เล่มที่ 1_Skimming Strategy

I

คำนำ

แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ
ร่วมมือด้วยเทคนิค STAD สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 เล่มที่ 1 Skimming
Strategy ได้จัดทาขึ้นเพ่ือใช้ในการฝึกเสริมทักษะด้านการอ่านเพ่ือความเข้าใจ เป็น
นวัตกรรมท่ีสร้างข้ึนตามมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ตรง
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 สาหรับใช้ประกอบการ
จัดการเรียนการสอนและเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียน จะช่วยให้นักเรียนมี
โอกาสฝึกฝนทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของตนเอง จนเกิดความเข้าใจมากขึ้น อีกทั้งยัง
ชว่ ยเสรมิ ใหน้ ักเรยี น มีนสิ ยั รักการอา่ น และสาคัญทสี่ ุดคือชว่ ยปลกู ฝังคา่ นิยมให้นักเรียนได้
รู้คณุ คา่ รักและเห็นความสาคญั ของภาษาองั กฤษ

แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเล่มน้ี ประกอบด้วย คาชี้แจงสาหรับครูผู้สอน
คาช้ีแจงสาหรับนักเรียน ผังมโนทัศน์การจัดการเรียนรู้ การจัดช้ันเรียน คาอธิบายรายวิชา
ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน เนื้อหาที่ต้องการให้ผู้เรียนได้
เรียนรู้ แบบฝึกหัด และแบบทดสอบหลังเรียน โดยมีคาเฉลยของแบบฝึกหัด และ
แบบทดสอบทงั้ กอ่ นเรยี นและหลังเรียนอยู่ในภาคผนวก

ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพ่ือความเข้าใจ
ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ จะเป็นส่วนหน่ึงที่จะช่วยให้นักเรียนเกิดการ
เรยี นรู้อยา่ งสมบูรณ์ มปี ระสิทธิภาพและเออื้ ประโยชน์ให้แกน่ ักเรยี นและครูผู้สอนและผู้ที่มี
ความสนใจ

โครงสรา้ งเนื้อหาแบบฝึกทักษะการอา่ นภาษาอังกฤษเพอ่ื ความเข้าใจ สาหรับ
นกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ประกอบดว้ ย

เลม่ ที่ 1 Skimming Strategy
เลม่ ท่ี 2 Advertisements
เลม่ ท่ี 3 Signs and Notices
เล่มที่ 4 Labels

เล่มที่ 5 Weather Forecast II

เล่มที่ 6 Interpersonal Communication

เลม่ ที่ 7 Graphs

เล่มที่ 8 Proverbs & Saying

ขอขอบคุณทุกท่านท่ีมีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ช่วยให้ข้อเสนอแนะแนวทางในการจัดทา

แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4

เลม่ นีจ้ นเสรจ็ สมบูรณ์

จันทรา เชาว์วิทยา เลสล่ี

สารบญั III

เรื่อง หนา้

คานา I
สารบัญ III
คาชี้แจงสาหรับครูผู้สอน 1
คาช้แี จงสาหรับนักเรียน 2
ผังมโนทัศนก์ ารจดั การเรียนรู้ / การจดั ชั้นเรยี น 3
คาอธบิ ายรายวชิ า/ ผลการเรียนรู้ 4
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 5
แบบทดสอบก่อนเรยี น 6
กลวิธกี ารอา่ นเพ่อื จบั ใจความสาคญั (Skimming Strategy) 9
Reading Activity 11
Vocabulary log 12
13
Exercise 1 14
Exercise 2 15
Exercise 3 16
Exercise 4 17
Exercise 5 19
Exercise 6 21
Exercise 7 22
แบบทดสอบหลงั เรยี น 25
เอกสารอ้างองิ 26
ภาคผนวก 27
เฉลยแบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน 27
เฉลย Exercise

คาชแี้ จงสาหรับครผู สู้ อน 1

แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพ่ือความเข้าใจ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ
ร่วมมือด้วยเทคนิค STAD สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 น้ี จัดทาข้ึนเพ่ือใช้เป็น
เคร่ืองมือสาหรับการจัดการเรียนการสอนในการพัฒนาและส่งเสริมทักษะการอ่าน
ภาษาอังกฤษ มุ่งเน้นให้นักเรียนสามารถศึกษาค้นคว้าและพัฒนาทักษะการอ่านได้ด้วย
ตนเอง และเพ่ือให้ครูผู้สอนได้เตรียมความพร้อมก่อนดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการ
สอน ครูผ้สู อนควรปฏิบตั ิ ดังนี้

