เล่มที่ 3_Signs and Notices

I

คำนำ

แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ
ร่วมมือด้วยเทคนิค STAD สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 เล่มที่ 3 Signs and
Notices ได้จัดทาข้ึนเพ่ือใช้ในการฝึกเสริมทักษะด้านการอ่านเพ่ือความเข้าใจ เป็น
นวัตกรรมที่สร้างข้ึนตามมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ตรง
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สาหรับใช้ประกอบการ
จัดการเรียนการสอนและเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียน จะช่วยให้นักเรียนมี
โอกาสฝึกฝนทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของตนเอง จนเกิดความเข้าใจมากขึ้น อีกทั้งยัง
ช่วยเสริมให้นกั เรียน มีนสิ ยั รกั การอ่าน และสาคัญทีส่ ดุ คอื ช่วยปลกู ฝงั คา่ นยิ มให้นักเรียนได้
รู้คุณค่า รักและเหน็ ความสาคญั ของภาษาองั กฤษ

แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเล่มน้ี ประกอบด้วย คาช้ีแจงสาหรับครูผู้สอน
คาช้ีแจงสาหรับนักเรียน ผังมโนทัศน์การจัดการเรียนรู้ การจัดชั้นเรียน คาอธิบายรายวิชา
ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน เน้ือหาที่ต้องการให้ผู้เรียนได้
เรียนรู้ แบบฝึกหัด และแบบทดสอบหลังเรียน โดยมีคาเฉลยของแบบฝึกหัด และ
แบบทดสอบท้ังก่อนเรียนและหลงั เรียนอยใู่ นภาคผนวก

ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพ่ือความเข้าใจ
ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี
4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ จะเป็นส่วนหน่ึงที่จะช่วยให้นักเรียนเกิดการ
เรยี นรอู้ ยา่ งสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและเอ้ือประโยชนใ์ ห้แก่นักเรยี นและครูผู้สอนและผู้ท่ีมี
ความสนใจ

โครงสร้างเนอื้ หาแบบฝกึ ทักษะการอา่ นภาษาองั กฤษเพอ่ื ความเข้าใจ สาหรับ
นักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ประกอบด้วย

เลม่ ที่ 1 Skimming Strategy
เลม่ ท่ี 2 Advertisements
เลม่ ที่ 3 Signs and Notices
เลม่ ที่ 4 Labels

เลม่ ท่ี 5 Weather Forecast II

เล่มท่ี 6 Interpersonal Communication

เล่มที่ 7 Graphs

เลม่ ท่ี 8 Proverbs & Saying

ขอขอบคุณทุกท่านท่ีมีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ช่วยให้ข้อเสนอแนะแนวทางในการจัดทา

แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพ่ือความเข้าใจ สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

เล่มนจ้ี นเสรจ็ สมบรู ณ์

จันทรา เชาว์วิทยา เลสล่ี

สำรบญั III

เรอื่ ง หน้ำ

คานา I
สารบญั III
คาชี้แจงสาหรับครผู สู้ อน 1
คาช้แี จงสาหรบั นกั เรียน 2
ผังมโนทศั นก์ ารจดั การเรียนรู้ / การจัดชน้ั เรียน 3
คาอธบิ ายรายวชิ า/ ผลการเรียนรู้ 4
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 5
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 6
การอ่านป้ายประกาศและสญั ลกั ษณต์ ่าง ๆ (Signs and Notices) 9
Reading Activity 12
Vocabulary log 16
18
Exercise 1 19
Exercise 2 20
Exercise 3 21
Exercise 4 22
Exercise 5 23
Exercise 6 24
Exercise 7 25
แบบทดสอบหลังเรยี น 28
เอกสารอา้ งองิ 29
ภาคผนวก 30
เฉลยแบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น 30
เฉลย Exercise

