The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือกิจกรรมสเต็มศึกษา ไข่มุกธัญพืชเพื่อสุขภาพ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by atitaya.an62, 2021-05-19 08:56:27

คู่มือกิจกรรมสเต็มศึกษา ไข่มุกธัญพืชเพื่อสุขภาพ

คู่มือกิจกรรมสเต็มศึกษา ไข่มุกธัญพืชเพื่อสุขภาพ

คำนำ

การจัดการศกึ ษาในปัจจบุ ันมงุ่ เนน้ การใช้องค์ความรูวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นฐานในการพัฒนา
ประเทศ ซึ่งได้บูรณาการองค์ความรู ทางด้านวิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology)
วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) โดยเรียกว่า “สะเต็ม” (STEM)
เพ่ือนาไปสู่การผลิตและพัฒนากาลังคน การวิจัย และนวัตกรรม เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของ
ประเทศ เพ่ิมพูนทักษะในการแก้ปัญหาให้ผู้เรียนสามารถเช่ือมโยงความรูความเข้าใจของเน้ือหาในระดับลึก
อย่างครอบคลุมและมีเหตุผลนาไปสู่ความคงทนในการเรียนรู้ กิจกรรมนี้สามารถนาไปจัดการเรียนการสอน
ตามปกติในชั้นเรียน เพียงแต่ผู้สอนต้องยกประเด็นข้ึนมาให้ปรากฏในบทเรียน ดังนั้นการจัดกิจกรรมน้ีไม่ได้
เพิ่มภาระใหม่แก่ผู้สอน แต่จะเป็นแนวทางและตัวอย่างให้ผู้สอนสามารถนาไปจัดการเรียนรู้ หรืออีกแนวทาง
หน่ึงสามารถจัดกิจกรรมในคาบเรียนวิชากิจกรรมเลือก กิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ และกิจกรรมเสริม
หลกั สูตรนอกเวลาเรยี น

กิจกรรมไข่มุกธัญพืชเพื่อสุขภาพ เป็นกิจกรรมสาหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาตอนปลาย มี
จุดประสงค์นักเรียนสามารถใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์
ในการบูรณาการ เพ่ือแก้ไขปัญหาในชีวิตจริงได้ นักเรียนสามารถออกแบบไข่มุกธัญพืชเพ่ือสุขภาพท่ีมี
ประสิทธิภาพด้วยความคิดสร้างสรรค์ โดยการออกแบบช้ินงานเพ่ือถ่ายทอดความรู้ นักเรียนสามารถอธิบาย
หลักการวิทยาศาสตรร์ ่วมกับหลักการทางคณิตศาสตร์ท่ีสามารถออกแบบไข่มุกธัญพืชเพอ่ื สุขภาพโดยนาไปใช้
ในชวี ติ ประจาวนั ไดจ้ ริง และนกั เรยี นสามารถเลือกใช้วตั ถุดิบและวสั ดอุ ปุ กรณ์ในการทาไข่มุกธัญพชื เพื่อสขุ ภาพ
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม พร้อมทง้ั อธิบายเหตุผลสนบั สนนุ

ในการจัดกจิ กรรมสเตม็ เรื่อง ไข่มุกธัญพืชเพ่ือสุขภาพ สาเร็จลงได้ในครั้งน้ี คณะผู้จัดขอขอบพระคุณ
อาจารย์ประจาวิชา อาจารย์วัชราภรณ์ เขาเขจร เป็นอย่างสงู ทกี่ รณุ าให้คาปรึกษาแนะนา และตรวจสอบแก้ไข
ข้อบกพร่องตา่ ง ๆ ตลอดจนตดิ ตามความก้าวหน้าในการดาเนนิ งานในคร้งั นี้

คณะผู้จดั ทำ

คูม่ ือกจิ กรรมสเตม็ ศึกษา เรอื่ ง ไข่มกุ ธญั พชื เพือ่ สขุ ภาพ ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ก
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

สำรบญั หนำ้

กิจกรรม : ไข่มกุ ธัญพืชเพื่อสุขภำพ 1
มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตวั ชี้วดั 1
1
กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ 2
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ 2
สำระสำคญั 3
สำรกำรเรยี นรู้ 4
กรอบแนวคดิ 5
จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 6
วสั ดอุ ุปกรณ์ 7
แนวกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ 7
ขนั้ ระบุปญั หา 8
ขน้ั รวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดทเ่ี กย่ี วข้อง 9
ข้ันออกแบบวิธีการแก้ปัญหา 11
ขน้ั วางแผนและดาเนินการแก้ปัญหา 11
ขั้นทดสอบ ประเมินผล และปรับปรงุ แก้ไขวิธกี ารแก้ปญั หาหรือชิน้ งาน 11
ขน้ั นาเสนอวธิ ีการแกป้ ญั หา ผลการแกป้ ญั หาหรือชิน้ งาน 12
กำรวัดประเมนิ ผล 12
เกณฑก์ ำรวัดประเมินผล 14
ใบประเมินช้นิ งาน 16
ใบประเมนิ การนาเสนอ 18
แบบประเมินทักษะในศตวรรษที่ 21 20
ใบความรทู้ ่ี 1 อาหาร และสารอาหาร 27
ใบความรูท้ ี่ 2 ทาความรจู้ ักกับวัตถุดบิ 37
ใบความร้ทู ี่ 3 การทาไขม่ ุก 39
ใบบนั ทึกกจิ กรรมท่ี 1.1 อะไรอยใู่ นตม้ ยา 40
ใบบันทกึ กจิ กรรมที่ 1.2 เชฟนกั รังสรรค์ 43
ใบบันทกึ กิจกรรมท่ี 2.1 ตาดู ปากลองชมิ

คมู่ อื กจิ กรรมสเต็มศกึ ษา เร่อื ง ไข่มกุ ธัญพืชเพ่ือสุขภาพ ระดับช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 ข
สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

ใบบนั ทึกกิจกรรมท่ี 2.2 มหัศจรรย์ความหวานชวนชมิ 45
ใบบันทกึ กจิ กรรมท่ี 3 ไข่มกุ ธัญพชื เพื่อสุขภาพ 47
แบบสะท้อนหลังกิจกรรมไข่มุกธญั พชื เพื่อสขุ ภาพ 51
ใบรายการซ้ือวสั ด/ุ อปุ กรณ์ 52
เอกสารอ้างองิ 53

คู่มอื กจิ กรรมสเตม็ ศึกษา เรอ่ื ง ไข่มุกธญั พชื เพ่ือสุขภาพ ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 ค
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

ไข่มุกธัญพชื เพือ่ สุขภำพ

ระดับชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ 6 เวลำ 3 ชวั่ โมง

มำตรฐำนกำรเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ดั

1. กลุ่มสำระกำรเรยี นรูวิทยำศำสตร์

สำระท่ี 1 วทิ ยำศำสตรช์ ีวภำพ

มำตรฐำน ว 1.2 เข้าใจสมบตั ิของส่งิ มชี วี ิต หน่วยพ้นื ฐานของสิ่งมชี วี ิต การลาเลยี งสารเขา้ และออก
จากเซลลค์ วามสัมพันธข์ องโครงสรา้ งและหนา้ ท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และ
ตวั ช้วี ดั ว 1.2 ป.6/1 มนษุ ยท์ ่ที างานสัมพันธก์ ัน ความสมั พันธ์ของโครงสรา้ งและหน้าทีข่ องอวยั วะตา่ ง ๆ
ตวั ชว้ี ดั ว 1.2 ป.6/2 ของพชื ท่ีทางานสัมพันธ์กัน รวมทัง้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์
ตวั ชวี้ ัด ว 1.2 ป.6/3 ระบสุ ารอาหารและบอกประโยชน์ของสารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารท่ตี นเอง
รับประทาน
บอกแนวทางในการเลอื กรับประทานอาหาร ให้ไดส้ ารอาหารครบถว้ นในสดั สว่ นท่ี
เหมาะสมกับเพศและวยั รวมทง้ั ความปลอดภัยตอ่ สขุ ภาพ
ตระหนักถึงความสาคัญของสารอาหาร โดยการเลอื กรบั ประทานอาหารที่มี
สารอาหารครบถ้วนในสดั สว่ นท่เี หมาะสมกับเพศและวัย รวมท้ังปลอดภยั ต่อสุขภาพ

สำระท่ี 4 เทคโนโลยี

มำตรฐำน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอยา่ งเปน็ ข้ันตอน
และเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแกป้ ญั หาได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม

คู่มอื กิจกรรมสเตม็ ศึกษา เรอ่ื ง ไขม่ ุกธัญพืชเพอื่ สขุ ภาพ ระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 1
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร

ตวั ชวี้ ดั ว 4.2 ป.6/1 ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการอธิบายและออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหาท่ีพบใน
ชวี ติ ประจาวัน
ตวั ชีว้ ดั ว 4.2 ป.6/3 ใช้อนิ เทอร์เน็ตในการคน้ หาข้อมลู อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชี้วดั ว 4.2 ป.6/4 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศทางานร่วมกนั อย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธแิ ละหน้าทขี่ องตน
เคารพในสทิ ธิของผู้อื่น แจ้งผเู้ กีย่ วขอ้ งเมื่อพบข้อมลู หรือบุคคลท่ีไม่เหมาะสม

2. กลุ่มสำระกำรเรยี นรูคณิตศำสตร์

สำระที่ 1 จำนวนและพชี คณิต

มำตรฐำน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การ ของ
จานวน ผลทเี่ กดิ ขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้

ตวั ชี้วัด ค 1.1 ป.6/9 หาผลหารของทศนยิ มทตี่ ัวหารและผลหาร เป็นทศนยิ มไมเ่ กิน 3 ตาแหนง่
ตัวชีว้ ัด ค 1.1 ป.6/10 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหา การบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม

3 ข้นั ตอน

สำระสำคัญ

อาหารท่ีเรากินมีหลากหลายสามารถจัดเป็นหมวดหมู่ได้ 5 หมู่หลัก อาหารแต่ละหมู่มีสารอาหารท่ี
เป็นองค์ประกอบแตกต่างกันในปริมาณมากน้อยต่างกัน สารอาหารมี 6 ประเภท ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต
ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ และน้า สารอาหารเหล่าน้ีมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตและการดารงชีวิตของมนุษย์
อาหารจะให้พลังงานต่อร่างกายเม่ือรับประทาน โดยหน่วยการวัดพลังงาน คือ แคลอร่ี และหน่วยพลังงานที่
ร่างกายไดร้ ับจากอาหาร คือ กิโลแคลอรี่ ซ่ึงสามารถคานวณได้จากสารอาหารท่ีให้พลังงานท่ีอยู่ในอาหารชนิด
นั้น ๆ และก่อนท่ีจะเลือกรับประทานอาหารชนิดใดควรเลือกอาหารท่ีเหมาะสมกับเพศ ช่วงวัย และปลอดภัย
ต่อสขุ ภาพ ไมห่ ลงเชื่อโฆษณาชวนเชือ่ และมีการศกึ ษาขอ้ มลู อย่างถ่ีถ้วนกอ่ นเลือกรับประทานอาหารทุกคร้งั

คู่มือกิจกรรมสเต็มศึกษา เร่ือง ไข่มุกธญั พืชเพอื่ สขุ ภาพ ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 2
สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

สำระกำรเรียนรู้

วทิ ยำศำสตร์

ระบปุ ระโยชน์ของสารอาหารแตล่ ะประเภทจากอาหารทีต่ นเองรับประทาน การเลอื กรับประทาน
อาหารใหไ้ ด้สารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนที่เหมาะสมกับเพศและวัย รวมทั้งความปลอดภัยต่อสุขภาพ

คานวณพลังงานท่ไี ดจ้ ากอาหารแตล่ ะประเภท และการรับประทานอาหารให้เหมาะสมต่อความ
ต้องการพลังงานท่ีร่างกายตอ้ งการในแต่ละวัน

คณติ ศำสตร์

เข้าใจและสามารถหาคาตอบของโจทย์ปัญหา การบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม ทศนิยม
ไมเ่ กิน 3 ตาแหนง่

เทคโนโลยี

การออกแบบวิธีการแก้ปัญหาทีพ่ บในชีวติ ประจาวนั การใช้อนิ เทอรเ์ น็ตค้นหาข้อมลู และประเมนิ
ความนา่ เชือ่ ถือของข้อมลู อยา่ งมีประสิทธภิ าพ และปลอดภยั

สเต็มศกึ ษำ

สะเต็มศกึ ษำ (Science Technology Engineering and Mathematics Education : STEM
Education) คอื แนวทางการจดั การศึกษาให้ผู้เรยี นเกดิ การเรยี นรู้และสามารถบรู ณาการความรู้ทาง
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการทางวศิ วกรรม และคณติ ศาสตร์ ไปใชใ้ นการเชื่อมโยงและแกป้ ัญหา ใน
ชีวติ จริง รวมท้ังการพัฒนากระบวนการหรือผลผลติ ใหม่ควบคไู่ ปกบั การพฒั นาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
ดังน้ันสะเต็มศึกษาจึงไม่ใช่เรอื่ งใหม่ แต่เป็นการต่อยอดหลกั สูตรโดยบูรณาการการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี กระบวนการทางวิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เพ่ือนาไปใช้แกป้ ัญหาในชวี ติ จริง และการ
ประกอบอาชีพในอนาคต

คมู่ ือกิจกรรมสเตม็ ศึกษา เรือ่ ง ไขม่ กุ ธัญพืชเพอ่ื สุขภาพ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 3
สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

ค่มู อื กิจกรรมสเตม็ ศึกษา เรื่อง ไขม่ กุ ธญั พชื เพื่อสขุ ภาพ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 4
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร

จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้

1. นกั เรียนสามารถออกแบบและทาไขม่ ุกธัญพชื เพื่อสุขภาพได้
2. นักเรียนสามารถคานวณแคลอร่ีในอาหาร และราคาของวัสดุอุปกรณท์ ีใ่ ชไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง
3. นักเรียนสามารถระบุประเภทสารอาหารได้ และสามารถบอกแนวทางในการเลือกรับประทาน
อาหารให้ได้สารอาหารครบถว้ นในสัดส่วนที่เหมาะสมกับเพศและวยั รวมทั้งความปลอดภัยต่อสุขภาพได้

