REVOLUTION OF UK
ก า ร ป ฏิ วั ติ ข อ ง อั ง ก ฤ ษ
Timeline
ค.ศ.1215 ค.ศ.1337-1453
กฎบัตร MAGNA CARTA สงคราม 100 ปี
MAGNA CARTA LIBERTATUM HUNDRED YEARS' WAR
ค.ศ.1642–1651 ค.ศ.1688
สงครามกลางเมือง ก า ร ป ฏิ วั ติ อั น รุ่ ง โ ร จ น์
THE ENGLISH CIVIL WAR THE GLORIOUS REVOLUTION
ค.ศ.1689
พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ว่ า ด้ ว ย สิ ท ธิ
BILL OF RIGHTS
TIMELINE OF UNITED KINGDOM
Magna Carta Libertatum ค.ศ.1215
กฎบัตร Magna Carta
กฎบัตรแมกนา คาร์ตา หรืออีกชื่อหนึ่งว่า 'มหากฎบัตร' (The Great Charter) กฎบัตรที่ได้ชื่อว่า
เป็น 'ต้นแบบรัฐธรรมนูญ' ถูกลงนามเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ค.ศ.1215 ริมฝั่ งแม่น้ำเทมส์ ทำหน้าที่เป็น
ข้อตกลงระหว่างพระเจ้าจอห์นแห่งอังกฤษและขุนนางชั้นสูงหลายคนซึ่งไม่สามารถทนต่อพฤติกรรมใน
การใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรมและการขูดรีดภาษีจากประชาชนของตัวพระเจ้าจอห์นได้ จึงยื่นข้อเสนอ
ให้เกิดการปฏิรูปการใช้อำนาจของพระมหากษัตริย์และขอให้อำนาจของกษัตริย์อยู่ภายใต้กฎหมาย
หลังจากนั้น กฎบัตรฉบับนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์และจารีตทางการเมืองการปกครอง
3 ข้อต้องรู้เกี่ยวกับแมกนา คาร์ตา
1. แมกนา คาร์ตา ระบุถึงสิทธิขั้นพื้นฐานโดยมีหลักการว่า
ไม่มีผู้ใดอยู่เหนือกฎหมาย แม้แต่กษัตริย์ก็ตาม
2. ในกฎบัตรระบุถึงสิทธิในการได้รับการไต่สวนคดี
อย่างยุติธรรมและจำกัด
“การต้องจ่ายภาษีโดยไม่มีสิทธิออกเสียงในการปกครอง”
(Taxation without representation)
3. แมกนา คาร์ตา เป็นต้นแบบของเอกสารเกี่ยวกับ
ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนหลายฉบับ รวมถึง
รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกาและปฏิญญาสากล
ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
Hundred Years' War ค.ศ.1337-1453
การสู้รบอันยาวนานระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศสเกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1337 ถึงปี
ค.ศ.1453 กินระยะเวลากว่าร้อยปีเริ่มจากการอ้างสิทธิ์ของกษัตริย์อังกฤษเหนือบัลลังก์
ฝรั่งเศส สงครามร้อยปีนับเป็นสงครามที่มีชื่อเสียงมากที่สุดสงครามหนึ่งในประวัติศาสตร์
ของโลก ยุคกลางซึ่งทำการสู้รบกันตั้งแต่ปี 1337 จนถึงปี 1453 เป็นระยะเวลารวมกันทั้ง
สิ้น 116 ปี (และเป็นที่มาของชื่อสงคราม)
สงคราม 100 ปี
ประเด็นความขัดเเย้ง
ขัดเเย้งระหว่างสองราชตระกูลคือราชวงศ์วาลัวส์และราชวงศ์อองชู เพื่อต้องการชิง
ราชบัลลังก์ฝรั่งเศสที่ว่างลง เพราะผู้สืบเชื้อสายของราชวงศ์กาเปเตียง คือ พระเจ้าฟิลลิปที่ 4
ไม่มีทายาท มีแต่หลานที่ไปสมรสกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ ต่อมามีโอรสคือพระเจ้า
