น�้ำ ตกสายร้งุ
ท่ีตั้ง : หมู่ 1 บา้ นปากวีป ต.คึกคัก อ.ตะก่วั ป่า จ.พังงา
พิกัด : 47P 420690E 0966246N
การเข้าถึง : จากทที่ ำ�การอุทยานแห่งชาติ ใชท้ างหลวงหมายเลข 4 ลงไปทางบ้านบางเนียง มุง่ หนา้ ตะกั่วป่า เลยทางเขา้ น้ําตกโตนชอ่ งฟ้า
ไปจนถงึ ตำ�บลคกึ คัก จะมีป้ายบอกทางเขา้ นํา้ ตกสายร้งุ ทางขวามอื เขา้ ไปตามทางราว 500 เมตร มีทางเล้ยี วขวาเข้าไป 1.5 กิโลเมตร ถงึ ลาน
จอดรถในสวนยางชาวบา้ น แล้วเดนิ เท้าไปราว 100 เมตร ถึงนา้ํ ตก
ลักษณะ : เป็นน้ําตกท่ีชาวบ้านเรียกกันน้ําตกปากวีป เป็นน้ําตกที่ตัวน้ําตกและแอ่งน้ําด้านล่างอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ แต่ทางเข้าและ
พื้นทที่ ่ีล้อมแอ่งน้าํ เปน็ พื้นท่ขี องชาวบ้าน เปน็ นํ้าตกท่ีตกลงมาจากหน้าผาหนิ สูงราว 15 เมตร ตกเอยี งจนเกอื บด่งิ ลงมาชนั้ เดียว ดา้ นล่าง
มีแอง่ นา้ํ และกองหินนอ้ ยใหญ่ บรรยากาศร่มรน่ื
101
น้ำ�ตกหินลาด
ที่ต้ัง : หมู่ 3 บ้านตีนเขา ต.ทุ่งคาโงก อ.เมือง จ.พังงา
พิกัด : 47P 0440353E 0949843N
การเข้าถึง : อยู่ในการดูแลของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขร.3 (ทุ่งคาโงก) โดยเริ่มจากหน้าอุทยานแห่งชาติ เลี้ยวขวาใช้ทางหลวง
หมายเลข 4 ไปทางภูเก็ต ราว 11 กิโลเมตร ถึงแยกฝายท่า เลี้ยวซ้ายไปตามถนนทุ่งมะพร้าว ไปราว 5 กิโลเมตร ถึงสามแยกทุ่งมะพร้าว
(มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำ�บลทุ่งพะพร้าวอยู่ใกล้ ๆ) ไปตามทางหลวงหมายเลข 4240 ราว 13 กิโลเมตร ถึงสามแยกกะปง เลี้ยวขวา
เข้าทางหลวงหมายเลข 4090 ไปอีก 5 กิโลเมตร ถึงทางเข้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ เลี้ยวซ้ายไป 3 กิโลเมตร ถึงหน่วยพิทักษ์อุทยาน-
แห่งชาติ จากนั้นเดินเท้าทวนนํ้าไปตามทางลำ�ลองในป่า ที่ค่อย ๆ ขึ้นไปเรื่อย ๆ ราว 1.5 กิโลเมตร ถึงนํ้าตก
ลักษณะ : เกิดจากลำ�ธารคลองปลายบางโต๊ะ ที่ไหลลาดลงมาตามร่องเขา ตกลงจากหน้าผาค่อนข้างราบเรียบ กว้างใหญ่ที่เอียงลาด
ลงมาจากความชันราว 40 องศา ลงมาเป็นทางยาวราว 40 เมตร ลงสู่แอ่งธารเบื้องล่าง ก่อนจะทิ้งระยะไปราว 40 เมตร จึงไหลตกลงไป
จากชั้นหินต่างระดับที่สูงราว 3 เมตร อีกชั้นหนึ่ง ในบรรยากาศของป่าดงดงดิบที่ร่มรื่น ที่อุดมไปด้วยพืชพันธุ์ที่หายากอย่างบัวผุด (บาน
ราวเดือน มกราคม - มีนาคม) และพิศวง ในช่วงฤดูฝน
บัวผุดในพื้นที่
ต้นพิศวง
บัวผุดตูม
102
น้ำ�ตกลำ�พร้าว
ท่ีต้ัง : อยู่ในการดูแลของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขร.3 (ทุ่งคาโงก) หมู่ 3 บ้านตีนเขา ต.ทุ่งคาโงก อ.เมือง จ.พังงา
พิกัด : X 0940569 Y 0949489
การเข้าถึง : เดินเท้าต่อจากนํ้าตกหินลาด ขึ้นไปตามแนวลำ�ห้วย เดินไปอีก ราว 1 กิโลเมตร ถึงนํ้าตกโตนพร้าว
ลักษณะ : เป็นแก่งนํ้าตกที่อยู่เหนือนํ้าตกหินลาด ในลำ�ธารคลองปลายบางโต๊ะเช่นเดียวกัน เป็นสายนํ้าที่ตกลงมา 3 ชั้น ห่าง ๆ กัน
ชน้ั บนสดุ เปน็ หนา้ ผากวา้ ง ทส่ี งู ราว 17 เมตร ตกลงมาจากหนา้ ผาหนิ ทล่ี าดเอยี งราว 45 องศา ลงมาเปน็ ทางยาวราว 20 เมตร แลว้ จงึ ทง้ิ ระยะ
แลว้ ไหลลงมาตามรอ่ งหนิ คอ่ ย ๆ เอยี งลาดเพม่ิ ความชนั กอ่ นจะตกลงในชน้ั ตา่ งระดบั สงู ราว 4 เมตร ทห่ี า่ งออกมา ราว 30 เมตร กอ่ นจะไหล ลงไป
เป็นชั้นเล็ก ๆ อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะเป็นแก่งปลายนํ้าต่อไป มีนํ้าตลอดปี แต่หน้าแล้งนํ้าจะน้อย
หมายเหตุ : นอกจากนี้ยังมีนํ้าตกวังกล้วยเถื่อนอยู่ในพื้นที่ด้วย
103
จุดชมวิวเสน้ ทางผาเหยยี บเมฆ
อุทยานแห่งชาติ
เขาหลวง
พื้นท่ี 570 ตารางกิโลเมตร
ท่ีตั้งที่ทำ�การอทุ ยานแห่งชาติ : หมู่ 4 บ้านร่อน ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรธี รรมราช
การเดินทาง : เริ่มจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4016 ไปจนถึง
แยกบา้ นตาล เล้ียวซ้ายไปทางอำ�เภอลานสกาโดยใชท้ างหลวงหมายเลข 1015 ถึงสี่แยกลานสกา
ตรงไปจนถงึ บา้ นกะโรม เปน็ ระยะทางประมาณ 20 กโิ ลเมตร จะมปี า้ ยขนาดใหญ่ “อทุ ยานแหง่ ชาติ
เขาหลวง” ทางขวามอื เข้าไปอกี ประมาณ 1 กิโลเมตร ถึงท่ที ำ�การอทุ ยานแห่งชาติ (นํ้าตกกะโรม)
104
กว่าจะมาเป็ นอทุ ยานแห่งชาติ ศนู ยบ์ รกิ ารนกั ท่องเท่ียว
อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ได้จัดตั้งข้ึนตามมติคณะรัฐมนตรี กำ�หนด ภายในศนู ย์บรกิ ารนักทอ่ งเท่ียว
ให้ป่าเขาหลวงและป่าอ่ืน ๆ ในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 14 ป่า
เป็นอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ได้ทำ�การสำ�รวจเบื้องต้นเกี่ยวกับสภาพ
พ้ืนที่บริเวณป่าเขาหลวงหลังจากถูกวาตภัย ในปี พ.ศ.2505 ทำ�ให้ไม้ขนาด
ใหญ่โค่นล้มเป็นจำ�นวนมาก นอกจากน้ัน ป่าแห่งนี้ยังมีคุณค่าควรแก่การ
เก็บรกั ษาไวเ้ พ่ือประโยชน์ในการพกั ผอ่ นหย่อนใจ การศกึ ษา ค้นควา้ วิจยั และ
คุ้มครองรกั ษาพนั ธส์ุ ตั วป์ า่ นบั วา่ ควรคา่ แกก่ ารจดั เปน็ อทุ ยานแหง่ ชาติ ซง่ึ ตอ่ มา
ไดม้ มี ตคิ ณะกรรมการอทุ ยานแหง่ ชาติ จากการประชมุ ครง้ั ท่ี 1/2517 เมอ่ื วนั ท่ ี
22 มกราคม 2517 เห็นชอบในหลักการให้จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ โดย
ได้มีพระราชกฤษฎกี าก�ำ หนดบรเิ วณทด่ี นิ ปา่ เขาหลวงในทอ้ งทต่ี �ำ บลดอนตะโก
ต�ำ บลกะทูน ตำ�บลพิปูน ตำ�บลยางค้อม อำ�เภอพิปูน ตำ�บลละอาย ตำ�บล
บวั แฉกใบเลก็ เส้นทางเดิน
ข้ึนเขาผาเหยียบเมฆ
แคมปพ์ กั แรมในเสน้ ทางห้วยน�้ำ เยน็
105
ชา้ งกลาง อำ�เภอฉวาง ต�ำ บลท่าง้ิว อ�ำ เภอเมอื ง ตำ�บลพรหมโลก ตำ�บลบ้านเกาะ ตำ�บลอนิ ทครี ี อ�ำ เภอพรหมคีรี และต�ำ บลเขาแกว้ ต�ำ บล
ทา่ ดี ต�ำ บลกำ�โลน อำ�เภอลานสกา จังหวัดนครศรธี รรมราช ใหเ้ ปน็ อุทยานแหง่ ชาติ ตามประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 91 ตอนท่ี 216
ลงวนั ที่ 18 ธนั วาคม 2517 นับเป็นอุทยานแหง่ ชาติแห่งท่ี 9 ของประเทศ มพี ้ืนท่ี 570 ตารางกิโลเมตร
พื้นที่แห่งน้ีมีประวัติการต่อสู้อันยาวนาน พื้นที่ผืนป่า “กรุงชิง” ถูกยึดครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ต้ังแต่ปี พ.ศ.
2517 ต่อมาฝา่ ยรฐั บาลสามารถยึดพ้ืนทไ่ี ด้ ป่ากรุงชงิ แตกในปี 2524 ปจั จุบนั ยังคงทิ้งร่องรอยหลงเหลือให้ไดเ้ ขา้ ไปศกึ ษาหาความรอู้ กี ด้วย
ความส�ำ คัญอีกประการหนึง่ คอื “นา้ํ ตกหนานฝนแสนห่า” มเี อกลักษณ์แหง่ ความสวยงามจนเป็นท่ปี รากฏอยใู่ นธนบัตรใบละ 1,000 บาท
ด้วยศกั ยภาพทัง้ ทางชีวภาพและกายภาพดังกลา่ ว อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาหลวงจึงไดร้ ับการขนานนามว่า “หลงั คาสเี ขียวแห่งภาคใต้” “ขุนน้าํ
แห่งแดนใตต้ อนกลาง” “ขนุ ผามหาสะดำ�” และ “กรงุ ชงิ รอ่ งรอยแห่งประวตั ิการต่อสดู้ า้ นความคิดการปกครอง”
อทุ ยานแหง่ ชาติเขาหลวงมพี ้ืนท่ีครอบคลุมอยูใ่ นท้องท่ตี �ำ บลทา่ ดี ต�ำ บลกำ�โลน ตำ�บลเขาแก้ว อ�ำ เภอลานสกา ต�ำ บลละอาย อำ�เภอ
ฉวาง ตำ�บลทา่ ง้วิ อ�ำ เภอเมือง ต�ำ บลยางค้อม ตำ�บลพิปูน ต�ำ บลเขาพระ อ�ำ เภอพิปูน ต�ำ บลทอนหงส์ ต�ำ บลบ้านเกราะ ตำ�บลพรหมโลก
อำ�เภอพรหมคีรี ตำ�บลช้างกลาง ตำ�บลสวนขัน อำ�เภอช้างกลาง และตำ�บลกรุงชิง ตำ�บลนบพิตำ� ตำ�บลนาเหรง อำ�เภอนบพิตำ� จังหวัด
นครศรธี รรมราช ครอบคลุมทิวเขานครศรีธรรมราชตอนกลาง ประกอบดว้ ยทวิ เขาสงู สลับซบั ซอ้ นทอดยาวเหนอื จรดใต้ ขนานไปกับชายฝัง่
ทะเลด้านตะวันออก มีที่ราบตามหุบเขาเลก็ นอ้ ย มียอดเขาสงู สดุ คอื ยอดเขาหลวง สูงจากระดับทะเล 1,835 เมตร เปน็ ตน้ กำ�เนดิ ของต้นนา้ํ
ล�ำ ธารหลายสาย เช่น แมน่ ้าํ ตาปี แมน่ า้ํ ปากพนัง คลองกรุงชงิ คลองเขาแกว้ คลองท่าแพ คลองระแนะ และคลองละอาย อนั เป็นแหล่งน้าํ
ท่สี �ำ คัญของพืน้ ทีโ่ ดยรอบอทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาหลวง
เขาหลวงตระหงา่ นใต้เมฆขาว
เขาหลวงตระหงา่ นใตเ้ มฆขาว
106
ไปอำเภอสชิ ล 401 ไปเมอื งนครศรธ� รรมราช
ไปบา นคีร�รอบ อุทยานแหงชาติ
เขานัน
ไปอำเภอทา ศาลา
หนวยพท� กั ษอทุ ยานแหงชาติท่ี ขล.3 (นำ้ ตกกรุงชิง) ไป อบต.สระแกว
ทา ศาลา
บา นนำ้ ตก 3008
4186
น้ำตกกรุงชิง
หนว ยพ�ทักษ แยกนาเหรง
อทุ ยานแหงชาติท่ี ขล.9 4 กม. 4140
(นบพ�ตำ-ปากคลองกรุงชงิ )
9 กม. ไป รพ.ทา ศาลา
อางเก็บน้ำ หนว ยพ�ทักษ 4016
คลองดนิ แดง อทุ ยานแหง ชาติที่ ขล.7
18 กม.
