วิช วิ า ธุรกิจและการ เป็น ป็ ผู้ปผู้ ระกอบการ หน่วยที่ 2 การออมและ การลงทุน ทุ ส่ว ส่ นบุคคล นางราณี พึ่งเดช จัดทำ โดย
สาระสำ คัญ BUSINESS PROPOSAL PAGE 3 การดำ เนินชีวิตให้มีความสุข ความสบายนั้น ย่อมมีปัจจัยหลาย ๆ ปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ปัจจัย ที่สำ คัญที่สุดคือ ปัจจัยด้านการเงิน เงินเป็นรากฐาน ในการดำ เนินชีวิตเพราะหากบุคคลใด มีสภาพการเงิน ไม่คล่องย่อมจะมีความอึดอัดดังนั้นแนวทางที่จะทำ ให้ บุคคลมีเงิน คือการรู้จักการออมซึ่งในการออมต้องมี การวางแผนเพื่อนำ เงินออมมาต่อยอดให้เกิด ประโยชน์หรือก่อให้เกิดรายได้ โดยการนำ เงินออมไป ลงทุนแต่การลงทุนต้องระวังความเสี่ยงจากการ ลงทุนด้วยเพราะหากการลงทุนใดที่ให้ผลตอบแทนสูง ย่อมมีความเสี่ยงสูงเช่นกัน
1. ความหมายความสำ คัญและ วัตถุประสงค์ของการออม 2. วิธีการออมเงิน 3. จำ นวนเงินออมที่เหมาะสม 4. ความหมายและความสำ คัญของการลงทุน 5. ข้อแตกต่างระหว่างการออมกับการลงทุน 6. ประเภทของการลงทุน 7. ผลตอบแทนและความเสี่ยงจากการลงทุน 8. ปัจปัจัยที่มีอิทธิพลต่อการลงทุน 9. หลักการลงทุน 10. ข้อควรปฏิบัติสำ หรับการลงทุน สาระการเรียนรู้ PAGE 2
สาระสำ คัญ รากฐานการเริ่มต้นชีวิตที่สำ คัญ คือรากฐานด้านการเงิน ดังนั้นมนุษย์จะมีเงินได้ก็ต้องรู้จักการออมการออมเป็นการสะสม เงินไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉินเมื่อสะสมได้ตามวัตถุประสงค์แล้วควร นำ เงินออมไปลงทุนเพิ่มเพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ และก่อให้เกิด รายได้เพิ่มขึ้นการลงทุนทำ ให้บุคคลมีรายได้จากการลงทุนและมี เงินออมเพิ่มมากขึ้นตามผลตอบแทนของการลงทุน หากมีการ ลงทุนที่มีผลตอบแทนสูงจะทำ ให้มีเงินออมสูงขึ้นเช่นกันแต่พึง ระวังว่าการลงทุนที่มีผลตอบแทนสูงย่อมจะมีความเสี่ยงสูงเช่น กัน
ความหมาย ความสำ คัญและ วัตถุประสงค์ของการออม 1.ความหมายของการออม การออม (Saving) หมายถึง การเก็บหอมรอมริบ : ซึ่งมี นักวิชาการได้ให้ความหมายไว้หลากหลาย ดังนี้ พจนานุกรม ฉบั[ราชบัณฑิตยสถาน (2542) ได้ให้ความหมายว่าการออม หมายถึง ก.เก็บหอมรอมริบ เช่น ออมทรัพย์ ; ถนอม,สงวน,เช่น ออมแรงณัฐผไท สุทธิเสริม (2560) ได้ให้ความหมายไว้ว่า การ ออม หมายถึง การเก็บ สะสมเงินรายได้ในส่วนต่างๆ ไว้ใช้จ่าย ในอนาคตหมายรวมถึงการสะสมสิ่งที่มีค่าเป็นตัวเงินและมี ประโยชน์ต่อครอบครัวพจีกานต์ หว่านพืช (2559) ได้ให้ความ หมายไว้ว่า การออม หมายถึงรายได้ส่วนหนึ่ง ที่เหลือจากการใช้จ่ายโดยทั่วไปการออมจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อบุคคล มีรายได้มากกว่ารายจ่าย ในระบบเศรษฐกิจยิ่งมีเงินออมมาก เท่าใดก็จะสามารถนำ ไปใช้ลงทุนและนำ ไปใช้พัฒนาประเทศได้มาก ขึ้oอารยา อินทร์จันทร์ได้ให้ความหมายไว้ว่า การออม คือการ สะสมเงินส่วนหนึ่งของรายได้ปัจจุบันไว้ใช้ในอนาคต โดยต้องลด รายจ่ายบางรายการ เพื่อให้มีเงินเหลือออมมากขึ้น การออมเงิน เป็นการยอมเสียสละเงินที่ต้องใช้จ่ายในปัจจุบันเพื่อจะนำ เงิน จำ นวนนี้ไปใช้ในอนาคตแทน สรุป การออม หมายถึง การเก็บ ออมเงินจากรายได้ส่วนหนึ่งไว้เพื่อใช้จ่ายและเป็นทุนสำ รองใน อนาคตซึ่งอาจจะออมในรูปแบบของเงินสดเงินฝากธนาคารหรือ กองทุนหลักทรัพย์ต่าง ๆ ก็ได้ การออมจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละบุคคล
