The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทที่ 3 การประดิษฐ์บรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ -new

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

บทที่ 3 การประดิษฐ์บรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ -new

บทที่ 3 การประดิษฐ์บรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ -new

1. อภิปรายขั้นตอนการท างานที่มีประสิทธิภาพ (ง 1.1 ม.3/1) 2. ใช้ทักษะในการท างานร่วมกันอย่างมีคุณธรรม (ง 1.1 ม.3/2) 3. อภิปรายการท างานโดยใช้ทักษะการจัดการเพื่อการประหยัดพลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม (ง 1.1 ม.3/3) ตัวชี้วัด แผนผังสาระการเรียนรู้ ความรู้เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การประดิษฐ์บรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ บรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ วัสดุที่ใช้ท าบรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ การออกแบบบรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ ตัวอย่างการการประดิษฐ์บรรจุภัณฑ์ จากวัสดุธรรมชาติ การประดิษฐ์ บรรจุภัณฑ์ จากวัสดุธรรมชาติ


สินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เลือกซื้อและเลือกใช้ในชีวิตประจ าวัน นอกจากจะพิจารณาถึงประโยชน์ ใช้สอย คุณภาพ และราคาแล้ว บรรจุภัณฑ์ห่อหุ้มที่สวยงาม หรือแปลกใหม่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนในการ ตัดสินใจเลือกซื้อและเลือกใช้ด้วยเช่นกัน 1.1 ความหมายของบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ (packaging) หมายถึง วัตถุหรือวัสดุที่ใช่ใส่ ห่อ หุ้มสินค้าหรือผลิตภัณฑ์อย่างปกปิดมิดชิด โดย ที่วัตถุหรือวัสดุนั้นต้องปกป้องคุ้มครองสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายในให้มีความปลอดภัย สะดวกต่อการใช้ งาน การขนส่ง การเคลื่อนย้าย และช่วยส่งเสริมการจ าหน่ายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใน 1.2 ความเป็นมาของบรรจุภัณฑ์ 1. ความรู้เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ ใช้กระดาษหรือใช้ผ้ามาห่อหุ้มอาหาร หรือสิ่งของต่างๆ ใช้กระดาษแข็ง แผ่นโลหะ ใยสังเคราะห์ แก้ว พลาสติก ไม้ มาห่อหุ้มอาหารและ สิ่งของต่างๆ ใช้ใบไม้ เช่น ใบตอง มาห่อหุ้มขนม หรืออาหาร น าเปลือกไม้มาสานขึ้นรูป ท ากระจาด ชะลอม ตะกร้า ใช้ใบไม้ เปลือกไม้ เปลือกหอย กระบอกไม้ไผ่ กระเพาะสัตว์ หนังสัตว์ มาห่อหุ้มสัตว์ที่ล่ามาได้ เพื่อป้องกัน แมลง แสงแดด และฝน อดีต อดีต ปัจจุบัน