คำชแ้ี จงสำหรับครผู ้สู อน 1

แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพ่ือความเข้าใจ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ
ร่วมมือด้วยเทคนิค STAD สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 นี้ จัดทาขึ้นเพ่ือใช้เป็น
เครื่องมือสาหรับการจัดการเรียนการสอนในการพัฒนาและส่งเสริมทักษะการอ่าน
ภาษาอังกฤษ มุ่งเน้นให้นักเรียนสามารถศึกษาค้นคว้าและพัฒนาทักษะการอ่านได้ด้วย
ตนเอง และเพื่อให้ครูผู้สอนได้เตรียมความพร้อมก่อนดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการ
สอน ครูผสู้ อนควรปฏิบัติ ดงั น้ี

1. ศึกษารายละเอียดและทาความเขา้ ใจชุดแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพ่อื
ความเขา้ ใจรว่ มกับการจดั การเรียนรแู้ บบรว่ มมือด้วยเทคนิค STAD ตามแผนการ
จัดการเรยี นรู้

2. จัดชนั้ เรียนในระบบกลุ่มตามคาแนะนา อาจปรับเปล่ียนไดต้ ามความเหมาะสมให้
พอดีกบั จานวนของนักเรียนในชนั้ เรยี น

3. แจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้และเกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
4. ครแู จกแบบทดสอบก่อนเรยี นใหน้ ักเรียนทุกคน เพื่อทดสอบความรู้พ้ืนฐานนักเรียน
5. ควรชีแ้ จงให้นกั เรียนทราบถงึ บทบาทของนกั เรียน ปฏิบตั ิตามข้นั ตอน อา่ นคาส่งั ให้

ชดั เจน ต้งั ใจปฏบิ ตั ิอยา่ งเต็มความสามารถ
6. ครมู หี น้าทแ่ี นะนานกั เรียนในระหวา่ งทนี่ กั เรียนปฏิบัติกิจกรรม
7. ครูแจกแบบทดสอบหลังเรียนใหน้ ักเรียนทกุ คน เพื่อประเมนิ ความรู้
8. พยายามสร้างโอกาสให้ผ้เู รียนมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมการเรียนการสอนให้มากทส่ี ุด
9. ส่งเสริมแลว้ ให้กาลังใจผู้เรียนในการแสวงหาความรู้

2

คำชแี้ จงสำหรับนกั เรยี น

แบบฝกึ ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ รว่ มกับการจดั การเรียนรูแ้ บบ
ร่วมมือดว้ ยเทคนิค STAD สาหรับนกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 น้ี จัดทาขน้ึ เพ่อื ใช้
ประกอบการเรยี นการสอน พัฒนาและสง่ เสรมิ ทกั ษะการอ่านภาษาองั กฤษ นักเรียนควร
ปฏบิ ัติ ดังนี้

1. นักเรียนแบ่งกล่มุ ออกเป็นกลุ่มละ 5 - 6 คน โดยคละตามความสามารถ
2. นกั เรียนศึกษาคาชีแ้ จงการใชแ้ บบฝึกทกั ษะการอ่านภาษาอังกฤษ ร่วมกบั การ

จดั การเรยี นรู้แบบรว่ มมอื ดว้ ยเทคนคิ STAD ให้เข้าใจ
3. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) จานวน 10 ข้อ
4. นกั เรยี นศึกษาเนื้อหาของแบบฝึกทกั ษะการอ่านภาษาอังกฤษ รว่ มกบั การจดั การ

เรยี นรแู้ บบรว่ มมือดว้ ยเทคนคิ STAD ในแต่ละแบบฝกึ ทกั ษะให้เข้าใจ
5. นักเรียนทาแบบฝึกหัดและกจิ กรรมต่างๆทไ่ี ด้รบั มอบหมายอย่างละเอยี ดรอบคอบ
6. สมาชกิ ภายในกลุ่มตอ้ งคอยช่วยเหลอื แนะนา อธิบาย ซง่ึ กนั และกนั
7. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) จานวน 10 ขอ้
8. ร่วมกันตรวจคาตอบและแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งเหมาะสมกบั เพื่อนและครู

3

ผงั มโนทัศนก์ ำรจัดกำรเรียนรู้

กำรจัดชั้นเรยี น

ครใู หน้ ักเรียนแบ่งกลุม่ ออกเปน็ กลุ่มๆ ละ 5-6 คน โดยคละตามความสามารถของ
นักเรยี น เพ่ือแยกออกเปน็ 3 กลุ่ม คอื กลุม่ เก่ง กลมุ่ ปานกลาง และกลมุ่ ออ่ น

