานมากขึ้น ยอมรับ ช่วยดึงดูดให้คนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูงมาทำงานกับองค์กร
2) มีความภาคภูมิใในผลงานที่สามารถสร้างสรรค์ได้เอง 2) หน่วยงานได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากผู้เกี่ยวข้องและผู้รับ

3) สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำงานได้อย่างมี
บริการมากขึ้น
ประสิทธิภาพมากขึ้น 3) บุคคลในองค์กรสามารถใช้ศักยภาพในการทำงานที่มีมูลค่าสูง

4) สามารถระบุทางเลือกและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ (High Value job) มากขึ้น
5) สามารถบริหารจัดการงานและเวลาได้ดียิ่งขึ้น และช่วยสร้าง
4) กระบวนการทำงานและการสื่อสารขององค์กรมีความกระชับขึ้น

สมดุลในชีวิตและการทำงาน คล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
6) มีเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้และเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ 5) หน่วยงานสามารถประหยัดทรัพยากรในการดำเนินงานได้มากขึ้น

8.5 คุณลักษณะของการเป็นพลเมืองดิจิทัล

tal Business

8.6 การป้องกันและดูแลความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตของพลเมืองดิจิทัล

8.6.1 การใช้สื่อดิจิทัลอย่างปลอดภัย

ความปลอดภัยในโลกดิจิทัล คือ การปกป้องความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ให้พ้นจากการถูกมิจฉาชีพขโมย

ข้อมูลส่วนตัวไปใช้ประโยชน์ หรือทำให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของข้อมูล

8.6.2 รอยเท้าดิจิทัลกับข้อมูลบุคคล

การกระทำบนอินเทอร์เน็ต เช่นการส่งอีเมล การส่งภาพขึ้นโซเชียลคือ รอยเท้าดิจิทัล ร่องรอยที่บุคคลทิ้งไว้ขณะ

ท่องอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ที่เปิด อีเมลที่ส่งหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่ป้อนเข้าสู่ระบบบริการออนไลน์ รอยเท้า

ดิจิทัลมี 2 ประเภทคือ

รอยเท้าดิจิทัลที่จัดเก็บโดยผู้อื่น (passive digital footprint) คือ ข้อมูลผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ถูกบันทึกไว้โดยไม่

ตั้งใจ เช่น IP address ที่เว็บเซิร์ฟเวอร์บันทึกไว้เมื่อเราเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ ประวัติการค้นหาออนไลน์ที่ถูก

บันทึกไว้โดยโปรแกรมค้นหา (search engines)

รอยเท้าดิจิทัลมีชีวิต (active digital footprint) คือ ข้อมูลที่ผู้ใช้จงใจบันทึกลงในระบบ เช่น อีเมล การ

เขียนบล็อก การโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียล้วนกลายเป็นรอยเท้าดิจิทัลของเรา ยิ่งเราเล่นโซเชียลมีเดีย

มากเท่าไหร่ รอยเท้าดิจิทัลของเราก็ยิ่งโตขึ้นเท่านั้น เมื่อข้อมูลดิจิทัลถูกเผยแพร่ไปแล้ว ก็ยากที่จะนำมัน

ออกจากระบบ แม้ว่าเราจะลบเนื้อหาที่โพสต์ในโซเชียลมีเดียไปแล้วก็ตาม

8.6.5 ข้อควรปฏิบัติของพลเมืองดิจิทัล

8.6.6 พฤติกรรมอันตรายในโลกออนไลน์

1) ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เพราะอาจถูกนำไปใช้โยชน์หรือหลอกลวง
2) ไม่ส่งหลักฐานส่วนตัวของตนเองและสมาชิกในครอบครัวให้ผู้อื่น
3) ไม่ออกไปพบบุคคลที่รู้จักทางโซเชียลหรือินเทอร์เน็ต
4) ระมัดระวังการซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต รวมถึงโฆษณาชวนเชื่อ
5) ไม่บักทึกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านยณะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ เพราะข้อมูลอาจถูกบันทึกไว้
6) ไฟล์ ภาพ เสียง หรือวิดิโอ รั่วไหลได้ เช่นจากการแฮ็กข้อมูล

8.6.7 รูปแบบและวิธีการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์

รูปแบบการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ จำแนกได้ 6 รูปแบบ ดังนี้

1) การโจมตี ขู่ทำร้าย หรือใช้ถ้อยคำหยาบคาย 4) การแบล็กเมล คือการนำความลับของผู้อื่นมาเผยแพร่

2) การคุกคามทางเพศแบบออนไลน์ 5) การหลอกลวง ที่ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ

3) การแอบอ้างตัวตนของผู้อื่น 6) การสร้างกลุ่มในโซเชียลเพื่อการโจมตีโยเฉพาะ

8.6.8 กฎหมายเกี่ยวกับการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์

ในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายเจาะจงเหมือนต่างประเทศ แต่มีกฎหมายที่สามารถนำมาใช้ได้เหมือนกัน คือ ความผิดฐาน

หมิ่นประมาทในประมวลกฏหมายอาญา (มาตรา 326) ที่นำมาปรับใช้ได้
การหมิ่นประมาท แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.หมิ่นประมาทธรรมดา เช่น สนทนาส่วนตัวกันแล้วมีคนอื่นอ่าน
2.หมิ่นประมาทโดยโฆษณา จะให้โทษร้ายแรงกว่าแบบแรก เช่น โพสต์สาธารณะ โพสต์ตามเพจ เป็นต้น
ความผิดพลาดฐานหมิ่นประมาทมีโอกาสจำคุกได้ เพราะกฎหมายมีผลไปถึงประมวลอาญานอกจากนี้ยังมีมาตรา 329
ที่เกี่ยวข้องกับการละโทษความผิดฐานหมิ่นประมาทกรณีผู้ใดแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริต ผู้นั้นไม่มีความผิดฐาน

หมิ่นประมาท
1) เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือปกป้องกันส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม
2) ในฐานะเป็นเจ้าภาพพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่
3) ติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ หรือ
4) ในการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมเรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือ
ในการประชุมความผิดฐานหมิ่นหมิ่นประมาท

8.6.9 กฎหมายเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศในโลกออนไลน์

พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ 2560 มาตรา 14 ข้อ (4) ที่กล่าวไว้ว่า การนำข้อมูลที่มีลักษณะอัน

ลามกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ การกระทำดังกล่าวถือว่า มีความผิด อาจต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000

บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ประมวลกฎหมายอาญา สำหรับในส่วนของประมวลกฎหมายอาญาที่สามารถนำมาเทียบเคียงได้ อาทิ

มาตรา 59 วรรคสอง กล่าวถึงเรื่องเจตนาว่า ผู้กระทำความผิดรู้อยู่แล้วว่า การกระทำของตน (โพสต์ข้อความในเชิง

ลามก) จะส่งผลอะไรต่อผู้ถูกกระทำนั้นบ้าง
มาตรา 397 กล่าวไว้ว่า บุคคลใดที่กระทำการรังแกหรือข่มเหงผู้อื่นจนได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ อาจ

ต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


Click to View FlipBook Version