เตมียชาดก – เนกขัมมบารีมี (ออกบวช) ชนกชาดก - วิริยะบารมี สุวรรณสามชาดก - เมตตาบารมี เนมิราชชาดก - อธิษฐานบารมี มโหสถชาดก - ปัญญาบารมี ภูริทัตชาดก - ศีลบารมี จันทชาดก - ขันติบารมี นารทชาดก - อุเบกขาบารมี วิทูรชาดก - สัจจะบารมี เวสสันดรชาดก - ทานบารมี เรื่องราวของพระชาติ 10 ชาติสุดท้าย ก่อนที่จะมาประสูติ เป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ทศชาติชาดก ตัวย่อทศชาติชาดก เต-ชะ-สุ-เน-มะ -ภู-จะ-นา-วิ-เว
กล่าวถึงพระชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ ก่อนจะมาประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตตะ และตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ร่ายยาวเวสสันดรชาดก ถือว่าเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ “มหาชาติ” เพราะได้บ าเพ็ญ “ทานบารมี” ที่เป็นบารมีสูงสุดในทศบารมี เป็นสิ่งที่บุคคลทั่วไปท าได้ยากยิ่งคือ การเสียสละประโยชน์ส่วนตัวโดย เสียสละบุคคลอันเป็นที่รัก ซึ่งท าได้ยากยิ่ง
มหาเวสสันดรชาดก มีทั้งหมด ทั้ง 13 กัณฑ์ ได้แก่ 1. กัณฑ์ทศพร 2. กัณฑ์หิมพานต์ 3. ทานกัณฑ์ 4. กัณฑ์วนปเวศน์ 5. กัณฑ์ชูชก 6. กัณฑ์จุลพน 7. กัณฑ์มหาพน 8. กัณฑ์กุมาร 9. กัณฑ์มัทรี 10. กัณฑ์สักบรรพ 11. กัณฑ์มหาราช 12. กัณฑ์ฉกษัตริย์ 13. นครกัณฑ์ *ถ้าสนใจศึกษาเรื่องทศชาติและกัณฑ์ทั้ง 13 เพิ่มเติม อ่านได้จาก E-book เรื่อง ทศชาติชาดก
ผู้แต่ง เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ในร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดกประกอบด้วย หลายส านวน ซึ่งได้รับคัดเลือกว่ามีส านวนดีที่สุด ในแต่ละกัณฑ์ จนครบทั้ง 13 กัณฑ์ แต่งกัณฑ์กุมารและกัณฑ์มัทรี เจ้าพระยาพระคลัง (หน)
มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์ที่ ๙ กัณฑ์มัทรี มีจ านวนคาถาบาลี ๙๐ คาถา เพลงประจ ากัณฑ์ คือ ทยอยโอด กัณฑ์มัทรี เป็นกัณฑ์ที่พระนางมัทรี ทรงได้ตัดความห่วงหาอาลัย ในสายเลือดและได้อนุโมทนา ทานโอรสทั้งสองแก่ชูชก
ลักษณะค าประพันธ์ เป็นร่ายที่ไม่ก าหนดจ านวนค าในวรรคหนึ่ง ๆ (แต่ไม่น้อยกว่า 5 ค า) ในเรื่องการสัมผัส ค าสุดท้ายของวรรคหน้าสัมผัสกับค าหนึ่งค าใด ในวรรคถัดไป แต่ไม่ควรอยู่ใกล้ค าสุดท้ายของวรรค เมื่อจบนิยมลงท้ายด้วยค าสร้อยว่าว่า แล้วแล นั้นแล นี้เถิด โน้นเถิด ฉะนี้ ฉะนั้น นิยมแต่งเป็นร้อยกรองเพื่อใช้ส าหรับสวด อ่านและจารึก เช่น ค าบวงสรวงสดุดี ค าประกาศ เป็นต้น
