มุมของแมงมุม

ก
คํานํา

หนังสือเลมนเี้ ปน สวนหนง่ึ ของวชิ าหองสมุดและการรสู ารสนเทศในระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 4 จัด
ทําเพ่ือการศึกษาเกย่ี วกบั แมงมุม ซ่ึงมเี รื่องของ ประวตั คิ วามเปนมา พฤตกิ รรม สายพนั ธุ ความสําคัญ และ
ความอันตรายของแมงมุม

ขอขอบคุณ คณุ ครูสริ ลิ ักษณ แสงศิลา ผใู หความรแู ละแนวทางการศกึ ษา ทาํ ใหการจัดทาํ รายงาน
เลมนีส้ าํ เร็จ ผจู ัดทาํ หวงั วา รายงานเลมนี้จะเปน ประโยชนก บั ผอู าน หรอื นักเรียน นกั ศึกษา ท่กี ําลงั หาขอ มูล
เรอื่ งน้ีอยูหากมีขอแนะนาํ หรือขอ ผดิ พลาดประการใด ผูจัดทําขอนอ มรบั ไวแ ละขออภยั มา ณ ท่นี ้ดี ว ย

นาขวัญ ผดุ ผอง
28 กมุ ภาพนั ธ 2565

สารบัญ ข

คํานํา ก
สารบัญ ข
บทนํา 1
ประวัตคิ วามเปนมาของแมงมมุ 2
พฤตกิ รรมทัว่ ไปของแมงมุม 3
สายพนั ธุ 4
ความสาํ คญั ของแมงมุม 9
อันตรายจากแมงมุม 11
วิธีปอ งกนั และปฐมพยาบาล 12
บทสรุป 13

บรรณานกุ รม 14

บทนาํ

แมงมมุ เปน สิ่งมชี ีวติ จาํ พวกสัตวข าปลอง หลายคนท่ผี านมาเห็นเจา แมงมมุ ตัวนอยก็อดนกึ เอ็นดู
ไมได เจา แมงมุมที่มหี ลายขาดสู วยงามและมีหลายตาชวนใหหลงใหล มันชางเปน สตั วที่มเี สนห ย ่ิงนักแต
บางสายพันธุกแ็ อบแฝงไปดว ยความอนั ตรายทอี่ าจสงผลตอชีวิตได แมงมมุ สามารถพบไดแทบทุกภูมภิ าค
ของโลก เพราะฉะน้นั พวกเราจงึ ตองทาํ ความรจู ักกบั สิง่ มีชวี ติ ชนดิ นี้ใหมากขึ้นเพ่ือที่จะอยบู นโลกรวมกนั กบั
แมงมุมได

ประวตั ิความเปนมาของแมงมุม

แมงมมุ ตวั แรกของโลกไดถ ือกําเนดิ เม่ือประมาณ 400 ลา นปกอนนี้ มนั จุตบิ นโลกพรอ มๆ กับสตั วที่ไมม ี
กระดกู สนั หลงั และถึงแมจ ะมีกาํ เนิดมานานก็ตามหนา ตารปู รางของมันก็มไิ ดเปลีย่ นจากอดีตมาก เลย แมงมุมเปน
สัตวพ วกแมลง มนั มขี า 8 ขา มีเขี้ยว แตไ มม หี นวด หรือปก นกั กฏี วิทยาประมาณวาโลกน้ีมีแมงมมุ ประมาณ
36,000 ชนิด และมขี นาดตา งๆ กัน ตั้งแตเล็กมากคอื มขี นาดตัวสัน้ กวา 0.43 มลิ ลิเมตร จนถงึ พนั ธุ Theraphosa
leblondi ท่พี บในประเทศ Surinam ซง่ึ มีขนาดลําตวั ยาวถึง 28 เซนตเิ มตร และหนกั ถงึ 123 กรมั

