แนวทางการใช้ตารบั ยาแผนไทยที่มีกญั ชาปรงุ ผสมอยู่
แพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือกพรหมพิราม
จดั ทำโดย: เจรญิ คลังเอ่ยี ม และทมี แพทย์แผนไทย
แผนภมู ทิ ่ี 1 ข้นั ตอนการให้บริการการดแู ลรักษาที่ได้รบั ตารับยาแผนไทยท่ีมีกญั ชาปรงุ ผสมอยู่
ผปู้ ่วย
OPD แพทย์แผนไทย
(คลนิ กิ โรคท่ัวไป) (1)
ผา่ นเกณฑ์ ไม่ใช่ พบแพทย์แผนปจั จบุ ัน
(2) (3)
การคัด
กรอง ใช่
- ซกั ประวัติ (4)
- การตรวจประเมิน (5)
- การตรวจทางหอ้ งปฏิบัติการ (6)
ลงนามในใบยนิ ยอมดว้ ยความสมคั รใจ
(Informed Consent Form)
ส้ินสดุ การรกั ษา (11) รกั ษาด้วยวิธที างการแพทย์แผนไทยตามมาตรฐานวชิ าชีพ (7)
ใช่ - ปรบั การรักษา (8) ติดตาม
ดขี ้นึ อาการ
- ให้คาแนะนา (9)
ดีขนึ้
- ประเมินผลและตดิ ตามผลการรกั ษา (10)
ไม่ใช่ ไมด่ ีขน้ึ
-คลินิกกัญชา (12)
-ปรกึ ษาส่งต่อ (13)
-
consult แพทยเ์ พอื่ ใหช้ ่วยส่ังตรวจ / สง่ พยาบาลเจาะเลอื ดส่งหอ้ งปฏิบตั ิการ ได้แก่ คา่ AST, ALT, BUN
และ Creatinine
* * *หมายเหตุ : ถา้ มผี ลเลอื ดทมี่ คี า่ ดังกล่าวทตี่ ้องการ ไมเ่ กนิ 3 เดือนสามารถใช้ได้ ไม่ต้องส่ังตรวจใหม่
(พจิ ารณาเป็นกรณ)ี
คาอธบิ ายแผนภูมิ
(1) คาจากดั ความ
OPD แพทยแ์ ผนไทย หมายถงึ คลนิ ิกผูป้ ว่ ยนอกท่ีผ้ปู ่วยได้รบั ตรวจ วินจิ ฉยั วางแผนการรกั ษาตามวิชาชพี
การแพทย์แผนไทย
เกณฑก์ ารคดั กรองผ้ปู ่วยนอก
คลนิ กิ แพทยแ์ ผนไทยไดม้ กี ารดแู ล รกั ษา ผู้ป่วยดว้ ยศาสตร์การแพทย์แผนไทยเป็นหลัก โดยกาหนดเกณฑ์
การคัดกรองต่างๆ ดงั น้ี
(2) เกณฑท์ ร่ี บั ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาคลนิ ิกผปู้ ่วยนอกในสถานบริการสุขภาพ (Inclusion criteria)
- ไม่มีประวัติการแพ้ยาสมนุ ไพร
- ผูป้ ่วยมสี ัญญาณชีพและอาการทางคลนิ กิ คงที่ (Vital Sign Stable & Clinically Stable)
- เปน็ ผูป้ ่วยที่มีอาการหรือเป็นโรคที่เขา้ เกณฑต์ ามแนวเวชปฏิบัตใิ นการเข้ารบั การรกั ษาดว้ ยตารบั ยา
แผนไทย ทมี่ กี ัญชาปรงุ ผสมอยู่
- ภาวะที่แพทย์/แพทย์แผนไทย เห็นสมควรไดร้ บั การรักษาด้วยตารับยาแผนไทยทม่ี กี ัญชาปรงุ ผสมอยู่
- ผูป้ ่วยท่ไี ดร้ ับการรักษาจากสถานบรกิ ารสขุ ภาพอ่ืนหรือผู้ปว่ ยท่ีไดร้ บั การรักษาดว้ ยยาขนานแรกทาง
การแพทย์แผนไทยแล้วอาการไม่ดขี ้นึ
- มกี ารรับรู้และสติสัมปชญั ญะดี สามารถส่ือความหมายเข้าใจ
(3) เกณฑ์ที่ไมร่ ับผปู้ ่วยเข้ารับการรักษาในสถานบริการสขุ ภาพ (Exclusion criteria)
- เปน็ ผู้ปว่ ยทีม่ ีพยาธิสภาพที่ไตรุนแรง โดยมีค่า Serum creatinine สงู กว่า 2.0 มก./ดล. และ/หรอื ค่า
BUN สงู กว่า 40 มก./ดล. มีความผิดปกติของค่าอิเล็กโตไลตท์ ่ีรนุ แรง (Electrolyte abnormalities)
เชน่ ภาวะโซเดียมในเลือดต่า (hyponatremia), ภาวะโปแตสเซยี มในเลือดตา่ (hypokalemia) หรือ