(นำ้ ตกยอดเหลือง)
น้ำตกยอดเหลือง ไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 401
ไปจงั หวดั สรุ าษฎรธานี 3027
นำ้ ตก น้ำตก หนว ยพ�ทกั ษ
อ.พป� นู คลองระเเนะ เหนอื ฟา อุทยานแหง ชาตทิ ่ี ขล.2
บานระแนะ 4 กม. หนวยพ�ทักษ (น้ำตกอายเข�ยว) 4019
4 กม.
อุทยานแหง ชาติที่ ขล.8 นำ้ ตกอายเข�ยว 4 กม. ไปสนามบนิ นครศรธ� รรมราช
(นำ้ ตกเหนอื ฟา )
มปี ายบอก 12 กม.หนว ยพท� กั ษ น้ำตก 5 กม. 4140
อทุ ยานแหงชาติที่ ขล.4 พรหมโลก หนวยพ�ทกั ษ อำเภอพรหมครี �
(น้ำตกสวนอาย) อทุ ยานแหงชาติที่ ขล.1
(น้ำตกพรหมโลก)
แยกบา นสวนอาย 7 กม.
น้ำตกสวนอาย 4016 18 กม.
ไปอำเภอฉวาง 4194 น้ำตก
4015 สวนขัน
บานคีรว� ง
แยกบานควนสงสาร 7 กม. หนว ยพ�ทกั ษ สามแยกบา นตาล 4016 เขาเมอื งนครศรธ� รรมราช
อทุ ยานแหงชาตทิ ี่ ขล.6
15 กม. (นำ้ ตกสวนขัน)
แยกจันดี วัดธาตนุ อย หนว ยพท� กั ษ นำ้ ตก ท่ีทำการ ตำบลทา ดี
4195 อบต.ชางกลาง อทุ ยานแหง ชาติท่ี ขล.5 กะโรม อทุ ยานแหงชาติ แยกลานสกา
เขาหลวง
(น้ำตกทาแพ)
4015 นำ้ ตกทาแพ
อบต.เขาแกว 4238
ไปบรรจบ AH 2
ไปอำเภอรอนพบ� ลู ย
107
น้ำ�ตกกะโรม
ที่ตั้ง : หมู่ 4 บา้ นร่อน ต.เขาแกว้ อ.ลานสกา
จ.นครศรธี รรมราช
พิกัด : 581263E 926259N
การเข้าถึง : ที่ตั้งเดียวกับท่ีทำ�การอุทยานแห่งชาติ
เขาหลวง โดยเรม่ิ จากตวั เมอื งนครศรธี รรมราช ใช้ทางหลวง
หมายเลข 4016 ไปทางอำ�เภอลานสกา ประมาณ 20
กโิ ลเมตร จะมปี า้ ยขนาดใหญ่ “อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาหลวง”
ทางขวามือ เข้าไปในทางข้างป้าย จะผ่านด่านเก็บค่า
บริการ และท่ีทำ�การอุทยานแห่งชาติ เข้าไปจนสุดทาง
ที่ลานจอดรถ ราว 2 กิโลเมตร จากป้ายทางเข้าอุทยาน
แห่งชาติ
108
ลักษณะ : น้ําตกกะโรม เปน็ สายนํ้าที่ไหลลาดผา่ นลานหินแกรนติ กวา้ งใหญ่ เปน็ ชน้ั นํ้าตกท่ไี หลลดหลนั่ ลงมาจากยอดเขา เป็นชั้น เป็นแอ่ง
และวงั น้ํา ทง้ั หมด 19 ชน้ั เป็นทางยาวตามหน้าน้ําตกนบั พันเมตร มีการตง้ั ชือ่ ตามช้ันที่เปิดใหบ้ รกิ ารทอ่ งเท่ียวเพยี ง 7 ชัน้ คอื หนานทุเรียน
หนานชอ่ งไทร หนานไผ่ หนานนา้ํ ราง หนานผ้ึง หนานเตย และหนานดาดฟา้ ซง่ึ เปน็ ช้ันที่สวยงามที่สดุ โดยสายนา้ํ ไหลพรั่งพรลู งจากหนา้ ผา
หินสูงท่ีลาดชันราว 45 องศา ลดหลั่นลงมาตามโขดหินกว้างจนถึงแอ่งนํ้าใหญ่เบ้ืองล่างท่ีสามารถลงเล่นนํ้าได้ แล้วสายน้ําจะไหลแยกเป็น
2 สาย แต่ถา้ เปน็ ช่วงหนา้ ฝน นาํ้ จะไหลหลาก แผ่เตม็ ท้งั หน้าผา
น้ำ�ตกทรงเสด็จ
นํา้ ตกกะโรมแหง่ น้ี มีพระมหากษตั รยิ ์และพระราชวงศ์เสด็จมาหลายครัง้ ดังนี้
ปี 2450 พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ ัว รัชกาลที่ 5 พรอ้ มด้วยพระเจ้านอ้ งยาเธอ กรมหม่นื ด�ำ รงราชานุภาพ พร้อมสมเด็จ
พระเจ้าลกู เธอ 4 พระองค์ ไดเ้ สดจ็ ทอดพระเนตรน้าํ ตกกะโรม โดยประทับช้างเปน็ พาหนะ แต่ไม่ได้สลกั พระปรมาภิไธยไว้เปน็ หลักฐาน
ปี 2458 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ กรมพระยาภานุพันธุวงศ์วรเดช ได้เสด็จประพาสนํ้าตกกะโรม โดย
ประทบั ช้างเป็นพาหนะ และสลักรมิ หน้าผาน้ําตกชั้นที่ 7 หนานดาดฟา้ เปน็ รูปพระอาทติ ย์แผร่ ศั มี 2458 ซ่งึ เป็นสญั ลกั ษณป์ ระจำ�พระองค์
ปี 2460 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยหู่ ัว รชั กาลที่ 6 ได้เสด็จโดยรถยนตพ์ ระท่นี ่ัง พรอ้ มขา้ ราชบรพิ าร เสด็จทอดพระเนตร
น้าํ ตกกะโรม และทรงจารึกพระปรมาภไิ ธยย่อ วปร.2460 ไวท้ ่ีหน้าผานํ้าตกชั้น 7 หนานดาดฟา้ เป็นราชานุสรณ์ และไดท้ รงน�ำ ความงามของ
น้าํ ตกน้ีไปเปน็ ฉากในละครเรอ่ื งหลวงจำ�เนยี รเดินทาง ในพระราชนพิ นธด์ ว้ ย
ปี 2466 พระเจา้ บรมวงศ์เธอ พระองคเ์ จา้ จุฑารตั นร์ าชกมุ ารี พระธิดาในพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หู ัว (รัชกาลที่ 5) ได้
เสด็จน้าํ ตกกะโรม และทรงสลักพระนามย่อ จร.2460 ไวท้ ีห่ น้าผาน้ําตกชัน้ 7 หนานดาดฟา้
10 กุมภาพนั ธ์ 2546 สมเด็จพระเจา้ พี่นางเธอ เจา้ ฟ้ากัลยานิวฒั นา กรมหลวงนราธวิ าสราชนครินทร์ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จประพาส
น้ําตกกะโรม และนาํ้ ตกพรหมโลก
109
น้ำ�ตกท่าแพ
ที่ต้ัง : หมู่ 14 บ้านท่าแพ ต.ชา้ งกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช
พิกัด : 576002E 924480N
การเข้าถึง : อยทู่ ี่ตั้งเดียวกบั หน่วยพทิ กั ษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาติที่ ขล.5
(นํา้ ตกทา่ แพ) ห่างจากนา้ํ ตกกะโรมไปประมาณ 6 กิโลเมตร โดยใช้ทางหลวง
หมายเลข 4016 ประมาณ 9 กิโลเมตร จะถึงสามแยกบ้านตาล จากน้นั แยก
ไปทางซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4015 ไปอกี ประมาณ 29 กโิ ลเมตร จะถงึ
ทางเขา้ น้าํ ตกท่าแพ ซง่ึ อยลู่ ึกไปประมาณ 2 กโิ ลเมตร
ลักษณะ : เปน็ น้ําตกท่ีสายนํ้าไหลลาดลงมาตามลานหนิ แกรนิตกว้างตกลงมาจากยอดเขาสูง ทไ่ี หลต่อเนอื่ งกนั ลงมา นาํ้ ตกสงู ตั้งแต่ 8 - 45
เมตร มชี น้ั นา้ํ ตก 10 ชนั้ แต่เปิดใหท้ อ่ งเท่ียวเพยี ง 3 ช้นั เทา่ น้นั ส�ำ หรบั ผ้สู นใจศกึ ษาธรรมชาตทิ างอุทยานแห่งชาติได้จดั ทำ�เสน้ ทางศึกษา
ธรรมชาตถิ งึ นํ้าตกชน้ั ท่ี 7 ไดแ้ ก่ หนานแพน้อย หนานนางครวญ หนานเตย หนานอ้ายซวย หนานปู หนานไผ่ และหนานน้ําราง โดยตอ้ งแจง้
เจา้ หน้าท่กี อ่ นการใช้เสน้ ทาง ซ่งึ ถือเป็นนา้ํ ตกขนาดใหญอ่ ีกแห่งหนึ่งของป่าเขาหลวง
110
น้ำ�ตกสวนขันหรือน้ำ�ตกหนานโจน ปา่ มหาสะดำ�
ทตี่ งั้ : หมู่ 3 บา้ นยางในลมุ่ ต.สวนขนั อ.ชา้ งกลาง จ.นครศรธี รรมราช
พิกัด : 47P 0571271E 0931622N
การเข้าถึง : อยู่ในการดูแลของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ
ที่ ขล.6 (น้ําตกสวนขัน) จากท่ีทำ�การอุทยานแห่งชาติออกไปใช้
ทางหลวงหมายเลข 4015 เลย้ี วซา้ ย ไปทางแยกจนั ดี จะผา่ นวดั ธาตนุ อ้ ย
แลว้ ถึงสามแยกจนั ดีบ้าน เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 4015
ไป 15 กโิ ลเมตร จะเปน็ สแ่ี ยกบา้ นควนสงสาร เลย้ี วขวา เขา้ ไปตามทาง
ราว 7 กโิ ลเมตร ถึงหน่วยพิทักษ์อทุ ยานแห่งชาติ แลว้ เดินเท้าไปตาม
ทางปา่ ขึ้นเขา - ลงหุบ ราว 2 กิโลเมตร ถึงนา้ํ ตก
ลักษณะ : เป็นนํ้าตกลานหินเตี้ย ๆ แอ่นโค้งตรงกลาง ตกลงมา
ชั้นเดียวสูงราว 4 เมตร ลงมายังแอ่งนํ้าลึกเบื้องล่าง ก่อนจะไหล
ไปในลำ�ห้วยต่อไป
เอือ้ งเเปรงสฟี ัน
111
112
ป่าประเปลี่ยนสีในชว่ งเดือนกุมภาพนั ธ์
ดอกเปราะออกดอกในช่วงตน้ ฝน
กินปลีอกเหลอื ง
นมสวรรค์
น้ำ�ตกสวนอาย
ที่ต้ัง : หมู่ 10 บ้านสวนอาย ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรธี รรมราช
พิกัด : 572847E 939634N
การเข้าถึง : อยู่ใกลท้ ่ที ำ�การของหน่วยพิทักษ์อทุ ยานแหง่ ชาตทิ ี่ ขล.4 (น้ําตกสวนอาย) โดยออกมาจากน้ําตกสวนขัน เลี้ยวขวาตรงบ้าน
ควนสงสาร ไปตามทางหลวงหมายเลข 4194 (ไปทางอำ�เภอพิปูน) ไปจนถึงสามแยกบ้านสวนอาย เลี้ยวขวาเข้าไป 7 กิโลเมตร ถึงหน่วย
พทิ ักษ์อุทยานแห่งชาติ แลว้ เดนิ ตามทางล�ำ ลองในป่า 300 เมตร ถึงน้ําตก
ลักษณะ : เปน็ นํา้ ตกทเี่ กิดจากคลองอาย ไหลลงจากผาหิน ตกลงมาทั้งหมด 5 ช้นั ทงิ้ ระยะกนั บา้ ง แต่เปิดให้เท่ยี วเพยี ง 3 ช้นั คอื หนาน