มกี ารพบแมงมุมยุคปจ จุบนั หลายสายพันธทุ ีม่ วี ิธีทําใหแ นใจวาลกู หลานของพวกมันจะอยูรอด เชน
แมงมมุ ตัวเมียจะหมอบคลมุ ไขข องมนั โดยสรา งใยเพือ่ มัดและจบั ใหไ ขช ิดกัน ทวาการศกึ ษาใหมโ ดยทมี วิจัยจาก
มหาวิทยาลัยแคปต อลนอรม อลในจีน ไดคน พบหลกั ฐานวาแมแมงมุมท่ีเคยมีชวี ติ อยชู วงกลางยคุ ครเี ตเชียสมี
พฤติกรรมแบบเดียวกันกบั แมงมุมยคุ ปจจุบนั หลกั ฐานดังกลา วคอื อําพนั 4 กอนอายุ 99 ลา นป ไดจ ากเหมอื งแหง
หน่ึงในเมียนมา ซึ่งมแี มงมมุ ผนึกฝง อยอู าํ พนั โดยในอําพันกอ นหนงึ่ มแี มงมมุ ตวั เมยี ทโี่ ตเตม็ วัยพรอ มกบั ถงุ ไขท่ไี ม
บบุ สลายอยใู ตรางกายของมัน เม่อื นําไปวเิ คราะหล กั ษณะใบหนากพ็ บวา แมงมมุ ตวั นี้อยูในวงศ
Lagonomegopidae ทีส่ ญู พันธุไ ปแลว นักวจิ ยั ยงั ต้ังขอสงั เกตอกี วาแมงมมุ ตวั เมียมีทา ทางคลา ยกับแมงมุมตวั เมีย
สมัยใหม ท่ปี กปอ งไขข องพวกมันจากนกั ลา เมอื่ มองดูใกลๆ ก็พบวาแมงมมุ ตวั เมยี ใชเสน ใยของมนั จบั มดั ไขไ วดวย
ตรงน้เี องทนี่ ักวทิ ยาศาสตรบางคนนาํ เสนอวาการสรางเสนใยในแมงมมุ เร่ิมตนดว ยการพยายามผูกไขเขา ดวยกนั
และเม่อื เสนใยถกู สรางขึน้ แลว แมงมุมกเ็ ร่มิ ใชมันเพ่อื จดุ ประสงคอ ืน่ เชน สรา งเครือขา ยใยแมงมุม สว นอาํ พันอีก 3
กอนกม็ ีลูกแมงมุมและใยแมงมุมฝงอยู ทงั้ หมดถกู ระบุวา เปน แมงมุมในวงศ Lagonomegopidae เชน กัน

พฤตกิ รรมท่วั ไปของแมงมมุ

แมงมุมจะออกหาเหยือ่ เปน ประจํา แมงมุมจะซอนตัวในบรเิ วณทเ่ี หย่อื จะเดนิ ผา น หรือสรา งใย
แมงมมุ เพือ่ ดักจบั แมลงทบ่ี ินผาน นอกจากตวั แมงมมุ แลว สัญญาณทเ่ี ห็นไดท ั่วไปวา มีแมงมุมอยูในบานคือ
ใยแมงมมุ หรอื ใยแมงมมุ เกา (ที่เรียกวา หยากไย) ปกตแิ มงมมุ จะผลิตใยขึน้ แตกตางกนั ถงึ 7 ประเภท ข้ึน
อยูกบั จดุ ประสงคการใชงาน แตใ ยแมงมมุ ประเภท dragline เปน เสนใยประเภทท่ไี ดรบั ความสนใจในการ
สงั เคราะหข้ึน เนอื่ งจากมีความแข็งแรงมาก เปน เสนใยที่แมงมุมใชป ลอ ยตัวจากท่สี ูง และใชเปน ใยวงนอก
สุด

แมงมุมสว นมากชอบหลบซอนตัว ชอบอยูใ นทมี่ ดื และสงบ พบไดท ั้งในตวั บา นและนอกตัวบา น
แมงมมุ ไมม ีนิสัยกาวราว และจะพยายามหนีหางออกจากผูคน หรือเพ่ือปองกันตวั เอง แมงมุมหลายชนดิ มีค
วามพิเศษในการซอ นหรือพรางตวั เชน แมงมมุ Wrap-around spiders สายพนั ธุ Dolophones ท่แี ผต วั
ติดกบั กงิ่ ไมเพื่อซอ นตัวในระหวางวัน และจะออกมาสรางใยในเวลากลางคืน แมงมมุ Bird-dropping
spider ที่มีรูปรา งคลา ยมูลนก หอ ยติดกับใยแมงมมุ เปนการพรางตัว หรือแมงมุมประตกู ล (Trapdoor
spiders) ที่อาศยั อยูในโพรงทีป่ กคลมุ ดวยดินและเศษใบไม