ฉลากเขียว สัญลักษณ์รีไซเคิล 1.3 หน้าที่ของของบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์มีหน้าที่หลากหลาย ดังนี้ 1. ปกป้องคุ้มครองสินค้าหรือผลิตภัณฑ์โดยบรรจุภัณฑ์ต้องได้รับการออกแบบให้สามารถ ปกป้องคุ้มครองสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ภายในให้ปลอดภัย ไม่เสียหายเนื่องจากการขนส่ง แมลงหรือสัตว์กัดแทะ แตกหัก และเสื่อมสภาพ 2. อ านวยความสะดวกต่อการขนส่ง การเคลื่อนย้าย และการเก็บรักษา โดยบรรจุภัณฑ์ต้องมี ความมั่นคงแข็งแรง สามารถวางซ้อนทับกันได้หลายชั้น มีรูปร่างที่สะดวกต่อการเรียงซ้อนกันในชั้นวางของ สะดวกต่อการจับ ถือ พกพา และขนส่ง 3. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินคาหรือผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ควรแสดงให้เห็นตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ หรือบ่งบอกว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายในคืออะไร ใครเป็นผู้ผลิต มีวิธีการใช้และเก็บรักษาอย่างไร ผลิต และหมดอายุเมื่อใด โดยเฉพาะสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารและยา 4. ส่งเสริมการขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ต้องมีรูปแบบ สีสันสวยงาม สะดุดตา ดึงดูดใจผู้ซื้อ แตกต่างจากสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งทางการตลาด เพื่อให้ง่ายต่อการจดจ าและช่วยลด ความผิดพลาดในการหยิบฉวยสินค้าที่ไม่ต้องการได้ 5. เพิ่มมูลค่าของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์เมื่อบรรจุภัณฑ์มีความสวยงามดึงดูดใจผู้ซื้อจะสร้าง ความนิยมในสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ได้ในราคาที่สูงขึ้น 6. รณรงค์ในเรื่องต่าง ๆ บรรจุภัณฑ์จะต้องมีสัญลักษณ์ ภาพ ฉลาก หรือข้อความโน้มน้าวใจให้ ผู้ซื้อต้องการมีส่วนร่วมในการท าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม เช่น สัญลักษณ์รีไซเคิลฉลากเขียว ฉลากประหยัดไฟเบอร์5 ข้อความ “กินของไทยใช้ของไทย” หรือข้อความเชิญชวนให้รักษาสิ่งแวดล้อม ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นฉลากที่บ่งบอกระดับการ ใช้ไฟฟ้า และข้อมูลเบื้องต้น ต่าง ๆ ของเครื่องใช้ไฟฟ้า โดย ระดับความประหยัดจะมีตั้งแต่ เบอร์ 1 ถึงเบอร์ 5 และเบอร์ 5 ประหยัดไฟมากที่สุด ข้อความเชิญขวนให้รักษาสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมเบอร์ 5 เป็นฉลากที่บ่งบอกระดับการ ใช้ไฟฟ้า และข้อมูลเบื้องต้น ต่าง ๆ ของเครื่องใช้ไฟฟ้า โดย ระดับความประหยัดจะมีตั้งแต่ เบอร์ 1 ถึงเบอร์ 5 และเบอร์ 5 ประหยัดไฟมากที่สุด เป็นเครื่องหมายที่แสดงว่า สินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นไม่ ปล่อยสารเคมีหรือสารพิษออก สู่สิ่งแวดล้อม ในระหว่าง กระ ยวนการผลิตช่วยประหยัด พลังงานและทรัพยากรใน ระหว่างการผลิต การขนส่ง และการใช้งานก าจัดได้ง่าย


บรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบและประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยช่วยลดปริมาณขยะและย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังประหยัด ค่าใช้จ่าย เมื่อเลือกใช้วัสดุธรรมชาติที่มีมากในท้องถิ่นของตนเองมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบและประดิษฐ์มาเพื่อวัตถุประสงค์ ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยช่วยลดปริมาณขยะและย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังประหยัด ค่าใช้จ่าย เมื่อเลือกใช้วัสดุธรรมชาติที่มีมากในท้องถิ่นของตนเองมาประดิษฐ์เป็นบรรจุภัณฑ์ 2.1 วัสดุที่ใช้ท าบรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ วัสดุธรรมชาติที่น ามาใช้ท าบรรจุภัณฑ์ได้ มีดังนี้ วัสดุธรรมชาติประเภทเส้นใย เช่น กล้วย หวาย เตยปาหนัน กก กระจูด ผักตบชวา ย่านลิเภา ซึ่งก่อนน ามาถักสาน เป็นบรรจุภัณฑ์ต้องผ่านการแปรสภาพด้วยการ ตากแห้ง ฟอกขาว อบก ามะถัน ฟั่นเกลียว วัสดุธรรมชาติที่แปรรูปเป็นแผ่น และรูปทรงต่างๆ เช่น กระดาษแปรรูปจากเยื่อไม้ยูคาลิปตัส น ามาประดิษฐ์เป็นบรรจุภัณฑ์ประเภทถุงกระดาษ กล่องกระดาษ วัสดุธรรมชาติประเภทไม้ เช่น ไม้สัก ไม้มะขาม ไม้ไผ่ นิยมน ามาท าบรรจุภัณฑ์ เพื่อการขนส่ง เช่น กล่องประเภทต่าง ๆ ตะกร้า 3 ประเทศใดเป็นถิ่นก าเนิดของผักตบชวา เม็กซิโก บราซิล 2. บรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ 1 1 2 หรือเรียกอีกอย่างว่า ล าเจียก พบมากในแถบภาคใต้ เพื่อให้เหนียว ป้องกันเชื้อราและแมลงไม่กิน 2


