ตอนทีห่ น่ึง ขอ 1 – 12 ตอบถูกไดคะแนนขอละ 4 คะแนน
ไมต อบไดคะแนนขอละ 1 คะแนน ตอบผดิ 0 คะแนน
1. โรงเรยี นแหง หนึ่งมนี กั เรยี น 1,325 คน มนี ักเรียนมาใชสทิ ธอิ์ อกเสยี งเลือกตั้งประธาน
นักเรียน 76 % ของจาํ นวนนกั เรียนทัง้ หมด มีนักเรยี นมาใชสทิ ธก์ิ ค่ี น
ก. 1007 ข. 318
ค. 1000 ง. 325
จ. ไมมขี อใดถกู
2. รานคาแหงหน่งึ ตองขายกางเกงใหไดก ําไร 25 % จงึ ตดิ ราคาไว 550 บาท ถารา นคา
ตอ งการกาํ ไร 10 % รานคาจะตองขายเทา ไร
ก. 440 ข. 484
ค. 444 ง. 500
จ. 605
1
3. ที่ดนิ แปลงหนึง่ เปน รูปสเี่ หลี่ยมผืนผา กวาง 24 เมตร ยาว 30 เมตร ตอ งการทําทางเดินกวา ง
2 เมตรรอบทด่ี ิน โดยใหทางเดนิ อยภู ายในอาณาเขตทดี่ นิ แปลงน้ี ดงั นนั้ ทางเดนิ นีจ้ ะใชเ น้ือทก่ี ่ตี าราง
เมตร
ก. 200 ตารางเมตร ข. 184 ตารางเมตร
ค. 160 ตารางเมตร ง. 132 ตารางเมตร
จ. 120 ตารางเมตร
4. 3(2 3 + 4 1 + A) − 48 = 75 ÷ 15 คา A เทากบั เทาใด
93 12 12
ก. 10 ข. -10
ค. -9 ง. 11
จ. -11
2
5. โรงเรยี นมเี กา อ้ี 630 ตัว นาํ ไปจดั ในหองประชุม 390 ตัว ท่เี หลอื นําไปจดั ในหองอาหาร
เปนกลมุ กลุมละ 6 ตัว จะจัดไดก ่ีกลุม
ก. 100 ข. 70
ค. 60 ง. 50
จ. 40
6. กําหนดตวั เลขชดุ หนงึ่ ดงั นี้ 45, 72, 99, 153 เมื่อหาร ค.ร.น. ของเลขชดุ นี้ ดว ย ห.ร.ม. ของ
เลขชุดนี้ แลวผลหารที่เกดิ ขนึ้ มคี า เทากับเทา ใด
ก. 67,320 ข. 22,440
ค. 7,480 ง. 9,720
จ. 15,147
3
7. จากรปู ทุกแถวแนวตัง้ และทุกแถวแนวนอนมีผลบวกที่เทา กนั ท้ังหมด
จงหาคา ของ x ข. 33 41 33
ก. 31 ง. 39 47
ค. 35 X 37
จ. 43
8. จากรูปเปน รูปก่ีเหลี่ยม และมมี มุ ภายในเปนมุมฉากทง้ั หมดก่ีมุม
ก. 9 เหล่ียม 5 มมุ ฉาก ข. 9 เหลีย่ ม 6 มมุ ฉาก ค. 9 เหลีย่ ม 7 มุมฉาก
ง. 10 เหลยี่ ม 6 มมุ ฉาก จ. 10 เหล่ียม 7 มมุ ฉาก
4
9. จากรูป เสน ตรงท้งั สามพบกนั ทจี่ ดุ A, B และ C หากมุม ABC = 57o และมมุ ACB = 38o
จงหาคา 3x – 94o
ก. 1o ข. 3o A xo 38o C
ค. 188o ง. 94o
จ. 191o
57o
B
10. ส่ีเหล่ยี มจตั ุรัสมพี น้ื ท่ี 144 ตารางเซนติเมตร หากส่เี หลี่ยมผนื ผา มีดานยาวเทา กับดา น
