แนวทางการปฏิบัติงานของพนักงานครูเทศบาล

แนวทางการปฏิบตั งิ านของพนักงานครเู ทศบาล และการประเมินการปฏิบัติตน
ในการรกั ษาวินัย คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี
ประจาปี ๒๕๖๕

โรงเรยี นเทศบาล ๓ วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์
สงั กดั กองการศึกษา เทศบาลเมืองพนสั นิคม

อาเภอพนสั นคิ ม จังหวดั ชลบุรี

แนวทางการปฏบิ ัตงิ านของพนกั งานครูเทศบาล
โรงเรียนเทศบาล ๓ วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

แนวทางการปฏบิ ตั งิ านของพนกั งานครเู ทศบาล โรงเรยี นเทศบาล ๓ วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์
๑. การมาปฏบิ ตั ิงานของพนักงานครู เวลามา ๐๗.๓๐ น. - ๐๗.๔๕ น.
๒. เวลากลบั กลบั หลัง ๑๖.๓๕ น.
๓. เวลาปฏิบัติราชการของครูเวร มาไม่เกนิ ๐๗.๐๐ น.
๔. เวลากลับของครเู วร กลบั หลงั ๑๗.๐๐ น.
๕. เวลาปฏิบัติหนา้ ท่ีเวรยามวนั หยุดกลางวัน เวลามา ๐๘.๐๐ น.
๖. เวลากลับของเวรยามวนั หยดุ กลางวนั กลบั หลงั ๑๗.๓๐ น.
๗. เวลาปฏบิ ตั ิหนา้ ท่เี วรยามกลางคืน เวลามา ๑๘.๐๐ น.
๘. เวลากลับของเวรยามกลางคนื เวลากลับ ๐๖.๐๐ น. ของวนั ถัดไป
๙. เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ ครปู ระจาชั้นตอ้ งดูแลเด็กนักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติ และกจิ กรรมหน้าเสาธง
และเขา้ สอนเวลา ๐๘.๓๐ น.
๑๐. ให้ครูเข้าสอน เลกิ สอน และปล่อยเด็กนักเรยี นตรงเวลา
๑๑. ครูประจาวิชาควบคมุ ดแู ลนักเรียนใหเ้ ดนิ เขา้ แถวเวลาไปเรยี น หรือเปลีย่ นชว่ั โมงเรียนใหเ้ ปน็ ระเบยี บ
๑๒. เวลารบั ประทานอาหารครูประจาวชิ าท่สี อนคาบสาม มาควบคมุ ดูแลนักเรียนให้รับประทานอาหารและห้าม
นาอาหาร ขนมออกมารับประทานนอกโรงอาหาร
๑๓. ให้ครูประจาชน้ั นานกั เรียนแปรงฟันทุกวนั หลงั รบั ประทานอาหารกลางวนั
๑๔. ให้ครูประจาช้นั ใหเ้ ดก็ ดื่มนมทุกวนั ช้ันปฐมวัย และช้ันประถมศกึ ษา ด่มื นมเวลา ๑๔.๓๐ น.
๑๕. ท่องบทอาขยาน และท่องสูตรคณู เวลา ๑๕.๑๕ น.
๑๖. ครสู อนชั่วโมงสุดท้ายนาเด็กลงมาเข้าแถว และควบคมุ แถวก่อนกลบั บา้ น
๑๗. เวรทาความสะอาดครูประจาชน้ั และครูค่ชู ้ันดูแลเดก็ นักเรียนทาความสะอาดตามบริเวณตา่ ง ๆ
๑๘. การดูแลต้นไมใ้ ห้ครูประจาชน้ั มอบหมายใหน้ ักเรยี นดูแลตน้ ไมค้ นละหน่งึ ตน้ ของนักเรียนชน้ั ปฐมวัยและ

