สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 1 ~ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2553 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา : 4 กันยายน 2534 ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็ นต้นไป : 5 กันยายน 2534 ผู้รักษาการ : นายกรัฐมนตรี หลักส าคัญ การบริหารราชการตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องเป็ นไปตามข้อต่อไปนี้ (มาตรา 3/1) 1. เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน 2. เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ 3. ความมีประสิทธิภาพ ความคุ้มค่าในเชิงภารกิจแห่งรัฐ 4. การลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน 5. การลดภารกิจและยุบเลิกหน่วยงานที่ไม่จำเป็น 6. การกระจายภารกิจและทรัพยากรให้แก่ท้องถิ่น 7. การกระจายอำนาจตัดสินใจ 8. การอำนวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของประชาชน Note: การจัดสรรงบประมาณ และการบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ ต้องคำนึงถึงหลักการบริหารราชการ ตามข้อ 1 - 8 การปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการต้องใช้ “วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี” โดยเฉพาะ อย่างยิ่งให้ค านึงถึง 1. ความรับผิดชอบของผู้ปฏิบัติงาน 2. การมีส่วนร่วมของประชาชน 3. การเปิดเผยข้อมูล 4. การติดตามตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงาน
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 2 ~ การตรากฎหมาย (พระราชบัญญัติ/พระราชกฤษฎีกา/กฎกระทรวง) รายละเอียด ให้ตราเป็น มาตรา 1. การจัดตั้ง การรวม หรือการโอนส่วนราชการส่วนกลาง (สำนักนายกรัฐมนตรี/ กระทรวง / ทบวง / กรม) พระราชบัญญัติ ม.8 2. การรวมหรือการโอนส่วนราชการส่วนกลาง ไม่ว่าจะมีผลเป็นการจัดตั้งส่วนราชการขึ้นใหม่ หรือไม่ ถ้าไม่มีการกำหนดตำแหน่งหรืออัตราของข้าราชการหรือ ลูกจ้างเพิ่มขึ้น พระราชกฤษฎีกา ม.8 ทวิ 3. การเปลี่ยนชื่อส่วนราชการส่วนกลาง พระราชกฤษฎีกา ม.8 ตรี 4. การยุบส่วนราชการส่วนกลาง พระราชกฤษฎีกา ม.8 จัตวา 5. การแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานรัฐมนตรี กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม กฎกระทรวง ม.8 ฉ 6. การแบ่งส่วนราชการภายในมหาวิทยาลัย หรือสถาบันในทบวงมหาวิทยาลัย กฎหมายว่าด้วย มหาวิทยาลัยหรือสถาบันนั้น ม.8 อัฏฐ 7. การตั้ง ยุบ และเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด พระราชบัญญัติ ม.52 8. การตั้ง ยุบ และเปลี่ยนเขตอำเภอ พระราชกฤษฎีกา ม.61 การจัดระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนกลาง (การรวมอ านาจ) ส่วนภูมิภาค (การแบ่งอ านาจ) ส่วนท้องถิ่น (การกระจายอ านาจ) (1) ส านักนายกรัฐมนตรี (2) กระทรวง (3) ทบวง (4) กรม (1) จังหวัด (2) อ าเภอ (1) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (2) เทศบาล (3) สุขาภิบาล (4) ราชการส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่ มีกฎหมายก าหนด ทุกส่วนราชการมีฐานะเป็นนิติบุคคล ยกเว้นอ าเภอ
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 3 ~ Note : การรวมหรือการโอน (มาตรา 8 ทวิ) 1. ให้ระบุอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ การโอนอำนาจหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ซึ่งส่วน ราชการหรือเจ้าพนักงานที่มีอยู่เดิม การโอนข้าราชการและลูกจ้าง งบประมาณรายจ่ายรวมทั้งทรัพย์สินและหนี้สิน เอาไว้ด้วยแล้วแต่กรณี 2. ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนและสำนักงบประมาณ มีหน้าที่ตรวจสอบดูแลมิให้มี การกำหนดตำแหน่งหรืออัตราของข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการที่จัดตั้งขึ้นใหม่ หรือที่ถูกรวมหรือโอน ไปตามวรรคหนึ่ง เพิ่มขึ้น จนกว่าจะครบกำหนดสามปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาตามวรรคหนึ่งมีผลใช้บังคับ Note : การยุบส่วนราชการส่วนกลาง ในกรณีที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ประสงค์จะรับโอนข้าราชการหรือลูกจ้าง ตามวรรคสามก็ให้กระทำได้โดยมิให้ถือว่าข้าราชการหรือลูกจ้างผู้นั้นได้พ้นจากราชการตามวรรคสาม แต่ทั้งนี้ต้อง กระทำภายใน 30 วันนับแต่พระราชกฤษฎีกาตามวรรคหนึ่งมีผลใช้บังคับ Note : การแบ่งส่วนราชการภายในส านักงานรัฐมนตรี กรม (มาตรา 8 ฉ) 1. รัฐมนตรีเจ้าสังกัดของส่วนราชการ เป็นผู้ออกกฎกระทรวง 2. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และสำนักงบประมาณร่วมกัน เสนอความเห็น ต่อคณะรัฐมนตรีในการแบ่งส่วนราชการภายในและในการกำหนดอำนาจหน้าที่ 3. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จัดอัตรากำลัง 4. สำนักงบประมาณ จัดสรรเงินงบประมาณให้สอดคล้อง เสนอไปในคราวเดียวกัน
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 4 ~ การจัดระเบียบราชการในส านักนายกรัฐมนตรี ส านักนายกรัฐมนตรี ส่วนราชการในสำนักนายกรัฐมนตรี มีฐานะเป็นกรม รับผิดชอบในการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และผลสัมฤทธิ์ของงานในสำนักนายกรัฐมนตรีให้สอดคล้อง กับนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภาหรือที่คณะรัฐมนตรีกำหนดหรืออนุมัติ นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการ Note : ในกรณีที่มีรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือมีทั้งรองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี การสั่งและการปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรี มอบหมาย สำนักนายกรัฐมนตรี อาจจัดให้มีส่วนราชการเป็นการภายในขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่จัดทำ นโยบายและแผน กำกับ เร่งรัด และติดตามนโยบายและแผนการปฏิบัติราชการตามนโยบายที่คณะรัฐมนตรี กำหนดหรืออนุมัติ นายกรัฐมนตรีจะสั่งให้กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม ในสำนัก นายกรัฐมนตรีจัดทำก็ได้ ในระหว่างที่คณะรัฐมนตรีต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะ เข้ารับหน้าที่เพราะ นายกรัฐมนตรีตาย ขาดคุณสมบัติ ต้องคำพิพากษาให้จำคุก สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่ ไว้วางใจ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง หรือวุฒิสภามีมติให้ถอด ถอนจากตำแหน่ง ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมาย ให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน นายกรัฐมนตรี ถ้าไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้คณะรัฐมนตรี มอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน ส านักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ส านักงานปลัดส านักนายกรัฐมนตรี
