The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่มที่ 9 ค่ายสร้างนักคิดเชิงออกแบบที่เน้นชุมชนเป็นฐาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by พวงทอง เพชรโทน, 2019-12-22 12:03:28

เล่มที่ 9 ค่ายสร้างนักคิดเชิงออกแบบที่เน้นชุมชนเป็นฐาน

เล่มที่ 9 ค่ายสร้างนักคิดเชิงออกแบบที่เน้นชุมชนเป็นฐาน

โครงการพัฒนาทั กษะการคิ ดสาํ หรับ
ผู้เรียนในศตวรรษที 21

(ภายใต้ โครงการบู รณาการยกระดั บ
คุณภาพการศึ กษาและการเรียนรู้ตลอด
ชีวิตสาํ หรับการเรียนรู้ในศตวรรษที 21)

ค่ายสร้างนักคิด
เชิงออกแบบ
ทีเน้นชุมชนเปนฐาน

ค ณ ะ ค รุ ศ า ส ต ร์
มหาวิทยาลั ยราชภั ฏอุ ดรธานี



รายงานผลการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร “คา่ ยสร้างนักคิดเชิง
ออกแบบท่เี นน้ ชมุ ชนเป็นฐาน”

โครงการพฒั นาทกั ษะการคดิ สำหรับผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21
(ภายใตโ้ ครงการบูรณาการยกระดับคุณภาพการศึกษาและ
การเรยี นรู้ตลอดชวี ิตสำหรบั การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21)

จัดทำโดย
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั อุดรธานี

คำนำ

รายงานผลการอบรมเชิงปฏิบัติการ “ค่ายสร้างนักคิดเชิงออกแบบที่เน้นชุมชนเป็นฐาน”ของ
โครงการพฒั นาทักษะการคิดสำหรับผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 (ภายใต้โครงการบรู ณาการยกระดับคุณภาพ
การศกึ ษาและการเรยี นร้ตู ลอดชวี ิตสำหรบั การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21) เล่มน้ีจดั ทำขน้ึ เพ่ือรายงานผลการ
อบรมเชงิ ปฏิบตั ิการดังกล่าว ซึง่ เปน็ กจิ กรรมท่ีพฒั นาทกั ษะการคดิ การวางแผนของผู้เรียน และการสร้าง
ความมีส่วนร่วมระหว่างครอบครับ โรงเรียน และชุมชน รวมไปถึงการฝึกประสบการณ์ของนกั ศึกษาครูที่
รว่ มสรา้ งการเรยี นรู้กบั ชมุ ชน

คณะทำงาน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้จัดทำรายงานประเมินผลโครงการ
พฒั นาทกั ษะการคดิ สำหรับผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 ฉบบั นเ้ี พือ่ เปน็ การประเมนิ ผลการดำเนินโครงการเพื่อ
ได้ทราบแนวทางในการปรับปรุงการดำเนินงาน และข้อเสนอแนะในการจัดโครงการ ในรายงานศึกษา
คณะผ้จู ดั ทำหวงั เป็นอยา่ งยิ่งว่ารายงานฉบับน้จี ะเป็นประโยชน์ในการจดั การโครงการอบรมในคร้ังต่อไป

คณะผูจ้ ดั ทำ
โครงการพฒั นาทกั ษะการคดิ สำหรับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21

คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั อุดรธานี
มถิ ุนายน 2562

บทสรุปสำหรบั ผูบ้ ริหาร

คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ดำเนินการจัดกิจกรรม “ค่ายสร้างนักคิดเชิง
ออกแบบที่เน้นชุมชนเป็นฐานสำหรับนักเรียนโรงเรียนเจ็ดสีวิทยา” ตามโครงการพัฒนาทักษะการคิด
สำหรับผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 (ภายใตโ้ ครงการบรู ณาการยกระดบั คุณภาพการศึกษาและการเรยี นรู้ตลอด
ชีวิตสำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อส่งเสริมนักเรียนได้เรียนรู้ชุมชนผ่าน
ปราชญ์ชุมชน และการทำแผนท่องเที่ยวชุมชน 21 2) เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงออกแบบของนักเรียน
และ 3) เพอ่ื พฒั นาแนวทางจัดการเรยี นการสอนนักคดิ เชิงออกแบบทเี่ นน้ ชุมชนเปน็ ฐานสำหรับนักเรียน

ผลการจัดกิจกรรม “คา่ ยสรา้ งนักคิดเชิงออกแบบทเี่ น้นชุมชนเป็นฐานสำหรับนักเรียนโรงเรยี นเจด็
สีวิทยา” พบวา่

1) ผลทเ่ี กิดจากการเรยี นรชู้ มุ ชนของนกั เรยี น เปน็ ผลให้ชุมชนมีระบบฐานขอ้ มูลดา้ นภมู ปิ ญั ญา
ดังนี้

1.1) ประวัติปราชญ์ ภูมิปัญญาชุมชน จำนวน 16 คน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญชำนาญ 4 ด้านคอื
ด้านสุขภาพ ได้แก่ นวดแผนโบราณ หมอเป่า หมอสมุนไพร ด้านการเกษตร ได้แก่ ปุ๋ยชีวภาพ เพาะ
เห็ดและเกษตรกรรุ่นเยาว์ ด้านปศุสัตว์ ได้แก่ เลี้ยงแพะ ฟาร์มหมู ด้านจักสาน ทอเสื่อ ไม้กวาด
เครื่องจัดสาน สานกระติบ ฆ้อง และสานแห/สุ่ม ด้านพิธีกรรมและอื่นๆได้แก่ หมอสู่ขวัญ ทำบายศรี
และหาของปา่

1.2) เสน้ ทางท่องเที่ยวบ้านฉนั 6 เสน้ ทาง คือ (1) ตะลุยทัวร์เทีย่ วหาดคำสมบูรณ์ (2) ตามรอย
อารยธรรมวัดถ้ำบูชา (3) ตระการตาบึงกาฬ (4) ทีเด็ดเจ็ดสี (5) เฮฮาม่วน สวนขนาบบึง และ (6) ภูทอก
สวรรค์ 7 ช้นั

2) ผลการเสริมสร้างทักษะการคิดเชิงออกแบบของนกั เรียน พบวา่ ทกั ษะการคิดเชิงออกแบบของ
นกั เรยี น ในภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับดี มีคา่ เฉล่ียอยู่ในระดับดมี าก 3 ทักษะ คอื ทำความเข้าใจปัญหา
ระบุปัญหาให้ชัดเจน และ ทดสอบ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีค่าเฉลี่ยในระดับดีมาก 7 รายการ
เรียงจากรายการท่ีมีค่าเฉล่ยี สูงสุด คอื มีการทดลองนำต้นแบบหรือข้อสรุปที่จะนำไปใช้จริงมาปฏิบัติก่อน
เพ่ือทดสอบประสิทธิภาพ นำปญั หาหรอื ขอ้ ดีข้อเสียทเ่ี กิดข้นึ เพื่อนำมาปรับปรงุ แกไ้ ข ก่อนนำไปใช้จริงใน
คราวต่อไป เข้าใจในและสิ่งที่เราต้องการแก้ไขเพื่อหาหนทางที่เหมาะสมและดีที่สุด ทำความเข้าใจกับ
กลุ่มเป้าหมาย หรือคนที่เกี่ยวข้อง และ นำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์เพื่อที่จะคัดกรองให้เป็นปัญหาที่
แท้จริง ทำความเข้าใจกับปัญหาให้ถ่องแท้ในทุกมุมมองเสียก่อน และ กำหนดหรือบ่งชี้ปัญหาอย่าง
ชัดเจน เพอ่ื ทจี่ ะเป็นแนวทางในการปฏบิ ัติการต่อไป

3) แนวทางจดั การเรียนการสอนนักคิดเชิงออกแบบทเี่ นน้ ชุมชนเป็นฐานสำหรบั นกั เรียน ถอื วา่ เป็น
นวัตกรรมหนง่ึ ที่ใชเ้ ปน็ แนวทางในการเรียนการสอนหรือเสรมิ สร้างทกั ษะชีวิตและทักษะการคดิ ในศตวรรษ
ท่ี 21 โดยเฉพาะทักษะการคิดเชิงออกแบบ ให้แก่นกั เรยี นระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐานและนักศกึ ษาครู

จดั การเรียนการสอนในรปู แบบคา่ ย หรอื การบูรณาการในรายวชิ าพืน้ ฐาน หรอื รายวชิ าเพม่ิ เตมิ หรือจัดทำ
ในกิจกรรมชมุ นมชุมไปใชพ้ ัฒนา