ชน้ั ประถมศึกษา
๑๙. ให้ครปู ระจาชนั้ ควบคุมดูแลเดก็ นักเรียนเข้าหอ้ งสมดุ ตามตารางใชห้ อ้ งสมุด
๒๐. ใหน้ ักเรียนทอ่ งคาศัพทภ์ าษาองั กฤษ วัน เดือน ปี และตัวเลข
๒๑. ในชั่วโมงว่างไมไ่ ปพดู คุยกบั ครทู ่ีทาการสอนเปน็ เวลานานเกิน ๕ นาที
๒๒. ไมโ่ พสตเ์ ฟซบุ๊ก ไลน์ ท่ีทาลายชอื่ เสยี งของตนเอง องค์กร และพาดพิงถึงบุคคลอนื่ ในองค์กรนามาซ่ึง

กอ่ ให้เกิดความเสยี หายและเสียช่ือเสียงต่อองคก์ ร
๒๓. ไมเ่ ปล่ยี นช่ัวโมงสอนระหวา่ งครูกบั ครโู ดยไม่แจ้งหวั หน้าฝ่ายวิชาการหรือผ้บู ริหารสถานศึกษา
๒๔. ไมท่ ้ิงเด็กให้อยู่ตามลาพงั โดยไมแ่ จ้งครูคนอื่น และหวั หน้าฝ่ายวิชาการให้ดูแลเด็กแทน
๒๕. ไมน่ าสิง่ ของต่าง ๆ ไว้ในห้องธุรการ
๒๖. ไมส่ ง่ เสยี งดัง หยอกล้อเล่นกัน รบกวนบุคคลอ่นื ขณะปฏบิ ัตงิ านในห้องธรุ การ
๒๗. ไมท่ ิ้งเด็กเพ่ือไปปฏิบตั งิ านอนื่ โดยไม่มีเหตผุ ลอันควร (ควรปฏบิ ตั ิงานนั้น ๆ นอกเวลาของชว่ั โมงการเรียน

การสอน)
๒๘. ไมเ่ ลน่ โทรศัพท์ พูดคยุ กันหรือสง่ เสียงดังในเวลาประชุม
๒๙. ในระหวา่ งประชุมหากมีขอ้ สงสยั ใหย้ กมือถามทีละคน

แนวทางการปฏบิ ัติงานของพนักงานครเู ทศบาลในการเขา้ รว่ มพธิ ี/กิจกรรมตา่ ง ๆ
โรงเรียนเทศบาล ๓ วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

รายช่ือคณะครูที่เข้ารว่ มกจิ กรรมตา่ ง ๆ ดงั นี้ ครูผู้รบั ผดิ ชอบ
ท่ี ร่วมพิธี/กิจกรรม
๑. กจิ กรรมวันแม่ (๓ มถิ ุนายน ของทกุ ปี) ๑. นางสาวเพราพงา ท้าวธนะ
๒. นางสาวอรณุ รัตน์ พิลาราช
๒. กจิ กรรมวันพ่อ (๒๘ กรกฎาคม ของทุกปี)
๑. นายธนพล นา้ ฟา้
๓. กิจกรรมวนั แม่แหง่ ชาติ (๑๒ สงิ หาคม ของทุกปี) ๒. นายสหชยั เอนก

๔. วนั สวรรคตรชั กาลที่ ๙ (๑๓ ตุลาคม ของทุกปี) ๑. นางสาวน้าฝน ราชสมบัติ
๒. นางสาวจินดา อโหสิ
๕. วันปิยมหาราช (๒๓ ตุลาคม ของทุกป)ี ๓. นางสาวตรเี นตร ทาสนทิ

๖. วันคล้ายวันพระราชสมภพ (๕ ธันวาคม ของทุกป)ี ๑. นายชาญชยั วันนา
ของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร ๒. นางนิษฐ์ภทั ร สหายา
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
๑. นางสาวเพราพงา ท้าวธนะ
๒. นางสาวสชุ าดา วงษ์บา้ นหว้า