ภาวะเลอื ดเป็นกรด (acidosis) เปน็ ตน้
- ผ้ปู ว่ ยมีภาวะทางคลินกิ อน่ื ๆ เชน่ ผปู้ ่วยโรคหวั ใจและหลอดเลือดขน้ั รุนแรง หรอื ไมส่ ามารถคมุ อาการได้
- ผู้ป่วยโรคติดตอ่ รา้ ยแรง หรอื ผูป้ ว่ ยโรคตดิ เชอื้ ในระยะแพร่กระจาย
- ผูท้ ม่ี ีประวตั ิแพ้ผลิตภัณฑ์ทไ่ี ด้จากการสกดั กญั ชา หรือสว่ นประกอบใดๆในยาน้ี (ผลิตภณั ฑ์นี้มสี ่วนผสม
ของน้ามะพร้าว)
- ผปู้ ่วยทม่ี ีประวัตคิ วามผดิ ปกติทางจิตเวช หรอื มีอาการของโรคอารมณแ์ ปรปรวน หรอื โรควติ กกังวล
- สตรมี ีครรภ์ หรือสตรที ่ใี ห้นมบุตร
- ผ้ทู ี่ใชย้ าละลายลิ่มเลอื ดวาร์ฟารนิ
- ผปู้ ว่ ยทต่ี ิดสารเสพติด รวมถึงผู้ดม่ื สุราอย่างหนกั
ข้อควรระวังการใชย้ า : ระวงั การใช้ยากลมุ่ ผู้ป่วย ดงั นี้
*ยกเวน้ ในกรณีที่แพทย์แผนไทย/แพทยแ์ ผนไทยประยุกต์พิจารณาแล้ววา่ ผ้ปู ว่ ยได้รบั ประโยชนม์ ากกวา่ ความเส่ยี ง
- ผ้ทู ่ีทางานขบั ขี่ ยานพาหนะ หรือเกยี่ วกับเคร่อื งจักรกล หรือทางานทเี่ ส่ียงอนั ตราย เพราะยาน้ีอาจทา
ใหง้ ว่ งซมึ
- บุคคลที่อายตุ า่ กว่า 25 ปี เพราะอาจมผี ลต่อพฒั นาการทางสมอง
(4) การซักประวตั ิ
- การซักประวตั ิอาการผ้ปู ่วย
คาอธิบายแผนภมู ิ
(5) การตรวจประเมิน
- การตรวจประเมินอาการทางคลนิ กิ (ตามแบบบันทกึ ข้อมูลการใช้กัญชา)
- การจบั ชีพจร และการตรวจรา่ งกายตามเบญจอินทรีย์ ได้แก่ ตา หู จมกู ล้นิ และกาย
- การตรวจตามแบบประเมินเฉพาะโรค
(6) การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
โดยมีการตรวจ Methamphetamine, ตรวจค่าการทางานของไต BUN และ Creatinine, ตรวจคา่
การทางานของตับ AST และ ALT , ตรวจค่าอเิ ล็กโตไลตใ์ นเลือด (Blood Electrolyte)
(7) รักษาดว้ ยวธิ ีทางการแพทยแ์ ผนไทยตามมาตรฐานวิชาชีพ
- การจ่ายยาสมุนไพรตารบั ต่างๆ
- การทาหัตถการอืน่ ๆ ตามความเหมาะสม อาทิ การนวด ประคบสมนุ ไพร พอกยาสมุนไพร หรอื
แช่สมนุ ไพร เปน็ ต้น
(8) ปรบั การรักษา
- มีการปรับจ่ายยาสมนุ ไพรตารับตา่ งๆ
- ปรบั การทาหัตถการอ่นื ๆ ตามความเหมาะสม อาทิ การนวด ประคบสมนุ ไพร พอกยาสมุนไพร
หรือ แชส่ มนุ ไพร เปน็ ตน้
(9) ใหค้ าแนะนา/ปรับเปลย่ี นพฤตกิ รรม เช่น
- ดื่มนา้ สะอาดอย่างน้อย 8-10 แก้ว/วนั
- ควรหลีกเลย่ี งการรับประทานของหมกั ดอง อาหารสาเรจ็ รูป ผลติ ภณั ฑ์เสริมอาหาร
- หลกี เล่ียงการบรโิ ภคเนือ้ สตั ว์ เคร่ืองในสัตว์ หรอื อาหารที่ยอ่ ยยาก
- แนะนาเร่ืองอ่นื ๆ เช่น การรักษาความสะอาด การสวดมนต์ นง่ั สมาธิ การคลายเครยี ด เปน็ ตน้
(10) การประเมนิ ผลและการติดตามผลดขี ึ้น นัดผ้ปู ่วยทกุ ๆ 1 -2 สปั ดาหเ์ พ่ือตดิ ตามอาการ
- ประเมนิ อาการทางคลนิ กิ เพ่ือปรบั เปลี่ยนวธิ ีการรักษา เชน่ การประเมนิ ผล PPS, การประเมินESAS,
การประเมิน EQ-5D-5L เพือ่ ปรบั เปลี่ยนวธิ ีการรักษาและปรบั เปล่ียนการให้คาแนะนา
(11) การจาหน่าย