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 5 ~ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล มีอ านาจหน้าที่ดังนี้ (มาตรา 11) 1. กำกับโดยทั่วไปซึ่งการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อการนี้จะสั่งให้ราชการส่วนกลาง ราชการส่วน ภูมิภาคและส่วนราชการซึ่งมีหน้าที่ควบคุมราชการส่วนท้องถิ่น ชี้แจง แสดงความคิดเห็น ทำรายงานเกี่ยวกับ การปฏิบัติราชการในกรณีจำเป็นจะยับยั้งการปฏิบัติราชการใดๆ ที่ขัดต่อนโยบายหรือมติของคณะรัฐมนตรีก็ได้ และมีอำนาจสั่งสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาคและ ราชการส่วนท้องถิ่น 2. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีกำกับการบริหารราชการของกระทรวงหรือทบวงหนึ่งหรือหลาย กระทรวงหรือทบวง 3. บังคับบัญชาข้าราชการฝ่ายบริหารทุกตำแหน่งซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรม และส่วนราชการที่ เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกรม 4. สั่งให้ข้าราชการซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรมหนึ่งมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีโดยจะให้ ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิมหรือไม่ก็ได้ ในกรณีที่ให้ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม ให้ได้รับ เงินเดือนในสำนักนายกรัฐมนตรีในระดับ และขั้นที่ไม่สูงกว่าเดิม 5. แต่งตั้งข้าราชการซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรมหนึ่งไปดำรงตำแหน่งของอีกกระทรวง ทบวง กรม หนึ่ง โดยให้ได้รับเงินเดือนจากกระทรวง ทบวง กรมเดิม ในกรณีเช่นว่านี้ให้ข้าราชการซึ่งได้รับแต่งตั้งมีฐานะ เสมือนเป็นข้าราชการสังกัดกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งตนมาดำรงตำแหน่งนั้นทุกประการ แต่ถ้าเป็นการแต่งตั้ง ข้าราชการตั้งแต่ตำแหน่งอธิบดีหรือเทียบเท่าขึ้นไป ต้องได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี 6. แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานที่ปรึกษา ที่ปรึกษา หรือคณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี หรือเป็น คณะกรรมการเพื่อปฏิบัติราชการใด ๆ และกำหนดอัตราเบี้ยประชุมหรือค่าตอบแทนให้แก่ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้ง 7. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง ให้ปฏิบัติราชการในสำนักนายกรัฐมนตรี 8. วางระเบียบปฏิบัติราชการ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปโดยรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่น 9. ดำเนินการอื่น ๆ ในการปฏิบัติตามนโยบาย ระเบียบตาม 8. เมื่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ใช้บังคับได้
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 6 ~ ส านักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (มีฐานะเป็ นกรม) ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี อำนาจหน้าที่ เกี่ยวกับราชการทางการเมือง เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ มีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองและรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร เป็นผู้ช่วยสั่ง และปฏิบัติราชการ และจะให้มีผู้ช่วยเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการด้วยก็ได้ ส านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(มีฐานะเป็ นกรม) ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี อำนาจหน้าที่ เกี่ยวกับราชการของคณะรัฐมนตรี รัฐสภา และราชการในพระองค์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ มีรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการ และจะให้มีผู้ช่วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการด้วยก็ได้ ส านักงานปลัดส านักนายกรัฐมนตรี(มีฐานะเป็ นกรม) อำนาจหน้าที่ เกี่ยวกับราชการประจำทั่วไปของสำนักนายกรัฐมนตรี และราชการที่คณะรัฐมนตรี มิได้กำหนดให้เป็นหน้าที่ของกรมใดกรมหนึ่งในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีโดยเฉพาะ รวมทั้งกำกับและเร่งรัดการ ปฏิบัติราชการของส่วนราชการในสำนักนายกรัฐมนตรีให้เป็นไปตามนโยบาย แนวทาง และแผนการปฏิบัติราชการ ของสำนักนายกรัฐมนตรี ยกเว้นราชการของส่วนราชการซึ่งกฎหมายกำหนดให้หัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงต่อ นายกรัฐมนตรี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ ให้มีรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการ จะให้มีผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการด้วยก็ได้
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 7 ~ ปลัดส านักนายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ (1) รับผิดชอบควบคุมราชการประจำในสำนักนายกรัฐมนตรีกำหนดแนวทางและแผนการปฏิบัติ ราชการของสำนักนายกรัฐมนตรี และลำดับความสำคัญของแผนการปฏิบัติราชการประจำปีของส่วนราชการใน สำนักนายกรัฐมนตรีให้เป็นไปตามนโยบายที่นายกรัฐมนตรีกำหนด รวมทั้งกำกับ เร่งรัด ติดตามและประเมินผล การปฏิบัติราชการของส่วนราชการในสำนักนายกรัฐมนตรี (2) เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการของส่วนราชการในสำนักนายกรัฐมนตรี รองจากนายกรัฐมนตรีรอง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยกเว้นข้าราชการของส่วนราชการ ซึ่งหัวหน้าส่วนราชการ ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี (3) เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและรับผิดชอบในการปฏิบัติ ราชการของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตารางเปรียบเทียบระหว่างข้าราชการการเมือง และข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการการเมือง ข้าราชการพลเรือนสามัญ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ผู้ช่วยเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรี เลขาธิการคณะรัฐมนตรี รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผู้ช่วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 8 ~ การจัดระเบียบราชการในกระทรวงหรือทบวง ส านักงานรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่ เกี่ยวกับราชการทางการเมือง เลขานุการรัฐมนตรี (ข้าราชการการเมือง) เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ และรับผิดชอบในการปฏิบัติ ราชการของสำนักงานรัฐมนตรี ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวง และจะให้มีผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีซึ่งเป็นข้าราชการการเมืองคน หนึ่งหรือหลายคนเป็นผู้ช่วยสั่งหรือปฏิบัติราชการแทนเลขานุการรัฐมนตรีก็ได้ ส านักงานปลัดกระทรวง มีอำนาจหน้าที่ เกี่ยวกับราชการประจำทั่วไปของกระทรวงและราชการที่คณะรัฐมนตรีมิได้ กำหนดให้เป็นหน้าที่ของกรมใดกรมหนึ่งในสังกัดกระทรวงโดยเฉพาะ รวมทั้งกำกับและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ของส่วนราชการในกระทรวงให้เป็นไปตามนโยบายแนวทาง และแผนการปฏิบัติราชการของกระทรวง ส่วนราชการท าหน้าที่จัดท านโยบายและแผนฯ กระทรวงใด มีความจำเป็นจะต้องมีส่วนราชการเพื่อทำหน้าที่จัดทำนโยบายและแผน กำกับ เร่งรัด และติดตามนโยบายและแผนการปฏิบัติราชการของกระทรวง จัดระเบียบบริหารราชการ โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ส านักงานรัฐมนตรี ส านักงานปลัดกระทรวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น ส่วนราชการ มีฐานะเป็ นกรม