2.2 การออกแบบบรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ โครงสร้างของบรรจุภัณฑ์โดยทั่วไปจะแบ่งชั้นของบรรจุภัณฑ์ที่ห่อหุ้มหรือปกปิดตัวสินค้าไว้ 3 ชั้น ดังนี้ 1. บรรจุภัณฑ์ชั้นใน ซึ่งอยู่ชิดกับตัวสินค้า 2. บรรจุภัณฑ์ชั้นที่สอง ซึ้งห่อหุ้มบรรจุภัณฑ์ชั้นใน 3. บรรจุภัณฑ์ชั้นนอก ซึ่งรวบรวมสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเพื่อการขนส่ง การออกแบบบรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติจะต้องออกแบบ 2 ส่วนด้วยกันได้แก่ การออกแบบ โครงสร้างบรรจุภัณฑ์ทั้ง 3 ชั้น และการออกแบบกราฟิกหรือภาพบนบรรจุภัณฑ์โดยมีข้อควรค านึงถึงดังนี้ 1) บรรจุภัณฑ์ควรมีเอกลักษณ์โดดเด่นสะดุดตาและสื่อความหมายได้ โดยต้องใช้ความคิด สร้างสรรค์ และความรู้ทางด้านศิลปะเกี่ยวกับสีรูปทรง ความสมดุล ผิวสัมผัส และขนาดของภาพหรือ ตัวอักษรมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน เพื่อให้บรรจุภัณฑ์แตกต่างจากที่เคยมีมา และดึงดูดใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจ เลือกซื้อ รวมถึงมีความสอดคล้องกับชิ้นงานหรือผลิตภัณฑ์ด้านใน ดังตัวอย่าง 2) บรรจุภัณฑ์ควรสะดวกต่อการใช้งานและแข็งแรงทนทาน โดยโครงสร้างของบรรจุภัณฑ์ ต้องสมส่วน มีรูปทรงกะทัดรัด สะดวกต่อการจัดเรียงซ้อนกันและขนส่ง รองรับน้ าหนักได้ทนทานต่อแรง กระแทก น้ าหนักเหมาะสมกับตัวผลิตภัณฑ์มีหูส าหรับบางผลิตภัณฑ์เพื่อความสะดวกในการจับถือ ดังตัวอย่าง นักเรียนออกแบบบรรจุภัณฑ์ นมอัดเม็ดให้สวยงาม เหมาะสมและสื่อความหมาย ได้ดี โดยร่างภาพ 3 มิติ ลงในกระดาษวาดเขียน แล้วน าเสนอผลงาน หน้าชั้นเรียน บรรจุภัณฑ์ส าหรับใส่ดินสอ ท าจากกระดาษแข็ง มีโครงสร้างสมส่วน รูปทรงกะทัดรัด สะดวกต่อการ เรียงซ้อนกัน และสะดวกต่อการขนส่ง บรรจุภัณฑ์ขนมอบ ท าจากกระดาษแข็ง มีหูจับ สะดวกต่อการจับถือและเคลื่อนย้าย บรรจุภัณฑ์น ้ำผลไม้ที่มีภำพพิมพ์ แสดงผลถึงผลไม้ที่น ำมำผลิตเป็นน ้ำผลไม้ สื่อให้เห็นถึงควำมสดชื่น น่ำดื่ม บรรจุภัณฑ์ของสู่ไข่ ท ำจำกกระดำษมีรูปทรงและ ผิวสัมผัสหยำบเหมือนถำดใส่ไข่ จึงสื่อควำมหมำยว่ำ ผลิตภัณฑ์ด้ำนในมีรูปร่ำงเหมือนไข่


