โครงการสัมมนา (ย่อย)
เรื่อง “ทกั ษาการบริหารจดั การธุรกจิ และการพัฒนาเครอื ข่ายทางธรุ กจิ ”
จดั ทำโดย
สาขาการจัดการ(เทียบโอน) ปี2
เสนอ
ดร.แคทรยี า พรอ้ มเพรียง
รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาสัมมนาทางการจดั การ
ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2565
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ น ตาก
คำนำ
โครงการสมั มนาเชงิ วชิ าการมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา ตากประจำปกี ารศึกษา ๒๕๖๕
หัวขอ้ “ทักษะการบรหิ ารจัดการธุรกิจและการพัฒนาเครือขา่ ยทางธรุ กจิ ” ในวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ณ
หอ้ งบรรยาย อาคารคณะบริหารธุรกจิ และศิลปศาสตร์ โดยมวี ัตถุประสงค์ดงั น้ี
๑. เพอื่ ใหศ้ ึกษาเรอื่ งการสรา้ งธรุ กิจ เพื่อการจดั การท่ดี ี
๒. เพ่อื ศึกษากระบวนการบรหิ ารธรุ กิจและการพัฒนาเครือขา่ ยทางธรุ กจิ
๓. เพื่อเป็นแนวทางในการทำธรุ กจิ หรอื ต่อยอดธรุ กิจ และเพิ่มทักษะทางดา้ นความคดิ ของผู้เขา้ รว่ มที่
สนใจการทำธุรกจิ
๔. เพื่อไดท้ ราบถึงความสำคญั ของการบริหาร พฒั นาเทคนิคและกลยทุ ธใ์ นการการดำเนินธรุ กิจของ
ตนเองใหป้ ระสบความสำเร็จ
๕. เพ่อื ใหท้ ราบถึงประโยชนแ์ ละการทำงานของเครือข่ายธรุ กิจ และนําไปปรับใช้ในชีวิตการทำงานได้
บดั น้ีคณะผูจ้ ัดทำโครงการ ได้จดั ทำเลม่ รายงานผลการดำเนินโครงการสมั มนาเชงิ วิชาการเรยี บรอ้ ยแล้ว
และหวังเป็นอยา่ งยงิ่ วา่ รายงานสรุปผลการดำเนนิ โครงการสมั มนาฯ จะมีประโยชนต์ ่อผู้ท่ีสนใจและผูจ้ ัดทำต้อง
ขอขอบคุณอาจารย์ทป่ี รึกษาและหวงั อยา่ งยิง่ วา่ โครงการฉบับนีจ้ ะใหค้ วามรู้ และเปน็ ประโยชน์แก่ผูอ้ า่ นทกุ ๆท่าน
หากมขี ้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทำขอรับไว้ด้วยความขอบพระคณุ ย่ิง
นกั ศึกษา สาขาวชิ าการจัดการ
คณะผจู้ ัดทำ
สารบัญ หนา้
เรอื่ ง 1
2
คำนำ 6
สารบญั 9
สารบญั ตาราง 17
บทสรปุ การจัดโครงการ 24
โครงการสัมมนา 30
เอกสารประกอบการสมั มนา 32
หนงั สือเชญิ ผเู้ ข้าร่วมสัมมนา 33
การทำงานของแตล่ ะฝา่ ย(PDCA) 34
รายรบั รายจ่ายตลอดท้ังโครงการ 38
หนังสือเชิญวิทยากร 39
กำหนดการ 42
แผนผงั ห้องประชมุ 47
คำกลา่ วรายงาน
หนงั สือขอบคณุ วิทยากร 49
แบบประเมินผลการสมั มนา
เอกสารสรุปผลการสมั มนา 70
ภาคผนวก ก. ประวัติวทิ ยากร 80
-ประวตั ิวทิ ยากร
ภาคผนวก ข. สไลด์ประกอบการบรรยายของวทิ ยากร
-เอกสารประกอบการบรรยาย (วทิ ยากร)
ภาคผนวก ค. ภาพประกอบวันสมั มนา
ภาคผนวก ง. เอกสารอ่ืนๆ เพิ่มเตมิ
-รายงานการประชุม
-รายชอื่ ผเู้ ข้าร่วมประชมุ
-แบบตอบรบั การเปน็ วทิ ยากรบรรยาย
-บนั ทึกข้อความขอใช้ห้องประชมุ
สารบญั ตาราง หนา้
ตาราง 42
42
1 แสดงค่ารอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถามในด้านเพศ 42
2 แสดงค่ารอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นสาขาวิชา 43
3 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามในดา้ นอายุ 43
4 แสดงคา่ รอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านช้ันปี 43
5 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามในดา้ นหลักสตู ร 45
6 แสดงคา่ รอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นสถานภาพ 46
7 แสดงผลการคำนวณคา่ เฉล่ียของความพึงพอใจของนักศึกษา
8 ข้อเสนอแนะและความพงึ พอใจของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ
1
บทสรุปการจัดโครงการ
การสมั มนาเรื่อง “ทกั ษะการบริหารจัดการธุรกิจและการพัฒนาเครือข่ายทางธรุ กจิ ”ซึ่งจัดโดยคณะ
นกั ศึกษา ระดับชัน้ ปรญิ ญาตรีเทยี บโอน คณะบริหารธุรกิจและศิลปะศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
ล้านนา ตาก เปน็ เวลา 13:00 – 16:00 น. โดยภาพรวม การจดั สัมมนาครั้งนอ้ี ยูใ่ นเกณฑ์มาก และหาก
พจิ ารณาในรายละเอียดจะพบว่าเรอ่ื งทจ่ี ัดอยใู่ นเกณฑ์มาก ได้แก่ ด้านการอบรมโครงการ ดา้ นสถานที่/อาหาร
ดา้ นการอำนวยความสะดวกของผ้จู ัดสมั มนา ดา้ นวิทยากร และ ดา้ นความรู้และความเข้าใจท่ไี ด้รับจากการ
ฝกึ อบรม ไดบ้ รรลุวตั ถุประสงค์หัวขอ้ ดงั ต่อไปนี้คือ เพื่อใหศ้ ึกษาเรื่องการสรา้ งธรุ กจิ เพ่ือการจดั การท่ีดี เพ่ือ
การศึกษากระบวนการบริหารธุรกจิ และการพฒั นาเครือข่ายทางธรุ กจิ เพ่ือเป็นแนวทางในการทำธรุ กจิ หรือต่อ
ยอดธุรกิจ และเพ่ิมทกั ษะทางดา้ นความคิดของผู้เข้ารว่ มท่สี นใจการทำธรุ กจิ เพอ่ื ทราบถึงความสำคญั ของการ
บรหิ าร พฒั นาเทคนิคและกลยุทธ์ในการดำเนินธรุ กิจของตนเองให้ประสบความสำเรจ็ และเพ่ือให้ทราบถงึ
ประโยชน์และการทำงานของเครอื ข่ายธรุ กจิ และนำไปปรับใช้ในชวี ติ การทำงานได้
2
โครงการสมั มนาเชิงวิชาการ
เร่อื ง “ทักษะการบริหารจดั การธรุ กจิ และการพัฒนาเครอื ขา่ ยทางธุรกจิ ”
ณ แผนกสาขาจดั การธุรกิจ คณะบริหารธรุ กจิ และศิลปศาสตร์
1. ชอ่ื โครงการ
ทกั ษะการบรหิ ารจดั การธรุ กจิ และการพัฒนาเครือขา่ ยทางธุรกิจ
2. หลกั การและเหตผุ ล
การสร้างและพัฒนาเครือยข่ายทางธุรกิจเป็นเทคนิคในการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดขององค์กรขนาด
กลางและขนาดย่อม เพื่อให้ได้ประโยชน์เทียบเท่าธุรกิจขนาดใหญ่ ในขณะที่ยังคงรักษาจุดเด่นของกิจการไว้
สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถดำเนินธุรกิจเพื่อความอยู่รอด และ
สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันได้ นน่ั คือ สามารถเปลยี่ นจากธุรกิจลอกเลียนแบบเปน็ ธุรกิจที่มีความชำนาญ
พเิ ศษ และมีความคดิ ริเร่ิม เปล่ียนจากธรุ กิจในครอบครวั ไปสู่ธุรกิจท่ีบรหิ ารอย่างมืออาชีพจากการเป็นธุรกิจที่อยู่
โดดเดี่ยวไปส่กู ารรว่ มเครือข่ายธรุ กจิ ในเชิงกลยุทธ์ ( Strategic business alliances)
การบริหารและการจัดการเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เนื่องจากการบริหารจัดการเป็นความรู้ที่สามารถ
ถ่ายทอด มีหลักเกณฑ์และทฤษฎีที่เกิดจากการค้นคว้าเชิงวิทยาศาสตร์ สามารถพิสูจน์ความจริงได้ ตลอดจน
ไดร้ บั การศกึ ษาค้นคว้ามากนั อยา่ งต่อเนื่อง เป็นทยี่ อมรับกนั ทั่วไปว่าการจดั การเป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง การบริหาร
ราชการและการบริหารธุรกิจตลอดจนการจัดการทุกสาขา ในทางปฏิบัตินั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถ
ประสบการณ์และทักษะของผู้บริหารแต่ละคนที่จะทำงานให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งหมายถึงการประยุกต์เอาความรู้
หลักการ และทฤษฎไี ปส่กู ารปฏบิ ัติให้เหมาะสมกับสถานการณ์และส่งิ แวดล้อม เพราะการจดั การในองค์กรแต่ละ
องค์กรมปี จั จัยท่ีแตกต่างกันดังนน้ั ศาสตร์หรือความรู้ในด้านการจดั การเพยี งอย่างเดียวจึงไม่สามารถจะนำมาใช้ให้
เกิดประโยชนก์ ับองค์กรได้ จำเป็นต้องประยกุ ต์ความรู้ให้เครือข่ายมาใช้ให้เหมาะสมและสอดคลอ้ งกับองค์กรแต่
ละองค์กร ผู้บริหารที่ดีก็ควรหมั่นศึกษาหาความรู้ในด้านการจัดการเพิ่มเติมอยู่เสมอ ติดตามผลการวิจัย
สถานการณ์ที่เปล่ียนแปลง ทฤษฎีทางวิชาการและเทคนิคการจัดการสมัยใหม่ ตลอดจนใช้ความพยายามของตน
มาปรับปรุงบุคลิกของตนให้เหมาะสมต่อการเป็นผูน้ ำองค์การด้วยดงั นัน้ การบริหารจึงเป็นกระบวนการทีม่ ีความ
สลับซับซ้อนและต้องการความช่วยเหลือจากบุคคลหลายฝ่ายเป็นการระดมทรัพยากรที่สำคัญรวมถึงปัจจัยที่มี
อทิ ธพิ ลต่อการบรหิ ารจดั การองคก์ าร เพ่ือดำเนินงานให้บรรลเุ ป้าหมายอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผล
จากที่กล่าวมา ผู้จัดทำโครงการสัมมนา ได้เล็งเห็นความสำคัญของการจัดสัมมนาในหัวข้อ “ทักษะการ
บริหารจัดการธุรกิจ และการพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจ” ในรายวิชา สัมมนาทางการจัดการ (รหัสวิชา
BBABA214) ในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2565 วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2565 เวลา 13.00-
16.00น. ณ ห้องบรรยายรวม ตึกคณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รู้แจ้ง รู้จัก
ประโยชน์ มองทุกอย่างเป็นการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความรู้เก่ียวกับทกั ษะการบริหารจัดการธุรกิจ และการพัฒนา
เครือข่ายทางธรุ กิจไปประยกุ ต์ใชใ้ นกิจการ รวมท้ังใชป้ รบั ปรุงและพัฒนาตนเอง และเพ่ือใช้เป็นแนวทางในการทำ
ธุรกิจหรือต่อยอดธุรกิจได้ในอนาคต และเป็นการเพิ่มทักษะทางด้านความคิดของผูเ้ ข้าร่วมสมั มนาท่ีสนใจในการ
ทำธุรกิจ ได้ทราบถึงความสำคัญของการบริหาร พัฒนา และสามารถจัดการความรู้ ระบบการบริหารจัดการ
เครอื ข่ายทางธุรกจิ ทีส่ ง่ ผลตอ่ ศกั ยภาพการสร้างเครือขา่ ย
3
3. วตั ถปุ ระสงค์
1. เพือ่ ให้ศกึ ษาเร่อื งการสร้างธรุ กิจ เพ่ือการจดั การทด่ี ี
2. เพ่อื ศกึ ษากระบวนการบรหิ ารธุรกิจและการพฒั นาเครือข่ายทางธุรกจิ
3. เพอื่ เปน็ แนวทางในการทําธุรกิจหรอื ต่อยอดธุรกจิ
และเพิ่มทกั ษะทางดา้ นความคดิ ของผเู้ ข้ารว่ มทสี่ นใจการทําธุรกิจ
4. เพอ่ื ได้ทราบถงึ ความสาํ คัญของการบรหิ าร พัฒนาเทคนคิ และกลยทุ ธ์ในการการดำเนนิ ธุรกิจของ
ตนเองใหป้ ระสบความสาํ เรจ็
5. เพือ่ ให้ทราบถงึ ประโยชน์และการทํางานของเครือขา่ ยธรุ กิจ และนําไปปรบั ใช้ในชีวติ การทาํ งานได้
4. ระยะเวลา/สถานท่ดี าํ เนนิ การ
ในวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2656 ณ ห้องบรรยายรวม ตึกคณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์
เวลา 13.00 - 16.00 น.