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 9 ~ ปลัดกระทรวง หัวหน้ากลุ่มภารกิจ และหัวหน้าส่วนราชการ ตั้งแต่ระดับกรมขึ้ นไป วางแผน และประสานกิจกรรมให้มีการใช้ทรัพยากรของส่วนราชการต่าง ๆ ในกระทรวงร่วมกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และบรรลุเป้าหมายของกระทรวง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง 1. เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ 2. รับผิดชอบในการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และผลสัมฤทธิ์ของงานในกระทรวงให้สอดคล้องกับ นโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภาหรือที่คณะรัฐมนตรีกำหนดหรืออนุมัติ 3. มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง เป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการก็ได้ ปลัดกระทรวง มีอ านาจหน้าที่ดังนี้ 1. รับผิดชอบควบคุมราชการประจำในกระทรวง แปลงนโยบายเป็นแนวทางและแผนการปฏิบัติราชการ กำกับการทำงานของส่วนราชการในกระทรวงให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และประสานการปฏิบัติงานของส่วนราชการใน กระทรวงให้มีเอกภาพสอดคล้องกัน รวมทั้งเร่งรัด ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการใน กระทรวง 2. เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการของส่วนราชการในกระทรวง รองจากรัฐมนตรี 3. เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสำนักงานปลัดกระทรวง และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของ สำนักงานปลัดกระทรวง การปฏิบัติราชการของปลัดกระทรวง ให้มีรองปลัดกระทรวงคนหนึ่งเป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการตามที่ปลัดกระทรวงมอบหมายก็ได้
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 10 ~ ก าหนดให้ส่วนราชการระดับกรมตั้งแต่ 2 ส่วนราชการขึ้ นไปอยู่ภายใต้กลุ่มภารกิจเดียวกัน ภายในกระทรวง ออกกฎกระทรวง กำหนดให้ส่วนราชการระดับกรมตั้งแต่ 2 ส่วนราชการขึ้นไปอยู่ ภายใต้กลุ่มภารกิจเดียวกัน มีผู้ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีคนหนึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่ม โดยปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อปลัดกระทรวงหรือขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีตามที่กำหนดโดยกฎกระทรวง กรณีที่ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีต้องรายงานผลการดำเนินงานต่อปลัดกระทรวงตามที่กำหนดโดยกฎกระทรวง กระทรวงใดมิได้จัดให้มีกลุ่มภารกิจ และมีปริมาณงานมาก ให้มีรองปลัดกระทรวงเป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการ เพิ่มขึ้นเป็น 2 คนก็ได้ กระทรวงใดมีภารกิจเพิ่มขึ้ น และมีความจ าเป็ นอย่างยิ่ง ต้องมีรองปลัดกระทรวงมากกว่า ที่ก าหนดไว้ 1. คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ร่วมกันอนุมัติให้ กระทรวงนั้นมีรองปลัดกระทรวงเพิ่มขึ้นเป็นกรณีพิเศษ โดยจะกำหนดเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาไว้ด้วยหรือไม่ก็ได้ 2. คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ จัดให้มีการประชุมพิจารณาร่วมกัน 3. กรรมการแต่ละฝ่าย จะต้องมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง จึงจะเป็นองค์ประชุม 4. การออกเสียงลงมติจะต้องได้คะแนนเสียงของกรรมการแต่ละฝ่าย เกินกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการฝ่าย ดังกล่าวที่มาประชุม ให้นำมติดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาต่อไป
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 11 ~ การจัดระเบียบราชการในทบวงซึ่งสังกัดส านักนายกรัฐมนตรีหรือกระทรวง รัฐมนตรีว่าการทบวง เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ กำหนดนโยบายของทบวงให้สอดคล้องกับนโยบายที่คณะรัฐมนตรีกำหนดหรืออนุมัติ และรับผิดชอบ ในการปฏิบัติราชการของทบวง และจะให้มีรัฐมนตรีช่วยว่าการทบวงเป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการก็ได้ ปลัดทบวง มีอ านาจหน้าที่ดังนี้ 1. รับผิดชอบควบคุมราชการประจำในทบวง กำหนดแนวทางและแผนการปฏิบัติราชการของทบวง และลำดับความสำคัญของแผนการปฏิบัติราชการประจำปีของส่วนราชการในทบวงให้เป็นไปตามนโยบายที่ รัฐมนตรีกำหนด รวมทั้งกำกับ เร่งรัด ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในทบวง 2. เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการของส่วนราชการในทบวง รองจากรัฐมนตรี 3. เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสำนักงานปลัดทบวง และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงาน ปลัดทบวง 4. ให้มีรองปลัดทบวงเป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการ และจะให้มีผู้ช่วยปลัดทบวงเป็นผู้ช่วยสั่งและ ปฏิบัติราชการด้วยก็ได้ ส านักงานรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการทางการเมือง เลขานุการรัฐมนตรีซึ่งเป็นข้าราชการการเมือง เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ และรับผิดชอบในการ ปฏิบัติราชการของ ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการทบวง ส านักงานปลัดทบวง มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการประจำทั่วไปของทบวง และราชการที่คณะรัฐมนตรีมิได้กำหนดให้ เป็นหน้าที่ของกรมใดกรมหนึ่งในสังกัดทบวงโดยเฉพาะ รวมทั้งกำกับและเร่งรัดการปฏิบัติราชการของส่วน ราชการในทบวงให้เป็นไปตามนโยบาย แนวทาง และแผนการปฏิบัติราชการของทบวง ส านักงานรัฐมนตรี ส านักงานปลัดทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น เว้นแต่บางทบวงซึ่งเห็นว่าไม่มีความจ าเป็ นจะไม่แยกส่วนราชการตั้งขึ้ นเป็ นกรม ก็ได้ ส่วนราชการ มีฐานะเป็ นกรม
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 12 ~ การจัดระเบียบราชการในกรม กรม มีอำนาจหน้าที่ เกี่ยวกับราชการของกระทรวง ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของกรม หรือตามกฎหมายว่าด้วยอำนาจหน้าที่ของกรม อธิบดีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของกรมให้เกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นไปตามเป้าหมาย แนวทาง และ แผนการปฏิบัติราชการของกระทรวงและในกรณีที่มีกฎหมายอื่นกำหนดอำนาจหน้าที่ของอธิบดีไว้เป็นการเฉพาะ การใช้อำนาจและการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายดังกล่าวให้คำนึงถึงนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภาหรือ ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด หรืออนุมัติ และนโยบาย แนวทาง และแผนการปฏิบัติราชการของกระทรวง รองอธิบดีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการรองจากอธิบดีและช่วยอธิบดีปฏิบัติราชการก็ได้ ส านักงานเลขานุการกรม มีอำนาจหน้าที่ เกี่ยวกับราชการทั่วไปของกรม และราชการที่มิได้แยกให้เป็นหน้าที่ของกองหรือส่วน ราชการใดโดยเฉพาะ เลขานุการกรม เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงาน เลขานุการกรม ผู้ตรวจราชการของกระทรวง ทบวง หรือกรม กระทรวง ทบวง หรือกรมใด โดยสภาพและปริมาณของงานสมควรมีผู้ตรวจราชการของกระทรวง ทบวง หรือกรมนั้น ก็ให้กระทำได้ มีอำนาจหน้าที่ตรวจและแนะนำการปฏิบัติราชการอันเกี่ยวกับกระทรวง ทบวง หรือกรมนั้นให้เป็นไป ตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับของกระทรวง ทบวง หรือกรมหรือมติของคณะรัฐมนตรี หรือการสั่งการของ นายกรัฐมนตรี ส านักงานเลขานุการกรม กอง หรือส่วนราชการที่มีฐานะเทียบกอง