“หรือว่าเจ้าทิ้งขว้างวางจิตไปเกิดอื่น เหมือนแม่ฝันเมื่อคืนนี้แล้วแล” เมื่อคืนพระนางมัทรีฝันอะไร? เกิดอะไรขึ้นต้องศึกษาจากกัณฑ์กุมาร
ยังมีบุรุษผู้หนึ่งนั้นเติบโตด่าล่่าสันเห็นพิลึก.... มีหัตถ์เบื้องขวานั้นถือดาบ ..... กระทืบเท้าตะคอกขู่ค่ารามส่าราก ฉวยชฏานางกระชากฉุดให้หลุดพลัด รวบพระกรกระหวัดทั้งซ้ายขวาให้พระนางอุตตานภาพ ฟาดด้วยดาบแล้วก็เหวี่ยงลงตรงพระพาหา สองซ้ายขวาขาดเป็นสิน พระกรกระเด็นดิ้นอยู่แดดาล แล้วมิหน่าซ้่าแขวะคว้านควักพระนัยนเนตรทั้งสองปลิ้นให้วิ่นหวะ เอาดาบฉะเฉือนพระทรวงล้วงช่าแหละแหวะหาพระหฤทัยพระนางนั้น พระนางมัทรีได้ทรงพระสุบินเป็นอาเพศลางร้าย (กุมาร : 192-193) ตามรอยพระเวสสันดร : กัณฑ์กุมาร 1
ตามรอยพระเวสสันดร : กัณฑ์กุมาร ในความฝันมีนัยยะแฝงถึงใคร ถ้อยค าเปรียบเทียบที่สื่อถึงลูกที่สามารถ เชื่อมโยงกับความฝันนี้ได้คืออะไร? ค าใบ้ : แก้ว ตา ดวง ใจ
ตามรอยพระเวสสันดร : กัณฑ์กุมาร เมื่อชูชกเดินทางตามที่อจุตฤาษีแนะน่า เวลาเย็นก็ถึงเขาวงกตใกล้อาศรมพระเวสสันดร แกก็ดีใจมาก ตรึกตรองหาโอกาสจะเข้าพบพระเวสสันดร เห็นว่าเวลานี้พระนางมัทรีกลับจากป่า หากไปขอจักไม่ส่าเร็จ ควรไปเวลาเช้าเมื่อพระนางมัทรีเข้าป่าแล้ว ครั้นขอสองกุมารได้แล้วก็จะรีบกลับก่อนพระนางมัทรีกลับจากป่า
วันรุ่งพรุ่งนี้จะมีเหตุด้วยปฏิคาหกยาจกจะมารับพระราชทาน โอ้สงสารด้วยสองพระเจ้าลูกผู้เพื่อนยาก พรุ่งนี้เช้าเจ้าจะพลัดพรากพราหมณ์จะพาไปไกล จากอกพระบิดาแล้ว สงสารด้วยนางแก้วเกศกษัตริย์มัทรีเอ่ย จะเสวยพระทุกข์เพียงพินาศด้วยสองดรุณราชปิโยรสร่วมหฤทัย เหตุที่พระเวสสันดรไม่ท่านายพระสุบินตามความจริง (กุมาร : 194-195) ตามรอยพระเวสสันดร : กัณฑ์กุมาร 2
ด้วยอาตมะจะมุ่งหมายพระโพธิญาณทานธุระจะเริดร้าง แม้นอาตมะจะท่านายทางบุพนิมิตแต่ตามจริง ไหนนางจะทอดทิ้งพระลูกเล่าด้วยอาลัย ก็จะเป็นพาหิรกภัยแก่โพธิญาณ จ่าจะท่านายด้วยโวหารให้เหตุหาย เหตุที่พระเวสสันดรไม่ท่านายพระสุบินตามความจริง (กุมาร : 194-195) ตามรอยพระเวสสันดร : กัณฑ์กุมาร สุดท้ายพระเวสสันดรตรัสบ่ายเบี่ยงว่าเป็นเพราะมาตกระก่าล่าบาก หลับนอนไม่ผาสุกเหมือนอยู่วัง ก็ฝันไปตามสภาพยากไร้ 2
ตามรอยพระเวสสันดร : กัณฑ์กุมาร นักเรียนมีมุมมองอย่างไรต่อความคิด และการกระท าดังกล่าวนี้ของพระเวสสันดร - ถ้าคิดตามมุมมองศาสนาหมายถึงสิ่งใด - ถ้าเป็นมุมมองในปัจจุบันการกระท านี้ สมควรท าจริงหรือ เพราะเหตุใด