5. ขน้ั ตอนการดำเนนิ การ
ชนั้ เตรยี มการ
1. คดั เลอื กประธานคณะกรรมการและมอบหมายหน้าทีต่ ่าง ๆ
2. ประชมุ คณะกรรมการเสนอชอ่ื เรื่องสัมมนา
3. วางแผนการดาํ เนินงานจัดสัมมนา
ชั้นปฏบิ ัตกิ ารมขี นั้ ตอนการต่างในการมดี งั น้ี
1. ร่างโครงการสมั มนา
2. เชิญวทิ ยากร และผดู้ ําเนนิ รายการ
3. จัดทาํ เอกสารประกอบการสมั มนา
4. จัดหาเอกสารเพ่อื การลงทะเบยี น
5. จดั สถานทสี่ ำหรบั การสมั มนา และตรวจสอบความเรียบร้อย
6. ประชาสัมพันธ์งานสมั มนา
7. ดำเนินการจัดงานสัมมนา
8. ประเมนิ ผลการดาํ เนนิ งาน
9. จดั ทําสรุปผลการสมั มนา รวมท้ังผลการประเมินการดาํ เนินงาน เข้ารปู เลม่
10.รายงานผลการดำเนนิ งานรวมทงั้ เสนอแนะแนวทางแก้ไขเพ่ือพฒั นาในโอกาสต่อไป
6. ผู้เข้ารว่ มโครงการ จํานวน 55 คน
บธ.บ.บรหิ ารธุรกจิ – การจัดการธรุ กิจ หลกั สูตร ปวส. จำนวน 11 คน
บธ.บ.บรหิ ารธรุ กิจ – การจัดการธุรกจิ หลักสูตร ปรญิ ญาตรี 4 ปี (2 ห้อง) จาํ นวน 33 คน
บธ.บ.บริหารธรุ กิจ – การจัดการธรุ กิจ หลักสูตรเทียบโอน ปรญิ ญาตรี ปี 1 จํานวน 11 คน
7. ตัวช้วี ดั
1. ผู้เขา้ รวมสมั มนาได้รบั ความรใู้ นด้านทักษะการบริหารจัดการธรุ กจิ และการพัฒนาเครอื ขา่ ยทางธุรกิจ
อย่ใู นระดบั รอ้ ยละ 70 %
2. ผู้เข้ารวมสัมมนาสามารถนาํ ความรู้ไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจาํ วนั ได้
4
8. งบการดำเนนิ งาน
โครงการฝึกอบรม การสร้างแบรนดแ์ ละการพัฒนาเครือข่ายทางธรุ กิจตั้งไว้ 3,775 บาท (สี่พันเจด็ ร้อย
ยส่ี ิบห้าบาทถว้ น) โดยมีรายละเอียด คา่ ใชจ้ ่ายในการฝึกอบรม ดังนี้
จาํ นวนเงนิ (บาท)
คา่ ตอบแทนวิทยากร ( 1 คน X 1,000 บาท) 1,000
ค่าอาหารวา่ งจาํ นวน 1 ม้อื (60 ชุด X 25 บาท) 1,500
ค่าเครื่องดื่ม (กาแฟ, นํา้ เปลา่ ) 150
ค่าใช้จา่ ยเบ็ดเตล็ด 1,125
รวมทั้งสิน้ 3,775
9. วิธีการสมั มนา
การบรรยายเชงิ วิชาการ และเปิดใหผ้ ู้เข้าร่วมสมั มนาถามคำถามทม่ี ีขอ้ สงสัย
10. ผลคาดวา่ ที่จะไดร้ บั
1. เพื่อให้ไดร้ ับความรู้เรอ่ื งการสร้างธุรกจิ เพื่อการจดั การที่ดี
2. เพอื่ ให้ไดร้ บั ความรูก้ ระบวนการบริหารธรุ กจิ และการพฒั นาเครือขา่ ยทางธรุ กิจ
3. เพือ่ เปน็ แนวทางในการทําธุรกจิ หรอื ตอ่ ยอดธรุ กิจ
และเพิ่มทกั ษะทางดา้ นความคิดของผู้เขา้ รว่ มท่สี นใจการทําธรุ กจิ
4. เพอ่ื ได้ทราบถึงความสาํ คัญของการบรหิ าร พัฒนาเทคนิคและกลยุทธใ์ นการการดำเนนิ ธุรกจิ ของ
ตนเองให้ประสบความสําเร็จ
5. เพอ่ื ให้ทราบถงึ ประโยชนแ์ ละการทาํ งานของเครือขา่ ยธุรกจิ และนาํ ไปปรับใชใ้ นชวี ติ การทาํ งานได้
11. ผรู้ ับผิดชอบโครงการ
คณะกรรมการผู้จัดทําโครงการสัมมนา
12. การประเมนิ ผลการดำเนินงาน
ประเมนิ ผลโดยใชแ้ บบสอบถามโดยให้ผ้เู ขา้ ร่วมการสมั มนาเป็นผู้กรอกรายละเอียด
5
กำหนดการ
เรือ่ ง “ทกั ษะการบริหารจดั การธุรกิจ และการพฒั นาเครอื ข่ายทางธุรกจิ ”
ประจำปี 2565
ณ แผนกสาขาจัดการธุรกิจ คณะบริหารธรุ กจิ และศิลปศาสตร์
ในวนั จนั ทร์ ท่ี 26 เดอื นธันวาคม พ.ศ.2565 เวลา 13.00 - 16.00 น.
วนั /เวลา กจิ กรรม
13.00 น. - 13.15 น. ลงทะเบยี นและรับเอกสาร
13.15 น. - 13.30 น. พิธเี ปิดสัมมนา
13.30 น .- 14.30 น. บรรยายโดย นายเอกลกั ษณ์ สมุ นพนั ธุ์
- หัวขอ้ “ทักษะการบริหารจัดการธรุ กจิ และการพฒั นาเครอื ข่ายทางธรุ กจิ ”
14.30 น. - 14.40 น. พักเบรก ทานอาหารว่าง
14.40 น. - 15.30 น. บรรยายตอ่ โดย นายเอกลักษณ์ สมุ นพันธุ์
15.30 น. - 16.00 น. สรุปผลและพธิ กี รปิดโครงการสัมมนาทางวิชาการ
6
ทกั ษะการบรกิ ารการจัดการธุรกิจ
นักผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพจะต้องเป็นทัง้ ผู้บริหารและผู้นำเปน็ “ผู้นำผู้บริหาร” ผู้นำสามารถสรา้ งคน
ได้ พัฒนาได้ ความสามารถในการนำท่ดี ีเกิดจากหลายฐาน เช่น ความเชยี่ วชาญทางเทคนคิ ความสามารถในการ
ทำให้งานสำเร็จการมีคุณสมบัติที่คนเคารพนับถือได้ ความสามารถในการฝึกและพัฒนาผู้อื่นซึ่ง ภาวะผู้นำ คือ
ความสามารถใน การทำให้ผู้อื่นทำในสิ่งที่ต้องการโดยที่เขาเองก็อยากจะทำ ซึ่งพฤติกรรมของนักบริหารมี 10
ประการ คอื
1. นักบริหารจะตอ้ งมั่นคงยตุ ิธรรมโดยไม่ลืมเร่ืองสถานการณแ์ ละรจู้ ักยืดหยุ่น
2. นกั บรหิ ารจะตอ้ งใช้ประสบการณ์และความสามารถของผอู้ ่นื ใหเ้ ปน็ ประโยชน์
3. นักบริหารตอ้ งไมอ่ วดอำนาจ เพราะคนทำงานกบั ทา่ นไมใ่ ช่เขามาทำงานใหท้ า่ น
4. นกั บริหาร ตอ้ งยอมรับขอ้ ผดิ พลาดของตนเอง ไม่โยนความผดิ ให้คนอื่น
5. นักบริหารต้องตรงไปตรงมา แม้บางครั้งจะต้องทนต่อความเจ็บปวดก็ตามต้องบอกถูกผิดยกย่อง
สรรเสริญเปน็
6. นักบริหารต้องมีหลักมนุษย์สัมพันธ์การให้ความสำคัญกับสังคมมีการสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง
ผู้บริหารและผู้ใตบ้ งั คบั บัญชา
7. นักบรหิ ารต้องริเรม่ิ ทำเอง หดั แปลงความคิดออกมาเป็น การกระทำให้ผอู้ ่นื ชืน่ ชอบยอมรบั ใหไ้ ด้
8. นกั บรหิ ารตอ้ งไม่กลัวที่จะฝกึ ผู้ช่วยไวแ้ ทนตำแหนง่ เม่อื ทา่ นเลอ่ื นสงู ข้นึ ไป
9. บอกให้เขารู้ ไมเ่ กบ็ เร่ืองเงียบ ให้เพื่อนรว่ มงานรู้วา่ อะไร เป็นอะไรและใหค้ วามม่นั ใจแกเ่ พื่อนรว่ มงาน
10.นักบริหารต้องอา่ นเรยี นเสมอๆ ตอ้ งใช้ ความรเู้ ทคนคิ แนวคดิ ใหม่ๆ เพอื่ ความกา้ วหนา้ ยง่ิ ๆ ขึ้นไป สิ่ง
ท่สี ำคัญทักษะการบริหารต้องการเปล่ียนแปลงทางสังคมให้เกิดข้ึนโดยหลักการที่จะให้ให้เกิดการเปล่ียนแปลงนั้น
จะเห็นได้จากกระบวนการทางแนวความคิดของ นักบริหารเองต้องเปลี่ยนไป กล่าวคือ นักบริหารต้องมี การ
บริหารเป็นการทำงานกับคนและโดยอาศัยคนหมายความว่า การบริหารเป็นกระบวนการทางสังคม คือ อาศัย
กลมุ่ ท่ี รวมกันทำงานเพอ่ื บรรลุเปา้ หมายขององค์การ ผบู้ รหิ ารจะต้องรับผิดชอบใหส้ ำเร็จโดยอาศัย ความร่วมมือ
ของบุคคลอื่น มิฉะนั้น จะทำงานไม่สำเร็จ สาระสำคัญของการบริหารในข้อนี้ แสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารที่ประสบ
ความสำเร็จจะต้องมีสิ่งต่างๆเหล่านี้ คือ มีความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลที่ดี มีความเป็นผู้นำและสามารถทำงาน
เป็นทีมได้ มีความสามารถในการ ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้หากมีการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์
และมีความสามารถทำให้งานบรรลุเป้าหมายได้ การบริหารทำใหง้ านบรรลเุ ปา้ หมายของ องค์การ เปา้ หมายหรือ
วัตถุประสงค์ขององค์การต้องอาศัยความร่วมมือกันของคนทุกคน จึง จะทำให้สำเร็จลงได้ เป้าหมายเป็นสิ่งที่ทำ
ให้ผู้บริหารจะต้องทำให้บรรลุได้นั้นจะต้องมี ลักษณะสำคัญ 3 ประการ คือ เป้าหมายต้องสูงแล้วสามารถทำให้
สำเร็จ เป้าหมายสูงเกินไปก็ ทำใหส้ ำเร็จไม่ได้ เปา้ หมายต่างไปก็ไม่ท้าทายไม่มีคุณค่า ประการท่ีสอง การจะไปถึง
เป้าหมาย จะต้องมีระบบงานที่ดีมีแผนงานที่มีประสิทธิภาพ ประการสุดท้าย จะต้องระบุเวลาที่จะทำให้ บรรลุ
เป้าหมายนั้น การบริหารเป็นการสมดุลระหว่างประสิทธิผลและประสิทธิภาพ คาดว่าประสิทธิผล หมายความว่า
ทำงานบรรลุผลสำเร็จตามที่กำหนด ส่วนคาดว่า ประสิทธิภาพ หมายความว่า ทำงานโดยใช้ทรัพยากรอย่าง
ประหยัดหรือเสียค่าใช้จ่ายต่ำสุด การทำงานให้ สำเร็จอยา่ งเดียวไม่พอแต่จะตอ้ งคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่ประหยัดอกี
ด้วย การทำใหไ้ ด้ทงั้ สอง อยา่ งคอื งานบรรลุผลตามที่ต้องการและการใชท้ รัพยากรต่ำสุดเปน็ ความสมดุลระหว่าง
ประสิทธิผลและประสิทธิภาพ การบริหารเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นที่รู้