คมู่ ือกิจกรรมสเต็มศึกษา เร่อื ง ไข่มกุ ธญั พชื เพอ่ื สุขภาพ ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 5
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร

วัสดุ/อปุ กรณ์

ลำดบั รำยกำร แคลอรี่ ปริมำณ รำคำ (บำท)
1 แป้งขา้ วกา่ 106.2 kcal/30 กรมั 30 กรมั 1.5
2 แป้งข้าวกล้อง 104.1 kcal/30 กรมั 30 กรมั 1
3 แปง้ ข้าวมนั ปู 104.1 kcal/30 กรัม 30 กรัม 1
4 แปง้ ข้าวหอมมะลิ 106.8 kcal/30 กรัม 30 กรมั 1.5
5 แปง้ ขา้ วไรซเ์ บอร์รี 111 kcal/30 กรมั 30 กรมั 1
6 แปง้ ขา้ วฮางงอก 106.26 kcal/30 กรมั 30 กรมั 1.5
7 แป้งข้าวสงั ขห์ ยด 106.265 kcal/30 กรมั 30 กรัม 1.5
8 หญ้าหวาน 40 กรัม 3
9 น้าผ้งึ 0 kcal/40 กรัม 40 กรัม 1.5
10 หลอ่ ฮงั ก๊วย 176 kcal/40 กรมั 40 กรัม 3
11 เมเปิลไซรัป 0 kcal/40 กรมั 40 กรัม 2
12 นา้ ตาลมะพร้าว 138.58 kcal/40 กรมั 40 กรมั 2
13 นา้ ตาลทรายแดง 140.8 kcal/40 กรมั 40 กรัม 1.5
14 แป้งมนั สาปะหลงั 152 kcal/40 กรมั 60 กรมั ฟรี
15 น้าสะอาด 214.8 kcal/60 กรัม 1000 กรมั ฟรี
16 ถาดพลาสติก 0 kcal/1000 กรมั 1 ใบ ฟรี
17 ถ้วยพลาสติก 3 ใบ ฟรี
18 ทพั พี - 1 อัน ฟรี
19 กระบวยตักไข่มุก - 1 อนั ฟรี
20 ถุงมือ - ฟรี
21 กระทะไฟฟ้า - 5 คู่ ฟรี
22 ปลั๊กไฟ - 1 เครื่อง ฟรี
- 1 ตวั
-

คูม่ ือกจิ กรรมสเตม็ ศึกษา เร่อื ง ไขม่ กุ ธญั พชื เพ่ือสขุ ภาพ ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 6
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร

แนวกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้

ขัน้ ระบปุ ัญหำ (10 นำที)

1. ครูนาเข้าสู่บทเรียนโดยการให้นักเรียนดูคลิปวดิ ีทัศนป์ ัญหาทเ่ี กดิ จากการดมื่ ชานมไขม่ ุกเป็นประจา จนทาให้
เกิดโรคต่าง ๆ ตามมามากมาย แล้วร่วมกันอภิปรายว่าพฤติกรรมการบริโภคเช่นนี้ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ของเราอยา่ งไรบ้าง
(แนวคำตอบ : เป็นสำเหตุทำให้อ้วน เป็นโรคเบำหวำน โรคหัวใจ ควำมดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ อัมพำต
ไตเส่ือม จอประสำทตำเสื่อม สมองเสื่อม เข่ำเส่ือม ทำให้แก่เกินวัย และผู้คนในปัจจุบันส่วนมำกมักจะ
ชอบดมื่ ชำนมไขมุกแทนข้ำวเปน็ ประจำ ทำให้เกดิ อำกำรเบอ่ื อำหำรได้ด้วย)

2. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันอภิปรายว่าเหตใุ ดการดมื่ ชานมไขม่ ุกจงึ สง่ เสียต่อสุขภาพมากมาย
(แนวคำตอบ : เนอ่ื งจำกชำนมไขม่ กุ เปน็ เคร่ืองด่ืมที่มปี รมิ ำณนำตำลสูงมำกประมำณ 19-25 ช้อนชำ ซ่ึง
เกินกว่ำที่องค์กำรอนำมัยโลก (WHO) แนะนำปริมำณนำตำลที่ได้รับต่อวัน ไม่ควรเกิน 24 กรัม
หรือ 6 ช้อนชำ โดยท่ีปริมำณนำตำลเหล่ำนีอยู่ทังในชำนม และในไข่มุก อีกทังยังตรวจพบว่ำเม็ดไข่มุก
เคียวหนึบดังกล่ำวยังมีสำรกันบูด และสำรเคมีประเภทโพลีคลอริเนต ไบฟีนิล หรือ PCBs
(Polychlorinated Biphenyls หรือ PCBs) ซึ่งเป็นสำรก่อมะเร็งเจือปนอยู่ด้วย ชำนมไข่มุกจึงเป็น
สำเหตใุ หเ้ กดิ โรงตำ่ ง ๆ ได้มำกมำย

3. ครูแบ่งนักเรยี นออกเป็นกลุม่ กลุ่มละ 5-6 คน แล้วสมมติสถานการณ์ปัญหาเพอ่ื ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษา
รายละเอียดและเงอื่ นไขของสถานการณ์ ดังน้ี

ถ้ำนักเรียนเป็นนักโภชนำกำรอำหำรที่ต้องกำรคิดสูตรกำรทำไข่มุกข้ึนมำใหม่ เนื่องจำกในชำนม
ยังสำมำรถเลือกระดับควำมหวำน หรือรสชำติท่ีเหมำะกับสุขภำพของตัวเองได้ โดยจะใช้สำรให้
ควำมหวำนจำกธรรมชำติซ่ึงเป็นควำมหวำนที่ดีต่อสุขภำพ แทนควำมหวำนจำกน้ำตำลในชำนมไข่มุก
แบบเดิม และนำธญั พืชที่มีประโยชนต์ ่อสขุ ภำพมำเป็นส่วนผสมในไข่มุก เพ่อื ทำให้ชำนมไข่มกุ มีประโยชน์
ต่อสุขภำพมำกย่ิงขน้ึ แล้วนำสูตรท่ีไดไ้ ปเผยแพร่ควำมรูใ้ ห้กบั คนรักสุขภำพ และผู้คนในสังคม นกั เรยี นจะ
มวี ิธีกำรทำอย่ำงไร และเลือกวัตถุดบิ ใดมำเป็นส่วนผสม เพือ่ ใหไ้ ด้ไขม่ ุกทม่ี ีประโยชน์ตอ่ สขุ ภำพมำกทส่ี ุด

คู่มือกิจกรรมสเต็มศึกษา เรือ่ ง ไขม่ ุกธญั พืชเพื่อสุขภาพ ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 7
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

วตั ถปุ ระสงค์ : เพ่อื ทาไข่มุกทีม่ ปี ระโยชนต์ อ่ สขุ ภาพ ปริมาณ 250 กรมั
เงอ่ื นไข : 1) ใช้งบประมาณในการทาน้อยทสี่ ุด
2) ใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติ
3) ใชแ้ ปง้ ทีท่ าจากข้าวก่า ขา้ วกลอ้ ง ขา้ วมนั ปู ข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซเ์ บอรร์ ี
ข้าวฮางงอก และข้าวสงั ขห์ ยด อย่างน้อย 1 ชนดิ
4) มเี นอื้ สมั ผัสที่ดี และรสชาตอิ ร่อย
5) ไดแ้ คลอรี่นอ้ ยท่สี ุด

ขน้ั รวบรวมขอ้ มลู และแนวคิดท่เี กย่ี วขอ้ ง (50 นำท)ี

กิจกรรมที่ 1 : มหศั จรรย์อำหำร และสำรอำหำร

- อำหำรและสำรอำหำร
- แคลอรี่

4. ครใู ห้นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายรูปภาพของก๋วยเตี๋ยวต้มยาว่าประกอบสารอาหารประเภทใดบ้าง แลว้ เขยี นลง
ในใบกิจกรรมที่ 1.1
(แนวคำตอบ : หมู่ 1 โปรตนี ได้แก่ ไข่ไก่ หมสู ับ หมชู ิน ถวั่ ลสิ งค์ หมู่ 2 คำรโ์ ปไฮเดรต ได้แก่ ลูกชิน
เสน้ เลก็ หมู่ 3 เกลือแร/่ แร่ธำตุ ได้แก่ ผักกะหลำ่ ปี พริก กระเทียม ผกั หอม นำซุป/นำผัก หมู่ 4 วติ ำมิน
ได้แก่ นำมะนำว แครอท หัวไซเท้ำ และหมู่ 5 ไขมัน ไดแ้ ก่ นำมันหมู และนำกะทิ)

5. ครแู จกใบกิจกรรมท่ี 1.2 จากนั้นใหน้ กั เรียนรว่ มกนั ศึกษาสมบัติของอาหารและสารอาหาร จากนน้ั ให้
นกั เรียนออกแบบอาหาร พร้อมตัง้ ราคา และคานวณแคลอร่ีท่ีจะได้รบั ในอาหารน้นั ลงในใบกิจกรรมที่ได้

กิจกรรมท่ี 2 : ทำควำมรู้จกั กับวตั ถดุ บิ

- ข้ำวแตล่ ะชนดิ
- สำรใหค้ วำมหวำนจำกธรรมชำตแิ ตล่ ะชนดิ

6. ครใู ห้นักเรยี นสง่ ตวั แทนกลมุ่ ออกมาสังเกตลกั ษณะของข้าวและชมิ ข้าวแตล่ ะชนิด และบรรยายข้าวแต่ละ
ชนดิ วา่ มีรสชาติ เน้ือสัมผสั และรปู รา่ งลักษณะทางกายภาพเป็นอย่างไร ลงในใบกจิ กรรมท่ี 2.1
(แนวตำตอบ : ขำ้ วกำ่ ก่อนทำให้สกุ มลี ักษณะเป็นสีดำออกม่วง ๆ เมล็ดผิวหยำบ หลังทำใหส้ ุกเมล็ด
ขำ้ วมลี กั ษณะสีดำอมม่วงใส รสชำติท่ไี ด้ชิม รสชำตมิ ัน ๆ เวลำเคยี วจะรสู้ ึกนุ่มหนุบ ๆ กรบุ กรอบ

คู่มอื กิจกรรมสเตม็ ศึกษา เรื่อง ไข่มุกธัญพชื เพือ่ สขุ ภาพ ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 8
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร

ข้ำวกล้องก่อนทำให้สุขมีลักษณะเป็นสีนำตำลออ่ น สนี ำตำลเขม้ ผสมกันอยู่ หลังทำให้สกุ จะเปน็ สี
เหลืองอ่อนคอ่ นไปทำงนำตำล รสชำติทไ่ี ด้ชมิ ข้ำวนุ่มไมเ่ หนยี ว กลิ่นหอมเหมือนขำ้ วโพด เป็นตน้ )

7. ครแู จกใบกจิ กรรมท่ี 2.2 จากนัน้ ให้สง่ ตัวแทนกลุม่ ออกมาชิมสารให้ความหวานจากธรรมชาติ แล้วบรรยาย
ความหวานจากสารให้ความหวานแตล่ ะชนิดว่ามรี สชาติหรือระดบั ความหวานอยา่ งไรบา้ ง
(แนวคำตอบ : หญำ้ หวำน มรี สหวำนเป็นเอกลักษณ์และรสชำตจิ ะไมไ่ ด้หวำนแหลมเหมือนกับนำตำล
อำจมีรสชำตขิ มๆ หำกต้มนำนเกนิ ไปนำตำล มะพร้ำว. หอมหวำน มกี ลิน่ ของนำตำลมะพรำ้ วที่เป็น เอก
ลักของนำมะพร้ำว เปน็ ต้น)

8. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ รว่ มกันอภปิ รายว่าจะใช้แปง้ จากข้าว และสารให้ความหวานจากธรรมชาตใิ ดจึงจะเหมาะ
สาหรบั นามาทาไข่มุกธญั พืชเพื่อสุขภาพมากทส่ี ดุ พร้อมใหเ้ หตุผลประกอบลงในใบกิจกรรมที่ 2.1 ขอ้ ท่ี 2

ขนั้ ออกแบบวธิ กี ำรแกไ้ ขปญั หำ (30 นำที)

กจิ กรรมที่ 3 : ไข่มกุ ธัญพืชเพอ่ื สุขภำพ
9. ครนู าเข้ากจิ กรรมโดยการต้งั คาถามและอภิปรายร่วมกับนกั เรียนว่า ถ้าตอ้ งการทาไข่มุกทมี่ ีประโยชนต์ อ่

สขุ ภาพ นักเรยี นจะมีวิธกี ารใดในการออกแบบไข่มกุ ให้ตรงกบั วัตถปุ ระสงค์ และเง่อื นไขมากทส่ี ดุ
เราควรเลอื กใช้วัตถุดิบใดในการทา เพราะเหตุใด และทาได้อยา่ งไร

10. ครูอธบิ ายวัตถปุ ระสงคแ์ ละเงอื นไขในการทาไข่มกุ ที่มีประโยชน์ตอ่ สขุ ภาพ ดังนี้
วัตถุประสงค์ : เพ่อื ทาไขม่ ุกท่ีมปี ระโยชน์ตอ่ สุขภาพ ปริมาณ 250 กรมั
เง่อื นไข : 1) ใช้งบประมาณในการทาน้อยทส่ี ุด
2) ใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติ
3) ใชแ้ ปง้ ท่ที าจากขา้ วก่า ขา้ วกลอ้ ง ข้าวมันปู ข้าวหอมมะลิ ขา้ วไรซ์เบอรร์ ี
ข้าวฮางงอก และขา้ วสังขห์ ยด เป็นส่วนผสมอย่างน้อย 1 ชนิด
4) มีเน้ือสัมผสั ท่ดี ี และรสชาติอรอ่ ย
5) ไดแ้ คลอรี่น้อยท่สี ดุ

