หน่วยการเรียนรู้ที่ ๘ ฉบับที่ ๑
มหาชาติ
หรือ มหาเวสสันดรชาดก
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔
ประวัติความเป็นมา - มหาชาติ คือ ชาติ
อันยิ่งใหญ่ของ
และความสำคัญ พระโพธิสัตว์
(พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็น "พระเวสสันดร” พระชาติ
สุดท้ายก่อนเป็นพระพุทธเจ้า)
- เป็นการบำเพ็ญทศบารมี (บารมีทั้ง ๑๐ ประการ) ครบ
ถ้วนในชาติของพระเวสสันดร
- เรียกอีกชื่อ มหาเวสสันดรชาดก
- มีหลักกฐานปรากฏในจารึกวัดศรีชุม สมัยอยุธยา
- นิยมนำมาเทศน์ เรียกว่า เทศน์มหาชาติ
- ภาคเหนือ เรียกว่า ตั้งธรรมหลวง
จารึกวัดศรีชุม สมัยอยุธยา - ภาคอีสาน เรียกว่า งานบุญพระเวส หรือ บุญผะเหวด
- ภาคใต้ และภาคกลาง เรียกว่า ฟังเทศน์มหาชาติ
๑) มหาชาติภาคกลาง ผู้แต่ง
กระทรวงศึกษาธิการคัดเลือกสำนวนที่ไพเราะลงใน
แบบเรียนประกอบด้วย ๑๓ กัณฑ์ ดังนี้
- พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
(กัณฑ์วนปเวสน์, กัณฑ์จุลพน และ กัณฑ์สักกบรรพ)
- สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
(กัณฑ์ทศพร, กัณฑ์หิมพานต์, กัณฑ์วนปเวสน์, กัณฑ์จุลพน,
กัณฑ์สักกบรรพ, กัณฑ์มหาราช, กัณฑ์ฉกษัตริย์ และ นครกัณฑ์
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- เจ้าพระยาพระคลัง (หน)
(กัณฑ์กุมาร และกัฑณ์มัทรี)
เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ผู้แต่งต่อ หน้า ๒
- พระเทพโมลี (กลิ่น) (กัณฑ์มหาพน) หน้า ๒@ @
- สำนักวัดถนน (ทานกัณฑ์)
ผู้แต่ง (ต่อ) - สำนักวัดสังข์กระจาย (กัณฑ์ชูชก)
๒) มหาชาติภาคเหนือ พระเทพโมลี (กลิ่น)
สำนวนที่น่าสนใจได้แก่ “มหาชาติสำนวนสร้อยสังกร” รวบรวมโดย
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ฟู อฺตตสิโว)
๓) มหาชาติภาคอีสาน
มีเนื้อเรื่องเหมือนกับฉบับภาคกลาง
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ฟู อฺตตสิโว) ต่างกันที่สำนวนโวหารซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่น
๔) มหาชาติภาคใต้
สำนวนที่น่าสนใจ เช่น พระมหาชาดก ไม่ทราบผู้แต่ง ทราบเพียงนามผู้คัดลอก คือ
พระภิกษุญีมเซ่า
มหาชาติ หรือเวสสันดรชาดกสำนวนภาคกลาง
ในบทเรียนแต่งด้วย “ร่ายยาว” เป็นการเรียบเรียง