กนั โดยทวั่ ไปว่าเราอาศยั ในโลกที่มีทรัพยากรจำกัดการใชท้ รพั ยากร ต่างๆจึงตอ้ งตระหนัก 2 ข้อใหญๆ่ คือ เมื่อใช้
ทรัพยากรใดไปแล้วทรัพยากรนั้นจะหมดสิ้นไป ไม่สามารถกลับคืนมาใหม่ได้ และจะต้องเลือกใช้ทรัพยากรให้
เหมาะสมอย่าใหเ้ กดิ สิน้ เปลือง โดยเปล่าประโยชน์
ดังนั้น การบริหารกับเศรษฐศาสตร์จึงมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด เศรษฐศาสตร์เป็นการศึกษาถึงการ
กระจายการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอย่างไร ส่วน ผู้บริหารในองค์การจะต้องผลิตสินค้าและบริหารให้เกิด
ประสิทธิภาพและประสิทธิผล 5. การบริหารจะต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เปล่ยี นแปลงไป ผู้บริหารท่ีประสบ
7
ความสำเร็จ จะต้องสามารถคาดคะเนเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง และสามารถปรับตัวเองให้เข้ากับ การ
เปลี่ยนแปลงนั้น ทั้งนี้การบริหารเป็นกระบวนการเชื่อมการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรให้เกิดขึ้น ดังนั้น วิธีการ
ดำเนนิ การจึงมีขนั้ ตอนที่การสรา้ งความเปลีย่ นแปลง กล่าวคอื การบริหาร เปน็ กระบวนการของการวางแผนการ
จัดองค์การและสั่งการควบคมุ กำกับความพยายามของสมาชิกขององค์การและใช้ทรัพยากรอ่ืนๆเพื่อความสำเร็จ
ในเปา้ หมายขององคก์ ารท่ีกำหนดไว้ ลักษณะท่ีสำคญั ของการบริหาร
สรุปได้ว่า “การบริหาร” และ “การจัดการ” นั้นบางครั้งอาจให้แทนกันได้เนื่องจากเปน็ กิจกรรมที่หวัง
ผลขั้นสุดท้ายอย่างเดียวกัน คือ ความสำเร็จของงาน “การบริหาร” ใช้มากใน การบริหารรัฐกิจ ส่วน “การ
จดั การ” ใช้มากในทางธุรกิจ หรอื อาจกล่าวว่า “การบรหิ าร” มงุ่ เนน้ ท่กี ารกำหนดนโยบายและการวางแผน ส่วน
“การจัดการ” เป็นการนำเอานโยบาย และแผนไปดำเนินให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้สิ่งที่สร้างความ
เปลี่ยนแปลงของการบริหาร คือ การขับเคลื่อนงานภายในองค์กรให้เดินไปข้างหน้าโดยอาศัยผู้อื่ นด้วยการเป็น
ผู้นำ(Leadership) การแนะแนว (Guiding) และการกระตุ้น (Motivative) ความเพียรของผู้อื่นสู่เป้าหมายของ
องค์กร และยังรวมไปถึงการให้กำลังใจ (Inspiring) การสื่อสาร (Communication) การวางแผน (Planning)
และการจัดการ (Management) ทั้งนี้นักบริหารต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญประกอบด้วย นักบริหารจะต้อง
ม่ันคง ยตุ ิธรรม โดยไม่ลมื เร่ืองสถานการณ์และรู้จักยืดหยุ่น นกั บรหิ ารจะต้องใช้ประสบการณ์และ ความสามารถ
ของผู้อื่นให้เป็นประโยชน์ นักบริหารต้องไม่อวดอำนาจ เพราะคนทำงานกับท่านไม่ใช่เขามาทำงานให้ท่านนัก
บริหารต้องยอมรบั ข้อผิดพลาดของตนเองไม่โยนความผดิ ใหค้ นอื่น นักบริหารต้องตรงไปตรงมาแม้บางคร้ังจะต้อง
ทนต่อความเจ็บปวดก็ตาม ต้องบอกถูกผิดยกย่องสรรเสริญเป็น นักบริหารต้องมีหลักมนุษย์สัมพันธ์การให้
ความสำคัญกบั สงั คมมีการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารและผู้ใต้บังคับบญั ชา นับริหารตอ้ งริเร่ิมทำเองหดั
แปลงความคิดออกมาเป็นการกระทำให้ผู้อื่นชื่นชอบยอมรับให้ได้ นักบริหารต้องไม่กลัวที่จะฝึกผู้ช่วยไว้แทน
ตำแหน่งเมื่อท่านเลื่อนสูงขึ้นไป บอกให้เขารู้ไม่เก็บเรื่องเงียบ ให้เพื่อนร่วมงานรู้ว่าอะไรเป็นอะไรและให้ความ
มั่นใจแก่เพือ่ นร่วมงาน นักบรหิ ารต้องอา่ นเรียนเสมอๆ ต้องใชค้ วามรเู้ ทคนิคแนวคดิ ใหม่ๆ เพอ่ื ความก้าวหน้าย่ิงๆ
ขึ้นไป การบริหารเป็นการทำงานกับคนและโดยอาศัยคน การบริหารทำให้งานบรรลุเป้าหมายขององค์การ การ
บริหารเป็นการสมดุลระหว่างประสิทธิผลและประสิทธิภาพ การบริหารเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อยา่ งจำกดั ให้
เกิดประโยชน์สูงสุด การบริหารจะต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป นำไปสู่การวางรากฐานใน
กระบวนการคิดความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการคิดวิเคราะห์ การฝึกกระบวนการคิดวิเคราะห์ให้เกิดขึ้น ต้องอาศัย
ความรู้เกี่ยวกับสอนวิธีคิด มีการวางแผนเป็นกระบวนการทางแนวความคิด เมื่อสามารถปรับการฝึกคิดรวมยอด
จะส่งผลต่อกระบวนการคิดวิเคราะห์ ซึ่งได้แก่ การระบุปัญหา การระบุสถานที่เกิดปัญหา การระบุเวลาที่
เหตุการณ์ปัญหาเกิดขึ้น การระบุหมดเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา การระบุผู้เกี่ยวข้อง การระบุรายละเอียดของสิ่งที่
เกิดขึ้น เกง่ คน เกง่ งาน ซ่งึ บรรดาหวั หนา้ หรือผู้นำในทุกวงการควรต้องมคี วามสามารถใน 2 ลักษณะ ควบคู่กันไป
คำว่าเก่งงาน หมายถึง การมีความรู้ความสามารถในงานที่ทำส่วนเก่งคน หมายถึง การใช้มนุษย์สัมพันธ์กับ
ผู้ร่วมงานทุกระดับเห็นอกเห็นใจคนด้อยกว่า อ่อนแอกว่า โดยให้ความเมตตาต่อเขาช่วยเหลือเขาเป็นการสร้าง
มนุษย์สัมพันธ์เพื่อสร้างการทำงานที่มีประสิทธภิ าพและราบรื่น ทักษะการสื่อสารแบบกัลยาณสนทนา หรือกลุ่ม
บคุ คลที่ร่วมสนทนามโี อกาส พิจารณาใคร่ครวญ ประสบการณ์และส่ิงต่างๆ ตามความเปน็ จริงด้วยความเป็นมิตร
เพื่อ ก่อให้เกิดความสนทิ สนม เกดิ ความคดิ ความเข้าใจที่ถูกตอ้ งดงี าม
8
การพฒั นาเครือขา่ ยธุรกจิ
เครือข่าย (Network) คือ การเชื่อมโยงของกลุ่มของคนหรือกลุ่มองค์กรที่สมัครใจ ที่จะแลกเปลี่ยน
ข่าวสารร่วมกัน หรือทำกิจกรรมร่วมกัน โดยมีการจัดระเบียบโครงสร้างของคนในเครือข่ายด้วยความเป็นอิสระ
เท่าเทียมกนั ภายใต้พน้ื ฐานของความเคารพสิทธิ เชือ่ ถอื เอื้ออาทร ซึ่งกันและกัน
ประเดน็ สำคัญของนิยามขา้ งต้น คอื
ความสัมพนั ธ์ของสมาชกิ ในเครอื ข่ายตอ้ งเป็นไปโดยสมัครใจ
กจิ กรรมท่ที ำในเครือข่ายตอ้ งมีลักษณะเทา่ เทยี มหรอื แลกเปลย่ี นซ่งึ กันและกัน
การเป็นสมาชิก เครือข่ายต้องไม่มีผลกระทบต่อความเป็นอิสระหรือความเป็นตัวของตัวเองของคนหรือองค์กร
น้ันๆ
การเชื่อมโยงในลักษณะของเครือข่าย ไม่ได้หมายถึงการจัดการให้คนมานั่ง “รวมกัน” เพื่อพูดคุย
สนทนากันเฉยๆโดยไม่ได้ “ร่วมกัน” ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด เปรียบเหมือนการเอาก้อนอิฐมากองรวมกัน ย่อมไม่เกิด
ประโยชน์แต่อย่างใด การเชื่อมโยงเข้าหากันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเอาอิฐแต่ละก้อนมาก่อกันเป็นกำแพงโดยการ
ประสานอิฐแต่ละก้อนเข้ากันอย่างเป็นระบบ... และก็ไม่ใช่เป็นแค่การรวมกลุ่มของสมาชิกทีม่ ีความสนใจรว่ มกนั
เพียงเพื่อพบปะสังสรรค์แลกเปลีย่ นความคิดเห็นกนั เท่านัน้ แต่จะต้องพัฒนาไปสูร่ ะดบั ของการลงมือทำกิจกรรม
ร่วมกนั เพอ่ื ให้บรรลุเปา้ หมายร่วมกนั ด้วย.... และไมใ่ ชก่ ารรวบรวมรายช่ือบุคคลท่ีมีความสนใจเหมือนกันไว้ในมือ
เพื่อสะดวกแก่การติดต่อ ... การมอบหมายให้สมาชิกแต่ละคนหาสมาชิกเพิ่มขึ้น ยิ่งได้รายชื่อมามากก็ยิ่งทำให้
เครือขา่ ยใหญ่ขึ้น การกระทำเช่นน้เี ปรยี บเสมอื นการขยายถงุ ใส่อิฐให้โตขึ้นเพือ่ จะได้บรรจุอฐิ ได้มากขน้ึ แต่กองอิฐ
ในถุงกย็ งั วางระเกะระกะขาดการเช่ือมโยงประสานกันอย่างเปน็ ระบบ
ดังนั้น เครือข่ายต้องมีการจัดระบบให้กลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่เป็นสมาชิกดำเนินกิจกรรมบางอย่างร่วมกัน เพื่อ
นำไปส่จู ุดหมายที่เห็นพ้องต้องกนั ซึ่งอาจเปน็ กิจกรรมเฉพาะกิจตามความจำเป็น เมอื่ ภารกจิ บรรลุเป้าหมายแล้ว
เครือข่ายก็อาจยุบสลายไป แต่ถ้ามีความจำเป็นหรือมีภารกิจใหม่อาจกลับมารวมตัวกันได้ใหม่ หรือจะเป็น
เครอื ขา่ ยทดี่ ำเนินกจิ กรรมอยา่ งต่อเน่ืองระยะยาวก็ได้
การรวมตัวเป็นเครือข่ายในลักษณะการแลกเปล่ียน ต้องสะกัดเอาส่วนดีหรือ จุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาเรียนรู้และ