3) บรรจุภัณฑ์ควรเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คือ ย่อยสลายได้ง่าย ท าลายได้ง่าย ไม่ก่อให้เกิด ปัญหาขยะมูลฝอย และไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ซึ่งแนวทางในการสร้างบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถ ปฏิบัติได้ดังนี้ 1.) ใช้วัสดุธรรมชาติในการประดิษฐ์บรรจุภัณฑ์ เพราะย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 2.) ลดส่วนประกอบที่เกินความจ าเป็นในการบรรจุภัณฑ์ เช่น บรรจุภัณฑ์หลายชั้น ลดการใช้โบ เชือก และป้ายห้อย 3.) ลดความหนาและความสูงของบรรจุภัณฑ์ และออกแบบโครงสร้างบรรจุภัณฑ์ให้ใช้วัสดุน้อยที่สุด 4.) น าวัสดุธรรมชาติ เช่น กระดาษ ไม้ ผ้า เครื่องปั้นดินเผา และวัสดุสังเคราะห์ เช่น พลาสติกบาง ชนิด ซึ่งสามารถน ามาดัดแปลงใช้ซ้ าหรือแปรรูปน ากลับมาใช้ใหม่ได้ มาประดิษฐ์เป็นบรรจุภัณฑ์ เพื่อลด ปริมาณขยะ ลดค่าใช้จ่ายในการก าจัดหลังใช้งาน และป้องกันการเกิดมลพิษจากการเผาไหม้หรือฝังกลบ 1) บรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งพับได้ กล่องกระดาษแข็งพับได้ประดิษฐ์จากกระดาษแข็ง หน้าเดียวที่ไม่มีช่องด้านบนเปิดให้เห็นสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ด้านใน เป็นบรรจุภัณฑ์ที่นิยมใช้กับอาหาร เช่น ขนมเค้ก ขนมชั้น ขนมหม้อแกง และงานประดิษฐ์ที่มีน้ าหนักเบา เช่น ดอกไม้ประดิษฐ์ ตุ๊กตาประดิษฐ์ จากวัสดุธรรมชาติกระเป๋าผ้าใบเล็กๆ การประดิษฐ์กล่องกระดาษแข็งพับได้ สามารถ ประยุกต์ใช้ได้กับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ทุกขนาด โดยก่อนประดิษฐ์ ต้องวัดขนาดของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ก่อน จึงจะก าหนดขนาด ของกล่องให้พอดี ไม่คับแคบหรือมีพื้นที่ในกล่องมากเกินไป เพื่อไม่ให้ก่อนความเสียหายให้แก่สินค้าหรือ ผลิตภัณฑ์ การประดิษฐ์บรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งพับได้มีวัสดุ อุปกรณ์และขั้นตอนการท า ดังนี้ กระดาษแข็งหน้าเดียว ดินสอ ไม้บรรทัด ยางลบ กรรไกร คัตเตอร์ วงเวียน กาว แผ่นพลาสติกใส กระดาษ A4 2.3 ตัวอย่างการประดิษฐ์บรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ บรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งพับได้ วัสดุ อุปกรณ์


ขั้นตอนการท า 1. ออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบกล่องพับได้ โดยร่างภาพ 3 มิติ ลงบนกระดาษ A4 2. ร่างภาพโครงสร้างบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งพับได้ ตามที่ออกแบบไว้ลงบนกระดาษแข็งหน้า เดียว 3. ก าหนดขนาดของกล่อง กว้าง x ยาว x สูง ให้สามารถที่จะบรรจุสินค้าได้ ท าเป็นสัดส่วนจริง จากนั้นน ากล่องที่ได้มาเขียนเป็นภาพแผ่นคลี่ ก าหนดส่วนประกอบของตัวกล่อง ก าหนดจุดตัดจุดพับ 4. ใช้กรรไกรหรือคัตเตอร์ตัดกระดาษตามรูปแบบที่ร่างไว้ และใช้คัตเตอร์กรีดตามรอยพับเบาๆอย่าให้ ขาดออกจากกัน เพื่อให้ง่ายต่อการพับกระดาษเป็นรูปทรง 5. พับกระดาษตามรอยที่กรีด จัดรูปทรงให้เป็นกล่องสวยงาม ไม่บิดเบี้ยว จากนั้นจึงทากาวบริเวณ รอยต่อให้สนิท หรือใช้ลวดเย็บกระดาษเย็บประกอบกล่อง 6. วัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางช่องบนฝากล่อง แล้วตัดพลาสติกให้มีขนาดใหญ่กว่าเส้นรอบวงประมาณ 1นิ้ว แล้วทากาวบริเวณส่วนเกินเส้นรอบวง ติดได้ในช่องบนฝากล่อง 2. ชะลอมประยุกต์ งานจักสานเป็นหัตถกรรมที่แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญา ของคนในท้องถิ่นที่รู้จักน าวัสดุธรรมชาติ เช่น หวาย ไม้ไผ่ ใบลาน กก ฟาง ก้าน และใบมะพร้าว มาประดิษฐ์เป็นเครื่องใช้สอยในการด ารง ชีวิตประจ าวันเครื่องจักสานท าขึ้นด้วยมือ ซึ่งต่างจากผลิตภัณฑ์ที่ท าจาก โรงงานอุตสาหกรรม จึงมีคุณค่าเฉพาะตัว ลวดลายจากการสาน ถัก ทอ และรูปแบบเครื่องจักสานแต่ละชิ้นจะแสดงถึงลักษณะพื้นบ้านที่แตกต่างกัน ชะลอมประยุกต์