2.ความสำ คัญของการออม การออมเป็นการสร้างหลักประกันและสร้างความมั่นคงให้ ตนเองและครอบครัวดังนั้นการออมจึงเป็นปัจจัยสำ คัญที่ทำ ให้ เป้าหมายในชีวิตเป็นจริงได้ การที่คนมีเป้าหมายในอนาคตอย่าง ชัดเจนย่อมจะส่งผลให้เกิดความกระตือรือร้นที่จะออมมากยิ่งขึ้น เช่นอยากมีบ้านและที่ดินเป็นของตนเองอย่างมีการศึกษาสูง ๆ อยากมีชีวิตสุขสบายยามเกษียณอายุหรืออยากมีฐานะความเป็น อยู่ที่มั่นคง เป็นต้นดังนั้นเป้าหมายในชีวิตจึงเป็นตัวกำ หนด ความแตกต่างของจำ นวนเงินและระยะเวลา ในการออมของแต่ละบุคคลการออมยังมีความสำ คัญต่อ ประเทศชาติเพราะหากประชาชนมีการออมที่ดีมีความมั่นคงก็จะ ส่งผลให้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น 1.วัตถุประสงค์ของการออม การออมของแต่ละบุคคลย่อมจะมีเป้าป้หมายและวัตถุประสงค์ที่ แตกต่างกันตามความจำ เป็นป็ และความสามารถของบุคคล จากการศึกษาวิจัยของธนาคาร แห่งประเทศไทยพบว่าคนไทยมีวัตถุประสงค์ในการออมเรียง ลำ ดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ 1.เก็บไว้ใช้ในยามเจ็บป่วป่ยหรือยามชรา 2.เพื่อเป็นป็ทุนการศึกษา 3.เพื่อเป็นป็เงินลงทุนในการประกอบอาชีพ 4.ต้องการดอกเบี้ย 5.เพื่อเป็นป็หลักประกันในการกู้ยืมเงิน 6.เพื่อไว้ซื้อสินทรัพย์อื่น ๆ 7.เพื่อกิจกรรมทางศาสนาหรือประเพณี 8.เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ
วิธีการออม การออมจะประสบความสำ เร็จหรือจะมีมากหรือน้อย เพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับความพยายามและความตั้งใจของแต่ละ บุคคล หากบุคคลมีการฝึกฝนและมีการวางแผนในการออม โอกาสที่จะประสบความสำ เร็จย่อมจะมีมากขึ้น ดังนั้นการออม ควรจัดทำ งบประมาณเงินสดส่วนบุคคลขึ้นเพื่อจะได้ทราบว่า แต่ละเดือนมีเงินสดคงเหลือเป็นป็เงินออมเท่าไหร่ ในทางปฏิบัติ เพื่อให้ออมได้ผลจริง ๆ ควรปฏิบัติ ดังนี้ 1. ทำ งบประมาณรายได้และรายจ่ายเพื่อจะได้ทราบว่ามีเงินเหลือ ที่จะเก็บออมเท่าไหร่ 2. เมื่อจัดทำ งบประมาณจะทราบว่าสามารถออมเงินได้เดือนละ เท่าไหร่ ซึ่งตามปกติจะต้องเก็บประมาณ 20% ของยอดรายได้ สุทธิในแต่ละเดือน ดังนั้น จึงควรกันเงินออมส่วนนี้ไว้และนำ ไป ฝากธนาคาร เงินรายได้ -เงินออม = เงินรายจ่าย
6.ประหยัด คือ การใช้เงินน้อยกว่าเงินที่หาได้หรือให้ตั้งงบ ประมาณรายจ่ายไว้และจะต้องจ่ายไม่เกินจากงบประมาณที่ตั้งไว้ โดยใช้จ่ายเฉพาะที่จำ เป็นป็และคุ้มค่า 7.สร้างนิสัยการออมให้กับคนในครอบครัว สร้างความตระหนัก ให้คนในครอบครัวถือว่าการออมเป็นป็หน้าที่ที่ทุกคนต้องกระทำ และปฏิบัติอย่างสม่ำ เสมอ 8.แยกประเภทเงินออมตามประเภทเป้าป้หมายการออมเงิน ทำ ให้ เห็นจำ นวนเงินที่ชัดเจนกว่า การฝากเพียงบัญชีเดียวและยังเป็นป็การป้อป้งกันการใช้จ่ายเกิน ความจำ เป็นป็ด้วย เช่น 9.การออมเพื่อไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน การออมเพื่อซื้อทรัพย์สิน การออมไว้หลังเกษียณอายุ การออมเพื่อการศึกษาบุตร เป็นป็ต้น 3.รายได้ที่เกิดจากการออม เช่น ดอกเบี้ยที่ได้รับจากธนาคาร ควรนำ ไปลงทุนต่อเพื่อเป็นป็การต่อยอดเงินออมให้เพิ่มเร็วขึ้น 4.นำ เงินออมไปลงทุนหาผลประโยชน์ให้มากที่สุด และถูกวิธีแต่มี ความเสี่ยงต่ำ 5.สร้างวินัยการออม ด้วยการกำ หนดจำ นวนเงินออมขั้นต่ำ ให้ แน่นอนว่าจะออมเดือนละเท่าไหร่ วันละเท่าไหร่ เพื่อให้ได้เงินออม ตามจำ นวนที่ต้องการ โดยต้องทำ อย่างสม่ำ เสมอ เช่นต้องการ ออมเงินอย่างน้อยเดือนละ 2,000 บาททุกเดือน
จำ นวนเงินออมที่เหมาะสม ควรจะออมเงินไว้เท่าไหร่จึงจะเหมาะสมและเพียงพอ สำ หรับค่าใช้จ่ายในการดำ รงชีวิตได้อย่างสะดวกสบายในทุก สถานการณ์ นักการเงินจึงได้แนะนำ วิธีการตรวจสอบจำ นวนเงิน ออมไว้ ดังนี้ 1.จำ นวนเงินออมสำ หรับสำ รองเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน จำ นวน เงินก้อนนี้ต้องออมไว้ไม่น้อยกว่า 3 – 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อ เดือน เช่น หากมีรายจ่ายประมาณเดือนละ 5,000 บาทจะต้อง เก็บเงินออมเท่ากับ 5,000 X 6 = 30,000 บาท 2.ตรวจสอบจำ นวนเงินออมที่เหมาะสมกับอายุ จำ นวนเงิน ออมทำ ให้ชีวิตสามารถดำ เนิน ได้อย่างสบายและมีความมั่นคงในอนาคตดังนั้นเพื่อให้บรรลุตาม วัตถุประสงค์จึงสามารถคำ นวนจำ นวนเงินออมได้จากสมการ ดังนี้ จำ นวนเงินออมที่เหมาะสมเมื่ออายุ................ปี = อายุปัจจุบัน – รายได้ต่อปี 10
