การปฏิบัติงานที่เป็นเลิศคุณครูธัญญลักษณ์ 2

ก
คำนำ

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการนำผลงานเสนอขอรับการประกวดผลงานที่มีวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ
(Best Practice) ในรายวิชาภาษาอังกฤษ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่าน
ภาษาอังกฤษ โดยใช้ชุดคำศัพท์นำเสนอผ่าน Application (Canva) ซึ่งได้นำเสนอถึง ความสำคัญของผลงานหรือ
นวัตกรรม จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน กระบวนการพัฒนาผลงาน ซึ่งได้ใช้วิธีการสอนแบบ PPP
Method อันประกอบไปด้วย ขั้นนำเสนอ(Presentation) ขั้นฝึก (Practice) และขั้นนำไปใช้ (Production) มา
ปรับใช้ในการเรียนการสอน รวมทั้งได้นำเสนอผลการดำเนินงาน ปัจจัยความสำเร็จ บทเรียนที่ได้รับ และการ
เผยแพร่ผลงาน เพื่อเป็นเอกสารประกอบการคดั เลือกผลงานหรือนวัตกรรม วิธีการปฏบิ ัติที่เป็นเลิศ ผู้นำเสนอหวัง
เป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารฉบับนี้คงจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคณะกรรมการประเมินผลงานหรือนวัตกรรม
วิธีการปฏิบตั ทิ ่ีเป็นเลิศ (Best Practice) ได้เป็นอยา่ งดี เอกสารประกอบเพื่อขอรับการประเมินฉบับน้ีเสร็จสมบูรณ์
ได้ด้วยความร่วมมือของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผู้อำนวยการโรงเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการ
ศึกษา โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธ์ุ ที่ได้ช่วยรวบรวมข้อมูลต่างๆ ทำให้สะดวกต่อ
การจัดทำเอกสารฉบับนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารฉบับนี้คงจะอำนวยความสะดวกให้แก่คณะกรรมการประเมิน
ในการพจิ ารณา ตรวจสอบคณุ สมบตั ขิ องครูผู้เขา้ รบั การประเมินต่อไป

ธัญญลักษณ์ อรรคฮาดศรี

สารบัญ ข

เรอ่ื ง หนา้
คำนำ ก
สารบญั ข
1
1.สภาพปัญหาและความเปน็ มา 4
2. จุดประสงคแ์ ละเปา้ หมายของการดำเนนิ งาน 5
3. กระบวนการพัฒนาผลงาน/นวัตกรรม หรอื ข้ันตอนการดำเนนิ งาน 6
4. ผลการดำเนนิ การ/ผลสมั ฤทธ์ิ/ประโยชน์ท่ีไดร้ ับ 7
5. ปจั จัยความสำเรจ็ 7
6. บทเรียนทไ่ี ดร้ บั (Lesson Learned) 7
7. การเผยแพร/่ การได้รบั การยอมรับ/รางวลั ท่ีได้รับ 8
8. ภาคผนวก

1

การคัดเลือกผลงาน/นวตั กรรมการปฏิบัตทิ ีด่ ี (Best Pra0ctice)
ระดบั เขตพืน้ ที่การศึกษา

.........................................................................................
ชอ่ื ผลงาน การจัดการเรียนการสอน แบบ 3P (PPP TEACHING MODEL) เพื่อเสรมิ สรา้ งทกั ษะการอา่ น

ภาษาอังกฤษ โดยใช้ชุดคำศพั ท์นำเสนอผ่าน Application (Canva) ของครผู ู้สอนระดับประถมศึกษา
ขอ้ มลู ทัว่ ไป
ชื่อ-สกลุ ผู้เสนอผลงาน นางสาวธัญญลกั ษณ์ อรรคฮาดศรี
ตาํ แหนง่ ครู (คศ.1)
โรงเรยี นหนองโนวิทยาคม ตำบลหวั หนิ อำเภอห้วยเมก็ จงั หวัดกาฬสินธุ์ สังกัดสำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษา
ประถมศึกษากาฬสนิ ธ์ุ เขต 2
โทรศพั ท์ 097-2508878 E-Mail : [email protected]

