การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โคลงโลกนิติ ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้บทเรียนออนไลน์ด้วยโปรแกรม Google Site ร่วมกับวิธีการสอนแบบ TPACT นางสาวอรอุมา พัดทอง ต าแหน่ง ครู โรงเรียนหนองกี่พิทยาคม อ าเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์
ชื่อวิจัย การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โคลงโลกนิติ ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้บทเรียนออนไลน์ด้วยโปรแกรม Google Site ร่วมกับวิธีการสอนแบบ TPACT ชื่อวิจัย นางสาวอรอุมา พัดทอง ต าแหน่ง ครู สอนวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท21101 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ความเป็นมาและความส าคัญ จากสภาพการณ์ในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง จากความ เจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในด้านสื่อสารมวลชน ข้อมูลการสื่อสาร และเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิด การเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยด้านต่าง ๆ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม ค่านิยมและความเชื่อ วรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติถือเป็นวรรณคดีประเภทคติธรรมค าสอนที่มีประโยชน์เป็นแนวทาง ในการประพฤติปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในการด าเนินชีวิตของคนไทยในทุกยุคสมัย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและ ในอนาคต การฝึกคิดวิเคราะห์ผ่านค าสอนอันทรงคุณค่าในโคลงแต่ละบทจะท าให้ผู้เรียนสามารถเผชิญเหตุการณ์ ต่าง ๆ รอบด้าน โดยการจ าแนกแยกแยะ การเชื่อมโยงสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ การตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล การปรับตัวเพื่อให้สามารถอยู่รอดในสังคม และสามารถด ารงชีวิตได้อย่างมีความสุข สอดคล้องกับพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติฉบับพุทธศักราช 2542 มาตราที่ 4 และมาตราที่ 24 ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเองให้ สามารถฝึกทักษะกระบวนการคิดการจัดการการเผชิญสถานการณ์และการประความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและ แก้ปัญหาตลอดจนฝึกให้ผู้เรียนเรียนรู้จากประสบการณ์จริงให้คิดเป็นท าเป็นและใฝ่รู้ตลอดเวลา การคิดวิเคราะห์เป็นพื้นฐานของการคิด เป็นทักษะที่ทุกคนสามารถพัฒนาได้การฝึกฝนให้ผู้เรียนเกิด ทักษะการคิดวิเคราะห์สามารถฝึกได้ในทุกสาขาวิชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิชาภาษาไทย เพราะภาษาไทยเป็น ภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารของคนในประเทศ เป็นภาษาประจ าชาติและเป็นพื้นฐานที่ใช้ในการศึกษาวิชาอื่น การฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ในวิชาภาษาไทยจึงเป็นการวางรากฐานการคิดให้กับผู้เรียนช่วยพัฒนาผู้เรียนใ ห้ มีความรู้ความเข้าใจทักษะการสื่อสารได้ดีขึ้นและสามารถเลือกใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมจนกระทั่งน าไปสู่ การหาเหตุผลและการแก้ปัญหาในการด าเนินชีวิต สามารถสอดแทรกการพัฒนาการคิดได้ทั้ง 5 สาระ คือ การอ่าน การเขียน การฟัง ดู พูด หลักการใช้ภาษา และวรรณคดีวรรณกรรม เนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมเป็นสาระหนึ่ง ที่มีบทบาทส าคัญสามารถส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐาน การเรียนและสมรรถนะส าคัญ ของผู้เรียน เนื่องด้วยวรรณคดีและวรรณกรรมมีคุณค่าหลากหลายด้าน แต่สภาพการจัดการเรียนการสอนที่จะ พัฒนาการคิดจากเนื้อหาหลักสูตร ยังประสบปัญหาอยู่หลายประการ กล่าวคือ ครูขาดความรู้และทักษะใน การสอน ขาดความกระตือรือร้นในการสร้างสรรค์สื่อการสอนที่เอื้อต่อการเรียนรู้วิธีการสอนและนวัตกรรม ที่ทันสมัยที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา และส่งเสริมความสามารถทางการคิดวิเคราะห์จากวรรณคดี วรรณกรรมท าให้ผู้เรียนขาดแรงจูงใจในการเรียนและไม่เห็นความส าคัญของการศึกษาวรรณคดีวรรณกรรม จากหลักการและเหตุผลดังกล่าว ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะสร้างบทเรียนออนไลน์ด้วยโปรแกรม Google Site รวบรวมเนื้อหาและกิจกรรมของการจัดการเรียนการสอนเรื่อง โคลงโลกนิติ ประกอบด้วย สรุปเนื้อหา ใบงาน แบบทดสอบหลังเรียน ร่วมกับวิธีการสอนแบบ TPACT โดยอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาออกแบบ กิจกรรมการเรียนการสอน โดยรวบรวมสื่อการเรียนรู้ลงบนเว็บไซต์ที่สร้างขึ้น ผู้เรียนสามารถทบทวนความรู้ได้ทุก ที่ทุกเวลา และปรับรูปแบบการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ เพื่อกระตุ้นความสนใจ และสร้างแรงจูงใจในการ เรียน ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สอดคล้องกับสมรรถนะส าคัญ 5 ประการ คือ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตและความสามารถในการ ใช้เทคโนโลยี
วิธีการสอนแบบ TPACT คือตัวแบบของกรอบแนวคิดเพื่อใช้ในการออกแบบการเรียนรู้ (Instructional Design) ซึ่งน าเอาเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ โดยมีองค์ประกอบหลัก 3 ส่วน ดังนี้ 1. ความรู้ด้านเทคโนโลยี(Technological Knowledge) หรือ TK หมายถึง ความรู้ความสามารถของ ผู้สอนที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้สื่ออุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา ทั้งในเรื่องของ ซอร์ฟแวร์(Software) และ ฮาร์ดแวร์(Hardware) ต่าง ๆ รวมไปถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เกี่ยวข้อง (Associated peripherals) เพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอนที่มีความสอดคล้องและมีความเหมาะสมกับเนื้อหาวิชาและ ผู้เรียน เช่น ผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีจากเว็บ 2.0 (Web 2.0 tools) ต่าง ๆ เช่น Wiki, Blogs, Facebook เป็นต้น 2. ความรู้ด้านวิธีการสอน (Pedagogical Knowledge) หรือ PK หมายถึง ความรู้ความสามารถของ ผู้สอนที่น ามาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นแนวทางการเรียนการสอนให้กับผู้เรียน หรือที่เกี่ยวกับวิธีการถ่ายถอดความรู้ไปสู่ ผู้เรียน รวมไปถึงกลยุทธ์ หรือกระบวนการ, การปฏิบัติ หรือวิธีการสอนทั้งในและนอกชั้นเรียน ในส่วนนี้ไม่ร่วมถึง ทฤษฎีการศึกษา (Educational theories) และวิธีการประเมิน (Assessment methods) เช่น การเรียนการสอน โดยใช้วิธีการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem – based Learning: PBL), วิธีการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็น หลัก (Problem – based Learning: PBL), การเรียนรูที่ใช้สมองเป็นหลัก (Brain – Based