แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ รายวชิ า ภาษาองั กฤษ รหสั วิชา อ16101
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่1 เรื่อง: Mom’s letter จานวน 1 ช่วั โมง
ผู้สอนวา่ ทร่ี .ต.หญิงวชิ ชุดา ด่านบพุ ชาติ โรงเรยี นองคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวดั เชียงราย
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรอ่ื งท่ฟี งั และอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตุผล
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.1 ป.6/1 ปฏิบัติตามคาส่ัง คาขอร้อง และคาแนะนาทฟ่ี งั และอา่ น
ต 1.1 ป.6/2 อ่านออกเสยี งขอ้ ความ นทิ าน และบทกลอนสนั้ ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ผู้เรยี นสามารถอา่ น บอกความหมาย และได้เรยี นรูค้ าศพั ทเ์ กยี่ วกบั ผลไม้ การซอ้ื ขายและ
การตอ่ รองราคาไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
2. ผู้เรียนสามารถสนทนาสอ่ื สารตามเนอ้ื หาทก่ี าหนดและแปลความหมายของบทความได้
อย่างถูกตอ้ ง
3. ผูเ้ รียนมีเจตคตทิ ดี่ ีในการใฝ่เรียนรู้
3. สาระสาคญั
การเรียนภาษาอังกฤษทเ่ี กี่ยวข้องกับในชีวติ ประจาวันนน้ั เป็นสง่ิ ทสี่ าคัญ เชน่ การเรียนรคู้ าศัพท์ตา่ งๆการซอ้ื
ของ การตอ่ รองราคาในบริบทของตลาดเปน็ สงิ่ ทช่ี ่วยใหผ้ เู้ รียนนั้นไดฝ้ ึกทักษะความร้เู พอื่ พฒั นาภาษาอังกฤษในระดบั ท่ี
สูงข้ึนตอ่ ไป ซง่ึ ในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้นีไ้ ด้ประยุกต์ใช้วธิ กี ารสอนแบบชกั ชวน
( Suggestopedia ) ทัง้ นี้เพอื่ ให้ผ้เู รยี นเกดิ ความสนกุ สนานและมคี วามสุขกับการเรยี น
4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น
ความสามารถในการสอ่ื สาร
ความสามารถในการคดิ
ความสามารถในการแกไ้ ขปัญหา
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. สาระการเรียนรู้ คาศพั ท์ คาอา่ น ความหมาย
Vocabulary: apple แอพเพลิ่ แอบเป้ลิ
ลาดับ banana นาเนเ่ นอะ กลว้ ย
watermelon วอเท่อ เมหลิน่ แตงโม
1 orange ออร่ิน
2 durian ดเู รยี น ส้ม
3 coconut โคโค่นทั ทุเรยี น
4 plum มะพร้าว
5 avocado พลัม พลัม
6 grape อะโวคาโด อาโวคาโด
7 papaya องนุ่
8 pineapple เกรพ มะละกอ
9 lemon ผะพาย่ะ สบั ปะรด
10 พายน แอพเพล่ิ มะนาว
11 เลมอ่ น
12
Structure:
Present simple tense = s+v1 (s/es)
Do/Does + s+v+o?
How much + นามนบั ไม่ได้
How many + นามพหพู จน์
6. จุดเน้นสู่การพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น ทกั ษะศตวรรษท่ี 21
การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และทกั ษะในการแกป้ ญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)
ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)
ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเป็นทีม และภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and
Leadership)
ทกั ษะด้านการสอื่ สารสนเทศ และร้เู ท่าทนั สอื่ (Communications, Information, and Media Literacy)
ทกั ษะดา้ นชีวิตและอาชีพ
ความยดื หยนุ่ และการปรบั ตวั
การรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์และการเป็นตวั ของตวั เอง
ทกั ษะสงั คม และสังคมขา้ มวฒั นธรรม
การเปน็ ผสู้ ร้างหรอื ผู้ผลติ และความรบั ผิดชอบเชอ่ื ถอื ได้
ภาวะผนู้ าและความรบั ผิดชอบ
คณุ ลกั ษณะสาหรบั ศตวรรษท่ี 21
คุณลักษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผนู้ า
คุณลักษณะด้านความรู้ ได้แก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง
คุณลักษณะดา้ นศีลธรรม ได้แก่ เคารพผ้อู นื่ ความซอ่ื สตั ย์ สานึกพลเมอื ง
7. สื่อ/วสั ดุอปุ กรณ์
1.จดหมาย
2.บัตรภาพ
3.ตะกร้า
4.ธนบตั รปลอม
8. เพลง Shopping Song
Shopping Song
A: Hello (x3), Can I help you ?