1. สภาพปญั หาและความเป็นมา

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2545
หมวด 4 แนวทางการจัดการศึกษามาตรา 22 ได้กำหนดไว้ว่าการจัดการศึกษาต้องยึดหลักเสมอว่า ผู้เรียนทุกคนมี
วามสามารถที่จะเรียนรู้ และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้อง
ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนา ตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ และมาตรา 24 ได้กล่าวถึงการจัดกระบวนการ
เรียนรู้ให้สถานศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดเนื้อหาสาระและกิจกรรม ให้สอดคล้องกับความ
สนใจและความถนัดของผู้เรียน โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ
การเผชิญสถานการณ์ การประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาจัดกิจกรรมให้ผู้เรียน ได้เรียนรู้จาก
ประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทำได้ คิดเป็น ทำเป็น รักการอ่านทำให้เกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง และจัดการ
เรยี นการสอนโดยผสมสาระความรู้ต่างๆ ได้อยา่ งสมดลุ กนั รวมท้ังปลูกฝงั คุณธรรม ค่านิยมทดี่ งี ามและ คณุ ลักษณะ
อนั พึงประสงค์ไวใ้ นทุกวิชาส่งเสริมสนับสนุนผู้สอนสามารถ จัดบรรยากาศ สภาพแวดลอ้ ม สอื่ การเรยี นและอำนวย
ความสะดวกเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และมีความรอบรู้รวมทั้งสามารถใช้ในการวิจัยเป็น ส่วนหนึ่งของ
กระบวนการเรียนรู้ทั้งผู้สอนผู้เรียน อาจเรียนไปพร้อมกันจากสื่อการเรียนการสอน และวิทยาการประเภทต่างๆ
จัดการเรียนรู้ให้เกิดได้ทุกเวลาทุกสถานที่ และมีการประสานความร่วมมือกับบิดา มารดา ผู้ปกครองและบุคคลใน
ชุมชนทุกฝ่าย เพื่อร่วมกันพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ (สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาแห่งชาติ, 2542 : 22 –
24 ) ด้วยเหตุผลดังกล่าว ภาษาอังกฤษจึงมีบทบาทและความสำคัญ รวมไปถึงควรมีการปลูกฝังการเรียนรู้ตาม
ทักษะการใช้ภาษาทั้งด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนอย่างมีประสิทธิภาพกระทรวงศึกษาธิการได้ให้
ความสำคัญเกี่ยวกับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศในทุกช่วงชัน้ เพื่อเสริมสร้างศกั ยภาพใน
การทำงานและการคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงทกั ษะการพูดและยังได้

2
กำหนดให้มีการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษด้านทักษะการพูดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สาระที่ 1: ภาษาเพื่อการสื่อสาร ต 1.2 พูด
โต้ตอบด้วยคำสั้น ๆ ง่าย ๆ ในการสื่อสารระหว่างบุคคลตามแบบที่ฟัง พูดขอและให้ข้อมูลง่าย ๆ เกี่ยวกับตนเอง
และเพื่อนตามแบบที่ฟัง และสาระที่ 4: ภาษากับความสัมพันธก์ ับชุมชนและโลก ต 4.1 ฟัง/พูดในสถานการณ์ง่าย
ๆ ท่ีเกิดขึน้ ในหอ้ งเรยี น ปญั หาสำคญั ประการหนึ่งของระบบการศึกษาไทย คอื ขาดกระบวนการเรียนรทู้ ด่ี ี สภาพ
การเรียนการสอนโดยท่ัวไปตั้งแต่ประถมศึกษาไปจนถึงมหาวิทยาลัย คือ การศึกษาเอาวิชาเป็นตัวตั้ง ครูถ่ายทอด
เนื้อหา นักเรียนท่องจำ การเรียนที่เน้นการถ่ายทอดและการท่องจำ เนื้อหาวิชาดังกล่าวก่อให้เกิดผลเสียหลาย
ประการดังเชน่ ผเู้ รยี นคดิ ไม่เปน็ ทำไมเ่ ป็น และสัมพนั ธก์ บั คนอน่ื และสงิ่ แวดล้อมไม่เป็นทำให้การเรียนรู้ไม่เป็น ไม่
เป็นบุคคลเรียนรทู้ ี่สามารถเรยี นรู้อยา่ งต่อเนอ่ื งได้ตลอดชีวติ (ประเวศ วะสี, 2542 : 40 – 47) กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นที่จะต้องใช้ภาษาอังกฤษให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก จึงได้
กำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศที่เป็นสาระการเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน ตลอดหลักสูตร
การศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2552 โดยระบุถึงความสำคัญของการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ไว้ว่า
ภาษาต่างประเทศนั้นมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวันเนื่องจากเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการ
ติดต่อสื่อสาร การศึกษา การแสวงหาความรู้การประกอบอาชีพ การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและ
วิสัยทัศน์ของชุมชนโลก และตระหนักถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองของสังคมโลก นำมาซึ่งมิตร
ไมตรีและความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ช่วยพัฒนาผู้เ รียนให้มีความเข้าใจตนเองและผู้อื่นดีข้ึน
(กระทรวงศึกษาธิการ 2552: 290) ซึ่งการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง มีลักษณะเป็นการซึมทราบ ภาษา
เพราะผู้เรียนอยู่ในสภาพเดียวกับเด็กที่เรียนภาษาแม่ซึ่งจะพัฒนาเข้าสู่ภาษาหลักในที่สุด เพราะความจำเป็นที่จะ
ติดต่อสื่อสารกับคนรอบๆ ข้าง การสอนภาษาอังกฤษในประเทศจึงเป็นการสอนเพื่อสื่อความหมายมีนักเรียนและ
กจิ กรรมเปน็ ศนู ย์กลางในการเรียนการสอน ครูทำหนา้ ท่ใี ห้คำอธิบาย เป็นผจู้ ดั กิจกรรมและแสดงวิธที ำกิจกรรมทาง
เพื่อให้ผู้เรียนฝึกภาษาในกลุ่มของตนเอง (บัญชา อึ๋งสกุล 2549:59 – 60) การที่ผู้เรียนจะใช้ภาษาได้ถูกต้อง
คล่องแคล่วและเหมาะสมนั้น ขึ้นอยู่กับทักษะการใช้ภาษาในการจัดการเรียน การสอนภาษาที่ดี ผู้เรียนจะต้องมี
โอกาสได้ฝึกทักษะการใช้ภาษาให้มากที่สุด จัดกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งกิจกรรมการฝึกทักษะทางภาษา และ
กิจกรรมการฝึกให้ผู้เรียนรู้วิธีการเรียนภาษาด้วยตัวเองควบคู่ไปด้วย อันจะนำไปสู่การเป็นผู้เรียนที่พึ่งตนเองได้
(Learner Independent) และสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) โดยใช้ภาษาต่างประเทศเป็น
เครื่องมือในการคน้ ควา้ หาความรู้ในการเรียนวิชาอื่นๆ การศึกษาต่อ ซึ่งเป็นจดุ หมายสำคัญในการปฏิรูปการเรียนรู้
(กรมวิชาการ 2544: 2)