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 13 ~ การบริหารราชการในต่างประเทศ คณะผู้แทน หมายความว่า บรรดาข้าราชการฝ่ายพลเรือน หรือข้าราชการฝ่ายทหารประจำการในต่างประเทศ ซึ่ง ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ สถานกงสุล สถานรองกงสุล ส่วน ราชการของกระทรวงการต่างประเทศซึ่งเรียกชื่อเป็นอย่างอื่น และปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกับสถาน เอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ และคณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การระหว่างประเทศ หัวหน้าคณะผู้แทน หมายความว่า ข้าราชการสังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้า คณะผู้แทนตามระเบียบพิธีการทูต หรือระเบียบพิธีการกงสุล ในกรณีของคณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การ ระหว่างประเทศ ให้หมายความว่า ข้าราชการสังกัดส่วนราชการซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้แทน ถาวรไทยประจำองค์การระหว่างประเทศ รองหัวหน้าคณะผู้แทน หมายความว่า ข้าราชการสังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วย สั่งและปฏิบัติราชการแทนหัวหน้าคณะผู้แทน ในกรณีของคณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การระหว่างประเทศ ให้หมายความว่า ข้าราชการสังกัดส่วนราชการ ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในลักษณะเดียวกัน การรับนโยบายและค าสั่ง หัวหน้าคณะผู้แทนเป็นผู้รับนโยบายและคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม มาปฏิบัติการให้เหมาะสมกับการปฏิบัติราชการในต่างประเทศ และเป็น หัวหน้าบังคับบัญชาบุคคลในคณะผู้แทน และจะให้มีรองหัวหน้าคณะผู้แทนเป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการแทน หัวหน้าคณะผู้แทนก็ได้ การสั่ง และการปฏิบัติราชการ การสั่ง และการปฏิบัติราชการของกระทรวง ทบวง กรม ต่อบุคคลในคณะผู้แทน ให้เป็นไปตาม ระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 14 ~ หัวหน้าคณะผู้แทน มีอ านาจและหน้าที่ ดังนี้ 1. บริหารราชการตามกฎหมายและระเบียบแบบแผนของทางราชการ 2. บริหารราชการตามที่คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม มอบหมาย หรือตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการใน ฐานะหัวหน้ารัฐบาล 3. บังคับบัญชาบุคคลในคณะผู้แทนและข้าราชการฝ่ายพลเรือนที่มิใช่บุคคลในคณะผู้แทนซึ่งประจำอยู่ใน ประเทศที่ตนมีอำนาจหน้าที่ เพื่อให้การปฏิบัติราชการเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งของ กระทรวง ทบวง กรม หรือมติของคณะรัฐมนตรี หรือการสั่งการของนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล 4. รายงานข้อเท็จจริงและความเห็นเกี่ยวกับผลการปฏิบัติราชการของบุคคลตาม (3.) เพื่อประกอบการ พิจารณาของผู้บังคับบัญชาของส่วนราชการต้นสังกัดเกี่ยวกับการแต่งตั้งและการเลื่อนขั้นเงินเดือน
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 15 ~ การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาค จังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด (ผู้บังคับบัญชา) ท้องที่หลาย ๆ อ าเภอตั้งขึ้ นเป็ นจังหวัด มีฐานะเป็ นนิติบุคคล การตั้ง ยุบ และเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด ให้ตราเป็ นพระราชบัญญัติ เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานแบบบูรณาการ ให้จังหวัดหรือกลุ่มจังหวัดยื่นคำขอจัดตั้งงบประมาณ ได้(ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ในกรณีนี้ให้ถือว่า จังหวัดหรือกลุ่มจังหวัดเป็นส่วน ราชการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ) แบ่งส่วนราชการของจังหวัด ดังนี้ 1. สำนักงานจังหวัด มีหน้าที่ เกี่ยวกับราชการทั่วไปและการวางแผนพัฒนาจังหวัดของจังหวัดนั้น หัวหน้าสำนักงานจังหวัด เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของ สำนักงานจังหวัด 2. ส่วนต่าง ๆ ซึ่งกระทรวง ทบวง กรม ได้ตั้งขึ้น มีหน้าที่ เกี่ยวกับราชการของกระทรวง ทบวง กรมนั้น ๆ หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดนั้นๆ เป็นผู้ปกครองบังคับบัญชารับผิดชอบ จังหวัด อ าเภอ
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 16 ~ จังหวัด มีอ านาจภายในเขตจังหวัด ดังต่อไปนี้ 1. นำภารกิจของรัฐและนโยบายของรัฐบาลไปปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ 2. ดูแลให้มีการปฏิบัติและบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยและเป็นธรรมในสังคม 3. จัดให้มีการคุ้มครอง ป้องกัน ส่งเสริม และช่วยเหลือประชาชนและชุมชนที่ด้อยโอกาสเพื่อให้ได้รับความ เป็นธรรมทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมในการดำรงชีวิตอย่างพอเพียง 4. จัดให้มีการบริการภาครัฐเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้อย่างเสมอหน้า รวดเร็ว และมีคุณภาพ 5. จัดให้มีการส่งเสริม อุดหนุน และสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้สามารถดำเนินการตาม อำนาจและหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้มีขีดความสามารถพร้อมที่จะดำเนินการตามภารกิจที่ ได้รับการถ่ายโอนจากกระทรวง ทบวง กรม 6. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นของรัฐมอบหมาย หรือที่มี กฎหมายกำหนด แผนพัฒนาจังหวัด ให้จังหวัดจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด ให้สอดคล้อง กับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ในระดับชาติและความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นในจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด จัดให้มีการประชุมปรึกษาหารือร่วมกัน ระหว่างหัวหน้าส่วนราชการที่มีสถานที่ตั้งทำ การอยู่ในจังหวัดไม่ว่าจะเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาคหรือราชการบริหารส่วนกลาง และผู้บริหารองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมดในจังหวัด รวมทั้งผู้แทนภาคประชาสังคม และผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน จำนวนและวิธีการสรรหา ผู้แทนภาคประชาสังคมและผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา เมื่อประกาศใช้แผนพัฒนาจังหวัดแล้ว การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการดำเนินกิจการของส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐทั้งปวงที่กระทำในพื้นที่จังหวัด ต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัด
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 17 ~ ผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดหนึ่ง ให้มี“ผู้ว่าราชการจังหวัด” คนหนึ่ง 1. เป็นผู้รับนโยบายและคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล คณะรัฐมนตรีกระทรวง ทบวง กรม มาปฏิบัติการให้เหมาะสมกับท้องที่และประชาชน 2. เป็นหัวหน้าบังคับบัญชาบรรดาข้าราชการฝ่ายบริหาร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในราชการส่วนภูมิภาคใน เขตจังหวัด และรับผิดชอบในราชการจังหวัดและอำเภอ 3. ให้มีรองผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด หรือทั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัด และ ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้ 3.1 รองผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการฝ่ายบริหาร ส่วนภูมิภาคในเขตจังหวัด และรับผิดชอบในราชการรองจากผู้ว่าราชการจังหวัด 4. ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด สังกัด กระทรวงมหาดไทย 5. การยกเว้น จำกัด หรือตัดทอน อำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด ในการบริหารราชการใน จังหวัด หรือให้ข้าราชการของส่วนราชการใดมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการส่วนภูมิภาคเช่นเดียวกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดจะกระทำได้โดยตราเป็นพระราชบัญญัติ
