สมัครเข้ารับการคัดเลือก รางวัล KPPE Awards ปีการศึกษา ๒๕๖5 ของส านักงานศึกษาธิการจังหวัดก าแพงเพชร โรงเรียนบ้านบ้านหนองแม่แตง(ธรรมศาสตร์อาสา) ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาก าแพงเพชร เขต 1 นางสาวกรกนก เตชะชัย ต าแหน่งครู วิทยฐานะช านาญการ
ใบสมัครเข้ารับการคัดเลือก รางวัล KPPE Awards ปีการศึกษา ๒๕๖5 ของส านักงานศึกษาธิการจังหวัดก าแพงเพชร .......................................................... ค าชี้แจง ให้ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกรางวัล KPPE Awards ปีการศึกษา ๒๕๖5 ทุกประเภทกรอกข้อมูลให้ ครบถ้วน ดังนี้ 1.ขนาดของสถานศึกษาที่ปฏิบัติงานของผู้ส่งผลงาน ๑. ขนาดของสถานศึกษาที่ปฏิบัติงานของผู้ส่งผลงาน 1.1 สถานศึกษาระดับประถมศึกษา สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับประถมศึกษาที่มีนักเรียนตั้งแต่ 1-4๐ คน สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับประถมศึกษาที่มีนักเรียนตั้งแต่ 4๑-60 คน สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับประถมศึกษาที่มีนักเรียนตั้งแต่ 61-80 คน สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับประถมศึกษาที่มีนักเรียนตั้งแต่ 81-100 คน สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับประถมศึกษาที่มีนักเรียนตั้งแต่ 101-140 คน สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับประถมศึกษาที่มีนักเรียนตั้งแต่ 141-200 คน สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับประถมศึกษาที่มีนักเรียนตั้งแต่ 201-350 คน สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับประถมศึกษาที่มีนักเรียนตั้งแต่ 351 คนขึ้นไป 1.2 สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับประถมศึกษา ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 (โรงเรียนขยายโอกาส) สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับประถมศึกษา ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีนักเรียนขยายโอกาส ตั้งแต่ 1-40 คน สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับประถมศึกษา ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีนักเรียนขยายโอกาส ตั้งแต่ 41-60 คน สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับประถมศึกษา ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีนักเรียนขยายโอกาส ตั้งแต่ 61-80 คน สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับประถมศึกษา ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีนักเรียนขยายโอกาส ตั้งแต่ 81-100 คน สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับประถมศึกษา ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีนักเรียนขยายโอกาส ตั้งแต่ 101 คน ขึ้นไป ๑.3 สถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับมัธยมศึกษา ที่มีนักเรียนตั้งแต่ 1-500 คน สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับมัธยมศึกษา ที่มีนักเรียนตั้งแต่ 501-1,000คน สถานศึกษาที่เปิดสอนระดับมัธยมศึกษา ที่มีนักเรียนตั้งแต่ ๑,๐๐๑ คน ขึ้นไป 1.4 สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย 1.5 สถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา / ศูนย์ กศน.อ าเภอ 1.6 สถานศึกษาระดับอุดมศึกษา 2.ประเภทที่สมัคร 2.๑ ประเภทผู้บริหารหน่วยงานการศึกษา / ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารหน่วยงานการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา
2.๒ ประเภทครูผู้สอน / ผู้รับผิดชอบในสถานศึกษา ครูผู้สอน ผู้รับผิดชอบงานในสถานศึกษา 2.๓ ประเภทบุคลากรทางการศึกษา (ศึกษานิเทศก์ / ผู้รับผิดชอบในหน่วยงานการศึกษา) ศึกษานิเทศก์ ผู้รับผิดชอบในหน่วยงานการศึกษา 3. สาขาที่สมัคร สาขาการจัดกิจกรรมจิตอาสา 4. ชื่อผลงาน หลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์การเรียนรู้กิจกรรมชุมนุมประดิษฐ์จิตอาสา หน่วยการเรียนรู้การประดิษฐ์ ดอกไม้จันทน์จากกระดาษลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ๕. ผู้เสนอผลงาน ๕.๑ ชื่อ-นามสกุล นางสาวกรกนก เตชะชัย ต าแหน่ง ครูช านาญการ สถานศึกษา โรงเรียนบ้านหนองแม่แตง (ธรรมศาสตร์อาสา) สังกัด ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาก าแพงเพชร เขต 1 ๕.๒ งานที่ได้รับมอบหมาย (ปีปัจจุบัน) 1. ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจ านวน 19 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้ 1.1 รายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรฯ - กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี/รายวิชาคอมพิวเตอร์(เพิ่มเติม) ป.1-6 จ านวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์ - กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี/รายวิชาคอมพิวเตอร์(เพิ่มเติม) ม.1-3 จ านวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ - กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ/รายวิชาการงานอาชีพ ป.1-6 จ านวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์ - กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ/รายวิชาการงานอาชีพ ม.1-2 จ านวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1.2 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน - รายวิชา ลูกเสือ-เนตรนารี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จ านวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ - รายวิชา ชุมนุม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จ านวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 2.งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จ านวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ - การมีส่วนร่วมในชุมชนแห่งการเรียนรู้ จ านวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 3. งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จ านวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์ - ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานงบประมาณ และสารสนเทศ จ านวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ - ปฏิบัติหน้าที่ตามโครงการที่รับผิดชอบ จ านวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ 4. งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จ านวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ - ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ จ านวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ 5. ครูประจ าชั้น นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
๕.๓ ช่องทางการติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์087-8451631 E-mail [email protected] ๖. รายงานผลการด าเนินงาน การเสนอผลงานเพื่อคัดเลือกรับรางวัล KPPE Awards ปีการศึกษา ๒๕๖5 ผู้เสนอผลงานต้องจัดท า รายงานผลการด าเนินงาน เอกสารอ้างอิง ภาพประกอบกิจกรรม จ านวน 2๐-3๐ หน้า (รวมภาคผนวก) โดยระบุ ชื่อเรื่อง กิจกรรม และขอบเขตเนื้อหา สาระส าคัญของการด าเนินงาน ขั้นตอนการด าเนินงาน และผล ที่เกิดจากการด าเนินงาน) โดยเขียนอธิบายตามเกณฑ์ดังนี้ ๑) ความส าคัญของนวัตกรรม (๒๐ คะแนน) ระบุเหตุผล ความจ าเป็น ปัญหาหรือความต้องการ ความส าคัญ แนวคิด หลักการส าคัญ ในการออกแบบนวัตกรรม ด้วยโรงเรียนบ้านหนองแม่แตง(ธรรมศาสตร์อาสา) มีบริบทที่เป็นแหล่งบริการชุมชนในทุกกิจกรรมและ ที่ตั้งอยู่ในชุมชนอย่างแท้จริง ในการจัดท าหลักสูตรจึงต้องเอื้อและให้เกิดประโยชน์แก่ประชากรในชุมชน พร้อมทั้งเล็งเห็นผลที่จะเกิดขึ้นจากการจัดการเรียนนั้นควรจะน าไปใช้ประโยชน์ให้เป็นรูปธรรม อีกทั้งการ จัดการเรียนการสอนในกิจกรรมชุมนุมเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่อิสระตามความสนใจ จึงท าให้ผู้เรียนให้ ความร่วมมือและด้วยลักษณะของกิจกรรมนี้เป็นเนื้อหาที่ผู้เรียนต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้ปกครองในการจัดเตรียม วัสดุในการท ากิจกรรม ครูผู้สอนจึงเล็งเห็นว่าเป็นประโยชน์ในหลายๆด้าน เนื่องด้วยปัจจุบัน วัสดุเหลือใช้ในชีวิตประจ าวันของมนุษย์ มีปริมาณมากจนเกิดเป็นขยะ และ ไม่มี ประโยชน์ การน าวัสดุเหลือใช้มาเพิ่มมูลค่า ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งของการเข้าสู่อาชีพ และเสริมสร้างรายได้ ให้กับครอบครัวลอตเตอรี่หรือสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อซื้อมาแล้ว ถ้าไม่ถูกรางวัล คนส่วนใหญ่ก็น าไปทิ้ง ก็ถือ เป็นขยะเช่นเดียวกัน โดยไม่ค านึงว่าสามารถน าไปท าประโยชน์อย่างอื่นได้ด้วยเหตุนี้ จึงได้คิดหาวิธีการน า สลากกินแบ่งรัฐบาล มาท าให้เกิดประโยชน์ โดยการท าเป็นดอกไม้จันทน์ เพื่อบริจาคแก่วัด มูลนิธีช่วยเหลือศพ ผู้ยากไร้ และเพื่อให้นักเรียนมีจิตอาสา ในการท ากิจกรรมสาธารณประโยชน์ มีเจตคติที่ดีต่อสังคมสร้าง จิตส านึกในการช่วยเหลือผู้อื่น หรือสามารถเป็นช่องทางในการประกอบเป็นอาชีพได้ หากผู้เกิดความชอบและ มีความถนัดในการเรียน จึงนับว่ามีความส าคัญอย่างยิ่ง ที่เป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจและน่าลงทุน เนื่องจากการ ประดิษฐ์ และวิธีการท าสามารถน าวัสดุอื่นมาท าต่อยอด จิตอาสาท าให้ทุกคนในสังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้ เป็นสังคมที่มีการให้และแบ่งปันซึ่งกัน และกัน ค านึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ซึ่งต้องขับเคลื่อนทั้งระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กวัยเรียน เพราะจิต อาสาและจิตสาธารณะเป็นคุณลักษณะอันพึงประสงค์อย่างหนึ่งที่จะต้องปลูกฝังอย่างต่อเนื่อง ดังสุภาษิตที่ว่า “ไม้อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดยาก” กระบวนการในการสร้างเสริมจิตอาสาให้กับคนในชุมชน มีแนวทางที่หลากหลายเพื่อให้คนในชุมชน เกิด ความรู้และความเข้าใจที่สามารถนาออกมาใช้ได้ในลักษณะการมีจิตอาสาต่อตนเอง และต่อผู้อื่นในชุมชน ซึ่งใน การเสริมสร้างให้กับผู้เรียนรู้ก็มีหลากหลายวิธีการที่จะช่วยให้คนในชุมชนได้รับรู้และเรียนรู้ได้อย่างถูก ธรรม นองคลองธรรม เพื่อไปสู่การมีพฤติกรรมในการช่วยเหลือและเป็นประโยชน์ต่อคนในชุมชนต่อไป ครูผู้สอนจึง เล็งเห็นว่าควรจัดกิจกรรมจิตอาสาในกิจกรรมการเรียนการสอน ตามหลักสูตรกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน แนวทางการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาจิตอาสา การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาจิตอาสาสามารถท าได้ทุกช่วงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยเด็กที่เป็นวัยแห่ง การเรียนรู้ ผู้สอน เป็นหัวใจส าคัญในการปลูกฝังคุณลักษณะจิตอาสาที่สามารถพัฒนาพร้อมกัน ส าหรับ แนวทางการจัดการเรียนรู้จ าเป็นต้องนาองค์ความรู้เชิงทฤษฎีมาปรับประยุกต์ให้มีความเหมาะสมกับผู้เรียนใน