ด้วยการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในระดับประถมศึกษา มุ่งเน้นพัฒนาความสามารถในการใช้
ภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสารในสถานการณ์จริง ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้ และความสามารถทางภาษาอังกฤษพ้ืนฐานมีเจต
คติที่ดีต่อภาษาอังกฤษเป็นสำคัญ และความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้ในสถานการณ์จริงประกอบด้วย
ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพือ่ เข้าสู่สังคมและวัฒนธรรม ความสามารถในการใช้ภาษาเพือ่ สือ่ ความอยา่ ง
ถกู ตอ้ งตามหลักภาษาและเหมาะสมกบั สถานการณก์ ารใช้ (กระทรวงศึกษาธกิ าร 2552) (สุไร พงษ์ทองเจรญิ

3
2525: 4) ได้ให้ความเห็นว่าผู้ที่จะติดต่อกันนั้นจะต้องรู้จักและเข้าใจตัวอักษรนั้นๆ กล่าวคือ จะต้องอ่านออกและ
เข้าใจความหมายตลอดท้ังสามารถถ่ายทอดความรูส้ ึกนึกคิดของตนออกเปน็ ตัวอักษรให้ผู้ที่ตนตดิ ต่อนั้นเข้าใจด้วย
ซึ่งจะเห็นว่าการอ่านและการเขียนนั้นจะต้องอาศัยสัญลักษณ์หรือตัวอักษรที่ใช้แทนเสียง และเป็นระเบียนวิธีการ
สะกดคำ เปน็ คำต่างๆ การสะกดคำได้ถูกต้องจะช่วยให้การอ่านและการเขียนมปี ระสิทธิภาพมากย่ิงขึ้น ทั้งน้ีเพราะ
การสะกดคำ เป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญของการอ่านและการเขียน การเขียนสะกดคำจึงมีความสัมพันธ์กับ
ทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนเป็นอย่างมาก เพราะการเขียนสะกดคำเป็นพื้นฐานของการใช้ภาษา
อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ปัญหาการเขียนสะกดคำยังมีปรากฏอยู่อีกมาก
อาจมีสาเหตุเนื่องจากด้านครูผู้สอน ครูยังขาดประสบการณ์ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ครูมีปัญหาในการ
ออกเสยี งคำศัพท์และไม่ใชส้ ื่อการสอน ไมเ่ ปล่ียนแปลงเทคนิควธิ ีการสอนให้หลากหลาย ด้านนกั เรยี น นักเรียนขาด
ความกระตือรือร้น มีเจตคติที่ไม่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ และด้านหนังสือตำราเรียนมีจำนวนไม่เพียงพอ (ทิพ
วัลย์ มาแสง 2532) ดังนั้นครูจึงจำเป็นต้องให้นักเรียนฝึกเขียนสะกดคำศัพท์และจดจำให้ได้ว่าคำศัพท์แต่ละคำ
ประกอบด้วยพยัญชนะและสระอะไรบ้าง โดยครูสามารถกระตุ้นการเขียนสะกดคำศัพท์ของนักเรียนผ่านกิจกรรม
การเล่นเกม การใชช้ ดุ การสอน แบบฝึกทกั ษะ ซง่ึ การฝกึ ทักษะน้ันควรจะฝกึ จากสิ่งทง่ี า่ ยไปหาส่งิ ทีย่ าก ควรเร่ิมจาก
สิ่งที่ใกล้ตัวนักเรียนมากที่สุด เช่น เนื้อหาที่เกี่ยวกับตนเอง บุคคลในครอบครัว เพื่อน โรงเรียน อาชีพ เป็นต้น สิ่ง
เหล่านี้เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันของนักเรียน ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนเห็นถึงความสำคัญในการจดจำ
คำศพั ท์ และฝกึ การอ่านคำศพั ทใ์ หถ้ ูกต้องเพ่ือใช้ในการเรียนและสามารถใช้ชวี ติ ประจำวนั ต่อไป