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 18 ~ ผู้ว่าราชการจังหวัด มีอ านาจและหน้าที่ ดังนี้ 1. บริหารราชการตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ และตามแผนพัฒนาจังหวัด 2. บริหารราชการตามที่คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม มอบหมายหรือตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล 3. บริหารราชการตามคำแนะนำและคำชี้แจงของผู้ตรวจราชการกระทรวงในเมื่อไม่ขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งของกระทรวง ทบวง กรม มติของคณะรัฐมนตรีหรือการสั่งการของนายกรัฐมนตรี 4. กำกับดูแลการปฏิบัติราชการอันมิใช่ราชการส่วนภูมิภาคของข้าราชการซึ่งประจำอยู่ในจังหวัดนั้น ยกเว้นข้าราชการทหาร ข้าราชการฝ่ายตุลาการ ข้าราชการฝ่ายอัยการ ข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ข้าราชการในสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และข้าราชการครู ให้ปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งของกระทรวง ทบวง กรม หรือมติของคณะรัฐมนตรี หรือการสั่งการของนายกรัฐมนตรีหรือ ยับยั้งการกระทำใด ๆ ของข้าราชการในจังหวัดที่ขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งของกระทรวง ทบวง กรม มติของคณะรัฐมนตรี หรือการสั่งการของนายกรัฐมนตรีไว้ชั่วคราวแล้วรายงานกระทรวง ทบวง กรมที่ เกี่ยวข้อง 5. ประสานงานและร่วมมือกับข้าราชการทหาร ข้าราชการฝ่ายตุลาการ ข้าราชการฝ่ายอัยการ ข้าราชการ พลเรือนในมหาวิทยาลัย ข้าราชการในสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินและข้าราชการครู ผู้ตรวจราชการและหัวหน้า ส่วนราชการในระดับเขตหรือภาค ในการพัฒนาจังหวัดหรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ 6. เสนองบประมาณต่อกระทรวงที่เกี่ยวข้อง หรือเสนอขอจัดตั้งงบประมาณต่อสำนักงบประมาณตาม มาตรา 52 วรรคสาม และรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบ 7. กำกับดูแลการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นตามกฎหมาย 8. กำกับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานองค์การของรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจ ในการนี้ให้มีอำนาจทำ รายงานหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานขององค์การของรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัด องค์การของรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจ 9. บรรจุ แต่งตั้ง ให้บำเหน็จ และลงโทษข้าราชการส่วนภูมิภาคในจังหวัดตามกฎหมาย และตามที่ ปลัดกระทรวง ปลัดทบวง หรืออธิบดีมอบหมาย ปลัดจังหวัด นอกจากจะมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นหัวหน้าปกครองบังคับบัญชาข้าราชการ และรับผิดชอบงานบริหาร ราชการของจังหวัด ให้มีปลัดจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดซึ่งกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ ส่งมาประจำ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือผู้ว่าราชการจังหวัด และมีอำนาจบังคับบัญชาข้าราชการฝ่ายบริหารส่วนภูมิภาคซึ่งสังกัด กระทรวง ทบวง กรมนั้น ในจังหวัดนั้น 11
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 19 ~ คณะกรมการจังหวัด ทำหน้าที่ เป็นที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการจังหวัด ในการบริหารราชการแผ่นดินในจังหวัดนั้น กับปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายหรือมติของคณะรัฐมนตรีกำหนด ประกอบด้วย คณะกรมการจังหวัด ตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด ประธาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนึ่งคน ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมาย กรมการจังหวัด ปลัดจังหวัด อัยการจังหวัดซึ่งเป็นหัวหน้าที่ทำการอัยการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดจากกระทรวงและทบวงต่างๆ เว้นแต่กระทรวงมหาดไทยซึ่งประจำอยู่ในจังหวัด กระทรวง หรือทบวง ละ หนึ่งคน หัวหน้าสำนักงานจังหวัด กรมการจังหวัดและ เลขานุการ คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด (ก.ธ.จ.) ทำหน้าที่ สอดส่องและเสนอแนะการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานของรัฐในจังหวัดให้ใช้วิธีการบริหาร กิจการบ้านเมืองที่ดีและเป็นไปตามหลักการที่กำหนดไว้ในมาตรา 3/1 กรณีที่ ก.ธ.จ. พบว่ามีการละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับ หรือมีกรณีที่เป็นการ ทุจริต ให้เป็นหน้าที่ของ ก.ธ.จ. ที่จะต้องแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจหรือ หน่วยงานอื่นของรัฐที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ประกอบด้วย คณะกรมการจังหวัด ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี (ซึ่งมีเขตอำนาจในจังหวัด) ประธาน ผู้แทนภาคประชาสังคม ผู้แทนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหาร กรรมการ ผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน.., Note : ทั้งนี้ จำนวน วิธีการสรรหา และการปฏิบัติหน้าที่ของ ก.ธ.จ. ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี 12 13
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 20 ~ อ าเภอ นายอ าเภอ (ผู้บังคับบัญชา) หน่วยราชการบริหารรองจากจังหวัด เรียกว่าอ าเภอ ไม่มีฐานะเป็ นนิติบุคคล การตั้ง ยุบ และเปลี่ยนเขตอ าเภอ ให้ตราเป็ นพระราชกฤษฎีกา แบ่งส่วนราชการของอำเภอ ดังนี้ 1. สำนักงานอำเภอ มีหน้าที่ เกี่ยวกับราชการทั่วไปของอำเภอนั้น ๆ มีนายอำเภอ เป็นผู้ปกครองบังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบ 2. ส่วนต่าง ๆ ซึ่งกระทรวง ทบวง กรม ได้ตั้งขึ้นในอำเภอนั้น มีหน้าที่ เกี่ยวกับราชการของกระทรวง ทบวง กรมนั้น ๆ มีหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอนั้น ๆ เป็นผู้ปกครองบังคับบัญชารับผิดชอบ อำเภอ มีอำนาจหน้าที่ ภายในเขตอำเภอ ดังต่อไปนี้ 1. อำนาจและหน้าที่ตามที่กำหนดในมาตรา 52/1 (1) (2) (3) (4) (5) และ (6) โดยให้นำความในมาตรา 52/1 วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม 2. ส่งเสริม สนับสนุน และจัดให้มีการบริการร่วมกันของหน่วยงานของรัฐในลักษณะศูนย์บริการร่วม 3. ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อร่วมมือกับชุมชนในการดำเนินการให้มีแผนชุมชน เพื่อรองรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัด และกระทรวง ทบวง กรม 4. ไกล่เกลี่ยหรือจัดให้มีการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในสังคมตามมาตรา 61/2 และมาตรา 61/3