ถ้อยคำให้คล้องจองกันเป็นวรรค ๆ วรรคหนึ่งมี คำ ลักษณะคำประพันธ์
ทั้งหมด ๖ คำขึ้นไป จนถึงประมาณ ๑๕ คำ
บังคับเฉพาะสัมผัสระหว่างวรรค คือ คำสุดท้ายของวรรคหน้าส่งสัมผัสไปยังวรรคหลัง
ซึ่งรับสัมผัสได้แทบทุกคำ ยกเว้นคำ ที่อยู่ท้ายวรรค เป็นเช่นนี้จนจบ แต่ละบทยาวเท่าใด
ก็ได้ มักไม่ต่ำกว่า ๕ วรรค โดยร่ายยาวมหาเวสสันดร จะยกคาถาบาลีนำก่อน แล้วจึง
แต่งร่ายยาวตาม
แผนผังร่ายยาว
ตัวอย่าง มหารชาติ หรือเวสสันดรชาดก กัณฑ์ชูชก
พระพุทธเจ้าเล่าเรื่อง
“มหาชาติ หรือ มหาเวสสันดร
ชาดก” ให้พระภิกษุฟัง สาเหตุนั้นเนื่องจาก
ที่มาของเรื่อง - พระพุทธเจ้าโปรดพระบิดา และพระประยูรญาติ
- พระประยูรญาติไม่แสดงความเคารพ เพราะถือว่า
พระพุทธเจ้าอายุน้อยกว่า
- พระพุทธเจ้าจึงแสดงยมกปาฏิหาริย์
(แสดงปาฏิหาริย์คู่โดยการแสดงให้มีสายน้ำไหล
และท่อไฟพลุ่งออกมาจากพระวรกาย)
ที่มาของเรื่องต่อ หน้า ๓ ภาพวาดพระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์แสดงยมกปาฏิหาริย์
หน้า ๓@ - เกิดฝนโบกขรพรรษ มีลักษณะเป็น ที่มาของเรื่อง
สีแดงอิฐ หากใครต้องการให้เปียกก็จะเปียก หากใคร
ไม่ต้องการให้เปียกก็จะไม่เปียก
- พระภิกษุทั้งหลายเกิดความ (ต่อ)
สงสัยในสาเหตุของการเกิดฝนโบกขรพรรษ
- พระพุทธเจ้าจึงตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า “ฝนโบกขรพรรษนี้
เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต” พระพุทธองค์จึงแสดงธรรมเรื่อง
“มหาชาติ หรือ มหาเวสสันดรชาดก”
ฝนโบกขรพรรษ
มหาชาติ หรือมหาเวสสันดรชาดก
๑๓ กัณฑ์
กัณฑ์ที่ @๑ ทศพร กัณฑ์ที่ ๒ หิมพานต์
กัณฑ์ที่ ๓ ทานกัณฑ์ กัณฑ์ที่ ๔ วนปเวสน์ กัณฑ์ที่ @๕ ชูชก
กัณฑ์ที่ @๖ จุลพน กัณฑ์ที่ @๗ มหาพน
กัณฑ์ที่ @๑๐ สักรบรรพ กัณฑ์ที่ ๑@ ๑ มหาราช กัณฑ์ที่ @๘ กัณฑ์กุมาร กัณฑ์ที่ @๙ กัณฑ์มัทรี
กัณฑ์ที่ @๑๒ ฉกษัตริย์ กัณฑ์ที่ @๑๓ นครกัณฑ์
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๘ ฉบับที่ ๒
สรุปมหาชาติ
หรือ มหาเวสสันดรชาดก
๑๓ กัณฑ์
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔
กัณฑ์ที่ ๑ ทศพร กัณฑ์ที่ ๒
หิมพานต์
พระอินทร์ประสาทพร ๑๐ พระเวสสันดรเป็นพระราช-