๑. นางสาวขนษิ ฐา ชยั เดช
๒. นางสาวธดิ ารัตน์ พลู สิน

แนวทางการปฏิบัตงิ านของพนกั งานครเู ทศบาลในการเข้ารว่ มกิจกรรมชมุ ชน
โรงเรียนเทศบาล ๓ วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

รายชือ่ คณะครทู ่ีเข้าร่วมกิจกรรมชุมชนตา่ ง ๆ ดังนี้

ท่ี ชมุ ชนย่อยท่ี ครูผ้รู ับผิดชอบ

๑. ๑. นายธนพล นา้ ฟา้

๑ ๒. นางสาวขนิษฐา ชัยเดช

๓. นายสหชยั เอนก

๒. ๑. นางสาวน้าฝน ราชสมบัติ

๒ ๒. นางสาวจินดา อโหสิ

๓. นางสาวเพราพงา ทา้ วธนะ

๓. ๑. นางสาววัชรินทร์ สกุ ใส

๓ ๒. นางสาวธดิ ารัตน์ พลู สนิ
๓. นางสาวตรีเนตร ทาสนทิ

๔. นางนษิ ฐ์ภทั ร สหายา

๔. ๑. นายชาญชยั วนั นา

๑๑ ๒. นางสาวอรณุ รตั น์ พิลาราช

๓. นางสาวสุชาดา วงษ์บ้านหว้า

แนวทางการปฏบิ ัติงานของพนกั งานครูเทศบาลในการควบคุมและดแู ลกล้องวงจรปดิ
โรงเรยี นเทศบาล ๓ วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

คณะกรรมการควบคุมและดูแลกลอ้ งวงจรปดิ โรงเรยี นเทศบาล ๓ วัดเกาะแก้วนครสวรรค์
จานวน ๑๖ ตวั ดงั มีรายช่อื ต่อไปนี้

๑. นางจีระวรรณ ศรบี ุญยงั
๒. นายธนพล นา้ ฟา้
๓. นางสาวธิดารัตน์ พลู สิน
๔. นายสหชัย เอนก

การประเมินการปฏิบัติตนในการรกั ษาวินยั คุณธรรม
จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ

การประเมนิ การปฏบิ ัติตนในการรักษาวนิ ยั คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
โดยบอกพฤตกิ รรมทีไ่ ม่พงึ ประสงค์ในการปฏิบัติตนของครู

ท่ี รายการประเมนิ พฤตกิ รรมท่ีไม่พึงประสงค์ หมายเหตุ

๑. มีความซ่อื สตั ย์ สจุ รติ รกั ษา ๑. คดั ลอกหรอื นาผลงานของผอู้ นื่ มาเปน็ ของตนเอง

ประโยชนส์ ว่ นรวมไม่อาศัยหรอื ๒. รับอามสิ สนิ จ้างจากการทาโครงการตา่ ง ๆ

ยินยอมให้ผู้อนื่ ใชอ้ านาจและ ๓. แจง้ ข้อมูลเทจ็ ในการเบิกจ่ายคา่ เชา่ บา้ น

หน้าทข่ี องตนเพอื่ แสวงหา ๔. ปลอมแปลงเอกสารหรอื ลายเซ็นของผอู้ ่ืน

ประโยชน์ ๕. มาอยู่เวรยามโดยไม่ครบตามเวลาทกี่ าหนด

โดยพจิ ารณาจาก การปฏบิ ัติงาน ๖. อาศยั หรอื ยินยอมให้ผอู้ ื่นใช้อานาจหนา้ ท่ขี อง

ดว้ ยความซ่ือสตั ย์สุจริตเทีย่ งตรง ตนเองเพ่ือแสวงหาผลประโยชน์

และเทยี่ งธรรมได้รบั การยอมรับ ๗. เขา้ สอนไม่ตรงเวลาท่ีกาหนด

จากเพ่ือนรว่ มงานและ ๘. ใช้ทรัพยส์ นิ ของทางราชการในการทาผลงานของ

ผู้บังคับบัญชาในดา้ นความ ตนเอง

ซ่ือสตั ยส์ ุจริตรกั ษาผลประโยชน์ ๙. เบียดบงั ทรัพย์สนิ ของทางราชการไปใช้กับตนเอง

