The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ประจำปีการศึกษา 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by teeramarkboon.6595, 2022-03-29 01:48:22

คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ประจำปีการศึกษา 2565

คู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ประจำปีการศึกษา 2565

โครงสรำ้ งเวลำเรียน
หลกั สูตรสถำนศึกษำ
ระดับช้ันมัธยมศกึ ษำตอนปลำย

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๓๖

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๓๗

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๓๘

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๓๙

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๔๐

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๔๑

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๔๒

กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ

โครงการเครือข่าย (Partner School)
ในปีการศกึ ษา ๒๕๔๑ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ไดค้ ดั เลือกโรงเรียนมัธยมในประเทศไทย เขา้ โครงการเครือขา่ ย

ไทย-สงิ คโปร์ จานวน ๕ โรงเรียน คอื โรงเรยี นสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรยี นสามเสนวทิ ยา โรงเรยี นสตรศี รสี รุ โิ ยทัย
โรงเรียนระยองวิทยาคม และโรงเรยี นวนิ ิตศึกษา ในพระราชปู ถัมภ์ฯ หลงั จากนน้ั กระทรวงศกึ ษาธิการได้คดั เลือก
โรงเรียนเพิม่ ข้ึนอีก จานวน ๕ โรงเรยี น คอื โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จนั ทบุรี โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี
โรงเรยี นพญาไท โรงเรียนราชวินติ (ประถมศึกษา) และโรงเรียนนาคประสทิ ธ์ิ นครปฐม

โครงการนม้ี กี จิ กรรม ๒ กจิ กรรม คอื
๑. การแลกเปลยี่ นครู-นกั เรยี น ระหวา่ งโรงเรียนเครอื ข่าย (Partner School) ไทย-สงิ คโปร์
๒. การอยูร่ ว่ มคา่ ยเยาวชนระหว่างนกั เรยี นไทย-สงิ คโปร์ (STEP CAMP)
Anderson Secondary School เปน็ โรงเรยี นเครอื ขา่ ยกบั โรงเรยี นวินติ ศึกษา ในพระราชปู ถมั ภฯ์
มกี ารเรียนการสอนโดยใชร้ ะบบ IT (Information Technology) ซ่งึ เป็นโรงเรยี นท่ีตดิ อนั ดบั ๑ ใน ๕ โรงเรยี นชัน้ นา
ของประเทศสิงคโปร์

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๔๓

การแลกเปล่ียนคร-ู นกั เรียน ไทย-สงิ คโปร์

(Partner School Program)

โรงเรยี นวินิตศกึ ษา ในพระราชปู ถัมภฯ์ ไดม้ ีการแลกเปลีย่ นครู-นักเรยี นไทยกับสงิ คโปร์ (ครู ๔ ท่าน และ

นกั เรียน ๒๐ คน) ตามโครงการโรงเรียนเครือข่ายของกระทรวงศกึ ษาธิการ ที่ไดร้ บั คัดเลอื กโรงเรยี นเขา้ รว่ มโครงการ

มา เปน็ ท่ี ๑๘ โรงเรยี นไดก้ าหนดวัน เวลาการแลกเปลย่ี นรวมท้ังการจดั กจิ กรรมในแต่ละปขี องท้งั ๒ โรงเรียนเปน็

ประจากาหนดเวลา

คณะครู-นกั เรียนไทยไปสงิ คโปร์ วนั ที่ ๑๗-๒๔ เมษายน ๒๕๕๙

คณะครู-นกั เรียนสิงคโปร์มาวินติ ศกึ ษา ชว่ งปลายเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๙

กิจกรรมคร้งั นม้ี ีการแลกเปล่ียนนักเรียนระหวา่ งกนั การอยู่ร่วมกันครอบครัวอปุ ถมั ภ์ (Home Stay)

การสรา้ งหลักสูตรรว่ มกนั ความสัมพันธเ์ ปน็ ไปอยา่ งแนบแนน่ คร-ู นกั เรยี น ผู้ปกครองทุกคนประทับใจกบั โครงการนี้

นับวา่ โครงการ นไ้ี ด้รับผลสาเร็จ และประโยชนเ์ ป็นทีน่ า่ พอใจเปน็ อย่างมาก

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๔๔

กจิ กรรมค่ายเยาวชนไทย-สิงคโปร์ (STEP CAMP)

กระทรวงศกึ ษาธกิ ารของไทยและสิงคโปร์ไดจ้ ัดให้มีกิจกรรรมเขา้ คา่ ยเยาวชนเพื่อแลกเปลีย่ นวฒั นธรรม
ระหวา่ ง นักเรยี นไทย - สงิ คโปร์ ซง่ึ แต่ละปีกระทรวงศึกษาธกิ ารของแตล่ ะประเทศจะเปน็ เจ้าภาพ นักเรยี นโรงเรียน
วนิ ิตศกึ ษา ในพระราชปู ถัมภฯ์ ไดเ้ ข้ารว่ มกจิ กรรมนั้นมาตลอด โดยเฉพาะในปี ๒๕๕๘ รฐั บาลไทยและสงิ คโปร์ โดย
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการท้ัง ๒ ประเทศ ได้เปน็ ประธานจดั กิจกรรมคา่ ยเยาวชนไทย-สิงคโปร์ วันที่ ๒๘ มิ.ย.-๔ ก.ค. ๒๕๕๘
โดยมอบหมายให้โรงเรยี นวินิตศกึ ษา ใน พระราชปู ถัมภฯ์ เปน็ เจ้าภาพ

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๔๕

ศนู ยเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศ

Winitsuksa Information Technology Center

http://winitsuksa.ws.ac.th

โรงเรียนวินิตศกึ ษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ ไดเ้ ลง็ เห็นถึงความสาคัญของการพัฒนาบุคลากรทางด้านเทคโนโลยี
สารสนเทศ และพัฒนาครู – อาจารย์ และนักเรียน ให้สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศแก้ไขปัญหาได้ และได้พัฒนา
ระบบสารสนเทศของโรงเรียน ดงั น้ี

โรงเรียนได้เร่ิมเปิดสอนวิชาคอมพิวเตอร์ต้ังแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๕ และได้พัฒนาวัสดุอุปกรณ์และหลักสูตรให้
สอดคลอ้ งกันกับแผนพฒั นาการศึกษาของชาติ เพ่อื รองรับการพัฒนาประเทศเข้าสปู่ ระเทศ (NIC) อตุ สาหกรรม อีกทั้ง
ได้จัดสร้างส่ือคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) เพื่อรวบรวมเป็นฐานข้อมูลห้องสมุดของโรงเรียน หรือจากท่ีบ้านผ่าน
เครือข่ายอินเตอรเ์ นต็ ในระบบและเสยี ง การเรียนผ่านระบบ Online

การพฒั นาระบบคอมพิวเตอรเ์ พื่อการเรียนการสอน

- ใช้ระบบเครอื ข่ายในการสอนคอมพวิ เตอรใ์ นหอ้ งเรยี น
- โครงการเครือข่ายหอ้ งสมุดอเิ ล็กทรอนิกสเ์ ชอ่ื มตอ่ เครือข่ายอนิ เตอร์เนต็ ได้ในปกี ารศึกษา ๒๕๔๔
- มหี ้องเรยี นคอมพวิ เตอร์เครื่องปรับอากาศ จานวน ๕ หอ้ ง
- เปดิ สอนคอมพวิ เตอรใ์ นลกั ษณะเป็นวชิ าเลือกเสรี ใหก้ บั นักเรียนทุกระดับช้นั
- เปิดสอนนกั เรียนเพือ่ ให้สามารถแสวงหาขอ้ มลู ทางเครอื ขา่ ยสากล (Internet) ไดด้ ว้ ยตนเอง
- เปดิ ใหบ้ ริการ Internet ๒๔ ช่ัวโมง สาหรบั ครู – อาจารย์ และนกั เรยี น
- นาระบบโปรแกรมการเรยี นการสอนผ่านระบบเครอื ขา่ ย (E-Learning) มาใช้ในการจัดการเรยี นการ

สอนของโรงเรยี น
- นาระบบการจดั เก็บแฟ้มสะสมงานอิเลก็ ทรอนิกส์ (E-Portfolio) ผ่านระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ มาใช้

ในการจดั เกบ็ ผลงานของครู – อาจารย์ และนกั เรียน

งานบรกิ ารของศูนย์เทคโนโลยสี ารสนเทศ
- ให้บรกิ าร Internet ๒๔ ชวั่ โมง สาหรับสมาชิก
- ให้บริการเคร่ืองคอมพิวเตอร์
- ให้บรกิ ารยมื วสั ดุ อปุ กรณ์ ครุภณั ฑ์คอมพวิ เตอร์
- บรกิ ารเผยแพร่และประชาสมั พนั ธข์ ้อมลู ในระบบเครือข่าย
- บรกิ ารตดิ ตั้งโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
- บริการซ่อมบารงุ วัสดุ – ครุภัณฑค์ อมพวิ เตอร์

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๔๖

งานทะเบียนและวัดผล

๑.งานทะเบยี นและวดั ผลนกั เรียน
กรณนี ักเรยี นท่ีต้องการขอแกไ้ ขเปล่ยี นแปลงขอ้ มลู ให้ปฏบิ ตั ิดังน้ี

ที่ เร่ืองทต่ี อ้ งการแกไ้ ข หลกั ฐานทต่ี อ้ งใชย้ นื่ ขน้ั ตอนในการขอแกไ้ ข
๑ วนั เดือนปีเกิดนักเรียนผดิ เปลยี่ นแปลง
๒ ชอื่ -สกลุ นกั เรยี นผิด สาเนาใบเกดิ นกั เรยี น ๑.ทุกกรณที ่ีขอ้ มูลเปลย่ี นแปลง
๓ ชอ่ื -สกลุ บดิ ามารดาผิด -สาเนาทะเบยี นบ้านนักเรียน นกั เรียนตอ้ งไปทหี่ ้องทะเบยี น
๔ ขอเปลย่ี นช่ือ หรือ สกลุ นกั เรียน -สาเนาบตั รประชาชนนักเรยี น ปฏิบัติดังนี้
-สาเนาทะเบยี นบ้านบดิ า , มารดา -กรอกแบบยืน่ คาร้อง
๕ ขอเปลย่ี นชอื่ หรือ สกลุ -สาเนาบัตรประชาชนบดิ า,มารดา -แนบสาเนาหลักฐานท่ถี กู ต้องให้
บดิ า , มารดา -สาเนาใบเปลย่ี นชอ่ื , เปลี่ยนสกุล นกั เรยี น ครบ จานวน ๑ ชดุ
-สาเนาทะเบยี นบา้ นนักเรยี น
๖ ขอแกไ้ ขคานาหน้าบิดา , -สาเนาบตั รประชาชนนักเรียน ๒.สว่ นงานทะเบียนจะยึดข้อมลู จาก
มารดา (กรณีปรบั เลื่อนยศ) -สาเนาใบเปลยี่ นช่ือ , เปลีย่ นสกุล ทะเบียนราษฎร์ ตามคาสั่งกระทรวง
บดิ า, มารดา เทา่ น้นั
๗ ขอแก้ไขคานาหนา้ ชื่อบดิ า , -สาเนาทะเบยี นบ้านบดิ า, มารดา
มารดา (นาย , นาง , นางสาว) -สาเนาบัตรประชาชนบิดา, มารดา ๓.เอกสารจะไดร้ ับนับจากวันขอ
-สาเนาคาสัง่ ปรบั เลือ่ นยศ ๓ วนั ทาการ หรือตามนดั หมาย
-สาเนาทะเบยี นบ้านบดิ า, มารดา
(ยศปจั จบุ นั )
-สาเนาบัตรประชาชนบิดา, มารดา (ยศ
ปัจจบุ ัน)
-สาเนาทะเบยี นบา้ นบิดา, มารดา
-สาเนาบัตรประชาชนบดิ า, มารดา

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๔๗

๒.งานทะเบยี นและวัดผล

นักเรียนปจั จุบัน , นักเรียนทจ่ี บหลกั สูตร และนักเรยี นทล่ี าออก

ที่ต้องกำรขอหลกั ฐำนทำงกำรศึกษำ ให้ปฏิบตั ิดังนี้

หมำยเหตุ เอกสารจะไดร้ บั นบั จากวันขอ ๓ วันทาการ หรือตามนดั หมาย

ที่ เอกสำรที่ตอ้ งกำรขอ ส่ิงทตี่ ้องใช้ประกอบกำรขอ ขน้ั ตอนกำรขอ/ขอทหี่ ้องทะเบยี น

๑ ปพ.๑ กรณนี กั เรียน -รูปถา่ ยชดุ นักเรยี นปัจจบุ ัน ขนาด ๑ นวิ้ ครง่ึ -ผปู้ กครองกรอกคาร้องขอลาออก

ลาออก

๒ ปพ.๑ กรณจี บหลกั สูตร * รปู ถ่ายเสือ้ เช้ิตสีขาวไมม่ ตี ราสัญลักษณ์ -กรอกแบบคาร้องขอเอกสาร

แลว้ (เน่ืองจากเอกสาร -ตง้ั แตป่ กี ารศกึ ษา ๒๕๔๗ เป็นตน้ ไปใช้รปู ถา่ ยขนาด ๑ -แนบรปู ถ่าย

สูญหาย , ชารดุ ) นว้ิ ครง่ึ (จานวน ๒ รปู ) -ใบแจง้ ความ ปพ.๑ หาย จากสถานี

ตารวจ

- ตัง้ แตเ่ ปดิ ทาการ ถึง ปกี ารศกึ ษา ๒๕๔๖

ใชร้ ูปถา่ ยขนาด ๒ นวิ้ (จานวน ๒ รปู )

๓ ปพ.๒ หนงั สอื รับรอง - -กรอกแบบคาร้องขอเอกสาร

ประกาศนียบตั รจบ -ใบแจ้งความ ปพ.๒ หาย จากสถานี

หลักสตู ร(เนื่องจาก ตารวจ

สูญหาย , ชารุด)

๔ ปพ.๖ เอกสารรบั รองผล - -กรอกแบบคาร้องขอเอกสาร

การเรยี น(กรณนี าไปขอ

ทุนการศกึ ษา)

๕ ปพ.๗ ใบรับรองการเปน็ - -กรอกแบบคารอ้ งขอเอกสาร

นักเรยี น(กรณีนาไปขอ

ทุนการศึกษา)