*** (การจัดกลมุ่ อาจมกี ารเปลีย่ นแปลงได้ขนึ้ อยู่กบั ความเหมาะสม)***

4

คำอธิบำยรำยวิชำ

ศึกษาวิเคราะห์ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ
สานวน คาพังเพย สุภาษิต และบทกลอนของภาษาต่างประเทศที่มีทักษะการใช้
ภาษาต่างประเทศสื่อสารตามหัวเร่ืองต่างๆ ได้ ใช้ประโยคผสมและประโยคซับซ้อน สื่อ
ความหมายตามบริบทต่างๆ โดยใช้กระบวนการคิด การเรียนรู้ทางภาษาด้วยตนเอง
กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ และกระบวนการเสริมสร้าง
คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถใช้ภาษาสื่อสารในโอกาสต่างๆ ได้ถูกต้องตาม
หลักภาษาและไวยากรณ์ อย่างเป็นธรรมชาติ ใช้ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพได้
อยา่ งเหมาะสม

ผลกำรเรยี นรู้

1. อธบิ ายและเขยี นประโยค และข้อความใหส้ มั พันธ์กบั ส่อื ทีไ่ มใ่ ชค่ วามเรียงรปู แบบ
ต่างๆ ทอี่ า่ น รวมทงั้ ระบุและเขยี นสอ่ื ท่ีไมใ่ ชค่ วามเรียงรปู แบบตา่ งๆ ใหส้ มั พนั ธ์กับประโยค
และข้อความทีฟ่ งั หรอื อ่าน

2. พูดและเขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู บรรยาย เปรียบเทียบและแสดงความคิดเห็น
เกย่ี วกับเรอ่ื ง/ประเด็นขา่ ว เหตกุ ารณท์ ีฟ่ ังและอา่ นอย่างเหมาะสม

3. เลอื กใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริ ิยาทา่ ทางเหมาะสมกับระดบั ของบุคคล โอกาส และ
สถานที่ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมเจ้าของภาษา

4. อธิบาย/เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งระหวา่ งโครงสร้างประโยค ขอ้ ความ สานวน
คาพงั เพย สภุ าษติ และบทกลอนของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

5. ใชภ้ าษาในการสอ่ื สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จาลองทีเ่ กิดข้ึนในหอ้ งเรียน
สถานศึกษา ชมุ ชนและสงั คม

5

จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้

ด้ำนควำมรู้ (K)
1. เขียนคาศัพทแ์ ละบอกความหมายจากเรอื่ งทอ่ี ่านได้
2. บอกรายละเอียดของเร่ืองทีอ่ ่านได้
3.เลือกคาศัพท์มาใช้ในบริบททก่ี าหนดได้อย่างถูกตอ้ ง
4. สรุปขอ้ มลู เกย่ี วกับเร่ืองท่ีอ่านได้

ดำ้ นทกั ษะกระบวนกำร (P)
1. กระบวนการกลมุ่
2. นาเสนอขอ้ มูลเกี่ยวกบั เรอื่ งทอ่ี า่ นได้

ดำ้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
1. มีวินัย รับผดิ ชอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทางาน

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน (C)
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

6

แบบทดสอบก่อนเรียน

คำช้แี จง 1. แบบทดสอบฉบับน้ีมีทง้ั หมด 10 ขอ้ ใช้เวลาทา 15 นาที
2. ใหท้ าเครื่องหมาย X ทบั ตัวอักษร a b c หรือ d ทถ่ี ูกต้องทส่ี ดุ เพยี งข้อเดียวลง

ในกระดาษคาตอบ (Choose the best answer.)

