4. เอนโดไซโทซิส (Endocytosis) 1. ฟาโกไซโตซิส (Phagocytosis หรือ Cell Eating) การเขมือบเชื้อโรคของเซลล์เม็ดเลือดขาว การกินอาหารของเซลล์อะมีบา
4. เอนโดไซโทซิส (Endocytosis) • เป็นการน าสารโมเลกุลใหญ่ที่มีสภาพเป็นของเหลวเข้าสู่เซลล์หรือ เรียกอีกชื่อว่า “การดื่มของเซลล์” โดยการท าให้เยื่อหุ้มเซลล์เว้า เข้าไปในไซโทพลาซึมทีละน้อย ๆ จนกระทั่งกลายเป็นถุงเล็ก ๆ หลุดเข้าไปอยู่ในไซโทพลาซึมกลายเป็นเวสิเคิล เรียกว่า “Pinosome” • สารที่ล าเลียงโดยวิธีนี้อาจจะเป็นสารละลายหรือหยดน้ ามันก็ได้ เช่น การล าเลียงสารละลายเข้าสู่เซลล์ล าไส้และเซลล์ไต เป็นต้น 2. พิโนไซโทซิส (Pinocytosis หรือ Cell Drinking)
4. เอนโดไซโทซิส (Endocytosis) 3. การน าสารเข้าสู่เซลล์โดยอาศัยตัวรับ (ReceptorMediated Endocytosis) • เป็นการล าเลียงสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่เข้าสู่เซลล์ โดยการใช้โปรตีนตัวรับ (Receptor) บนเยื่อหุ้มเซลล์ จับกับสารที่มีความจ าเพาะเจาะจง • จากนั้นเยื่อหุ้มเซลล์จึงคอดเว้าหลุดเข้าไปเป็นเวสิเคิล ในไซโทพลาซึม • เช่น การล าเลียงคลอเลสเตอรอล การล าเลียงฮอร์โมน บางชนิดเข้าสู่เซลล์
การล าเลียงสารขนาดใหญ่
ความส าคัญของการล าเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ 1. ท าให้เซลล์สามารถรักษาคุณสมบัติต่าง ๆ ภายในเซลล์ให้ค่อนข้างคงที่เสมอ ซึ่งช่วยให้เซลล์ด ารง สภาวะอยู่เป็นปกติดี 2. เป็นวิธีการที่เซลล์ได้อาหาร ก๊าซ และสารอื่น ๆ ที่จ าเป็นต่อการด ารงชีวิตของเซลล์ และเซลล์ สามารถอาศัยกระบวนการเหล่านี้ได้ก าจัดสารที่ไม่ต้องการออกสู่ภายนอก 3. ท าให้ร่างกายหรือตัวสิ่งมีชีวิตด ารงชีพอยู่ได้ตามปกติ เช่น เม็ดเลือดขาวก าจัดเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย โดยวิธีฟาโกไซโทซิส เซลล์ของต่อมต่าง ๆ หลั่งเอนไซม์หรือฮอร์โมนที่ควบคุมกระบวนการต่าง ๆ ของ ร่างกาย เป็นต้น
การล าเลียงสารผ่าน เยื่อหุ้มเซลล์โดยตรง การล าเลียงสารผ่านโปรตีนที่ แทรกอยู่บริเวณเยื่อหุ้มเซลล์ การล าเลียงสารโดยไม่ ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ การแพร่ (Diffusion) ออสโมซิส (Osmosis) การล าเลียงสารแบบฟาซิลิเทต (Facilitate Diffusion) การล าเลียงสารแบบใช้พลังงาน (Active transport) เอกโซไซโทซิส (Exocytosis) เอนโดไซโทซิส (Endocytosis)