๖ ปพ.๗ ใบรบั รองการเป็น -รูปถ่ายนกั เรยี นขนาด ๑ นวิ้ ครึ่ง -กรอกแบบคารอ้ งขอเอกสาร

นกั เรียน(กรณีใชไ้ ป (๑ รูป / ๑ ฉบบั ) -แนบรูปถา่ ยตามจานวนเอกสารทขี่ อ

แขง่ ขันกีฬา)

๗ ขอเอกสารรบั รองเวลา - -ครผู ูส้ อนทกุ วชิ าบนั ทึกรบั รองเวลา

เรียน(กรณลี าออก เรียนและคะแนนเก็บ

ระหว่างภาคเรียน)

๘ ขอเอกสารส่งตัวนกั เรยี น - -งานทะเบียนทาหนงั สือใหฝ้ า่ ยธุรการ
ไปศกึ ษาต่อทอี่ นื่ ออกหนังสือใหโ้ รงเรยี นที่นักเรยี นยา้ ย

ไปอยู่

๙ ขอ Transcripted -นักเรียนปจั จุบนั ใชร้ ูปถา่ ยชุดนักเรยี น -นกั เรียนกรอกแบบคาร้องขอ
ขนาด ๑ นวิ้ คร่งึ (จานวน ๒ รปู ) Transcripted
-นักเรยี นที่จบหลักสตู รไปแลว้ ใช้รูปถา่ ยเสอื้ เชิ้ตสีขาวไมม่ ี
ตราสญั ลักษณ์ ขนาด ๑ นว้ิ คร่ึง (จานวน ๒ รูป)
-สาเนา Passport จานวน ๑ ฉบบั

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๔๘

ขอ้ ควรปฏิบตั ิ
๑. ค่าธรรมเนียมการขอเอกสาร ปพ.๑ , ปพ.๒ , ปพ.๖ , ปพ.๗ และอื่นๆ ฉบบั ละ ๒๐ บาท
๒. คา่ ธรรมเนียมการขอเอกสาร Transcripted ฉบับละ ๕๐ บาท
๓. ตามระเบยี บของระยะเวลาในการรบั เอกสาร จะไดร้ บั ภายใน ๓ วนั ทาการ นบั ตัง้ แตว่ นั ยื่นคาร้องขอ
๔. ในบางกรณอี าจไดร้ บั เอกสารชา้ หรือเรว็ งานทะเบียนจะนดั หมายและแจง้ ใหท้ ราบตอ่ ไป
๕. การติดตอ่ ฝา่ ยทะเบียน-วัดผล นักเรยี นปจั จบุ ันให้แต่งกายชดุ นักเรียน , บุคคลท่ัวไปแต่งกายสุภาพ

เรยี บร้อย
๖. การประเมินผลการเรยี น นกั เรียนตอ้ งลงทะเบยี นทุกภาคเรียนจงึ จะไดร้ บั การประเมนิ ผล
๗. หากนักเรยี นลงทะเบียนไม่ตรงตามกาหนดเวลา จะต้องเสียคา่ ปรบั การลงทะเบยี นชา้ ตามระเบียบฯ

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๔๙

งานศนู ย์วทิ ยบรกิ าร

ศนู ย์วทิ ยบริการ (หอ้ งสมุด) เปน็ สถานทีร่ วบรวมหนงั สอื สอื่ การสอน วสั ดุ อปุ กรณ์ต่างๆ ที่สอดคล้องกับ
หลกั สตู ร เพือ่ ส่งเสริมการเรียนการสอนของครแู ละนักเรียน

การอ่านหนังสือเพ่ือการพัฒนาตนเอง และเพื่อการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เป็นส่ิงจาเป็นมากในการ
พัฒนาคนและสังคม ปัจจุบันการอ่านหนังสือของนักเรียนเป็นกิจกรรมที่สาคัญเป็นการกระตุ้นให้นักเรียนเห็น
ความสาคัญของการอ่านและมีนิสัยรักการอ่านทั้งในและนอกโรงเรียน ถ้าต้องการให้มีทักษะในการอ่านจาเป็นต้อง
ปลกู ฝงั และชกั ชวนให้นักเรียนเกดิ ความสนใจ ทางศูนย์วทิ ยบริการได้จดั กิจกรรมสง่ เสริมนสิ ยั รกั การอ่านอย่างต่อเน่ือง
และสม่าเสมอ ตลอดจนการพัฒนาสูตรให้เป็นแหล่งเรียนรู้ภายในและแหล่งรวบรวมหนังสือ ข้อมูลสารสนเทศ ส่ือ
สิ่งพิมพ์ ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ และแหล่งสืบค้นต่างๆ อย่างครบวงจรและเป็นระบบ การพัฒนาน้ีสามารถสร้างแรงจูงใจ
และกระตุ้นใหน้ ักเรียน ครูผูบ้ ริหาร และชุมชน ตระหนกั ถงึ ความสาคัญของการอ่าน มีนิสัยรักการอา่ นและใหก้ ารอ่าน
นาไปส่กู ารใฝร่ ูใ้ ฝ่เรียนตลอดชวี ิต

การจัดหนังสอื ของห้องศนู ย์วิทยบรกิ าร

ใช้ระบบทศนยิ มของดิวอี้ ใชต้ วั เลขเปน็ สัญลักษณ์แทนเนอ้ื หาของหนังสือนนั้ แบ่งเป็น ๑๐ หมวดใหญ่ ดังนี้

๐๐๐ ความรทู้ ั่วไป (Generalities)
๑๐๐ ปรชั ญา (Philosophy)
๒๐๐ ศาสนา (Religion)
๓๐๐ สงั คมศาสตร์ (Social Sciencde)
๔๐๐ ภาษาศาสตร์ (Language)
๕๐๐ วิทยาศาสตร์ (Pure Science)
๖๐๐ วิทยาศาสตรป์ ระยกุ ต์ (Applies Science)
๗๐๐ ศิลปะ (Arts)
๘๐๐ วรรณคดี (Literature)
๙๐๐ ประวัติศาสตร์ (General Geography and History)

ประเภทส่ิงพิมพ์และส่ือวสั ดุของศนู ย์วทิ ยบรกิ าร

๑. วสั ดุส่ิงพมิ พ์ ไดแ้ ก่ หนังสือ วารสาร หนงั สอื พิมพ์ จุลสาร กฤตภาค
๒. วัสดไุ มต่ ีพิมพ์ ได้แก่ โสตวสั ดุต่างๆ เชน่ แผนที่ ภาพแผนภมู ิ ลูกโลกหุ่นจาลอง เทปเสยี ง วีดีโอ
คอมพิวเตอร์ ซดี รี อม เป็นตน้

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๕๐

ระเบยี บการใชศ้ ูนย์วทิ ยบรกิ าร
เวลาเปิดบริการ ๐๗.๐๐ น. – ๑๖.๐๐ น.
๑. แสดงบตั รประจาตวั ในการยมื -คนื ทุกครงั้
๒. ห้ามนาอาหาร เครอื่ งด่ืม เข้ามาในศนู ย์วทิ ยบริการ
๓. เก็บกระเป๋า ถุง ส่งิ ของไวท้ เ่ี กบ็ ใหถ้ ูกต้อง ไมว่ างตามพน้ื
๔. ห้ามสง่ เสียงดงั เวลาเข้าใช้บรกิ ารภายในศนู ย์วทิ ยบริการ
๕. นักเรยี นและผปู้ กครองยมื หนังสือได้ ๔ เลม่ /๗ วนั
๖. ครยู ืมได้ ๑๐ เลม่ /๑เดือน
๗. คืนหนงั สือเกนิ กาหนดปรบั วนั ละ ๑ บาท/๑เลม่
๘. หนงั สอื หรือสอื่ วดี ีทัศน์ หายปรบั ๒ เทา่
๙. เมื่ออ่านหนังสอื วารสารแล้วใหเ้ ก็บให้เรียบร้อยหรือวางไว้ท่ีช้ันพกั หนงั สอื และเกบ็ เก้าอเ้ี ข้าไวใ้ ต้โต๊ะ
๑๐. ให้บริการ Internet แกส่ มาชกิ winit net
๑๑. นักเรียนทีม่ ีความประสงคจ์ ะใช้ บริการศนู ยว์ ิทยบรกิ าร ในเวลาเรยี น ตอ้ งได้รับอนญุ าตจากครผู ู้สอน

เปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษร ศนู ยว์ ทิ ยบริการโรงเรียนวนิ ติ ศกึ ษาไดน้ าเทคโนโลยี ระบบคอมพิวเตอร์มาพัฒนาระบบงานของ
ศนู ย์วิทยบรกิ ารดงั นี้
งานบริการ

๑. บรกิ ารสบื ค้น ขอ้ มลู ด้วยเครือ่ งคอมพวิ เตอร์
๒. บรกิ าร ยืม ค้น คานวณคา่ ปรับ สถิตงิ านบรกิ ารตรวจเข้า-ออก ด้วยเครื่องคอมพวิ เตอร์ระบบบารโ์ ค้ด
๓.บรกิ ารวดี ที ัศน์
๔.บรกิ าร CD-ROM , VDO Tape
๕. บรกิ ารห้องสือ่ ผสม
งานเทคนคิ
๑. จัดทาข้อมูลหนังสือ วารสาร วดี ที ัศน์ CD-ROM ,VDO,Tape
๒.จัดทาบาร์โคด้ หนงั สือวดี ที ศั น์ CD-ROM, VDO,Tape
๓.จัดระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ภายในศูนย์วทิ ยบริการ
๔. ซอ่ มบารุงหนงั สือ

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๕๑

งานแนะแนว

กำรให้บริกำรแนะแนว จะครอบคลมุ ในเร่อื งปัญหาของการแก้ปญั หาและพฒั นาการเรยี นร้กู ารบรกิ ารงาน
แนะแนวใชส้ นบั สนุนส่งเสริมใหห้ ลกั สตู รให้มีประสิทธภิ าพ เพ่ือใหน้ กั เรียนมีคุณสมบัติตามจุดมงุ่ หมาย ของหลกั สูตร
โดยจดั บรกิ ารตามหลักของการแนะแนว ดงั น้ี

๑. การแนะแนวการศกึ ษา มงุ่ หวังให้ผเู้ รียนพฒั นาการเรียนไดเ้ ตม็ ศักยภาพ ร้จู กั แสวงหาความรแู้ ละวาง
แผนการเรยี นไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ สามารถปรบั ตวั ดา้ นการเรียน และมนี สิ ยั ใฝร่ ใู้ ฝ่เรียน รวมถึงมีความสามารถใน
การตดั สินใจเลือกศกึ ษาตอ่ ตามศักยภาพและความถนดั ของตนเอง

๒. การแนะแนวอาชพี ชว่ ยใหผ้ เู้ รียนรู้จกั ตนเอง มขี อ้ มลู เกย่ี วกับอาชีพตา่ งๆ อยา่ งหลากหลาย มีเจตคตแิ ละ
นิสัยทดี่ ีในการทางาน มีโอกาสได้รบั ประสบการณ์และฝึกงานตามความถนดั และความสนใจ

๓. การแนะแนวเพื่อพฒั นาบคุ ลกิ ภาพ ชว่ ยให้ผ้เู รียนเขา้ ใจตนเอง รกั และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อ่นื มี
อารมณม์ น่ั คง มีมนุษยส์ ัมพนั ธท์ ดี่ ี สามารถแกป้ ญั หาได้อยา่ งเหมาะสม เขา้ ใจสง่ิ แวดล้อม และสามารถปรบั ตัวให้
ดารงชวี ติ อยู่ในสงั คมอยา่ งมีความสุข

กำรจดั บรกิ ำรงำนแนะแนว

๑. การจัดบรกิ ารรวบรวมข้อมูลนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล โดยการสารวจข้อมูลและรู้จกั นกั เรยี นเปน็ รายบุคคล
เพื่อให้ครูไดร้ จู้ ักนักเรียนในดา้ นประวัติสว่ นตวั ข้อมูลผปู้ กครอง ปญั หาและความตอ้ งการ ฯลฯ โดยการทาสงั คมมติ ิ
การสมั ภาษณ์ การติดต่อกบั ผู้ปกครอง รวมท้งั การใชแ้ บบทดสอบ หรือแบบสอบถามต่างๆ ข้อมลู เหลา่ นจ้ี ะเกบ็
รวบรวมไวท้ ่หี ้องแนะแนว จนกวา่ นกั เรียนจะพน้ สภาพการเป็นนักเรียน โดยทางงานแนะแนวจะจัดทาระเบียนสะสม
แบบสารวจข้อมูลต่างๆ และเกบ็ ข้อมูลมารวบรวม วิเคราะห์เพอื่ นาไปใช้ประโยชนต์ ่อไป

๑.๑ จัดการสารวจเพือ่ ทาข้อมูลของนักเรยี นในเร่ืองต่างๆ ต่อไปน้ี
- อาชพี ผปู้ กครอง
- รายไดข้ องครอบครวั ตอ่ ปี
- สทิ ธใิ นการเบิกคา่ ธรรมเนยี ม
- ความพกิ ารของนักเรยี น
- การเขียนอตั ชีวประวัติ
- การเยี่ยมบา้ น
- การจดั ทาระเบียนสะสม (ปพ.๘)
- การสงั เกตนักเรียนทีเ่ ป็นกลุ่มเสีย่ ง
- การใชแ้ บบสอบถาม
- การศึกษารายกรณี
- การจัดทาแบบทดสอบ

๒. การจดั บรกิ ารสนเทศ เป็นการใหข้ ้อมลู ความรู้แกน่ กั เรยี นเกี่ยวกบั การเรยี น การศกึ ษา การเลือกอาชีพ
การปรบั ตัว หรอื เรอื่ งอนื่ ๆ ทเ่ี ป็นประโยชน์ และนักเรียนควรทราบ โดยข้อมูลเหลา่ น้จี ะแจ้งใหน้ กั เรียนทราบในการ
เรยี นกจิ กรรมแนะแนว ป้ายนเิ ทศ หนงั สือจุลสาร วารสาร วดี โี อซีดี

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๕๒

๒.๑ จดั นทิ รรศการอาชพี การศกึ ษา
๒.๒ จัดทัศนศกึ ษาสถานศกึ ษา งานวชิ าการ หรอื สถานประกอบอาชีพ
๒.๓ ปา้ ยนเิ ทศ
๒.๔ เอกสารเผยแพร่ความรู้
๒.๕ มุมความรู้ภายในหอ้ งแนะแนว
๒.๖ การประชาสัมพนั ธ์