ประการแก่พระนางผุสดี โอรสของพระเจ้ากรุงสญชัยกับ
อัครมเหสี ก่อนจุติลงมาเป็นพระ พระนางผุสดีแห่งนครเชตุดร
ราชมารดาของพระเวสสันดร แคว้นสีวีราษฎร์ ประสูติ ณ
โดยพร ๑๐ ประการมีดังนี้ ตอกพ่อค้า เมื่อพระเวสสันดรเจริญชนม์ ๑๖
พรรษา ได้รับเวนราชสมบัติจากพระราชบิดา
๑. ขอให้เกิดในกรุงมัททราช แคว้นสีพี พระองค์พระราชทานช้างปัจจัยนาเคนทร์แก่พระเจ้า
๒. ขอให้มีดวงเนตรคมงามและดำขลับดั่ง กาลิงคะ กษัตริย์แห่งแคว้นกลิงคราษฎร์ เนื่องจาก
ลูกเนื้อทราย พระเจ้ากาลิงคะส่งพราหมณ์มาขอพระราชทานช้าง
๓. ขอให้คิ้วคมขำดั่งสร้อยคอนกยูง
๔. ขอให้ได้นาม “ผุสดี” ดังภพเดิม ปัจจัยนาเคนทร์ เพื่อให้ฝนตกในบ้านเมืองที่แห้งแล้ง
๕. ขอให้มีพระโอรสเกริกเกียรติที่สุดในชมพูทวีป กันดาร ประชาชนเกิดความไม่พอใจ พระเวสสันดร
๖. ขอให้พระครรภ์งาม ไม่ป่องนูนดั่งสตรีสามัญ จึงถูกเนรเทศออกจากเมืองไปอยู่ป่าหิมพานต์
๗. ขอให้พระถันเปล่งปลั่งงดงามไม่ยานคล้อยลง
๘. ขอให้เส้นพระเกศาดำขลับตลอดชาติ
๙. ขอให้ผิวพรรณละเอียดบริสุทธิ์ดุจทองคำ
ธรรมชาติ
๑๐. ขอให้ได้ปลดปล่อยนักโทษที่ต้องอาญา
ประหารได้
พระเวสสันดรทรง ทำมหาสัตตสดกทาน คือ การแจกทานครั้งยิ่งใหญ่ ก่อนที่
พระเวสสันดรพร้อมด้วยพระนางมัทรี พระชาลีและพระกัณหาออกจากเมือง จึงทูล
ขอพระราชทานโอกาสบำเพ็ญมหาสัตตสดกทาน อันได้แก่ ช้าง ม้า รถ โคนม
นางสนม ทาสหญิง และทาสชาย อย่างละ ๗๐๐
กัณฑ์ที่ ๓ ทานกัณฑ์ สรุปต่อ หน้า ๒
หน้า ๒ กัณฑ์ที่ ๔ กัณฑ์ที่ ๖ จุลพน
วนปเวสน์
พระเวสสันดร พระนางมัทรี กล่าวถึงพรานเจตบุตรหลงกล
พระชาลี และพระกัณหาเดินทาง ชูชก อ้างว่าตนเป็นพราหมณ์ราช-
สู่เขาวงกตผ่านแคว้นเจตราษฎร์ ฑูตที่พระเจ้ากรุงสญชัยรับสั่งให้นำ
กษัตริย์ผู้ครองนครเจตราชจึงทูล พระราชสาสน์ไปถวายพระเวสสันดร พรานเจตบุตร
เสด็จครองเมือง แต่พระเวสสันดรทรงปฏิเสธ จึงต้อนรับและเลี้ยงดูชูชกเป็นอย่างดี แล้วพาไปยัง
กษัตริย์เจตราชจึงมอบหมายให้พรานเจตบุตรผู้มี ต้นทางที่จะไปอาศรมของอจุตฤาษีเพื่อให้บอกทาง
ความเชี่ยวชาญชำนาญป่า เป็นผู้รักษาประตู อาศรมของพระเวสสันดร
ทางเข้าเขาวงกตในป่าหิมพานต์ ให้กษัตริย์ทั้ง ๔
พระองค์ปลอดภัย และเมื่อสี่กษัตริย์ถึงเขาวงกต
ได้พบอาศรมที่ท้าววิษณุกรรมเนรมิตตามพระบัญชา กัณฑ์ที่ ๗ มหาพน