1. ศกึ ษารายละเอยี ดและทาความเข้าใจชุดแบบฝกึ ทกั ษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อ
ความเข้าใจ รว่ มกบั การจดั การเรียนรแู้ บบร่วมมือดว้ ยเทคนิค STAD ตามแผนการ
จดั การเรียนรู้

2. จัดชนั้ เรียนในระบบกลุ่มตามคาแนะนา อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมให้
พอดีกบั จานวนของนกั เรียนในชัน้ เรียน

3. แจ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้และเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล
4. ครูแจกแบบทดสอบก่อนเรยี นให้นกั เรียนทกุ คน เพอื่ ทดสอบความรพู้ ื้นฐานนักเรยี น
5. ควรชีแ้ จงใหน้ ักเรียนทราบถึงบทบาทของนกั เรยี น ปฏบิ ัติตามขน้ั ตอน อา่ นคาส่งั ให้

ชัดเจน ตั้งใจปฏิบัตอิ ยา่ งเตม็ ความสามารถ
6. ครมู ีหน้าทแี่ นะนานักเรียนในระหว่างทนี่ ักเรียนปฏบิ ัตกิ ิจกรรม
7. ครแู จกแบบทดสอบหลังเรียนใหน้ ักเรียนทุกคน เพอื่ ประเมินความรู้
8. พยายามสรา้ งโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนรว่ มในกิจกรรมการเรียนการสอนให้มากท่ีสดุ
9. ส่งเสริมแลว้ ใหก้ าลงั ใจผเู้ รยี นในการแสวงหาความรู้

2

คาชแี้ จงสาหรับนักเรียน

แบบฝกึ ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ร่วมกับการจัดการเรียนรูแ้ บบ
ร่วมมือดว้ ยเทคนิค STAD สาหรับนกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 นี้ จัดทาขน้ึ เพอ่ื ใช้
ประกอบการเรยี นการสอน พัฒนาและสง่ เสรมิ ทกั ษะการอา่ นภาษาองั กฤษ นักเรียนควร
ปฏบิ ัติ ดังนี้

1. นักเรียนแบ่งกล่มุ ออกเป็นกลุ่มละ 5 - 6 คน โดยคละตามความสามารถ
2. นกั เรียนศึกษาคาชีแ้ จงการใชแ้ บบฝึกทกั ษะการอ่านภาษาอังกฤษ ร่วมกบั การ

จดั การเรยี นรู้แบบรว่ มมอื ดว้ ยเทคนคิ STAD ใหเ้ ขา้ ใจ
3. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) จานวน 10 ขอ้
4. นกั เรยี นศึกษาเนื้อหาของแบบฝึกทกั ษะการอา่ นภาษาอังกฤษ รว่ มกับการจัดการ

เรยี นรแู้ บบรว่ มมือดว้ ยเทคนคิ STAD ในแตล่ ะแบบฝกึ ทักษะใหเ้ ขา้ ใจ
5. นักเรียนทาแบบฝึกหัดและกจิ กรรมต่างๆ ที่ไดร้ บั มอบหมายอย่างละเอยี ดรอบคอบ
6. สมาชกิ ภายในกลุ่มตอ้ งคอยช่วยเหลอื แนะนา อธิบาย ซึ่งกันและกัน
7. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) จานวน 10 ข้อ
8. ร่วมกันตรวจคาตอบและแสดงความคิดเห็นอย่างเหมาะสมกบั เพอ่ื นและครู

3

ผงั มโนทัศนก์ ารจัดการเรียนรู้

การจัดชั้นเรยี น

ครใู หน้ ักเรียนแบ่งกลุม่ ออกเปน็ กลุ่มๆ ละ 5-6 คน โดยคละตามความสามารถของ
นักเรยี น เพ่ือแยกออกเปน็ 3 กลุ่ม คอื กลุม่ เก่ง กลมุ่ ปานกลาง และกลมุ่ ออ่ น

*** (การจัดกลมุ่ อาจมีการเปลีย่ นแปลงได้ขนึ้ อยู่กบั ความเหมาะสม)***

4

คาอธบิ ายรายวชิ า

ศึกษาวิเคราะห์ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ
สานวน คาพังเพย สุภาษิต และบทกลอนของภาษาต่างประเทศท่ีมีทักษะการใช้
ภาษาต่างประเทศส่ือสารตามหัวเรื่องต่างๆ ได้ ใช้ประโยคผสมและประโยคซับซ้อน ส่ือ
ความหมายตามบริบทต่างๆ โดยใช้กระบวนการคิด การเรียนรู้ทางภาษาด้วยตนเอง
กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ และกระบวนการเสริมสร้าง
คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ เพ่ือให้สามารถใช้ภาษาส่ือสารในโอกาสต่างๆ ได้ถูกต้องตาม
หลักภาษาและไวยากรณ์ อย่างเป็นธรรมชาติ ใช้ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพได้
อย่างเหมาะสม

