The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ความรู้ทั่วไป เรื่องย่อ ของทศชาติชาดก
และเรื่องย่อมหาเวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Methawee Thongkoom, 2020-05-25 03:32:00

ทศชาติชาดก

ความรู้ทั่วไป เรื่องย่อ ของทศชาติชาดก
และเรื่องย่อมหาเวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์

ทศชาติ

(ทด-สะ-ชาด-ชา-ดก)

ประกอบด้วยคาวา่

ทศ (อ่านว่า ทะ-สะ)

แปลว่า สบิ

ชาติ (อา่ นวา่ ชา-ต)ิ

แปลว่าการเกิด

ชาดก หมายถึง

เรือ่ งราวของพระพทุ ธเจา้
ที่มีมาในอดีตชาติ

ทศชาติชาดก เรื่องยอ่ ทศชาติชาดก

เต เตมิยชาดก
ชะ มหาชนกชาดก

สุ สวุ รรณสามชาดก

เน เนมิราชชาดก
มะ มโหสถชาดก

ภู ภรู ทิ ัตตชาดก
จะ จันทกุมารชาดก
นา มหานารทกัสสปชาดก

วิ วธิ รุ ชาดก
เว เวสสันดรชาดก

ทศชทาตศิชชาาดกติช: ชาาดตกิท่ี ๑

เต เตมยิ ชาดก

ฉบบั การต์ นู

ทศชทาตศชิ ชาาดกตชิ: ชาาดตกิที่ ๒

ชะ มหาชนกชาดก

ฉบับแอนนเิ มชันเต็ม

ฉบับการต์ ูน

ทศชทาตศิชชาาดกตชิ: ชาาดตกิท่ี ๓

สุ สวุ รรณสามชาดก

ฉบับการต์ นู

ทศชทาตศชิ ชาาดกตชิ: ชาาดตกิท่ี ๔

เน เนมิราชชาดก

ฉบบั การต์ นู

ทศชทาตศิชชาาดกติช: ชาาดตกทิ ่ี ๕

มะ มโหสถชาดก

ฉบบั การต์ นู

ทศชทาตศชิ ชาาดกตชิ: ชาาดตกทิ ่ี ๖

ภู ภรู ิทัตตชาดก

ฉบับการต์ นู

ทศชทาตศิชชาาดตก ชิ: าชาดตกิท่ี ๗

จะ จนั ทกุมารชาดก

ฉบับการต์ นู

ทศชาติชาดก : ชาตทิ ่ี ๘

นา มหานารทกัสสปชาดก

ฉบับการต์ นู

ทศชาติชาดก : ชาติที่ ๙

วิ วธิ รุ ชาดก

ฉบบั การต์ นู

ทศชาติชาดก : ชาติที่ ๑๐

เว เวสสันดรชาดก

ฉบบั การต์ นู

ร่ายยาว
มหาเวสสนั ดรชาดก

๑๓ กณั ฑ์

ความเปน็ มา

 สมัยสโุ ขทยั : มกี ารแปลจากภาษา
บาลเี ป็นภาษาไทยแตต่ น้ ฉบบั สญู หาย

 สมยั กรุงศรีอยุธยา :
 สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ
โปรดเกลา้ ให้กวีแตง่ เป็น

“มหาชาติคาหลวง”

เพื่อใชอ้ า่ นหรอื สวด
ใชท้ ้งั กาพย์ โคลง ฉนั ท์ รา่ ย

พระเจ้าทรงธรรมให้แตง่

“กาพยม์ หาชาติ”

ใช้วิธีแปลคาถาพันโดยใช้

“รา่ ยยาว” สาหรบั เทศน์ในวันพระ

*แตย่ าวมาก พระเทศนไ์ ม่จบภายในวนั เดยี ว*

 สมยั ตอ่ ๆ มากวหี ลายทา่ นไดแ้ ตง่

“ร่ายยาวมหาชาต”ิ ขน้ึ ใหม่ใหก้ ระชบั ขน้ึ

บ้างแตง่ บางกณั ฑ์ บา้ งแตง่ จนจบ

จงึ ทาให้มหี ลายสานวน รวมเรียกว่า

“มหาชาติกลอนเทศน์”

เกดิ การเลอื กเฟน้ สานวนท่ีดที ี่สดุ
ในแตล่ ะกณั ฑ์จาก

“มหาชาติกลอนเทศน์”

จนครบท้งั ๑๓ กัณฑ์

เรยี กวา่

“ร่ายยาว

มหาเวสสนั ดรชาดก”

มหาเวสสันดรชาดก

มที ้งั หมด ท้ัง ๑๓ กัณฑ์ ไดแ้ ก่

๑. กณั ฑ์ทศพร ๒. กัณฑ์หมิ พานต์
๓. ทานกณั ฑ์ ๔. กัณฑ์วนปเวศน์
๕. กัณฑช์ ูชก ๖. กัณฑ์จุลพน
๗. กณั ฑม์ หาพน ๘. กณั ฑก์ ุมาร
๙. กัณฑม์ ัทรี ๑๐. กณั ฑส์ ักบรรพ
๑๑. กณั ฑม์ หาราช ๑๒. กณั ฑฉ์ กษตั รยิ ์
๑๓. นครกณั ฑ์