สนับสนุนกันและกัน เป็นการผนึกกำลัง (synergy) ในลักษณะที่มากกว่า 1+1 = 2 แต่ต้องเป็น 1+1 > 2
เรียกว่าเป็น “พลังทวีคูณ” ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำงานเป็นเครือข่ายต้องดกี ว่าผลรวมท่ีเกิดจากการปล่อยใหต้ ่าง
คนต่างทำแล้วนำผลลัพธข์ องแต่ละคนมารวมกนั
องค์ประกอบของเครอื ขา่ ย
เครือข่ายเทียม (Pseudo network) หมายถึงเครือข่ายชนดิ ที่เราหลงผิดคิดว่าเป็นเครือข่าย แต่
แท้จริงแลว้ เปน็ แค่การชุมนุมพบปะสังสรรคร์ ะหวา่ งสมาชิก โดยที่ต่างคนต่างก็ไมไ่ ด้มเี ป้าหมายร่วมกัน และไม่ได้
ตั้งใจที่จะทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นการรวมกลุ่มแบบเฮโลสาระพา หรือรวมกันตามกระแสนิยมที่ไม่มีวัตถปุ ระสงค์
ชัดเจน ลักษณะของเครือข่ายลวงจะไม่มีการสานต่อระหว่างสมาชิก ดังนั้น การทำความเข้าใจกับองค์ประกอบ
ของเครอื ข่ายจึงมีความสำคัญ เพ่ือช่วยใหส้ มาชิกสามารถสรา้ งเครือข่ายแท้แทนการสร้างเครอื ข่ายเทยี ม
เครือข่าย (แท้) มอี งคป์ ระกอบสำคญั อยู่อย่างน้อย 7 อย่างดว้ ยกนั คอื
1. มีการรับรู้และมุมมองที่เหมือนกัน (common perception)
2. การมีวิสัยทัศน์รว่ มกนั (common vision)
3. มคี วามสนใจหรอื มีผลประโยชนร์ ่วมกัน (mutual interests/benefits)
4. การมสี ่วนรว่ มของสมาชกิ ทกุ คนในเครือข่าย (stakeholders participation)
5. มีการเสริมสรา้ งซึ่งกนั และกัน (complementary relationship)
6. มกี ารเกอ้ื หนุนพงึ่ พากัน (interdependent)
7. มปี ฏิสัมพนั ธก์ ันในเชิงแลกเปลย่ี น (interaction)
9
คณะบรหิ ารธรุ กจิ และศิลปศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล
ล้านนา ตาก ๔๑ ถ.พหลโยธนิ
ต.ไมง้ าม อ.เมืองตาก จ.ตาก ๖๓๐๐๐
๑๙ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๕
เรื่อง ขอเรยี นเชญิ เขา้ ร่วมงานสมั มนา ในหัวข้อเร่ือง "ทักษะการบริหารจัดการธุรกิจและการพัฒนาเครือขา่ ยทาง
ธรุ กจิ "
เรียน นักศกึ ษา คณะบรหิ ารธุรกิจและศลิ ปศาสตร์ / อาจารยร์ ายวิชาสมั มนาทางการจัดการ
ดว้ ยคณะบรหิ ารธุรกจิ และศิลปศาสตร์ด้วยคณะบริหารธรุ กิจและศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี
ราชมงคลล้านนา ตาก ไดจ้ ัดโครงการสมั มนา "ทักษะการบริหารจดั การธุรกิจและการพัฒนาเครือข่ายทางธรุ กิจ"
ในวันจนั ทร์ท่ี ๒๖ มกราคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. ณ หอ้ งบรรยายรวม ตกึ คณะบรหิ ารและศิลป
ศาสตร์ มีผ้เู ขา้ รว่ มงานทั้งสนิ้ ๔๘ คน ประกอบดว้ ยอาจารย์สาขาวชิ าการจัดการ รายวิชาสัมมนาทางการจดั การ
และนักศึกษา คณะบรหิ ารธรุ กจิ และศลิ ปะศาสตร์ สาขาวิชา บธ.บ.บรหิ ารธุรกจิ -การจดั การธรุ กิจ โดยมี
วัตถปุ ระสงค์ เพอื่ ให้ผู้เข้ารว่ มสมั มนาในครงั้ นี้เพื่อนำหลักทักษะการบรหิ ารจัดการธรุ กิจและการพฒั นาเครือขา่ ย
ทางธุรกิจไปพัฒนาตนเอง ใหเ้ ป็นผพู้ รอ้ มด้วยคณุ ภาพตามแนวคิดทางการพัฒนาตนเปน็ การเรยี นรู้ หรือการมี
ดุลยภาพของชวี ติ ม่งุ การกระทำตนใหม้ ีความสุขดว้ ยตนเอง รู้เท่าทนั ตนเอง จึงเป็นแนวทางการพัฒนาชวี ติ ที่
ยงั่ ยนื เพอื่ ใช้เปน็ แนวทางในการทำธรุ กิจหรอื ต่อยอดธรุ กจิ ได้ ในอนาคต และเป็นการเพ่ิมทักษะทางดา้ นความคิด
ของผู้เข้ารว่ มสมั มนาทสี่ นใจในการทำธุรกจิ
ดงั นั้น จึงขอเรียนเชิญทา่ น คณาจารย์ และนักศึกษาในขณะทสี่ นใจเข้ารว่ มสัมมนาทางวิชาการ ตามวัน
เวลาดงั กล่าวข้างตน้ หากมีข้อสงสยั กรุณาตดิ ต่อมาไดท้ ี่ E-mail: [email protected] โทรศพั ท์
๐๖๑-๔๖๘๗๐๑๗ จักขอบคุณอย่างย่ิง
จึงเรยี นเพ่อื โปรดทราบและเข้าร่วมสัมมนาโดยพร้อมเพรียงกนั
ขอแสดงความนบั ถือ
(นางสาวกญั ญรัตน์ นิ่มสุก)
รองประธานโครงการ
10
11
12
13
14
คำสัง่ วชิ าเอกการจัดการธุรกจิ
หลกั สตู รบรหิ ารธรุ กจิ บณั ฑติ สาขาบรหิ ารธรุ กจิ คณะบริหารธรุ กจิ และศลิ ปศาสตร์
เรือ่ ง แต่งตงั้ คณะกรรมการการดำเนนิ งานจดั สัมมนา
“ทักษะการบรหิ ารจดั การธรุ กิจ และการพฒั นาเครือข่ายทางธุรกิจ”
คร้งั ที่ 1/2565
---------------------------------------------
ตามทม่ี ีการประชมุ เมอ่ื วันท่ี 22 พฤศจกิ ายน 2565 ณ หอ้ ง 413 คณะบริหารธรุ กิจและศลิ ปศาสตร์
เพื่อ ดำเนินการสรรหา คณะกรรมการดำเนินการจัดสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง“ทักษะการบริหารจัดการธุรกิจ
และการพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจ”ในวันที่ 26 ธันวาคม 2565 ที่ประชุมตกลงเสนอชื่อคณะกรรมการ และ
ลงคะแนนคัดเลือกแล้วนั้น เพื่อให้ดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุวัตถุประสงค์และบังเกิดผลดีต่อ
การศึกษาในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก จึงขอแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการจัดสัมมนา
ดังน้ี
1. คณะกรรมการอำนวยการ มีหน้าที่ดำเนินการในส่วน ควบคุม ติดตาม และประสานกับฝ่ายตา่ งๆ
วางแผน และดำเนินการจัดทำโครงการสัมมนาร่วมกับฝ่ายต่างๆ ให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ สนับสนุน พิจารณา
ตดั สิน ปัญหาตา่ งๆ ท่เี กิดข้ึนและดำเนนิ การจัดประชมุ คณะกรรมการตา่ งๆ ประกอบด้วย
1.1 นางแคทรียา พร้อมเพยี ง ประธานกรรมการ
1.2 นางสาวกญั ญรตั น์ น่ิมสกุ ประธานกรรมการ
2. คณะกรรมการฝ่ายเหรัญญิก มีหน้าที่ดำเนินการในส่วนควบคุมดูแลเกี่ยวกับการเงิน การบัญชีงบประมาณ
ค่าใชจ้ า่ ยตา่ งๆของแต่ละฝา่ ย ประกอบดว้ ย
2.1 นางสาวกัญญรัตน์ นิม่ สกุ ประธานกรรมการ
2.2 นางสาวกญั ญารัตน์ อนิ หมนื่ ไวย กรรมการและเลขานุการ
3. กรรมการฝ่ายเลขานุการ มีหน้าที่ดำเนินการในส่วนของการเตรียมการประชุม เพื่อการสัมมนา
ตงั้ แต่การ ประชุมขั้นตน้ ออกหนังสอื เชิญประชุมใหเ้ ป็นที่เรยี บร้อยและจดบันทึกพร้อมจดั ทำรายงานการประชุม
เตรียมการจัด สัมมนา ในเรื่องของเอกสารที่จะต้องทำให้เสร็จก่อนการสัมมนา ได้แก่ โครงการ หนังสือเชิญ
วิทยากรผู้ดำเนนิ รายการและ ผเู้ ข้าร่วมสัมมนา ประกอบดว้ ย
3.1 นางสาวปัณญกณั ป์ หม่ขู ำ ประธานกรรมการ
3.2 นางสาวธันยพร คำไหว กรรมการ
3.3 นางสาววรรณสิ า เอย่ี มสำอางค์ กรรมการและเลขานุการ
4. กรรมการฝ่ายพิธีกร มีหน้าที่เป็นผู้ให้ข้อมูล ได้แก่กำหนดการ และรายละเอียดของรายการ
แนะนำวทิ ยากร และผ้ทู ่ีเก่ียวข้อง กลา่ วทกั ทาย และกล่าวต้อนรบั เชญิ เข้าสู่พธิ ี เชิญวทิ ยากรข้ึนพูด และแนะนำ
ประวัติของวทิ ยากร ประกอบดว้ ย
4.1 นางสาวกาญจนา อาวาส ประธานกรรมการ
4.2 นางสาวณฏั ฐนิชา มีชน่ั กรรมการและเลขานุการ
15
5. คณะกรรมการฝ่ายพิธีการ มีหน้าที่ดำเนินการในส่วนของพิธีการ ดูแลความสะดวกให้วิทยากร
ทมี่ าบรรยาย และคำกลา่ วรายงานเปดิ -ปิด เพ่ือใหด้ ำเนินไปดว้ ยความเรียบร้อย ประกอบดว้ ย
5.1 นางสาวนันทชิ า ไผง่ าม ประธานกรรมการ
5.2 นางสาวณฏั ฐนชิ า มีชั่น กรรมการ
5.3 นางสาววรรณิสา เอี่ยมสำอางค์ กรรมการ
5.4 นางสาววรรณภา อนิ กรัด กรรมการและเลขานุการ
6. คณะกรรมการฝ่ายชา่ งภาพ มหี นา้ ทีใ่ นการเก็บภาพการดำเนนิ งานตลอดท้งั โครงการ ประกอบดว้ ย
6.1 นางสาววรรณภา อนิ กรดั ประธานกรรมการ
6.2 นางสาวนนั ทิชา ไผง่ าม กรรมการและเลขานุการ
7. คณะกรรมการฝ่ายจัดสถานที่ มีหนา้ ที่จัดเตรียมสถานท่ีและอุปกรณ์ให้ดำเนนิ ไปดว้ ยความ
เรยี บรอ้ ย ประกอบด้วย
7.1 นางสาวกาญจนา อาวาส ประธานกรรมการ
7.2 นางสาววรรณสิ า เอ่ียมสำอางค์ กรรมการ
7.3 นางสาววรรณภา อนิ กรดั กรรมการ
7.4 นางสาวบณุ ยาพร ชัยแก้ว กรรมการและเลขานุการ
8. คณะกรรมการฝ่ายสวัสดิการ มีหน้าทีใ่ นเร่ืองอาหาร อาหารวา่ งและเครื่องดื่ม ต้องจัดเตรยี ม
ภาชนะสำหรบั ใส่ เคร่อื งด่ืมอาหารว่างใหเ้ รยี บรอ้ ย ประกอบด้วย