ของพระอินทร์ กษัตริย์ทั้งสี่จึงทรงผนวชเป็นฤาษี
พำ นักในอาศรมนั้นสืบมา
เมื่อชูชกถึงอาศรมได้พบกับ
อจุตฤาษี ชูชกใช้คารมหลอกล่อ
กัณฑ์ที่ ๕ ชูชก จนอจุตฤาษีให้ที่พักหนึ่งคืนและ
บอกเส้นทางไปยังอาศรมพระเวสสันดร พร้อมทั้ง
พรรณนาหมู่สัตว์และพรรณไม้ตามเส้นทางให้ชูชก
กล่าวถึงพราหมณ์ชราชื่อชูชก ฟัง
พำ นักในบ้านทุนวิฐแคว้น
กลิงคราษฎร์ เที่ยวขอทาน
ตามเมืองต่าง ๆ เมื่อได้เงินถึง ๑๐๐ กหาปณะ
จึง นำ ไปฝากไว้กับพราหมณ์ผัวเมียแล้วออกเดินทาง
ขอทานต่อไป ซึ่งสองผัวเมียเมื่อเห็นว่าชูชกหาย
ไปนานจึงได้นำเงินไปใช้เป็นการส่วนตัว เมื่อชูชก
เดินทางมาทวงเงินคืนจึงยกนางอมิตดาลูกสาวให้แก่
ชูชก นางอมิตดาเมื่อมาอยู่ร่วมกับชูชกได้ ทำ หน้าที่
ของภรรยาอย่างดี ทำให้ชายในหมู่บ้านเปรียบเทียบ
กับภรรยาของตน หญิงในหมู่บ้านจึงเกลียดชังและ
รุมทำร้ายทุบตีนางอมิตดา ชูชกจึงเดินทางไปทูลขอ
พระกัณหาและพระชาลีเพื่อมาเป็นทาสรับใช้
กัณฑ์ที่ ๘เมื่อเดินทางมาถึงเขาวงกตก็ถูกขัดขวางจาก
พรานเจตบุตรผู้รักษาประตูทางเข้าเขาวงกต
กัณฑ์กุมาร
เป็นกันณ์ที่พระเวสสันดรทรงให้ทานพระชาลี แลพพระกัณหาแก่เฒ่าชูชก โดยมีเนื้อ
ความย่อว่า
พระนางมัทรีฝันร้ายเหมือนบอกเหตุแห่งการพลัดพราก รุ่งเช้าเมื่อพระนางมัทรีเข้าป่า
หาอาหารแล้ว ชูชกจึงเข้าเฝ้าพระเวสสันดรเพื่อทูลขอสองกุมาร สองกุมารลงไปซ่อนตัวอยู่ที่
สระโบกขรณี พระเวสสันดรจึงเสด็จติดตามหาสองกุมารแล้วมอบให้แก่ชูชก
สรุปต่อ หน้า ๓
กัณฑ์ที่ ๙ ๑๑กัณฑ์ที่ หน้า ๓
กัณฑ์มัทรี มหาราช
พระนางมัทรีเดินเข้าไปหาผลไม้ กล่าวถึงชูชกเดินทางผ่านป่าใหญ่
ในป่าลึกจนคล้อยเย็น จึงเดินทาง เมื่อพบ ค่ำจึงผูกสองกุมารไว้ที่โคน
กลับอาศรม แต่มีเทวดาแปลงกาย ต้นไม้ ส่วนตนปีนขึ้นไปนอน
เป็นเสือนอนขวางทางจน ค่ำ เมื่อกลับถึงอาศรม บนต้นไม้ เหล่าเทพเทวดาจึง
ไม่พบสองกุมาร อีกทั้งพระเวสสันดรได้กล่าวหา แปลงกายลงมาปกป้องสองกุมารจนเดินทางถึง
ว่านางนอกใจ พระนางมัทรีจึงออกเที่ยวหาสอง กรุงสีพี พระเจ้ากรุงสีพีเกิดนิมิตฝัน ตาม คำ ทำนาย
กุมาร และกลับมาสิ้นสติต่อเบื้องพระพักตร์ นั้นนำมายังความปีติปราโมทย์ เมื่อเสด็จลงมา
พระเวสสันดร พระองค์ทรงตกพระทัยลืมตน หน้าลานหลวงตอนรุ่งเช้า ทอดพระเนตรเห็นชูชก