B: Yes please (x2), I want to buy banana.
A: Ok, How many How many do you want?
B: 2 kilos (x2) How much can you tell me?
A: It’s 10 (x2). Thank you see and you.
B: Ok, thank you goodbye goodbye goodbye
9. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั เข้าสบู่ ทเรยี น (Warm up)
1. ครทู กั ทายนักเรียนด้วยประโยคดงั ตอ่ ไปน้ี
ครู : Good morning everyone. How are you?
นักเรียน : Good morning teacher. I’m fine. And you?
ครู : I’m fine.
2. ครทู บทวน กับนักเรยี นเกย่ี วกบั ผลไมไ้ ทยดว้ ยประโยคดังตอ่ ไปน้ี
ครู : ผลไมไ้ ทยท่ีพบได้ในท้องถิ่นของเรามอี ะไรบา้ งคะ
นักเรียนชว่ ยกันตอบ หลงั จากนั้นครกู ล่าวคาชมเชยนักเรียนท่ีตอบคาถาม จากน้นั ครูยกตวั อย่างผลไมว้ ่ามอี ะไรบ้าง
3. ครูนาแสนอเพลงให้ผู้เรียนอ่านพร้อมกนั เพลง 2 รอบ ครูร้องเพลงให้นกั เรียนฟัง 1 คร้งั หลงั จากนน้ั ครแู ละ
นักเรียนชว่ ยกันรอ้ งเพลง Shopping song พรอ้ มๆกัน
Shopping Song
A: Hello (x3), Can I help you ?
B: Yes please (x2), I want to buy banana.
A: Ok, How many How many do you want?
B: 2 kilos (x2) How much can you tell me?
A: It’s 10 (x2). Thank you see and you.
B: Ok, thank you goodbye goodbye goodbye
4. ครสู อนคาศัพทเ์ ก่ียวกับผลไม้โดยใชบ้ ตั รภาพและบตั รคาดงั นี้
apple lemon pineapple banana watermelon avocado
orange durian coconut plum grape papaya
4.1 ครูรอ่านคาศพั ทใ์ หผ้ เู้ รยี นฟงั 1 รอบ
4.2 ครอู า่ นคาศพั ทแ์ ล้วใหผ้ ้เู รียนอ่านตาม 2 รอบ
4.3 ครใู หผ้ ้เู รยี นทุกคนอ่านคาศพั ทด์ ้วยตนเอง
4.4 ครูสุ่มผูเ้ รียนออกมาอา่ นคาศัพทใ์ หเ้ พ่ือนฟงั
4.5 ครแู สดงบตั รภาพและใหผ้ ้เู รยี นทกุ คนตอบเป็นภาษาองั กฤษพรอ้ มกันจากนัน้ ครใู หผ้ เู้ รียนทากิจกรรม ชอ่ื
Hot ball
ขน้ั เข้าสู่เนอ้ื หา (Presentation)
กติกาการเลน่ เกม Hot ball
1. ครูแจกบตั รภาพใหผ้ เู้ รยี นทุกคนและใหผ้ ูเ้ รยี นทุกคนนง่ั เปน็ วงกลม
2. ครูใหผ้ เู้ รียนคนท่ี 1 เร่มิ พดู ขึ้นมาว่า Today I want to buy to apple (พูดชอื่ ผลไมต้ ามบัตรภาพทต่ี นเอง
ไดร้ บั จากคร)ู
3. ใหผ้ เู้ รียนคนท่ี 2 ทวนประโยคของคนที่ 1 แล้วคอ่ ยพดู ชอื่ ผลไมท้ ี่ตนเองไดร้ บั ดังนี้
คนที่ 1 Today I want to buy apple
คนที่ 2 Today I want to buy apple , orange
4. ให้ผู้เรยี นทาแบบนต้ี อ่ ๆกนั ไปจนครบทกุ คนหากผูเ้ รียนคนใดทวนประโยคของเพื่อนผดิ จะตอ้ งออกจากวง
เลน่ เกม
5. ครอู ธิบายหลกั การใช้ โครงสร้าง Present simple tense
ดังนี้
Subject Verb (s,es)
I, You, We, They eat, go
He, She, It eats, goes