อาการผูป้ ว่ ยดขี ึน้ ตามแบบประเมนิ เฉพาะโรค
(12) คลนิ ิกกัญชา หมายถึง คลินิกทเ่ี ปิดให้บริการดแู ลรักษาผู้ป่วยดว้ ยตารบั ยาแผนไทยทม่ี กี ญั ชาปรงุ ผสม
อยูต่ ามแนวทางการแพทยแ์ ผนไทยควบคกู่ ับแพทยแ์ ผนปัจจุบนั โดยมีหลักเกณฑก์ ารจดั บรกิ ารคลินิก
กญั ชาทางการแพทย์แผนไทย
(13) เกณฑก์ ารปรึกษาส่งต่อ
1) พบภาวะแทรกซ้อนรนุ แรงข้นึ หรือมีอาการเลวลง ในระหว่างเข้ารับการรักษาในหอผู้ปว่ ยใน
2) เกิดภาวะฉุกเฉินดังตอ่ ไปนี้
- เบ่อื อาหารทาให้รบั ประทานอาหารได้น้อยจนมีอาการอ่อนเพลยี รุนแรง
- ถ่ายดา (Black tarry stool) /อาเจยี นเปน็ เลอื ด
- มีอาการปวดท้องคลื่นไส้ เบ่ืออาหาร และ/หรือมีภาวะซดี อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็วและเบา เป็นลม
และหมดสติ
- พฤติกรรมแปลกไป เชน่ ซมึ หมดสติ ชกั คลุม้ คล่งั ควบคุมสตไิ ม่ได้
ยาศุขไสยาศน์
สตู รตารับยา ประกอบด้วย ตวั ยา 12 ชนดิ รวมนา้ หนกั 78 ส่วน ดงั น้ี
ลาดับ ตัวยา น้าหนักยา
1 การบรู 1 สว่ น
2 ใบสะเดา 2 ส่วน
3 หสั คุณเทศ 3 ส่วน
4 สมลุ แวง้ 4 สว่ น
5 เทยี นดา 5 ส่วน
6 โกฐกระดกู 6 สว่ น
7 ลกู จันทน์ 7 ส่วน
8 บนุ นาค 8 สว่ น
9 พรกิ ไทย 9 ส่วน
10 ขงิ แห้ง 10 สว่ น
11 ดีปลี 11 สว่ น
12 ใบกญั ชา 12 ส่วน
ขอ้ บ่งใช้ : ชว่ ยให้นอนหลบั เจรญิ อาหาร รูปแบบยา ยาผง , แคปซลู
ขนาดและวธิ ใี ช้
สาหรบั อาการนอนไมห่ ลบั รับประทานครั้งละ 0.5-2 กรมั วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน
สาหรับอาการเบื่ออาหาร รับประทานคร้ังละ 0.5-2 กรัม วันละ 1- 2 คร้ัง ก่อนอาหาร
น้ากระสายยาท่ใี ช้
- น้าผึ้งรวง 1 ช้อนชา (5 ซซี )ี
- ถา้ หานา้ กระสายยาไม่ได้ ให้ใชน้ า้ ตม้ สุกครง่ึ แก้ว (125 ซซี ี) แทน
ขอ้ ห้ามใช้ หา้ มใช้ในหญงิ ตงั้ ครรภห์ ญิงให้นมบุตร ผ้ทู ีม่ ีไข้
ขอ้ ควรระวงั 1. ควรระวังการรบั ประทานร่วมกับยาในกลุ่มสารกันเลอื ดเปน็ ลม่ิ (anticoagulant) และยาต้านการ
แข็งตวั ของเลอื ด (antiplatelet)
2. ควรระวังการใช้ยาอยา่ งต่อเน่ือง โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงในผ้ปู ่วยท่ีมคี วามผิดปกตขิ อง ตบั ไต เนอื่ งจากอาจ
เกิดการสะสมของการบูรและเกดิ พิษได้
3. ควรระวังการใช้รว่ มกับยา phenytoin, propranolol, theophylline และ rifampicin เนือ่ งจากมี
พริกไทยผสมในตารบั
4. ควรระวังการใชใ้ นผปู้ ว่ ยโรคความดันโลหิตสงู (กรณที ่ีไมส่ ามารถควบคุมความดัน โลหิตได้)
โรคหัวใจเตน้ ผิดจงั หวะ (กรณีทไ่ี มส่ ามารถควบคุมอาการได้) ผู้ปว่ ยโรค แผลเป่ือยเพปตกิ และกรดไหล
ยอ้ น เน่ืองจากเปน็ ตารบั ยารสร้อน
5. ควรระวงั ใชร้ ว่ มกบั ยาที่มีฤทธ์ิกดระบบประสาทส่วนกลาง เชน่ ยานอนหลับและ ยาต้านการชัก
รวมทงั้ แอลกอฮอล์ หรือส่ิงที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่