11. ครบู อกนักเรยี นแตล่ ะกลุ่มว่านกั เรยี นจะได้อุปกรณ์อะไรบ้างโดยทไี่ มต่ ้องจา่ ยเงนิ ในการซื้อ
(แปง้ มันสาปะหลัง, น้าสะอาด, ถาดพลาสติก, ถ้วยพลาสติก, ทพั พี, กระบวยตกั ไข่มุก, ถงุ มือ, กระทะไฟฟา้
ปลัก๊ ไฟ และน้าเปล่า)

12. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเพื่อออกแบบการทาไข่มุกที่มปี ระโยชน์ตอ่ สขุ ภาพโดยใชว้ ัตถุดบิ ท่ี

คู่มือกจิ กรรมสเต็มศึกษา เรือ่ ง ไขม่ ุกธัญพชื เพ่ือสขุ ภาพ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 9
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

กาหนดให้ จากนนั้ เขยี นเปน็ ภาพร่างออกแบบไข่มุกท่ีมีประโยชนต์ อ่ สุขภาพ และท้งั วาดภาพระบายสีลง
ในใบกจิ กรรมที่ 3 ข้อท่ี 1

13. ให้นกั เรยี นทาไข่มุกท่ีมีประโยชน์ตอ่ สุขภาพ โดยมีการกาหนดเงื่อนไขเกยี่ วกับตน้ ทุนของวัตถดุ ิบ และ
อปุ กรณ์ ดงั นี้

ต้นทนุ ของวตั ถดุ ิบ/อปุ กรณ์ในกำรทำไขม่ ุกธัญพืชเพ่อื สุขภำพ

ลำดบั รำยกำร แคลอร่ี ปริมำณ รำคำ
1 แป้งขา้ วก่า 106.2 kcal/30 กรมั 30 กรมั 1.5
2 แปง้ ข้าวกล้อง 104.1 kcal/30 กรมั 30 กรมั 1
3 แปง้ ข้าวมันปู 104.1 kcal/30 กรัม 30 กรมั 1
4 แปง้ ข้าวหอมมะลิ 106.8 kcal/30 กรมั 30 กรัม 1.5
5 แป้งขา้ วไรซเ์ บอรร์ ี 111 kcal/30 กรมั 30 กรัม 1
6 แป้งขา้ วฮางงอก 106.26 kcal/30 กรมั 30 กรัม 1.5
7 แป้งขา้ วสงั ขห์ ยด 106.265 kcal/30 กรมั 30 กรัม 1.5
8 หญา้ หวาน 40 กรัม 3
9 น้าผง้ึ 0 kcal/40 กรัม 40 กรัม 1.5
10 หล่อฮงั ก๊วย 176 kcal/40 กรมั 40 กรมั 3
11 เมเปลิ ไซรปั 0 kcal/40 กรมั 40 กรัม 2
12 นา้ ตาลมะพรา้ ว 138.58 kcal/40 กรมั 40 กรัม 2
13 น้าตาลทรายแดง 140.8 kcal/40 กรมั 40 กรมั 1.5
14 แปง้ มันสาปะหลงั 152 kcal/40 กรมั 60 กรัม ฟรี
15 น้าสะอาด 214.8 kcal/60 กรัม 1000 กรมั ฟรี
16 ถาดพลาสติก 0 kcal/1000 กรัม 1 ใบ ฟรี
17 ถ้วยพลาสตกิ 3 ใบ ฟรี
18 ทพั พี - 1 อนั ฟรี
19 กระบวยตกั ไข่มุก - 1 อนั ฟรี
20 ถุงมือ - ฟรี
21 กระทะไฟฟา้ - 5 คู่ ฟรี
22 ปล๊ักไฟ - 1 เครอื่ ง ฟรี
- 1 ตวั
-

ค่มู ือกจิ กรรมสเต็มศึกษา เร่อื ง ไขม่ ุกธัญพชื เพอ่ื สขุ ภาพ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 10
สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร

ขนั้ วำงแผนและดำเนินกำรแกป้ ัญหำ (45 นำท)ี

14. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั ทาไข่มกุ ธญั พชื เพื่อสุขภาพตามขั้นตอนที่ได้ร่วมกนั วางแผนไว้
15. นักเรยี นนาใบรายการวสั ดไุ ปเลือกซือ้ ของตามท่ีได้ออกแบบไว้ และลงมือทาไขม่ กุ ธญั พืชเพอื่ สุขภาพ

ขนั้ ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรับปรงุ แก้ไขวธิ ีกำรแก้ปญั หำหรอื ชิ้นงำน (30 นำที)

16. ครใู หน้ ักเรียนอธบิ ายลักษณะและสว่ นประกอบของไข่มุกธัญพชื เพื่อสขุ ภาพทท่ี าขึน้ พร้อมท้ังคานวณหา
แคลอร่จี ากไข่มุกทที่ าข้ึนท้ังหมด และแคลอร่ตี ่อ 1 แกว้ ลงในใบกิจกรรมที่ 3 จากนน้ั ครูและนักเรียน
ร่วมกนั ตรวจสอบว่าไขม่ ุกธญั พืชเพื่อสุขภาพท่ีทาขึน้ ตรงตามวตั ถุประสงค์และเงื่อนไขที่กาหนดหรือไม่ แลว้
บนั ทึกผลการตรวจสอบในใบกจิ กรรมที่ 3 และใหน้ กั เรยี นนาผลการไข่มุกธัญพชื เพ่ือสุขภาพมาหาแนวทาง
ในการปรับปรงุ แก้ไขให้ดีขึ้น จากน้นั ลงมือปรับปรุงชิน้ งานแลว้ นาไปตรวจสอบอีกครง้ั

ขั้นนำเสนอวิธีกำรแก้ปัญหำ ผลกำรแก้ปัญหำหรอื ชิ้นงำน (15 นำที)

17. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอชิ้นงาน พร้อมแนวคิดในการออกแบบ และกระบวนการทาไข่มุกธัญพืชเพื่อ
สขุ ภาพ โดยอธิบายองค์ความรู้ท่ีนามาใช้ในการออกแบบและทาไข่มุกธัญพืชเพ่ือสุขภาพ พร้อมท้ังอธิบาย
แนวคดิ ในการปรบั ปรุงชน้ิ งาน เช่น
- ไข่มุกธัญพืชเพ่ือสุขภาพท่ีนักเรียนทาข้ึนสามารถทาได้ง่าย และนามาปรับใช้ในชีวิตจริงได้หรือไม่
อย่างไร
- ไข่มุกธัญพืชเพื่อสุขภาพที่นักเรียนทาขึ้นใช้วัตถุดิบใดเป็นส่วนผสมบ้าง เพราะเหตุใดจึงเลือก
ส่วนผสมนนั้ ๆ
- ไข่มุกธัญพืชเพ่ือสุขภาพท่ีนักเรียนทาข้ึนมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ต่างจากไข่มุกปกติท่ีขายทั่วไป
อย่างไรบ้าง
- ชิ้นงานหรอื นวัตกรรมท่นี ักเรียนสรา้ งขึ้นมีการนาความรู้ดา้ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วศิ วกรรม
และคณิตศาสตรม์ าใช้อยา่ งไรบ้าง
- นกั เรียนมีแนวทางในการปรับปรงุ ชิน้ งานอยา่ งไร เพ่ือใหบ้ รรลวุ ตั ถุประสงคแ์ ละเง่ือนไข

18. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปและอภิปรายเก่ียวกับกิจกรรมไข่มุกธัญพืชเพ่ือสุขภาพ รวมทั้งการแก้ปัญหา
และการนาความรูไ้ ปใช้ในชีวิตประจาวนั

คูม่ ือกิจกรรมสเต็มศึกษา เรือ่ ง ไข่มุกธญั พืชเพอ่ื สขุ ภาพ ระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 11
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

กำรวัดและประเมินผล เครอ่ื งมือท่ีใชป้ ระเมนิ คะแนน (รอ้ ยละ)
ใบกจิ กรรมที่ 1.1 และ 1.2 20
รำยกำรประเมิน ใบกิจกรรมที่ 2.1 และ 2.2 15
อาหาร และสารอาหาร 15
ทาความรู้จกั กบั วตั ถุดบิ ใบกจิ กรรมท่ี 3 15
การใหเ้ หตผุ ลและการออกแบบชิน้ งาน ใบประเมนิ ชน้ิ งาน 5
ความสาเรจ็ ของชนิ้ งาน ใบกระเมนิ การนาเสนอ 15
ใบประเมินชน้ิ งาน 15
การนาเสนอ แบบประเมินทักษะในศตวรรษท่ี 21
ความคดิ สรา้ งสรรค์ในการสร้างชน้ิ งาน

ทักษะในศตวรรษที่ 21

เกณฑก์ ำรวดั และประเมินผล

รำยกำรประเมนิ 3 ระดับคะแนน 1
1. อาหาร และสารอาหาร ระบสุ ารอาหารที่ได้จาก ไม่สามารถระบสุ ารอาหาร
อาหารแต่ละประเภท และ 2 ทีไ่ ด้จากอาหารแต่ละ
2. ทาความรูจ้ ักกับวัตถดุ ิบ คานวณพลงั งานทไี่ ด้จาก ระบสุ ารอาหารทไ่ี ด้จาก ประเภท และไม่สามารถ
อาหารอาหารแตล่ ะ อาหารแตล่ ะประเภท หรือ คานวณพลงั งานทีไ่ ด้จาก
ประเภทได้อยา่ งถกู ต้อง คานวณพลังงานทีไ่ ด้จาก อาหารอาหารแต่ละ
รวมถึงสามารถยกตวั อยา่ ง อาหารอาหารแต่ละ ประเภทได้อย่างถูกต้อง
อาหารท่เี หมาะแก่การ ประเภทได้อยา่ งถูกต้อง รวมถึงไมส่ ามารถ
บรโิ ภคในวยั และเพศของ หรือสามารถยกตัวอย่าง ยกตัวอย่างอาหารท่ีเหมาะ
ตนเองได้ อาหารทเี่ หมาะแกก่ าร แก่การบริโภคในวัย และ
บริโภคในวยั และเพศของ เพศของตนเองได้
สามารถบอกรสชาติ ตนเองได้ ไมส่ ามารถบอกรสชาติ
ลกั ษณะทางกายภาพ และ ลักษณะทางกายภาพ และ
ความแตกต่างของข้าวแต่ สามารถบอกรสชาติ ความแตกต่างของขา้ วแต่
ละชนิด และสารให้ความ ลักษณะทางกายภาพ และ ละชนิด และสารให้ความ
หวานแต่ละชนิดได้อยา่ ง ความแตกตา่ งของขา้ วแต่ หวานแต่ละชนิดได้
ถกู ต้อง ละชนิด และสารให้ความ
หวานแตล่ ะชนดิ ได้ถูกต้อง
บางสว่ น

คู่มือกจิ กรรมสเตม็ ศึกษา เรอื่ ง ไข่มกุ ธญั พืชเพ่ือสขุ ภาพ ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 12
สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

3. การให้เหตุผลและ แบบกลอ่ งใสข่ ี้ดนิ สอมี แบบกลอ่ งใส่ขด้ี ินสอ แบบรา่ งกล่องใส่ขีด้ นิ สอไม่
การออกแบบชิ้นงาน
ความชดั เจน สามารถ สามารถสอื่ สารใหผ้ ู้อ่นื สามารถสือ่ สารให้ผู้อ่ืน
4. ความสาเรจ็ ของชน้ิ งาน
สอ่ื สารใหผ้ ู้อน่ื เข้าใจได้ เขา้ ใจได้ แตแ่ สดงเหตผุ ล เขา้ ใจได้ และไมส่ ามารถ
5. การนาเสนอ
และแสดงเหตุผลในการ ในการออกแบบไมช่ ัดเจน แสดงเหตุผลในการ
6. ความสร้างสรรค์
ในการสร้างชิ้นงาน ออกแบบไดอ้ ยา่ งชัดเจน ออกแบบได้

7. ทกั ษะในศตวรรษที่ 21 สรา้ งช้ินงานที่ออกแบบไว้ สร้างชิ้นงานทอี่ อกแบบไว้ ไม่สามารถสร้างชน้ิ งาน

ได้เสรจ็ สมบรู ณแ์ ละ ไดเ้ สร็จสมบรู ณ์ หรือ ตามที่ออกแบบไว้ได้

ชน้ิ งานสามารถแก้ปัญหา ช้ินงานสามารถแกป้ ัญหา

ไดต้ ามเง่ือนไขท่ีกาหนด ได้ตามเง่อื นไขท่ีกาหนด

ลาดับข้นั ตอนการนาเสนอ ลาดับขั้นตอนการนาเสนอ ไม่สามารถนาเสนอได้ ไมม่ ี

เขา้ ใจงา่ ย และรูปแบบการ เข้าใจงา่ ย หรือรปู แบบการ ความแปลกใหม่ สวยงาม

นาเสนอมีความน่าสนใจ เสนอมีความน่าสนใจ และประณีต

มีความแปลกใหม่ สวยงาม มคี วามแปลกใหม่ หรือ ไม่มีความคดิ สรา้ งสรรค์

และประณีต สวยงาม หรอื ประณีต และนวตั กรรม

มีความคิดสรา้ งสรรค์และ มคี วามสามารถอย่างน้อย วพิ ากษ์และแก้ปัญหา ไม่

นวตั กรรม สามารถคิดเชงิ 3 ขอ้ จากการมีความคดิ สามารถใชเ้ ทคโนโลยี

วพิ ากษ์และแก้ปัญหา สรา้ งสรรค์และนวัตกรรม สารสนเทศ และสอ่ื สารได้

สามารถใชเ้ ทคโนโลยี สามารถคิดเชิงวิพากษ์และ ไมม่ ีความเป็นผูน้ าและ

สารสนเทศ และสือ่ สารได้ แก้ปญั หา สามารถใช้ ความรับผดิ ชอบ

มีความเปน็ ผนู้ าและความ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และ

รับผิดชอบ สอ่ื สารได้มีความเป็นผนู้ า

และความรับผดิ ชอบ

เกณฑก์ ำรตัดสินคณุ ภำพ ระดบั คณุ ภำพ
ดี
ช่วงคะแนน
15 - 21 พอใช้
8 - 14 ปรบั ปรุง
1–7

คูม่ อื กิจกรรมสเต็มศึกษา เร่ือง ไข่มกุ ธัญพืชเพ่อื สขุ ภาพ ระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 13
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

ใบประเมินชิน้ งำน (15 คะแนน)

คำชีแ้ จง : ใหค้ ุณครูสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียนในระหวา่ งเรียน แลว้ เตมิ เคร่ืองหมาย ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกับ
ระดับคะแนน

ชื่อสมำชกิ ในกลุ่ม 1………………………..………………………………. ช้นั ………………เลขท่ี……………..
2………………………..………………………………. ช้นั ………………เลขท…ี่ …………..
3………………………..………………………………. ช้ัน………………เลขท…่ี …………..
4………………………..………………………………. ชั้น………………เลขท…ี่ …………..
5………………………..………………………………. ชนั้ ………………เลขท…ี่ …………..
6………………………..………………………………. ชนั้ ………………เลขท…ี่ …………..