ชอ่ งสม้ หลอด หนานตน้ เหรียง และหนานเลากา ช้ันสูงสุดค่อนข้างจะชันจนเกอื บดิง่ สูงรวมราว 40 เมตร ดา้ นล่างเป็นแอง่ น้ํา
113
บัวแฉกใหญ่
น้ำ�ตกเหนือฟ้า
ที่ตั้ง หมู่ 7 บ้านเหนอื ฟ้า 6 ต.พปิ นู อ.พิปูน นครศรีธรรมราช
พิกัด : 576865E 942960N
การเข้าถึง : อยู่ในพื้นที่การดูแลของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติท่ี ขล.8 (นํ้าตกเหนือฟ้า) โดยเร่ิมจากทางเข้านํ้าตกสวนอาย ไปตาม
ทางหลวงหมายเลข 4194 ราว 10 กิโลเมตร กอ่ นถึงอำ�เภอพปิ นู มีป้ายบอกทางเขา้ นา้ํ ตกเหนอื ฟ้า เลีย้ วขวา เข้าไปตามทาง 12 กิโลเมตร
ถงึ หนว่ ยพทิ กั ษ์อทุ ยานแหง่ ชาติแล้วเดินเส้นทางลำ�ลองในปา่ 700 เมตร มีข้นึ เขาบางชว่ ง แล้วถงึ นํ้าตก
ลักษณะ : สายนํ้าของน้ําตกเหนือฟา้ นี้ เปน็ ตน้ ก�ำ เนดิ ของแมน่ า้ํ ตาปี เปน็ นํา้ ตกท่ไี หลผ่านแก่งหินลาด เปน็ ชั้น ๆ โดยท้ิงระยะหา่ ง ๆ กนั ราว
10 ชั้น มคี วามสูงตั้งแต่ 1 - 5 เมตร แต่ละชั้นจะมแี อง่ นา้ํ กว้างดา้ นลา่ ง
ในอดีตบริเวณลำ�ห้วยนํ้าตกเหนือฟ้าน้ีเป็นท่ีหลบซ่อนของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในอดีต ด้วยว่ามีพื้นที่ที่เป็นป่าดงดิบหนาทึบ
เหมาะแกก่ ารหลบซ่อน ทั้งยังต่อเนอื่ งกับป่ากรงุ ชงิ และเชื่อมต่อไปถงึ ทางสรุ าษฏร์ธานไี ดด้ ว้ ย
114
น้ำ�ตกคลองระแนะ
ท่ีตั้ง : หมู่ 6 บ้านเหนอื คลองระแนะ ต.พิปนู และ หมู่ 4 บ้านเหนือคลอง ต.เขาพระ อ.พิปนู จ.นครศรธี รรมราช
พิกดั : 0569918E 0952027N
การเข้าถึง : เริ่มจากแยกเข้านํ้าตกเหนือฟ้า มุ่งไปทางอำ�เภอพิปูน ราว 3 กิโลเมตร จะถึงบ้านระแนะ เลี้ยวขวาตรงหมู่บ้าน เข้าไป
4 กโิ ลเมตร ถึงจดุ จอดรถ แลว้ เดินเทา้ 700 เมตร ทางขน้ึ เขาชนั คอ่ นข้างล�ำ บาก แลว้ ถงึ น้าํ ตก
ลกั ษณะ : เปน็ ลกั ษณะของแกง่ นา้ํ ทส่ี ายนา้ํ ตกไหลลาดมาตามลานหนิ กวา้ ง สงู ไมม่ ากนกั แตล่ านหนิ กวา้ งมาก แลว้ ไหลลาดมาเปน็ ระยะทาง
ราว 20 เมตร ช่วงปลายของแกง่ ตกลงไปยังแอ่งนาํ้ กว้างเบ้ืองล่าง บรรยากาศโดยรอบเป็นปา่ ดงดบิ
115
น้ำ�ตกพรหมโลก
ที่ต้ัง : หมู่ 5 บา้ นชมุ ชนพรชุ นใต้ ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช
พิกัด : 586108E 942610N
การเข้าถึง : อยู่ในการดูแลของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติท่ี ขล.1
(น้ําตกพรหมโลก) เดินทางโดยเร่ิมจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ไปตาม
ทางหลวงหมายเลข 4016 (นครศรธี รรมราช - พรหมคีร)ี เลยแยกบา้ นตาล
ไป 18 กิโลเมตร ถึงอำ�เภอพรหมคีรี เจอสแี่ ยกใหเ้ ลยี้ วซ้าย ไปตามทางหลวง
หมายเลข 4132 (พรหมคีรี - พรหมโลก) อกี ประมาณ 5 กโิ ลเมตร ถึงหนว่ ย
พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ น้ําตกอยู่ติดหนว่ ย
116
ลักษณะ : เปน็ นํา้ ตกขนาดใหญ่ทีส่ วยงาม มีชั้นนํา้ ตกมากมายท้ังช้นั เลก็ ชนั้ ใหญ่ แตเ่ ปิดใหเ้ ท่ียวได้เพยี ง 4 ชั้น คอื หนานวงั นํ้าวน หนานวัง-
ไม้ปัก หนานวังหัวบัว และหนานวังอ้ายแล จะเปน็ ลกั ษณะสายนาํ้ ทไ่ี หลลาดลงมาจากร่องหว้ ยที่เป็นร่องหนิ จากยอดเขาสงู จงึ มที ัง้ ระยะทาง
และความสงู
หินบรเิ วณตัวนํ้าตกเป็นหินแกรนติ สีเทาขาว เนอ้ื สม่าํ เสมอและเนื้อดอก ขนาดเม็ดปานกลางถงึ หยาบ มีการเรยี งตวั ของแรเ่ ฟลด์สปาร์
ในเนื้อหิน มอี ายุไทรแอสซกิ (ประมาณ 245 - 210 ล้านป)ี
ในปี 2502 พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสริ กิ ิติ์ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราช-
ชนนีพนั ปหี ลวง ไดเ้ สดจ็ ประพาสนํ้าตกแห่งนี้ อย่างพระเกษมสำ�ราญ และทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ “ภปร” และ “สก” ไว้ที่หน้า
ผาน้ําตกชนั้ ท่ี 1 (หนานวังน้ําวน) เปน็ ราชานสุ รณ์
117
น้ำ�ตกอ้ายเขียวหรือน้ำ�ตกในเขียว
ที่ตั้ง : หมู่ 5 บา้ นในเขยี ว 1 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมครี ี จ.นครศรธี รรมราช
พิกัด : 585618E 946130N
การเข้าถึง : อยูใ่ นการดูแลของหน่วยพทิ ักษ์อุทยานแหง่ ชาติที่ ขล.2 (นํ้าตกอา้ ยเขียว) โดยใชเ้ ส้นทางเดียวกับทางไปน้ําตกพรหมโลก คือ
ทางหลวงหมายเลข 4016 โดยเลยทางเขา้ นา้ํ ตกพรหมโลกไป 4 กโิ ลเมตร เจอทางเขา้ นา้ํ ตก เขา้ ไป 4 กโิ ลเมตร ถงึ หนว่ ยพทิ กั ษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาติ
นํ้าตกอยูต่ ิดกบั หนว่ ย
ลักษณะ : ชื่อนํ้าตกอ้ายเขียว มาจากชื่อของทุเรียนบ้านในละแวกนั้นที่มีชื่อว่า “อ้ายเขียว” เป็นนํ้าตกขนาดใหญ่ที่มีธรรมชาติงดงาม
เกิดจากคลองในเขียว ตกลงมาเป็นชั้นต่าง ๆ หลายสิบชั้น ไหลลาดผ่านชั้นหินต่างระดับมาเรื่อย ๆ เป็นความยาวนับกิโลเมตรตามความ
ลาดเอียงของภูเขา แต่ทางอุทยานแห่งชาติ อนุญาตให้ท่องเที่ยวได้เพียง 9 ชั้น คือ หนานช่องไทร หนานบังใบ หนานไม้ไผ่ หนานเสือผ่าน
หนานบปุ ผาสวรรค์ หนานหนิ กอง หนานหวั ชา้ ง หนานไทรกวาดลาน และหนานฝาแฝด บรรยากาศตลอดเสน้ ทางรม่ รน่ื ตามชน้ั นา้ํ ตกตา่ ง ๆ
มีลานหินให้นั่งเล่นได้
118
น้ำ�ตกยอดเหลือง
หรือน้ำ�ตกเมืองใหม่
ที่ต้ัง : หมู่ 9 บ้านยอดเหลือง ต.นาเหรง อ.นบพิตำ�
จ.นครศรีธรรมราช
พิกัด : 0578164E 0953539N
การเข้าถึง : หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติท่ี ขล.7
(นํ้าตกยอดเหลือง) โดยเร่ิมจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช
ใชท้ างหลวงหมายเลข 4016 (นครฯ - พรหมครี ี - นาเหรง)
จะเลยอ�ำ เภอพรหมครี ี เลยทางเข้าน้าํ ตกอ้ายเขียว ไปราว
9 กิโลเมตร หรือก่อนถึงแยกนาเหรงราว 4 กิโลเมตร
จะมีป้ายบอกทางเข้าทางซ้ายมือ เข้าไปตามทางราว 7
กโิ ลเมตร จนถงึ สะพานยอดเหลอื ง ราว 3 กโิ ลเมตร จะเจอ
119
ด่านตรวจ เลยด่านตรวจไปราว 500 เมตร จะสุดทางถนนที่หน้าหน่วยพทิ กั ษอ์ ุทยานแห่งชาติ จากนั้นจะเป็นทางเดินเทา้ ไปตามทางล�ำ ลอง
ในป่า ขึน้ เนินเขาไปราว 2.5 กโิ ลเมตร ถงึ นา้ํ ตกชั้นแรกหนานตน้ เตย
ลกั ษณะ : นา้ํ ตกยอดเหลอื งเปน็ นา้ํ ตกทต่ี กลงมาจากหนา้ ผาหนิ มที ง้ั หมด 3 ชน้ั โดยชน้ั ท่ี 1 (หนานตน้ เตย) จากนน้ั ขน้ึ ไปทางตน้ นา้ํ ราว 100
เมตร จะเจอชน้ั ท่ี 2 (หนานอดุ ชอ่ ง) แลว้ ขน้ึ ไปตามตน้ นา้ํ อกี ราว 450 เมตร จะเจอชน้ั ท่ี 3 (หนานหญา้ คา) หนานตน้ เตยและหนานอดุ ชอ่ ง
จะสงู ราว 4 - 6 เมตร แต่ชั้นหนานหญ้าคาจะสวยกว่าอีกสองชั้น คือ เป็นลานหน้าผาหินที่ไหลลาดลงมาจากความสูงราว 20 เมตร มีแอ่ง
ขา้ งลา่ ง เดนิ ตอ่ จากชน้ั หนานตน้ เตยมาอกี 400 เมตร
หนานตน้ เตย หนานอุดชอ่ ง หนานหญ้าคา
120
น้ำ�ตกกรุงชิง
ที่ต้ัง : หมู่ 3 บา้ นพติ �ำ ต.กรงุ ชงิ อ.นบพติ �ำ จ.นครศรธี รรมราช
พิกัด : 576436E 963052N
การเข้าถึง : อยใู่ นการดแู ลของหนว่ ยพทิ กั ษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาตทิ ่ี ขล.3 (นา้ํ ตกกรงุ ชงิ ) โดยเรม่ิ จากตวั เมอื งนครศรธี รรมราชไปตามทางหลวง
หมายเลข 4016 ไปจนถงึ แยกนาเหรง เลย้ี วซา้ ย ไปตามทางหลวงหมายเลข 4186 (หว้ ยพาน - กรงุ ชงิ ) รวมระยะทางประมาณ 62 กโิ ลเมตร
จะพบทางแยกซา้ ยมอื เขา้ สหู่ นว่ ยพทิ กั ษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาติ เลย้ี วขวาเขา้ ไปอกี 8 กโิ ลเมตร ถงึ หนว่ ยพทิ กั ษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาติ แลว้ เดนิ เทา้ ไปตาม