6. ยาน้ีอาจทาให้ง่วงซึมได้ ควรหลกี เลยี่ งการขบั ขี่ยานพาหนะ หรือทางานเก่ียวกบั เครอ่ื งจกั รกล
7. สาหรับผูป้ ว่ ยเบาหวาน ควรใชน้ า้ ต้มสุกเปน็ กระสาย
ข้อมูลเพม่ิ เติม อาจทาใหเ้ กิดอาการปากแหง้ คอแห้ง หนา้ แดงได้
แผนภูมิที่ 2 แนวทางการใช้ยาตารบั ศุขไสยาศน์
ผ้ปู ่ วยเข้ารับการรักษาด้วยอาการเบ่อื อาหาร ผ้ปู ่ วยเข้ารับการรักษาด้วยอาการนอนไม่
หลบั
ซกั ประวตั แิ ละตรวจร่างกาย ประเมินผลเพอ่ื
วางแผนการรักษา ซกั ประวตั แิ ละตรวจร่างกาย ประเมนิ ผลเพ่ือ
วางแผนการรักษา
พจิ ารณาจ่ายยาตามบญั ชียาโรงพยาบาล ซกั ประวตั ิและตรวจร่างกาย ประเมินผลเพ่อื วางแผนการรักษา
เชน่ ยาบอระเพ็ด ยามะระขนี ้ ก ยาหอมเทพจิตร ยาหอมนวโกฐ
เป็นเวลา 7 - 15 วนั
ยาบารุงโลหติ
ไมเ่ กิน 1 เดอื น
ตดิ ตาม ดขี ้ึน ประเมนิ ผลและติดตามการ
อาการ รักษาตอ่ เน่อื ง (ทกุ ๆ 1 เดอื น)
ไม่ดขี ้ึน ไมพ่ บขอ้ ห้ามใช้
จา่ ยยาตารับศขุ ไสยาศน์
พบข้อห้ามใช้ เป็นเวลา 7 - 15 วนั
- หญิงตงั้ ครรภ์หญิงให้นมบตุ ร
- ผ้ทู ่มี ีไข้
ปรับขนาดยาทุก 1 เดือน ไม่ใช้ ดีข้ึน
ใช้
ดขี ึน้ ใช้ ประเมนิ ผลและติดตามการรักษาตอ่ เนือ่ ง ทกุ 1 เดือน
ไม่ใช้ พิจารณาหยุดการรกั ษา เมอื่ อาการของ โรคโดยรวมปกติ
พจิ ารณาแนวทางการรักษาอนื่ โดยไมต่ ้องใชย้ า
ยาตารับแก้ลมแกเ้ ส้น
สูตรตารับยา ประกอบดว้ ย ตัวยา 7 ชนิด รวมนา้ หนัก 75 สว่ น ดงั น้ี
ลาดับ ตัวยา น้าหนกั ยา (ส่วน)
1 เทยี นขาว 1 ส่วน
2 เทียนดา 2 ส่วน
3 เทียนขา้ วเปลือก 3 สว่ น
4 ขิง 4 สว่ น
5 เจตมลู เพลิงแดง 5 ส่วน
6 ใบกัญชา 20 สว่ น
7 พริกไทย 40 สว่ น
สรรพคณุ ตามตารา
บรรเทาอาการปวดเมื่อยตงึ ลา้ กล้ามเนื้อ กระดูก เสน้ เอน็ และขอ้ ตามร่างกาย ลดอาการมอื ชาเทา้ ชา
แขนขาอ่อนโรย อาการเม่ือยล้า ปวดตามเส้น
ขอ้ บ่งใช้ : แก้ลมในเสน้ บรรเทาอาการปวดกลา้ มเนอื้ ที่มีอาการมือเท้าชา/อ่อนแรง
รปู แบบยา : ยาผง, แคปซลู
ขนาดและวิธีใช้ : รบั ประทานครัง้ ละ 1- 4 กรัม วันละ 2 ครง้ั กอ่ นอาหาร เชา้ และเยน็
น้ากระสายยาที่ใช้
- น้าผงึ้ รวงหรอื น้าส้มซา่ 1 ชอ้ นชา (5 ซซี )ี
- ถา้ หานา้ กระสายยาไม่ได้ ให้ใช้นา้ สกุ ครงึ่ แกว้ (125 ซีซ)ี แทน
ข้อหา้ มใช้
ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หญงิ ใหน้ มบุตร ผ้ทู ่มี ไี ข้
ขอ้ ควรระวัง
1. ควรระวงั การรับประทานร่วมกบั ยาในกลุ่มสารกันเลือดเปน็ ลมิ่ (anticoagulant) และยาต้านการจบั ตวั
ของเกล็ดเลอื ด (antiplatelet)
2. ควรระวังการใชร้ ว่ มกบั ยา phenytoin, propranolol, theophylline และ rifampicin
3. ควรระวังการใช้ในผปู้ ว่ ยโรคความดนั โลหิตสงู (กรณีท่ไี ม่สามารถควบคุมความดนั โลหติ ได้) โรคหัวใจ
(กรณที ่ีไม่สามารถควบคมุ อาการได)้ ผู้ป่วยโรคแผลเป่อื ย เพปติกและกรดไหลย้อน เนอื่ งจากเป็น
ตารับยารสร้อน
