52 เศรษฐศาสตร์แห่งชีวิต รอบรู้ไปทุกเรื่อง หนูทดลองไม่ได้อนุมานการเปลี่ยนแปลงของราคาหรือ งบประมาณที่มีได้ในทันทีทันใด คาเกล, บัตตาลิโอ และโคกุตให้เวลา พวกมันคิด นักสะสมเข็มกลัดตัดสินใจผิดพลาดจนกระทั่งพวกเขามี ประสบการณ์ชายเกย์ที่เผชิญความเสี่ยงว่าจะเป็นเอดส์ตอบสนองต่อ สัญญาณด้านอารมณ์มากกว่าการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ของระดับความเสี่ยง ในการติดเชื้อ [ซึ่งแท้ที่จริงก็ไม่ได้เปลี่ยน—ผู้แปล] แต่แล้วถึงแม้ว่าจะ ทำอะไรๆ ผิดพลาดถึงที่สุดแล้ว ทั้งหนูนักสะสม และชายเกย์ก็ตอบสนอง ต่อแรงจูงใจตรงหน้าของพวกเขาและมักจะตอบสนองในทางที่เราไม่ คาดคิดมาก่อน ผมหวังว่าจะได้เริ่มหว่านล้อมให้คุณเชื่อแล้วว่า ถึงแม้เราจะไม่พบ พฤติกรรมมีเหตุมีผลทุกหนแห่งที่เรามอง เราจะพบว่าคนส่วนใหญ่ใน สถานการณ์ส่วนใหญ่ (อย่าลืมว่าเราใช้เวลาส่วนใหญ่ในพื้นที่สบายใจของ เราเอง) มีเหตุมีผล เราพบแล้วว่าคนเราทำอะไรๆ ที่น่าทึ่งเมื่อเผชิญกับ ความเสี่ยงที่เปลี่ยนไป เช่น ทำให้ตัวเองมีโอกาสติดเชื้อจากโรคติดต่อ ทางเพศหรือตัดสินใจเปลี่ยนรสนิยมทางเพศ เราได้เห็นแล้วว่าคนเรา เข้าใจขีดจำกัดที่เป็นนามธรรม ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณหรือการเปลี่ยน แปลงในระบบกฎหมาย และคนที่คำนวณเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้มีแต่อาจารย์ เศรษฐศาสตร์เท่านั้น ไม่ว่าเราจะศึกษาสาววัยรุ่นที่กำลังตัดสินใจว่าเซ็กซ์ แบบไหนโอเค หนุ่มวัยรุ่นที่กำลังคิดว่าจะก่ออาชญากรรมดีหรือไม่ โสเภณี ที่ต่อรองกับลูกค้าให้ได้ค่าตัวสูงขึ้น หรือแม้กระทั่งหนูทดลอง เราก็พบว่า พวกเขาทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะมีเหตุมีผลทางเศรษฐศาสตร์ แต่ถ้าเราฉลาดนัก เหตุใดชีวิตจึงดูบ้าบอคอแตกล่ะ หลายคน สูบบุหรี่และเล่นการพนัน คนโง่ตกหลุมรัก คนปัญญาอ่อนเป็นเจ้านาย ในสำนักงาน ย่านต่างๆ ในเมืองเฟื่องหรือล่มอย่างไม่มีเหตุมีผล ตรรกะ ในเรื่องเหล่านี้อยู่ตรงไหน ตรรกะอยู่ในนั้นถ้าคุณพยายามมากพอ และในหลายบทข้างหน้า
แนะนำ�ตรรกะของชีวิต 53 ผมจะแสดงให้เห็นว่าคุณจะหามันเจอได้อย่างไร บทที่ 2 อธิบายทฤษฎี การเลือกที่มีเหตุมีผลที่เข้าใจยากที่สุด นั่นคือทฤษฎีเกมซึ่งถูกพัฒนาขึ้น โดยอัจฉริยะคนหนึ่งบนสมมุติฐานที่ว่าคนอื่นๆ ก็เป็นอัจฉริยะด้วย ผมจะ แสดงให้เห็นว่าอัจฉริยะพบเห็นได้มากกว่าที่คุณคาดคิด และจะแสดงว่า ทฤษฎีเกมมีประโยชน์ที่ประเมินค่ามิได้ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการ ติดยาเสพติดและจุดอ่อนอื่นๆ ของมนุษย์ ในบทที่ 3 ผมจะเสนอว่าพฤติกรรมที่มีเหตุมีผลนั้นนั่งอยู่เคียงข้าง กระทั่งอารมณ์ที่เร่าร้อนที่สุดของเราได้นั่นคือความรัก คู่รักวางแผน วางกลยุทธ์ต่อรอง และรับมือกับสภาพความจริงอันโหดร้ายของอุปทาน และอุปสงค์การมองความรักอย่างมีเหตุมีผลไม่เพียงแต่ฟังขึ้นเท่านั้น แต่ กลายเป็นว่ามันเป็นวิธีเดียวที่เราจะเข้าใจหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงทาง สังคมครั้งใหญ่ที่สุดตอนปลายศตวรรษที่ยี่สิบ นั่นคืออัตราการเติบโตที่ สูงลิบลิ่วของผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้หญิงที่มีการศึกษา ตลอดจนการเพิ่มขึ้น และลดลงของอัตราการหย่าร้าง หลังจากนั้นผมจะออกจากมิติของครอบครัวเข้าสู่ที่ทำงานในบทที่ 4 ผมจะดูว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อพฤติกรรมที่มีเหตุมีผลต้องพบกับความขลาด เขลาเบาปัญญาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ผมจะเสนอว่าสำนักงานส่วนใหญ่เต็มไป ด้วยความลับ ใครเป็นคนฉลาด ใครทำงานหนัก ใครที่เพียงแต่โชคดีเฉยๆ คุณลักษณะหลายอย่างของธุรกิจที่ดูไร้เหตุผล ตั้งแต่เจ้านายที่ได้เงินเดือน สูงเกินไปจนถึงการเมืองภายในสำนักงาน เป็นเพียงปฏิกิริยาที่มีเหตุมีผล ต่อความคลุมเครือในชีวิตสำนักงานเท่านั้น หลังจากนั้นผมจะเบนเข็มความสนใจไปสู่ผลลัพธ์ของการตัดสินใจ อย่างมีเหตุมีผลของปัจเจกชน ผลลัพธ์ที่บ่อยครั้งดูเหมือนจะไร้เหตุผล ผมจะพูดถึง 2 ประเด็นที่เกี่ยวโยงกัน นั่นคือสีผิวและระดับความเสื่อมโทรม ของตัวเมืองชั้นใน และแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมที่มีเหตุมีผลของปัจเจก บุคคลไม่จำเป็นต้องนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สังคมปรารถนาเสมอไป เนื่องจาก
54 เศรษฐศาสตร์แห่งชีวิต ความสัมพันธ์ระหว่างการตัดสินใจของคนแต่ละคนกับสิ่งที่เกิดขึ้นใน ระดับใหญ่กว่านั้นเป็นเรื่องที่อยู่ตรงกันข้ามกับที่เราคิด และมักจะก่อให้ เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ใน 3 บทสุดท้าย ผมจะใช้สิ่งที่เราได้เรียนรู้ในระดับที่ใหญ่กว่านั้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมที่มีเหตุมีผลนั้นก่อร่างสร้างรูปเมืองใหญ่ ของเรา การเมืองของเรา และท้ายสุดก็รวมถึงประวัติศาสตร์อารยธรรม ทั้งหมดของเราอย่างไร เริ่มตั้งแต่เมื่อ 1 ล้านปีที่แล้ว อย่ากังวลไปเลยครับ ผมจะอธิบายอย่างรวบรัด