กัณฑท์ ี่ ๑ ทศพร

พระอินทรป์ ระสาทพรแก่พระนางผสุ ดี ก่อนทจ่ี ะจุตลิ งมาเป็นพระราช
มารดาของพระเวสสนั ดร ภาคสวรรค์ พระนางผุสดเี ทพอปั สรสน้ิ บุญทา้ ว
สกั กะเทวราช สวามที รงทราบจงึ พาไปประทบั ยงั สวนนนั ทวนั ในเทวโลก
พรอ้ มใหพ้ ร ๑๐ ประการ ไดแ้ ก่
๑. ใหไ้ ดอ้ ยใู่ นปราสาทของพระเจา้ สริ ริ าชแหง่ นครสพี ี
๒. ขอใหม้ จี กั ษุดาดจุ นยั น์ตาลกู เน้ือ
๓. ขอใหม้ คี ว้ิ ดาสนิท
๔. ขอใหพ้ ระนามวา่ ผสุ ดี
๕. ขอใหม้ โี อรสทท่ี รงเกยี รตยิ ศเหนือกษตั รยิ ท์ งั้ หลายและมใี จบุญ
๖. ขอใหม้ คี รรภท์ ผ่ี ดิ ไปจากสตรสี ามญั คอื แบนราบขณะทท่ี รงครรภ์
๗. ขอใหม้ ถี นั งามอยา่ รดู้ าและหยอ่ นยาน
๘. ขอใหม้ เี กศาดาสนิท
๙. ขอใหม้ ผี วิ งาม
๑๐. ขอใหม้ อี านาจปลดปล่อยนกั โทษได้

พระอนิ ทร์ประทานพร ๑๐ ประการแกพ่ ระนางผสุ ดี

กัณฑท์ ่ี ๒ หิมพานต์

พระนางเทพผสุ ดีไดจ้ ุตลิ งมาเป็นราชธดิ าของพระเจา้ มทั ทราช

เมอ่ื เจรญิ ชนมไ์ ด้ ๑๖ ชนั ษา จงึ ไดอ้ ภเิ ษกสมรสกบั พระเจา้ กรงุ สญั ชยั แหง่
สวี ริ ฐั นคร ต่อมาได้ประสตู ิพระโอรสนามว่า "เวสสนั ดร" ในวนั ทป่ี ระสตู ิ
นนั้ ไดม้ นี างชา้ งฉทั ทนั ตต์ กลกู เป็นชา้ งเผอื กขาวบรสิ ทุ ธจิ ์ งึ นามาไวใ้ นโรงชา้ ง
ตน้ คบู่ ารมี ใหน้ ามวา่ "ปัจจยั นาค" เมอ่ื พระเวสสนั ดรเจรญิ ชนม์ ๑๖ พรรษา
ราชบดิ ากย็ กราชสมบตั ใิ หค้ รอบครองและทรงอภเิ ษกกบั นางมทั รี พระราช
บดิ าราชวงศม์ ทั ทราช มพี ระโอรสช่อื ชาลี ราชธดิ าช่อื กณั หา
พระองคไ์ ดส้ รา้ งโรงทาน บรจิ าคทานแกผ่ เู้ ขญ็ ใจอยเู่ ป็นนิจ

ตอ่ มาพระเจา้ กาลงิ คะแหง่ นครกาลงิ ครฐั ไดส้ ง่ พราหมณ์มาขอ

พระราชทานชา้ งปัจจยั นาคพระเวสสนั ดรกไ็ ด้บริจาคทาน
ช้างปัจจยั นาคแก่พระเจ้ากาลิงคะ ทาใหป้ ระชาชนสพี โี กรธแคน้

จงึ ขบั ไล่ใหไ้ ปอยเู่ ขาวงกต ชาวกรงุ สญั ชยั จงึ เนรเทศพระเวสสนั ดร
ออกนอกพระนคร

พระเวสสนั ดรบรจิ าคชา้ งปัจจยั นาค

กณั ฑ์ท่ี ๓ ทานกณั ฑ์

กอ่ นทพ่ี ระเวสสนั ดรพรอ้ มดว้ ยพระนางมทั รี ชาลแี ละกณั หาจะเสดจ็

ออกจากพระนคร พระเวสสนั ดรได้ทูลขอพระราชทานโอกาส
บาเพญ็ มหาสตั สดกมหาทาน* คือ การให้ทานครงั้ ย่ิงใหญ่
จานวน ๗ หมวด อนั ไดแ้ ก่ชา้ ง ๑๐๐ มา้ ๑๐๐ รถ ๑๐๐

โคนม ๑๐๐ หญงิ สาว ๑๐๐ ทาส ๑๐๐ ทาสี ๑๐๐.

สตั ตะ (ป. สตฺต ส. สปตฺ ) หมายถงึ เจด็ (จานวน)
สดก (ป. สตกว ส. ศตก.) หมายถงึ หมวด ๑๐๐.

*บางแหง่ กลา่ ววา่ ใหท้ านอยา่ งละ ๗๐๐

พระเจ้ากรงุ สญั ชยั ทรงทดั ทานนางมทั รีและพระนัดดา
ทงั้ สองไว้ พระนางมทั รกี ไ็ มท่ รงยอมอกี ดว้ ยทรงตงั้ พระทยั มนั่

ทจ่ี ะขอตามเสดจ็ พระสวามี ไปพรอ้ มพระโอรสพระธดิ า ทรงกราบทลู ว่า
เมอ่ื เป็นมเหสแี ลว้ กถ็ อื พระองคเ์ ป็นประดุจทาสทาสี ยอ่ มจงรกั ภกั ดตี อ่
พระสวามี ขอตามเสดจ็ ไปปรนนิบตั ปิ ระหน่ึงทาสตดิ ตามรบั ใช้ มยิ อมให้
พระสวามไี ปตกระกาลาบาก ทกุ ขย์ ากพระวรกายแต่เพยี งลาพงั
สว่ นพระโอรสธดิ าเป็นประดจุ แกว้ ตาดวงใจจะทอดทง้ิ เสยี กระไรได้
พระเจา้ กรุงสญั ชยั ตอ้ งทรงเลกิ ทดั ทานในทส่ี ดุ