จากสภาพปญหาดังกลาว ผูสอนเห็นความจำเปน็ ในการพัฒนาความสามารถในการอา่ นภาษาอังกฤษเพื่อการ
สื่อสารของนักเรียน ซึ่งจากการศึกษาเอกสารงานวิจัยและเอกสารเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ภาษาอังกฤษ พบวากจิ กรรมภาษาเพื่อการส่ือสารเปนส่ือประเภทวชิ าการทีจ่ ะชว่ ยใหนักเรียนไดฝกทักษะภาษา
อยางหลากหลาย และเปนการสรางบรรยากาศในชน้ั เรยี นการเรียนรูอันจะสง่ ผลใหนักเรยี นทม่ี ที ัศนคติท่ีดี
ตอการเรยี นภาษาอังกฤษ นอกจากนี้กิจกรรมทางภาษาจะชว่ ยทำใหนักเรียนเกิดการเรยี นรูอยางมีความหมาย และ
สามารถนําไปใชในชีวิตประจําวันได้เปนอยางดีซึ่งสอดคลองกับคํากลาวของจอหนสันและมอรโร (Johnson and
Morrow. 1987:64) ที่วาการใหผูเรียนฝกปฏิบตั ิกจิ กรรมทางภาษาเพื่อการสื่อสารเทานัน้ ที่จะทําใหผูเรียนสามารถ
สื่อสารได ซึ่งวิธีการสอนภาษาที่รู้จักกันดีอย่างกว้างขวางทั่วโลก คือ วิธีการสอนรูปแบบ 3P (PPP Teaching
Model) เป็นวิธีการสอนภาษาตามลำดับขั้น ได้แก่ ขั้นที่ 1 การนำเสนอ (Presentation) ผู้สอนนำเสนอเนื้อหา
ความรู้การใช้ภาษาใหม่ ๆ ใหก้ ับผู้เรียนข้นั ท่ี 2 การฝกึ ปฏบิ ตั ิ (Practice) เปน็ การเปดิ โอกาสให้ผู้เรียนนำความรู้ท่ี
ได้รับในขั้นนำเสนอมาฝึกปฏิบัติในลักษณะควบคุม (Controlled Practice) เช่น แบบฝึกหัด ถามตอบ สนทนา
โตต้ อบ ผสู้ อนคอยสนบั สนุนใหก้ ารฝึกปฏบิ ตั ิดำเนินไปอย่างมีความหมาย และข้นั ท่ี 3 การนำไปใช้ (Production)
หลังจากผู้เรียนได้ฝึกฝนและเข้าใจการใช้ภาษาได้พอสมควรแล้ว ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนนำความรู้และทักษะ
ภาษาที่มีไปใช้ในสถานการณ์ใหม่ได้อย่างอิสระ (Free Practice) ในกิจกรรมสื่อสารต่าง ๆ เช่น บทบาทสมมติ
สถานการณ์จำลอง สอ่ื นวตั กรรมตา่ งๆ เกมสท์ างภาษา การสำรวจ การหาขอ้ มูล

4
ซึ่งรูปแบบการสอน 3P นี้ มีแนวคิดพื้นฐานว่าภาษาเป็นเครื่องมอื ที่ใช้ในการสื่อสาร ดังนั้น เป้าหมายของ
การสอนภาษา คือ ให้ผู้เรียนภาษาสามารถสื่อสารได้อย่างเหมาะสมในบริบทต่าง ๆ ทางสังคม (Social Context)
หรือสถานการณส์ อ่ื สารในชีวิตจรงิ ท่ีมคี วามแตกตา่ งและหลากหลาย (ธนกร สวุ รรณพฤฒิ, 2558)
ดังน้นั ผ้สู อนจงึ ไดจ้ ดั วิธีการสอนรูปแบบ 3P (PPP Teaching Model) โดยการพัฒนาส่อื การจดั การเรยี น
การสอน เพ่ือเสรมิ สรา้ งทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ โดยใช้ชุดคำศพั ทน์ ำเสนอผา่ นโปรแกรม (Canva) ของ
ครผู ูส้ อนระดบั ประถมศึกษา เพื่อพฒั นาทักษะการส่ือสารและการอา่ นคำศัพทภ์ าษาอังกฤษสำหรับนักเรยี นชน้ั
ประถมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรยี นหนองโนวทิ ยาคม อำเภอห้วยเม็ก จังหวดั กาฬสนิ ธุ์ ซ่งึ เป็นเนื้อหาทเี่ ก่ยี วข้องกบั
พื้นฐานการอ่านออกเสยี งคำศัพทท์ เี่ กยี่ วข้องกบั นักเรียนมากท่ีสุด การพัฒนาสื่อโดยใช้ชุดคำศัพท์นำเสนอผา่ น
โปรแกรม (Canva) ครง้ั นี้ สำหรบั แก้ปัญหาดงั กล่าว เพื่อพัฒนาทกั ษะการอา่ นและการส่ือสารของนักเรยี นระดบั ชั้น
ประถมศกึ ษาปีที่ 6 โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อำเภอห้วยเม็ก จงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ โดยเป็นการสอนที่เนน้ ผู้เรยี นเปน็
ศูนย์กลาง และลดบทบาทของครูลงเปน็ ผอู้ ำนวยความสะดวก และเพ่ิมบทบาทให้นักเรยี นได้มโี อกาสฝึกปฏิบัติใช้
ภาษามากท่ีสุดทง้ั ในและนอกชั้นเรยี น อันจะส่งผลใหผ้ ลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนักเรยี นทางการพูดและการอ่าน
คำศัพท์ภาษาองั กฤษสงู ขน้ึ ซึ่งจะเปน็ ประโยชน์ต่อการเรียนและการสื่อสารด้วยภาษาองั กฤษต่อไป

2. จดุ ประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน
2.1 วัตถุประสงค์
• เพอ่ื จัดกิจการเรียนการสอนให้ผูเ้ รยี นไดพ้ ัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ ดว้ ยวิธีการสอนการจดั การ