Learning), วิธีสอน แบบโครงงาน (Project Method), การจัดการเรียนรู้แบบค้นพบ (Discovery Method), วิธีสอนแบบศึกษาด้วย ตนเอง (Self-Study Method) เป็นต้น 3. ความรู้ด้านเนื้อหา (Content Knowledge) หรือ CK หมายถึง สาระ, ข้อมูล, แนวคิด, หลักการที่ เกี่ยวข้องกับเนื้อหาวิชาการในหลักสูตรที่ต้องการที่จะถ่ายทอดไปยังผู้เรียน เช่น คณิตศาสตร์, ภาษาไทย, วิทยาศาสตร์ หรือวิชาอื่น ๆ วัตถุประสงค์การวิจัย 1. เพื่อสร้างบทเรียนออนไลน์ด้วยโปรแกรม Google Site รวบรวมเนื้อหาและกิจกรรมของการจัดการ เรียนการสอนเรื่อง โคลงโลกนิติ ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โคลงโลกนิติ ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้บทเรียน ออนไลน์ด้วยโปรแกรม Google Site ร่วมกับวิธีการสอนแบบ TPACT ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย 1. ได้บทเรียนออนไลน์ด้วยโปรแกรม Google Site เรื่อง โคลงโลกนิติ ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โคลงโลกนิติ สูงขึ้น
สมมุติฐานการวิจัย 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โคลงโลกนิติ ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้บทเรียนออนไลน์ ด้วยโปรแกรม Google Site ร่วมกับวิธีการสอนแบบ TPACT หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ขอบเขตการศึกษา 1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1.1 ประชากร คือ ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนหนองกี่พิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จ านวน 12 ห้องเรียน จ านวน 472 คน 1.2 กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนหนองกี่พิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จ านวน 40 คน ใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง 2. ตัวแปรที่ศึกษา ประกอบด้วย 2.1 ตัวแปรต้น คือ วิธีการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการสร้างค าในภาษาไทย ของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2.2 ตัวแปรตาม คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างค าในภาษาไทย 3. ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา คือ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โดยใช้เวลา 10 ชั่วโมง ใช้ควบกับ แผนการจัดการเรียนรู้ จ านวน 10 แผน 4. เนื้อหา ผู้วิจัยใช้เนื้อหาในการศึกษาในครั้งนี้ ตามหนังสือวรรณกรรมและวรรณคดี เรื่อง โคลงโลกนิติ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 1. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.1 แบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน เรื่อง โคลงโลกนิติ จ านวน 20 ข้อ 1.2 แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง โคลงโลกนิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จ านวน 10 แผน 1.3 ใบงาน เรื่อง โคลงโลกนิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 การเก็บรวบรวมข้อมูล 1. ขั้นเตรียมการ 1.1 ศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแกนกลาง และหลักสูตรผู้เรียนต้องรู้ กลุ่มสาระการ เรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพื่อออกแบบหน่วยตามตัวชี้วัด 1.2 ศึกษาเอกสารและงานวิจัยเกี่ยวกับเนื้อหาวรรณคดีเรื่องโคลงโลกนิติ 1.3 ศึกษาวิธีการสร้างเว็บไซต์ด้วยโปรแกรม Google site 1.4 ศึกษาวิธีการบูรณาการการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ TPACT 1.5 สร้างแบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียนวรรณคดี เรื่อง โคลงโลกนิติ และแบบบันทึกคะแนน การปฏิบัติกิจกรรม 1.6 ออกแบบสื่อการสอน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดี เรื่อง โคลงโลกนิติ ในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น สื่อน าเสนอเนื้อหาความรู้จากโปรแกรม Canva, ใบงานออนไลน์ Live worksheet เกมตอบปัญหา จากโปรแกรม Quizizz , Kahoot, Plickers เป็นต้น โดยรวบรวมไว้บนเว็บไชต์ที่สร้างขึ้น 1.7 จัดท าสื่อสื่อการสอน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดี เรื่อง โคลงโลกนิติ ตามที่ได้ออกแบบไว้
1.8 จัดการเรียนการสอนในห้องเรียนโดยเน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ โดยใช้สื่อการเรียนรู้ที่รวบรวมไว้บน เว็บไชต์ที่สร้างขึ้น และน าผลที่ได้มาปรับปรุง พัฒนาสื่อการสอนให้ประสิทธิภาพมากขึ้น และผู้เรียนสามารถเรียนรู้ ได้ด้วยตนเอง 2. การเก็บรวบรวมข้อมูล 2.1 ผู้เรียนกลุ่มตัวอย่างท าแบบทดสอบก่อนเรียนวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โคลงโลกนิติ จ านวน 20 ข้อ 2.2 ผู้วิจัยด าเนินการทดลองสอนกับผู้เรียนกลุ่มตัวอย่างตามแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง โคลงโลกนิติ 2.3 ผู้เรียนกลุ่มตัวอย่างท าแบบทดสอบหลังเรียนวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โคลงโลกนิติ จ านวน 20 ข้อ 2.4 วิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าเฉลี่ยของคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 2.5 สรุปผลการศึกษา ระยะเวลาในการด าเนินการ ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2566 – เดือนสิงหาคม 2566 การวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลของการวิจัยในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1. เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังการจัดกิจกรรม การเรียนรู้เรื่อง โคลงโลกนิติ ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้บทเรียนออนไลน์ด้วยโปรแกรม Google Site ร่วมกับวิธีการสอนแบบ TPACT โดยใช้ t-test แบบ Dependent, ค่าคะแนนร้อยละ, ค่าคะแนนเฉลี่ย การสรุปผลการวิจัย ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังการจัดกิจกรรม การเรียนรู้เรื่อง โคลงโลกนิติ ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จ านวน 20 ข้อ เลขที่ ชื่อ – นามสกุล คะแนนก่อนเรียน ( 20) คะแนนหลังเรียน (20) 1 เด็กชายชิษณุชา เทพคุ้ม 9 16 2 เด็กชายณเดช ศรีสวัสดิ์ 5 15 3 เด็กชายธนภัทร กายแก้ว 7 16 4 เด็กชายธรรมปพน สุภา 6 18 5 เด็กชายธวีร์วัชร์ สังฆรมย์ 6 16 6 เด็กชายนันทภพ ทองถนอม 10 18 7 เด็กชายบุญยวีร์ ใสสอาด 4 16 8 เด็กชายปรีติ โนนตาไทย 10 15 9 เด็กชายปิติพล แซ่ภู่ 10 18 10 เด็กชายปิยะวัฒน์ พะเนตรัมย์ 8 16 11 เด็กชายปุณณวิช โกรัมย์ 4 17 12 เด็กชายภานุพงษ์ พุฒซ้อน 3 15 13 เด็กชายวัชริศ คชรินทร์ 8 17 14 เด็กชายศราวิน มิตรนอก 3 18 15 เด็กชายอเล็กซานเดอร์ อัศวิน ไซทส์ 7 16
ตารางเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โคลงโลกนิติ ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากตารางสรุปได้ว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โคลงโลกนิติ ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้บทเรียนออนไลน์ ด้วยโปรแกรม Google Site ร่วมกับวิธีการสอนแบบ TPACT หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีคะแนนก่อนเรียน เรียนเฉลี่ย 7.28 คิดเป็นร้อยละ 37.13 และมีคะแนนหลังเรียนเฉลี่ย 16.3 คิดเป็นร้อยละ 81.5 เลขที่ ชื่อ – นามสกุล คะแนนก่อนเรียน ( 20) คะแนนหลังเรียน (20) 16 เด็กหญิงกนิษฐ์จันทน์ ปลัดกอง 9 15 17 เด็กหญิงกมลชนก หล่าไธสง 5 18 18 เด็กหญิงกัญญรัตน์ ฮ่มซ้าย 4 14 19 เด็กหญิงกานต์ธีรา เลิศกระโทก 9 16 20 เด็กหญิงแก้วกัญ พัฒนประสิทธิ์ชัย 5 15 21 เด็กหญิงปรียาภรณ์ พงษ์เจริญ 7 15 22 เด็กหญิงปาริชาต สุ่มมาตย์ 7 18 23 เด็กหญิงปุญญาภา กองเงินนอก 6 19 24 เด็กหญิงพรณิภา เพ็ชรตะกั่ว 7 19 25 เด็กหญิงพรประภา แสนโคตร 9 18 26 เด็กหญิงพิณนภา อนุเคราะห์ 8 18 27 เด็กหญิงพิมพ์ณพัฒน์ ชัยโคตร 5 15 28 เด็กหญิงพุทธธิดา เปล่งสมศรี 11 15 29 เด็กหญิงภัทรธิดา มียอด 6 14 30 เด็กหญิงภัทรภร อัฐวิฐาน 9 14 31 เด็กหญิงภัทรมน อัฐวิฐาน 6 16 32 เด็กหญิงมีนา หาญประเทศ 7 16 33 เด็กหญิงรินดา โหมกสันเทียะ 10 14 34 เด็กหญิงวณิชญา พันธุ 10 16 35 เด็กหญิงวรรณรดา เลิศสงคราม 10 17 36 เด็กหญิงวิศัลย์ศยา ศิริวัฒนพิศาล 8 18 37 เด็กหญิงศรันญา งามทรง 8 14 38 เด็กหญิงศศิ นะราวงษ์ 8 17 39 เด็กหญิงสุมนต์รัตน์ ดิษฐเจริญ 10 16 40 เด็กหญิงสุวลักษณ์ อุ่มพิมาย 7 18 รวม 297 652 คะแนน จ านวน (N) คะแนนเต็ม ค่าเฉลี่ย ร้อยละ 1. ก่อนเรียน 40 20 7.28 37.13 2. หลังเรียน 40 20 16.3 81.5
ภาคผนวก
ภาคผนวก แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ โคลงโลกนิติ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ความเป็นมาของโคลงโลกนิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จ านวน ๑๐ ชั่วโมง เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวอรอุมา พัดทอง สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และน ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ๑. สาระส าคัญ โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดีค าสอนที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยนักปราชญ์ในสมัยนั้น ได้รวบรวมและแปลสุภาษิตจากคัมภีร์โบราณภาษาบาลีและสันสกฤตแล้วน ามาเรียบเรียงเป็นค าประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพ ภายหลังสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศรได้น ามาช าระแก้ไขส านวนถ้อยค าของเก่า จนท าให้มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย โคลงโลกนิติมีความโดดเด่นในด้านเนื้อหาเปรียบเทียบ คุณค่าด้านคติธรรม เพื่อให้ได้ข้อคิด หรือแนวทางในการด าเนินชีวิต รวมถึงสามารถน าคุณค่าต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน ๒. ตัวชี้วัด ท ๕.๑ ม.๑/๑ สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑) นักเรียนสามารถบอกความเป็นมาของโคลงโลกนิติได้ถูกต้อง ๒) นักเรียนสามารถเขียนความเป็นมาของโคลงโลกนิติได้ถูกต้อง ๓) นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติกิจกรรม ๔. สาระการเรียนรู้ - ความเป็นมาของโคลงโลกนิติ ๕. สรรถนะส าคัญของผู้เรียน ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑) วินัย ๒) ใฝ่เรียนรู้ ๓) มุ่งมั่นในการท างาน ๗. ชิ้นงาน/ภาระงาน ใบงาน เรื่อง “โลกนิติเป็นมาอย่างไร”
๘. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นน า ๑) นักเรียนทดสอบก่อนเรียน เรื่อง โคลงโลกนิติ ๒) ครูเขียนค าว่า “โลกนิติ” บนกระดาน แล้วให้นักเรียนอ่านค าดังกล่าว แล้วถามนักเรียนว่า “ค าว่าโลก นิติหมายถึงอะไร” แนวค าตอบ โลกนิติ หมายถึง ระเบียบแบบแผนแห่งโลก ๓) ครูกล่าวกับผู้เรียนว่า “โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดีค าสอนที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยนักปราชญ์ในสมัยนั้นได้รวบรวมและแปลสุภาษิตจากคัมภีร์โบราณภาษาบาลีและสันสกฤตแล้วน ามาเรียบเรียง เป็นค าประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพ ภายหลังสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศรได้น ามาช าระแก้ไข ส านวนถ้อยค าของเก่าจนท าให้มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย โคลงโลกนิติมีความโดดเด่นในด้านเนื้อหาเปรียบเทียบ คุณค่า ด้านคติธรรม เพื่อให้ได้ข้อคิดหรือแนวทางในการด าเนินชีวิต รวมถึงสามารถน าคุณค่าต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจ าวัน” ขั้นสอน ๔) นักเรียนศึกษาความรู้เรื่องความเป็นมาของโคลงโลกนิติจากสื่อน าเสนอ Canva ๕) นักเรียนเขียนความเป็นมาของโคลงโลกนิติและสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวรรณคดีที่มีลักษณะ ใกล้เคียงกับโคลงโลกนิติลงบนใบงาน เรื่อง “โลกนิติเป็นมาอย่างไร” ๖) นักเรียนเล่นเกม Kahoot เรื่อง ความเป็นมาของโคลงโลกนิติทบทวนความรู้ ขั้นสรุป ๗) นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ความเป็นมาของโคลงโลกนิติ ๘) ครูถามนักเรียนว่า “มีวรรณคดีค าสอนอื่นอีกหรือไม่ เรื่องอะไรบ้าง” แนวค าตอบ มี เช่น สุภาษิตสอนหญิง โคลงพาลีสอนน้อง เป็นต้น ๙. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑) ทดสอบก่อนเรียน เรื่อง โคลงโลกนิติรูปแบบ Google form ๒) สื่อน าเสนอ Canva เรื่องโคลงโลกนิติ ๓) ใบงาน Liveworksheets เรื่อง “ความเป็นมาของโคลงโลกนิติ” ๔) เกม Kahoot เรื่อง ความเป็นมาของโคลงโลกนิติ ๑๐. การวัดและประเมินผล วิธีวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ ๑) ถามค าถามความเป็นมาของ โคลงโลกนิติ ค าถาม ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๒) ตรวจใบงาน ใบงาน “ความเป็นมาของโคลงโลกนิติ” ระดับคุณภาพระดับดีขึ้นไปถือ ว่าผ่านเกณฑ์ ๓) สังเกตกระตือรือร้นในการ ปฏิบัติกิจกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพระดับดีขึ้นไปถือ ว่าผ่านเกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ โคลงโลกนิติ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง ประวัติผู้แต่งโคลงโลกนิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จ านวน ๑๐ ชั่วโมง เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวอรอุมา พัดทอง สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และน ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ๑. สาระส าคัญ โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดีค าสอนที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยนักปราชญ์ในสมัยนั้น ได้รวบรวมและแปลสุภาษิตจากคัมภีร์โบราณภาษาบาลีและสันสกฤตแล้วน ามาเรียบเรียงเป็นค าประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพ ภายหลังสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศรได้น ามาช าระแก้ไขส านวนถ้อยค าของเก่า จนท าให้มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย โคลงโลกนิติมีความโดดเด่นในด้านเนื้อหาเปรียบเทียบ คุณค่าด้านคติธรรม เพื่อให้ได้ข้อคิด หรือแนวทางในการด าเนินชีวิต รวมถึงสามารถน าคุณค่าต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน ๒. ตัวชี้วัด ท ๕.