ผลการเรียนรู้

1. อธิบายและเขยี นประโยค และขอ้ ความให้สมั พนั ธก์ บั ส่อื ทีไ่ มใ่ ชค่ วามเรียงรูปแบบ
ต่างๆ ทอี่ ่าน รวมทงั้ ระบแุ ละเขยี นส่อื ทไี่ มใ่ ช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สัมพนั ธ์กับประโยค
และข้อความที่ฟงั หรืออ่าน

2. พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ ้อมลู บรรยาย เปรียบเทียบและแสดงความคิดเหน็
เกีย่ วกับเร่ือง/ประเด็นข่าว เหตกุ ารณท์ ่ีฟังและอา่ นอยา่ งเหมาะสม

53. เลือกใชภ้ าษา นา้ เสยี ง และกิริยาทา่ ทางเหมาะสมกับระดบั ของบคุ คล โอกาส และ

สถานท่ตี ามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมเจา้ ของภาษา
4. อธิบาย/เปรยี บเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ขอ้ ความ สานวน

คาพงั เพย สภุ าษิตและบทกลอนของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
5. ใชภ้ าษาในการส่อื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองท่เี กิดขนึ้ ในหอ้ งเรียน

สถานศึกษา ชมุ ชนและสงั คม

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)
1. เขียนคาศัพทแ์ ละบอกความหมายจากเร่ืองที่อ่านได้
2. บอกรายละเอียดของเรื่องทอี่ ่านได้
3. เลอื กคาศัพท์มาใช้ในบริบททีก่ าหนดไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
4. สรุปขอ้ มูลเกยี่ วกับเรอื่ งท่อี ่านได้

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
1. กระบวนการกล่มุ
2. นาเสนอขอ้ มูลเก่ียวกับเร่อื งที่อา่ นได้

ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
1. มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งม่ันในการทางาน

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น (C)
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

แบบทดสอบก่อนเรยี น 6

คาชแ้ี จง 1. แบบทดสอบฉบบั นี้มีทง้ั หมด 10 ข้อ ใช้เวลาทา 15 นาที
2. ให้ทาเคร่อื งหมาย X ทบั ตัวอักษร a b c หรอื d ทถ่ี ูกต้องทส่ี ดุ เพยี งข้อเดียวลง

ในกระดาษคาตอบ (Choose the best answer.)

Having a marvelous time!. I’ve never seen such a beautiful beach:

miles and miles of sand and enormous palm trees.

1. This information may be from______________________.

a. a postcard b. a song

c. the weather forecast d. the morning news

My name is Susan and I live at 645 C street. I like C street. It is a nice street.

2. The main idea is “______________________”

a. Susan is pleased to live on C street. b. My name is Susan.

c. I live on C street. d. It is a nice street.

The Chang family went to see their friends, the Browns.

“Where do they live?”, asked Mr. Chang. “They live on the

fourth floor.” said Mrs. Chang. They took the elevator up to

their friends’ floor.

3. The main idea is “_________________”
a. The Browns took the elevator up.
b. The Chang went to the Browns’ home.
c. The Chang lived on the fourth floor.
d. The Browns went out.

7

The one thing to do in an emergency is____________. See what
is wrong and then say, “There’s an accident on B street; there’s a fire at 562
Avenue J; there’s a fire on the third floor at 620 Worth Street.” Give
information that can help take care of the emergency.

4. The missing words are “___________________”

a. to call for help. b. to stay outside the building.

c. to take the elevator down. d. to jump down from the window.

Bob and Tom were at the post office in a long line. A woman in line

got sick and said, “______________.” John said, “Sit here. We’re going to

call an ambulance.”

5. The missing words are “__________________”

a. please call an elevator. b. please call the doctor.

c. please call the police. d. please help me.

Read the passage and choose the correct answer for each item below. (6-8)
Water is a precious natural resource and we need to conserve it,

especially in times of drought. You can save water in your home in
several ways. The first and most important thing you should do is check
for leaks and fix them. A faucet that drips can waste up to 20 gallons of
water every day! A leaky toilet waste even more water. Another way
you can save water is to take shorter showers. You use from 3-7 gallons
of water every minute the shower runs. Last but not least, don’t forget
to turn the water off while you brush your teeth.