ขอ้ ท่ี เร่ืองกำรประเมิน ระดบั คะแนน
ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)
1 ใชง้ บประมาณในการทาน้อยทส่ี ดุ
2 ใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติ
3 ใช้แปง้ ที่ทาจากข้าวก่า ข้าวกล้อง ขา้ วมันปู

ข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอรร์ ี ข้าวฮางงอก
และข้าวสังข์หยด เป็นสว่ นผสมอยา่ งน้อย 1 ชนิด
4 มเี นื้อสมั ผสั ท่ีดี และรสชาตอิ รอ่ ย
5 ไดแ้ คลอรน่ี ้อยทส่ี ุด

คะแนนรวม
ระดบั คณุ ภำพ

ลงช่อื …………………………………………… ผู้ประเมิน
……………/ …………/ ………….

เกณฑก์ ำรให้คะแนน

ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ
11 - 15 ดี
6 - 10
1-5 พอใช้
ปรบั ปรุง

คู่มือกิจกรรมสเต็มศึกษา เรื่อง ไข่มุกธัญพชื เพื่อสขุ ภาพ ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 14
สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร

เกณฑก์ ำรประเมนิ ชิ้นงำน

เรือ่ งกำรประเมิน คำอธิบำยและคะแนน

1. ใช้งบประมาณในการ ดี (3 คะแนน) พอใช้ (2 คะแนน) ปรบั ปรงุ (1 คะแนน)
ทาน้อยท่ีสุด
2. ใช้สารให้ความหวาน ใช้งบประมาณตา่ กวา่ ใช้งบประมาณอยู่ในชว่ ง ใช้งบประมาณต้งั แต่
จากธรรมชาติ 7 บาท
8-10 บาท 11 บาท ขน้ึ ไป
ใช้สารให้ความหวานจาก
ธรรมชาตใิ นการทาไข่มุก ใช้สารให้ความหวานจาก ไม่ใช้สารให้ความหวานจาก
ท้ังหมด ธรรมชาตแิ ละความ ธรรมชาติ
หวานจากนา้ ตาลท่ัวไป

3. ใชแ้ ปง้ ทท่ี าจากขา้ วกา่ ใช้แปง้ ท่ีทาจากข้าวก่า ไม่มีการใช้แป้งทีท่ าจาก

ข้าวกล้อง ข้าวมนั ปู ข้าว ข้าวกล้อง ข้าวมนั ปู ขา้ วก่า ขา้ วกล้อง ข้าวมันปู

หอมมะลิ ข้าวไรซเ์ บอร์รี ข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอรร์ ี - ข้าวหอมมะลิ ขา้ วไรซเ์ บอรร์ ี
ขา้ วฮางงอก และข้าวสังขห์ ยด
ขา้ วฮางงอก และ ขา้ วฮางงอก และข้าวสงั ข์หยด

ขา้ วสงั ขห์ ยด อย่างน้อย อย่างน้อย 1 ชนดิ อยา่ งน้อย 1 ชนดิ

1 ชนดิ เปน็ สว่ นผสมในการทาไข่มุก เป็นส่วนผสมในการทาไขม่ ุก

4. มีเน้ือสมั ผัสท่ดี ี และ มีเน้ือสัมผัสเหนียวนุ่ม ไม่แขง็ มีเนือ้ สมั ผัสเหนียวนุ่ม ไม่ เนือ้ สัมผัสไม่เหนยี วน่มุ มี
รสชาติอรอ่ ย และมีรสชาติดีสามารถ แขง็ หรอื มีรสชาติดี ลักษณะแข็ง และมรี สชาติที่
รบั ประทานไดจ้ รงิ สามารถรบั ประทานได้ ผิดปกติ ไมส่ ารถรับประทาน
จริง ไดจ้ ริง

5. ไดแ้ คลอร่ีน้อยทสี่ ดุ ไขม่ ุกท่ีไดม้ ีพลงั งานต่ากวา่ 80 ไข่มุกท่ีไดม้ ีพลังงาน ไข่มุกท่ีไดม้ ีพลงั งานต้ังแต่
kcal 81-100 kcal 101 kcal ข้ึนไป

เกณฑก์ ำรประเมินชนิ้ งำน ระดับคณุ ภำพ
ดี
ชว่ งคะแนน
11 - 15 พอใช้
5 - 10 ปรับปรงุ
1–5

คู่มอื กจิ กรรมสเต็มศึกษา เรื่อง ไขม่ ุกธญั พืชเพ่ือสขุ ภาพ ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 15
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

ใบประเมนิ กำรนำเสนอ (5 คะแนน)

คำชีแ้ จง : ให้คุณครสู งั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี นในระหว่างเรียน แล้วเติมเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องทีต่ รงกบั
ระดับคะแนน

ช่อื สมำชกิ ในกลุ่ม 1………………………..………………………………. ชน้ั ………………เลขที่……………..
2………………………..………………………………. ชน้ั ………………เลขท…ี่ …………..
3………………………..………………………………. ชน้ั ………………เลขท…ี่ …………..
4………………………..………………………………. ชนั้ ………………เลขท…ี่ …………..
5………………………..………………………………. ชนั้ ………………เลขท…่ี …………..
6………………………..………………………………. ช้นั ………………เลขท…ี่ …………..

ขอ้ ท่ี เรือ่ งกำรประเมิน ระดบั คะแนน
ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)
1 บคุ ลิก การแต่งกาย
2 มารยาทในการพดู
3 การใชภ้ าษา
4 วิธีการนาเสนอ

5 เนอ้ื หาทีน่ าเสนอ
คะแนนรวม
ระดบั คุณภำพ

ลงช่อื ……………………………………………… ผ้ปู ระเมิน
…………/ …………/ ………….

เกณฑ์กำรให้คะแนน ระดับคณุ ภำพ
ดี
ช่วงคะแนน
11 - 15 พอใช้
5 - 10 ปรับปรงุ
1–5

คูม่ อื กจิ กรรมสเตม็ ศึกษา เร่อื ง ไข่มกุ ธญั พชื เพ่ือสุขภาพ ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 16
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

แบบประเมนิ กำรนำเสนอ

การนาเสนอ หมายถึง การถ่ายทอดเน้ือหา สาระท่ีผสมผสานกันระหว่างศิลปะการพูดกับการแสดง
ข้อมลู ในรูปแบบกจิ กรรมต่าง ๆ ผา่ นสอื่ และอปุ กรณ์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

แนวทำงกำรใหค้ ะแนน

เรอื่ งกำรประเมนิ คำอธิบำย
1. บคุ ลกิ การแตง่ กาย
ดี (3 คะแนน) พอใช้ (2 คะแนน) ปรบั ปรุง (1 คะแนน)
2. มารยาทในการพูด
มีความม่นั ใจในตนเอง มีความมน่ั ใจในตนเอง ไมม่ ีความมั่นใจในตนเอง
แตง่ กายถกู ระเบียบ แต่แตง่ กายไม่ถูกระเบยี บ แตแ่ ตง่ กายไม่ถกู ระเบยี บ
สะอาด เรียบร้อย

มองหน้าและสบตาผฝู้ ัง เขินอายไม่มองหน้าและ เขินอายไม่มองหนา้ และ

ไมเ่ หนบ็ แนม เสียดสผี ูอ้ ่นื สบตาผ้ฝู ัง สบตาผฝู้ ังอายพดู ไม่ได้

3. การใชภ้ าษา พูดชัดเจนตามหลกั ภาษา มีบางครัง้ พดู ไมช่ ดั เจน พูดไมช่ ดั เจนตามหลกั
4. วธิ ีการนาเสนอ
5. เนอ้ื หาท่ีนาเสนอ ตัว ว ร ล ตัวควบกลา้ ใช้ ตามหลกั ภาษา ตวั ว ร ล ภาษา ตวั ว ร ล ตวั ควบ

ถอยคาสุภาพ ตัวควบกลา้ ใช้ถอยคา กล้า ใชถ้ อยท่ีไม่คาสุภาพ

สภุ าพ

มีวิธกี ารนาเสนอที่ วธิ กี ารนาเสนอไม่คอ่ ย ไม่มวี ิธีการนาเสนอเลย

หลากหลาย เชน่ การใช้ นา่ สนใจหลากหลาย ท่องตามทเ่ี ขยี นมาเท่านน้ั

ท่าทางประกอบรูปภาพ

ตั้งคาถาม เล่นเกม

เน้อื หาท่นี าเสนอมี มีเน้ือหาสาระสาคัญ ไมม่ ีเนื้อหาสาระสาคญั

สาระสาคญั ตรงกบั หัวขอ้ บางส่วนไมต่ รงกับหัวข้อ ตรงกับหวั ข้อเร่ือง

ประเดน็ ที่กาหนด ประเดน็

เกณฑ์กำรให้คะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภำพ
11 - 15 ดี
6 - 10
1-5 พอใช้
ปรับปรุง

คู่มอื กิจกรรมสเต็มศึกษา เร่ือง ไขม่ ุกธญั พืชเพ่อื สุขภาพ ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 17
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร

ใบประเมนิ ทักษะในศตวรรษที่ 21 (15 คะแนน)

คำชี้แจง : ใหค้ ณุ ครูสงั เกตพฤติกรรมนักเรียนในระหวา่ งเรียน แล้วเติมเครือ่ งหมาย ✓ ลงในช่องทีต่ รงกบั
ระดับคะแนน

ชอ่ื สมำชิกในกลุ่ม 1………………………..………………………………. ชั้น………………เลขท…ี่ …………..
2………………………..………………………………. ชั้น………………เลขท…่ี …………..
3………………………..………………………………. ชน้ั ………………เลขท…ี่ …………..
4………………………..………………………………. ชน้ั ………………เลขท…ี่ …………..
5………………………..………………………………. ชน้ั ………………เลขท…ี่ …………..
6………………………..………………………………. ชนั้ ………………เลขท…่ี …………..

ขอ้ ท่ี เรอื่ งกำรประเมิน ระดบั คะแนน
ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
1 ความคดิ สรา้ งสรรค์และนวัตกรรม
2 ความสามารถในการคิดเชงิ วพิ ากษ์และแก้ปัญหา
3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
4 ความสามารถในส่ือสาร
5 ความเป็นผู้นาและความรับผิดชอบ

คะแนนรวม
ระดบั คณุ ภำพ

ลงชอ่ื ……………………..………………………… ผู้ประเมิน
…………/ …………/ ………….

เกณฑก์ ำรให้คะแนน

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภำพ
11 - 15 ดี
6 - 10
1-5 พอใช้
ปรับปรุง

คมู่ อื กจิ กรรมสเตม็ ศึกษา เรือ่ ง ไขม่ กุ ธญั พชื เพ่อื สขุ ภาพ ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 18
สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

แบบประเมินทักษะในศตวรรษที่ 21

เรอื่ งกำรประเมนิ ดี (3 คะแนน ) คำอธิบำย
พอใช้ (2 คะแนน) ปรับปรงุ (1 คะแนน )

สามารถนาความรู้มา สามารถนาความรู้มา ไม่สามารถนาความรู้มา
ประยกุ ตใ์ ช้อยา่ งสร้างสรรค์
1. ความคดิ เพื่อให้เกดิ นวัตกรรมตอ่ ประยกุ ตใ์ ช้อย่าง ประยุกตใ์ ช้อย่าง
สรา้ งสรรค์และ ตนเองและเพื่อการ
นวัตกรรม แกป้ ญั หาได้ สรา้ งสรรค์เพอ่ื ใหเ้ กิด สรา้ งสรรคเ์ พื่อใหเ้ กดิ

นวตั กรรม แตไ่ มส่ ามรถ นวัตกรรมตอ่ ตนเองและ

แก้ปญั หาได้ เพ่ือการแกป้ ญั หาได้

2. ความสารถในการ มีวิจารญาณเขา้ ใจสง่ิ ที่ควร มีวิจารญาณเขา้ ใจสิง่ ที่ ไมว่ ิจารญาณเขา้ ใจส่ิงที่
คดิ เชงิ วพิ ากษ์และ ปฏิบัตแิ ละไม่ควรปฏิบตั ิดว้ ย ควรปฏิบตั ิและไม่ควร ควรปฏบิ ตั แิ ละไม่ควร
แกป้ ัญหา ตนเอง และสามารถ ปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง แต่ ปฏิบัติด้วยตนเอง และไม่
แกป้ ัญหาได้ดี ไมส่ ามารถแก้ปัญหาได้ สามารถแก้ปัญหาได้

3. ความสามารถ มคี วามสามารถในการใช้ มคี วามสามารถในการ ไม่สามารถในการใช้
ในการใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศไดเ้ ปน็ ใชเ้ ทคโนโลยี เทคโนโลยสี ารสนเทศได้
เทคโนโลยี อย่างดี สารสนเทศไดบ้ า้ ง
สารสนเทศ

4. ความสามารถ มีความสามารถในการ มีความสามารถในการ ไม่มีความสามารถในการ
ในการสือ่ สาร สื่อสารไดด้ ี
ส่อื สารได้ สอ่ื สารได้