ปัจจุบัน เริ่มจากตัวผู้สอนเองที่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีและค่อยๆ ขยายไปสู่การพัฒนาผู้เรียน และโดยเฉพาะ อย่างยิ่งต้องพัฒนาไปให้ถึงระบบคิดของผู้เรียนมากกว่าการให้ท ากิจกรรมโดยปราศจากความคิด อย่างไรก็ตาม ต้องถือเป็นหลักการว่าการพัฒนาจิตอาสาสามารถสอดแทรกได้ในทุกกิจกรรมการเรียนรู้ เช่น การช่วยเหลือ เพื่อนที่ท าการบ้านไม่ได้ก็เป็นจิตอาสาชนิดหนึ่ง การน าดอกไม้จันทน์ที่ท าขึ้นไปร่วมกิจกรรมต่างๆ การท า เหรียญโปรยพานงานต่างๆ หรือการประหยัดน้ า ไฟฟ้า การจัดท าโครงการจิตอาสาที่ออกไปนอกโรงเรียนเป็น รูปแบบหนึ่งของการพัฒนาเท่านั้น แต่การพัฒนาที่ยั่งยืนจะต้องเชื่อมโยงเข้ากับวิถีชีวิตของผู้เรียนในแต่ละ ชุมชนท้องถิ่น แนวทางการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาจิตอาสามีดังนี้ 1. การเป็นตัวแบบที่ทางด้านจิตอาสาอย่างสม่ าเสมอ ตามทฤษฎีเซลล์กระจกเงา (mirror neuron theory) เมื่อผู้สอนแสดงพฤติกรรมใดๆ ออกมาอย่างสม่ าเสมอ แม้ไม่ต้องสอนโดยวาจา แต่เป็นการสอนโดย การกระท า ผู้เรียนจะมีแนวโน้มแสดงพฤติกรรมนั้นด้วย การพัฒนาลักษณะนี้ เป็นการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยกระบวนการซึมซับ การสังเกต การเลียนแบบพฤติกรรม แต่ควรใช้ควบคู่กับการสะท้อนผลตนเอง (reflection) ในข้อ 5 ด้วย 2. การจัดการเรียนรู้ต้องผ่านกระบวนการการปฏิบัติ (action learning) โดยการให้ผู้เรียนลงมือ ปฏิบัติกิจกรรมจิตอาสาตามความเหมาะสมด้วยตนเอง โดยไม่จ าเป็นต้องจัดทาเป็นโครงการเฉพาะกิจขึ้น แต่ ควรบูรณาการไปในทุกกิจกรรมการเรียนรู้ และที่ส าคัญจะต้องมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลการปฏิบัติต่อเพื่อน และผู้สอน 3. การสร้างบรรยากาศที่กระตุ้นการเรียนรู้จิตอาสา โดยท าให้ผู้เรียนเกิดความรู้สึกร่วม (Empathy) ความเห็นอกเห็นใจ เอาใจผู้อื่นมาใส่ใจตนเอง เพื่อรับรู้ความรู้สึก และตอบสนองโดยการแสดงพฤติกรรมจิต อาสาอย่างถูกต้องเหมาะสม ทั้งภาษาพูดและภาษากาย 4. มุ่งเน้นการการเรียนรู้เพื่อปรับเปลี่ยนความคิดและมุมมอง (Transformation of learning) ของ ผู้เรียน ท าให้เห็นว่าผู้เรียนแต่ละคนมีศักยภาพที่จะช่วยเหลือผู้อื่นและสังคมส่วนรวมได้ ไม่ส าคัญว่าจะเรียนเก่ง สอบได้คะแนนดีหรือไม่ การปรับเปลี่ยนความคิดและมุมมองดังกล่าวจะท าให้ผู้เรียน เกิดการพัฒนาจิตอาสา อย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง 5. การจัดการเรียนรู้ต้องเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสะท้อนตนเอง (self - reflection) มุ่งให้เห็นความคิด และความรู้สึกของตนเองเมื่อได้ช่วยเหลือผู้อื่น หรือท าประโยชน์ต่อส่วนรวม รวมทั้งการก าหนดแนวทาง ส าหรับพัฒนาตนเองให้เป็นคนที่มีจิตอาสาต่อไป 6. ผู้สอนต้องสร้างความเข้าใจให้ชัดเจนว่าการมีจิตอาสานั้นจะต้องไม่เป็นการเบียดเบียนตนเอง หรือบุคคลรอบข้าง มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา สิ่งใดที่เกินก าลังที่เราจะทาได้คนเดียวต้องรู้จักสร้างแนว ร่วมหรือเครือข่ายมาช่วยให้ส าเร็จ แนวทางการสร้างจิตอาสา การสร้างจิตอาสา เป็นความรับผิดชอบในตนเอง แม้ว่าจะได้รับการอบรมสั่งสอนถ้าใจตนเอง ไม่ ยอมรับ จิตอาสาก็ไม่เกิด ฉะนั้นค าว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" จึงมีความส าคัญส่วนหนึ่งในการสร้างจิตอาสา ถ้า ตนเองไม่เห็นความส าคัญแล้วคงไม่มีใครบังคับได้ นอกจากใจของตนเองแล้ว แนวทางที่ส าคัญในการจิตอาสา ยังมีอีกหลายประการ ถ้าปฏิบัติได้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ดังนี้ 1. สร้างวินัยในตนเอง ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในระบบประชาธิปไตย รู้ถึงขอบเขตของสิทธิ เสรีภาพ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ต่อตนเองและสังคม
2. ให้ความส าคัญต่อสิ่งแวดล้อม ตระหนักเสมอว่าตนเอง คือส่วนหนึ่งของสังคมต้องมีความ รับผิดชอบ ในการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเรื่องของส่วนรวม ทั้งต่อประเทศชาติ และโลกใบนี้ 3. ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสังคม ให้ถือว่าเป็นปัญหาของตนเอง เช่นกันอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องช่วยกันแก้ไข 4. ยึดหลักธรรมในการด าเนินชีวิต เพราะหลักธรรมหรือค าสั่งสอนในทุกศาสนาที่นับถือ สอนให้คน ท า ความดีทั้งสิ้น ถ้าปฏิบัติได้จะท าให้ตนเองมีความสุข นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมด้วย ท าให้ เราสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ด้วยกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งให้ ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพพัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายสติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัยปลูกฝังและสร้างจิตส านึกของการท า ประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมุ่ง พัฒนาผู้เรียนให้ใช้องค์ความรู้ ทักษะและเจตคติจากการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และประสบการณ์ของ ผู้เรียนมาปฏิบัติกิจกรรมเพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะส าคัญ ได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถ ในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการท างาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ เกิดทักษะการ ท างาน และอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุขในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช2551 ประกอบด้วย กิจกรรม 3 ลักษณะ ดังนี้ 1.กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถ คิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา ก าหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียนและอาชีพ สามารถปรับตน ได้อย่าง เหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือ และให้ค าปรึกษาแก่ ผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้เรียน 2. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้น า ผู้ตามที่ดี ความ รับผิดชอบการท างานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปัน เอื้ออาทรและสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียน ให้ได้ ปฏิบัติด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมิน และปรับปรุงการ ท างานเน้นการท างานร่วมกันเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียนและบริบทของ สถานศึกษาและท้องถิ่น กิจกรรมนักเรียนประกอบด้วย 2.1 กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี 2.2 กิจกรรมชุมนุม 3. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบ าเพ็ญตนให้เป็น ประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และท้องถิ่นตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความ ดีงาม ความเสียสละต่อสังคม และการมีจิตสาธารณะ เช่น กิจกรรมอาสาพัฒนาต่างๆ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ทั้ง 3 ลักษณะ คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์เมื่อผู้เรียนได้
ปฏิบัติกิจกรรมแล้วน าไปสู่เป้าหมายเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะส าคัญและคุณลักษณะอันพึ่งประสงค์ของผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน หลักการ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมีหลักการส าคัญ ดังนี้ 1. มีการก าหนดเป้าหมายของการจัดกิจกรรมที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม และครอบคลุมผู้เรียนทุกคน 2. เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองอย่างรอบด้านเต็มตามศักยภาพ ตามความสนใจ ความถนัด ความต้องการ และเหมาะสมกับวัยและวุฒิภาวะ 3.เป็นกิจกรรมที่ปลูกฝังและส่งเสริมจิตสานึกในการบ าเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมในลักษณะต่างๆ ที่ สอดคล้องกับวิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่องและสม่ าเสมอ 4. เป็นกิจกรรมที่ยึดหลักการมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้น าชุมชน ปราชญ์ ชาวบ้าน องค์กร และหน่วยงานอื่น มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม เป้าหมาย การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมุ่งพัฒนาให้ ผู้เรียนเกิดสมรรถนะส าคัญ 5 ประการ ได้แก่ ความสามารถ ในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์8 ประการ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทางาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ แนวการจัดกิจกรรม แนวการจัดกิจกรรม สถานศึกษาจัดให้ผู้เรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรม โดยมีแนวการจัดกิจกรรม ดังนี้ 1. ให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสมัครใจ 2.ให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมผ่านประสบการณ์ที่หลากหลาย ฝึกการทางานที่สอดคล้องกับชีวิตจริง ตลอดจนสะท้อนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ของผู้เรียน 3. จัดกิจกรมอย่างสมดุลทั้ง 3 กิจกรรม คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพื่อสังคม และสาธารณประโยชน์ มีความสมดุลในการจัดกิจกรรมรายบุคคลและกิจกรรมกลุ่ม รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมใน และนอกสถานศึกษา 4. จัดกิจกรรมโดยให้ผู้เรียนเป็นผู้ดาเนินการ โดยมีการส ารวจ และใช้ข้อมูลประกอบ การวางแผนอย่าง เป็นระบบ เน้นการคิดวิเคราะห์และใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการดาเนินกิจกรรม 5. ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมและการเรียนรู้แบบร่วมมือมากกว่าเน้นการแข่งขันบนพื้นฐาน การปฏิบัติ ตามวิถีประชาธิปไตย ขอบข่ายการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จัดกิจกรรมให้ครบทั้ง 3 ลักษณะ คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียนและกิจกรรมเพื่อสังคมและ สาธารณประโยชน์ โดยมีขอบข่าย ดังนี้ 1.จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ให้กว้างขวางลึกซึ้งยิ่งขึ้นในลักษณะเป็น กระบวนการเชิงบูรณาการโดยยึดหลักคุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนสามารถบูรณาการระหว่างกิจกรรมแนะแนว
กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 2.จัดกิจกรรมที่ตอบสนองความสนใจ ความถนัด และความต้องการของผู้เรียนตามความแตกต่าง ระหว่างบุคคล เน้นการให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของวิชาความรู้ อาชีพ และการด าเนินชีวิตที่ดีงาม ตลอดจนเห็น แนวทางในการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ 3.จัดกิจกรรมที่ปลูกฝังและส่งเสริมจิตส านึกการท าประโยชน์ต่อสังคมในลักษณะต่างๆสนับสนุนค่านิยม ที่ดีงามและเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 4.จัดกิจกรรมที่ฝึกการท างานและการให้บริการด้านต่าง ๆ ทั้งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและต่อส่วนรวม เพื่อเสริมสร้างความมีน้ าใจ ความเอื้ออาทร ความเป็นพลเมืองดี และสังคม ตามนโยบายยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาและเสริมสร้างนักเรียนให้เป็นคนดีของครอบครัวและ สังคม ในจุดเน้นการส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรบูรการ “การศึกษาปลอดภัยและมีคุณภาพ” และการจัดการ เรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ (Student- Centred Approach ) ด้วยบริบทของโรงเรียนบ้านหนองแม่แตง (ธรรมศาสตร์อาสา) มีโครงการสัมพันธ์ชุมชน ที่รองรับ และสนับสนุนกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผู้เรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 มีบริบทที่ครอบครัวท าอาชีพ รับจ้างทั่วไปเป็นส่วนใหญ่ครูจึงสอนเนื้อหาที่เอื้อให้นักเรียนมีความชอบท างานที่มีพิ้นฐานใกล้เคียงกับอาชีพ ผู้ปกครอง และเน้นให้เกิดกิจกรรมจิตอาสาต่อยอดเพื่อให้เกิดความยั่งยื่นและความรักในงาน แต่เมื่อนักเรียน ลงมือปฏิบัตินักเรียนยังขาดความรู้ ความเข้าใจ และรักในงาน จึงท าให้เกิดความสิ้นเปลือง ในการน ามาจัด กิจกรรม จากการศึกษาในพฤติกรรม การสังเกตอย่างใกล้ชิด นักเรียนส่วนใหญ่มีความสามารถเรียนรู้ ใน กิจกรรมที่เป็นการปฏิบัติและสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองซ้ าๆ เป็นแบบที่ผู้เรียนจะเป็นอิสระจากการเรียนใน ห้องเรียนปกติ ผู้เรียนสามารถเลือกใช้สื่อที่จัดสรรไว้ในห้องการเรียนรู้ แล้วเลือกท างานหรือฝึกปฏิบัติตาม ความต้องการ ความสนใจของตน ผู้เรียนอาจจะเรียนคนเดียว หรือเรียนเป็นคู่กับเพื่อนก็ได้ ทั้งนี้ต้องตั้งอยู่ ภายใต้เงื่อนไขหรือสัญญาการเรียนระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน (Learner Independence) อีกทั้งปัญหาด้าน เนื้อหากิจกรรมชุมนุมมีจ านวนนักเรียนคละชั้นและเปิดตามความสนใจของผู้เรียน และมีเนื้อหาขั้นหลาย ขั้นตอนจึงยากแก่การเข้าใจ จึงจ าเป็นจะต้องน าเทคนิคการสอนและสื่อมาช่วยปัญหาเรื่องอุปกรณ์การสอน ครูผู้สอนจึงได้จัดท า หลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์การเรียนรู้กิจกรรมชุมนุมประดิษฐ์จิตอาสา หน่วยการ เรียนรู้การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากกระดาษลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ขึ้นเพื่อใช้ในการ จัดการเรียนการสอนกิจกรรมชุมนุม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในการออกแบบนวัตกรรมครูผู้สอนได้ยึดหลักการ และสิ่งที่ค านึงถึงเมื่อน านวัตกรรมและเทคโนโลยีมา ใช้ในการศึกษาการน านวัตกรรม และเทคโนโลยีมาใช้ในการศึกษาและใช้ในการเรียนการสอน ต้องค านึงถึง ความส าคัญ 3 ประการ 1. ประสิทธิภาพ(Efficiency)ในการเรียนการสอนต้องให้ผู้เรียนผู้สอนได้เรียนและได้สอนเต็ม ความสามารถเต็มหลักสูตรเต็มเวลาด้วยความพึงพอใจ เกิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์เต็มความสามารถ (Full Energy) และเกิดความพอใจ (Satisfaction) เป็นที่ได้ใช้สื่อนั้น 2.ประสิทธิผล(Productivity)ในการจัดการเรียนการสอนให้บรรลุจุดประสงค์ตามที่ ก าหนด จุดประสงค์ไว้ซึ่งนักเรียนเกิดการเรียนรู้บรรลุจุดประสงค์ได้ดีกว่า สูงกว่าไม่ใช้สื่อนั้น 3. ประหยัด (Economy) ในการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดการเรียนการสอน ต้องค านึงถึงสภาพความเหมาะสมตามฐานะแล้ว จะต้องประหยัด นั่นคือ ประหยัดทั้งเงินประหยัดเวลา และ ประหยัดแรงงาน