เรยี นการสอน แบบ 3P (PPP TEACHING MODEL) เพื่อเสรมิ สรา้ งทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ โดยใช้ชุดคำศพั ท์
นำเสนอผา่ น Application (Canva) ของครผู ู้สอนระดับประถมศกึ ษา เพื่อประกอบการเรียนการสอนจำนวน 5
หมวดหมู่

• เพื่อเปรียบเทียบทักษะการสื่อสารในรายวิชาภาษาอังกฤษด้วยรูปแบบการสอน 3P (PPP Teaching
Model) กอ่ นเรียนของนักเรยี นกอ่ นและหลังการเรียนโดยใช้สื่อชดุ คำศัพทน์ ำเสนอผ่าน Application (Canva)

• เพื่อเปรียบเทียบทักษะการสื่อสารในรายวิชาภาษาอังกฤษด้วยรูปแบบการสอน 3P (PPP Teaching
Model) ของนักเรียนหลงั การเรยี นโดยใช้สือ่ ชุดคำศพั ท์นำเสนอผ่าน Application (Canva) กับเกณฑ์ (ร้อยละ 80)

2.2 เป้าหมาย
• เชงิ ปริมาณ
- นกั เรยี นช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 จำนวน 1 ห้องเรยี น 15 คน
รายวชิ าภาษาองั กฤษ ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 (ต่อเนอื่ งภาคเรียนที่ 1 /2566)
• เชงิ คุณภาพ
- นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้สื่อชุดคำศัพท์นำเสนอ

ผา่ น Application (Canva) มีทักษะในการอา่ นและสือ่ สารภาษาองั กฤษ
ทักษะในการเรียนรู้ และท่สี ำคญั ทส่ี ดุ คือ มเี จตคติท่ีดตี ่อการเรียนในรายวิชาภาษาอังกฤษส่งผลต่อ

ตนเองให้เป็นบุคคลที่มคี ุณภาพสามารถใชภ้ าษาในการสื่อสารในชีวิตประจำวันและดำเนินชีวิตอยา่ งมีสุข

5

3. กระบวนการพฒั นาผลงาน/นวัตกรรม หรอื ขั้นตอนการดำเนนิ งาน
ได้นำวิธีการสอนรูปแบบ 3P (PPP Teaching Model) เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาตนอย่างเต็มศักยภาพตาม

หลกั PDCAS โดยมกี ระบวนการมี ดงั น้ี
3.1 ขั้นการออกแบบ/วางแผน P(Plan)
• ศึกษาแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับวิธีการสอนรูปแบบ 3P (PPP Teaching Model) แผนการจัดการ

เรยี นรู้ และการสร้างแบบประเมนิ ทักษะการสือ่ สารจากเอกสาร ตำรา และงานวิจยั ทเี่ กย่ี วข้อง
• สื่อชุดคำศัพท์นำเสนอผ่าน Application (Canva) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง what food do

you like? และ What do wat to be in the future? และจัดทำแบบประเมินทักษะการสื่อสาร โดยนำวิธีการ
สอนรูปแบบ 3P (PPP Teaching Model) มาประยุกต์ใชใ้ นการสอน

3.2 ข้นั ปฏิบตั ิ/ ดำเนินงาน D(Do)
• ข้นั ตอนที่ 1 ทดสอบทกั ษะการพูดของนักเรยี นก่อนการเรียน หลงั จากนน้ั กระตุ้นนักเรียนโดยใช้

สื่อชุดคำศัพท์รูปภาพและคำศัพท์นำเสนอผ่าน Application (Canva) ในหมวดหมู่ food โดยนักเรียนจะได้ดู
รูปภาพ พร้อมคำศัพท์ของภาพนั้น หลังจากนั้นนักเรียนจะได้ออกเสียงตามคำศัพท์ที่ปรากฏ จะต้องจับคู่ภาพกับ
คำศัพทแ์ ล้วเรยี งคำศัพท์ใหมไ่ ดถ้ ูกต้อง หลงั จากนนั้ ให้นกั เรียนฝกึ พูดคำศพั ท์

• ขั้นตอนที่ 2 ขั้นนำเสนอ - นำเสนอการออกเสียงของคำศัพท์ เกี่ยวกับอาหารโดยใช้บัตรคำ
อาหารโดยให้นักเรียนฟังผ่าน Application (Canva) หลังจากนั้นแบ่งกลุ่มนักเรียนให้ฝึกอ่านบทสนทนา จากกลุ่ม
ใหญท่ ้ังหอ้ งไปสู่การสนทนาที่ละคู่

• ขั้นตอนที่ 3 ขน้ั ฝกึ ฝน - แจกบัตรรูปอาหารของภาพนัน้ เพือ่ ใหน้ ักเรยี นไดฝ้ ึกเปล่ียนภาพเพ่ือใช้
สนทนากับเพอื่ น โดยใชโ้ ครงสร้างจากบทสนทนาท่เี รียน เชน่ What food do you like?