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 21 ~ การไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท อำเภอหนึ่ง ให้มีคณะบุคคลผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทของประชาชน ที่คู่กรณีฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอ ในเรื่องที่พิพาททางแพ่งเกี่ยวกับที่ดิน มรดก และข้อพิพาททางแพ่งอื่นที่มี ทุนทรัพย์ไม่เกิน 200,000 บาท หรือมากกว่านั้น ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ให้นายอำเภอ โดยความเห็นชอบของคณะกรมการจังหวัด จัดทำบัญชีรายชื่อบุคคลที่จะทำหน้าที่เป็นคณะบุคคลผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท โดยคัดเลือกจากบุคคลที่มีความรู้หรือมีประสบการณ์เหมาะสมกับการทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เมื่อมีข้อพิพาทเกิดขึ้น และคู่พิพาทตกลงยินยอมให้ใช้วิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท 1. ให้คู่พิพาทแต่ละฝ่าย เลือกบุคคลจากบัญชีรายชื่อ ฝ่ายละ 1 คน 2. ให้นายอำเภอ พนักงานอัยการประจำจังหวัด หรือปลัดอำเภอที่ได้รับมอบหมาย คนหนึ่ง เป็นประธาน 3. ทำหน้าที่ เป็นคณะบุคคลผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท คณะบุคคลผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท มีอำนาจหน้าที่ รับฟังข้อพิพาทโดยตรงจาก คู่พิพาท และดำเนินการไกล่เกลี่ยให้เกิดข้อตกลงยินยอมร่วมกันระหว่างคู่พิพาทโดยเร็ว กรณีคู่พิพาททั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ให้คณะบุคคลผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท จัดให้มี การทำสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างคู่พิพาท และให้ถือเอาข้อตกลงตามสัญญาประนีประนอมยอม ความมีผลผูกพันคู่พิพาททั้งสองฝ่าย Note : กรณีที่คู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้คู่พิพาทอีกฝ่ายหนึ่ง ยื่นคำร้องต่อพนักงานอัยการ และให้พนักงานอัยการดำเนินการยื่นคำร้อง ต่อศาล ที่มีเขตอำนาจ เพื่อให้ออกคำบังคับให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว กรณีที่คู่พิพาทไม่อาจตกลงกันได้ให้คณะบุคคลผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท สั่งจำหน่ายข้อพิพาท
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 22 ~ ความผิดที่มีโทษทางอาญา (ที่เกิดขึ้นในเขตอำเภอ) 1. หากเป็นความผิดอันยอมความได้ และมิใช่เป็นความผิดเกี่ยวกับเพศ 2. ผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหายินยอม หรือแสดงความจำนง 3. ให้นายอำเภอของอำเภอนั้น หรือปลัดอำเภอที่นายอำเภอดังกล่าวมอบหมายเป็นผู้ไกล่เกลี่ย ตามควรแก่กรณี กรณีที่ผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหายินยอมเป็นหนังสือตามที่ไกล่เกลี่ยและปฏิบัติตามคำไกล่เกลี่ย ดังกล่าวแล้ว ให้คดีอาญาเป็นอันเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา กรณีที่ผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหาไม่ยินยอมตามที่ไกล่เกลี่ย ให้จำหน่ายข้อพิพาทนั้น แต่เพื่อ ประโยชน์ในการที่ผู้เสียหายจะไปดำเนินคดีต่อไป อายุความการร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายอาญาให้เริ่มนับแต่ วันที่จำหน่ายข้อพิพาท หลักเกณฑ์และวิธีในการดำเนินการ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง นายอำเภอ 1. เป็นหัวหน้าปกครองบังคับบัญชาบรรดาข้าราชการในอำเภอและรับผิดชอบงานบริหารราชการของอำเภอ 2. สังกัดกระทรวงมหาดไทย 3. บรรดาอำนาจและหน้าที่เกี่ยวกับราชการของกรมการอำเภอหรือนายอำเภอ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ กรมการอำเภอและนายอำเภอมีอยู่ให้โอนไปเป็นอำนาจและหน้าที่ของนายอำเภอ 4. ให้มีปลัดอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอซึ่งกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ส่งมาประจำ ให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือนายอำเภอ และมีอำนาจบังคับบัญชาข้าราชการฝ่ายบริหารส่วนภูมิภาคซึ่งสังกัด กระทรวง ทบวง กรมนั้น ในอำเภอนั้น นายอำเภอ มีอำนาจและหน้าที่ ดังนี้ 1. บริหารราชการตามกฎหมายและระเบียบแบบแผนของทางราชการ ถ้ากฎหมายใดมิได้บัญญัติว่าการ ปฏิบัติตามกฎหมายนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ใดโดยเฉพาะ ให้เป็นหน้าที่ของนายอำเภอที่จะต้องรักษาการให้เป็นไปตาม กฎหมายนั้นด้วย 2. บริหารราชการตามที่คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม มอบหมายหรือตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล 3. บริหารราชการตามคำแนะนำและคำชี้แจงของผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้มีหน้าที่ตรวจการอื่นซึ่ง คณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม และผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมาย ในเมื่อไม่ขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งของกระทรวง ทบวง กรม มติของคณะรัฐมนตรี หรือการสั่งการของนายกรัฐมนตรี 4. ควบคุมดูแลการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นในอำเภอตามกฎหมาย
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 23 ~ การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ปัจจุบัน การปกครองส่วนท้องถิ่น รูปแบบทั่วไป การปกครองส่วนท้องถิ่น รูปแบบพิเศษ 1. องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 1. กรุงเทพมหานคร 2. เทศบาล 2. เมืองพัทยา 2.1 เทศบาลนคร 2.2 เทศบาลเมือง 2.3 เทศบาลตำบล 3. องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล สุขาภิบาล ราชการส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่มี กฎหมายก าหนด
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 24 ~ คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ประธาน รัฐมนตรีหนึ่งคน ที่นายกรัฐมนตรีกำหนด รองประธาน ผู้ซึ่งคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มอบหมายหนึ่งคน กรรมการ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่เกินสิบคน คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ด้าน นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ การบริหารรัฐกิจ การบริหารธุรกิจ การเงินการคลัง จิตวิทยาองค์การ สังคมวิทยา เลขาธิการ ก.พ.ร. กรรมการและ เลขานุการ Note : -กรณีที่มีความจำเป็นเพื่อให้การปฏิบัติงานบรรลุผล คณะรัฐมนตรีจะกำหนดให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่น้อยกว่า 3 คน แต่ไม่เกิน 5 คน ต้องทำงานเต็มเวลาก็ได้ -การปฏิบัติหน้าที่และค่าตอบแทนของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ต้องทำงานเต็มเวลา ให้เป็นไปตามที่ กำหนดในพระราชกฤษฎีกา การประชุม ก.พ.ร. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ จึงจะเป็นองค์ประชุม ไม่ว่ากรรมการดังกล่าวจะเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ทำงานเต็มเวลาหรือไม่ ถ้าประธานไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานปฏิบัติหน้าที่แทน ในกรณีที่ไม่ มีรองประธานหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นประธาน ในที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้ามีคะแนนเสียง เท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด อย่างน้อยด้านละ 1 คน