ธอร์นไดค์ นักการศึกษาและจิตวิทยาชาวเยอรมัน ผู้ให้ก าเนินทฤษฎีแห่งการเรียนรู้ ได้เสนอหลักการ ภารกิจ ของการสอนของครูไว้ 2 ประการ และเสนอหลักการเบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการศึกษาไว้5 ประการ ภารกิจการสอนของครู ควรจะด าเนินไปตามแนวของกฎ 2 ประการ 1. ควรจัดเรื่องหรือสิ่งที่จะสอนต่าง ๆ ที่ควรจะไปด้วยกัน ให้ได้ด าเนินไปด้วยกัน 2. ควรให้รางวัลการสัมพันธ์เชื่อมโยงที่เหมาะสม และไม่ควรให้ความสะดวกใด ๆ ถ้าไม่สามารถสร้าง ความสัมพันธ์เชื่อมโยงที่เหมาะสมขึ้นมาได้ นอกจากนั้น ธอร์นไดค์ ยังได้ก าหนดหลักการเบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการศึกษาและการสอนของเขาไว้ 5 ประการคือ 1. การกระท ากิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง (Self – Activity) 2. การท าให้เกิดความสนใจด้วยการจูงใจ (Interest Motivation) 3. การเตรียมสภาพที่เหมาะสมทางจิตภาพ (Preparation and Mentalset) 4. ค านึงถึงเรื่องเอกัตบุคคล (Individualization) 5. ค านึงถึงเรื่องการถ่ายทอดทางสังคม (Socialization) บรุนเนอร์นักจิตวิทยาชาวอเมริกันผู้มีความสนใจในพัฒนาการของมนุษย์เกี่ยวกับความสามารถในการใช้ วัฒนธรรมของตนเองเป็นเครื่องมือในการขยายความสามารถเพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าอย่างไม่มีความ หยุดยั้งท่านผู้ นี้เป็นผู้เสนอวิธีการเรียนรู้ด้วยการค้นพบด้วยตนเอง (DiscoveryLearning) เทคนิคส าคัญในการ จัดการศึกษาและการเรียนการสอนของบรุนเนอร์ ที่ถือว่าเป็นหลักการพื้นฐานของเทคโนโลยีทางการศึกษา และการสอน พอสรุปได้ 4 ประการ 1.ในการจัดการศึกษาและการเรียนการสอนนักการศึกษาและครูผู้สอนทั้งหลายจะต้อง ยอมรับว่า การจูงใจผู้เรียนหรือการสร้างความพอใจแก่ผู้เรียนให้เกิดความ รู้สึกอยากเรียนในสถานการณ์นั้น ๆ เป็นสิ่ง ส าคัญ 2. จะต้องมีการจัดโครงสร้างของเนื้อหาวิชาให้เป็นล าดับขั้นตอน มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกันในอันที่ จะท าให้ผู้เรียนเกิดมโนคติได้ดีที่สุด 3. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนควรให้สอดคล้องกับหลักพัฒนาการทางสติปัญหา เช่นควรจะ ได้รับการสอนในสิ่งที่เป็นรูปธรรมแล้วจึงค่อยขยายมโนคตินั้นให้ เกี่ยวกับนามธรรมมากขึ้น 4. การเสริมแรงในระหว่างการสอนเป็นสิ่งจ าเป็น เพราะว่าการเสริมแรงนั้นจะมีผลต่อการ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและการเรียนรู้ของนักเรียนผู้เรียนมาก เพื่อท าให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ เกิดทักษะในเนื้อหาของกิจกรรมได้ง่ายขึ้น และรู้จักความ กิจกรรมจิตอาสา จึงจ าเป็นต้องมีการพัฒนา หลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์การเรียนรู้กิจกรรมชุมนุมประดิษฐ์จิต อาสา หน่วยการเรียนรู้การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากกระดาษลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 เพื่อ น ามาใช้ในการเรียนการสอน อีกทั้งโรงเรียนบ้านหนองแม่แตง (ธรรมศาสตร์อาสา) มีพื้นที่สามารถสร้างเป็น แหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อบริบทของชุมชน ซึ่งโรงเรียนได้มีสถานที่ติดกับวัด และได้น านักเรียนไปจัดท ากิจกรรม ต่างๆกับชุมชนมานาน เช่น การจัดสถานที่งานบุญวันส าคัญ งานศพ งานบวช เป็นต้น ครูเล็งเห็นว่า วิธีการ สอนแบบออนไลน์มีสื่อที่เอื้อต่อการเรียนในทุกสถานที่ ท าให้เกิดชิ้นงาน จะมีชิ้นงานเพียงพอและมากพอ ที่จะ น ามาบริจาคให้กิจกรรมงานศพในชุมชน จะให้นักเรียนมีส่วนร่วมเกิดความภูมิใจ สุดท้ายจะเกิดเป็นกิจกรรม จิตอาสาขึ้นอย่างยั่งยืน และจะท าให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของทรัพยากรต่าง ๆ ฝึกการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่าง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และแบ่งปัน มีจิตส านึกรักษาสิ่งแวดล้อมและเห็นคุณค่าของวัฒนธรรม ค่านิยม เอกลักษณ์ ความเป็นไทยตามหลักการกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานและโรงเรียน
๒) วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการด าเนินงาน (๑๐ คะแนน) ระบุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการด าเนินการพัฒนานวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่ประสบผลส าเร็จ หลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์การเรียนรู้กิจกรรมชุมนุมประดิษฐ์จิตอาสา หน่วยการเรียนรู้การประดิษฐ์ ดอกไม้จันทน์จากกระดาษลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 นี้จัดท าขึ้นเพื่อใช้ 1. เพื่อให้ผู้เรียนได้มีความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมจิตอาสา มีทักษะจิตอาสา 2. เพื่อให้ผู้เรียน เรียนรู้การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากลอตเตอรี่ได้ 3. เพื่อให้ผู้เรียนน าความรู้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการด ารงชีวิตประจ าวัน 4. สามารถน าชิ้นงานจากกิจกรรมไปบริจาคช่วยเหลือชุมชน และประกอบเป็นอาชีพได้ โดยมีเปรียบเทียบการผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากกระดาษ ลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียน และศึกษาความ พึงพอใจในการจัดการเรียนรู้ โดยใช้หลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์การเรียนรู้กิจกรรมชุมนุมประดิษฐ์จิตอาสา หน่วยการเรียนรู้การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากกระดาษลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ที่เกิดขึ้น ๓) ขั้นตอนการด าเนินงาน (๒๕ คะแนน) ระบุขั้นตอนการด าเนินงาน/กระบวนการ/วิธีการจัดท า และการน านวัตกรรม/วิธีปฏิบัติ ที่ประสบผลส าเร็จ ไปใช้ 3.1 ส ารวจความต้องการและความพึงพอใจของบุคคลและสถานที่ที่จะน านักเรียนเข้าท