พราหมณ์เอ่ยจงมารับพระราชทานสองกุมารแต่โดยดี เธอก็หล่อหลั่งอุทกวารีลงในมือพราหมณ์ ตั้งพระทัยไว้ให้งามดั่งดวงแก้ว แล้วก็ออกพระอุทานวาจาอันแจ่มใสว่าพราหมณ์เอ่ยลูกทั้งสองของเรานี้ นี่เรารักดั่งดวงใจนัยน์เนตร เหตุว่าเรารักพระโพธิญาณยิ่งกว่าสองกุมาร ได้ร้อยเท่าพันทวี เดชผลทานในครั้งนี้จงส่าเร็จ แต่พระสร้อยสรรเพชญพุทธรัตนอนาวรณญาณ ในอนาคตกาลโน้นเถิด การที่พระเวสสันดรตัดสินใจยกบุตรทั้งสองแก่ชูชก เป็นเพราะไม่รักบุตรทั้งสองใช่หรือไม่? (กุมาร : 215-216) ตามรอยพระเวสสันดร : กัณฑ์กุมาร 3
อัศจรรย์ก็บันดาลยังเกิดมี อันว่าภาคพื้นพระธรณีอันหนาแน่นได้สอง แสนสี่หมื่นโยชน์ เสียงอุโฆษครื้นครั่นดั่งไฟบรรลัยกัลป์จะผลาญโลกให้ ท่าลายวายวินาศ ฝูงสัตว์จตุบททวิบาทก็ตื่นเต้นเผ่นโผนโจนดิ้น ประหนึ่งว่าปถพินจะพลิกคว่่าพล้่าแพลงให้พลิกหงาย ..... ทั้งพญาเขา พระสุเมรุก็เอนอ่อนอยู่ทบเทา แก้วเก้าเนาวรัตน์แสนสัตรัตน์เรืองรองซ้อง สาธุการอยู่อึงมี่ ทั้งพระสมุทรสาครวังวนบันดาลน้่าฟุ้งเป็นฝอย ...ฯ เมื่อพระเวสสันดรหลั่งน้่าประทานบุตรยกพระกัณหา พระชาลีให้แก่พราหมณ์ชูชก ท่าให้เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์อันใดขึ้น (กุมาร : 215-216) ตามรอยพระเวสสันดร : กัณฑ์กุมาร 3
ตามรอยพระเวสสันดร : กัณฑ์กุมาร คิดว่าเพราะเหตุใดกวีถึงใช้การพรรณนา ลักษณะดังกล่าว? มุมมองของกวีที่มีต่อการกระท าบุตรทาน ของพระเวสสันดรเป็นอย่างไร? การท าบุตรทานจะได้รับกุศลใหญ่จริงหรือ?
ปางนั้นสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ ตรัสได้ทรงฟังพระลูกน้อย ทรงกันแสงทูลละห้อยวันนั้น กลั้นพระโศกมิได้ละอายพระทัยแก่เทพดา เสด็จเข้าสู่ภายในพระบรรณศาลา ซบพระ พักตราทรงพระกันแสงสะอื้นไห้ ว่าโอ้เจ้าเพื่อนเข็ญใจของพ่อเอ่ย เจ้าเคยกระท่ากรรมไว้ เป็นไฉน จึ่งมาตกเข็ญใจไร้ยากอนาถา ให้พราหมณ์ชราร่างร้ายกาจ ตะแกมาท่าสีหนาท โพยโบยตี .....แต่สองบังอรของพ่อนี้ ใครจะปรานีให้นมน้่า ก็จะตรากตร่าล่าบากใจ ที่ไหนจะเดินได้ด้วยพระบาทเปล่า ทั้งไอแดดจะแผดเผาให้พุพอง จะชอกช้่าคล้่าเป็นหนอง ลงลามไหล สองสุริยวงศ์ตั้งแต่ว่าจะทรงกันแสงไห้ สุดอาลัยของพ่อแล้วที่จะติดตาม พระเวสสันดรไม่รักไม่หวงลูกหรืออย่างไร ท่าไมต้องยกลูกให้ไปเป็นคนใช้ของคนอื่น? ตามรอยพระเวสสันดร : กัณฑ์กุมาร