จากตารางจะสงั เกตได้วา่ ประธานที่เปน็ พหพู จน์ I, You, We, They กริยาจะไมม่ ีการเตมิ s และ es
ส่วนประธานท่ีเป็นเอกพจน์ He, She, It กริยาจะมกี ารเตมิ s และ es
5.1 หลกั การเติม s /es มดี งั น้ี
5.1.1 เตมิ s หลงั คากรยิ าปกติทวั่ ๆ ไป
5.1.2 เติม es หลังคากรยิ าทล่ี งทา้ ยด้วย s, sh, ch, x, z และ o
5.1.3 คากริยาทล่ี งท้ายดว้ ย y มี 2 ประการดงั น้ี
หนา้ y เป็นสระ ( a , e , i , o , u ) ใหเ้ ตมิ s ไดเ้ ลย แต่หนา้ y เปน็ พยญั ชนะ ให้เปล่ียน y เป็น i แล้ว
เตมิ es
6. ครูอธิบายหลกั การใช้ หลกั การใช้ Verb to do คอื ประธานเอกพจน์ ใช้ does ประธาน
พหูพจน์ใช้ do ดังนี้
6.1 Verb to Do ทาหนา้ ทเ่ี ป็นกรยิ าหลัก (Main Verb) มี 4 รูปแบบ คือ
6.1.1 ใชใ้ น Present Tense : Do / Does
Do ใชก้ บั ประธาน I, You, We, They เช่น
I do my homework in the evening. (ฉนั ทาการบา้ นตอนเยน็ )
They do a lot of work around the town. (พวกเขาทางานมากมายรอบเมอื ง)
Does (คือ do เติม es) ใชก้ ับเอกพจน์บรุ ุษท่ี 3 เชน่ He, She, It, Peter, Mother, a dog
He does his work diligently. (เขาทางานอย่างขยนั ขนั แขง็ )
She does nothing all day. (เธอไม่ทาอะไรเลยตลอดท้ังวัน)
6.1.2 ใช้ใน Past Tense : Did
Did เป็นรปู อดตี (Past Tense) ของทั้ง do และ does
I did my homework yesterday. (ฉนั ทาการบา้ นเมอ่ื วานน)้ี
Tom did everything he could to help. (ทอมทาทุกสง่ิ ท่ีเขาสามารถชว่ ยได้)
6.1.3 ใช้เป็น Past Participle : Done
Done คอื Past Participle (Verb 3) ของ Do (Past Participle คือคากรยิ าชอ่ ง 3 ทใี่ ช้ใน Prefect
Tense)
I have done all the hard work. (ฉันทางานหนักมาตลอด)
Tom has done the artwork. (ทอมทางานด้านศิลปะ)
6.1.4 ใช้ Verb to do แทนทค่ี ากริยาบางคร้ังเรากใ็ ช้ Verb to do แทนทคี่ ากริยาเม่อื มีความหมายท่ี
ชัดเจน และสว่ นใหญ่จะใชใ้ นการพดู อย่างไม่เปน็ ทางการ I’ll do the bathroom if you do the lawns.
(ฉันจะทาความสะอาดห้องนา้ ถา้ คณุ ตัดหญ้าทส่ี นามหญา้ ) do ในประโยคนต้ี วั แรกแทนกริยา clean (ทาความ
สะอาด) และตวั ทส่ี องแทนกริยา mow (ตดั หญา้ )
Have you done the dishes yet? (คณุ ลา้ งจานหรอื ยงั )
done ในประโยคนีแ้ ทนกรยิ า washed (ลา้ ง)
6.2 Verb to Do ทาหน้าทเี่ ป็นกริยาชว่ ย (Auxiliary Verb) โดยจะใชร้ ว่ มกบั กรยิ าหลกั (Main Verb)
เพื่อสร้างประโยคคาถาม, ประโยคปฏิเสธ หรอื เพือ่ เน้นยา้ ความสาคัญ
ในประโยคคาถาม ใช้ Do, Does, Did มาวางไว้ตน้ ประโยค หน้าประธาน
ประโยคคาถามที่เปน็ Simple Present Tense ใช้ Do / Does
Do you come from England? (คณุ มาจากประเทศอังกฤษใชไ่ หม?)