การออมนั้นถึงแม้จะมีการวางแผนไว้อย่างเหมาะสม เพียงใดก็ตาม หากผู้ออมขาดวินัย ในการออมก็จะประสบความสำ เร็จตามวัตถุประสงค์ได้ยาก ดัง นั้นในการออมเงินนอกจากจะมีการวางแผนที่ดีแล้ว จะต้องมี วินัยในการออมด้วย การสร้างวินัยในการออมเงิน (Saving Discipline) คือ ความตั้งใจปฏิบัติตามกฎระเบียบที่จะเก็บเงิน ตามจำ นวนและระยะเวลาที่ตนตั้งกฎเกณฑ์ไว้อย่างเคร่งครัด การออมเงินนั้นผู้ออมจะต้องตระหนักว่าไม่ใช่ออมเมื่อมีเงิน เหลือใช้แต่ต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งออมและเงินส่วนที่เหลือจึงใช้ จ่ายดังนั้นจึงจำ เป็นป็ต้องฝึกการออมเงินให้เป็นป็นิสัยโดยให้คิด ว่าการออมเงินเป็นป็หน้าที่ที่ต้องทำ ให้เป็นป็กิจวัตรประจำ วัน วิธี การสร้างวินัยในการออมเงินมี ดังนี้ 1.ต้องมีการวางแผนและตั้งเป้าป้หมายว่าจะออมเงินเพื่อ อะไรและใช้เวลานานเท่าใด 2.ปรับทัศนคติการออมเงินโดยให้คิดว่าจะเก็บออมเงินให้ มากที่สุดและใช้จ่ายให้น้อยที่สุด 3.ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำ เป็นป็หรือฟุ่มฟุ่เฟือฟืยออกให้หมด หรือ คิดให้รอบคอบก่อนใช้จ่ายทุกครั้ง 4.มีศิลปะในการออมโดยฝึกแข่งขันกับตนเองและจดสถิติ ไว้ พร้อมต้องทำ ลายสถิติทุกครั้ง ในขณะเดียวกันผู้ออมต้องมี จิตใจมั่นคง ซื่อสัตย์ต่อตนเองและรักษาวินัยในตนเอง 5.สร้างเครื่องมือช่วยบังคับการออมเงิน เช่น ฝากเงิน ประเภทเงินฝากประจำ ไม่ทำ บัตร ATM ไม่ฝากเงินประเภท กระแสรายวัน 6.จัดสรรเงินออมตามเป้าป้หมาย ตามระยะเวลาให้เหมาะ สมกับช่วงของชีวิต
ความหมายและความสำ คัญ ของการลงทุน การลงทุน (Investment) คือ การนำ เงินออมที่มีไป ก่อให้เกิดประโยชน์และได้รับผลตอบแทนกลับมาในอัตราที่ผู้ ลงทุนพอใจและยอมรับในความเสี่ยงได้การลงทุนถือเป็นป็การ บริหารเงินออมที่มีให้ได้รับผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินกับ ธนาคาร ความหมายของการลงทุน มีนักวิชาการหลายท่านได้ให้ ความหมายของการลงทุนไว้ดังนี้สุขใจ น้ำ ผุด ได้ให้ความหมาย ของการลงทุนไว้ว่า การลงทุน หมายถึง การนำ ทรัพย์สินที่ บุคคลมีอยู่ไปดำ เนินการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ซึ่งจะมีผล ตอบแทนกลับคืนมาในช่วงระยะเวลานั้นอารยา อินทร์จันทร์ได้ ให้ความหมายของการลงทุนไว้ว่าการลงทุน หมายถึง การนำ เงินออมที่เก็บสะสมไว้นำ ไปสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตรา ดอกเบี้ยเงินออมหรือเป็นป็การนำ ทรัพย์สินที่มีอยู่ไปดำ เนินการ ให้ได้ผลตอบแทนกลับคืนมาในช่วงระยะเวลาหนึ่งMoney Mart : Knowledge ได้ให้ความหมายของการลงทุนไว้ว่า การลงทุน คือ การนำ เงินที่เก็บสะสมไปสร้างผลตอบแทนที่สูง กว่าการออม โดยการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือหลักทรัพย์ ต่าง ๆ ซึ่งจะมี ความเสี่ยง ที่สูงขึ้นปราย ON : ทฤษฎีการ ลงทุนได้ให้ความหมายของการลงทุนไว้ว่า การลงทุน (investment) หมายถึง การซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือหลัก ทรัพย์ของบุคคลหรือสถาบัน ซึ่งให้ผลตอบแทนเป็นป็สัดส่วนกับ ความเสี่ยงตลอดเวลาอันยาวนานประมาณ 10 ปี แต่อย่างต่ำ ไม่เกิน 3 ปี สรุป การลงทุนหมายถึงการนำ เงินออมที่เก็บสะสม ไว้ไปสร้างผลตอบแทน โดยอาจจะนำ ไปลงทุนในการซื้อ อสังหาริมทรัพย์ พันธบัตรรัฐบาลหรือหลักทรัพย์ต่าง ๆ ที่มี ความเสี่ยงสูงขึ้น