เสน้ ทางศกึ ษาธรรมชาตริ ะยะทางราว 3.7 กโิ ลเมตร บรรยากาศสองขา้ งทางเปน็ ปา่ ดงดบิ ชน้ื จนเมอ่ื ถงึ เหนอื ชน้ั นา้ํ ตกหนานฝนแสนหา่ จงึ จะ
เปน็ ปา่ เบญจพรรณบางสว่ น มที างเดนิ ลงไปชมนา้ํ ตกหนานฝนแสนหา่ ดา้ นลา่ งตามทางลงหบุ เขา
ลักษณะ : “กรุงชิง” เป็นสถานท่ีท่ีเช่ือว่าอาจจะเคยเป็นชุมชนโบราณในอดีต ในสมัยท่ีมีความขัดแย้งทางความคิดทางการปกครองน้ัน
พ้ืนท่ีตรงน้ีเคยมีประวัติการต่อสู้ท่ียาวนาน ถูกยึดครองพ้นื ท่โี ดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ใช้เป็นท่สี ้องสุมกำ�ลังและหลบซ่อนมา
ตง้ั แตป่ ี 2517 ทางการไดเ้ ขา้ ปรามปรามหลายครง้ั จนประสบความส�ำ เรจ็ ในปี 2524 เปน็ ปที ก่ี รงุ ชงิ แตก
“ชิง” เป็นชื่อของพืชในตระกูลปาล์มชนิดหนึ่ง ซึ่งมีมากในย่านนี้ สภาพพื้นที่ของกรุงชิงเป็นพื้นที่ราบสูงและมีภูเขาล้อมรอบ
ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “อ่าวกรุงชิง”
นา้ํ ตกกรงุ ชงิ เปน็ ชอ่ื เรยี กกลมุ่ นา้ํ ตกทเ่ี กดิ จากคลองกรงุ ชงิ ในเวง้ิ หบุ เขากรงุ ชงิ ไหลผา่ นชน้ั หนิ แกรนติ มที ง้ั หมด 7 ชน้ั หา่ ง ๆ กนั มชี อ่ื
ตา่ ง ๆ คอื หนานมดั แพ หนานปลวิ หนานจน หนานโจน หนานตน้ ตอ หนานวงั เรอื บนิ และหนานฝนแสนหา่
ชั้นหนานฝนแสนห่า 121
ภาพ : สทิ ธธิ ร ศรรี าเพญ็
นา้ํ ตกกรงุ ชงิ เปน็ นา้ํ ตกขนาดใหญ่ ทเ่ี กดิ จากคลองกรงุ ชงิ ไหลผา่ นหบุ เขามาตามความลาดเอยี ง เกดิ เปน็ ชน้ั นา้ํ ตกตา่ ง ๆ 7 ชน้ั มกี ารตง้ั ชอ่ื
ตา่ ง ๆ เชน่ หนานมดั แพ หนานปลวิ หนานจน หนานโจน หนานตน้ ตอ หนานวงั เรอื บนิ และหนานฝนเสนห่ า เปน็ ชน้ั ทอ่ี ยลู่ า่ งสดุ และสวยงาม
ทส่ี ดุ เปน็ ชน้ั นา้ํ ตกทไ่ี หลตกจากผาหนิ แกรนติ จากความสงู ราว 100 เมตร ลาดไหลงมายงั แอง่ นา้ํ เบอ้ื งลา่ งจนเกดิ เปน็ ละอองนา้ํ คลา้ ยนา้ํ ฝน
เสน้ ทางเดนิ ศกึ ษาธรรมชาตมิ านา้ํ ตกกรงุ ชงิ นน้ั เปน็ ทง้ั เสน้ ทางทผ่ี า่ นพน้ื ทใ่ี นอดตี แหง่ การสรู้ บ ยงั คงมรี อ่ งรอยปรากฏตามเสน้ ทางเดนิ
แลว้ ยงั มพี ชื พรรณตา่ ง ๆ มากมาย และเปน็ เสน้ ทางดนู กยอดนยิ มของนกั ดนู กอกี ดว้ ย
บรเิ วณนา้ํ ตกเปน็ หนิ ทรายและหนิ ควอรต์ ไซต์ สขี าว สเี ทาออ่ น ยคุ แคมเบรยี ม (อายปุ ระมาณ 570 - 505 ลา้ นป)ี
122
อุทยานแห่งชาติ
คลองพนม
พืน้ ที่ 410.40 ตารางกโิ ลเมตร
ทตี่ งั้ ทท่ี �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ : 107 หมู่ 4 บา้ นหลงั ถา้ํ ต.คลองศก อ.พนม จ.สรุ าษฎรธ์ านี
การเดินทาง : จากตวั เมืองสุราษฏร์ธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 (ถนนสายสรุ าษฎร์ธานี -
ตะก่วั ป่า) ไปราวหลักกิโลเมตรท่ี 90 ข้ามสะพานข้ามคลองพนมไปไม่ไกลนัก จะเห็นป้ายอุทยาน
แหง่ ชาตคิ ลองพนมทางซา้ ยมอื เขา้ ไปราว 80 เมตร ถงึ ทท่ี �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ
กวา่ จะมาเป็ นอทุ ยานแหง่ ชาต ิ
ตามหนงั สอื ของอทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาสก ท่ี กษ 0713/68 ลงวนั ท่ี 2 มนี าคม 2532 และสง่
รายงานการสำ�รวจเบ้อื งต้นของป่าคลองแสงและป่าคลองพนม อำ�เภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยนายเรอื งศกั ด์ิ ทฆี ะสขุ นกั วชิ าการปา่ ไม้ 4 ปฏบิ ตั งิ านประจ�ำ อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาสก ไดท้ �ำ การ
ส�ำ รวจเบอ้ื งตน้ พบวา่ ปา่ คลองศกและปา่ คลองพนม ซง่ึ อยใู่ นทอ้ งทอ่ี �ำ เภอพนม จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี
123
ถำ้�พระ
ในพน้ื ทส่ี �ำ รวจ 460 ตารางกโิ ลเมตร มสี ภาพปา่ สมบรู ณเ์ ปน็ ปา่ ตน้ นา้ํ ล�ำ ธารทส่ี �ำ คญั ของแมน่ า้ํ ตาป ี ซง่ึ เปน็ แมน่ า้ํ สายส�ำ คญั สายเดยี วของจงั หวดั
สรุ าษฎรธ์ านี และตามค�ำ สง่ั ของกรมปา่ ไมท้ ่ี 1627/2530 ลงวนั ท่ี 19 ตลุ าคม 2532 ใหน้ ายธวชั ชยั นลิ เอก เจา้ พนกั งานปา่ ไม้ 5 ไปด�ำ เนนิ การ
ส�ำ รวจเพม่ิ เตมิ และจดั ตง้ั พน้ื ทบ่ี รเิ วณปา่ สงวนแหง่ ชาตปิ า่ คลองแสง และปา่ คลองพนม เพอ่ื ประกาศเปน็ อทุ ยานแหง่ ชาติ ตามนยั มาตราท่ี 6
แหง่ พ.ร.บ.อทุ ยานแหง่ ชาติ พ.ศ.2504 โดยใหท้ �ำ หนา้ ทห่ี วั หนา้ อทุ ยานแหง่ ชาติ และไดก้ �ำ หนดชอ่ื อทุ ยานแหง่ ชาตปิ ระจ�ำ พน้ื ทป่ี า่ สงวนแหง่ ชาต ิ
ปา่ คลองศกและปา่ คลองพนมวา่ อทุ ยานแหง่ ชาตคิ ลองศก - คลองพนม เปน็ การชว่ั คราว และตามหนงั สอื กรมอทุ ยานแหง่ ชาตทิ ่ี กษ 0713/115
ลงวนั ที่ 27 กรกฎาคม 2533 อนุมัติให้ใช้ชื่อ อุทยานแห่งชาติคลองพนม ตามที่คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติและประชุมครั้งที่ 4/2537
เมื่อวันที่ 8 พฤศจกิ ายน 2537 ไดม้ มี ตเิ หน็ ชอบใหก้ รมปา่ ไมด้ �ำ เนนิ การเสนอรา่ งพระราชกฤษฎกี าก�ำ หนดเปน็ อทุ ยานแหง่ ชาตคิ ลองพนม ตาม
มาตรา 6 แหง่ พ.ร.บ.อทุ ยานแหง่ ชาติ 2504 ตอ่ มาหนงั สอื ส�ำ นกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตร ี ไดม้ หี นงั สอื ท่ี 0204/15466 ลงวนั ท่ี 22 พฤศจกิ ายน
2543 ประกาศก�ำ หนดบรเิ วณทด่ี นิ ปา่ คลองศกและปา่ คลองพนม ในทอ้ งทต่ี �ำ บลคลองศก ต�ำ บลเขาพนม และต�ำ บลพลเู ถอ่ื น อ�ำ เภอพนม จงั หวดั
สรุ าษฎรธ์ าน ี ใหเ้ ปน็ อทุ ยานแหง่ ชาติ ซง่ึ ประกาศไวใ้ นพระราชกจิ กจิ จานเุ บกษาเลม่ 117 ตอน 108 ก วนั ท่ี 17 พฤศจกิ ายน 2543 เปน็ อทุ ยาน
แหง่ ชาตลิ �ำ ดบั ท่ี 102 ของประเทศ ครอบคลมุ พน้ื ท่ี 410.40 ตารางกโิ ลเมตร
สภาพภมู ปิ ระเทศจะเปน็ ภเู ขาสงู ชนั ประมาณ 80 % ของพน้ื ทโ่ี ดยเฉพาะทางตอนเหนอื สว่ นใหญเ่ ปน็ ภเู ขาหนิ ปนู สงู ชนั และสวยงาม เรยี งราย
สลับซับซ้อน เช่อื มติดต่อเป็นแนวสันเขายาวจากทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออก จุดสูงสุดอย่บู ริเวณตอนกลางของพ้นื ท่ี มีความสูงประมาณ
870 เมตร จากระดบั ทะเล พน้ื ทร่ี าบมอี ยปู่ ระมาณ 20% ของพน้ื ท่ี สว่ นใหญเ่ ปน็ ทร่ี าบระหวา่ งภเู ขา เปน็ แหลง่ ตน้ นา้ํ ล�ำ ธารของคลองพนม
และคลองศก ซง่ึ จะไหลไปรวมกบั คลองแสง เปน็ ตน้ ก�ำ เนดิ ของคลองพมุ ดวง ทเ่ี ปน็ สาขาหนง่ึ ของแมน่ า้ํ ตาปี ซง่ึ เปน็ แมน่ า้ํ สายส�ำ คญั ของจงั หวดั
สรุ าษฎรธ์ าน ี ทง้ั ยงั มถี า้ํ ทส่ี วยงามในพน้ื ทม่ี ากมาย รวมทง้ั นา้ํ ตกอยใู่ นพน้ื ทอ่ี กี หลายแหง่
124
ไปอำเภอตะกวั่ ปา 401 ไปอำเภอเมืองสุราษฎรธานี
อุทคยทลาีท่ อนำงแกพหางนรชมาติ อำเภอพนม
นำ้ ตกเขาวง
อุทย(บาหานนนแควหยลงพชอาง�ทตพกั ทิ นษ่ี มค )น.1
หนว ยพท� ักษ 4118
อทุ ย(นา้ำนตแหกงโตชนาตใหทิ ญ่ี ค)น.2
น้ำตกโตนใหญ
ไปอำเภอทับปดุ
ไปอุทยานแหงชาตเิ ขาสก 2 กม. วัดถำ้
401
6 กม. อุทคยทลาท่ี อนำงแกพหานงรชมาติ
ไปอำเภอตะกั่วปา 22 กม. คลองสก ไปจงั หวดั สุราษฎรธานี
2 กม. 7 กม. สถานอี นามยั
วัดสองพ่น� อ ง อำเภอพนม
สำนักสงฆ 1 กม. ทา1ง.5ลำกลมอ.ง
ถ้ำแสงทอง หนวยพท� กั ษ
1.5 กม.
อทุ ยานแหง ชาติท่ี คน.12 กม.
น้ำตกบางหนิ แดง (บานคลองพนม)
หนวยพ�ทักษ น้ำตกเขาวง 4118
อทุ ยานแหง ชาตทิ ่ี คน.4
น้ำตกโตนใหญ
(สะพานเตา)
หนว ยพ�ทกั ษ
อุทยานแหง ชาติ ที่ คน.2
(น้ำตกโตนใหญ)
หนวยพ�ทักษ 3 กม.