แมงมุมบางชนดิ ตองการความช้นื สงู และพบไดในตวั บาน เชน ในหอ งนา้ํ หองเก็บของ พ้ืนที่
เก็บของ และหอ งใตห ลงั คา

สายพนั ธุ

สายพันธทุ ่พี บเหน็ ไดงาย
1) เเมงมุมใยทองทองขนาน (Giant Golden Orbweaver Spider)
ชื่อใยทอง สใี ยออกเหลอื งๆ เหนยี วมาก ทาํ ใยตามตน ไมใ หญในสวน

2) เเมงมุมนงุ ซ่ินหลากสี (Multi-coloured Argiope Spider)
ตวั น้ใี ครๆ ก็คนุ ๆ ในชือ่ เเมงมุม X เพราะลกั ษณะการเกาะเหมือนตัวอกั ษร X เเละท่ีทอ งเหมอื นกันนงุ ผา
ซ่ินทม่ี ีหลายๆ สีสลบั กนั สวยงาม

3) เเมงมุมใยกลมทอ งถั่ว (Kidney Garden Spider)
ดวยลกั ษณะทอ งมรี ปู ทดี่ ูเหมือนรูปถว่ั หรือถามองหลายๆ มุมหลายคนจะดูเหมอื นรปู คนยิม้ ทําใบไมม วนๆ
เเลว เขาไปหลบ ชว งใกลส วางมักออกมาทาํ ใยลาเหย่อื

4) เเมงมุมใยกลมทุง (Common Web Spider)
สังเกตตามยอดดอกหญา ตัวน้ีชอบเกาะพรางตวั ซุม ลา เหยอ่ื มักทําใยเปนเสนเดยี่ วๆ โยงกบั ยอดดอกหญา
อกี ตนขามไปขา มมาลาเหยอื่ ไดส บาย

5) เเมงมุมนินจาขาขนนก (Ninja-star Ceiling Spider)
ชอบทําใยเปนเเพรๆ คลายเพดานบา นเเลว เกาะเเบบหงายทองข้ึนคลายนนิ จาพรางตัว เเถมสังเกตดีๆ บาง
ตัวมถี งุ ไขรูปดาวกระจายคลายอาวุธลับของนนิ จา

6) เเมงมุมหยากไยบา น (Tailed Cellar Spider)
เหน็ ชดั เจนมาก ชอบทาํ ใยยงุ ๆ ตามซอกบา น ซอกเตยี ง หรอื ซอกเกา อ้ี มีขายาวๆ เกง กาง ตวั นบ้ี อบบางมาก
เเคส ะกิดนดิ เดยี วขากห็ กั เเลว เวลาเราเขาไปโดนใยใกลๆ มันจะส่นั ใยเพอื่ ปอ งกันตวั ทําใหเ ราตกใจกลวั

7) เเมงมมุ เเมวปา ชวา (Java Lynx Spider)
อปุ นิสัยถอดเเบบนกั ซมุ โจมตีอยาง ตัวลงิ ซ (นกั ลา ทีซ่ ุมรอเหย่อื เเลวกระโจนเขาโจมตเี หยื่ออยา งเรว็ ) มาอยางไงกอ็ ยาง
นัน้ มหี นามยาวทัว่ ท้งั ตวั ชอบซุมรอเหยือ่ ตามกิ่งไมเ เละใตใ บไม
8) เเมงมมุ กระโดดเสอื เเมลงวนั บา น (Grey-Wall Jumping Spider)
น่ีคือนกั ลา เเมลงวันในบา น มกั เกาะเเละเดินอยูตามผนงั บา น ที่ไดช ื่อนีก้ เ็ พราะชอบวง่ิ ไลต ะครุบเเมลงวันกินเปน อาหาร
ไดอ ยางรวดเร็ว จึงไดชอ่ื น้มี า
9) เเมงมุมกระโดดมดเเดง (Red Weaver Ant-mimicking Spider)
ชื่อก็บอกอยูเ เลว นกั ปลอมตัวอนั ดับหนึง่ เปนเเมงมุมสปาย ท่เี เฝงตวั เขา อยูกบั กลุมมดเเดงไดอยา งเเนบเนยี น วา กันวา
เขา ไปลา มดกนิ เปน อาหาร เเตบางทถี า ถกู มดจับไดกจ็ ะถูกรมุ ฉกี ตัวเปน ชนิ้ ๆ
10) เเมงมุมพเนจรบาน (Giant Crab Spider)
นักลาเเมลงสาบ ดๆู ไปกค็ ลา ยปู ยา ยทอ่ี ยู พเนจรไปเรื่อยๆ ตามชอ่ื ของมนั เเละจะสังเกตเห็นพวกมันบางตัวจะคาบ
ถงุ ไขล ักษณะแบนๆ ขาวๆ ไวท ่ีปาก เคล่ือนท่เี ขาตะครบุ เหย่ือดวยความเร็ว