ความสำ คัญของการลงทุน 1.ทำ ให้เงินมีมูลค่าเพิ่มขึ้นการลงทุนคือการจัดการเงินออมที่ มีอยู่ให้เพิ่มขึ้นจากการเริ่มลงทุนในครั้งแรกและการนำ ผล กำ ไรที่ได้รับไปลงทุนต่อ 2.ทำ ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่าง สม่ำ เสมอเท่ากับเป็นป็การสร้างรายได้ประจำ ให้แก่ผู้ลงทุน เช่น การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลการลงทุนในหุ้นต่าง ๆหรือการ ลงทุนในธุรกิจ 3.เป็นป็การป้อป้งกันค่าของเงินไม่ให้ลดลงการลงทุนถือว่า เป็นป็การรักษาอำ นาจซื้อของไม่ให้ลดลงตามสภาวะเงินเฟ้อฟ้ เพราะหากการลงทุนได้รับผลตอบแทนสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อฟ้ก็ ย่อมป้อป้งกันค่าของเงินได้ 4.สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้การลงทุนบางประเภท สามารถนำ ไปยกเว้นภาษีหรือหักลดหย่อนภาษีได้ เช่นการ ลงทุนในหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RTF) การลงทุนในเบี้ย ประกันชีวิต เช่น นาย ก อายุ40 ปี มีรายได้เดือนละ 40.000 บาท อยากทราบว่า ณ เวลานี้นาย ก ควรมีเงิน ออมเท่าใด วิธีการคำ นวณ จำ นวนเงินออมที่นาย ก ควรมี ณ เวลานี้ = 40 X (40,000 X 12) 10 =1,920,000 บาท
ข้อแตกต่างระหว่างการ ออมกับการลงทุน รายการ การออม การลงทุนทุ วัตวัถุปถุระสงค์ เป็นป็การสะสมที่ละเล็กละน้อน้ย และเพื่อพื่ เป็นป็ทุนทุสำ รองเผื่อผื่ฉุกฉุเฉินฉิ เป็นป็การนำ เงินออมที่มี อยู่ทำยู่ ทำ ให้งอกเงยเพิ่มพิ่ ขึ้นขึ้อย่าย่งต่อเนื่อนื่งระยะ ยาว วิธีวิกธีารสะสม ฝากเงินกับธนาคารหรือรืบริษัริ ษัทเงินทุนทุ ซื่อซื่พันพัธบัตบัร หุ้นหุ้กู้ กองทุนทุรวม กองทุนทุ สำ รองเลี้ยงชีพชีลงทุนทุ ในทรัพรัย์สิย์นสิมีค่มี ค่า ความเสี่ยสี่ง มีคมีวามเสี่ยสี่งต่ำ มีคมีวามเสี่ยสี่งสูงสูหรือรืต่ำ ขึ้นขึ้อยู่กัยู่ กับประเภทและ ลักษณะของหลักทรัพรัย์ ที่ลงทุนทุ ผลตอบแทน ดอกเบี้ยบี้ต่ำ ดอกเบี้ยบี้เงินปันปัผล และผลกำ ไรหรือรืขาดทุนทุ จากการลงทุนทุ ข้อข้ ได้เปรียรีบ มีสมีภาพคล่องสูงสู ได้รับรัผลตอบแทนอัตรา สูงสูกว่าว่และระยะยาว ข้อข้เสียสีเปรียรีบ ผลตอบแทนต่ำ มีคมีวามเสี่ยสี่งต่อการ ขาดทุนทุ การออมและการลงทุนเป็นป็วิธีการช่วยให้บุคคลมีรายได้ เพิ่มขึ้นเหมือนกัน แต่มีลักษณะบางอย่างที่แตกต่างกัน ดังนี้ ตารางเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างการออมกับการลงทุน
ประเภทของการลงทุน การลงทุนของบุคคลมี 2 ประเภท คือการลงทุนทาง ตรงและการลงทุนทางอ้อมดังนี้ 1.การลงทุนทางตรง (Direct Investment) หมายถึงการ ลงทุนที่ผู้ลงทุนใช้เงินออมหรือเงินรายได้ที่มีไปลงทุนในสิ่ง หนึ่งสิ่งใดให้ได้รับผลตอบแทนกลับมา โดยมีการดำ เนินงาน และการตัดสินใจปัญปัหาต่าง ๆ ด้วยตัวเองเช่นการลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์การลงทุนในทรัพย์สินมีค่าการประกอบ ธุรกิจ/การเป็นป็ผู้ประกอบการ 2.การลงทุนทางอ้อมหรือการลงทุนทางการเงิน (Indirect or Financial Investment) หมายถึงการนำ เงินลงทุนผ่าน ทางสถาบันการเงินหรือนำ ไปซื้อตราสารทางการเงินหรือ หลักทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้แก่ผู้ลงทุนมากกว่าเงินออม ซึ่ง ผลตอบแทนที่ได้รับมักจะเป็นป็เงินปันปัผล ดอกเบี้ยหรือกำ ไร ส่วนเกิน
ผลตอบแทนและความ เสี่ยงจากการลงทุน ผลตอบแทนจาการลงทุน (Returns) หมายถึง ผลประโยชน์ที่ผู้ลงทุนจะได้รับจากการลงทุน ซึ่งทำ ให้เงิน ลงทุนเพิ่มขึ้น ผลตอบแทนมีหลายชนิด ดังนี้ 1.เงินปันผล (Dividend) คือ ผลตอบแทนที่ได้รับจากการ ลงทุนในตราสารทุน เช่นการลงทุนในหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ์ และหน่วยการลงทุนเมื่อบริษัทมีผลกำ ไรจากการดำ เนินธุรกิจ ก็จะประกาศจ่ายเงินปันปัผลให้กับผู้ถือหุ้นชนิดต่าง ๆ ตาม จำ นวนหุ้น 2.ดอกเบี้ย (Interest) คือ ผลตอบแทนที่ได้รับจากตราสาร หนี้และเป็นป็ผลตอบแทนที่ได้รับในอัตราที่แน่นอนและ สม่ำ เสมอ 3.กำ ไรจากการซื้อขายหุ้น (Capital Gain) คือ ส่วนต่าง ของราคาซื้อกับราคาขาย หลักทรัพย์หากขายได้ในราคาสูงกว่ามูลค่าที่ซื้อมาเรียกว่า “กำ ไรส่วนเกิน”และหากขายได้ในราคาต่ำ กว่ามูลค่าที่ซื้อมา เรียกว่า “ขาดทุนส่วนเกิน” 4.สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ (Right) คือ ผลประโยชน์ที่ผู้ลงทุน ได้รับจากการลงทุน เช่นสิทธิ ในการจองหุ้นสามัญออกใหม่ สิทธิในการบริหารกิจการ เป็นป็ต้นความเสี่ยงจากการลงทุน (Investment Risk) หมายถึงความไม่แน่นอนที่เกิดจากการลงทุนของนักลงทุน ซึ่งก่อนการลงทุนผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงทุนและเมื่อลงทุนผู้ลงทุนจะต้องยอมรับ ความเสี่ยงให้ได้ ความเสี่ยงจากการลงทุนแบ่งออกเป็นป็ 7 ประเภท ดังนี้