อุทยานแหง ชาติท่ี คน.3
นำ้ ตกโตนไทร ไปอำเภอทับปุด
(บานสะพานนาค)
125
น้ำ�ตกเขาวง
ท่ีตั้ง : หนว่ ยพทิ กั ษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาตทิ ่ี คน.1 (บา้ นคลองพนม) หมู่ 8 บา้ นคลองพนม ต.คลองศก อ.พนม จ.สรุ าษฏรธ์ านี
พิกัด : 466100E 965008N
การเขา้ ถงึ : จากทท่ี �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ เลย้ี วขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 401 ราว 10 กโิ ลเมตร จะมที างขวามอื เขา้ วดั สองพน่ี อ้ ง เลย้ี วเขา้ ไป
ตามทาง เลยวดั สองพน่ี อ้ งไปราว 9 กโิ ลเมตร จากปากทางแยก ถงึ หนว่ ยพทิ กั ษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาตทิ ่ี คน.1 (บา้ นคลองพนม) หลงั จากนน้ั จะเปน็ ทาง
ล�ำ ลองของชาวบา้ นเขา้ ไปในสวน ในปา่ (รถจกั รยานยนตเ์ ขา้ ได)้ เขา้ ไปราว 2.5 กโิ ลเมตร จะเจอล�ำ หว้ ย กเ็ ดนิ เทา้ ลดั เลาะไปมาตามล�ำ หว้ ยราว 2
กโิ ลเมตร ถงึ นา้ํ ตก
ลกั ษณะ : เปน็ นา้ํ ตกทต่ี กจากหนา้ ผาหนิ ไหลตกลดหลน่ั ลงมา 8 ชน้ั โดยแตล่ ะชน้ั จะทง้ิ ระยะหา่ งกนั อยใู่ นระยะ 10 - 20 เมตร ชน้ั สงู สดุ คอื ชน้ั 7
มคี วามสงู ราว 15 เมตร สว่ นชน้ั อน่ื ๆ จะอยทู่ ่ี 3 - 6 เมตร สภาพแวดลอ้ มรอบขา้ งเปน็ ปา่ ดงดบิ ชน้ื จงึ มนี า้ํ ตลอดปี มพี ชื พรรณทน่ี า่ สนใจมากมาย
126
น�ำ้ ตกโตนไทร
ท่ีต้ัง : หมู่ 5 บา้ นสะพานนาค ต.คลองศก อ.พนม จ.สรุ าษฏรธ์ านี
พิกัด : 451862E 978296N
การเขา้ ถงึ : จากทท่ี �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ ออกมาใชท้ างหลวงหมายเลข 401 เลย้ี วซา้ ย
ไปทางเขาสก ราว 8 กิโลเมตร มีทางเล้ียวเข้าไปทางเดียวกับไปสำ�นักสงฆ์ถํ้าแสงทอง
เข้าไปตามทาง 22 กิโลเมตร ไปจนสุดทางที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติท่ี คน.3 (บ้าน
สะพานนาค) แลว้ เดินเทา้ ลัดเลาะขา้ มนา้ํ ไปมา ราว 3 กิโลเมตร ถงึ นา้ํ ตก
ลักษณะ : เป็นนํา้ ตกหนา้ ผาหนิ ตั้งแตช่ ้นั ย่อย ๆ จนถึงชน้ั สูง ท้ังหมดราว 11 ช้นั ชน้ั ท่ี
3 จะเปน็ ช้นั ทส่ี งู สดุ ราว 17 เมตร ชน้ั ลา่ ง ๆ นจี้ ะมรี ะยะห่าง ๆ กัน แต่พอข้ึนไปชั้นบน ๆ
น้าํ ตกจะอยูใ่ กล้กัน
127
น้ำ�ตกโตนใหญ่
ที่ต้ัง : หนว่ ยพิทกั ษ์อทุ ยานแหง่ ชาติท่ี คน.2 (นา้ํ ตกโตนใหญ)่ หมู่ 5 บา้ นบางลึก ต.คลองศก อ.พนม จ.สรุ าษฎรธ์ านี
พิกัด : 47P 466408 E 959110N
การเข้าถึง : เมื่อมาจากสุราษฏร์ธานีโดยถนนหมายเลข 401 (ถนนสายสุราษฏร์ - ตะกั่วป่า) เม่ือถึงอำ�เภอพนม ให้สังเกตุสำ�นักงาน
สาธารณสุขอำ�เภอพนมทางซ้ายมือ เลยไปไม่มากจะเป็นสามแยกไป
ทบั ปดุ เลี้ยวซา้ ยไปตามถนนหลวงหมายเลข 4118 (ถนนสายพนม -
ทบั ปดุ ) เขา้ ไปตามทาง ราว 20 กโิ ลเมตร ถงึ บา้ นบางลกึ ต�ำ บลคลองศก
ทางขวามือจะมีป้ายบอกทางเข้านํ้าตกโตนใหญ่ เข้าไปตามทางราว
800 เมตร จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ คน.2 (น้ําตกโตน-
ใหญ่) จอดรถแล้วเดินเท้าไป 200 เมตร ถึงน้ําตกหรือถ้าไม่ใช่ช่วง
เทศกาล สามารถนำ�รถไปถึงนํ้าตกได้
ลักษณะ : เป็นน้ําตกเล็ก ๆ ตกลงมาชั้นเดียว จากหน้าผาหิน สูง
ราว 4 เมตร ดา้ นล่างมีแอ่งนํ้า มีนํา้ ไหลตลอดปี เป็นที่นิยมมาเลน่ นาํ้
เพราะเดนิ ทางสะดวก และบรรยากาศรม่ รน่ื
128
น้ำ�ตกบางหินแดง
ท่ีต้ัง : หมู่ 4 บ้านสะพานเตา่ ต.คลองศก อ. พนม จ.สุราษฏร์ธานี
พิกัด : 457250E 976900N
การเข้าถึง : จากที่ทำ�การอุทยานแห่งชาติ ออกมาใช้ทางหลวง
หมายเลข 401 เลี้ยวซ้ายไปทางเขาสก ราว 2 กิโลเมตร มีทางแยก
เล็ก ๆ ซ้ายมือเข้าไป เข้าไปราว 7 กิโลเมตร จะมีทางเลี้ยวซ้าย
อีกครั้ง เข้าไป 1 กิโลเมตร (ถ้าตรงไปอีก 2 กิโลเมตร จะถึงหน่วย
พิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ คน.4 (สะพานเต่า) หลังจากนั้นจึงเดินเท้า
ลัดเลาะไปมาตามลำ�ห้วย ราว 1.5 กิโลเมตร ถึงนํ้าตก
ลักษณะ : เป็นน้ําตกทต่ี กมาจากผาหิน มีหลายชั้น สงู ตัง้ แต่ 2 - 12
เมตร นา้ํ ตกทง้ิ ระยะหา่ ง ๆ กนั ในลำ�หว้ ย ชนั้ ที่ 5 ที่สงู ท่ีสุด ราว 12
เมตร บางช้ันเล่นนํ้าได้ บางช้ันนํ้าตก ๆ ลงมาไม่มีแอ่ง บรรยากาศ
รายรอบร่มร่ืน
นอกจากน้ีในพ้ืนที่อุทยานแห่งชาติคลองพนม ยังมีน้ําตก
ดาวดึงสอ์ กี ด้วย
129
อุทยานแห่งชาติ
ใต้ร่มเย็น
พน้ื ที่ 425 ตารางกิโลเมตร
ที่ตั้งที่ทำ�การอทุ ยานแห่งชาติ : ต.ลำ�พนู อ.บา้ นนาสาร จ.สรุ าษฏรธ์ านี
การเดินทาง : จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปตามทางหลวงหมายเลข 4009 (ถนนสุราษฎร์ธานี
- นาสาร) 40 กิโลเมตร ถึงตลาดนาสาร เลี้ยวซา้ ยตรงสามแยกเกรยี งศกั ดิ์ ไปตามถนนพิชยั เดชะ -
บ้านเหมอื งทวด ประมาณ 8 กิโลเมตร ถึงที่ท�ำ การอุทยานแห่งชาติใตร้ ม่ เย็น
กว่าจะมาเป็ นอุทยานแห่งชาติ
ในอดตี น้ัน พนื้ ทขี่ องปา่ สงวนแหง่ ชาตปิ ่าคลองนา้ํ เฒา่ บรเิ วณเขาช่องช้าง อำ�เภอบ้านนาสาร
จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นฐานที่ม่ันใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) มาต้ังแต่
130
ปี 2508 ทางการได้เข้าปราบปรามเรื่อยมา แต่สภาพ
ภูมิประเทศเป็นอุปสรรคอย่างมาก ทำ�ให้การปราบปราม
ไมไ่ ดผ้ ล อทิ ธพิ ลของ พคท. จงึ ใหญโ่ ตขน้ึ กวา่ เดมิ บา้ นชอ่ งชา้ ง
และอีกหลายหมู่บ้านในย่านนี้ กลายเป็นหมู่บ้านปิดภายใต้
อิทธิพลของ ผกค.โดยสน้ิ เชงิ
มีเหตุการณ์สำ�คัญต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ปี 2520
พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ถูกยิง
สิ้นพระชนม์ขณะประทับบนเฮลิคอปเตอร์ และรองผู้ว่า
ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี (นายสวัสด์ิ พันธ์เกษม) ถูก
ลอบสังหาร ปี 2522 นายสรุ ชยั แซด่ ่าน กบั กองกำ�ลัง พคท.