๓. การจดั บรกิ ารใหค้ าปรึกษา งานแนะแนวจดั บรกิ ารนีใ้ ห้กบั นกั เรียน ครู ผ้ปู กครอง ที่ต้องการเขา้ รับคา
ปรกึ ษาดา้ นการศกึ ษา การพฒั นาบคุ ลิกภาพ เพ่อื ร่วมมือกนั ในการแก้ปัญหา สง่ เสริม พัฒนาใหผ้ ู้เขา้ รับคาปรึกษา มี
แนวทางในการพัฒนาตนเองไดอ้ ยา่ งเตม็ ศกั ยภาพ โดยงานแนวไดเ้ ปิดคลนิ กิ วยั ใสขนึ้

๓.๑ การใหค้ าปรึกษาแบบกล่มุ
๓.๒ การให้คาปรกึ ษาแบบรายบุคคล

๔. บรกิ ารจัดวางตัวบุคคล เปน็ การชว่ ยเหลอื นักเรยี นในการวางแผนการเรียน การศึกษาต่อ ทุนการศึกษา
การเขา้ ร่วมกจิ กรรมตา่ งๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรียน การวางแผนเกี่ยวกบั อาชพี
การปฏิบัตติ นอยา่ งเหมาะสม การปรับตวั ใหเ้ ขา้ กับสถานการณแ์ ละสง่ิ แวดล้อมใหมๆ่ ได้อย่างเหมาะสม

๔.๑ การจัดอบรมใหค้ วามรู้ การปฐมนิเทศ การปจั ฉมิ นิเทศ (รว่ มกบั ฝา่ ยกิจการนักเรียน)
๔.๒ การจัดการเรียนเสริมพิเศษ (รว่ มกบั ฝา่ ยวิชาการ)
๔.๓ การจดั ทนุ การศกึ ษา
๔.๔ การประชาสัมพันธ์ จัดส่งเอกสารโควตาการศกึ ษาต่อใหก้ บั นกั เรียนตามความสนใจ
และความถนดั

๕. การจัดบรกิ ารตดิ ตามผลและประเมินผล ประกอบไปด้วย การติดตามผลนกั เรยี นที่จบการศกึ ษา ม.ต้น
และ ม.ปลาย การติดตามผลการเรียนทีเ่ ขา้ รับบรกิ ารจากงานแนะแนว รวมทง้ั ติดตามผลและประเมินผลการ
ปฏบิ ตั งิ าน แนะแนวเพื่อนามาปรบั ปรุงการจัดบริการ

๕.๑ พฤติกรรมของผูเ้ รยี นเปน็ ไปตามคุณสมบตั ทิ ่พี งึ ประสงค์ ตามวิสยั ทศั นข์ องโรงเรียน
๕.๒ พฤติกรรมของผเู้ รยี นตามมาตรฐานและตัวบ่งช้ีการจัดกจิ กรรมแนะแนว ซึง่ สอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน
การศกึ ษาแหง่ ชาติ
๕.๓ ตดิ ตามผลการศกึ ษาต่อของนักเรียนที่จบในชว่ งชั้นที่ ๓ และชว่ งช้ันท่ี ๔
๕.๔ การใหบ้ รกิ ารจากงานแนะแนวของผูเ้ รียน

สรุปผลการสอบเข้ามหาวิทยาลยั
นักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ประจาปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๕๓

สรุปผลการสอบเข้ามหาวทิ ยาลัย
นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ประจาการศกึ ษา ๒๕๖๓
โครงการเตรียมความรมู้ งุ่ ส่มู หาวทิ ยาลัย ( RTU ) รนุ่ ที่ ๑๓

ลาดับ มหาวิทยาลัย จานวนนกั เรยี น
๑ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ๒๖
๒ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ๕๗
๓ มหาวิทยาลัยมหดิ ล ๑๐
๔ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ๗๐
๕ มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร ๑๗
๖ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ๑๓
๗ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ๙
๘ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ๓
๙ มหาวิทยาลัยแมโ่ จ้ ๕
๑๐ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ๖
๑๑ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ พระนครเหนอื ๒
๑๒ สถาบันเทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจา้ คณุ ทหารลาดกระบัง ๕
๑๓ มหาวิทยาลัยบูรพา ๒๓
๑๔ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร ๑๕
๑๕ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม ๒
๑๖ มหาวิทยาลัยพะเยา ๑๐
๑๗ มหาวิทยาลัยสวนดสุ ิต ๑๑
๑๘ มหาวิทยาลยั แมฟ่ ้าหลวง ๑๙
๑๙ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี ๑๘
๒๐ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลสวุ รรณภมู ิ ๖
๒๑ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรุงเทพ ๓
๒๒ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยสี รุ นารี ๑๐

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๕๔

ลาดับ มหาวิทยาลัย จานวนนักเรียน
๒๓ มหาวิทยาลยั นวมนิ ทราธิราช
๒๔ มหาวิทยาลยั ราชภัฏบ้านสมเดจ็ เจ้าพระยา ๑
๒๕ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสุนันทา ๑
๒๖ มหาวิทยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภฯ์ ๔
๒๗ มหาวิทยาลยั ราชภฏั เทพสตรี ๒
๒๘ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏศรสี ะเกษ ๕๓
๒๙ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ๑
๓๐ มหาวิทยาลัยกรงุ เทพ ๑
๓๑ มหาวทิ ยาลยั รงั สิต ๑๖
๓๒ มหาวทิ ยาลัยหอการคา้ ไทย ๖
๓๓ สถาบันการจดั การปญั ญาภิวัฒน์ ๑
๓๔ มหาวิทยาลัยคริสเตียน ๒
๓๕ มหาวิทยาลัยเนชน่ั ๒
๓๖ มหาวทิ ยาลัยปทุมธานี ๑
๓๗ วิทยาลัยเทคนคิ ชลบุรี ๑
๓๘ มหาวทิ ยาลยั อัสสมั ชญั ๑
๓๙ มหาวิทยาลยั วลยั ลักษณ์ ๑
๔๐ มหาวิทยาลยั รามคาแหง ๑
๔๑ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช ๙
๔๒ วิทยาลยั พยาบาลกองทพั เรือ ๒๑
๔๓ วทิ ยาลัยพยาบาลตารวจ ๑
๔๔ สถาบนั การพยาบาลศรีสวรินทริ า สภากาชาดไทย ๑
๔๕ วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ๓
๔๖ วิทยาลัยการสาธารณสขุ สริ ินธร ๑๘
๔๗ วิทยาลัยพยาบาลเชยี งใหม่ ๓
๔๘ วทิ ยาลยั พยาบาลพะเยา ๑


คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๕๕

ลาดบั มหาวิทยาลัย จานวนนกั เรยี น

๔๙ โรงเรยี นนายสิบทหารบก ๖

๕๐ โรงเรียนชา่ งฝีมือทหาร ๑

๕๑ โรงเรยี นชุมพลทหารเรอื กรมยุทธทหารเรือ ๒

๕๒ กองร้อยสนับสนนุ ช่วยรบหน่วยรบพิเศษที่๑ คา่ ยวชริ าลงกรณ์ ๑

๕๓ วทิ ยาลัยนครราชสีมา ๑

๕๔ วทิ ยาลัยเทคนคิ ลพบุรี ๖

๕๕ วทิ ยาลัยเทคโนโลยีละโว้ ๓

รวม ๕๑๖

ขอ้ มูล ณ วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๔

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๕๖

ทนุ การศกึ ษา

ทนุ การศึกษาไดแ้ บ่งออกเป็น ๔ ประเภท ดังน้ี

๑. ทุนพระพุทธวรญำณ
มอบให้นกั เรียนทม่ี ีผลการเรยี นดีเฉลยี่ สะสม ๔.๐๐ ในระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒

ทนุ ละ ๕,๐๐๐ บาท

วธิ ดี ำเนนิ กำร
๑. งานทะเบียนวดั ผล สรปุ ผลการเรยี นเฉลยี่ สะสม ๔.๐๐ ในระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒
๒. พจิ ารณาคัดเลือกชาย๑ คน หญงิ ๑ คน กรณีทีน่ กั เรยี นมคี ะแนนเฉลี่ยสะสมเท่ากนั จะพจิ ารณาคะแนน
วิชา ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และภาษาองั กฤษ ตามลาดบั
๓. ประกาศผลนักเรยี นทีไ่ ด้รับทนุ
๔. จัดพธิ ีมอบทุนใหก้ บั นักเรยี น

๒.ทนุ เกยี รตินิยม

มอบใหน้ ักเรยี นทมี่ ีผลการเรียนทด่ี ี มคี วามประพฤตเิ รียบร้อย คดั เลอื กจากนักเรียนท่มี ผี ลการเรียนเฉลยี่
สะสม ๔.๐๐ ในระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ ถึง ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ทนุ ละ ๒,๐๐๐ บาท

วิธีดำเนนิ กำร
๑.งานฝา่ ยทะเบยี นวัดผลสรุปเกรดเฉล่ียสะสมนักเรยี นทม่ี ผี ลการเรยี น ๔.๐๐ ทกุ ภาคเรียน
๒. ประกาศผลนกั เรียนที่ไดร้ บั ทนุ
๓. จดั พิธีมอบทุนใหก้ ับนกั เรยี น

๓. ทนุ สงเครำะห์
ทุนสงเคราะหม์ อบใหก้ บั นักเรยี นที่เรยี นดี มีความประพฤตดิ ี ตงั้ ใจท่จี ะศกึ ษาเลา่ เรยี น แต่ขาดแคลนทนุ

ทรัพย์ ทางโรงเรียนไดจ้ ัดสรรทนุ เพื่อช่วยเหลอื นกั เรยี นในการศกึ ษาเล่าเรยี น ๑,๕๐๐ บาท

วธิ ีดำเนินกำร
๑. สารวจนกั เรียนที่มีปญั หาเศรษฐกจิ กับการเงนิ โดยขอร่วมมือจากครปู ระจาชั้น และคณุ ครทู กุ ทา่ น สารวจ
และสง่ รายชอ่ื นกั เรยี นเรียงตามลาดับความสาคัญตามความเปน็ จริง
๒. ออกแบบสารวจขอข้อมูลจากนักเรียน
๓. คณะกรรมการและคณุ ครูทุกท่านร่วมจัดหาทุน
๔. ประชาสมั พนั ธ์รบั สมัครนักเรียนทม่ี คี วามประสงค์ขอรบั ทนุ
๕. จดั ตง้ั คณะกรรมการพิจารณาคดั เลอื กนักเรียนรับทุนการศกึ ษา
๖.การประชุมคณะกรรมการพิจารณาคัดเลอื กนักเรยี นรับทนุ การศกึ ษา เพอ่ื ตง้ั เกณฑ์การพิจารณาทนุ
๗. ดาเนนิ การพิจารณาคดั เลอื กโดยใช้เกณฑ์จากทปี่ ระชมุ คณะกรรมการพิจารณาคัดเลอื กนักเรยี น
รับทุนการศึกษา
๘. ประกาศผลนักเรียนที่ได้รบั การคัดเลอื ก
๙. จดั พิธมี อบทนุ

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๕๗

อนง่ึ เงินทุนสงเคราะหท์ ่ีนกั เรยี นไดร้ บั ในครง้ั นี้ ไดร้ ับความกรณุ าจาก
๑. กวิศรารามมลู นิธิ
๒. มลู นิธพิ ระธรรมะญาณมนุ ี
๓. สมาคมศษิ ย์กวิศร์ - วนิ ิตศึกษา
๔. สมาคมผูป้ กครองและครโู รงเรยี นวนิ ิตศึกษา
๕. ศษิ ยเ์ ก่าโรงเรียนวนิ ติ ศกึ ษา
๖. ทุนจากโรงเรียนและคณะครู
๗. จากผู้มีจติ ศรทั ธา
๘. ดอกผลจากเจา้ ของทนุ ทบี่ รจิ าคเปน็ กองทนุ

๔. ทนุ โครงกำรอำหำรกลำงวนั
สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงจัดตัง้ กองทนุ เพ่อื ชว่ ยเหลือนกั เรียนท่ีมีฐานะทาง

บ้านยากจน รายไดไ้ ม่เพียงพอในการจา่ ยคา่ อาหารกลางวนั หรือขาดทุนอปุ การะ บิดา มารดาเสียชวี ิต ทาใหน้ กั เรียน
ไม่มีเงนิ ซือ้ อาหารรับประทานในตอนกลางวนั ในปีการศึกษาน้ี กวิศรารามมูลนธิ ิ ( กองทนุ พระพุทธวรญาณ) ได้ร่วม
บรจิ าคเงินทนุ เขา้ โครงการอาหารกลางวนั เพ่ือช่วยเหลอื ให้นักเรียนที่ขาดแคลนได้รับประทานอาหารกลางวนั อยา่ ง
ทวั่ ถึง ทนุ ละ ๒,๐๐๐ บาท

วิธีดำเนินกำร
๑. สารวจนักเรียนทีไ่ มไ่ ดร้ ับประทานอาหารกลางวัน โดยขอความร่วมมือจากครปู ระจาชนั้
๒. ต้ังคณะกรรมการเพอ่ื พจิ ารณาคดั เลือก
๓. ประชุมเพอ่ื หาเกณฑก์ ารพิจารณา
๔. ดาเนินการคดั เลอื กโดยใช้เกณฑจ์ ากทป่ี ระชุม จากการสอบถาม การสัมภาษณ์
๕. ประกาศผลนกั เรียนทีไ่ ดร้ ับคดั เลอื ก
๖. ติดตามผลการดาเนินงาน

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๕๘

งานโสตทัศนูปกรณ์

วัตถุประสงค์

- เพอื่ ให้ผเู้ รียนได้พัฒนาการเรียนการสอนไปสจู่ ุดหมายอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ และประสบผลสาเรจ็ ตาม
ความต้องการของโรงเรยี น

- เพื่อให้การเรียนการสอนนน้ั มกี ระบวนการ และความพร้อมตรงตามตอ้ งการของผู้เรียนและผสู้ อนอยา่ ง
สมา่ เสมอ

- ส่งเสรมิ สนบั สนนุ ใหผ้ ้สู อนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม ส่อื การสอน และอานวยความสะดวก
เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นเกดิ การเรียนรแู้ ละมคี วามรอบรู้