๑ ม.๑/๑ สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑) นักเรียนสามารถบอกประวัติผู้แต่งโคลงโลกนิติได้ ๒) นักเรียนสามารถเขียนประวัติผู้แต่งโคลงโลกนิติได้ ๓) นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติกิจกรรม ๔. สาระการเรียนรู้ - ประวัติผู้แต่งโคลงโลกนิติ ๕. สรรถนะส าคัญของผู้เรียน ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑) วินัย ๒) ใฝ่เรียนรู้ ๓) มุ่งมั่นในการท างาน ๗. ชิ้นงาน/ภาระงาน เขียนสรุปความรู้เรื่องประวัติผู้แต่งโคลงโลกนิติลงสมุด
๘. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นน า ๑) ครูถามผู้เรียนว่า “โคลงโลกนิติเกิดขึ้นสมัยใด” แนวค าตอบ สมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒ ๒) ครูถามนักเรียนว่า “ทราบได้อย่างไรว่าเกิดในสมัยรัตนโกสินทร์” แนวค าตอบ จากชื่อและยศของผู้แต่ง ขั้นสอน ๓) นักเรียนศึกษาความรู้เรื่องประวัติผู้แต่งโคลงโลกนิติจากสื่อน าเสนอ Canva และหนังสือเรียนวรรณคดี และวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๔) นักเรียนเขียนสรุปความรู้เรื่องประวัติผู้แต่งโคลงโลกนิติลงสมุด ๕) ครูสุ่มนักเรียนอ่านประวัติผู้แต่งโคลงโลกนิติหน้าชั้นเรียน ๖) นักเรียนเล่นเกม Kahoot เรื่อง ประวัติสุนทรภู่ ทบทวนความรู้ ขั้นสรุป ๗) นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ประวัติผู้แต่งโคลงโลกนิติ ๙. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑) สื่อน าเสนอ Canva เรื่องโคลงโลกนิติ ๒) หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๓) เกม Kahoot เรื่อง ประวัติสุนทรภู่ ๑๐. การวัดและประเมินผล วิธีวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ ๑) ถามค าถามเรื่องประวัติ ผู้แต่งโคลงโลกนิติ ค าถาม ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๒) ตรวจการจดบันทึกในสมุด สมุด ระดับคุณภาพระดับดีขึ้นไปถือ ว่าผ่านเกณฑ์ ๓) สังเกตกระตือรือร้นในการ ปฏิบัติกิจกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพระดับดีขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ โคลงโลกนิติ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง โคลงสี่สุภาพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จ านวน ๑๐ ชั่วโมง เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวอรอุมา พัดทอง สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อน าไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ ด าเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๑. สาระส าคัญ โคลงสี่สุภาพ เป็นค าประพันธ์ประเภทร้อยกรองชนิดหนึ่ง ซึ่งมีปรากฏในวรรณคดีไทยมานานแล้ว วรรณคดีไทยฉบับ ที่เก่าและมีชื่อเสียงมากฉบับหนึ่งคือ "ลิลิตพระลอ" มีโคลงสี่สุภาพถูกยกมาเป็นบทต้นแบบที่แต่งได้ถูกต้องตามลักษณะ บังคับคือนอกจากจะมีบังคับสัมผัสตามที่ต่าง ๆ แล้ว ยังบังคับให้มีวรรณยุกต์เอกโทในบางต าแหน่งซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะ ของโคลงสี่สุภาพด้วย ๒. ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ม.๑/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑) นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะของโคลงสี่สุภาพได้ ๒) นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงท านองเสนาะได้ถูกต้อง ๓) นักเรียนมีมารยาทในการฟัง ๔. สาระการเรียนรู้ - ฉันทลักษณ์โคลงสี่สุภาพ - การอ่านท านองเสนาะ ๕. สรรถนะส าคัญของผู้เรียน ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑) วินัย ๒) ใฝ่เรียนรู้ ๓) มุ่งมั่นในการท างาน ๗. ชิ้นงาน/ภาระงาน อ่านออกเสียงท านองเสนาะโคลงสี่สุภาพ
๘. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นน า ๑) ครูให้นักเรียนท่องบทอาขยานจากเรื่องโคลงโลกนิติพร้อมกับสังเกตลักษณะค าประพันธ์แล้วร่วมกัน เขียนฉันทลักษณ์เพื่อน าไปสู่การสอนเรื่องโคลงสี่สุภาพ ขั้นสอน ๒) นักเรียนศึกษาความรู้ฉันทลักษณ์โคลงสี่สุภาพจากสื่อน าเสนอ Canva และหนังสือเรียนวรรณคดีและ วรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๓) ครูให้นักเรียนท่องโคลงสี่สุภาพจากเรื่องลิลิตพระลอ เพื่อใช้เป็นต้นแบบในการแต่งและจดจ าลักษณะ ฉันทลักษณ์ของโคลงสี่สุภาพ ๔) ครูให้นักเรียนดูวีดิทัศน์การอ่านท านองเสนาะโคลงโลกนิติ ซึ่งแต่งเป็นโคลงสี่สุภาพจาก youtbe จากนั้นฝึกท่องเป็นท านองเสนาะพร้อมกัน ขั้นสรุป ๕) ครูชี้แจงการให้คะแนนสอบท่องอาขยานและก าหนดการสอบการอ่านท านองเสนาะโคลงสี่สุภาพเรื่อง โคลงโลกนิติ ๙. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑) สื่อน าเสนอ Canva เรื่อง โคลงสี่สุภาพ ๒) หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๓) สื่อ youtbe วีดิทัศน์การอ่านท านองเสนาะโคลงโลกนิติ https://www.youtube.com/watch?v=1-zQQM4ppkY
๑๐. การวัดและประเมินผล วิธีวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ ๑) ถามค าถามเรื่องลักษณะ ของโคลงสี่สุภาพ ค าถาม ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๒) ประเมินการอ่านออกเสียง ท านองเสนาะ แบบประเมินการอ่านออกเสียง ท านองเสนาะ ระดับคุณภาพระดับดีขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ ๓) สังเกตมีมารยาทในการฟัง แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพระดับดีขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ โคลงโลกนิติ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง เนื้อหาโคลงโลกนิติ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จ านวน ๑๐ ชั่วโมง เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวอรอุมา พัดทอง สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และน ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ๑. สาระส าคัญ โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดีค าสอนที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยนักปราชญ์ในสมัยนั้น ได้รวบรวมและแปลสุภาษิตจากคัมภีร์โบราณภาษาบาลีและสันสกฤตแล้วน ามาเรียบเรียงเป็นค าประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพ ภายหลังสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศรได้น ามาช าระแก้ไขส านวนถ้อยค าของเก่า จนท าให้มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย โคลงโลกนิติมีความโดดเด่นในด้านเนื้อหาเปรียบเทียบ คุณค่าด้านคติธรรม เพื่อให้ได้ข้อคิด หรือแนวทางในการด าเนินชีวิต รวมถึงสามารถน าคุณค่าต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน ๒. ตัวชี้วัด ท ๕.๑ ม.๑/๑ สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑) นักเรียนสามารถบอกความหมายของบทประพันธ์และค าศัพท์จากบทประพันธ์ได้ ๒) นักเรียนสามารถถอดค าประพันธ์จากเรื่องที่อ่านได้ ๓) นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติกิจกรรม ๔. สาระการเรียนรู้ - เนื้อหาโคลงโลกนิติ ๕. สรรถนะส าคัญของผู้เรียน ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑) วินัย ๒) ใฝ่เรียนรู้ ๓) มุ่งมั่นในการท างาน ๗. ชิ้นงาน/ภาระงาน นักเรียนท าใบงานเรื่องค าศัพท์จากโคลงโลกนิติ