การสานชะลอมเป็นการน าตอกไม้ไผ่มาสานขัดกันแบบโปร่งๆ เป็นลายเฉลว ค่อยๆ เพิ่มตอกเข้าไปที ละเส้นจนได้พื้นหรือส่วนก้นของชะลอมเป็นรูป 6 เหลี่ยม สานต่อจนได้ความสูงตามต้องการที่ปากชะลอมจะ เหลือตอกไว้ ส าหรับมัดบิดของที่อยู่ภายใน และใช้เป็นที่หิ้วไปด้วย ในอดีตชะลอมใช้ใส่ของแห้งต่างๆ ส าหรับ เดินทาง ในปัจจุบันมีการสานชะลอมประยุกต์ โดยสานเป็นใบเล็กๆ ส าหรับใส่ของช าร่วย ใส่ขนม หรือสานเป็น รูปทรงสี่เหลี่ยม เพื่อใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ที่เน้นเอกลักษณ์ไทย การประดิษฐ์บรรจุภัณฑ์ชะลอมประยุกต์มีวัสดุ อุปกรณ์ และขั้นตอนการกระท า ดังนี้ ขั้นตอนการท า น าตอกเส้นที่ 1 วางในแนวตั้ง วางคอกเส้นที่ 2 ทับเส้นที่ 1 ให้เป็นรูปกากบาท น าตอกเส้นที่ 3 สอดให้อยู่ระหว่างช่องกากบาทของตอกเส้นที่ 1 และ 2 น าตอกเส้นที่ 4 สอดให้อยู่ระหว่างช่องตอกเส้นที่ 2 และ 3 โดยทับตอกเส้นที่ 3 และอยู่ใต้ตอก เส้นที่ 2 ขั้นตอนที่ 1 ตอกที่จักส าเร็จขนาดกว้าง 1 เซนติเมตร ยาว 60 เซนติเมตร จ านวน 18 เส้น ส าหรับตัวชะลอม และจ านวน 15 เส้น ส าหรับฝาชะลอม ดินสอ กระดาษ A4 กรรไกร ปืนยิงกาวพร้อมกาวซิลิโคนชนิดแท่ง แม่พิมพ์ ท าจากดินเหนียว ไม้ แกนกระดาษกาว หรือขวดน้ า ขนาด 1 ลิตร ไม้หนีบผ้าหรือลวดเสียบกระดาษ 6 ตัว สิ่งของตกแต่ง เช่น ดอกไม้แห้ง ดอกไม้ประดิษฐ์ กระบอกฉีดน้ า วัสดุ อุปกรณ์ ไม้ไผ่หรือหวายที่จักตอกมาเป็นเส้นบางๆ


น าตอกเส้นที่ 5 สอดให้อยู่ระหว่างช่องตอกเส้เปนที่ 3 และ 4 โดยทับตอกเส้นที่ 4 และอยู่ใต้ตอกเส้น น าตอกเส้นที่ 5 สอดให้อยู่ระหว่างช่องตอกเส้นที่3 และ 4 โดยทับตอกเส้นที่ 4 และอยู่ใต้ ตอกเส้นที่ 3 ก่อนสอดตอกเส้นที่ 6 ให้สลับตอกเส้นที่ 5 ทับ 1ที่ทับเป็นรูปกากบาทเปลี่ยนเป็น 1 ทับ 5 ขั้นตอนที่ 2 น าตอกเส้นที่ 6 สอดโดยยกตอกเส้นที่ 1และ 4 ขึ้น ครั้งนี้ต้องยกตอก 2 เส้น เพื่อสอดตอกเส้นที่ 6 ขั้นตอนที่ 3 เมื่อเรียบร้อย สลับเส้นตอกเส้นที่ 1 ทับ 5 เปลี่ยนเป็น 5 ทับ 1 ขั้นตอนที่ 4 น าตอกเส้นที่ 7 สอดให้อยู่ระหว่างช่องตอกเส้น ที่ 2 และ 6 โดยทับตอกเส้นที่ 5 และอยู่ใต้ตอกเส้นที่ 2 และทับตอกเส้นที่ 6 และ 3 ขั้นตอนที่ 5