5. ความเป็นผู้นาและ มคี วามเป็นผูน้ าและมีความ มคี วามเปน็ ผูน้ าและไม่ ไม่มีความเปน็ ผ้นู าและมี

ความรับผดิ ชอบ รับผดิ ชอบ มคี วามรับผิดชอบ ความรับผดิ ชอบ

เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภำพ
11 - 15 ดี
6 - 10
1-5 พอใช้
ปรับปรงุ

คู่มอื กจิ กรรมสเต็มศึกษา เรื่อง ไขม่ กุ ธญั พชื เพอื่ สุขภาพ ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 19
สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

ใบควำมรู้ท่ี 1
อำหำร และสำรอำร

ท่มี ำ : https://sites.google.com/site/withyasastrbeuxngtnp661/hnwy-kar-reiyn-thi-1-xahar-laea

อำหำร หมายถึง สิ่งท่ีรับประทานเข้าไปแล้วก่อให้เกิดประโยชน์ ทาให้ร่างกายเจริญเติบโต ช่วย
ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย อาหารส่วนใหญ่ได้มาจากพืชและสัตว์ ส่วนสำรอำหำร คือ สารที่เป็น
องค์ประกอบในอาหารที่สิ่งมีชีวิตนาไปใช้ในกระบวนการดารงชีวิต สารอาหารที่เป็นองค์ประกอบของอาหาร
ไดแ้ ก่ โปรตนี คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลอื แร่ และวิตามนิ

คณุ ค่ำของสำรอำหำร

สารอาหารต่างๆ ล้วนให้ประโยชนต์ อ่ รา่ งกายดังนี้
1. ให้พลงั งานแกร่ ่างกาย ทาใหท้ างานได้และให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
2. ป้องกันและต้านทานโรค
3. สรา้ งและซอ่ มแซมเนื้อเย่ือส่วนท่ีสึกหรอ และทาให้ร่างกายเจรญิ เตบิ โต
4. ชว่ ยให้ระบบตา่ งๆ ในร่างกายทางานได้ปกติ

ค่มู อื กิจกรรมสเตม็ ศึกษา เรือ่ ง ไขม่ กุ ธัญพืชเพอ่ื สุขภาพ ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 20
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

อำหำรหลัก 5 หมู่

ท่ีมำ : https://sites.google.com/site/withyasastrbeuxngtnp661/hnwy-kar-reiyn-thi-1-xahar-laea

อาหารทีร่ า่ งกายบรโิ ภคเพื่อการดารงชีวติ และมีประโยชนต์ ่อร่างกาย แบ่งออกเป็น อาหารหลกั 5 หมู่
ดงั นี้

ท่ีมำ : https://sites.google.com/site/withyasastrbeuxngtnp661/hnwy-kar-reiyn-thi-1-xahar-laea

อำหำรหมู่ท่ี 1 กลุ่มโปรตีน ได้แก่ อาหารจาพวก เนื้อ นม ไข่ ถั่วเมล็ดต่างๆ อาหารในหมนู่ ้ีจะมีสารโปรตีนสูง
เมื่อร่างกายย่อยแล้วจะให้สารอาหารประเภทโปรตีน ซ่ึงให้ประโยชน์ต่อร่างกายในด้านการเจริญเติบโตของ
ร่างกาย ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยสร้างเซลล์และเนื้อเย่ือต่างๆ ของร่างกาย ให้พลังงาน และช่วย
ควบคุมการทางานของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย ในแต่ ละวันมนุษย์เราต้องการสารโปรตีนใน
ปรมิ าณ 10 กรมั ต่อนา้ หนกั ตัว 1 กโิ ลกรมั

คมู่ อื กจิ กรรมสเต็มศึกษา เรือ่ ง ไขม่ ุกธญั พืชเพ่อื สขุ ภาพ ระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 21
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร

ท่ีมำ : https://sites.google.com/site/withyasastrbeuxngtnp661/hnwy-kar-reiyn-thi-1-xahar-laea

อำหำรหมู่ที่ 2 กลุ่มคำร์โบไฮเดรต ได้แก่ อาหารจาพวกแป้ง เผือก มัน น้าตาล อาหารหมู่น้ีเม่ือร่างกายย่อย
แลว้ จะให้สารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต และเปลี่ยนสารคารโ์ บไฮเดรตให้เปน็ พลงั งานทีใ่ ชท้ ากิจกรรมตา่ งๆ
และใหค้ วามอบอุ่นแกร่ ่างกาย

ท่มี ำ : https://sites.google.com/site/withyasastrbeuxngtnp661/hnwy-kar-reiyn-thi-1-xahar-laea

อำหำรหมู่ท่ี 3 กลุ่มเกลือแร่หรือแร่ธำตุต่ำง ๆ ได้แก่ อาหารจาพวกผักใบเขียว และพืชผักอ่ืน ๆ แร่ธาตุเป็น
สารอาหารที่ร่างกายต้องการและขาดไม่ได้ เพราะแร่ธาตุบางชนิดเป็นส่วนประกอบของอวัยวะและกล้ามเน้ือ
บางอย่าง เช่น กระดูก ฟัน เลือด บางชนิดเป็นส่วนของสารต่างๆ ท่ีเก่ียวกับการเจริญเติบโตในร่างกาย เช่น
ฮอร์โมน เฮโมโกลบิน เอนไซม์ ฯลฯ นอกจากน้ี แร่ธาตุยงั ช่วยในการควบคุมการทางานของอวัยวะตา่ ง ๆ ของ
ร่างกายให้ทาหน้าท่ีปกติ เช่น ควบคุมการทางานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท การแข็งตัวของเลือด ช่วย
ควบคุมสมดุลของน้าในการไหลเวียนของของเหลวในร่างกาย ท่ีสาคัญช่วยให้ระบบการย่อยและการขับถ่าย
เป็นปกติ อาหารในหมู่นี้มีในพืช ผัก ชนิดต่าง ๆ ทั้งผักใบเขียว และสีต่าง ๆ เช่น สีแดง สีเหลือง สีม่วง สีขาว
ฯลฯ ซึ่งมีทั้งพืชผกั ท่ีเรารับประทาน ใบ ดอก ผล ลาต้น หัว หรือ รับประทานได้ทกุ ส่วน ซึ่งจะให้คุณค่าอาหาร
ทแี่ ตกตา่ งกนั เช่น ผักตาลงึ ดอกแค ฟักทอง แครอท ฯลฯ

คมู่ ือกจิ กรรมสเต็มศึกษา เรอื่ ง ไขม่ ุกธัญพืชเพอ่ื สขุ ภาพ ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 22
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

ทมี่ ำ : https://sites.google.com/site/withyasastrbeuxngtnp661/hnwy-kar-reiyn-thi-1-xahar-laea

อำหำรหมู่ท่ี 4 กลมุ่ วติ ำมิน ได้แก่ อาหารจาพวกผลไมต้ ่าง ๆ อาหารหมนู่ ีเ้ มื่อร่างกายยอ่ ยแล้วจะให้สารอาหาร
ประเภทเกลือแร่และวิตามิน คล้ายกับอาหารหลักหมู่ท่ี 3 ซึ่งให้ประโยชน์ต่อร่างกายในด้านบารุงสุขภาพของ
ผิวหนังให้สดชื่น บารุงสุขภาพปาก เหงือก และฟัน ช่วยให้ระบบการย่อยและการขับถ่ายเป็นปกติ อาหารใน
หมู่นี้นอกจากจะให้วิตามิน เกลือแร่ แล้วยังให้กากใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่ายที่เป็นปกติ ทาให้ระบบต่าง ๆ
ในรา่ งกายทางานไดต้ ามปกติ

วิตำมนิ
ทีม่ ำ : https://sites.google.com/site/withyasastrbeuxngtnp661/hnwy-kar-reiyn-thi-1-xahar-laea

คูม่ ือกจิ กรรมสเตม็ ศึกษา เร่อื ง ไขม่ ุกธัญพืชเพ่ือสขุ ภาพ ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 23
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร

วิตามนิ เป็นอาหารท่ที าหนา้ ท่ชี ่วยเสริมสรา้ งความเจรญิ เตบิ โต สร้างภมู ิต้านทานโรค ทาให้ระบบต่างๆ
ของรา่ งกายทางานปกติ

ประเภทของวติ ำมนิ

1. วิตำมนิ ที่ละลำยในน้ำ ได้แก่ วติ ามนิ บี และวติ ามินซี
2. วติ ำมนิ ท่ีละลำยในน้ำมัน ไดแ้ ก่ วติ ามินเอ วิตามินดี วติ ามินอี และวติ ามนิ เค

นอกจากน้ี ร่างกายยังต้องการวิตามินและเกลือแร่เพื่อใช้ในการเจริญเติบโตอีกด้วย อาหารท่ีให้วิตามิน
มีดงั น้ี

วิตำมินเอ แหล่งอาหาร ข้าวโพด ไข่แดง ตับ นม เนย ผลไม้ โรคที่เกิดจากการขาดวิตามินเอ เช่น
โรคตาฟางในเวลากลางคืนร่างกายไม่เจริญเตบิ โตเต็มวัย

วิตำมินบี แหลง่ อาหาร ขา้ วซอ้ มมอื ตบั ยสี ต์ โรคท่ีเกิดจากการขาดวติ ามนิ บี เชน่ โรคเหน็บชาประสาท
ทางานไมป่ กติ

วิตำมินซี แหล่งอาหาร ส้ม มะเขือเทศ กล้วย ฝรั่ง โรคที่เกิดจากการขาดวิตามินซี เช่น เลือดออกตาม
ไรฟัน เหงือกบวม

วติ ำมินดี แหล่งอาหาร ส้ม ไขแ่ ดง นา้ มันตับปลา โรคท่เี กดิ จากการขาดวติ ามนิ ดี เช่น ฟนั ผุ กระดกู อ่อน

ทม่ี ำ : https://sites.google.com/site/withyasastrbeuxngtnp661/hnwy-kar-reiyn-thi-1-xahar-laea

อำหำรหมู่ท่ี 5 กลุ่มไขมัน ได้แก่ อาหารจาพวกไขมันจากพืชและสัตว์ เช่น นม เนย ชีส น้ามันพืช น้ามันหมู
เมื่อร่างกายได้รับไขมันท่ีกินเข้าไปแล้วจะเปลี่ยนให้เป็นพลังงาน ไขมันทาหน้าท่ีให้ความอบอุ่นและเป็นแหล่ง
พลังงานของร่างกาย ถ้าเรารับประทานแต่พอดี จะทาให้ระบบการทางานภายในเป็นปกติ ไขมันยงั ช่วยปกป้อง
เซลล์และห่อหุ้มอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะจะหอ่ หมุ้ เส้นประสาทช่วยในการป้องกนั เส้นประสาทให้ทางานไดอ้ ยา่ ง
มีประสิทธภิ าพ

คูม่ อื กิจกรรมสเตม็ ศึกษา เร่ือง ไข่มกุ ธัญพชื เพือ่ สขุ ภาพ ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 24
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

นอกจากน้ี แล้วไขมันยังทาหนา้ ทเ่ี ปน็ ตวั ทาละลายวติ ามินเอ วติ ามนิ ดี วติ ามนิ อี และวติ ามนิ เค ท่ีร่างกาย
รับจากอาหาร ไขมันเป็นอาหารท่ีย่อยยาก ร่างกายจะต้องใช้เวลาในการย่อยสลายนานกว่าอาหารกลุ่มอ่ืนๆ
ร่างกายของมนษุ ย์เราตอ้ งการไขมันวันละไม่มากในปรมิ าณทแี่ ตกตา่ งกันไปตามวัย

แคลอร่ี (Calorie)

พลังงานท่ีไดจ้ ากอาหารเราจะ เรียกวา่ Calorie แทนการใช้คาว่าพลังงานโดยจะเขียนแคลอร่ี
ท่หี มายถงึ พลงั งานท่ีไดจ้ ากอาหารนี้ดว้ ย C ตัวใหญ่ โดย 1 Calorie จะมีคา่ เท่ากบั 1,000 standard calories
(1 kcal สรปุ ก็คือ 1,000 cal = 1 Cal = 1 kcal) ร่างกายของเราต้องการใชพ้ ลังงานเหล่านเ้ี พือ่ รักษาอุณหภมู ิ
ในรา่ งกายให้คงท่ี และนาพลังงานเหล่านี้ไปใชใ้ นการทากิจกรรมของอวยั วะต่าง ๆ ในร่างกาย

สำรอำหำรที่ใหพ้ ลังงำน

สารอาหารทใี่ ห้พลงั งาน คือ อาหารจาพวกโปรตนี คาร์โบไฮเดรต และไขมนั

 โปรตนี จะให้พลงั งาน 4 แคลอรต่ี ่อกรมั
 แปง้ หรอื คาร์โบไฮเดรต จะให้พลังงาน 4 แคลอร่ตี ่อกรมั
 ไขมนั จะใหพ้ ลังงานสงู สดุ คือ 9 แคลอรี่ต่อกรัม

จำนวนแคลอร่ีทคี่ วรได้รับ

โดยทวั่ ไปแล้วร่างกายควรได้รับพลังงานในแตล่ ะวนั อย่างเพียงพอและเหมาะสม โดยผู้ชำยควรได้รับ
พลังงานจากการบรโิ ภคอาหารหรอื เคร่อื งดม่ื ในปริมาณ 2,500 กโิ ลแคลอร่ี (10,500 กโิ ลจูล) สว่ นผ้หู ญงิ ควร
ไดร้ บั พลังงานในแต่ละวนั ไม่เกิน 2,000 กโิ ลแคลอรี่ (8,400 กิโลจูล) ท้งั นเ้ี ดก็ แตล่ ะวัยมีความต้องการแคลอร่ี
แตกตา่ งกัน โดยเด็กโตต้องการพลงั งานในการทากจิ กรรมต่าง ๆ มากกวา่ เดก็ เล็ก สว่ นวยั รนุ่ ต้องการพลังงาน
ในจานวนท่ีใกลเ้ คยี งกับผใู้ หญ่