แมงมุมใยทองทองขนาน
แหลงทม่ี า : https://www.enac-club.com/knowledge/nature/insect/golden_orb_weaver_spider.html

สายพนั ธทุ ีพ่ บเห็นไดยาก
1) Happy face spider (แมงมมุ หนายมิ้ )
เปน สายพันธทุ ่ีใกลเ คียงกับแมงมมุ แมมายดาํ พบในปา ฝนของฮาวาย ดเู หมอื นมนั จะไมม อี ันตรายใดๆตอ มนุษย
เลยแมแตน อย รปู รางแปลกๆบนสวนทอ งของมันจะเปนรูปหนาย้มิ แตบ างทีมนั ก็ไมไดช ดั เหมือนในรปู หรือ
เบ้ียวไปจนดูไมอ อกวาเปนหนา ยิม้ เปน สายพนั ธุท่ีใกลเคียงกบแั มงมุมแมม ายดาํ พบในปาฝนของฮาวาย
ดูเหมอื นมนั จะไมมีอันตรายใดๆตอ มนษุ ยเ ลยแมแ ตน อย รูปรางแปลกๆบนสว นทอ งของมันจะเปนรูปหนา ยม้ิ
แตบ างทมี ันกไ็ มไดชดั เหมอื นในรปู หรือเบ้ยี วไปจนดูไมออกวา เปน หนาย้มิ

2) Myrmarachne plataleoides
แมงมุมตวั นีเ้ ปน ตัวอยา งท่ดี ขี อง Batesian Mimicry คอื การทส่ี ตั วต วั หนงึ่ ปลอมตัวเปนสตั วอีกชนดิ หนง่ึ เพ่อื ไล
ศตั รูของมันออกไป ในกรณีนี้ แมงมมุ กระโดดชนดิ หนึ่ง ปลอมตัวเปน มดแดง ซงึ่ กดั เจ็บมาก และจะฉีดสารอีก
สองชนิดเขาไปที่ทาํ ใหเ จ็บกวา เกา อีกดว ย มดแดงเปนมดทด่ี ุราย และผลจากการกัดของมันอาจจะคา งขามคนื ไป
หลายวันเลยดวย นก สัตวเลื้อยคลาน และกบเขยี ดตา งๆก็หลกี เล่ยี งมดตวั นี้

3) Maratus volans (แมงมมุ นกยงู )

ชื่อของแมงมมุ นกยูงมาจากสีสันสวยงามของ “ปก ” ทีส่ วนทอ งของมัน เหมือนกับของนกยูงจรงิ ๆ แถมตวั ผขู อง
มันยงั ใชไอป ก น่ียกขน้ึ มาใหเปน พัดสีสดใสเพือ่ ดึงดูดตัวเมียอีกดว ย ถึงแมมันจะเปนแมงมุมแตส ายพนั ธนุ ้มี สี ายตา
ท่ีดีมาก เหมือนแมงมุมกระโดดอกี หลายๆตวั ] มันจะสั่นขาหลังและสวนทองเพื่อเพิม่ ความดึงดดู ดวย แมงมุม
นกยูงตวั ผูจ ะจีบตวั เมียทลี ะหลายๆตวั ดว ย