• ขั้นตอนที่ 4 ขั้นนำไปใช้ - นักเรียนนำสิ่งที่ได้เรียนรู้และฝึกฝนภายในห้องเรียนไปใช้นอก
หอ้ งเรียน โดยการสนทนากบั ครูหรอื นักเรยี นคนอนื่ ในโรงเรียน ซงึ่ ต้องบนั ทึกวีดีโอขณะสนทนาอยา่ งน้อย 3 คน

3.3 ข้ันการตรวจสอบประเมนิ ผล C (Check)
ประเมินทักษะการสื่อสารของนักเรียนในจากคลิปวีดีโอที่บันทึกโดยใช้แบบประเมินทักษะการ

ส่ือสารและนำข้อมูลทีเ่ กบ็ รวบรวมจากคะแนนการประเมินก่อนและหลังเรยี นมาวเิ คราะหต์ ามวตั ถุประสงค์
3.4 การพัฒนา/ปรบั ปรุง/การเผยแพร่ A(Act)
วิเคราะห์ผลการประเมินเพ่ือเปน็ ขอ้ มูลในการปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป และนำผลงาน นวตั กรรม/วิธี

ปฏิบัตินี้ไป เผยแพร่ให้ครูรายวิชาภาษาอังกฤษที่อยู่ในโรงเรียนหรืออยู่โรงเรียนอื่นที่สนใจวิธีการสอนรูปแบบ 3P
(PPP Teaching Model) โดยใช้สื่อชุดคำศพั ท์นำเสนอผ่าน Application (Canva) มที ักษะในการอา่ นและส่ือสาร
ภาษาองั กฤษ เพอ่ื นำไปเปน็ ตัวอย่างหรือปรบั ใช้ในการจัดการเรยี นสอนในรายวชิ าภาษาอังกฤษ

3.5 การเผยแพร่ S(Share)
นำเสนอข้อมูลต่อผู้บริหารและคณะครูในโรงเรียนทราบ เพื่อการปรับปรุง พัฒนาต่อไป และนำ

ผลงาน นวัตกรรม/วิธีปฏิบัตินี้ไป เผยแพร่ผ่านหลายหลายช่วงทาง เช่น Youtube,Facebook,Line,Tiktok,ITA

6

Online สถานศึกษา หรือเผยแพร่ไปยังกลุ่มครูภาษาอังกฤษที่มีความต้องการใช้สื่อนวัตกรรมชุดคำศัพท์นำเสนอ

ผ่าน Application (Canva) เพื่อนำไปเป็นตวั อย่างหรอื ปรบั ใชใ้ นการจดั การเรียนสอนในรายวิชาภาษาองั กฤษต่อไป

4. ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธิ/์ ประโยชน์ที่ไดร้ ับ

จากผลการสอนรูปแบบ 3P (PPP Teaching Model) โดยใช้สื่อชุดคำศัพท์นำเสนอผ่าน Application

(Canva) ส่งผลดีตอ่ ผู้ทเ่ี กยี่ วขอ้ งในสว่ นต่าง ๆ ดงั น้ี

4.1 ผลต่อผู้เรียน การสอนรูปแบบ 3P (PPP Teaching Model) โดยใช้สื่อคำศัพท์นำเสนอผ่าน

Application (Canva) หมวดหมู่อาหาร ทำให้ผู้เรียนมีความสนใจในการเรียนรู้ มีความกระตือรือร้นในการเรียน มี

ความสุขสนุกไปกับการเรยี น ร้จู กั การทำงานรว่ มกนั กับผูอ้ ่ืน สามารถนำความร้ไู ปประยุกตใ์ ช้ได้จรงิ

4.2 บุคลากรภายในโรงเรียน บุคลากรภายในโรงเรียนมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์ในการ

จัดการเรียนการสอน ให้ความช่วยเหลือในการปฏิบัติงาน ให้การยอมรับ ให้ความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการ

จัดการเรียนรู้ ชี้ให้เห็นข้อดี ข้อควรปรับปรุงในการจัดการเรียนการสอน ผู้สอนนำเสนอผลการพัฒนาทักษะการ

สื่อสารในรายวิชาภาษาอังกฤษ รูปแบบการสอน 3P (PPP Teaching Model) โดยใช้ชุดคำศัพท์นำเสนอผ่าน

Application (Canva) ดังนี้

ตารางแสดงผลการเปรียบเทียบทักษะการสือ่ สารในรายวิชาภาษาอังกฤษของนักเรยี นก่อนและหลังการใช้

รูปแบบการสอน 3P (PPP Teaching Model) โดยใช้ชุดคำศพั ท์นำเสนอผ่าน Application (Canva)

คะแนน คะแนน เทยี บกบั

เลข กอ่ น หลัง เกณฑ์
ที่
ช่อื -สกุล การเรียน การเรียน ผลต่าง ไม่
(20 (20 ผา่ น
ผา่ น
คะแนน) คะแนน)

1 เด็กชายเอกลกั ษณ์ ศรีลอด 11 16 5 /

2 เด็กชายอานนท์ นเุ คราะห์ชน 10 16 6 /

3 เด็กชายอโณทยั กวานหลวง 8 14 6 /

4 เด็กชายสวุ รรณ ภูยาฟา้ 9 14 5 /

5 เด็กชายธญั ชนิต ภวู งผา 7 15 8 /

6 เดก็ หญิงกาญจนา สมรภูมิ 9 16 7 /

7 เด็กหญงิ ปรณิ ดา นาเจรญิ 10 16 6 /

8 เด็กหญงิ จิราพร ภสู ีนาค 11 17 6 /

9 เด็กหญิงกลิน่ สุคนธ์ ภูหงษ์แกว้ 9 15 6 /

10 เด็กหญงิ นภัสสร ภูรี 9 15 6 /

11 เด็กหญงิ นันทิชา ภูรี 9 16 7 /

12 เดก็ หญิงสุนันทา ภนู วนยาง 9 16 7 /

13 เดก็ ชายเอกนฐั บุญปกครอง 8 15 7 /

7

14 เดก็ ชายภานมุ าศ ภเู มฆ 11 17 5 /
15 เดก็ หญิงรมิดา ภาระนาด 10 18 8 /
9 16 6
คา่ เฉล่ีย