เสมือนหนึ่งพรานเบ็ดมาตีปลาที่หน้าไซ บรรดาปลาจะเข้าไปให้แตกฉาน ตัวเราผู้ท่าทานเหมือนตัวปลา พระโพธิญาณในภายหน้านั้นคือไซ ปรารถนาจะเข้าไปจึ่งยกพระลูกให้เป็นทานบารมี พระลูกรักทั้งสองศรี ดั่งกระแสสินธุ์ พราหมณ์ประมาทหมิ่นมาด่าตี เสมือนกระทุ่มวารีให้ปลาตื่น น่าพระทัยท้าวเธอถอยคืนจากอุเบกษา บังเกิดอวิชชามาห่อหุ้ม พระปัญญานั้นกลัดกลุ้มไปด้วยโมโหให้ลุ่มหลง โทโสเข้าซ้่าส่งให้บังเกิดวิหิงสาขึ้นทันที ว่าอุเหม่! อุเหม่! พราหมณ์ผู้นี้นี่อาจองทะนงหนอ มาตีลูกต่อหน้าพ่อไม่เกรงใจ ธชีเอ่ยกูมาอยู่ป่าเปล่าเมื่อไร ทั้งพระขรรค์ศิลป์ชัยก็ถือมา ก็ทรงพระแสงธนูศรกระสัน มั่นกับมือ ฆ่าพราหมณ์ผู้นี้เสียเถิดหรือ เธอก็ฮึดหื้ออยู่แต่ในพระทัย
จึ่งตั้งจิตพิจารณาในพระอริยประเพณีหน่อพุทธางกูร ก็รู้ว่าอาตมะนี่เพิ่มพูนมหาปุตตบริจาคเจียวสิหว่า เมื่อพระปัญญาบังเกิดมี พระบรมราชฤษีเธอจึ่งตรัสสอนพระองค์เองว่า ดูกรมหาเวสสันดร อย่าอาวรณ์โว้เว้ท่าเนาเขา ข้ากับเจ้าเขาจะตีกันไม่ต้องการ ให้ลูกเป็นทานแล้ว ยังมาสอดแคล้วเมื่อภายหลัง ท้าวเธอจึ่งตั้งพระสมาธิระงับดับพระวิโยค กลั้นพระโศกสงบแล้ว พระพักตร์ก็ผ่องแผ้วแจ่มใส ดุจทองอุไรทั้งแท่ง อันบุคคลจะแกล้งหล่อ แล้วมาวางไว้ในพระอาศรม ตั้งแต่จะเชยชมพระปิยบุตรทานบารมี แห่งหน่อพระชินศรีเจ้า นั้นแล
พระพุทธเจ้าข้าไม่โปรดแล้วลูกแก้วจะขอลา พระบิดาอย่าได้น้อยพระทัยเลย พระคุณเจ้าเอ๋ยเจ้าประคุณของลูกเอ่ยอย่าว่าลูกนี้ล่วงมาดูถูก ที่จะได้กลับมาเป็นพ่อลูกกันสืบไปนั้นอย่าสงสัย ..... กรรมเอ๋ยกรรม ชะรอยว่ากรรมกัณหาน้อยนี้ได้กระท่าไว้แต่ชาติหลัง จึงให้เผอิญพ่อเจ้าชิงชัง ไม่ดูหน้ามาเมินเฉย โอ้กรรมเอ๋ยเห็นจะสิ้นวาสนาของแก้วกัณหานี้เสียจริง ๆ พระลูกหญิงขอถวายบังคมลา ไปตามเวรานั้นแล้วแล สะท้อนความเชื่อเรื่องสิ่งใดในสังคมสมัยโบราณอย่างไร? พระกัณหาตรัสพ้อพระบิดาและประกาศตัดขาด เป็นเหตุให้ในชาติต่อมาไม่ได้เกิดเป็นพระธิดาอีกครั้ง (กุมาร : 224-225) ตามรอยพระเวสสันดร : กัณฑ์กุมาร 4
ตามรอยพระเวสสันดร : กัณฑ์กุมาร ค าพูดเหล่านี้ของกัณหา ท าให้เกิดผลกรรม สืบเนื่องมาในชาติหลัง สะท้อนความเชื่อว่าลูกควร ปฏิบัติอย่างไรกับพ่อแม่ ดังนั้นแล้วในกรณีที่พ่อแม่บุพการีหรือผู้ปกครอง ใช้ความรุนแรงในครอบครัว ลูกควรจะก้มหน้า ยอมรับการกระท าแต่โดยดีใช่หรือไม่?
ตามรอยพระเวสสันดร : กัณฑ์กุมาร พระเวสสันดรมีสิทธิอะไร มายกกัณหา ชาลี และ พระนางมัทรีให้กับคนอื่น? ในความเป็นพ่อ เป็นสามี การกระท าเหล่านี้ของ พระเวสสันดรแสดงถึงสิ่งใด?