จดุ มงุ่ หมายในการใช้ส่อื และเทคโนโลยีการสอน
- เพ่อื สนับสนนุ การเรียนการสอน
- เพื่อช่วยจัดการในการสอน ผ้เู รยี นและผูส้ อนมคี วามสัมพนั ธ์กนั
- เพ่ือชว่ ยการเรียนแบบสบื ค้น
- เพื่อการเรยี นการสอนเนน้ นักเรยี นเปน็ สาคญั
- เพ่ือช่วยในการสอนแบบเอกตั บคุ คล

งานบริการ
- บรกิ ารใหย้ มื อปุ กรณ์โสตทศั น์ ตา่ งๆเพอื่ ใชใ้ นการเรยี นการสอน
- บรกิ ารแพร่ภาพ รบั สัญญาณจากส่อื ต่างๆ เพื่อการศกึ ษา
- บรกิ ารใชย้ มื ส่ือการเรียนการสอน โดยให้ปฏบิ ตั ติ ามระเบียบ
- ดาเนนิ การซอ่ มบารงุ รกั ษาอปุ กรณ์โสตทัศน์
- ควบคมุ ระบบเสยี งภายในโรงเรียน
- บริการให้ใชห้ อ้ งโสตฯ ห้องประชมุ เพอ่ื การเรียนการสอน
- เผยแพร่ประชาสัมพันธเ์ ทคโนโลยที างการศกึ ษา แก่คณะอาจารยแ์ ละนกั เรยี น

งานท่ีปฏบิ ตั ิ
- จัดทาแผนโครงการ ศักยภาพงานโสตฯ ปฏทิ นิ งานโสตฯ
- จัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ ความสมั พนั ธ์ระหว่างงานโสตทศั นปู กรณ์กับคณะครแู ละนักเรียนในโรงเรยี น
- จดั ทาทะเบยี นคุมพสั ดุ ครุภณั ฑใ์ นงานโสตฯ
- จัดทาสถติ กิ ารยืม การจองใชห้ อ้ งโสตฯ ห้องประชมุ ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน แกไ้ ข และปรบั ปรงุ
- ปฏิบตั ิงานอ่นื ๆ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๕๙

ข้อควรปฏบิ ัตใิ นการยืมส่ือและการใช้หอ้ งโสตฯ
- ยมื ลว่ งหน้ากอ่ นใช้ และถงึ กาหนดนัดคนื ส่งคนื ตามวนั และเวลา
- จองห้องโสตฯ ห้องประชุม แจ้งลว่ งหนา้ ก่อนใช้ และเมือ่ ไมใ่ ช้ตอ้ งแจง้ ให้เจา้ หน้าที่ทราบ
- แจ้งเจ้าหนา้ ที่ให้ทราบว่าใชส้ อื่ อะไรบา้ งก่อนทาการสอน
- ห้ามนาอาหารเขา้ มารบั ประทานในชว่ั โมงเรยี น
- ไม่ขีดเขยี นหรอื ทาลายสง่ิ ของภายในห้องโสตฯ
- ไม่สง่ เสยี งรบกวน ไม่เล่นภายในห้องโสตฯ
- เม่ือใช้ห้องเรียนเรยี บรอ้ ยแลว้ ใหน้ กั เรยี นจัดเก้าอี้ โต๊ะเรยี น เก็บขยะ ปดิ เครื่องปรบั อากาศ ให้เรยี บร้อย
และแจง้ ใหเ้ จ้าหน้าทที่ ราบวา่ เลกิ ใชห้ ้องแล้ว

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๖๐

ฝ่ำยกจิ กำรนกั เรยี น

งำนปกครอง

มีหน้าที่วางแผน ปกครองดูแลมอบความอบอุ่นความปลอดภัยให้นักเรียนขณะอยู่ในโรงเรียน
รวมทั้งการประสานงานกับผู้ปกครองเพื่อร่วมกันรับผิดชอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตน แก้ปัญหานักเรียน ให้
ประพฤติดีอยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียน มีคุณธรรม วัฒนธรรม และจริยธรรม คุณภาพตามความ
ต้องการของครอบครัว สังคม ประเทศชาติเป็นประชากรทดี่ ขี องโลก

หลกั ปฏิบัติ : การดาเนนิ งานฝ่ายปกครองใช้ระบบคณุ ธรรมเมตตาธรรม
เป้ำหมำย : พฒั นาผ้เู รยี นทุกคนเปน็ คนดี มศี กั ยภาพดาเนินชวี ิตอย่างมีความสขุ

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๖๑

ระเบียบโรงเรยี นวนิ ิตศึกษำ ในพระรำชปู ถมั ภฯ์
ว่ำดว้ ยกำรควบคมุ ควำมประพฤตนิ กั เรยี น พ.ศ. ๒๕๔๕

(ฉบับแกไ้ ข วนั ท่ี ๑ พฤษภำคม ๒๕๔๖)

โรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ เห็นสมควรกาหนดระเบียบว่าด้วยการลงโทษนักเรียนท่ี
ประพฤติผดิ ระเบียบของโรงเรยี นเพ่ือเป็นการควบคมุ ให้นักเรียนเป็นผู้มคี วามประพฤติดีมีความเป็นระเบียบเรยี บร้อย
มีวินยั และ รู้จกั แก้ไขปรับปรุงตนเอง จงึ อาศยั ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการควบคุมความประพฤติ
ของนักเรียน พ.ศ. ๒๕๑๕ ข้อ ๑๓ ในการออกระเบียบ ดังน้ี

ข้อ ๑. ระเบียบนี้ให้ช่ือว่าระเบียบโรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ ว่าด้วยการควบคุมความ
ประพฤตขิ องนักเรียน พ.ศ. ๒๕๔๕

ข้อ ๒. ให้ใชร้ ะเบียบน้ตี งั้ แตว่ ันท่ี ๑ พฤษภาคม ๒๕๔๕ เปน็ ต้นไป
ข้อ ๓. “นกั เรียน” หมายถึง นกั เรียนโรงเรยี นวินิตศกึ ษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ
ข้อ ๔. “ครู - อาจารย์” หมายถึง บุคลากรท่ีทาการสอนในโรงเรยี นวนิ ติ ศึกษา ในพระราชูปถัมภฯ์
ขอ้ ๕. ครู - อาจารย์ มสี ิทธหิ ักหรอื เพิม่ คะแนนในแบบรายงานความประพฤติท่ีให้ไว้
ข้อ ๖. ให้ครู - อาจารย์ รายงานการหักหรือเพิ่มคะแนนส่งฝ่ายปกครองในวันที่นักเรียนทาความผิด
หรือทาความดี
ข้อ ๗. ใหฝ้ า่ ยปกครองบันทึกการหักหรอื เพ่มิ คะแนนลงในระเบยี บประวัติในวันทีไ่ ด้รับรายงาน
ข้อ ๘. ถา้ นกั เรยี นถูกหักคะแนนความประพฤติ ๓๐ คะแนน ใหท้ าภาคทณั ฑต์ ่อครูประจาช้ัน และ
แจง้ ใหผ้ ปู้ กครองทราบ
ข้อ ๙. ถ้านักเรียนถูกหักคะแนนความประพฤติ ๔๕ คะแนน ให้ฝ่ายปกครองทารายงานเสนอ
ผอู้ านวยการ เพอ่ื สงั่ พกั การเรียน หรอื ใหอ้ อกต่อหนา้ ครูประจาช้ัน และผู้ปกครองนกั เรยี น
ข้อ ๑๐. ถ้านักเรียนถูกหักคะแนนความประพฤติ ๕๐ คะแนน ให้เสนอที่ประชุมกรรมการปกครอง
เพื่อนาเสนอผู้อานวยการ เพอ่ื ดาเนนิ การสั่งยา้ ยสถานศึกษา โดยแจ้งผูป้ กครองนกั เรียน
ขอ้ ๑๑. ในปีการศกึ ษาหนึง่ ๆ นนั้ ถ้านักเรียนคนใดได้รับการเพ่มิ คะแนนความประพฤตริ วมถึง
๘๐ , ๑๐๐, ๑๕๐ คะแนน จะไดร้ บั เกยี รตบิ ัตรความดี ดมี าก และดีเยย่ี ม ตามลาดับ

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๖๒

ระเบยี บโรงเรียนวินติ ศึกษำ ในพระรำชปู ถมั ภ์ฯ
เร่ือง คะแนนควำมประพฤตขิ องนักเรยี น พ.ศ. ๒๕๔๕

(ฉบบั แก้ไข วันที่ ๑ พฤษภำคม ๒๕๔๖)

เพ่ือให้นักเรียนโรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและเพื่อเป็นการ
ส่งเสริมระเบียบ วนิ ยั อันดงี ามของนกั เรียนให้เครง่ ครัดยิ่งขึ้น จึงวางระเบยี บคะแนนความประพฤติของนักเรยี น
โรงเรียนวนิ ติ ศกึ ษา ในพระราชปู ถมั ภ์ฯ ดงั น้ี

ขอ้ ๑. ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบคะแนนความประพฤติของนักเรยี น พ.ศ. ๒๕๔๕”

หมวด ๑ คะแนนนกั เรยี น
ข้อ ๒. ตลอดปีการศึกษาถ้านักเรียนคนใดถูกตัดคะแนนความประพฤติจะถูกพิจารณาโทษเพื่อแก้ไข

ดังนี้ ถกู ตัดคะแนนควำมประพฤติ ๓๐ คะแนน ใหแ้ จ้งผูป้ กครอง

หมวด ๒ อำนำจในกำรตดั คะแนน
ข้อ ๓. ครู–อาจารย์ ทุกคนมีอานาจในการตัดคะแนนความประพฤติของนักเรียนทุกคนตามความผิดท่ี

ระบุไว้ในการตัดคะแนนเม่ือจะตัดคะแนนความประพฤติของนักเรียนคนใดแล้วให้กรอกข้อมูลลงในแบบความ
ประพฤติของนกั เรียน โดยแจ้งใหอ้ าจารยท์ ีป่ รึกษาและอาจารย์ฝา่ ยปกครองทราบต่อไป

ข้อ ๔. ในการตัดคะแนนให้พิจารณาตามความผิดโดยยึดถือระเบียบควบคุมความประพฤติของนักเรียน
เปน็ หลัก

หมวด ๓ กำรปรบั ปรงุ แกไ้ ขควำมประพฤตขิ องนกั เรียน
ข้อ ๕. นักเรียนคนใดถูกตัดคะแนนความประพฤติอยู่ในช่วงใด ให้ผู้รับผิดชอบดาเนินการแก้ไขปรับปรุง

ความประพฤติของนักเรยี น ดงั น้ี

คะแนนทถ่ี กู ตดั ผรู้ บั ผดิ ชอบ กำรดำเนินกำร
๑๕ – ๓๐ ครูประจาชนั้ แจ้งให้ผูป้ กครองทราบ
๔๕ หวั หน้าระดบั ฝา่ ย เชิญผูป้ กครองมาพบ
๕๐ รองผ้อู านวยการฝา่ ยกิจการนกั เรยี น เชิญผู้ปกครองมาทาภาคทัณฑ์
๕๐ คณะกรรมการฝา่ ยปกครอง พจิ ารณาให้ออกและเสนอผอู้ านวยการ

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๖๓

ในการประชุมพิจารณา เม่ือนักเรียนประพฤติผิดต้องมีการเข้าประชุมไม่ต่ากว่าสองในสามของจานวน

กรรมการปกครอง จึงจะนับว่าเป็นองค์ประชุมการวินิจฉัยชี้ขาด ให้ถือเสียงข้างมาก หากคะแนนเสียงเท่ากันให้
ประธานกรรมการออกเสยี งเพม่ิ เป็นคะแนนเสียงชีข้ าด

เม่อื ดาเนนิ การตามขอ้ ๕ แล้ว ใหบ้ นั ทึกลงประวตั ิดว้ ย

หมวด ๔ กำรเพม่ิ คะแนนควำมประพฤติ
ข้อ ๖. นักเรียนคนใดประพฤติชอบสมควรแก่การยกย่องและเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักเรียนท่ัวไปให้ครู–

อาจารย์ท่ีเห็นเหตุการณ์ หรือได้รับแจ้ง เสนอหัวหน้าตามลาดับเพื่อนาเข้าท่ีประชุมฝ่ายปกครองเพ่ือพิจารณาเพิ่ม
คะแนนความประพฤตติ ามสมควรแกก่ รณี

ขอ้ ๗. ในกรณีทเี่ พิม่ คะแนนความประพฤตแิ ตล่ ะครั้งใหถ้ ือเกณฑ์ ดงั น้ี
ดเี ย่ยี ม เพม่ิ คะแนนให้ครง้ั ละไม่เกนิ ๒๐ คะแนน
ดมี าก เพิม่ คะแนนใหค้ รัง้ ละไม่เกนิ ๑๐ คะแนน
ดี เพม่ิ คะแนนให้ครัง้ ละไม่เกนิ ๕ คะแนน

หมวด ๕ กำรใหร้ ำงวัล ๘๐ คะแนนขึ้น
ข้อ ๘. ในปกี ารศกึ ษาหนงึ่ ๆ นกั เรียนคนใดได้รับคะแนนความประพฤติเพ่มิ ต้งั แต่

ไป จะได้รบั เกียรติบัตรจากทางโรงเรียน
ข้อ ๙. นกั เรยี นคนใด ไดร้ บั รางวัลตามข้อ ๘ ตดิ ตอ่ กันใหไ้ ด้รับรางวัล ดงั นี้
๙.๑ ตดิ ต่อกัน ๒ ปี จะไดร้ ับเกียรติบัตรชมเชยชน้ั ดี
๙.๒ ตดิ ต่อกัน ๓ ปี จะไดร้ ับเกียรตบิ ัตรชมเชยชนั้ ดีมาก
๙.๓ ตดิ ตอ่ กัน ๔ ปี จะได้รบั เกียรติบตั รชมเชยช้นั ดีเยย่ี ม
๙.๔ ติดต่อกัน ๕ ปี จะได้รบั โล่เงนิ จากทางโรงเรยี น
๙.๕ ตดิ ต่อกัน ๖ ปี จะได้รบั โล่ทองจากทางโรงเรยี น

ข้อ ๑๐. การมอบรางวลั ใหจ้ ัดข้ึนในโอกาสทเ่ี หมาะสม

หมวด ๖ กำรลงโทษ
ขอ้ ๑๑. การลงโทษตามความผดิ ของระเบยี บทีใ่ หล้ งโทษตามขน้ั ตอน ดงั นี้
๑๑.๑ ว่ากล่าวตักเตือนหรอื ตดั คะแนน
๑๑.๒ เชิญผปู้ กครองมาพบเพอื่ แกป้ ัญหา / ทาสัญญา / ทาทัณฑบ์ น