บทสรุปการจดั กจิ กรรมค่ายสร้างนักคดิ เชงิ ออกแบบที่เนน้ ชุมชนเปน็ ฐานสำหรบั นกั เรยี น คร้ังนี้มี
ประสิทธิผลและสามารถนำไปใช้ได้จริง สามารถนำกิจกรรมนี้ไปใช้พัฒนาทักษะชีวิตทักษะการคิดใน
ศตวรรษท่ี 21 ของนกั เรยี นและนักศึกษาครไู ด้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

ปญั หาอุปสรรคในการดำเนนิ งาน
จดั การเรียนการสอนนกั คิดเชงิ ออกแบบทเี่ น้นชมุ ชนเปน็ ฐานสำหรับนกั เรยี น ปญั หาหรืออุปสรรค

ในการดำเนนิ งานคอื
1. การประสานงานกบั ชุมชน ไม่สามารถประสานไดอ้ ย่างท่ัวถึงจึงทำใหน้ ักเรียนเก็บข้อมลู ได้

ไมส่ มบูรณ์
2. ชว่ งเวลาในการลงพ้นื ทขี่ องนักเรียนไม่เอ้ือตอ่ การทำงานรว่ มกับชมุ ชน

สารบญั

คำนำ ............................................................................................................................................... ก
บทสรุปผบู้ รหิ าร............................................................................................................................... ข
ส่วนท่ี 1 บทนำ ................................................................................................................................ 1

1. กำหนดการโครงการพัฒนาทกั ษะการคดิ สำหรับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21.................................. 1
ส่วนท่ี 2 ระเบียบและวธิ กี ารประเมนิ ผล .......................................................................................... 22
สว่ นที่ 3 ผลการศกึ ษา …………………………………………………………..…………….……………………………. 24
ภาคผนวก ………………………………………………………………………………………..………………….………….. 26

1. ประมวลภาพกิจกรรม …………………………………………………………..………………..…………. 27
2. ตัวอยา่ งผลงานผู้เข้ารว่ มโครงการ .................................................................................. 33
3. แบบฟอรม์ ท่ใี ช้ในการประเมิน ……………………………………………………………………………. 52

.

สารบญั ตาราง

ตารางท่ี 1 แสดงรายชื่อปราชญ์ ภมู ิปญั ญาชุมชน และความชำนาญ …………………………………………….. 5
ตารางที่ 2 แสดงเส้นทางทอ่ งเที่ยว “แหลง่ ทอ่ งเที่ยวบา้ นฉนั ” โรงเรยี นเจ็ดสีวิทยา ………………………. 16
ตารางท่ี 3 แสดงค่าเฉล่ีย และสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน ผลประเมินทกั ษะการคดิ เชิงออกแบบ ……………. 22

1

สว่ นที่ 1
บทนำ

ตัวอยา่ งกิจกรรมการเรยี นร้วู ิถีชีวิตชาวบา้ น เพือ่ พัฒนเาดแนิ ผดนนิ ท: ่ีแผนท่ีชมุ ชน

(โครงการบูรณาการยกระดบั คุณภาพการศึกษาและการเรยี นรู้ตลอดชีวิตสำหรบั การเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21)

ณ โรงเรียนเจ็ดสีวิทยาคาร อำเภอเซกา จงั หวัดบงึ กาฬ
ระหว่างวันท่ี 25-27 พฤษภาคม 2562

วนั ที่ 25 พฤษภาคม 2562
เวลา 08.00 – 08.30 น. ลงทะเบยี นตามหมู่บา้ น – แบ่งหมู่บ้าน
เวลา 08.30 – 09.00 น. พบปะผ้นู ำหมู่บ้าน เพ่ือนำเสนอข้อมูลโครงการ และชี้แจงวตั ถปุ ระสงค์

กิจกรรม
เวลา 09.00 – 11.00 น. กิจกรรมแผนที่ชมุ ชน ในหัวขอ้ “ประวตั ศิ าสตร์ชุมชน”
เวลา 11.00 – 12.15 น. สรปุ ข้อมูลชุมชน หัวข้อ “ประวตั ศิ าสตร์ชุมชน”
เวลา 12.15 – 13.00 น. พกั รับประทานอาหาร
เวลา 13.00 - 15.30 น. กิจกรรมแผนที่ชมุ ชน ในหวั ข้อ “โครงสรา้ งชมุ ชน”
เวลา 15.30 – 17.00 น. สรปุ ขอ้ มลู ชมุ ชน หวั ข้อ “โครงสรา้ งชุมชน”
เวลา 17.00 เปน็ ต้นไป กจิ กรรมสาธารณะประโยชน์ในแต่ละหม่บู ้าน

วันที่ 26 พฤษภาคม 2562
เวลา 07.00 – 08.30 น. ตักบาตร ทำความสะอาดวดั
เวลา 08.30 – 11.00 น. กิจกรรมแผนที่ชมุ ชน ในหวั ข้อ “ปฏิทินชุมชน”
เวลา 11.00 – 12.15 น. สรปุ ข้อมูลชมุ ชน หวั ขอ้ “ปฏิทนิ ชุมชน”
เวลา 12.15 – 13.00 น. พักรบั ประทานอาหาร
เวลา 13.00 - 15.30 น. กิจกรรมแผนที่ชมุ ชน ในหัวขอ้ “ประวตั ิชีวติ : ปราชญ์ชมุ ชน”
เวลา 15.30 – 17.00 น. สรุปข้อมูลชมุ ชน หวั ขอ้ “ประวัตชิ วี ติ : ปราชญช์ ุมชน”
เวลา 17.00 เป็นต้นไป กิจกรรมสาธารณะประโยชนใ์ นแตล่ ะหมู่บ้าน

วันท่ี 27 พฤษภาคม 2562
เวลา 07.00 – 08.30 น. ตกั บาตร ทำความสะอาดวัด
เวลา 08.30 – 11.00 น. กจิ กรรมแผนทีช่ ุมชน ในหัวข้อ “ประเพณชี มุ ชน”
เวลา 11.00 – 12.15 น. สรุปข้อมลู ชุมชน หวั ขอ้ “ประเพณีชมุ ชน”
เวลา 12.15 – 13.00 น. พักรับประทานอาหาร
เวลา 13.00 - 15.30 น. จัดทำบทสรปุ แผนที่เดินดิน: แผนทช่ี ุมชน
เวลา 15.30 – 17.00 น. นำเสนอแผนที่เดินดิน: แผนทช่ี ุมชน
เวลา 17.00 เปน็ ตน้ ไป กิจกรรมสาธารณะประโยชนใ์ นแต่ละหมู่บา้ น

2

สว่ นท่ี 2
ระเบยี บและวธิ กี ารประเมนิ ผล

การจัดกจิ กรรม “ค่ายสรา้ งนกั คิดเชงิ ออกแบบท่ีเนน้ ชมุ ชนเป็นฐานสำหรับนกั เรียนโรงเรยี นเจด็ สี
วทิ ยา”
มขี ั้นตอนการดำเนินงาน ดังนี้

1. กลมุ่ เป้าหมาย
2. เครอ่ื งมอื ที่ใชใ้ นการพฒั นา
3. วิธดี ำเนินการพฒั นา
กลมุ่ เป้าหมาย
ค่ายสรา้ งนักคดิ เชิงออกแบบทเ่ี นน้ ชมุ ชนเปน็ ฐานสำหรบั นกั เรียนโรงเรยี นเจด็ สวี ิทยา” ได้แก่ นักเรยี น
ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรยี นเจด็ สวี ิทยาคาร อำเภอเซกา จงั หวัดบึงกาฬ จำนวน 98 คน

เครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ นการพฒั นา
เครือ่ งที่ใชใ้ นการพฒั นา
ชุดกิจกรรม “คา่ ยสร้างนกั คดิ เชิงออกแบบทเี่ น้นชุมชนเปน็ ฐานสำหรับนกั เรียนโรงเรียนเจ็ดสวี ทิ ยา”

เป็นกจิ กรรมการจัดค่าย
เครอ่ื งมอื เกบ็ ข้อมูล
1. แบบประเมนิ ทักษะการคดิ เชงิ ออกแบบ
2. แบบสอบถาม สำหรับถอดบทเรียน /สะท้อนบทเรยี น

วธิ ดี ำเนินการพัฒนา
1. เตรยี มวทิ ยากรผชู้ ่วย โดยเตรียมทำความเข้าใจในกจิ กรรม “คา่ ยสรา้ งนักคดิ เชงิ ออกแบบที่เน้น