กวา งของส่เี หล่ยี มจัตรุ ัสแตม ีความกวา งเปนคร่งึ หนง่ึ ของดา นยาวของสเี่ หลย่ี มผืนผา
จงหาพนื้ ทขี่ องสี่เหลีย่ มผนื ผา
ก. 144 ข. 100
ค. 72 ง. 50
จ. 36
5
11. จากรปู พกิ ดั ของจดุ Q คอื ขอใด y
ก. (7, 2)
ค. (7, -2) ข. (2, 7) 6
จ. (-2, 7) ง. (2, -7) 3
-6 -3 3 x
-3 6
-6 Q
12. จากรูปเปน รปู สเ่ี หลย่ี มผืนผา 12 ชิน้ นาํ มาเรียงตอ กนั หากเราตอ งการแรเงาเปน 2 ของ
3
3 ของพ้นื ทที่ ง้ั รปู จงหาวาเราตองแรเงารปู สเ่ี หลยี่ มผืนผาทง้ั หมดกร่ี ูป
4
ก. 9 ข. 3
ค. 4 ง. 6
จ. 8
6
ตอนที่สอง ขอ 13 – 24 ตอบถูกไดคะแนนขอละ 6 คะแนน
ไมตอบไดคะแนนขอละ 1.5 คะแนน ตอบผิด 0 คะแนน
13. คา ของ 1 + 1 นอยกวา 2 อยเู ทา ไร
1
1 + 1
1+
2
ก. 0.4 ข. 0.5
ค. 0.6 ง. 0.7
จ. 0.8
14. ลาํ ดับของตัวเลขจาํ นวนหนงึ่ เร่มิ ตน ทเี่ ลขสามตัวแรกคือ 1, 3 และ 8 จาํ นวนตง้ั แตต ัวท่ี 4
เปนตนไปจะเกดิ จากผลบวกของเลขในสามลาํ ดับกอ นหนามาบวกกัน
เชน เลขในลําดบั ที่ 4 คอื 1 + 3 + 8 = 12 และเปนเชน น้ตี อไปเรื่อยๆ
จงหาวา จํานวนท่ี 10 ของลําดบั ตัวเลขชดุ นเี้ ปน เลขใด
ก. 265 ข. 487
ค. 140 ง. 507
จ. 345
7
15. หากพน้ื ทข่ี องส่ีเหลย่ี มจตั รุ ัส ABCD เทา กับ 100 ตารางหนวย และ X, W, Z, Y เปน จุด
อยูบนดา น AB, BC, CD, AD ตามลําดบั ซึง่ ทําให AX = BW = CZ = DY = 4 หนว ย ดงั รปู
จงหาพ้นื ทีข่ องรปู สเี่ หลย่ี มจตั ุรัส WXYZ AX B
ก. 58 ข. 52
ค. 48 ง. 40 W
จ. 36 Z
D C
Y
16. จากรูป เปน รูปส่เี หล่ียมจตั รุ สั ทม่ี คี วามยาวดานละ 7 เซนติเมตร และทบั กนั บางสว นดัง
รปู หากสวนทท่ี ับกันมพี ้ืนทเี่ ทา กับ 16 ตารางเซนตเิ มตร และทบั กนั เปน รูปสเ่ี หลยี่ มจัตรุ สั แลว จงหา
ความยาวรอบรปู ของสว นท่แี รเงาในรปู
ก. 24 ข. 32 7
ค. 40 ง. 42
จ. 50 7
8
17. ในการสอบกลางภาคการศึกษาคร้งั หนงึ่ ของปราโมทย มกี ารสอบวชิ าคณิตศาสตร
วิทยาศาสตร และภาษาไทย หากจาํ นวนคาํ ถามในแตละวชิ าทส่ี อบคอื 50, 40 และ 70 ขอ ตามลําดบั
และแตล ะขอ มคี า 1 คะแนน หากปราโมทยท าํ คะแนนในวชิ าวทิ ยาศาสตรได 70% ของคะแนนเตม็