Does she like sport? (เธอชอบกีฬาใช่ไหม?)
ประโยคคาถามที่เปน็ Past Tense ใช้ Did
Did you always take the bus to school? (คุณนั่งรถบสั ไปโรงเรยี นเป็นประจาใชไ่ หม?)
Did Tom like the movie? (ทอมชอบภาพยนตร์ใชไ่ หม?)
ขอ้ สงั เกต: ในประโยคคาถาม Does, Did ทีป่ ระธานเป็นเอกพจนบ์ รุ ษุ ท่ี 3 คากริยาหลักจะเป็นรูปพ้นื ฐานไมเ่ ติม s เชน่
Does she like sport?, Did he speak English?
นอกจากน้ีเรายงั ใช้ do, does, did กบั ประโยค Wh – Questions (what, where, when, why, who, how, how
many, how much.) ไดด้ ว้ ย เชน่
What does he think? (เขาคิดอะไร?)
When do you wake up? (คุณตนื่ นอนเมอ่ื ไหร/่ ก่โี มง?)
Where do you want to go? (คณุ อยากไปท่ีไหน?)
How much do you weigh? (คุณหนกั เท่าไหร?่ )
7. ครูสอนการใช้ How much……………..? และ How many.....................? ดงั น้ี
How much
ใช้ถามปรมิ าณ
โครงสรา้ ง How much + นามนบั ไมไ่ ด้
ตวั อย่างประโยค เชน่ How much money do you have?
(คณุ มีเงนิ เทา่ ไหร่)
How much sugar do you want?
(คุณต้องการนา้ ตาลเยอะแคไ่ หน)
ใชถ้ าม ราคา
โครงสร้าง How much + is….?/ How much does…cost?
ตวั อย่างประโยค เช่น How much is it?
(ราคาเทา่ ไหร)่
How much is that dog?
(สุนัขตวั น้ันราคาเทา่ ไหร)่
How many
ใชถ้ ามจานวน
โครงสรา้ ง How many + นามพหพู จน์
ตัวอย่างประโยค เชน่ How many sisters do you have?
(คุณมพี สี่ าวกคี่ น)
How many oranges do you want?
(คณุ ต้องการสม้ กี่ผล)
8. ครสู อนผเู้ รยี นของคาวา่ kilo ยอ่ มาจาก kilogram ซ่งึ แปลวา่ กโิ ลกรัม
9. ครูให้ผเู้ รยี นร้องเพลง 1 รอบเพอื่ เป็นการทบทวนความรหู้ ลกั จากน้ันครูสอนบทสนทนาซอ้ื ขายในตลาด ดงั นี้
A: Good morning. Can I help you?
สวัสดีคะ่ มีอะไรใหฉ้ ันชว่ ยไหมคะ
B: Yes, please. I want to buy some fruit. Do you have some papayas?
มีคะ่ ฉันต้องการซ้ือผลไม้ คุณมีมะละกอไหมคะ
A: Yes. How many do you want?
มคี ะ่ คณุ ต้องการเท่าไหรค่ ะ
B: Two please, and give me six apples, a pomelo and a watermelon too. Do
you have oranges?
เอา 2 ลกู คะ่ และฉนั อยากไดแ้ อปเป้ลิ 6 ลกู สม้ โอ 1 ลกู และแตงโม 1 ลูก คุณมสี ้มไหมคะ
A: Yes. How many do you want?
มคี ่ะ คุณตอ้ งการเท่าไหรค่ ะ
B: I want 2 kilos.
ฉนั ตอ้ งการ 2 กิโลคะ่
A: Thank you
ขอบคณุ
B: Ok, thank you good bye.