8.1 นางสาวนันทชิ า ไผ่งาม ประธานกรรมการ
8.2 นางสาวณฏั ฐนชิ า มชี ่นั กรรมการ
8.3 นางสาววรรณิสา เอย่ี มสำอางค์ กรรมการ
8.4 นางสาวบุณยาพร ชยั แก้ว กรรมการและเลขานุการ
9. คณะกรรมการฝ่ายทะเบียน มีหน้าท่เี ตรียมการเกยี่ วกับผ้เู ขา้ ร่วมสมั มนาทั้งหมด ทำการสำรวจ
จำนวนผ้เู ขา้ ร่วม สมั มนา ประกอบดว้ ย
9.1 นางสาวนสิ า ตง่ึ จะ๊ ประธานกรรมการ
9.2 นางสาวนนั ทิชา ไผ่งาม กรรมการ
9.3 นางสาวสุพชั ชา หมูถึง กรรมการและเลขานุการ
10. คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่เผยแพร่ข่าวสารของการจัดการสัมมนา ไปยัง
กลุ่มเป้าหมายใน แหล่งต่างๆ ให้มากท่ีสุด โดยอาศัยสื่อตา่ งๆ ประกอบดว้ ย
10.1 นางสาวกาญจนา อาวาส ประธานกรรมการ
10.2 นางสาวนิสา ต่ึงจะ๊ กรรมการ
10.3 นางสาวสุพชั ชา หมูถงึ กรรมการ
10.4 นางสาวกญั ญารตั น์ อินหมน่ื ไวย กรรมการและเลขานุการ
11. คณะกรรมการฝ่ายประเมินผล มีหน้าที่สังเกตการณ์เพื่อประเมินผลการจัดกิจกรรม จัดทำ
เอกสารและ รายงานผล ประกอบด้วย
11.1 นางสาวนสิ า ตึง่ จ๊ะ ประธานกรรมการ
16
11.2 นางสาวสพุ ัชชา หมูถงึ กรรมการ
11.3 นางสาวกัญญารัตน์ อินหมื่นไวย กรรมการและเลขานุการ
ให้คณะกรรมการจัดสัมมนา ตามรายชื่อดังกล่าวได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจดีและใช้ความรู้ ความสามารถ
อย่างเต็มที่ มคี วามรกั สามคั ครี ่วมแรงรว่ มใจกัน ปฏิบตั หิ น้าท่ีใหล้ ุลว่ งตามเจตนารมณ์รว่ มกัน
ส่ัง ณ วันท่ี 14 ธันวาคม 2565
(นางแคทรยี า พร้อมเพยี ง)
หวั หนา้ วชิ าเอกการจัดการธรุ กจิ
หลกั สตู รบรหิ ารธุรกิจบณั ฑิต สาขาบริหารธรุ กิจ
คณะบรหิ ารธรุ กิจและศลิ ปศาสตร์
17
ขั้นตอนการดำเนนิ งานของฝ่ายเลขา
รายงาน พฤศจิกายน ธนั วาคม
ขนั้ วางแผน (P) 1 2 29 5 15 2 30
1. ประชุมทมี คณะผู้จัด และแนวทางการจดั สัมมนา และร่าง
โครงการ 52 5
ขั้นดำเนนิ การ (D)
1. ทำรายงานการประชุม หนังสือเชญิ ทำหนงั สือเสนอโครงการ
2. เดินเอกสารเสนอใหร้ องคณะบดีลงนาม
3. ประสานงานกับทุกฝ่ายเพ่ือทำกำหนดการ
4. จดั ทำสรปุ โครงการทงั้ หมด
ขั้นตอนประชุมและประเมนิ ผล (C)
1. ประเมนิ ผลโครงการและเสนอในทีป่ รชุม
ขั้นปรับปรงุ ตามผลการประเมนิ (A)
1. ทำรายงานสรุปผลการดำเนินงาน
ข้นั ตอนการดำเนินงานฝ่ายทะเบียน 18
รายการ พฤศจิกายน ธนั วาคม
15 22 29 5 10 15
ขั้นวางแผน (P)
1.ประชมุ ทีมฝ่ายทะเบยี นแนวททางการ
จัดการโครงการสัมมนา
2.สำรวจรายช่อื นักศึกษาท่เี ข้าร่วม
โครงการ
3.นำเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ
ข้นั ดำเนนิ การ (D)
1.รวบรวมรายชอ่ื นักศึกษา คณะอาจารย์
และวทิ ยากร
2.ติดตอ่ ประสานงานกบั ศึกษาทกุ ช้ันปีที่
เขา้ รว่ มโครงการ
ขน้ั ประชุมและประเมินผล (C)
1.ประเมนิ ผลโครงการและเสนอในท่ี
ประชมุ
ขั้นปรับปรุงตามผลการประเมิน (A)
1.ทำรายงานสรปุ ผลการดำเนินงาน
19
ขน้ั ตอนการดำเนนิ งานฝา่ ยช่างภาพ
รายการ พฤศจิกายน ธันวาคม
15 22 29 26 30 31
ขั้นวางแผน (P)
1.ประชุมทมี งานถา่ ยรปู
2.จดั หาอุปกรณ์ทจี่ ะใช้ในการถ่ายรูป
3.หาองค์ประกอบภาพท่จี ะถ่าย
ขนั้ ดำเนินการ (D)
1.ถ่ายรูปขนั้ ตอนตา่ งๆ ทเ่ี กิดข้ึนภายใน
วนั ทีจ่ ัดกจิ กรรม
ขั้นประชุมและประเมนิ ผล (C)
1.ส่งรปู ในท่ีประชมุ
ขัน้ ปรบั ปรุงตามผลการประเมนิ (A)
1.ทำรายงานสรปุ ผลดำเนินงาน
20
ขัน้ ตอนการดำเนนิ งานฝ่ายพิธกี าร
รายการ พฤศจิกายน ธันวาคม
15 22 29 10 26 30
ขัน้ วางแผน (P)
1.วางแผนการแบ่งการดูแลวทิ ยากร
2.สำรวจสถานที่สำหรับวิทยากร
3.ขอเชิญวิทยากร
ขน้ั ดำเนนิ การ (D)
1.ติดตอ่ วทิ ยากรและคยุ รายละเอยี ดสำหรับการบรรยายและการ
ทำกจิ กรรมระหวา่ งการสัมมนา
2.รบั วทิ ยากรมาทอ้ี งสมั มนา
3.จดั เตรียมอปุ กรณส์ ัมมนา และการเล่นเกมสข์ องวทิ ยากรและ
พดู คยุ เก่ยี วกับการตอ้ งการตา่ งๆ ของวทิ ยากร
4.จดั เตรียมค่าตอบแทนวทิ ยากร และของรางวลั ในการเลน่ เกมส์
5.เอกสารคา่ ใชจ้ า่ ยฝา่ ยพธิ กี าร
6.ส่งวทิ ยากรเม่ือจบสัมมนา
ขั้นประชุมและประเมนิ ผล (C)
1.เสนอเน้อื หาทเี่ ตรยี มใหว้ ทิ ยากรในทป่ี ระชุม
ขั้นปรับปรุงตามผลการประเมิน (A)
1.การนำผลประเมนิ ไปปรับปรุง
21
ขัน้ ตอนการดำเนินงานของฝ่ายสวัสดกิ าร
รายงาน พฤศจิกายน ธนั วาคม
ขั้นวางแผน (P) 1 2 29 5 15 2 30
1. ประชุมทีมฝ่ายสวสั ดิการ แนวทางการจัดการโครงการสมั มนา
2. สำรวจจำนวนนกั ศึกษาที่เข้ารว่ มโครงการสมั มนา 52 5
3. หารายการอาหาร น้ำดมื่ ของวา่ ง
ข้ันดำเนนิ การ (D)
1. ติดตอ่ ร้านอาหาร นำ้ ด่ืม ของว่าง
2. ทำเอกสารขอเบกิ งบประมาณคา่ อาหาร นำ้ ดื่ม ของว่าง
ขน้ั ตอนประชุมและประเมนิ ผล (C)
1. เสนอรายการอาหารในประชมุ
ขั้นปรับปรุงตามผลการประเมิน (A)
1. ทำรายงานสรปุ ผลการดำเนินงาน
22
ขน้ั ตอนการดำเนนิ งานของฝ่ายอาคาร และสถานที่
รายงาน พฤศจิกายน ธันวาคม
ขนั้ วางแผน (P) 15 22 25 15 26 30
1. วางแผนการเรื่องสถานที่ ควรจะใช้ทใ่ี ดในการสัมมนา
2. สำรวจสถานทว่ี างแผนวา่ ควรจะวางตำแหน่งทีน่ ัง่ พธิ กี รท่ีนง่ั
วิทยากร อาจารย์ และนักศึกษา
ขั้นดำเนนิ การ (D)
1. จดั ตำแหนง่ ทนี่ งั่ พิธีกร ที่นั่งวิทยากร อาจารย์ และนักศึกษา
2. จดั ผา้ ดอกไม้ โตะ๊ วทิ ยากร ขอบเวที และโพเดยี ม
ขั้นตอนประชุมและประเมินผล (C)
1. ฝา่ ยทะเบยี นประเมินผลโครงการ
2. สรุปผลใหป้ ระธาน
3. ประธานพูดสรุปผลวนั สัมมนา
ขน้ั ปรับปรงุ ตามผลการประเมนิ (A)
1. ทำรายงานสรุปผลการดำเนนิ งาน
23
ขนั้ ตอนการดำเนินงานของฝ่ายประเมินผล
รายงาน พฤศจิกายน ธันวาคม
ขั้นวางแผน (P) 15 22 25 15 26 30
1. ประชมุ ทมี ฝ่ายประเมนิ ผล คดิ หัวขอ้ ทจี่ ะประเมนิ
2. นำเสนอโครงการเพื่อขออนมุ ัติ
ขนั้ ดำเนนิ การ (D)
1. สรา้ งแบบฟอรม์ ความพึงพอใจของผูเ้ ขา้ รว่ ม
2. คำนวณ ประเมินผลแบบสอบถามความพึงพอใจหลงั จดั
กจิ กรรม
ขน้ั ตอนประชุมและประเมนิ ผล (C)
1. ประเมนิ ผลโครงการนำเสนอในทปี่ ระชมุ
ข้นั ปรบั ปรงุ ตามผลการประเมิน (A)
1. ทำรายงานสรปุ ผลการดำเนนิ งาน
24
รายรับรายจ่าย โครงการสัมมนา (ย่อย)
บญั ชีรายรบั รายจ่ายสัมมนา
รายรับ รายจ่าย คงเหลอื
บาท บาท
วนั เดือน ปี รายการ บาท หมายเหตุ
1,500
10/12/65 รายรบั จากนอ้ งปี1 4ปี 825 200
11/12/65 รายรับจากนอ้ งปี1 เทียบโอน 275 1,000
140
10/12/65 รายรบั จากน้อง ปวส 275 123
59
รายรบั จากปี2 เทยี บโอน 2,400 90
120
10/12/65 จา่ ยค่าอาหารวา่ ง 270
21/12/65 ของทีร่ ะลกึ สำหรบั วิทยากร
25/12/65 จ่ายค่าวิทยากร
26/12/65 จ่ายค่าถ่านพานาโซนคิ อีโวต์
26/12/65 จ่ายค่าถ่านอลั คาไลนพ์ านาโซนคิ
26/12/65 จ่ายคา่ กระบอกPVC ปากกว้าง
26/12/65 จ่ายคา่ กระบอกน้ำทรงสงู (49x2)
26/12/65 จา่ ยค่ากาแฟ2แกว้
26/12/65 จา่ ยค่าเอกสาร+ปริ้นงาน
รวม 3,775 273
ซาการในเบอ้ื งแรกมวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ให้ ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการไดร้ แู้ จง้ รจู้ กั ประโยชน์
25
ใบเบิกเงนิ
ชอ่ื -นามสกุล……นางสาวบุณยาพร ชัยแก้ว……………ตำแหนง่ ………ฝา่ ยสวัสดิการ………………
วันท่ขี อเบกิ ……21….…ธันวาคม 2565
เลขท่ีบิล วัน/เดือน/ปี รายละเอยี ดรายจา่ ย จำนวนเงิน(บาท)
21 ธันวาคม ของทร่ี ะลึกสำหรับวทิ ยากร 200 -
2565
รวมทั้งสนิ้ 200 -
ลงช่ือ บณุ ยาพร (ผูเ้ บิกจา่ ย) ลงชอื่ บุณยาพร (ผรู้ บั เงนิ )
( นางสาวบุณยาพร ชยั แก้ว ) ( นางสาวบณุ ยาพร ชยั แกว้ )
ลงชอื่ กัญญรตั น์ (ผ้อู นมุ ัติ/ผถู้ ือเงนิ )
( นางสาวกัญญรัตน์ น่มิ สุก )
สำหรับบญั ชี
เอกสารประกอบการเบิกจ่ายครบถว้ นแล้วหรอื ไม่(ใช่/ไมใ่ ช่)………………………………………….