ทําคะแนนในวิชาภาษาไทยได 50% ของคะแนนเต็ม และทาํ คะแนนรวมของทง้ั สามวิชาได 70% ของ
คะแนนเต็มทั้งสามวิชารวมกนั จงหาวา ปราโมทยทําขอสอบวชิ าคณติ ศาสตรถูกทัง้ หมดกขี่ อ
ก. 45 ข. 35
ค. 39 ง. 49
จ. 29
9
18. ถาตองการทาสีดาํ และสขี าวลงบนแผน กระดาษวงแหวนกลมทีแ่ บง เปน 12 ชองเทาๆกัน
ทุกชอ ง ดังรูป โดยทาสีดาํ 10 ชอ ง และสีขาว 2 ชอ ง แลว จาํ นวนวิธที ี่แตกตา งกนั
ในการทาสมี จี าํ นวนวธิ เี ทากบั ขอ ใด
ก. 3 วิธี ข. 4 วธิ ี
ค. 5 วิธี ง. 6 วิธี
จ. 7 วธิ ี
19. ลกู แกว อยจู ํานวนหน่งึ ทแี่ ตกตา งกันสามสใี นถงั ใบหน่ึง 2 ของลกู แกว ท้งั หมดเปน สี
5
แดง 1 ของลกู แกว ทัง้ หมดเปน สีเขียว ท่ีเหลอื อีก 12 ลูกเปน สีเหลอื ง จงหาวาถงั ใบนีม้ ลี ูกแกว ทัง้ หมด
3
กีล่ ูก
ก. 30 ข. 90
ค. 54 ง. 60
จ. 45
10
20. จากแบบรปู ตอ ไปน้ี รูปที่ 3 มจี ดุ 11 จดุ รปู ท่ี 4 มจี ุด 19 จดุ
รปู ที่ 1 มีจดุ 1 จุด รปู ที่ 2 มีจุด 5 จดุ
จงหาวารูปท่ี 10 จะมีจดุ ทง้ั หมดก่จี ุด ข. 110
ก. 109 ง. 89
ค. 90
จ. 120
11
21. ในเดือนพฤษภาคมของป ค.ศ. 2011 มีวนั อาทิตยห า วนั ในหาวนั นน้ั มสี ามวนั ทีม่ เี ลขวัน
เปน จํานวนค่ี และวนั อาทติ ยส ุดทายของเดอื นนไ้ี มใ ชว ันที่ 31 จงหาวา วันที่ 8 ของเดือนน้ีเปน วันอะไร
ก. วนั เสาร ข. วนั อาทติ ย
ค. วนั จนั ทร ง. วนั องั คาร
จ. วันศกุ ร
12
22. หากเราลากเสน ผานศนู ยก ลาง 4 เสน ทับลงบนวงกลมเต็มวงวงหนง่ึ จะแบง รูปวงกลมวง
น้ไี ดม ากที่สดุ ก่ีสว น
ก. 8 ข. 9
ค. 10 ง. 11
จ. 12
23. หาก 97 =w + 1 1 เม่ือ w, x, y เปน จํานวนเตม็ บวกทกุ จํานวน
19 x+
y
จงหาคาของ w + x + y
ก. 26 ข. 19
ค. 18 ง. 18
จ. 16
13
24. นายขยนั ถกู ลดเงนิ เดือนลง 10 % ของเงนิ เดอื นปกตแิ ตเ ขา ไดร ับโบนสั เพิม่ เปน เงิน 10 %
ของเงนิ เดอื นของเงนิ เดอื นทเี่ ขาไดร บั หากเงนิ เดอื นปกตขิ องเขาคอื 20,000 บาท จงหาวาในเดอื นน้ี
เขาไดร บั เงินรวมเปนเทา ไร
ก. 16,200 ข. 19,800
ค. 20,000 ง. 20,500
จ. 24,000
14
ตอนทีส่ าม ขอ 25 – 29 ตอบถูกไดคะแนนขอละ 6 คะแนน