๘. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นน า ๑) ครูถามนักเรียนว่า “การเขียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งต้องมีจุดประสงค์ในการแต่งหรือไม่ อย่างไร แนวค าตอบ การเขียนต้องมีจุดประสงค์ เช่น เขียนต ารามีจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ เขียนนวนิยายเพื่อความบันเทิง ๒) นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์บทน าโคลงโลกนิติว่ากล่าวถึงเรื่องใด และมีจุดประสงค์อย่างไร ๓) ครูสรุปค าตอบของนักเรียนแล้วอธิบายเพิ่มเติมว่า บทน ากล่าวถึง รัชกาลที่ ๓ ทรงให้นิพนธ์ขึ้นโดยมี จุดประสงค์ให้เป็นสุภาษิตสอนใจประชาชน ขั้นสอน ๕) นักเรียนศึกษาเนื้อหาเรื่องโคลงโลกนิติ จากสื่อน าเสนอ Canva เรื่องโคลงโลกนิติ ๖) นักเรียนบันทึกความหมายของศัพท์ยาก เกร็ดความรู้ต่าง ๆ และข้อคิดลงในสมุด ๗) นักเรียนท าใบงานเรื่องค าศัพท์จากโคลงโลกนิติ ๘) นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๑๕ กลุ่ม ส่งตัวแทนกลุ่มจับสลากหมายเลข ๑ - ๑๕ จากนั้นให้แต่ละกลุ่ม ช่วยกันถอดความบทประพันธ์ที่ได้รับมอบหมายจากเรื่องโคลงโลกนิติ ขั้นสรุป ๗) ครูนัดหมายนักเรียนกลุ่มที่ ๑ – ๘ ส่งตัวแทนพูดน าเสนอเนื้อความที่ถอดจากบทประพันธ์ที่ได้รับ โดยครูจะเป็นผู้สรุปและอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับค าศัพท์ยาก และข้อคิดที่ได้จากบทประพันธ์แต่ละบท ๙. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑) สื่อน าเสนอ Canva เรื่องโคลงโลกนิติ ๒) ใบงาน liveworksheet เรื่องค าศัพท์จากโคลงโลกนิติ ๑๐. การวัดและประเมินผล วิธีวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ ๑) ถามค าถามความหมายของ บทประพันธ์และค าศัพท์จาก บทประพันธ์ได้ ค าถาม ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๒) ตรวจใบงาน ใบงาน liveworksheet เรื่องค าศัพท์จากโคลงโลกนิติ ระดับคุณภาพระดับดีขึ้นไปถือ ว่าผ่านเกณฑ์ ๓) สังเกตกระตือรือร้นในการ ปฏิบัติกิจกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพระดับดีขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ โคลงโลกนิติ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง เนื้อหาโคลงโลกนิติ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จ านวน ๑๐ ชั่วโมง เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวอรอุมา พัดทอง สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และน ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ๑. สาระส าคัญ โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดีค าสอนที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยนักปราชญ์ในสมัยนั้น ได้รวบรวมและแปลสุภาษิตจากคัมภีร์โบราณภาษาบาลีและสันสกฤตแล้วน ามาเรียบเรียงเป็นค าประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพ ภายหลังสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศรได้น ามาช าระแก้ไขส านวนถ้อยค าของเก่า จนท าให้มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย โคลงโลกนิติมีความโดดเด่นในด้านเนื้อหาเปรียบเทียบ คุณค่าด้านคติธรรม เพื่อให้ได้ข้อคิด หรือแนวทางในการด าเนินชีวิต รวมถึงสามารถน าคุณค่าต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน ๒. ตัวชี้วัด ท ๕.๑ ม.๑/๑ สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑) นักเรียนสามารถบอกความหมายของบทประพันธ์และค าศัพท์จากบทประพันธ์ได้ ๒) นักเรียนสามารถถอดค าประพันธ์จากเรื่องที่อ่านได้ ๓) นักเรียนอภิปรายคุณค่าของโคลงโลกนิติได้ ๔. สาระการเรียนรู้ - เนื้อหาโคลงโลกนิติ ๕. สรรถนะส าคัญของผู้เรียน ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑) วินัย ๒) ใฝ่เรียนรู้ ๓) มุ่งมั่นในการท างาน ๗. ชิ้นงาน/ภาระงาน พูดน าเสนอเนื้อความที่ถอดจากบทประพันธ์ที่ได้รับ
๘. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นน า ๑) ครูให้นักเรียนดูบทประพันธ์ต่อไปนี้แล้วถามว่า “บทประพันธ์ต่อไปนี้กล่าวถึงอะไร” จากนั้นถอดบท ประพันธ์ เพื่อเป็นตัวอย่างแก่นักเรียน “พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา สายดิ่งทิ้งทอดมา หยั่งได้ เขาสูงอาจวัดวา ก าหนด จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง” แนวค าตอบ บทประพันธ์ดังกล่าวกล่าวถึงจิตใจของมนุษย์ที่ไม่สามารถวัดได้ว่าคิดอย่างไร ขั้นสอน ๒) ครูกล่าวกับนักเรียนว่า “จากคาบเรียนที่แล้ว ครูได้แบ่งนักเรียนออกเป็น ๑๕ กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่ม ช่วยกันถอดความบทประพันธ์ที่ได้รับมอบหมายจากเรื่องโคลงโลกนิติ แล้วส่งตัวแทนพูดน าเสนอเนื้อความ ที่ถอดจากบทประพันธ์ที่ได้รับ ๓) ให้ตัวแทนนักเรียนจากกลุ่มที่ ๑ – ๘ พูดน าเสนอเนื้อความที่ถอดจากบทประพันธ์ที่ได้รับ โดยครู จะเป็นผู้สรุปและอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับค าศัพท์ยาก และข้อคิดที่ได้จากโคลงแต่ละบท ๔) ให้นักเรียนบันทึกความหมายของศัพท์ยาก เกร็ดความรู้ต่าง ๆ และข้อคิดลงในสมุด ขั้นสรุป ๕) ครูนัดหมายนักเรียนกลุ่มที่ ๙ – ๑๕ ส่งตัวแทนพูดน าเสนอเนื้อความที่ถอดจากบทประพันธ์ที่ได้รับ โดยครูจะเป็นผู้สรุปและอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับค าศัพท์ยาก และข้อคิดที่ได้จากบทประพันธ์แต่ละบท ๙. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑) สื่อน าเสนอ Canva เรื่องโคลงโลกนิติ ๒) หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๑๐. การวัดและประเมินผล วิธีวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ ๑) การตอบค าถามความหมาย ของบทประพันธ์และค าศัพท์ จากบทประพันธ์ ค าถาม ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๒) การตอบค าถามของบท ประพันธ์ ค าถาม ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๓) การตอบค าถามเกี่ยวกับ คุณค่าของโคลงโลกนิติ ค าถามเกี่ยวกับคุณค่าของโคลงโลกนิติ ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ โคลงโลกนิติ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖ เรื่อง เนื้อหาโคลงโลกนิติ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จ านวน ๑๐ ชั่วโมง เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวอรอุมา พัดทอง สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และน ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ๑. สาระส าคัญ โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดีค าสอนที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยนักปราชญ์ในสมัยนั้น ได้รวบรวมและแปลสุภาษิตจากคัมภีร์โบราณภาษาบาลีและสันสกฤตแล้วน ามาเรียบเรียงเป็นค าประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพ ภายหลังสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศรได้น ามาช าระแก้ไขส านวนถ้อยค าของเก่า จนท าให้มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย โคลงโลกนิติมีความโดดเด่นในด้านเนื้อหาเปรียบเทียบ คุณค่าด้านคติธรรม เพื่อให้ได้ข้อคิด หรือแนวทางในการด าเนินชีวิต รวมถึงสามารถน าคุณค่าต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน ๒. ตัวชี้วัด ท ๕.๑ ม.๑/๑ สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑) นักเรียนสามารถบอกความหมายของบทประพันธ์และค าศัพท์จากบทประพันธ์ได้ ๒) นักเรียนสามารถถอดค าประพันธ์จากเรื่องที่อ่านได้ ๓) นักเรียนอภิปรายคุณค่าของโคลงโลกนิติได้ ๔. สาระการเรียนรู้ - เนื้อหาโคลงโลกนิติ ๕. สรรถนะส าคัญของผู้เรียน ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑) วินัย ๒) ใฝ่เรียนรู้ ๓) มุ่งมั่นในการท างาน ๗. ชิ้นงาน/ภาระงาน พูดน าเสนอเนื้อความที่ถอดจากบทประพันธ์ที่ได้รับ
๘. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นน า ๑) นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายในหัวข้อ “ความรู้มีค่ามากกว่าสินทรัพย์” จากนั้นเชื่อมโยงเข้าสู่บท ประพันธ์ในเรื่องโคลงโลกนิติ ขั้นสอน ๒) ครูกล่าวกับนักเรียนว่า “จากคาบเรียนที่แล้ว ครูได้แบ่งนักเรียนออกเป็น ๑๕ กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่ม ช่วยกันถอดความบทประพันธ์ที่ได้รับมอบหมายจากเรื่องโคลงโลกนิติ แล้วส่งตัวแทนพูดน าเสนอเนื้อความ ที่ถอดจากบทประพันธ์ที่ได้รับได้ไปจ านวน ๘ กลุ่มแล้ว” ๓) ให้ตัวแทนนักเรียนจากกลุ่มที่ ๙ – ๑๕ พูดน าเสนอเนื้อความที่ถอดจากบทประพันธ์ที่ได้รับ โดยครู จะเป็นผู้สรุปและอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับค าศัพท์ยาก และข้อคิดที่ได้จากโคลงแต่ละบท ๔) ให้นักเรียนบันทึกความหมายของศัพท์ยาก เกร็ดความรู้ต่าง ๆ และข้อคิดลงในสมุด ขั้นสรุป ๕) นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องโคลงโลกนิติ ๙. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑) สื่อน าเสนอ Canva เรื่องโคลงโลกนิติ ๒) หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๑๐. การวัดและประเมินผล วิธีวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ ๑) การตอบค าถามความหมาย ของบทประพันธ์และค าศัพท์ จากบทประพันธ์ ค าถาม ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๒) การตอบค าถามของบท ประพันธ์ ค าถาม ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๓) การตอบค าถามเกี่ยวกับ คุณค่าของโคลงโลกนิติ ค าถามเกี่ยวกับคุณค่าของโคลงโลกนิติ ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ โคลงโลกนิติ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เรื่อง เนื้อหาโคลงโลกนิติ๓ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จ านวน ๑๐ ชั่วโมง เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวอรอุมา พัดทอง สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และน ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ๑. สาระส าคัญ โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดีค าสอนที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยนักปราชญ์ในสมัยนั้น ได้รวบรวมและแปลสุภาษิตจากคัมภีร์โบราณภาษาบาลีและสันสกฤตแล้วน ามาเรียบเรียงเป็นค าประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพ ภายหลังสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศรได้น ามาช าระแก้ไขส านวนถ้อยค าของเก่า จนท าให้มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย โคลงโลกนิติมีความโดดเด่นในด้านเนื้อหาเปรียบเทียบ คุณค่าด้านคติธรรม เพื่อให้ได้ข้อคิด หรือแนวทางในการด าเนินชีวิต รวมถึงสามารถน าคุณค่าต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน ๒. ตัวชี้วัด ท ๕.๑ ม.๑/๑ สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑) นักเรียนสามารถบอกหลักการเขียนบรรยายประสบการณ์และหลักการพูดแสดงความคิดได้ ๒) นักเรียนสามารถเขียนบรรยายประสบการณ์และหลักการพูดแสดงความคิดได้ ๓) นักเรียนเห็นความส าคัญและกระตือรือร้นในการร่วมกิจกรรม ได้ ๔. สาระการเรียนรู้ - การพูดหรือเขียนเล่าเรื่อง ๕. สรรถนะส าคัญของผู้เรียน ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑) วินัย ๒) ใฝ่เรียนรู้ ๓) มุ่งมั่นในการท างาน ๗. ชิ้นงาน/ภาระงาน การพูดหรือเขียนเล่าเรื่องที่สะท้อนการใช้ค าสอนในโคลงโลกนิติ
๘. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นน า ๑) ให้นักเรียนอ่านข้อความที่ครูก าหนด แล้วร่วมกันบอกว่าข้อความดังกล่าวสอดคล้องกับค าสอนในโคลง โลกนิติบทใด สมัยที่ผมยังเป็นเด็ก ในวันแม่ ๑๒ สิงหา ที่โรงเรียนจะเปิดเพลงค่าน้ านมหน้าเสาธง จนผมต้องร้องไห้โฮ ออกมาทุกที เพราะมันแทงใจด าของผม พอเข้าไปในห้องเรียน คุณครูประจ าชั้น ก็ให้พวกเราท ารายงานส่งโดยให้ เขียนเรียงความวันแม่ ซึ่งตอนนั้นผมก็เขียนบรรยายไปตามเรื่องตามราว ว่าแม่เลี้ยงดูเรามาอย่างไร แม่รักเราแค่ ไหน ทุกวันแม่ท าอะไรให้เราบ้าง พร้อมทั้งคัดลอกเพลง “ใครหนอ” รักเราเท่าชีวี มาประกอบเรียงความให้ดู ซาบซึ้งกินใจขึ้น ผลงานของผมได้รับรางวัลเรียงความดีเด่นจากโรงเรียน แต่ความรู้สึกในใจของผมในตอนนั้น มันไม่ได้เศษเสี้ยวความรักที่ผมมีให้แม่ในตอนนี้เลย เฉลย คุณแม่หนาหนักเพี้ยง พสุธา คุณบิดรดุจอา กาศกว้าง คุณพี่พ่างศิขรา เมรุมาศ คุณพระอาจารย์อ้าง อาจสู้สาคร ขั้นสอน ๒) ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๓-๔ คน หาข่าวอินเทอร์เน็ต กลุ่มละ ๑ ข่าว ที่สอดคล้องกับค าสอนใน โคลงโลกนิติ ตัวแทนกลุ่มออกมาน าเสนอหน้าชั้นเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง ๓) นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ การพูดหรือเขียนเล่าเรื่องที่สอดคล้องกับค าสอนในโคลงโลกนิติ เป็นการพูดหรือเขียนเพื่อแสดงให้เห็นว่าโคลงโลกนิติเป็นสุภาษิตค าสอนที่มีความทันสมัย เหมาะสมกับการด าเนิน ชีวิตในปัจจุบัน ผู้พูดหรือเขียนเล่าเรื่องต้องเข้าใจเนื้อหาในโคลงโลกนิติจึงจะสามารถน ามาเชื่อมโยงกับชีวิตจริงได้ ขั้นสรุป ๕) นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องโคลงโลกนิติ ๙. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑) ข่าวออนไลน์ ๑๐. การวัดและประเมินผล วิธีวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ ๑) สังเกตพฤติกรรมการท างาน รายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการท างาน รายบุคคล ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ๒) สังเกตการใฝ่เรียนรู้ มีความ รับผิดชอบและมุ่งมั่นในการ ท างาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ โคลงโลกนิติ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง ค าพังเพยและสุภาษิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จ านวน ๑๐ ชั่วโมง เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวอรอุมา พัดทอง สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และน ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ๑. สาระส าคัญ โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดีค าสอนที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยนักปราชญ์ในสมัยนั้น ได้รวบรวมและแปลสุภาษิตจากคัมภีร์โบราณภาษาบาลีและสันสกฤตแล้วน ามาเรียบเรียงเป็นค าประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพ ภายหลังสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศรได้น ามาช าระแก้ไขส านวนถ้อยค าของเก่า จนท าให้มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย โคลงโลกนิติมีความโดดเด่นในด้านเนื้อหาเปรียบเทียบ คุณค่าด้านคติธรรม เพื่อให้ได้ข้อคิด หรือแนวทางในการด าเนินชีวิต รวมถึงสามารถน าคุณค่าต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน ๒. ตัวชี้วัด ท ๕.๑ ม.๑/๑ สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑) นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของสุภาษิตและค าพังเพย ได้ ๒) นักเรียนสามารถวิเคราะห์ค าสอนในโคลงโลกนิติเชื่อมโยงกับสุภาษิตและค าพังเพย ได้ ๓) นักเรียนเห็นความส าคัญของการน าสุภาษิตและค าพังเพยมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติตน ได้ ๔. สาระการเรียนรู้ - ค าพังเพยและสุภาษิต ๕. สรรถนะส าคัญของผู้เรียน ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑) วินัย ๒) ใฝ่เรียนรู้ ๓) มุ่งมั่นในการท างาน ๗. ชิ้นงาน/ภาระงาน วาดภาพให้สอดคล้องกับสุภาษิตหรือค าพังเพยในโคลงโลกนิติ
๘. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นน า ๑) ให้นักเรียนร่วมกันเติมตัวอักษรที่หายไปในค าพังเพยและสุภาษิต โดยครูบอกความหมาย ขั้นสอน ๒) นักเรียนดูภาพค าพังเพยและสุภาษิต แล้วร่วมกันบอกค าพังเพยและสุภาษิตพร้อมทั้งความหมาย ครู และนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง ๓) นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๓-๔ คน วาดภาพให้สอดคล้องกับสุภาษิตหรือค าพังเพยในโคลงโลกนิติ ระบายสีตกแต่งให้สวยงาม ออกมาน าเสนอหน้าชั้นเรียน โดยให้เพื่อนทายว่าตรงกับโคลงโลกนิติบทใด ครูและ นักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นน าภาพวาดไปจัดป้ายนิเทศ ขั้นสรุป ๔) นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องโคลงโลกนิติ มีค าสอนที่สอดคล้องกับค าพังเพยและสุภาษิต การเข้าใจ เนื้อหาท าให้สามารถน าค าพังเพยและสุภาษิตไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวันได้ ๙. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑) หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๑๐. การวัดและประเมินผล วิธีวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ ๑) สังเกตพฤติกรรมการท างาน รายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการท างาน รายบุคคล ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ๒) สังเกตการใฝ่เรียนรู้ มีความ รับผิดชอบและมุ่งมั่นในการ ท างาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ โคลงโลกนิติ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙ เรื่อง วิเคราะห์คุณค่าของโคลงโลกนิติ ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จ านวน ๑๐ ชั่วโมง เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวอรอุมา พัดทอง สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และน ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ๑. สาระส าคัญ โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดีค าสอนที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยนักปราชญ์ในสมัยนั้น ได้รวบรวมและแปลสุภาษิตจากคัมภีร์โบราณภาษาบาลีและสันสกฤตแล้วน ามาเรียบเรียงเป็นค าประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพ ภายหลังสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศรได้น ามาช าระแก้ไขส านวนถ้อยค าของเก่า จนท าให้มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย โคลงโลกนิติมีความโดดเด่นในด้านเนื้อหาเปรียบเทียบ คุณค่าด้านคติธรรม เพื่อให้ได้ข้อคิด หรือแนวทางในการด าเนินชีวิต รวมถึงสามารถน าคุณค่าต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน ๒. ตัวชี้วัด ท ๕.๑ ม.๑/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑) นักเรียนสามารถอธิบายคุณค่าทางวรรณศิลป์จากเรื่องโคลงโลกนิติได้ถูกต้อง ๒) นักเรียนสามารถเขียนวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์จากเรื่องโคลงโลกนิติได้ ๓) นักเรียนอภิปรายคุณค่าของโคลงโลกนิติได้ ๔. สาระการเรียนรู้ - คุณค่าจากโคลงโลกนิติ ๑) คุณค่าด้านเนื้อหา ๒) คุณค่าด้านสังคมและวัฒนธรรม ๓) คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ๕. สรรถนะส าคัญของผู้เรียน ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑) วินัย ๒) ใฝ่เรียนรู้ ๓) มุ่งมั่นในการท างาน