จากตาราง แสดงว่า นักเรียนทั้ง 15 คนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน เท่ากับ 9 มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน
เท่ากับ 16 แสดงให้เห็นว่า นักเรียนมีทักษะการสื่อสารหลังการเรียนด้วยรูปแบบการสอน 3P (PPP Teaching
Model) โดยใช้ใช้ชุดคำศัพท์นำเสนอผ่าน Application (Canva) กว่าก่อนเรียน และเมื่อนำคะแนนหลังเรียนไป
เทยี บกับเกณฑ์ พบวา่ นักเรยี นทัง้ หมด 6 คน ผ่านเกณฑ์ จงึ สามารถสรปุ ได้ว่า

1. ทักษะการสื่อสารในรายวิชาภาษาอังกฤษด้วยรูปแบบการสอน 3P (PPP Teaching Model) โดยใช้ใช้
ชุดคำศพั ท์นำเสนอผา่ น Application (Canva) ของนกั เรียนหลังการเรียนสงู กว่าก่อนเรยี น

2. ทักษะการสื่อสารในรายวิชาภาษาอังกฤษด้วยรูปแบบการสอน 3P (PPP Teaching Model) โดยใช้ใช้
ชดุ คำศพั ทน์ ำเสนอผา่ น Application (Canva) ของนกั เรียนหลงั การเรียนสูงกว่าเกณฑ์ (รอ้ ยละ 80)
5. ปจั จยั ความสำเรจ็ แหง่ ความสำเร็จ

ผู้อำนวยการโรงเรียน นางดารา ดาวดึงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองโนวิทยาคม มีการนิเทศ กำกับ
ติดตาม ส่งเสริมให้ผู้สอนนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการเรียนการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
ตามมาตรฐาน จุดเน้นหอ้ งเรียนคณุ ภาพภาษาองั กฤษ โดยใหก้ ารสนบั สนุนในทุก ๆ ดา้ น

คณะครูโรงเรียนหนองโนวิทยาคม ได้ประชุม PLC และได้จัดทำเอกสารเพื่อประสานงานกับสำนกั งานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธ์ุเขต 2 ขอคำแนะนำเรื่องการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนและการ
ประยุกต์ใช้นวัตกรรมและสื่อการสอนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดบรรยากาศการเรียนการสอนที่ดีขึ้นและยังช่วยเสริมสร้าง
ทศั นะคติทด่ี ีแกผ่ ู้เรยี น

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนหนองโนวิทยาคม ที่ให้ความร่วมมือด้วยความเต็มใจและตั้งใจ
ตระหนักถงึ การใชภ้ าษาองั กฤษในชวี ติ ประจำวัน
6. บทเรียนทไ่ี ดร้ ับ (Lesson Learned)

การจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ ด้วยวิธีการสอนรูปแบบ 3 P (PPP
Teaching Model) โดยใช้ชุดคำศัพท์นำเสนอผ่าน Application (Canva) สอดคล้องกับตัวชี้วัดสาระการเรียนรู้
แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 ครูผู้สอนสามารถนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการเรียนการเรียนการสอน
ภาษาองั กฤษ ตามมาตรฐาน จุดเนน้ หอ้ งเรยี นคุณภาพภาษาอังกฤษ

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น และนักเรียนมีความมั่นใจในการใช้
ภาษาองั กฤษเพือ่ การสอ่ื สารมากขึ้น
7. การเผยแพร/่ การไดร้ บั การยอมรบั /รางวัลทไ่ี ดร้ บั

- นำเสนอนวตั กรรมเข้าร่วมกบั เว็ปไซด์ของโรงเรียน
- เผยแพรใ่ น https://www.youtube.com/watch?v=aTzJXiTlQD0

8
5

วธิ กี ารปฏิบตั ทิ เ่ี ปน็ เลิศ (Best Practice) 9

รูปแบบการสอน 3P (PPP Teaching Model) โดยใช้ใช้ชุดคำศพั ทน์ ำเสนอผา่ น Application
(Canva) สำหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรยี นหนองโนวิทยาคม ตำบลหัวหนิ อำเภอห้วยเมก
จงั หวดั กาฬสินธุ์

(สรา้ งส่ือชุดคำศพั ทน์ ำเสนอผ่าน Application (Canva)

สร้างชดุ คำศัพทผ์ ่านคอมพิวเตอร์

เช่ือมต่อกบั IPAD เช่ือมต่อกับโทรศัพท์มอื ถือ

10

เสริมสรา้ งทักษะการอา่ นภาษาอังกฤษ โดยใชช้ ุดคำศพั ท์นำเสนอผ่าน Application (Canva) ระดับ
ประถมศึกษา ดว้ ยการจดั การเรยี นการสอน แบบ 3P (PPP TEACHING MODEL)

