โครงงาน ไขแปลงราง
นกั เรียนชั้นอนบุ าลปท ี่ 2-3
นางไตรตรา พชั นี
นางสาวรงุ นภา ฆอ งไชยภมู ิ
ครทู ี่ปรกึ ษา
โรงเรยี นบา นวา นบา นดา น
อาํ เภอประจนั ตคาม จังหวัดปราจีนบรุ ี
สาํ นกั งานการศึกษาประถมศึกษาปราจนี บรุ ี
กระทรวงศึกษาธกิ าร
คํานาํ
โครงงานฉบับนี้จัดทาํ ขึน้ เพ่อื เปนเอกสารนําเสนอผลการดําเนินงานในการทาํ โครงงานของ
นักเรียนช้ันอนบุ าลปท่ี 2-3 ในหวั ขอเรอื่ ง ไขแปลงรา ง คณะผจู ัดทาํ หวงั วา โครงงานการงาน เรือ่ ง
ไขแปลงรา ง ฉบับนี้จะเปน ประโยชนตอผูทสี่ นใจศึกษา หากมีขอ ผดิ พลาดประการใด คณะผูจัดทํา
ก็ขออภัยมา ณ ที่น้ีดวย
ผจู ัดทํา
นักเรียนชัน้ อนบุ าลปท ี่ 2-3
สารบัญ
ความเปนมา ๑
วัตถุประสงคข องโครงงาน 1
สมมติฐานของการศึกษาคน ควา 1
การดําเนินงาน 1-5
สรุปผลการศึกษา 6
อภิปรายผล 6
ปญหา อุปสรรค 6
ขอเสนอแนะ 6
ภาคผนวก 7
ช่อื โครงงาน “ไขแปลงรา ง”
ผูท าํ โครงงาน
นกั เรียนชัน้ อนุบาล ๓ โรงเรยี นบานวานบานดานจํานวน 9 คน
ครทู ีป่ รึกษา
นางไตรตรา พัชนี
ความเปนมา
ไขเปน แหลงโปรตีนท่ีมีคณุ ภาพสูง หาไดงา ย และเหมาะสมสําหรับทุกเพศ ทุกวัย เปน
แหลงของแรธ าตแุ ละวติ ามินอีกมากมาย ไมวาจะเปน ธาตเุ หล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรสั วิตามินเอ
วติ ามินบี 1 บี 2 บี 6 บี 12 วิตามินอี วิตามินดี โฟเลต เลซธิ ิน ลูทีน ซีแซนทีนและโคลีนที่ให
ประโยชนตอรางกาย โดยไขไก 1 ฟอง ใหพ ลังงาน 80 กิโลแคลอรี และมีโปรตนี ที่มคี ุณภาพดี
ที่สุดโดยมีประสทิ ธภิ าพในการดดู ซมึ สูงกวา อาหารชนิดอื่น ซ่งึ มกี รดอะมิโนทีจ่ ําเปนตอรา งกาย 9
ชนิด ชว ยเสรมิ สรา งการเจริญเตบิ โตและการทาํ งานของระบบประสาท กระตนุ การทํางานของ
สมอง เสริมสมาธิและความจํา ทางผูจ ัดทําโครงงานจงึ อยากสงเสริมใหน ักเรยี นในโรงเรยี น ไดกิน
ไขทุกวัน เพอื่ ใหเด็กเจรญิ เติบโตอยางเต็มศักยภาพ แข็งแรง และฉลาด
ดังน้ันจึงไดจ ัดทําโครงงานเร่อื งไขแปลงรา งเพือ่ สง เสริมใหนกั เรียนไดทานไขและเปนการ
สรางอาชีพ เพิ่มรายไดใ หกับนักเรียนในสายช้ันอนุบาลปท่ี 2-3 ในลาํ ดับตอ ไป
วัตถปุ ระสงคของโครงงาน
1.ไดเ รียนรูคุณประโยชนของไขที่มีตอรา งกาย
๒.ไดเรียนรวู ิธีการทําไขมวน
๓.ไดม ีกจิ กรรมรวมกันเพอื่ เสรมิ สรางความสามัคคีและฝก ประสบการณการทํางานรว มกับผูอ ื่น
สมมตฐิ านของการศกึ ษาคน ควา
1.นักเรยี นไดเ รียนรูคุณประโยชนของไขท ่ีมีตอ รา งกาย
๒.นักเรยี นไดเ รียนรวู ิธีการทาํ ไขม ว น
๓.นักเรยี นไดมีกจิ กรรมรวมกันเพอื่ เสริมสรา งความสามัคคแี ละฝกประสบการณก ารทาํ งานรว มกับ
ผูอ่ืน
การดําเนนิ งาน
วธิ ิการ เวลา ผูดแู ล
ศกึ ษาคนควา กรกฏาคม ๒๕๖๕ ครูสายชั้นอนบุ าลปท่ี 2-3
ดําเนินการจัดทาํ สงิ หาคม ๒๕๖๕ ครูสายชั้นอนุบาลปที่ 2-3
ดาํ เนินการจดั การรายรับรายจาย สงิ หาคม ๒๕๖๕ ครูสายชั้นอนบุ าลปที่ 2-3
เรยี นรูวัสดุอปุ กรณท่ใี ช
ขัน้ ตอนการทํา
ลา งแครอทและตนหอม
หั่นแครอทและตนหอมเปนชิ้นเล็กๆ
แกะพลาสติกไสกรอกและนํามาเสียบไม
ตอกไขใสแกวใสตนหอมแครอททีห่ ่ันแลวลงไป
ปรุงรสชาติดวยซอสแมกก้ี พริกไทยและใสรสดีเล็กนอ ยคนเบาๆใหเขา กัน
นาํ ไขท่ีปรงุ เรียนรอยแลวเทใสเครื่องหลังจากน้นั นาํ น้ําไสก รอกทเี่ สยี บไมไ วแลวใสลงไปรอสกุ ไข
มว นกจ็ ะดันขึ้นมาเปนอันเสร็จสิ้น สามารถนําไปทานหรือขายไดเพือ่ เพม่ิ รสชาติควรใสซอส
มะเขือเทศ
สรปุ ผลการศึกษา จากการทีไ่ ดศกึ ษาและลงมอื ปฎิบัตใิ นโครงงานอาชีพเร่ืองไขแ ปลงราง
นักเรียนไดเ รียนรูคณุ ประโยชนข องไขท่ีมีตอ รา งกายไดเรียนรวู ธิ ีการทําไขมว นและไดมีกจิ กรรม
รวมกันเพอ่ื เสรมิ สรางความสามัคคีและฝก ประสบการณการทาํ งานรวมกับผูอื่น ซ่งึ ตวั นักเรียนเอง
มีความสขุ กับกิจกรรมนี้
อภิปรายผล
โครงงานอาชีพเรื่องไขแปลงรางทําใหนักเรียนไดเรยี นรูประโยชนของไข วิธีกระบวนการในการ
สรางอาชพี อีกรูปแบบหน่ึง ซึ่งทาํ ไดไมยากและเปนการเรียนรเู พอ่ื ตอยอดในอนาคตได
ปญ หา อปุ สรรค
-
ขอเสนอแนะ
ภาคผนวก