ของทางราชการ ไมม่ ี และพวกพ้อง

ผลประโยชน์ทบั ซอ้ น ใชท้ รพั ย์สนิ ๑๐. ทางานสว่ นตวั ในเวลาปฏบิ ัติราชการ

ของทางราชการอยา่ งคุ้มค่าไม่ใช้ ๑๑. ละเวน้ การสอนในเวลาท่ีไม่มีความจาเปน็

ชอ่ งวา่ งทางระเบียบและกฎหมาย ๑๒. กลา่ วคาเทจ็

เพือ่ ประโยชน์สว่ นตนและผู้อ่ืน ๑๓. เขา้ ขา้ งฝา่ ยผดิ

(การรับอามิสสนิ จา้ งจากผู้อ่นื ) ไม่ ๑๔. แสวงหาผลประโยชน์และเอื้อประโยชน์ให้กับ

แสวงหาผลประโยชนท์ เี่ กิดจาก นกั เรียนและผู้ปกครอง

ชอ่ งวา่ งทางระเบยี บกฎหมายจาก ๑๕. แสวงหาผลประโยชน์และรับอามิสสินจา้ งจาก

ผู้ปกครอง และนกั เรียน ในงานท่ี นักเรียนและผู้ปกครอง

เกีย่ วกบั บทบาท หน้าท่ี และ ๑๖. ประพฤตผิ ดิ ทางชสู้ าวกับนักเรยี นและครู

ภารกิจทต่ี นรบั ผิดชอบ ๑๗. ปดิ บงั ข้อมลู ข่าวสารในการปฏิบัตงิ านและเออื้

ประโยชน์ใหก้ บั ผอู้ น่ื

๑๘. ไม่มาปฏบิ ตั ริ าชการแต่มาลงช่ือในภายหลัง

๑๙. มาลงช่ือแต่ไม่มาปฏิบตั ริ าชการ

๒๐. เขียนหนงั สอื และระบายสีใหก้ ับนักเรยี นในชนั้

เรียนของตนเอง

๒๑. ขาดความยุตธิ รรมในการตัดสินปัญหาที่เกดิ ขนึ้

๒. การปฏิบัติตามระเบยี บ ๑. ไม่ปฏิบตั ติ ามคาสั่งของผูบ้ ังคบั บญั ชาจนทาให้เกิด
กฎหมาย นโยบาย และคาส่งั ความเสียหายทางราชการ
ของผู้บงั คับบญั ชา ๒. ขาดราชการโดยไม่แจ้งผบู้ ังคับบัญชาใหร้ บั ทราบ
โดยพจิ ารณาจาก การมีความรู้ ถงึ เหตผุ ลและความจาเปน็
และปฏิบัติตามระเบียบกฎหมาย

ที่ รายการประเมิน พฤติกรรมทไ่ี ม่พงึ ประสงค์ หมายเหตุ

ท่ีเก่ียวข้องอย่างเครง่ ครัด ปฏบิ ัติ
ตามคาสง่ั หรือนโยบายที่ชอบด้วย
กฎหมายอย่างเคร่งครดั ของ
ผบู้ รหิ ารสถานศึกษาหรอื ผบู้ ริหาร
การศกึ ษาหรอื หนว่ ยงานตน้ สงั กดั
และไม่ใช้ช่องว่างทางระเบยี บ
และกฎหมายกล่ันแกล้งผู้อื่น

๓. มคี วามวริ ยิ ะ อตุ สาหะ ตรงต่อ ๑. ละทิง้ หนา้ ท่ที ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย

เวลา และอุทศิ เวลาใหแ้ กท่ าง ๒. เขา้ สอนและเลกิ สอนไมต่ รงเวลา

ราชการ ๓. ไม่เสียสละเวลาเพือ่ รว่ มกจิ กรรมใน

โดยพจิ ารณาจาก การพัฒนา วันหยุดราชการ

ตนเองและงานโดยใหห้ ลกั การ ๔. แสวงหาผลประโยชน์ของตนเองในเวลาราชการ

พฒั นาแบบมุ่งผลสมั ฤทธิม์ ีทักษะ ๕. การไม่ตรงต่อเวลา มาปฏิบัติงานสายและกลบั เร็ว

การสอนงาน (Coaching) จน ๖. การหลบหลกี เล่ยี งงานในหน้าที่

สามารถเปน็ ตน้ แบบได้ เป็นผู้ตรง ๗. การไมป่ ฏิบัตติ ามบทบาทและหน้าทีข่ องตนเอง

ตอ่ เวลา มีความรับผิดชอบตอ่ งาน ๘. การมาปฏิบัตงิ านเกนิ ๐๗.๔๕ น.

ตามบทบาท หน้าที่ภารกิจท่ีไดร้ ับ ๙. ไม่พฒั นาตนเองในการแสวงหาความรใู้ หม่ ๆ

มอบหมาย รวมถงึ ผลทเี่ กิดจาก ท่ีทนั ต่อยุคสมัย

การปฏบิ ัติงานของตน มีความ

พร้อมในการปฏบิ ตั งิ านตาม

บทบาทหน้าที่ ภารกจิ ที่ได้รับ

มอบหมาย และอุทิศเวลาโดยมี

จติ สานึกและความรับผดิ ชอบ

๔. การมจี ติ สานึกทีด่ ี มุ่งบรกิ ารตอ่ ๑. ไมใ่ ห้ความร่วมมือกับคณะครแู ละผู้ปกครองใน

กลุ่มเปา้ หมายผู้รับบรกิ าร การบริการข้อมูลข่าวสารตา่ ง ๆ ทเ่ี ป็นประโยชนต์ อ่

โดยไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั ิ ทางราชการ

โดยพจิ ารณาจาก การมี ๒. เลอื กปฏบิ ตั กิ บั ผูป้ กครองทม่ี าติดต่องานราชการ

พฤติกรรมเชิงบวกในการ ๓. ลงโทษนกั เรยี นอยา่ งไม่ยุติธรรมและไมเ่ หมาะสม

ให้บรกิ ารกบั กลมุ่ เปา้ หมาย ๔. เรียกอามิสสินจา้ งจากผู้ปกครองและนกั เรียน

ผรู้ บั บรกิ ารมุ่งม่นั ในการให้ความรู้ ๕. ไมม่ ีจิตสาธารณะ

และวิธปี ฏิบัติท่ีถูกต้องกับ

กลมุ่ เป้าหมายท่ีรบั บริการ

ให้บริการกบั กล่มุ เป้าหมาย

ผู้รบั บริการในประเดน็ ทเ่ี ก่ียวข้อง

กับการเรียนการสอนโดยไมเ่ ลือก

ท่ี รายการประเมนิ พฤตกิ รรมทไี่ ม่พึงประสงค์ หมายเหตุ

ปฏบิ ตั ิใหบ้ รกิ ารกับผู้ปกครองทุก
คนในประเด็นท่เี กยี่ วข้องกบั การ
เรียนการสอนของผเู้ รยี นในความ
ปกครองโดย ไม่เลือกปฏิบตั ิ ให้
ความรว่ มมือกบั ประชาชน ชุมชน
ในประเด็นท่เี กยี่ วข้องกบั การ
พฒั นาผู้เรียนโดยไม่เลือกปฏิบัติ

๕. การรักษาคณุ ภาพตามมาตรฐาน ๑. ครูไมม่ วี นิ ยั ในตนเอง และไม่พัฒนาตนเองด้าน

วิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชีพ วชิ าชีพ บุคลิกภาพ วิสัยทศั น์ให้ทนั ต่อการพฒั นาทาง