ชุมชนเปน็ ฐานสำหรับนักเรียนโรงเรยี นเจ็ดสวี ทิ ยา” ใหแ้ กน่ กั ศึกษาชนั้ ปีที่ 4 หลกั สตู รครุศาสตรบัณฑติ
สาขาวชิ าภาษาไทย คณะครุศาสตร์

2. จัดทำหลกั สูตรกจิ กรรม“ค่ายสรา้ งนกั คดิ เชิงออกแบบที่เนน้ ชมุ ชนเป็นฐานสำหรับนักเรียนโรงเรียน
เจด็ สวี ิทยา”

3. เตรยี มวัสดุ อุปกรณ์ ในการจัดกจิ กรรม“คา่ ยสร้างนักคิดเชงิ ออกแบบที่เน้นชุมชนเป็นฐานสำหรบั
นกั เรียนโรงเรียนเจ็ดสวี ิทยา”

4. ประชุมคณะครเู พ่ือสร้างความเข้าใจในหลักสตู รกิจกรรม“คา่ ยสรา้ งนักคดิ เชงิ ออกแบบที่เน้นชมุ ชน
เป็นฐานสำหรับนักเรยี นโรงเรยี นเจ็ดสวี ิทยา” ร่วมกนั กำหนดกลุ่มเป้าหมาย พิจารณาปราชญ์ ภูมปิ ัญญาชมุ ชน
และปฏิทนิ ในการพัฒนานักเรียน

3

5. โรงเรียนชแ้ี จงชุมชนทำความเข้าชมุ ชน ร่วมกำหนดเสน้ ทางการเรยี นรชู้ มุ ชนของนกั เรียน
6. จัด“คา่ ยสรา้ งนกั คิดเชงิ ออกแบบทเี่ น้นชุมชนเปน็ ฐานสำหรับนักเรียนโรงเรยี นเจด็ สีวทิ ยา”

6.1 กจิ กรรมเรียนร้ชู ุมชน โดยนกั เรียนสบื ค้นองคค์ วามกับปราชญ์ชมุ ชน นกั เรยี นวางแผนการ
ออกการเกบ็ ข้อมลู การเก็บหลกั ฐาน และการเตรียมเครอื่ งมือบันทึกเสยี ง

6.2 กิจกรรมแหลง่ ท่องเทยี่ วบ้านฉนั แบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่มๆละ 4 -5 คน ตามความสนใจ
7. คณะทำงานและครูรว่ มกนั ประเมนิ ช้ินงาน
8. ครูจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนเกีย่ วกบั การเรยี นร้ทู ่ีเน้นชุมชนเปน็ ฐาน เช่น เร่ืองเล่าจากชมุ ชน
ของฝากจากชุมชน หรอื ประเด็นอน่ื ๆ เนน้ ให้นกั เรียนวางแผนออกแบบดำเนินการลงพน้ื ที่
9. นกั เรยี นนำความรไู้ ปสู่การปฏิบัติ แก้ปัญหาชุมชน พัฒนาชุมชน ตามศกั ยภาพของนกั เรยี น
ตามแนวทางของการคดิ เชงิ ออกแบบ

10. คณะทำงานดำเนนิ การนิเทศ ติดตาม
11. จดั กจิ กรรมถอดบทเรียน
12. สรุปรายงาน

4

ส่วนท่ี 3
ผลการศึกษา

การจัดกิจกรรม “ค่ายสร้างนักคิดเชิงออกแบบที่เน้นชุมชนเป็นฐานสำหรับนักเรียนโรงเรียนเจ็ดสี

วทิ ยา” มีผลการวิเคราะหแ์ ละนำเสนอเป็น 3 ตอน ประกอบด้วย

ตอนที่ 1 ผลการส่งเสริมนักเรียนได้เรียนรู้ชุมชนผ่านปราชญ์ชุมชน และการทำเส้นทาง

ทอ่ งเทีย่ วชมุ ชน

1.1 ผลการเรียนรูช้ ุมชน : ประวัติชวี ิตของปราชญ์ ภูมิปัญญาชมุ ชน
1.2 ผลการเรียนรู้ชุมชน : ทำเส้นทางท่องเทยี่ วชุมชน
ตอนท่ี 2 ผลการเสรมิ สร้างทักษะการคิดเชิงออกแบบท่ีเน้นชุมชนเป็นฐานสำหรับนักเรยี น

ผลการประเมินทักษะการคิดเชงิ ออกแบบ
ตอนที่ 3 แนวทางจัดการเรียนการสอนนักคิดเชิงออกแบบที่เน้นชุมชนเป็นฐานสำหรับ

นกั เรยี น

ตอนที่ 1 ผลการสง่ เสรมิ นักเรยี นได้เรยี นรชู้ ุมชนผา่ นปราชญช์ ุมชน และการทำเส้นทางทอ่ งเท่ียวชุมชน

1.1 ผลการเรียนรชู้ มุ ชน : ประวตั ชิ วี ติ ของปราชญ์ ภูมปิ ัญญาชุมชน
ประวัตชิ ีวติ หรอื เรอื่ งราวประสบการณข์ องคนในชมุ ชนช่วยให้นักเรยี นเหน็ ว่าค่านิยมและ
วัฒนธรรม

วิถีชีวติ อาชพี ในทอ้ งถนิ่ มีความสำคัญและมผี ลรูปธรรมตอ่ ชวี ติ ของผู้คนอยา่ งไร
ประวตั ิชีวติ ของคนแต่ละรุน่ ในชมุ ชนสะท้อนความเปล่ยี นแปลงทางเศรษฐกจิ สงั คมและวฒั นธรรม

ของชุมชนไดเ้ ป็นอย่างดี
การศกึ ษาประวตั ชิ วี ิตทำให้นกั เรียนเหน็ ถึงศักยภาพและทุนมนุษย์ (Human Capital) ทม่ี ีอย่ใู น

ชมุ ชน การเรยี นรู้เรื่องราวประวตั ชิ ีวติ ช่วยเติมมิติความเป็นมนษุ ยใ์ ห้กับงานชมุ ชน ช่วยให้งานมคี วามหมาย
นักเรยี นดำเนนิ การจดั ทำประวัตชิ ีวิตปราชญ์ชมุ ชน โดยการแบ่งกลุ่มๆละ 4- 5 คน ดำเนนิ ออก

สำรวจชุมชน เพอ่ื เรียนร้ปู ระวตั ชิ วี ติ ปราชญ์ ภูมิปญั ญาทีก่ ลมุ่ สนใจ โดยการเก็บข้อมูลเชงิ ลึก และบันทกึ ภาพ
ปราชญ์ ภมู ิปญั ญาในชมุ ชน เสยี ดเหนือ ดอนเสยี ดใต้ และชมุ ชนใกลเ้ คียง

ผลจากการเรียนรู้ชุมชนในครั้งน้ีนกั เรยี นไดเ้ รยี นรู้ประวตั ชิ ีวติ ปราชญ์ ภูมิปญั ญาสำคญั ในชมุ ชน
ปรากฏดงั ตารางที่ 1