4. ควรระวังการใชย้ านี้ในผ้ปู ่วยสูงอายุ
ขอ้ มูลเพิม่ เติม ลมในเส้น เป็นลมท่ีพดั ประจาอยู่ตามเส้นต่าง ๆ ในรา่ งกาย เช่น ลมจนั ทกระลา พดั อย่ใู นเส้น อทิ า
ลมสูญทกลา พัดอยใู่ นเสน้ ปิงคลา เมื่อลมเหลา่ น้ีผิดปกตจิ ะทาให้ ผปู้ ว่ ยมีอาการปวดหรือชาตามแนวเส้นทล่ี มนน้ั พัด
ประจาหรอื บรเิ วณใกล้เคียง เป็นต้น
เอกสารอ้างอิง สุม่ วรกิจ พิศาล. เวชศาตรว์ ัณ์ณณา ตาราแพทยแ์ บบเก่า เลม่ 5 เรยี บเรียงตาม ตาราของทา่ นพระยา
ประเสริฐสารทดารง (หน)ู บิดา. กรงุ เทพฯ : พศิ าลบรรณนิติ์; 2460 หน้า 974
หมายเหตุ ระวังในการใช้รว่ มกนั กบั ตารบั ยาแผนไทยทีม่ ีกัญขาปรงุ ผสมอยู่
แผนภมู ทิ ี่ 3 แนวทางการใชย้ าแกล้ มแกเ้ ส้น
ผปู้ ่วยเขา้ รบั การรักษาดว้ ยปวดกลา้ มเนื้อท่มี ี อาการมือเท้าชา/ออ่ น
แรง
ซกั ประวตั แิ ละตรวจร่างกายประเมนิ ผลเพ่ือวาง แผนการรกั ษาอาการ
มอื เทา้ ชา/ออ่ นแรง
พจิ ารณาจา่ ยยาตามบญั ชยี าโรงพยาบาล เชน่
ยาเถาวัลยเ์ ปรยี ง ยาสหสั ธารา
เจลพรกิ ขีผ้ ง้ึ ไพล
เป็นเวลา 7 - 15 วนั
ตดิ ตาม ดีขน้ึ ประเมนิ ผลและตดิ ตามการ
อาการ รกั ษาตอ่ เนอ่ื ง (ทกุ ๆ 1 เดอื น)
ไม่ดขี ึน้ ไมพ่ บข้อหา้ มใช้
พบข้อหา้ มใช้ จา่ ยยาตารบั ยาแกล้ มแกเ้ สน้
- หญงิ ต้งั ครรภ/์ หญิงใหน้ ม เปน็ เวลา 7 - 15 วัน
บุตร
- ผูท้ ่ีมไี ข้
ปรับขนาดยาทกุ 1 เดอื น ไม่ใช่ ดีขึ้น
ดขี นึ้ ใช้ ใช้
ไม่ใช้ ประเมินผลและติดตามการรักษาต่อเน่ือง ทุก 1 เดอื น
พิจารณาแนวทางการรักษาอ่ืน พจิ ารณาหยุดการรกั ษา เม่ืออาการของ โรค
โดยรวมปกติโดยไมต่ ้องใช้ยา
ยานา้ มนั กัญชา น้าหนักยา
100 กรัม
สูตรตารบั ยา ประกอบด้วย ตัวยา 2 ชนิด ดังนี้ 1000มลิ ลลิ ิตร
ลาดับ ตัวยา
1 กัญชา
2 นา้ มนั มะพรา้ ว
สรรพคณุ
1. ชว่ ยให้นอนหลับ
2. ช่วยเจริญอาหาร
3. บรรเทาอาการปวดศีรษะข้างเดยี ว (ลมปะกัง)
4. บรรเทาอาการปวดเรอื้ รัง
5. บรรเทาอาการสัน่ จากกลมุ่ โรคระบบประสาท หรอื ใช้กับอาการ,ภาวะอน่ื ๆ ตามดลุ พนิ ิจของแพทย์และ
แพทยแ์ ผนไทยท่สี ั่งใชย้ าน้ามันกัญชา
รปู แบบยา : ยาน้ามนั
ขนาดและวิธีใช้
เริม่ ต้นรับประทาน ครง้ั ละ 3 หยด ตามคา้ สัง่ ของแพทย์/แพทย์แผนไทย หากติดตามอาการแล้วไม่ดขี น้ึ ให้
ปรับขนาดยาเพิ่มข้นึ ครง้ั ละ 2 หยด หรอื หลังจากผ้ปู ่วยไดร้ ับยาแล้วมีอาการมนึ เมาใหป้ รับขนาดลดลงคร้งั ละ 1 หยด
(ไม่ควร หยดเกนิ วันละ 15 หยด หรือปริมาณTHC ไมเ่ กิน 1.2 mg/day)
คาแนะนา้ เพ่ิมเติม
- วธิ ีการหยดนา้ มนั กัญชา ให้หยดใสช่ ้อนก่อนรับประทาน เพอ่ื ป้องกนั การใชย้ า เกนิ ขนาด
- มีการติดตามอาการของผูป้ ว่ ยทุก 5 วัน
ขอ้ หา้ มใช้
1. หา้ มใช้ในผทู้ ่มี ปี ระวตั แิ พผ้ ลิตภณั ฑ์ทไี่ ดจ้ ากการสกดั กญั ชา ซงึ่ อาจเกดิ จาก สว่ นประกอบอืน่ ๆ
(ในผลติ ภัณฑน์ ้ี มสี ่วนผสมของน้ามันมะพรา้ ว)