1. Where can you see this notice?
a. On a door.
b. In a street.
c. At a club.
d. In a department store.

2. What does this sign mean?
a. Currency Exchange.
b. Handle with care.
c. Beauty Salon.
d. Wash your hand.

3. What does this sign mean?
a. Department Store ahead.
b. Lost and Found.
c. Sold Out.
d. Beware of pickpockets.

7

4. What does this sign mean?
a. Drive carefully! The road is dangerous.
b. You mustn’t let your dog run free.
c. You can park here.
d. You mustn’t eat and drink.

Students who do not attend class must bring a note from their parents
explaining reason for absence. NO EXCEPTIONS!

5. What does this notice mean?
a. All students must not miss a class.
b. All students must present a note if they miss a class.
c. Parents must come to school to explain their children’s absence.
d. Students can’t attend class if they haven’t got a note.

6. What does this sign mean?
a. You can’t take photos here.
b. Do not use your camera here.
c. Do not take your camera here.
d. Photographs are on sale here.

7. This sign indicates a Low Clearance sign and your vehicle should not be
taller than what’s listed on the sign.
a. True.
b. False.
c. Maybe.
d. None of the above.

8. What does this sign mean? 8
a. No Signal Area.
b. No calls allowed.
c. Do not use your cell phone here.
d. Cellular phones are on sale.

9. Which sign didn’t a driver see?

Policeman : You can’t turn your car here. b. 3
Driver : I’m sorry. I didn’t see that sign. d. 6

a. 2
c. 5

10. Who might put up this sign?

a. A hotel guest wanting to relax.
b. A librarian warning users not to annoy others.
c. A teacher telling her students to keep quiet.
d. A manager leaving his office.

กำรอำ่ นปำ้ ยประกำศและสัญลกั ษณต์ ่ำงๆ 9
(Signs and Notices)

กำรอำ่ นป้ำยประกำศและสัญลักษณต์ ำ่ ง ๆ (Signs and Notices)
Signs (ปา้ ยประกาศ) คือ เครอื่ งหมาย หรอื สญั ลกั ษณ์ หรอื คาท่ีแจ้งให้ปฏิบตั ิ แจ้ง

เตอื น ขอรอ้ ง ขอความรว่ มมอื หรือห้ามกระทา ในภาษาอังกฤษมีคาทใี่ ช้แทนคาวา่ signs
คอื symbols

เครื่องหมายสญั ลกั ษณ์อาจจดั เป็นหมวดหม่ไู ด้ดงั น้ี
1. Signs giving information (ปา้ ยสัญลกั ษณ์ให้ขอ้ มลู ) ป้ายประเภทน้ี ส่วนใหญ่
มกั เปน็ ปา้ ยประกาศทม่ี ขี อ้ ความสั้น ๆ เพียง 2-3 คา และคาที่ใชม้ ักจะเปน็ คานามหรือบาง
ป้ายกม็ แี ตร่ ปู ภาพซ่ึงก็เปน็ ทเี่ ข้าใจในระดบั สากล ปา้ ยสญั ลกั ษณน์ ้ีจะมีตามสานักงาน
เพือ่ ใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั การปฏบิ ัตติ นหรือระวงั คนงานอยู่ในสานกั งานหรือโรงงาน หรอื ใน
กรณีท่มี ีเหตฉุ กุ เฉินจาเป็นตอ้ งใช้ในกรณีพิเศษ เชน่

ทางออกฉุกเฉนิ เครื่องดบั เพลงิ เคมี โทรศัพท์เฉพาะฉกุ เฉนิ

2. Signs containing warning (ปา้ ยประกาศท่ีเป็นการเตอื น) ให้ระวงั อันตราย
หรืออุบัติเหตุต่าง ๆ อาจเปน็ คาที่มีความหมาย “ระวงั ” ซงึ่ เป็นกลมุ่ คาทข่ี ้ึนต้นดว้ ย
“CAUTION” หรอื “Mind____” หรอื “Beware of_____” เปน็ ตน้ เชน่

10

3. Signs containing request (ปา้ ยประกาศที่ใชใ้ นการขอร้องหรอื ขอความ
รว่ มมอื ) ถอ้ ยคาที่ใช้จะมลี ักษณะกระตุ้นใหเ้ กดิ ความร่วมมอื หรือคล้ายเป็นคาสั่งกลายๆ แต่
เปน็ ท่ีเขา้ ใจว่าใชเ้ พ่อื ขอความร่วมมือหรอื ขอร้องให้ปฏบิ ัตติ าม ส่วนใหญ่จะขน้ึ ตน้ ประโยค
ดว้ ยคากรยิ า