5

ตารางท่ี 1 แสดงรายชอ่ื ปราชญ์ ภมู ปิ ัญญาชมุ ชน และความชำนาญ

ท่ี ชื่อ - สกลุ ความเช่ยี วชาญ

ปราชญ์ ภมู ปิ ัญญา : ดา้ นสขุ ภาพ

1 นางพิกลุ จันทร์อ่อน นวดแผนโบราณ

2 นางทิวาพร แกหล่งิ นวดแผนโบราณ

3 นายเล็ง แกหลิ่ง หมอเปา่ แผนโบราณ

4 นายหนั หอมสมบตั ิ หมอสมุนไพร

ปราชญ์ ภูมปิ ญั ญา : ดา้ นการเกษตร

1 นางประคองศลิ ป์ เพชรสมบัติ ป๋ยุ ชวี ภาพ

2 นายถาวร เพชรสมบัติ เพาะเหด็

3 นายนิพนธ์ ตะหนอ่ ง เกษตกรรุ่นเยาว์

ปราชญ์ ภูมปิ ัญญา : ด้านปศสุ ัตว์

1 นายสมบรู ณ์ วงค์กอ เลี้ยงเพะ

2 นายสมเพช แสนพันธ์ ฟารม์ หมู

ปราชญ์ ภมู ปิ ญั ญา : ด้านจกั สาน

1 นางแจม่ จันทร์ นามมูลตรี ทอ่ เสื่อ

2 นายเปลยี่ น นามมูลตรี ทำไมก้ วาด

3 นางจันทรเ์ พญ็ เพ็งพิทักษ์ ทำไมก้ วาด

4 นางสุกนั เพ็งบา้ นซอด เครือ่ งจัดสาน

5 นางฐา ขนั ทะชา สานกระติบ ฆอ้ ง

6 นายหนูกาจญ์ คำเชียงคำใหม่ สานแห/ส่มุ

ปราชญ์ ภูมปิ ญั ญา : ดา้ นพธิ ีกรรมและอ่นื ๆ

1 นายผาง จนั บา หมอสขู่ วญั

2 นางวนั เพญ็ ศรีจนั ทร์ ทำบายศรี

3 นายประสาน ขนั ทะชา หาของป่า

6

ปราชญช์ าวบา้ น ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่

ปราชญ์ ภมู ิปญั ญา : ดา้ นสขุ ภาพ

1. นางพกิ ลุ จันทร์อ่อน : นวดแผนโบราณ

นางพกิ ุล จนั ทรอ์ อ่ น อายุ 53 ปี

ท่อี ยู่ บ้านเลขที่ 95 หมู่บา้ นดอนเสยี ดเหนอื
เรยี นรู้ การนวดแผนโบราณจากวัดโพธิ์
ความสำคัญ การนวดไทย หรือ นวดแผน
โบราณ เป็นการนวดชนิดหน่ึงในแบบไทย ซึ่งเป็น
ศาสตร์บำบัดและรักษาโรคแขนงหนึ่งของ
การแพทย์แผนไทย โดยจะเน้นในลักษณะการกด
การคลึง การบีบ การดัด การดึง และการอบ
ประคบ ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ "นวดแผน
โบราณ"
การสบื ทอดตอ่ รุ่นหลัง สงต่อลกู หลานบคุ คลที่
สนใจในชมุ ชน
นำไปสู่การประกอบอาชีพได้



2. นางทวิ าพร แกหลง่ิ : นวดแผนโบราณ

นางพิกลุ จนั ทร์อ่อน อายุ 56 ปี
ท่ีอยู่ บ้านเลขท่ี 39 หมู่ 12 บ้านดอนเสยี ดใต้
เรียนรู้ การนวดแผนโบราณจากวดั โพธิ์ และ
เรยี นรู้เพิ่มเตมิ จากการศึกษานอกโรงเรยี น
ความสำคญั การนวดไทย หรือ นวดแผน
โบราณ ใช้ฟืน้ ฟูสมรรถภาพผปู้ ว่ ย และการนวด
เพือ่ สขุ ภาพ
การสบื ทอดต่อรุ่นหลงั สงต่อลกู หลานบุคคล
3ท. ีส่นนาใยจเใลนง็ ชแุมกชหนลง่ิ : หมอเป่า
นำไปสกู่ ารประกอบอาชีพได้



7

นายเล็ง แกหล่ิง อายุ 84 ปี

ท่อี ยู่ บ้านเลขท่ี 123/12 บา้ นดอนเสยี ดใต้
เรียนรู้ เป็นคาถาผีบอกจึงเป็นการ
ตงั้ จติ อธิษฐาน ไม่ไดเ้ รยี นรู้ แต่ต้องยึดหลกั การ
ปฏิบตั ิความชื่อสัตย์ ทำความดี
ความสำคัญ หมอเป่าช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้
เจ็บ ด้วยน้ำมนต์ คาถา และส่ิงศักดิ์สิทธ์ิ ที่
เป็นความเชื่อสืบต่อกันมา เน้นรกั ษาผู้ที่ได้รับ
อบุ ตั เิ หตุ เชน่ น้ำร้อยลวก กา้ งติดคอ แมลง
สตั ว์กัดตอ่ ย รวมถึง อาการปวดขา ตัว เจ็บไข้
การสืบทอดต่อร่นุ หลงั ไมส่ ามารถสืบต่อได้

4. นายหัน หอมสมบัติ: หมอสมุนไพร

นายหนั หอมสมบัติ อายุ 72 ปี

ที่อยู่ บ้านเลขท่ี 106 หมู่ 3 บ้านดอนเสียด
เรียนรู้ ศึกษาจากปู่ และเพิ่มเติมความรดู้ ้วย
ตนเอง ทำมามากกว่า 10 ปี
ความสำคัญ ยาสมุนไพรไทย คนไทยไดพ้ ่ึงพาภมู ิ
ปญั ญาของหมอยาพ้ืนบา้ นในการบำบดั รักษาโรค
มาแต่โบราณ สมนุ ไพรจึงท่ใี ชร้ กั ษาโรค หรือ
อาการเจบ็ ป่วยเลก็ น้อยที่วนิ จิ ฉยั ได้เอง เชน่
อาการจุกเสียด ท้องผกู ทอ้ งเสีย บาดแผล
เล็กน้อย และโรคผวิ หนังเปน็ ตน้
การสืบทอดตอ่ รนุ่ หลัง มหี ลกั สูตรสอน ให้แก่
การศกึ ษานอนโรงเรยี น และรบั สอนคนทัว่ ไป

8

ปราชญ์ ภูมิปญั ญา : ด้านการเกษตร

1. นางประคองศลิ ป์ เพชรสมบตั ิ : ปยุ๋ ชีวภาพ

นางประคองศิลป์ เพชรสมบตั ิ อายุ 57 ปี

ทอ่ี ยู่ บ้านเลขท่ี 240 หมู่ 11 บา้ นดอนเสยี ด
เหนอื
เรียนรู้ ศกึ ษาจากกรมพัฒนาทีด่ นิ
ความสำคญั ปยุ๋ ชวี ภาพเป็น ปยุ๋ อินทรีย์ที่ได้จาก
หมกั บ่มสารอินทรียด์ ว้ ยจุลินทรีย์ที่ทำหน้าทีย่ ่อย
สลายอนิ ทรียว์ ัตถุใหส้ ลายตวั และผุพงั ไปบางส่วน
ทำใหไ้ ดป้ ยุ๋ ท่ีมลี ักษณะสีคล้ำดำ มีลักษณะเปน็ ผง
ละเอยี ดเหมาะ สำหรบั การปรบั ปรงุ ดนิ และให้
ธาตุอาหารแกพ่ ืช
การสบื ทอดตอ่ รนุ่ หลัง จัดอบรมให้ความรู้แก่
ผู้สนใจในการทำปยุ๋ ชีวภาพ และทำเปน็ แหลง่
เรยี นรู้

2. นายถาวร เพชรสมบัติ : เพาะเหด็

นายถาวร เพชรสมบัติ อายุ 63 ปี
ที่อยู่ บา้ นเลขท่ี 240 หมู่ 11 บา้ นดอนเสียดเหนือ
เรียนรู้ ศึกษาจากกรมพฒั นาทดี่ นิ ได้รบั แตง่ ตัง้ ใหเ้ ปน็
หมอดินอาสา
ความสำคัญ เหด็ เป็นแหลง่ อาหารโปรตีนจากธรรมชาติ
สำคัญเหด็ ยงั ให้คุณค่าทางโภชนาการและมีสรรพคุณทาง
ยา ซึ่งมคี ุณสมบัตทิ ่ีช่วยเสริมภูมคิ ุม้ กันในร่างกาย และ
ช่วยลดอัตราความเสย่ี งจากโรคร้ายตา่ งๆ เช่น โรคมะเร็ง
เบาหวาน อลั ไซเมอร์ หลอดเลอื ดหวั ใจอุดตนั และความ
ดันโลห3ิต.สงู นฯายกนารพิ เพนาธะ์ ตเหะ็นหนำอ่ ไงปป:ระเกษอบตอรกาชรุ่นีพเไยดา้ ว์
การสบื ทอดตอ่ รุ่นหลงั จัดอบรมใหค้ วามรแู้ ก่ผสู้ นใจ
ในการทำปยุ๋ ชีวภาพ และทำเป็นแหลง่ เรยี นรู้