๗. ชิ้นงาน/ภาระงาน เขียนแผนผังความคิด“ภาษาวรรณศิลป์ในเรื่องโคลงโลกนิติ” ๘. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นน า ๑) นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนเรื่องภาษาวรรณศิลป์ในวรรณคดีไทย ขั้นสอน ๒) นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๕ - ๖ คน ร่วมกันศึกษาเกี่ยวกับ “ภาษาวรรณศิลป์ในเรื่อง โคลงโลกนิติ” ยกตัวอย่างบทประพันธ์ พร้อมค าอธิบายเป็นแผนผังความคิด และเตรียมตัวแทนกลุ่มน าเสนอ ตามหัวข้อต่อไปนี้ - คุณค่าด้านเนื้อหา - คุณค่าด้านสังคมและวัฒนธรรม - คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ๓) ให้นักเรียนเตรียมตัวแทนออกมาน าเสนอหน้าชั้นเรียน ขั้นสรุป ๔) นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องคุณค่าจากเรื่องโคลงโลกนิติ ๙. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑) หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๑๐. การวัดและประเมินผล วิธีวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ ๑) การตอบค าถามอธิบาย คุณค่าทางวรรณศิลป์จากเรื่อง โคลงโลกนิติได้ถูกต้อง ค าถาม ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๒) ตรวจแผนผังความคิด แบบประเมินแผนผังความคิดการวิเคราะห์ คุณค่าด้านวรรณศิลป์จากเรื่องโคลงโลกนิติ ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๓) การตอบค าถามเกี่ยวกับ คุณค่าของโคลงโลกนิติ ค าถามเกี่ยวกับคุณค่าของโคลงโลกนิติ ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป
แบบประเมนิแผนผังความคิดคุณค่าที่ได้รับจากเรื่องโคลงโลกนิติ ผังมโนทัศน์ ระดับคุณภาพ รวม ดีมาก (๑๐ - ๙) ดี (๘ - ๖) พอใช้ (๖ - ๓) ควรปรับปรุง (๒ - ๑) ด้านเนื้อหา แสดงความรู้ความ เข้าใจในเนื้อหา ได้ครบถ้วนทุก ประเด็น แสดงความรู้ความ เข้าใจในเนื้อหาได้ดี แต่ยังข าดเนื้อห า ๑ ประเด็น แสดงความรู้ความ เข้าใจในเนื้อหา แต่ยังขาดเนื้อหา ๒ ประเด็น แสดงความรู้ความ เข้าใจในเนื้อหา แต่ขาดเนื้อหา ๓ ประเด็นขึ้นไป ด้านการ น าเสนอ ผลงาน จัดท าแผนภาพ อย่างเป็นระบบ ลายมือเป็น ระเบียบ อ่านง่าย จัดท าแผนภาพ อย่างเป็นระบบ แต่ มีการน าเสนอ เนื้อหา ๑ ประเด็นที่ มีการจัดวางไม่ ชัดเจน ศึกษา รายละเอียดได้ ค่อนข้างยาก เนื่องจากลายมือไม่ เป็นระเบียบนัก จัดท าแผนภาพ แต่มีการน าเสนอ เนื้อหา ๒ ประเด็นที่มีการ จัดวางไม่ชัดเจน ศึกษารายละเอียด ได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากลายมือ ไม่เป็นระเบียบนัก จัดท าแผนภาพ แต่มีการน าเสนอ เนื้อหา ๓ ประเด็นที่มีการ จัดวางไม่ชัดเจน ศึกษารายละเอียด ได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากลายมือ ไม่เป็นระเบียบนัก ด้านการ ออกแบบ มีการใช้รูปภาพ ตัวอักษรและสีสัน เร้าความสนใจ มี มาตราส่วนและ สมดุลของภาพ มีการใช้ตัวอักษร และสีสัน เร้าความ สนใจ มีมาตราส่วน และสมดุลของภาพ มีการใช้ตัวอักษร และสีสัน น่าสนใจ ขาดมาตราส่วน และสมดุลของ ภาพ ขาดการใช้ ตัวอักษรและสีสัน มาตราส่วนและ สมดุลของภาพ ไม่ได้สัดส่วน ระดับคุณภาพ ๑๐ - ๙ = ดีมาก ๘ - ๗ = ดี ๕ - ๓ = พอใช้ ๒ - ๑ = ควรปรับปรุง ผลการประเมิน ๒๖ - ๓๐ = ดีมาก ๒๐ - ๒๕ = ดี ๑๑ - ๑๙ = พอใช้ ๐ - ๑๐ = ควรปรับปรุง ลงชื่อ.............................ผู้ประเมิน (........................................) ......../................/..........
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๐ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ โคลงโลกนิติ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๐ เรื่อง วิเคราะห์คุณค่าของโคลงโลกนิติ ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จ านวน ๑๐ ชั่วโมง เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวอรอุมา พัดทอง สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และน ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ๑. สาระส าคัญ โคลงโลกนิติ เป็นวรรณคดีค าสอนที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยนักปราชญ์ในสมัยนั้น ได้รวบรวมและแปลสุภาษิตจากคัมภีร์โบราณภาษาบาลีและสันสกฤตแล้วน ามาเรียบเรียงเป็นค าประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพ ภายหลังสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศรได้น ามาช าระแก้ไขส านวนถ้อยค าของเก่า จนท าให้มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย โคลงโลกนิติมีความโดดเด่นในด้านเนื้อหาเปรียบเทียบ คุณค่าด้านคติธรรม เพื่อให้ได้ข้อคิด หรือแนวทางในการด าเนินชีวิต รวมถึงสามารถน าคุณค่าต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน ๒. ตัวชี้วัด ท ๕.๑ ม.๑/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑) นักเรียนสามารถอธิบายคุณค่าทางวรรณศิลป์จากเรื่องโคลงโลกนิติได้ถูกต้อง ๒) นักเรียนสามารถเขียนวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์จากเรื่องโคลงโลกนิติได้ ๓) นักเรียนอภิปรายคุณค่าของโคลงโลกนิติได้ ๔. สาระการเรียนรู้ - คุณค่าจากโคลงโลกนิติ ๑) คุณค่าด้านเนื้อหา ๒) คุณค่าด้านสังคมและวัฒนธรรม ๓) คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ๕. สรรถนะส าคัญของผู้เรียน ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคิด ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑) วินัย ๒) ใฝ่เรียนรู้ ๓) มุ่งมั่นในการท างาน
๗. ชิ้นงาน/ภาระงาน พูดน าเสนอ“ภาษาวรรณศิลป์ในเรื่องโคลงโลกนิติ” ๘. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ขั้นน า ๑) นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนเรื่องคุณค่าในวรรณคดีไทย ขั้นสอน ๒) ให้นักเรียนเตรียมตัวแทนออกมาน าเสนอหน้าชั้นเรียน จากการแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๕ - ๖ คน ร่วมกันศึกษาเกี่ยวกับ “ภาษาวรรณศิลป์ในเรื่องโคลงโลกนิติ” ยกตัวอย่างบทประพันธ์ พร้อมค าอธิบายเป็น แผนผังความคิด เก็บคะแนน ๕ คะแนน และเตรียมตัวแทนกลุ่มน าเสนอ ตามหัวข้อต่อไปนี้ - คุณค่าด้านเนื้อหา - คุณค่าด้านสังคมและวัฒนธรรม - คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ๓) ครูแจ้งเกณฑ์การให้คะแนนการพูดน าเสนอกับนักเรียนแล้วให้นักเรียนออกมาน าเสนอทีละกลุ่ม ขั้นสรุป ๔) นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องคุณค่าจากเรื่องโคลงโลกนิติ ๙. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑) หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๑๐. การวัดและประเมินผล วิธีวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ ๑) การตอบค าถามอธิบาย คุณค่าทางวรรณศิลป์จากเรื่อง โคลงโลกนิติได้ถูกต้อง ค าถาม ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๒) ตรวจแผนผังความคิด แบบประเมินแผนผังความคิดการวิเคราะห์ คุณค่าด้านวรรณศิลป์จากเรื่องโคลงโลกนิติ ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๓) การตอบค าถามเกี่ยวกับ คุณค่าของโคลงโลกนิติ ค าถามเกี่ยวกับคุณค่าของโคลงโลกนิติ ผู้เรียนตอบค าถามได้ถูกต้อง ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป
ภาคผนวก สื่อและนวัตกรรมการสอน
สื่อและนวัตกรรมการสอน
สื่อและนวัตกรรมการสอน (ต่อ)
สื่อและนวัตกรรมการสอน (ต่อ) แบบทดสอบ เรื่อง โคลงโลกนิติ
ภาคผนวก ภาพกิจกรรมการเรียนการสอน
ภาพกิจกรรมการเรียนการสอน
ภาพกิจกรรมการเรียนการสอน