The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thipsuda, 2022-05-05 04:05:22

English Language Teaching (1)

English Language Teaching (1)

English Language Teaching

ปจั จุบนั การสอนภาษาองั กฤษไดม้ ีวิวัฒนาการ และมีทฤษฎีการสอนหลากหลายวธิ ี ทค่ี รจู ะเลอื ก
แนวทางท่ีเหมาะสมนำไป ดดั แปลงใช้สอนนักเรยี นแตล่ ะคน ดงั วธิ สี อนต่อไปน้ี

1. วิธกี ารสอนไวยากรณแ์ ละการแปล (Grammar-translation Method)
2. วธิ สี อนแบบตรง (Direct Method)
3. วธิ ีสอนแบบฟงั -พดู (Audio – Lingual Method)
4. วิธสี อนแบบการตอบสนองด้วยทา่ ทาง (Total Physical Response Method (TPR) )
5. วธิ ีสอนตามแนวการสอนภาษาเพื่อการส่ือสาร (Communicative Language Teaching

CLT)
6. วิธีสอนแบบเงยี บ ( Silent Way)

1. วธิ กี ารสอนไวยากรณแ์ ละการแปล (Grammar-translation Method)
เปน็ วิธีการสอนที่เน้นกฎไวยากรณ์ เน้นการทอ่ งจำกฎเกณฑท์ างภาษาและทำความเขา้ ใจคำ วลี หรอื
ประโยค เน้นความถูกตอ้ ง (accuracy) สอนไวยากรณโ์ ดยพดู ถึงกฎเกณฑ์ทางหลกั ภาษา
ลกั ษณะเดน่
1.1 ครจู ะบอกและอธิบายกฎเกณฑต์ ลอดจนข้อยกเวน้ ต่างๆ
1.2 ในดา้ นคำศัพท์ ครจู ะสอนครง้ั ละหลายคำ บอกคำแปลภาษาไทย บางคร้ังเขยี นคำอา่ นไว้ด้วย
1.3 ครูเน้นทักษะการอา่ น และการเขยี น
1.4 ครเู นน้ วัดผลดา้ นความรู้ ความจำ คำศพั ท์ กฎเกณฑ์ ความสามารถในการแปล
1.5 ครูมีบทบาทสำคัญมากทส่ี ุด
1.6 นักเรียนเป็นผู้รบั ฟงั และจดสง่ิ ที่ครูบอกลงในสมุด
1.7 นักเรียนจะต้องทอ่ งจำกฎเกณฑต์ ลอดจนช่ือเฉพาะต่างๆ ทางไวยากรณ์
1.8 นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ที่สอดคลอ้ งกบั เกณฑไ์ วยากรณน์ นั้ ๆ
1.9 นักเรียนไมไ่ ดฝ้ กึ นำคำศพั ทม์ าใชใ้ นรูปประโยค

2. วธิ ีสอนแบบตรง (Direct Method)

เป็นวิธีการสอนทเี่ น้นทักษะการฟังและพูดใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจกอ่ น แล้วจึงฝึกทกั ษะการอา่ นและการ
เขยี นโดยมคี วามเชอ่ื วา่ เมอ่ื นักเรียนสามารถฟงั และพูดไดแ้ ลว้ ก็สามารถอา่ นและเขียนได้ง่าย และ
เร็วขึน้ ไมเ่ น้นไวยากรณ์กฎเกณฑม์ ากนัก บทเรยี นสว่ นใหญ่เปน็ กิจกรรสนทนา นกั เรียนได้ใช้
ภาษาเตม็ ที่ เน้นการรู้วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา รวมทงั้ ขอ้ มลู เกีย่ วกับ ชวี ติ ประจาํ วันของผูพ้ ดู ภาษา
นั้น ๆ ด้วย วิธีสอนแบบตรงบางคร้งั เรียกวา่ วธิ ีสอนตามธรรมชาติ (natural method)

ลักษณะเดน่

2.1 ครคู อยกระต้นุ ใหน้ กั เรยี นพูดโตต้ อบ

2.2 ครสู รา้ งสภาพแวดล้อมหรอื ใช้ส่ือทเี่ อ้อื ต่อการการเรียนการสอน

2.3 อธิบายคำศัพทเ์ ป็นภาษาองั กฤษ และใชต้ ัวอยา่ งประกอบเปน็ ของจริง

2.4 การวดั ผลเน้นทกั ษะการฟัง และพูด เช่นการเขียนตามคำบอก การปฏิบตั ติ ามคำส่ัง

3. วธิ สี อนแบบฟงั -พดู (Audio – Lingual Method)