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 25 ~ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ 1. มีสัญชาติไทย 2. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ 3. ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดย ประมาทหรือความผิดลหุโทษ 4. ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ซึ่งดำรง ตำแหน่งซึ่งรับผิดชอบการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง 5. ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อ หน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี ผู้ซึ่งพ้นจากตำแหน่งแล้วอาจได้รับ แต่งตั้งอีกได้แต่ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พ้นจากตำแหน่งเมื่อ 1. ตาย 2. ลาออก 3. ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 71/2 4. คณะรัฐมนตรีให้ออกเพราะบกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือหย่อนความสามารถ กรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งตามวาระ แต่ยังมิได้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒินั้นปฏิบัติหน้าที่ไปก่อนจนกว่าจะได้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ กรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ และยังมิได้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทน ตำแหน่งที่ว่างให้กรรมการที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ กรณีตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิว่างลงก่อนวาระ ให้ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ภายใน 30 วัน เว้นแต่วาระของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเหลือไม่ถึง 180 วันจะไม่แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิก็ได้ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง หรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้ง เพิ่มขึ้นในระหว่างที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นยังมีวาระอยู่ในตำแหน่ง ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งมี วาระการดำรงตำแหน่งเท่ากับเวลาที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ยังอยู่ในตำแหน่ง
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 26 ~ คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) มีอ านาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ 1. เสนอแนะและให้คำปรึกษาแก่คณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการและงานของรัฐอย่างอื่น ซึ่งรวมถึงโครงสร้างระบบราชการ ระบบงบประมาณ ระบบบุคลากร มาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรม ค่าตอบแทน และวิธีปฏิบัติราชการอื่น ให้เป็นไปตามมาตรา 3/1 โดยจะเสนอแนะให้มีการกำหนดเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการก็ได้ 2. เสนอแนะและให้คำปรึกษาแก่หน่วยงานอื่นของรัฐที่มิได้อยู่ในกำกับของราชการฝ่ายบริหารตามที่ หน่วยงานดังกล่าวร้องขอ 3. รายงานต่อคณะรัฐมนตรีในกรณีที่มีการดำเนินการขัดหรือไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรา 3/1 4. เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานในการจัดตั้ง การรวม การโอน การยุบเลิก การกำหนดชื่อ การเปลี่ยนชื่อ การกำหนดอำนาจหน้าที่ และการแบ่งส่วนราชการภายในของส่วนราชการที่เป็น กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการอื่น 5. เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีในการตราพระราชกฤษฎีกา และกฎที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ 6. ดำเนินการให้มีการชี้แจงทำความเข้าใจแก่ส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไป รวมตลอดทั้งการฝึกอบรม 7. ติดตาม ประเมินผล และแนะนำเพื่อให้มีการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ และรายงานต่อ คณะรัฐมนตรีพร้อมทั้งข้อเสนอแนะ 8. ตีความและวินิจฉัยปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้บังคับพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม รวมตลอดทั้งกำหนดแนวทางปฏิบัติ ในกรณีที่เป็นปัญหา มติของคณะกรรมการตามข้อนี้ เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้ใช้บังคับได้ตามกฎหมาย 9. เรียกให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลอื่นใดมาชี้แจงหรือแสดงความเห็นประกอบการพิจารณา 10. จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับการพัฒนาและจัดระบบราชการและงานของรัฐอย่างอื่นเสนอต่อ คณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา 11. แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงาน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ตามที่มอบหมาย และจะกำหนดอัตราเบี้ยประชุมหรือค่าตอบแทนอื่นด้วยก็ได้ 12. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ เป็นส่วนราชการในส านักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่รับผิดชอบงานธุรการของ ก.พ.ร. และหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายหรือ ก.พ.ร. กำหนด เลขาธิการ ก.พ.ร. ซึ่งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้าง ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และรับผิดชอบการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 27 ~ การปฏิบัติราชการแทน คือ การท่ีผู้บังคับบัญชามอบอา นาจให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติราชการแทน เช่น การสั่ง การอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ หรือการด าเนินการอื่น ท่ีผู้มีอา นาจพึงปฏิบัติได้ โดยที่การมอบอ านาจให้ท าเป็ นหนังสือ ผู้ดำรงตำแหน่ง อาจมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่น ในส่วนราชการเดียวกันหรือส่วนราชการอื่น หรือผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ปฏิบัติราชการแทนได้ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกา อาจกำหนดให้มีการมอบอำนาจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ตลอดจนการมอบอำนาจให้ทำ นิติกรรมสัญญา ฟ้องคดีและดำเนินคดีหรือกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขในการมอบอำนาจหรือที่ผู้รับ มอบอำนาจต้องปฏิบัติก็ได้ มิให้ใช้บังคับกับอำนาจในการอนุญาตตามกฎหมายที่บัญญัติให้ต้องออกใบอนุญาตหรือที่บัญญัติผู้มี อำนาจอนุญาตไว้เป็นการเฉพาะ การมอบอ านาจ ให้ท าเป็ น “หนังสือ” กรณีมีการมอบอำนาจแล้ว ผู้รับมอบอำนาจ มีหน้าที่ต้องรับมอบอำนาจนั้น โดยผู้มอบอำนาจ จะกำหนดให้ผู้รับมอบอำนาจ มอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นปฏิบัติราชการแทน ต่อไป โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการใช้อำนาจนั้นไว้ด้วยหรือไม่ก็ได้ กรณีการมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะรัฐมนตรี จะกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องมอบอำนาจต่อไปให้รองผู้ว่าราชการ จังหวัด ปลัดจังหวัด หรือหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดก็ได้ Note: ในการมอบอำนาจ ให้ผู้มอบอำนาจ พิจารณาถึง 1. การอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน 2. ความรวดเร็วในการปฏิบัติราชการ 3. การกระจายความรับผิดชอบตามสภาพของตำแหน่งของผู้รับมอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ ต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบอำนาจตามวัตถุประสงค์ของการมอบอำนาจ ผู้มอบอำนาจ มีหน้าที่กำกับดูแลและติดตามผลการปฏิบัติราชการของผู้รับมอบอำนาจ และให้มีอำนาจ แนะนำหรือแก้ไขการปฏิบัติราชการของผู้รับมอบอำนาจได้