4) Spiny Orb Weaver (แมงมมุ หนาม)
แมงมุมหนาม เปน จนี สั ทม่ี สี ายพันธปุ ระมาณ70สายพนั ธุ และอกี มากที่รอการคน พบ สามารถพบไดท ่ัวโลกแต
ไมม อี นั ตรายใดๆ ซ่งึ ขดั กบั หนา ตาอนั นา กลัวของมนั ยงิ่ นัก หนามและเขาบนตัวของมนั ดูเหมือนจะทําใหน กไม
สนใจท่ีจะกนิ มนั และแมงมมุ พวกนม้ี นี สิ ัยแปลกคือจะเตมิ “ธง” เอาไวท่ขี อบใยของมนั ดวย ธงพวกนจี้ ะชว ยให
นกมองเห็นไดวา มใี ยอยูตรงน้ี และไมไปบินชนมนั จนขาดกระจุย
5) Argyroneta aquatica (แมงมมุ นํ้า)
แมงมุมนํ้าเปน แมงมุมสายพันธุเ ดียวบนโลกท่ีอาศัยอยใู ตนาํ้ ได พบในยุโรปและเอเชีย ในบอนา้ํ หรอื แมนาํ้ ที่ไหล
ชา ๆหรือตน้ื ๆ เน่ืองจากมันหายใจในน้ําไมไดเ หมอื นปลา มันจงึ สรา งท่เี กบ็ อากาศเอาไวดว ยใยของมนั และเอา
อากาศจากผิวนํ้ามาใสดว ยขนตามขาและตวั ของมัน เมื่อเติมอากาศจนเตม็ ใยของมันจะมีสเี งนิ วาว น่นั เปนที่มา
ของชือ่ มนั (Argyroneta แปลวา ใยสเี งนิ ) แมงมุมน้ําใชช ีวิตสว นใหญอ ยใู นหอ งอากาศของมัน อาหารของมนั คอื
สัตวน้ําไมม ีกระดกู สนั หลงั อะไรกไ็ ดทม่ี ันจบั ได

แมงมมุ นกยงู
แหลงทีม่ า : https://lifestyle.campus-star.com/knowledge/26068.html

สายพันธุอ นั ตราย
1) Brazilian Wandering Spider

หรอื ท่ีรจู ักกันในนาม แมงมุมกลว ย แมงมุมทม่ี พี ิษรา ยแรงทีส่ ดุ ในโลก มนั ถูกพบในประเทศบราซลิ ซึง่ อาศยั อยูตาม
กลวย พษิ ของมนั สงผลตอ ระบบประสาทหากถูกกันเขา เหย่อื จะเกิดอาการปวดทองอยางหนกั ไขขึน้ สูง ตาพรา ชกั
พษิ ของมันน้ันแรงกวา ของแมงมมุ แมม ายดาํ ถึง 20 เทา

2) Sydney Funnel Web
ในป ค.ศ. 1981 การคนพบยารกั ษาพิษก็ไดเ กิดข้ึน ตอ งขอบคุณเจา แมงมมุ ตัวน้ีหลังจากท่มี นั กัดแลว มนั จะไมว ่ิงหนไี ป
ไหนถามนั รูว า ตวั เองอยใู นอันตราย ผูท่ไี ดร บั พษิ จากการกดั ของมันถา หากไมร ีบรกั ษาภายใน 1-5 ชวั่ โมง พิษจะลุกลาม
ทาํ ลายเซลป ระสาทสมอง ถงึ ข้ันเสยี ชวี ติ

3) Brown Recluse Spider
มันคอื แมงมุมท่ขี ้อี าย จะไมสงุ สิงหรืออยูใกลกบั มนษุ ย มนั สามารถเปนท่ีพบเหน็ ไดทวั่ โลกในเขตรอ น มนั อยใู นหนึ่งใน
สามแมงมุมทีพ่ ิษรายแรงทส่ี ดุ มันเปน ที่รูจกั ในนาม Violin Spider หรอื Fiddleback แมงมมุ พนั ธยงั พบไดใ นประเทศ
สหรัฐอเมริกา ดเู ผินๆ นัน้ จะคลายกบั แมงมุมบา น แตห ากโดนมันกดั เขาไปจะมอี าการคล่ืนไส อาเจียน หนาวส่นั

4) Black Widow Spider
แมงมมุ แมมา ยดํา มันจะตวั เปน สดี ํา พษิ ของมันน้นั รา ยแรงมาก ผูท่ีถูกกัดจะมีอาการเจบ็ แสบ มีอาการคล่นื ไส และ
ปวดชอ งทอง

5) Fringed Ornamental Tarantula
คําวา Tarantula เปน รากศัพทภ าษาสเปนท่แี ปลวา เตน เหมือนกับท่มี ันเคลื่อนไว คุณจะจบดว ยการกระโดดไปทัว่
หากโดนกดั โดยเจาตัวนี้ มันทัง้ ใหญแ ละเต็มไปดว ยขนนค่ี อื เหตผุ ลทที่ าํ ใหผคู นรสู กึ ขยะแขยงเวลาเหน็ มนั การกดั ของ
มนั ยงั ไมมรี ายงานวาเคยมีคนตาย แตห ากถกู มันกัด พษิ จะมผี ลตอ กลา มเนอื้ ทําใหรูสึกเจบ็ บรเิ วณอก พิษของมันนนั้
สามารถใหค วามเจ็บปวดที่รนุ แรงและตองรักษาทันที