11

ครู ผลิตสื่อเทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนภาษาองั กฤษ โดยใช้ชดุ คำศพั ทน์ ำเสนอผา่ น
Application (Canva) เช่น หมวดอาหาร,หมวดสตั ว์ และอาชพี เป็นต้น

12
โดยการจดั การเรียนการสอน แบบ 3P (PPP TEACHING MODEL)

ข้นั ที่ 1 การนำเสนอ (Presentation)

13

ข้นั ท่ี 2 การฝกึ ปฏิบตั ิ (Practice)

14

ข้นั ท่ี 3 การนำไปใช้ (Production)

15

ส่อื ประกอบจัดการเรียนการสอนทเี่ ผยแพร่ใน YouTube

16

ส่อื ประกอบจดั การเรยี นการสอนทเ่ี ผยแพรใ่ น Facebook / Line

17

ตวั อย่างแผนการจัดการเรียนรู้

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 Food and drink ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6

เร่อื ง What do you like food? เวลา 1 ช่ัวโมง

ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 โรงเรียนหนองโนวทิ ยาคม

ครผู ู้สอน นางสาวธัญญลักษณ์ อรรคฮาดศรี สอนวันที่............/........../.........

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

สาระสำคญั

การเรยี นรู้ความหมายของคำศพั ท์ การสามารถถาม – ตอบเก่ยี วกับหมวดอาหาร สามารถนำไปใชส้ ือ่ สารใน

สถานการณ์จรงิ ได้

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นกั เรยี นสามารถฟัง พดู อ่านและบอกความหมายคำศพั ท์ ประโยคได้อย่างถกู ต้อง (K)

2. นักเรยี นสามารถถาม - ตอบเกี่ยวกบั อาหารไดอ้ ย่างถูกต้อง (P)

3. นกั เรียนสามารถเขยี นเก่ียวกับชื่ออาหารได้อย่างถูกต้อง (P)

4. นักเรียนมีเจตคติท่ดี ีตอ่ การเรยี นภาษาองั กฤษ และมีความกลา้ แสดงออก (A)

ขนั้ นำ (Warm up)

1. ถามนักเรยี น What food do you like ? เชน่ “I like pizza. I don’t like steak. โดยใช้คำถามท่ี

หลากหลายตามชนิดของอาหาร

ข้นั นำเสนอ (Presentation)

2. นำเสนอคำศพั ท์ โดยใช้ชดุ คำศพั ทน์ ำเสนอผ่าน Application (Canva) และประโยคท่ีเกยี่ วกบั หมวด

อาหาร เช่น cake, doughnut, spaghetti, fried chicken, sandwich, pizza, hamburger, salad, I like

salad. My favorite food is pizza.

ขนั้ ฝกึ (Practice)

3. ฝกึ ออกเสียงคำศัพท์/ประโยคตามครู เช่น cake, doughnut, spaghetti, fried chicken, sandwich,

pizza, hamburger, salad. What food do you like? I like salad.

4. ฝกึ สนทนาและแสดงท่าทางเป็นคู่ เชน่

S1 : What food do you like?

S2 : I like pizza.

S1 : What is your favorite food?

S2 : My favorite food is hamburger. Etc.

ขั้นนำไปใช้ (Production)

5. นักเรียนทำช้ินงาน My favorite food. โดยใหน้ กั เรียนวาดภาพหรือนำภาพมาตดิ แลว้ เขยี นบรรยายภาพ
โดยใชค้ ำศพั ท์หรือประโยคจากท่ีเรยี นมา เช่น ภาพไข่เจียว I like omlet . My favorite food is omlet. 18

ขั้นสรุป (Wrap up)

6. นำเสนอชน้ิ งานหน้าชัน้ เรยี นและรว่ มกนั ซักถามเพ่ือเป็นการสรุปบทเรยี น

สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้

7. ใช้ชดุ คำศพั ท์นำเสนอผ่าน Application (Canva) 2. ช้นิ งาน 3. worksheet

การวดั ผลและประเมินผลการเรียนรู้

ทักษะที่ตอ้ งการวดั วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑ์การประเมิน

ดา้ นความรคู้ วามเขา้ ใจ แบบสังเกต นักเรยี นผา่ นเกณฑโ์ ดย
1. การฟงั การพูด การอ่านออก 1. สังเกต แบบสังเกต ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมได้ถูกต้อง
เสยี งคำศัพท์ และประโยค ร้อยละ 80
2. การบอกความหมายของคำศัพท์ 2. สงั เกต แบบบันทกึ ผล
และประโยค การพูดสนทนา การปฏิบตั ิงาน นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์โดยทำ
แบบสังเกต กจิ กรรมถูกต้องอยา่ งนอ้ ย
ด้านทักษะ 3. ตรวจผลงาน รอ้ ยละ 80
1. การเขยี นคำศัพท์ 4. สังเกต นักเรียนผ่านเกณฑ์โดยมี
2. การเขยี นประโยค สว่ นร่วมในกจิ กรรมและมี
ดา้ นเจตคติ ความสุขในการเรียนอยา่ ง
1. การร่วมกจิ กรรม น้อย ร้อยละ 80
2. เรยี นอย่างมีความสุข