เมอ่ื พระเวสสนั ดรทรงกราบบงั คมทลู ลาพระชนกชนนีแลว้
ทรงเบกิ แกว้ แหวนเงนิ ทอง บรรทุกราชรถเทยี มมา้ และทรงโปรย
เป็นทานไปตลอดทาง แมแ้ ตร่ ถทรง มา้ เทยี มรถทรง กป็ ระทานใหแ้ ก่
พราหมณ์ทม่ี าทลู ขอไปจนหมดสน้ิ แลว้ ทงั้ สองพระองคท์ รงอุม้
พระโอรสและพระธดิ า ทรงพระดาเนินไปสมู่ รรคาเบอ้ื งหน้า

พระเวสสนั ดรประทานมา้ เทียมรถแกพ่ ราหมท์ ่มี าทลู ขอ

กณั ฑท์ ่ี ๔ วนประเวศน์

พระเวสสนั ดร พระนางมทั รี และสองพระกุมาร เสดจ็ โดยพระบาท
เป็นระยะทางถงึ ๓๐ โยชน์ จงึ ลุมาถงึ ตลุ นคร แคว้นเจตราษฎร์
ดว้ ยพระบารมเี ทวดาจงึ ทรงยน่ ระยะทาง ใหเ้ สดจ็ ถงึ ตวั เมอื ง
ภายในเวลาเพยี งวนั เดยี ว ทงั้ สพ่ี ระองคไ์ ดป้ ระทบั แรมทแ่ี ควน้ เจตราษฎรน์ ้ี

เมื่อกษตั ริยเ์ จตราษฎร์ ทรงทราบ ได้กราบทูลขอถวายความ
อนุเคราะหท์ ุกประการ ทงั้ เชิญเสดจ็ เสวยราชสมบตั ิแทน
พระองค์ แต่พระเวสสนั ดรมิทรงรบั ด้วยผิดพระประสงค์

ทรงขอเพยี งใหช้ ท้ี างไปเขาวงกต สถานทท่ี พ่ี ระองคต์ งั้ พระทยั มนั่ จะประทบั
รกั ษาพระจรยิ วตั รของนกั พรตโดยเครง่ ครดั สบื ไป

กษตั รยิ เ์ จตราษฎร์ สดุ ทจ่ี ะโน้มน้าวพระทยั พระเวสสนั ดรได้ จาตอ้ งทา
ตามพระประสงค์ ทรงทาไดเ้ พยี งตามสง่ เสดจ็ จนสุดแดนแควน้ เจตราษฎร์

และทรงให้พรานเจตบตุ ร ถวายงานเป็นผพู้ ิทกั ษ์ระวงั ระไว มิให้
ภยนั ตรายใดใดแผว้ พาน และมิให้สิ่งใดหรอื ใครเข้าไปรบกวน
ความสงบได้

ณ เขาวงกต ทงั้ ๔ พระองคท์ รงประทบั ในพระอาศรม

ที่พระอินทรเทพ ทรงบญั ชาให้พระวิษณุกรรมเทพบตุ ร เนรมิตไว้ให้
พรอ้ มด้วยเครือ่ งบรรพชิต บริขารครบถว้ น พระเวสสนั ดรประทบั ในพระ
อาศรมหน่ึงโดยลาพงั พระนางมทั รกี บั สองพระกุมารประทบั พกั อกี

พระอาศรมหน่ึง ทงั้ สี่พระองคท์ รงผนวชเป็นพระฤาษี ต่างพระองค์

ต่างทรงรกั ษาพระจรยิ วตั รของผถู้ อื บวชโดยเครง่ ครดั สมดงั่ พระหฤทยั ตงั้ มนั่
ทุกประการ

กัณฑ์ที่ ๕ ชูชก

ในละแวกหม่บู า้ นทุนวิฐ แคว้นกลิงคราษฏร์

มชี ชู ก พราหมณ์เขญ็ ใจเทย่ี วขอทานเขากนิ เมอ่ื เกบ็ เงนิ ไดม้ ากถงึ

๑๐๐ กษาปณ์ กน็ าไปฝากเพอ่ื นพราหมณ์ผวั เมยี คหู่ น่ึงไว้ แล้วเทย่ี วตระเวน
ขอทานต่อไป แต่ทวา่ ชชู กหายไปนาน จนพราหมณ์ผวั เมยี คดิ วา่
พราหมณ์ชชู กไมก่ ลบั มาแลว้ ประกอบกบั เกดิ ขดั สนยากจนลง

จงึ ชวนกนั ใชเ้ งนิ ของชชู กกนั หมด เมื่อชชู กกลบั มาทวงเงินกไ็ ม่มีเงิน
จะคืนให้จึงยกนางอมิตตดาเพื่อใช้หนี้แทน

ชชู กไดน้ างอมติ ตดาเป็นเมยี นางอมติ ตดาน้ีนอกจากจะเป็นลกู ทด่ี ี
คอื กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ทดแทนพระคณุ โดยเป็นของชชู กแลว้ ยงั เป็นเมยี
ทป่ี ระเสรฐิ แมช้ ชู กจะแกค่ ราวป่ ู นางกป็ รนนิบตั ิชชู กเป็นอย่างดี
มิได้ขาดตกบกพรอ่ ง ทาให้พราหมณ์หนุ่มในละแวกนัน้ ไมไ่ ด้พอใจ
นางพราหมณีภรรยาของพวกตน ต่างไปตอ่ วา่ ดา่ ทอทบุ ตภี รรยาของตน
นางพราหมณที งั้ หลายโกรธแคน้ จงึ ไปรมุ ขบั ไล่ และดา่ วา่ นางอมติ ตดา
อยา่ งรุนแรง