ขอบคณุ ลากอ่ น
10. ให้ผ้เู รยี นอ่านประโยคภาษาอังกฤษเอง ถา้ หากผู้เรยี นอ่านไม่ได้ ครกู ็จะชว่ ยเสรมิ และใหผ้ เู้ รยี นอา่ นตาม
11. ครูยกตัวอยา่ งประโยคภาษาอังกฤษแล้วใหผ้ เู้ รียนแปลเป็นภาษาไทยทีละคนเพ่ือทดสอบ
วา่ ผู้เรียนทุกคนมคี วามเขา้ ใจแล้วโดยทปี่ ระโยคจะไม่ซา้ กัน เช่น
1. ครู: I want buy to 1 kilo of banana and 2 kilos of apple.
ผ้เู รียน: ฉนั ต้องการซอ้ื กล้วย 1 กโิ ลกรมั และ แอปเปล้ิ 2 กโิ ลกรัม
2. ครู: I want to buy 2 kilos of watermelon and 1 kilo of avocado.
ผ้เู รียน: ฉนั ตอ้ งการซอื้ แตงโม 2 กิโลกรมั และอาโวคาโด 1 กิโลกรัม
12. ใหผ้ เู้ รียนทากจิ กรรมท่ี 1 ช่อื กจิ กรรมวา่ Mom’s letter
13. ให้ผเู้ รยี นแบ่งกลมุ่ กล่มุ ละเทา่ ๆกนั โดยวธิ ีการนับ one, two คนที่นับ one อยู่ทีม A และคนท่นี ับ two จะอย่ทู มี
B
ข้ันฝึก (Practice) กล่มุ B
กติกาการเลน่ เกม Mom’s letter
1. ครใู หน้ ักเรียนนงั่ เปน็ วงกลม 2 วง ตามกลุ่มของตนเอง
กลมุ่ A
2. ครูแจกเงินปลอมกลุ่มละ 1,000 บาท พร้อมทั้งใหจ้ ดหมายกลมุ่ ละ 1 ซอง และ
ตะกรา้ กลุม่ ละ 1 อัน
++
3. ทกุ คนในกลุ่มชว่ ยกนั อ่านจดหมายท่ไี ดร้ บั มา ซ่งึ จดหมายของแต่กล่มุ จะมเี นื้อหาที่แตกต่างกนั ดังน้ี
4. ให้ผเู้ รียนทัง้ กลุ่มชว่ ยกันไปซอื้ ของตามเนอ้ื หาในจดหมายทกี่ าหนดใหค้ รบถ้วนภายในเวลา 5 นาที โดยครู
จัดเตรยี มบตั รภาพไปแขวนไวบ้ นต้นไม้ ซึง่ ห่างจากจุดเรม่ิ ตน้ ประมาณ 50 – 100 เมตร เมื่อหมดเวลาผู้เรยี นทง้ั สองกลุ่ม
ตอ้ งกลบั มาในจุดเริ่มของกลมุ่ ของตนเอง ตามแผนภาพ ดงั น้ี
จุดที่ 2
จุดที่ 1
จดุ เรม่ิ ต้น
5. ครูและผูเ้ รยี นช่วยกนั ตรวจสอบโดยใหน้ ักเรียนอา่ นข้อความในจดหมายทลี ะกล่มุ และวิทยากรหยบิ ผลไม้ที่
นักเรียนซื้อมาเพอ่ื ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
6. ผ้เู รยี นกลุ่มทซี่ ้อื ของไดค้ รบถว้ นและตรงตามเวลาท่กี าหนดจะเปน็ ผชู้ นะและได้รบั รางวัลตามทวี่ ทิ ยากร
เตรียมไว้
7. ครูใหผ้ ้เู รยี นร่วมกนั อา่ นบทสนทนาเพอื่ ทบทวนไปพรอ้ มๆ กนั
ข้นั นาไปใช้ (Production)
1. ครใู หผ้ ูเ้ รยี นแบบฝกึ หดั
ขัน้ สรปุ (Wrap up)
1. ครูและนกั เรียนรว่ มร้องเพลง Shopping song อีกครง้ั เพ่ือใหน้ ักเรยี นเตรยี มตวั สาหรบั บทเรียนในชวั่ โมง
ต่อไป และกลา่ วลาดว้ ยประโยค
นกั เรียน : Thank you. Teacher, see you again tomorrow.