ปราชญ์ ภมู ปิ ัญญา : ด้านปศสุ ัตว์ 9

นายสมบรู ณ์ วงค์กอ : เลยี้ งแพะ นายนิพนธ์ ตะหนอ่ ง อายุ 30 ปี
นายสมบรู ณ์ วงคก์ อ อายุ 67 ปี ทอี่ ยู่ บ้านเลขที่ 164 หมู่ 11 บา้ นดอนเสยี ด
ทีอ่ ยู่ บา้ นเลขท่ี 85 หมู่ 11 บา้ นดอนเสียดเหนอื เหนอื
เรยี นรู้ ศกึ ษาดว้ ยตนเอง ลงมือทำเอง เรียนรู้ มคี วามชอบ ศึกษาดว้ ยตนเอง ลงมอื ทำ
ความสำคญั แพะเปน็ สตั ว์ทเ่ี ลีย้ งงา่ ย และ เอง
เหมาะสมกบั สภาพเศรษฐกิจในปจั จุบัน เปน็ สัตว์ ความสำคญั การพฒั นาเกษตรกรรุน่ ใหมใ่ ห้เป็น
เลย้ี งท่ีใช้เลีย้ งทดแทนโค – กระบือ มคี ่าใช้จา่ ยไม่สูง Young Smart Farmer ดำเนนิ การโดยยึด
ใช้ระยะเวลาส้นั กว่าเล้ยี งววั แพะหากินเกง่ และกนิ หลักการพฒั นา ศักยภาพของเกษตรกรรนุ่ ใหม่
ใบไมไ้ ดห้ ลายชนดิ ทนทานตอ่ ทุกสภาพอากาศ ด้วยตวั เกษตรกรเอง มีการใหค้ วามสำคญั กบั การ
• แพะมขี นาดตัวเล็ก ใชพ้ นื้ ท่ีนอ้ ย จัดการง่าย จดั กระบวนเรยี นรู้โดยมี การออกแบบการเรยี นรู้
• แพะให้ผลผลติ ได้ท้งั เน้อื นม หนงั และขน ด้วยตนเอง เพื่อตอบสนองความต้องการท่ีแทจ้ ริง
การสบื ทอดต่อร่นุ หลัง ส่งตอ่ ให้ลูชาย การสบื ทอดตอ่ รนุ่ หลงั เน้นการแลกเปลีย่ น
เรยี นรกู้ บั ผู้สนใจ

1. นายสมเพช แสนพันธ์ : ฟาร์มหมู 10

นายนิพนธ์ ตะหน่อง อายุ 73 ปี
ทอี่ ยู่ บา้ นเลขท่ี 130 หมู่ 12 บ้านดอนเสยี ดใต้
เรียนรู้ ศึกษาดว้ ยตนเอง ลงมือทำเอง
ความสำคัญ การทำฟารม์ หมูตอ้ งมเี น้อื ท่ีกวา้ ง
เพยี งพอสำหรับการจดั แบง่ การก่อสร้างอาหาร
โรงเรอื นอย่างเป็นระเบียบ สอดคลอ้ งกับการ
ปฏิบตั ิงานและไมห่ นาแน่จนไม่สามารถจัดการดา้ น
การผลติ สตั ว์ การควบคุมโรคสัตว์ สุขอนามัยของ
ผู้ปฏบิ ัติงานและการรักษาสิ่งแวดล้อมไดต้ ามหลัก
วิชาการ ฟารม์ จะต้องมีการจัดแบ่งพ้ืนทฟ่ี ารม์ เปน็
สดั สว่ นโดยมผี ังแสดงการจดั วางท่ีแน่นอน
การสบื ทอดตอ่ รนุ่ หลัง ใหล้ กู หลาน และบุคคลท่ี
สนใจ

ปราชญ์ ภมู ปิ ญั ญา : ดา้ นจักสาน

1. นางแจ่มจนั ทร์ นามมูลตรี : ท่อเส่ือ

นางแจม่ จันทร์ นามมลู ตรี อายุ 67 ปี
ทีอ่ ยู่ บ้านเลขที่ 38 หมู่ 11 บ้านดอนเสียดเหนอื
เรียนรู้ จากรุ่นพ่อแม่ พฒั นาคดิ ลวดลายดว้ ยตนเอง
ความสำคัญ การทอเสื่อกก เป็นภมู ปิ ญั ญาของคนใน
ทอ้ งถิ่น ทีน่ ำเอาต้นกกมาแปรสภาพใหเ้ ป็นเสน้ ย้อมสี
แลว้ สานทอใหเ้ ปน็ แผ่นผืน เพ่ือนำมาใช้ปลู าดรองนั่ง
หรือนอน หรือทำธุรกรรมต่างๆ ตลอดจนทำพธิ ีกรรม
ทางศาสนาและความเช่อื ปัจจุบนั เสือ่ ท่ีทอ เป็นสินค้า
OTOP ของตำบล ได้รับการยอมรบั จากลูกค้า เนื่องจาก
ลายท่ีทำขึน้ มาสวยงาม เนน้ ลายไทยโบราณ
การสืบทอดต่อรนุ่ หลัง สอนใหค้ นในชุมชนทีส่ นใจ

11

2. นายเปล่ยี น นามมลู ตรี : ทำไม้กวาด

นายเปลย่ี น นามมลู ตรี : อายุ 67 ปี
ท่อี ยู่ บ้านเลขท่ี 38 หมู่ 11 บ้านดอนเสียดเหนอื
เรยี นรู้ จากรนุ่ พอ่ แม่
การสืบทอดตอ่ รุน่ หลงั เห็นว่าทกุ คนสามารถทำได้

ความสำคญั ไมก้ วาด เปน็ อปุ กรณท์ ่ียังจำเป็นต้องใช้
ภายในครอบครัว การทำไม้กวาดเพือ่ จำหน่ายจึงเป็น
การเสรมิ รายไดอ้ ีกทางหนึ่งใหก้ บั ครอบครัว สามารถ
ทำอาชีพเสริม ซึง่ เปน็ อาชพี ที่เหมาะสมกับศักยภาพ
สามารถเพ่ิมพูนรายได้ เป็นการใช้เวลาว่างใหเ้ กิด
ประโยชน์ เป็นการนำวัตถุดิบทม่ี อี ย่ใู นธรรมชาติมาใช้
ให้เกดิ ประโยชน์

3. นางจันท์เพ็ญ เพง็ พิทกั ษ์: ทำไม้กวาด
นางแจม่ จนั ทร์ นามมูลตรี อายุ 74 ปี
ที่อยู่ บ้านเลขท่ี 123 หมู่ 12 บา้ นดอนเสียใต้
เรียนรู้ จากคนในหมู่บ้าน และครอบครวั

การสืบทอดต่อรุ่นหลัง สอนใหบ้ ุตรหลาน

12

4. นายสุกัน เพ็งบา้ นซอด: จกั สาน

นายสกุ ัน เพง็ บ้านซอด อายุ 69 ปี
ท่ีอยู่ บา้ นเลขท่ี 143 หมู่ 12 บ้านดอนเสียดใต้
เรยี นรู้ จากผู้เฒา่ ผแู้ กใ่ นชมุ ชน
การสบื ทอดตอ่ รนุ่ หลงั สอนให้บุตรหลาน

ความสำคญั เคร่ืองจกั สานเปน็ งาน
ศิลปหัตถกรรม ที่สะท้อนให้เห็นภมู ปิ ัญญาของ
ชาวบ้านได้หลายอย่าง เช่น สะทอ้ นให้เหน็ ความ
ชาญฉลาด ในการเลอื กสรรวตั ถดุ บิ ที่จะนำมาใช้
ทำเครือ่ งจกั สาน ซงึ่ ชาวบา้ นจะมคี วามรูเ้ กีย่ วกับ
คุณสมบัติของวัตถุดิบแตล่ ะชนดิ เปน็ อย่างดแี ล้ว
นำมาดดั แปลงแปรรปู เปน็ วสั ดทุ ่ีใช้ทำเคร่อื งจักสาน
ด้วยวิธงี า่ ยๆ แตส่ นองการใชส้ อยได้ดี เช่น กระติบ
ขา้ ว หวดขา้ ว

5. นางฐา ขนั ทะชา: สานกระตบิ ขา้ ว

นางฐา ขนั ทะชา อายุ 60 ปี
ท่อี ยู่ บา้ นเลขท่ี 23 หมู่ 12 บา้ นดอนเสียดใต้
เรียนรู้ จากคนผู้เฒา่ ผแู้ กใ่ นชุมชน
การสืบทอดต่อร่นุ หลงั สอนใหบ้ ตุ รหลาน

13

6. นายหนกู าจญ์ คำเชยี งคำใหม่: สาแห/ส่มุ

นางแจม่ จนั ทร์ นามมูลตรี อายุ 59 ปี

ที่อยู่ บ้านเลขท่ี 41 หมู่ 12 บา้ นดอนเสียดใต้
เรยี นรู้ ด้วยตนเอง ดว้ ยการสงั เกต

ความสำคญั การสาแห สานสมุ่ เป็นภมู ิปญั ญา
ท้องถนิ่ ที่มีมาแตช่ ้านาน แหเปน็ เครอื่ งมือทใ่ี ชใ้ น