6. What is the main idea of the paragraph?
a. Water is a natural resource.
b. Leaky toilet waste a lot of water.
c. Take shorter shower.
d. There were several ways to conserve water in your home.

7. A faucet that drips can waste up to 20 gallons of water every day! 8

What does the underline word mean?

a. drop b. drum

c. drought d. drug

8. How many gallons the shower used every minute?

a. 3 gallons b. 7 gallons

c. 3 to 7 gallons d. 20 gallons

Read the passage and choose the correct answer for each item below. (9-10)

Fast food is known for being convenient. But when it comes to
nutrition, it is not considered to be the best choice. McDonald's says
they want to change that. In July 2011, the company announced a plan
to provide customers with healthier options. One change since then has
been the addition of apple slices to Happy Meals. Now, the fast-food
chain is enlisting kids' help to make changes to Happy Meals. Sarah
Ralston, 11, and Elanya Saley, 9, won a contest to become honorary
Happy Meal chefs. Their job is to help the company's executive chef,
Dan Coudreaut, create a new Happy Meal option.

9. According to the passage, to make their Happy Meals healthier, McDonald's

has added ________________ to them.

a. fish b. beans

c. vegetables d. fruits

10. What does 'it' refer to?

a. Fast food b. McDonald's

c. Nutrition d. Choice

กลวิธีการอ่านเพื่อจบั ใจความสาคัญ 9

(Skimming Strategy)

การอา่ นเพื่อจบั ใจความสาคัญ

การอ่านอย่างคร่าว ๆ (Skimming) หรือการอ่านแบบข้ามคาเป็นวิธีการอ่านข้อความอย่าง

เร็ว ๆ และอ่านข้ามเป็นตอน ๆ อาจจะข้ามเป็นประโยคหรือบรรทัด ๆ ไป ไม่ติดต่อกัน กล่าวคือ

อา่ นจากตอนนีก้ ่อนแล้วขา้ มไปประมาณสี่หรือห้าประโยค จึงจะอ่านข้อความตอนใหม่ต่อไป ถ้าเห็นว่า

จาเป็นและสาคัญ ผู้เช่ียวชาญทางการอ่านบางท่านเรียกการอ่านแบบน้ีว่า “อ่านด้วยน้ิว” (reading

with fingers) การอา่ นแบบน้ี มีจดุ มงุ่ หมายหลกั อยู่ 2 ประการ คือ

1. เพ่ือเก็บประเดน็ หรือใจความสาคญั โดยทั่ว ๆ ไป

2. เพี่อเกบ็ รายละเอียดที่สาคัญบางอย่างเทา่ นัน้

การอ่านอยา่ งรวดเรว็ เพื่อจับใจความสาคญั (main idea) ของส่งิ ที่อา่ น โดยที่ผอู้ า่ นไม่

มงุ่ หวงั ทจี ะทราบเก่ียวกบั รายละเอยี ดของเนื้อเร่ือง การอา่ นประเภทน้ีมกั ได้แก่ การอ่านบทความจาก

หนงั สอื พิมพ์ นติ ยสาร วารสาร ปกหนงั สือ (ตามแผงหรือร้านขายหนงั สือ) และนวนยิ ายต่าง ๆ

การอ่านวิธี Skimming น้ี จะไมอ่ ่านทกุ คาหรอื ทุกประโยค แตจ่ ะจบั ใจความเฉพาะคา

สาคญั (key words) ท่จี ะบอกใหร้ ู้วา่ เนอ้ื เรื่องท่ีอ่านทั้งหมดเก่ยี วกับเรือ่ งอะไร (What is it all

about?)

วิธีการท่ีควรยึดเปน็ หลักปฏิบัติในการอ่านแบบน้ี พอจะสรปุ ได้ ดังน้ี

1. อา่ นสองหรือสามคาแรกและสองหรือสามคาสุดท้ายในแตล่ ะประโยค วธิ นี ีจ้ ะอ่านข้าม

หรือมองผ่านส่วนที่คิดว่าไมม่ ีความสาคัญในประโยคนนั้ ไปเลย การอา่ นแบบน้ีอาจจะเข้าใจหรอื ไม่

เขา้ ใจเนือ้ หาในประโยคที่อ่านนน้ั กไ็ ด้ ทง้ั นยี้ ่อมขนึ้ อยู่กบั ความสลับซบั ซอ้ นและโครงสร้างของประโยค

เป็นส่วนใหญ่

2. ภาพพรวี วิ (preview) คือความสามารถทีจ่ ะคดิ และคาดการณ์ เห็นแนวคดิ บางอย่างลว่ งหนา้ กอ่ น