อยา่ งไรก็ตามปรมิ าณพลังงานที่ได้รบั ในแต่ละวันน้นั อาจแตกตา่ งกันไปตามปัจจยั อนื่ เช่น เพศ อายุ
น้าหนกั และส่วนสงู ของรา่ งกาย หรือกิจกรรมท่ที าในแตล่ ะวัน ข้อมูลทางโภชนาการท่ีระบุบนฉลากผลติ ภณั ฑ์
ตา่ ง ๆ ถือเปน็ เคร่อื งมือช่วยให้ผู้บรโิ ภคสามารถตรวจจานวนแคลอรีข่ องอาหารหรือเครอ่ื งดมื่ ทรี่ บั ประทานเขา้
ไปได้ โดยข้อมูลดังกล่าวจะระบุข้อมลู ของไขมนั ไขมันอิ่มตวั คาร์โบไฮเดรต น้าตาล โปรตีน และเกลอื ใน
ปรมิ าณ 100 กรัม หรือหนงึ่ หน่วยบรโิ ภคของอาหารหรือเคร่อื งดมื่ นัน้ ๆ

คมู่ อื กจิ กรรมสเตม็ ศึกษา เรือ่ ง ไข่มุกธัญพืชเพอื่ สุขภาพ ระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 25
สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร

กำรคำนวณหำแคลอร่ตี ่อหนว่ ย

ตวั อย่ำงกำรคำนวณ เมือ่ ต้องกำรใช้เนื้อวัว 30 กรัม

วธิ ที ำ กำหนดให้

เนือ้ ววั 100 กรมั ให้พลังงาน 250.5 กิโลแคลอร่ี

จะได้ ให้พลงั งาน 250.5 = 2.505 กโิ ลแคลอร่ี
เนือ้ ววั 1 กรมั
100
ดังนัน้

เนอ้ื ววั 30 กรมั ใหพ้ ลงั งาน 2.505 × 30 = 75.15 กิโลแคลอรี่

ตอบ พลงั งานทีไ่ ด้จากเนอ้ื ววั 30 กรมั เทา่ กับ 75.15 กิโลแคลอรี

กำรคำนวณหำแคลอร่ีทั้งหมดในอำหำร

ตัวอยำ่ งกำรคำนวณ แคลอรีใ่ นไข่เจียวเน้ือสบั ซ่ึงมีสว่ นประกอบคือ ไข่เจียว 2 ฟอง นา้ มันมะกอก 50 กรมั
และเนอื้ วัว 70 กรัม

วธิ ที ำ กำหนดให้

ไข่ไก่ 2 ฟอง ให้พลังงาน 160 กโิ ลแคลอร่ี

น้ามันมะกอก 50 กรมั ใหพ้ ลังงาน 72.5 กิโลแคลอรี่

เนอ้ื ววั 100 กรัม ให้พลังงาน 175.35 กโิ ลแคลอร่ี

ดังน้ันแคลอร่ีในไขเ่ จียวเน้ือสับ เท่ำกบั

160 + 72.5 + 175.35 = 407.85 กิโลแคลอร่ี

ตอบ แคลอร่ีในไข่เจียวเน้ือสับจานน้ี เทา่ กบั 75.15 กิโลแคลอรี

คมู่ ือกิจกรรมสเตม็ ศึกษา เรือ่ ง ไข่มกุ ธญั พืชเพอื่ สุขภาพ ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 26
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

ใบควำมรทู้ ่ี 2
ทำควำมรจู้ ักกับวตั ถุดบิ

ขำ้ วชนดิ ตำ่ ง ๆ

1. ข้ำวกำ่

ทีม่ า : http://blog.arda.or.th/ขา้ วเหนียวดา

ขำ้ วเหนียวดำ หรือขำ้ วกำ่ คอื พันธุ์ขำ้ วสำรเหนยี วที่มีสดี ำหุ้มอยูบ่ นเมล็ดข้ำวสำร แมส้ ีสันอำจจะดู
ไม่งำม แตเ่ ยื่อดำ ๆ ท่หี ่อหุ้มเปลือกนอกของเมล็ดข้ำวกลับอุดมไปด้วยสำรอำหำรท่ีสำคัญต่อร่ำงกำยและมี
สรรพคุณทำงยำ การปลูกข้าวเหนียวดานั้นจะปลูกพร้อม ๆ กันกับข้าวขาวท้ังในการทาข้าวไร่และข้าวนาดา
ตามความเชือ่ ท่วี ่าขา้ วเหนียวดาคือราชาแห่งขา้ ว ทีช่ ว่ ยคมุ้ ครองผนื นาไม่ใหศ้ ตั รขู ้าวมากอ่ กวนได้

เมล็ดข้าวก่า มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ เพ่ิมระดับไขมันดีในกระแสเลือด บารุงการทางาน
ของตอ่ มใต้สมอง ช่วยให้เกดิ การกระจายตัวของเกลด็ เลือด และลดการเกดิ กรดในกระเพาะอาหาร กระตนุ้ การ
สร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยให้ลาไส้ดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น ช่วยเสริมสร้างการทางานของระบบหัวใจ ประสารท
และกล้ามเนื้อ บารุงสายตา บาบัดโรคเรื้อรังที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย ช่วยใหน้ อนหลับสนทิ แก้ปัญหา
วยั ทอง

พลังงำน : 106.2 kcal/30 กรมั

2. ข้ำวกล้อง

ข้ำวกล้อง เป็นข้าวที่ไมผ่ ่านการขัดสี จงึ ยังคงมสี ารอาหารต่าง ๆ มากกว่าข้าวขัดขาว หลายคนจึงเชื่อ
ว่าการรับประทานข้าวกล้องเป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน เช่น ส่งผลดีผู้ที่ต้องการลดความอ้วน

คมู่ อื กิจกรรมสเต็มศึกษา เร่ือง ไข่มุกธัญพืชเพอื่ สุขภาพ ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 27
สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ป้องกันโรคเบาหวานประเภทท่ี 2 รวมถึงลดความเสี่ยงของ
โรคมะเร็งบางชนิด

ทมี่ า : https://www.pobpad.com/ข้าวกลอ้ ง-มีประโยชน์-ตา้

ข้าวกล้องอุดมไปด้วยสารอาหารมีประโยชน์ เช่น คาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สาคัญต่อ
ร่างกาย วิตามินบี ซึ่งช่วยนาพลังงานจากอาหารมาใช้ในร่างกายและช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง รวมถึงไฟ
เบอร์ ซึง่ ช่วยทาใหอ้ ่มิ ท้อง กระตุ้นการทางานของลาไส้ สง่ ผลดีตอ่ ระบบขบั ถ่าย และชว่ ยแกป้ ญั หาทอ้ งผูก

นอกจากน้ี ข้าวกล้องยังประกอบไปด้วยสารอาหารและแร่ธาตุที่สาคัญต่อร่างกายชนิดอ่ืน ๆ เช่น
แมงกานสี ซลิ ิเนียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส กรดโฟเลต ไทอามีน ไนอาซนิ วติ ามินบี 6 เหลก็ และสังกะสี โดย
ภาพรวมแล้ว ข้าวกล้องมีสารโภชนาการหลายชนิดในปริมาณที่มากกว่าข้าวขัดขาว ดังนั้น ข้าวกล้องจึง
กลายเป็นอาหารยอดนิยมในหมู่คนรักสุขภาพ และอาจเป็นทางเลือกที่ดีสาหรับผู้ท่ีต้องการลดน้าหนักได้อีก
ดว้ ย
พลังงำน : 104.1 kcal/30 กรมั

3. ขำ้ วมนั ปู

ขา้ วมันปู เป็นข้าวที่มีเยื่อหุ้มเปลือกข้าวเป็นสีแดง คล้ายกับสีมันปู จัดเป็น #ข้าวกล้อง หรือ ข้าวซ้อม
มือชนิดหน่ึงค่ะ ชาวจีนเรียกว่า “ข้าวแดง” มีชื่อในภาษาพ้ืนเมืองว่า “อั้งค่ัก” ข้าวมันปู มีสารอาหารแร่ธาตุ
และวิตามินต่างๆ ท่ีเป็นประโยชน์ต่อร่างกายในปริมาณสูง กว่าข้าวขาวท่ัวไปโดยเฉพาะ #สารแคโรทีน ท่ีจะ
เปล่ียนเป็น #วิตามินเอ ในร่างกาย เม่ือหุงสุกแล้วเนื้อข้าวจะเป็นสีชมพูอ่อน มีกลิ่นหอม เมล็ดนุ่มสวย ไม่แฉะ
ดนู ่ารบั ประทานใชป้ ระกอบอาหารตา่ ง ๆ ได้อร่อยไม่ว่าจะเป็นขา้ วตม้ ข้าวผดั ขา้ วอบตา่ ง ๆ หรือเคีย่ วเป็นโจ๊ก

ค่มู อื กิจกรรมสเต็มศึกษา เรื่อง ไข่มกุ ธญั พชื เพอ่ื สขุ ภาพ ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 28
สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร

ท่ีมา : https://uwae.online/content/benefit-red-cargo-rice

ประโยชนข์ องข้ำวมันปู | Benefits
มีการเทียบสารอาหารพบว่า ข้าวมันปู | Red Cargo Rice ให้คุณประโยชน์สูงกว่าข้าวขัดสีขาว

สารอาหารที่มีอยู่ในข้าวมันปู Red Cargo Rice หรือข้าวแดง เช่น แป้ง ไขมัน โปรตีน ฟอสฟอรัส และธาตุ
เหล็กในปริมาณที่สูงอย่างมาก ทองแดง วิตามินเอ วิตามินบี บี 2 วิตามินซี ซึ่งสรรพคุณ ป้องกันโรคหัวใจ
ป้องกันโรคแขนขาไม่มีกาลังวังชา รักษาอาการมือเท้าบวมมีผ่ืนข้ึน ป้องกันโรคนอนไม่หลับ รักษาระบบย่อย
อาหารที่ไม่ปกติ มีลมในท้อง และลาไส้ เหมาะสาหรับผู้ท่ีกาลังเจริญเติบโต ผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้ที่รักสุขภาพ
นอกจากนน้ั “ขา้ วมนั ปู” ยงั เปน็ อาหารเพิ่มเลือดทีด่ ีมากสาหรบั ผหู้ ญิงทเี่ ป็นโรคโลหติ อีกด้วย

ดังน้ันการรับประทานข้าวมันปูจะส่งผลให้มีสุขภาพท่ีดี แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่ายและปราศจากโรค
แทรกซ้อนอน่ื ๆ ได้
พลังงำน : 104.1 kcal/30 กรัม

4. ขำ้ วหอมมะลิ

มีถิ่นกาเนิดในไทย นิยมปลูก และทานกันอย่างแพร่หลาย มีกล่ินหอมคล้ายใบเตย ข้าวหอมมะลิอุดม
ไปด้วยสารอาหารหลายชนิด มีคาร์โบไฮเดรตสูงถึง 71-77% ช่วยสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย มีวิตามินบี 1
ช่วยปอ้ งกันโรคเหนบ็ ชา และวติ ามนี บี 2 ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอกดว้ ย

คมู่ ือกจิ กรรมสเต็มศึกษา เร่ือง ไข่มุกธญั พชื เพื่อสขุ ภาพ ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 29
สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร

ทม่ี า : https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/899298/

พลงั งำน : 106.8 kcal/30 กรัม

5. ขำ้ วไรซ์เบอรร์ ่ี

ข้าวไรซ์เบอร่ี (Riceberry) เป็นข้าวท่ีเกิดขึ้นใหม่ จากการผสมข้ามพันธ์ุระหว่างข้าวเจ้าหอมนิล และ
ข้าวขาวดอกมะลิ 105 มีลักษณะเป็นข้าวเจ้าสีม่วงเข้ม ซึ่งสีม่วงเข้มท่ีพบในข้าวไรซ์เบอร่ี (Riceberry) เกิดข้ึน
ตามธรรมชาติมีส่วนประกอบเป็นสารแอนโทไซยานิน ซึ่งกค็ ือรงค์วัตถุหรอื สารสี ท่ีสามารถละลายน้าได้ดี และ
จัดอยู่ในกลุ่มของฟลาโวนอยด์หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ข้าวไรซ์เบอ รี่
(Riceberry) ยังมีเมล็ดเรียวยาว ผิวมันวาว มีกล่ินหอมเป็นเอกลักษณ์ แถมยังมีรสชาติหวาน กลมกล่อมชวน
รับประทาน สามารถปลูกได้ตลอดท้ังปี โดยมีอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 130 วัน นอกจากน้ีราข้าวและน้ามันรา
ข้าวจากข้าวไรซ์เบอร่ี (Riceberry) ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ดี ซ่ึงทางการแพทย์นิยมนาไปใช้ทา
ผลิตภัณฑอ์ าหารโภชนาบาบัดดว้ ย

ท่ีมา : https://www.hongthongrice.com/life/ขา้ วเพ่ือสขุ ภาพ/riceberry-01/

พลังงำน : 111 kcal/30 กรมั

คมู่ ือกจิ กรรมสเตม็ ศึกษา เรือ่ ง ไข่มุกธญั พืชเพอื่ สขุ ภาพ ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 30
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

6. ข้ำวฮำงงอก

ข้าวฮางงอก เป็นผลิตภัณฑ์ข้าวท่ีมีช่ือเสียงของชนเผ่าภูไท สกลนคร มีช่ือเรียกต่างๆ เช่น “ข้าวหอม
ทอง” หรือ “ข้าวหอมทองสกลทวาปี” มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าธัญพืชทั้งหลาย เนื่องจากอุดมด้วย
วิตามินบี 1 บี 2 ไนอะซนิ ธาตเุ หลก็ แคลเซียม GABA (Gamma Amino Butyric Acid) ช่วยลดความดันโลหติ
และปริมาณคอเลสเตอรอล มีส่วนช่วยควบคุมน้าหนัก และลดความเส่ียงการเป็นโรคอัลไซเมอร์ อีกทั้งมีธาตุ
แมงกานีสในปริมาณสูงที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง ข้าวฮางงอกยังมีค่าการเปล่ียนเป็น
น้าตาลในกระแสเลือดต่า และเป็นสารส่ือประสาทที่สาคัญใช้ในการควบคุมระบบประสาท รวมท้ังกล้ามเน้ือ
ข้าวฮางจึงเป็นอีกทางเลือกหน่ึงของผู้บริโภคที่รักสุขภาพโดยเฉพาะผู้ท่ีป่วยเป็นโรคเบาหวาน ไขมันสูง
โรคหวั ใจ โรคอ้วน ไขข้ออักเสบ โรคไต