นางอมิตตดาทงั้ เสียใจและอบั อายจนสดุ จะทน

จงึ รอ้ งบอกชชู กวา่ จะไมท่ างานรบั ใชส้ ามอี กี
ชชู กขอทางานแทน นางกย็ อมไมไ่ ด้
ดว้ ยเทอื กเถาเหลา่ กอของนางไมเ่ คยใชส้ ามตี า่ งทาส

ดว้ ยเทพยดาฟ้าดนิ จะทรงใหก้ ารบาเพญ็ ทานบารมขี องพระเวสสนั ดร

เพม่ิ พนู ขน้ึ อกี เทพยดาจงึ ดลใจให้นางอมิตตดารเู้ รอื่ งของพระ
เวสสนั ดรและคิดขอสองพระกมุ ารมาเป็นข้ารบั ใช้
โดยนางแนะชชู กไปขอสองพระกมุ าร ชชู กจาใจจากนางเดนิ ทาง

ไปตามหาพระเวสสนั ดร จนกระทงั่ ไปถงึ เขาวงกต

ดว้ ยเทพยดาดลใจใหห้ ลงทางไป ชูชกพบพรานเจตบตุ รเพราะใช้
อบุ ายลวงล่อจนพรานเจตบตุ รหลงเชื่อว่าเป็นผถู้ ือพระราชสาสน์
ของพระเจ้ากรงุ สญั ชยั มากราบทลู เชญิ ทงั้ สพ่ี ระองคเ์ สดจ็ กลบั กรงุ สพี ี

พรานเจตบุตรจงึ ตอ้ นรบั ชชู กเตม็ ท่ี ทงั้ เตรยี มเสบยี งและเตรยี มชท้ี าง
ไปสพู่ ระอาศรมพระเวสสนั ดรแต่โดยดี

พระนางเทพผุ

พราหมณเ์ ฒา่ ชูชกและนางอมิตตดา

กัณฑท์ ี่ ๖ จุลพน

พรานเจตบตุ ร ซง่ึ ไดร้ บั คาสงั่ จากกษตั รยิ เ์ จตราษฏร์ ใหท้ าหน้าท่ี

เป็นนายดา่ นประตปู ่า คอยหา้ มมใิ หผ้ ใู้ ดไปพบกษตั รยิ ท์ งั้ สพ่ี ระองค์
เวน้ แตร่ าชทตู เทา่ นนั้ รไู้ มท่ นั เล่หเ์ หลย่ี มของชชู ก จงึ หลงเช่อื ใหท้ พ่ี กั อาศยั
และเลย้ี งดจู นอม่ิ หนาสาราญ

ครนั้ รงุ่ เชา้ กจ็ ดั เตรยี มเสบยี งใหช้ ชู ก พรอ้ มทงั้ นาชชู กไปยงั ตน้ ทางทจ่ี ะ
ไปยงั เขาวงกตและชบ้ี อกเสน้ ทางทจ่ี ะตอ้ งผา่ นวา่ ตอ้ งผา่ นเขาคนั ทมาทน์
เขาอญั ชนั เดนิ ตอ่ ไปอกี สกั ครจู่ ะถงึ สวนอมั พวนั ใหญ่ คอื ป่ามะมว่ ง ถดั ไป
เป็นป่าตาล ป่ามะพรา้ วกบั ตน้ แป้ง

พรานเจตบตุ ร ยงั ได้แนะทางที่จะไปยงั อาศรมของ
พระอจั จตุ ฤาษี เพอ่ื ใหช้ ชู กถามถงึ หนทางทจ่ี ะไปยงั พระอาศรม

ของพระเวสสนั ดร

กณั ฑ์ท่ี ๗ มหาพน

ชชู กเดินทางผา่ นสถานท่ีสาคญั ๆ ตามท่ีพรานเจตบตุ รบอก
จนกระทงั ่ มาถึงอาศรมของอจั จตุ ฤาษี จงึ สอบถามทอ่ี ยขู่ องพระ

เวสสนั ดร พระอจั จตุ ฤาษเี หน็ ทา่ ทแี ละพฤตกิ รรมของชชู กครงั้ แรกกล็ งั เล
กลวั วา่ ชชู กจะมาขอพระชาลี พระกณั หา ไปเป็นทาสหรอื ไมก่ ข็ อพระนางมทั รี
จงึ ไมบ่ อกทางชชู ก แกต้ วั ดว้ ยมธรุ สวาจา ยกเหตุผลวา่ จะมาเทย่ี วขอใหเ้ สอ่ื ม
เสยี พงศพ์ ราหมณ์ทาไม

ชชู กจึงกล่าวตอบว่า การมาครงั้ นี้เพื่อเยี่ยมเยียนพระ
เวสสนั ดรจริงๆ ขอให้ได้เหน็ จะได้เป็นกศุ ล ทงั้ ยงั อา้ งว่าตงั้ แต่พระ