เป็นวิธกี ารสอนตามหลกั ภาษาศาสตร์ และวธิ สี อนตามแนวโครงสรา้ ง อยบู่ นพน้ื ฐานของจติ วิทยา
พฤติกรรมนิยม (Behavior Phycology) ที่เชอื่ ว่าการเรยี นรู้ เป็นกระบวนการตอบสนองต่อส่งิ เรา้
และถูกเสริมแรงจนกระทั่งกลายเป็นนสิ ัย ใช้การสอนตามหลกั ธรรมชาติ คือ ฟงั พูด อ่าน และเขียน
ทักษะพูดและทักษะฟงั เปน็ ทักษะที่ต้องพฒั นาก่อนทกั ษะอา่ น และเขียน ไมส่ นบั สนนุ การใชภ้ าษา
ท่ีหน่งึ ในช้นั เรยี น ทักษะทางภาษาเปน็ รูปแบบทต่ี ายตัวดังน้ันควรฝกึ pattern ของภาษาท่เี ปน็ รปู
บทสนทนา (dialogue) เกย่ี วกับสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใชภ้ าษาไดโ้ ดยอัตโนมตั ิ คาํ ศพั ท์
และรปู ประโยคจะถูกสอนเปน็ ลาํ ดบั กอ่ นหลงั เน้นความถูกต้องของกฎเกณฑภ์ าษาและการออกเสียง
ทักษะ เหล่าน้ที าํ ไดโ้ ดยการฝึกซํ้า ๆ โดยครูผ้สู อนเปน็ ผู้ควบคมุ การฝกึ ทง้ั หมดลกั ษณะการฝึกซ้ํา ๆ
(drill)

ลักษณะเดน่

3.1 ครตู ้องเป็นแบบอย่างทดี่ ีในการใชภ้ าษาที่เรียนใหแ้ ก่ผูเ้ รยี นในการเลียนแบบ

3.2 ครจู ะจดั นำคำศัพท์และประโยคมาสร้างเปน็ รูปประโยคใหน้ ักเรียนพดู ตามซ้ำๆ กนั ในรปู แบบ
ต่างกัน
3.3 ครมู งุ่ เรอ่ื งการฝกึ รปู ประโยคทางภาษาในห้องเรียนมากกวา่ ประโยชน์การใชภ้ าษาใน
ชวี ติ ประจำวนั
3.4 นกั เรยี นจะต้องฝึกภาษาทเ่ี รยี นซ้ำๆ
3.5 นกั เรยี นเป็นผู้ลอกเลียนแบบ และปฏิบัตติ ามครูจากสงิ่ ที่งา่ ยไปหาสิ่งทยี่ ากจนเกดิ เปน็ นสิ ยั
สามารถพดู ไดอ้ ย่างอตั โนมัติ

4. วธิ สี อนแบบการตอบสนองดว้ ยทา่ ทาง (Total Physical Response Method(TPR)
แนวการสอนแบบนี้ ใหค้ วามสำคญั ตอ่ การฟงั เพ่อื ความเข้าใจ เมื่อผู้ฟังเข้าใจเรื่องท่ีฟังอยู่และสามารถ
ปฏิบัตติ ามได้ก็จะชว่ ยให้จำได้ดี
ลกั ษณะเดน่
4.1 ในระยะแรกของการเรียนการสอน ผเู้ รียนไม่ตอ้ งพูด แต่เปน็ เพยี งผู้ฟังและทำตามครู
4.2 ครูเป็นผกู้ ำกับพฤตกิ รรมของนกั เรียนทั้งหมด ครูจะเปน็ ผู้ออกคำสั่งเอง เมอ่ื ถึงระยะเวลาท่สี มควร
พูดแล้วเรียนอ่านและเขียนต่อไป
4.3 ภาษาทน่ี ำมาใช้ในการสอนเนน้ ทภ่ี าษาพดู เรยี นเรอ่ื งโครงสรา้ งทางไวยากรณ์ และคำศพั ท์
มากกวา่ ด้านอืน่ ๆ โดยองิ อยู่กบั ประโยคคำสงั่
4.4 นกั เรียนจะเขา้ ใจความหมายได้อยา่ งชัดเจนจากการแสดงท่าทางของครู
4.5 ครูทราบไดท้ ันทวี า่ นกั เรยี นเขา้ ใจหรือไม่ จากการสงั เกตการปฏิบัติตามคำสง่ั ของนักเรยี นเมือ่ ครู
สง่ั
4.6 ครูตอ้ งทำพร้อมกับนักเรยี นในระยะแรก
4.7 ตอ้ งสงั่ จากง่ายไปหายาก