ทานบารมี 3 ระดับ ตามหลักศาสนาพุทธ ทานอุปบารมี ทานปรมัตถบารมี ทานบารมี (ยอมสละชีวิต สละสิ่งที่รักยิ่งกว่าชีวิต) (ให้อวัยวะ เลือด เนื้อ) (ให้ทรัพย์สินภายนอก)
ปกิณกะ สาระน่ารู้ จากพระนิพนธ์เรื่องพระมาลัยค าหลวง ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร มีตอนที่พระศรีอาริยเมตไตรยได้ให้พระมาลัยมาบอกแก่ชาวโลกว่า “ให้ท ามหาชาติเนืองนันต์ เครื่องสิ่งละพัน จงบูชาให้จบทิวานั้น ตั้งประทีปพันบูชาดอกปทุมถ้วนพัน... ” ท าให้เกิดความเชื่อว่า การฟังเทศน์มหาชาติ ให้จบในวันเดียวจะได้บุญมาก และจะได้ไปเกิดในยุคของ พระศรีอาริยเมตไตรย
ปกิณกะ สาระน่ารู้ ประเพณีบุญผะเหวด ของชาวอีสาน
สะท้อนคิด “พระเวสสันดรให้บุตร-ธิดา เป็นทานแก่ชูชก จนท าให้ บุตร-ธิดาได้รับความล าบาก การให้ทานแบบนี้เป็นเรื่อง ถูกต้องแล้วหรือไม่?”
สะท้อนคิด อย่าเพิ่งใช้บรรทัดฐานของตัวเอง ตัดสินฐานะผู้อื่น อย่าเพิ่งเอาฐานะของเราไปเปรียบเทียบ แล้วตัดสินการกระท าผู้อื่น อย่าเพิ่งน าทัศนคติ ค่านิยม การกระท าของ ปัจจุบันเป็นตัวตัดสินการกระท าของคนในอดีต บางเรื่องไม่สามารถน าหลักเกณฑ์ทางพุทธศาสนา มาก าหนดแนวทางการประพฤติตนตามฆราวาส?
อย่างไร จึงเหมาะสม โบนัส : เขียนสรุปสะท้อนตอบใน Classroom 1-2 คะแนน เขียนตามความคิดของตนเอง ค าตอบสั้น ๆ ประมาณ 1-2 บรรทัด พร้อมทั้งอธิบายให้ชัดเจน สะท้อนคิด ข้อ ๑
เรื่องย่อ หลังจากที่พระเวสสันดร ยกกัณหาและชาลีแก่ชูชก ชูชกพาทั้งสองไประหว่างที่พระนางมัทรีไปหาผลไม้ในป่า 1 เทวบุตรได้รับค าสั่งให้นิมิตกายมาเป็นพญาพาฬมฤคราช เพื่อขัดขวางไม่ให้พระนางมัทรีกลับถึงอาศรมแต่วัน อ่านว่า พา-ละ-มะ-รึ-คะ-ราด
ระหว่างที่พระนางมัทรีเข้าป่าไปหาอาหาร ก็พบอาเพศลางร้ายและเจอสัตว์ร้ายทั้ง 3 ขวางทาง 2 พระเวสสันดรแสร้งบริภาษต่อว่าพระนางมัทรี ที่กลับอาศรมช้า ท าให้พระนางมัทรียิ่งเสียพระทัย และเที่ยวตามหาสองกุมารด้วยพระองค์เอง 4 พระนางมัทรีพยายามอ้อนวอน สุดท้ายกลับอาศรมช้ากว่าปกติ (กลับมามืดค่ า) กลับมาไม่พบลูกจึงตรัสถามพระเวสสันดร 3
พระนางมัทรีเที่ยวเสด็จตามหากุมารทั้งสอง ตั้งแต่ยามเย็นจนรุ่งเช้าก็สุดสิ้นที่จะเที่ยวค้น ทุกต าแหน่งแห่งละสามหนเธอเที่ยวหา ถ้าจะคลี่คลายขยายมรคา ก็ได้สิบห้าโยชน์โดยนิยม เมื่อเสด็จกลับมาถึงที่อาศรมก็สลบไป 5 เรื่องย่อ
ครั้นพระนางมัทรีฟื้นคืนสติพระเวสสันดรจึงยอม บอกความจริงว่าเมื่อวานได้มอบสองกุมาร ให้แก่ชูชกแล้วขอให้พระนางเข้าใจ พระนางมัทรีจึง อนุโมทนาบุตรทานบารมีท าให้เทวดานางฟ้า ต่างร้องสาธุการสรรเสริญ ที่พระนางมัทรีทรงกระท าอนุโมทนาบุตรทานครั้งนี้ 6 - จบกัณฑ์มัทรี-
มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี วิเคราะห์ค าประพันธ์