ท่มี า : https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/658732/

ข้าวฮางงอก ทาได้จากข้าวทุกพันธุ์ แต่คนอีสานนิยมนาข้าวหอมมะลิ 105 และข้าวเหนียว กข 6 มา
ทาข้าวฮาง เนือ่ งจากปลูกเป็นประจา และข้าวหอมมะลิจะมีกล่ินหอม เหนียวนุ่ม นา่ รับประทาน เป็นที่ต้องการ
ของตลาด

พลงั งำน : 106.26 kcal/30 กรัม

คู่มือกิจกรรมสเตม็ ศึกษา เร่อื ง ไข่มกุ ธญั พืชเพ่ือสขุ ภาพ ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 31
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร

7. ขำ้ วสังข์หยด

ขา้ วสังข์หยดเปน็ ขา้ วพนั ธุไ์ ทยแท้ท่ีมีมานับร้อยปี ปลูกได้ผลดีในจังหวัดพัทลุง โดยเม่ือปี 2543 สมเด็จ
พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีรับสั่งให้ศูนย์วิจัยข้าวพัทลุงปลูกข้าวสังข์หยด และเมื่อวันท่ี
24 กันยายน 2546 ทางศูนย์วิจัยข้าวพัทลุงได้นาข้าวสังข์หยดมาถวายแด่พระองค์ และหลังจากนั้นพระองค์ก็
ทรงให้นาปลูกเพ่ือขยายพันธุ์เพ่ิม โดยได้มีการนาผลิตภัณฑ์ข้าวสังข์หยดไปออกจาหน่ายตามงานแสดงสินค้า
ตา่ งๆ ศูนย์ศลิ ปาชพี ฯลฯ ทาให้เป็นที่ร้จู กั กนั มากขึ้น

https://ricedee.com/ประวัตคิ วามเปน็ มาข้าวส/
ประโยชน์และสรรพคุณของข้าวสังข์หยด ข้าวสังข์หยดมีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย มีกากใย
โปรตีน ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็กสูง มีแกมมาออไรซานอล กาบา แอนตี้ออกซิแดนท์ป้องกันมะเร็ง ช่วยชะลอ
ความแก่ ปอ้ งกนั ความจาเสื่อม บารงุ โลหติ โรคหัวใจ และเพราะมกี ากใยสงู จึงดตี อ่ ระบบขบั ถ่ายและลาไส้
พลังงำน : 106.265 kcal/30 กรมั

ค่มู ือกจิ กรรมสเต็มศึกษา เรื่อง ไขม่ ุกธัญพืชเพอ่ื สุขภาพ ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 32
สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

สำรให้ควำมหวำนจำกธรรมชำตติ ่ำง ๆ

1. หญำ้ หวำน

https://inwiangvalley.com/หญา้ หวานคืออะไร/

หญ้าหวาน (Stevia) เป็นพืชชนิดหนึง่ ซ่ึงไดร้ ับความนยิ มในหม่คู นไทยท่รี กั สขุ ภาพ มักนามาใช้เป็นสาร
ให้ความหวานแทนน้าตาล เนื่องจากมีรสชาติหวานกว่าน้าตาล 100-300 เท่า แต่ปราศจากสารปรุงแต่งและ
แคลอรี่ โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาจัดให้สารสกัดหญ้าหวานเป็นสารเคมีท่ีปลอดภัยต่อการ
บรโิ ภค
ประโยชน์ของหญ้ำหวำน

สรรพคุณของหญ้าหวาน เหมาะสาหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้าหนัก ช่วยบารุงตับอ่อน ช่วยเพ่ิม
กาลัง สมานแผลทั้งภายในและภายนอก และช่วยให้เลือดไปเล้ียงสมอง

พลงั งำน : 0 kcal/40 กรัม

คมู่ ือกจิ กรรมสเต็มศึกษา เร่อื ง ไขม่ กุ ธญั พืชเพื่อสุขภาพ ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 33
สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร

2. น้ำผึง้

https://www.pobpad.com/นา้ ผึ้งกบั ประโยชนท์ างก

น้าผึง้ เป็นผลผลิตจากนา้ หวานเกสรดอกไม้ ทีผ่ ้ึงนามาเก็บสะสม และผา่ นกระบวนการทางธรรมชาติ
ภายในรังผงึ้ จนกลายเปน็ น้าผ้งึ รสหวานจากธรรมชาติ ซง่ึ นอกจากจะนามาปรุง เปน็ ส่วนผสมของทั้งเมนูคาว
เมนหู วาน และเคร่ืองดื่ม ให้มีรสชาตหิ อมอร่อยแลว้ ยงั มีประโยชนแ์ ละสรรพคุณในด้านอ่ืนๆ อกี มากมาย ดังน้ี

แก้เจ็บคอและแก้อำกำรไอ โดยจะเห็นผลดีทสี่ ุดในเด็กอายุ 2 ปีข้ึนไป ซ่ึงมีงานวิจยั ได้กลา่ วว่าน้าผึ้งมี
สรรพคุณเทียบเท่ากับยาแก้ไอเดกซ์โทรเมทอร์แฟน (Dextromethorphan) และรสหวานของน้าผ้ึงยังช่วย
กระตุน้ ให้เกดิ การหลงั่ น้าลาย ทาใหร้ สู้ กึ ชมุ่ คอ บรรเทาอาการไอและเจ็บคอได้เป็นอย่างดี

ชว่ ยดีท็อกซร์ ำ่ งกำย นา้ ผ้ึงมคี ุณสมบัติชว่ ยลดอาการท้องผูกอกี ด้วย เพราะมีแบคทเี รียชนิดดี ที่ชื่อว่า
“โพรไบโอตกิ ส์” และ “แลคโตบาซิลัส” ที่มสี ว่ นชว่ ยใหล้ าไสแ้ ขง็ แรง สามารถขบั ถ่ายไดเ้ ปน็ ปกติ

ช่วยรักษำโรคกระเพำะ น้าผึ้งมีฤทธิ์ช่วยสมานแผลท้ังภายในและภายนอกร่างกาย จึงสามารถรักษา
แผลในกระเพาะอาหารของผู้ป่วยโรคกระเพาะได้เป็นอย่างดี และยังมีฤทธ์ิช่วยลดอาการติดเชื้อโรคหรือ
แบคทีเรยี ในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย

แก้อำกำรนอนไม่หลับ น้าผึ้งจะให้ความหวานต่อร่างกาย ซ่ึงจะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตอินซูลิน
(Insulin) และหลั่งเซโรโทนิน (Serotonin) หรือที่เรียกว่าสารแห่งความสุขออกมา จากนั้นเซโรโทนินจะ
เปล่ียนตัวเองเป็นเมลาโทนนิ (melatonin) สารทจ่ี ะทาใหเ้ กิดความง่วง ทาให้นอนหลบั ได้งา่ ยยงิ่ ข้นึ

บรรเทำอำกำรแพ้อำกำศ น้าผ้ึงเหมาะกับผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ เน่ืองจากมีฤทธ์ิคล้ายกับสารต้านการ
อักเสบ ย่ิงถ้าเป็นน้าผึ้งท่ีมาจากดอกไม้ มักจะมีอนุมูลจากละอองเกสรขนาดเล็กอยู่เยอะ ซ่ึงอนุมูลเหล่าน้ีจะ
ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทางานได้ดียิ่งขึ้น และยังส่งผลให้ร่างกายหล่ังสารฮีสตามีน
(Histamine) สารท่ที าให้เกิดอาการปวด คดั แดง น้ามกู ไหล ลดลง

พลงั งำน : 176 kcal/40 กรัม

คู่มือกจิ กรรมสเตม็ ศึกษา เรือ่ ง ไขม่ กุ ธญั พชื เพ่อื สขุ ภาพ ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 34
สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

3. หล่อฮังกว๊ ย

https://www.pobpad.com/หล่อฮงั ก๊วย-สมุนไพรหลาก

หล่อฮงั กว๊ ยเมอื่ นามาสกัดจะให้สารให้ความหวานแทนน้าตาล โดยสารให้ความแทนน้าตาลท่ีสกดั ไดน้ ี้
ใหค้ วามหวานถงึ 250-300 เท่าของน้าตาลทราย จึงนยิ มนามาเป็นสารเพ่ิมความหวานในอาหารและเครอื่ งดมื่
ท่ีมีรสหวานในอุตสาหกรรมอาหาร โดยทไ่ี ม่ส่งผลต่อการเพิ่มของนา้ ตาลในกระแสเลือด

การแพทย์แผนจีนจะนาผลของหล่อฮังก๊วยไปตากแห้งหรือลนไฟจนแห้ง จากน้ันจะทาการเคาะหาก
ใช้ได้แล้วจะมีเสียงกังวาน สามารถนามาต้มหรือผสมกับจับเลี้ยงเพื่อปรุงเคร่ืองด่ืมแก้ร้อนในได้ ซ่ึงสรรพคุณท่ี
ได้กล่าวมานี้ช่วยผู้ป่วยท่ีมีอาการไอ เสียงแหบแห้ง บรรเทาอาการหลอดลมอักเสบ และโรคทางเดินหายใจ ใน
สมัยโบราณผู้ป่วยท่ีมีโรคไอกรนแพทย์มักจะแนะนาให้ผู้ป่วยดื่มน้าท่ีมีหล่อฮังก๊วยผสมอยู่เพราะสามารถช่วย
บรรเทาอาการของโรคได้ นอกจากนี้ในผู้ป่วยท่ีมีปัญหาอาการเก่ียวกับระบบทางเดินอาหาร หล่อฮังก๊วยยังมี
สรรพคณุ ในการบารงุ ระบบทางเดินอาหารช่วงลา่ ง เชน่ ภาวะลาไสใ้ หญไ่ ม่มีแรงบีบตวั และอาการทวารหย่อน

พลังงำน : 0 kcal/40 กรัม

4. เมเปิลไซรปั

ทีม่ า : https://th.womanexpertus.com/klenovyj-sirop-iz-chego-delayut-polza-retsept-kak-

คู่มอื กจิ กรรมสเต็มศึกษา เร่อื ง ไขม่ กุ ธญั พชื เพือ่ สขุ ภาพ ระดับชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 35
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร

Maple Syrup มาจากน้าเล้ียงของต้นเมเปิ้ล โดยกรรมวิธีการทาน้ันต้องไปดูต้นตารับ Maple Syrup
ท่ีประเทศแคนาดา ซึ่งอุดมไปด้วยต้นเมเปิ้ล เขาจะใช้วิธีการเก็บน้าเลี้ยงจากต้นเมเป้ิลท่ีเรียกว่า Tapping ซ่ึง
เปน็ การสอดทอ่ ที่ทาจากยาง หรอื แทง่ ไม้กลวงๆ เข้าไปกลางตน้ เมเปล้ิ ทมี่ ีอายุมากกวา่ 40 ปเี พอื่ ให้น้าเล้ียงไหล
ออกมาจากลาต้น ลงมาอยใู่ นถังไม้ หรือถังแสตนเลส เม่ือได้น้าเลี้ยงแล้วก็นาไปเค่ียว เพื่อแยกน้าส่วนเกินออก
เหลอื ไว้เพยี งของเหลวทเี่ หลอื งขน้ เหลว แต่ไมเ่ หนียวหนืด

จดุ เดน่ ท่ีไม่เหมือนใครของเมเปิลไซรัป คือ ความหวานจากธรรมชาติที่เป็นเอกลกั ษณ์ ผลติ ไดเ้ พียงแค่
บางประเทศในโลก เมเปิลไซรัปอุดมไปด้วยสารอาหารท่ีมีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะแคลเซียมที่มีปริมาณ
สูงกว่าน้าผึ้งถึง 15 เท่า อีกทั้งยังมีสาร antioxidant สูงกว่า 50 ชนิด นอกจากนี้ยังเป็นสารให้ความหวานท่ีมี
คา่ ความเปน็ กรดสูงซ่งึ เป็นผลดีตอ่ ระบบยอ่ ยอาหารภายในรา่ งกายของมนุษย์

พลงั งำน : 138.58 kcal/40 กรมั

5. น้ำตำลมะพร้ำว

ท่มี า : https://www.tropicanaoil.com/blog/detail/184

ลักษณะของน้ำตำล : น้าตาลมะพร้าวจะเป็นน้าตาลปึกหรือน้าตาลปี๊บเหมือนกับน้าตาลโตนด ส่วนน้าตาล
ทรายแดงจะเปน็ เมด็ ทรายละเอยี ด มจี ับตัวเป็นกอ้ นเลก็ ๆ น้อย ๆ
ผลิตจำก : นา้ ตาลดอกมะพร้าวผลติ จากนา้ หวานจากช่อดอกตน้ ของมะพรา้ ว
คุณค่ำทำงอำหำร : น้าตาลมะพร้าวมีคุณค่าทางอาหารแบบครบถ้วน ในขณะที่น้าตาลทรายแดงได้สูญเสีย
วิตามินและกากใยอาหารไปในขั้นตอนการกรอง จึงทาให้น้าตาลดอกมะพร้าวมีคุณประโยชน์มากกว่าน้าตาล
ทรายแดง น้าตาลดอกมะพร้าวมีส่วนช่วยในการลดน้าหนกั และกระตนุ้ การเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี จึง
สามารถลดปริมาณไขมนั สว่ นเกินในร่างกายได้อยา่ งดีเยย่ี ม เน่อื งจากน้าตาลดอกมะพรา้ วมีคุณสมบัตใิ นการซึม
เข้าสู่กระแสเลือดแบบช้า ๆ จงึ ลดความรู้สึกหิวและความอยากอาหารไดด้ ี เม่ือทานน้อยลงน้าหนักก็จะค่อย ๆ
ลดลง