เอ็ดเวิร์ดที่ 3 ซึ่งได้ปกครองอังกฤษต่อราชวงศ์แพลนทาเจเน็ทโดยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 อ้างสิทธิ
ในราชบัลลังก์ฝรั่งเศสและอังกฤษ แต่ขุนนางฝรั่งเศสไม่ยอมรับจึงสนับสนุนพระเจ้าฟิลลิปที่ 6
ซึ่งเป็นหลานของพระเจ้าฟิลลิปที่ 4 ที่มาจากราชวงศ์วาลัวส์ขึ้นอ้างสิทธิในราชบัลลังก์ฝรั่งเศส
Hundred Years' War ค.ศ.1337-1453
สงคราม 100 ปี
สาเหตุ:สงครามร้อยปี
1.ความขัดเเย้งในเรื่องดินแดนระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส
2.สิทธิในราชบัลลังก์ฝรั่งเศสเนื่องจากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่3มีพระราชมารดาเป็นเจ้าหญิง
ฝรั่งเศสแต่ขุนนางฝรั่งเศสกลับเลือกพระเจ้าฟิลิปที่ 6 เป็นกษัตริย์
3.อังกฤษต้องการผนวกสกอตแลนด์แต่สกอตแลนด์ได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งเศส
จึงทำให้อังกฤษไม่พอใจ
4.ความขัดเเย้งทางด้านเศรษฐกิจฝรั่งเศสได้พยายามขัดขวางความสัมพันธ์ด้านการพาณิชย์
ระหว่างอังกฤษกับเเคว้นฟลานเดอร์
5.สาเหตุภายในประเทศเนื่องจากกษัตริย์ทั้งสองประเทศกำลังประสบปัญหาการขยายอำนาจ
ของขุนนางจึงต้องใช้สงครามระหว่างประเทศเพื่อดึงดูดความสนใจของประชาชนและขุนนาง
ผลที่ตามมา
- ทำให้อังกฤษสูญเสียดินแดนในการปกครองไปเป็นจำนวนมาก
- กษัตริย์ของอังกฤษได้ถูกจำกัดอำนาจโดยบทบาทของรัฐสภาซึ่ง
ต่อมาได้เป็นรากฐานแนวทางการพัฒนาระบอบสภาของอังกฤษ
(อำนาจของรัฐสภาอังกฤษมีมากขึ้นเพื่อต่อรองกับกษัตริย์)
- ทำให้กษัตริย์อังกฤษหันมาให้ความสำคัญกับกิจการภายในประเทศมากขึ้น
- ขุนนางอ่อนเเอลงจากการเสียชีวิตในสงครามและยากจนลงอันเนื่องจากการความสูญเสียจาก
การทำสงครามของขุนนางส่งผลทำให้กษัตริย์อังกฤษสามารถรวมอำนาจไว้ที่ส่วนกลางได้ง่ายขึ้น
The English Civil War ค.ศ.1642–1651
สงครามกลางเมือง
สงครามกลางเมืองอังกฤษ เป็นสงครามกลางเมือง
ของอังกฤษ , สกอตแลนด์ และ ไอร์แลนด์ ที่ต่อเนื่อง
กันหลายครั้ง ระหว่างฝ่ายรัฐสภาและฝ่ายกษัตริย์นิยม
เป็นการต่อสู้ระหว่างผู้สนับสนุนพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2
และ ผู้สนับสนุนรัฐสภาอีกฝ่ายหนึ่ง
สงครามกลางเมืองจบลง ด้วยชัยชนะของฝ่ายรัฐสภา
ที่ยุทธการวูสเตอร์ (Battle of Worcester)
เมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ.1651
ผลของสงครามกลางเมืองครั้งที่สอง นำไปสู่การ
ปลงพระชนม์ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 และการลี้ภัยของ
พระราชโอรสพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 และการเปลี่ยนระบบ
การปกครองของอังกฤษ จากระบอบพระมหากษัตริย์
เป็นสาธารณรัฐ ระหว่าง ปี ค.ศ.1649 ถึงปี ค.ศ.1653
อังกฤษ:สมัยสาธารณรัฐ โอลิเวอร์ ครอมเวลล์
(OLIVER CROMWELL)
โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ (Oliver Cromwell) สมาชิกรัฐสภา
ซึ่งได้กลายเป็นแม่ทัพเมื่อสงครามกลางเมือง
• ได้จัดตั้งฝึกทหารเป็นกองแรก ในเวลาต่อมาก็เป็นกองทัพ