ปลน้ รถไฟทีส่ ถานีพรุพี จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี และในปี 2525
ศาลากลางจงั หวดั สุราษฎร์ธานีถกู ระเบิดพงั ยบั เยนิ
ต่อมา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2525 พล.ท.หาญ
ลีนานนท์ แม่ทัพภาคที่ 4 จึงเปิดยุทธการ “ใต้ร่มเย็น”
กวาดล้างกองกำ�ลัง พคท. จนราบคาบในเวลา 10 วัน และ
ใช้เวลาอีก 3 เดือน เข้าเคลียร์พื้นท่ี และได้ประกาศให้
ประชาชนเข้าไปประกอบอาชีพในพน้ื ที่เดิมได้ เมือ่ วนั ที ่
ถำ�้ ขมิ้น
131
1 มิถุนายน 2525 ในช่วงหลังจากนี้จึงมีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองน้ําเฒ่าอย่างกว้างขวางและรุนแรง ต่อมาสภาตำ�บลลำ�พูน
อำ�เภอบา้ นนาสาร จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี จงึ มหี นงั สอื ลงวนั ท่ี 2 กมุ ภาพนั ธ์ 2530 ผา่ นสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี (นายพาสกร
จรญู รัตน์ และนายสิทธพิ ร โพธ์ิเพชร) ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (พล.อ.หาญ ลีนานนท์) ขอให้จัดตงั้ อทุ ยานแห่งชาต ิ
ที่บ้านปลายนํา้ เหนอื หมู่ 7 ตำ�บลลำ�พนู อ�ำ เภอบ้านนาสาร จงั หวัดสุราษฎรธ์ านี ซ่ึงมนี ้าํ ตกดาดฟ้าเปน็ จดุ เดน่ กรมป่าไม้จงึ ไดส้ ง่ เจา้ หนา้ ที่
กองอุทยานแห่งชาติ มาสำ�รวจดำ�เนินการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ โดยได้ทำ�พิธีเปิดป้ายอุทยานแห่งชาติอย่างเป็นทางการ เมื่อวันท่ี 11
ธันวาคม 2530 ซ่ึงใช้ชื่อว่าอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ตามช่ือของยุทธการ “ใต้ร่มเย็น” โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(พล.อ.หาญ ลนี านนท)์ ในขณะนน้ั เปน็ ประธานในพธิ เี ปดิ ตอ่ มาไดม้ พี ระราชกฤษฎกี าก�ำ หนดทด่ี นิ บรเิ วณปา่ ไชยคราม ปา่ วดั ประดู่ แปลงท่ี 2
และปา่ คลองนา้ํ เฒา่ ในทอ้ งทต่ี �ำ บลชา้ งซา้ ย อ�ำ เภอกาญจนดษิ ฐ์ ต�ำ บลทงุ่ เตา ต�ำ บลล�ำ พนู ต�ำ บลพรพุ ี อ�ำ เภอบา้ นนาสาร และต�ำ บลบา้ นสอ้ ง
อำ�เภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฏร์ธานี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2534 เน้ือท่ีประมาณ 425 ตารางกิโลเมตร ตามประกาศในราชกิจจา-
นเุ บกษา วันท่ี 31 ธนั วาคม 2534 นับเป็นอุทยานแหง่ ชาติลำ�ดับที่ 73 ของประเทศไทย
สภาพป่าที่นี่เป็นป่าดงดิบชื้น มียอดเขาหนองเป็นยอดเขาสูงสุด อยู่ทางตอนกลางของพ้ืนที่ และเป็นยอดเขาท่ีสูงที่สุดในจังหวัด
สรุ าษฎรธ์ านี สงู ประมาณ 1,530 เมตร จากระดบั ทะเลปานกลาง ซง่ึ เปน็ ตน้ นา้ํ ของคลองฉวาง คลองตาเพชร คลองกงเสยี ด และคลองล�ำ พนู
ในพ้ืนท่ีด้านทิศตะวันตกมีภูเขาหินปูนกระจายอยู่บางส่วน โดยเฉพาะในเขตอำ�เภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงมีถํ้าที่สวยงาม
อย่างถ้าํ ขมนิ้ นนั่ เอง
ด้วยสภาพปา่ ดงดบิ ชนื้ จึงมีล�ำ หว้ ยหลายสายเกดิ จากปา่ ผนื น้ี การเดนิ ทางของลำ�หว้ ยลำ�ธาร เกิดเป็นนาํ้ ตกต่าง ๆ ในพน้ื ท่ี
132
ไปจงั หวดั สุราษฎรธานี ไปอำเภอกาญจนดิษฐ บานครี �รอบ
ไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 4010
44
4143
ไปจังหวดั กระบ่ี ไปจังหวัดสุราษฎรธานี
4143 สำนกั สงฆคีรร� อบสมั พันธ
น้ำตกเพชรพนมวฒั น
หนว ยพ�ท(กั เพษชอรุทพยานนมแวหัฒง ชนา) ติท่ี รย.4
หนวยพ�ทักษอทุ ยานแหงชาติท่ี รย.6 (ดาดฟา )
4009 ท่ที ำการอทุ ยานแหง ชาตใิ ตรมเยน็
จโฬ� คารภงกรณารฯ นำ้ ตกดาดฟา
นอบาำสาเภนาอร ถ้ำขมิ�น บานพักรบั รอง
สถานรี ถไฟบานนาสาร
ไปจงั หวดั สุราษฎรธานี รร.บา นเหมอื งทวด น้ำตกเหมอื งทวด
อบต.เพม� พ�นทรัพย
อนสุ รณสถาน หนวยพท� ักษ
บานสอง 4229 อทุ ยานแหง ชาตทิ ่ี รย.1 (เหมืองทวด)
น้ำตกคลองคนั เบ็ด
นำ้ ตกคลองน้ำเฒา
บานสอ ง หนว ยพท� กั ษ น้ำตก 357
บา นพรกุ ำ อุทยานแหงชาติท่ี รย.7 หนว ยพ�ทกั ษอ ุทยานแหง ชาติที่ รย.3 (คลองตาล)
(พรุกำ)
เวอย� ำงเภสอระ บา นมหาราช
4009 บา นกลวย
4015
4249
ไปอำเภอพระแสง
ไปจังหวัดนครศรธ� รรมราช ไปอำเภอฉวาง ไปอำเภอฉวาง
133
น้ำ�ตกดาดฟา้
ท่ีตั้ง : หน่วยพทิ กั ษ์อทุ ยานแหง่ ชาติท่ี รย.6 (ดาดฟ้า) ต.ลำ�พนู อ.นาสาร จ.สุราษฏรธ์ านี
พิกัด : 553165E 979324N
การเขา้ ถึง : จากตัวจงั หวัด สุราษฏรธ์ านี ไปตามทางหลวงหมายเลข 4009 ไปทางอ�ำ เภอบา้ นนาสาร ถึงบา้ นเฉียงพร้า (หา่ งจากตวั เมอื ง
สรุ าษฎร์ธานปี ระมาณ 33 กิโลเมตร) มที างแยกเลี้ยวเขา้ ถนน ร.พ.ช. เขา้ ไปประมาณ 13 กโิ ลเมตร ก็จะถงึ ท่ีทำ�การอุทยานแห่งชาตใิ ต้รม่ เยน็
และนํ้าตก
ลักษณะ : เป็นนํ้าตกหน้าผาหิน มีทงั้ หมด 8 ชั้น ได้แก่ ช้นั ท่ี 1 รมิ ไผ่ ช้ันที่ 2 วังเตย ชัน้ ที่ 3 หนานเตย ชัน้ ที่ 4 รมิ ไทร ชนั้ ที่ 5 ริมไทรน้อย
ชั้นที่ 6 วังเย็น ชัน้ ที่ 7 วังตน้ ผง้ึ ชั้นท่ี 8 ดาดฟา้ ชั้นนส้ี ูงทส่ี ดุ ราว 80 เมตร นาํ้ ตกจะไหลตอ่ เนื่องกันลงมา บางชน้ั มีท้งิ ระยะกันบ้าง ถือเป็น
นา้ํ ตกท่ีสูงและใหญโ่ ตทีส่ ดุ ในสุราษฏร์ธานี เพราะแต่ละชน้ั สงู ไม่น้อยกวา่ 10 เมตร เปน็ ทีน่ ยิ มของนกั ท่องเทยี่ วมาก เพราะเดนิ ทางสะดวก
และมนี าํ้ ตลอดปี
หินบรเิ วณนีเ้ ปน็ หนิ แกรนติ ไบโอไทต์ - มสั โคไวต์ แกรนิตเนอ้ื ดอก สีเทา ยุคไทรแอสซกิ (อายุประมาณ 245 - 210 ล้านปี)
134
น้ำ�ตกเหมืองทวด
ที่ตั้ง : หน่วยพทิ ักษ์อทุ ยานแหง่ ชาติที่ รย.1 (เหมอื งทวด) หมู่ 1 บ้านเหมอื งทวด
ต.เพ่ิมพนู ทรัพย์ อ.บ้านาสาร จ.สุราษฏร์ธานี
พิกัด : 547884E 967469N
การเข้าถึง : เริ่มต้นที่ตลาดบ้านนาสาร ใช้ถนนเลียบคลองชลประทานใต้
มาเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 4229 ไปจนถึง อบต.เพิ่มพูนทรัพย์
เลยที่ทำ�การ อบต. ไปไมไ่ กล จะมีทางเขา้ ทางขวามอื เข้าไปอกี ราว 2 กโิ ลเมตร
ถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ รย.1 (เหมืองทวด) แล้วเดินเท้าไปตามทาง
อกี ราว 1 กโิ ลเมตร ถึงน้ําตก
ลกั ษณะ : เปน็ นา้ํ ตกทต่ี กลงมาในล�ำ หว้ ย มตี ง้ั แตช่ น้ั สงู ไมม่ ากใกลห้ นว่ ย และมไี ป
เปน็ ระยะ ๆ ชัน้ ที่สวยสุดเป็นช้นั บน เป็นหน้าผาหิน ตกลงมาในแนวด่งิ 90 องศา
ในเวิ้งหุบเขา เกือบเป็นวงกลม ชั้นนี้จะสูงที่สุดราว 30 เมตร ด้านล้างมีแอ่งนํ้า
ใหเ้ ลน่ ได้ เปน็ นา้ํ ตกทส่ี วยงามและรจู้ กั กนั เปน็ ทแ่ี พรห่ ลายในเขตอ�ำ เภอบา้ นนาสาร
135
น�้ำ ตกสามห้าเจด็
ท่ีตั้ง : หมู่ 17 บา้ นสวนกล้วย ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฏรธ์ านี
พิกัด : 551462E 958580N
การเขา้ ถงึ : จากตวั เมอื งสรุ าษฏรธ์ านี ใชท้ างหลวงหมายเลข 41 ไปอ�ำ เภอเวยี งสระ แลว้ ใชท้ างหลวงหมายเลข 4249 ไปทางทา่ นา้ํ วงั หนิ
ไปตามทางเร่ือย ๆ ทางเส้นน้ีจะขนานไปกับคลองตาล แล่นไปสักระยะ เข้าเขตบ้านสวนกล้วย จะมีทางเข้านํ้าตกสามห้าเจ็ดทางขวามือ
เข้าไปราว 1.5 กโิ ลเมตร ทางจะไปสน้ิ สดุ ทห่ี นว่ ยพทิ ักษ์อุทยานแห่งชาติที่ รย.3 (คลองตาล) แล้วเดนิ เทา้ ไปตามทางในป่า มเี ดนิ ขนึ้ เนิน และ
เลยี บลำ�ธาร ราว 3 กิโลเมตร จงึ ถงึ นาํ้ ตก
ลักษณะ : เป็นนา้ํ ตกทีซ่ ุกซอ่ นในป่าท่คี ่อนขา้ งมิดชิด ตัวนา้ํ ตกเปน็ หนา้ ผาหิน ตกไหลลดหลัน่ ลงมายงั แอ่งข้างลา่ ง น้าํ ตกสงู ราว 25 เมตร
ท่ามกลางป่าดงดิบรายรอบ มปี ่ามหาสะดำ�ข้ึนอยทู่ ่ัวบรเิ วณ
บริเวณนี้เคยเป็นค่ายของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยมาก่อน สถานท่ีจึงค่อนข้างมิดชิด มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมด้านบน
ระหว่างทางเดินไปนา้ํ ตกจะผ่านสถานท่ีท่เี คยเปน็ ค่าย ผกค. ในอดีต
136
นำ้�ตกเพชรพนมวัฒน์
ที่ต้ัง : หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ รย.4 (เพชรพนมวัฒน์)
หมู่ 4 บ้านคีรรี อบ ต.ปา่ ร่อน อ.กาญจนดษิ ฐ์ จ.สรุ าษฏรธ์ านี
พิกัด : 558043E 988942N
การเขา้ ถึง : จากอำ�เภอกาญจนดิษฐ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข
44 ท่ีจะมุ่งหน้าไปกระบี่ วิ่งไปจนมีทางแยกใหญ่ ซ้ายมือจะเป็น
ทางหลวงหมายเลข 4010 เข้ามาตามทางสายน้ี ก็จะผ่านบ้าน