2. หา้ มใชก้ ญั ชาทีม่ ีปรมิ าณสารออกฤทธ์ิ THC (delta-9-tetrahydrocannabinol) ในผปู้ ว่ ยโรคหัวใจและ
หลอดเลอื ดขน้ั รนุ แรง หรอื ไม่สามารถคุมอาการได้ เช่น ยัง มีอาการกาเริบบ่อยๆ ของการปวดเค้นหน้าอก หัวใจเตน้
ผดิ ปกติ ความดนั ตก เนอ่ื งจากอาจเพิม่ ความเสี่ยงหวั ใจขาดเลือด รวมถึงโรคหลอดเลือดหัวใจ
3. หา้ มใช้กัญชาทมี่ ีปริมาณสารออกฤทธิ์ THC (delta-9-tetrahydrocannabinol) เดน่ โดยเฉพาะอย่างย่งิ
ในผู้ปว่ ยทม่ี ปี ระวตั ิ ความผดิ ปกติทางจิตเวช (เช่น โรคจติ โรคจิตเภท ภาวะวิตกกังวลและความ ผดิ ปกตทิ างอารมณ์)
หรอื มปี ระวัติครอบครวั เป็นโรคจติ เภท (ผลิตภณั ฑ์น้ีไมม่ ี สว่ นประกอบของ THC)
4. หา้ มใชใ้ นสตรมี ีครรภ์ สตรที ใี่ ห้นมบตุ ร รวมถึงสตรีวัยเจริญพันธท์ุ ไ่ี มไ่ ด้คุมกาเนิด หรือสตรีทว่ี างแผนจะ
ตงั้ ครรภ์ เนอ่ื งจากมรี ายงานการศกึ ษาพบว่ามีทารกคลอด ก่อนกาหนด ทารกน้าหนกั ตัวน้อย รวมถึงพบสารจากกัญชา
ผา่ นในนา้ นมแม่ได้
5.หา้ มใชใ้ นผ้ทู ่ีมีอายตุ า่ กว่า 25 ปี
ขอ้ ควรระวัง
1. ยานี้อาจทาใหง้ ว่ งซมึ จงึ ไม่ควรขับขย่ี านพาหนะ หรือทางานเกยี่ วกบั เครื่องจักรกล หรอื ทางานทเี่ ส่ียง
อนั ตราย
2. ไม่ควรใชก้ ญั ชาที่มีปริมาณสารออกฤทธิ์ THC เด่น ในบุคคลที่อายตุ ่ากว่า 25 ปี ยกเว้นในกรณที ี่แพทย์
พิจารณาแลว้ ว่าผู้ป่วยได้รับประโยชนม์ ากกวา่ เสี่ยง (ผลิตภัณฑ์น้ไี มม่ สี ว่ นประกอบของ THC)
3. ไม่ควรใชก้ ัญชาในผูป้ ่วยโรคตบั และไต (มีค่าเอนไซม์ตับท่ผี ดิ ปกติ)
4. ไมค่ วรใช้ยาตดิ ต่อกนั เป็นเวลานานเพราะอาจเกิดการติดยาได้ นอกจากแพทย์สัง่ หากใช้เป็นประจาควร
ประเมนิ ผลการรักษาเป็นระยะ และควรปรึกษาแพทย์ก่อน หยดุ ใชย้ า เพราะจา้ เปน็ ต้องปรบั ลดขนาดยาลง
ทีละน้อยเพื่อป้องกันไม่ใหเ้ กิด อาการถอนยา
5. ควรใชก้ ญั ชาดว้ ยความระมัดระวงั ในผูป้ ่วยที่ได้รับการรกั ษาร่วมกับยากล่อม ประสาทหรือ ยาที่ออกฤทธ์ิ
ทางจิตอื่น ๆ เน่ืองจากเสรมิ ฤทธิ์กดประสาท สว่ นกลางหรอื เพ่มิ ผลกระทบทางจติ ประสาท
6. ควรใชด้ ้วยความระมดั ระวงั ในผปู้ ว่ ยทมี่ ีประวตั ิของการใชส้ ารเสพติดรวมถงึ ผูม้ ี ประวตั ติ ดิ สรุ า
7. หากมีอาการแพ้ยา เชน่ มีผน่ื ปากบวม ตาบวม หน้าบวม ใหห้ ยุดใชย้ าและ ปรกึ ษาแพทยห์ รือเภสชั กร
8. ควรเก็บยาให้พ้นมอื เด็ก
9. อาจพบอาการไม่พงึ ประสงคจ์ ากใชน้ ้ามันกัญชา ได้ อยา่ งเช่น อาการมนึ เวียน ศีรษะ กระสบั กระสา่ ย
สับสน ปากแห้งคอแห้ง คลื่นไส้อาเจยี น เคลิ้มสุข ตาเบลอ เดนิ เซ ปวดศรี ษะ ใจสน่ั แน่นหนา้ อก
ความดนั โลหติ ต่า/สูง รสู้ กึ วิตกกงั วลหรอื ซมึ เศร้า
เอกสารอา้ งอิง
1. กองทุนภูมปิ ัญญาการแพทยแ์ ผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลอื ก. คมู่ อื ตรวจโรค แพทยแ์ ผน
ไทยประยุกต.์ นนทบรุ ี : โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย จ้ากดั , 2559.