จา่ ยเงนิ วันท่ี……..เดอื น ธันวาคม 2565 ผา่ น ( )เงินสด ( ) โอนผ่านธนาคาร
26
ใบเบกิ เงิน
ชือ่ -นามสกุล……นางสาวบุณยาพร ชัยแก้ว……………ตำแหน่ง………ฝา่ ยสวัสดกิ าร………………
วนั ท่ีขอเบิก……10….…ธนั วาคม 2565
เลขทีบ่ ลิ วนั /เดือน/ปี รายละเอยี ดรายจ่าย จำนวนเงนิ (บาท)
10 ธันวาคม 2565 ค่าอาหารวา่ ง 1,500 -
รวมทั้งสนิ้ 1,500 -
ลงชื่อ บุณยาพร (ผ้เู บิกจ่าย) ลงชอ่ื บณุ ยาพร (ผู้รับเงิน)
( นางสาวบณุ ยาพร ชยั แก้ว ) ( นางสาวบณุ ยาพร ชยั แกว้ )
ลงชื่อ กัญญรตั น์ (ผู้อนมุ ตั ิ/ผถู้ ือเงิน)
( นางสาวกัญญรัตน์ นม่ิ สุก )
สำหรบั บญั ชี
เอกสารประกอบการเบิกจา่ ยครบถ้วนแลว้ หรอื ไม่(ใช่/ไม่ใช่)………………………………………….
จา่ ยเงินวนั ที่……..เดือน ธันวาคม 2565 ผ่าน ( ) เงินสด ( ) โอนผา่ นธนาคาร
27
ใบเบิกเงิน
ชอ่ื -นามสกุล นางสาวกัญญรตั น์ น่ิมสกุ ตำแหนง่ เหรัญญิก
วันทขี่ อเบิก……25….…ธันวาคม 2565
เลขท่ีบิล วนั /เดือน/ปี รายละเอียดรายจา่ ย จานวนเงิน(บาท)
25ธันวาคม ค่าตอบแทนวทิ ยากร 1,000 -
2565
รวมท้ังส้ิน 1,000 -
ลงชอ่ื กัญญรัตน์ (ผูเ้ บิกจา่ ย) ลงชื่อ กญั ญรตั น์ (ผรู้ ับเงิน)
( นางสาวกญั ญรตั น์ นิ่มสุก ) ( นางสาวกัญญรตั น์ นิม่ สกุ )
ลงชอื่ กญั ญรตั น์ (ผู้อนุมตั ิ/ผู้ถอื เงิน)
( นางสาวกัญญรตั น์ น่มิ สุก )
สำหรับบญั ชี
เอกสารประกอบการเบิกจา่ ยครบถว้ นแลว้ หรือไม่(ใช่/ไม่ใช่)………………………………………….
จ่ายเงนิ วันท่ี……..เดือน ธันวาคม 2565 ผ่าน( )เงินสด( ) โอนผา่ นธนาคาร
28
ใบเบกิ เงนิ
ชอื่ -นามสกุล นางสาวกัญญรตั น์ นิ่มสกุ ตำแหน่ง เหรญั ญิก
วนั ที่ขอเบิก 26 ธันวาคม 2565
เลขท่ีบลิ วัน/เดือน/ปี รายละเอียดรายจา่ ย จำนวนเงนิ (บาท)
26 ธนั วาคม คา่ กาแฟ 120 -
2565
รวมท้ังสนิ้ 120 -
ลงชอื่ กัญญรัตน์ (ผู้เบิกจ่าย) ลงช่ือ กัญญรัตน์ (ผู้รับเงิน)
( นางสาวกญั ญรตั น์ นิ่มสุก ) ( นางสาวกญั ญรตั น์ นิม่ สกุ )
ลงชือ่ กัญญรัตน์ (ผอู้ นุมตั ิ/ผถู้ ือเงนิ )
( นางสาวกัญญรตั น์ น่ิมสกุ )
สำหรับบญั ชี
เอกสารประกอบการเบิกจา่ ยครบถว้ นแลว้ หรือไม่(ใช่/ไมใ่ ช่)………………………………………….
จ่ายเงินวนั ท่ี……..เดอื น ธนั วาคม 2565 ผ่าน ( )เงนิ สด( ) โอนผ่านธนาคาร
29
ใบเบกิ เงิน
ชอื่ -นามสกุล……นางสาวนิสา ต่ึงจ๊ะ……………ตำแหน่ง……….………………
วันทข่ี อเบิก……………ธันวาคม 2565
เลขทีบ่ ลิ วัน/เดือน/ปี รายละเอียดรายจ่าย จำนวนเงิน(บาท)
21 ธนั วาคม ของที่ระลกึ สำหรบั วิทยากร 200 -
2565
รวมทั้งส้ินลงชอื่ (ผู้อนมุ ตั ิ/ผู้ถือเงิน) 200 -
ลงชอื่ (ผเู้ บิกจ่าย) ลงชอื่ (ผรู้ ับเงนิ )
() ()
ลงชอื่ (ผู้อนุมัติ/ผถู้ ือเงนิ )
( )
สำหรับบญั ชี
เอกสารประกอบการเบิกจ่ายครบถว้ นแลว้ หรอื ไม่(ใช่/ไมใ่ ช่)………………………………………….
จา่ ยเงินวนั ที่……..เดอื น ธันวาคม 2565 ผา่ น ( )เงินสด( ) โอนผ่านธนาคาร
330
31
32
กำหนดการ
เรื่อง “ทักษะการบริหารจดั การธรุ กจิ และการพัฒนาเครอื ขา่ ยทางธุรกิจ”
ประจำปี 2565
ณ แผนกสาขาจัดการธรุ กิจ คณะบรหิ ารธรุ กิจและศลิ ปศาสตร์
ในวนั จนั ทร์ ท่ี 26 เดอื นธนั วาคม พ.ศ.2565 เวลา 13.00 - 16.00 น.
วัน/เวลา กจิ กรรม
13.00 น. - 13.15 น. ลงทะเบียนและรบั เอกสาร
13.15 น. - 13.30 น. พิธีเปิดสมั มนา
13.30 น .- 14.30 น. บรรยายโดย นายเอกลกั ษณ์ สมุ นพันธ์ุ
- หัวข้อ “ทักษะการบรหิ ารจัดการธุรกจิ และการพัฒนาเครอื ข่ายทาง
14.30 น. - 14.40 น. ธุรกิจ”
14.40 น. - 15.30 น. พักเบรก ทานอาหารว่าง
15.30 น. - 16.00 น. บรรยายตอ่ โดย นายเอกลักษณ์ สุมนพันธุ์
สรุปผลและพิธกี รปดิ โครงการสัมมนาทางวิชาการ
33
หอ้ งบรรยายรวม
ดา้ นหนา้
โพเดยี ม
จานวนนกั ศกึ ษา 66 คน โต๊ะลงทะเบียน ประตู
อาจารย์ 3 คน
วิทยากร 1 คน โต๊ะวางของวา่ ง อาหารและ
ดา้ นหนา้ = เครอ่ื งดื่ม
ท่นี ่งั อาจารย์ =
ท่นี ่งั วิทยากร =
ท่นี ่งั นกั ศกึ ษา =
โพเดียมกลา่ วรายงาน =
34
คำกลา่ วรายงาน การสมั มนาทางวิชาการ
เร่ือง "ทกั ษะการบริหารจดั การธุรกิจและการพัฒนาเครือขา่ ยทางธรุ กิจ"
เรยี น ทา่ นประธาน ทา่ นวทิ ยากรและผเู้ ขา้ รว่ มสัมมนาทกุ ทา่ น
ดิฉัน นางสาวกัญญรัตน์ นิ่มสุก ในนามของนักศึกษา สาขาวิชาการจัดการเทียบโอนปี ๒ คณะ บริหารธุรกิจและ
ศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา กล่าวรายงาน ความเป็นมาของการจัดสัมมนาทางวิชาการ
ดังต่อไปน้ี
สืบเนื่องจากการเรียนการสอนในวิชาสัมมนาการจัดการ ซึ่งเป็นวิชาทฤษฎีและปฏิบัติเมื่อนักศึกษาได้
ศึกษาทางภาคทฤษฎีและทดลองฝกึ ในภาคปฏบิ ัติ เพื่อให้การเรียนการสอนสมบูรณม์ ากยิ่งขึ้นผู้เรียนควรจะได้ ฝึก
ปฏิบัติในสถานการณ์จริง เป็นผลดีที่ทำให้นักศึกษาไห้มีการศึกษาและสัมมนาปัญหาสำคัญ ที่มีผลกระทบต่อ การ
เพมิ่ ทกั ษะการบรหิ ารจัดการธรุ กิจและการพฒั นาเครือข่ายทางธรุ กจิ ดำเนนิ ธรุ กิจเนน้ ทางด้านการจัดการของกลุ่ม
วิชาชีพ โดยบูรณาการทฤษฎี ความรู้ และประสบการณ์ที่ได้ ศึกษามาเพื่อเสริมสร้างให้นักศึกษามีความรู้ความ
เข้าใจถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพและปัญหาต่างๆ ของการจัดการในธุรกิจโดยใช้กรณีศึกษาหรือสถานการณ์จริง
อภิปรายเพ่อื หาแนวทางแกไ้ ขปัญหาอยา่ งเปน็ ระบบ ตลอดจนฝกึ ทกั ษะการจัดการสมั มนา
จากการสัมมนาทางวิชาการในครั้งนี้คณะนักศึกษาผู้ดำเนินงานไห้รับประสบการณ์มากมายไม่ว่าจะ เป็น
เรื่องของทักษะการบริหารจัดการธุรกิจและการพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจ และสามารถที่จะถ่ายทอดความรู้และ
แนวทางปฏิบัติได้อย่างดีที่สุด เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้มีแนวทางการพัฒนาต่อยอดและเป็นการเพิ่มทักษะทางด้าน
ความคิดของผู้เข้าร่วมสัมมนาที่สนใจในการทำธุรกิจ การสัมมนาในครั้งนี้เป็นการพึ่งพาทางวิซาการและความ
ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นอย่างดียิ่ง การทำงานจึงต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมมีความสามัคคีกันอย่างเข้มแข็ง
รู้จักรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การทำใจให้กว้างไม่คับแคบเห็นแก่ตัว มีความรับผิดซอบต่อตัวเองและงานอัน
เป็นเรื่องส่วนใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาทั้งคนและงาน มีการพัฒนาคนในทุก ๆ ด้านอย่างจริงจัง เพ่ือ
ประสบการณท์ ่มี ีคณุ คา่ หาไม่ใดใ้ นตำราเรยี น
คณะนกั ศึกษาผู้ดำเนินงานจึงไดม้ ีมตเิ ห็นพ้องต้องกันว่าควรจะเลือกจัดสมั มนาทางวิซาการในหัวข้อ เรื่อง"
ทักษะการบริหารจัดการธุรกิจและการพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจ" เพื่อนำหลักทักษะการบริหารจัดการธุรกิจและ
การพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจไปพัฒนาตนเอง ให้เป็นผู้พร้อมด้วยคุณภาพตามแนวคิดทางการพัฒนาตนเป็นการ
เรียนรู้และการปฏิบัติเพื่อไปสู่ความพอดี หรือการมีดุลยภาพของชีวิต มีความสัมพันธ์อันกลมกลืนระหว่างการ
ดำเนินชีวิตของบุคคลกับสภาพแวดล้อมและม่งุ การกระทำตนให้มีความสุขดว้ ยตนอง รูเ้ ท่าทันตนเอง เข้าใจตนเอง
มากกวา่ การพ่ึงพาอาศัยวัตถุ จงึ เปน็ แนวทางการพัฒนาชีวิตทยี่ ั่งยืนเพื่อใช้เป็นแนวทางในการทำธุรกิจหรือต่อยอด
ธุรกิจได้ ในอนาคต และเป็นการเพิ่มทักษะทางด้านความคิดของผู้เข้าร่วมสัมมนาที่สนใจในการทำธุรกิจ ได้ทราบ
ถึง ความสำคัญของทักษะการบริหารจัดการธุรกิจและพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจของตนเองให้ประสบความสำเรจ็
จากประสบการณ์จริงจากท่านวิหยากร โดยให้กราบเรียนเชิญท่านวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมอภิปรายอันเป็น
แนวทางในการนำไปสู่การสัมมนา เพื่อเป็นการอภิปรายทางวิชาการในเบื้องแรกมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วม
โครงการไดร้ ูแ้ จง้ รจู้ ักประโยชน์ มองทุกอย่างเปน็ การเรียนรู้ รวมท้ังใช้ปรบั ปรุงและพัฒนาตนเอง เพื่อเป็นแนวทาง
ในการทำธรุ กิจหรือต่อยอดธุรกิจในอนาคต และเปน็ เกียรติแก่ทา่ นผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่านดฉิ ันขอกราบเรียนเชิญ
ดร.แคทรียา พรอ้ มเพรยี ง ประธานโครงการ ได้โปรดกล่าวเปิดงานสัมมนาทางวชิ าการในคร้ังนดี้ ้วย ขอกราบเรียน
เชิญ
35
คำกล่าวเปดิ การสัมมนาทางวิชาการ
ของ ท่าน ดร.แคทรียา พร้อมเพรยี ง
เร่อื ง "ทกั ษะการบริหารจดั การธรุ กจิ และการพฒั นาเครือข่ายทางธรุ กิจ"
เรยี น ท่านวิทยากรผ้ทู รงคุณวุฒิ