ไปปราบปรามทหารของกษัตริย์และฝ่ายกษัตริย์นิยมใน
สงครามกลางเมือง
• ในปี ค.ศ.1653 ประเทศอังกฤษประกาศเป็นสาธารณรัฐ
คอมมอนเวลล์ และครอมเวลล์ได้เป็น ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน
หรือ เจ้าผู้พิทักษ์ (Lord Protector)
• ครอมเวลล์ถึงแก่อสัญกรรมค.ศ.1658 และส่งต่ออำนาจแก่
ริชาร์ด(บุตรชาย) แต่เป็นคนไร้สามารถ เลยปกครองได้ 1 ปี
The glorious revolution ค.ศ.1688
การปฏิวัติปี 1688 (Revolution of 1688) เกิดจากนโยบายด้านการศาสนาของ
พระเจ้าเจมส์ที่ 2 หลังปี 1685 ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ผู้นำฝ่ายการเมืองส่วนมากที่ไม่ชอบ
สายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับฝรั่งเศสและการเข้ารีตนิกายคาทอลิกของพระองค์จนทำให้เกิด
การปฏิวัติโค่นล้มราชบัลลังก์โดยสหภาพนักรัฐสภานิยมชาวอังกฤษได้ร่วมกับเจ้าชายวิลเลียม
แห่งออเรนจ์นัสเซา กองทัพเรือเข้ายึดอังกฤษ การปฏิวัติจบลงด้วยความสำเร็จส่งผลให้
เจ้าชายวิลเลียมได้ขึ้นครองราชบัลลังก์อังกฤษเป็นพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 แห่งอังกฤษ
ร่วมกับสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 2 แห่งอังกฤษ ผู้เป็นพระชายาของพระองค์
การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์
ความขัดแย้งถึงจุดแตกหัก!
การเมืองในอังกฤษเกิดความขัดแย้งระหว่าง
พระเจ้าเจมส์ที่ 2 และรัฐสภาเนื่องจากกษัตริย์
ต้องการรวบรวมอำนาจและไม่ยอมรับอำนาจของ
รัฐสภา ความขัดแย้งถึงจุดแตกหัก เมื่อรัฐสภาร่วม
กับประชาชนทำการยึดอำนาจจากกษัตริย์เจมส์ที่ 2
สำเร็จโดยไม่เสียเลือดเสียเนื้อ
The glorious revolution ค.ศ.1688
การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์
สาเหตุ
1. พระเจ้าเจมส์ที่ 2 ต้องการให้อังกฤษปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
คือ การลดอำนาจของรัฐสภา และทำให้กษัตริย์มีอำนาจสูงสุด
2. ความขัดแย้งของสองนิกายระหว่างโรมันคาทอลิกและนิกายโปรเตสแตนต์
ขุนนางและรัฐสภาพวกเขาไม่ต้องการให้อังกฤษกลายเป็นรัฐโรมันคาทอลิก
ผลที่ตามมา
1. การครองบัลลังก์ร่วมของพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 กับ พระนางแมรี
2. สงครามจาโคไบต์ในสกอตแลนด์
3. สงครามวิลเลียมไมท์ในไอร์แลนด์
4. สงครามกับฝรั่งเศส อังกฤษและสกอตแลนด์ เข้ารวมเป็นมหาพันธมิตร
5. พระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิ ค.ศ. 1689
Bill of Rights ค.ศ.1689
พระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิ
เป็นการรับรองสิทธิพื้นฐานของประชาชนของ
ราชอาณาจักร สิทธิดังกล่าวก็ยังถือปฏิบัติอยู่ถึง
ทุกวันนี้และไม่แต่จะมีผลต่อพสกนิกรชาวอังกฤษ
เท่านั้น แต่ยังต่อพสกนิกรภายใต้อาณาจักรที่อยู่
ภายในร่มเครือจักรภพด้วย โดยให้การรับรอง
พสกนิกรแห่งประเทศอังกฤษให้มีสิทธิที่จะทูลเกล้าฯ
ถวายฎีกาต่อพระมหากษัตริย์ และมีสิทธิที่จะชักอาวุธ