2. Romano LL, Hazekamp A: Cannabis oil: chemical evaluation of an upcoming cannabis-based
medicine. Cannabinoids 2013; 1: 1–11 3. MacCallum CA, Russo EB. Practical considerations in
medical cannabis administration and dosing. Eur J Intern Med 2018;49: 12-19
แผนภมู ิที่ 4 แนวทางการใชย้ าน้ามันกัญชา
ผ้ปู ่ วยเข้ารับการรักษาด้วยอาการ ผ้ปู ่ วยเข้ารับการรักษาด้วยอาการ ผ้ปู ่ วยเข้ารับการรักษาด้วยอาการ
เบอื่ อาหาร นอนไมห่ ลบั ปวดเรือ้ รัง
ซกั ประวตั แิ ละตรวจร่างกาย ซกั ประวตั แิ ละตรวจร่างกาย ซกั ประวตั ิและตรวจร่างกาย
ประเมนิ ผลเพื่อวางแผนการรักษา ประเมินผลเพ่อื วางแผนการรักษา ประเมนิ ผลเพื่อวางแผนการรักษา
พจิ ารณาจ่ายยาตามบญั ชยี า พิจารณาจ่ายยาตามบญั ชยี า พจิ ารณาจา่ ยยาตามบญั ชยี า
โรงพยาบาล เชน่ โรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาล เชน่
ยามะระขนี ้ ก ยาบารุงโลหติ ยาหอมเทพจติ ร ยาหอมนวโกฐ ยาเถาวลั ย์เปรียง ยาสหสั ธารา
ไมเ่ กิน 1 เดือน เป็นเวลา 7 - 15 วนั เป็นเวลา 7 - 15 วนั
ตดิ ตาม ดขี ้ึน ประเมินผลและตดิ ตามการ
อาการ รกั ษาต่อเน่ือง (ทกุ ๆ 1 เดือน)
ไม่ดขี ้ึน
พบข้อห้ามใช้ ไมพ่ บข้อห้ามใช้
- หญิงตงั้ ครรภ์/ให้นมบตุ ร
- มไี ข้ จา่ ยยานา้ มนั กญั ชา
- อายตุ า่ กวา่ 25 ปี เป็นเวลา 7 - 15 วนั
- ผ้ปู ่ วยทีเ่ ข้าเกณฑ์ห้ามใช้ นา้ มนั กญั ชา
ปรับขนาดยาทุก 1 เดอื น ไม่ใช่ ดีขึ้น
พจิ ารณาแนวทางการรักษาอื่น ใช่
ไม่ใช่ ดีข้นึ ใช่ ประเมินผลและติดตามการรักษาตอ่ เนอ่ื ง
ทกุ 1 เดือน
พิจารณาหยดุ การรกั ษา เมือ่ อาการของ โรค
โดยรวมปกติโดยไม่ตอ้ งใช้ยา
แผนภมู ทิ ่ี 5 แนวทางการใช้กัญชาทางการแพทย์กบั การดูแลผ้ปู ่วยประคบั ประคองที่มีอาการนอนไม่หลับ
ผปู้ ว่ ยมะเร็งท่ีได้รับการดูแลประคับประคอง ร่วมกับมีอาการนอนไม่หลบั (Insomnia )
(จาเป็นตอ้ งลงวนิ จิ ฉยั รหัส โรคมะเร็ง + Z515 + F510)
ลงทะเบยี นผปู้ ว่ ยประคับประคอง
ซักประวัติเร่ืองการนอนไมห่ ลับ + ประเมนิ Thai PSQI + ESAS + ACP + ตรวจร่างกาย
พบข้อ ใช่
พิจารณาแนวทางการรักษาอนื่
ห้ามใช้
ไมใ่ ช่
- ยาตารับศขุ ไสยาศน์
( รบั ประทานครง้ั ละ 1 ซอง ก่อนนอน )
- น้ามันตารบั หมอเดชา (THC 2mg/ml)
( เริม่ ขนาด 1-2 หยด ใต้ลน้ิ กอ่ นนอน )
Max. dose ขอ้ มลู สนบั สนุนไม่เพียงพอ
แนะนา start low go slow
ประเมิน risk & benefit เป็น รายๆ
ติดตามอาการทุก 2-4 สปั ดาห์ ประเมิน ESAS,Thai PSQI และ BUN,Cr,AST,ALT,CBC,Electrolyte
และให้ยานานต่อเน่ือง 4 -12 สัปดาห์ ต่อผลการรกั ษา 1 รอบ และค่อยๆลดยาจนหยุดยา
แผนภูมทิ ่ี 6 แนวทางการใช้กญั ชาทางการแพทยก์ ับการดูแลผู้ปว่ ยประคบั ประคองท่ีมีอาการเบ่ืออาหาร
ผ้ปู ่วยมะเร็งท่ีไดร้ ับการดูแลประคบั ประคอง รว่ มกับมีอาการเบื่ออาหาร (Anorexia)
(จาเปน็ ต้องลงวินจิ ฉัยรหสั โรคมะเร็ง + Z515 + R630)
ลงทะเบียนผูป้ ่วยประคับประคอง
ซักประวัติเรื่องอาการเบ่ืออาหาร + ประเมนิ ESAS + ACP + ตรวจร่างกาย
พบข้อ ใช่
พิจารณาแนวทางการรักษาอน่ื
ห้ามใช้
ไมใ่ ช่
- ยาตารับศขุ ไสยาศน์
( รบั ประทานครัง้ ละ 1 ซอง 2 เวลา
ก่อนอาหาร เชา้ เย็น )
- นา้ มนั ตารับหมอเดชา (THC 2mg/ml)
( เริม่ ขนาด 1-2 หยด ใต้ลน้ิ กอ่ นนอน )
Max. dose ข้อมลู สนับสนนุ ไม่เพียงพอ
แนะนา start low go slow
ประเมิน risk & benefit เป็น รายๆ
ตดิ ตามอาการทุก 2-4 สัปดาห์ ประเมิน ESAS และ BUN,Cr,AST,ALT,CBC,Electrolyte และใหย้ า
นานต่อเน่ือง 4 -12 สปั ดาห์ ต่อผลการรักษา 1 รอบ และคอ่ ยๆลดยาจนหยดุ ยา