ไสใน ถึงสามแยกต�ำ บลกรดู เล้ยี วขวาไปตามทางหลวงหมายเลข
4143 ถึงโรงเรียนคีรีรอบ เล้ียวซ้ายไปทางสำ�นักสงฆ์คีรีรอบ
สัมพันธ์ เข้าไปจนสุดทางท่ีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ รย.4
(เพชรพนมวฒั น์) แลว้ เดนิ เทา้ อีก 70 เมตร ถงึ นํา้ ตก
ลักษณะ : เป็นน้ําตกหินสูงราว 15 เมตร ตกลงมาในซอกหิน
ทถ่ี กู กดั เซาะจนเปน็ เวง้ิ แทบจะปดิ มที างเขา้ ดา้ นหนา้ นา้ํ ตกแคบ ๆ
จดุ เดน่ ของนา้ํ ตกนค้ี อื ชน้ั หนิ ปนู ทซ่ี อ้ นทบั เรยี งตวั ใหเ้ หน็ เปน็ ชน้ั ๆ
ซึ่งถอื เป็นเอกลักษณเ์ ฉพาะตวั ของพน้ื ท ี่
137
น�ำ้ ตกคลองน�้ำ เฒ่า
ที่ตั้ง : หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ รย.7 (พรุกำ�) หมู่ 14
บา้ นพรกุ ำ� ต.บ้านส้อง อ.เวยี งสระ จ.สุราษฏรธ์ านี
พิกัด : 8585481E 960767N
การเข้าถึง : เร่ิมที่อำ�เภอเวียงสระ ใช้ทางหลวงหมายเลข
4009 ไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 4015 เลี้ยวซ้ายไปถึง
บา้ นมหาราช แล้วเลยี้ วขวาเขา้ ไปตามทางราว 5 กโิ ลเมตร จะถงึ
บา้ นพรกุ ำ� หน่วยพทิ ักษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาติ จะอยทู่ างขวามอื ข้าม
คลองนํา้ เฒ่าไปจงึ จะถึงหน่วย แลว้ เดนิ เท้าไปตามทาง ผ่านสวน
ยางพารา ไปราว 800 เมตร จะมีทางเดินแยกซ้ายไปอีก 200
เมตร ถึงนํา้ ตก
ลักษณะ : เปน็ น้ําตกทต่ี กจากหน้าผาหนิ กว้าง สงู ราว 10 เมตร
ตกต่อเน่อื งกนั สองช้นั ทิ้งระยะหา่ งกันราว 10 เมตร หลงั จากน้ัน
จึงไหลลาดลงมาตามลานหินทสี่ ูงราว 2 เมตร มีนํา้ ตลอดปี
หมายเหตุ : ไม่เปิดให้ท่องเท่ยี ว
138
นำ้�ตกคลองคนั เบด็
ท่ีต้ัง : หมู่ 14 บ้านพรุก�ำ ต.บา้ นสอ้ ง อ.เวยี งสระ จ.สุราษฏร์ธานี
พิกัด : 545137E 961547N
การเขา้ ถงึ : เริม่ จากหนว่ ยพิทักษ์อทุ ยานแหง่ ชาตทิ ี่ รย.7 (พรุก�ำ )
ข้ามห้วยออกมาเจอถนนในสวนยาง เลี้ยวขวามือไปตามทางเข้าไป
ราว 200 เมตร แล้วมีทางเลย้ี วซา้ ยอีกคร้ัง เดินตอ่ ไปตามทาง ราว
700 เมตร ถึงนา้ํ ตก
ลกั ษณะ : เปน็ แกง่ นา้ํ ตกหนิ เปน็ ชน้ั เลก็ ชน้ั นอ้ ยหลายชน้ั อยหู่ า่ ง ๆ กนั
ชน้ั สงู สดุ สงู ราว 5 เมตร ตกลงมาชน้ั เดยี ว มแี อง่ เลก็ ๆ ดา้ นหนา้
หมายเหตุ : ไมเ่ ปดิ ให้ท่องเท่ียว
139
หาดทรายขาว เกาะราวี
อุทยานแห่งชาติ
ตะรุเตา
พื้นท่ี 1,490 ตารางกิโลเมตร
ท่ีตั้งท่ีทำ�การอทุ ยานแห่งชาติ : มสี องแห่งคือบนบกทท่ี า่ เรอื ปากบารา ในพื้นท่ี ต.ปากน้ํา อ.ละง ู
จ.สตูล และบนเกาะตะรุเตา หมู่ 7 ต.เกาะสาหรา่ ย อ.เมอื ง จ.สตลู
การเดินทาง : ไปไดห้ ลายทาง ถ้าเริ่มจากหาดใหญ่ มีรถตู้ หาดใหญ่ - ปากบาราโดยตรง หรอื รถสาย
หาดใหญ่ - ละงู ลงที่อ�ำ เภอละงู แล้วน่งั สองแถวไปทา่ เรือปากบารา หรอื ถ้าเป็นรถทัวรจ์ ากกรุงเทพ –
สตูล ลงท่อี ำ�เภอละงู แล้วน่งั รถโดยสารสองแถวไปท่าเรอื ปากบารา
จากนั้นจึงลงเรือไปโดยเร่มิ จากเส้นทางเดินเรือคอื เสน้ ทางท่าเทยี บเรอื ปากบาราไปเกาะตะรุเตา
(ขึ้นเกาะบริเวณท่าเทียบเรือพันเตมะละกา ซึ่งเป็นที่ตั้งท่ีทำ�การอุทยานแห่งชาติบนเกาะ) ซึ่งสามารถ
ต่อเรือไปเกาะอาดงั - หลีเปะ๊ ได้
สอบถามรายละเอียดการเดนิ เรอื ได้ทีอ่ ทุ ยานแห่งชาติตะรุเตา จากที่ทำ�การท่ที ่าเรอื ปากบาราได้
140
กว่าจะมาเป็ นอทุ ยานแห่งชาติ
ในพทุ ธศกั ราช 2479 มกี ารประกาศพระราชบญั ญตั กิ กั กนั ผมู้ สี นั ดานเปน็ โจรผรู้ า้ ย กรมราชทณั ฑจ์ งึ หาสถานทท่ี ม่ี ภี มู ปิ ระเทศเหมาะสม
ซ่ึงในท่ีสุดได้เลือกเกาะตะรุเตาและจัดตั้งขึ้นเป็นทัณฑสถาน โดยเม่ือวันท่ี 13 กรกฎาคม 2480 กลุ่มบุกเบิกของกรมราชทัณฑ์ ภายใต้
การนำ�ของขนุ พิธานทัณฑทยั ไดข้ ้นึ ส�ำ รวจเกาะตะรุเตาบรเิ วณอา่ วตะโละอดุ ังและอ่าวตะโละวาว เพอื่ จัดทำ�เปน็ “ทัณฑสถาน” โดยฟนั ฝ่า
อปุ สรรคทางธรรมชาตนิ านปั การเปน็ เวลา 11 เดือน งานบุกเบกิ จงึ สิน้ สดุ ลง หลงั จากเดอื นมิถุนายน 2481 เกาะตะรเุ ตากเ็ ปน็ ทัณฑสถาน
และเปน็ นคิ มฝึกอาชีพของนกั โทษเด็ดขาด และนักโทษผู้มสี นั ดานเป็นผรู้ า้ ย ตอ่ มาได้มพี ระราชกฤษฎีกากำ�หนดเขตหวงหา้ มทด่ี ินบนเกาะน้ี
เพือ่ ประโยชน์แกก่ ารราชทณั ฑ์โดยประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 56 หนา้ 566 ลงวนั ที่ 29 พฤษภาคม 2482 ปลายปี พ.ศ.2482 รัฐบาล
ไดส้ ง่ นกั โทษการเมืองจากคดกี บฏบวรเดช (พ.ศ.2476) และกบฏนายสบิ (พ.ศ.2478) จำ�นวน 70 นาย มายังเกาะตะรเุ ตาซ่งึ ถกู กักบริเวณไว้
ทอ่ี ่าวตะโละอุดงั
คร้ันเม่ือมีสงครามสงครามเอเชียบูรพา (พ.ศ.2484-2488) เกาะตะรุเตาถูกตัดขาดออกจากแผ่นดินใหญ่ การเดินทางขนส่งลำ�บาก
จึงเกดิ ปญั หาขาดแคลนอาหาร ยา และเครอ่ื งใชต้ า่ ง ๆ ในตน้ ปี 2487 ผคู้ มุ นกั โทษไดท้ �ำ ตวั เปน็ โจรสลดั เขา้ ปลน้ สะดมเรอื บรรทกุ สนิ คา้ ชาวไทย
และต่างประเทศท่ีแล่นผ่านไปมาจนเป็นท่ีขยาดของเรือที่ผ่านไปมาโดยทั่วไป ในท่ีสุดรัฐบาลไทยและทหารอังกฤษจึงได้รวมกำ�ลังกัน
เข้าปราบโจรสลดั เกาะตะรุเตาจนราบคาบ เมอ่ื ปี พ.ศ.2489 และอกี สองปีต่อมากรมราชทัณฑ์ จึงได้ยกเลิกนิคมฝึกอาชพี ตะรุเตา
เนนิ ทรายหน้าเกาะอาดงั ปะการัง 7 สี ทีร่ อ่ งน�้ำ จาบงั
หาดหินงาม
141
หน้าเกาะอาดัง
ต่อมาในปี พ.ศ.2515 กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้เสนอให้ จดุ ชมววิ พนั เตมะละกา
จัดที่ดินบริเวณเกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะราวี และเกาะอื่น ๆ ในบริเวณเดียวกัน
เปน็ อทุ ยานแหง่ ชาติ ซง่ึ สภาบรหิ ารคณะปฏวิ ตั ไิ ดม้ มี ตเิ มอ่ื วนั ท่ี 19 ตลุ าคม 2515 เหน็ ชอบ
ในหลักการ ดงั น้ัน ในเดือนมีนาคม 2516 นายเต็ม สมิตินันท์ ผูเ้ ชีย่ วชาญทางพฤกษศาสตร์
ป่าไม้ นายไพโรจน์ สุวรรณกร หัวหน้ากองอุทยานแห่งชาติ และคณะ จึงได้เดินทาง
ไปสำ�รวจเกาะตะรุเตา เกาะอาดัง - ราวี และหมู่เกาะใกล้เคียง ปรากฏว่า เป็นหมู่เกาะ
ที่มีความสวยงาม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีสภาพธรรมชาติท่ีน่าสนใจ
เหมาะแก่การจัดต้ังเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล ซ่ึงคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มี
มตใิ นการประชมุ ครง้ั ท่ี 1/2516 เมอ่ื วนั ท่ี 1 สงิ หาคม 2516 ใหด้ �ำ เนนิ การจดั ตง้ั เกาะตะรเุ ตา
เปน็ อุทยานแห่งชาติโดยเร็ว
กองอุทยานแหง่ ชาติ กรมป่าไม้ ไดม้ คี �ำ สง่ั ท่ี 960/2516 ลงวันที่ 11 กันยายน 2516 ให้
นายบญุ เรอื ง สายศร นักวิชาการป่าไม้ตรี และนายปรชี า รตั นาภรณ์ นักวิชาการป่าไม้ตรี
ไปดำ�เนินการจัดตั้งเกาะดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ และกรมป่าไม้ได้ดำ�เนินการ
ขอถอนสภาพจากการเป็นเขตหวงห้ามเพ่ือการราชทัณฑ์ในบริเวณท่ีดินดังกล่าว จัดตั้ง
เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำ�หนดท่ีดินเกาะตะรุเตา เกาะอาดัง
เกาะราวี และเกาะอ่ืน ๆ ในทอ้ งทต่ี �ำ บลเกาะสาหรา่ ย อำ�เภอเมอื ง จังหวัดสตูล รวมเนือ้ ท่ี
ประมาณ 1,490 ตารางกโิ ลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติตะรเุ ตา โดยประกาศในราชกิจจา-
นุเบกษา เลม่ 91 ตอนที่ 68 ลงวนั ที่ 19 เมษายน 2517 นบั เป็นอทุ ยานแห่งชาติล�ำ ดับที่
8 ของประเทศไทย
142
อุทยานแห่งชาติตะรุเตาได้รับการประกาศจากประเทศสมาชิกอาเซียนให้เป็น ASEAN Heritage Parks หรือ อุทยานมรดก
แหง่ อาเซียน เมอื่ วันท่ี 29 พฤศจกิ ายน 2527 ในฐานะพืน้ ที่อนุรักษท์ ี่มคี วามส�ำ คัญสูงท่เี ปน็ ตัวแทนระบบนิเวศของภูมภิ าค
ค�ำ วา่ “ตะรุเตา” เปน็ คำ�ทีเ่ พ้ียนมาจากค�ำ ว่า “ตะโละเตรา” ในภาษามลายู แปลว่า มอี า่ วมาก ประกอบดว้ ยเกาะใหญน่ ้อย 51 เกาะ
รวมเน้อื ท่ีประมาณ 1,490 ตารางกิโลเมตร มีเกาะทีม่ ขี นาดใหญ่ 7 เกาะดว้ ยกัน คือ เกาะตะรเุ ตา เกาะอาดงั เกาะราวี เกาะหลเี ป๊ะ เกาะ
กลาง เกาะบาตวง และเกาะบิสสี โดยจัดแบง่ ออกเปน็ หมเู่ กาะใหญ่ ๆ ได้ 2 หมูเ่ กาะ คือ หมเู่ กาะตะรุเตา และหมเู่ กาะอาดงั - ราวี
โดย เกาะตะรุเตา เปน็ เกาะทใี่ หญ่ท่สี ดุ มเี นอ้ื ที่ 152.01 ตารางกิโลเมตร สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เปน็ ภเู ขามีความลาดชนั สูง ยอดเขาที่สูง