เพื่อป้องกันตนเอง นอกจากนี้ยังบัญญัติไว้อีกว่า
พระราชกิจของพระมหากษัตริย์ในอันที่เกี่ยวข้องกับ
ราชการบ้านเมืองต้องได้รับอนุมัติจากรัฐสภาแห่ง
อังกฤษก่อน จึงจะมีผลบริบูรณ์
• กษัตริย์อยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญและรัฐสภามีอำนาจเหมือนกษัตริย์
• กษัตริย์ไม่สามารถใช้อำนาจทำพระราชกิจได้ตามใจต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา
• ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกันในด้านพื้นฐาน
อังกฤษเป็นต้นแบบ การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยได้พัฒนา
มาสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ เมื่อมีการประกาศใช้ Reform Bill
ในปี ค.ศ. 1932 และ ค.ศ. 1967 ซึ่งให้สามัญชนมีสิทธิในการเลือกตั้ง
BILL OF RIGHTS
“พระราชบัญญัติประกาศสิทธิและเสรีภาพของ
พสกนิกรและการสืบราชสันตติวงศ์”
(An Act Declaring the Rights and
Liberties of the Subject and Settling
the Succession of the Crown)
ผลที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย
อังกฤษปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา
และถือได้ว่าเป็นต้นแบบของประเทศที่ใช้ระบบรัฐสภา
ทั่วโลก ประเทศไทยมีรูปแบบการปกครองแบบรัฐสภา
เช่นเดียวกับอังกฤษ คือ มีการใช้ระบบผู้แทน และ
ระบบรัฐสภาคู่ แต่ระบบรัฐสภาที่ใช้อยู่ในสองประเทศนี้
ก็มีความแตกต่างกันอยู่มากในรายละเอียด อันเป็น
ผลมาจากประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมทางการเมือง
และรากฐานทางประเพณี ค่านิยมในสังคม
ผลที่เกิดขึ้นกับมวลมนุษยชาติ
อังกฤษเป็นประเทศแรกที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ทำให้เป็นต้นแบบของทั่วโลก ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
รวมทั้งไทยด้วย และที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ การมีรัฐธรรรมนูญที่
ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร เนื่องจากประเทศอังกฤษมีประวัติศาสตร์
ทางการเมืองการปกครอง ที่มีพัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน
ในที่นี้กล่าวถึงเรื่องราวของกฎหมายรัฐธรรมนูญอังกฤษที่มี
ลักษณะพิเศษ เพื่อทำความเข้าใจและแสดงให้เห็นถึงสภาพทาง
ประวัติศาสตร์และการเมืองการปกครองของอังกฤษ ทำให้อังกฤษ
มีระบบการปกครองที่ได้รับการยอมรับจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก
รัฐสภาอังกฤษและพระมหากษัตริย์ ราว ค.ศ. 1300
ร า ย ชื่ อ ส ม า ชิก
1 . น . ส . ฑิ ต ฐิ ต า แ ซ่เ ตี ย ว ม . 6 . 1 2 เ ล ข ที่ 7
2 . น . ส . นั น ธิญ า
3 . น . ส . ป พิ ช ญ า คำ ช ม ภู ม . 6 . 1 2 เ ล ข ที่ 1 8
4. น.ส.วรรธนภร
5 . น . ส . สุ ป ร ะ วี ณ์ เ ลิ ศ ป ร ะ ก า ย ห ง ส์ ม . 6 . 1 2 เ ล ข ที่ 2 0
ฉิ ม เ จ ริญ ม . 6 . 1 2 เ ล ข ที่ 3 1
ถิ ร ะ กุ ล สิ ท ธิ์ ม . 6 . 1 2 เ ล ข ที่ 3 6