ว่าเป็นดาบสทรงเข้าประคองพระนางมัทรีและทรง และกุมารทั้งสองพระองค์ ทรงทราบความจริง
กันแสงออกมา เมื่อพระนางมัทรีฟื้นจึงถวายบังคม จึงพระราชทานค่าสินไถ่ให้กับชูชก ต่อมาชูชก
ประทานโทษ พระเวสสันดรตัดสินพระทัย ถึงแก่ความตาย เพราะกินอาหารมากเกินขนาด
บอกความจริงว่าได้ประทานสองกุมารให้แก่ชูชก จนไม่ย่อย พระชาลีจึงทูลขอให้ไปรับพระบิดาและ
ไปแล้ว พระนางมัทรีจึงได้ทรงอนุโมทนาใน พระมารดากลับพระนคร ในขณะเดียวกันกษัตริย์
ปิยบุตรทานนั้น นครลิงคราษฏร์ได้คืนช้างปัจจัยนาคแก่นครสีพี
กัณฑ์ที่ ๑๐ กัณฑ์ที่๑๒
สักรบรรพ ฉกษัตริย์
พระอินทร์เกรงว่าพระเวสสันดร กล่าวถึงพระเจ้ากรุงสญชัย
จะประทานพระนางมัทรีให้แก่ ใช้เวลา ๑ เดือน กับ ๒๓ วัน
ผู้ที่มาขอ จึงแปลงเป็นพราหมณ์เพื่อมาทูลขอ ในการเดินทางไปยังเขาวงกต เสียงโห่ร้องของทหาร
พระนางมัทรี พระเวสสันดรจึงประทานให้ ทั้ง ๔ เหล่าทำ ให้พระเวสสันดรทรงคิดว่าเป็นข้าศึก
พระนางมัทรีก็ยินดี ทรงอนุโมทนาเพื่อร่วม มาโจมตีนครสีพี จึงชวนพระนางมัทรีขึ้นไปแอบดู
ทานบารมีให้สำเร็จพระสัมโพธิญาณ เป็นเหตุให้เกิด ที่ยอดเขา พระนางมัทรีทรงมองเห็นกองทัพ
แผ่นดินไหวสะท้าน พระอินทร์ในร่างพราหมณ์ พระราชบิดาจึงได้ตรัสทูลพระเวสสันดร และเมื่อ
จึงฝากพระนางมัทรีไว้ยังไม่รับไป แล้วตรัสบอก หกกษัตริย์ได้พบกัน ทรงกันแสงสุดประมาณ
ความจริงและถวายคืน พร้อมทั้งถวายพระพร จนหมดสติ รวมทั้งทหารเหล่าทัพ ทำให้ป่าใหญ่
๘ ประการ สนั่นครั่นครื้น พระอินทร์ทรงเห็นจึงได้บันดาลให้ฝน
โบกขรพรรษตกลงมาประพรมกษัตริย์ให้หายเศร้า
กัณฑ์ที่ ๑๓ โศกและฟื้นคืนสติ
นครกัณฑ์ กล่าวถึงพระเจ้ากรุงสญชัยตรัสสารภาพผิด
พระเวสสันดรจึงทรงลาผนวชพร้อมทั้งพระนางมัทรี
เสด็จกลับสู่สีพีนคร เมื่อเสด็จถึงจึงรับสั่งให้ชาวเมืองปล่อยสัตว์ที่กักขัง ครั้นยามราตรี
พระเวสสันดรทรงปริวิตกว่า รุ่งเช้าประชาชนจะแตกตื่นมารับบริจาคทาน พระองค์ไม่รู้ว่า
จะประทานสิ่งใดให้แก่ประชาชน พระอินทร์ได้ทราบจึงบันดาลให้มีฝนแก้ว ๗ ประการ
ตกลงมาในนครสีพีสูงถึงหน้าแข้ง พระเวสสันดรจึงทรงประกาศให้ประชาชนมาขนเอาไปตามปรารถนา
ที่เหลือให้ขนเข้าพระคลังหลวง ในกาลต่อมาพระเวสสันดรเถลิงราชสมบัติปกครองนครสีพีโดย