โดยพิจารณาจาก การปฏบิ ตั ิงาน วิชาการ เศรษฐกจิ สงั คม และการเมอื งอย่เู สมอ

โดยเข้ารว่ มกจิ กรรมของวิชาชีพ ๒. ครไู ม่รกั ศรทั ธา ซ่ือสตั ยส์ ุจริต รบั ผดิ ชอบตอ่

หรือองค์กรวชิ าชพี เพื่อพฒั นา วิชาชพี และไมเ่ ป็นสมาชกิ ทด่ี ี ขององค์กรวิชาชีพ

ความเช่ยี วชาญทางวิชาชีพของ ๓. ครไู มร่ ัก เมตตา เอาใจใส่ชว่ ยเหลอื สง่ เสรมิ ไม่ให้

ตนเองอยา่ งสมา่ เสมอ ปฏบิ ัติงาน กาลงั ใจแก่ศิษย์ และผูร้ บั บริการตามบทบาทหน้าที่

โดยใหค้ าปรกึ ษาหรือช่วยเหลือ โดยเสมอหนา้

กลุ่มเปา้ หมายผู้รบั บริการดว้ ย ๔. ครไู ม่ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนสิ ัยท่ี

ความเมตตากรุณาอย่างเต็มกาลัง ถกู ต้องดีงามแก่ศษิ ย์ และผูร้ ับบรกิ าร

ความสามารถและ ๕. ครูไม่ประพฤติปฏบิ ัติตนเป็นแบบอยา่ งท่ีดีทั้งทาง

เสมอภาคปฏบิ ตั ิตนด้วยการ กาย วาจา และใจ

ดารงชวี ติ ตามหลักปรชั ญาของ ๖. ครูกระทาตนเปน็ ปฏปิ ักษ์ตอ่ ความเจริญทางกาย

เศรษฐกจิ พอเพียง ป้องกันความ สตปิ ญั ญา จติ ใจ อารมณ์ สงั คมของศิษย์ และ

เสี่ยงในการดาเนินชวี ิตภายใต้ ผู้รับบรกิ าร

ความร้แู ละคณุ ธรรมอันดี ๗. ครไู ม่ให้บริการด้วยความจรงิ ใจ และเสมอภาค

ประพฤตติ นเปน็ ผนู้ าในการ โดยเรียกรบั หรือยอมรับผลประโยชนจ์ ากการใช้

อนรุ กั ษ์ศิลปวัฒนธรรม ภมู ิ ตาแหนง่ หน้าท่โี ดยมชิ อบ

ปัญญาท้องถ่นิ และสง่ิ แวดลอ้ ม ไม่ ๘. ครูไมช่ ่วยเหลอื เกอ้ื กูลซ่ึงกันและกนั อยา่ ง

กระทาตนเปน็ ปฏปิ กั ษ์ตอ่ ความ สร้างสรรค์ ไม่ยึดมน่ั ในระบบคุณธรรมสร้างความ

เจรญิ ทางกาย สตปิ ญั ญา จติ ใจ แตกแยกในหมู่คณะ

อารมณ์ และสังคมของ ๙. ครูไม่ประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้นาในการอนุรักษ์

กลมุ่ เปา้ หมายและผรู้ บั บรกิ าร และพัฒนา เศรษฐกจิ สงั คม ศาสนา ศิลปวฒั นธรรม

บคุ ลากรทางการศึกษา และ ภมู ปิ ัญญา สง่ิ แวดล้อม ไมร่ ักษาผลประโยชน์ของ

ผรู้ ว่ มงาน ส่วนรวม และไมย่ ดึ มนั่ ในการปกครอง

ระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์

ทรงเปน็ ประมุข

ที่ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมที่ไม่พึงประสงค์ หมายเหตุ