ก่อนสอดตอกเส้นที่ 9 ให้สลับเส้นตอกเส้นที่ 8 ทับ 4 เปลี่ยนเป็น 4 ทับ 8 ยกตอกเส้นที่ 1และ 4 ขึ้นเพื่อสอดตอกเส้นที่ 9 เรียบร้อย สลับเส้นตอกเส้นที่ 4 ทับ 8 เปลี่ยนเป็น 8 ทับ 4 ขั้นตอนที่ 8 เมื่อสอดตอกเส้นที่ 8 เรียบร้อย สลับเส้นตอก เส้นที่ 3 ทับ 7 เปลี่ยนเป็น 7 ทับ 3 ขั้นตอนที่ 7 เมื่อเรียบร้อย สลับเส้นตอกที่ 7 ทับ 3 เปลี่ยนเป็น 3 ทับ 7 ยกตอกเส้นที่ 6 และ 3 ขึ้นเพื่อสอดตอกเส้นที่ 8 ขั้นตอนที่ 6 ก่อนสานตอกเส้นที่ 10, 11, 12 คือการท าซ้ าด้วย วิธีการสลับเส้นตอกที่ไขว้กัน ให้เปลี่ยนเส้นบนลง ล่าง จากนั้นยกตอกขึ้น 2 เส้น สอดตอกเข้าไปให้ สานขัดกันเรียบร้อย เปลี่ยนสลับตอกในครั้งแรกให้ กลับมาเหมือนเดิมใช้วิธีการเดิมในการสานตอกที่ เหลือทั้ง 3 เส้น


น าเส้นตอกมาสานขัดกันตามแนวตั้ง เพื่อเป็นด้านข้างของชะลอม โดยสานสลับกันขึ้น 1 ลง 1 ให้ตั้งเป็นขอบโดยรอบ ดึงเส้นตอกให้กระชับเป็นฐานรูปทรงกระบอก ใช้ลวดเสียบกระดาษช่วย ยึดให้อยู่ตัว ขั้นตอนที่ 9 ใช้วิธีการท าซ้ า สานสลับกันให้จบเป็นชั้น ๆ ให้ได้จ านวน 4 ชั้น โดยใช้แกนกระดาษกาววางด้าน ในเพื่อเป็นโครงร่างให้กับชะลอมประยุกต์ ขั้นตอนที่ 10 การเก็บขอบปากชะลอม ใช้เส้นตอก 2 เส้นสานสลับกันขึ้น 1 ลง 1 โดยใช้เส้นที่อยู่ด้านหลัง พับมาด้านหน้า เก็บปลายตอกไว้ด้านหน้า ท าโดยรอบวง ใช้กรรไกรตัดปลายตอกที่ไม่ใช้ ให้เรียบร้อย ขั้นตอนที่ 11


การสานฝาชะลอมประยุกต์ ท าเช่นเดียวกับตัวชะลอม ควรเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ส่วนด้านข้างให้ลดความสูงลง เพื่อให้ครอบตัวชะลอมได้พอดี ขั้นตอนที่ 12 ตกแต่งให้สวยงามด้วยการน าดอกไม้แห้งหรือดอกไม้ประดิษฐ์มาติดบนฝาชะลอมประยุกต์ ตรวจดูความเรียบร้อยในขั้นตอนสุดท้าย ขั้นตอนที่ 13 1. น าตอกไปชุบน้ าก่อนสาน จะท าให้ตอกนิ่ม อ่อนตัว สานได้ง่ายขึ้น และ ตอกไม่หักขณะที่สาน 2. สามารถน าตอกไปย้อมให้เป็นสีต่าง ๆ ตามที่ต้องการ 3. ถ้าสานชะลอมใบใหญ่ ให้น าไม้มาสานขัดก้นชะลอม เพื่อให้รับน้ าหนัก ของผลิตภัณฑ์ที่จะใส่ไปในชะลอม วัสดุ อุปกรณ์