Please drive slowly

4. Signs containing prohibitions (ป้ายประกาศทใี่ ชห้ า้ มทา) เปน็ ป้ายประกาศ
ห้ามทาบางอย่าง จะมลี ักษณะเป็นประโยคคาส่ังในรปู Do + not + verb หรือ No +
noun เช่น

No entry No bikes No audible

5. Traffic signs (ป้ายสัญลักษณจ์ ราจร) จะใชเ้ ครื่องหมายตา่ ง ๆ มากกว่า
ตวั หนังสือ สญั ลักษณจ์ ราจรสว่ นใหญ่จะมีลกั ษณะเปน็ สากล หากจะมีข้อแตกต่างปลีกย่อย
เล็กน้อยกย็ งั อยู่ในแนวเดยี วกับทจี่ ะทาความเข้าใจได้

ป้ายสญั ลักษณ์จราจรแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ดงั น้ี
5.1 Regulatory signs (ปา้ ยบงั คบั ) เช่น

No parking No right turn No U-turn

5.2 Warning signs (ป้ายเตือน) เช่น 11

Signal ahead Caution deer Crossing Slippery road

Reading Activity 12

ตัวอยำ่ งข้อควำมป้ำยประกำศ

BEWARE OF THE DOG FIRE EXIT DON’T LEAN OUT OF THE WINDOW

ระวังสุนขั ทางหนไี ฟ อยา่ งย่นื แขนหรือศีรษะออกขา้ งนอก

NO SMOKING NO PHOTO NO KIDDING ELEVATOR

ห้ามสูบบหุ ร่ี หา้ มถา่ ยรูป หา้ มหยอกลอ้ ลิฟท์

FASTEN SEAT BELTS VISITORS ONLY KEEP OFF THE GRASS ESCALATOR

รัดเขม็ ขดั ใหแ้ นน่ ท่เี ฉพาะ หา้ มเดนิ ลดั สนาม บนั ไดเลื่อน

ON SALE NOW NEW ARRIVAL MEETING POINT OUT IN

กาลังลดราคา สินค้าตวั ใหม่ จุดนดั หมาย ทางออก ทางเขา้

13

ตัวอย่ำงปำ้ ยประกำศและสัญลักษณจ์ รำจร

14

กำรใช้ Permission, Obligation, Prohibition

Permission =กำรยินยอม, กำรอนุญำต
You can camp here.
You’re allowed to take off your shoes.
We use can and can’t to talk about permission.

Obligation = หนำ้ ท่ี
You have to camp here.
You’ve got to take off your shoes.
We use have to and can’t to talk about obligation and prohibition.

Prohibition = กำรห้ำม
You mustn’t camp here.
You aren’t allowed to take off your shoes.
We use must and have to talk about rules.
Must is common in written rules.
We use mustn’t for prohibition.

15

16

1. Stop = ใหห้ ยดุ รถ
2. Steep hill descent = ทางลงลาดชนั
3. Steep hill ascent = ทางขึน้ ลาดชัน
4. One way = ให้เดนิ รถทางเดยี ว
5. One way traffic = เดนิ รถทางเดียว
6. Two ways traffic = เดนิ รถสวนทางกัน
7. Turn right = ใหเ้ ล้ยี วขวา
8. Turn left = ใหเ้ ล้ียวซ้าย
9. Right winding road = ทางคดทางขวา
10.Left winding road = ทางคดดา้ นซา้ ย
11. Caution cliff ahead = ระวงั หนา้ ผาขา้ งหน้า
12. School crossing = ทางคนเดนิ ข้าม
13. Slippery road = ระวังถนนล่ืน
14. Trucks Prohibited = ห้ามรถบรรทกุ เขา้
15. Signal ahead = สญั ญาณไฟขา้ งหนา้
16. Width limitation = จากดั ความกว้าง
17. Speed limited = จากดั ความเรว็ ไม่เกิน 90 กม./ ชม.
18. Weight limitation = จากดั น้าหนกั บรรทุก
19. Height limitation = จากัดความสูง
20. Dangerous bend = อนั ตรายทางโคง้ หักศอก
21. Roundabout ahead = วงเวยี นขา้ งหนา้
22. End of road = สดุ ทาง
23. Narrow road = ทาง / ถนนแคบลง
24. Lanes merging left = ทางรว่ มข้างหน้า (ดา้ นซา้ ย)
25. Lanes merging right = ทางรว่ มข้างหน้า (ดา้ นขวา)