๑๑.๓ ตดั คะแนนความประพฤติ
๑๑.๔ ทากจิ กรรมเพ่อื ใหป้ รบั เปล่ยี นพฤติกรรม
๑๑.๕ ทาความผดิ ซ้าซากใหย้ า้ ยสถานศึกษา

หมวด ๗ กำรเพมิ่ คะแนนควำมประพฤติ

ขอ้ ๑๒. ความดที คี่ วรเพม่ิ คะแนน คือ
๑๒.๑ เก็บเงินหรอื ของมคี ่าแล้วนาส่งครู – อาจารย์ การไมก่ ระทาทุจริตแม้เมอื่ มโี อกาส

๕ คะแนน
๑๒.๒ เก็บเงนิ หรือของมคี า่ ตั้งแต่ ๕๐ บาทข้ึนไป แล้วนาส่งครู – อาจารย์ ๑๐ คะแนน
๑๒.๓ อาสาทาความดเี พอ่ื ลบล้างคะแนนทตี่ ดิ ลบเป็นระยะเวลานานพอสมควรแก่การเพ่ิม

๑๐ คะแนน
๑๒.๔ ชว่ ยเหลือผู้อน่ื ทตี่ กอยู่ในเหตกุ ารณค์ บั ขนั ใหป้ ลอดภยั ๒๐ คะแนน

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๖๔

๑๒.๕ ชว่ ยเหลือกจิ กรรมโรงเรียนเป็นประจาตลอดภาคเรียน ๒๐ คะแนน
๑๒.๖ สร้างชอื่ เสยี งและเกยี รตคิ ณุ ให้กบั โรงเรยี นดา้ นใดด้านหนงึ่ ๒๐ คะแนน
๑๒.๗ การกระทาที่สังคมยกย่องเป็นพิเศษ เช่น การเป็นแบบอย่างที่ดีหรือร่วมรณรงค์
เพือ่ ให้เกดิ ความดีงาม ความถกู ต้องข้ึนในสงั คม ๒๐ คะแนน
๑๒.๘ การประดิษฐค์ ิดคน้ ส่งิ ใหมๆ่ ที่เปน็ ประโยชน์ต่อสว่ นรวมและประเทศชาติ
๓๐ คะแนน
ข้อ ๑๓. การบันทึกลงระเบียนพฤติกรรม ในการเพ่ิม หรือ ตัดคะแนนพฤติกรรมนักเรียนทุกครั้ง
ให้รองผู้อานวยการฝ่ายกิจการนักเรียน, หัวหน้าฝ่ายปกครอง หรือ หัวหน้าคณะ เก็บรวบรวมเอกสารต่างๆ ไว้
เป็นหลักฐานแลว้ แจ้งครูประจาชนั้ , ฝา่ ยแนะแนว, ทะเบียนวัดผล เพื่อลงระเบียบพฤตกิ รรมเปน็ ประวัติประจาตัว
นกั เรยี นทุกครัง้
ข้อ ๑๔. ให้รองผ้อู านวยการฝ่ายกจิ การนักเรียนรักษาการใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บนี้
ขอ้ ๑๕. ใหใ้ ชร้ ะเบยี บน้ตี ัง้ แตป่ ีการศกึ ษา ๒๕๔๕ เปน็ ต้นไป

ประกาศ ณ วันท่ี ๑ พฤษภาคม ๒๕๔๖

( พระราชพุทธวราภรณ์ )
ผู้อานวยการโรงเรยี น

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๖๕

ตวั อยำ่ งใบลำ

สถานทีเ่ ขยี น..................................................

วนั ที.่ ................. เดือน........................................... พ.ศ......................
เรยี น อาจารยท์ ป่ี รกึ ษา ทีเ่ คารพ

ดว้ ยกระผม / ดิฉนั (นาย, ด.ช., น.ส., ด.ญ.)................................................................................
....................................... ไมส่ ามารถมาเรยี นได้ตามปกติ เนอ่ื งจาก....................................................................
(บอกสาเหตกุ ารลา หากปว่ ยเป็นไข้ ให้แจง้ อาการด้วย)......................................................................................
..............................................................................................................................................................................
กระผม/ดิฉนั ขงึ ขออนุญาตหยดุ เรยี นต้ังแต่วนั ที่..................... เดือน......................................... พ.ศ.................
ถึงวนั ที่........................ เดอื น............................................. พ.ศ......................... เป็นเวลา............................ วนั

เม่อื ครบกาหนดแลว้ กระผม/ดฉิ นั จะมาเรยี นตามปกติ

ดว้ ยความเคารพอยา่ งสงู
ลงชือ่ ................................................................

(....................................................................)

ขา้ พเจา้ ขอรับรองว่าเป็นความจริง

ลงชอื่ .............................................................
(....................................................................)

ผู้ปกครองนกั เรียน

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๖๖

ระเบยี บโรงเรยี นวนิ ิตศกึ ษำ ในพระรำชปู ถัมภ์ฯ
ว่ำด้วยเครือ่ งแบบและกำรแตง่ กำยของนกั เรียน

๑. กำรแต่งกำยนกั เรียนชำย

๑.๑ กำงเกง เป็นกางเกงขาส้ัน ผ้าสีกากี พ้ืนผ้าเกล้ยี ง สีไม่ซีดจนดเู ป็นขาว ทรงสบาย เปา้ ไม่ส้ัน เวลา
สวมขอบกางเกงไมต่ ่ากวา่ สะดือ ขาไม่บานหรือฟิตจนเกนิ ไป ขนาดกว้างห่างของแต่ละคนประมาณ ๘-๑๒ ซม.จบี หน้า
ข้างละจีบ ปลายขาทับชายเข้าข้างในกว้าง ๔ ซม. ขอบกางเกงต่อจากลาตัว ขอบลาตัวกว้าง ๓-๕ ซม. หูกางเกง
จานวน ๗ หู ขนาดกว้าง ๑ ซม.ยาว ๕ ซม. มีกระเป๋าข้างละ๑ใบ ด้านหลงั ไม่มีกระเป๋า ความยาวของกางเกงเวลายืน
ตรงปลายกางเกงเมื่อยนื ตรงอยเู่ หนอื เขา่ ประมาณ ๕ ซม. ทีเ่ อวคาดดว้ ยเขม็ ขัดต้องร้อยหูให้เรียบรอ้ ย ไมอ่ นุญาตให้ใช้
ผ้าเน้อื แขง็ ผ้าดิบ ผา้ เวสปอยท์

๑.๒ เสื้อ เป็นเสื้อเชิ้ตคอตั้ง ผ้าขาวเกลี้ยงไม่มีลวดลาย ไม่บางจนเกินควร ห้ามใช้ผ้าแพรหรือผ้าที่ไม่
สามารถท่ีจะรักษารูปทรงเอาไว้ได้ ผ่าอกตลอด ไม่มีเกล็ดด้านหน้า มีสาบหน้าพับด้านนอกกว้าง ๓ ซม. กระดุมสีขาว
กลมเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน ๑ ซม. แขนเส้ือเหนือข้อศอก มีสาบท่ีไหล่ ที่กระเป๋าติดด้านซ้ายให้พอเหมาะกับขนาด
ของเส้ือ กระเป๋าปักเครื่องหมายโรงเรียนด้วยไหมสีม่วง เหนือกระเป๋าปักชื่อ-สกุล ด้วยไหมสีแดง ท่ีหน้าอกเสื้อเบ้ือง
ขวาปักอักษรของโรงเรยี น ว.ศ. ดว้ ยไหมสแี ดง เหนอื ว.ศ. ปักดอกบวั จานวน ๑ ดอก ด้วยไหมสีเหลอื ง และสวมเส้ือไว้
ในกางเกงใหต้ งึ พอดูเรยี บร้อย จนสามารถมองเห็นเข็มขัดตลอดเสน้

๑.๓ ผม นักเรียนชาย ม.๑, ม.๒ และ ม.๓ ตัดสั้นเกรียน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผมบนศีรษะยาวไม่
เกิน ๔ ซม. นักเรียน ม.๔ , ม.๕ และ ม.๖ ตัดผมรองทรงสูง(ตัดเกรียนรอบศีรษะ) ส่วนยาวที่สุดต้องไม่เกิน ๕ ซม.
ห้ามหวแี สกกลาง หวีเสย หา้ มไวจ้ อนหนวดและเครา หา้ มใสน่ ้ามันทุกชนดิ

๑.๔ เข็มขัด เปน็ หนงั สนี ้าตาลขนาดกว้าง ๓-๔ ซม. ม.๑, ม.๒ และ ม.๓ ใชห้ วั เขม็ ขัดลกู เสือ ม.๔ , ม.๕
และ ม.๖ ใชห้ ัวเขม็ ขดั สีทองสี่เหล่ยี มผืนผา้

๑.๕ รองเท้ำ ใช้รองเท้าผ้าใบห้มุ ส้นชนิดผูกธรรมดา ไม่มลี วดลาย หวั มนสนี า้ ตาล ไม่มขี อบเปน็ สอี น่ื ส้น
เตี้ยธรรมดา ใหส้ วมหมุ้ สน้ ตลอดเวลา หา้ มสวมเหยียบส้น

๑.๖ ถงุ เท้ำ ใช้ถุงเทา้ สนี ้าตาลแบบธรรมดา สไี ม่ออ่ นจนเกินไปหรือไม่เข้มจนคล้ายสีดา ไม่มีลาดลาย
ไม่เปน็ แบบลูกฟกู สวมดงึ ยาวตลอด ไมส่ วมถุงเท้าขอ้ สน้ั

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๖๗

๒. กำรแต่งกำยนักเรยี นหญงิ
๒.๑ เส้ือ ม.๑, ม.๒ และ ม.๓ ใช้ผ้าขาวเกล้ียงไมบ่ างเกนิ สมควร ไม่มีลวดลาย หา้ มใชผ้ า้ แพรหรือผา้

บางไปสามารถรกั ษารปู ทรงเอาไวไ้ ด้ ตดั เส้อื แบบคอบัวแหลมผา่ ตลอด แขนปลอ่ ยเหนอื ขอ้ ศอก มีกระเป๋าตดิ ดา้ นซ้าย
๑ใบ ม.๔ , ม.๕ และ ม.๖ เส้อื แบบคอเช้ติ ที่อกเสื้อทาเป็นสาบตลบเข้าขา้ งในกวา้ ง ๓ ซม. แขนเสอื้ ยาวปล่อยตรงไม่
จีบเหนอื ขอ้ ศอก ไม่มีสาบด้านหลงั ตวั เสอ้ื ไมม่ เี กลด็ และรัดรปู ลกั ษณะของผ้าเหมอื นม.๑, ม.๒ และ ม.๓ เหนือ
กระเป๋าปกั ชือ่ -นามสกลุ ตวั หนาพอสมควรสูง ๑ ซม. ดา้ นขวาปกั อกั ษรย่อช่ือโรงเรียน ว.ศ. ตามแบบโรงเรยี น เหนือ ว.
ศ.ปกั ดอกบัว ๑ ดอก ดว้ ยไหมสเี หลอื ง

๒.๒ กระโปรง ใช้ผ้าสกี รมทา่ พ้ืนเกล้ียงไมม่ ีลวดลายทงั้ ดา้ นหน้าและดา้ นหลงั พบั เป็นกลบี ออกด้านอก
ข้างละ ๓ กลบี เยบ็ ทบั กลบี ลงมาประมาณ ๕-๗ ซม. ทรงกระโปรงไม่รดั รปู นา่ เกลียดปลายกระโปรงบาน ไม่เปน็ ทรง
ตรงหรอื ปลายแคบ ยาวคลมุ เข่าประมาณ ๕ ซม.

๒.๓ ผม ไมด่ ัดซอย ไม่ดดั มว้ นปลาย ไม่ใสค่ รมี หรือนา้ มัน ไม่ฉีดสเปรย์ ไม่ยีผม ไม่ยอ้ มสผี ม ปลาย
ยาวระดบั ชายหู ถ้าหากนักเรยี นไว้ผมยาว ให้ยาวไดไ้ ม่เกิน ๒๕ ซม. หา้ มถักเปีย ต้องรวบรดั ผูกดว้ ยโบหรือริบบ้ินสดี า
ไมม่ ลี วดลาย ดา้ นหนา้ ไมป่ ลอ่ ยยาวลงมาปิดหนา้ ผากและค้ิว กบิ๊ ติดผมใชส้ ีดาสีเดยี ว

๒.๔ เข็มขัด ม.๔ , ม.๕ และ ม.๖ เขม็ ขัดหนงั สีดา หวั ส่เี หล่ียมสีดา ไมม่ ลี วดลาย ซง่ึ ใช้คาดทบั
กระโปรงโดยชายเส้ืออยดู่ า้ นในกระโปรง จนสามารถมองเห็นเข็มขดั ตลอดเส้น

๒.๕ รองเทำ้ รองเทา้ หนงั สีดา ไมม่ ลี วดลายแบบห้มุ ส้น ห้มุ ปลายเทา้ หัวมน มสี ายรดั หลังเท้า สน้ สูง
ไม่เกนิ ๓ ซม.