ครู : Goodbye , see you again tomorrow.
10. การวดั และประเมินผล
10.1 การประเมนิ ตามจดุ ประสงค/์ ตวั ชีว้ ัด
เป้าหมาย หลักฐาน วิธวี ัด เครอ่ื งมือ
- แบบฝกึ หัด
จุดประสงค์การเรยี นรู้ - แบบฝกึ หัด - การตรวจ - แบบปรเมิน
1. ผเู้ รยี นสามารถอา่ น บอก - แบบประเมิน แบบฝกึ หัด
ความหมาย และได้เรยี นรู้ - การประเมิน
คาศพั ท์เก่ยี วกบั ผลไม้ การ
ซอื้ ขายและการต่อรองราคา
ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
2. ผ้เู รียนสามารถสนทนา
ส่อื สารตามเนอื้ หาทีก่ าหนด
และแปลความหมายของ
บทความไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
3. ผู้เรยี นมเี จตคติทีด่ ีในการ
ใฝ่เรยี นรู้
10.2 การประเมินสมรรถนะสาคัญ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และทักษะศตวรรษที่ 21
ประเดน็ หลักฐาน วิธวี ัด เครือ่ งมือวดั
การประเมนิ
- การเขา้ รว่ ม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม
1. ใฝเ่ รยี นรู้ กิจกรรมในช้นั เรียน การเข้ารว่ มกจิ กรรม การเขา้ รว่ มกิจกรรมใน
2. ซือ่ สตั ย์สุจริต
ในชนั้ เรียน ชั้นเรยี น
ความเหน็ ของหวั หน้างานฝา่ ยวิชาการ
ได้ทาการตรวจแผนการจดั การเรยี นรขู้ องวา่ ท่ีร.ต.หญิงวชิ ชดุ า ดา่ นบุพชาติแลว้ มีความคดิ เหน็ ดังนี้
1. เป็นแผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
2. การจัดกิจกรรมได้นากระบวนการเรียนรู้
เนน้ ผ้เู รียนเป็นสาคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไม่เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่
นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนาไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................
ลงชอื่ .................................................................................
()
หวั หนา้ งานฝา่ ยวิชาการ
ความเหน็ ของผู้อานวยการสถานศึกษา
ได้ทาการตรวจแผนการจัดการเรียนรขู้ องว่าทร่ี .ต.หญิงวชิ ชดุ า ด่านบุพชาตแิ ลว้ มคี วามคดิ เห็นดังนี้
5. เปน็ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
6. การจัดกิจกรรมได้นากระบวนการเรียนรู้
เน้นผูเ้ รยี นเป็นสาคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยังไม่เน้นผูเ้ รียนเป็นสาคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป
7. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี
นาไปใช้ไดจ้ ริง
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนาไปใช้
8. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ
...................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................
ลงชอ่ื .................................................................................
()
ผูอ้ านวยการสถานศึกษา
ภาคผนวก
รายวชิ า ภาษาองั กฤษ บันทึกหลงั แผนการจดั การเรยี นรู้
(ภาษาองั กฤษ) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี .............. เร่ือง......................................
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ
1. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. บันทึกหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้
2.1 ดา้ นความรู้ (K)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ด้านคุณลกั ษณะ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2.2 ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางการแกไ้ ข
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2.3 ข้อเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ว่าที่ร.ต.หญงิ ..................................................
ครผู สู้ อน
(วชิ ชุดา ดา่ นบุพชาต)ิ
วันท่.ี ...........เดือน...................พ.ศ. 2565
Direction: Put the correct letters in the space and write the correctly meaning. Bring the
numbers in front of the pictures to match the vocabulary of fruit.
1. _____ w___terme___ ___n = _______________
2. _____ d___ria___ = _______________
3. _____ or___n___e = _______________
4. _____ pl___m = _______________
5. _____ l___m___n = _______________
6. _____ b___n___ ___a = _______________
7. _____ p___ne___p___l___ = _______________
8. _____ g___ ___pe = _______________
9. _____ c___c___n___t = _______________
10. _____ a___ ___le = _______________
11. _____ a___ ___cad___ = _______________
12. _____ p___pa___a = _______________
Name................................................................................................... Class...................... No..........................