26. Bike lane = ทางรถจกั รยาน 17

27. Caution deer crossing = ระวงั (กวาง) เดนิ ข้ามถนน

28. No entry = ห้ามเข้า

29. Bar = เครอื่ งด่ืม

30. No food = ห้ามนาอาหาร/เคร่ืองดื่ม

31. End of restriction = สดุ เขตจากัดความเรว็

32. Motorcycles & autos prohibited = ห้ามรถมอเตอร์ไซด์และรถยนตผ์ ่าน

33. Dual carriage way end = สิ้นสดุ ทางคู่

34. Narrow bridge = สะพานแคบ

35. Junction ahead = ทางแยกข้างหนา้

36. No u –turn = ห้ามกลับรถ

37. No turn right = หา้ มเลีย้ วขวา

38. No standing and parking = หา้ มหยดุ และห้ามจอด

39. No parking = ห้ามจอดรถ

40. Airport = สนามบิน

41. Left winding road = ทางคดด้านซ้าย

42. Right turn split = ทางแยกดา้ นขวาขา้ งหนา้

43. Dual carriage way ahead = เรม่ิ ตน้ ทางคู่

44. No bikes = ห้ามรถจกั รยาน

45. Loose gravel = ระวังผวิ ทางรว่ น

46. No audible = หา้ มใช้เสียง / กดแตร

47. Rail way crossing without gate = ทางรถไฟข้างหน้า (ไมม่ เี คร่ืองกนั้ )

Exercise 1 18

Direction : Match the words with their meanings.

________1. Prohibition a. สนิ ค้าตวั ใหม่
________2. No smoking b. เฉพาะพนกั งาน
________3. No kidding c. ห้ามจอด
________4. Fire exit d. ห้ามสูบบุหร่ี
________5. New arrival e. หา้ มหยอกล้อ
________6. No parking f. ยินยอม อนุญาต
________7. Do not enter g. หน้าที่
________8. Staff only h. ทางหนีไฟ
________9. Permission i. หา้ มเข้า
________10. Obligation j. การห้าม

Name______________________________Class___________No_______

Exercise 2 19

Direction : Match the sigh (1-10) to the meaning (a-j).

1.__________ a. Rail way crossing without gate.

2.__________ b. Narrow bridge.

3.__________ c. No food.

4.__________ d. Dual carriage way ahead.

5.__________ e. Motorcycles & autos prohibited.

6.__________ f. No u –turn.

7.__________ g. Signal ahead.

8.__________ h. Height limitation.

9.__________ i. One way traffic.

10.__________ j. Steep hill descent.

Name______________________________Class___________No_______

Exercise 3 20

Direction : Match the definitions with the signs.

1. You mustn’t throw garbage on the ground.
2. You must drive slowly in this area because

of the children.
3. Only guide dogs can enter into this place.
4. People have to walk carefully here

because the floor is wet.
5. This is a road for bicycles only.
6. This is the place where you can change

your little kid’s diaper.
7. You can’t make noise here.
8. It indicates the place where you can pick

up your luggage at the airport.
9. You can find it in highways. It indicates the

distance you are to the next place where
you can stop and find information.
10. It indicates the place where you can
leave your car.

Name______________________________Class___________No______

Exercise 4 21

Direction : Write their meaning and give reason why it is important.
Signs What does it mean? Why it is important?

Name______________________________Class___________No_______

Exercise 5 22

Direction : Read the parking signs and answer the questions.