ตอบผิด หรือไมต อบ 0 คะแนน
25. รถประจาํ ทาง A อยูท างทิศตะวนั ออกของรถประจําทาง B หา งออกไป 150 กิโลเมตร
หากรถประจําทางทงั้ สองคนั ว่ิงดว ยความเรว็ คงทแ่ี ละว่งิ ไปในทางเดยี วกนั รถประจาํ ทาง A จะทันรถ
ประจําทาง B ในเวลา 10 ชวั่ โมง แตหากรถประจําทางทั้งสองคนั ว่ิงเขา หากันจะพบกนั เม่ือเวลาผา น
ไป 2 ชัว่ โมง จงหาความเรว็ ของรถประจาํ ทาง A
15
26. ให a + 2b + 3c + 4d + 5e = k และ 5a = 4b = 3c = 2d = e
จงหาจํานวนเต็มบวกทน่ี อ ยท่ีสดุ ท่เี ปนไปไดข องคา k หาก a, b, c, d และ e ตางเปนจาํ นวน
เตม็ บวกดว ย
16
27. ยนุ ตอ งการเดินทางจากบา นไปกองถาย โดยขนึ้ รถประจาํ ทางจากบานไปถึงสถานีรถไฟ
จากนั้นนง่ั รถไฟไปจนถึงสถานีรถไฟใกลก องถา ยจากนน้ั เดินตอ ไปยังกองถาย โดยที่
- รถประจาํ ทางไปสถานรี ถไฟผา นหนาบานเธอทุกๆ 8 นาที ต้ังแต 6 โมงเชา และใชเ วลา 10
นาทีถึงที่หมาย
- รถไฟออกจากสถานรี ถไฟไปสถานรี ถไฟใกลก องถา ยทกุ ๆ 6 นาที ตง้ั แต 6 โมงเชา และใช
เวลา 12 นาทถี งึ ทีห่ มาย
- ยนุ ใชเวลาเดนิ ทางจากสถานีรถไฟไปกองถาย 5 นาที
จงหาวา ยุนจะออกจากบา นชา ทีส่ ุดกี่โมงถงึ จะไปถงึ กองถา ยไดท นั 8 โมงเชา
17
28. F I V E
D S EVE N +
OZE N S
จากรปู ตัวอกั ษรภาษาอังกฤษแตละตวั แทนตัวเลข 0 – 9 ตัวใดตัวหนึ่ง โดยที่ตวั อกั ษรตัว
เดียวกนั ตอ งแทนตัวเลขตวั เดียวกนั ตวั อกั ษรคนละตัวกนั ตองแทนตวั เลขคนละตัวกนั
จงหาคา ของ F + I + V + E + S + E + V + E + N + D + O + Z + E + N + S
18
29. ใหนกั เรียนทําตามขัน้ ตอนตอ ไปนี้
ขน้ั ตอนท่ีหนึง่ เขยี นเลขสามหลกั ขนึ้ มาหนงึ่ จาํ นวน จาํ นวนใดก็ได โดยที่ตวั เลขในหลกั
รอ ยตอ งมคี า มากกวาตวั เลขในหลักหนวย เรียกจาํ นวนทน่ี ักเรยี นเขียนนี้วา จํานวนทห่ี น่งึ
ขั้นตอนทส่ี อง นําจาํ นวนทห่ี นึ่งมาเขยี น โดยเรยี งสลบั หลกั จากหลงั ไปหนา เพื่อใหเกดิ เปน
เลขสามหลกั จาํ นวนใหมเปน จํานวนทีส่ อง
ข้นั ตอนที่สาม นาํ จํานวนทห่ี น่ึงลบออกดว ยจาํ นวนทีส่ อง เพ่อื ใหเกดิ เปน เลขสามหลกั
จาํ นวนใหมเ ปน จาํ นวนที่สาม