๒.๖ ถงุ เทำ้ ใชถ้ งุ เทา้ สั้นสีขาว เปน็ ด้ายหรือสักหลาด ไม่มีลวดลาย หรอื ลูกฟูก ใหพ้ ับเหนือข้อเท้า
หนาประมาณ ๒ น้ิว ห้ามมว้ น ไม่สวมถุงเท้าขอ้ สั้น

๒.๗ ชดุ พลศกึ ษำ ใชก้ างเกงวอร์มและเสือ้ แบบท่โี รงเรยี นกาหนด รองเทา้ นกั เรียนชายใช้รองเท้า
ผา้ ใบสนี ้าตาล รองเทา้ นักเรยี นหญงิ ใช้รองเท้าผา้ ใบสขี าวเรียบไมม่ ลี วดลาย ผูกเชอื ก ใช้เฉพาะวนั ที่มีการเรยี นพล
ศกึ ษาเทา่ นน้ั

๒.๘ เครือ่ งประดบั หา้ มนกั เรียนสวมประดบั มคี า่ มาโรงเรียน ถา้ หากนามาทางโรงเรียนจะรบิ ไว้แลว้
แจง้ ผู้ปกครองมารบั คืน ถา้ มีการสูญหาย โรงเรียนจะไม่รบั ผดิ ชอบ

๒.๙ กระเปำ๋ หนังสอื โรงเรยี นไม่อนุญาตใหน้ กั เรยี นนากระเป๋าหนงั สอื หรือเป้ท่นี อกเหนอื จากที่
โรงเรียนกาหนดมาโรงเรียน หากนามาจะถกู ยึดไว้ ๑ ภาคเรียน

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๖๘

เคร่ืองแบบนกั เรยี นชำย ชน้ั ม.๑ – ม.๓

ดา้ นขวาปกั ดอกบวั ๑ ดอก ผมตดั เกรียนรอบศีรษะสว่ นบนยาว
ดว้ ยไหมสีเหลือง ไม่เกิน ๔ ซม.
สว่ นลา่ งปกั อักษร ว.ศ.
ตามแบบของโรงเรยี น เสอ้ื คอเชติ้ ผ่าอกตลอด
ด้วยไหมสแี ดง สาบเสื้อกว้าง ๓ ซม.
แขนเส้อื พับเพียงศอก
เขด็ ขัดลกู เสือหนงั สนี ้าตาล มกี ระเปา๋ ตดิ แนวราวนมบนเส้ือ

ถงุ เท้าดงึ ใหต้ งึ ไมพ่ บั ปักชื่อ-นามสกุล ตัวอักษรสูง ๑ ซม.
ด้วยไหมสแี ดง

กระเปา๋ ปกั เครื่องหมายโรงเรียน
ด้วยไหมสีม่วง

กางเกงผ้าสกี ากีแบบกางเกงไทยขาสนั้
เหนือเข่าพน้ ลูกสะบา้ ประมาณ ๕ ซม.
(กลางลกู สะบา้ ) เม่ือยืนตรงส่วนความกวา้ ง
ของขากางเกงเมือ่ ยนื ตรงหา่ งจากขา
ประมาณ ๘-๑๒ ซม.
มีกระเป๋าตามแนวตะเข็บขา้ งละ ๑ ใบ

รองเทา้ ผ้าใบห้มุ สน้ ชนดิ ผูกสนี า้ ตาล
ไมม่ ีลวดลาย ถุงเทา้ แบบนักเรียน
สเี ดียวกับรองเทา้

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๖๙

เคร่ืองแบบนกั เรียนหญิง ชั้น ม.๑ – ม.๓

ด้านขวาปกั ดอกบวั ๑ ดอก ผมไมด่ ดั หรือตบแตง่ ใดๆ โดยรอบยาว
ดว้ ยไหมสเี หลือง ประมาณชายหู ถ้าเอาไว้ผมยาวตอ้ งรวบผม
ให้เรยี บร้อยพร้อมผกู โบรบิ บนิ้ หรอื ผา้ สดี า
สว่ นลา่ งปกั อกั ษร ว.ศ. เทา่ น้ัน
ตามแบบของโรงเรียน
ด้วยไหมสีแดง ปกั ชอ่ื -นามสกุล ตวั อกั ษรสงู ๑ ซม.
ด้วยไหมสีแดง
เน็กไทสีเดยี วกับกระโปรง
ยาวเหนือกระดมุ เมด็ สดุ ท้าย มกี ระเป๋าดา้ นซ้าย ๑ ใบ
กบั รองเมด็ สุดท้าย ปกั เครื่องหมายโรงเรยี น
ดว้ ยไหมสมี ว่ ง

กระโปรงผา้ สกี รมท่าเกลีย้ ง มีจบี ด้านข้าง
๒ ขา้ ง ข้างละ ๓ จีบ ทงั้ ด้านหนา้ และ
ด้านหลังกระโปรงยาวเพยี งใตเ้ ขา่
ประมาณ ๔ นว้ิ ฟุต

ถงุ เท้าสีขาวสน้ั แบบนกั เรียน ไมม่ ีลวดลาย รองเท้าหนงั สีดาหุ้มสน้
พับถุงเท้าให้หนาประมาณ ๒น้ิวฟตุ
ห้ามมว้ นกลม

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๗๐

เครอ่ื งแบบนกั เรียนชำย ชั้น ม.๔ – ม.๖

ด้านขวาปกั ดอกบวั ๑ ดอก ผมตัดเกรยี นรอบศรี ษะสว่ นบนยาว
ด้วยไหมสเี หลอื ง ไมเ่ กิน ๕ ซม. ห้ามใสน่ า้ มนั และหวีผมแสก
กลาง ห้ามหวีเสยผม ห้ามไว้จอน หนวด
สว่ นลา่ งปกั อักษร ว.ศ. เครา
ตามแบบของโรงเรยี น
ดว้ ยไหมสแี ดง เส้อื คอเชิ้ต ผ่าอกตลอด
สาบเสื้อกว้าง ๓ ซม.
เขด็ ขัดหนงั สีนา้ ตาลหัวสีเ่ หล่ยี ม แขนเส้อื พบั เพียงศอก
มีกระเป๋าติดแนวราวนมบนเสือ้

ปกั ชื่อ-นามสกุล ตวั อกั ษรสูง ๑ ซม.
ดว้ ยไหมสแี ดง

กระเปา๋ ปักเครื่องหมายโรงเรียน
ดว้ ยไหมสมี ่วง

กางเกงผา้ สกี ากแี บบกางเกงไทยขาสั้น
เหนือเขา่ พ้นลกู สะบา้ ประมาณ ๕ ซม.
(กลางลูกสะบา้ ) เมอ่ื ยืนตรงส่วนความกว้าง
ของขากางเกงเม่ือยืนตรงหา่ งจากขา
ประมาณ ๘-๑๒ ซม.
มีกระเปา๋ ตามแนวตะเข็บขา้ งละ ๑ ใบ

ถุงเทา้ ดงึ ให้ตงึ ไมพ่ บั

รองเทา้ ผา้ ใบหุ้มสน้ ชนิดผกู สนี า้ ตาล
ไม่มลี วดลาย ถุงเท้าแบบนกั เรียน
สีเดียวกับรองเท้า

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๗๑

เครื่องแบบนักเรยี นหญิง ช้นั ม.๔ – ม.๖

ผมไม่ดดั หรือตบแตง่ ใดๆ โดยรอบยาว เส้ือคอเชติ้ ผ่าอกตลอด
ประมาณชายหู ถ้าเอาไวผ้ มยาวตอ้ งรวบผม ทอี่ กเสื้อทาเป็นสาบตลบเขา้ ขา้ งใน
ให้เรียบรอ้ ยพร้อมผกู โบรบิ บนิ้ หรอื ผ้าสดี า แขนยาวเพียงเหนือศอกไมม่ จี บี
เทา่ น้ัน
ปกั ชือ่ -นามสกลุ ตวั อักษรสงู ๑ ซม.
ดา้ นขวาปักดอกบวั ๑ ดอก ด้วยไหมสแี ดง
ด้วยไหมสีเหลอื ง
มกี ระเปา๋ ดา้ นซา้ ย ๑ ใบ
สว่ นลา่ งปักอักษร ว.ศ. ปักเครอ่ื งหมายโรงเรยี น
ตามแบบของโรงเรยี น ด้วยไหมสมี ว่ ง
ด้วยไหมสแี ดง

ถงุ เท้าสขี าวสนั้ แบบนักเรยี น ไม่มีลวดลาย กระโปรงผา้ สีกรมท่าเกลยี้ ง มีจบี ด้านขา้ ง
พับถงุ เทา้ ใหห้ นาประมาณ ๒นวิ้ ฟตุ ๒ ข้าง ข้างละ ๓ จีบ ทง้ั ด้านหนา้ และ
หา้ มมว้ นกลม ดา้ นหลังกระโปรงยาวเพียงใตเ้ ข่า
ประมาณ ๔ น้วิ ฟุต

รองเทา้ หนงั สีดาหุ้มสน้

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๗๒

เครื่องแตง่ กำยของนักเรียนชำย ชัน้ มัธยมศึกษำตอนต้น
เคร่ืองแต่งกำยของนกั เรยี นหญิง ช้นั มัธยมศึกษำตอนตน้

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๗๓

เครื่องแต่งกำยของนกั เรียนชำย ช้ันมัธยมศึกษำตอนปลำย
เคร่ืองแต่งกำยของนกั เรียนหญิง ช้นั มัธยมศกึ ษำตอนปลำย

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๗๔

เคร่อื แบบชุดพละ นกั เรยี นชำย และนักเรยี นหญงิ

ปกั ดอกบัว ปกั ชอ่ื -นามสกุล สแี ดง
ปัก ว.ศ.
สีแดง ปกั ตราโรงเรยี นสแี ดง
บนกระเปา๋ เส้อื ดา้ นซา้ ย

รองเทา้ ผา้ ใบห้มุ สน้ ชนิดผูกสนี า้ ตาล รองเทา้ ผ้าใบหุ้มสน้ ชนิดผูกสขี าว
ไมม่ ีลวดลาย ถงุ เท้าสีนา้ ตาล ไมม่ ีลวดลาย ถุงเท้าสีขาว

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๗๕

เคร่ืองแบบชุดพธิ กี ำรนกั เรียนชำย

หมวกหนบี สีกรมท่า
ประดบั เขม็ ตราสญั ลักษณ์
ประจาโรงเรยี น

แผงคอเส้ือสีกรมมแี ถบสีทองคาดกลาง
ประดบั ตราสญั ลกั ษณ์ประจาโรงเรยี น

ปา้ ยชื่อ
สว่ นหน้ามตี ราสัญลักษณ์ประจา
โรงเรยี นตามดว้ ยช่ือ-นามสกุล

เส้อื ราชประแตน
กระดุม ๕ เม็ด
ปกมกี ระดุมตะขอ

ถุงเทา้ ขาวลอนเล็ก กางเกงสกี รมท่าความยาวเสมอเขา่
ความยาวใต้เขา่ คลุมน่อง รองเท้าหนงั หุม้ ส้นผกู เชอื กดา

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ : เข็มสญั ลกั ษณข์ องโรงเรยี น สีเงนิ
ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย : เข็มสญั ลกั ษณข์ องโรงเรยี น สีทอง

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๗๖

เครื่องแบบชุดพธิ ีกำรนกั เรยี นหญงิ

เข็มตราสัญลกั ษณ์ประจา หมวกหม้อตาลสีกรมท่า
โรงเรียนทั้ง ๒ ขา้ งของสว่ นบน ประดับเข็มตราสญั ลักษณ์
ประจาโรงเรียน

เนคไทสีกรมท่าของโรงเรียน

ป้ายช่ือ เสอ้ื ดา้ นในเปน็ เสอ้ื นักเรยี นสีขาว
ส่วนหน้ามตี ราสญั ลกั ษณ์ประจา
โรงเรียนตามดว้ ยชอ่ื -นามสกุล

เสือ้ สูทสขี าว
มรี งั ดมุ ๓ รงั ดุม

กระโปรงนกั เรยี นสกี รมท่า ๖ จบี
ความยาวเสมอเข่า

ถงุ เท้าขาวลอนเล็ก รองเท้านกั เรียนหนงั หมุ้ ส้น
พบั ๓ น้ิว สีดา

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ : เข็มสญั ลกั ษณข์ องโรงเรยี น สีเงิน
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย : เขม็ สญั ลกั ษณข์ องโรงเรยี น สีทอง

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๗๗

แนวปฏบิ ตั เิ ก่ียวกับนักเรยี นท่ีนำยำนพำหนะมำโรงเรียน

๑. ไม่อนญุ าตใหน้ กั เรยี นนารถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ มาโรงเรยี น หากมคี วามจาเปน็ ใหผ้ ปู้ กครอง
ทาหนังสอื ยนิ ยอมและต้องลงทะเบียนการใชย้ านพาหนะทีฝ่ า่ ยปกครองโดยตรง

๒. ยานพาหนะทนี่ ามาโรงเรยี นตอ้ งจอดไวใ้ นที่ทโ่ี รงเรียนกาหนดให้ และนากลบั ได้เมอ่ื โรงเรียนเลิกเทา่ น้ัน
๓. ยานพาหนะทน่ี ามาใชต้ อ้ งถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีหมวกกันน็อก และใบอนญุ าตขบั ข่ี
๔. หา้ มนายานพาหนะมาขับขภ่ี ายในโรงเรยี นขณะที่เปน็ เวลาเรียน
๕. นกั เรียนท่ีฝา่ ฝนื ไมป่ ฏบิ ัตติ ามระเบยี บ โรงเรียนจะระงบั การใชย้ านพาหนะมาโรงเรียน ๑ ภาคเรยี น

แนวทำงปฏบิ ัติเกีย่ วกบั กำรขออนุญำตออกนอกบริเวณโรงเรยี น

๑. นักเรียนต้องขออนุญาตโดยผา่ นจากครปู ระจาชั้น แลว้ นาแบบขออนญุ าตมาย่นื ท่ีห้องปกครอง
เพอ่ื พจิ ารณาอนญุ าต

๒. กรณที ี่นักเรียนป่วย ให้อยู่ในดุลพนิ ิจของพยาบาลประจาโรงเรียน
๓. กรณีผู้ปกครองมารบั ให้ประสานงานกับฝา่ ยปกครองโดยตรง
๔. กรณนี กั เรยี นปว่ ยทตี่ ้องนาส่งโรงพยาบาล ใหเ้ ป็นหนา้ ทข่ี องครปู ระจาชนั้ ร่วมกับฝ่ายอนามยั

และพยาบาลประจาโรงเรยี นเปน็ ผูน้ าส่งโรงพยาบาล

แนวทำงปฏบิ ตั เิ ก่ยี วกบั นกั เรยี นท่ไี มร่ ่วมกจิ กรรมคณะ

๑. ครทู ป่ี รกึ ษาประจาคณะ ใหส้ ารวจนกั เรียนท่ีไมเ่ ขา้ รว่ มกิจกรรม แล้วบันทกึ รายงานใหห้ วั หน้าคณะทราบและ
วา่ กล่าวตกั เตอื นในเบ้ืองตน้

๒. ถ้าไมร่ ว่ มกจิ กรรมติดต่อกันตง้ั แต่ ๒ ครั้งข้ึนไป ใหค้ รทู ปี่ รกึ ษารายงานใหห้ วั หนา้ คณะทราบ
เพื่อดาเนนิ แก้ไขต่อไป