วิธแี ยกแมงมุมมพี ษิ และไมม พี ษิ
วธิ สี ังเกตลกั ษณะเดนของแมงมมุ มีพิษ คือ บรเิ วณทอ งจะปองเปนพิเศษ ซ่ึงไมเหมอื นแมงมุมทอี่ ยตู าม

บา นเรือนทัว่ ไป อาการหลังโดนแมงมมุ พิษกัดมไี ดหลากหลายความรุนแรง ท้ังอาการเฉพาะที่บริเวณผิวหนงั ที่
ถกู กดั หรืออาจมีอาการที่ระบบอืน่ ๆ ที่อาจรนุ แรงจนถงึ แกช ีวติ ได โดยเฉพาะกลุมเสี่ยง เด็ก ผูส ูงอายุ ผมู ี
โรคประจาํ ตัว

ความสําคญั ของแมงมุม

แมงมมุ ชวยมนุษยใ หรอดพน จากสตั วท ี่อันตรายทส่ี ดุ ในโลก สว นใหญแ มงมมุ จะกินแมลงเปนอาหาร
ซงึ่ ชวยควบคมุ ประชากรแมลงในระบบนิเวศน ใยแมงมุม ใหญ และมีความซบั ซอ น และท่สี ําคญั ดักจับแมลง
ขนาดเล็กเชน ยุง ไดด ี ท้ังนี้ ยงุ เปนพาหะนาํ โรคไขเ ลอื ดออกทคี่ รา ชวี ิตมนุษยไดมากกวาสตั วช นดิ อื่น ๆ เสียอีก

ใยแมงมุมเปนวสั ดชุ ีวภาพธรรมชาตทิ ่ีแข็งแรงและยดื หยนุ ทส่ี ุดเทาทีม่ นุษยรจู ัก ซึ่งในใชใ นอดตี นัก
วจิ ยั ใชใ ยของแมงมมุ สําหรับการทําผา พนั แผล โดยไดห าวธิ ีการโหลดใยของมันดว ยยาปฏชิ ีวนะ นอกจากนใ้ี ย
แมงมมุ สที องที่พบเหน็ ไดท ่วั ไปในออสเตรเลีย มคี วามแข็งแรงพอท่จี ะจับคางคาวและนกได และสามารถนํามาท
อเปนเสือ้ คลมุ ใยแมงมมุ ไดอยา งสมบูรณ

อนั ตรายจากแมงมุม

หากโดนแมงมุมทั่วไป ทไี่ มม ีพษิ รา ยแรงมาก อาจมีอาการคลา ยโดนแมลงสัตวก ัดตอยธรรมดา ไม
อนั ตรายนัก เนือ่ งจากแมงมมุ เปนสตั วขนาดเล็ก การปลอยพษิ หลังจากกัดในแตล ะคร้ังก็จะมีปริมาณพษิ นอ ยไป
ดว ย ความรุนแรงของอาการเลยอาจไมไดรา ยแรงเทา ไร โดยหลงั ถูกแมงมุมกัดใหสงั เกตอาการ 1 คนื หากมี
อาการปวด บวม เจ็บพอทนไหว และอาจมีผน่ื ข้นึ กย็ งั ถอื วา ไมอนั ตราย แตหากอาการไมด ขี ้นึ เลยกค็ วรรบี ไป
พบแพทย

ทวา หากโดนแมงมมุ กดั แลว มอี าการปวดจนทนไมไหว มอี าการชา หนา มืด อาเจียน ไขข น้ึ แผลบวม
ไหมเปนสีดาํ ปวดตามขอและกระดกู ปวดทอ ง ปวดศีรษะ ใหรบี มาพบแพทยท ันที เพราะอาจถกู แมงมุมท่ีมีพิษ
กัด หากเปนไปไดค วรนําแมงมมุ ทีก่ ัดเราไปใหแพทยดดู ว ย หรืออยา งนอยควรสังเกตลกั ษณะของแมงมมุ ใหดี ๆ
เพือ่ จะไดระบุชนดิ และความรา ยแรงของพิษแมงมมุ ได เพราะแมงมมุ มีอยหู ลายชนดิ ดว ยกนั