1.ความเสี่ยงเกิดจากตลาด (Market Risk) คือ ความ เสี่ยงที่เกิดจากความตื่นตระหนกหรือความรู้สึกของผู้ลงทุน จนเกิดผลกระทบต่อตลาดและมีผลให้ราคาหลักทรัพย์ เปลี่ยนแปลง เช่นสถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นของโลก เปลี่ยนแปลงเป็นป็ลบซึ่งจะมีผลกระทบทำ ให้ผู้ลงทุนตื่น ตระหนกหรือมีผลต่อความรู้สึกของผู้ลงทุนในตลาดหุ้น อาจ จะทำ ให้ผู้ลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ตัวนั้นจนกระทั่งเกิด ผลขาดทุนในหลักทรัพย์ได้ 2.ความเสี่ยงเกิดจากอัตราดอกเบี้ย (Interest Risk)คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอัตราผลตอบแทนจาก การลงทุนโดยหากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นจะทำ ให้ราคาตลาด ของหลักทรัพย์ลดลง ในทางตรงกันข้ามหากอัตราดอกเบี้ย ลดลงจะทำ ให้ราคาตลาดของหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 3.ความเสี่ยงเกิดจากอำ นาจซื้อลดลง (Purchasing Power Risk) คือ สภาวะเงินเฟ้อฟ้จะมีผลทำ ให้อำ นาจซื้อลด ลงเนื่องจากราคาสินค้าโดยเฉลี่ยสูงขึ้น คือมีเงินเท่าเดิมแต่ ซื้อสินค้าได้น้อยกว่าเดิมหรือหากต้องการซื้อสินค้าในจำ นวน เท่าเดิมก็จะต้องใช้เงินมากกว่าเดิมนั้นเองดังนั้นภาวะ เงินเฟ้อฟ้จึงทำ ให้ผลตอบแทนมีมูลค่าลดลงโดยเฉพาะหลัก ทรัพย์ที่มีการจ่ายผลตอบแทนในอัตราคงที่ เช่นการลงทุนใน พันธบัตร หุ้นกู้ หรือการฝากเงินกับธนาคาร เป็นป็ต้น
4.ความเสี่ยงที่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่าง ประเทศ (Currency Risk) คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากการ เปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศซึ่ง ส่วนใหญ่เกิดกับการค้าระหว่างประเทศโดยจะเกิดในวันทำ สัญญาซื้อขายกับวันชำ ระเงินค่าสินค้าซึ่งเกิดมีต่างจาก อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราไม่เท่ากันทำ ให้มีผลกระทบ โดยตรงต่อยอดขาย ต้นทุนการผลิต ราคาสินค้า ส่งผล ให้เกิดผลกำ ไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เช่นในวัน ทำ สัญญาซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลล่าร์ สหรัฐอเมริกาเท่ากับ 31 บาทแต่วันที่ชำ ระเงิน 1 ดอลล่าร์ เท่ากับ 35 บาท ผลต่างจากอัตราแลกเปลี่ยนในวันทำ สัญญากับวันชำ ระเงินต่างกันเท่ากับ 4บาท ดังนั้น แสดง ว่าเราต้องจ่ายเงินเพิ่มไปอีกดอลล่าร์ละ 4บาทส่งผลให้ ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 4 บาท เป็นป็ต้น 5.ความเสี่ยงจากการดำ เนินงานของธุรกิจ (Business Risk) คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากการดำ เนิน ธุรกิจซึ่งเกิดจากสภาวการณ์ที่ธุรกิจหารายได้น้อยกว่า รายจ่ายหรือภาระผูกพันธุรกิจมีอยู่อาจจะด้วยการบริหาร งานผิดพลาดหรือต้นทุนสินค้าสูงขึ้น ยอดขายลดลงเกิด ผลขาดทุนหรือผลกำ ไรลดลงจึงส่งผลกระทบต่อผู้ลงทุน ทำ ให้ผู้ลงทุนต้องสูญเสียรายได้ เป็นป็ต้น
6.ความเสี่ยงทางการเงินของบริษัท (Financial Risk) คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากภาระหนี้สิน ของบริษัทที่ผู้ลงทุนได้ก่อหนี้สินไว้เป็นป็จำ นวนมาก เมื่อมี หนี้สินมากก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยมาก แต่ในขณะเดียวกัน ความสามารถในการหารายได้ของบริษัทไม่พอกับภาระหนี้ สิน ซึ่งอาจทำ ให้เกิดภาวะล้มละลายได้ 7.ความเสี่ยงที่เกิดจากภาวะทางการเมืองหรือนโยบาย ของรัฐบาล (Political Risk) คือ ความเสี่ยงที่เกิดจาก การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือการเปลี่ยนแปลง นโยบายของรัฐบาลที่มีผลกระทบต่อการดำ เนินงานของ ธุรกิจ และมีผลต่อราคาหลักทรัพย์ของกิจการ เช่นหาก นโยบายของรัฐที่เปลี่ยนแปลงเป็นป็ ประโยชน์ต่อกิจการส่ง ผลให้ราคาหลักทรัพย์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น แต่หากนโยบายของ รัฐที่เปลี่ยนแปลงเป็นป็ผลเสียต่อกิจการก็จะส่งผลให้ราคา หลักทรัพย์มีมูลค่าลดลง เป็นป็ต้น