ที่สุด สงู จากระดบั ทะเลประมาณ 708 เมตร สว่ นชายฝงั่ ทางด้านตะวันออกของเกาะส่วนมากจะเปน็ หนา้ ผาสงู ชันสลับกบั อา่ วและหาดโคลน
ทางด้านตะวนั ตกจะมหี น้าผาแต่เฉพาะทางด้านเหนือบริเวณแหลมตันหยงมะระ (ด้านหัวเกาะ) มีที่ราบอยู่เป็นหย่อม ๆ ทางภูเขาหลังอ่าว
มีอา่ วทส่ี �ำ คัญได้แก่ อ่าวพนั เตมะละกา อ่าวสน อา่ วมะขาม อา่ วตะโละอดุ งั และอา่ วตะโละวาว อ่าวตา่ ง ๆ เหล่านมี้ คี ลองและลำ�ธารไหลผ่าน
ออกส่ทู ะเล
เกาะอาดัง อยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตกประมาณ 40 กิโลเมตร เกาะเหลา่ นี้รวมเปน็ กลุม่ เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะ
บาตวง และเกาะหลเี ปะ๊ เกาะอาดังมีเน้อื ที่ 29.78 ตารางกิโลเมตร สภาพพ้ืนทเี่ ป็นภเู ขาสูง ครอบคลุมเน้อื ที่เกือบทง้ั หมดของเกาะ ยอดเขา
สูงสุดมีความสูงจากระดับทะเล 703 เมตร บริเวณโดยรอบริมเกาะเป็นหน้าผาสูงชัน มีที่ราบเฉพาะบริเวณเหนือชายหาดต่าง ๆ เพียง
เลก็ นอ้ ยเทา่ นั้น
เกาะราวี มเี น้อื ที่ 28.44 ตารางกิโลเมตร สภาพพน้ื ท่ีเปน็ ภเู ขาสลับซับซ้อน มคี วามสูงเฉล่ียจากระดบั ทะเลประมาณ 460 เมตร พื้นที่
มีความลาดชนั สูง มีทรี่ าบน้อย
คุกแดง สมัยนกั โทษตะรุเตา นิทรรศการประวตั ศิ าสตรบ์ นเกาะตะรเุ ตา ศูนยบ์ ริการนักท่องเที่ยวบนเกาะอาดัง
เสน้ ทางศึกษาประวตั ิศาสตร์อา่ วตะโละ๊ วาว พกั แรมที่ป่าสนหนว่ ยฯ อาดงั
143
หนว่ ยฯ อา่ วสน หนา้ คลองลดู ู อนุเสาวรีย์ ร. 5 บนเกาะตะรุเตา
ฝูงหมปู่ า่ บนเกาะตะรุเตา หาดหนิ ท่อี า่ วสน ปากคลองลูดู
เกาะหลีเป๊ะ เป็นพื้นที่ท่ีมีชุมชนชาวเลอยู่อาศัยมาก่อน ไม่ถูกประกาศรวมในพ้ืนที่อุทยานแห่งชาติ แต่มีเพียงพื้นท่ีเล็ก ๆ บางส่วน
บนเกาะเท่านน้ั ท่ถี ูกรวมเข้าเปน็ พื้นที่อทุ ยานแห่งชาติ
สภาพป่าทั้งบนเกาะตะรุเตาและอาดัง จะเป็นป่าดงดิบช้ืนท่ีแน่นขนัด หนาทึบ เป็นลักษณะของป่าต้นน้ําโดยแท้ จึงมีลำ�ห้วยลำ�ธาร
บนเกาะตะรุเตาหลายสายและเกิดเป็นธารน้ําต่าง ๆ ไหลหล่อเล้ียงพ้ืนดินบนเกาะให้ชุ่มชื่น จึงเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า อีกทั้งชายหาด
ทสี่ วยงามกถ็ อื เปน็ ความหลากหลายทง้ั ทางบกและทางทะเลของอทุ ยานแหง่ ชาตติ ะรเุ ตา ในปี 2546 อาเซยี นจงึ ไดป้ ระกาศให้ อทุ ยานแหง่ ชาติ
ตะรเุ ตาเป็นหน่ึงใน “มรดกแห่งอาเซยี น” (ASEAN Heritage Parks)
ครั้น ในปี 2553 กรมทรัพยากรธรณีได้ลงมาสำ�รวจพื้นที่ในจังหวัดสตูล เพ่ิมเติมจากท่ีมีการค้นพบกรามช้างสเตโกดอน ซึ่งมีอายุ
เมื่อ 1.8 ล้านปีก่อน ท่ีอำ�เภอทุ่งหว้า จึงมีการสำ�รวจพ้ืนท่ีเพิ่มเติมเพ่ือจะจัดตั้งเป็นอุทยานธรณีสตูล (Satun Geopark) โดยได้สำ�รวจ
บนเกาะตะรเุ ตา พบวา่ ทท่ี างดา้ นใตข้ องอ่าวเมาะและ ซง่ึ เปน็ อ่าวขนาดความกวา้ งประมาณ 800 เมตร เป็นหาดทรายโคง้ เวา้ เข้าหาแผน่ ดิน
เล็กน้อย มีโขดหินทรายสีแดงและหาดทรายสีแดง พบซากดึกดำ�บรรพ์จำ�นวนมาก และพบโครงสร้างทางธรณีวิทยา ท้ังโครงสร้างปฐมภูมิ
และโครงสร้างทุติยภูมิท่ีมีคุณค่าทางวิชาการธรณีวิทยา พบซากดึกดำ�บรรพ์ของไทรโลไบต์หลายชนิด ซ่ึงมีอายุอยู่ในช่วงยุคแคมเบรียน
ตอนปลาย มีอายุราว 500 ล้านปี อีกทั้งเกาะไข่ หาดหินงาม ก็มีความโดดเด่นทางธรณี จึงถูกประกาศรวมเข้าเป็นพื้นท่ีอุทยานธรณีสตูล
ไปดว้ ย ซง่ึ ตอ่ มาอทุ ยานธรณสี ตลู ไดข้ น้ึ ทะเบยี นเปน็ UNESCO Global Geopark หรอื เปน็ อทุ ยานธรณโี ลกในปี 2561 อทุ ยานแหง่ ชาตติ ะรเุ ตา
จึงไมไ่ ดท้ รงคณุ ค่าแคเ่ รอื่ งชายทะเลและป่าเขาเท่านั้น หากแตค่ ุณคา่ ทางธรณกี ไ็ ม่ไดด้ อ้ ยไปกวา่ กนั
144
ไปจังหวัดตรัง
416
อำเภอละงู ไปอำ4เภ1อ3ค7วนกาหลง
5052 416
อำเภอทาแพ เขา จงั หวดั สตลู
ที่ทำการ
อทุ ยานแหงชาติ (ปากบารา) เขาจงั หวัดสตลู
ท่ที ำการอุทยานแหง ชาติ 4051
(อา วพนั เตมะละกา เกาะตะรุเตา)
นลำ้ ตดู กู
โจนรำ้ สตลกดั หนวยพ�ทักษ โนลำ้ ะตโปกะ หนว ยพ�ทกั ษ
ศูนยบรก� ารฯ อุทยานแหง ชาติ อทุ ยานแหงชาตทิ ่ี ตต.1
เกาะอาดัง ที่ ตต.4 (อา วสน)
(ตะโละวาว)
145
น้ำ�ตกโละโป๊ะ
ที่ต้ัง : อยู่บนเกาะตะรเุ ตา หมู่ 7 ต.เกาะสาหร่าย
อ.เมอื ง จ.สตลู
พิกัด : 0570066E 0733605N
การเขา้ ถงึ : ลำ�ห้วยท่ีไหลลงทะเล หน้าหน่วย
พิทักษ์อุทยานแห่งชาติท่ี ตต.4 (อ่าวสน) และ
เกิดเป็นชายหาดหินสีทอง ลำ�ห้วยสายน้ีเกิดจาก
ลำ�ธารสองสาย คือ ห้วยลูดูกับห้วยโละโป๊ะ ไหล
ลงมารวมกันก่อน แล้วจึงไหลลอดสะพานมาผ่าน
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติท่ี ตต.4 (อ่าวสน)
ก่อนจะออกทะเลไป ล�ำ หว้ ยทง้ั สองสายกเ็ ปน็ นา้ํ ตก
สองแหง่ โดยนํ้าตกโละโป๊ะ เร่ิมเดนิ เทา้ จากหนว่ ย
พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ไปตามลำ�ห้วยราว 1.5
กิโลเมตร เจอลำ�ห้วยที่มาบรรจบกัน ไปตามหว้ ย
ทางซา้ ย แลว้ เดนิ เลาะล�ำ หว้ ยขน้ึ เขาไปเรอ่ื ย ๆ ราว
3.5 กโิ ลเมตร ถึงนํา้ ตก
ลักษณะ : เป็นน้ําตกหน้าผาหิน ที่สูงราว 10
เมตร ตกลาดลงมาตามหน้าผาหินเป็นช้ันเดียว
ด้านลา่ งมแี อง่ เลก็ ๆ สภาพโดยรอบเปน็ ปา่ ดงดบิ ชน้ื
146
นำ�้ ตกลูดู
ท่ีตั้ง : บนเกาะตะรเุ ตา หมู่ 7 ต.เกาะสาหรา่ ย อ.เมือง จ.สตูล
พิกัด : 0570436E 0734781N
การเขา้ ถงึ : จากลำ�ห้วยทมี่ าบรรจบกัน ให้เดินไปตามลำ�ห้วยทางขวา บางชว่ งมเี ดนิ ขน้ึ เนนิ เขา สลับเลาะลำ�ธาร ราว 2 กิโลเมตร ถงึ น้าํ ตก
ลกั ษณะ : เป็นลักษณะแก่งนํ้าที่สายนํ้าไหลลดหล่ันกันลงมาในลำ�ห้วยที่เป็นหิน มีก้อนหินน้อยใหญ่ ที่นํ้าไหลตกลงมาตลอดทาง จนถึง
บริเวณที่เป็นน้ําตกชัดเจนที่เปน็ แกง่ หนิ ไหลลาดลงมาชว่ งสัน้ ๆ แลว้ จงึ ตกลงแอ่งนา้ํ กวา้ งเบ้ืองลา่ ง สูงในแนวดิ่งราว 2 - 3 เมตร
147
นำ้�ตกโจรสลัด
ที่ต้ัง : อย่บู นเกาะอาดงั หมู่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมอื ง จ.สตลู
พิกัด : 0533210E 0719926N
การเข้าถึง : ไปให้ถึงเกาะอาดัง แล้วไปเริ่มต้นที่ อาดังรีสอร์ท (เดิม) ซึ่งเป็นคนละอ่าวกับท่ีจุดบริการนักท่องเท่ียวบนเกาะอาดัง
ของหน่วยพทิ กั ษอ์ ทุ ยานแห่งชาตทิ ี่ ตต. 5 (แหลมสน - เกาะอาดัง) โดยเดินเทา้ ตามล�ำ ธารจากดา้ นหลังอาดังรสี อร์ท เดนิ ข้ึนเขาเลยี บลำ�ห้วย
ไปราว 2 กิโลเมตร หรือเดินตามแนวท่อนํ้าขึ้นไปจนถึงด้านบนที่ถูกกั้นทำ�เป็นฝายเพื่อกักนํ้าต่อลงมาใช้ในหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาต ิ
บนเกาะอาดังนนั่ เอง
148
ลกั ษณะ : เป็นนํ้าตกเล็ก ๆ ที่ สายนํ้าตกท่ีไหลลาดลงมาตามหน้าผาหินเป็นทางยาวราว 12 เมตร แต่นํ้าตกสูงในแนวด่ิงราว 7 เมตร
หน้านา้ํ ตกจะกวา้ งราว 10 เมตร มแี อง่ นา้ํ ดา้ นลา่ ง และยงั มแี กง่ นา้ํ เลก็ ๆ อกี 2 - 3 แหง่ ทางปลายนา้ํ นา้ํ จะไหลผา่ นรอ่ งหนิ กองหนิ เปน็ แอง่ นา้ํ
ให้เลน่ ไดห้ ลายแห่ง
หมายเหตุ : นอกจากนย้ี งั มนี า้ํ ตกธารรตั นาอกี แหง่ หนง่ึ ดว้ ย นา้ํ ตกของอทุ ยานแหง่ ชาตติ ะรเุ ตามนี า้ํ ตลอดปี โดยเฉพาะชว่ งฤดกู าลเปดิ ทอ่ งเทย่ี ว
อุทยานแหง่ ชาติใหม่ ๆ ในเดอื นตุลาคม แตเ่ น่อื งจากไมค่ อ่ ยมผี ู้เดินทางเข้าไปบอ่ ยนัก เสน้ ทางจงึ อาจไม่ชดั เจน ผูท้ ี่สนใจให้สอบถามขอ้ มลู
เพ่มิ เตมิ จากเจ้าหน้าทีอ่ ุทยานแหง่ ชาติก่อนการเดนิ ทางไปนาํ้ ตก
149
อุทยานแห่งชาติ
ทะเลบัน
พน้ื ท่ี 196 ตารางกิโลเมตร
ท่ีตั้งที่ทำ�การอทุ ยานแห่งชาติ : หมู่ 4 ถ.สมนั ตรฐั วถิ ี ต.วังประจนั อ.ควนโดน จ.สตูล
การเดินทาง : เรมิ่ จากตัวเมืองสตูลใช้ทางหลวงหมายเลข 406 ไปราว 19 กิโลเมตร แลว้ แยกขวา
เข้าทางหลวงหมายเลข 4184 ไปทางด่านวังประจนั เปน็ ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ก็จะถึง
ท่ที �ำ การอทุ ยานแห่งชาติทางซา้ ยมอื
กว่าจะมาเป็ นอุทยานแห่งชาติ
ในปี 2519 นายอารีย์ วงศ์อารยะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้เล็งเห็นความสำ�คัญของ
พ้ืนท่ีบริเวณนี้ จึงได้มีหนังสือท่ี สต. 09/13789 ลงวันท่ี 29 ตุลาคม 2519 เสนอกรมป่าไม้ให้
ด�ำ เนินการสำ�รวจและจัดตั้งพ้ืนทีด่ งั กล่าวเปน็ อุทยานแหง่ ชาต ิ กองอุทยานแห่งชาติจึงได้มีบันทึกที่
150