แนวทำงปฏิบัตกิ จิ กรรมหนำ้ เสำธง

๑. ครูเวรอานวยการต้องเรง่ รัดนักเรียนท่ีอยู่ตามทีต่ า่ งๆใหเ้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมหน้าเสาธง
๒. เวลา ๐๗.๕๐ น. นกั เรยี นเข้าแถวพร้อมกนั หนา้ เสาธง และดาเนินกิจกรรม
๓. เวลา ๐๘.๑๐ น. แยกแถวข้ึนห้องเรียน
๔. การเข้าแถวของนกั เรยี น ให้เรียงตามลาดับไหล่ นักเรยี นชายอยแู่ ถวหน้า

แนวทำงปฏบิ ัตเิ กย่ี วกับนกั เรียนมำสำย

๑. สาย หมายถงึ นักเรยี นทีม่ าถงึ โรงเรยี นหลังเวลา ๐๘.๐๐ น. ให้ครปู ระจาชนั้ ดาเนินการแกไ้ ขนกั เรยี น
ทม่ี าสายในเบอ้ื งตน้

๒. นักเรยี นที่มาสาย ๒ ครัง้ ต่อสัปดาห์ ใหค้ รปู ระจาชน้ั ส่งรายชอื่ ทหี่ ัวหน้าปกครองอาคารเป็นลายลักษณ์อกั ษร
๓. นกั เรียนทม่ี าสายติดตอ่ กันสมา่ เสมอ ใหห้ วั หนา้ ปกครองอาคารรายงานให้ฝ่ายปกครองทราบเปน็

ลายลกั ษณอ์ ักษร

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๗๘

แนวทำงปฏิบตั เิ ก่ียวกบั นกั เรยี นไมเ่ ข้ำเรยี น

๑. ใหค้ รูประจาวชิ าบนั ทกึ ลงในแบบสารวจเวลาเรยี นทกุ คร้งั ดว้ ยตนเอง
๒. เม่อื พบวา่ มนี กั เรียนไมเ่ ขา้ เรยี น ใหค้ รูประจาวชิ าตักเตอื นเบื้องตน้
๓. เม่ือพบวา่ นักเรียนไม่เขา้ เรียนติดตอ่ กนั ๒ ครงั้ ใหค้ รูประจาวชิ าแจ้งครูประจาชน้ั เปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษร
๔. เมอ่ื พบวา่ นกั เรียนไมเ่ ข้าเรยี นตดิ ตอ่ กนั ๓ ครัง้ ให้ครปู ระจาชน้ั แจง้ หัวหน้าปกครองอาคารเปน็

ลายลกั ษณ์อกั ษร
๕. เมือ่ พบว่านักเรียนไมเ่ ข้าเรยี นติดตอ่ กัน ๔ คร้งั ใหห้ วั หนา้ ปกครองอาคารแจ้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายวชิ าการ

ฝา่ ยกิจการนกั เรยี น เพอ่ื ดาเนินการแก้ไขต่อไป
๖. ถ้าครูประจาวิชาพบว่านกั เรียนมีพฤตกิ รรมทไี่ มเ่ หมาะสม ให้รายงานพฤติกรรมดงั กลา่ วให้ครูประจาช้ันทราบ

ครปู ระจาชน้ั แจ้งหัวหน้าปกครองอาคาร หัวหนา้ ปกครองอาคารแจง้ ฝ่ายปกครองทราบตามลาดบั

แนวทำงปฏิบตั เิ กีย่ วกับนกั เรยี นขำดเรยี น

๑. ครูประจาชน้ั บนั ทึกลงในแบบสารวจเวลาเรยี นทกุ คร้งั ทนี่ กั เรียนขาดเรยี น
๒. นักเรยี นตอ้ งมใี บลาแสดงความจาเป็นในการขาดเรยี น โดยมผี ู้ปกครองลงชือ่ รบั รองทุกครง้ั
๓. กรณีที่นกั เรยี นขาดเรียน ๑ วัน ต่อสปั ดาห์ ใหค้ รปู ระจาช้นั ตักเตือนและแจง้ หัวหน้าปกครองอาคารทราบ

ในเบือ้ งตน้
๔. กรณีทนี่ กั เรียนขาดเรยี น ๒ วันตดิ ต่อกนั หรอื ไม่ตดิ ต่อกนั ตอ่ สัปดาห์ ใหค้ รูประจาชนั้ แจง้ หวั หน้าปกครอง

อาคาร
๕. กรณที น่ี ักเรียนขาดเรียน ๓ วนั ติดต่อกนั หรือไมต่ ดิ ต่อกนั ตอ่ สัปดาห์ ใหห้ วั หน้าปกครองอาคารแจง้

ฝา่ ยปกครองเพ่อื ประสานผปู้ กครองทราบและดาเนินการแกไ้ ขต่อไป
๖. ถา้ ฝ่ายปกครองประสานผู้ปกครองแล้วไมไ่ ด้รบั การตดิ ตอ่ โดยไมท่ ราบสาเหตุหรอื นักเรียนขาดเรยี นตดิ ตอ่ กนั

เกนิ ๗ วัน ให้ครูประจาชนั้ แจง้ ฝ่ายปกครอง ฝา่ ยปกครองนาเสนอผู้บริหารพจิ ารณาแล้วนาผลการพิจารณา
แจ้งฝา่ ยทะเบยี นวดั ผลต่อไป

แนวทำงปฏิบัติเก่ียวกบั กำรตรวจเครอื่ งแตง่ กำยนกั เรียน

๑. ครปู ระจาชั้นตอ้ งตรวจเครือ่ งแต่งกายนกั เรียนอย่างสมา่ เสมอทุกวัน เมือ่ พบว่านกั เรยี นแตง่ กายไม่ถูกต้อง
ให้ตกั เตือนนกั เรยี นปรับปรงุ แก้ไขเบ้ืองตน้

๒. ถา้ ครูประจาชน้ั หรือครูประจาวชิ าตักเตอื น ๒ ครงั้ แลว้ นักเรียนไม่ปฏบิ ัติตามใหร้ ายงานหัวหน้าปกครอง
อาคารทราบเปน็ ลายลักษณ์อักษร

๓. ถา้ ครูประจาชน้ั หรือครูประจาวชิ าตกั เตือน ๓ ครัง้ แลว้ นักเรยี นไมป่ ฏบิ ตั ติ ามใหห้ วั หนา้ ปกครองอาคาร
รายงานฝ่ายปกครองทราบเปน็ ลายลักษณ์อักษร

๔. ให้หัวหน้าปกครองอาคารดาเนินการตรวจเครื่องแตง่ กายนกั เรียนในอาคารเดอื นละ ๑ ครั้ง

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๗๙

๕. ในการตรวจเคร่ืองแตง่ กายนกั เรียนเน้นสง่ิ ท่ีตรวจต่อไปนี้
๕.๑ ห้ามนักเรยี นชาย - ไวผ้ มยาว ใส่นา้ มันหรอื เยล ยอ้ มสีผม
- แตง่ หนา้ ใส่เคร่อื งประดับ
- สวมใสก่ างเกงไม่ถูกระเบียบ
- สวมเสื้อไม่มสี าบหรือมีจบี หลงั ไม่ปกั เคร่ืองหมายของโรงเรียน
- สวมรองเทา้ เหยียบส้นรองเทา้ ถุงเทา้ สนั้ -หนา
๕.๒ ห้ามนักเรยี นหญงิ - ซอยผม ยอ้ มสผี ม ผมยาวไม่รวบรดั โบผูกผมตอ้ งเปน็ สีดา
- แต่งหน้า ใสเ่ ครื่องประดับ
- สวมใส่กระโปรงจบี แคบ จบี เล็ก
- สวมถงุ เทา้ สนั้ -หนา มลี วดลาย

๖. เม่อื หวั หนา้ ปกครองอาคารตรวจเครือ่ งแต่งกายนักเรยี นแล้วพบว่านักเรียนผิดระเบียบ ให้รายงานตอ่ ฝา่ ย
ปกครองเพ่ือปรบั ปรงุ แกไ้ ขตอ่ ไป

๗.ให้นกั เรียนใส่ชุดพลศกึ ษาไดเ้ ฉพาะวนั ทม่ี กี ารเรยี นพลศกึ ษาเทา่ นน้ั ถา้ แตง่ มาวนั ทไี่ มม่ กี ารเรียนถือวา่
ผดิ ระเบยี บ

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๘๐

ขอ้ ปฏบิ ัติตำ่ งๆของนักเรียนโรงเรยี นวินิตศึกษำ ในพระรำชูปถมั ภ์ฯ
ข้อปฏิบัติวำ่ ดว้ ยกำรเข้ำแถว

สัญญาณจะเริม่ ดว้ ยเพลงโรงเรียนในเวลา ๐๗.๓๐ น. ใช้เพลงมารช์ วนิ ิตศกึ ษา ใหน้ กั เรยี นรบี เรง่ มาที่แถว
เมือ่ เพลงจบจะกดกรงิ่ ๑ ครงั้ การเขา้ แถวต้องเรยี บร้อย นักเรียนต้องรอ้ งเพลงชาติ ไหวพ้ ระ สวดมนต์ และรว่ ม
กิจกรรมตา่ งๆหน้าเสาธงดว้ ยความสงบ

หมำยเหตุ ให้ครปู ระจาชน้ั แนะนาและกวดขนั การแต่งกายด้วย

ขอ้ ปฏบิ ตั ิวำ่ ดว้ ยกำรแสดงควำมเคำรพครแู ละผู้ใหญ่
๑. นกั เรยี นต้องแสดงความเคารพตอ่ ครอู าจารย์ในโรงเรียนทกุ คร้งั ท่ีพบเห็น
๒. เมอ่ื คร-ู อาจารย์ ผา่ นไป-มาระยะใกลพ้ อสมควร ใหแ้ สดงความเคารพโดยการยืนตรงแล้วยกมือไหวถ้ า้ หาก

ถอื ส่งิ ของกใ็ ห้ก้มศีรษะแทน
๓. เมือ่ นักเรยี นเดินสวนกบั ครู ให้แสดงความเคารพด้วยการยนื ตรงแล้วยกมือไหว้ เม่ือครเู ดินผ่านไปแลว้ จงึ เดนิ

ตอ่ ไป
๔. เมอ่ื นกั เรียนเดินตามหลงั ครู ไมค่ วรเดนิ แซงหนา้ ครู
๕. เมอ่ื นักเรยี นเดินสวนทางกบั ครูตรงบนั ได ให้นักเรียนหยุดเดนิ แล้วใหค้ รขู ึ้นหรือลงกอ่ นจึงเดนิ ต่อไป
๖. ขณะเมอื่ ครพู ดู กบั นกั เรยี นคนใด ใหน้ ักเรยี นยนื ตวั ตรงตั้งใจฟัง
๗. เมือ่ นกั เรียนส่งงานหรอื เขา้ พบครใู นขณะท่คี รนู ัง่ อยู่ ใหน้ กั เรียนคกุ เข่า ทาความเคารพครู เม่อื จะกลับไป

นัง่ ทก่ี ท็ าความเคารพครูอีกคร้ัง
๘. เม่ือมแี ขกมาเยีย่ มโรงเรียนให้ปฏิบตั ิเชน่ เดยี วกัน
๙. ลูกเสือ เนตรนารี ยวุ กาชาด และผ้บู าเพ็ญประโยชน์ ให้ทาความเคารพตามแบบของสังกดั

หมำยเหตุ ถา้ นกั เรียนคนใดยังปฏิบตั ไิ มถ่ กู ต้อง ใหค้ รทู กุ ทา่ นแนะนาทนั ที

ขอ้ ปฏบิ ัติในกำรรบั ประทำนอำหำรและเครื่องด่ืม

ไมใ่ ห้นกั เรียนนาอาหาร ขนม และเคร่อื งดืม่ ทุกชนิดยกเว้นน้าดื่มข้ึนบนอาคารเรียนหรือในห้องเรยี นรวมท้ัง
ไมใ่ หน้ กั เรยี นเดนิ รบั ประทาน ตอ้ งนง่ั ทานในโรงอาหาร หน้าวนิ ติ มินิมาร์ท เท่าน้ัน

หมำยเหตุ นกั เรียนที่ไม่ปฏบิ ตั ติ ามใหค้ รูเวรประจาอาคารและครูทีพ่ บ วา่ กลา่ วตักเตอื นทนั ที

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๘๑

ข้อปฏิบตั ใิ นกำรพบผู้ปกครองหรือรบั นักเรียนกลับบ้ำนในเวลำเรยี น
๑. เมือ่ มผี ้ปู กครองมาขอพบนักเรียน ใหผ้ ู้ปกครองตดิ ต่อที่หอ้ งประชาสัมพนั ธอ์ าคารขวามอื ทางเข้าประตู
โรงเรยี น แลว้ นัง่ รอท่ีหอ้ งประชาสัมพันธจ์ นกวา่ นักเรยี นจะมาพบ เม่อื นกั เรยี นได้ยินประกาศใหข้ ออนญุ าตครูผสู้ อน
ลงมาพบท่ีห้องประชาสมั พันธ์เท่านนั้ เพอื่ ความปลอดภยั ของนกั เรียน
๒. เมือ่ ผ้ปู กครองมารับนักเรียนกลับบ้าน ใหผ้ ปู้ กครองติดตอ่ ทีห่ ้องประชาสมั พนั ธ์ เขียนใบอนุญาตออกนอก
บรเิ วณโรงเรยี นพรอ้ มทง้ั นาบตั รประจาตวั ประชาชนหรอื บตั รข้าราชการมาแสดงด้วย

หมำยเหตุ นักเรียนไปชี้แจงใหผ้ ปู้ กครองทราบ
ข้อปฏบิ ตั ิในกำรรับประทำนอำหำร

๑. เข้าคิวซือ้ อาหาร
๒. รบั ประทานอาหารไมเ่ ลอะเทอะ
๓. เก็บภาชนะใส่ตามจุดทโี่ รงเรยี นจัดให้

หมำยเหตุ ให้ครูเวรโรงอาหารดแู ล แนะนา ใหเ้ กดิ ความสะอาดเรยี บรอ้ ย
ขอ้ ปฏบิ ตั ิในกำรใช้โทรศัพท์