เวสสนั ดรจากเมอื งมา ตนยงั ไมไ่ ดพ้ บพระเวสสนั ดรเลย ทาใหพ้ ระอจั จตุ ฤาษี
ใจออ่ น หลงเชอ่ื วา่ ชชู กมาดว้ ยเจตนาดี เมอ่ื เหน็ วา่ พระอจั จตุ ฤาษใี จออ่ น
หลงเชอ่ื แลว้ ชชู กจงึ ขอคา้ งแรมทอ่ี าศรมหน่ึงคนื

รงุ่ ขนึ้ พระอจั จตุ ฤาษีจดั หาผลไมใ้ ห้และบอกทางไปพระ
อาศรมของพระเวสสนั ดรอย่างละเอียด ชชู กจดจาคาแนะนาเสน้ ทาง

ไว้ แลว้ อาลามงุ่ หน้าเดนิ ทางไปสพู่ ระอาศรมของพระเวสสนั ดร

พระนางเทพผุ

ชูชกถามทางท่จี ะไปหาพระเวสสนั ดรจากอจั จุตฤาษี

กณั ฑท์ ี่ ๘ กมุ าร

ชชู กเดินทางไปยงั อาศรมพระเวสสนั ดรในเวลาจวนคา่

แตไ่ มค่ ดิ จะเขา้ เฝ้าทลู ขอสองพระกุมารในเวลานนั้ ดว้ ยเกรงวา่ พระนางมทั รี
จะขดั ขวางตามวสิ ยั ผเู้ ป็นแม่ รอใหพ้ ระนางมทั รเี สดจ็ ไปหาผลไม้ และพระ
เวสสนั ดรประทบั อยโู่ ดยลาพงั ในเวลารงุ่ ขน้ึ จงึ คอ่ ยเขา้ ไปขอ

ในคืนนัน้ พระนางมทั รีทรงพระสบุ ิน ดว้ ยเทวดามาบอกเหตุ

วา่ มบี รุ ษุ รา่ งกายกายา ผวิ ดา ถอื ดาบสองมอื พงั ประตูอาศรมเขา้ ไป
ฉุดกระชากพระนาง ควกั พระเนตร ตดั พระพาหาสน้ิ ทงั้ ซา้ ยขวา
ทา้ ยสดุ ผา่ พระอุระ ควกั ดวงพระหทยั แลว้ หนไี ป

พระนางทรงตระหนักดีว่าทรงฝันรา้ ย จึงกงั วลพระทยั ยิ่งนักและไม่
วางพระทยั แมพ้ ระเวสสนั ดรจะทรงทานายเลย่ี งไปวา่ เป็นธาตุวปิ รติ และ
ทรงปลอบพระนางใหท้ รงหายหวาดกลวั และคลายกงั วล แตก่ ระนนั้ พระ
เวสสนั ดรกท็ ราบดวี า่ จะมผี มู้ าขอพระโอรสและพระธดิ าทงั้ สอง

ครนั้ รงุ่ เช้า พระนางกย็ งั คงเสดจ็ ไปหาผลไม้ ดงั เช่นท่ีทรง
ปฏิบตั ิทกุ วนั ฝ่ายชชู กสบโอกาสดงั คดิ จงึ เรง่ เขา้ เฝ้าพระเวสสนั ดร

แลว้ ทลู ขอสองพระกุมาร แมพ้ ระเวสสนั ดรจะทรงอาลยั พระโอรสพระธดิ า
เพยี งใด กต็ อ้ งตดั พระทยั เพอ่ื พระสมั มาสมั โพธญิ าณ อนั จะยงั ประโยชน์สขุ
ใหแ้ ก่มวลมนุษย์ ยง่ิ กวา่ สขุ ของพระองคเ์ อง

ทงั้ สองพระกมุ ารต่างพากนั หนีไปหลบในสระบวั ก่อนที่พระ
เวสสนั ดรจะมาตามหา จงึ เข้าพระทยั ในเหตผุ ลของพระบิดา

แลว้ ยอมเสดจ็ ไปกบั ชชู ก ทงั้ สามพระองคต์ อ้ งทรงกลนั้ อาลยั พระเวสสนั ดร
ตอ้ งสะกดพระโทสะ ดว้ ยชชู กลงมอื เฆย่ี นตสี องพระกุมารตงั้ แต่ยงั ไมท่ นั พน้
พระอาศรม

ก่อนจะทรงให้สองพระกมุ ารกบั ชชู กไป ได้ทรงตงั้ ค่าตวั ของ
สองกมุ ารไวว้ า่ หากมผี ใู้ ดตอ้ งการไถ่ตวั สองพระกุมารใหพ้ น้ ทาส พระชาลี

นนั้ ทรงตงั้ ไวพ้ นั ตาลงึ ทอง พระกณั หาเป็นหญงิ นอกจากทรพั ยพ์ นั ตาลงึ ทอง
แลว้ ยงั ตอ้ งประกอบดว้ ยขา้ ทาสชายหญงิ ชา้ ง มา้ โคคาวี และโคอศุภราชอกี
อยา่ งละรอ้ ย

ระหวา่ งทางชาลเี คารพการตดั สนิ พระทยั ของพระเวสสนั ดร แต่กณั หาได้
รอ้ งไหค้ ร่าครวญตดั พอ้ พระบดิ าและขออยา่ ใหเ้ กดิ เป็นลกู พระเวสสนั ดรอกี