การดำเนินชีวิตในการเล้ียงชพี ในด้านการประมง
หรือการหาปลา เพอื่ การเลยี้ งชีพและประกอบ
อาชีพ ควรอนุรักษ์ภูมิปัญญา

การสืบทอดตอ่ รุน่ หลัง สอนใหค้ นในชุมชนท่ี
สนใจ และคนรนุ่ หลงั

14

ปราชญ์ ภมู ิปัญญา : ดา้ นพิธกี รรมและอ่ืนๆ

1. นายผาง จนั บา : หมอส่ขู วัญ

นางแจม่ จันทร์ นามมูลตรี อายุ 90 ปี
ที่อยู่ บ้านเลขท่ี 79 หมู่ 12 บ้านดอนเสียดใต้
เรียนรู้ สืบทอดจากคนเฒา่ แก่ และฝึกฝนดว้ ยตนเอง
จากตำรา
ความสำคญั พธิ บี ายศรี, พธิ สี ู่ขวัญ, พิธที ำขวญั , พธิ ี
รับขวญั เป็นประเพณีอยา่ งหนึ่งของคนไทย และคน
ลาว ความเช่อื ท่ีวา่ ทกุ คนเกดิ มาพร้อมกับส่ิงนามธรรม
อย่างหนึ่งท่เี รยี กกันว่า “ขวญั ” มีหน้าทรี่ ักษา
ประคับประคองชวี ิตและตดิ ตามเจ้าของไปทุกหนแหง่
การทำพิธีสู่ขวัญจงึ เปน็ การเชิญขวัญทห่ี นหี ายไปใหเ้ ข้า
มาอย่กู บั ตัว และเชื่อวา่ เป็นการสง่ เสริมพลังใจให้
เขม้ แขง็ มสี ติและไมป่ ระมาท
การสืบทอดตอ่ รุ่นหลงั สอนใหค้ นในชมุ ชนทส่ี นใจ
แล2ะ. คนนราุ่นงวหนัลังเพ็ญ ศรจี นั ทร์ : การทำบายศรี

นางวันเพญ็ ศรจี ันทร์ อายุ 56 ปี
ทอี่ ยู่ บ้านเลขท่ี 42 หมู่ 12 บา้ นดอนเสียดใต้
เรียนรู้ สืบทอดจากคนเฒา่ แก่ และฝกึ ฝนด้วยตนเอง
จากตำรา
ความสำคัญ พิธีบายศรี, พิธีสู่ขวญั , พธิ ที ำขวญั , พธิ ี
รับขวญั เป็นประเพณีอย่างหน่ึงของคนไทย และคน
ลาว ความเชอื่ ท่วี า่ ทุกคนเกดิ มาพร้อมกับสงิ่ นามธรรม
อย่างหนึ่งที่เรียกกนั ว่า “ขวญั ” มหี นา้ ที่รักษา
ประคับประคองชีวติ และติดตามเจา้ ของไปทุกหนแห่ง
การทำพธิ สี ่ขู วญั จึงเปน็ การเชิญขวญั ที่หนีหายไปให้เข้า
มาอยู่กบั ตวั และเชื่อวา่ เป็นการส่งเสรมิ พลงั ใจให้
เขม้ แขง็ มสี ติและไม่ประมาท
การสบื ทอดตอ่ รุน่ หลงั สอนใหค้ นในชุมชนท่สี นใจ
และคนรนุ่ หลงั

15

3. นายประสาน ขันทะชา : การหาของป่า

นายประสาน ขันทะชา อายุ 61 ปี
ที่อยู่ บ้านเลขที่ 23 หมู่ 12 บา้ นดอนเสียดใต้
เรียนรู้ จากพรานปา่
ข้อคดิ ของปราชญต์ อ่ การอนรุ กั ษป์ า่ หลายชุมชน
ได้รับผลประโยชน์จากป่าชุมชน ที่สำคัญที่สุดก็คือ
การสร้างความร่วมมือกันดำเนินการจัดการป่าไม้
ส่งผลต่อความรักสามัคคีร่วมกันในชุมชน ท้ังในด้าน
ศาสนาหรือความเช่ือ การพัฒนาอาชีพตาม
ศักยภาพของชุมชนตามมาคือ การใช้ป่าชุมชนเป็น
แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การเป็นแหล่งเรียนรู้
ธรรมชาติและแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของคนใน
ชุมชน
การสืบทอดตอ่ รนุ่ หลัง ไมต่ ้องสบื ทอดแต่ประสงค์ให้
เยาวช1น.2รวผมลอกนารุ รกั เรษยี ์ปนา่ รช้ชู ุมุมชชนน : ทำเสน้ ทางการทอ่ งเทย่ี วชุมชน

16

การท่องเท่ยี วเชิงวฒั นธรรม วิถีชีวิตชมุ ชน

การท่องเที่ยวเชิงวฒั นธรรม วถิ ีชีวติ ชุมชน ถกู พฒั นาขน้ึ อย่างแพรห่ ลายในหลายพน้ื ท่ที ั่วประเทศ
ไทยเพื่อให้ทันต่อกระแส การเปลี่ยนแปลง ก่อให้เกิดการอนุรักษ์และพัฒนาเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นของชุมชน และ
ส่งเสริมการพัฒนาการ ท่องเที่ยวเพ่ือให้ตอบสนองความตอ้ งการของนักทอ่ งเท่ยี วตามกระแสโลกท่ีต้องการ ท่เี รามัก
เรียกว่า การท่องเที่ยวแบบโหยหาอดีต โดยนำความต้องการที่จะหวนย้อนกลับไปมปี ระสบการณ์ ในอดีตนั้นๆ อีก
ครั้ง

ในกิจกรรมค่ายสร้างนักคิดเชิงออกแบบที่เน้นชุมชนเป็นฐานสำหรับนักเรียนโรงเรียนเจ็ดสี
วทิ ยา” มจี ดุ เน้นเพ่ือสง่ เสรมิ และใหค้ วามสำคัญกับการพัฒนาศกั ยภาพเยาวชนในฐานะผู้สานต่อการท่องเท่ียว
ในอนาคต จากรุ่นพ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยายเพื่อสืบสานคุณค่าทางมรดกวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาของ
ท้องถิ่น เพื่อส่งต่อให้ กับเยาวชน และในอนาคตชุมชนมีความคาดหวังให้เยาวชนเข้ามามีสวนร่วมกับการ
พัฒนาการท่องเที่ยวในชุมชนมากขึน้ เพราะ "การสืบสาน....ต้องมีการ ส่งต่อ" และเป้าหมายสุดท้ายของการ
พัฒนาคือความยั่งยืน ของชุมชน โดยกิจกรรมนี้เปิดโอกาสให้เยาวชนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าของแหล่ง
ท่องเท่ียวในอนาคตได้ใช้ความคิดและจินตนาการได้อยา่ งเต็มท่ีในการนำเสนอมุมมองบา้ นของตวั เอง กับการ
ท่องเที่ยวในอนาคตวา่ “ในความฝันของเยาวชนอยากใหก้ ารท่องเที่ยวของบ้านของตัวเองเป็นอยา่ งไร” จาก
การทำกิจกรรมนกั เรยี นมีผลงานการสร้างเส้นทางการท่องเท่ียวปรากฏปรากฏดังตารางท่ี 2

ตารางท่ี 2 แสดงเส้นทางท่องเทย่ี ว “แหลง่ ท่องเทยี่ วบา้ นฉนั ” โรงเรียนเจด็ สีวทิ ยา

ท่ี แหลง่ ท่องเท่ยี วบา้ นฉัน ท่ีตั้ง

1 ตะลุยทัวรเ์ ทีย่ วหาดคำสมบรู ณ์ อ.บึงโขงหลง จ.บงึ กาฬ
GPS 17.981993, 104.026523
2 ตามรอยอารยธรรมวัดถำ้ บชู า ต.บา้ นตอ้ ง อ.เซกา จ.บงึ กาฬ
3 ตระการตาบงึ กาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ
4 ทีเด็ดเจด็ สี อ.เซกา จ.บึงกาฬ
5 เฮฮาม่วน สวนขนาบบงึ อ.บึงโขงหลง จ.บงึ กาฬ
6 ภูทอกสวรรค์ 7 ชนั้ อ.ศรีวไิ ล จ.บงึ กาฬ