การอา่ นจรงิ ภาพพรวี วิ ไม่เพยี งแตจ่ ะช่วยใหจ้ ับประเด็นสาคัญได้เรว็ ขึ้นเทา่ นั้น แต่จะชว่ ยใหส้ ามารถเลือก

อา่ นหรอื ขา้ มข้อความบางตอนไปไดโ้ ดยไม่ให้ทาให้เสียความด้วย วิธีอ่านแบบนี้ปกติแลว้ เราจะอ่านแต่

เพยี งประโยคแรกและประโยคสดุ ทา้ ยของแต่ละยอ่ หน้า (paragraphs) อย่างเร็ว ๆ กอ่ น แลว้ จึงจะ

ไปสกมิ มงิ (Skimming) เพ่อื เก็บใจความสาคัญ ๆ ต่อไปและในการอา่ นข้นั น้ีจะอา่ นแต่เฉพาะคาหรือวลี

ท่ีสาคัญ ๆ (key words or phrases) ในแต่ละย่อหน้านัน้ ๆ ตอ่ ไปเท่านนั้

3. อา่ นสว่ นแรกของประโยคอยา่ งเร็ว ๆ วิธนี เ้ี ราจะไม่อา่ นจนจบประโยคเพยี งแต่กวาด

สายตามองผ่าน ๆ ไป แล้วจึงเรม่ิ อ่านประโยคใหม่ ๆ ปฏิบตั แิ บบนีเ้ ร่อื ยไป จนจบขอ้ ความทตี่ ้องการ

จะอา่ น ขณะที่อ่าน สายตาจะจบั อยู่ทางด้านซ้ายมือของแต่ละประโยคตลอดเวลา คือจะอา่ นแต่เพียง

1/3 ของทุก ๆ ประโยคเท่าน้ัน

10

4. อา่ นแตเ่ ฉพาะส่วนกลางของหน้าหนังสือ การอ่านแบบน้ี สายตาจะจับอยู่ทตี่ อนกลางหน้า
หนังสอื เท่านั้น และอ่านเกือบจะทุก ๆ ประโยคด้วย

5. อ่านแตเ่ ฉพาะคาหรอื วลที ่ีสาคญั ๆ คาหรือวลดี ังกลา่ ว อาจจะมีตวั เลขกากับอยหู่ รือเขยี น
ดว้ ยตัวอกั ษรตัวใหญ่ หรือขีดเส้นใต้อย่างใดอยา่ งหน่งึ ก็ได้

Topic Sentence หมายถงึ ประโยคทบี่ รรจหุ ัวเร่ืองและจับใจความสาคัญไว้ ซงึ่ การอ่าน
ขอ้ ความนัน้ ผู้อา่ นควรฝึกหา Topic Sentence เพื่อทาให้เขา้ ใจงา่ ยต่อการเข้าใจเรื่อง โดย Topic
Sentence ส่วนใหญม่ ักวางไว้ท่ีประโยคแรก หรอื ประโยคสดุ ทา้ ยของข้อความ มีเพยี งสว่ นน้อยท่ีวาง
ไว้ตอนกลางของเร่ือง แตก่ ็เป็นไปไดเ้ ช่นเดยี วกันทีข่ ้อความนัน้ ๆ ไมม่ ี Topic Sentence ผูอ้ า่ นตอ้ ง
สรปุ ใจความสาคญั เองจากการอา่ นข้อความ

Direction: Read each paragraph. Ask yourself, “What is the topic?”
Then choose the best main idea sentence.

(อา่ นเรื่องแตล่ ะยอ่ หนา้ แลว้ ถามตัวท่านเองวา่ เปน็ เร่อื งเกยี่ วกับอะไรจากนนั้ จึงเลอื ก
ประโยคใจความสาคัญทด่ี ีทส่ี ุด)

Example : There are several different kinds of classes on college and
university campuses. Professors usually teach large undergraduate classes. They give
formal lectures. Students have to listen and take notes. Then teaching assistants
(T.A.S) lead discussion groups. In graduate seminars, small groups of students discuss
their ideas with their instructor and classmates.