ทศพิธราชธรรม บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุขตลอดพระชนมายุ
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๘ ฉบับที่ ๓
บทวิเคราะห์
มหาชาติ หรือ
มหาเวสสันดรชาดก
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔
คุณค่าด้านวรรณศิลป์ คุณค่าด้านเนื้อหา
มหาชาติแต่ละสำนวนมีความแตกต่างกันในแต่ละ ความรู้ที่ได้จากการอ่าน มีดังนี้
ท้องถิ่น สำ หรับ สำ นวนภาคกลางถือว่าร่ายยาว ๑. รู้เนื้อเรื่องโดยย่อของมหาชาติทั้ง ๑๓ กัณฑ์
มหาเวสสันดรชาดกที่กวีทั้ง ๖ ท่านแต่งไว้นั้น เป็นพื้นฐานในการศึกษาวรรณคดีเรื่อง มหาชาติ
เยี่ยมยอดในเรื่องภาษาวรรณศิลป์ เช่น ตอน หรือเวสสันดรสำนวนต่าง ๆ ต่อไป
พระอัจจุตฤๅษีบอกเส้นทางไปเขาวงกตแก่ชูชก ๒. รู้จักลักษณะของมหาชาติสำนวนต่าง ๆ
ซึ่งพรรณนาโดยใช้คำอลังการและสัมผัสอักษร ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันของแต่ละภาค
อย่างแพรวพราว เป็นต้น ๓. รู้ลักษณะของสังคมไทยในถิ่นต่าง ๆ
นอกจากนี้ มหาชาติบางสำนวนยังมีการใช้กลบท จากมหาชาติสำนวนท้องถิ่น
หลายชนิด ซึ่งเพิ่มคุณค่าทางวรรณศิลป์มากยิ่งขึ้น
เช่น กลบทกบเต้น สลักเพชร ในกัณฑ์มหาราช
เป็นต้น
คุณค่าด้านปัญญา ๑. การทำ บุญจะทำ ให้สมปรงสงค์ต้องอธิษฐาน
และความคิด ตามเป้าหมายชีวิตที่ตนปรารถนาไว้
ต่อเ๒นื่.อกงกาันร ทำ ความดีต้อง ทำ เรื่อยไป ทุกชาติภพ
๓. ในเรื่องมหาชาติได้แสดงตัวอย่างของพระชาติที่ยิ่งใหญ่ด้วยทศบารมี เห็นตัวอย่างจากการบำเพ็ญ
บารมีอันยากยิ่งที่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาจะทำได้
๔. คุณค่าของมหาชาติเป็นเรื่องที่ประจักษ์ชัดเจนในศรัทธาของพุทธศาสนิกชนมายาวนาน ตั้งแต่สมัย
สุโขทัยดังปรากฏในจารึกวัดศรีชุม
๕. แสดงให้เห็นถึงความเชื่อและความศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่อยู่คู่กับสังคมไทยจากอดีตจนถึง
ปัจจุบัน
๖. สะท้อนให้เห็นถึงประเพณีทางพระพุทธศาสนาที่ สำคัญเกี่ยวกับการ บุญฟังเทศน์ของ
พุทธศาสสนิกชน เกี่ยวกับการ ทำ บุญฟังเทศน์ของพุทธศาสนิกชน
๗. มหาชาติในแต่ละท้องถิ่นมักแสดงให้เห็นถึงลักษณะชีวิต ความเป็นอทำยู่ และความเชื่อได้อย่างชัดเจน