ากิจกรรม จิตอาสา ๓.2 ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสาร ต าราและงานวิจัย 3.3 วิเคราะห์โครงสร้างของสาระการเรียนรู้กิจกรรมชุมนุม หน่วยการเรียนรู้การประดิษฐ์ ดอกไม้จันทน์จากกระดาษลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ๓.4 ศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนากิจกรรมจิตอาสา ๓.5 สร้างหลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์การเรียนรู้กิจกรรมชุมนุมประดิษฐ์จิตอาสา หน่วยการเรียนรู้ การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากกระดาษลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ๓.6 ตรวจสอบคุณภาพและรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้หลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์การเรียนรู้ กิจกรรมชุมนุมประดิษฐ์จิตอาสา หน่วยการเรียนรู้การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากกระดาษลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4-6 ๓.7 น ารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้หลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์การเรียนรู้กิจกรรมชุมนุม ประดิษฐ์จิตอาสา หน่วยการเรียนรู้การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากกระดาษลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4-6 พัฒนาขึ้นไปทดลองใช้ ๓.8 ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้หลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์การเรียนรู้ กิจกรรมชุมนุมประดิษฐ์จิตอาสา หน่วยการเรียนรู้การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากกระดาษลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4-6 และตรวจให้คะแนนความพึงพอใจ แล้วน าคะแนนที่ได้ วิเคราะห์ต่อไป ๔) ผลส าเร็จของการด าเนินงาน (๒๐ คะแนน) ระบุผลส าเร็จของการด าเนินงานที่เกิดจากการน านวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่ประสบผลส าเร็จ ไปใช้ ให้เกิดประสิทธิภาพในการท างาน ๔.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกิจกรรมชุมนุมประดิษฐ์จิตอาสา หน่วยการเรียนรู้การประดิษฐ์
ดอกไม้จันทน์จากกระดาษลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนหลังเรียนสูง กว่าก่อนเรียน ๔.๒ นักเรียนมีความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้ โดยใช้หลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์การเรียนรู้ กิจกรรมชุมนุมประดิษฐ์จิตอาสา หน่วยการเรียนรู้การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากกระดาษลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในระดับมากที่สุด ๔.3 บุคคลและสถานที่ที่จะน านักเรียนเข้าท ากิจกรรมจิตอาสา มีความพึงพอใจในการจัดการ เรียนรู้ โดยใช้หลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์การเรียนรู้กิจกรรมชุมนุมประดิษฐ์จิตอาสา หน่วยการเรียนรู้การ ประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากกระดาษลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในระดับมากที่สุด ๕) แนวทางการน านวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่ประสบผลส าเร็จไปใช้ และแนวทางการพัฒนาต่อยอด (๒๐ คะแนน) ระบุแนวทางการน านวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่ประสบผลส าเร็จไปใช้ และแนวทางการพัฒนาต่อยอด รวมทั้งแนวทางการพัฒนาเพิ่มเติมให้ประสบความส าเร็จมากยิ่งขึ้น น าหลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์การเรียนรู้กิจกรรมชุมนุมประดิษฐ์จิตอาสา หน่วยการเรียนรู้การ ประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากกระดาษลอตเตอรี่รัฐบาล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ไปประยุกต์ใช้กับสาระการ เรียนรู้ที่เกี่ยวข้องเช่น เพื่อใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาการงานอาชีพ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ ศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ออนไลน์สามารถปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเอง และน าชิ้นงานที่เกิดจาก กิจกรรมชุมนุมเข้าบริจาคเพิ่มในสถานที่ต่างๆตามความต้องการของผู้ต้องการรับ ส่งเสริมปลูกฝังนิสัยรักการ ท างานอย่างมีความสุข และมีจิตอาสาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยื่น ๖) การเผยแพร่นวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่ประสบผลส าเร็จ (๕ คะแนน) ระบุข้อมูลที่ท าให้เห็นร่องรอยหลักฐานการเผยแพร่นวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่ประสบผลส าเร็จ และการยกย่องชมเชย ๖.๑ น าเสนอผู้บริหาร ในรูปแบบของการรายงานการปฏิบัติงาน ๖.๒ เผยแพร่ให้กับคณะครูผู้สอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ๖.๓ เผยแพร่ให้กับคณะครูในกลุ่มสาระอื่นที่มีความสนใจ ๖.๔ เผยแพร่ความรู้ให้กับโรงเรียนและผู้ปกครองในชุมชน