Answer เม่อื ผอู้ ่าน อา่ นท่ปี ระโยคแรกหรือตอนตน้ ของข้อความแลว้ จะพบวา่ ประโยคคือ
Topic sentence นนั่ เอง ดงั นั้น ผู้อา่ นสามารถบอกหัวเร่อื ง (Topic) และใจความสาคัญ (main
idea) ไดโ้ ดยไม่ต้องอ่านรายละเอยี ด (detail) แตอ่ ย่างใด กลา่ วคอื

Topic sentence : There are several different kinds of classes on college and
university campuses. (ประเภทของช้นั เรียนที่แตกต่างกันในระดบั วิทยาลยั และมหาวิทยาลยั )

Topic : Kinds of classes. (ประเภทของช้นั เรยี น)
Main idea : There are several different kinds of classes.

Reading Activity 11

Most people like ice cream. The Chinese made a desert
which was similar to ice cream about 2,000 years ago. They
mixed small pieces of ice with milk, honey and fruit. Marco
Polo, the Italian explorer, took the idea back to Italy about
700 years ago. For a long time only rich Europeans ate ice
cream, but after 1670, anybody could eat it in cafes. This
was real ice cream, the same as we eat today. Instead of
mixing ice and milk, Europeans froze milk and honey in a
box by putting big pieces of ice around the outside of the
box. People had to stir the ice cream all the time, which
was very hard work. Now machines do this easily.

American children have a special rhyme about ice
cream: “I scream, you scream, we all scream for ice cream”
Its cold, sweet taste is popular everywhere.

12

1. flavor (adj.) the distinctive taste of a food or drink

2. dessert (n.) a kind of sweet food

3. similar (adj.) almost the same, but not exactly the same

4. mixed (v.) put together

5. honey (n.) a sweet, thick liquid made by bees

6. explorer (n.) a person who travels to unknown places

7. cafés (n.) small restaurant where you can buy drinks and simple

meals

8. instead of (adv.) in place of something

9. froze (v.) made cold and hard

10. stir (v.) move something around with a spoon

11. all the time (adv.) without stopping

12. machine (n.) an apparatus using mechanical power and having

several parts, each with a definite function and

together performing a particular task

13. rhyme (n.) correspondence of sound between words or the

endings of words, especially when these are used at

the ends of lines of poetry

14. scream (v.) make a loud, high-pitched sound

15. taste (n.) the ability to discern what is of good quality or of a

high aesthetic standard

16. popular (adj) liked or admired by many people or by a particular

person or group

Exercise 1 13

Direction : Match the words with their meanings.

_______1. flavor a. ผสม
_______2. honey b. ตลอดเวลา
_______3. similar c. รสชาติ
_______4. popular d. แช่แขง็ , ทาใหแ้ ข็ง
_______5. scream e. เครอื่ งจกั ร
_______6. machine f. น้าผ้งึ
_______7. froze g. แทนท่ี
_______8. dessert h. นกั สารวจ
_______9. instead of i. คล้าย
_______10. explorer j. เป็นท่ีนยิ ม
k. ของหวาน
l. กรดี รอ้ ง
m. คน, กวน

Name______________________________Class___________No_______

Exercise 2 14

Direction : Choose the best answer for each question.

1. According to the  did not have any milk in it at all
passage, the Chinese  was like Italian ice cream 700 years ago
dessert mentioned in  was the same as the ice cream we know
the passage__________. today

2. Ice cream was taken to  rich Europeans
Europe by __________.  an Italian traveler
 the Chinese people

3. In Europe before 1670, ice  a dessert only the Chinese liked
cream was __________.  a popular dessert among poor people

 a very special and expensive dessert

4. The passage tells us that  made by people stirring it

the ice cream we eat now is  made by putting in small pieces of ice

__________.  almost the same as Italian ice cream of

after 1670

5. The difference between  put ice in
the Chinese way of making
ice cream, and the European  stopped using ice
method which was used
around 1670, is that Chinese  used milk and honey
__________.

Name______________________________Class___________No_______

Exercise 3 15

Direction : Answer the questions according to the text.

1. What is the main idea of the passage?
___________________________________________________________
2. What would be the best title for this passage?
___________________________________________________________
3. What was the difference of making ice cream between the

Chinese’s way and the European’s way?
___________________________________________________________
4. According to the passage, what is the ice cream we eat now like?
___________________________________________________________
5. Now, why do we use machines to stir the ice cream instead of

people?
___________________________________________________________

Name______________________________Class___________No______

Exercise 4 16

Direction : Write T in front of the statements that are correct
and F in front of the statements that are incorrect.

______1. Chinese people liked a cold dessert 2,000 years ago.
______2. Marco Polo first had the idea for making ice cream.
______3. Before Marco Polo went home, European did not

have ice cream.
______4. In Europe, Italians were the first people to make ice cream.
______5. Europeans did not eat much ice cream before 1670.
______6. It was easy to buy ice cream in Europe after 1670.
______7. Ice cream nowadays is different from the ice cream found

in Europe in 1700.
______8. Before Europeans had machines, it was easy to make

ice cream.
______9. Europeans put big pieces of ice in their ice cream after

1670.
______10. Nowadays, it is very difficult to make ice cream in a

factory.