หลักการลงทุน 1.ความปลอดภัยของเงินทุน หมายถึงการลงทุนสิ่ง สำ คัญที่สุดคือผู้ลงทุนจะต้องคำ นึงถึงความปลอดภัย ของเงินลงทุนให้มากที่สุด โดยต้องพยายามรักษาเงิน ลงทุนเริ่มต้นไว้ให้คงที่เพื่อป้อป้งกันความเสี่ยงซึ่งเกิดจาก อำ นาจซื้อลดลงจากภาวะเงินเฟ้อฟ้การลงทุนที่มีความ ปลอดภัยสูงสุด ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้หุ้นบุริมสิทธิ์ เป็นป็ต้น 2.การกระจายความเสี่ยง หมายถึงหากการลงทุนใดที่มี ความเสี่ยงสูงผู้ลงทุนไม่ควรทุ่มเทเงินลงทุนมากเพราะ หากธุรกิจประสบปัญปัหาล้มเหลวจะทำ ให้เกิดการสูญเสีย สูงมาก มีความเสี่ยงสูงเพราะฉะนั้นผู้ลงทุนควรกระจาย ความเสี่ยงด้วยการสร้างพอร์ตการลงทุน (Investment Portfolio) คือ การกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์หลาย ๆ ประเภทหรือหลาย ๆ อุตสาหกรรมเพื่อลดความเสี่ยง 3.สภาพคล่องจากการลงทุน หมายถึงผู้ลงทุนควรเลือก ลงทุนในหลักทรัพย์ที่สามารถซื้อขายได้ง่าย ๆเพื่อรักษา สภาพคล่องจากการลงทุนซึ่งจะส่งผลถึงสภาพคล่อง ทางการเงินด้วยผู้ลงทุนสามารถเบิกถอนเงินสดมาใช้ได้ ตามความต้องการตลอดเวลา ดังนั้นผู้ลงทุนจึงควร เลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่อยู่ในความต้องการของตลาด เพื่อที่จะสามารถได้รับเงินคืนเป็นป็เงินสดได้ตามความ ต้องการ การลงทุนย่อมจะมีความเสี่ยงเสมอไม่มากก็น้อย ดังนั้น ก่อนที่จะลงทุนผู้ลงทุนควรยึดหลักการลงทุนดังนี้
4.ช่วยลดภาระภาษีของผู้ลงทุน หมายถึงการลงทุนใน หลักทรัพย์บางประเภทผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนโดย การได้รับยกเว้นภาษี ลดหย่อนภาษี เช่น การซื้อหน่วย ลงทุนในกองทุน RMF หรือกองทุน LTF ยกเว้นภาษี สำ หรับเงินสะสมเข้ากองทุน กบข.เป็นป็ต้นแต่มีการลงทุน บางประเภทที่ผลตอบแทนไม่สามารถนำ ไปยกเว้นภาษีหรือ ลดหย่อนภาษีแต่ต้องนำ ผลตอบแทนที่ได้รับไปเสียภาษีอีก เช่นดอกเบี้ยพันธบัตร ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ กำ ไรจาก การซื้อขายบ้านหรือที่ดิน เป็นป็ต้นทำ ให้ผู้ลงทุนได้รับผล ตอบแทนที่แท้จริงน้อยลงเพราะต้องเสียภาษีอีกดังนั้นใน การลงทุนผู้ลงทุนควรนำ สิทธิประโยชน์ทางภาษีมา พิจารณาในการเลือกลงทุนเพื่อช่วยลดภาระภาษีจากการ ลงทุน 5.สภาวะเศรษฐกิจและการเมือง หมายถึงการที่รัฐบาลมี การเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือประเทศมีการเปลี่ยนผู้นำ ย่อมจะมีผลกระทบต่อนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคม เช่น นโยบายด้านภาษี นโยบายการลงทุน นโยบายการค้า ต่างประเทศ นโยบายการเงินระหว่างประเทศซึ่งนโยบาย เหล่านี้ล้วนมีผลกระทบต่อระดับการออมและการลงทุน ของบุคคล ผู้ลงทุนควรติดตามข่าวสารทางการเมือง สังคมและเศรษฐกิจเพื่อจะได้ทราบถึงความเคลื่อนไหวที่ อาจมีผลกระทบต่อการลงทุนและอัตราผลตอบแทน
ข้อควรปฏิบัติสำ หรับ การลงทุน แนวทางการปฏิบัติสำ หรับการลงทุนเพื่อความ ปลอดภัยและเป็นป็การลดความเสี่ยงในการลงทุน ดังนั้นผู้ ลงทุนควรจะปฏิบัติ ดังนี้ 1.การจัดสรรเงินรายได้ก่อนการลงทุน การจัดสรรเงินราย ได้ออกเป็นป็ส่วน ๆ ตามเป้าป้หมายทางการเงินควรจัด ลำ ดับความจำ เป็นป็ก่อนหลัง ดังนี้ ความสำ คัญอันดับที่ 1เงินออมเมื่อเกษียณอายุ ความสำ คัญอันดับที่ 2เงินเพื่อเป็นป็ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำ วันความสำ คัญอันดับที่ 3 เงินออมในยามฉุกเฉินความ สำ คัญอันดับที่ 4เงินออมเพื่อซื้อทรัพย์สินพิเศษ เช่น บ้าน รถยนต์ เป็นป็ต้นความสำ คัญอันดับที่ 5เงินออมเพื่อ การลงทุน 2.