วิเคราะห์ค าประพันธ์ มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี หน้า 26-27 1. เทพเจ้าทั้งสามได้รับค าสั่งเทวโองการมาให้กระท าการใดเพื่อขวาง มิให้พระนางมัทรีกลับอาศรม 2. พระนางมัทรีเข้าป่าแล้วพบเหตุอันเป็นลางร้ายอย่างไร ยกตัวอย่าง 3 ข้อพร้อมวาดภาพประกอบ 3. เพราะเหตุใดพระนางมัทรีไม่หนี พญาพาฬคฤราชไปทางอื่น 4. พระนางมัทรีกระท าการใดกับพญาพาฬมฤคราชทั้งสาม
วิเคราะห์ค าประพันธ์ มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี หน้า 28-29 5. หลังจากพบเหตุการณ์ผิดปกติต่าง ๆ นานาเป็นเหตุให้พระนางมัทรี กลับถึงอาศรมเมื่อใด 6. เมื่อกลับมาถึงอาศรมเกิดสิ่งใดขึ้น 7. กวีพรรณนาลักษณะธรรมชาติรอบอาศรมที่ดูน่าหดหู่เงียบเหงา อย่างไร 8. พระนางมัทรีตัดพ้อว่าเปรียบว่าตนเองเป็นเหมือนสิ่งใด เมื่อทูลถามพระเวสสันดรแต่กลับไม่ได้รับค าตอบใด ๆ
วิเคราะห์ค าประพันธ์ มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี หน้า 30-31 9. พระเวสสันดรตรัสในลักษณะใดต่อพระนางมัทรี และเปรียบเทียบพระนางกับสิ่งใด จึงท าให้พระนาง ‘คลายโศกเพราะเจ็บใจ’ 10. พระนางมัทรีกล่าวตัดพ้อน้อยใจพระเวสสันดรอย่างไรบ้าง พร้อมกับเปรียบเทียบตัวเองว่าอย่างไรบ้าง
วิเคราะห์ค าประพันธ์ มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี หน้า 32-33 11. เมื่อพระนางมัทรีเดินทางเข้าป่า กวีได้พรรณนาภาพธรรมชาติ ที่แปลกประหลาดไปจากเช่นเคยไว้อย่างไร 12.พระนางมัทรีเที่ยวเดินทางตามหากัณหาและชาลีเป็นระยะ เวลานานเท่าใดและเป็นระยะทางกี่กิโลเมตร 13. เมื่อพระนางมัทรีกลับมาที่อาศรมหลังจากเดินตามหา พระโอรสพระธิดาเกิดอะไรขึ้นกับพระนาง
วิเคราะห์ค าประพันธ์ หน้า 33-34 14.พระเวสสันดรคิดว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับพระนางมัทรี ยกตัวอย่างการพรรณนาคร ่าครวญของพระเวสสันดร 2 ข้อ 15. เมื่อพระนางมัทรีฟื้นและรับรู้ว่าพระเวสสันดรยกกัณหา ชาลีให้แก่ชูชกไปแล้ว พระเวสสันดรกล่าวให้พระนางมัทรี ช่วยอนุโมทนาอย่างไร 16.พระเวสสันดรบอกว่าการท าบุตรทานครั้งนี้เป็นทานลักษณะใด และพระองค์มุ่งหวังจะท าทานในลักษณะใดในภายหน้า 17. เมื่อพระนางมัทรีทราบความทั้งหมด พระนางท าอย่างไรกับพระเวสสันดร
ภาพพจน์ด้านวรรณศิลป์ 18. บอกลักษณะภาพพจน์ “อุปมา” ที่พบในกัณฑ์มัทรี พร้อมยกตัวอย่าง 2 ข้อความ 19. บอกลักษณะภาพพจน์ “อุปลักษณ์” ที่พบในกัณฑ์มัทรี พร้อมยกตัวอย่าง 2 ข้อความ 20. บอกลักษณะภาพพจน์ “สัทพจน์” ที่พบในกัณฑ์มัทรี พร้อมยกตัวอย่าง 2 ข้อความ 21. บอกลักษณะภาพพจน์ “บุคคลวัต” ที่พบในกัณฑ์มัทรี พร้อมยกตัวอย่าง 2 ข้อความ 22. บอกลักษณะภาพพจน์ “อัพภาส” ที่พบในกัณฑ์มัทรี พร้อมยกตัวอย่าง 2 ข้อความ