คณาจารย์ ท่านผ้มู เี กียรติ และนกั ศกึ ษา
ขา้ พเจ้า ดร.เคทรียา พรอ้ มเพียง ในนามของประธานโครงการขอขอบคุณท่ไี ดร้ ับเกยี รติใหม้ าเป็นประธาน
เปิดการสัมมนาทางวิชาการครั้งนี้ รู้สึกยินดีและพอใจเป็นอย่างยิ่ง ในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาสัมมนา
การจัดการ ซึ่งการจัดสัมมนาในครั้งนี้ จัดโดยคณะนักศึกษา ระดับชั้นปริญญาตรเี ทียบโอน คณะบริหารธุรกิจและ
ศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล้านนา ตาก เพราะนอกจากจะบรรลุ วัตถุประสงค์ของการจัดการ
เรียนการสอนในระดับชน้ั ปริญญาตรี ปีท่ี 2 หลักสูตรเทียบโอน วิชาเอกการจัดการธุรกจิ ทมี่ งุ่ ให้นกั ศึกษได้มีโอกาส
ฝึกทักษะการจดั สัมมนาวิซาการได้ฝกึ คิด วเิ คราะห์ วางแผน ปฏบิ ัติ ติดตอ่ ส่อื สารและ แกป้ ญั หาปฏิบัติจริงและฝึก
การทำงานเปน็ ทีมอันจะสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ การทำงานต่อไปในอนาคตได้เปน็ อยา่ งดยี ่งิ สงิ่ เหล่าน้ีล้วน
เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าหาไม่ได้จากตำราเรียน ประการสำคัญและยังได้เอื้อเฟื้อประโยชน์ให้แก่ ผู้จัดสัมมนา
ผู้เข้าร่วมและผู้ที่สนใจ นับได้ว่าการจัดสัมมนาทางวิชาการครั้งนี้ได้บรรลุวัตถุประสงค์ทางด้านการเรียนการสอน
อยา่ งสมบูรณ์
ขอแสดงความชื่นชมยินดีมายังนักศึกษาผู้จัดสัมมนาและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสัมมนาทางวิชาการใน
ครั้งนี้จะช่วยให้ทุกๆ ท่านได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลิกภาพ การทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน การ
เริ่มต้น การบริหารธุรกิจ จะช่วยให้ทุกท่านนำความรู้ในครั้งนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและไปใช้ในการทำงานใน
อนาคตอกี ดว้ ย
บัดน้ไี ดเ้ วลาอนั สมควรแลว้ ขา้ พจ้าขอเปิดการสัมมนาทางวิชาการเร่ือง "ทักษะการบรหิ ารจัดการธุรกิจและ
การพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจ" ขอให้การจัดสัมมนาทาง วิชาการครั้งนี้ประสบความสำเร็จและวัตถุประสงค์ดังที่
คาดหวงั ทกุ ประการ
36
คำกล่าวรายงานผลการดำเนนิ งาน
กราบเรยี น ทา่ นประธาน ท่านวทิ ยากร และเรียนผเู้ ขา้ รว่ มสมั มนาทกุ ทา่ น
การสัมมนาเรื่อง “ทักษะการบริหารจัดการธุรกิจและการพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจ” ซึ่งจัดโดยคณะ
นักศึกษา ระดับชั้นปริญญาตรีเทียบโอน คณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
ล้านนา ตาก ณ เวลา 13.00 - 16.00 น. ขณะนี้การดำเนินการจัดสัมมนา ได้มาถึงช่วงเวลาสุดท้ายของการ
สัมมนาแล้ว ข้าพเจ้าและคณะผู้ดำเนินการจัดสัมมนา ขอรายงานสรุปผลการประเมนิ การจัดสัมมนาของผู้เข้าร่วม
สมั มนา ดังนี้
โดยภาพรวม การจดั สัมมนาครงั้ นอ้ี ย่ใู นเกณฑ์มาก และหากพจิ ารณาในรายละเอยี ดจะพบว่าเร่อื งที่จัดอยู่ใน เกณฑ์
มาก ได้แก่ ด้านการอบรมโครงการ ด้านการอำนวยความสะดวกของผู้จัดสัมมนา ด้านสถานที่/อาหาร ด้าน
วิทยากร และ ดา้ นความรูแ้ ละความเขา้ ใจท่ไี ด้รบั จากการฝึกอบรม
นบั ได้วา่ การจัดสัมมนาครง้ั นี้ ไดบ้ รรลุวัตถุประสงคท์ ี่วางไว้ และเพื่อเปน็ การให้เกียรติแกผ่ ้เู ข้าร่วม สมั มนา
ขอเรยี นเชิญทา่ นประธานไดโ้ ปรดกล่าวปดิ การสมั มนาครัง้ น้ีด้วย ขอเรียนเชญิ คะ่
37
คำกล่าวปิดส้มมนา
เรอ่ื ง "ทกั ษะการบริหารการจัดการธุรกจิ และการพฒั นาเครอื ข่ายทางธุรกิจ"
ท่านผู้ดำเนินการจัดสัมมนา และ ท่านผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่าน จากกล่าวรายงานของท่านประธาน
ผู้ดำเนินการจัดสัมมนาทำให้ทราบว่า ผลการจัดสัมมนาเรื่อง "ทักษะการบริหารการจัดการธุรกิจและการพัฒนา
เครือขา่ ยทางธุรกิจ" ได้บรรลุวัตถปุ ระสงคข์ องรายวิซาการ สัมมนาการ จดั การเป็นอย่างดียิง่ นบั เป็นเรื่องท่ีน่ายินดี
อย่างไรกต็ ามผลของ การสัมมนาจะถอื วา่ ได้รบั ความสำเรจ็ อยา่ ง สมบรู ณ์ก็ต่อเมื่อท่านผู้เข้ารว่ มสัมมนาทุกท่าน ได้
นำแนวทางท่ีใด้ จากการสัมมนาคร้ังน้ไี ปใช้หรือปรบั ใชก้ ับงานของทุกทา่ นอย่างจริงจังและส่งผลให้งานที่ทำอยู่ได้มี
การ เปลี่ยนแปลง หรือให้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าได้เกิด การพัฒนาตนขึ้นแล้ว สมกับที่คณะบริหารธุรกิจและศิลป
ศาสตร์ สาขาวิชาการจัดการไดใ้ ห้การสนบั สนนุ ส่งเสริมใหม้ ีการจัดสัมมนา
ข้าพเจา้ ใด้ตระหนักเปน็ อยา่ งดีวา่ ทุกท่านมคี วามสำคญั ต่อองค์กรของเราอย่างย่ิง หวังวา่ การสัมมนา ครั้ง
นจี้ ะเป็นแนวทางสำคญั ที่ก่อให้เกิดทักษะการบริหารจดั การธุรกิจและการพัฒนาเครือข่ายทางธุรกจิ และเพ่ิมทักษะ
ทางด้านความคิดของผู้เข้าร่วมในเรื่อง“ทักษะการบริหารจัดการธุรกิจและการพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจ”ไปใช้ให้
เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ ขออวยพรใหท้ กุ ทา่ นประสพแตค่ วามสุข ความเจริญ และเดนิ ทางกลับ โดยสวสั ดิภาพ
38
บันทกึ ขอ้ ความ
ส่วนราชการ วิชาเอกการจดั การธรุ กิจ หลกั สตู รบรหิ ารธุรกิจบณั ฑติ สาขาบริหารธรุ กจิ โทร.357
ที่ อว 0654.02(02)บธ/ วันท่ี ธนั วาคม 2565
เรื่อง ขอขอบคุณ
เรียน รองคณบดคี ณะวิศวกรรมศาสตร์ ตาก
ตามที่หนังสืออ้างถึง ได้จัดให้มีการสัมมนาวิชาการ เรื่อง“ทักษะการบริหารจัดการธุรกิจและ
พัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจ” ในวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2565 เวลา 13.00 - 15.00 น. ณ ห้องบรรยายรวม คณะ
บรหิ ารธุรกิจและศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ตาก
บดั น้ี การสมั มนาดงั กลา่ วได้เสรจ็ สนิ้ ลงแลว้ โดยรับความอนุเคราะห์จากทา่ นในการบรรยายหัวข้อ
ดังกล่าว ทางด้านการศึกษา อันเป็นประโยชน์ และมีคุณค่าต่อผู้เขา้ รว่ มสมั มนาเป็นอย่างมากและหวงั เป็นอย่างยง่ิ
ว่าจะได้รับความกรณุ า จากทา่ นอกี ในโอกาสตอ่ ไป
จงึ เรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
(นางแคทรียา พร้อมเพรียง)
หัวหน้าวิชาเอกการจัดการธรุ กิจ
วชิ าเอกการจดั การธรุ กจิ หลกั สตู รบรหิ ารธุรกิจบัณฑิต
โทร. 0 5551 5900 ต่อ 374
โทรสาร ๐ 5551 1833
39
ตอนท1ี่ ข้อมูลท่ัวไปของผูต้ อบแบบสอบถาม
คำชแี้ จง้ โปรดทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในชอ่ งว่างหนา้ ขอ้ ความทตี่ รงกับความเป็นจรงิ มากที่สดุ
1.เพศ
ชาย หญงิ
2. อายุ
18 -24 ปี 25 - 35 ปี
36 - 45 ปี 46 - 55 ปี
56 ปขี น้ึ ไป
3.สาขาวชิ า
การจดั การธรุ กจิ อ่นื ๆ(โปรดระบ)ุ …………………………
4.ชน้ั ปที ี่
1 2
3 4
5.หลักสตู ร
4 ปี เทียบโอน
อื่นๆ (โปรดระบุ)…………………………….
6. สถานภาพ
นักศึกษา คณาจารย์
บุคลากร หรือเจา้ หน้าท่ี อน่ื ๆ(โปรดระบ)ุ …………………………
40
ตอนท2ี่ ระดับความพึงพอใจของผเู้ ข้าร่วมสมั มนา
คำชีแ้ จ้ง โปรดทำเคร่อื งหมาย ✓ ในแตล่ ะขอ้ เพยี งคำตอบเดยี วทตี่ รงกบั ความคดิ เหน็ ของท่านมากทส่ี ุด
ระดับความคดิ เห็น
รายการ มากท่สี ุด มาก ปานกลาง นอ้ ย น้อยทส่ี ุด
(5) (4) (3) (2) (1)
ด้านการอบรมโครงการ
1.ระยะเวลาอบรมโครงการมีความเหมาะสม
2.รูปแบบและการวิธีการนำเสนอมีความเหมาะสม
สามารถนำมาใช้กบั สถานการณใ์ นปัจจบุ นั ได้
3.เนอ้ื หาโครงการนำไปเรียนร้แู ละพัฒนา
ความสามารถตนเองได้
4.สามารถนำความรทู้ ี่ไดร้ ับจากโครงการนี้ไปใชใ้ น
การปฏบิ ัตงิ านได้
ดา้ นสถานที่/อาหาร
5.สถานทสี่ ะอาดและมีความเหมาะสม
6.ความพรอ้ มของอุปกรณ์โสตทศั นปู กรณ์
7.อาหารและเคร่ืองดื่มมคี วามเหมาะสม
ดา้ นการอำนวยความสะดวกของผู้จัดสัมมนา
8.การบรกิ าร/อำนวยความสะดวกตา่ งๆของผู้จัด
สมั มนา
9.การประสานงานของผ้จู ัดสัมมนา
10.การให้คำแนะนำหรอื ตอบข้อซักถามของผ้จู ดั
สัมมนา
ดา้ นวิทยากร
11.ความสามารถในการถ่ายทอด/สอ่ื /ความเข้าใจ
12.การเรยี งลำดบั บรรยายเน้อื หาได้ครบถ้วน
13.การเปิดโอกาสให้ชกั ถามหรอื แสดงความคดิ เห็น
14.การตอบคำถามได้ตรงประเดน็ และชดั เจน
15.มีความรใู้ นเร่ืองท่ีบรรยายไดเ้ ปน็ อย่างดี
41
ตอนท2ี่ (ต่อ)
รายการ มากท่ีสดุ ระดบั ความคดิ เห็น
(5)
ด้านความรแู้ ละความเขา้ ใจท่ีได้รับจากการ มาก ปานกลาง น้อย น้อยทสี่ ดุ
ฝึกอบรม (4) (3) (2) (1)
16.ความรู้ และความเข้าใจเรื่องนก้ี ่อนไดร้ ับการ
อบรม
17.ความรู้ และความเข้าใจในเรอื่ งนีห้ ลังได้รับ
การอบรม
ตอนท3่ี ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.