๑. กรณที ่นี กั เรียนนาโทรศพั ท์มอื ถอื มาโรงเรยี น ไมอ่ นญุ าตใหใ้ ชใ้ นหอ้ งเรียนตั้งแต่เวลา ๐๘.๑๐ – ๑๖.๐๐ น.
ถา้ มีความจาเปน็ ต้องติดต่อกบั ผปู้ กครองให้ขออนญุ าตครูประจาวิชาหรอื ครูประจาชน้ั

๒.หากนักเรียนใชโ้ ทรศพั ท์ไมเ่ ปน็ ไปตามระเบียบของโรงเรยี น ครูประจาวชิ าสามารถอบรมตกั เตือนหรอื เก็บสง่
ฝา่ ยปกครองและใหน้ ักเรยี นมาติดตอ่ รับคนื หลงั เลกิ เรยี น

ถ้ำนักเรียนคนใดปฏิบัตไิ ม่ได้ จะถูกตดั คะแนนควำมประพฤติ หรือถูกถอนคะแนนควำมดี
ทง้ั นเี้ พ่ือเปน็ กำรฝกึ นกั เรียนใหป้ ฏิบัติตำมกฎ กตกิ ำ มำรยำท และเป็นคนดี
มวี นิ ัยในสังคม เปน็ พลเมืองท่ีดขี องประเทศชำตติ ่อไป

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๘๒

แนวทำงปฏบิ ตั ิ
กิจกรรมพฒั นำผูเ้ รียน
ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขัน้ พน้ื ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑

๑. จดุ หมำยหลักสูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขัน้ พื้นฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑
มุ่งพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุขและมีความเป็นไทย มีศักยภาพ

ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ โดยกาหนดมาตรฐานการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้
๙ ประการ คอื

๑. เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยในตนเอง ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนา
ทต่ี นนบั ถือมคี ุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ มอนั พงึ ประสงค์

๒. มีความคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์ ใฝร่ ู้ ใฝ่เรยี น รกั การอา่ น รักการเขียน และรกั การค้นควา้
๓. มีความรู้อันเป็นสากล รู้เท่าทันการเปล่ียนแปลงและความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ มีทักษะ
และศักยภาพในการจัดการ การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยี ปรับวิธีการคิด วิธีการทางานได้เหมาะสมกับ
สถานการณ์
๔. มที ักษะและกระบวนการโดยเฉพาะทางคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะการคิด การสร้างทางปัญญา
และทักษะในการดาเนนิ ชวี ิต
๕. รกั การออกกาลังกาย ดูแลตนเองใหม้ สี ุขภาพและบคุ ลกิ ภาพทีด่ ี
๖. มีประสทิ ธิภาพในการผลิตและการบรโิ ภค มีคา่ นยิ มเปน็ ผ้ผู ลติ มากกว่าเปน็ ผบู้ รโิ ภค
๗. เข้าใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ภูมิใจในความเป็นไทย เป็นพลเมืองดี ยึดม่ันในวิถีชีวิตและการ
ปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั รยิ เ์ ปน็ ประมขุ
๘. มจี ติ สานกึ ในการอนรุ ักษ์ภาษาไทย ศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณี กฬี า ภูมปิ ญั ญาไทย ทรพั ยากรธรรมชาติ
และพฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม
๙. รักประเทศชาติและท้องถิ่น มุ่งทาประโยชนแ์ ละสรา้ งสิ่งที่ดีงามให้สังคม

๒. ควำมหมำยของกจิ กรรมพัฒนำผูเ้ รยี น
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมที่จัดอย่างเป็นระบบ ประกอบด้วยรูปแบบกระบวนการ

วธิ ีการทห่ี ลากหลาย ให้ผู้เรียนไดร้ ับประสบการณจ์ ากการปฏบิ ัตจิ ริง มีความหมายและมคี ุณคา่ ในการพฒั นาผู้เรียน
ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ และสังคม มุ่งสร้างเสริมเจตคติ คุณค่าชีวิต ปลูกฝังคุณธรรม
และค่านิยมที่พึงประสงค์ ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง สร้างจิตสานึกในธรรมชาติและส่ิ งแวดล้อม
ปรบั ตัวและปฏิบตั ิตนใหเ้ ปน็ ประโยชนต์ ่อสังคม ประเทศชาติ และดารงชีวิตได้อยา่ งมคี วามสขุ

๓. จดุ มงุ่ หมำยของกจิ กรรมพฒั นำผูเ้ รียน
กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นมีจุดมงุ่ หมายเพือ่ ใหผ้ ูเ้ รยี นได้รับการพฒั นา ดงั น้ี
๓.๑ พัฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษยใ์ ห้ครบทกุ ดา้ น ทงั้ รา่ งกาย สติปญั ญา อารมณ์ และสงั คม
๓.๒ พัฒนาความสามารถของตนเองตามศักยภาพ โดยมุ่งเน้นเพิ่มเติมจากกิจกรรมที่ได้จัดให้ผู้เรียน

เรยี นรตู้ ามกลมุ่ สาระการเรยี นรูท้ ั้ง ๘ กล่มุ
๓.๓ เข้าร่วมและปฏิบตั ิกิจกรรมที่เลอื กตามความถนัดและความสนใจของตนเอง

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๘๓

โรงเรยี นวินติ ศกึ ษำ ในพระรำชปู ถมั ภ์ฯ
ระเบียบว่ำดว้ ยกำรตดั คะแนนพฤติกรรมนักเรียน

เกณฑก์ ำรตดั คะแนน

ลำดบั พฤตกิ รรมทีต่ ัดคะแนน คะแนนทตี่ ดั

๑ มาโรงเรยี นสาย ๕

๒ พูดจาคาหยาบคาย ๕

๓ แตง่ กายผิดระเบยี บ (รายการละ) ๕

๔ น่ัง หรือ นอน บนโต๊ะ บนพนักพงิ ๕

๕ การใช้รถจักรยานยนต์ทมี่ อี ปุ กรณไ์ มค่ รบ ไมถ่ ูกต้องตามกฏหมาย (รายการละ) ๕

๖ ออกนอกบริเวณช้ันเรยี น และโรงเรยี นโดยไม่รับอนุญาต ๑๐

๗ ท้งิ กระดาษหรอื วสั ดไุ ม่เป็นที่ ๑๐

๘ หลบหนกี ิจกรรมหนา้ เสาธง ๑๐

๙ รับประทานอาหารไม่ตรงตามกาหนดเวลา ๑๐

๑๐ ไมแ่ จ้งมาสาย ๑๐

๑๑ ขาดเรยี นไปโดยไม่ลา หรอื แจง้ ใหก้ ับทางโรงเรียนได้ทราบ ๑๐

๑๒ แตง่ กายไมส่ ภุ าพเรียบรอ้ ยในเคร่อื งแบบนกั เรียน (ภายนอกบริเวณโรงเรียน) ๑๐

๑๓ หลบหนกี ารเรียน ๒๐

๑๔ นาหนังสอื หรือส่อื ลามกอนาจารเขา้ มาภายในบรเิ วณโรงเรียน ๒๐

๑๕ เท่ยี วหรอื เข้าไปในสถานท่ีอนั ไม่สมควร บาร์ เธค ผบั สนุกเกอร์ ตเู้ กมส์ เปน็ ตน้ ๓๐

๑๖ ไมใ่ ห้ความเคารพตอ่ ครู อาจารย์ โดยกิรยิ า ทา่ ทาง หรือคาพูด ๕๐

๑๗ ปลอมแปลงเอกสารของโรงเรยี น หรอื นาโรงเรียนไปอ้างในทางท่ีผิด ๕๐

๑๘ ขีดเขยี นผนัง ฉีดสี ทาลายทรัพยส์ นิ ของทางโรงเรยี น ๕๐

๑๙ ประพฤตติ นไมเ่ หมาะสมฐานชสู้ าว ๕๐

๒๐ ประพฤติตนไมเ่ หมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรยี น ๕๐

๒๑ ด่มื สรุ าในเคร่ืองแบบ หรือเขา้ มาในบรเิ วณโรงเรยี นในสภาพมนึ เมา ๕๐

๒๒ ลักทรพั ยข์ องผู้อน่ื หรือของทางโรงเรยี น ๕๐

๒๓ วิวาท กอ่ เหตวุ วิ าท ทารา้ ยรา่ งกาย หรือถกู เจา้ หน้าจบั กมุ ๕๐

๒๔ ทาลายทรัพยส์ นิ ของทางโรงเรียน หรือของผอู้ นื่ ๕๐

๒๕ พกพาอาวธุ เขา้ มาภายในบรเิ วณโรงเรยี น ๕๐

๒๖ หลบหนกี จิ กรรม หรือนาบุคคลภายนอกเข้าร่วมกิจกรรมท่ที างโรงเรยี นจดั ข้นึ ๕๐

๒๗ ปิดบงั ข้อมลู ซกุ ซ่อนหลกั ฐาน พยาน ในการกระทาผดิ ๕๐

๒๘ ไมแ่ จง้ การการะทาผดิ ใหผ้ ู้ปกครองได้รบั ทราบ ผู้ปกครองไมม่ าตามกาหนดนัด ๕๐

๒๙ เสพ หรอื มไี ว้ครอบครองเพอ่ื การเสพซง่ึ สารเสพตดิ ให้โทษ ๕๐

๓๐ จาหนา่ ย หรือมไี ว้ครอบครองเพื่อการจาหน่ายซง่ึ สารเสพตดิ ให้โทษ ๑๐๐

หมำยเหตุ ความผดิ จากขอ้ ๑๖ ถึงข้อ ๒๙ เปน็ ความผดิ รา้ ยแรง อาจต้องประชมุ พจิ ารณาใหย้ ้ายสถานศึกษา

คมู่ ือนกั เรียนและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๘๔

คำช้แี จงเร่ืองกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรม

ทำอย่ำงไรจึงจะไดเ้ ขำ้ รว่ มกิจกรรม
นักเรยี นจะต้องปฏิบัติตามขน้ั ตอนตอ่ ไปน้ี

๑. ดูประกาศของฝ่ายกิจกรรมจากคู่มือว่ามีกิจกรรมอะไรบ้าง ที่เปิดดาเนินการในแต่ละภาคเรียนตาม
ชน้ั เรียนของตน

๒. ตัดสินใจในการเลอื กกจิ กรรม ตามความถนดั และความสามารถของตน
๓. ขอรบั ใบสมคั รจากอาจารย์ที่ปรกึ ษากจิ กรรม
๔. กรอกใบสมคั รและนาไปใหผ้ ู้ปกครองเซน็ รับรองในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
๕. นาใบสมคั รสง่ ฝ่ายกิจกรรมตามวนั เวลาทกี่ าหนด
๖. ให้ตรวจรายช่อื ในกิจกรรมทสี่ มคั รท่ีฝา่ ยกิจกรรมประกาศใหท้ ราบ
๗. ถ้าไม่พอใจในกิจกรรมที่ได้ ให้ยื่นคาร้องเปลี่ยนกิจกรรมใหม่ได้ภายใน ๒ สัปดาห์แรก (ในกิจกรรม
อื่นทส่ี มาชิกลงไมค่ รบ)

หมำยเหตุ อาจมกี ารเปลย่ี นแปลงข้นั ตอนใหม่เพ่อื ความเหมาะสม

กำรเลือกกจิ กรรมควรปฏบิ ัตอิ ยำ่ งไร
๑. นักเรียนต้องเลือกกจิ กรรมตามท่ตี นเองมีความถนัดและความสามารถดว้ ยความเตม็ ใจในกิจกรรมนั้น
๒. ใหน้ กั เรียนเลอื กกจิ กรรมในแต่ละภาคเรียนในแบบสอบถามเพยี ง ๓ กจิ กรรมตามลาดับความถนดั
๓. ศึกษาเกี่ยวกับกิจกรรมที่เลือกไว้เสียก่อน เพราะบางกิจกรรมอาจจะต้องเสียค่าใช้สอยและค่าวัสดุฝึก

หรือค่าพาหนะในการไปทัศนศกึ ษา ฯลฯ ในกจิ กรรมทตี่ นเลือกไว้
๔. เมื่อพร้อมท่ีจะเข้าร่วมกจิ กรรมทตี่ นเลือกไว้ก็ตดั สนิ ใจเลือกกจิ กรรมน้นั ได้

กำรปฏิบัติตนเม่ือเขำ้ ร่วมกจิ กรรม
๑. นกั เรยี นตอ้ งมเี วลาเขา้ รว่ มกจิ กรรมไม่น้อยกวา่ ๘๐% ของเวลาเรยี นทงั้ หมด
๒. นักเรียนจะต้องผ่านจุดประสงค์ในการเข้าร่วมกิจกรรมตามท่ีอาจารย์ที่ปรึกษาและสมาชิกต้ัง

จดุ ประสงคไ์ ว้
๓. ในขณะท่ีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมแต่ละคนให้นักเรียนปฏิบัติด้วยความตั้งใจให้สาเร็จเรียบร้อยลงไป

ดว้ ยดอี ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
๔. กิจกรรมใดเมื่อมีผลงาน นักเรียนจะต้องปฏิบัติให้เรียบร้อยภายในเวลาที่กาหนด และอาจนาผลงาน

นั้นมาแสดงในการแสดงผลงานกจิ กรรม
๕. ถ้านักเรียนมีเวลาเรียนไม่ครบ ๘๐% และไม่ผ่านจุดประสงค์ท่ีกาหนด นักเรียนจะได้รับผลการ

เรียนเข้าร่วมกิจกรรม “มผ” (นักเรียนจะต้องเขียนคาร้อง ขอสอบซ่อมใหม่กับอาจารย์ท่ีปรึกษาในกิจกรรมน้ัน)
ถา้ นกั เรยี นเข้ารว่ มกิจกรรมโดยตลอด และมผี ลงานครบทกุ จดุ ประสงค์ ก็จะไดร้ ับผลการเข้าร่วมกิจกรรมวา่ “ผ”

๖. ประธานหรือฝา่ ยประสานงานต้องตรวจรายช่อื สมาชิกทกุ ครง้ั และลงช่ือผไู้ มเ่ ขา้ ร่วมกจิ กรรมในแตล่ ะ
ชัว่ โมงลงในแบบฟอรม์ พร้อมลายเซ็นอาจารย์ท่ีปรึกษาในชั่วโมงน้ันๆ ส่งหัวหน้าฝา่ ยกิจกรรมทุกคร้ังหลังหมดเวลา
เรยี นในช่วั โมงน้ัน

คมู่ ือนกั เรยี นและผปู้ กครอง ประจำปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ ๘๕


Click to View FlipBook Version