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 28 ~ การมอบอ านาจ (การปฏิบัติราชการแทน) ผู้มอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจ ส่วนกลาง นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี/ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง / ปลัดกระทรวง / อธิบดีหรือตำแหน่งเทียบเท่า ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี/ ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี/ อธิบดีหรือตำแหน่งเทียบเท่า ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง / ผู้ช่วยปลัดกระทรวง / อธิบดีหรือเทียบเท่า อธิบดีหรือเทียบเท่า รองอธิบดี หรือเทียบเท่า / ผู้ช่วยอธิบดี หรือเทียบเท่า / ผู้อำนวยการกอง หรือเทียบเท่า / หัวหน้ากอง หรือเทียบเท่า หัวหน้าคณะผู้แทน บุคคลในคณะผู้แทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง รัฐมนตรีว่าการทบวง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง ปลัดทบวง อธิบดีหรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่า หัวหน้าคณะผู้แทน ส่วนภูมิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดีหรือเทียบเท่า ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด / ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด / ปลัดจังหวัด / หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด / นายอำเภอ / ปลัดอำเภอ / หัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ / หัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอ ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่ง อำเภอ ปลัดอำเภอประจำกิ่งอำเภอ / หัวหน้าส่วนราชการประจำกิ่งอำเภอ
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 29 ~ การรักษาราชการแทน กรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง หรือ มีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้เนื่องจากผู้มีอำนาจไม่สามารถใช้อำนาจนั้นได้เพราะไม่อยู่ อาทิเช่น ป่วย หรือไปปฏิบัติราชการต่างจังหวัด ให้ผู้ดำรงตำแหน่งรองลงมา เป็นผู้รักษาราชการแทน โดยการมีคำสั่งแต่งตั้งให้รักษาราชการแทน การรักษาราชการแทน (กรณีที่ไม่มีผู้ด ารงต าแหน่ง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้) ตำแหน่ง ผู้รักษาราชการแทน กรณีที่มีหลายคน กรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี มอบหมายให้ รองนายกรัฐมนตรีคนใดคน หนึ่ง คณะรัฐมนตรี มอบหมายให้ รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง รัฐมนตรีว่าการ กระทรวง รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวง คณะรัฐมนตรี มอบหมายให้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง คนใดคนหนึ่ง คณะรัฐมนตรี มอบหมายให้ รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง เลขานุการ รัฐมนตรี ผู้ช่วยเลขานุการ รัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง มอบหมายให้ผู้ช่วยเลขานุการ รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง แต่งตั้งข้าราชการในกระทรวง คนหนึ่ง ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง -นายกรัฐมนตรี สำหรับสำนัก นายกรัฐมนตรี หรือ -รัฐมนตรีว่าการกระทรวง แต่งตั้งรองปลัดกระทรวงคน ใดคนหนึ่ง -นายกรัฐมนตรี สำหรับสำนัก นายกรัฐมนตรี หรือ - รัฐมนตรีว่าการกระทรวง แต่งตั้งข้าราชการในกระทรวง ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่า อธิบดีหรือเทียบเท่า รองปลัดกระทรวง ปลัดกระทรวงจะ แต่งตั้งข้าราชการใน กระทรวงซึ่งดำรง ตำแหน่งไม่ต่ำกว่า ผู้อำนวยการกองหรือ เทียบเท่า
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 30 ~ การรักษาราชการแทน (กรณีที่ไม่มีผู้ด ารงต าแหน่ง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้) ตำแหน่ง ผู้รักษาราชการแทน กรณีที่มีหลายคน กรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง อธิบดี รองอธิบดี ปลัดกระทรวง แต่งตั้ง รองอธิบดีคนใดคนหนึ่ง ปลัดกระทรวง แต่งตั้ง ข้าราชการในกรมซึ่งดำรง ตำแหน่งเทียบเท่ารองอธิบดี หรือข้าราชการตั้งแต่ตำแหน่ง หัวหน้ากอง หรือเทียบเท่าขึ้น ไปคนใดคนหนึ่ง รองอธิบดี อธิบดี แต่งตั้ง ข้าราชการในกรมซึ่ง ดำรงตำแหน่งเทียบเท่า ร อ ง อ ธ ิ บ ด ี ห รื อ ข ้ า ร า ช ก า ร ต ั ้ ง แ ต่ ตำแหน่งหัวหน้ากอง หรือเทียบเท่าขึ้นไป เลขานุการกรม อธิบดี แต่งตั้ง ข้าราชการในกรมคน หนึ่งซึ่งดำรงตำแหน่ง ไม่ต่ำกว่าหัวหน้ากอง หรือเทียบเท่า ผู้ว่าราชการ จังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดกระทรวงมหาดไทย แต่งตั้งรองผู้ว่าราชการ จังหวัดคนใดคนหนึ่ง การรักษาราชการแทน (กรณีที่ไม่มีผู้ด ารงต าแหน่งหัวหน้าคณะผู้แทน หรือมีแต่ไม่อาจ ปฏิบัติราชการได้) ตำแหน่ง ผู้รักษาราชการแทน กรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าคณะผู้แทน รองหัวหน้าคณะ หรือมีแต่บุคคลดังกล่าวไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้การรักษา ราชการแทนหัวหน้าคณะผู้แทน เป็นไปตามระเบียบที่ คณะรัฐมนตรีกำหนด Note : ไม่ใช้บังคับกับข้าราชการฝ่ายทหารประจำการในต่างประเทศ
สรุปกฎหมายเตรียมสอบท้องถิ่น ประจ าปี 2566 ~ By เพจเตรียมสอบข้าราชการ By Nai. ส. ~ หน้าที่ 31 ~ การรักษาราชการแทน (กรณีที่ไม่มีผู้ด ารงต าแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด หรือมีแต่ไม่อาจ ปฏิบัติราชการได้) ตำแหน่งที่รักษาราชการแทน หมายเหตุ กรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ มีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ถ้าไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ มีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด ถ้าไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ มีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ปลัดจังหวัด มีรองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ช่วยผู้ว่าราชการ จังหวัด หรือ ปลัดจังหวัด **หลายคน** แต่งตั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด หรือปลัดจังหวัดคนใดคนหนึ่ง **ปลัดกระทรวง แต่งตั้ง** ไม่มีทั้งผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด และปลัดจังหวัด หรือ มีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ หัวหน้าส่วนราชการประจำ จังหวัดซึ่งมีอาวุโสตามระเบียบ แบบแผนของทางราชการ การรักษาราชการแทน (กรณีที่ไม่มีผู้ด ารงต าแหน่งผู้นายอ าเภอ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติ ราชการได้) ตำแหน่งที่รักษาราชการแทน หมายเหตุ กรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง นายอำเภอ ปลัดอำเภอ หรือหัวหน้าส่วนราชการประจำ อำเภอผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของ ทางราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด แต่งตั้ง กรณีมีผู้ดำรงตำแหน่งนายอำเภอ แต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ปลัดอำเภอ หรือหัวหน้าส่วนราชการประจำ อำเภอผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของ ทางราชการ นายอำเภอ แต่งตั้ง ปลัดอำเภอหรือหัวหน้าส่วนราชการประจำ อำเภอผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของ ทางราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือ นายอำเภอ มิได้แต่งตั้ง