17

แผนที่แสดงแหลง่ ทอ่ งเท่ยี ว จังหวดั บงึ กาฬ

เสน้ ทางที่ 1 ตะลุยทวั รเ์ ทยี่ วหาดคำสมบรู ณ์ 18

เสน้ ทางที่ 2 ตามรอยอารยธรรมวัดถำ้ บูชา เส้นทาง อุดรธานี-หนองคาย -
โพนพสิ ัย- บึงกาฬ-บึงโขงหลง
เส้นทาง หนองคาย- สกลนคร ทพ่ี ัก- บ้านเคียงบึง ,บ้านรมิ บงึ
ทพ่ี กั - คนล่าฝัน เวลา 3 วัน
งบประมาณ 5999 บาท งบประมาณ 3,000 บาท
กิจกรรมท่องเที่ยว หาดคำสมบูรณ,์ กจิ กรรมทอ่ งเท่ียว ทำบญุ ตัก
นำ้ ตกถำ้ พระ บาตร, เรยี นรวู้ ถิ ชี ุมชน,เลน่ นำ
หาดคำสมบรู ณ์, สวนขนาบน้ำ
และภทู อก

เส้นทางท่ี 3 ตระการตาบึงกาฬ 19

เส้นทางที่ 4 ทเี ด็ดเจด็ สี เส้นทาง อดุ รธานี-หนองคาย -
โพนพิสัย- บึงกาฬ-บงึ โขงหลง
น้ำตกเจ็ดสี เปน็ นำ้ ตกอีกแหง่ ท่อี ยู่ใน ทพี่ กั -
เขตรกั ษาพันธุ์สัตวป์ ่าภูววั จงั หวัดบึง เวลา 2 วัน
กาฬ เดมิ เรยี กวา่ นำ้ ตกห้วยกะอาม งบประมาณ 3,000 บาท
ซ่งึ เกิดจากธารน้ำของหว้ ยกะอาม กิจกรรมท่องเทย่ี ว หตั ถกรรมทอผา้ ,
เปน็ นำ้ ตกจากหน้าผาสูงแลว้ เกดิ เป็น ฟ้อนรำ, พิธีสูข่ วัญ,สวนสมุนไพร,ทอ
ละอองไอนำ้ กระทบกับแสงแดดยามบ่าย ผ้าขาวมา้ ,ผม้ ัดหม,ี่ วัดผาน้ำหยอด,
ทำใหเ้ กิดสีต่างๆ ขึ้น จึงเรียกกันว่า นำ้ ตกตาดนกเขยี น ,
นำ้ ตกเจด็ สี นำ้ ตกไหลมาจากหน้าผาสงู
ประมาณ 30 เมตร
งบประมาณ 6,800 บาท

เส้นทางท่ี 5 เฮฮาม่วน สวนขนาบบงึ 20

เสน้ ทาง อดุ รธานี-หนองคาย -
โพนพสิ ยั - บึงกาฬ-บงึ โขงหลง
ที่พกั ริมบงึ เคียงบึง
เวลา - วัน
งบประมาณ 2,000 บาท
กจิ กรรมทอ่ งเท่ียว หาดคำสมบรู ณ์
สวนนก

บงึ โขงหลง ต้ังอยู่ท่ี อำเภอบึงโขงหลง จงั หวัดบึงกาฬ เปน็ สถานทท่ี ่องเท่ยี วทางธรรมชาตขิ องจงั หวัดบึงกาฬ มี
ลักษณะเปน็ ทะเลสาบขนาดใหญ่ท่เี ป็นพ้ืนท่อี นุรักษพ์ นั ธ์ุนก โดยเฉพาะนกนำ้ ทยี่ ้ายถ่นิ เข้ามาในช่วงฤดูหนาว ทั้ง
หา่ นปา่ นกเปด็ น้ำ นกยาง นกกระเต็น จดุ ท่องเที่ยว คือ สวนสาธารณะบึงโขงหลง แหล่งพักผ่อนและชมวิว
ทวิ ทศั น์ที่งดงาม ท่มี ีหอชมนก

21

เส้นทางท่ี 6 ภทู อกสวรรค์ 7 ชั้น

ภทู อก เปน็ ท่ีตงั้ ของวัดเจติยาศรวี ิหาร (วัดภูทอก) อยใู่ นอาณาเขตบ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง จ.บงึ กาฬ
จุดเดน่ ของภูทอกก็คอื สะพานไมแ้ ละบันไดข้ึนชมทัศนยี ภาพรอบ ๆ ภทู อก ใชเ้ พียงแรงงานคนสร้างบันไดเวียน
ไปมารอบภูทอกเห็นวิวแบบ 360 ภู นักท่องเที่ยวสามารถเดินชม แบบสะพานเวียน รอบเขาซึ่งจะได้เห็น
มุมมองทแี่ ตกต่างไปเรื่อย ๆ ไฮไลต์ของภทู อก คือ พุทธวหิ ารอันเปน็ ท่บี รรจุพระบรมสารีรกิ ธาตุ มีลักษณะแปลก
และน่าอัศจรรย์ คอื เป็นหนิ แยกตวั ออกมาจากหินกอ้ นใหญ่ แต่ไมต่ กลงมาเพราะตั้งอยู่อยา่ ง ได้ฉากกับพื้นโลก
พอดี คลา้ ย ๆ กบั พระธาตุอินทรแ์ ขวนทีพ่ มา่ ภทู อกปดิ ไม่ให้นักทอ่ งเที่ยว ขึน้ ในวันที่ 10 -16 เมษายน ของทกุ
ปี

22

ตอนที่ 2 ผลการเสริมสร้างทักษะการคดิ เชิงออกแบบท่ีเน้นชมุ ชนเป็นฐานสำหรบั นักเรียน

ผลการประเมนิ ทักษะการคิดเชิงออกแบบ
ไดจ้ ากการประเมินชิ้นงานการจดั ทำบนั ทกึ ประวัตชิ วี ติ ปราชญ์ ภมู ปิ ญั ญาของชมุ ชน รวมถึงประเมนิ
ทักษะการคดิ เชิงออกแบบโดยนักเรียนประเมินตนเอง และครู หลงั ผ่านกิจกรรมคา่ ยสรา้ งนกั คิดเชิงออกแบบที่
เนน้ ชุมชนเป็นฐานสำหรบั นักเรียนโรงเรียนเจ็ดสีวทิ ยา ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล รายละเอยี ดปรากฏดังตารางท่ี
3

ตารางท่ี 3 แสดงคา่ เฉลยี่ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลประเมนิ ทกั ษะการคิดเชิงออกแบบ

รายการ ระดบั คุณภาพ (N=98)

1. ทำความเข้าใจปญั หา  S.D. แปลผล
1.1 ทำความเขา้ ใจกบั ปัญหาใหถ้ อ่ งแท้ในทุกมุมมองเสียกอ่ น
1.2 ทำความเขา้ ใจกับกลมุ่ เป้าหมาย หรือคนท่ีเก่ียวขอ้ ง 3.54 0.66 ดีมาก
1.3 เขา้ ใจในสิง่ ท่ีตนเองตอ้ งการแกไ้ ขเพื่อหาหนทางทเี่ หมาะสม
และดที สี่ ุด 3.52 0.84 ดมี าก

2. ระบุปัญหาใหช้ ัดเจน 3.54 0.61 ดมี าก
2.1 นำข้อมูลทัง้ หมดมาวิเคราะหเ์ พอ่ื ที่จะคัดกรองให้เป็นปญั หาท่ี
3.57 0.50 ดีมาก
แท้จริง
2.2 กำหนดหรอื บง่ ชีป้ ัญหาอย่างชัดเจน เพื่อท่ีจะเปน็ แนวทางใน 3.51 0.66 ดีมาก
3.54 0.66 ดีมาก
การปฏิบัติการต่อไป
2.3 มแี ก่นยดึ ในการแกไ้ ขปญั หาอย่างมีทิศทาง 3.52 0.65 ดมี าก

3. หาแนวทางแก้ปญั หา(ระดมความคิด) 3.46 0.80 ดี
3.1 ระดมความคิดในหลากหลายมมุ มอง หลากหลายวธิ กี าร 3.43 0.76
3.37 0.77 ดี
ออกมาใหม้ ากท่ีสดุ เป็นฐานข้อมูลในการประเมนิ ผลสรปุ แนวคิดท่ดี ี ดี
ที่สดุ สำหรับการแก้ไขปญั หา
3.49 0.75 ดี
3.2 มีการผสมผสานหลากหลายความคิดให้ออกมาเป็นแนวทาง
สุดท้ายที่ชัดเจน

23

ตารางที่ 3 แสดงคา่ เฉลีย่ และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ผลประเมินทกั ษะการคดิ เชิงออกแบบ (ตอ่ )

