The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nawa4291, 2022-08-15 06:55:43

เอทานอล

เอทานอล

เอทานอล

วิทยาลัยชุมชนสตูล

เอทานอล (ethanol)

เอทานอล หรือ เอทิลแอลกอฮอล์ คือ แอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งที่มีสูตรเคมี
C2H5OH มีลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีสี ติดไฟง่าย มีความไวไฟและค่าออก
เทนสูง (เอทานอลบริสุทธิ์ร้อยละ 99.8 มีค่าออกเทนสูงถึ ง 113) ประกอบด้วย
คาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน เป็นไฮดรอกซิลดิริเวทีฟของไฮโดรคาร์บอน
เกิดจากการแทนที่ไฮโดรเจนอะตอมด้วย hydroxyl group (OH) มีน้ำหนัก
โมเลกุล 46.07 ความหนาแน่น 0.789 กรัมต่อมิลลิลิตร ที่อุณหภูมิ 20 องศา
เซลเซียส จุดหลอมเหลว -114.1 องศาเซลเซียส จุดเดือด 78.5 องศาเซลเซียส
สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมายอาทิใช้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม
แอลกอฮอล์ ใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรม ใช้เป็นเชื้อเพลิง ฯลฯ

เอทานอล (Ethanol)

ที่มาภาพ : http://water-pacific.com/index.php/2010-08-14-10-07-37

เอทานอลเป็นพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ผลิตได้จาก
วัตถุดิบ ทางการเกษตรซึ่งแบ่งได้เป็น 3 ประเภทย่อย

1. วัตถุดิบประเภทน้ำตาล ได้แก่ น้ำอ้อย น้ำตาลจากบีท และกากน้ำตาลซึ่ง
ยีสต์สามารถย่อยสลายวัตถุดิบประเภทนี้ได้เลยทันทีโดยไม่ต้องผ่านการย่อยเพื่อ
เป็นน้ำตาล (Pretreatment)
2. วัตถุดิบประเภทแป้ง ได้แก่ มันสำปะหลัง ธัญพืชและมันฝรั่งในการผลิตจะ
ต้องย่อยแป้งในวัตถุดิบให้เป็นน้ำตาลกลูโคสซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดียวเสียก่อน
ยีสต์จึงจะเปลี่ยน
3. น้ำตาลเป็นเอทานอลได้ วัตถุดิบประเภทที่เป็นผลพลอยได้จากอุตสาหกรรม
เกษตร เช่น กากอ้อย ฟางข้าว ซังข้าวโพด และของเสียจากอุตสาหกรรม เยื่อ
กระดาษ ฯลฯ

อุตสาหกรรมเอทานอล
ที่มาภาพ:https://www.scbeic.com/th/detail/product/1782

การผลิตเอทานอล (Ethanol)

กระบวนการผลิตเอทานอล ประกอบด้วย กระบวนการเตรียมวัตถุดิบสำหรับ
ผลิตเอทานอล กระบวนการหมัก และการแยกผลิตภัณฑ์เอทานอลและการทำให้
บริสุทธิ์ ซึ่งในขั้นตอบการเตรียมวัตถุดิบนั้นถ้าเป็นประเภทแป้งหรือเซลลูโลส เช่น
มันสำปะหลังและธันยพืช จะต้องนำไปผ่านกระบวนการย่อยแป้งหรือเซลลูโลสให้
เป็นน้ำตาลก่อน ด้วยการใช้กรดหรือเอนไซม์ ส่วนวัตถุดิบประเภทน้ำตาลเช่นกาก
น้ำตาลหรือน้ำอ้อยเมื่อปรับความเข้มข้นให้เหมาะสมแล้วสามารถนำไปหมักได้
ในกระบวนการหมักจะเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นแอลกอฮอล์โดยใช้เชื้อจุลินทรีย์ซึ่ง
ส่วนใหญ่จะใช้ยีสต์การเลือกใช้ชนิดของเชื้อจุลินทรีย์ที่เหมาะสมกับวัตถุดิบที่นำ
มาหมัก จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหมักได้