วธิ ีปองกันและปฐมพยาบาล

วธิ ปี องกนั

1) ไมไ ปจับตวั แมงมมุ หรือสวมถงุ มือเวลาทาํ งานที่มโี อกาสเจอแมงมุม เชน ทําสวน ปลกู ตน ไม ขนฟน เปน ตน
หม่ันทําความสะอาด ปดใยแมงมมุ หรอื ดูดดว ยเครอื่ งดดู ฝนุ บรเิ วณทแ่ี มงมุมชอบมาชักใย เชน กรอบประตู
กรอบหนา ตา ง มมุ เพดาน ชองลม

2) ติดมงุ ลวดปอ งกันไมใหแ มงมมุ เขา บา น
3) ควบคมุ กาํ จดั แมลงในบา น
4) ไมเ ปดไฟท้ิงไวต อนกลางคืน เพอื่ ลดจํานวนแมลงเลน ไฟ เปนการควบคุมจํานวนแมลงทเ่ี ปนเหย่ือของแมงมุม
5) หมัน่ ตรวจตราตามตูเสือ้ ผา ชน้ั ใตห ลงั คา หอ งเก็บของ ลงั เกบ็ ของ หลังกรอบรปู ใตเ ฟอรนเิ จอร ตรวจดูและ

เขยารองเทาและเสือ้ ผา เพ่ือใหแนใจวาไมม แี มงมมุ หลบซอ นอยกู อ นสวมใส
6) ฉดี พน ยาฆา แมลงในบริเวณทแ่ี มงมมุ ชอบอาศัย
7) สามารถใชกาวดักแมลงสาบสามารถใชด กั จับแมงมุมในบรเิ วณที่แมงมุมชอบเดนิ ผานได

การปฐมพยาบาล
กรณีเปนอาการทางผิวหนงั สามารถดูแลเบ้อื งตน ไดโ ดย

1) รีบลางทาํ ความสะอาดบาดแผล
2) ประคบเย็นบรเิ วณท่ีถกู กดั ไมควรประคบรอนท่แี ผล
3) หากมอี าการปวดสามารถรับประทานยาแกป วดได

ผทู ีถ่ กู แมงมมุ พษิ กัดควรรีบเขา รบั การรกั ษาในโรงพยาบาลเพอ่ื ประเมนิ อาการโดยแพทย หากสามารถนําตวั แมงมมุ ที่
กัดไปใหแ พทยดดู ว ยไดใหน ําไปดวย กรณมี ีอาการรุนแรงควรไปพบแพทยโดยดวน

บทสรปุ

แมงมุมมหี ลายชนิด หากเราสามารถแยกชนิดไดอยางถูกตอ งไดจ ะทําใหเราสามารถอยรู ว มโลกกบั
แมงมมุ ไดดขี ึ้น แมงมมุ แตล ะชนดิ มเี อกลกั ษณท ี่แตกตา งกันออกไป บางสายพันธุก็มพี ิษจนอาจทําใหเกิด
อันตราย บางสายพนั ธุก ็ไมม ีพษิ ทําอันตรายไดไ มม าก เพราะฉะนน้ั เราจึงไมค วรไปรบกวนถ่นิ ทีอ่ ยขู องมนั มาก
เพอื่ ใหแมงมุมสายพนั ธุไ มส ญู พนั ธ

บรรณานกุ รม

เวริ คพอยต (2561) 19 เรื่องนาสนของแมงมมุ ในมมุ ที่คณุ อาจยงั ไมร ู สืบคนเม่อื มกราคม 19 2565 จาก
https://workpointtoday.com/19-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B
8%87%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B
8%87%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%A1-%E0%B9%83/

มลู นิธโิ ลกสีเขยี ว (2563) แมงมุมสามัญประจาํ บา น สบื คน เมอ่ื มกราคม 19 2565
จาก https://greenworld.or.th/wild_watch/4508/

สนกุ (2563) 5 "แมงมุมมีพิษ" ท่พี บในไทย และวิธีปฐมพยาบาลเม่อื ถูกกัด สบื คน เมอื่ มกราคม 19 2565

จาก https://www.sanook.com/health/24205/

สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี (2554) โลกของแมงมุม สืบคนเมอ่ื มกราคม 19 2565

จาก https://www.scimath.org/article-science/item/2143-spider607