5. วธิ ีสอนตามแนวการสอนภาษาเพอื่ การสอื่ สาร (Communicative Language Teaching ( CLT)

เป็นแนวคิดซง่ึ เช่อื มระหวา่ งความรทู้ างภาษา (linguistic knowledge) ทักษะทางภาษา (Language
Skil) และความสามารถในการสอื่ สาร (Communicative ability) จากขอ้ เทจ็ จรงิ พบว่า ถงึ แม้
นักเรียน จะเรียนรโู้ ครงสรา้ งของภาษามาแล้วเป็นอย่างดี แตก่ ย็ งั ไม่สามารถพดู ไดห้ รือส่ือสารได้ดีนัก
ด้วยเหตผุ ลนีน้ กั ภาษาศาสตรแ์ ละผทู้ ี่เกี่ยวขอ้ งกบั การเรยี นภาษาตา่ งประเทศ ได้เสนอแนวการสอน
แบบใหม่ คือ การสอนเพอื่ การสื่อสาร โดยมีความเช่ือว่าภาษาไมไ่ ดเ้ ปน็ เพียงระบบไวยากรณท์ ่ี
ประกอบด้วยเสียง ศัพท์ และโครงสร้างเทา่ นนั้ แตภ่ าษาคอื ระบบทใ่ี ชใ้ นการสอ่ื สาร ดังนน้ั การสอน
จงึ ควรใหน้ กั เรียนสามารถนำภาษาไปใชใ้ นการส่ือสารได้ และจะตอ้ งใชภ้ าษาใหเ้ หมาะสมตาม
สภาพสังคมดว้ ย

ในการสอนโดยยดึ แนวคดิ แบบ CLT ครมู บี ทบาททสี่ าํ คญั 3 บทบาทคอื

1. ผ้ดู ําเนนิ การหรอื ผ้อู าํ นวยความสะดวก (organizer, facilitator) เตรียมและดําเนนิ การจดั
กจิ กรรม

2.ผูแ้ นะนาํ หรือแนะแนว (guide) ขน้ั ตอนและกิจกรรมตา่ ง ๆ

3.เป็นผวู้ จิ ัย (researcher) และผู้เรียน (learner) เรยี นรู้พฤติกรรมการเรยี นของ นกั เรียนแต่ละคน

นอกจากน้นั ครูอาจมบี ทบาทอนื่ ๆ เช่น ผใู้ หค้ ําปรกึ ษา และผ้จู ดั การกระบวนการกลุ่ม

*บทบาทผเู้ รียนคอื ผปู้ รกึ ษา (negotiator)

6. วธี สี อนแบบเงยี บ ( Silent Way)
การสอนแบบเงยี บเป็นการสอนทคี่ รู “เงยี บ” หรอื ลดการพดู ของครู (teacher talking time =
TTT) ใหน้ ้อยทส่ี ดุ แต่ใช้การบอกใบ้ทา่ ทางและสอ่ื ทกุ ชนิด แผนภมู สิ ีเพอ่ื ช่วยในการออกเสยี ง
แทง่ ไม้ที่ เรียกวา่ "Cuisenaire rod" คอื ชุดของแท่งไม้ทมี่ สี ีและความยาวท่แี ตกต่างกนั ทคี่ รใู ชใ้ น
การชว่ ยให้นกั เรียนพูด โดยเฉพาะผู้เรม่ิ เรียน โดยใชค้ าํ ศพั ทง์ ่ายๆ เชน่ ครยู กแท่งไม้นกั เรียนพดู
แลว้ ครกู ระต้นุ ให้นักเรยี นพดู ประโยคซบั ซอ้ นขนึ้ เร่ือย ๆ ในระหว่างน้ีครจู ะไม่พดู หรอื พูดนอ้ ยทส่ี ุด
เพอ่ื ให้นกั เรียนสรา้ งความเชอื่ มน่ั ในตนเอง และรู้สกึ เป็นอิสระจากการควบคมุ ของครู นักเรียนจะต้อง
เรียนรูท้ ีจ่ ะประเมินตนเองจะแก้ไขขอ้ ผดิ พลาดตา่ ง ๆ ของตนเองได้ วธิ ีน้ีพัฒนาโดย Caleb
Gattegno ในปี 1963