๖. การรักษาภาพลกั ษณ์และความ ๑. ครผู ูช้ ายและครผู ู้หญงิ อยใู่ นห้องเรยี นตามลาพัง
สามคั คีในองคก์ ร ชมุ ชน และ
สงั คม โดยไม่เกีย่ วข้องกับการปฏบิ ัติราชการ
โดยพิจารณาจากการมี
ภาพลกั ษณ์ที่ดีทางดา้ นศลี ธรรม ๒. ครูผู้ชายและครผู หู้ ญงิ แสดงพฤติกรรมเชิงชู้สาว
จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและ
วฒั นธรรมทด่ี เี ปน็ แบบอย่างทาง ตอ่ หน้านักเรียน
สังคม เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ีส่งเสริม
วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ๓. ครนู ั่งขาไขว่ห้างและกระดิกเท้าต่อหนา้ นกั เรยี น
ประเพณอี ันดีงามขององค์กร
สงั คมและสถาศึกษาอย่าง และบุคคลอื่น
สม่าเสมอ รวมถงึ กิจกรรมดา้ น
ส่งิ แวดล้อมและประโยชน์ ๔. ครูใส่รองเทา้ แตะมาปฏิบัตริ าชการ
สาธารณะปฏิบตั ติ ่อ
กลุม่ เป้าหมายผูร้ บั บริการ เพื่อ ๕. ครผู หู้ ญิงใสก่ ระโปรงสัน้ เหนือเข่า
รว่ มงาน และประชาชนอย่าง
เสมอภาคเท่าเทยี มกัน ปฏิบตั ิตน ๖. ครผู หู้ ญิงแตง่ กายดว้ ยเนอื้ ผา้ ท่ีบางเบาและคอลึก
เพือ่ เปน็ การเสริมสร้างความ
สามคั คี ช่วยเหลือเก้ือกูลในการ ทาใหเ้ หน็ สัดสว่ นและรูปร่างชัดเจน
ทางานหรืออยรู่ ่วมกับผู้อน่ื
รวมทงั้ ปลกู ฝงั แก่เป้าหมาย ๗. ครใู ส่รองเท้าสน้ สูงและเน้นแฟช่นั เกนิ ไป
ผรู้ บั บริการ
๘. ครผู ชู้ ายใส่กางเกงรัดรปู เกินไป

๙. ครผู ูช้ ายใสก่ ระโปรงในการปฏบิ ตั ิงาน

๑๐. ครูเลน่ การพนัน และข้องเก่ียวกบั อบายมุข

๑๑. ครูด่มื สรุ าในโรงเรยี น

๑๒. ครชู กั ชวนใหบ้ ุคคลอ่ืนมาดืม่ สรุ าและของมนึ เมา

ภายในบริเวณโรงเรยี น

๑๓. ครใู สก่ างเกงยีนส์ขาดร่งุ ร่ิงจนเห็นผวิ หนัง

๑๔. ครูทาเลบ็ หลากสีสนั

๑๕. ครเู จาะจมกู เจาะล้ิน และเจาะสะดอื

๑๖. ครนู ดั บุคคลอน่ื มาพบโดยไมม่ ีเหตุอันควรและ

พูดคยุ นานเกนิ ๑๐ นาที ในเวลาสอน

๑๗. ครูนอนหลับในเวลาปฏบิ ัติราชการและในช่วั โมง

สอน

๑๘. ครพู ูดจาหยาบคาย และดา่ ทอนักเรียน

ผปู้ กครอง และบคุ คลอื่น

๑๙. ครพู ดู จาใหร้ า้ ยและดหู ม่ินเหยยี ดหยามผูอ้ น่ื ทา

ใหเ้ กดิ ความแตกแยก และเสียหายต่อองคก์ ร

๒๐. ครทู ะเลาะวิวาท โต้เถียง ด่าทอกนั และทาร้าย

ร่างกายกันต่อหน้านักเรยี นและผอู้ ืน่