พระเวสสนั ดรตามหากัณหาและชาลที ี่หลบอย่ใู นสระบวั

กัณฑ์ที่ ๙ มัทรี

เมื่อชชู ก พาสองพระกมุ ารไปแล้ว พระอนิ ทรเทพทรงเกรงวา่

พระนางมทั รี จะทรงเสดจ็ กลบั จากป่าเรว็ กวา่ ปกติ ดว้ ยความกงั วล
ทท่ี รงฝันรา้ ย ประกอบกบั พบลางรา้ ยตา่ ง ๆ นานาในป่าทว่ี ปิ รติ ไป
และจะทาใหพ้ ระนางจะเสดจ็ ตามสองพระกุมารทนั พระอนิ ทรจ์ งึ ทรงบญั ชา

ให้เทพยดาสามองค์ แปลงกายเป็นสตั วร์ า้ ยท่ีน่ากลวั
อนั ได้แก่ เสือโครง่ เสือเหลือง และราชสีห์ นอนขวางทาง

เสดจ็ กลบั พระอาศรม จนค่าจงึ หลกี ทางใหพ้ ระนาง

ครนั้ พระนางมทั รี เสดจ็ กลบั ถงึ พระอาศรม
ไม่ทรงเหน็ สองพระกมุ าร ทรงตามหาไมพ่ บ

กก็ นั แสงออ้ นวอนทลู ถามพระเวสสนั ดร ถงึ สองพระกุมาร
พระเวสสนั ดรไมท่ รงตอบและทรงแกลง้ กลา่ วตาหนิ
ทพ่ี ระนางทรงกลบั มดื ค่าคดิ วา่ พระนางมทั รมี สี มั พนั ธก์ บั ชายอน่ื
ใหพ้ ระนางเจบ็ พระทยั จะไดค้ ลายทุกขโ์ ศกถงึ สองพระกุมาร

แมพ้ ระนางจะทรงอ้อนวอนสกั เท่าใดกไ็ มท่ รงตอบ จนพระนาง

น้อยพระทยั ทรงออกติดตามพระโอรสพระธิดาทงั้ ราตรี
ลรุ งุ่ อรณุ วนั ใหม่ พระนางมทั รี จงึ เสดจ็ กลบั พระอาศรมดว้ ยความอดิ โรย
อ่อนพระทยั อ่อนลา้ พระกาลงั ถงึ กบั ทรงสลบไป

เมอ่ื พระเวสสนั ดรทรงแกไ้ ขใหท้ รงฟ้ืนแลว้ จงึ ทรงบอกความจรงิ วา่
ไดป้ ระทานพระโอรสพระธดิ าใหช้ ชู กไปแลว้ ทรงขอใหพ้ ระนางอนุโมทนากบั
ปิยบุตรทาน ดว้ ย อนั จะสง่ ผลใหพ้ ระองคเ์ สดจ็ สพู่ ระสมั มาสมั โพธญิ าณ

พระนางมทั รีเม่อื ทรงทราบความจริงกท็ รงบรรเทาโศก
และทรงอนุโมทนาบตุ รทานในครงั้ นี้ด้วย จนบรรดาเทวดานางฟ้า

ตา่ งมาโปรยปรายทพิ ยบุฝาสรรเสรญิ แก่พระนาง

พญาพาฬมฤคราชอนั เป็นเทวดาจาแลงกายมาขวางพระนางมัทรี

กณั ฑ์ที่ ๑๐ สกั บรรพ

เมื่อพระเวสสนั ดรประทานสองพระกมุ ารให้ชชู กไปแล้ว

พระอนิ ทรเทพทรงดารวิ า่ แมน้ มผี มู้ าทลู ขอพระนางมทั รี พระเวสสนั ดรกจ็ ะ

ทรงยกใหอ้ กี จะทาใหพ้ ระเวสสนั ดรขาดผปู้ ฏบิ ตั ดิ แู ล พระอินทรจ์ ึงทรง
นิรมิตองคเ์ ป็นพราหมณ์แก่เข้าไปทูลขอพระนางมทั รี

และเป็นดงั ทท่ี รงคาด พระเวสสนั ดรยกพระนางมทั รใี หแ้ กพ่ รามหณ์จาแลง
เมอ่ื พราหมณ์จาแลงรบั พระนางมทั รมี าแลว้ จงึ กลบั รา่ งเป็นพระอนิ ทร์

จากนนั้ ไดถ้ วายพระนางคนื พรอ้ มประทานพร ๘ ประการ ตามทพ่ี ระ
เวสสนั ดรทรงแสดงพระประสงค์

พร ๘ ประการที่พระอินทรป์ ระทานให้แก่พระเวสสนั ดร

๑. ใหพ้ ระบดิ าทรงรบั พระองค์ กลบั ไปทรงครองราชยส์ มบตั ดิ งั เดมิ
๒. ใหพ้ ระองคม์ พี ระกรุณาและพระปัญญาทจ่ี ะไมต่ อ้ งเขน่ ฆา่ ผมู้ ที ุจรติ
๓. ใหพ้ ระองคท์ รงกอปรดว้ ยพระเมตตาและพระอานาจเป็นทพ่ี ง่ึ และเป็นทร่ี กั
๔. ใหพ้ ระองคท์ รงพอพระทยั ตงั้ มนั่ อยแู่ ต่พระชายาพระองคเ์ ดยี ว
๕. ใหพ้ ระโอรสไดป้ กครองแผน่ ดนิ ทรงอานาจดว้ ยธรรมปฏบิ ตั ิ
๖. ใหเ้ กดิ ภกั ษาหารมากเพยี งพอทจ่ี ะบรจิ าคเป็นทานมไิ ดข้ าด
๗. ใหม้ ที รพั ยส์ มบตั เิ ป็นเครอ่ื งอดุ หนุนเป็นเครอ่ื งไทยธรรมทานการกุศล
ของพระองคม์ แี ตเ่ พม่ิ พนู มริ หู้ มดสน้ิ เชน่ เดยี วกบั น้าพระทยั ในทางกุศลของ
พระองค์
๘. เมอ่ื พระองคส์ น้ิ พระชนมไ์ ป ขอใหบ้ งั เกดิ ในสวรรคช์ นั้ สงู มพี ระบารมี
และมมิ วี นั เสอ่ื มถอยลดลงจากพระบารมที ท่ี รงบาเพญ็