ควรลงทุนอย่างมีแบบแผน โดยกำ หนดเป้าป้หมายของ การลงทุนและระยะเวลาในการลงทุนให้ชัดเจนปฏิบัติตาม แผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัดและคอยติดตามข่าวสารการ ลงทุนอย่างใกล้ชิดหากมีการปรับเปลี่ยนการลงทุนให้ เปลี่ยนแปลงแผนให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและ สภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป 3.ควรลงทุนอย่างมีเหตุผล ในการลงทุนผู้ลงทุนควรหา ข้อมูลมาประกอบการพิจารณาตัดสินใจในการลงทุนเพื่อ เป็นป็การลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการลงทุนผู้ลงทุน ควรเลือกการลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ ยอมรับได้ การลงทุนแต่ละทางเลือกมีความเสี่ยงไม่เท่า กัน ดังนี้
ระดับความเสี่ย สี่ งต่ำ ระดับความเสี่ย สี่ งปานกลาง ระดับความ เสี่ย สี่ งสูงสู 1. การฝากเงินกับธนาคาร 2. การซื้อซื้พันพัธบัตบัรรัฐรับาล 3. การฝากเงินกับบริษัริ ษัทเงินทุนทุ 4. การฝากเงินกับบริษัริ ษัทเครดิตดิ ฟองซิเซิอร์ 5. การฝากเงินกับสหกรณ์ ออมทรัพรัย์ 1. การลงทุนทุซื้อซื้ทองคำ 2. การลงทุนทุซื้อซื้ที่ดินดิ 3. การลงทุนทุในทรัพรัย์สิย์นสิมีค่มี ค่า อย่าย่งอื่น 1. การลงทุนทุในหุ้นหุ้สามัญมั และ หุ้นหุ้บุริมริสิทสิธิ 2. การลงทุนทุนอกระบบ เช่นช่ การปล่อยเงินกู้ ตารางเปรียบเทียบระดับความเสี่ยงจากการลงทุน 4.ไม่ควรกู้ยืมเงินมาเพื่อการลงทุน ในการลงทุนผู้ลงทุนควร ตระหนักว่าหากไม่มีเงินออม ก็ไม่ควรกู้ยืมเงินมาเพื่อการลงทุนเพราะอาจได้รับผล ตอบแทนไม่คุ้มกับดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายหรือในบางครั้งอาจจะ กลายเป็นป็ว่าการลงทุนเพื่อหาเงินจ่ายดอกเบี้ย สรุปสุดท้าย กลายเป็นป็มีหนี้สินเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
สรุป การออมของบุคคลอย่ารอให้เงินเหลือจ่ายควรมีการ วางแผนและจัดสรรเงินออมไว้ส่วนหนึ่งจากรายได้และมี การวางแผนในการออมโดยตั้งเป้าป้หมายระยะเวลาไว้ว่า ออมไว้เพื่อทำ อะไรและจำ นวนเท่าใดเมื่อมีการออมได้เป็นป็ จำ นวนมากหรือตามเป้าป้หมายแล้วควรนำ เงินออมไปลงทุน เพื่อจะได้ทำ ให้เงินออมงอกเงยเพิ่มขึ้นปัจปัจัยสำ คัญที่มีผล ต่อการลงทุนมี2ประการปัจปัจัยแรกเป็นป็ ปัจปัจัยเฉพาะตัว ของผู้ลงทุนซึ่งได้แก่ อายุ สุขภาพ ครอบครัวความรู้ เกี่ยวกับการลงทุนเวลาในการติดตามการลงทุนและระดับ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้เป็นป็ต้น ปัจปัจัยที่สอง คือ ปัจปัจัย ทางการเงินที่ผู้ลงทุนต้องการได้แก่ ผลตอบแทนที่จะได้ รับ เป็นป็ต้น การเลือกในการตัดสินใจในการลงทุนมี 2 แบบ คือ การลงทุนทางตรงและการลงทุนทางอ้อมการ ลงทุนทางอ้อมผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามระดับ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งสามารถแยกได้เป็นป็ 3 ระดับ คือระดับความเสี่ยงต่ำ ระดับความเสี่ยงปานกลางและ ระดับความเสี่ยงสูง ระดับความเสี่ยงต่ำ เช่น การลงทุน ในสถาบันการเงินของรัฐบาลและเอกชน ระดับความเสี่ยง ปานกลาง เช่นการลงทุนซื้อที่ดินทองคำ และทรัพย์สินมีค่า อย่างอื่นส่วนความเสี่ยงระดับสูง เช่น การลงทุนในหลัก ทรัพย์ ตลาดเงินนอกระบบ เป็นป็ต้น ผู้ลงทุนสามารถเลือก ลงทุนได้ตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และอีกปัจปัจัย หนึ่งที่มีความสำ คัญต่อการลงทุนคือสภาพคล่องเพราะ หากผู้ลงทุนต้องการใช้เงินเร่งด่วน สภาพคล่องของเงิน ทุนก็มีความสำ คัญมากเช่นกัน และการกระจายเงินลงทุน ในระดับความเสี่ยงต่าง ๆ จะช่วยให้ ผู้ลงทุนมีอัตราการ เสี่ยงและมีความปลอดภัยของเงินลงทุนมากขึ้น