ขอขอบพระคณุ ที่ท่านตอบแบบสอบถามทุกข้อ
42
สรปุ แบบสอบถามเพ่ือประเมนิ ผลความพึงพอใจของการจดั การโครงการสัมมนาเชิงวิชาการ
เรอ่ื ง “ทักษะการบริหารจัดการธุรกจิ
และการพฒั นาเครอื ข่ายทางธุรกจิ ”ประจำปี 2565
สาขาวชิ าการจดั การ คณะบริหารธรุ กิจและศิลปะศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก
จากการสอบถามความพงึ พอใจของผเู้ ข้ารว่ มโครงการทีจัดข้ึนในระหวา่ งวนั ท่ี 26 ธันวาคม พ.ศ. 2565
สามรถสรุปผลขอ้ มลู ไดด้ งั น้ี
แบบสอบถาม ตอนที่ 1 ข้อมูลท่ัวไปของผตู้ อบแบบสอบถาม
ตารางที่ 1 แสดงคา่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นเพศ จำนวน ร้อยละ
เพศ 11 22.9
37 77.1
เพศชาย 48 100
เพศหญงิ
รวม
จากตารางท่ี 1 พบว่า ผตู้ อบแบบสอบถามจำนวน 48 คน สรุปได้วา่ ผตู้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่เปน็
เพศหญงิ จำนวน 37 คนคิดเปน็ ร้อยละ 77.1 ทเี่ หลอื เปน็ เพศชาย จำนวน 11 คนคดิ เป็นร้อยละ 22.9
ตารางท่ี 2 แสดงคา่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถามในด้านสาขาวชิ า จำนวน ร้อยละ
สาขาวิชา 48 100
48 100
การจัดการธุรกิจ
รวม
จากตารางที่ 2 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 48 คน สรุปไดว้ ่า ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดกำลงั
ศึกษาสาขาวิชาการจดั การธุรกจิ จำนวน 48 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100
ตารางท่ี 3 แสดงคา่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นอายุ จำนวน รอ้ ยละ
ชว่ งอายุ 48 100
-
18 – 24 ปี - -
25 – 35 ปี - -
36 – 45 ปี 48 -
46 – 55 ปี 100
รวม
43
จากตารางที่ 3 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 48 คน สรุปไดว้ า่ ผูต้ อบแบบสอบถามส่วนใหญจ่ ะมี
อายุ 18-24 ปี จำนวน 48 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100
ตารางท่ี 4 แสดงคา่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นชั้นปี
ช้นั ปีที่ จำนวน รอ้ ยละ
ชนั้ ปที ี่ 1 48 100
ชั้นปที ่ี 2 --
ชน้ั ปีท่ี 3 --
ชั้นปที ่ี 4 --
รวม 48 100
จากตารางที่ 4 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 48 คน สรปุ ไดว้ ่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่กำลัง
ศึกษาอย่ชู ัน้ ปีท่ี 1 จำนวน 48 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100
ตารางที่ 5 แสดงคา่ ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามในดา้ นหลักสูตร
หลกั สูตร จำนวน รอ้ ยละ
หลักสตู ร 4 ปี 27 56.3
หลกั สตู ร เทียบโอน 11 22.9
หลักสูตร ปวส. 10 20.8
รวม 48 100
จากตารางที่ 5 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 48 คน สรปุ ได้วา่ ผตู้ อบแบบสอบถามสว่ นใหญก่ ำลัง
ศึกษาอยู่หลักสูตร 4 ปี จำนวน 27 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 56.3 รองลงมาได้แกห่ ลกั สตู ร เทยี บโอน จำนวน 11 คน
คดิ เปน็ ร้อยละ 22.9 และหหลกั สตู ร ปวส. จำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 20.8
ตารางท่ี 6 แสดงคา่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นสถานภาพ จำนวน รอ้ ยละ
สถานภาพ 48 100
นกั ศกึ ษา -
คณาจารย์ - -
48 -
บคุ ลากร หรอื เจา้ หนา้ ที่ 100
รวม
จากตารางที่ 6 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 48 คน สรปุ ได้วา่ ผตู้ อบแบบสอบถามส่วนใหญค่ อื
นกั ศกึ ษา จำนวน 48 คน คดิ เป็นรรอ้ ยละ 100
44
แบบสอบถาม ตอนที่ 2 ระดับความพึงพอใจของนักศกึ ษา
การกำาหนดเกณฑ์การพจิ ารณา
เกณฑ์การพิจารณาความพงึ พอใจต่อโครงการ มีดังนี้
1. เกณฑ์การใหค้ ะแนน
ได้กำหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนไว้ 5 ระดบั ดังน้ี
5 คะแนน หมายถึง ระดบั ความพึงพอใจระดับดมี าก
4 คะแนน หมายถึง ระดบั ความพงึ พอใจระดับดี
3 คะแนน หมายถงึ ระดบั ความพงึ พอใจระดบั ปานกลาง
2 คะแนน หมายถึง ระดับความพึงพอใจระดบั น้อย
1 คะแนน หมายถงึ ระดบั ความพึงพอใจระดับน้อยที่สดุ
2. เกณฑก์ ารแบง่ ช่วงคะแนนค่าเฉลี่ย
เกณฑ์การแบง่ ชว่ งคะแนนคา่ เฉลยี่ ได้กำหนดเกณฑ์ประเมนิ ไวด้ งั นี้
คะแนนเฉลี่ย 4.50 - 5.00 กำหนดใหอ้ ยู่ในเกณฑ์ พงึ พอใจมากที่สุด
คะแนนเฉลย่ี 3.50 - 4.49 กำหนดให้อยู่ในเกณฑ์ พึงพอใจมาก
คะแนนเฉลย่ี 2.50 – 3.49 กำหนดใหอ้ ยู่ในเกณฑ์ พงึ พอใจปานกลาง
คะแนนเฉลี่ย 1.50 - 2.49 กำหนดใหอ้ ยู่ในเกณฑ์ พงึ พอใจน้อย
คะแนนเฉล่ยี 1.00 - 1.49 กำหนดให้อยู่ในเกณฑ์ พึ่งพอใจน้อยทีส่ ดุ
45
ตารางที่ 7 แสดงผลการคำนวณคา่ เฉลย่ี ของความพงึ พอใจของนักศึกษา
รายละเอียด คา่ เฉล่ีย เกณฑ์
ประเมิน
1.ดา้ นการอบรมโครงการ
ระยะเวลาอบรมโครงการมคี วามเหมาะสม 2.94 ปานกลาง
รปู แบบและการวธิ กี ารนำเสนอมคี วามเหมาะสมสามารถนำมาใช้กับสถานการณ์ในปจั จบุ ันได้ 3.52 มาก
เนอื้ หาโครงการนำไปเรยี นรูแ้ ละพฒั นาความสามารถตนเองได้ 3.83 มาก
สามารถนำความรทู้ ีไ่ ดร้ ับจากโครงการน้ไี ปใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงานได้ 3.75 มาก
คา่ เฉลี่ยรวม 3.51 มาก
รอ้ ยละ 75.00
2.ดา้ นสถานท่/ี อาหาร 3.94 มาก
สถานท่ีสะอาดและมีความเหมาะสม 3.73 มาก
ความพร้อมของอุปกรณโ์ สตทัศนปู กรณ์ 4.35 มาก
อาหารและเครื่องดม่ื มคี วามเหมาะสม คา่ เฉลยี่ รวม 4.01 มาก
ร้อยละ 87.08
3.ดา้ นการอำนวยความสะดวกของผจู้ ดั สัมมนา
การบรกิ าร/อำนวยความสะดวกตา่ งๆของผ้จู ัดสมั มนา 3.77 มาก
การประสานงานของผจู้ ัดสมั มนา 3.83 มาก
การใหค้ ำแนะนำหรอื ตอบขอ้ ซกั ถามของผจู้ ดั สมั มนา 3.67 มาก
ค่าเฉลย่ี รวม 3.76 มาก
รอ้ ยละ 73.33
4.ด้านวทิ ยากร 4.25 มาก
ความสามารถในการถ่ายทอด/สื่อ/ความเขา้ ใจ 4.17 มาก
การเรยี งลำดับบรรยายเน้อื หาได้ครบถว้ น 4.08 มาก
การเปดิ โอกาสให้ชักถามหรอื แสดงความคิดเหน็ 4.10 มาก
การตอบคำถามไดต้ รงประเดน็ และชัดเจน 4.13 มาก
มีความรู้ในเรอ่ื งที่บรรยายไดเ้ ป็นอย่างดี คา่ เฉลี่ยรวม 4.15 มาก
รอ้ ยละ 82.50
5.ดา้ นความร้แู ละความเข้าใจท่ีไดร้ บั จากการฝึกอบรม
ความรู้ และความเข้าใจเร่อื งนก้ี อ่ นได้รบั การอบรม 3.94 มาก
ความรู้ และความเขา้ ใจในเรอื่ งนหี้ ลังไดร้ ับการอบรม 3.94 มาก
ค่าเฉลี่ยรวม 3.94 มาก
สรุป คา่ เฉลย่ี รวมท้งั สิ้น ร้อยละ 78.75
ร้อยละ
3.94
78.75
46
จากตาราง พบว่าความพงึ พอใจของนักศึกษา โดยภาพรวม อยูใ่ นเกณฑป์ ระเมินพงึ พอใจระดบั มาก
คิดเป็นรอ้ ย ละ 78.75 ซ่ึงมีค่าเฉลีย่ เท่ากับ 3.94 และเม่ือแยกตามรายด้านและหวั ข้อการประเมนิ ต่าง ๆ
สามารถสรุปผล เรียงจากมากไปหานอ้ ยได้ ดังนี้
1.ดา้ นการอบรมโครงการ ร้อยละ 75.00
2. ด้านวทิ ยากร ร้อยละ 87.08
3. ด้านการอำนวยความสะดวกของผจู้ ัดสัมมนา รอ้ ยละ 73.33
4.ด้านความรแู้ ละความเขา้ ใจที่ไดร้ ับจากการฝกึ อบรม 82.50
5.ด้านสถานที/่ อาหาร ร้อยละ 78.75
ข้อเสนอแนะ
สามารถสรปุ ข้อเสนอแนะและความพงึ พอใจของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการได้ดังน้ี
ตารางที่ 8 ขอ้ เสนอแนะและความพึงพอใจของผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการ
ข้อเสนอแนะและความพงึ พอใจของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ
1.ลดเวลาน่าจะดีคะ่
2.ใชเ้ วลานานไปหนอ่ ย
3.อาหารวา่ งเหมาะสม
4.บรรยายดเี ขา้ ใจงา่ ย
5.ข้อมลู ท่วี ิทยากรพดู สามารถนำไปใช้ไดจ้ ริง
6.พ่ๆี ทำงานดูยงั ไมเ่ ปน็ ระบบ
7.วทิ ยากรบรรยายได้ดี
8.ยังตดิ ๆขดั ๆไม่ราบร่ืน
9.ชอบเนื้อหาการบรรยาย
10.ใช้เวลานานไปครบั
จากตารางสรุปได้ว่า โครงการสัมมนาโดยภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ระดับมาก ความคิดเห็นและเสนอของ
ผ้เู ข้าร่วมโครงการชอบเนื้อหาการบรรยาย ข้อมลู ทวี่ ิทยากรพูดสามารถนำไปใช้ไดจ้ รงิ บรรยายดเี ข้าใจง่าย อาหาร
ว่างเหมาะสม ขอ้ ควรปรบั ปรงุ คือ ลดเวลานา่ จะดีคะ่ พๆี่ ทำงานดยู งั ไมเ่ ป็นระบบ ยังตดิ ๆขัดๆไม่ราบรนื่