ขนั้ ตอนทส่ี ่ี นาํ จาํ นวนทีส่ ามมาเขียน โดยเรียงสลับหลักจากหลงั ไปหนา เพื่อใหเกดิ เปน
เลขสามหลักจาํ นวนใหมเปน จํานวนท่สี ี่
ข้นั ตอนทห่ี า หาผลบวกของจํานวนทสี่ าม และจาํ นวนทสี่ เี่ กดิ เปน จาํ นวนใหมเปน จาํ นวน
ทห่ี า
จงหาวา จํานวนที่หา คอื จํานวนใด
19
ขอโบนัส (เลือกทําหรือไมทํากไ็ ด)
ตอบถูกจะได 15 คะแนน ตอบผิด -5 คะแนน ไมตอบ 0 คะแนน
30. คุณครูสอนคณิตศาสตรค นหนึง่ กําลังสอนนักเรียนอยสู องคน คือ เด็กชายปญญา และ
เด็กหญิงเรณู แลว บอกกับนกั เรียนท้ังสองวา “คณุ ครูกาํ ลงั นึกถึงเลขอยสู องจาํ นวนทแ่ี ตกตางกนั แตไม
บอกวา คอื จาํ นวนใดบา ง ตอ งการใหน กั เรยี นทายวา คณุ ครูมเี ลขอะไรโดยคณุ ครจู ะบอกขอ มูลเก่ียวกบั
เลขทั้งสองจํานวนน้ใี ห” คณุ ครเู รียกนักเรยี นมาพบคุณครูท่ีโตะทีละคน โดยทีค่ ุณครบู อกคา ผลตาง
ของสองจํานวนใหก บั เดก็ ชายปญญา และบอกคา ผลคูณของสองจาํ นวนใหก บั เดก็ หญิงเรณู (แตละคน
จะทราบเพยี งขอมูลเดยี ว) หลังจากที่นักเรยี นทง้ั สองกลบั ไปยงั ท่นี ่งั ของตัวเองแลว คุณครูกเ็ ริ่มถาม
กับนักเรยี นทงั้ สองดังนี้
คณุ ครู พูดวา “เดก็ ชายปญญาทราบหรอื ยงั วา จํานวนท้งั สองคอื จํานวนใด”
เด็กชายปญญา พดู วา “ยังไมท ราบครับ”
คณุ ครู พดู วา “แลวเดก็ หญิงเรณูทราบหรือยงั วา จาํ นวนท้งั สองคอื จาํ นวนใด”
เด็กหญงิ เรณู พูดวา “หนูทราบแลวคะ วา จาํ นวนทัง้ สองคือ . . .” ทันใดนั้นคณุ ครูก็บอก
ใหเ ดก็ หญงิ เรณหู ยุดกอนท่ีจะพดู จํานวนทง้ั สองออกมา แลว หนั ไปถามเดก็ ชายปญญาวา “ทราบแลว
หรือยังวาสองจาํ นวนนน้ั คือจาํ นวนใด”
เด็กชายปญญา พดู วา “หลังจากท่คี ุณครถู ามเด็กหญงิ เรณู ผมก็ทราบทันทีครับวา ผลบวก
ของสองจาํ นวนนัน้ มากกวา 90 แตไ มถงึ 100 ใชไ หมครบั ?”
คุณครู พดู วา “ถูกตอ ง เกงมากเดก็ ชายปญ ญา”
คณุ ครูทราบวา นักเรียนท้ังสองเปน นกั เรียนทซ่ี อื่ สตั ยซึง่ จะไมพ ูดโกหก นน่ั หมายความวา
เดก็ ชายปญญา และเดก็ หญิงเรณู ทราบจํานวนท่ถี ูกตองจรงิ โดยไมแอบไปถามขอ มูลของอกี คนหนง่ึ
มากอน แลวจาํ นวนทคี่ ณุ ครบู อกใหก บั เดก็ ชายปญ ญาคือจํานวนใด
20