1. Can I park on the right hand side of this
parking sign?

__________________________________________
2. It is 9.00 am on Monday. Can I park on the

left hand side of this sign for 1 hour?
__________________________________________
3. It is 3 pm on Saturday. Can I park on the left

hand side of this sign for 2 hours?
__________________________________________

4. I have disabled parking permit. Where should
I park my car?

__________________________________________
5. It is 9 am on Sunday. Can I park my car on the

left hand side of this sign for 3 hours?
__________________________________________

Name______________________________Class___________No_____

Exercise 6 23

Direction : Look at the workplace signs and write their meanings and the
place where you would see them. Use the following phrases to
explain the meanings of the signs.

It means you should____. Example

It means you shouldn’t____. Meaning:
You have to keep the door closed.
It means you need to____. Where:
It means you can____. at school, factory, office.
It means you can’t____.
It means you have to____.

1. Meaning:_____________ 6. Meaning:_____________
_____________________
_____________________ Where:_______________

Where:_______________

2. Meaning:_____________ 7. Meaning:_____________
_____________________
_____________________ Where:_______________

Where:_______________

3.. Meaning:_____________ 8. Meaning:_____________
_____________________ _____________________
Where:_______________ Where:_______________

4. Meaning:_____________ 9. Meaning:_____________
_____________________ _____________________
Where:_______________ Where:_______________

5. Meaning:_____________ 10. Meaning:_____________
_____________________ _____________________
Where:_______________ Where:_______________

Exercise 7 24

Direction : Let’s pay attention to this noticeboard, then answer
the questions below according to the information given.

1. Where should students go to attend the trip to Rome meeting?
________________________________________________________
2. What can you get if you win the comic designers contests?
________________________________________________________
3. What time does the drama club meet?
________________________________________________________
4. Who teaches drama at school? How much is the course?
________________________________________________________
5. What should you do to take part in the comic designers contests?
_______________________________________________________

Name_____________________________Class___________No_______

แบบทดสอบหลังเรียน 25

คำช้แี จง 1. แบบทดสอบฉบบั นี้มีท้ังหมด 10 ข้อ ใช้เวลาทา 15 นาที
2. ให้ทาเครอื่ งหมาย X ทับตวั อกั ษร a b c หรอื d ท่ีถูกตอ้ งท่ีสุด

เพยี งข้อเดียวลงในกระดาษคาตอบ (Choose the best answer.)

1. What does this sign mean?
a. Department Store ahead.
b. Lost and Found.
c. Sold Out.
d. Beware of pickpockets.

2. Where can you see this notice?
a. On a door.
b. In a street.
c. At a club.
d. In a department store.

3. What does this sign mean?
a. Drive carefully! The road is dangerous.
b. You mustn’t let your dog run free.
c. You can park here.
d. You mustn’t eat and drink.

4. What does this sign mean?
a. Currency Exchange.
b. Handle with care.
c. Beauty Salon.
d. Wash your han

5. What does this sign mean? 26
a. You can’t take photos here.
b. Do not use your camera here.
c. Do not take your camera here.
d. Photographs are on sale here.

Students who do not attend class must bring a note from their parents
explaining reason for absence. NO EXCEPTIONS!
6. What does this notice mean?

a. All students must not miss a class.
b. All students must present a note if they miss a class.
c. Parents must come to school to explain their children’s absence.
d. Students can’t attend class if they haven’t got a note.

7. What does this sign mean?
a. No Signal Area.
b. No calls allowed.
c. Do not use your cell phone here.
d. Cellular phones are on sale.

8. This sign indicates a Low Clearance sign and your vehicle should not be
taller than what’s listed on the sign.
a. True.
b. False.
c. Maybe.
d. None of the above.

9. Who might put up this sign? 27

a. A hotel guest wanting to relax.
b. A librarian warning users not to annoy others.
c. A teacher telling her students to keep quiet.
d. A manager leaving his office.

10. Which sign didn’t a driver see?

Policeman : You can’t turn your car here. b. 3
Driver : I’m sorry. I didn’t see that sign. d. 6

a. 2
c. 5