รายการ ระดบั คุณภาพ (N=98)

สร้างตน้ แบบ  S.D. แปลผล
4.1 สร้างตน้ แบบเพอ่ื ทดสอบจริงก่อนท่ีจะนำไปผลติ จริง 3.33 0.61
4.2 การลงมอื ปฏบิ ตั ิหรือทดลองทำจริงตามแนวทางทีไ่ ด้เลือกแลว้ ดี
ทดสอบ
5.1 ทดลองนำตน้ แบบหรอื ขอ้ สรปุ ที่จะนำไปใชจ้ ริงมาปฏิบัติก่อน เพอ่ื 3.66 0.73 ดี
ทดสอบประสิทธภิ าพ
5.2 นำปญั หาหรอื ขอ้ ดขี อ้ เสียทเ่ี กิดข้ึนเพอื่ นำมาปรบั ปรุงแกไ้ ข กอ่ น 3.00 0.00 ดี
นำไปใช้จรงิ ในคราวตอ่ ไป
3.58 0.69 ดมี าก
รวมเฉล่ยี
3.59 0.70 ดมี าก

3.57 0.69 ดมี าก

3.49 0.69 ดี

จากตารางที่ 3 พบว่า นักเรียนมีทักษะการคิดเชงิ ออกแบบ ในภาพรวมมีคุณภาพอยใู่ นระดับดี
( =3.49) พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับดมี าก 3 ทักษะ คือ ทำความเข้าใจปญั หา ( = 3.54) ระบปุ ญั หาให้
ชดั เจน (  = 3.51) ทดสอบ (  = 3.58)

เมอ่ื พจิ ารณาเปน็ รายข้อตามขอ้ มีค่าเฉล่ียในระดบั ดีมาก 7 รายการ โดยเรยี งจากรายการท่ีมีค่าเฉล่ีย
สูงสดุ คือ ทดลองนำตน้ แบบหรอื ขอ้ สรุปท่ีจะนำไปใชจ้ ริงมาปฏบิ ัติก่อน เพื่อทดสอบประสิทธภิ าพ ( = 3.59)
รองลงมา คือ นำปญั หาหรือข้อดขี อ้ เสยี ท่เี กิดขึ้นเพ่ือนำมาปรบั ปรงุ แก้ไข ก่อนนำไปใช้จริงในคราวตอ่ ไป เข้าใจ
ในและสิ่งที่เราต้องการแก้ไขเพื่อหาหนทางที่เหมาะสมและดีที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน ( = 3.57) ทำความ
เข้าใจกบั กลมุ่ เป้าหมาย หรอื คนที่เกย่ี วข้อง และ นำข้อมลู ทั้งหมดมาวเิ คราะห์เพื่อท่จี ะคัดกรองให้เป็นปัญหาที่
แท้จริง มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน ( = 3.54) ทำความเข้าใจกับปัญหาให้ถอ่ งแท้ในทุกมุมมองเสียก่อน และ กำหนด
หรือบง่ ชีป้ ญั หาอยา่ งชัดเจน เพื่อทจ่ี ะเปน็ แนวทางในการปฏบิ ัติการตอ่ ไป ( = 3.52)

24

ตอนที่ 3 แนวทางจัดการเรยี นการสอนทักษะการคดิ เชิงออกแบบท่ีเน้นชมุ ชนเปน็ ฐานสำหรบั นักเรยี น

การพฒั นา“ค่ายสรา้ งนกั คิดเชงิ ออกแบบทเี่ น้นชุมชนเป็นฐานสำหรับนักเรยี น” คณะทำงานเหน็
วา่ กิจกรรมดังกล่าวถอื วา่ เปน็ นวัตกรรมหนึ่งที่ใช้เปน็ แนวทางในการเรยี นการสอนหรือเสรมิ สรา้ งทักษะชวี ติ และ
ทักษะการคิดในศตวรรษท่ี 21 โดยเฉพาะทักษะการคดิ เชงิ ออกแบบ ได้ โดยมแี นวทางการนำไปใช้ดังนี้

กลมุ่ เปา้ หมายที่ใช้ในการพัฒนา
1. นักเรียนระดบั การศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน
2. นักศกึ ษาครู

เป้าหมายในการพัฒนา (ทักษะทตี่ ้องการพัฒนา)
1. พัฒนาทักษะชวี ติ เปน็ ทักษะการสือ่ สาร ทักษะทางสงั คม ทักษะการเรยี นร่วมกับชมุ ชน
2. พัฒนาทักษะการคิดในศตวรรษที่ 21 คือ ทักษะการคิดเชิงออกแบบ และทักษะการ
สอื่ สาร

การจดั กิจกรรรมพัฒนา
โรงเรียนระดบั การศึกษาข้นั พนื้ ฐาน ควรนำกจิ กรรมดังกลา่ วไปจัดการเรียนการสอน
1. จัดกจิ กรรมบูรณาการเรียนร้ชู มุ ชนเปน็ ไว้ในวิชาพน้ื ฐานทกุ ลุ่มสาระการเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
2. จัดในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เช่น กิจกรรมนักเรียนคือ ชุมนุม/ชมรม กิจกรรมเพื่อสังคม
และ

สาธารณะประโยชน์
3. จัดทำเป็นกิจกรรมในรายวิชาเพิ่มเติม “นักคิดรุ่นเยาว์กับการพัฒนาชุมชนเพื่อความ
ยงั่ ยืน”

“การพัฒนามัคคเุ ทศกท์ อ้ งถน่ิ ”
คณะครศุ าสตร์ ควรนำกจิ กรรมดังกลา่ วไปจดั การเรียนการสอน ทัง้ น้ีเพ่อื พัฒนาใหน้ ักศึกษา
1. บรรจุในรายวิชาวิชาชีพครู เช่น รายวิชาออกแบบการเรียนการสอน สำหรับเป็น
บทเรียน

ให้นกั ศึกษาได้เรยี นรู้เพอ่ื นำไปจัดกจิ กรรมสำหรบั นักเรยี น หรือ
2. จัดอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการตามความเหมาะสมหรือโอกาส
3. บรรจุในกจิ กรรมค่ายอาสา

เน้ือหาการพฒั นา
หนว่ ยการเรียนรู้ ชมุ ชน ในประเด็น
แผนที่เดินดนิ
ผังเครือญาติ

25

โครงสรา้ งองคก์ รชมุ ชน
ระบบสขุ ภาพชุมชน
ปฏทิ ินชุมชน
ประวตั ศิ าสตรช์ ุมชน และประวตั ชิ วี ติ
หน่วยการเรียนรู้ การคดิ เชิงออกแบบกับการเรียนร้ชู มุ ชน

การวัดและประเมนิ ผล
1. ประเมนิ ชิน้ งาน เกยี่ วกับ การพฒั นา การแก้ปัญหา ในประเดน็ ของชุมชน
2. ประเมนิ ทักษะการคดิ เขงิ ออกแบบ
3. สัมภาษณ์ นักเรยี น ชมุ ชน
4. ถอดบทเรียน

26

ภาคผนวก

▪ ประมวลภาพกจิ กรรมการลงพนื้ ที่
▪ ตัวอย่างผลงานผเู้ ข้ารว่ มการอบรม
▪ แบบฟอรม์ ประเมนิ

27

ภาพกจิ กรรมการลงพ้ืนท่ี

กจิ กรรมแผนท่ีชุมชน ในหวั ข้อ “ประวัตศิ าสตร์ชมุ ชน”
และ “ประวัตชิ ีวติ : ปราชญ์ชุมชน”

พบปะปราชญ์ท้องถนิ่ มอบของท่รี ะลึก

28

พบปะปราชญ์ท้องถนิ่ มอบของทรี่ ะลกึ

29

ปราชญช์ ุมชนทอเสื่อ และทำไม้กวาด

30

ปราชญช์ มุ ชนสานกระตบิ

31

ปราชญช์ ุมชนหมอยา และหมอเปา่

32

ปราชญช์ ุมชนเลย้ี งแพะ และหมอส่ขู วญั

33

ผลงานผูเ้ ขา้ ร่วมการอบรม

การถอดบทเรียนจากการลงพน้ื ทีเ่ รยี นรู้

กิจกรรมแผนท่ีชุมชน ในหวั ขอ้ “ประวตั ศิ าสตรช์ มุ ชน”
และ “ประวตั ิชีวติ : ปราชญช์ ุมชน”

34

35

36

37

38

39

40

41

42


Click to View FlipBook Version