แบบฝึก ฝึ หัดหน่วยที่ 2 คำ สั่ง จงเติมคำ หรือข้อความลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ 1.ออม หมายถึง 2.ประโยชน์ของการออมมีดังนี้ 3.หากนักเรียนต้องการออมเงินจะเลือกการออมเงินวิธีใด 4. .................คือ การชะลอการใช้เงินจำ นวนหนึ่งในปัจปัจุบันและนำ ไปซื้อ สินทรัพย์หรือตราสารทางการเงิน โดยหวังว่าจะได้รับผลตอบแทน ที่คุ้มค่า 5.วัตถุประสงค์ของการลงทุนมี 4 ประการ ดังนี้ 6.อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าเพียงใบเดียว” เป็นป็คำ เปรียบเทียบที่ตรง กับ หลักการลงทุนเรื่อง 7.ผลตอบแทนการลงทุน 8.ความเสี่ยงในการลงทุน ประกอบด้วย 9.การลงทุนมี 2 ประเภท คือ 10.กองทุนชนิดใดที่ผู้ลงทุนมีสิทธิได้รับการยกเว้นภาษี
แบบทดสอบ หน่วยที่ 2 คำ สั่ง จงเลือกคำ ตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว คำ ชี้แจง จงทำ เครื่องหมาย (X) ลงหน้าข้อที่ถูกต้องที่สุด 1. การสะสมเงินงิ ไว้ใว้ช้ใช้นยามที่ต้องการหรือรืเวลาฉุกเฉินคือความ หมายของข้อข้ ใด ก. รายรับรัข. การลงทุนทุ ค. การออม ง. รายจ่าจ่ย 2. ข้อข้ ใดคือค่าใช้จ่ช้าจ่ยผันแปร ก. ค่าเช่าช่บ้าบ้น ข. ค่าเบี้ยบี้ประกัน ค. ค่าผ่อนบ้าบ้น ง. ค่าอาหาร 3. ข้อข้ ใดไม่ใช่ปช่ระโยชน์ของการออม ก. ทำ ให้มีวินัวิ นัยในการออม ข. นำ มาใช้ใช้นยามจำ เป็น เช่นช่เจ็บจ็ ป่วย ว่าว่งงาน ค. ทำ ให้บรรลุเลุป้าหมายที่ตั้งไว้ ง. สร้าร้งหลักลั ประกันชีวิชีตวิ ให้กับตนเอง
แบบทดสอบ หน่วยที่ 2 คำ สั่ง จงเลือกคำ ตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว คำ ชี้แจง จงทำ เครื่องหมาย (X) ลงหน้าข้อที่ถูกต้องที่สุด 4. ข้อข้ ใดคือลักษณะของการเกิดภาวะเงินงิเฟ้อฟ้ ก. ภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริกริารโดยทั่วไปสูงขึ้นขึ้เรื่อรื่ย ๆ ข. ภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริกริารโดยทั่วไปลดต่ำ ลงเรื่อรื่ย ๆ ค. ปริมริาณเงินงิ ในระบบเศรษฐกิจที่ให้กู้ยืกู้มยืมีไม่พอกับความต้องการ ง. ภาวะที่ระดับการขยายตัว การจ้าจ้งงานลดลง 5. การฝากเงินงิประเภทใดที่ได้รับรัดอกเบี้ยบี้เงินงิฝากมากที่สุด ก. บัญบัชีเชีงินงิ ฝากออมทรัพรัย์ ข. บัญบัชีเชีงินงิ ฝากสะสมทรัพรัย์ ค. บัญบัชีเชีงินงิ ฝากประจำ ง. บัญบัชีเชีงินงิ ฝากกระแสรายวันวั 6. ข้อข้ ใดคือความหมายของการนำ เงินงิที่เก็บสะสมไปสร้าร้งผล ตอบแทนที่สูงกว่าว่การออม ก. การออมเงินงิข. ผลตอบแทน ค. การลงทุนทุง. ข้อข้ก. และ ข. ถูกถู 7. คำ เปรียรีบเทียบที่ว่าว่ “อย่าย่ ใส่ไข่ทั้ข่ ทั้งหมดไว้ใว้นตะกร้าร้ใบเดียว” ข้อข้ความนี้สอดคล้องกับหลักการลงทุน ทุ ข้อข้ ใด ก. ความปลอดภัยของเงินงิทุนทุข. ความงอกเงยของเงินงิทุนทุ ค. การกระจายเงินงิลงทุนทุง. เสถียรภาพของรายได้
แบบทดสอบ หน่วยที่ 2 คำ สั่ง จงเลือกคำ ตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว คำ ชี้แจง จงทำ เครื่องหมาย (X) ลงหน้าข้อที่ถูกต้องที่สุด 8. ข้อข้ ใดไม่ใช่คช่วามเสี่ยงในการลงทุน ก. ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นขึ้จากอัตอัราดอกเบี้ยบี้ ข. ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นขึ้จากความผันผวนของกิจกรรม ค. ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นขึ้จากอำ นาจซื้อซื้หรือรืค่าของเงินงิ ง. ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นขึ้จากการบริหริารจัดจัการธุรธุกิจ 9. ข้อข้ ใดคือเหตุผ ตุ ลสำ คัญที่ประชาชนส่วนใหญ่นิยมลงทุนโดยการ ฝากเงินงิกับธนาคารมากกว่าว่ลงทุนใน รูป รู แบบอื่น ก. การประชาสัมพันธ์ข ธ์ องธนาคารเข้าข้ถึงประชาชนได้รวดเร็วร็กว่าว่ ธุรธุกิจการลงทุนทุแบบอื่นอื่ ข. เศรษฐกิจของประเทศมีความผันผวนเปลี่ยลี่นแปลงตลอดเวลา ค. ธนาคารมีสาขาทั่วประเทศ การรับรั ฝากเงินงิจึงจึสะดวกและรวดเร็วร็ ง. ขาดความรู้ ความเข้าข้ใจในการลงทุนทุและไม่กล้าล้เสี่ยงลงทุนทุในรูปรู แบบอื่นอื่ 10. กองทุนรวมชนิดใด ที่มีวัตวัถุป ถุ ระสงค์ในการสะสมเงินงิ ไว้ใว้ช้ใช้น ยามเกษียณอายุ ก. กองทุนทุรวมหุ้นระยะยาว ข. กองทุนทุรวมเพื่อการเลี้ยลี้งชีพชี ค. กองทุนทุปิด ง. กองทุนทุเปิด