ขอรับรองว่าผลงานดังกล่าวข้างต้นเป็นผลงานของ นางสาวกรกนก เตชะชัย ต าแหน่ง ครูช านาญการ สถานศึกษา โรงเรียนบ้านหนองแม่แตง (ธรรมศาสตร์อาสา) จริง ลงชื่อ…………………………………………….…….. (นางสาวกรกนก เตชะชัย) ครูช านาญการ (ลงชื่อ).................................................................ผู้รับรองข้อมูล (นางเนตรนภา พวงไธสง) ผู้อ านวยการโรงเรียนบ้านหนองแม่แตง (ธรรมศาสตร์อาสา) (วันที่)........26..../.........01........./......2566.. หมายเหตุเอกสารที่จะต้องน าส่ง ต้องจัดท าเป็นรูปเล่มในเล่มเดียวกันจ านวน ๒0-๓0 หน้ากระดาษ A ๔ จ านวน ๒ เล่ม
ภาคผนวก - กพ 7 - ค าสั่ง - แบบตอบรับเผย - บันทึกรายงาน - โครงการฯ - แผนฯ - ภาพ
โครงสร้าง กิจกรรมชุมนุมประดิษฐ์จิตอาสา สัปดาห์ที่ งาน / กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ หมายเหตุ 1 จัดตั้งกิจกรรมชุมนุม ครูประจ าชุมนุม 2 การปฐมนิเทศและวางแผนการด าเนินกิจกรรม ชุมนุม ครูประจ าชุมนุม นักเรียน 3 เปิดใจรู้จักจิตอาสา ด้วยเริ่มที่เรา-ครูอาสาต่อ ครูประจ าชุมนุม นักเรียน 4 ช่องทางการประกอบ อาชีพการประดิษฐ์ ดอกไม้จันทน์จากลอตเตอรี่ นักเรียน 5 ทักษะการประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากลอตเตอรี่ - ขั้นเตรียมวัสดุอุปกรณ์ - การใช้วัสดุอุปกรณ์ นักเรียน 6-25 ขั้นตอนการประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากลอตเตอรี่ - แบบพัด - ผีเสื้อ นักเรียน -จิตอาสาน ากระดาษ ลอตเตอรี่มาบริจาค ตามก าลัง -ท าชิ้นงานส่งทุก สัปดาห์ 26-38 ขั้นตอนการประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากลอตเตอรี่ - ดอกลีลาวดี - การประกอบเป็นช่อ นักเรียน -จิตอาสาน ากระดาษ ลอตเตอรี่มาบริจาค ตามก าลัง -ท าชิ้นงานส่งทุก สัปดาห์ 39 ขั้นตอนการเก็บรักษา ดอกไม้จันทน์จากลอตเตอรี่ นักเรียน 40 กิจกรรมร่วมจิตอาสาด้วยตัวหนู ครูประจ าชุมนุม นักเรียน หมายเหตุ – กิจกรรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์และความเหมาะสมของกิจกรรม
8. วิธีด าเนินงานกิจกรรมโครงการ (ที่ปฏิบัติจริง) 8.1 การวางแผน 8.2 วิธีการติดตามประเมินผลการปฏิบัติงาน ตัวชี้วัดความส าเร็จ วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผล 1.กิจกรรมวันเข้าพรรษา การปฏิบัติงาน แบบประเมินความพึงพอใจ 2.กิจกรรมวันแม่ การปฏิบัติงาน แบบประเมินความพึงพอใจ 3.กิจกรรมวันคริสมาสต์/ปีใหม่ การปฏิบัติงาน แบบประเมินความพึงพอใจ 4.กิจกรรมวันเด็ก การปฏิบัติงาน แบบประเมินความพึงพอใจ 5.กิจกรรมจิตอาสา การปฏิบัติงาน แบบประเมินความพึงพอใจ 8.3 สรุปผลการด าเนินงานตามวัตถุประสงค์ ที่ วัตถุประสงค์แผนงาน /โครงการ /กิจกรรม สภาพ ความส าเร็จ ผลการ ด าเนิน บรรลุ งาน ไม่ บรรลุ 1 เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสถานศึกษา นักเรียน บุคลากร ผู้ปกครองและชุมชนทั้งภาครัฐและเอกชน ร้อยละ 100 2 เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียนและชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ร้อยละ 100 3 เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียนและชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา นักเรียนร่วมกัน ร้อยละ 100 4 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียน บุคลากร ผู้ปกครอง ชุมชนและหน่วยงานต่างๆเข้ามามีส่วนร่วมโครงการและ กิจกรรมต่างๆ ที่โรงเรียนได้จัดขึ้น ร้อยละ 100 รายการ สภาพความส าเร็จ ผลการด าเนินงาน บรรลุ ไม่ บรรลุ 1. ประชุมชี้แจงคณะครูภายในโรงเรียน ร้อยละ 100 2. จัดท าโครงการและกิจกรรม ร้อยละ 100 3. แต่งตั้งผู้รับผิดชอบโครงการและกิจกรรม ร้อยละ 100
8.4 สรุปผลการด าเนินงานตามเป้าหมาย ที่ วัตถุประสงค์แผนงาน /โครงการ /กิจกรรม สภาพความส าเร็จ ผลการด าเนิน บรรลุ ไม่บรรลุ งาน เชิงปริมาณ สถานศึกษา นักเรียน บุคลากร ผู้ปกครองและ ชุมชนทั้งภาครัฐและเอกชน มีความสัมพันธ์อันดี ต่อกัน ร้อยละ 100 โรงเรียนและชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ร้อยละ 100 โรงเรียนและชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา นักเรียนร่วมกัน ร้อยละ 100 นักเรียน บุคลากร ผู้ปกครอง ชุมชนและ หน่วยงานต่างๆเข้ามามีส่วนร่วมโครงการและ กิจกรรมต่างๆ ที่โรงเรียนได้จัดขึ้น ร้อยละ 100 เชิงคุณภาพ ผู้ปกครองและชุมชนมีความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อ โรงเรียนให้ความไว้วางใจร่วมทั้งให้ความร่วมมือ ส่งเสริมและสนับสนุนในการจัดกิจกรรมของ โรงเรียนเป็นอย่างดี ร้อยละ 100 ตัวชี้วัดความ ส าเร็จ สถานศึกษา นักเรียน บุคลากร ผู้ปกครองและ ชุมชนทั้งภาครัฐและเอกชน มีความสัมพันธ์อันดี ต่อกันซึ่งเกิดจากกิจกรรมจิตอาสา ร้อยละ 100 โรงเรียนและชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ร้อยละ 100 โรงเรียนและชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา นักเรียนร่วมกัน ร้อยละ 100 นักเรียน บุคลากร ผู้ปกครอง ชุมชนและ หน่วยงานต่างๆเข้ามามีส่วนร่วมโครงการและ กิจกรรมต่างๆ ที่โรงเรียนได้จัดขึ้น ร้อยละ 100
ฝึกจิตอาสา พฤติกรรมใกล้ตัว เก็บ เห็นคุณค่า วัสดุเหลือใช้ในห้องเรียน เพื่อส่งต่อตัวแทนในชุมชน การเรียนการสอนในห้องเรียน
เพื่อน พี่ จิตอาสา สอน เรียนรู้เป็นกลุ่ม
เรียนรู้ได้ทุกโอกาส เพราะหลักสูตรเราสอนมา กิจกรรมลดเวลาเรียนฯ
ผลงานของนักเรียนจิตอาสา
ครูน าชิ้นงานมอบส่งสถานที่ต่างๆตามเป้าหมายของกิจกรรมจิตอาสา
การเผยแพร่