พระอนิ ทรจ์ าแลงกายมาทลู ขอพระนางมัทรจี ากพระเวสสนั ดร

กัณฑท์ ี่ ๑๑ มหาราช

ชชู กตงั้ ใจพาสองพระกมุ ารกลบั ไปหานางอมิตตดา ที่เมือง
กลิงคราษฎร์ แต่เทพยดาดลใจให้ชชู กเดินทางผิด กลายเป็น

เดนิ ทางเขา้ สกู่ รงุ สพี ขี องพระเจา้ กรงุ สญั ชยั
ฝ่ายพระเจา้ กรงุ สญั ชยั คนื กอ่ นทจ่ี ะไดพ้ บสองพระกุมารไดท้ รงพระสบุ นิ

นิมติ วา่ มบี ุรษุ รปู รา่ งน่าเกลยี ดน่ากลวั นาดอกบวั สองดอกมาถวาย
ซง่ึ โหรหลวงทานายวา่ จะมพี ระญาตใิ กลช้ ดิ ทพ่ี ลดั พรากไปกลบั สู่พระนคร

รงุ่ ขน้ึ ชชู กกม็ โี อกาสนาสองพระกุมารเขา้ เฝ้าพระเจา้ กรงุ สญั ชยั และ
พระนางผสุ ดี ทงั้ สองพระองคด์ พี ระทยั ยง่ิ นกั พระราชทานส่ิงของไถ่องค์
พระนัดดาทงั้ สองตามท่ีพระเวสสนั ดรทรงกาหนดไว้และทรงให้จดั เลีย้ ง
ชชู ก ด้วยอาหารคาวหวานมากมาย

ฝ่ ายชชู กบริโภคเกินขนาดจนไฟธาตไุ มอ่ าจเผาผลาญได้
อาหารไมย่ ่อย สดุ ท้ายกถ็ ึงแก่จกุ ตาย ทรพั ยท์ ไ่ี ดร้ บั กถ็ ูกรบิ เขา้ คลงั

หลวง หลงั จากทป่ี ระกาศใหว้ งศาคณาญาตใิ หม้ ารบั แลว้ ไมม่ ผี ใู้ ดมารบั

หลงั จากท่ีพระเจ้ากรงุ สญั ชยั ทรงสดบั เรอ่ื งราวจากพระนัดดา
ทงั้ สองที่ต้องระกาลาบากกบั พระชนกชนนี พระเจา้ กรงุ สญั ชยั กท็ รง

เตรยี มยกพยุหยาตราไปรบั พระเวสสนั ดรกบั พระนางมทั รกี ลบั พระนคร

ในวนั รบั เสดจ็ พราหมณ์ชาวเมอื งกลิงคราษฎร์ ๘ คน นาช้างปัจจยั
นาเคนทรม์ าถวายคืน จงึ โปรดใหพ้ ระชาลที รงชา้ งปัจจยั นาเคนทรน์ าขบวน
สเู่ ขาวงกต

พระเวสสนั ดร พระนางมทั รี พระกณั หาและพระชาลี

กณั ฑ์ท่ี ๑๒ ฉกษัตรยิ ์

พระชาลีทรงช้างปัจจยั นาเคนทรเ์ ป็นทพั หน้า เสดจ็ ถงึ เขาวงกต

ก่อนเพอ่ื เตรยี มรบั เสดจ็ พระเจา้ กรงุ สญั ชยั เมอ่ื พระเจา้ กรงุ สญั ชยั เสดจ็ ถงึ เขา
วงกต ทรงพระดารวิ า่ หากเสดจ็ เขา้ ไปพรอ้ มกนั ทุกพระองค์ จะเป็นเหตุให้
ทุกขโ์ ศกสาหสั จนระงบั มไิ ด้ จงึ เสดจ็ เขา้ สพู่ ระอาศรมแต่พระองคเ์ ดยี วกอ่ น
พอทเุ ลาโศกลงบา้ งแลว้ จงึ จะใหพ้ ระนางผสุ ดแี ละสองพระกุมาร ตามเสดจ็
เขา้ ไป

แมก้ ระนัน้ เม่อื ทงั้ สามพระองคเ์ สดจ็ เข้าไปในพระอาศรม

พระนางมทั รซี ง่ึ มอิ าจทรงหวงั ไดเ้ ลยวา่ จะไดพ้ บสองพระกุมารอกี
ครนั้ ไดท้ รงพบกนั จงึ ต่างกนั แสงพริ ร้ี าพนั ทงั้ เศรา้ โศรกและยนิ ดี
จนขม่ พระทยั ไวม้ ไิ ด้ กส็ ลบสน้ิ สตสิ มปฤดี ณ ทน่ี นั้ ทงั้ สามพระองค์

ฝ่ายพระเจา้ กรุงสญั ชยั พระนางผสุ ดแี ละพระเวสสนั ดร ทอดพระเนตรเหน็
เชน่ นนั้ ทรงกลนั้ โศกมไิ ด้ กนั แสงแลว้ สลบสน้ิ สตสิ มปฤดไี ปเช่นกนั
เหล่าพระสนมและขา้ ราชบรพิ ารกล็ ว้ นโศกศลั ยล์ ม้ สลบตามกนั ไป

