นกชนหนิ
ช่ือภาษาไทย : นกชนหิน
ชื่อภาษาองั กฤษ : Helmeted hornbill
ถ่ินทอ่ี ย่อู าศัย : นกชนหินเป็นนกประจำถิ่นที่พบในป่ ำดิบชิ้นระดบั ต่ำ พบต้งั แต่แถบเทือกเขำตะนำวศรีลงมำ
ทำงใตจ้ นถึงประเทศมำเลเซีย สุมำตรำ และบอร์เนียว ในเมืองไทยนกชนหินถือเป็นนกประจำถ่ินท่ีอำศยั อยตู่ ำม
ป่ ำดิบฝนในพ้ืนที่ปลำยด้ำมขวำน ซ่ึงมีกำรกระจำยพนั ธุ์อยู่ในพ้ืนท่ีอนุรักษ์เพียง 3 แห่งของประเทศ ไดแ้ ก่
อทุ ยำนแห่งชำติบูโด-สุไหงปำดี เขตรักษำพนั ธุ์สตั วป์ ่ ำฮำลำ-บำลำ และเขตรักษำพนั ธุส์ ตั วป์ ่ ำคลองแสง
รูปร่างหน้าตา : นกชนหิน มีขนำด 120 เซนติเมตร เป็นนกเงือกชนิดเดียวที่มีโหนกแขง็ ตนั คลำ้ ยงำชำ้ งสีแดง
คล้ำ ขนตำมตวั สีน้ำตำลเขม้ ทอ้ งขำวนวล หำงขำวมีแถบดำพำดขวำงคลำ้ ยหำงนกกก มีขนหำงยำวพิเศษ 2 เส้น
ซ่ึงยำวเกินส่วนหำงออกไปถึง 50 เซนติเมตร ขอบปี กขำว ปำกส้ันแขง็ สีแดงคล้ำ ปลำยปำกสีเหลือง ตวั ผมู้ ีหนัง
เปลือยบริเวณคอสีแดงคล้ำ ตวั เมียส่วนน้ีเป็ นสีฟ้ำอ่อนจนถึงสีน้ำเงิน ตวั วยั รุ่น ตวั ผูบ้ ริเวณคอสีแดงเรื่อตวั เมีย
ส่วนน้ีมีสีม่วง โหนกมีขนำดรูปมนสีน้ำตำลแดง ขนหำงยงั ไม่เจริญเตม็ ท่ี
พฤติกรรม : ปกติจะหำกินในระดบั ยอดไม้ กินผลไมเ้ ป็นส่วนใหญ่ เช่น ลูกไทร บำงคร้ังพบว่ำกินสัตวอ์ ่ืน ๆ
เช่น ก้ิงก่ำ กระรอก และนกอีกดว้ ย มกั จะอยโู่ ดดเดี่ยวหรืออย่เู ป็นคู่ ฤดูผสมพนั ธุเ์ ริ่มรำวปลำยเดือนมกรำคมหรือ
ตน้ เดือนกุมภำพนั ธ์ ทำรังในตน้ ไมส้ ูง และใชว้ สั ดุปิ ดปำกรังเช่นเดียวกบั นกเงือกชนิดอื่น ๆ โดยท่ีรังองนกชนหิน
จะไม่เหมือนกบั นกเงือกชนิดอ่ืน ๆ เพรำะจะหำรังเฉพำะท่ีอยบู่ นตอไมห้ รือเขำ้ ไดท้ ำงดำ้ นบนเท่ำน้นั เพรำะส่วน
หัวท่ีตนั และหำงที่ยำว อีกท้งั นกชนหินจะเล้ียงลูกนำนกว่ำนกเงือกชนิดอ่ืน ๆ คือ 5 เดือน โดยที่แม่นกจะอยู่กบั
ลกู ในโพรงตลอดเวลำ ไมม่ ีกำรพงั โพรงออกมำก่อน
นกชนหินมีเสียงร้องท่ีไม่เหมือนนกชนิดอื่น ๆ โดยนกตวั ผูจ้ ะร้องติด ๆ กนั ดงั "ตู๊ก…ตู๊ก" ทอดเป็ นจงั หวะ
ร้องติดต่อกนั ยำวเสียงร้องจะกระช้นั ข้นั ตำมลำดบั เม่ือจะสุดเสียงเสียงร้องจะคลำ้ ยเสียงหัวเรำะประมำณ 4-6
คร้ังเมื่อตกใจจะแผดเสียงสูงคลำ้ ยเสียงแตร และเม่ือต่อสู้กนั เพ่ือแยง่ อำณำเขต จะใชส้ ่วนหวั ท่ีหนำชนกนั จึงได้
วำ่ วำ่ "นกชนหิน" บำงคร้ังอำจจะบินชนกนั ในอำกำศ
จานวนในอดีตเปรียบเทียบกบั ปัจจุบนั : สถำนกำรณ์นกชนหินในประเทศไทยมีจำนวนไม่เกิน 100 ตวั
ควำมสำมำรถในกำรขยำยพนั ธุต์ ่ำ มีแนวโนม้ สูญพนั ธุส์ ูง
ความสาคญั /ประโยชน์ต่อระบบนิเวศ : ควำมสำคญั ของนกชนหินท่ีมีต่อระบบนิเวศในฐำนะนกั ปลูก
ป่ ำท่ีคอยกระจำยพนั ธุ์ไม้
สาเหตุการใกล้สูญพันธ์ุ : สถำนกำรณ์ของนกชนหินในเมืองไทยเสี่ยงใกลส้ ูญพนั ธุ์ เกิดขบวนกำรลกั ลอบ
ล่ำเพื่อนำ “โหนก” อวยั วะส่วนโหนกบริเวณหวั กะโหลก สีเหลืองแดงตนั แขง็ เหมือนงำชำ้ ง ซ่ึงเป็นลกั ษณะโดด
เด่นของนกชนหิน จนไดร้ ับกำรขนำนนำมว่ำ “งำสีเลือด” นิยมนำไปใช้ในกำรทำตรำประทบั เครื่องตกแต่ง
กำไล สร้อย ทดแทนงำชำ้ ง มีควำมเช่ือกนั ว่ำเป็นสิ่งมงคล ทำให้โหนกของนกชนหินมีมูลค่ำมำก เป็นที่ตอ้ งกำร
ในตลำดซ้ือขำยชิ้นส่วนสตั วป์ ่ ำโดยเฉพำะในประเทศจีนและสิงคโปร์
อ้างองิ :
1 นกชนหิน – มลู นิธิศึกษำวิจยั นกเงือก.(ม.ป.ป.).[ออนไลน์]. ไดจ้ ำก: http://hornbill.or.th/th/about-
hornbills/hornbill-species/helmeted-hornbill/ [สืบคน้ เม่ือ วนั ท่ี 29 เมษำยน 2564]
2 ข้นึ บญั ชี “นกชนหิน” สัตวป์ ่ ำสงวน ลำดบั ที่ 20.(2564).[ออนไลน์].ไดจ้ ำก:
https://news.thaipbs.or.th/content/302195[สืบคน้ เม่ือ วนั ที่ 29 เมษำยน 2564].
3 ภรู ิช วรรธโนรมณ์.(2564).ลำดบั เหตกุ ำรณ์ผลกั ดนั ‘นกชนหิน’ เป็นสตั วป์ ่ ำสงวนลำดบั ที่ 20 ของประเทศไทย,
สืบคน้ เมื่อ 29 เมษำยน 2564.จำก.https://www.seub.or.th/bloging/