3. ถุงผ้าแบบหูรูด ปัจจุบันมีการผลิตถุงผ้าหลากหลายขนาดและ รูปแบบเพื่อตอบสนองประโยชน์ใช้สอยที่แตกต่างกันออกไป ถ้าสามารถประดิษฐ์ถุงผ้าอย่างง่ายได้ด้วยตัวเอง จะเป็นการ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ลดการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว ลดค่าใช้จ่าย และสามารถน าถุงผ้ากลับมาใช้ซ้ าได้ ซึ่งเป็น การช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกวิธีหนึ่ง การประดิษฐ์ถุงผ้าแบบหูรูดมีวัสดุ อุปกรณ์ และ ขั้นตอนการท า ดังนี้ ขั้นตอนการท า 1. ตัดผ้าให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 30 เซนติเมตร ยาว 60 เซนติเมตรในกรณีที่จะใช้บรรจุ ผ้าไหม กรอบรูป หรือกระเป๋า หรือก าหนดความกว้าง ความยาวตามขนาดของสิ่งของที่จะบรรจุ 2. พับทบชายผ้าด้านกว้างเข้าหากัน ใช้ดินสอ วัดระยะจากก้นถุงขึ้นมาประมาณ 20-25 เซนติเมตร ใช้ชอล์ก เขียนผ้าท าเครื่องหมายไว้โดยเว้นระยะด้านบนปากถุงไว้จากนั้น วัดระยะห่างจากขอบผ้าซ้ายละขวาเข้ามาข้างละ 1-2 เซนติเมตร แล้วใช้ชอล์กเขียนผ้าขีดเส้นเป็นแนวเย็บบางๆ ผ้าตามที่ต้องการ เช่น ผ้าด้ายดิบ ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าไหมแก้ว ผ้าโปร่ง เข็ม ด้าย กรรไกร เชือก เตารีด ดินสอ หรือชอล์กเขียนผ้า ไม้บรรทัด วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการตกแต่ง เช่น สีเพนต์ พู่กัน สะดึง เข็ม ไหมปัก วัสดุ อุปกรณ์


3. เนาผ้าตามรอยที่ขีดไว้ แล้วเย็บแบบด้นถอยหลัง หรือเย็บด้วยจักรเย็บผ้าตามรอยที่เนาไว้ทั้งสองข้าง 4. ใช้กรรไกรตัดขอบผ้าออกให้เรียบร้อย 5. เนาและเย็บตะเข็บบริเวณ รอยผ่าของปากถุงทั้ง 2 ด้าน 6. พับทบผ้าบริเวณปากถุงลงมาเพื่อเย็บประมาณ 7-10 เซนติเมตร แล้วเนาผ้าตามระยะที่พับลงมา 7. กะระยะส าหรับเย็บเพื่อใช้สอดเส้นเชือก โดยแนวเย็บแรกห่างขึ้นมาจากผ้าเล็กน้อยและแนวเย็บที่ สองต้องเว้นระยะให้พอที่จะสอดเส้นเชือกเข้าไปได้ ซึ่งห่างจากแนวเย็บแรกประมาณ 1.5 เซนติเมตร


8. พลิกกลับเอาผ้าด้านในออกมา แล้วใช้เตารีด รีดถุงผ้า ให้เรียบร้อย 9. สอดเส้นเชือกส าหรับรูดปากถุง โดยกะระยะเส้นเชือกที่ต้องการใช้ แล้วตัด 2 เส้น กะระยะ พอรอบปากถุง จากนั้นสอดเชือกเข้าไปในช่อง 2 เส้นคู่ ผูกชายเส้นเชือกไว้คนละด้านกัน จะได้ถุงที่มีหูรูด ตามต้องการ 10. ตกแต่งด้านหน้าของถุงผ้าให้สวยงามด้วยการเพนต์ลวดลาย หรือปักด้วยไหมปัก จากนั้นน าไป ซักรีดให้เรียบร้อย ก่อนน าไปใช้บรรจุสิ่งของ ประเภทของบรรจุภัณฑ์ https://www.design365days.com/Site/BlogDetail/231/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0% B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%97%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E 0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C เว็บไซต์แนะน ำ


Click to View FlipBook Version