คู่มอื กิจกรรมสเต็มศึกษา เรือ่ ง ไขม่ ุกธญั พชื เพอ่ื สุขภาพ ระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 36
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

ใบควำมรทู้ ี่ 3
กำรทำไขม่ กุ

https://www.sanook.com/campus/1400143/

ชำนมไข่มุก หรือ บับเบิลที หรือทเี่ รยี กกนั วา่ เพริ ์ลมลิ ก์ที บบั เบลิ มิลก์ที หรอื ปวั ป้ามลิ กท์ ี เป็น
เครื่องด่ืมประจาชาติไตห้ วัน ก่อกาเนิดในชว่ งปี 1980 เคี้ยวหนึบหนับ ลกู กลม ๆ ที่ทามาจากแป้งมันสาปะหลงั
นเี้ ปน็ ท่นี ยิ มนามาใสใ่ นเคร่ืองด่มื คนสว่ นใหญ่นิยมเรียกวา่ "ไขม่ กุ " แหล่งกาเนดิ อย่ทู ่ี จงั หวัดไถจง ประเทศ
ไต้หวัน

จากข้อมูลในเว็บไซต์ thaihealth ได้บอกถงึ โทษของการรับประทานชาไขม่ ุกทม่ี ากเกนิ ไป เอาไว้ว่า
ชาไขม่ ุกบางสูตรมสี ว่ นผสมของครีมเทยี ม ท่ีมไี ขมนั ทรานส์ ซ่งึ เปน็ ตัวการร้ายทาให้เสยี่ งเกดิ โรคหลอดเลือด
หัวใจ! นอกจากนีไ้ ดม้ ขี ้อมูลระบเุ อาไว้วา่ ชานมไข่มกุ 1 แก้ว ให้พลงั งานถงึ 350 – 400 กโิ ลแคลอรี ซ่งึ เท่ากบั
การทานกว๋ ยเตี๋ยว 1 จาน ส่วนตัวไข่มุกทหี่ ลายคนชน่ื ชอบให้พลงั งานถงึ 100 กิโลแคลอรี ซ่งึ มากกว่าข้าว
1 ทัพพี

โภชนำกำรทำงอำหำรของชำไข่มกุ มดี งั นี้
- ชำไขม่ กุ มีแคลอรสี งู โดยเฉพาะแก้วท่ีเพิ่มนมสด และเมด็ ไข่มุก มพี ลงั งานมากถึง 335 แคลอร่ี ซง่ึ
หากรับประทานชาไข่มุกวนั ละ 2 แกว้ น่นั หมายความว่าภายในรา่ งกายคณุ มีแคลอรีมากถงึ 1 ใน 3 ของ
ปรมิ าณที่ควรจะไดร้ ับต่อวนั ! อกี ทั้งมสี ว่ นทาใหม้ ีน้าหนักตวั เพม่ิ ขน้ึ และเสย่ี งเปน็ โรคเบาหวาน

คมู่ ือกิจกรรมสเตม็ ศึกษา เร่ือง ไข่มกุ ธัญพืชเพ่ือสขุ ภาพ ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 37
สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร

- ชำไข่มุกมคี ณุ ค่ำทำงอำหำรนอ้ ย โดยเปน็ เคร่อื งด่มื ท่ีไม่มีแรธ่ าตุ ไมม่ ีวติ ามิน ไม่มกี ากใยอาหาร
และไม่มีสารอาหารใด ๆ ทีเ่ ป็นประโยชน์แก่ร่างกาย ซึง่ หากรบั ประทานไข่มุกมากเกินพอดี กม็ สี ว่ นทาให้เกดิ
อาการทอ้ งผูกได้

- เคยมรี ายงานว่าผู้ผลิตบางรายไดน้ าเข้าชาไข่มุกที่มีสำรปนเปอ้ื นทเี่ ปน็ อันตรำย โดยเป็นสารทีใ่ ช้ทา
พลาสติกอย่าง DEHP ซง่ึ มงี านวจิ ยั ค้นพบวา่ เป็นสารท่ีทาใหเ้ กิดภาวะมบี ุตรยาก และเจรญิ เติบโตผดิ ปกติ

- ขน้ั ตอนการผลติ มนั สาปะหลังทเ่ี ปน็ วัตถุดบิ หลังของการทาเม็ดไข่มุกอาจมสี งิ่ ปนเป้ือน รวมถงึ การแช่
นา้ และเกบ็ ไวน้ านเกินไป ซง่ึ สง่ ผลให้เกิดอาการท้องผูก รวมถงึ มีปัญหาเก่ียวกบั ระบบประสาท

กำรทำไข่มกุ ธญั พชื เพือ่ สขุ ภำพ

อตั รำส่วนของวตั ถุดบิ ท่ตี อ้ งใช้ทำไข่มุกธญั พชื เพอ่ื สุขภำพ ปริมำณ 250 กรมั

1. แป้งมัน 60 กรมั
2. นา้ 50 กรัม
3. แปง้ จากข้าว 60 กรมั
4. สารให้ความหวาน 80 กรัม

วิธกี ำรทำ

1. ละลายสารใหค้ วามหวานจากธรรมชาติ 80 กรมั ในน้ารอ้ น จากนนั้ คนให้นา้ ตาลละลาย
2. ใสส่ ารใหค้ วามหวานจากธรรมชาติทล่ี ะลายแลว้ ส่วนหนึ่ง ลงในแปง้ มันสาปะหลัง 30 กรัม และ
แป้งจากข้าว 60 กรัม แลว้ คนจนแป้งละลาย และแบง่ ไว้ส่วนหนง่ึ เพ่อื แชไ่ ข่มกุ หลังต้มเสร็จ
3. นาสว่ นผสมมาตั้งบนหม้อนา้ ร้อน คนจนแปง้ หนดื แต่ยังมนี า้ อยู่
4. ใสแ่ ป้งมันอีก 30 กรัม ผสมให้เข้ากนั นวดจนแป้งจบั ตัวเปน็ กอ้ น
5. แบง่ แปง้ แลว้ คลึงเป็นเส้นยาวก่อนจะตดั แปง้ เป็นชิ้นเลก็ ปั้นให้เป็นก้อนกลม
6. นาไข่มุกลงไปตม้ คนตลอดจนไขม่ ุกลอยขึ้นมา หรี่ไฟออ่ น ปิดฝาต้ม 20 นาที
7. เมอ่ื ครบ 20 นาทีแลว้ ปิดไฟ พักไว้อีก 10 นาที แล้วยกขนึ้
8. ใส่นา้ ตาลทรายแดง ผสมให้นา้ ตาลละลายเขา้ กนั

คมู่ ือกิจกรรมสเต็มศึกษา เรอื่ ง ไขม่ ุกธญั พืชเพ่ือสขุ ภาพ ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 38
สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

ใบกิจกรรมท่ี 1.1
เรื่อง อะไรอยู่ในตม้ ยำ

คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นดูภาพก๋วยเตย๋ี วตม้ ยากงุ้ ท่ีกาหนดให้แล้วจดั หมวดหมวู่ ัถดุ ิบในก๋วยเตยี๋ วต้มยากุ้ง
แตล่ ะชนิดวา่ ใหส้ ารอาหารประเภทใด

หมู่ 2 คำรโ์ บไฮเดรต หมู่ 1 โปรตนี

หมู่ 4 วติ ำมิน หมู่ 3 เกลือแรห่ รอื แร่ธำตุ หมู่ 5 ไขมนั

ค่มู อื กิจกรรมสเต็มศึกษา เรอื่ ง ไข่มุกธัญพชื เพือ่ สุขภาพ ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 39
สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร

ใบกิจกรรมที่ 1.2
เร่อื ง เชฟนกั รงั สรรค์

คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นออกแบบเมนอู าหาร และคานวณหาพลงั งานท่ีได้จากอาหารท้งั หมด โดยนาวตั ถดุ ิบมา
จากใบรายการวตั ถดุ ิบ จากนนั้ วาดรูปอาหารท่ีออกแบบลงในช่องวา่ ง พร้อมกับระบายสีใหส้ วยงาม

ช่อื เมนูอำหำร…………..………………………………………………………

คมู่ อื กิจกรรมสเต็มศึกษา เร่อื ง ไขม่ ุกธัญพชื เพื่อสขุ ภาพ ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 40
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร

1. ให้นกั เรยี นเขยี นวตั ถดุ บิ ท่ีอยูใ่ นเมนูอาหารลงในช่องว่าง พร้อมกบั คานวณพลงั งาน (kcal) และราคาสนิ คา้
ใหถ้ ูกต้อง

ลำดับ วัตถุดิบ ปริมำณท่ีใช้ พลังงำน รำคำ
(กรมั ) (kcal)
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.

รวม

คู่มือกจิ กรรมสเตม็ ศึกษา เร่ือง ไขม่ กุ ธญั พชื เพอ่ื สุขภาพ ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 41
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

ใบรำยกำรวัตถดุ บิ

โปรตีน ปริมำณ แคลอร่ี (kcal) รำคำ

1. ไขไ่ ก่ 1 ฟอง 80 กโิ ลแคลอรี่ 10
2. เนือ้ ววั 100 กรัม 250.5 กิโลแคลอรี่ 5
3. อกไก่ 100 กรมั 164.9 กโิ ลแคลอรี่ 6
4. ปลาแซลมอน 100 กรัม 136 กิโลแคลอร่ี 7
ปรมิ ำณ แคลอรี่ (kcal) รำคำ
คำร์โบไฮเดรต 100 กรมั 76.7 กโิ ลแคลอรี่ 10
1. มันฝรั่ง 100 กรัม 264.6 กิโลแคลอร่ี 5
2. ขนมปงั 100 กรมั 86 กิโลแคลอรี่ 9
3. ขา้ วโพด 100 กรมั 130 กิโลแคลอร่ี 6
4. ข้าว ปริมำณ แคลอร่ี (kcal) รำคำ
100 กรมั 47.1 กโิ ลแคลอรี่ 10
เกลอื แร่หรอื แร่ธำตุ 100 กรมั 18.9 กิโลแคลอร่ี 20
1. ถ่ัวฝักยาว 100 กรัม 41.3 กิโลแคลอร่ี 13
2. ผักบงุ้ 100 กรัม 22 กิโลแคลอรี่ 15
3. แครอท ปริมำณ แคลอรี่ (kcal) รำคำ
4. คะนา้ 100 กรัม 66.9 กิโลแคลอร่ี 13
100 กรมั 88.7 กโิ ลแคลอรี่ 15
วิตำมิน 100 กรัม 42.8 กิโลแคลอรี่ 10
1. องุ่น 100 กรัม 94 กโิ ลแคลอร่ี 12
2. กล้วย ปรมิ ำณ แคลอรี่ (kcal) รำคำ
3. มะละกอ 100 กรมั 717 กโิ ลแคลอรี่ 11
4. ลูกพีช 100 กรมั 174 กโิ ลแคลอรี่ 15
100 กรัม 145 กิโลแคลอร่ี 20
ไขมนั 100 กรัม 884.1 กโิ ลแคลอร่ี 10
1. เนย
2. ชสี
3. นา้ มันมะกอก
4. น้ามันงา

ค่มู อื กจิ กรรมสเตม็ ศึกษา เร่อื ง ไขม่ ุกธญั พืชเพอ่ื สุขภาพ ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 42
สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร

ใบกิจกรรมท่ี 2.1
เรื่อง ตำดู...ปำกลองชมิ ...

คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนสังเกตชนดิ ของข้าวและลองชมิ ขา้ วชนดิ ตา่ ง ๆ และเขียนบรรยายสงิ่ ทีส่ ังเกตไดแ้ ละ
รสชาตใิ นช่องวา่ ง

ชนิดข้ำว ลกั ษณะที่สังเกตได้ รสชำติ

กอ่ นทำใหส้ กุ หลงั ทำให้สกุ

ข้ำวกำ่

ขำ้ วกล้อง

ข้ำวมนั ปู

ขำ้ วหอมมะลิ

คู่มอื กจิ กรรมสเตม็ ศึกษา เรื่อง ไขม่ กุ ธัญพืชเพื่อสุขภาพ ระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 43
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร

ชนดิ ขำ้ ว ลักษณะที่สังเกตได้ รสชำติ
ขำ้ วไรซเ์ บอร์รี
กอ่ นทำใหส้ กุ หลงั ทำให้สกุ

ข้ำวฮำงงอก

ขำ้ วสงั ขห์ ยด

คู่มือกจิ กรรมสเต็มศึกษา เร่ือง ไขม่ ุกธญั พืชเพ่อื สุขภาพ ระดับชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 44
สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร

ใบกิจกรรมท่ี 2.2
เรอ่ื ง มหัศจรรย์ควำมหวำน..ชวนชิม

คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นลองชิมความหวานต่างๆจากธรรมชาติและบรรยายรสชาตลิ งในช่องว่าง

ควำมหวำนจำกธรรมชำติ รสชำติ
1.หญำ้ หวำน

2.นำ้ ผึง้

3.หลอ่ ฮังก๊วย

คมู่ ือกิจกรรมสเต็มศึกษา เรอื่ ง ไขม่ ุกธญั พืชเพือ่ สุขภาพ ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 45
สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร

ควำมหวำนจำกธรรมชำติ รสชำติ
4. เมเปลิ ไซรปั

5. น้ำตำลมะพรำ้ ว

2. นักเรยี นคดิ ว่าจะใช้แป้งจากขา้ ว และสารให้ความหวานจากธรรมชาตใิ ดจงึ จะเหมาะสาหรับนามาทา
ไข่มุกธญั พชื เพื่อสุขภาพมากทสี่ ุด พร้อมใหเ้ หตผุ ลประกอบ

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

คมู่ อื กิจกรรมสเตม็ ศึกษา เรอ่ื ง ไขม่ กุ ธญั พืชเพ่อื สุขภาพ ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 46
สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร


Click to View FlipBook Version