ทฤษฎขี อง Silent Way
1. ผ้เู รยี นจะเรียนร้ไู ดด้ หี ากไดค้ ้นพบและสร้างการเรียนรนู้ น้ั ดว้ ยตนเองมากกว่าการทอ่ งจำ
2. การเรียนรู้จะไดร้ ับการสนบั สนนุ จากสอ่ื
3. ให้เดก็ ไดแ้ ก้ปญั หา

Teaching steps
1. ครจู ะสอนการออกเสยี งสระ และ พยญั ชนะ โดยใช้ sound-color chart
2. ครูจะสอนการออกเสยี งคำโดยใช้ word chart และ rods
3. สอนประโยคโดยใช้คำมารวมกนั
4. อา่ นประโยคโดยใช้ Chart
5. เขียนประโยค

แบบฝกึ หดั
1. Students sing a song “Head and shoulders, knees and toes”. They touch the
correct part of their body as they sing the song.
a. Communicative Language Teaching
b. Total Physical Response Method (TPR)
c. Grammar-translation Method
d. Audio-lingual Method

2. What is the role of the teacher in using Grammar-translation Method?
a. Teacher facilitates the classroom.
b. Teacher directs the class activities.
c. Teacher is the authority of the classroom.
d. Teacher is the counselor of the classroom.

3. The method that less attention on speaking, listening and pronunciation is
_______________.
a. Direct Method
b. Silent Way
c. Audio-lingual Method
d. Grammar-translation Method

4. The primary language skills for Grammar-translation Method are
_______________.
a. Listening and Speaking
b. Reading and Writing
c. Speaking and Reading
d. Listening and Reading

5. What is the nature of student-teacher interaction in Direct Method?
a. The teacher is silent.
b. The interaction changes within lessons.
c. The initiation of interaction goes both ways.
d. Most of the interaction is from the teacher to the students.

6.
•Imitate the teacher.
•Follow the teacher’s directions.
•Respond as accurately as fast as possible.
The list above is the role of students in ________________.
a. Direct Method
b. Silent Way

c. Audio-lingual Method
d. Grammar-translation Method

7. Students learn English by translating to and from their native language. They
memorize irregular verb forms by writing them down over and over. Speaking skills
are not a main focus.
a. Audio-lingual Method
b. Grammar-translation Method
c. Direct Method
d. Communicative language teaching

8. The students learn patterns of language by repeating model sentences that
the teacher provides. They memorize set phrases and receive positive
reinforcement from their teacher when they perform drills correctly.
a. Audio-lingual Method
b. Grammar-translation Method
c. Direct Method
d. Communicative language teaching

9. Which method belongs to the behaviorist theory of learning?

a. Direct Method.
b. Audio Lingual Method
c. Silent Way
d. Grammar-translation Method.

10. In Direct Method, how will the teacher respond to the student errors?
a. Avoid the errors.
b. Supply the correct answer.
c. Stop the errors and change the question.
d. Repeat the student's answer using a questioning tone.

11. First, students learn how to say words properly. Next, they learn to read and
write. They use color charts and rods to help with the pronunciation of sounds.
Teacher talking time is minimal.

a. Audio-lingual Method
b. Silent Way
c. Direct Method
d. Total Physical Response Method

12. The teacher tells a story about animals. Children make animal noises every time
they hear the name of the animal.

a. Audio-lingual Method
b. Silent Way
c. Direct Method
d. Total Physical Response Method

13. Which one is not an activity used in CLT?
a. Giving and obeying commands
b. Role plays
c. Language games
d. Scrambled sentences

14. What is the role of the student in Communicative Language Teaching?
a. Silent observer
b. Facilitator
c. Negotiator
d. None of the above.

15. Which one is not true about CLT?
a. The target language is exclusively used to maintain a cultural island in the
classroom.
b. Grammar is inductively taught where learners are encouraged to make their
own generalization about grammar rules.
c. The emphasis is on the mastery of language forms rather than the process
of communication.
d. Not only accuracy, but also the fluency is evaluated by the teacher.

เฉลย
1. b. Total Physical Response
2. c. Teacher is the authority of the classroom.
3. d. Grammar-translation Method
4. b. Reading and Writing
5. c. The initiation of interaction goes both ways.
6. c. Audio - Lingual Method
7. b. Grammar-translation method
8. a. Audio-lingual Method
9. b. Audio Lingual Method
10 . d. Repeat the student's answer using a questioning tone.
11. b. Silent Way
12. d. Total Physical Response Method
13. a. Giving and obeying commands
14. c. Negotiator
15. c. The emphasis is on the mastery of language forms rather than the process
of communication.


Click to View FlipBook Version