Answer Direction: Put the correct letters in the space and write the correctly meaning. Bring the
numbers in front of the pictures to match the vocabulary of fruit.
1. 6 watermelon = แตงโม
2. 12 durian = ทเุ รยี น
3. 8 orange = ส้ม
4. 9 plum = พลบั
5. 11 lemon = เลมอน
6. 4 banana = กลว้ ย
7. 3 pineapple = สับปะรด
8. 2 grape = องุ่น
9. 7 coconut = มะพร้าว
10. 5 apple = แอบเปิ้ล
11. 1 avocado = อโวกาโด
12. 10 papaya = มะละกอ
Name................................................................................................... Class...................... No..........................
แบบประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้
คาชแี้ จง ให้ทำเครื่องหมำย √ ลงในช่องรำยกำรประเมินจุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้
1. ผเู้ รียนสามารถอา่ น 2. ผ้เู รยี นสามารถสนทนา 3. ผเู้ รียนมีเจตคติทีด่ ีใน
บอกความหมาย และได้ ส่ือสารตามเน้ือหาที่ การใฝเ่ รยี นรู้
เรยี นรู้คาศพั ท์เกย่ี วกับ กาหนดและแปล
ลาดับท่ี ชอื่ นามสกลุ ผลไม้ การซ้ือขายและการ ความหมายของบทความ รวม สรุป
ต่อรองราคาไดอ้ ย่างถกู ต้อง ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
1
2 3 2 1 3 2 1 3 2 1 9 ผ. มผ.
3
4
5
หมายเหตุ : แบบประเมินตำมจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ของนักเรียนช้ันประถมศกึ ษำปีที 6
เกณฑ์การให้คะแนน
7 - 9 คะแนน ดี
4 - 6 คะแนน พอใช้
1 - 3 คะแนน ปรับปรุง
คะแนนคุณภาพต้ังแต่ 4 ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์
สรุป จำนวนนักเรยี นที่ไดแ้ นนคุณภำพระดบั ดี มึจำนวน................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ .......................
จำนวนนักเรียนท่ีได้แนนคุณภำพระดบั พอใช้ มึจำนวน................คน คดิ เป็นร้อยละ .......................
จำนวนนักเรยี นท่ีไดแ้ นนคณุ ภำพระดับ ปรับปรงุ มึจำนวน................คน คดิ เป็นร้อยละ .......................
จำนวนนักเรียนท่ีผำ่ นจุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ มึจำนวน................คน คดิ เป็นร้อยละ .......................
จำนวนนักเรยี นที่ไม่ผ่ำนจุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ มึจำนวน................คน คดิ เป็นร้อยละ .......................
แนวทางแก้ไข
…...................................................................................................................................................................................
…...................................................................................................................................................................................
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
คาชี้แจง ใหท้ ำเครื่องหมำย √ ลงในช่องรำยกำรประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ลาดับ ชอ่ื นามสกุล 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. ซ่ือสัตย์สุจริต รวม สรุป
ที่
3 2 1 3 2 1 6 ผ. มผ.
1
2
3
4
5
หมายเหตุ : แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนช้ันประถมศึกษำปีที 3
เกณฑ์การให้คะแนน
5 - 6 คะแนน ดี
3 - 4 คะแนน พอใช้
1 - 2 คะแนน ปรับปรุง
คะแนนคุณภาพตั้งแต่ 3 ข้ึนไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์
สรุป จำนวนนักเรยี นที่ได้แนนคณุ ภำพระดบั ดี มีจำนวน...............คน คดิ เป็นร้อยละ .........................
จำนวนนักเรยี นที่ไดแ้ นนคณุ ภำพระดบั พอใช้ มีจำนวน...............คน คิดเปน็ ร้อยละ .........................
จำนวนนักเรยี นที่ได้แนนคณุ ภำพระดับ ปรับปรุง มีจำนวน...............คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ .........................
จำนวนนักเรยี นที่ผำ่ นจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ มีจำนวน...............คน คิดเป็นร้อยละ .........................
จำนวนนักเรียนท่ีไม่ผำ่ นจุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ มีจำนวน...............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ .........................
แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................................