Name______________________________Class___________No_______

Exercise 5 17

Direction : Answer the questions according to the text.

The first time I took my daughter to the movie theater she was 6 and
the movie was “Bambi”. I’m a movies lover, so I had chosen it carefully and
thought a cartoon movie would be an effective introduction to the Seventh
Art World.

Everything was going just fine until Bambi’s mother was shot and killed.
My daughter got anguished and asked to go home in the middle of the movie.
Fortunately later choices turned out OK and she likes movies as much as I do.
My point is: are cartoons really safe for kids? Or do parents need to pay
attention to the type of cartoons kids are watching during their spare time?

Once I sat on the sofa to watch a cartoon with my 8-year-old son and
got completely dumbfounded when I realized a cartoon character was
agonizing right in front of us, bleeding as if it was an action adult movie!

Everybody knows that the cartoon “The Simpsons” doesn’t spread
nice manners or behavior, but what about the “kid stuff” they display in the
afternoon for young children?
The next time you take a kid to the movies maybe a cartoon doesn’t make
the best choice, unless you take the time to watch it and analyze its content
first. Or you take the risk of exposing your child to messages s/he isn’t
prepared to get yet.

18

1. Are cartoon characters always nice? Support your answer.
_____________________________________________________________
_____________________________________________________________
2. Have you ever been shocked by something you say in cartoons?
What was it?
_____________________________________________________________
_____________________________________________________________
3. Are cartoons classified by age in your country? (If off) Do you know
the criteria used to classify them?
_____________________________________________________________
_____________________________________________________________
4. In some countries movies are classified from 12 to 18 and every
movie classified under 12 is allowed for children of any age. Do you
think the content that is OK for a 12 year old child is always proper for
younger kids? Why?
_____________________________________________________________
_____________________________________________________________
5. What’s your favorite cartoon? Why do you like it?
_____________________________________________________________
_____________________________________________________________

Name______________________________Class___________No_____

Exercise 6 19

Direction : Read the text then answer the questions.

Without the Earth we have nowhere to live. Our atmosphere is
weakening and we have to do something about it fast.

We could plant more trees to create more oxygen or we could just
stop cutting down the rainforest. Saving the rainforest is not only good for
us and the atmosphere but also good for the many different species that it
homes. Try to switch to hybrids and other energy saving things to use less
fossil fuel for energy and relying more on solar and wind energy. Fossil
fuels are destroying our earth and we need to limit the use of it.

Recycling is a great and easy way to help our precious planet.
Everyone can help, all they have to do is follow three simple rules;
Reduce, Reuse, Recycle.

We have seen how the environment can affect our lives. However, the
environment is sometimes very hard on us. Every year, millions of people
die because of natural disasters.

Natural disasters happen everywhere
on Earth. Some happen on dry land such as
tornados. Some from in the big oceans like
hurricanes and typhoons. Some happen
under the ground like earthquakes and
others happen under the sea like tsunamis.

20

There are other natural disasters that happen in certain places like
forest fires or volcanoes .They destroy houses and cities in many places
all over the world.

1. What is the purpose of the passage?
_________________________________________________________________
2. What can man do to help create more oxygen?
_________________________________________________________________
3. Who will benefits from saving the rainforest?
_________________________________________________________________
4. Which energy sources do we have instead of fossil fuels?
_________________________________________________________________
5. How can we help save the Earth?
_________________________________________________________________
6. What should we need to limit the use of it ?
_________________________________________________________________
7. What are three ‘r’ that mentioned in the passage?
_________________________________________________________________
8. What environmental issue that cause people die every year?
_________________________________________________________________
9. Which natural disaster happen under the sea ?
_________________________________________________________________
10. Where can natural disasters happen?
_________________________________________________________________

Name______________________________Class___________No_______

Exercise 7 21

Direction : Read the text and decide which word A-D the best fits each gap 1-10

Planning a holiday can be a very frustrating 1)______. Going off on holiday is
also a time of great excitement for all the family. There are so many things to take
into account when planning a holiday. It often 2)______ after a long period of
discussion several months before, when for about three weeks every
3)______booklet and prospectus is 4)______up at the local travel agent’s. There are
sometimes so many of these they need to be brought home in a carrier bag. They
are then gone through one by one every evening for about three weeks. Places are
chosen by the look of the very attractive photographs and 5)______ to location.
Everybody has their say, prices are compared and lists are made. Finally it all
6)______down to a choice of perhaps three places. It becomes almost impossible to
eliminate two of these and 7)______what will certainly provide the family’s next
holiday. But the miracle eventually 8)______place, and late one evening after much
argument agreement is 9)______. It is with a sigh of considerable 10)_____ that next
day the holiday is booked.