เหตคุ รงั้ นัน้ ทาให้แผน่ พสธุ าไหวทวั่ ทงั้ พืน้ พิภพ
พระอนิ ทรท์ รงทราบจงึ ทรงแกเ้ หตุวกิ ฤตทิ อ่ี ุบตั ขิ น้ึ ทรงดลบนั ดาลให้
“ฝนโบกขรพรรษ” ตกลงมา ณ ที่นัน้ กษตั รยิ ท์ งั้ ๖ พระองค์ และผคู้ น

ทงั้ หลายต่างฟ้ืนคนื สตโิ ดยทวั่ กนั
นนั่ เป็นฝนโบกขรพรรษ ทเ่ี คยตกมาสมยั กอ่ นพุทธกาล

ทส่ี มเดจ็ พระสมั มาสมั พุทธเจา้ ตรสั เลา่ โปรดพระอรหนั ตสาวก
อนั เป็นพระพทุ ธปรารภเรอ่ื งพระเวสสนั ดร

กณั ฑท์ ี่ ๑๓

เมอ่ื เหตทุ งั้ ปวงคล่ีคลายลง ต่างพระองคต์ ่างสงบพระทยั ได้
แล้ว พระเจา้ กรงุ สญั ชยั จงึ ขอให้พระเวสสนั ดร เสดจ็ กลบั ไป
ปกครองบา้ นเมืองดงั เดิม เหล่าขา้ ราชบรพิ ารและเหลา่ ชาวเมอื งทต่ี าม

เสดจ็ พระเจา้ กรงุ สญั ชยั มาต่างกก็ ราบทลู วงิ วอนรอ้ งขอใหพ้ ระเวสสนั ดร
ทรงอภยั ใหแ้ ละกลบั ไปครองสริ ริ าชสมบตั ดิ งั เดมิ

พระเวสสนั ดรทรงใครค่ รวญไตรต่ รองเหตทุ ่ีควรจะเป็น

และทรงคานึงถงึ พระพรทท่ี รงขอจากพระอนิ ทรเทพวา่ ใหพ้ ระราชบดิ ารบั
กลบั ไปครองสริ ริ าชสมบตั ิ จงึ ตดั สนิ พระทยั เสดจ็ กลบั พระนคร
กษตั รยิ ท์ งั้ ๖ พระองค์ เสดจ็ กลบั กรงุ สพิ ี พรอ้ มขา้ ราชบรพิ าร
และผตู้ ามเสดจ็ ท่ามกลางเสยี งโหร่ อ้ งตอ้ นรบั ดว้ ยความปีตยิ นิ ดี
ของชาวเมอื งทร่ี กั เคารพเทดิ ทนู พระองคเ์ ป็นอยา่ งยงิ่

อานิสงส์ของการฟังเทศน์

สาหรบั ผทู้ ่ีได้ฟังเทศน์มหาชาติทงั้ ๑๓ กณั ฑ์
ครบภายในวนั เดียว มคี วามเชอ่ื วา่ จะทาใหเ้ กดิ ความสาเรจ็ ทุก
ประการ และมอี านิสงส์ ดงั น้ี
๑. เมอ่ื ตายจากโลกน้ไี ปแลว้ จะไดพ้ บพระศรอี ารยิ พ์ ทุ ธเจา้ ในอนาคต
๒. เมอ่ื ดบั ขนั ธจ์ ะไปเกดิ ในสคุ ตโิ ลกสวรรค์ เสวยทพิ ยสมบตั อิ นั
มโหฬาร
๓. จกั ไมต่ กนรกเมอ่ื ตายไปแลว้
๔. เมอ่ื ถงึ พทุ ธกาลพระศรอี ารยิ พ์ ทุ ธเจา้ เทพบุตร เทพธดิ า
จะไดจ้ ุตลิ งไปเกดิ เป็นมนุษย์
๕. ครนั้ ไดฟ้ ังพระธรรมเทศนากจ็ กั ไดบ้ รรลมุ รรคผลนพิ พาน
เป็นพระอรยิ บุคคลในพระพทุ ธศาสนา

ปกิณกะ สาระมหาชาติ

การที่เรียกมหาเวสสนั ดรชาดก ว่ามหาชาติ นนั้

เน่ืองดว้ ยเวสสนั ดรชาดกน้ี เป็นเรอ่ื งใหญ่และยดื ยาว ทา่ นจงึ จดั รวมไว้
ในมหานิบาตชิ าดก คอื รวมเรอ่ื งใหญ่ ๑๐ เรอ่ื ง เรยี กวา่ ทศชาติ
แต่เหตุทอ่ี กี ๙ เรอ่ื งไมเ่ รยี กวา่ มหาชาตเิ ชน่ เดยี วกบั เวสสนั ดรชาดกนนั้
ขอ้ น้ีสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ
ทรงอธบิ ายวา่

“พทุ ธศาสนิกชนชาวไทย ตลอดจนประเทศใกล้เคียง นับ
ถือกนั มาแต่โบราณว่า เรอื่ งมหาเวสสนั ดรชาดก สาคญั กว่า
ชาดกอื่น ๆ ด้วยปรากฏบารมีของพระโพธิสตั วบ์ ริบรู ณ์ ใน
เรอ่ื งมหาเวสสนั ดรชาดก ทงั้ ๑๐ อย่าง ดงั นัน้

จงึ เรียกพระชาติสาคญั นี้ว่ามหาชาติ”


Click to View FlipBook Version