ผังการผลิตเอทานอล

ที่มาภาพ:http://conan-kung.blogspot.com/2011/01/blog-post_6122.html?m=1

ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการหมัก

ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการหมักคือ เอธิลแอลกอฮอล์หรือเอทานอลที่มีความเข้มข้น
ประมาณร้อยละ 8-12 โดยปริมาตรน้ำหมักที่ได้จากกระบวนการหมักจะนำมา
แยกเอทานอลออกโดยใช้กระบวนการกลั่นลำดับส่วน ซึ่งสามารถแยกเอทานอล
ให้ได้ความบริสุทธิ์ประมาณร้อยละ 95 โดยปริมาตร จากนั้นจึงเข้าสู่กรรมวิธีใน
การแยกน้ำโดยการใช้โมเลกูล่าร์ซีพ(molecularsieve separation) เอทานอล
ที่ความบริสุทธิ์ ร้อยละ 95 จะผ่านเข้าไปในหอดูดซับที่บรรจุตัวดูดซับประเภท
ซีโอไลต์โมเลกุลของเอทานอลจะไหลผ่านช่องว่างของซีโอไลต์ออกไปได้
แต่โมเลกุลของน้ำจะถูกดูดซับไว้ ทำให้เอทานอลที่ไหลออกไปมีความบริสุทธิ์
ร้อยละ 99.5 ส่วนซีโอไลต์ที่ดูดซับน้ำไว้จะถูกรีเจนเนอเรตโดยการไล่น้ำออก
เอทานอลความบริสุทธิ์ร้อยละ 99.5 สามารถนำไปผสมกับน้ำมันเบนซินเพื่อใช้
ในรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน

การผลิตเอทานอล
ที่มาภาพ:https://www.scimath.org/lesson-chemistry/item/96

เอทานอลมีฤทธิ์เฉียบพลันต่อร่างกาย

1. มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง (central nervous system, CNS) ทำให้มี
อาการง่วงซึม คลายความกังวล สูญเสียการทรงตัว ฯลฯ
2. มีผลต่อหัวใจ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวน้อยลง
3. มีผลทำให้กล้ามเนื้อเรียบ (smooth muscle) คลายตัวเนื้อหาเล็กน้อย

เอทานอลที่มีฤทธิ์เรื้อรังต่อร่างกาย

1. มีผลทำลายระบบทางเดินอาหารและเนื้อเยื่อตับ ถึงขั้นเป็นโรคตับแข็งได้
2. มีผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการความจำเสื่อม ตกใจง่ายใจสั่น และมี
อาการทางโรคจิต เป็นต้น
3. ทำให้เกิดโรคโลหิตจาง ผู้ป่วยที่ดื่มติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะทำให้เลือด
ออกทางกระเพาะอาหาร จึงป่วยเป็นโรคโลหิตจางชนิดอ่อน
4. มีผลต่อหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด คือ ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ
(arrhythmia) และเพิ่มความดันเลือด
5. มีผลทำให้ระบบต่อมไร้ท่อ เกลือแร่ น้ำ และอิเล็กโทรไลต์ ในร่างกายเกิดการ
เสียดุล
6. เพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งที่ปาก หลอดอาหาร กล่องเสียงและตับ
เนื้อหาเล็กน้อย

ระดับของเอทานอลในเลือดที่เริ่มก่อให้เกิดอาการ

1. ระหว่าง 50–100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ผู้ป่วยจะแสดงอาการ พูดมาก หน้าแดง
ประสาทมีการตอบโต้ช้า และการมองเห็นไม่ค่อยดี
2. สูงกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร จะกดระบบประสาทส่วนกลางทำให้การ
ตัดสินใจ และการมองเห็นภาพไม่ดี ประสาทจะเริ่มเสื่อม
3. ระดับ 300 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ผู้ป่วยมักจะหมดสติ
4. สูงกว่า 500 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ผู้ป่วยอาจตายได้พิษของเอทานอลมีความ
สำคัญมาก เพราะนอกจากจะก่อให้เกิด ผลร้ายแก่ผู้ดื่มเองแล้วยังเป็นตัวก่อ
ปัญหาในสังคมอีกด้วย โดยเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุและคดีความต่างๆ มากขึ้น

ดังนั้นเพื่อช่วยให้ตนเองเป็นผู้ที่มีสุขภาพดีและแข็งแรงทั้งยังช่วยลดปัญหา
ของสังคมควรจะหันมาดื่มน้ำผลไม้แทนเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จะดีที่สุด



เอทานอล (Ethanol)

ที่มาภาพ : http://water-pacific.com/index.php/2010-08-14-10-07-37

แหล่งข้อมูล

http://www.tistr.or.th/t/publication/page_area_show_bc.asp?i1
http://www.zoneza.com/Ethanol-view4552.htm
http://thaiethanol.com/etanol/what-is-ethanol


Click to View FlipBook Version