แผนภมู ิที่ 7 แนวทางการใช้กญั ชาทางการแพทย์กับการดแู ลผู้ป่วยประคับประคองท่ีมีอาการปวดจากมะเร็ง
ผู้ป่วยมะเร็งที่ไดร้ บั การดูแลประคับประคอง ร่วมกับมีอาการปวดจากมะเร็ง (Cancer pain)
(จาเป็นต้องลงวนิ จิ ฉยั รหสั โรคมะเร็ง + Z515 + G893)
ลงทะเบยี นผปู้ ่วยประคับประคอง
ซกั ประวตั เิ รื่องอาการเบ่ืออาหาร + ประเมนิ ESAS + ACP + ตรวจรา่ งกาย
พบข้อ ใช่
พจิ ารณาแนวทางการรักษาอื่น
ห้ามใช้
ไมใ่ ช่
- น้ามนั ตารบั หมอเดชา (THC 2mg/ml)
( เรม่ิ ขนาด 1-2 หยด ใต้ลน้ิ กอ่ นนอน )
Max. dose ขอ้ มูลสนับสนุนไม่เพียงพอ
แนะนา start low go slow
ประเมิน risk & benefit เป็น รายๆ
*** ถ้าใช้รว่ มกับยากลุ่ม Opioid ( ยาแกป้ วดทีม่ ีประสิทธิภาพสงู )
ควรเฝา้ ระวัง ผลขา้ งเคยี งของ Opioid เพิม่ ข้นึ เช่น ทาให้นอนหลบั
มากขึ้น ,อตั ราการหายใจช้าลง
ติดตามอาการทุก 2-4 สปั ดาห์ ประเมนิ ESAS และ BUN,Cr,AST,ALT,CBC,Electrolyte และให้ยา
นานตอ่ เน่ือง 4 -12 สัปดาห์ ตอ่ ผลการรักษา 1 รอบ และคอ่ ยๆลดยาจนหยุดยา
ข้อหา้ มในการใชย้ ากญั ชาทางการแพทย์
ขอ้ ห้ามใช้
1.ผูป้ ่วยมะเร็ง ทก่ี าลังรักษาอย่างเตม็ ที่และที่ไม่ได้รับการยินยอมจากแพทยป์ ระจาหรือส่งปรกึ ษาจากแพทย์
2. ผูป้ ่วยโรคหวั ใจ
3. ผปู้ ว่ ยโรคไตวายระยะ 4-5 (GFR < 30 )หรอื ผู้ปว่ ยทไี่ ดร้ ับการบาบัดฟอกไตทดแทน
4. ผ้ปู ว่ ยโรคตบั ระยะสดุ ทา้ ย
5. ผู้ปว่ ยโรคซมึ เศรา้ หรือ โรคทางจิตเวช
6. ผู้ป่วยอายุตา่ กว่า 18 ปี
7. ผู้ป่วยทตี่ ดิ ยาเสพติดหรอื ติดสารต่างๆ
8. ผู้ป่วยมปี ระวัตใิ ชย้ าปจั จบุ นั : Chemotherapy,Warfarin, ยารกั ษาโรคซึมเศรา้ เช่น Fluoxetine,
Sertraline, ยารกั ษาโรคทางจติ เวช เช่น Haloperidol ,Risperidone ,clozapine , ยารกั ษาโรคหวั ใจเชน่
Atenolol ,Propranolol ,Metoprolol ,Carvedilol ,Amiodarone ,Verapamil
ขอ้ ควรระวงั
1.ผู้ปว่ ยมะเรง็ ทร่ี ักษาอย่างเต็มท่ีแล้ว หรอื ปฏิเสธการรกั ษาต้องการรกั ษาการแพทยท์ างเลือก
2. ผปู้ ว่ ยโรคความดนั โลหิตสงู
3. ผู้ป่วยมปี ระวตั ิใชย้ าแผนปจั จุบนั ดงั น้ี(จะมโี อกาสเสรมิ ฤทธย์ิ าเหล่านี้)
- ยากลุ่มลดความดนั โลหิต ได้แก่ Amlodipine
- ยาลดไขมันในเลือด ได้แก่ Statinเชน่ Atorvastatin , Simvastatin
- ยาแก้ปวด กลมุ่ Opioid ได้แก่ Morphine IR, Morphine syr., MST ,Kapanol , Fentanyl
,Methadone
- ยากลมุ่ ต้านกังวล ได้แก่ กลุ่ม BZD เช่น Lorazepam ,Diazepam ,Clonazepam ,
กลุ่ม TCA เชน่ Amitriptyline ,Nortriptyline
แผนภูมิท่ี 8 แนวทางการดูแลรักษาและส่งต่อเม่ือพบผลข้างเคยี งจากการใช้ยากัญชาทางการแพทย์
คลนิ กิ กญั ชา/OPD
ผลข้างเคียงไมร่ นุ แรง ผลคา้ งเคยี งปานกลางถงึ รุนแรง
Mild side effect Moderate to severe side effect
- ติดตาม Lab กรณีผิดปกติเล็กน้อย - หมดสติ (Unconscious)
- ประเมินหาสาเหตุและแก้ไขตามอาการ - สบั สน (Agitation ,Confusion)
- ปรบั ลดขนาดยาและนดั ติดตามระยะสนั้ ภายใน
- อาการเจบ็ หน้าอกอย่างต่อเน่ือง
1-2 สัปดาห์ (Ongoing chest pain)
- หรือพิจารณาหยุดการใช้ยา
- ใจส่ัน (Ongoing Palpitation)
ลงบนั ทกึ ข้อมลู ผลข้างเคียงการใช้ยาของ ระบบ อย. - หายใจลาบาก (Dyspnea)
- BP < 90/60 mmHg.
คลนิ กิ กญั ชา - BP > 180/110 mmHg.
- HR > 120 /min
D/C - HR < 50 /min
- เวียนหัวตอ่ เนอื่ ง
(Ongoing Dizziness) ,N/V
- กรณี Lab ผดิ ปกติ มาก
สง่ ตอ่ ER
1. Emergency Management
2. Symptomatic
management
Admit / Refer ตามข้อบ่งช้ี