1. a. day b. experience c. experiment d. suggestion

2. a. presents b. comes c. passes d. appears

3. a. approximate b. absolute c. available d. additional

4. a. picked b. selected c. chosen d. lifted

5. a. allowing b. approving c. agreeing d. according

6. a. restricts b. limits c. narrows d. tightens

7. a. rest b. remain c. reside d. leave

8. a. forms b. fits c. takes d. makes

9. a. arrived b. received c. ended d. reached

10. a. relief b. breath c. help d. rescue

Name_____________________________Class___________No_______

แบบทดสอบหลังเรียน 22

คาชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบับน้มี ีท้ังหมด 10 ข้อ ใชเ้ วลาทา 15 นาที
2. ให้ทาเคร่อื งหมาย X ทับตัวอักษร a b c หรอื d ที่ถูกต้องทสี่ ดุ

เพียงขอ้ เดยี วลงในกระดาษคาตอบ (Choose the best answer.)

The Chang family went to see their friends, the Browns. “Where do
they live?”, asked Mr. Chang. “They live on the fourth floor.” said Mrs.
Chang. They took the elevator up to their friends’ floor.
1. The main idea is “_________________.”

a. The Browns took the elevator up.
b. The Chang went to the Browns’ home.
c. The Chang lived on the fourth floor.
d. The Browns went out.

Having a marvelous time! I’ve never seen such a beautiful beach:

miles and miles of sand and enormous palm trees.

2. This information may be from______________________.

a. a postcard b. a song

c. the weather forecast d. the morning news

My name is Susan and I live at 645 C street. I like C street. It is a nice street.

3. The main idea is “______________________.”

a. Susan is pleased to live on C street. b. My name is Susan.

c. I live on C street. d. It is a nice street

.

23

The one thing to do in an emergency is____________See what

is wrong and then say , “There’s an accident on B street; there’s a fire at

562 Avenue J; there’s a fire on the third floor at 620 Worth Street.” Give

information that can help take care of the emergency.

4. The missing words are “___________________.”

a. to call for help b. to stay outside the building

c. to take the elevator down d. to jump down from the window

Bob and Tom were at the post office in a long line. A woman in line

got sick and said, “______________.” John said, “Sit here. We’re going

to call an ambulance.”

5. The missing words are “__________________.”

a. please call an elevator b. please call the doctor

c. please call the police d. please help me

Read the passage and choose the correct answer for each item below. (6-8)

Water is a precious natural resource and we need to conserve it,

especially in times of drought. You can save water in your home in

several ways. The first and most important thing you should do is

check for leaks and fix them. A faucet that drips can waste up to 20

gallons of water every day! A leaky toilet waste even more water.

Another way you can save water is to take shorter showers. You use

from 3-7 gallons of water every minute the shower runs. Last but not

least, don’t forget to turn the water off while you brush your teeth.

6. What is the main idea of the paragraph?

a. Water is a natural resource.

b. Leaky toilet waste a lot of water.

c. Water is to take shorter shower.

d. There were several ways to conserve water in your home.

7. How many gallons the shower used every minute? 24

a. 3 gallons b. 7 gallons

c. 3 to 7 gallons d. 20 gallons

8. A faucet that drips can waste up to 20 gallons of water every day! What does the

underline word mean?

a. drop b. drum

c. drought d. drug

Read the passage and choose the correct answer for each item below. (9-10)

Fast food is known for being convenient. But when it comes to

nutrition, it is not considered to be the best choice. McDonald's says

they want to change that. In July 2011, the company announced a

plan to provide customers with healthier options. One change since

then has been the addition of apple slices to Happy Meals. Now, the

fast-food chain is enlisting kids' help to make changes to Happy Meals.

Sarah Ralston, 11, and Elanya Saley, 9, won a contest to become

honorary Happy Meal chefs. Their job is to help the company's

executive chef, Dan Coudreaut, create a new Happy Meal option.

9. What does 'it' refer to?

a. Fast food b. McDonald's

c. Nutrition d. Choice

10. According to the passage, to make their Happy Meals healthier, McDonald's has

added ____ to them.

a. fish b. beans

c. vegetables d. fruits